S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10  (อ่าน 31113 ครั้ง)

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 45 คำขอของสมปอง


การสอบมิดเทอมของนายสมปองนั้น

ผ่านไปด้วยดีครับ

หมายถึงเกรดเทอมนี้อะ D แน่นอน

ฮืออออออ..อ.อ....

ผมนั่งแซดอยู่บนเตียงคนเดียว ตอนนี้บ่าย 3 กว่าๆ ละ ขอบอกเลยว่าหลายวันมานี้ผมมีพรรคพวกใหม่ที่แทบจะมองตาก็รู้ใจแล้วครับ ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นไกล พี่แซนด์ไง ตั้งแต่วันที่ผมบังเอิญไปเจอเขาที่โรงพยาบาลแล้วเราได้พูดคุยทำความรู้จักกันลับหลังพี่สยาม มันก็เกิดความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างเราสองคนนะ เมื่อวานนี่ผมเอาปีโป้ไปเป็นของร่วมสาบานความเป็นพี่น้องกับพี่แซนด์เรียบร้อยแล้ว

ไงล่ะ

พี่สยามรู้นี่ช็อกตายแน่นอน

คือวางแผนสั่งสอนไอ้ผัวบ้าไว้แล้วด้วย แผนก็จะเริ่มวันนี้แหละครับ คือผมน่ะอยากดัดนิสัยและทดสอบอะไรบางอย่างกับพี่สยาม ผมคิดว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำนั้นมันอาจจะส่งผลดีในความสัมพันธ์ของผมกับพี่สยามในอนาคตด้วย ถ้ามันผ่านจุดนี้ไปได้นะ พี่แซนด์เองก็เป็นคนช่วยคิดแผนนี้ครึ่งนึง เจ้าตัวบอกมาว่าเวิร์คแน่นอน ซึ่ง.....

ผมเชื่อครับ

คือก็เป็นคนเชื่อคนง่ายอยู่แล้วอะนะ อีกอย่างคือถ้ามันไม่เป็นไปตามที่คิดก็เดี๋ยวด้นแผนหาทางแก้กันสดๆ ตอนนั้น ช่วงนี้พี่สยามก็ไปหาพี่แซนด์เหมือนเดิมนะ ผมก็ไปหาเหมือนกันแต่จะไปช่วงที่มันไม่อยู่อะ พี่แซนด์จะไลน์มาบอกผมตลอดว่าพี่สยามมันอยู่ด้วยไหม ผมจะไปได้ตอนไหนอะไรอย่างงี้ นี่คิดเหมือนกันนะว่าถ้ามันรู้ว่าผมแอบไปหาพี่แซนด์มันจะทำยังไง

จะโกรธรึเปล่า

แต่คิดไปคิดมามันไม่กล้าโกรธผมหรอกเพราะมันมีคดีติดตัวอยู่ หลายวันที่ผ่านมามันก็พยายามจะคุยกับผมนะ แต่เป็นผมเองที่เงียบใส่ซะมาก ทำเนียนอ่านหนังสือบ้างล่ะ หาโน่นนี่ทำบ้างล่ะ ผมว่าพี่สยามมันต้องรู้สึกอึดอัดใจบ้างแหละแต่ก็ไม่กล้าถามไม่กล้าพูด เชื่อไหมว่ามันเอาเรื่องที่ผมเงียบใส่ไปปรึกษาพี่แซนด์ด้วยนะว่าควรทำยังไง พอเป็นแบบนั้นพี่แซนด์ก็ปั่นให้น่ะสิ

ประสาทแดกแน่นอนอะบอกเลย

ใจนึงก็สงสารนะครับแต่ผมก็นึกถึงวันที่ตัวเองนอนร้องไห้อยู่ห้องคนเดียว มันก็คงแฟร์แล้วแหละ อีกอย่าง...ถ้ามันไม่เจอเรื่องแบบนี้กับตัวเองบ้าง มันก็ไม่รู้น่ะสิว่าผมต้องรู้สึกยังไง มันแย่มากนะช่วงเวลานั้นน่ะ ย้อนกลับไปคิดแล้วยังปวดใจอยู่เลย

มันต้องไม่เกิดขึ้นกับผมอีกสิ....เรื่องแบบนั้น

แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมหันไปมองตามเสียงเคาะประตูก็พบกับร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้อง สีหน้าดูอ่อนเพลีย นี่ถือว่าปกตินะเพราะหน้าแบบนี้ทุกวันตั้งแต่ที่มีปัญหากัน ผมรู้ว่าพี่สยามมันนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อคืนก่อนผมทำเป็นแกล้งหลับ รู้สึกได้ถึงแรงหอมที่ข้างแก้ม รับรู้ถึงอ้อมแขนอุ่นๆ ที่แอบขยับเข้ามากอดผมด้วย ได้ยินมันบ่นอะไรงึมงำๆ สักอย่างด้วยนะแต่ว่าฟังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่

แน่ล่ะ แม่งพึมพำอยู่กับซอกคอ

ใครมันจะไปได้ยิน

พี่สยามถอดเสื้อช็อปออกก่อนจะเหลือบมองผม "สอบเป็นยังไงบ้าง"

"....."

".....สมปอง"

"ก็ดี....." ผมบอกเสียงแผ่วก่อนจะทำเป็นเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เดี๋ยวขอบิ๊วท์อารมณ์แปปนึงนะ ผมต้องทำให้เนียนที่สุดเพื่อไม่ให้พี่สยามจับได้

"งั้นหรอ" เจ้าตัวรับเสียงอ่อน "ของกูก็...."

"พี่สยาม"

"หืม....."

"กูว่า....เราห่างกันสักพักดีกว่า"

".....ปอง"

ผมหันไปมองมันนิ่งๆ "กูไม่สามารถทนรับสภาพที่เป็นอยู่แบบนี้ได้อีกแล้ว พอแล้ว"

"เรื่องทั้งหมดกู...."

"ไม่ต้องอธิบายเพราะกูไม่อยากฟัง....มึงมีเวลาอธิบายตั้งเท่าไหร่ แต่กูไม่เคยได้รับรู้อะไรสักอย่าง มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูต้องอดทนมากแค่ไหน" ผมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาช้าๆ "กูรักมึงนะ....แต่กูทนไม่ไหวแล้วจริงๆ "

ผมยกมือปาดน้ำตาก่อนจะมองคนตรงหน้า สีหน้าของพี่สยามแสดงความเจ็บปวดออกมาชัดเจน ริมฝีปากบางก็เม้มเอาไว้เชิงว่าจะพูดออกมาไม่ได้ ผมว่าความรู้สึกข้างในมันคงย่ำแย่พอตัวเลยล่ะ แต่ก็นะ....

มันเป็นบทเรียนหนิ

"กู....รักมึงนะปอง"

ผมยกยิ้มให้ "กูรู้ แต่มึงต้องรู้ด้วยนะว่าแค่ความรักอย่างเดียวมันไม่มากพอที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนมันไปต่อได้หรอก มึงเป็นคนทำให้ความเชื่อใจที่กูมีให้มันเสียไปหมดแค่เพราะมึงโกหกกูแค่ครั้งเดียว"

"....ขอโทษ"

"มึงพูดคำๆ นี้บ่อยเกิินไปแล้วพี่สยาม พูดจนกูรู้สึกว่ามันกลายเป็นคำธรรมดาๆ " ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "กูว่ามึงเก็บคำพูดนี้ไว้ทำเป็นการกระทำเพื่อให้กูเห็นจะดีกว่า"

ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มือเรียวยื่นมาจับมือผมไว้ "เราต้องห่างกันจริงๆ หรอ....ไม่ห่างได้ไหม"

"หึ....มึงเป็นคนที่ห่างออกไปจากกูเองนะ ตั้งแต่ที่แฟนเก่ามึงกลับมา"

"ปะ....ปอง" น้ำเสียงสั่นๆ นั่นพาลให้ใจยวบยาบเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้โว้ย แผนต้องเป็นไปตามแผน จะมาใจอ่อนไม่ได้นะ

ใจแข็งเข้าไว้ปอง....ใจแข็งเข้าไว้

"ไว้เคลียร์คึวามรู้สึกของตัวเองได้เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน หรือถ้ามันยังเคลียร์ไม่ได้...." ผมดึงมือตัวเองออกมา "ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม"

"ไม่เอา"

"เคารพในการตัดสินใจของกูด้วย" ผมเอ่ยบอกอย่างจริงจัง "ตัวมึงเองก็น่าจะรู้ว่าเหตุผลมันเพราะอะไร"

"ครับ....เข้าใจแล้ว"

คนตรงหน้ายิ้มบางๆ ก่อนจะยกมือลูบหัวผมเบาๆ สัมผัสได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังสั่นอยู่ เอาน่ะพี่สยาม อดทนหน่อยเถอะวะกูยังต้องอดทนเลย อีกอย่างถ้ามึงรักกูจริงอย่างที่มึงบอก เดี๋ยวเราก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันป้ะวะ ขอเวลาจัดการอะไรสักหน่อยเถอะ

"....พี่สยาม"

"ช่วงห่างกันก็ดูแลตัวเองดีดีนะ"

ทำเสียงเศร้าแบบนี้มัน....ขี้โกงหนิ

"มึงก็เหมือนกัน" ดูแลตัวเองดีดีและก็....ตามง้อกูด้วย

.....จะกลับไปรออยู่ที่บ้าน



[บันทึกพิเศษ : สยาม]



ความรู้สึกแย่ๆ พวกนี้คือสิ่งที่น้องทนรับมาตลอดเลยสินะ

ตอนนี้ผมเข้าใจละ....เข้าใจแจ่มแจ้งเลย

ผมนั่งทำหน้าสลดอยู่ข้างเตียงคนไข้ ใจมันโหวงไปหมดเลยอะ ครั้งที่เลิกกับแซนด์ผมไม่ได้รู้แบบนี้เลยนะ คงเพราะตอนนั้นเราจบกันไปได้ด้วยดีมั้ง แต่นี่แบบ....ผมกับปองไม่ได้เลิกกัน น้องไม่ได้บอกเลิกผม เจ้าตัวบอกว่ารักผมแต่แค่ขอให้เราห่างกันสักพัก

นึกถึงเพลงของหวายเลยว่ะ

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพักมันคงจะดีซะกว่า ไม่ได้ถือสา ไม่ได้ถือสากับคำที่เธอนั้นบอก ก็ฉันไม่เคยจะรู้หรอก ก็ฉันไม่เคยจะรู้หรอก ที่เธอบอกอย่างนั้น ที่เธอบอกอย่างนี้ที่จริงมันแปลว่าไง

โว้ยยยยย จะร้องไห้

"ไหวไหมเนีี่ยะ"

ผมส่ายหน้าทันที "ไม่ไหว ปวดใจไปหมด"

"เห็นไหมล่ะ ถ้าไม่เลือกที่จะโกหกตั้งแต่แรกก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก" แซนด์บอกก่อนจะยื่นส้มที่ปอกเปลือกเสร็จแล้วมาให้ คือตอนนี้กินอะไรไม่ลงอะเอาจริงๆ

ตรอมใจไปหมด

"ไม่เอาอะ" ผมบอกปัดไป

"เอาน่ะสยาม" มือเรียวแตะไหล่ผมเบาๆ "แค่ห่างกันไม่ใช่หรอ ไม่ได้เลิกกันสักหน่อย"

"ถึงจะพูดอย่างนั้น....แต่ห่างมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเลิกเลยนะ"

"อย่าคิดแบบนั้นสิ แล้วนี่สยามไม่ตื๊อน้องหน่อยหรอ"

"ตอนแรกก็จะไม่ยอมหรอกแต่น้องบอกว่าให้เคารพในการตัดสินใจของน้อง....เราก็เลย" เฮ้อ....คิดแล้วเจ็บช้ำชะมัด แต่จะดึงดันต่อไปมันก็คงไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

"งี้นี่เอง ไม่เป็นไรนะสยาม....เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้น"

"ก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น"

ได้แต่หวังเลย

สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันทำให้ผมรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปมากๆ เลย สมปองต้องเสียใจมากแค่ไหน ต้องร้องไห้มากเท่าไหร่ ผมก็มองข้ามส่วนนั้นมา คิดตื้นไปมากเลยว่ะ ผมไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ไง จิ๊....ปวดหัวชะมัด

