[Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Novel] สายใยรัก & Love You Only และตอนตัวอย่างของ Love U Andy  (อ่าน 156653 ครั้ง)

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #240 เมื่อ03-02-2010 18:18:27 »

อาไรกันอ่ะ

จิมเพิ่งไปแค่วันเดียว  ร้องหากันแล้วเหรอ   o18

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #241 เมื่อ03-02-2010 18:38:39 »

เจ๊หมวย พี่เป็นแฟนคลับของเสี่ยภากร เถ้าแก่โย บรรดาพ่อ ๆ ของน้องโมจิ
ที่สำคัญเป็นแม่ยกของน้องโมจิ (ขวัญใจ) เรื่องสายใยรักก็อ่านจากบอร์ด
บ้านพ่อแล้วยังตามมาอ่านจากบอร์ดนี้ อ่านเรื่องไหนของเจ๊หมวยมีความสุข
ทุกเรื่องเลย เจ๊หมวยไม่ได้แต่งเรื่องใหม่อีกเหรอ รอจับจองซื้อที่เป็นเล่มมาไว้
เป็นสมบัติสวนตัวอยู่นะคะ  :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #242 เมื่อ03-02-2010 19:55:29 »

แอรยสสสสส

ได้รับเชิญเรื่องนี้ด้วยวุ้ย

จ่ายค่าตัวมาด้วยเจ้หมวย

 :laugh: :laugh:

















ล้อเล่นนะครับ ขอบคุณที่มาต่อนะคร้าบบบ

 :กอด1:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #243 เมื่อ03-02-2010 20:24:14 »

มีความสุขแบบเหงาๆ ทอมไม่มีจิมเคียงข้าง
เหมอๆแบบนี้ทอมคิดถึงจิมแน่เลย
พ่อลูกหยอกกัน น่ารัก :กอด1:

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #244 เมื่อ03-02-2010 20:28:54 »

นี่แหล่ะน๊า พอเค้าไม่อยู่แล้วก็คิดถึงเค้า รู้ตัวว่าขาดเค้าไม่ได้ :sad11:


คู่พ่อลูกเค้าหยอกกันน่ารักจังเลยอ่ะ
แม็กกี้น่ารักซะ โตขึ้นคงสวย (?) เหมือนแด๊ดเนอะ

1582

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #245 เมื่อ03-02-2010 21:44:26 »

รอจิมกลับมา  :serius2:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #246 เมื่อ03-02-2010 22:09:09 »

หลังเหตุการณ์ใจหายเมื่อครู่ทอมสั่งนายเอ๊ดให้ไปคอยที่รถหรือจะไปเดินเที่ยวที่ไหนก็ตามใจ โทรไปตามเมื่อไรค่อยมารับ เขาขอเที่ยวเล่นกับลูกสองคนสบายใจกว่า

"เดี๋ยวเราจะเล่นอะไรต่อดีฮะ แด๊ด.." เสียงใสงึมงำขึ้นทันทีหลังจากงับไอศครีมคำเบ่อเริ่มเข้าในปาก
"กลืนลงคอก่อนแล้วค่อยพูดซี.." ทอมดุเสียงเข้ม ดึงกระกาษซับช็อคโกแลตที่ไหลย้อยจากมุมปากแล้วส่ายหน้า เด็กชายกินไอศครีมถ้วยนี้เป็นถ้วยที่สองแล้ว
"ยังจะเล่นอีกเหรอ กินอิ่มๆ ไปเล่นเดี๋ยวก็แหวะหรอก"
"เหมือนแด๊ดเหรอฮะ" หนุ่มน้อยกระเซ้าพ่อสีหน้าทะเล้น เจอดวงตาสีฟ้าถลึงใส่ก็รีบอ้อนเสียงใสก่อนจะถูกดุ
"เล่นที่ไม่หวาดเสียวได้มั้ยฮะ"
ทอมถอนใจเฮือกก่อนจะพยักหน้าให้ เจ้าหนูก็รีบควักโพยเครื่องเล่นออกมาดู
"ไปขับรถโกคาร์ทมั้ยฮะ แด๊ด.."
ทอมส่ายหน้าตัวเลือกใหม่ก็สวนขึ้นมาทันที
"พรมวิเศษ.. น่าตื่นเต้นนะฮะ"
ทอมส่ายหน้าอีก
แม็กกี้ไม่ยอมแพ้ เอ่ยชื่อเครื่องเล่นที่ยังไม่ได้เล่นอีกเป็นหางว่าวก็ถูกพ่อส่ายหัว
"แด๊ดอ่ะ.." เสียงใสสั่นเครือเมื่อรู้ว่าพ่อไม่อยากเล่นอะไรแล้ว
“เข้าปราสาทผีสิงกันมั้ย” ทอมเอ่ยชวนอย่างไม่จริงจังนักเพราะคิดว่าเด็กชายต้องปฏิเสธ ถึงจะกล้าเล่นเครื่องเล่นที่ตื่นเต้นหวาดเสียว แต่เด็กก็ต้องเป็นเด็ก ยังไงก็ไม่ชอบเรื่องผีๆ แน่
“หา!!!..” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลง ถามย้ำเบาๆ อย่างไม่แน่ใจ “ปราสาทผีสิง”
ทอมพยักหน้าให้ สีหน้าของเด็กชายดูไม่ค่อยถูกใจกับคำชวนนี้ จึงแกล้งกระเซ้าด้วยการพูดสบประมาทเล็กๆ
“ไม่อยากเข้าล่ะซี ไม่ชอบหรือไม่กล้า หือ…”
คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่น เม้มริมฝีบางอย่างครุ่นคิด ก่อนย้ำคำถามกลับไปให้พ่อ
“แด๊ดอยากเข้าเหรอฮะ ถ้าแด๊ดไม่กลัว ผมก็ไม่กลัว…”
ทอมเลิกคิ้วเมื่อแม็กกี้ยอมรับคำท้าด้วยดี ถึงสีหน้าจะกล้าๆ กลัวๆ ก็เหอะ
“จริงอ่ะ ลูกไม่กลัว.. แด๊ดก็ไม่กลัว..” ถ้างั้นจะช้าอยู่ทำไม กินเสร็จแล้วเราไปพิสูจน์ความกล้าของลูกผู้ชายกันเลย”
ทอมลุกขึ้นยืนรอเจ้าหนูจัดการไอศครีม 2 คำสุดท้ายด้วยท่าทีอิดออดชอบกล
ระหว่างทางจูงแม็กกี้มาปราสาทผีสิง มือเด็กชายเย็นเฉียบ!!!.. ไม่รู้ว่าเย็นเพราะไอศครีมเมื่อครู่หรือเพราะอะไร..





“แด๊ดฮะ”  :m13: เสียงกระซิบเรียกของเด็กชายเหมือนต้องการความมั่นใจว่าพ่ออยู่ใกล้จริงๆ ทั้งที่มือเล็กก็กุมมือใหญ่ไว้แน่น
“หือ..”
บรรยากาศเริ่มวังเวงขึ้นเรื่อยๆ จากที่มีแสงสลัวเล็กน้อยก็มืดสนิทจนมองไม่เห็น
“ทำไมมันมืดตื๋อเลยอ่ะ”
“ไม่มืดผีก็ไม่ออกน่ะซี” ทอมกระซิบตอบ
“หา!!! ”
ทอมแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อร่างเล็กเบียดกระแซะเข้ามาจนเดินไม่ถนัด
....กรี๊ด!!!!!! เสียงกรีดร้องของกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้า ทำเอาแม็กกี้สะดุ้งเฮือกสวมกอดพ่อแน่น..
“แด๊ด.. พวกเขาเจออะไรฮะ..” แม็กกี้ถามเสียงสั่น
“เอ.. ไม่รู้ซี... คงจะเจอ.... อ๊ะ ! เฮ้ย!… ”

ทอมสะดุ้ง จู่ๆ ก็มีหัวผีโผล่ออกมาลอยอยู่ตรงหน้า 2 หัว แสงที่ออกจากดวงตาโปนทำให้ดูน่ากลัวมากขึ้น เขาแค่ร้องอุทานเพราะตกใจแต่เจ้าหนูสะดุ้งสุดตัวส่งเสียงร้องกรี๊ด หัวซุกหัวซุนเข้ามากอดเขาแน่น ตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว
อ๊าาาาา!!!!!! แด๊ด.. ผีหัวขาดอ่ะ... กลัว… อือ.....”
“ไม่กลัวลูก... ไม่ต้องกลัว.. ของปลอมทั้งนั้น”

ทอมกล่าวปลอบสองมือสวมกอดและลูบหลังเด็กชายให้หายตกใจ ร่างเล็กในอ้อมกอดกลัวจนตัวสั่นทำให้เขารู้สึกผิด หัวเราะความปากเก่งของเจ้าหนูไม่ออกแล้ว

ทอมพาแม็กกี้ผ่านด่านผีหัวขาดมาด้วยความทุลักทุเล ก็เจ้าหนูเล่นไม่ยอมมองทาง หัวซุกอยู่กับอกเขาจนต้องกึ่งลากกึ่งเดินกันมา



“ถึงทางออกรึยังฮะ แด๊ด..” เด็กชายถามหาทางออกเสียงสั่นทั้งที่เข้ามายังไม่ถึงครึ่งทาง
“อีกนิดเดียว..จะไม่เงยหน้าขึ้นมามองหน่อยเหรอ.. ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ของปลอมทั้งนั้นแหล่ะ”
“ไม่เห็นมีอะไรน่ามอง.. มีแต่น่าเกลียดน่ากลัวทั้งนั้น”

น้ำเสียงอู้อี้สั่นเครือและคำพูดเหมือนตัดพ้อพ่อที่ชวนเข้ามาทำไมก็ไม่รู้ ทำเอาทอมพูดไม่ออก.. ยอมให้ซุกหน้ากับอกแต่โดยดี ไม่เงยขึ้นมาก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่กลัว แต่ขนาดไม่เห็นด้วยตาตนเองแค่เสียงกรีดร้องของคนอื่นๆ เจ้าหนูก็สะดุ้งและกอดเขาแน่นขึ้นทุกครั้ง





ทอมเร่งฝีเท้าเพราะอยากพาลูกออกจากปราสาทร้างเขย่าขวัญแบบไร้สตินี้ซะที นึกโมโหตัวเองเหมือนกันไม่น่าพาเด็กเข้ามาในที่แบบนี้เลย ตลอดทางเดินมีผีและตัวประหลาดโผล่ออกมาหลอกเป็นระยะ ๆ เขาแค่สะดุ้งเพราะตกใจ..ไม่ได้ส่งเสียงร้อง จึงทำให้แม็กกี้คลายความหวาดกลัวลง อ้อมแขนที่กอดรัดเขาแน่นผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ร่างเล็กถูกกระชากออกจากอ้อมกอดของเขา แม็กกี้กรีดร้องสุดเสียงในขณะที่เขาใจหายวาบตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แด๊ดดี้.. ช่วยด้วยย!!! แด๊ด~ อือ....” เสียงเด็กชายร้องเรียกอยู่ที่ไหนสักแห่งในความมืด
“แม็กกี้!!..”
ทอมโกรธมากเมื่อตั้งสติได้ว่าเป็นการเล่นหลอกของภูติจอมปลอม  บังอาจเล่นถึงลูกถึงคนแบบนี้ ผีบ้าที่ไหนวะ ชั่วจริงๆ..

แสงไฟเริ่มสลัวขึ้นทำให้ทอมเห็นร่างชายฉกรรจ์อยู่ในชุดโครงกระดูกสวม กอดเจ้าหนูของเขาซึ่งส่งเสียงร้องกรี๊ดและเต้นเร่าๆ อยู่
“แด๊ด.. แด๊ดดี้.. ช่วยด้วย!! อือ อือ...”
“ปล่อยลูกผมเดี๋ยวนี้ คุณผี..” ทอมโกรธมากแต่พยายามกัดฟันพูดดีด้วย



“เอาา..  ค่าาา...  ผ่านน...  ทางงง...  มาาาา...  ก่อนนนน..”

