Lovely Kitty 5
“คุณนิว~”
พี่เลี้ยงร่างท้วมยังคงเรียก หาเจ้านายน้อยของหล่อนซะจนดังลั่นสวนสาธารณะ แต่เจ้าของชื่อที่กำลังมุดพุ่มไม้อยู่กลับจงใจคลานไปยังทิศตรงกันข้าม... เป็นกิจวัตรประจำวันเสียแล้วที่นิวมักจะเล่นซ่อนแอบกับป้าดาอย่างนี้เสมอ
เมื่อเห็นว่าทางสะดวก เด็กน้อยก็ค่อยๆลุกขึ้นจากพุ่มไม้เตี้ย ปัดเศษหญ้าแห้งที่เลอะหัวเข่าทิ้งสักพักหนึ่ง ก่อนจะตั้งท่าเตรียมออกวิ่ง
“หวา!!!” แต่ยังไม่ทันได้ออกตัว นิวก็ต้องร้องอุทานออกมาดังลั่น เมื่อท่อนแขนนุ่มนิ่งเต็มไปด้วยไขมันกอดหมับเข้าที่กลางตัวพอดิบพอดี
“จับตัวได้แล้ว!!”
“ป...ป้าดา~” เด็กชายร้องเสียงอ่อยเมื่อหันไปเห็นใบหน้าอย่างกับยักษ์ขมูขีของป้าดา
“จะไปหาคุณหมออีกแล้วใช่มั้ยคะ?” ถามพลางบรรจงปัดเศษหญ้าเศษใบไม้ที่เกาะตามผมตามเสื้อผ้าออกให้
นิวพยักหน้าหงึกหงัก
“ป้าดาบอกแล้วไงคะ ว่าคุณนิวไปเล่นที่คลีนิกทุกวันอย่างนั้นไม่ได้ มันรบกวนคุณหมอนะคะ”
แก้มใสพองลมอย่างไม่พอใจ “ก็นิวไม่ได้รบกวนอะไรซักหน่อย แค่ไปเล่นกับพี่ต้องเอง” …ที่จริงไปหาคุณหมอหรอก แต่เรื่องอะไรจะบอกให้ป้าดาหาข้ออ้างมาว่าเขาล่ะ
“เล่นกับพี่ต้องก็ไม่ได้ค่ะ พี่ต้องก็ต้องทำงานเหมือนกัน แล้วคุณนิวไปกินขนมทุกวันอย่างนี้มันไม่เหมาะนะคะ เกรงใจคุณหมอเค้า”
“แต่คุณหมอกับพี่ต้องก็ไม่เห็นว่าอะไรนิวเลยนี่นา” เด็กชายยังคงเถียงไม่เลิก
พี่เลี้ยงหญิงถอนหายใจ “ก็เพราะคุณหมอกับพี่ต้องเกรงใจน่ะสิคะ ถึงได้ไม่ว่าอะไร แล้วนี่คุณนิวจะไปทำไมกันทุกวันคะ? ปีใหม่ก็ไม่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? จริงๆเลยนะคณนิว ดูสิ เพื่อนๆชวนไปเที่ยวก็ไม่รู้จักไปกับเพื่อน ไหนตอนนั้นอยากไปเที่ยวจะเป็นจะตาย นั่งรองไห้ทั้งคืน ทีคราวนี้ละไม่ยอมไป…”
“ก็นิวไม่อยากไปกับเพื่อน แล้ว นิวอยากเล่นกับคุณหมอมากกว่า เวลาคุณหมอว่างจะได้พาไปเที่ยวอีก แล้วนิวก็จะได้ไปรอปีใหม่ด้วย ถ้าปีใหม่มาเยี่ยมแล้วไม่เจอนิว ปีใหม่ก็เหงาแย่สิ ” ถ้าไม่ขัดตอนนี้ ป้าดาคงบ่นยาวไปอีกสามตลบแปดตลบ เด็กน้อยจึงรีบแจงเหตุผลคอเป็นเอ็น
“ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ คุณนิวเอาแต่ไปเที่ยว ไม่ยอมซ้อมเปียโนเลย คราวที่แล้วคุณครูให้เล่นก็เล่นไม่คล่องไม่ใช่เหรอคะ จะสอบอยู่อีกไม่กี่เดือนแล้วนะ” ป้าดาก็ยังไม่ยอมแพ้
“นิวซ้อมตอนเย็นก็ได้ เพลงใหม่เล่นไม่เห็นยากเลย ซ้อมแป๊บเดียวก็คล่องแล้วน่า”
“คุณนิวก็พูดอย่างนี้ตลอด ตอนเย็นก็เอาแต่หิ้วตุ๊กตาแมวนั่งคุยกับคุณพ่อไม่ใช่เหรอ แล้วเมื่อไหร่จะได้ซ้อมล่ะคะ”
เมื่อเริ่มเถียงไม่ออก เด็กน้อยก็เปลี่ยนจากการหาเหตุผลเข้าอ้างเป็นการเอาเสียงเข้าสู้แทน “ป้าดาอ้ะ!!!”