จะเอายังไงต่อดีวะเนี่ย

ผมจัดการเรื่องของแซนด์จะจบแล้วนะ ติดต่อพี่เยียร์ได้แล้วด้วยซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ได้บอกแซนด์ พี่เขาบอกว่าเขาจัดการเรื่องครอบครัวเสร็จแล้วแต่ก็ไม่รู้ว่าจะจบสวยไหมนะ แต่ตัวเขาเองกำลังมาหาแซนด์นี่แหละ ไม่รู้ว่าจะโผล่มาเมื่อไหร่ แต่ใจผมอะอยากจะให้เขารีบมาไวไว มันจะได้จบๆ สักที

ผมจะได้ไปสารภาพบาปกับสมปอง

จะสารภาพจนหมดเปลือกเลย

หลายสิ่งที่น้องพูดให้ผมฟังมันก็จริงตามที่เขาว่าแหละ ผมเลือกวิธีที่จะทำให้น้องสบายใจผิดวิธีเอง เนี่ยะ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนไง เป็นไงล่ะสยาม มันโคตรใช่เลยนะที่สมปองบอกว่าการโกหกแค่ครั้งเดียวมันสามารถทำลายความเชื่อใจที่มีให้กันไปได้จนหมด คือมันแย่ ผมยอมรับเลยแหละว่าตัวเองแย่มากที่เลือกจะทำแบบนั้น

บางที....เป็นแบบนี้ก็อาจจะสมควรแล้ว

ผมทำร้ายความรู้สึกของน้องก่อน ถ้าจะโดนทำคืน....มันก็ไม่แปลกอะไร

ทำใจซะสยาม

"เราเอาใจช่วยสยามละกันนะ" แซนด์บอกก่อนจะยิ้มหวาน ตอนนี้พวกรอยช้ำที่หน้าจางลงไปเยอะแล้ว เดี๋ยวรอดูผลเอ็กซ์เรย์แขน ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็น่าจะได้กลับบ้านแล้วล่ะ

"ขอบใจนะ เออแซนด์ ถ้าเราง้อสมปองไม่สำเร็จอะ แบบ....น้องไม่ยอมคืนดีด้วย"

"ก็เลิกไง หาใหม่"

ผมทำหน้ามุ่ยใส่คนที่อยู่บนเตียงทันที "ไม่ได้ไหมล่ะ นี่รักปองมากอะ ยังไงก็ต้องทำให้น้องมาอยู่จุดเดิมที่เคยอยู่ด้วยกันให้ได้"

"ดี....มีความมุ่งมั่นดี สมแล้วที่เป็นเพื่อนของเรา"

"เอาใจช่วยด้วยละกัน"

"เอาใจช่วยเสมอ"

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมหันไปมองตามเสียงเคาะประตู ก็พบกับใครคนนึงที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนยืนมองคนที่อยู่บนเตียงคนไข้นิ่งๆ แววตาแฝงด้วยความรู้สึกหลายอย่าง คนโดนมองเองก็ไมมองอีกฝ่ายด้วยวายตาที่ไม่ต่างกัน

มาจนได้นะพี่เยียร์

.....มาช้าเลย

"พะ....พี่เยียร์" แซนด์มองร่างสูงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง "พี่มาอยู่ตรงหน้าแซนด์แล้ว"

"ใช่ค่ะ พี่มาอยู่ตรงหน้าแซนด์แล้ว" ว่าแล้วพี่เขาก็เดินเข้าไปกอดคนรักของตัวเอง เห็นภาพแบบนี้แล้วผมนึกถึงวันที่ตัวเองเหนื่อยๆ แล้วไปอ้อนขอกอดสมปองได้เลย

แต่โมเม้นท์นั้นคงไม่มีไปสักพักนะ

เศร้าอีกละ

"พี่มาได้ยังไง แล้วครอบครัวพี่ล่ะ ไหนจะคู่หมั้น" แซนด์คลายกอดพลางรัวคำถามใส่พี่เยียร์เป็นชุด

มือเรียวของพี่เขาลูบหัวคนถามเบาๆ "พี่เหลือแค่แซนด์แล้วนะ"

"พี่เยียร์...."

"เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ อีกสักพักเดี๋ยวมา" ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากห้อง ปล่อยให้ผัวเมียเขาคุยกันไปครับ ดูทรงแล้วเรื่องน่าจะยาว

จะว่าไปนี่ พี่เยียร์เขาก็ตายยากเหมือนกันนะ นึกถึงหน่อยก็โผล่มาละ นี่เป็นสัญญาณดีที่บอกว่าเรื่องของแซนด์ได้จบลงแล้วครับ พี่เขามาง้อขนาดนี้ก็ควรจบแหละ เดี๋ยวถ้าแซนด์มันดื้อไม่ยอมคืนดีกับเขานะ ผมจะทุบหัวมันเองกับมือเลย

เอาให้เดี้ยงเลยคอยดู

พอเห็นว่าพี่เยียร์มาตามง้อแซนด์แบบนี้ผมก็อยากไปสมปองบ้างอะ ห่างกันสักพักของน้องนี่ประมาณ 5 ชั่วโมงถือว่าห่างไหม ใจนึงผมก็อยากจะเคารพการตัดสินใจของน้อง แต่อีกใจนึงก็ไม่อยากห่างอะ แถมเรื่องทุกอย่างมันก็น่าจะจัดการเรียบร้อยวันนี้แล้วด้วย ใช่สิ น้องเป็นคนบอกเองว่าเคลียร์ให้จบทุกอย่างก่อนค่อยว่ากัน

นี่ไงเคลียร์แล้ว....แซนด์กลับสู่อ้อมอกพี่เยียร์แล้ว

เพราะงั้นสมปองก็ต้องกลัสู่อ้อมอกผม

โอเคงั้นจะคิดว่า 5 ชั่วโมงคือห่างแล้ว เพราะงั้น....

กลับหอไปง้อเมียดีกว่า





K2


ผมเดินขึ้นหอมาอย่างใจเย็น ในหัวก็คิดว่าควรจะใช้คำพูดยังไงดี จะเล่าเรื่องไหนให้ฟังก่อน แต่ก่อนจะเล่านี่ผมควรจะภาวนาให้เจ้าตัวยอมฟังในสิ่งที่จะเล่าเถอะ ถ้าขืนบอกว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังแล้วน้องบอกกลับมาว่า ไม่อยากรู้ นี่ก็จะจบเลย

คิดแล้วโคตรแซด

ผมเดินมาหยุดที่หน้าห้องสมปองก่อนจะเอากุญแจไขเข้าไป คือในห้องมืดมาก ความมืดนี้บ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ด้านในแน่นอน

หายไปไหนของเขา

"กระดาษอะไรวะ"

ผมเดินมาหยิบกระดาษที่ถูกวางทับไว้ที่ปลายเตียงดู ข้อความสั้นๆ นี่เป็นลายมือของสมปองครับผมจำได้ เนื้อความบนกระดาษเขียนไวเแค่ว่า....



'กลับบ้าน....'



บ้านนี่....บ้านที่เชียงใหม่งั้นเหรอ

แล้วจะกลับมาวันไหนวะเนี่ย

ผมทิ้งตัวลงนอนแผ่กลางเตียงก่อนจะคิดอะไรบางอย่างในหัว ผมอยากคุยกับสมปองวันนี้เลยอะ แต่น้องดันไปเชียงใหม่ ดูจากสภาวะอารมณ์ของน้องแล้ว ต่อให้ผมโทรไปเขาก็คงไม่รับสาย ครั้นจะรอจนวันที่เขากลับมาเองมันก็ไม่ทันใจอีก

อา....ผมรู้แล้วว่าตัวเองควรทำยังไง

ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าก่อนจะโทรไปหาไอ้ขุน ".....ฮัลโหลขุน คือวันพรุ่งนี้ที่นัดประชุมกันน่ะ กูคงไม่เข้าประชุมนะยังไงก็สรุปไว้ให้หน่อยว่าต้องทำอะไรบ้าง คือกู....จะไปเชียงใหม่ เออน่า ฝากด้วยละกัน แค่นี้แหละ" ผมกดวางสายก่อนจะดึงหมอนของสมปองเข้ามากอดไว้แน่น

รอพี่ก่อนนะปอง

เดี๋ยวจะหายันที่บ้านเลย



[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]











TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ขอโทษที่มาซะดึกเลย ตอนนี้ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ เดี๋ยวชาลจะไล่แก้ให้

วันนี้ไม่ขอพูดอะไรเยอะนะคะ เจ็บคอจริงๆ ชาลควรพัก

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis น้า

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ยยยย เนียนมากๆ ทั้งสมปองทั้งแซนด์เลย จริงอย่างที่นังลูกบอกอ่ะ การโกหกแค่หนึ่งครั้งมันก็ทำลายความเชื่อใจคนเราได้เลยนะ ถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็เหมือนมีความระแวงอยู่อ่ะ

พี่สยามรีบไปง้อลูกให้ไว ไม่งั้นจะไม่ยกให้จริงๆ ด้วย แต่โปรดระวังพ่อตาไว้สักนิด ไปเหยียบถึงถิ่นเขา พ่อเขาเอาลูกซองมาไล่ยิง พี่สยามจะตายก่อนที่จะได้ง้อนังลูกนะ (ฮ่าาา)

เป็นกำลังใจให้ทั้งลูกปองกับพี่สยาม อ้อ! พี่แซนด์กับพี่เยียร์ด้วยนะ  :L2:  :กอด1:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เอ้าเมื่อไหรจะถึงตอนหน้านิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตามไปเร็ว ๆ ล่ะ ขึ้นเครื่องไปเลยไป  :hao3:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
มีกำลังใจให้กันเสมอ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มีความน่ารัก มุ้งมิ้งกระดิ่งแมว

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
รีบไปปรับความเข้าใจกับน้องด่วนไอ่พี่หยัม
ที่ทำๆไปอ่ะ แต่ละอย่างไม่ได้เรื่องเลย
ไอ่คนห่วย

น้องปอง..นอนรอสวยๆให้ไอ่พี่มันมาง้อนะ
ใจเย็นๆ ให้มาสยบเราที่ปลายเตียง ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 46 แฟนของสมปอง


การนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มนุ่มๆ นั้นคือดี

ต่อให้ใครจะบุกขึ้นมาด่าบนห้องเราก็ไม่ต้องไปสนใจ

"ลุกได้แล้วไอ้เด็กเวรนี่ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!!!"

ว้ากเก่ง....เก่งกว่าอะไรทั้งหมด

ผมโผล่หน้าออกมาทำหน้าบึ้งใส่ณนนท์ "สมัยเรียนเป็นพี่ว้ากหรอวะ แหกปากเก่งจริงจัง"

"สมัยเรียนเป็นนักเลงด้วยกูอะ กระทืบเก่ง" มือหนาแย่งผ้าห่มไปจากผม "ไม่เชื่อนี่ลองแดกตีนกูได้"

"ตีนไม่ใช่ของกิน แดกทำไมบ้าบอ" ผมเบ้ปากใส่มันก่อนจะดึงผ้าห่มคืนมา ทำไมวันพักผ่อนของสมปองจะต้องมาโดนมารร้ายอย่างณนนท์ทำลายด้วยวะ

หึ้ย.ย.ย...ฉุนเฉียวจริง

"มึงนี่นะ....ลุกเดี๋ยวนี้เลยปอง"

"ฮาจะนอน ฮาจะซุกอยู่ตี้นี่ จะบ่ขยับ ไคมาก็จะบ่ขยับ เข้าใจก่อ"

"คิงจะนอนทั้งวันจะอี้บ่ได้ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้"

เชี่ยยยย นานๆ จะได้ยินมันสวนกำเมืองกลับ

"บ่ลุก"

"บ่ลุกแม่นก่อ....ได๋" ว่าแล้วณนนท์ก็หยิบหมอนข้างมากระหน่ำฟาดผมอย่างเอาเป็นตาย โว้ยยยย ความเถื่อนนี้คิงได้แต่ใดมา

ผมเอาผ้าห่มคลุมโปงซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลงแต่อย่างใด ณนนท์แม่งโคตรป่าเถื่อนอะ ผมต้องเอาเรื่องนี้ไปฟ้องแม่ แม่จะได้ไม่ต้องให้มันกินข้าว จนถึงตอนนั้นผมจะแลบลิ้นใส่มันแล้วทำเสียงแบร่บๆ ๆ ๆ ๆ ด้วย เพื่อความสะใจ ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ

คิดอะไรโคตรจริงจัง

กับเรื่องเรียนนี่จริงจังขนาดนี้ไหมปอง

"พอแล้วววว" ผมแหกปากลั่นก่อนจะกลิ้งลงมาซุ่มอยู่ด้านข้างเตียง "กูยอมลุกแล้วเพราะงั้นห้ามตี"

"เออ ลุกแล้วก็ดี ไปอาบน้ำซะ แล้วตามกูไปที่คอกม้า"

"จะเอากูไปใช้งานงี้"

"ก็รู้ตัวหนิ กูให้เวลา 1 ชั่วโมง รีบจัดการตัวเองซะ"

ผมเบ้ปากใส่มัน "สั่งเก่ง เก่งกว่าอะไรทั้งหมด"

"หนิ เดี๋ยวจะโดนนะมึงน่ะ"

"ไม่กลัวหรอก" ว่าแล้วผมก็ทำหน้าเหลอหลาใส่มัน ทันใดนั้นหมอนข้างก็ลอยมาเข้าหน้าผมทันที "โอ๊ยยยย มึงนี่มัน...."