เสียงยานคางตอบกลับมาพร้อมกับเสียงร้องกรี๊ดๆ ของเด็กชาย ทอมโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเมื่อไอ้ผีบ้าไม่สนใจสักนิดว่าเด็กจะกลัวขนาดไหน เขาตรงรี่เข้าไปจ่ายค่าผ่านทางที่ใบหน้าของเจ้าผีร้ายจนหงายหลังก้นจ้ำเบ้า และคว้าร่างเจ้าหนูไว้ทันไม่ให้ล้มลงไปพร้อมกับมัน แม็กกี้ผวาเข้าสวมกอดเขาตัวสั่นสะท้าน เสียงพูดตัดพ้อสะอึกสะอื้นฟังไม่ได้ศัพท์ ทอมรีบช้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนและเดินดิ่งไปที่ประตูทางออกซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล โดยไม่สนใจกับผีร้ายที่นอนโอดครวญอยู่ ถ้าไม่ติดว่าอยากจะพาลูกออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดล่ะก็.. เขาจะกระทืบมันต่อให้น่วมเลย...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2010 22:12:20 โดย j-muay »

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #247 เมื่อ03-02-2010 22:25:18 »

ภาพเด็กชายนั่งอยู่บนตักและซุกหน้ากับอกชายหนุ่มหน้าปราสาทผีสิง ทำให้คนที่พบเห็นโดยเฉพาะกลุ่มคนที่เพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ร้างอมยิ้มด้วยความรู้สึกเอ็นดู และเข้าใจตรงกันในทันที่ว่า.. หนุ่มฝรั่งรูปหล่อสุดเท่ผู้นี้กำลังปลอบโยนลูกชายที่ขวัญผวาออกมาจากปราสาทแน่ๆ หลายคนเดาว่าเสียงกรีดร้องเขย่าขวัญเมื่อครู่ต้องเป็นเสียงร้องของเจ้าหนู

“หายตกใจรึยัง หือ..” เสียงปลอบอ่อนโยนโดยหลีกเลี่ยงคำว่า “กลัว” เพื่อไม่ให้เด็กชายรู้สึกไม่ดีมากไปกว่านี้
“ผมขอโทษครับ”
ทอมเลิกคิ้วกับคำถาม “ขอโทษ? .. เรื่องอะไร ลูก...”
ทอมเสยผมชื้นเหงื่อของเจ้าหนูขึ้นและจูบหนักๆที่หน้าผากมนนิ่งไว้ชั่วครู่ ใบหน้าเนียนที่ขาวซีดตอนออกมาเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นบ้างแล้ว แต่ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโตยังมีน้ำใสหล่อรื้นอยู่  :monkeysad:
“ขอโทษ..ที่ผม...ก....กลัว..ผีฮะ” เด็กชายทำท่าจะสะอื้นก็ถูกพ่อจูบที่แก้มและกระซิบปลอบ
“ลูกไม่ได้กลัวซะหน่อย..แม็กกี้ แค่ตกใจต่างหาก"
“แต่ผมร้องเสียงดัง ผมไม่กล้ามองพวกมันด้วย”
“มีลูกร้องคนเดียวที่ไหน คนอื่นๆ เขาก็ร้องกัน ลูกก็ได้ยินนี่นา หือ..”
“แต่แด๊ดไม่ร้อง.. แด๊ดไม่กลัว.. แล้วก็ไม่ตกใจด้วย”
ทอมนึกขำที่เด็กชายเอาเขาไปเปรียบ แต่หัวเราะไม่ออก
“ก็ลูกยังเด็กอยู่นี่นา.. พอโตเป็นผู้ใหญ่ ลูกก็จะไม่ตกใจอะไรง่ายๆ หรอก”
“ผมไม่มีความกล้า ผมไม่ได้เป็นลูกผู้ชายใช่มั้ยฮะ”
“เหลวไหล คิดแบบนั้นได้ไง แม็กกี้.. หือ..” ทอมตกใจกับความนึกคิดของเด็กชาย
“ก็แด๊ดบอกว่าให้เข้าไปพิสูจน์ความกล้าของลูกผู้ชายในบ้านผีสิง แต่ผมไม่กล้ามองอ่ะ” แม็กกี้น้ำตาร่วงผล็อยลงอีก
ทอมอยากจะตบปากตัวเองนัก เป็นเพราะคำพูดของเขาทำให้ลูกคิดมากแบบนี้
“แด๊ดไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ แม็กกี้.. ถ้าความเป็นลูกผู้ชายวัดกันที่ความกล้าในเรื่องพวกนี้ล่ะก็ ลูกมีความกล้ามากกว่าแด๊ดซะอีกนะ รู้มั้ย.. ลูกกล้าเล่นรถไฟเหาะ เรือไวกิงส์ และเครื่องเล่นอีกหลายอย่างที่ต้องขึ้นไปสูงๆ ลูกไม่กลัวทั้งที่มันตื่นเต้นแล้วก็.. น่าหวาดเสียวมากๆ...” ทอมหยุดคำพูดไว้ให้เด็กชายเข้าใจเอง
“แด๊ดกลัว..เหรอฮะ” น้ำเสียงแผ่วเบาย้อนถามกลับมาอย่างไม่แน่ใจ
ทอมพยักหน้าให้ ถึงตอนนี้ไม่รู้สึกอายแล้วที่จะต้องสารภาพกับลูก ว่าเขาไม่กล้าเล่นเครื่องเล่นสูงๆ ที่โลดโผนและหวาดเสียวเหล่านั้น
“ผมขอโทษฮะ”
เด็กชายเอ่ยขอโทษอีกครั้งแต่ด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น
“อะไรอีก.. ทำไมวันนี้มีเรื่องขอโทษเยอะจัง”
“ขอโทษที่ชวนแด๊ดไปเล่นรถไฟเหาะจนแด๊ดปวดท้องต้องเข้าห้องน้ำฮะ”
ทอมอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา
“ถ้างั้นเราก็หายกัน แด๊ดก็ต้องขอโทษลูกด้วยที่ชวนเข้าไปในปราสาทผีสิงบ้าๆ นั่น ไม่เห็นสนุกสักนิด เดี๋ยวเราไปเล่นที่อื่นกันต่อดีมั้ย”
ดวงตากลมโตส่อประกายแจ่มใสขึ้นทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องเล่น ร่างเล็กขยับลงจากตักพ่อลุกขึ้นยืน เมื่อหายกลัวก็เริ่มมั่นใจในความเป็นลูกผู้ชายของตัวเอง อารมณ์เบิกบานขึ้นทันตาเห็น
“งั้นรีบไปกันเถอะ แด๊ดอยากเล่นอะไรฮะ” ครั้งนี้แม็กกี้ขอความเห็นพ่อเพราะไม่อยากเลือกตามใจตัวเอง
“อืมม์.. แด๊ดว่าจะพาไปเข้าอีกบ้านนึง..”
พูดถึง “บ้าน” แม็กกี้เบิกตาโพลงอ้าปากจะท้วง แต่ทอมไม่เปิดโอกาสให้พูด
“ลูกต้องชอบแน่ แม็กกี้.. มันคือบ้านน้ำแข็งของชาวเอสกิโม มีสไลเดอร์หิมะให้เล่นด้วย แล้วก็.. บ้านซานตาครอส สนมั้ย..”
ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ส่อประกายวาววับ ตื่นเต้นดีใจสุดๆ มือเล็กฉุดแขนพ่อให้ลุกขึ้นทันที
“สนฮะ สน.. ไปกันเดี๋ยวนี้เลยซีฮะ แด๊ด.. ผมอยากเห็นหิมะ”

ทอมพยักหน้าหงึก เอาไงเอากัน.. ที่จริงอยากจะกลับบ้านแล้ว อากาศร้อนและหนวดเคราปลอมทำให้เขารู้สึกคันยิบๆ บนใบหน้า แต่เพื่อเป็นการปลอบขวัญและแก้ตัวที่พาหนุ่มน้อยเข้าไปในสถานที่ที่ไม่น่าพิสมัย ตบท้ายด้วยเมืองหิมะ น่าจะทำให้เจ้าหนูลืมภาพน่ากลัวเมื่อครู่และนอนหลับฝันดี..



วันนี้ทอมต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการปลอมตัว แม้จะรู้สึกรำคาญกับความแปลกปลอมบนใบหน้า แต่ก็นับว่าคุ้มค่าเพราะไม่มีใครจำได้ แม้จะถูกจ้องมองอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มองจนเหลียวหลัง หรือวิ่งกรูกันเข้ามาห้อมล้อมขอลายเซ็นต์กันวุ่นวายเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับสุดยอดนายแบบ 3 สมัย ทอม แม็คกิลล์ ชีวิตสามัญเช่นนี้ช่างเป็นชีวิตที่สงบเรียบง่ายจนอยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เขาไม่น่าเข้าวงการที่แสนจะวุ่นวายยุ่งเหยิงนี้เลย

ทอมสะดุดความคิดลงเมื่อสายตาเจอะกับภาพที่ทำให้รู้สึกวูบในอก ชายหนุ่มคู่หนึ่งเดินเคียงกันอยู่ด้านหน้า รูปร่างสูงใหญ่กว่ากันไม่มากนัก แต่การแสดงออกแค่เห็นก็รู้แล้วว่าความสัมพันธ์ไม่ใช่แค่เพื่อน รู้สึกสะท้อนใจกับการกระทำของตัวเองในวันนี้… ทำไมเขาถึงไม่ยอมรับความจริงให้เร็วกว่านี้ ทำไมเขาถึงแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง ทำไมไม่บอกความจริงกับลูก ทำไมยอมรับความเจ็บไว้คนเดียว…และผลักไสคนที่ตัวเองรักให้จากไปมีคนอื่น.. ทั้งหมด เพราะเขาคือ ทอม แม็คกิลล์ หรือว่าเพราะเขาขี้ขลาดกันแน่..

"แด๊ดฮะ ใกล้ถึงเราแล้ว"
เด็กชายกระตุกแขนเสื้อพ่อเตือนให้ควักเงินออกมาเตรียมจ่ายค่าบัตรเข้าชมเมืองหิมะ ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงร้องถามด้วยความตกใจ
"แด๊ดดี้.. เป็นไรฮะ"
"ห๊ะ! คะ..ใครเป็นเป็นอะไร" ทอมงงกับอาการตกใจของเด็กชาย
"แด๊ด.. ทำไมน้ำตาไหล.." เด็กชายกระซิบถามเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน
ทอมรู้สึกตัว …เขาน้ำตาไหลหรือนี่ ตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมไม่รู้ตัวเลย…   ทอมกระพริบตาน้ำใสก็ร่วงผล็อยลงแก้ม เจ้าหนูเห็นแล้วหน้าเสียรีบดันพ่อออกจากแถวหลบไปยืนข้างๆ ถามย้ำเสียงสั่น
"แด๊ดดี้เป็นไรฮะ"
"แด๊ดไม่ได้เป็นอะไรแม็กกี้.. แค่เคืองตานิดหน่อย สงสัยใส่คอนแท็คนานไป" ขณะพูดน้ำตาก็ยังไหลเล่นเอาเด็กชายใจเสีย ลืมไปเลยว่าตาสีฟ้าสวยๆ ของพ่อไม่ใช่ของจริงเหมือนตัวเอง
"เจ็บเหรอฮะ งั้นรีบกลับกันเถอะ"
"กลับ?.. ไปไหน?.."
"กลับบ้านไงฮะ รีบไปถอดตาสีฟ้านี่ออกเร็วๆ จะได้หายเจ็บ"

แม็กกี้ล้วงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้พ่อ ไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมาที่ตนและอมยิ้ม ไม่รู้สึกเขินอายเลยสักนิด ความรู้สึกขณะนี้คือเป็นความผิดของตัวเองที่ทำให้ตาพ่อเจ็บ เพราะไม่อยากให้ใครจำได้ จะได้เที่ยวสนุกกันตามประสาพ่อลูก พ่อจึงต้องปลอมตัวเปลี่ยนตาเป็นสีฟ้า (เด็กชายยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่าคอนแท็คคืออะไรและใส่ยังไง ทอมบอกแต่ว่าใส่คอนแท็กสีฟ้าตาก็เลยเปลี่ยนเป็นสีฟ้า)

ทอมยืนนิ่งให้ลูกซับน้ำตาให้ ความเจ็บร้าวที่วูบผ่านเข้ามาในหัวใจเมื่อครู่กำลังถูกมือเล็กๆ เยียวยารักษาให้ เขาทรุดตัวลงสวมกอดเด็กชายแนบศีรษะกับอกฟังเสียงเต้นของหัวใจเจ้าหนู มันสร้างกำลังใจให้เขาเข้มแข็งขึ้นอย่างประหลาด ในเมื่อยังมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่เคียงข้างและมีความรักให้เขามากมายขนาดนี้ เขาจะรู้สึกเหงาเศร้าและโหยหาใครทำไมอีก น้ำตาที่ไหลเมื่อครู่ออกมาได้ยังไงเขาไม่รู้ รู้แต่ว่าน้ำตาที่ยังไหลอยู่ขณะนี้มาจากอาการเคืองตาซึ่งเป็นผลจากคอนแท็คจริงๆ

“อย่าเพิ่งกลับเลยแม็กกี้.. เข้าไปดูบ้านน้ำแข็งข้างในก่อนเถอะ ลูกไม่อยากเห็นลานหิมะเหรอ”
“แต่แด๊ดตาเจ็บนี่ฮะ ไว้วันหลังมาดูใหม่ก็ได้...”