“คุณนิว! อย่าขึ้นเสียงกับผู้ใหญ่อย่างนี้นะคะ ไม่น่ารักเลย”
“ทำไมนิวจะไม่น่ารัก คุณหมอยังชมว่านิวน่ารักเลย!!!”
ป้าดาส่ายหัวอย่างระอา “คุณนิว เอางี้ดีกว่าค่ะ กลับบ้านไปซ้อมเปียโนก่อนครึ่งชั่วโมง แล้วเดี๋ยวป้าดาจะทำน้ำแข็งไสถ้วยโตๆให้กินเลย ดีมั้ยคะ?”
นิวก้มหน้าเงียบ
“นะคะ แล้วบ่ายๆจะทำแพนเค้กราดช็อคโกแลตให้ด้วย” เพิ่มของโปรดอีกนิดเพื่อเร่งเวลาในการตัดสินใจ
แล้วเจ้าหล่อนก็ยิ้มออก เมื่อหัวทุยๆพยักหงึกหงักทั้งๆที่แก้มยังป่องเป็นปลาปักเป้าอยู่ ป้าดาปล่อยเด็กชายให้เป็นอิสระ ก่อนจะยื่นมืออวบอูมเชิงให้จับ
แต่แทนที่มือเล็กจะจับมือพี่เลี้ยง ยอมให้จูงกลับบ้านโดยดี กลับหันหลังวิ่งหนีปรู๊ดหนีไปต่อหน้าต่อตา
“คุณนิว!!!”
ร่างเล็กลับสายตา ป้าดาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...คุณนิวของเจ้าหล่อน บทจะดื้อก็ดื้อหยุดไม่อยู่จริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++
“ทานยาสามวันนะครับ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นค่อยมาดูกันนะ หมอนัดวันจันทร์หน้านะครับ” ณรงค์เขียนใบสั่งยาก่อนจะยื่นให้ผู้ช่วยหนุ่มเชิญคนไข้ไปรอรับยาด้านนอก ชายหนุ่มทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้พลางยืดเส้นยืดสายอย่างเมื่อยขบ มือใหญ่คว้าแก้วชาที่เคยร้อนแต่ตอนนี้กลับเย็นฉ่ำจากอุณหภูมิห้องขึ้น จิบอย่างสบายใจ
“คุณหมอ!!!”
เสียงใสร่าเริงดังจากด้าน หลัง ตามด้วยท่อนแขนนุ่มนิ่มกอดหมับที่คอโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้หมอหนุ่มเผลอพ่นน้ำชาพรวด มือไม้กระตุกจนน้ำในแก้วหกกระเซ็น
“น...นิว!!”
