“พี่เล็ก คนที่นั่งหน้าโหดอยู่กับน้องพีพีน่ะ ตกลงเป็นแฟนพี่ใช่ไหม” ไอ้น้องไม้เอ่ยถาม ระหว่างที่เก็บร้าน
“ไม่ใช่เว้ย เขาเป็น เอ่อ เป็น….” แล้วผมจะตอบว่าไงดีว่ะเนี่ย
“แน่ อึกอัก แบบนี้แปลว่ามีมูล แน่ๆ บอกน้องมาเหอะน่า วันก่อนพี่เมฆบอกแค่ว่าเขาเป็นเพื่อนพี่ แต่ผมว่ามันไม่น่าใช่นะเพื่อนที่ไหนจะมานั่งเฝ้าขนาดนี้” ไอ้ไม้ยังพล่ามต่อ
“เราเป็นแค่ เพื่อนกันจริงๆ ไม่มีอะไรเกินกว่านั้นหรอก ไม่เคยมี…” ทำไมผมต้องรู้สึกโหวงในใจทุกครั้งที่ต้องตอบคำถามนี้ด้วยนะ เมื่อไหร่ที่ผมจะเข้มแข็งได้สักที
“เฮ้อ พี่ ถ้ารักแล้วไม่พูด ใครจะรู้ล่ะว่ารัก ” ไอ้ไม้เอ่ยขึ้นลอยๆ น่าขำนะครับ นี่ผมแสงออกมากจนใครๆเขามองออกเลยหรือไงว่ารักไอ้วัต ทำไมทุกคนถึงขยันมาบอกให้ผมพูดจัง แต่ถ้าพูดไปอะไรที่ผมจะได้กลับมา ไอ้วัตมันจะรับฟังความรู้สึกของคนที่เคยทำลายครอบครัวมันอย่างผมหรือเปล่า
“กลับได้หรือยัง” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ก่อนจะจ้องผมกับไอ้ไม้เขม็ง แล้วจะจ้องทำไม
“ก็ใกล้แล้ว มึงก็กลับไปสิ รออะไรล่ะ”
“แล้วมึงจะกลับยังไง” คนหน้านิ่งยังถามต่อ
“ก็บางวันก็กลับกับไอ้เมฆ ถ้าวันไหนไอ้เมฆไม่มาก็ซ้อนมอไซต์กลับกับไอ้ไม้”
“ซ้อนมอไซต์กับลูกเนี่ยนะ” ไอ้วัตถามเสียงเข้ม
“ก็แล้วจะทำไมว่ะ ไม่ให้กลับด้วยกันจะให้เดินกลับหรือไงห่ะ” ผมตะคอกกลับ ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นลูกหนี้มันแล้วนะเรื่องอะไรต้องยอมให้มันด่าฝ่ายเดียว
“พี่ เบาๆดิ ” ไอ้ไม้ที่ยืนอยู่ข้างๆสะกิดยิกๆ
“อะไรของแกว่ะไม้” ผมเหวลั่น
“พี่ก็ดูหน้า เขาหน่อยสิจะกินผมเข้าไปแล้วน่ะ ผมว่าพี่ใจเย็นๆก่อนนะ”
“เหอะ ทำไมพี่ต้องเย็น กลับเถอะไม้ อ้อ มาวันนี้จะมารับลูกสินะ งั้นก็ฝากพีพีด้วย กูจะกลับแล้ว” ประโยดแรกพูดกับรุ่นน้องส่วนประโยคหลังหันไปพูดกับคนตัวโตที่ยืนขวางทางอยู่
“พี่ผมว่าพี่เอ่อ กลับกับเขาดีไหม” ไอ้ไม้ถาม
“เขาไหนว่ะ พี่ก็กลับกับแกทุกวัน หรือวันนี้มีธุระพี่กลับรถเมล์ก็ได้นะเว้ย” ผมบอกก่อนจะผละจากรถไอ้ไม้
“เฮ้ย ไม่ใช่พี่ ฟังก่อนดิ” ไอ้ไม้ เรียกก่อนจะฉุดมือผมไว้
ปริ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
เสียงแตรรถดังลั่น ก่อนที่รถคันหรู จะจอดเทียบข้างๆ เวฟ 100 ของไอ้ไม้
“กลับบ้าน” เสียงทุ้มตะคอกก่อนจะแกะมือไอ้ไม้ออกจากมือผมแล้วลากผมขึ้นรถไปด้วยทันที อะไรของมันอีกว่ะเนี่ย