ทอมเงยหน้าขึ้นมอง ไม่อยากเชื่อว่าแม็กกี้ห่วงเขามากกว่าห่วงเล่น สีหน้าของหนุ่มน้อยดูกังวลและเป็นห่วงมากกว่าคำพูดที่ออกมา ทอมรู้สึกสุขใจจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้ รั้งศีรษะเด็กชายเข้ามาจูบที่หน้าผากและแก้มเนียนใสทั้งสองข้างโดยไม่ให้เจ้าหนูได้ทันตั้งตัว เพราะถ้าขอดีๆ ต่อหน้าสาธารณชนล่ะก็.. ไม่มีทางยอมให้จูบแน่ๆ

“เอ๋?.. แด๊ด.. ทำอะไร” แม็กกี้เริ่มมีความรู้สึกกับสายตาหลายสิบคู่ที่จ้องมองอยู่และเสียงซุบซิบที่ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้สองมือเล็กรีบยันอกพ่อออก ...เอาอีกแล้วนะแด๊ด.. ชอบจูบโชว์ให้คนอื่นเห็นอยู่เรื่อย...

“คนมองกันใหญ่แล้วนะฮะ ไม่กลัวเขาจำได้เหรอ”
“ไม่กลัว” ทอมส่ายหน้าและยิ้มให้ “ก็คนเค้ารักกันนี่ จะจูบกันใครจะทำไม”
คำพูดของพ่อเล่นเอาเจ้าหนูหน้าแดงแป๊ด งุบงิบต่อว่าด้วยน้ำเสียงกระซิบ
“น่าไม่อายจังเลยอ่ะ แด๊ด.. คนเขามองกันใหญ่แล้ว..”
“น่าอายตรงไหนกัน ปกติคนมองแด๊ดเป็นร้อยเป็นพัน นี่แค่ไม่กี่สิบเอง”
“โอ้ย ! ..ก็ผมไม่ใช่นายแบบเหมือนแด๊ดนี่”
ทอมหัวเราะสุขใจที่ได้กระเซ้าลูกชายแสนรัก ลุกขึ้นยืนพาเจ้าหนูมาต่อแถวใหม่
“ตกลงเข้าบ้านหิมะก่อนแล้วค่อยกลับล่ะกัน ตาแด๊ดหายแล้ว”
“จริงเหรอฮะ ไม่เจ็บแล้วเหรอ” เด็กชายเงยหน้าขึ้นมองให้แน่ใจอีกครั้ง
ทอมพยักหน้าให้ลูก ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กลุ่มคนที่ยืนต่อแถวอยู่ข้างหน้า ซึ่งพากันเหลียวหลังกลับมามองเขาและแม็กกี้ด้วยสีหน้าอมยิ้ม คงเพราะเห็นฉากรักระหว่างเขากับลูกเมื่อครู่ ทอมมั่นใจว่าไม่มีใครจำเขาได้เพราะถ้าจำได้คงไม่แค่มอง...

“ขอลายเซ็นหน่อยค่าาา..”

ทอมใจหายวาบยืนนิ่งเป็นหุ่น
“ว้าย !!!.. หล่อจังเลย ขอลายเซ็นหน่อยค่า” เสียงใสๆ จากด้านหลังทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ด้านหน้าแตกกระเจิงออกจากแถววิ่งตรงเข้ามาสบทบ
ทอมก้มหน้างุดยืนนิ่งแทบไม่หายใจ  สองแขนสวมกอดเจ้าหนูไว้แน่น ไม่รู้เหมือนกันว่าแม็กกี้จะช่วยอะไรได้

วูบ!!! ความรู้สึกเหมือนกลุ่มคนวิ่งผ่านไปพร้อมกับเสียงกรี๊ดเซ็งแซ่ด้านหลัง ทำให้ทอมรู้ตัวว่าเขาไม่ใช่เป้าหมาย จึงเงยหน้าขึ้นพร้อมอาการโล่งอกก่อนจะเหลียวหลังกลับไปมอง

“ไมเคิล รอสส์ หล่อจังเลยค่า ขอลายเซ็นพวกเราหน่อย”
“ขอจับมือหน่อยค่ะ พี่ไมค์.. เคยเห็นแต่ในหนังสือและทีวี ตัวจริงหล่อสุดๆ เลยค่ะ”

ทอมยืนมองตาปริบๆ
..ไมเคิล รอสส์ นายแบบท้ายแถวเนี่ยนะ.. หล่อสุดๆ.. สงสัยเพราะหันไปเอาดีทางการแสดงเลยโด่งดังเป็นที่รู้จัก...
ทอมยืนมองสภาพของไมเคิลที่อยู่ในวงล้อมแล้วสะท้อนถึงตัวเอง ดูแล้วเหมือนเป็นตัวประหลาด น่าสมเพชมากกว่าน่าภูมิใจ
“แด๊ด.. คนหายหมดแถวแล้ว ไปกันเถอะฮะ” เสียงเรียกของเจ้าหนูทำให้ทอมรู้สึกตัว
“อ๊ะ !! จริงด้วย รีบไปกันเถอะ”
ทอมจูงเด็กชายเดินจ้ำอ้าวไปซื้อบัตรและเช่าเสื้อโค้ทอย่างสบายใจ เขาไม่มีวันกลับไปอยู่ในสภาพเหมือนเป็นตัวประหลาดแบบนั้นอีกแล้ว การได้อยู่กับคนที่เรารักอย่างสงบสุขและเป็นส่วนตัว มีความสุขมากกว่าหลายร้อยหลายพันเท่านัก

โปรแกรมเที่ยวสวนสนุกในวันนี้จบลงเกือบเย็นย่ำ แม็กกี้ไม่ยอมออกจากเมืองหิมะง่ายๆ สนุกสนานบนลานน้ำแข็งและสไลเดอร์จนเพลิน เรียกให้กลับกี่ทีก็บอกแต่ว่า “อีกเดี๋ยวฮะ แด๊ด..” จนในที่สุดเขาต้องแอบไปซ่อน เพราะถึงจะวิ่งไปเล่นไกลแค่ไหน สายตาของเจ้าหนูก็คอยหันกลับมาดูเขาและยิ้มให้ตลอด เมื่อหันมาแล้วไม่เจอก็มองหาไปรอบๆ ก่อนจะวิ่งกลับมาที่เขายืนอยู่ด้วยสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ ทันทีที่เขาโผล่ออกไปจ๊ะเอ๋.. เจ้าหนูก็โผเข้ากอด ร้องจะกลับบ้านทันที

นายเอ๊ดเหลือบมองกระจกส่องหลังก่อนจะหันกลับไปมองที่เบาะ อดยิ้มไม่ได้กับภาพที่เห็น ทั้งเจ้านายและคุณหนูตีตั๋วนอนยาวหลับสนิทเพราะเหนื่อยและเพลียสุดๆ ไม่ใช่แค่คุณหนูเท่านั้นที่เหนื่อยตามประสาเด็ก แต่เจ้านายหนุ่มของเขาก็คงสนุกจนหมดแรงด้วยเช่นกัน เคยเห็นแต่หมดแรงพับไปเพราะเหนื่อยจากงาน นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่เห็นเจ้านายเหนื่อยเพราะเล่นสนุก

นายเอ๊ดลอบถอนใจ เมื่อนึกถึงชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เคยอยู่เคียงข้างเจ้านายเป็นเงาตามตัว
...ถ้ามีคุณจิมอยู่เคียงข้างด้วย เจ้านายของเขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้หลายเท่าเลย...

 :L1:


TBC >> LOVE  YOU 2

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #248 เมื่อ03-02-2010 23:36:59 »

น่ารักจังเลย สองพ่อลูกไปเที่ยวกันที่สวนสนุก อบอุ่นจังค่ะ..แต่สงสารตอนที่ไอติมหล่นอ่ะ แม็กกี้คงตกใจมากที่โดนพ่อดุ แล้วไอ้ผีบ้าที่อยู่ดีๆมาจับแม็กกี้อีก น่าจะโดนอีกซักสองตุ้บ...

เจ้หมวยพาจิมมาเดินเล่นแถวนี้บ้างสิคะ...ทอมคิดถึง คนอ่านก็คิดถึง :กอด1:

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #249 เมื่อ04-02-2010 00:54:46 »

ตอนนี้ชิวๆ ลัลล้าๆ น่ารักๆ ชอบอ่ะ  แม็กกี้กลัวผี  ดูเป็นเด็กน่ารักดีอ่ะ เหอะๆๆๆ
ไม่น่าเชื่อว่าหนูน้อยที่ดูแข็งแกร่ง แข็งแรงจะกลัวผี เหอะๆๆๆๆ
น่ารักจริงๆ พ่อลูกคู่นี้ เหอะๆๆๆๆ รอติดตามต่อไปเรื่อยๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
« ตอบ #249 เมื่อ: 04-02-2010 00:54:46 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #250 เมื่อ04-02-2010 08:00:19 »

ตอนนี้น่ารักที่ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อย่าเศร้าอีกเลยนะครับ

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #251 เมื่อ04-02-2010 15:07:45 »

ผีแบบนี้ก็มีด้วย ขอค่าผ่านทาง

แบบนี้ต้องให้ดับเบิลทีนเป็นค่าผ่านทาง


ตอนนี้น่ารักน่าเอ็นดูดีอ่ะ สดใสร่าเริงทั้งคู่เชียว
แต่...ถ้ามีคุณจิมอยู่เคียงข้างด้วย เจ้านายของเขาคงจะมีความสุขมากกว่านี้หลายเท่าเลย... นะ

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #252 เมื่อ04-02-2010 15:34:10 »

จิม ยุ หนาย ย ย ยย ย ย ย ย ย ยย ย ย ย

กลับ มาเด๋ว นี้ เรย นะ

ฮึ่ม  ๆ ๆ ๆๆ ๆ

เจ้ หมวย  เอา จิม มา ด้าย แล้ว ว วว ว ว     :z3:

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #253 เมื่อ04-02-2010 21:29:37 »

น่ารักจังอ่ะ :-[ :-[

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #254 เมื่อ04-02-2010 22:20:14 »

Love You OnlY  2..

หลายวันมานี้คนรับใช้ในบ้านแม็คกิลล์ไม่มีใครกล้าเข้าหน้าเจ้านายทอม แม้แต่แม็กกี้หนุ่มน้อยสุดที่รักของทอมเองก็เถอะ ไม่จำเป็นจะไม่เข้าไปกวนใจพ่อเด็ดขาด

ทอมดึงกระดาษออกจากโต๊ะเขียนแบบขยำและเขวี้ยงลงกับพื้น หลายวันแล้วที่เขาเขียนแบบเสื้อไม่ได้สักชุด จะให้คิดหรือเขียนออกได้ยังไงในเมื่อหัวสมองนึกถึงแต่เจมส์ การ์เซีย บอดี้การ์ดคู่ใจที่เงียบหายไปจากชีวิตเขานานเกือบ 3 เดือนแล้ว จิมโทรหาเขาประมาณ 3 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลยจนถึงวันนี้อีก 5 วันก็ครบ 3 เดือนเต็มที่จิมจากบ้านแม็คกิลล์ไป

ช่วงเดือนแรกที่จิมจากไป ทอมยังมีอารมณ์เบิกบานสามารถออกแบบและสร้างสรรค์งานได้หลายชุด งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ทอมยังไม่ได้ตั้งใจจะยึดเป็นอาชีพ แค่ลองฝึกฝนฝีมือและเพื่อคลายเหงาเท่านั้น แต่พอทำไปก็เริ่มสนุกและมีไอเดียแปลกใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลาจนหยุดไม่ได้ต้องนั่งขีดเขียนทุกวัน บางวันเขียนได้ถึง 6-7 ชุด บางวันเขียนได้แค่ชุดเดียว วันที่เขียนไม่ได้เลยคือวันที่เขาไม่ได้นั่งทำงาน ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับแม็กกี้

ทอมเริ่มพาลูกออกไปเที่ยวพักผ่อนนอกบ้าน ทุกครั้งที่ออกไปเขาต้องปลอมตัวจนอยู่ในสภาพที่ไม่มีใครจำได้ ซึ่งก็ไม่ใช่วิธียุ่งยากอะไรแค่ติดหนวดใส่เคราและสวมแว่นหน่อย ต่อให้เป็นแฟนพันธุ์แท้ขนาดไหนก็ไม่มีใครจำได้..