"กวนส้นตีนดีนัก รีบๆ จัดการตัวเองซะ" ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินออกไปจากห้อง หึ....เดี๋ยวถ้าไปถึงคอกม้านะ กูจะเสี้ยมสีเงินให้เตะมึง

ตัวหักแน่ณนนท์

หลังจากที่คาดโทษนังลูกพี่ลูกน้องแสนโฉดไว้ในใจ ผมก็ลากสังขารตัวเองเดินเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะจัดการชำระร่างกาย ผมกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อวานครับ เรียกได้ว่าหนีกลับมาเลยก็ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่สยามมันจะเป็นยังไงบ้าง จะมาตามง้อผมไหม คือถ้าไม่มาง้อนี่จะโกรธซ้ำซ้อนและโกรธซ้ำซากมาก เซ้นท์คนเราอะ ถ้าทิ้งกระดาษไว้ให้แล้วบอกว่ากลับบ้านคือมันต้องตามมาถูกไหม

รึไม่ถูก

ช่างแม่งละกัน จะตามไม่ตามก็ต้องดูต่อไป ผมว่าวันนี้อาจจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นก็ได้นะ เพราะว่าตั้งแต่เมื่อวานที่ผมกลับมาที่นี่ ผมก็เอาไดอารี่ที่เขียนมาตลอดหลายเดือนไปให้พ่อเรียบร้อยแล้วครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะอ่านรึยัง ตื่นเต้นอยู่เหมือนกันนะ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงมันก็น่าลุ้นอยู่ แต่ผมเตรียมใจกับเรื่องนี้ไว้แล้วแหละ

อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด

เมื่อคืนพี่แซนด์โทรมาหาผมแล้วบอกว่าเขากับแฟนคืนดีกันเรียบร้อยแล้วนะครับ ถึงแม้ว่าฝั่งบ้านของฝ่ายแฟนเขาจะจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ผมก็ให้กำลังใจเขาไป พี่แซนด์เองก็ให้กำลังใจผมมาเหมือนกัน รู้สึกดีนะ มันเป็นเหมือนกำลังใจของคนที่เข้าใจกันสองคนอะ ผมดีใจกับพี่แซนด์ที่เรื่องของเขาเคลียร์กันโอเคและมีความสุข

ทีนี้ก็เหลือผมกับพี่สยามนี่แหละ

ความจริง....ที่ต้องการให้พี่สยามมันมาง้อโดยการให้มาที่บ้านนั่นก็เพราะอยากจะให้ครอบครัวได้รับรู้เรื่องของเราสองคน ผมไม่อยากแอบคบกันเป็นความลับโดยที่พ่อกับแม่ไม่รู้ ผมไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะรับได้ไหมที่ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่อย่าลืมไปครับว่านี่คือสมปอง อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผมจะทำให้มันเป็นไปได้ทุกอย่าง

เด็กเอาแต่ใจก็ต้องประมาณนี้แหละ

อยากรู้นะว่าถ้าพี่สยามมันมาเจอพ่อผมมันจะทำยังไง สมมุติว่าพ่อให้ผมกับมันเลิกขาดกันมันจะยอมไหม อยากรู้จริงๆ ว่ามันจะเลือกที่จะเดินไปต่อหรือว่ามันจะตัดใจ ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงเรื่องนั้นก็คงต้องรอดูกันต่อไป

อา....เหมือนใจรักในการลงท้ายด้วยสระไอนะครับปอง

"อะไรของกูว้า...." ผมพึมพำออกมาก่อนจะเดินโทงๆ ออกมาจากห้องน้ำ เห็นนาฬิกาที่ตอนนี้แสดงเวลาว่าบ่าย 2 ละ ผมก็นอนนานมากแบบที่ณนนท์มันว่าจริงๆ นั่นแหละ

ก็นะ....มันเป็นมายฮอลลิเดย์นี่หว่า

คนเรามันก็อยากพักผ่อนบ้าง

ผมใช้เวลาแต่งตัวสักพักก่อนจะเดินออกมาจากห้องของตัวเอง ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องข้างๆ ด้วย ห้องข้างผมนี่เป็นห้องของพะนายครับ ด้วยความที่สมปองเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็น ผมก็เลยแง้มประตู เนี่ยะ พะนายคนไม่ล็อกประตูห้อง เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สามร้อยล้านปีก่อนแล้วล่ะเอาจริงๆ ถ้าขโมยขึ้นบ้านแล้วจะเข้าไปปล้นห้องใคร ห้องพะนายนี่แหละจะเข้าง่ายที่สุด

แล้วผมจะชี้นำทางโจรทำไม

บ้าบอ

ผมเพ่งสายตาดูที่มาของเสียง ภาพที่ผมที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันทำให้ผมตาค้างทันที ร่างสูงของลูกพี่ลูกน้องผมทั้งสองคนกำลังยืนจูบกันอย่างถึงพริกถึงขิง

เชี่ยยยย

เชี่ยๆ ๆ ๆ ๆ

ผมรีบย่องหนีมาอยู่ตรงบันไดทันที มือก็ยกขึ้นมากุมอกตัวเองไว้ หัวใจนี่เต้นรัวตึกตักๆ เลยว่ะ ทำไมพะนายกับณนนท์ถึงไปจูบกันแบบนั้นวะ ดูสกิลการจูบแล้วก็ไม่ใช่เล่นๆ แน่นอนอะ นี่แอบมีซัมติงกันเหรอ ว่าแต่ซัมติงนี่เกิดขึ้นระหว่างลูกพี่ลูกน้องได้ด้วยเหรอ หืม....คิดแล้วมึนหัวเลยนะเนี่ย

เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ

สองคนนั้นจะต้องมีอะไรมากกว่าที่ผมคิดแน่เลย ไปถามตรงๆ หรือว่าเนียนถาม หรือว่าจะปล่อยไปดีวะ แต่มันคาใจอะ คนอื่นไม่น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยมั้ง จิ๊....เอาเป็นว่าช่างแม่งไปก่อนละกัน เรื่องของผมก็ไม่ใช่เพราะงั้นอย่าไปอยากรู้มากเลย

โดนด่าว่าเสือกนี่จะแย่มากๆ

ผมลงมาข้างล่างก็พบกับเจ้าของบ้านที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ พ่อผมเองครับไม่ใช่ใคร ทำไมทำหน้าเหี้ยมอย่างนั้นล่ะพ่อ มานีกับมาลีมันไปป่วนในไร่ใช่ไหมล่ะ หน้าถึงไม่สบอารมณ์ขนาดนั้นน่ะ

"ไม่ไปทำงานหรอครับ"

"พ่อมีเรื่องต้องคุยด้วยน่ะ นั่งลงสิ" พ่อบอกเสียงเรียบ รู้สึกขนลุกยังไงแปลกๆ แน่ะ อย่าบอกนะว่าสิ่งที่ผมคิดมันกำลังจะเป็นจริง

ผมนั่งลงตรงข้ามกับพ่อ ทำไมบรรยากาศรอบตัวมันเป็นแบบนี้วะ รู้สึกได้ถึงความกดดันบางอย่าง สายตาที่พ่อมองมา....ผมไม่เห็นมานานแล้วนะ ครั้งล่าสุดที่เห็นสายตาแบบนี้คือตอนที่ทำขวดไวน์ที่พ่อจะเอาไปประกวดแตกนั่นแหละ

ใจคอไม่ค่อยดีเลยว่ะ

"มีอะไรจะคุยกับลูกหรอครับ"

คนตรงหน้าหยิบไดอารี่สีขาวมาวางไว้ด้านหน้าผม "พ่ออ่านไดอารี่ที่ลูกเขียนหมดแล้วนะ"

"ครับ....แล้วพ่อคิดยังไง"

"พ่อคิดว่า จะให้ลูกลาออกแล้วกลับมาเรียนที่นี่ซะ"

ผมส่ายหน้ารัวๆ ทันที "ขอปฏิเสธครับ"

"หนิ"

"ยังไม่ครบ 1 ปีเลยนะครับ อีกอย่าง....ที่ลูกเอาไดอารี่มาให้พ่ออ่านนี่ก็เพราะว่าอยากให้พ่อได้รู้ว่าชีวิตลูกเมื่อเทอมที่ผ่านๆ มามันบันเทิงมากแค่ไหน"

"รวมถึงเรื่องที่มีแฟนด้วยงั้นหรอ"

"ใช่ครับ"

"มีแฟนเป็นผู้ชายน่ะนะ"

"ครับ"

"ทะเลาะกันอยู่ด้วยตอนนี้"

"ครับ"

"ที่กลับมาบ้านโดยไม่ได้บอกพ่อก่อน มันก็เป็นเพราะแบบนี้สินะ"

"ใช่ครับ" ผมยิ้มแฉ่งให้พ่ออย่างจริงใจ "แต่พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวมันก็มาง้อลูก"

คิดว่างั้นนะ

ผมกำลังใจดีสู้เสือแบบหน้าตายอยู่ครับ ตอนนี้หน้าพ่อนี่บึ้งกว่าเดิมมาก บ่งบอกว่าไม่พอใจสุดๆ นั่นแหละ แบบนี้แปลว่าพ่อไม่โอเคที่ผมมีแฟนเป็นผู้ชายสินะ ชิบหายละพี่สยาม นี่ถ้ามันมา มันจะโดนพ่อผมเอาปืนไล่ยิงไหมวะ แต่ไม่เป็นไร ถ้ามันโดนพ่อผมยิงตาย ผมจะจัดงานศพให้มันอย่างสมเกียรติ จะเป็นเจ้าภาพให้ด้วย เดี๋ยวจะร้องไห้หน้าโลงศพไปสามวันสามคืนเลย

แล้วทำไมผมถึงแช่งผัวตัวเองวะ

ถ้ามันรู้....ผมโดนเตะแน่เลยว่ะ

"ปอง"

ผมเงยหน้าสบตาพ่อ "ครับ"

"ถ้าแฟนลูกไม่มาง้อลูกจะทำยังไง"

"ก็ไม่ทำยังไงครับเพราะว่า....มันต้องมาง้อลูกแน่นอน"

"ทำไมถึงได้มั่นใจถึงขนาดนั้น เท่าที่อ่าน เรื่องที่ทะเลาะกันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ไว้ใจได้ขนาดนั้นเลยหรอผู้ชายคนนี้น่ะ"

"ก็....ครึ่งๆ นะครับสำหรับความมั่นใจ แต่สิ่งนึงที่ลูกรู้สึกได้และรับรู้ก็คือแฟนลูกมันรักลูกมาก ถึงมันจะทำผิดไปบ้างแต่ยังไงมันก็คงรักลูก ยืนยันครับว่าเดี๋ยวมันก็มาง้อ"

"แล้วถ้าพ่อไม่ยอมให้มันมาเหยียบในไร่ของพ่อล่ะ"

"พ่อต้องยอมครับ"

"ทำไมพ่อต้องยอม"

ผมยิ้มหวานให้ "เพราะว่าแม่น่ะ ตามใจลูกครับ ถ้าลูกไปบอกแม่ว่าพ่อไม่ยอมให้แฟนลูกมาง้อ แม่ก็จะมาสั่งพ่อว่าให้ปล่อยลูกทำตามใจไป เรื่องของความรักมันบังคับกันไม่ได้ แล้วถ้าพ่อไม่ยอม แม่ก็จะงอนพ่อ พ่อก็ต้องตามง้อแม่ พ่อจะเอาแบบนั้นไหมครับ"

"พูดจาเอาแต่ใจ"