เมื่อหันไปดูก็พบว่า น้ำชาที่หกเมื่อกี้ ดันรดลงบนเสื้อสีขาวสะอาดของเด็กชายพอดิบพอดี ชายหนุ่มรีบคว้าผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดให้
“ตกใจหมดเลย…ดีนะที่น้ำไม่ร้อน” มือใหญ่สอดเข้าใต้เสื้อยืด รองส่วนที่เปียกเอาไว้และใช้ผ้าเช็ดหน้าบรรจงเช็ดจากด้านนอก
“ขอโทษฮะ” นิวขอโทษอย่างไม่รู้สึกผิดมากนัก เพราะตอนนี้ดีใจที่ได้เจอคุณหมอมากกว่า
“ดีจัง วันนี้คุณหมอว่างด้วย” สองสามวันที่ผ่านมา มักจะเจอพี่ต้องผู้ช่วยมากกว่า ชายหนุ่มมักจะบอกให้นั่งรอหลังบ้าน ยกขนมมาให้กิน ยังไม่ทันได้เจอคุณหมอ ป้าดาก็มาลากตัวกลับทุกครั้งไป
“ครับ วันนี้คนไข้น้อย” ที่จริงวันอื่นคนไข้ก็ไม่ได้เยอะมากมาย เขาแค่หาข้ออ้างไม่ยอมเจอเด็กชายมากกว่า เพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอคิดอะไรแปลกๆอีก...อย่างในตอนนี้...
กลิ่นหอมอ่อนๆจากคนตัวเล็ก ล่อให้เขาเผลอสูดดมเข้าเต็มปอด หลังมือที่สอดเข้าใต้เสื้อยืดรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นนุ่มนิ่มจนไม่อยากจะถอนมือ ออก
“คุณหมอฮะ...จั๊กจี้” จนเมื่อรู้ตัวว่ากำลังลูบไล้ผิวเปลือยใต้ร่มผ้าจนนิวผละตัวหนี ณรงค์ก็สะดุ้งสุดตัวรีบชักมือกลับราวกับถูกของร้อน
...ก็นี่ไงเล่า! เหตุผลที่ไม่อยากเจอน่ะ!!!...
“อ้าว!! น้องนิว มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ต้องทักขึ้นหลังจากจัดการจ่ายยาและคิดค่ารักษาให้คนไข้รายสุดท้ายเรียบร้อย
“พี่ต้อง หวัดดีฮะ!” นิวผละออกจากณรงค์ วิ่งปรี่เข้ากระโจนใส่ผู้ช่วย ซึ่งต้องก็รับตัวเด็กน้อยเข้ามากอดหมับเสียหนึ่งที หอมแก้มฟอดใหญ่ตบท้ายและลุกขึ้นจูงไปหลังบ้านเหมือนทุกวัน
“มีพุดดิ้งคัสตาร์ดแช่ไว้ให้น้องนิวด้วยนะ” …คุณหมอนี่ก็แปลก...ไม่ยอมเจอน้องนิว แต่ก็ยังอุตส่าห์ซื้อขนมมาเตรียมไว้ให้ทุกวัน…
“เย้!!”
ณรงค์มองภาพที่เพิ่งผ่านตาไป อย่างคิดหนัก...เขากอดนิว หอมแก้มนิว...มันก็เหมือนกับที่ต้องทำกับนิวไม่ใช่เหรอฟะ!!! ทำไมจะทำไม่ได้!!!???...
ชายหนุ่มส่ายหัวยิก
...มันอยู่ที่เจตนาต่างหากเล่า!!!...
“คุณหมอฮะ มาช้านิวแย่งกินหมดนะ!” ภาพใบหน้าใสโผล่แว็บออกมาจากริมประตูก่อนจะผลุบหายไปพร้อมเสียงวิ่งตึกตักทำ ให้ชายหนุ่มยิ่งเครียดกับสิ่งที่เขากำลังจะทำ
…เขาคงจะเสียใจน่าดู ถ้าจะไม่ได้เห็นเด็กน้อยน่ารักคนนี้มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัวอีกต่อไป...
++++++++++++++++++++++++++++++
“แล้วป้าดาก็จับนิวไว้แน่น ไม่ยอมให้ไปไหนเลย” เสียงแจ๋วโม้ไปมือก็ตักพุดดิ้งกินไป ณรงค์นั่งดื่มชาไปก็ฟังไป เสียงใสๆปลุกความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้ชะงัดดีจริงๆ…เขาคงจะคิดถึงไม่ น้อย ถ้าต่อไปจะไม่ได้ยินเสียงนี้อีก...