เข้าเดือนที่ 2 ทอมเริ่มอารมณ์ไม่ค่อยจอยหงุดหงิดที่จิมไม่ติดต่อและส่งข่าวกลับมาเลย เขามีที่อยู่ของจิมแต่ไม่คิดจะติดต่อไป เพราะจิมรับปากกับเขาว่าจะเป็นฝ่ายติดต่อมาเอง เวลาที่รู้สึกหงุดหงิดทอมมักจะคลายอารมณ์ด้วยการเข้าไปนั่งพูดคุยเล่นหัวกับลูก การได้อยู่ใกล้ชิดเด็กชายทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น หายหงุดหงิดและลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจไปชั่วขณะ 

แต่พอย่างเข้าเดือนที่ 3 ทอมเริ่มหงุดหงิดและหัวเสียมากขึ้น เห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด บ่นว่าคนรับใช้ในบ้านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ไม่ว่าจะหัวเสียมากขนาดไหนทอมก็ไม่เคยบ่นว่าเจ้าหนูแสนรักของเขา ยังคงคลายความหงุดหงิดลงได้ทุกครั้งที่เด็กชายเข้ามาฉอเลาะใกล้ๆ ตอนนี้แม็กกี้จึงแทบจะกลายเป็นที่พึ่งของคนรับใช้ทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะนายเอ๊ดอดคิดไม่ได้ว่าถ้าคุณหนูแม็กกี้เป็นเด็กชายเล็กๆ ล่ะก็ จะอุ้มขี่คอไว้ทั้งวันเป็นยันต์กันเจ้านายว๊ากใส่

สองวันนี้ทอมเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เพราะแม้แต่แม็กกี้ก็ไม่อาจทัดทานความหงุดหงิดใจให้คลายลงได้ ทอมจึงตัดปัญหาไม่พูดคุยกับใครจะได้ไม่พาลอารมณ์เสียใส่ กับเด็กชายเองก็พูดคุยด้วยนับคำได้และดูเหมือนแม็กกี้จะรู้ว่าเขามีความทุกข์ในใจจึงทำตัวเป็นเด็กว่าง่ายไม่สร้างปัญหาให้เขา ซ้ำยังมาอ้อนขอนอนด้วยโดยบอกว่ากลัวฝันร้าย แต่ทอมรู้ดีว่าแม็กกี้ต้องการอยู่เป็นเพื่อนช่วยคลายเหงาให้เขา

"แด๊ด.. แด๊ดดี้ฮะ"
ทอมสะดุ้งหันมาเห็นเด็กชายยืนถือแก้วน้ำส้มในมือ แม็กกี้ส่งยิ้มหวานให้เขาพร้อมกับยื่นแก้วน้ำส้มให้
"ดื่มน้ำส้มซีฮะ แด๊ด.. จะได้ชื่นใจ ผมคั้นเองกับมือครับ"
ทอมเลิกคิ้วและรับน้ำส้มมาดื่ม
"จริงเหรอ.. อืมม์… ชื่นใจจริงๆ ด้วย"
ทอมรั้งเด็กชายเข้ามากอด ไม่ว่าจะรู้สึกหงุดหงิดหรือมีทุกข์ในใจขนาดไหน เวลาที่เจ้าหนูอยู่ในอ้อมกอด เขารู้สึกดีขึ้นทุกครั้งแม้จะชั่วประเดี๋ยวก็เถอะ..
"วันนี้เรียนพิเศษเป็นไงมั่ง ภาษาอังกฤษใช่มั้ย เรียนรู้เรื่องหรือเปล่า"
"รู้ครับ ผมเป็นลูกฝรั่งนะฮะ เรียนไม่รู้เรื่องก็เสียชื่อแย่…"
ทอมหัวเราะ
"สองทุ่มกว่าแล้ว ถ้าง่วงก็ไปนอนก่อนเลย ไม่ต้องรอแด๊ดนะ"
เด็กชายส่ายหน้าความหมายว่ายังไม่ง่วง ดวงตาสีน้ำทะเลกลมโตจ้องเขม็งที่ใบหน้าของทอมอย่างรู้สึกเสียดาย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแก้มและคางผู้เป็นพ่อและรำพึงเบาๆ
"เสียดายจัง อดเห็นหน้าหล่อๆ เลย"
ทอมแสร้งกล่าวตัดพ้อเด็กชาย
"ทำไมล่ะ แม้แต่ลูกก็ชอบแต่คนหล่อหรือแม็กกี้.. ไม่ชอบคนมีหนวดเคราใช่มั้ย มิน่าล่ะ ! หลายวันแล้วที่แด๊ดจะหอมแล้วลูกขยับหนี.."
"เปล่านะฮะ ผมไม่ได้หนีเพราะไม่ชอบ ผมจั๊กกะจี๋หนวดต่างหาก"
แม็กกี้รีบแก้ข้อกล่าวหา และยืนยันคำพูดตัวเองด้วยการจูบแก้มที่มีขนเคราอ่อนนุ่มสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมอยู่ ก่อนจะสวมกอดและซบศีรษะลงกับไหล่พ่อ
"ผมไม่ได้รักแด๊ดที่เป็นนายแบบรูปหล่อ ผมรักเพราะเป็นแด๊ดดี้ของผม ถึงจะขี้เหร่แบบน้าเอ๊ดดี้ผมก็ยังรักแด๊ดที่สุดในโลกฮะ.."

แรกเริ่มทอมตั้งใจแค่จะเว้นระยะเวลาในการโกนหนวดให้นานขึ้น เพื่อให้ผิวหน้าได้มีโอกาสพักผ่อนบ้าง แต่ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจไว้หนวดเคราเลย เพราะนอกจากจะได้ออกไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องเสียเวลาแปลงโฉมให้ยุ่งยากแล้ว งานที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคอยดูแลใบหน้าให้งดงามหล่อเหลาอยู่ตลอดเวลาเหมือนก่อน และด้วยเหตุผลสำคัญที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ก็คือ… เพื่อประชดใครบางคนที่เคยทำหน้าที่โกนหนวดให้เขา โดยเฉพาะเวลาที่ต้องตื่นแต่เช้า เขาเคยโกนเองแต่พลาดถูกมีดบาดเพราะความง่วง ตั้งแต่นั้นมาถ้ามีงานเช้า..หมอนั่นไม่ยอมให้เขาโกนหนวดเองอีกเลย

"แด๊ดดี้คิดถึงคุณจิมมั้ยฮะ"
ทอมสะดุ้งนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำถามโดนใจจากปากเด็กชาย รีบคลายอ้อมแขนและรั้งเจ้าหนูออกห่าง ต้องการสบดวงตาคู่สวย อยากรู้ว่าคิดอะไรอยู่ในใจ
"ทำไมต้องคิดถึงด้วย คุณจิมเขาไปมีความสุขแล้ว คนมีความสุขเราไม่จำเป็นต้องไปห่วงหรือคิดถึงหรอก ห่วงตัวเราเองกันดีกว่าแม็กกี้.. หรือว่าลูกคิดถึงคุณจิม..ทั้งๆที่อยู่กับแด๊ดลูกยังไปคิดถึงคนอื่น อยากอยู่กับคุณจิมมากกว่าแด๊ดงั้นเหรอ.."
ทอมไม่ปฏิเสธเปล่ายังโยนคำถามตัดพ้อให้ด้วย คำถามสุดท้ายทำเอาเด็กชายตาโตรีบปฏิเสธจ้าละหวั่น
"เปล่าฮะ.. ผมไม่ได้อยากอยู่กับคุณจิมซะหน่อย ผมแค่.. เอ่อ.. แค่คิดถึงนิดหน่อย ไม่ได้คิดถึงมาก ก็.. คุณจิมไม่ใช่คนอื่นนี่ครับ แด๊ดเคยบอกว่าคุณจิมเป็นเหมือนญาติสนิท เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน…"
ทอมสะอื้นในอก แม้แต่เด็กชายยังรู้สึกคิดถึงแล้วเขาจะไม่รู้สึกได้อย่างไร…เป็นความคิดถึงที่แฝงไว้ซึ่งความเจ็บปวด น้อยใจและเสียใจที่หลงเชื่อใจหมอนั่น
"คุณจิมเขาแต่งงานมีครอบครัวของเขาไปแล้ว แม็กกี้.. เขาไม่ใช่คนในครอบครัวของเราอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องคิดถึงเขาอีก.."
"แต่ว่า…"
"ไม่มีแต่แล้วแม็กกี้.. เราจะไม่พูดถึงคุณจิมอีก โอเค.."
ทอมพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง ถ้าคู่สนทนาตอนนี้ไม่ใช่แม็กกี้ล่ะก็ เขาคงหัวเสียไปนานแล้ว
"แต่หลายวันแล้วนะฮะที่แด๊ดอารมณ์ไม่ดี เอาแต่นั่งทำงานอยู่ในห้องไม่พูดคุยกับใคร แด๊ดโกรธที่คุณจิมไม่ติดต่อกลับมาเลยใช่มั้ยฮะ"

ทอมนิ่งมองเด็กชายอย่างชั่งใจ ไม่อยากเชื่อเลยว่าแม็กกี้จะกล้าเซ้าซี้ถามเรื่องจิมอย่างจริงจังแบบนี้ คิ้วเรียวงามของเจ้าหนูขมวดมุ่น ดวงตาสีน้ำทะเลจ้องมองเขาอย่างต้องการคำตอบ น่าแปลก.. เขาน่าจะโกรธเมื่อได้ยินคำถามนี้ แต่นอกจากจะไม่โกรธและหัวเสียแล้ว กลับดีใจที่รู้ว่าเด็กชายใส่ใจความรู้สึกของเขา

"แด๊ดไม่ได้โกรธคุณจิมหรอก แม็กกี้.. แค่หงุดหงิดนิดหน่อยที่เขาหายเงียบไป ไม่ส่งข่าวมาให้รู้ว่าสุขหรือทุกข์ยังไงบ้าง แต่คิดว่าเขาคงเป็นสุขดี เราไม่จำเป็นต้องห่วงหรือคิดถึงเขาหรอก…"
“ตั้งแต่คุณจิมไม่อยู่ไม่เห็นแด๊ดคบเพื่อนคนอื่นเลย ถ้าผมรู้ว่าคุณจิมไปแล้วแด๊ดจะเหงาและไม่มีความสุขแบบนี้ ผมจะอ้อนวอนขอร้องไม่ให้คุณจิมจากเราไป”

สีหน้าเศร้าสร้อยของเด็กชายขณะกล่าวทำเอาทอมใจหาย นึกไม่ถึงว่าแม็กกี้จะคอยเฝ้ามองและเป็นทุกข์ไปกับความรู้สึกของเขาด้วย ทอมสวมกอดและจูบปลอบที่หน้าผากหนุ่มน้อย

“ลูกคิดมากไปแล้ว แม็กกี้.. คุณจิมไม่อยู่แด๊ดแค่เหงา แต่ไม่ได้เป็นทุกข์อย่างที่ลูกเข้าใจ มีลูกอยู่ข้างๆ แบบนี้จะไม่มีความสุขได้ยังไง หือ.. การที่แด๊ดไม่ได้คบหาใครในช่วงนี้ไม่ใช่เพราะไม่มีเพื่อน แต่เพราะเพื่อนส่วนใหญ่อยู่ในวงการเดินแบบด้วยกัน แด๊ดอยากจะเงียบหายจากวงการนี้สักระยะ จึงไม่อยากไปไหนกับใครให้เป็นข่าวอีก ที่สำคัญอยู่ใกล้ใครก็ไม่มีความสุขเท่ากับอยู่ใกล้ลูกหรอก เอาเวลาที่จะไปคบหาคนอื่นอยู่กับลูกทั้งวันไม่ดีกว่าเหรอ หือ..”

เด็กชายยิ้มออกคลายความกังวลลง แต่ยังไม่วายพูดเรื่องที่แสลงและแทงใจเขาอย่างจัง
“ยกเว้นคุณจิมใช่มั้ยฮะที่แด๊ดอยู่ใกล้แล้วมีความสุข  ผมก็เหมือนกัน  ตอนคุณจิมอยู่กับเรา ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนคุณจิม เป็นญาติผู้ใหญ่ ความรู้สึกแบบนี้ใช่มั้ยฮะที่เรียกว่าเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอีกครั้งก็ดี… อ๊ะ.. จะไปไหนฮะ.. แด๊ด..”

แม็กกี้ร้องถามเพราะจู่ๆ ก็ถูกทอมแบกขึ้นไหล่ลุกขึ้นยืน
“นอนแล้ว แด๊ดง่วงอยากนอน ลูกก็ต้องนอนด้วย” ทอมรีบตัดบทพาเด็กชายเข้านอน

…แด๊ดดี้คิดถึงคุณจิมใช่มั้ยฮะ… แด๊ดโกรธที่คุณจิมไม่ติดต่อกลับมาเลยใช่มั้ยฮะ… ยกเว้นคุณจิมใช่มั้ยที่แด๊ดอยู่ใกล้แล้วมีความสุข…

ทุกคำถามโดนใจเขาอย่างจัง ขืนปล่อยให้พูดต่อไปเขาอาจเจอคำถามหมัดตรงจากเจ้าหนูอีกครั้งว่า

… แด๊ดดี้รักคุณจิมใช่มั้ยฮะ…
… ให้ตายเถอะ! ถ้าเขาตอบว่าใช่ อะไรจะเกิดขึ้น ได้โปรดเถอะ แม็กกี้.. จะถามอะไรก็ได้ ยกเว้นคำถามนี้เท่านั้นที่แด๊ดไม่อยากได้ยิน แด๊ดไม่อยากพูดปดกับลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

 :z3:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #255 เมื่อ04-02-2010 22:28:31 »

นับวันนี้…ก็ครบ 5 เดือนเต็มแล้วที่จิมจากไป..

ทอมนั่งมองที่อยู่ของจิมในสมุดโน้ต ตามองตัวหนังสือแต่สมองนึกถึงคำพูดก่อนจากไปของจิม …ฉันจะติดต่อกลับมานะ ทอม.. มีโอกาสเมื่อไรจะโทรหาทันที…
จิมทำตามที่พูดไว้จริงๆ โทรหาเขาทันทีที่ถึงบ้านหนึ่งครั้งและโทรหาอีกสองครั้งในสัปดาห์ต่อมา จากนั้นก็หายเงียบไปไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย

ทอมดึงกระดาษหน้าที่จดที่อยู่ของจิมออกและฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโปรยลงพื้น
"ป่านนี้แล้วคงไม่ใช่ไม่มีโอกาส แต่นายคงหมดโอกาสที่จะโทรหาฉันแล้ว..   ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะติดต่อกลับไปหรอกนะ จิม.. ฉันจะลืมให้หมดว่านายอยู่ที่ไหน.. ลืมว่านายเป็นใคร… ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับนายฉันจะลืมให้หมดเลย…"

 o7  ทอมกลั้นสะอื้นไว้ได้แต่ไม่อาจบังคับน้ำตาให้ไหลย้อนกลับ ยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้ เขาแพ้ใจตัวเองทั้งๆ ที่เตรียมทำใจไว้แล้วว่าการจากไปของจิมครั้งนี้ อาจเป็นการจบสิ้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจิม  การมีครอบครัวของตัวเองอาจทำให้เจมส์ การ์เซีย ยอมยุติความสัมพันธ์กับเขา และแปรเปลี่ยนความรู้สึกพิเศษที่มีต่อกันเป็นแค่เพื่อน

แต่เมื่อจิมเงียบหายไปจริงๆ เขากลับทำใจไม่ได้ รู้สึกแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ใช่แค่ความคิดถึงและเหงาอย่างที่แม็กกี้เข้าใจ หากแต่เป็นความรู้สึกโหยหาและเจ็บปวดเหมือนส่วนหนึ่งของวิญญาณและหัวใจของเขาหายไป เป็นเพราะการดำเนินชีวิตประจำวันของเขากว่า 3 ปีที่ผ่านมามีจิมอยู่ข้างกายเป็นเงาตามตัว คอยทำทุกอย่างให้หรือทำไปพร้อมๆ กับเขาเสมอ

เขาไม่ได้เป็นทุกข์หรือเดือดร้อนกับการที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองในวันนี้ หากแต่เป็นความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวที่ต้องทำทุกอย่างเพียงลำพัง โดยไม่มีเงาของร่างสูงใหญ่วุ่นวายนัวเนียอยู่ข้างๆ เหมือนก่อน

เขาแพ้ใจตัวเองยังไม่พอเขายังแพ้ผู้หญิงคนนั้น… มาเรียคงมีความงดงามและเพียบพร้อมทุกอย่าง จึงทำให้จิมมี่ของเขาใจอ่อนและยอมเปลี่ยนใจจากเขาได้ ป่านนี้เธออาจกำลังตั้งครรภ์มีการ์เซียตัวน้อยให้ตระกูลแล้วก็ได้ จิมอาจกำลังเห่อลูกและเฝ้าดูแลทะนุถนอมเธออย่างไข่ในหิน จนไม่มีเวลานึกถึงและติดต่อกลับมาหาเขา

…ถ้าเรื่องที่คาดการณ์ทั้งหมดเป็นจริง ฉันควรยินดีกับนายใช่มั้ย จิมมี่.. ฉันไม่ควรโกรธ ไม่ควรเสียใจ เราต่างมีหน้าที่และภาระที่ต้องทำ นายมีครอบครัวของนายฉันมีครอบครัวของฉัน… ฉันมีแม็กกี้.. ...ใช่.. ฉันมีแม็กกี้..

ทอมพยายามปลอบใจตัวเองด้วยการนึกถึงแม็กกี้ โชคดีเหลือเกินที่สวรรค์ส่งเด็กชายมาให้เขา ถึงยังไงการสูญเสียคนรักก็ยังเจ็บปวดน้อยกว่าการสูญเสียเด็กชายที่เป็นสายเลือดตัวเองไป เพราะหัวใจเขาคงไม่ได้หายไปแค่บางส่วนแต่คงแหลกสลายไม่มีชิ้นดี

กว่า 8 เดือนแล้วที่หนุ่มน้อยแม็กกี้ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา จากเด็กชายร่างผอมบางอันเนื่องมาจากอาการป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ วันนี้แม็กกี้เป็นหนุ่มน้อยที่สมบูรณ์ขึ้นด้วยฝีมือการเลี้ยงดูของเขา ร่าเริงสนุกสนานและเล่นซุกซนเหมือนเด็กชายทั่วๆ ไป แต่เพราะเห็นเขาเป็นทุกข์ หลายวันที่ผ่านมานี้นอกจากแม็กกี้จะไม่ร่าเริงแล้ว ยังทำท่าเหมือนทุกข์ใจไปกับเขาด้วย

ทอมตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะทุกข์ใจกับการจากไปของอดีตผู้จัดการส่วนตัวและบอดี้การ์ดคู่ใจของเขา…

 o7

“แด๊ด.. แด๊ดฮะ.. แด๊ดดี้..”   
เสียงเรียกสุดท้ายดังอยู่ในลำคอเพราะเห็นพ่อคุยโทรศัพท์อยู่ แม็กกี้เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะนานมากแล้วที่เด็กชายไม่ได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทอม
((โอเค.. ผมจะจัดห้องเตรียมไว้ อีกสองวันเจอกัน บาย..))
ทอมวางหูโทรศัพท์ลงก็พยักหน้าให้ลูกชายแสนรักที่ยืนป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ซึ่งนับวันจะรู้มากและออกลายแก่นแก้ว แต่ถึงจะซนแค่ไหนก็เชื่อฟังและไม่เคยดื้อกับเขาสักครั้ง
“คุยกับใครเหรอฮะ แด๊ด..” แม็กกี้ชิงถามก่อนจะถูกพ่อดุว่ามายืนแอบฟัง
“บ๊อบ”
คำตอบสั้นๆ ทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น ทั้งสงสัยและแปลกใจ
“เป็นใครอ่ะฮะ เขาจะมาพักที่นี่เหรอ..”
“เขามีศักดิ์เป็นลุงของลูก จะมาเที่ยวเมืองไทยสองอาทิตย์ รู้ได้ไงว่าเขาจะมาพักที่นี่ แอบฟังเหรอ..”
ทอมตีหน้าเครียดทั้งที่รู้สึกยินดี เขาคุยภาษาอังกฤษกับปลายสาย เด็กชายสามารถฟังออกก็แปลว่าการใช้ภาษาอังกฤษเริ่มเข้าขั้นแล้ว
“ห๊ะ !!..” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลง “เปล่านะฮะ ผมเปล่าแอบฟัง ผมเพิ่งเข้ามา ได้ยินแค่ประโยคสุดท้ายเอง แหะ แหะ ” เด็กชายกลบเกลื่อนความผิดด้วยการล้มตัวลงนอนหนุนตักและสวมกอดพ่อ
“ตกลงเขาจะมาพักที่นี่เหรอฮะ พักกี่วันฮะแด๊ด”
“5 วัน”
“โห!! ” แม็กกี้ขมวดคิ้วคิดในใจว่าทำไมพักตั้งหลายวัน
“อะไร”
“เปล่าฮะ ดีเหมือนกันแด๊ดจะได้มีเพื่อนคุย ผมต้องเรียกเขาว่าอังเคิลเหรอฮะ ผมพูดภาษาอังกฤษยังไม่เก่งอ่ะฮะ แด๊ด.. ผมต้องฟังไม่รู้เรื่องแน่เลย แด๊ดต้องช่วยแปลให้ผมด้วยนะฮะ เขาจะดูถูกผมหรือเปล่าว่าเป็นลูกฝรั่งประสาอะไรพูดภาษาไม่ได้ เขารู้เรื่องของเรารึเปล่าฮะ แด๊ด ทำไม..”

เสียงใสเจื้อยแจ้วขาดหายไป เพราะถูกพ่อปิดปากไม่ให้พูดต่อ ทอมส่ายหน้ากับคำถามที่รัวออกมาเป็นชุด ไม่รู้จะตอบข้อไหนก่อน ก็เลยไม่ตอบเลยสักข้อ...

 :m23:

โรเบิร์ต แม็คกิลล์ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ มีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ของทอม เดินทางมาติดต่อธุรกิจในเมืองไทยและถือโอกาสพักผ่อนไปด้วย ทอมสนิทกับญาติผู้พี่คนนี้พอสมควร โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับมาเมืองไทย ทอมพักอาศัยอยู่ที่บ้านของโรเบิร์ต แต่หลังจากกลับมาเมืองไทยก็ขาดการติดต่อไป เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งอยู่กับงาน

“Hi..! Tom..”
“Hi.!. Bob..”

แม็กกี้ยืนตาปริบๆมองหนุ่มฝรั่งร่างสูงใหญ่ที่มีศักดิ์เป็นลุงโผเข้าทักทายและสวมกอดพ่อด้วยความรู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้นัก ก็เล่นกอดซะนานจนเด็กชายอดรนทนไม่ไหว ต้องเสนอหน้าเข้าไปใกล้และเอามือสะกิดเอวพ่อให้รู้สึกตัวว่าควรจะผละออกจากอ้อมกอดที่ไม่น่าไว้ใจนี้ได้แล้ว และแนะนำลูกชายสุดที่รักให้รู้จักซะที
((บ๊อบ.. นี่ลูกชายผม แม็กกี้.. ที่เคยเล่าให้ฟัง)) ..... (( ลุงบ๊อบมาจาก LA จะพักอยู่กับเรา 4-5 วัน ))
((Hi.. แม็กกี้ หวัดดีไอ้หนู )) บ๊อบยื่นมือให้เด็กชาย แต่เจ้าหนูกลับยกมือไหว้แบบธรรมเนียมไทย
((หวัดดีฮะ ))
บ๊อบหัวเราะและยกมือขยี้ศีรษะเด็กชายแทน มืออีกข้างบีบแก้มเจ้าเนื้อด้วยความรู้สึกเอ็นดูกึ่งหมั่นเขี้ยว นึกไม่ถึงว่าลูกชายของทอมจะน่ารักน่าชังขนาดนี้

 :m1:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #256 เมื่อ04-02-2010 22:50:13 »

แม็กกี้นั่งท้าวคางบนโต๊ะม้าหินริมสนามสีหน้าใช้ความคิดอย่างหนัก หน้านิ่วอย่างไม่สบอารมณ์ รู้สึกไม่ชอบหน้าลุงฝรั่งคนนี้อย่างมาก มือไม้นัวเนียอยู่ไม่สุข โอบกอดแด๊ดอยู่ได้ กอดแด๊ดคนเดียวไม่พอยังมากอดและหยิกแก้มเราอีก ลุงบ้า!!!... เดี๋ยวตัดมือทิ้งซะหรอก แด๊ดก็เหมือนกันยอมให้กอดอยู่ได้ น่ารำคาญจะตาย ธรรมเนียมฝรั่งเนี่ย..น่าเกลียดจริงๆ..