"ก็ลูกพ่อนี่ครับ" ว่าแล้วผมก็ยิ้มยิงฟันขาว พ่อก็ผ่อนลมหายใจออกมาหนักๆ อารมณ์แบบเบื่อที่จะเถียงกับผมต่อแล้วแน่นอน

งานนี้สมปองวินไป 50% แล้วนะ

ส่วนอีก 50% ต้องให้พี่สยามมาจัดการ

ผมก็คิดอยู่นะว่าพี่สยามมันจะมาบ้านผมถูกไหม คือมันรู้แหละว่าผมอยู่เชียงใหม่ แต่มันไม่รู้ไงว่าผมอยู่ตรงไหน อีกอย่างผมไม่เคยแชร์โลเคชั่นใดใดให้ใครได้รู้เลยนะ นี่ก็คิดอยู่นะว่าถ้ามันตามหาผมเจอนี่แม่งเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ แต่ถ้ามันหาผมไม่เจอ....ก็ช่างแม่งครับ

 ปล่อยให้วนอยู่ในเชียงใหม่นั่นแหละ

ครืดดดด....ดดด

ผมมองโทรศัพท์ของพ่อที่สั่นอยู่บนโต๊ะ "สายเข้าครับพ่อ" พอผมบอกแบบนั้น พ่อก็หยิบโทรศัพท์ก่อนจะกดรับสาย

"ว่าไง....หืมมมม งั้นหรอ ก็ให้เข้ามาสิ....ณนนท์อยู่ที่นี่....อืม....แค่นี้" ว่าแล้วเขาก็กดวางสาย เท่าที่ฟังนี่น่าจะเป็นเพื่อนของณนนท์ล่ะมั้ง

"เพื่อนณนนท์หรอครับ"

"อืม....เรื่องของลูกน่ะ เตรียมตัวไว้นะ จบปี 1 เมื่อไหร่เตรียมย้าย" พ่อบอกพลางจ้องผม

"บ่ครับ บ่ย้าย จะเรียนตี้โน่น โอเคก่อ"

"ไม่ อย่ามาขัดใจพ่อ"

"เอาหน่า" ผมทำแก้มป่องใส่ "ลูกขัดใจพ่อมาตั้งหลายเรื่องแล้ว เพราะงั้นให้ลูกขัดใจพ่ออีกสักเรื่องเถอะครับ"

"สมปอง"

"สมปองเองครับผม" ผมยิ้มรับชื่อตัวเองตาหยี นาทีนี้ต้องเอาความคิ้วท์เข้าสู้ครับ ห้ามอ่อนยวบยาบใส่เด็ดขาด ไม่งั้นพ่อก็จะยิ่งเหี้ยมใส่แล้วผมก็จะขัดเขาไม่ได้

"กวนตีน"

"แหะๆ พ่อครับ ลูกขอถามอะไรหน่อยได้ไหม"

"ว่ามา"

"พ่อเสียใจไหมครับ ที่ลูกมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่คือลูกไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับผู้ชายทุกคนนะ ก็เป็นแค่กับมันเฉยๆ ลูกเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน พ่อกับแม่คงอยากอุ้มหลาน ลูกรู้สึกเสียใจแต่เรื่องความรักมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ อย่างที่พ่อเห็นในไดอารี่นั่น มันก็มีทั้งช่วงเวลาที่มีความสุขถึงแม้ว่าตอนนี้จะทะเลาะกันอยู่ก็เถอะ ถ้าลูกทำให้พ่อผิดหวังในเรื่องนี้ ลูกขอโทษนะครับ"

คนตรงหน้าลุกเดินมาอยู่ข้างๆ ก่อนจะเลื่อนมือมาลูบหัวผมเบาๆ "ตราบใดที่ลูกของพ่อไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น พ่อไม่มีทางผิดหวังในตัวลูกหรอก ลูกเข้าใจถูกแล้วเรื่องที่ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ แต่พ่อก็อยากให้ลูกได้รู้ไว้ว่าพ่อมีเหตุผลของพ่อ ลูกเองคงอยากขอเวลาแก้ไขอะไรหลายๆ อย่าง พ่อเองก็ต้องการเวลาที่จะเข้าใจทุกอย่างเหมือนกัน"

"ขอบคุณนะครับพ่อ" ผมเลื่อนมือไปกอดเอวพ่อไว้ ตอนนี้ในใจโล่งขึ้นเยอะเลยอะ อย่างน้อยสิ่งที่พ่อบอกมันก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะยอมรับในเรื่องนี้ไม่ได้

มันก็แค่ต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง

ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับพี่สยามแล้วล่ะว่ามันจะทำให้พ่อยอมรับในตัวมันได้ไหม ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงทะเลาะกัน พ่อเห็นสิ่งที่ผมเขียน เขาก็คงฉุนอยู่ไม่น้อยที่มันทำให้ผมเสียใจน่ะนะ แต่ว่าเราก็ไม่รู้อนาคตว่ะ อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้เกิด สิ่งที่ผมทำได้ก็คือเนียนไปตามแผนที่ตัวเองตั้งใจไว้

ขอให้มันผ่านไปได้ด้วยดีเถอะ

"พ่อใหญ่ครับ" ผมหันไปตามเสียงก็พบกับลุงมิ่งที่เดินเข้ามาในบ้าน

"ไหนล่ะ....แขกของเจ้าณนนท์น่ะ" พ่อเอ่ยถาม

"นี่ครับ" สิ้นเสียงของลุงมิ่ง ร่างสูงของใครบางคนที่คุ้นตาก็เดินเข้ามาในบ้าน มือเรียวยกมือไหว้พ่อ ดวงตาคมเหลือบมองผมพลางคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

พี่สยาม

มาถูกด้วยเหรอวะ

"ณนนท์บอกทางสินะ" ผมพึมพำเบาๆ ร้ายกาจจริงๆ เดี๋ยวผมจะไปจัดการณนนท์

"สวัสดีครับ ผมชื่อสยาม" เจ้าตัวยิ้มให้พ่อผม "เป็นแฟนสมปองครับ"

พูดอะไรของมึงเนี่ยะพี่สยามมมมมมมมมมม

ผมเดินไปตีอกมันแรงๆ สองที "มึงอยากตายงั้นหรอ"

"เปล่า แต่กูเป็นแฟนมึงจริงๆ หนิ ถึงเราจะห่างกันแต่เราไม่ได้เลิกกันสักหน่อย อีกอย่าง....เราห่างกันเกินพอแล้ว" มือเรียวคว้ามือผมไปกุมไว้ "ตอนนี้กูพร้อมจะเล่าทุกอย่างให้มึงฟังแล้วนะ"

"มันไม่ใช่เวลาไหม มึงดูหน้าพ่อกูโน่น" หน้าเหี้ยมแบบมึงตายแน่นอนอะวันนี้

"นี่น่ะเหรอ แฟนของลูก" พ่อยิ้มเหี้ยมก่อนจะหันไปมองลุงมิ่ง "ไอ้มิ่ง...."

"ครับพ่อใหญ่"

"ไปเอาปืนมา"

ชิบบบบ

หายยยย

แล้ววววววววววว

"ไปก่อน!!!! หนีพี่สยามหนี" ผมรีบลากมันออกมาจากบ้านทันที ช้ากว่านี้พ่อต้องยิงมันแน่ๆ แม่งโว้ย ตอนแรกนึกว่าพ่อจะไม่อะไรแล้วนะ ไม่คิดว่าจะให้ลุงมิ่งไปหยิบปืนมาเลย

โซแบดเว่อร์

"เราจะหนีไปไหน" คนที่โดนลากเอ่ยถาม "....ปอง"

"เออน่า เรื่องอื่นค่อยว่ากัน" ถ้ามึงตายก่อน มึงก็จะไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้กูฟังนะพี่สยาม เพราะงั้นอย่าถามมากแล้ววิ่งตามมาก็พอ หึ้ยย.ย.ย.ย....ณนนท์มึงงงง ไม่บอกอะไรกูสักคำ ถ้าผัวกูถูกยิงตายนะ กูจะยิงมึงตายตามไปเลย

ฮื้ออ.อ.อ....วันอะไรวะเนี่ยยยย











TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะ ขอโทษด้วยที่เลทมา 1 วันและก็ไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย เมื่อวานชาลไม่ค่อยสบายค่ะ ตามันพร่าแล้วปวดหัวช่วงหลังหูมาก อีกอย่างคือมีสภาวะเครียดเพราะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น เรื่องวุ่นวายที่น่าหงุดหงิดนี้จะชี้แจงในทอล์คของขันหมีนะคะ ชาลต้องขอโทษที่ทำให้รอกันเก้อเลยนะเมื่อวาน จะพยายามไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอโทษจริงๆ ค่ะ

พี่สยามก็ไปตามง้อน้องแล้วเนอะ เรื่องจะเป็นยังไงต้องรอติดตามนะคะ อีกไม่ถึง 10 บทก็คงจบแล้วนะสำหรับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องของการทำหนังสือ คิดว่าทำแน่นะคะแต่ว่าไม่รู้ว่าจะได้ภายในปีนี้ไหมเพราะหยัมปองต้องรีไรท์เยอะมาก มันจะใช้เวลาส่วนนี้เยอะ ซึ้งถ้าทำหนังสือจริงคงจะเป็นปีหน้านะคะ คิวของปลายปีเป็นของขันหมีไปแล้ว ชาลไม่อยากทำหลายอย่างเกินเพราะว่าตัวเองไม่ค่อยมีเวลาแล้วมันจะพาลให้ทุกอย่างช้าไปหมด ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมชาลจะชี้แจงนะคะ

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ก็บอกอยู่ว่าให้ระวังตัวววว ไปถิ่นเขาแถมยังเอาลูกเขามาเป็นแฟนอีก เขาก็ยิงกบาลให้สิ (ฮ่าา) ดีใจที่คุณพ่อไม่ว่าลูกปองเรื่องชอบผู้ชาย รักขุ่นพ่อมั่กๆ เรยส์ข่าาา  :hao5:

สรุปที่คิดไว้เป็นจริงสินะ พะนายกับณนนท์มีซัมติงกันจริงๆ แหม่.. ตั้งแต่ใส่ข้อมือเหมือนกันแล้ววว แต่ก็แบบลูกพี่ลูกน้องกันอ่ะ กร๊าวใจมากๆ จริงๆ แอบอยากอ่านคู่นี้ด้วย (ฮ่าาาาา) //โดนคุณชาลตบ

พี่สยามทำดีมาก มาตามง้อน้องถึงเชียงใหม่ เิาจริงๆ แอบคิดเหมือนสมปองว่าแล้วพี่มันจะมาถูกเหรอ ก็มันไม่รู้ว่าบ้านน้องอยู่ไหนรู้แต่อยู่เชียงใหม่เอง แต่ปัญหานั้นก็คลายได้เพราะณนนท์คนดี เอ้า! กราบณนนท์สามทีด้วยนะพี่สยาม (ฮ่าาาาา)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ดีงามมากพี่หยัม
ตามมาง้อน้องปองได้เร็วทันใจ

แต่ตอนนี้วิ่งหนีกระสุนของพ่อตาไปก่อนนะ
เดี๋ยวน้องปองจะเป็นม่ายปั๋วตาย ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถามได้วิ่งไปไหน ก็วิ่งไปหาแม่ปองซิ  :mew4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
พะนายกับณนนท์ Side Stoires

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อปอง ปอง น่ารักมาก
ว่าแล้ว ณนนท์  พะนาย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักกันใต้จมูกปองแท้ๆ   :z3:

สยาม  สมปอง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ยิงเลยพ่อ ยิงเลย 5555 :really2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เมื่อไหร่จะมาอัพต่อน้อออ  คิดถึงน้องปองกับพี่สยามแล้ว

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
​บทที่ 47 ปรับความเข้าใจ



ชีวิตของผมเคยแค่วิ่งหนีหมาที่วิ่งไล่อะนะ

ไม่คิดว่าจะมาวิ่งหนีลูกปืนพ่อแบบนี้เลย

วิ่งกับผัวด้วยนะประเด็น

ผมลากพี่สยามมาจนถึงคอกม้าที่อยู่ท้ายไร่ แฮ่กก.ก....เหนื่อยแบบ โหยยยย เพราะไม่ได้ออกแรงอะไรพวกนี้นานป้ะวะถึงได้เหนื่อยแบบนี้ พี่สยามเองก็ยืนหอบแดกไม่แพ้ผมหรอก นี่วิ่งกันมาเกือบกิโลฯ เลยนะ คือรู้แหละว่ายังไงพ่อก็ตามมาได้แต่แบบขอมาตั้งหลักคุยกันก่อนละกัน แล้วจะมาตามยิงก็ค่อยว่ากันทีหลัง

ปวดจิตเลย

ผมนั่งลงที่ม้านั่งหน้าคอกม้า ร่างสูงก็ยืนหอบมองผมนิ่งๆ เดี๋ยวนะ เดี๋ยวค่อยคุย ตอนนี้สิ่งที่ควรทำก็คือนั่งหายใจก่อน ผมจะทำยังไงให้พ่อไม่ยิงพี่สยามวะ หรือผมต้องโดนยิงแทนงี้เหรอ แล้วทำไมผมต้องโดนยิงแทนด้วยอะ มันเจ็บนะโดนยิงน่ะ ลูกกระสุนไม่ใช่หนังยางที่ยิงใส่แล้วจะแสบๆ หรือผมจะพาพี่สยามออกไปจากไร่ดีวะ

หนีไปด้วยอะไรทำนองนี้

ก็ไม่ได้อีกอะ

"ทำไมถึงปวดหัวแบบนี้วะ" ผมขยี้หัวตัวเองจนฟูก่อนจะไปสะดุดตากับรอยยิ้มบางๆ ของคนที่ยืนอยู่ "ยิ้มอะไรของมึงวะ เกือบตายนะน่ะ"

"....เป็นห่วงหรอ"

 ผมเบ้ปากใส่ "ใครเค้าเป็นห่วงมึง กูแค่ไม่อยากให้มีใครตายในไร่ แล้วไม่อยากให้พ่อกูติดคุกเพราะยิงคนตายต่างหาก"

"อย่างนี้นี่เอง ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วง"

"ไม่ได้ห่วงเว้ย ว่าแต่มึงมาที่นี่ทำไม กูบอกแล้วไงว่าห่างกันสักพัก" ผมเอ่ยบอกอย่างจริงจังพลางทำหน้านิ่งใส่

"นี่ไง ห่างแล้ว"

"มึงมโนอยู่หรอ กูเพิ่งบอกไปเมื่อวานเองพี่สยาม" ผมทำเป็นเหี้ยมใส่ ความจริง....ในใจนี่กระโดดโลดเต้นมากอะ ไงล่ะ ยังไม่ทันสองวันแฟนก็มาง้อแล้วครับ

เขินมากเว่อร์

"มึงรู้ไหมว่าจากเมื่อวานมาวันนี้มันกี่ชั่วโมง" พี่สยามบอกเสียงอ่อนก่อนจะนั่งยองๆ ลงด้านหน้าผม "แค่นี้....ก็คิดถึงจะแย่แล้ว"

"เรื่องของมึงสิ" ผมหันหน้าหนีก่อนจะอมยิ้มแวบนึง การที่ได้เห็นมันหงอแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีแปลกๆ เหมือนกันนะ

แบบ....มึงทำกูไว้เยอะไงพี่สยาม

"ปอง...." มือเรียวเลื่อนมาจับมือผม "ตอนนี้กูพร้อมจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้มึงฟังแล้วนะ เรื่องของแซนด์น่ะ มัน....จบแล้วล่ะ"

ผมดึงมือออกมาจากการจับ "จะเล่าก็เล่า ไม่ต้องมาจับ" จังหวะนี้ต้องเล่นตัวหน่อย โอกาสที่จะได้แกล้งมันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ

"โอเค....คือว่าที่แซนด์จะกลับมาเรียนไทยมันเป็นเพราะว่าครอบครัวของพี่เยียร์ที่เป็นแผนของแซนด์เค้าบังคับให้หมั้นกับผู้หญิงคนอื่น แล้วฝั่งพี่เยียร์เค้าขัดครอบครัวไม่ได้ อารมณ์แซนด์ก็แบบน้อยใจนั่นแหละแล้วก็ยอมปล่อยให้พี่เยียร์ไปทำตามที่ครอบครัวต้องการ ส่วนตัวเองก็บินกลับมาไทยประมาณนั้น"

"แล้วไงต่อ...."

"คือครอบครัวของแซนด์ที่เมืองไทยเนี่ยะมีแค่น้องชายคนเดียวไง พ่อแม่ไม่ได้อยู่ประเทศไทย ช่วงที่แซนด์กลับมามันเป็นช่วงที่เซนท์ เด็กที่เราเคยเจอที่ร้านชาบูอะ มึงน่าจะจำได้ นั่นแหละ....ช่วงนั้นเซนท์ดันไปค่ายอาสาพอดี แล้วปกติแซนด์ไม่มีเพื่อนที่ไหนเลยนอกจากกู แล้วมึงเข้าใจฟีลคนที่ความรักพังป้ะล่ะ ยิ่งอยู่คนเดียวก็ยิ่งฟุ้งซ่าน"

"อืม....มึงนั่งกับพื้นได้นะ เห็นนั่งยองๆ แล้วเมื่อยแทนว่ะ"

เจ้าตัวยกยิ้ม "เนี่ยะ เป็นห่วงอีกละ"

"ถ้ามึงไม่เมื่อยก็เรื่องของมึง" ไอ้บ้านี่มันน่าทุบนัก รู้งี้ผมไม่ทักแล้วปล่อยให้มันนั่งจนตะคริวแดกขาตายไปซะก็ดี

"ทำไมไม่อ่อนโยนเลยล่ะครับ" พี่สยามนั่งลงกับพื้น พอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกถึงความเหนือกว่ามากเลยนะ นี่แหละคือการล้มล้างอำนาจของพี่สยาม ต่อจากนี้ผมจะขึ้นเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแทน

ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

จริงจังอะไรขนาดนั้นอะปอง

"ไม่อ่อนโยนก็เรื่องของกูน่ะ" ผมบอกปัด "....แล้วเรื่องมันยังไงต่อ"

"ก็แซนด์เศร้ามากเลยแหละแต่ก็แสร้งทำเป็นทนไหวอะ ชอบพูดตัดพ้อด้วย คือมันก็ผิดที่กูไม่ยอมบอกอะไรมึงเลยเกี่ยวกับเรื่องแซนด์เพราะคิดว่ามึงจะไม่โอเคที่ได้รับรู้ว่ากูมีเรื่องยุ่งเกี่ยวกับแฟนเก่า"

"อืม....รู้ผลแล้วใช่ไหมล่ะว่าไม่บอกแล้วเป็นยังไง"

"ครับ....รู้แล้ว รู้สึกผิดและก็จะไม่ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก และเรื่องที่กูไม่เล่าให้มึงฟังว่ากูหายไปไหนกับแซนด์ก็เพราะกลัวว่ามันจะวุ่นวาย แล้วก็เป็นกูอีกแหละที่คิดว่าเดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังทีเดียวหลังจากจบเรื่อง จนสุดท้ายแล้วทุกอย่างมันก็ออกมาเป็นแบบนี้ เรื่องนี้กูผิดเต็มๆ เลย"

"ใช่ มึงผิด ยื่นมือมานี่"

พี่สยามยื่นมือมาตรงหน้าผม "จะทำอะโอ๊ยยยย เจ็บนะ"

"โดนตีแค่นี้มาทำเป็นโอดโอย มึงไม่รู้หรอกว่าตอนที่กูเจ็บ ตอนที่กูเสียใจอะ กูเจ็บกว่านี้ประมาณร้อยเท่าได้"

"....ขอโทษนะครับ" เจ้าตัวเอ่ยเสียงอ่อนพลางทำหน้าสลด ฮ่าๆ ๆ ๆ  เหมือนหมาหงอยๆ เลยอะ น่ารักนะแต่แบบ....ผมต้องใจแข็งใส่ไปก่อน

ยังไม่สะใจพอ

"เล่าต่อสิ"

"ก็ช่วงที่กูหายไปอยู่กับแซนด์บ่อยๆ แล้วไม่ได้บอกมึงน่ะ ช่วงนั้นแซนด์โดนลอบทำร้าย คนที่เป็นคนสั่งก็ครอบครัวของฝั่งพี่เยียร์นั่นแหละ มึงจำวันที่กูหน้าช้ำได้ไหมล่ะ วันนั้นแหละเป็นวันที่แซนด์โดนรุมกระทืบ ที่กูออกไปเพราะแซนด์โทรมาก็เพราะว่าทนไม่ไหวแล้ว กูก็พาแซนด์ไปโรงพยาบาลและก็อยู่เฝ้าถึงไม่ได้กลับไปนอนที่หอไง"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "แล้วมึงก็มาหากูตอนเช้าแทน แล้วช่วงเวลานั้นพี่แซนด์ที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลก็โดนกระทืบซ้ำอีกรอบจนแขนหัก จนสุดท้ายก็เลยต้องย้ายไปรักษาตัวอีกโรงพยาบาลและมึงก็ต้องเฝ้าเค้าเกือบตลอดเวลาเพราะน้องชายเค้ายังไม่กลับมาจากค่ายอาสา....ถูกไหม"

"มึงรู้ได้ไง"

"ก็....รู้ทุกอย่างอะ รู้นานละ แค่ให้อยากให้เล่าให้ฟัง"

"ปองงงง"

"มึงไม่ต้องมาปองใส่กูเลยนะ" ผมหยิกแก้มพี่สยามแรงๆ "กูขอไม่บอกหรอกนะว่ากูไปรู้มาได้ยังไง แต่ขอให้มึงรู้ไว้ว่ากูรู้จักพี่แซนด์แล้ว และตอนนี้กูก็รู้ด้วยว่าเค้าคืนดีกับแฟนเค้าเรียบร้อย คือกูรู้ทุกอย่างว่าช่วงที่มึงหายนั่นมึงหายไปไหน"

"แล้วที่บอกว่าให้ห่างกันสักพักนี่คือ...."

"หมั่นไส้อะ" ผมเบ้ปากใส่มันน้อยๆ พี่สยามนี่ทำหน้าเหวอเลยอะ ทำไม เรื่องแค่นี้ต้องทำหน้าเหวอขนาดนี้เลยเหรอ

งงใจ

ผมนั่งมองคนตรงหน้าที่มองผมปริบๆ เหมือนกำลังเรียบเรียงเรื่องทุกอย่างในหัว ตอนนี้มันคงยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่อะนะผมว่า แต่ช่างมัน ปล่อยให้งงจนประสาทแดกไปเลย การที่ผมบอกกับมันว่าห่างกันสักพักนี่ก็เพราะอยากทำให้มันปวดใจนั่นแหละ มันจะได้รู้ไงว่าสิ่งที่มันทำเนี่ยะ ทำให้ผมรู้สึกเสียใจและมันส่งผลย่ำแย่ต่อการอยู่ร่วมกันมากแค่ไหน

มันเป็นบทเรียนน่ะครับ

อีกอย่างคือผมอยากบอกที่บ้านไงว่าคบกับพี่สยาม ถ้ามันมาง้อผม พ่อก็จะได้เห็นว่าเออมันรักผมจริงๆ นะ แต่เรื่องนี้ก็เกินคาดไปหน่อย ไม่คิดว่าพ่อจะถือปืนต้อนรับว่าที่ลูกเขยแบบนี้ ช่วงที่ผ่านมาคือเสียใจจริงๆ แหละ แต่ก็คิดว่าเออนี่มันความรักอะนะ ถ้าจะสุขอย่างเดียวก็คงเป็นไปไม่ได้ แล้วอีกอย่างคือทุกคนมันก็ต้องผิดพลาดกันได้

พี่สยามมันคงสำนึกจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วล่ะ

คงจะไม่กล้าโกหกผมอีกแล้ว

ผมคิดไว้แล้วนะว่าถ้าเราจะเลิกกันจริงๆ ให้เราเลิกกันเพราะไม่ได้รักกันแล้วดีกว่า หรืออีกอย่างคือถ้ามันนอกใจผมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นความรักก็จบเหมือนกัน ผมคงรับไม่ได้ที่มันจะมีคนอื่นทั้งๆ ที่ยังมีผมด้วย แต่เรื่องการโกหกมันก็ทำลายความเชื่อใจน่ะนะ แล้วกว่าจะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพี่สยามทำตัวดีมากแค่ไหน

ต้องใช้เวลาอีกต่างหากสำหรับเรื่องนี้

"สมปอง" พี่สยามเลื่อนมือมากุมมือผมไว้ "ขอโทษนะ สำหรับทุกอย่าง กูจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว จะไม่โกหก จะไม่ปิดบัง จะแคร์ความรู้สึกของมึงให้มากกว่านี้ จะทำทุกอย่างเพื่อเอาความเชื่อใจที่มึงมีให้กูกลับมา กูรู้แล้วว่าช่วงที่เราแทบไม่ได้คุยกันมันทรมานแค่ไหน....กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ กลับอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม"

"กูรักมึงมากเลยนะพี่สยาม" ผมยกมือขึ้นไปกุมแก้มมัน "มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราสองคนไม่มีความลับต่อกัน มันคงจะดีมากๆ ถ้าเราปรับตัวเข้าหากันคนละครึ่งทาง กูไม่ได้ต้องการให้มึงเปลี่ยนตัวเองทั้งหมดเพื่อกู เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ตัวมึงก็คงจะไม่มีความสุข กูเองก็คงเหมือนกัน ไม่มีใครอยากเห็นคนที่ตัวเองรักสูญเสียความเป็นตัวเองไป....เข้าใจใช่ไหม"

คนตรงหน้าพยักหน้ารับเบาๆ "เข้าใจครับ"

"คนที่เค้ารักกันน่ะ จะอยู่ด้วยกันได้นานๆ ก็ต้องมีความเข้าใจกันใช่ไหมล่ะ ความผิดบางอย่างมันก็พอให้อภัยกันได้อยู่แล้วล่ะ แต่ก็ไม่มีใครรับไหวกับความผิดที่จะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ หรอกนะ กูเห็นว่านี่เป็นความผิดครั้งแรก แต่กูก็หวังว่าจะไม่ให้มีครั้งต่อไปนะ เราต่างฝ่ายต่างรู้ว่ามันแย่มากแค่ไหน....ถ้าเลือกที่จะมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้วก็ทำให้มันมีแต่ความสุขเถอะ"

ผมยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้า ไม่รู้เลยนะครับว่าเราจะมีชีวิจได้อีกนานแค่ไหน ถ้าเลือกได้ก็ขอให้มีแต่ความสุขเถอะว่ะ ก็รู้แหละว่าความทุกข์มันต้องมีบ้างเป็นสีสันแต่การมีความสุขมันก็ดีกว่า

....จริงไหมล่ะ

"ขอบคุณนะปอง....กูจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นกว่าเดิม" พี่สยามขยับเข้ามากอดผม "กูจะทำให้คำว่าเรา....มีแต่ความสุข"

ผมลูบหัวเจ้าตัวเบาๆ "พูดแล้วต้องทำให้ได้นะ"

"ทำได้สิครับ"

ปังงงง

"เชี่ยๆ ๆ ๆ ๆ " ผมสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงปืน มองไปทางด้านหลังก็เห็นรถของพ่อจอดอยู่โดยที่เจ้าของรถก็ยืนอยู่ข้างๆ เยื้องไปนั่นมีณนนท์กับพะนายยืนอยู่ ทำไมมึงไม่ห้ามพ่อวะ มายิงปืนใกล้คอกม้าแบบนี้ ม้าตกใจตายพอดี

ไม่ใช่แค่ม้านะที่จะช็อกตาย

ผมก็ด้วยเนี่ยะ

"กอดกันกลมเชียวนะ กล้าดีจริงๆ " พ่อทำเสียงเหี้ยมใส่พลางหรี่ตามองพี่สยาม "ไอ้หนุ่ม ข้ามีเรื่องจะคุยกับเอ็ง"

"คุยกันตรงนี้สิพ่อ"

"เงียบไปเลยนะสมปอง ลูกน่ะมีคดีกับพ่ออยู่นะ คิดว่าพากันวิ่งหนีมาแล้วพ่อจะตามไม่เจอรึไง สิ้นคิดจริงๆ "

จึกไหมปองจึกม้ายยยย

"ครับ ผมจะคุยกับคุณลุง" ร่างสูงรับคำก่อนจะหันมองผม "ไม่คุยตอนนี้ วันหลังก็ต้องคุยอยู่ดี จริงไหม"

"วันหลังพ่ออาจจะไม่มีปืนไง"

มือเรียวยกขึ้นขยี้หัวผม "ไม่เป็นอะไรหรอกหน่า" พี่สยามลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าพ่อ

"ตามมานี่" ว่าแล้วพ่อก็เดินนำพี่มันไปอีกฝั่งของคอกม้า ผมกำลังจะแอบย่องตามไปแต่โดนณนนท์กับพะนายจับตัวไว้ก่อน จับไว้ทำไมวะไอ้พวกบ้า

"ปล่อยนะ เดี๋ยวพ่อยิงพี่สยามตายจะทำไงล่ะ"

"ก็จัดงานศพไง ถามอะไรแปลกๆ " ณนนท์บอกก่อนล็อกแขนผมไว้

"เนี่ยะปอง ถ้ามึงเสนอหน้าไปตอนนี้นะ คนที่โดนยิงอาจจะไม่ใช่แค่สยามก็ได้ มึงอาจจะโดนไปด้วย"

"โว้ยยยย ทำไมพวกมึงพูดแบบนี้ได้แบบหน้าตาเฉยวะ พี่สยามตายห่าขึ้นมานี่ทำไง" ผมโวยใส่คนที่ล็อกตัวผมอยู่ คือแบบ....มึงงงงง พี่สยามไม่ได้มีหลายคนในโลกนะ ถ้ามันตายไปกูจะไปหาคนแบบนี้ได้ที่ไหน

เพราะงั้นจะปล่อยให้พี่สยามตายไปไม่ได้นะมึงงงง

ปังงงง

เชี่ยยยย

"พี่สยามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม"













TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะแต่เดี๋ยวจะไล่แก้ให้นะ ก็คู่นี้เขาก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วนะ เหลือแค่พี่สยามกับฝั่งพ่อของสมปอง จะเป็นยังไงต่อก็ต้องรอติดตามกันไปนะคะ

ขอโทษด้วยที่ทำให้รอกันมาหลายวัน ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาชาลเห็นมีบี๋บอกว่ามีวันเกิดด้วยก็มีทั้งวันที่ 5 แล้วก็มีคนที่เกิดวันนี้นะ ส่วนคนอื่นชาลไม่รู้ เอาเป็นว่าขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ มีความสุขและความทุกข์ปะปนกันไป ชีวิตจะได้มีสีสันเหมือนอย่างที่บอกพูดไง

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อชาลได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แงงงงง เขาคืนดีกันแล้ววว ใจอิแม่คอมพลีทมากกกก ต่อไปมีอะไรก็พูดกันนะ อย่ามีความลับกันอีกล่ะ

เอาใจช่วยพี่หยัมให้รอดพ้นปลอดภัยจากลูกตะกั่วนะคะ555555 เคยเตือนแล้วว่ามาเหยียบถิ่นเขาแถมยังงั่มลูกเขาอีก ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนจะใจดีขนาดนั้นน้าาา

ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดและคำอวยพรย้อนหลังนะคะคุณชาล เราเองก็อยากจะขอให้คุณชาลมีสุขภาพแข็งแรง หายจากแพนิคสักที จะพยายามเป็นบี๋ที่ดีที่น่ารัก เราอยากเป็นบี๋ที่คุณชาลคุยด้วยหรืออะไรก็ตามแล้วสบายใจ รักและเทคแคร์นะคะ :กอด1:  :L2:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มมาพร้อมปืนนนน 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
แหมมมมม สมปอง ! แค่พี่หยามนั่งลงก้นแตะพื้นก็ทำให้ตัวเองดูมีอำนาจเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับสินะ ภูมิใจสิท่า  o13 o13 o13 o13
..
...
....
ไอ้เสียงปัง!!สุดท้าย ไม่ใช่พ่อเอ็งปืนลั่นใส่ตัวเองหรอกรึสมปอง 55555  :call: :call:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ทำไมอ่านตอนนี้แล้วมีซาวด์ ใครมีปืนเถื่อน~
ขึ้นมาในหัวอ่ะ 555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เสียงปืนนัดสุดท้าย นี่มัน.......  :heaven

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ถึงเวลา สารภาพ

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 48 ไดอารี่ของสมปอง



[บันทึกพิเศษ : สยาม]



ชีวิตผมเคยรู้สึกว่าตัวเองใกล้ตายอยู่ 3 ครั้ง

ครั้งแรกคือขับรถเครื่องตกคลองที่ลำปาง

ครั้งที่สองคือตกบันไดที่ตึกคณะ

ครั้งที่สาม....คือตอนนี้นี่แหละ

ผมกลืนน้ำลายมองปืนในมือของพ่อสมปองอย่างหวั่นใจ เมื่อกี้ีมีการยิงไล่นกโชว์ด้วย สิ่งที่ผมได้ยินตามหลังมาจากที่เขายิงเสร็จก็คือเสียงของน้องที่แหกปากเรียกชื่อผมดังลั่น เจ้าตัวคงคิดว่าผมอาจจะโดนพ่อตัวเองยิงสินะ เอาจริงๆ ตอนนี้ผมก็ทำตัวใจดีสู้เสืออยู่ ใจก็คิดนะว่าถ้าโดนยิงตายที่นี่แล้วจะเป็นยังไงต่อ

ก็คงตาย

ปองคงเสียใจน่าดูเลยถ้าผมตาย ไหนจะครอบครัวผมอีก บรรดาเพื่อนๆ อีก ทุกคนต้องโซแซดกับการจากไปของสยามแน่นอนอะ ผมเพิ่งอายุ 20 เองนะ นี่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะโดนพ่อแฟนยิงตายจริงๆ เหรอวะ

อา....คิดแล้วสงสารตัวเองจัง

"คุณลุง....มีอะไรจะคุยกับผมหรอครับ"

"ดูแลสมปองน่ะเหนื่อยไหม"

"มันก็.....เหนื่อยครับ" ผมยอมรับไปตามตรงก่อนจะยิ้มบางๆ "แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะทำไม่ได้"

"งั้นหรอ" พ่อปองยกยิ้มมองผม "แล้วถ้าข้าบอกเอ็งว่าข้าไม่ยกลูกชายให้ล่ะ"

"ยกให้เถอะครับ"

"ทำไมข้าต้องยกสมปองให้เอ็งด้วย"

"เพราะผมรักสมปองครับ" ผมเอ่ยบอกอย่างจริงจัง "ช่วงที่ผ่านมาผมมีเรื่องที่ต้องทำให้น้องเสียใจ แต่ว่าผมจะไม่ทำให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว"

"ถึงเอ็งจะพูดอย่างนั้น แต่ถ้าข้าไม่ยอมยกลูกข้าให้ เอ็งจะทำยังไงต่อ"

"ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณลุงใจอ่อนยอมยกปองให้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ผมก็จะอดทนรอครับ"

"แล้วถ้าข้าไม่มีวันใจอ่อนล่ะ"

"ผมคิดว่ามันต้องมีวันที่คุณลุงใจอ่อนแน่นอนครับ"

"มั่นใจจังเลยนะ อา....ยิ่งเห็นแล้วยิ่งรกหูรกตา" พ่อปองยกปีนขึ้นมาจ่อผม "ยิงทิ้งเลยดีไหม"

ผมมองปากกระบอกปืนที่อยู่ตรงหน้านิ่งๆ "......"

"คิดว่าข้ากล้ายิงเอ็งไหมไอ้หนุ่ม"

"คิดว่ากล้าครับ"

"คิดถูก"

ปังงงง

ผมเซทันทีที่เสียงนั้นสงบ รู้สึกได้ถึงหยาดเลือดที่ไหลออกมาจากต้นแขนซ้าย ผมยกมือขึ้นกดแผลตัวเอง ความรู้สึกชาๆ นี้มันคืออะไร การที่เลือดไหลแบบนี้มันหมายความชัดเจนว่ากระสุนถูกแขนผมแน่นอน ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่รู้สึกเจ็บแบบที่ควรจะรู้สึก ผมไม่เคยโดนยิงหรอก แต่ที่เคยเห็นคือมันน่าจะต้องเจ็บบ้างไหมวะ อย่างน้อยมันก็ต้อง....

อึกก.ก.ก....เชี่ยยยย

มันเจ็บครับ

มันเจ็บมากโว้ยยยยยยยยยยย

"อื้ออ.อ.อ....." ผมกัดฟันเพื่อข่มความเจ็บที่โถมเข้ามาที่ต้นแขนซ้าย เซลล์ประสาทดีเลย์เหรอวะถึงได้เพิ่งเจ็บ โหยยยย โดนยิงนี่ต้องเจ็บขนาดนี้เลย

โหหหห

"สีหน้าดูเจ็บปวดดีนะ" คนตรงหน้าลดปืนลงก่อนจะหยิบสมุดสีขาวที่เหน็บอยู่ข้างตัวขึ้นมา "รู้ไหมว่านี่คืออะไร"

ผมส่ายหัวเบาๆ "ไม่รู้ครับ"

"มันเป็นข้อตกลงที่ข้าทำไว้กับสมปอง นั่นก็คือการให้เค้าได้เขียนไดอารี่เพื่อเล่าเรื่องราวช่วงเวลาที่เรียนวิศวะฯ ซึ่งเป็นคณะที่ตัวเองเลือกที่จะเรียน เหตุผลมันก็เยอะกว่านี้ล่ะนะ ค่อยลองไปถามสมปองเอาเองละกัน" พ่อปองบอกก่อนจะเปิดสมุดเล่มนั้นแบบผ่านๆ "เอ็งบอกว่าเอ็งไม่รู้ ก็แปลว่าไม่เคยเห็นมันเลยสินะ"

"ไม่เคยครับ ปองไม่เคยเล่าอะไรให้ผมฟัง"

"หึ....ก็ไม่แปลกหรอกนะ เล่นด่าเอ็งเต็มสมุดเลยหนิ สิ่งที่ข้าจะบอกเอ็งก็คือ....ทุกหน้าในสมุดเล่มนี้เป็นเรื่องของชีวิตสมปองที่มีเอ็งอยู่ด้วยเต็มไปหมด ตั้งแต่หน้าแรก จนถึงหน้าปัจจุบัน ทุกเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นวันปฐมนิเทศฯ ที่เอ็งไปล้อชื่อสมปอง วันที่เอ็งหลอกหอมแก้มในโรงอาหาร วันที่ไปดูหนังด้วยกัน วันที่เป็นแฟนกัน วันที่ไปค่าย หรือจะเป็นช่วงเวลาที่ทะเลาะกัน"

"สมปอง....เขียนไว้ทั้งหมดเลยหรอครับ"

"ใช่ ราวกับว่าเอ็งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต"

....ส่วนหนึ่งในชีวิตงั้นเหรอ

ผมหลุดยิ้มออกมาทันทีที่พ่อปองพูดจบ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสิ่งที่ได้ยินนี่มันจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ได้ ผมรู้สึกดีนะที่ได้รับรู้เรื่องสมุดไดอารี่เล่มนั้นน่ะ ไม่เคยรู้เลยครับว่าน้องเขียนมันมาตลอดตั้งแต่วันที่เราเจอกัน เขาต้องแอบผมเขียนแน่เลย ผมถึงไม่เคยเห็น ก็อาจจะใช่ ตอนนี้ถ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่อยากจะทำคงจะเป็นการพุ่งไปกอดน้องแน่นๆ

อีกอย่างคง....ทำแผลที่แขน

เลือดมันอาบไปหมดแล้วครับ

พ่อปองเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะยกมือขึ้นแตะไหล่ผมเบาๆ "ที่ข้ายิงเอ็งนั่นเพราะข้าโกรธที่เอ็งทำให้ลูกข้าเสียใจ ทำให้เค้าร้องไห้ และถ้ามีเรื่องแบบนั้นอีก ครั้งหน้าข้าจะไม่ยิงเอ็งที่แขน"

"....ผมจะไม่ให้ปองเสียใจอีกแล้วครับคุณลุง"

"เอ็งจำคำพูดของเอ็งไว้ให้ดีก็แล้วกัน" เขายกยิ้มก่อนจะหันหลังให้ผม "ไปให้สมปองทำแผลให้ซะไป"

"แล้วเรื่องของผมกับปอง...."

"ถ้าเอ็งเลือดหมดตัวตายไปตอนนี้ เอ็งก็ไม่ได้ลูกข้าหรอกนะ....ข้าไม่ได้เป็นคนใจร้ายที่เห็นลูกมีความสุขแล้วจะคอยขัดขวาง แต่สำหรับบางอย่างมันต้องใช้เวลาที่จะยอมรับ ไปจัดการตัวเองซะ แล้วค่อยว่ากันอีกที...." พ่อปองเหลือบมามองผม "ข้าชอบแววตาและน้ำเสียงที่จริงจังของเอ็งนะ....มันทำให้ข้ารู้สึกได้ว่า ถ้าจะฝากเด็กซื่อบื้ออย่างสมปองไว้กับเอ็งล่ะก็ ข้าคงไม่ผิดหวัง"

ผมยกมือไหว้เขา "ขอบคุณนะครับ....ขอบคุณ"

"เออ ไปหาปองได้แล้ว"

"ครับ" ผมรับคำก่อนจะหันหลังเดินมาจากตรงนั้นทันที ซี๊ด.ด.ด.ด....ทั้งรู้สึกเจ็บทั้งรู้สึกดี แม่งเป็นอะไรที่ปะปนกันไปหมดเลยว่ะ

คำที่คุณลุงพูดนั่นทำให้ใจชื้นขึ้นเยอะเลยนะครับ ผมคิดว่าเขาน่าจะยอมรับในความรักของผมกับสมปองนะ แต่ก็ขอแค่เวลาเท่านั้นแหละ ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี มันไม่ใช่ทุกบ้านที่จะรับได้กับเรื่องแบบนี้ เอาจริงๆ โดนยิงแค่ถากๆ นี่ก็เป็นบุญหัวผมมากแค่ไหน ถ้าเป็นลูกชายบ้านอื่นแล้วพ่อโหดๆ แบบสายโหดจริงๆ นี่ผมกลายเป็นปุ๋ยไปละ

แต้มบุญยังพอเหลืออยู่สินะสยามเอ๊ย

"พี่สยามมมม"

ผมมองตามเสียงก็เห็นสมปองที่ถูกพี่ณนนท์กับพี่พะนายรั้งเอวไว้อยู่ สายตาของน้องมองผมอย่างตกใจ คงเป็นเพราะว่าเห็นเลือดอาบแขนแบบนี้ล่ะมั้ง

"ปอง"

"พวกมึงปล่อยกูนะ กูจะไปหาพี่สยาม" น้องดิ้นจนหลุดก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหาผม "เลือดดดด เลือดเต็มเลย เสียงปืนนั่น....พ่อยิงมึงหรอ"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "นิดหน่อยน่ะครับ"

"นิดหน่อยอะไรเล่า เลือดออกเยอะขนาดนี้ แล้วทำไมมึงถึงไม่วิ่งหนีไปห้ะ มึงยอมปล่อยให้ตัวเองโดนพ่อยิงทำไม" คนตรงหน้าโวยใส่พลางเบะปากจนสุด น้องหน้าเสียมากเลยครับ คงเป็นห่วงผมมากนั่นแหละถึงได้แสดงทีท่าแบบนี้ออกมา

น่ารักจัง

"ก็....." ผมรั้งสมปองเข้ามากอด "อยากได้ลูกชายเค้าหนิ จะวิ่งหนีได้ยังไง"

"แต่เค้าจะยิง มึงก็ต้องหนีไหมล่ะ ถ้ามึงตายขึ้นมามึงก็ไม่ได้ลูกชายเค้าหรอก" น้องกอดผมแน่นพลางพึมพำเบาๆ

"ไม่ตายง่ายๆ หรอกน่ะ" ผมลูบหัวเจ้าตัวเบาๆ "ถ้ากูตายใครจะดูแลมึงล่ะ....จริงไหม"

"จริง มึงต้องอยู่ดูแลกูไปตลอดทั้งชีวิต....เข้าใจไหมพี่สยาม"

เข้าใจสิ....เข้าใจดีเลย

"ตลอดชีวิตครับปอง"

"สัญญาก่อน...."

"ครับ....สัญญา"



[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]



ผมงอนพ่อมาก

งอนมากในมากด้วย

ผมนั่งทำหน้ายู่ยี่อยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง ตอนนี้พี่สยามมันหลับอยู่ครับ เนี่ยะ ผมบอกแล้วว่าให้นอนที่โรงพยาบาลสักวันก็ไม่เชื่อ ห้าวไง ไม่เป็นไรครับปอง พี่ขอนอนที่บ้าน เป็นไงล่ะมึง ไข้แดกเลยไง ไม่ได้ไข้แดกธรรมดานะ ไข้แดกหนักมาก ผมว่ามันน่าจะเพราะแผลที่โดนยิงนั่นแหละ กลัวมันจะอักเสบหนักแล้วลามไปเป็นโน่นเป็นนี่จนต้องตัดแขนทิ้งจริงๆ

ลองนึกภาพพี่สยามไม่มีแขนข้างนึงสิ

รู้สึกแปลกๆ เลยเนอะว่าไหม

ผมหันไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้คนที่หลับอยู่เบาๆ กินยาไปแล้วนะก่อนที่จะนอนน่ะ แต่ตัวยังร้อนอยู่เลย ผมได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้มันจะดีขึ้น เสียงปืนที่ได้ยิงสองนัดนั่นทำเอาผมใจหายมากเลย กลัวพี่สยามตายอะ นี่ดีแค่ไหนที่มันโดนยิงแค่ถากๆ แต่พ่อก็นะ....ผมไม่คิดว่าเขาจะยิงพี่สยามจริงๆ อะ

จะโหดไปไหนก็ไม่รู้

พ่อผมน่ะยิงปืนแม่นมากเลยนะ ผมรู้ว่าพ่อตั้งใจให้ยิงโดนแค่ถากๆ ส่วนเหตุผลนั้นก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่คิดได้ว่าคงมีแน่นอน ผมว่าการที่พ่อปล่อยให้พี่สยามมาหาผม ปล่อยให้ผมพามันไปโรงพยาบาล ปล่อยให้กลับมานอนที่บ้าน ปล่อยให้นอนในห้องผมด้วย มันก็พอทำให้คิดได้ว่าพ่ออาจจะยอมรับเรื่องของเราก็ได้นะ

หรือไม่ยอมรับวะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก


ผมหันมองไปตามเสียงเคาะ "ไม่ได้ล็อกครับ" สิ้นเสียงที่ผมบอก ร่างสูงของคุณพ่อสุุดที่รักก็เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หึ.....

"อาการไอ้หนุ่มเป็นไงบ้างล่ะ"

"ก็อย่างที่พ่อเห็น" ผมหันไปทำหน้ามุ่ยใส่ "ทำไมถึงยิงแฟนลูกแบบนี้ล่ะครับ"

"พ่อมีเหตุผลของพ่อ"

นั่นไง....เป็นแบบที่คิดไว้เป๊ะ

"ลูกไม่รู้หรอกนะครับว่าพ่อยิงพี่มันทำไม แต่ต้องขอบคุณพ่อเหมือนกันที่ไม่ยิงมันจนตาย แถมยังใจดีให้อยู่ที่นี่ต่ออีก" ผมเดินเอาผ้าขนหนูไปตาก

"ให้อยู่แค่ไม่กี่วันหรอกนะ"

ผมหันไปเบะปากใส่พ่อทันที "ทำไมล่ะครับพ่อ"

"อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับไปเรียนแล้วไม่ใช่หรอ หรือจะเลิกเรียนแล้ว ก็ได้นะ กลับมาช่วยพ่อปลูกองุ่น"

"โนวๆ ๆ ๆ ๆ " ผมส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะเดินกลับมานั่งพี่สยามเหมือนเดิม "ยังอยากเป็นนักศึกษาอยู่ครับ ไว้พร้อมจะเป็นชาวไร่เมื่อไหร่ เดี๋ยวจะกลับมาเอง"

"กวนประสาทนักนะ" พ่อยื่นสมุดไดอารี่มาให้ผม "ถ้าไอ้หนุ่มมันฟื้นก็ยกข้าวขึ้นมาให้มันกินด้วยล่ะ พ่อไม่อยากให้ใครมาตายในไร่พ่อ"

"นี่ขนาดไม่อยากให้ใครตายนะ"

"ใช่สิ เพราะถ้าอยากให้มีคนตายจริงๆ ร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าลูกต้องไร้ลมหายใจแล้วล่ะ"

อา....ความขนลุกนี้มันคืออะไรกัน

"อย่าพูดจาน่ากลัวแบบนั้นสิครับ" ผมเลื่อนมือไปจับมือพ่อไว้ "ว่าแต่เรื่องของลูกนี่...."

"พ่อไปทำงานต่อละ" ว่าแล้วพ่อก็เดินหนีออกไปจากห้องทันที

แบบนี้ก็ได้เหรอ

เฮ้อ...

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือพี่สยามไว้ จะฟื้นกี่โมงก็ไม่รู้เนี่ย แต่จะว่าไปมันก็หลับมาหลายชั่วโมงละนะ ผมนี่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ข้างมัน มันก็ยังไม่ตื่นเลย นี่ก็จะ 5 โมงละ ผมควรปลุกพี่สยามก่อนไหมแล้วค่อยให้มันนอนต่อตอนกลางคืน

"อืม.มม.....ปอง"

คงไม่ต้องปลุกแล้วล่ะ

"พี่สยาม" ผมมองคนตรงหน้าที่เพิ่งลืมตาขึ้นมา สีหน้าซีดๆ ของเจ้าตัวเปื้อนยิ้มทันทีที่เห็นผม ไงล่ะ ดีใจล่ะซี้ที่ตื่นมาแล้วได้เจอสมปองคนคิ้วท์น่ะ

นี่เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะคนได้เป็นแฟนเท่านะครับ

คนอื่นนี่ไม่มีสิทธิ์อะบอกเลย

"สมปอง"

"ใช่ ไอแอมสมปอง" ผมเลื่อนมือขึ้นไปอังหน้าผากพี่มัน "ไข้มึงไม่ลดเลยนะพี่สยาม ดื้อยาหรอ"

มือเรียวคว้ามือผมไปจุ๊บเบาๆ "กูรักมึงนะ"

"เดี๋ยวๆ อะไรของมึงเนี่ยะ" อยู่ดีดีก็มาบอกรักเฉยเลย นี่ต้องเขินจนตัวบิดไหมเนี่ยะ

"กูพูดจริงๆ หนิ พ่อมึงเล่าให้กูฟังแล้วนะเรื่องไดอารี่ที่มึงเขียนน่ะ"

ผมมองมันตาโตทันที "จริงอะ แล้วพ่อกูบอกอะไรบ้าง"

"เค้าบอกว่ามึงเขียนด่ากูไว้เต็มเลย"

ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ชิบหายละ

"เอ่อ....ไม่จริ้งงงง พ่อกูอำมึงแล้ว" ผมเอื้อมมือจะไปคว้าสมุดไดอารี่แต่พี่สยามมันชิงหยิบไปก่อน เฮ้ยูวววว ทำแบบนี้ไม่ได้น่ะ

"อื้ออ.อ.อ...หืม.มม....ด่ากูจริงๆ ด้วย" เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะเหลือบมองผม "ไว้กูหายก่อน มึงโดนลงโทษแน่เมีย"

"ไม่โว้ยยยย" ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะคิดหาทางแย่งสมุดไดอารี่มา คือจะไปยื้อยุดฉุดกระฉากมาก็ไม่ได้ไง กลัวมันขาดเอา อีกอย่างคือเดี๋ยวแผลพี่สยามมันจะระบมหนักกว่าเดิม

อา....ผมคิดออกละว่าจะแย่งมายังไง

"....วันนี้ก็ด่ากูด้วย"

"พี่สยาม"

".....หืม" ทันทีที่พี่มันรับคำผมก็ก้มหน้าลงไปจูบปากมันเบาๆ คนโดนจูบมองผมตาโต มันคงจะตกใจล่ะมั้ง ผมอาศัยจังหวะนั้นดึงสมุดไดอารี่ออกมาจากมือพี่สยามแล้วผละออกมา

เสร็จปอง

"เป็นคนเจ็บก็อยู่ให้มันนิ่งๆ รู้ไหม" ผมเก็บสมุดไดอารี่ใส่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะล็อกไว้ "ไว้หายก่อนแล้วค่อยมาอ่าน"

"อยากอ่านตอนนี้อะ"

"ไม่ได้ อย่ามาดื้อ" ผมบอกก่อนจะเดินมาเอนตัวนอนลงข้างๆ มัน "ยังไง....มึงก็ต้องได้อ่านมันอยู่แล้วล่ะสมุดเล่มนั้น"

จะว่าไป....ไดอารี่ของผมเนี่ยะ มีแต่เรื่องของมันทั้งนั้นเลยนะ คือเวลาที่เขียนมันก็คนละวันไง ตอนที่เขียนก็ไม่ได้คิดหรอกว่าทุกเรื่องจะมีพี่สยามเข้ามาเกี่ยวข้องน่ะ ผมไม่เคยย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่ตัวเองเคยเขียนเลยนะ ถ้าพ่อไม่บอกผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดๆ แล้วก็ตลกดีนะ ตอนที่เจอหน้ามันครั้งแรกก็ไม่ได้ถูกชะตาเลยสักนิด แล้วสุดท้ายเป็นไง

ก็ได้กัน

บ้าบอชะมัด

"สมปอง" พี่สยามหันมองมาผม "ขอบคุณนะครับ....สำหรับทุกๆ อย่าง"

ผมหลุดยิ้มก่อนจะเลื่อนมือไปกุมแก้มเจ้าตัวไว้ "กูก็ต้องขอบคุณมึงเหมือนกันในหลายๆ อย่าง มึงต้องรีบๆ หายนะ กูมีหลายที่ในไร่ที่อยากจะพามึงไปดู อยากพามึงไปดูสมหยัมด้วย"

"สมหยัม"

"ลูกของกูกับมึงไง" ผมซุกหน้าลงกับไหล่พี่สยาม "กูเป็นคนตั้งให้เอง"

"ลูก....นี่มึงท้องตอนไหนเนี่ยะ"

"โถ่พี่สยามไอ้ติ๊งต๊อง ลูกนี่คือลูกม้าโว้ย กูตั้งชื่อให้มันเหมือนมีชื่อมึงกับกูผสมกันอยู่ กูเลยโมเมว่าเป็นลูกของเรา ทำไม มึงไม่อยากมีลูกกับกูล่ะสิ เอ้ออออ งั้นสมหยัมเป็นลูกกู มึงไม่ต้องมาเกี่ยว" ผมทำท่าจะทันหนีแต่พี่สยามมันดึงไว้ก่อน

"โอ๋นะครับเมีย ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่ถามเฉยๆ ไหมเนี่ยะ " เจ้าตัวเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ผม "เดี๋ยวจะรีบหายนะครับ จะได้ไปดูลูกกัน"

"ดีมาก" ว่าแล้วผมก็ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มขาวเบาๆ เอาใจมันหน่อยครับมันจะได้รีบหาย

ผมว่าอีกสองสามวันมันน่าจะอาการดีขึ้น แล้วพอมันหายเนี่ยะ ผมก็จะพามันไปน้ำตกที่ท้ายไร่ พาไปหาสมหยัม พาไปขโมยผลไม้ในไร่ของพ่อกิน ไม่ดีกว่า เพราะถ้ามันทำแบบนั้นมันอาจจะโดนพ่อยิงอีกรอบก็ได้ ดีไม่ดี ผมก็อาจจะโดนพ่อยิงด้วย งั้นเอางี้ เรื่องผลไม้เดี๋ยวให้พะนายไปขโมยมาให้ แจ่มมมม แผนการนี้โคตรผ่าน

จะให้ขโมยมาสักสามกระบุง

"อย่าทำหน้าชั่วแบบนั้นสิปอง ใจคอไม่ดีเลย"

"มึงนี่มัน...."

น่าจับคอมาเขย่าๆ ๆ ๆ ๆ

หึ้ย.ย.ย....










TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะคะ ขอโทษด้วยที่เลทมาวันนึงมันเป็นเพราะว่าอาการป่วยเดิมๆ ที่ยังไม่หาย มันก็เลยรู้สึกแย่มาก ช่วงนี้เหนื่อยมากกว่าปกติด้วย สภาพร่างกายจะไม่โอเคเลย บี๋ก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ อากาศมันเปลี่ยนแปลงบ่อยเนอะ

อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะคะสำหรับนิยายเรื่องนี้ ยังมีคำพูดแะก็ประโยคหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้ใส่ลงไปนะ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป ช่วงนี้มันเป็นช่วงเดือนสุดท้ายที่ชาลจะฝึกงานเสร็จ มันก็มีงานเยอะมากๆ และชาลต้องรีบทำ บางทีอาจจะไม่ว่างและก็ไม่สามารถที่จะแต่งนิยายลงตามตารางได้นะคะ แต่ว่าต่อให้ไม่ลงตามวัน แต่ชาลจะลงอาทิตย์ละ 1 บทแน่นอนนะ ก็อดใจรอกันหน่อยนะคะ

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราคิดว่าเราเข้าใจความหมายของชื่อเรื่องแล้วล่ะในตอนนี้ มันบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงแต่มันอุ่นๆในใจมาก แบบเหมือนตอนนี้ทำให้เรารู้แล้วว่าตลอดมานิยายเรื่องนี้คือไม่ได้มีแต่ความสนุก ความฮาของตัวละครแต่มันคือการเล่าให้ฟังว่าชีวิตของคนๆนึงตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้าไปเหยียบในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแต่กลับได้รู้จักมิตรภาพและได้ใครอีกคนเข้ามาในชีวิต แม้จะไม่ชอบหน้ากันในครั้งแรกที่ได้พบแต่กลับอยู่ด้วยกันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน เขาคือ 'ส่วนหนึ่งในชีวิต' ของเรา

ไม่รู้จะบอกว่าสมปองโชคดีหรือพี่สยามโชคดีกันแน่ เอาเป็นว่าทั้งคู่โชคดีที่ได้มีกันและกันเนอะ

เรื่องนี้ให้อะไรกับเราหลายอย่างมาก ช่วยสอนให้ใช้ชีวิตด้วย(ไม่ได้เว่อร์นะ แต่มันคือความจริง หลายอย่างในเรื่อง เช่น ตอนที่ทั้งคู่เงียบใส่กันแล้ววันนึงพี่สยามดันหลุดตะคอกน้อง ทั้งๆที่น้องพยายามใจเย็นแล้ว คือเอามาใช้ในชีวิตได้เลยอ่ะ ส่วนตัวเป็นคนแบบหงุดหงิดนิดหน่อยก็ขึ้นเสียงแล้ว แต่พอได้อ่านก็เข้าใจว่าเออ อีกฝ่ายเขาก็เสียใจเนอะที่อยู่ๆเราจะไปขึ้นเสียงใส่เขา)

ขอบคุณคุณชาลมากๆนะคะ ที่แต่งนิยายเรื่องนี้ ไม่รู้จะตอบแทนยังไงอ่ะ เวลาเห็นคุณทวิตว่าป่วยหรืออย่างเมื่อเช้า เราก็อยากจะช่วยคุณ อยากทักไปคุยกับคุณแต่ก็กลัวจะรบกวน ยังไงถ้าไม่สบายใจทักมาหาเราได้นะคะ จะตอบทันทีเลย555555 หายป่วยไวไว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อย่าโหมงานหนักน้าาา รักและเทคแคร์นะคะ :กอด1: :L1: :L2:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เรื่องนี้จริงๆแล้ว พี่หยัมเป็นคนที่มั่นคงหนักแน่นในความรักสมปองมากนะ
ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวมองใคร ไม่มีการนอกกายนอกใจไปกับคนอื่นเลย
ส่วนความผิดครั้งล่าสุด พอจะเข้าใจในเหตุผลอยู่ ที่โกหกเพราะไม่อยากให้คนรักไม่สบายใจ
ก็สมควรแล้วที่สมปองจะยอมยกโทษให้ได้ไม่ยากเมื่อรู้และเข้าใจในเหตุผลที่แท้จริง

ในชีิวิตจริงของคนเราก็คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า..ไม่เคยจะพูดโกหก ใช่ไหม
เพราะบางครั้งเราก็ยอมจะพูดโกหกออกไป..แต่มันเพียงเพื่อเจตนาดี บริสุทธิ์ใจ
เป็นคำโกหกสีขาว ไม่มีเจตนาร้ายแอบแฝงชั่วร้ายตามมาทีหลัง

ดีใจที่ทั้งพี่หยัมและน้องปองสมหวังกับความรักครั้งนี้
เพราะทั้งคู่เป็นคนรักที่ดีต่อกัน ความรักจึงงอกเงยอย่างสวยงาม

ขอบคุณคนแต่งฮับ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยากเจอหลานสมหยัมแล้ว  :o8:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องปองน่าร้ากกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด