รักนี้มีแค่....'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 33
8 ปีผ่านไป.....
"คิมจีซอน เร็วๆหน่อยได้ไหมคะลูก เดี๋ยวก็ไปไม่ทันได้ดูพี่ชายสุดที่รักของเราแสดงกันพอดี" เซฮุนตะโกน
เร่ง เรียกลูกสาวคนเล็กวัยแปดขวบของตัวเองมาครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ต้องมีเกินสิบครั้งขึ้นไป
ใครบอกว่าเลี้ยงลูกสาวง่ายกว่าลูกชายนั้นเซฮุนคนนี้ขอเถียงใจขาดดิ้นเลยว่ามันเป็นการโกหกทั้งเพ เพราะ
คิมจีซอนลูกสาวคนเล็กของเขานั้นแสบไม่ต่างไปจากจีซองลูกชายคนโตของเขาเลย เรียกได้ว่าถอดแบบ
กันมาเลยดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน เรื่องความแสบ ยิ่งเรื่องความเจ้าเล่ห์แล้วเรียกได้ว่าจีคนพี่กับจีคนน้อง
ไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียวเชียวล่ะ เล่นเอาทั้งเขาและจงอินมีเรื่องต้องให้ปวดหัวกันได้ทุกวันทุกเวลา
เมื่อแปดปีที่แล้ว หลังจากที่เขาและจีซอนลูกสาวคนเล็กของเขานั้นสุภาพแข็งแรงและดีขึ้นเป็นปกติ
ร้อยเปอร์เซ็นต์ จนหมออนุญาติให้กลับบ้านได้แล้วนั้น จงอินก็เอาเอกสารยืนยันการรักษาของเขาและจีซอน
กลับไปจัดการฟ้องร้องและดำเนินคดีกับชินมินอาอย่างจริงจังอีกที จนศาลตัดสินให้มินอาได้รับโทษขั้นสูงสุด
คือการจำคุกตลอดชีวิต แต่เวลาผ่านไปได้แค่ปีกว่าๆก็มีข่าวออกมาว่ามินอามีอาการทางจิตชนิดรุนแรงที่
ชอบเห็นภาพหลอนและคอยแต่จะทำร้ายตัวเองตลอดเวลา จนถูกส่งไปอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชแทน
ซึ่งเขาและจงอินก็ทำได้เพียงแค่การอโหสิกรรมและให้อภัยผู้หญิงคนนี้ไปเพียงเท่านั้น
ส่วนจงอินเองก็หยุดทำงานในวงการบันเทิงไปได้แค่เพียงสองปีกว่าๆก็ต้องกลับเข้าไปรับงานอีกครั้งทั้งๆ
ที่ความตั้งใจแรกของจงอินคือการยุติการเป็นศิลปินของตัวเองเพราะรู้สึกผิดกลับแฟนคลับและประชาชนใน
เรื่องข่าวต่างๆ ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องกลับเข้าวงการอีกครั้งเพราะทนเสียงเรียกร้องของประชาชนและแฟนคลับ
ของตัวเองไม่ไหว แต่แทนที่กลับไปแล้วงานจะซาๆหรือน้อยลงไปกว่าเมื่อก่อนบ้างเพราะมีครอบครัวแล้ว
แต่ก็ไม่เลย กลับกันจงอินมีงานรุมเข้ามาเยอะกว่าตอนก่อนที่จะมีข่าวออกมาเสียด้วยซ้ำเรียกว่าตอนนี้เป็น
จุดพีคจุดสูงสุดของจงอินในวงการบันเทิงเลยก็ได้
และตัวเซฮุนเองก็ยังคงทำอยู่ที่ขนม ทำเค้กอยู่ที่อินดี้คาเฟ่ร้านกาแฟของตัวเองเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติม
ก็คือสาขาที่สอง สาม สี่ และห้า ของอินดี้คาเฟ่ที่ขยายออกไปต่างหาก เพราะหลังจากที่แฟนคลับของจงอิน
ที่เคยมาชมมาชิมสูตรเด็ดที่ร้านและรู้ว่าเป็นร้านของเขาเอง ก็ช่วยโฆษณาช่วยบอกกันไปปากต่อปากจนมี
ลูกค้าตามกันมาชิมเรื่อยๆ จนที่ร้านรับไม่ไหวถึงกับต้องขยายไปถึงห้าสาขาทั่วเกาหลีกันอย่างที่เห็นนี่แหละ
ส่วนลูกหมูน้อยจีซองตัวแสบของทุกคนเมื่อแปดปีที่แล้วน่ะหรอ? อยากรู้กันรึเปล่า? ถ้าอยากรู้ก็รีบตาม
หม่าม๊าเซฮุนและลูกหมูจีซอนคนน้องกันไปเลยจ้ราาา.....
.
.
.
.
.
Music Bank (KBS Studio)
"สวัสดีคร้าบบบ....สวัสดีทั้งผู้คนที่อยุ่ในห้องส่งและผู้ชมทางบ้านที่นั่งรอดูกันอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์กัน
ด้วยนะครับ ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนเลยว่าในวันนี้เมื่อสิบสามปีที่แล้วผมเพิ่งจะได้มาเป็นพิธีกรฝึกหัดครั้งแรก
บนเวทีนี้ ถ้าใครจำได้ช่วยบอกผมได้หน่อยได้ไหมครับว่าในวันนี้เมื่อสิบสามปีที่แล้วผมเปิดตัวพร้อมกับศิลปิน
คนไหน??" พิธีกรพูดเปิดรายการพร้อมกับถามผู้ชมคนดูที่อยู่ในห้องส่งกลับไปถึงวันวานในความทรงจำ
"คิมไค!!!!!!!" คนดูในห้องส่งตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันจนดั่งลั่นห้องส่ง
"โอ้ววว...ถ้าพวกคุณพร้อมใจกันตอบอย่างนี้ี ก็แสดงว่ารู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าศิลปินคนต่อไปคือใคร
ถึงจะไม่ใช่คิมคนพ่อ แต่เป็นคิมคนลูกที่มีดีไม่แพ้กันเลย....ใครที่เคยมองเมิน เดินก็ต้องหยุด เมื่อเห็นลีลา
ท่าทางการเต้นอันพริ้วไหวและเสียงร้องที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเขา ถ้าพร้อมแล้วก็ไปพบกับผู้ที่ได้รับ
ฉายาว่าเป็นหนูน้อยอัจฉริยะที่เพียบพร้อมทุกด้านทางดนตรี 'คิมจีซอง!!!!' กันเลยคร้าบบบบบบ...."
พิธีกรร้องบอกส่งเข้าช่วงต่อไปของรายการอย่างตื่นเต้นและไฟทั้งหมดในห้องส่งจะมืดดับลง ซาวด์ดนตรี
เริ่มต้นของเพลงที่ไม่คุ้นหูแต่ชวนคนฟังเคลิ้มตามได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เงามืดที่โชว์ท่วงท่าอันพริ้วไหว
กลางเวทีเริ่มที่จะเด่นชัดขึ้นมาทีละนิดๆ จนเพลงเริ่มถึงช่วงบีทบีทหนักๆจังหวะเร้าใจ แสงไฟก็สว่างวาบ
สาดส่องเข้าไปจุดกลางเวทีที่มีร่างของเด็กหนุ่มหน้าตาคมคายละม้ายคล้ายคลึงกับซุปเปอร์สตาร์คนดัง
กำลังวาดลวดลายแสดงฝีมือทั้งร้องทั้งเต้นสะกดสายตาผู้ชมคนดูทั้งในห้องส่งและทางบ้านให้ละสายตา
ออกจากการแสดงสุดเพอร์เฟคของเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้เลยทีเดียวเชียว
""กรี๊ดดดดดด...คิมจีซอง!!!...จีซองอาาา~" เสียงกรีดร้องดังลั่นห้องส่งทันทีเมื่อการแสดงบนเวทีจบลง
แต่ตัวศิลปินเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินกลับเข้าไปยังห้องพักหลังเวทีของตัวเองเพื่อรอที่จะขึ้นโชว์ตัว
อีกครั้งบนเวทีในช่วงท้ายของรายการ เพราะมีศิลปินอีกหลายคนหลายกลุ่มที่รออยู่ข้างเวทีเพื่อที่จะแสดง
ต่อจากเขา
"ว่ายังไงครับพ่อซุปตาร์ตัวน้อย เป็นยังไงบ้างหายตื่นเต้นรึยังฮึ?" ป้าหมินหรือคิมมินซอกที่มาทำหน้าที่
เป็นผู้จัดการส่วนตัวคอยดูแลคิมคนลูกแทนคิมคนพ่อที่ตอนนี้ได้จงแดคู่หูเมเนเจอร์ของเขาไปรับหน้าที่ดูแล
คิมไคหรือคิมจงอินแทนเขา เนื่องจากจีซองขอร้องประธานโอหรือคุณตาของเจ้าตัวว่าให้เขามาช่วยดูแล
ตัวเองแทนที่จะเป็นจงแดเพราะสนิทกับเขามากกว่า อ้อนชนิทที่ว่าประธานโอจอมโหดรีบทำตามแทบจะ
ทันทีทันใดด้วยความที่รักและหลงหลานชายคนนี้มากกว่าใครๆ แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจ เข้าข้างและอวยจีซอง
ไปซะทุกเรื่อง เพราะกว่าที่จีซองจะมาเป็นศิลปินเต็มตัวอย่างวันนี้ได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นการฝึกมหาโหดเลยที
เดียว หลังจากงานวันเกิดที่จีซองมีอายุได้เจ็ดขวบเต็มแล้ว เจ้าตัวก็เริ่มเข้าโปรแกรมฝึกหัดของบริษัททันที
แบบที่ครูฝึกในค่ายไม่มีความเกรงใจหรือเกรงกลัวว่าเป็นหลานของประธานบริษัทเลย เพราะก่อนหน้านี้
ประธานโอและจงอินก็ได้บอกและย้ำกับครูฝึกทุกคนทุกส่วนแล้วว่าจีซองจะเข้ามาในบริษัทในฐานะเด็กฝึก
ธรรมดาๆคนนึง ให้สอนสั่ง พูดว่าหรือลงโทษได้เลยถ้าจีซองทำผิดหรือทำอะไรไม่ถูกต้องตรงไหน เรียกได้ว่า
ฝึกหนักเกินกว่าเด็กฝึกคนอื่นๆไปเลยดีกว่าเพราะบางทีบางครั้งจีซองก็โดนทั้งประธานโอและจงอินต่อว่า
ต่อหน้าเด็กคนอื่นๆในค่ายเลยเมื่อทำได้ไม่ดี ในตอนที่ถึงเวลาทดสอบความสามารถประจำเดือนของบริษัท
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่บริษัทจะต้องคัดเลือกศิลปินเดบิวต์ใหม่ประจำปี ปีนี้เป็นจีซองจึงไม่มีใครโวยวายหรือ
พูดว่านินทาอะไรเลยเพราะว่าได้เห็นผลงานมาตลอดระยะเวลาห้าปีของการเป็นเด็กฝึกหัดของจีซอง
ทุกคนจึงหมดข้อครหาใดๆ ในตัวของจีซอง ไม่ว่าจะเป็นประชาชนคนดูหรือจากเด็กฝึกด้วยกันก็ตาม
"ตื่นเต้นสิครับป้าหมิน จีซองตื่นเต้นสุดๆไปเลย ยิ่งตอนที่คนดูในห้องส่งนั่งเงียบกันนะ ตอนนั้นจีซอง
ใจคอไม่ดีเลยอ่ะบอกตรงๆ ว่าแต่หม่าม๊า ป๊ะป๋า จีซอนและทุกคนที่บ้านยังไม่มีใครมาอีกหรอครับป้าหมิน"
จีซองก็ยังคงเป็นเด็กน้อยจีซองจอมแสบคนเดิมที่ชอบเข้ามาออดอ้อนกอดเขาในยามที่ตื่นเต้นหรือดีใจ
เหมือนเดิมในความรู้สึกของซิ่วหมิน เพียงแต่จีซองน้อยของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีตัวนุ่มนิ่มและอ้วนกลม
พุงป่องเหมือนตอนเด็กๆแล้วก็เท่านั้น เพราะตอนนี้คิมจีซองคือเด็กหนุ่มที่โตเกินวัยสิบสามปีของเจ้าตัว
พุงป่องๆ ตัวนิ่มๆ ก็กลายเป็นเด็กหนุ่มตัวโต สูงใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อเฟิร์มๆอยู่ทั่วทั้งร่างกาย ยิ่งหน้าตาแล้วนี่
ไม่ต้องไปพูดถึงเลย เพราะเจ้าตัวนั้นถอดแบบคนเป็นพ่ออย่างจงอินมาแทบจะร้อยเปอร์เซ็นเองมีเพียงแค่
ดวงตากลมสองข้างและผิวสีน้ำนมขาวใส่เท่านั้นนั่นแหละที่ได้มาจากแม่อย่างเซฮุนแต่นั้นก็ไม่ใช่ข้อด้อย
แต่อย่างใด กลับกันสิ่งเหล่านี้ที่รวมกันอยู่ในตัวของจีซองแล้วมันเหมือนกับเป็นรูปปั้นของพระเจ้าก็ไม่ปาน
จีซองหลานชายสุดหล่อของเขาตอนนี้เป็นเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของวงการบันเทิงของเกาหลีไปแล้ว
เพราะไม่ว่าจะเป็นสาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม หรือแม้แต่แฟนบอยก็ต้องการที่จะได้สัมผัสได้เห็น
คิมจีซองตัวเป็นๆกันทั้งนั้นแหละ
"คงจะมากันหมดแล้วหล่ะ แต่อยู่กันตรงไหนป้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเมื่อกี้ตอนที่ป๊ะป๋าของเรา
โทรมาป้าไม่ได้รับเพราะว่าตอนนั้นเราอยู่ข้างเวทีกันแล้ว ยังไงเดี๋ยวตอนรายการจบก็ได้เจอกันอยู่ดี ป้าว่า
ตอนนี้จีซองเตรียมตัวกลับขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีดีกว่า เพราะป้าเชื่อว่างานนี้จีซองจะต้องชนะแแน่ๆ"
"ครับผม ขอบคุณนะครับป้าหมินที่คอยดูแลและอยู่ข้างๆจีซองมาตลอด" จีซองบอกพร้อมกับหอมแก้ม
ของมินซอกแรงๆอย่างที่ชอบทำตั้งแต่เด็กจนโต
"หึๆ ไม่ให้ดูแลหลานของตัวเองแล้วจะให้ป้าไปดูแลใครกันฮึไอ้ตัวแสบ ไปๆไปเตรียมตัวข้างเวทีกันดีกว่า"
มินซอกบอกพร้อมกับขยี้หัวของจีซองเบาๆด้วยความรักและเอ็นดู ก่อนที่สองคนป้าหลานจะพากันเดินไป
ข้างเวทีเพื่อที่จะไปรอแสตนบายรอปิดรายการ
.
.
.
.
.
อีกด้านหนึ่งของห้องส่ง (บริเวณจุดอับสายตาข้างเวที)
"ขอบใจเราสองคนมากนะเซฮุน จงอิน ที่ทำให้พ่อได้มีวันนี้อย่างที่ฝัน ขอบใจมากจริงๆ ที่สร้างจีซอง
ให้เข้ามาเป็นส่วนที่เติมเต็มในครอบครัวของเรา" ประธานโอบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มเคล้าน้ำตาแห่งความสุข
ส่งไปให้กับเซฮุนและจงอินที่ยืนดูจีซองรับรางวัลเพลงยอดนิยมประจำสัปดาห์อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าภูมิ
ใจและตื้นตันใจจริงๆ สำหรับคนเป็นตาและเป็นประธานบริษัทต้นสังกัดของจีซอง ที่เห็นจีซองได้รับรางวัล
ตั้งแต่วันแรกที่เดบิวต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการอย่างนี้เลย
"เราสองคนก็ต้องขอบคุณคุณพ่อด้วยฮะ ขอบคุณที่คุณพ่อยอมให้อภัยในความผิดพลาดของเราสองคน
ขอบคุณที่คุณพ่อรักและเอ็นดูจีซอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมขอขอบคุณคุณพ่อมากๆเลยฮะที่วันนี้คุณพ่อ
ได้มีความสุขอย่างแท้จริงสักที" เซฮุนบอกก่อนที่จะเข้าไปซุกอกร้องไห้กอดประธานโออย่างเต็มรัก สิบสามปี
เกิือบสิบสี่ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เขาตั้งท้องจีซอง มันอาจจะเป็นเวลาที่ไม่นานสักเท่าไหร่สำหรับใครหลายคน แต่
สำหลับเซฮุนนั้นมันเหมือนกับความยาวนานแทบจะทั้งชีวิตเลยเสียด้วยซ้ำที่ไม่สามารถพูดหรือมองหน้าพ่อ
ของตัวเองได้อย่างสนิทใจเพราะมีความรู้ผิดที่ติดค้างอยู่ในใจแทบจะตลอดเวลา แต่วันนี้ วันที่เห็นความ
สำเร็จของลูกชายตัวเอง วันที่ได้มองเห็นรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความสุขใจของคนเป็นพ่อ ในฐานะที่เขาเป็น
ทั้งแม่และลูกของจีซองและประธานโอ คำเดียวที่เซฮุนพูดได้ตอนนี้คือ เขามีความสุขมากจริงๆ
"ฮึๆ เลิกร้องไห้ได้แล้วไอ้ลูกคนนี้นี่มีลูกต้องสองคนแล้วนะยังจะร้องไห้เป็นเด็กๆไปได้ เอาล่ะ!! จงอินมา
เอาเซฮุนไปปลอบต่อแทนพ่อทีสิ พ่อจะไปรอจีซองที่ห้องแต่งตัวหลังเวทีสักหน่อย โน่นๆ ยัยจีซอนตัวป่วน
กวักมือเรียกพ่อจนมือจะหักอยู่แล้ว" ประธานโอบอกพร้อมกับส่งตัวเซฮุนที่อยู่ซุกอกตัวเองอยู่ไปให้จงอิน
ก่อนที่จะผละเดินไปหาจีซอนหลานสาวคนเล็กที่ยืนกวักมือเรียกตนอยู่กับลุงจุนและอายอลลี่ของเจ้าตัว
อยู่ตรงประตูทางเข้าหลังเวทีของพวกศิลปินหรือทีมงานทั้งหลาย
"โอ๋ๆ เลิกร้องได้แล้วนะครับหม่าม๊าคนสวย ดูโน่นสิ! เห็นมั้ยว่าวันนี้จีซองลูกชายของเรามีความสุขมาก
มายขนาดไหนกัน" จงอินชี้ชวนให้เซฮุนดูจีซองที่กำลังเริ่มแสดงผลงานเพลงแรกในชีวิตของตัวเองอีกครั้ง
เพื่อเป็นการฉลองให้กับรางวัลแรกในการเป็นศิลปินเต็มตัวของตัวเอง
"ขอบคุณนะครับเซฮุนขอบคุณที่เสียสละตัวเองทิ้งความฝันไป และยอมที่จะเป็นคนธรรมดาๆ
เพื่อที่จะรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดอย่างจีซองไว้ และก็ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ยอมกลับมาหากัน กลับมารักกัน
.........รักนะครับคุณกระต่ายที่รักของผม" จงอินบอกพร้อมกับจ้องตาส่งความรู้สึกจากหัวใจตัวเองให้เซฮุน
ได้รับรู้ ว่าเขานั้นรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
สิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับจงอินแล้วนั้น ไม่ใช่การเป็นศิลปินดาราหรือความเป็นซุปเปอร์สตาร์
แต่อย่างใด เพราะตราบใดที่ชีวิตของเขานั้นยังต้องอยู่รอดโดยการอาศัยอัตราการเต้นของหัวใจเมื่อใด
เมื่อนั้น....ความสำคัญและความสุขที่สุดในชีวิตของเขานั้นก็จะมีแค่สิ่งเดียวคือ....'โอเซฮุน'
"ก็เพราะว่าความรักของฉันคนนี้มีให้แค่ 'นายซุปเปอร์สตาร์' อย่างนายคนเดียวยังไงล่ะคิมจงอิน"
ไม่ว่าวันเวลาที่ผ่านมาจะต้องล้มลุกคลุกคลานหรือผิดพลาดมากน้อยเพียงใด กาลเวลาจะแปลเปลี่ยน
หมุนเวียนไปอีกเนิ่นนานเท่าใด หรือแม้แต่ว่าจงอินจะเป็นเพียงแค่คิมจงอินคนธรรมดาๆไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์
เหมือนอย่างทุกวันนี้ ผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนคนนี้ก็ขอที่จะมั่นคงและซื่อสัตย์กับเสียงร้องเรียของหัวใจของตัวเอง
ที่เฝ้ารอที่จะรักแค่คิมจงอินแต่เพียงผู้เดียวก็พอ.........
(...End...)
...
นิยายเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนจบแล้วนะคะ.....(แอบเศร้า) ก่อนอื่นเลยคือ มี่ต้องขอขอบคุณนักอ่านหรือแฟนนิยายที่น่ารัก
ของมี่ทุกคนที่ติดตามกันมาตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงวันนี้ ทั้งๆที่มี่ก็เป็นเพียงแค่นักเขียนมือใหม่ที่ฝีมือไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจที่ช่วยกันส่งเข้ามา ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ให้โอกาสนักเขียนสมัครเล่นอย่างมี่
*ในส่วนของจุนมยอนและชานยอลมี่จะขอแยกออกมาเป็นช็อตสั้นๆของทั้งสองคนก็แล้วกันนะคะ(ไม่เกินห้าตอนหรอกค่ะ)
*และมี่จะเริ่มทยอยรีไรท์เนื้อหาแรกๆของเรื่องนี้ที่ยังคงเป็นภาษาอนุบาลๆแรกๆของมี่ด้วยนะคะ ถ้าคิดถึงจงอิน เซฮุนหรือ
ลูกหมูน้อยจีซองตัวแสบก็ลองกลับเข้ามาอ่านกันได้นะคะ
*แต่ตอนพิเศษนี่มี่ไม่ขอรับปากนะคะ แต่มีคนต้องการอ่านเยอะหน่อยมี่ก็อาจจะมีก็ได้ค่ะ
*ไหนๆก็จบเรื่องแล้วช่วยบอกความรู้สึกของทุกคนที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ให้มี่ฟังกันหน่อยได้ไหมคะ? (แล้วมี่จะรออ่านน้าาา..)
*อย่าลืมติดตามเรื่องใหม่ของมี่กันด้วยนะคะ
รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. มี่ร๊ากกกกกทุกคนที่สุดเลยค่ะ ....................สวัสดีค่ะ!!! บ๊ายบาย!!!