“โชคดีนะพี่” ไอ้น้องไม้ ตะโกนบอกพลางโบกมือให้
“ใจคอจะเงียบไปถึงเมื่อไหร่” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม
“ก็ไม่มีอะไรจะพูด จะให้พูดอะไร สั่งมาสิจะได้พูด”
“อย่ามาประชดได้ไหม” ร่างสูงตะคอก
“ใครจะกล้า ประชดคุณ วรวัตล่ะครับ” เหอะ เอะอะก็ตะคอกๆ มันเห็นผมเป็นโทรโข่งม็อบหรือไง
“ไอ้เล็กอย่าให้กูหมดความอดทนกับมึงนะ”
“เหอะ อยากทำอะไร ตบ ต่อย หรือจะตี เอาสิ มึงก็ทำมาหมดแล้วนิ ทำไมต้องทน” ผมเหวกลับไปบ้าง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน จู่ๆมันก็หายออกไปแล้วจู่ๆมันก็กลับเข้ามามันต้องการให้ผมเป็นบ้าหรือไงนะ
“โถ่เว้ย!!!” ร่างสูงสบถเสียงดังลั่น ก่อนจะเร่งสปีดรถซะจนผมต้อจิกเบาะแน่น มันเป็นบ้าอะไรของมันอีกเนี่ย
“ไอ้วัตมึงเป็นบ้าอะไร มึงไม่กลัวตายแต่กูกลัวนะเว้ย!!!” ผมตะคอกแต่ความเร็วก็ไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลย
“จำไว้นะเล็ก อย่าทำให้กูโมโห” เสียงทุ้มบอก
“กูทำอะไรให้มึงโมโหอีกห่ะ ถ้าเป็นเรื่องพีพี มึงเองไม่ใช่เหรอที่ปล่อยแกมา แล้วจะมาโทษกูได้ยังไงเล่า”
ผมตะคอกกลับ ทำไมมันต้องหาเรื่องผมตลอดเวลาด้วยนะไหนบอกว่า จะไม่รู้จักกันอีกไง มันต้องการอะไรจากผมกันแน่
รถคันหรูชะลอที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งช้าๆก่อนที่คนร่างสูงจะลากผมลงมาจากรถ ผมมองมันบรรยากาศที่มันคุ้นเคยด้วยความสงสัย ผมมีความรู้สึกว่าผมเคยมาที่นี่ ผมมองไปรอบๆก่อนจะสะดุดกับป้ายชื่อโรงแรม
นี่มัน
ไม่จริงน่า
โรงแรมนี้มัน…
มันเป็นที่เดียวกับที่ผมเคยพา พัช มา
ผมจำมันได้ดีเพราะผมเลือกที่นี่ด้วยตัวผมเอง โรงแรมนี้อยู่ห่างจากบ้าไอ้วัตแค่ไม่กี่กิโล แถมยังเป็นโรงแรมในเครือบริษัทพ่อมันอีกด้วย ในตอนนั้นผมคิดว่าการได้ทำอะไรๆใต้จมูกของไอ้วัต มันคงสะใจไม่น้อย
“วัต มึงพากูมาที่นี่ทำไม”
“หึ กูพามึงมาเข้าโรงแรมคงมาเล่นดีดมะกอกกันมั้ง”
“จุ๊ๆๆ ขนาดนี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่ะ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันทั้งคืน คงนั่งเล่นดีดมะกอกกันหรอกมั้ง”
คำพูดที่ผมเคยพูดกับมันในวันนั้น สะท้อนเข้ามาในหัว หึ ผมไม่ได้ขัดขืนเพียงปล่อยให้มันลากไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจที่แตกละเอียด ไอ้วัตมันคงเกลียดผมมาก มากซะจนอยากทำลายทิ้งไปซะ
ตุ๊บ!!!
ผมถูกเหวี่ยงลงบนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ อย่างแรง จนจุกไปหมด แต่นั่นมันกลับไม่เจ็บเท่าหัวใจที่กำลังแหลกสลายด้วยมือของคนที่ผมรัก
มือแกร่งบีบต้นแขนผมแน่นจนเจ็บไปหมด แววตาคมที่สะท้อนเพียงความโกรธจ้องมองผมเขม็ง
อุ๊บ อื้ออออออออ ริมฝีปากที่บดเบียนลงมาอย่างแรงทำให้ผมรับรู้ถึงรสคาวของเลือดในปาก ถึงมันจะเจ็บแต่กลับไม่เท่าที่หัวใจ ที่มันเหมือนกับถูกกรีดด้วยมีดนับพันเล่ม
มันพาผมมาที่นี่เพื่อตอกย้ำความผิดของผมใช่ไหม
มันพาผมมาที่นี่เพื่อให้ผมรู้ว่ามันไม่มีทางยกโทษให้ผม
มันพาผมมา เพื่อ ให้ผมรู้จักสำนึกสักทีว่า
ตัวเองเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ ไร้ค่า ยามที่มันต้องการเท่านั้น
ไม่มีสิทธิ์เถียง ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง ไม่มีสิทธิ์ที่จะรัก และได้รับความรักจากมัน
สัมผัสจาบจ้วงที่แผงไปด้วยความโกรธยังคงสัมผัสที่ร่างกายผมอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้หัวใจของผมกำลังถูกทำลาย หากว่ามันต้องการที่จะทำลายผม มันทำสำเร็จแล้ว เมื่อก่อนผมยังอยู่ได้แม้ว่าจะโดนทำร้ายเพราะผมไม่ได้รัก แต่ตอนนี้การถูกทำร้ายจากคนที่รักกำลังทำให้ผมเจ็บปวด
ผมเข้าใจแล้วว่า พัช รู้สึกยังไง
การถูกทำร้ายจากคนที่รักมันเจ็บปวดยิ่งกว่าทุกอย่างในชีวิตที่ผมเคยเจอมา
เจ็บทั้งร่างกายและ เจ็บไปทั้งหัวใจ
“เล็ก กู….คือกู…” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากที่แรงอารมณ์มอดดับลง
“ไม่ต้องพูดอะไร ทั้งนั้น กูเข้าใจแล้ว” ผมบอกเสียงแผ่ว อย่าพูดอะไรอีกเลยเพราะแค่นี้ผมก็เจ็บเจียนตายแล้ว
“เข้าใจเหรอ มึงกำลังเข้าใจผิดต่างหาก เรื่องที่เกิดขึ้น กู……”
“วัต…”
“มึงชนะแล้วรู้ตัวไหม เรื่องราวที่เกิดขึ้นมึงเป็นผู้ชนะ”
“มึงชนะอย่างที่มึงต้องการแล้ว ส่วนกูก็แพ้ อย่างไม่มีชิ้นดี มึงดีใจไหมล่ะ”
“เล็กมึงฟังกูก่อนได้ไหม มึงกำลังเข้าใจกูผิดอยู่นะ กูไม่ได้ต้องการที่จะเอาชนะ กูไม่ได้ต้องการให้มึงแพ้ กูขอโทษ ขอโทษกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น กูขอโทษจริงๆ”
“มึงอาจจะไม่เชื่อแต่ว่า กู กู ……”
“กูรักมึงนะเล็ก”
“วัต กูขอร้องล่ะ อย่าทำร้ายกูอีกเลย อย่าพูดคำนั้นออกมาเพื่อทำร้ายกูอีกเลย แค่นี้กูก็เจ็บจนแทบไม่มีแรงจะเดินอยู่แล้ว อย่าเอาคำนั้นมาหลอกให้กูดีใจเลย กูขอร้อง ฮึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมบอกมันทั้งน้ำตา ผมยอมแพ้แล้ว ผมยอมแล้วจริงๆ ได้โปรดอย่าเอาคำนั้นมาเป็นเครื่องมือทำร้ายผมอีกเลย
“ไม่ใช่นะเล็ก มึงกำลังเข้าใจผิด มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะ กูรักมึงจริงๆ”
น่าแปลกนะครับยิ่งผมยินคำว่ารักจากมันมากเท่าไหร่ในใจผมกลับยิ่งเจ็บมากเท่านั้น ผมกำลังเจ็บ เจ็บอย่างที่พัชเคยเจ็บ เจ็บปวดจากความรัก ที่จอมปลอม ได้โปรดอย่ามาเล่นกับความรู้สึกของผมอีกเลย