“นิวก็เลยแกล้งทำเป็นยอมก่อน พอป้าดาเผลอก็วิ่งหนีมา” มือเล็กตักพุดดิ้งยื่นเข้าใกล้ปากหมอหนุ่ม แต่ณรงค์ก็ส่ายหัวปฏิเสธไปก่อนจะยกชาขึ้นดื่ม ซึ่งเด็กน้อยก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ชักมือกลับมาป้อนขนมเข้าปากตัวเองต่อ
“ป้าดาบอกว่านิวมารบกวนคุณหมอกับพี่ต้อง ป้าดาบอกว่าคุณหมอไม่ว่าอะไรเพราะเกรงใจ จริงเหรอฮะ?”
“รบกวนอะไรกันครับ น้องนิวมาเล่น พี่ต้องก็สนุก” ผู้ช่วยหนุ่มที่ล้างมืออยู่ที่อ่างน้ำหันหลังกลับมาตอบ
“นิวก็สนุกนะฮะ พี่ต้องคุยสนุกดี นิวชอบทั้งพี่ต้องทั้งคุณหมอเลย!”
แต่สิ่งที่เด็กชายไม่คาดคิดคือคำตอบของคุณหมอที่แสนใจดี
“นิวก็ไม่ได้รบกวนหรอกนะ แต่หมอว่า...นิวอย่ามาที่นี่อีกดีมั้ยครับ”
ห้องหลังบ้านเงียบกริบไปพักใหญ่
“...นิว...รบกวนคุณหมออย่างที่ป้าดาบอกเหรอฮะ?” มือเล็กกำกางเกงขาสั้นเนื้อดีแน่นจนสั่นระริก
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่ที่คลีนิกมันมีแต่เชื้อโรค วันๆหนึ่งมีคนป่วยมาหาหมอตั้งหลายคน หมอไม่อยากให้นิวติดเชื้อโรคน่ะครับ” ณรงค์ตอบทั้งๆที่สายตายังจับจ้องแต่น้ำชาสีขุ่นในแก้ว
“แต่คุณหมอกับพี่ต้องอยู่ที่นี่ทั้งวันก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“หมอกับพี่ต้องโตแล้ว แต่นิวยังเด็กอยู่นะครับ เด็กๆน่ะไม่สบายง่ายนะ”
“...งั้นคุณหมอก็พานิวไปเที่ยวสิ จะได้ไม่ต้องอยู่ในคลีนิกไง” เด็กชายถามอย่างมีความหวัง
“...นิว...” หมอหนุ่มเงยหน้า มองสบเข้าไปในดวงตากลมโต “…หมอคงจะไม่พานิวไปเที่ยวอีกแล้วล่ะนะ...”
“...ทำไมล่ะฮะ?...”
ณรงค์หันหน้าหนี...ด้วยกลัวเหลือเกินว่าจะเผลอไผลไปโอบกอดร่างเล็กที่นั่งตัวสั่นเบะปากอยู่ตรงหน้า...เขาต้องใจแข็งสิ!
“…หมอไม่ว่าง...”
เด็กชายก้มหน้าต่ำ วางช้อนคันเล็กในมือลงเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“พี่ต้อง...ขอบคุณสำหรับขนมนะฮะ”
“แล้วก็คุณหมอ...” ณรงค์ได้ยินเสียงรองเท้ากระทบพื้นห่างออกไป ทีละก้าว...ทีละก้าว เขาเงยหน้าขึ้น แล้วก็เหมือนกับหัวใจถูกกระชากอย่างแรง เมื่อได้เห็นหยดน้ำใสกลิ้งลงจากหางตา ระไปตามพวงแก้มนิ่ม
“ขอโทษที่มารบกวนฮะ”
...เป็นเสียงสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งหนีหายไป...
+++++++++++++++++++++++++
ห้องหลังบ้านยังคงไร้เสียงคุยอยู่อย่างนั้น
...กึก…
ผู้ช่วยหนุ่มเก็บจานพุดดิ้ง ที่เด็กชายกินเหลือไว้ขึ้นเพื่อจะเก็บล้าง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ของหมอหนุ่มจับเอาไว้เสียก่อน ณรงค์พยักหน้าเบาๆที่หนึ่ง ซึ่งต้องก็เข้าใจ เขาปล่อยจาน นั่งลงตรงข้าม มองชายหนุ่มนั่งก้มหน้าตักขนมที่เหลืออยู่เข้าปากเงียบๆ
“อร่อยมั้ยครับ?” ต้องถามเสียงเบา
หมอหนุ่มเพียงแต่พยักหน้า เบาๆ ใบหน้ายิ่งก้มลงต่ำเพื่อซ่อนหยาดน้ำตาที่คลอเบ้า ซึมซับรสหวานส่งผ่านมาถึงลิ้น...หวานเสียจนอยากจินตนาการว่า ความหอมหวานนี้มันมาจากปากของผู้ที่กินมันก่อนหน้านี้ มากกว่าจะเป็นความหวานของขนม
...เขาคงจะวิปริตจริงๆ คิดเรื่องไม่บริสุทธิ์พรรค์นั้นกับเด็กอายุแค่สิบขวบ...
“คุณหมอชอบน้องนิวรึเปล่าครับ”
ณรงค์ชะงักกึก ก่อนจะค่อยๆพยักหน้า
“...ผมก็ชอบน้องนิวนะ”
ชายหนุ่มถอนหายใจ “…แต่ที่ฉันชอบ มันต่างจากที่นายชอบ”
“ผมก็พอจะรู้อยู่”
ณรงค์เงยหน้า ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ
ต้องยกน้ำชาขึ้นจิบอึกหนึ่ง ก่อนจะวางลงบนจานรองแก้วเบาๆ “แต่คำว่าชอบ ยังไงก็คือชอบ ผมก็เข้าใจนะว่าคุณหมอคิดยังไงถึงได้พูดแบบนั้นออกไป แต่ผมไม่ชอบที่คุณหมอทำน้องนิวเสียใจ”
“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง เล่า!!! นิวน่ะ อายุแค่สิบขวบเองนะ!! เค้าไม่ควรจะต้องมารับรู้เรื่องพรรค์นี้...เค้าควรจะอยู่กับเพื่อนวัยเดียว กัน อยู่กับเด็กๆที่คบกันอย่างบริสุทธิ์ใจ อยู่กับเพื่อนเด็กๆที่...ไม่มีอันตราย”
“แล้วคุณหมอคิดว่าน้องนิวไม่ ใช่คนหรือไงเล่า!!! น้องนิวเป็นเด็กก็จริง แต่เด็กก็มีความคิดเป็นของตัวเองนะครับ ไม่ใช่จะคอยแต่ให้ผู้ใหญ่คิดแทนซะทุกอย่าง! คุณหมอน่ะ คิดแทนน้องนิวไปเองโดยที่เจ้าตัวเค้ายังไม่ทันรู้เรื่องอะไรเลยนะ!!!” ต้องเริ่มขึ้นเสียงตาม ก่อนจะถอนหายใจ นั่งลงดื่มชาต่อ
“…น้องนิวน่ะ ชอบคุณหมอนะครับ...”
ณรงค์ขมวดคิ้วมุ่น “ชอบมันมีหลายแบบ…”
“คุณหมอคิดแทนน้องนิวอีกแล้ว” ต้องขัด
“...นายไม่ใช่ฉัน นายไม่เข้าใจหรอก...”
“…….” ป่วยการจะพูด เขาคงจะต้องปล่อยให้เจ้านายของเขาหาทางแก้ปัญหาต่อไปเอง...และก็ได้แต่หวัง ว่า เรื่องมันจะไม่จบลงทั้งๆที่ค้างคาอยู่อย่างนี้ เขาสงสาร...ทั้งคุณหมอ...ทั้งน้องนิวที่น่ารัก...
“ฮัลโล๊วววว!!!!” เสียงทักทายดังลั่นจากทางเข้าหลังบ้านทำให้สองหนุ่มที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียด สะดุ้งสุดตัว เมื่อหันกลับไปมองก็พบหมอหนุ่มร่างยักษ์หนวดเคราครึ้มอุ้มลูกแมวตัวน้อยเดิน เข้ามาอย่างถือวิสาสะ
“มาทำไมเนี่ย!!” ณรงค์อ้าปากค้าง รีบเก็บอารมณ์หม่นหมองเอาไว้ข้างใน
“เอาปีใหม่มาฝาก คืนนี้เข้าเวรรอบดึก ไม่กลับบ้าน ให้ลูกอยู่ตัวเดียวเป็นห่วงว่ะ…หวัดดีครับ คุณผู้ช่วย ขอโทษที่รบกวนนะครับ นี่ของฝาก” ว่าพลางยื่นถุงขนมให้ผู้ช่วยหนุ่ม
เป็นเวลาเดียวกับที่คนไข้ใหม่เข้ามาในคลีนิกพอดี “ต้อง...ฝากรับปีใหม่ด้วยนะ แล้วไปพักเที่ยงเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันดูคนไข้ต่อเอง”
…
…
“ซื้อมาเยอะแยะอีกแล้ว มีแค่ผมกับคุณหมอ กินไม่หมดหรอก วันหลังไม่ต้องซื้อมาหรอกนะครับ” ต้องบ่นหลังจากที่เปิดดูขนมห่อใหญ่...ไอ้หมอนี่มันอะไรกัน เมื่อวานซีนก็เอาปีใหม่มาฝากพร้อมกับขนมไปแล้วรอบหนึ่ง
“ดูแลเองไม่ได้อย่างนี้...แล้วจะเลี้ยงทำไมฟะ” ต้องบ่นอุบอิบ แต่ดันไม่ลอดหูมารของโต
“ก็หาคนมาช่วยเลี้ยงอยู่นี่แหละครับ” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆกับตัวเอง
เสียงงึมงำทำให้ผู้ช่วยหนุ่มหันขวับกลับมาถาม “ว่าอะไรนะครับ?”
หมอหนุ่มหนวดครึ้มยิ้มกรุ้ม กริ่มยามมองผู้ช่วยหนุ่มหยิบขนมใส่ตู้เย็นทีละกล่อง “ผมแค่บอกว่าขนมมันคงเยอะไปจริงๆ...งั้น ‘วันหลัง’ พาไปเลี้ยงข้าวตอบแทนแทนก็แล้วกัน...ว่าแต่...คุณต้องออกไปกินข้าวเที่ยงกัน มั้ยครับ?”
+++++++++++++++++++++++++++++++++
“ไม่เป็นอะไรแน่นะคะ คุณหมอ?”
“ครับ หายสนิทแล้วครับ ถ้ามีปัญหาอะไรค่อยมาหาก็ได้”
“งั้นป้าไปก่อนนะคะ”
ณรงค์ถอนหายใจอย่างเบื่อ หน่าย เวลาเจอคนไข้ช่างถามนี่ต้องใช้ความอดทนน่าดู เจ้าหล่อนถามวนไปวนมาอยู่แค่สองสามคำถามแต่กินเวลาร่วมยี่สิบนาที มองนาฬิกาแขวนที่ผนังก็พบว่าเลยเที่ยงมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว...มิน่าถึง รู้สึกแสบท้องจี๊ดๆ ชายหนุ่มถอดเสื้อกาวน์แขวนไว้บนพนักเก้าอี้ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสตางค์เตรียมออกไปหาข้าวเที่ยงใส่ท้อง
แขวนป้ายพักเที่ยงไว้หน้า ประตู ไขกุญแจล็อคคลีนิกเรียบร้อย ยังไม่ทันได้คิดว่าจะไปกินอะไรดี เสียงแหลมๆของป้าดาก็เรียกไว้ซะก่อน เจ้าหล่อนวิ่งตุ้บตั้บเหงื่อโชก ยังไม่ทันหายหอบดีก็รีบตั้งคำถามก่อน
“คุณหมอเห็นคุณนิวมั้ยคะ?”
ณรงค์ขมวดคิ้ว “นิวกลับไปตั้งนานแล้วนี่ครับ”
“คุณนิวยังไม่กลับบ้านเลยค่ะ!!”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
TBC
เด็กมานยั่วเลยหลวมตัวปายหน่อยยยยย