“เป็นอะไรครับคุณหนู.. หน้ามุ่ยเชียว” นายเอ๊ดทั้งขำทั้งเอ็นดูเจ้านายน้อย เห็นนั่งถอนใจหลายเฮือกแล้ว
“เหม็นหน้าคน”
นายเอ๊ดเลิกคิ้วและยิ้มทันทีเพราะรู้ว่าคุณหนูหมายถึงใคร
“คุณลุงฝรั่งหรือครับ”
“แค่ญาติห่างๆ ของแด๊ด”
แม็กกี้ตอบอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ไม่อยากเรียกผู้ชายคนนี้ว่าลุงหรอก ดูยังไงก็ไม่เหมาะที่จะเป็นญาติผู้ใหญ่ของเรา สู้คุณจิมก็ไม่ได้ เรียกคุณจิมว่าลุงยังไม่กระดากปากเท่า เฮอะ !..
“เห็นว่าจะพักที่นี่ 4-5 วันหรือครับคุณหนู”
แม็กกี้พยักหน้าให้ สีหน้าบูดลงไปอีกเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
“อย่ากังวลไปก่อนซีครับ เขาอาจจะน่ารักมีอัธยาศัยดีก็ได้ มีแขกมาพักแด๊ดจะได้ไม่เหงาไงครับ”
“ผมก็คิดงั้นฮะ แต่ดูแล้วมันน่ารำคาญมากกว่า”
“คุณแม็กรำคาญ แต่คุณพ่ออาจไม่รำคาญก็ได้นะครับ”
“เชอะ ! แด๊ดน่ะ ตัวขี้รำคาญเลย ไม่ชอบให้ใครมาเกาะแกะใกล้ๆ ยกเว้นผมคนเดียว อ้อ ! แล้วก็คุณจิมอีกคน”
“อ้าว! ก็คุณจิมเป็น คนรัก นี่ครับ อุ๊บ!!!”    นายเอ็ดหุบปากทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด
“หา!!!..”
แม็กกี้หูผึ่งตาโตปากค้างอยู่อึดใจก็รัวคำถามใส่เป็นชุด และบังคับนายเอ๊ดเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้  ถ้าไม่เล่าจะฟ้องน้าแววว่าแอบจีบสาวที่ตลาด   
“.................................”

“อย่าไปถามเรื่องนี้กับคุณพ่อนะครับ ไม่งั้นผมถูกเตะแน่ ดีไม่ดีถูกไล่ออกด้วยนะครับ คุณหนู..”

ครั้งนี้สีหน้าเด็กชายอมทุกข์กว่าปัญหาเรื่องลุงฝรั่งหลายเท่า แม็กกี้ไม่ได้ตกใจกับความจริงที่ได้รับรู้ ความรู้สึกขณะนี้คือเสียใจและสงสารพ่อ... ตลอดเวลาที่ผ่านมาเด็กชายคิดแต่เพียงว่าความรักที่พ่อมีต่อคุณจิมเป็นเหมือนเพื่อนสนิทหรือพี่ชายจริงๆ พ่อผูกพันกับคุณจิมมากเพราะคุณจิมเป็นคนใกล้ชิดเพียงคนเดียวที่รู้ใจ ไม่คิดว่าความรู้สึกแท้จริงระหว่างคนทั้งสองคือ ความรักฉันท์คนรัก...

...มิน่าล่ะ.. ตั้งแต่คุณจิมจากไป แด๊ดเหมือนคนไม่มีหัวใจ แม็กเคยสงสัยว่าแด๊ดใจลอยไปไหน.. วันนี้รู้แล้วว่าหัวใจของแด๊ดลอยไปหาคุณจิมนั่นเอง..

...แล้วทำไมแด๊ดถึงยอมให้คุณจิมไปแต่งงานล่ะ   ทำไมแด๊ดถึงไม่ยอมบอกความจริงกับแม็กล่ะฮะ..

 :m17:

“Dad Ha~~”
เสียงเรียกของเด็กชายทำให้ชายหนุ่มสองคนที่กำลังเดินเคียงกันก้าวขึ้นบันไดหยุดชะงักและหันขวับลงมาหาเจ้าของเสียงที่วิ่งตามขึ้นมาแทรกกลางระหว่างคนทั้งสอง
“อย่าวิ่งขึ้นบันไดซี แม็กกี้.. เดี๋ยวก็ตกหรอก”  ทอมเอ็ดเสียงเขียว เพราะเจ้าหนูวิ่งขึ้นมาแทรกกลางจนเขาเสียหลักดีว่าจับราวบันไดไว้ทัน
“จะไปไหนกันฮะแด๊ด..” แม็กกี้ไม่สนใจที่ถูกดุ ยิ้มหวานและอ้อนถามเอาใจ
“พาลุงบ๊อบไปห้องพักเหรอฮะ ผมพาไปเองก็ได้”   กล่าวจบเจ้าหนูก็ฉุดมือบ๊อบเดินตามขึ้นไปโดยที่อีกฝ่ายทำหน้างงๆ เพราะไม่เข้าใจ
ทอมส่ายหน้ากับอาการแปลกๆ ของเด็กชายและเดินตามหลังขึ้นไป
((ห้องของลุงอยู่ทางนี้ฮะ)) แม็กกี้พาบ๊อบมาส่งที่ห้องรับรองแขกซึ่งอยู่คนละปีกกับห้องนอนของเจ้าของบ้าน
((แล้วห้องนอนแด๊ดล่ะ อยู่ไหน))
คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับคำถาม แต่เพียงแว่บเดียวก็คลายออก
((อยู่ฝั่งโน้นฮะ))
((อืมม์.. แล้วฝั่งโน้นมีห้องว่างเหลือรึเปล่า หือ..ทอม)) ประโยคสุดท้ายบ๊อบหันไปถามผู้เป็นพ่อแทน (( ด้านโน้นมีกี่ห้อง ฉันขอนอนห้องเล็กก็ได้นะ จะได้อยู่ใกล้ๆ กัน))
(( เอ่อ.. มี 3 ห้อง แต่ว่า..))
“แด๊ดฮะ.. ฝั่งโน้นไม่มีห้องว่างแล้วนะ” แม็กกี้รีบดักคอเป็นภาษาไทยเพราะเริ่มฟังไม่รู้เรื่อง ก็ลุงฝรั่งเล่นพูดซะเร็วและยาวอีกต่างหาก
((ฝั่งโน้นไม่มีห้องว่างน่ะ บ๊อบ..)) ทอมตอบตามลูกโดยอัตโนมัติ
((อ้าว! ก็มี 3 ห้อง อยู่กันแค่ 2 คนพ่อลูก ก็ต้องเหลืออีกห้องซี))
((แต่อีกห้องก็ไม่ว่างฮะ มีคนอยู่แล้ว)) ครั้งนี้แม็กกี้ตอบได้ฉะฉานเพราะเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
((เอ๋?..ใครล่ะ มีใครอยู่ที่นี่นอกจากนายกับลูกหรือทอม..))
((อืมม์..เคยมี.. แต่ว่าตอนนี้..))
((ลุงจิมฮะ.. แต่ตอนนี้ไม่อยู่ไปต่างประเทศ อีก 2-3 วันก็จะกลับแล้ว ใช่มั้ยฮะ แด๊ด..))
แม็กกี้ขยิบตาส่งซิกให้พ่อ ทอมแทบไม่เชื่อหูและสายตาของตัวเอง นอกจากเด็กชายจะเรียกจิมว่าลุงอย่างสนิทใจแล้ว ทั้งสีหน้าและดวงตายังแฝงแววเจ้าเล่ห์ไว้เต็มเปี่ยม เห็นแล้วอยากจะหยิกแก้มเจ้าตัวดีนัก แต่ที่แสดงออกกลับเป็นอาการพยักเพยิดเห็นด้วยกับลูกชาย
((ใช่.. บ๊อบ เจ้าของห้องไม่อยู่ แต่อีกไม่นานก็คงจะกลับ)) ทอมเลี่ยงไม่เอ่ยชื่อ ประโยคสุดท้ายแฝงความขมขื่นไว้ในน้ำเสียง หากแต่คนฟังไม่ได้รับรู้เพราะกำลังสงสัยว่า “ลุงจิม” คือใคร
เด็กชายจับน้ำเสียงของพ่อได้ รีบตัดบทความวุ่นวายของลุงฝรั่งจอมยุ่งด้วยการเฉลยคำตอบโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายเอ่ยถาม
((ลุงจิมเป็น.. เอ่อ..)) “แด๊ด..คนสนิทพูดว่าไงฮะ Boyfriend อ๊ะเปล่า”
ทอมถลึงตาใส่เจ้าหนูก็ทำท่านึกออกรีบหันไปสนทนาต่อ
((ลุงจิมเป็น Bodyguard ของพ่อฮะ เป็นเทควันโดสายดำด้วย อีกไม่กี่วันก็จะกลับมาแล้ว เพราะงั้น.. ลุงบ๊อบต้องพักฝั่งนี้))
แม็กกี้ไม่เปิดโอกาสให้ลุงฝรั่งมีปัญหาเรื่องห้องอีก  รีบฉุดร่างสูงใหญ่เข้าห้องที่เปิดประตูรอเอาไว้ตั้งนานแล้ว

ในที่สุดบ๊อบก็ต้องพักห้องรับรองแขกอีกด้านหนึ่ง ตามคำเชิญชวนกึ่งบังคับของแม็คกิลล์น้อย งานนี้แม็กกี้ถึงกับปาดเหงื่อและถูกพ่อคาดโทษเรื่องพูดจากะล่อนไว้ด้วยว่าจะคิดบัญชีทีหลัง รอให้แขกกลับไปก่อน

 :m19:

TBC>>>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2010 22:52:35 โดย j-muay »

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #257 เมื่อ04-02-2010 23:15:56 »

เจ้าหนูแม๊กกี้ ร้ายขึ้นนะเรา  o18
มีกันท่าพ่อให้จิมมี่ด้วย น่ารักจริงๆ
จิมหายไปนานแล้วนะ ทอมคิดถึงแย่

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #258 เมื่อ05-02-2010 00:31:55 »

หนูแม็กกี้ร้ายนะเรา  เก่งจริง  เรื่องกะล่อนนี่  ฮ่าๆๆๆๆ
กามเทพตัวน้อยจะช่วยให้แด๊ดมีความรักได้มั้ยหนอ  รอลุ้นๆๆๆๆ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #259 เมื่อ05-02-2010 00:58:00 »

เก่งมากแม็กกี้ o13 o13  มันต้องอย่างนี้สิ คิกคิก
เจ้าหนูรู้ความจริงแล้ว ไม่มีท่าทางต่อต้านอีกด้วย...ดีจริง...อย่างนี้ก็

รอคุณจิมกลับบ้าน... :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2010 01:00:06 โดย bbyuqin »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
« ตอบ #259 เมื่อ: 05-02-2010 00:58:00 »





ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #260 เมื่อ05-02-2010 08:10:34 »

ร้ายนะฮะ อาจารย์ฮะ

แม็กกี้ ไอ้หนูตัวแสบ

อิอิ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #261 เมื่อ05-02-2010 10:27:11 »

ห้องพักผ่อนบ้านแม็คกิลล์ เวลา 5 ทุ่ม....

เด็กชายง่วงจนตาแทบจะปิดแล้วแต่ยังฝืนถ่างตาอยู่หน้าทีวีจอยักษ์ ทำทีเป็นสนใจกับสารคดีสัตว์โลกใต้น้ำทั้งที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะดูเป็นสิบๆ รอบแล้ว

แม็กกี้จำเป็นต้องนั่งอยู่เป็นก้าง.. เอ้ย! เป็นเพื่อน.. คุณพ่อสุดที่รัก ซึ่งตั้งหน้าตั้งตาคุยกับลุงฝรั่งตั้งแต่ 2 ทุ่มหลังทานอาหารค่ำเสร็จ จนป่านนี้ยังไม่ยอมเลิกคุย ลุงฝรั่งคุยไปจิบไวน์ไปหน้าแดงก่ำ ในขณะที่พ่อนานๆ ยกขึ้นจิบที แต่เพราะเหตุผลนี้แหล่ะที่แม็กต้องนั่งถ่างตาเฝ้าอยู่เป็นเพื่อน ไม่สนใจว่าพ่อจะออกปากไล่ให้ไปนอนหลายครั้งแล้ว

...จะคุยอะไรนักหนานะ.... ไม่เห็นน่าสนุกสักนิด (เพราะฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ส่วนใหญฟังไม่ออก) คุยไปหัวเราะไป ขำตรงไหน.. แต่ก็นะ.... ที่ยอมอดทนนั่งฟังก็เพราะหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เห็นพ่อยิ้มแย้มหัวเราะอย่างสนุกสนานแบบนี้ ลุงฝรั่งนั่นเป็นโจ๊กเกอร์รึเปล่า สามารถพูดให้พ่อหัวเราะได้..

ในที่สุดแม็กกี้ก็ทนง่วงไม่ไหว ร่างเล็กลุกขึ้นเดินโซเซไปนั่งแปะอยู่ข้างพ่อ ทอมเลิกคิ้วเมื่อเจ้าหนูขยับเข้ามาสวมกอดและซบศีรษะกับไหล่ส่งเสียงอู้อี้

“แด๊ดฮะ.. ง่วงนอนแล้วอ่ะ”
“ง่วงก็ไปนอนซี ใครบังคับให้นั่งอยู่ล่ะ หือ..” ทอมกล่าวอ่อนโยน รู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่เจ้าหนูอ้อนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ก็ผมรอแด๊ดอ่ะ เมื่อไรจะคุยจบซะที”
“รอทำไมล่ะ ง่วงก็ไปนอนซี”
“ก็คืนนี้ผมจะนอนกับแด๊ดนี่ฮะ”
“งั้นก็ไปนอนก่อน เดี๋ยวแด๊ดคุยเสร็จแล้วจะตามไป”
“ไม่เอาอ่ะแด๊ด ไปนอนด้วยกันเดี๋ยวนี้เลยซีครับ คุยกันตั้งหลายชั่วโมงแล้วนะฮะ ยังไม่พออีกเหรอ ผมตาจะปิดอยู่แล้วน้าาา”
ทอมส่ายหน้าเมื่อเด็กชายเริ่มออกลายงอแง

บ๊อบจ้องมองสองพ่อลูกอย่างรู้สึกแปลกตา ไม่เคยเห็นลูกชายวัยนี้อ้อนพ่ออย่างเด็กเล็กๆ แบบนี้มาก่อน
((ลูกจะเอาอะไรหรือ ทอม..))
((Umm..)) ทอมยิ้มแห้งๆ ลืมไปเลยว่ามีแขกนั่งอยู่ เผลอโอ๋ลูกมากไปหน่อย
((แม็กกี้ง่วงนอนแล้ว ผมจะพาเขาไปนอน คืนนี้ขอตัวก่อนนะบ๊อบ.. พรุ่งนี้ค่อยคุยกันต่อ))
((เฮ้!!! โตขนาดนี้แล้วยังต้องพาไปนอนอีกเหรอ เด็กที่โน่นอายุขนาดนี้มี girldfriend แล้วนะ ไม่มานั่งอ้อนพ่ออย่างเด็กๆ หรอก))
เด็กชายหันขวับมาจ้องมอบบ๊อบ ถึงจะฟังออกไม่หมดแต่ก็รู้ว่าถูกเหน็บ ดวงตาคู่สวยฉายแววโกรธและไม่พอใจ ริมฝีปากบางเม้มแน่นเหมือนกับจะบอกว่า ลองพูดว่าอีกที.. น่าดู..

บ๊อบยิ้มแห้งๆ สีหน้าเด็กชายง่วงงุนแบบเอาเรื่องจริงๆ
((อืมม์.. แต่ว่าลูกง่วงแล้วก็พาไปนอนเถอะนะ ทอม.. ฉันก็รู้สึกมึนและง่วงแล้วเหมือนกัน))
ทอมพยักหน้าให้ เสียงใสก็ดังขึ้น
((กู๊ดไนท์ฮะ ลุงบ๊อบ หลับฝันดีนะฮะ))
((กู๊ดไนท์ แม็กกี้.. หลับฝันดีเช่นกัน อย่าลืมดื่มนมก่อนนอนล่ะ))

บ๊อบอมยิ้มเมื่อหนุ่มน้อยชักสีหน้าไม่พอใจและแลบลิ้นใส่

ในที่สุด วงสนทนาคืนนั้นก็จบลงด้วยเหตุผลง่ายๆ แบบนี้ล่ะ

 :m14:

“แด๊ดฮะ แด๊ดดี้~ ”
แม็กกี้เรียกหาพ่อเมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นอยู่บนเตียง (ทุกวันนี้ทอมก็ยังตื่นสายอยู่ แม้จะไม่สายมากแต่ก็ไม่เคยตื่นก่อนลูก และแม็กกี้จะเป็นคนเข้ามาปลุกเขาตื่นนอนตอนเช้าทุกวัน)

แม็กกี้ลุกขึ้นจากเตียงเดินตามหาพ่อ ยังเช้าอยู่เลยทำไมแด๊ดตื่นเช้าจัง ประตูห้องน้ำเปิดแง้มไว้จึงเดินดิ่งไปหาก่อนทันที
“แด๊ด.. อยู่เปล่าฮะ แด๊ด.. ทำอะไรอ่ะ”   ร่างเล็กยืนตะลึงกับภาพที่เห็น

!!!!!!!!!!

ทอมกำลังจะโกนหนวด ใบหน้าบริเวณคางและแก้มเต็มไปด้วยโฟมมือถือใบมีดเตรียมพร้อม ลูกชายแสนรักก็โผล่เข้ามา
“มอร์นิ่ง แม็กกี้.. ตื่นแล้วเหรอ..”
แม็กกี้ไม่สนใจทักทายยามเช้ากับพ่อ หายตะลึงก็ถลาเข้าประชิดร่างสูงคว้าผ้าขนหนูเช็ดโฟมออกจากใบหน้าของพ่อ

“เฮ้! ทำอะไรอ่ะ แม็กกี้.. หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ทอมคว้ามือเล็กไว้ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าหนูจะละเมอ…
“ไม่เอา.. ผมไม่ให้แด๊ดโกนหนวด อย่าโกนนะฮะ ไมให้โกน..”
“ทำไมล่ะ หา!!! ก็ลูกบ่นบ่อยๆ ว่าอยากให้แด๊ดโกนหนวด อยากเห็นหน้าหล่อๆ ไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนี้ผมไม่อยากให้โกนแล้ว ไว้หนวดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกัน ไม่เอา.. อย่าโกนนะฮะ ไม่ให้โกน..”
ทอมขมวดคิ้ว รู้สึกฉุนที่เด็กชายเอาแต่ใจแบบไม่มีเหตุผล (ไม่รู้ว่าเหมือนใคร)
“เหลวไหลนะ แม็กกี้.. อย่ามางอแงแต่เช้าแบบนี้นะ ลูกไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว หัดมีเหตุผลซะบ้าง เอาแต่ใจแบบนี้จะให้แด๊ดตามใจทุกเรื่องได้ยังไง หา!!!”
เด็กชายสะดุ้ง ถูกพ่อดุเสียงดังด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเอาจริงแบบนี้ บ่อน้ำตาก็ทำท่าจะล้นทะลัก ยืนคอตกเอ่ยขอโทษเสียงสั่น
“ขอโทษฮะ แด๊ด.. ผมไม่ได้งอแง ไม่ได้อยากเอาแต่ใจ แค่ไม่อยากให้แด๊ดโกนหนวดเฉยๆ”
ทอมลอบถอนใจ ดุลูกทีไรก็รู้สึกไม่ดีกับตัวเองทุกครั้ง เขาเงยหน้าเจ้าหนูขึ้น เห็นแล้วก็ต้องรีบสวมกอดไว้ นึกโกรธตัวเองที่ใช้อารมณ์ แม็กกี้ไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจแบบไม่มีเหตุผล เขาควรจะถามก่อนที่จะดุ
“แด๊ดไม่ได้โกรธลูกนะ แค่อยากรู้เหตุผลว่าทำไม ลูกอยากให้แด๊ดโกนหนวดมาตลอด เพราะอยากเห็นหน้าหล่อๆ พอวันนี้จะโกนก็ไม่ยอม แปลว่าไม่อยากเห็นแล้วใช่มั้ย”
แม็กกี้ส่ายหน้า
“ผมอยากเห็น แต่.. แต่อยากเห็นคนเดียว ไม่อยากให้คนอื่นเห็นด้วย”
“คนอื่น? ใครคือ คนอื่น? มีคนอื่นอยู่ในบ้านเราด้วยเหรอ..”
“มีซีฮะ” แม็กกี้เสียงอ่อยไม่รู้ว่าพูดออกไปแล้วจะถูกดุอีกหรือเปล่า แต่ก็ต้องพูด..ไม่งั้นจะถูกหาว่าไม่มีเหตุผลอีก
“ก็ลุงบ๊อบไง ผมไม่อยากให้เขาเห็น รอให้เขากลับไปก่อนแล้วค่อยโกนนะฮะ”
ทอมอ้าปากหวอ นึกไม่ถึงกับความคิดของลูก
“แม็กกี้… ลูกพูดจริงรึเปล่า รู้มั้ยว่าความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไร”
เด็กชายพยักหน้ารับโดยดี
“ผมรู้.. ผมเห็นแก่ตัว ผมไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครมาหลงรักแด๊ด ยกเว้นผมกับคุณจิมสองคน”
แม็กกี้รีบซุกหน้ากับอกอุ่นๆ เพราะกลัวจะถูกจับได้ว่ารู้เรื่องส่วนตัวของพ่อกับคุณจิมแล้ว

ความรู้สึกของทอมวูบลงเมื่อได้ยินชื่อคนคนนั้น ไม่อยากเชื่อเลย…เขาพยายามจะลืมแต่แม็กกี้กลับนึกถึง ความรู้สึกของเจ้าหนูไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นความหวง…หวงเพื่อตัวเองยังไม่พอ แต่หวงเพื่อหมอนั่นด้วย …หวงไปทำไมแม็กกี้ หวงเพื่ออะไร…
แม็กกี้ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นพ่อนิ่งเงียบไป ใจเสียที่เห็นพ่อหน้าเศร้าอีกแล้ว
“แด๊ด.. แด๊ดฮะ”
“หือ..”
“ทำไมอยู่ดีๆ ถึงอยากโกนล่ะฮะ รำคาญเหรอ หรือว่าคัน”
ทอมหัวเราะที่ตัวเองต้องกลายเป็นคนตอบคำถาม
“ลุงบ๊อบเขาไม่เชื่อว่าหน้าอย่างนี้จะเป็นสุดยอดนายแบบ 3 สมัย แด๊ดก็เลยอยากจะโชว์ให้เขาดูหน่อย”

ดวงตาสีน้ำทะเลเบิกโพลง สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที  สองมือเล็กกุมหนวดเคราของพ่อไว้อย่างแหนหวง
“ไม่ให้โกนนะฮะ แด๊ด.. ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อซี ไม่ต้องโชว์ให้เห็นหรอก อยากดูก็เปิดในหนังสือดูก็ได้” อารมณ์หวงแล่นปี๊ดขึ้นมาอีก “ถ้าแด๊ดโกนออกอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ”
“ทำไม.. ลูกจะทำอะไรแด๊ดงั้นเหรอ” ทอมเสียงเข้มขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กชายชักจะเอาใหญ่แล้ว
“ผมไม่ได้จะทำอะไรแด๊ดซะหน่อย..” หนุ่มน้อยจอมซ่าเสียงอ่อยลง
“แค่อยากจะเตือนว่า ถ้าแด๊ดโกนหนวดออก ผมบอกได้เลยว่าลุงบ๊อบจะต้องเลื่อนกำหนดกลับ และขออยู่ที่นี่ต่ออีกอย่างน้อย 2 อาทิตย์ ไม่เชื่อก็คอยดูซีฮะ”
“เหลวไหล.. บ๊อบเขาไม่มีเวลาว่างมากขนาดนั้นหรอก ลูกชักจะแก่แดดเกินไปแล้วนะ แม็กกี้.. พอแล้วเลิกเพ้อเจ้อซะที ไปแปรงฟันอาบน้ำ ไป!! ”
แม็กกี้ยิ้มหวานเมื่อทอมเอาผ้าขนหนูเช็ดโฟมที่เหลือออก แปลว่าการเจรจาเกลี้ยกล่อมครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี
“ตกลง.. ไม่โกนแล้วใช่มั้ยฮะ แด๊ด..”
“อื้อ..” เสียงตอบรับอย่างรำคาญ
“เย้!!!!.. รักแด๊ดที่สุดในโลกเลยฮะ”
แม็กกี้เขย่งตัวขึ้นจูบแก้มพ่อ และจงใจเลือกจูบบริเวณที่มีขนเคราอ่อนนุ่ม ก่อนจะวิ่งจู๊ดกลับห้องตัวเองไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยอารมณ์เบิกบานสุดๆ

ทอมถอนใจเฮือกกับความแก่นแก้วของเด็กชาย ในที่สุดเขาก็ต้องเลิกล้มความคิดที่จะโชว์ใบหน้าของสุดยอดนายแบบ 3 สมัยให้ญาติผู้พี่ดู เพราะเริ่มเห็นจริงตามที่เจ้าหนูบอก เมื่อคืนบ๊อบก็เอาแต่จ้องหน้าเขาและบ่นว่าไม่เหมือนทอมคนเดิมเลย มันจะไม่เหมือนได้ไงกะอีแค่มีหนวดเคราเท่านั้น ถ้าเห็นแล้วเกิดติดใจอยากอยู่ดูนานๆ จนเลื่อนกำหนดกลับอย่างที่เจ้าหนูคาดการณ์ไว้ล่ะก็…ไม่สนุกแน่ เพราะฉะนั้นอย่าเห็นเลยบ๊อบ.. ไปเปิดหนังสือดูอย่างที่แม็กกี้บอกก็ดีเหมือนกัน…




ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #262 เมื่อ05-02-2010 10:32:09 »

“เฮ้อ!!!”
เสียงถอนหายใจโล่งอกของเด็กชายดังมาก ถึงขนาดทำให้ทอมซึ่งนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรู้สึกตัวได้
“เป็นอะไรเจ้าตัวยุ่ง มีอะไรหนักใจอีกล่ะ” ทอมหันมาถาม เห็นเด็กชายนั่งยิ้มสีหน้าระรื่นจนน่าหมั่นไส้
“เปล่าหนักใจฮะ ดีใจ”
“ดีใจ? เรื่องอะไร”
“ก็.. เรื่องที่ได้ส่งลุงบ๊อบกลับแอลเอเรียบร้อยแล้วไงฮะ ”
“แล้วไง มีอะไรน่าดีใจ”
“ก็..” แม็กกี้ขยับเข้ามากระซิบบอกเหตุผลพ่อ เพราะไม่อยากให้นายเอ๊ดได้ยิน
“ดีใจที่จะได้ไม่มีใครมาเกาะแกะแด๊ดดี้ของผมแล้วฮะ”
ทอมส่ายหน้าเหมือนระอาแต่ลำแขนกลับโอบร่างเล็กเข้ามาซบอก เพื่อปลอบประโลมความรู้สึกเจ็บร้าวที่แล่นวูบเข้ามาในหัวใจ
…ดีใจที่ไม่มีใครมาเกาะแกะแด๊ดดี้ของผมฮะ… คำพูดของเด็กชายแสลงใจเขาโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว…

คนที่เคยเกาะแกะอยู่เคียงข้างและพร่ำสัญญาว่าจะรักเขาเพียงคนเดียวตลอดไป จนถึงวันนี้ก็ยังเงียบหายไป ไม่มีแม้แต่จะส่งเสียงมาทักทายกัน
…เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครแย่งแด๊ดไปจากลูกหรอกนะ แม็กกี้.. และไม่ต้องหวงแด๊ดแทนใครคนนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะแด๊ดไม่มีวันยอมเจ็บซ้ำสอง ในเมื่อแด๊ดไม่มีค่าและความหมายสำหรับเขา ตั้งแต่วันนี้ไป… เขาก็จะไม่มีค่าและความหมายสำหรับแด๊ดเช่นกัน…

แม็กกี้สวมกอดพ่อแน่นขึ้นเมื่อรับรู้ถึงอาการสะท้านไหวของอ้อมอกอุ่น
…ไม่มีวิธีไหนที่แม็กจะช่วยให้แด๊ดหายจากอาการนี้ได้เลยเหรอ… 5 เดือนกว่าแล้วซีนะที่คุณจิมจากไป ความสุขที่แด๊ดได้รับจากเราคงฉาบอยู่แค่ภายนอกเท่านั้น มันไม่สามารถลบเลือนความทุกข์ที่อยู่ลึกลงไปในหัวใจของแด๊ดได้เลย คุณจิมนะคุณจิม ใจร้ายใจดำที่สุด ทำร้ายแด๊ดดี้ของผมได้ลงคอ ถ้ายังไม่รีบกลับมาในวันสองวันนี้ ผมจะยุให้แด๊ดมีแฟนใหม่ ผมจะไม่คอยเป็นก้างหวงแด๊ดไว้ให้คุณอีกต่อไป คุณจะต้องเสียใจตลอดชีวิตแน่ๆ บอดี้การ์ดใจทมิฬ…

 :เฮ้อ:

TBC >>>

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #263 เมื่อ05-02-2010 10:48:17 »

^
^
^
^
^
^

  :z13:


เจ้ หมวย ย ยย 

เมื่อไหร่ จิม จะกลับมาซะที 

 :z3:

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #264 เมื่อ05-02-2010 11:33:08 »

น้องแม็กกี้เปิดใจให้คุณจิมแล้ว เย้ รอแต่คุณจิมมาสานต่ออ่ะนะ
 :3123:

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #265 เมื่อ05-02-2010 12:29:26 »

แม็กกี้เกือบถูกดุแล้วสิ... ทอมจะดีใจมั้ยเนี่ยถ้ารู้ความจริงว่าลูกอ่ะไม่หวงเพราะจะแค่กันลุงบ๊อบแต่หวงไว้ให้คุณจิม...  แม็กกี้ o13



ยังรอคุณจิมกลับบ้านต่อไป :กอด1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #266 เมื่อ05-02-2010 15:42:14 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #267 เมื่อ05-02-2010 18:28:21 »

LOVE YOU ONLY 3..

หลังอาหารเช้าทอมกลับขึ้นมาบนห้องเพราะรู้สึกเวียนหัวและเพลียมาก หนังตาหนักอึ้งจนลืมแทบไม่ขึ้น วันนี้เขาคงหลับสนิทได้แน่เพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน ตั้งแต่จิมจากไปเขาไม่เคยนอนหลับอย่างเป็นสุขเลย บางขณะเกิดความคิดชั่ววูบว่าอยากจะหลับให้สนิทและไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก แต่พอแว่บถึงแม็กกี้แล้วก็รู้สึกโกรธและเกลียดตัวเอง …เขากลายเป็นคนขี้แพ้ตั้งแต่เมื่อไรกัน…

"ทอม.. ทอม.."
…อืมม์……
ทอมลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกอยู่ใกล้ๆ คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลง หัวใจพองโตด้วยความปิติยินดีเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกอยู่ข้างเตียงและยิ้มให้
"Hi !.. Tom.."
ทอมดีใจจนพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าลุกขึ้นมาสวมกอดอีกฝ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีเพราะถูกจับให้เงยหน้าขึ้นสบตาด้วย
"Hi!.. Maggill.."
ทอมตะลึงมอง ตั้งแต่รู้จักคบหากันมาทำไมวันนี้หน้าตาของหมอนี่จึงดูคมเข้มมีเสน่ห์ทำเอาเขาใจสั่นได้ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าจากกันไปนานมาก…
"Hi!.. Jimmy.." ทอมทักตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ความตั้งใจที่จะต่อว่ามลายไปสิ้นเปลี่ยนเป็นเอ่ยตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"นึกว่าจะไม่กลับมาอีกแล้ว ฉันรอนายติดต่อกลับมาทุกวันเลย…"
"ต้องกลับซี สัญญาไว้แล้วนี่" จิมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ มือสัมผัสหนวดเครานุ่มบนใบหน้าของทอมและเอ่ยกระเซ้า
"ฉันไม่อยู่ 5 เดือน กลายเป็นเคาบอยไปแล้วเหรอ.. หรือว่าจะรอให้ฉันกลับมาโกนให้ หือ.."
ทอมยิ้มและพยักหน้าให้ก่อนจะผวาเข้าสวมกอดด้วยความคิดถึง
"ฉันคิดถึงนายจิม.. คิดถึงมาก.. นายคิดถึงฉันหรือเปล่า ทำไมเงียบหายไปเลย"
จิมลูบหลังทอมไปมาและกล่าวปลอบ
"คิดถึงซีทอม.. ฉันคิดถึงนาย แต่มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการเลยไม่มีเวลาติดต่อมา ขอโทษด้วยนะ.."

ทอมผละออกอารมณ์แจ่มใสขึ้น เหมือนเมฆดำและฝนฟ้าคะนองจางหายไปแล้ว ริมฝีปากได้รูปของจิมเผยอยิ้มให้เขา รอยยิ้มช่างอ่อนโยนและอบอุ่น หัวใจที่กำลังหนาวเหน็บเพราะความอ้างว้างโดดเดี่ยวของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นในวินาทีนั้นเลย
เป็นครั้งแรกที่ทอมรู้สึกอยากสัมผัสริมฝีปากของจิม ทุกครั้งจิมจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่วันนี้...ขณะนี้… หัวใจเขาปรารถนาที่จะได้รับสัมผัสที่อบอุ่นจากจูบของชายตรงหน้า แม้จะต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ไม่แคร์แล้ว

((ที่รักคะ))

ทอมสัมผัสริมฝีปากของจิมได้แค่เพียงแผ่วเบาก็ต้องรีบผละออก เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวเรียกหาจิมอยู่ด้านนอก   แม้จะฟังภาษาไม่รู้เรื่องแต่ก็พอจะเดาออกว่าเธอกำลังเรียกหาจิมอยู่   จิมหันไปขานรับเป็นภาษาสเปน

"ฉันพามาเรียมาด้วย ทอม.. เธอตั้งครรภ์ได้เกือบ 4 เดือนแล้ว 2 เดือนที่ผ่านมาเธอแพ้ท้องมาก ตอนนี้ค่อยยังชั่วและแข็งแรงดีแล้ว ฉันก็เลยพาเธอมาพักผ่อนและถือโอกาสฮันนีมูนไปด้วย"   จิมหันไปยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามา และลุกขึ้นผละจากเขาไปหาเธอ

ทอมนั่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองตามตาปริบๆ    …มาเรีย..ภรรยาของจิม นี่มันอะไรกัน จิมมี่.. นายพาเธอกลับมาด้วย.. ทำไม??.. ไหนบอกว่าจะไม่พาเธอมาเหยียบบ้านหลังนี้ไง…

"ฉันจะพักอยู่กรุงเทพฯ 3 วัน ก่อนลงใต้ไปภูเก็ต มาเรียอยากรู้จักนาย ฉันก็เลยพาเธอมา.."
จิมแนะนำเขาให้เธอรู้จัก เธอกล่าวทักเขาเป็นภาษาอังกฤษ เขาทักตอบตามมารยาทเหมือนหุ่นยนต์ไร้จิตใจ จิมยิ้มให้เขาแต่มือโอบกอดมาเรียไว้
"เรา จองห้องพักที่โรงแรมไว้ แต่ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนายเยอะเลย ถ้าจะเปลี่ยนมาพักอยู่ด้วยที่นี่ จะเป็นการรบกวนมั้ย"

ทอมเจ็บร้าวในอกเหมือนหัวใจของเขาถูกอุ้งมือใหญ่ของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าบีบอย่างแรง ทั้งคำพูดและการกระทำแสดงความห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด คำว่า "เรา" แปลว่าเขาต้องเป็น "คนอื่น"

ทอมส่ายหน้าไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เข้าใจการกระทำของจิม แต่กลับทำให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าไม่เป็นการรบกวน

"โอเค.. งั้นนายพักผ่อนต่อเถอะ ฉันจะพามาเรียไปที่ห้อง จะแวะไปทักทายแม็กกี้ด้วย อ้อ!.. เย็นนี้ไปดินเนอร์กันนะทอม.. ฉันเป็นเจ้ามือเอง.."

ทอมนั่งตาปริบๆ มองจิมโอบกอดมาเรียพาออกจากห้องด้วยท่าทีอ่อนโยน
อา!…. อา!….  o7   ทอมสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อรู้สึกอึดอัดและแน่นในอก รีบเอามือสำรวจหัวใจตัวเองว่ายังเต้นอยู่หรือเปล่า ก่อนจะค่อยๆ ตะแคงตัวลงนอน 

….เจ็บ… เจ็บเหลือเกิน… หัวใจเขากำลังจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ แล้ว…. อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะไม่ทุกข์กับการจากไปของจิม อุตส่าห์ตั้งใจจะลืมให้ได้แล้วแท้ๆ.. จบสิ้นกันไปเลยก็ได้.. ขอเพียงแต่อย่าหวนกลับมาอีก เขาก็จะไม่เจ็บแบบนี้…
ทอมสะอื้นไห้ น้ำตาไหลพรากอย่างผู้พ่ายแพ้

…นายทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง จิมมี่.. กลับมาทำร้ายฉันทำไม ฮึก~ ฮือ ๆ  :o7:

 :o12:


 :try2:  แหะๆ  ขอกลับบ้านก่อนนะ  จะมาต่อให้ตอนค่ำๆ  พรุ่งนี้มาอ่านต่อ

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #268 เมื่อ05-02-2010 20:22:41 »

ม่ายจริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   :dont2:

เป็นความฝันช่ายม๊ายยยยยยยยย

ทอมตื่นได้แล้ว อย่าทำให้ใจหายอย่างนี้ดิ

ออฟไลน์ จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า

  • I LOVE MY SMILE
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-4
Re: [Novel] สายใยรัก-love you only by j-muay
«ตอบ #269 เมื่อ05-02-2010 20:38:44 »

 :angry2:โฮ่เจ๊หมวยอ่ะทำอย่างงี้กระโดดถีบหน้ากันง่ายกว่าไหม


มันค้างอ่ะ  :fire:กลับมาต่อด่วนเลยนะ

จิมมี่ถ้ากลับมาแบบนี้อย่ามาเลยจะดีกว่าไหม :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด