{Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**  (อ่าน 93252 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สงสัยตัวเล็กคงอยากเซอร์ไพรส์ทุกคนในวันคลอดทีเดียวเลยละมังคะเนี่ย ^^

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ก่อนอื่นเลย
ต้องบอกว่ามี่สู้ๆนะคะ พี่สาวเราก็เป็นค่ะที่เข่า ใช้เวลารักษานานเหมือนกัน และต้องหมั่นทำกายภาพด้วย พยายามเข้านะคะ

งั้นแสดงว่าตอนนี้ก็มีกล้องตามติดครอบครัวไปทุกที่เลยสิ จีซองต้องมีแฟนคลับเยอะแน่ๆ ฮิๆๆๆๆ
แถมลุงจุนกับป้ายอลลี่อีก กรี๊ดดดดดดด ฟินนนน
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ Appman

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
สู้นะจ๊ะ..และขอให้หายไวๆ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำใหเข้มแข็งขึ้นค่ะ สู้ๆๆ

ออฟไลน์ FONS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอให้หายไวๆ นะคะ

อ๊ายๆๆๆ จีซอง.... รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เป็นกำลังใจให้กับนักเขียนนะคะ สู้ ๆ ค่ะ ขอให้แข็งแรง ๆ ในเร็ววัน

ตายหละไม่ใช้รุู้แค่คุณพ่อหมีกับคุณแม่กระต่ายนะ ความลับนี้รู้กันทั่วประเทศแล้ว ตาย ตาย ตาย

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ครอบครัวมุ้งมิ้งมากๆๆ ^0^
อยากรู้ฟีดแบคของคนดูจัง ว่าหลงรักจีซองแล้วรึยัง

ปล. คนแต่งหายเร็วๆนะคะ ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ ><

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
จะคลอดแล้ว ครอบครัวนี้ดูมีความสุขมสกเลย โชคดีที่จงอินกับเซฮุนได้เจอกัน

หายไวๆนะคะคุณมี่ ขอให้แข็งแรงเหมือนเดิมไวๆค่ะ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 28

 

      [ปาร์คชานยอล&คิมจุนมยอน]

 

 

 

 

 

ลานจอดรถใต้ดินของตึก HK Entertainment  เวลา 02.23 น.

 

     “เมื่อไหร่นายจะเลิกทำอย่างนี้ซักทีปาร์คชานยอล” จุนมยอนพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นว่ามีคน

นั่งหลับพิงรถของเขาอยู่ตอนนี้ ถึงจะใส่เสื้อผ้าปิดมิดชิดสักแค่ไหนก็เถอะ คนที่ทำเรื่องบ้าๆอย่างนี้มี

แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ แล้วจะใช่ใครที่ไหนถ้าไม่ใช่ปาร์คชานยอลแร๊พเปอร์ชื่อดังนักร้องในสังกัด

ค่ายคู่แข่งอย่างบริษัท CB Entertainment ที่เป็นคู่แข่งคู่ปรับตลอดกาลของ HK Entertainment  และ

หลังจากที่เจ้าตัวประกาศว่าจะง้อเขาให้ได้ในวันนั้นปาร์คชานยอลก็เข้ามาวนเวียนให้จุนมยอนได้เห็น

หน้าอยู่ทุกวัน ไล่แล้วไล่อีกก็ไม่ยอมไป พอสั่งห้ามไม่ให้รปภ.ปล่อยคนที่ชื่อปาร์คชานยอนไปหาเขา

บนตึกเจ้าตัวก็มานั่งรอนั่งเฝ้าอยู่ข้างรถเขาอย่างที่เห็นนี่แหละ เขาไม่คิดเลยจริงๆว่าพ่อแร๊พเปอร์คนดัง

นี่จะไม่มีตารางงานหรือทำตัวให้ว่างเองก็ไม่รู้ แล้วเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชานยอนนั่งอยู่ที่นี่ได้ยังไง

ตั้งนานสองนาน เพราะถึงจะยังไม่ใช่หน้าหนาวก็เถอะแต่อากาศตอนตีสองในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลาง

เดือนตุลาอย่างนี้มันก็เย็นใช่เล่นอยู่นะ ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไงกัน  เฮ้อ!! จุนมยอนอยากจะบ้า

 

    ปิ๊บ!!!  ปิ๊บ!!!

 

     “อ๊ะ!!! อ่าว...จุนนี่ทำงานเสร็จแล้วหรอ” ชานยอนสดุ้งตกใจตื่นเพราะเสียงปลดล็อครถของจุนมยอน

ก่อนที่จะถามอย่างงัวเงียเมื่อเห็นว่าจุนมยอนยื่นอยู่ข้างหน้าไม่ห่างจากตัวเขาเท่าไหร่นัก

 

     “นายไม่มีอะไรจะทำหรอปาร์คชานยอลถึงได้มานั่งหลับตามลานจอดรถหรือชั้นใต้ดินเหมือนคนเร่ร่อน

ไร้ที่อยู่อย่างนี้ได้ทุกวันนะห๊า!!!!!” จุนมยอนตวาดดังลั่นอย่างหมดความอดทนเมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วย

ความเหนื่อยล้าของชานยอล ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าชานยอนงานยุ่งหรืองานเยอะแค่ไหนในเมื่อเวลาที่เขา

เปิดทีวีดูเขาก็จะเห็นชานยอลมีส่วนร่วมแทบจะทุกรายการที่เกี่ยวกับวงการเพลงหรือเกมโชว์แล้วยิ่งคิมไค

คู่แข่งอันดับหนึ่งมีข่าวฉาวขนาดนี้ใครๆก็อยากดึงชานยอลไปร่วมงานดึงกระแสสร้างเรตติ้งให้กับรายการ

การตัวเองกันทั้งนั้นแหละ ทำงานเยอะขนานนั้นแล้วยังจะมานั่งเฝ้าเค้าชั่วค่อนคืนอย่างนี้แล้วจะเอาเวลาที่

ไหนไปนอนไปพักผ่อน จุนมยอนไม่เข้าใจเลยจริงๆ

 

     “ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องของเรามันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เลิกพยายามได้แล้ว!!” จุนมยอนฝืนใจ

บอกทั้งๆที่ตรงข้ามกับความต้องการจริงๆของตัวเอง

 

     “ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันรักนายมากแค่ไหน บอกแล้วไงว่าจะไม่มีทางที่จะยอมแพ้เรื่องของเรา” ชานยอล

ลุกขึ้นจากพื้นและบอกยืนยันคำตอบเดิมของตัวเองเหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา แต่กลับหน้ามืดขึ้นมา

กะทันหัน

 

     “นายเป็นอะไรไปน่ะชานยอล” จุนมยอนถลาเข้าไปรับทันทีที่ชานยอลทำท่าเซเหมือนจะล้ม

 

     “ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่กๆ” ชานยอลบอกพร้อมกับไอออกมา

 

     “ไม่เป็นไรบ้าบออะไร ตัวร้อนขนาดนี้ห๊ะ!!” จุนมยอนแหวใส่เมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผล่ออกมา

จากร่างกายของชานยอล

 

     “ไม่เป็นไรจริงๆ แค่กๆ” ชานยอลยังคงดื้อดึง

 

     “ไปๆเดี๋ยวฉันจะพาไปส่งที่บ้านนายเอง ป่วยแล้วยังไม่เจียม” จุมยอนค่อนคอด ประคองชานยอล

ไปทางฝั่งข้างคนขับเปิดประตูยัดชานยอลเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับอ้อมมาขึ้นประจำที่ของตัวเองและ

ออกรถมุ่งหน้าไปส่งชานยอลที่บ้านทันที

.

.

.

.

.

     เพราะว่าบ้านของชานยอลเป็นเพนท์เฮ้าส์หรูที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของคอนโดหรูใจกลางเมืองทำให้

จุนมยอนต้องระมัดระวังมากๆในการเข้าออกแต่ระครั้งแต่ดีที่ก่อนหน้านี้ชานยอลพาเขาเข้ามาบ่อยๆ

เลยทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลทางเข้าออกคอนโดนี้ยังพอคุ้นหน้าคุ้นตาเขาอยู่บ้างจึง

ปล่อยเขาขับรถเข้ามาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินได้อย่างนี้

 

     จุนมยอนแบกชานยอนขึ้นมาบนห้องได้อย่างอยากลำบาก แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครได้ทันเห็นแร๊พเปอร์

คนดังหมดสภาพแบบนี้เพราะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว

 

     “อย่าใจร้ายกับผมนักได้ไหมจุนนี่ เพราะอะไรทำไมคุณถึงได้ทำเหมือนว่าไม่เคยรักกัน” ชานยอล

เพ้อออกมาด้วยพิษไข้ในขณะที่จุนมยอนกำลังเช็ดตัวให้อยู่ และคำถามแบบเพ้อๆของชานยอลทำให้

จุนมยอนได้ย้อนนึกไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเขาทั้งสองคน

.

.

.

.

.

ย้อนไปถึงครั้งแรกที่ชานยอลและจุนมยอนได้พบเจอกัน

   

     ชานยอนที่เดินออกมาจากร้านกาแฟของเซฮุนด้วยความหงุดหงิด เพราะว่าคนสวยที่แสนดีของเขานั้น

มีลูกและสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วแต่นั่นมันไม่ใช่สาเหตุที่เขามาหงุดหงิดอยู่อย่างนี้หรอกเพราะว่าถึงจะมี

ครอบครัวแล้วเขาก็ยังอยากที่จะคบคนคนดีๆมีน้ำใจอย่างเซฮุนถึงแม้ว่าจะฐานะเพื่อนก็ตาม ต่อให้ชอบ

หรืออยากได้แค่ไหนคนอย่างปาร์คชานยอลก็ไม่คิดจะแย่งหรืออยากได้คนมีเจ้าของหรอก แต่ที่เขาหงุด

หงิดอย่างนี้ก็เพราะว่าไอ้เจ้าของคนสวยของเขามันคือคิมไคศัตรูอันดับหนึ่งในวงการของเขานะสิ!!

 

     ปึก!!!!

 

     “โอ๊ะ!/โอ้ย!” เดินออกมาจากร้านกาแฟของเซฮุนได้ไม่กี่ก้าวชานยอลก็เดินชนกับใครก็ไม่รู้เข้าให้

 

     “ขอโทษครับๆ” ชานยอลเอ่ยขอโทษพรางช่วยคนที่เขาชนล้มไปเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่ข้างๆ

ตัวเจ้าของอยู่ตอนนี้

 

     “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ทันได้มองทาง” จุนมยอนพูดขอโทษทั้งๆที่ยังไม่ยอม

เงยหน้ามองคนที่เดินชนตัวเองเพราะรีบเก็บของอยู่ กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้เจ้าหลานตัวดีจะอาละวาดฟาด

งวงฟาดงาใส่หนักกว่าเดิมซะอีกหลังจากที่เขาผิดนัดกับเจ้าตัวมาตั้งแต่บายแล้วว่าจะพาไปกินของอร่อย

แต่ว่าเขาดันติดประชุมด่วนเสียนี่ เลยทำให้เจ้าตัวโทรจิกเร่งเขายิกๆตั้งแต่ออกมาจากห้องประชุมได้

 

     “ยังไงก็ต้องขอโทษครับเพราะว่าผมก็ไม่ได้มองทางเหมือนกัน นี่ของคุณครับ” ชานยอลบอกพร้อม

กับยื่นของชิ้นสุดท้ายที่ตกอยู่ที่พื้นข้างตัวของเขาส่งให้เจ้าของ แต่พอได้เห็นหน้าคนที่เขาเดินชนเท่านั้น

แหละ ถ้าเป็นในหนังสือการ์ตูนก็คงจะเห็นลูกศรรักรูปหัวใจพรุ่งใส่หน้าอกข้างซ้ายของเขาแน่ๆเลย

 

     “ขอบคุณครับถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับพอดีผมรีบ” จุนมยอนพูดบอกพร้อมกลับรีบจ้ำเดิน

เข้าร้านกาแฟของเซฮุนไป เพราะไม่อยากให้หลานรักกลายร่าง ก็จีซองน่ะนะน่ารักขี้อ้อนแค่กับพ่อแม่

ของตัวเองเท่านั้นแหละ แต่ถ้ากับลุงอย่างเขาน่ะหรือ หึ! อย่าต้องให้พูด ยิ่งเวลาทำให้เจ้าตัวโกรธหรือ

หงุดหงิดยิ่งแล้วใหญ่ จากเด็กน่ารักๆกลายเป็นปีศาจลูกหมูทันทีเลยหล่ะ แต่จะโทษใครได้นอกเสียจาก

ตัวเขาเองที่สั่งสอนและก็ตามใจหลานให้เป็นอย่างนี้เอง

 

     “แล้วเจอกันใหม่นะครับคุณนีออนคนสวย คุณทำให้ผมได้รู้จักคำว่ารักแรกพบซะแล้ว” ปาร์ชานยอล

พูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อมองตามจุนมยอนเข้าไปในร้านที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังเหมือนกับง้องอนจีซองลูกชาย

ของเซฮุนอยู่ ใบหน้าคมที่ซ่อนอยู่ในใต้หมวกที่มีฮู้ดสวมทับอีกทีระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

.

.

.

.

สองอาทิตย์ต่อมาที่ Indy Café

 

     ปาร์คชานยอลเดินเข้ามาภายในร้านกาแฟของเซฮุนอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงคนตัวขาวที่ได้เจอเพียงครั้ง

เดียวก็ติดตรึงเข้าไปจนเต็มหัวใจ และที่มาวันนี้เขาก็หวังว่าจะได้เจออีกซักครั้งหรือไม่ก็ได้รู้อะไรเกี่ยวกับ

คนตัวขาวคนนั้นไม่มากก็น้อย และเขามั่นใจว่าเซฮุนจะต้องรู้จักคนๆนั้นของเขาเพราะว่าวันนั้นตอนที่เขา

มองตามเข้ามาในร้านก็เห็นคนๆนั้นเข้าไปกอดจีซองลูกชายของเซฮุนอย่างสนิทสนม

 

     “อินดี้คาเฟ่ยินดีต้อนรับครับ” หนึ่งในพนักงานคนนึงที่อยู่ตรงเคารน์เตอร์เอ่ยต้อนรับอย่างสุภาพ

 

     “เซฮุนอยู่รึป่าวครับ ผมมาพบเซฮุน” ชานยอลถามถึงเซฮุนทันทีเมื่อมองหาแล้วไม่เห็น

 

     “อ่อ! สักครู่นะครับ ผมจะตามให้” พนักงานคนเดิมบอกก่อนที่จะผละออกไปตามเซฮุน

 

     “สวัสดีฮะ พนักงานบอกว่าคุณต้องการพบผมหรือฮะ” เซฮุนที่อบขนมอยู่ในครัวของร้านพูดทัก

เมื่อแบคฮยอนเดินเข้าไปตามและบอกว่าคนที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ตอนนี้คือต้องการพบเขา

 

     “ฉันปาร์คชานยอลเองเซฮุน” ชานยอลพูดบอกพรางเปิดผ้าปิดปากออกให้เซฮุนได้เห็นหน้าตัวเอง

 

     “อ่าว! ชานยอลเองหรอ มีอะไรรึป่าว” เซฮุนถาม

 

     “เปล่าหรอกพอดีวันนี้ฉันว่างน่ะ ก็เลยแวะมาหาอะไรเย็นๆดื่มสักหน่อย ว่าจะมาขอเล่นกับหลานด้วย

ครั้งที่แล้วจีซองหลับฉันเลยไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับหลานเลย” ชานฮยอนบอกพรางส่องสายตา

มองหาจีซอง

 

     “อ๋อ! จีซองเขาออกไปหาคุณตากับลุงเขาน่ะเดี๋ยวก็มา อ๊ะ! นั่นไงมาแล้ว” เซฮุนบอกเมื่อเห็นว่าจีซอง

เดินลากจุนมยอนเข้ามาในร้าน

 

     “หม่าม๊า~ ลูกหิว~” จีซองเห็นเซฮุนเข้าก็บอกปัญหาระดับชาติเลยทีเดียวเชียว

 

     “ฮ่าๆ ใจเย็นๆครับลูก จีซองมารู้จักอาชานยอลกันก่อน คนนี้ชื่ออาชานยอลครับ อาชานยอลเขา

เป็นเพื่อนกับหม่าม๊าครับ คนเก่งสวัสดีอาชานยอลก่อนเร็ว” เซฮุนอ้าแขนรับจีซองที่วิ่งเข้ามากอด

ก่อนที่จะแนะนำให้จีซองได้รู้จักกับชานยอล

 

     “สวัดดีฮับ! อาชานยอล จีซองชื่อจีซองฮับเป็นลูกของหม่าม๊าเซฮุนคนสวยกับป๊ะป๋าจงอินที่หล่อ

ที่สุดในโลกหล้า ยินดีที่ได้รู้จักฮับ!!~” จีซองโค้งตัวแนะนำตัวตามฉบับความแสบของตัวเอง

 

     “ฮึๆ ยินที่ได้รู้จักครับสุดหล่อ เหมือนพ่อไปหมดซะทุกอย่างเลยนะเราน่ะ” ชานยอลทักทายกลับ

อย่างขำๆในความช่างพูดของจีซอง อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงคนเป็นพ่อเมื่อเห็นว่าจีซองนั้นเหมือนกับ

คิมไคย่อส่วนอย่างไงอย่างงั้น

 

     “อ่อ! ชานยอลนั่นพี่จุนมยอนลุงของจีซองพี่ชายแท้ๆของฉันเอง พี่ฮะนี่ชานยอลฮะ ชานยอลเป็น

เพื่อนของผมฮะ” เซฮุนเห็นจุนมยอนที่ยืนมองชานยอลทักทายพูดคุยกับจีซองอยู่ก็เลยแนะนำให้ทั้ง

สองคนได้รู้จักกัน



      "ผมปาร์คชานยอลยินดีที่ได้รู้จักครับ" ชานยอลเป็นฝ่ายยื่นมือไปทำความร้จักกับจุนมยอนก่อน และคำชื่อ

ของคนที่แต่งตัวปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิดที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานี้ก็ทำให้จุนมยอนนั้นต้องประหลาดใจว่า

ศิลปินเบอร์หนึ่งของค่ายคู่แข่งตลอดการของบริษัทนั้นกลายมาเป็นเพื่อนกับเซฮุนได้ยังไง



      "คิมจุนมยอนครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ" แต่ถึงจะสงสัยมากแค่ไหนจุนมยอนก็แสดงมารยาทที่ดีในการ

แนะนำตัวเองกลับไปพร้อมกับยื่นมือไปจับทักทายกับชานยอลเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป



       Tru...Tru...Tru



       "ว่าไงฮะคุณแม่ เสร็จเรียบร้อยแล้วฮะ อ่า..ก็ได้ฮะ" ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อโทรศัพท์ของ

เซฮุนก็ดังแทรกเข้ามา จนเจ้าตัวเลี่ยงออกไปรับสายไม่ไกลจากที่ยืนอยู่ตอนแรกนัก



       "คือ..อีกเดี๋ยวผมต้องเอาของว่างไปที่สมาคมพร้อมคุณแม่นะฮะ เพื่อนที่สมาคมคุณแม่เขาอยากจะคุยเรื่อง

จัดเลี้ยงอะไรสักอย่างกับผมนะฮะพี่ ยังไงผมฝากชานยอลอยู่ทานข้าวกับพี่และจีซองหน่อยนะฮะพอดีชานยอล

เขาตั้งใจจะมาเล่นกับจีซองนะฮะ ขอโทษทีนะชานยอลพอดีฉันต้องไปธุระกับคุณแม่น่ะนายอยู่คุยเล่นกับ

จีซองแล้วก็พี่จุนไปก่อนนะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเองถือว่าเป็นค่าเลี้ยงหลาน ฮึๆ" เซฮุนบอกกับจุนมยอนก่อนที่

จะหันไปพูดขอโทษกับชานยอลอีกคนนึงเมื่อเขาไม่สามารถอยู่คุยกับชานยอลได้ทั้งๆที่อีกฝ่ายตั้งใจมาแท้ๆ



       "หม่าม๊าจะไปไหนฮับ" จีซองถามเมื่อเห็นว่าแม่ตัวเองพูดกับจุนมยอนเหมือนกับว่าจะออกไปไหน



       "หม่าม๊าจะออกไปธุระกับคุณยายครับ จีซองอยู่ทานข้าวกับลุงจุนกับอาชานยอลไปก่อนนะครับ

ห้ามดื้อ ห้ามซน แล้วก็ดูแลร้านแทนหม่าม๊าด้วยแล้วหม่าม๊าจะแถมพายแอปเปิ้ลอร่อยๆให้เป็นของหวาน

ในมื้อนี้ ตกลงมั้ยครับ" เซฮุนก้มลงบอกลูกชาย



     "ตกลงฮับ!!" จีซองรีบตอบตกลงทันทีเมื่อได้ยินเซฮุนพูดถึงพายแอปเปิ้ล แหม..ก็พายแอปเปิ้ลแสนอร่อยของ

หม่าม๊าน่ะอร่อยสุดยอดเลย!! จีซองล่ะช๊อบชอบ!!

.

.

.

.

.

       กรุ๊งกริ๊ง  กรุ๊งกริ๊ง



       "อ่ะ!! ลูกค้ามา"

   

       "อ๊ะ! จีซองจะไปไหนครับ" ชานยอลถามอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าจีซองกระโดดลงจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่และรีบ

วิ่งออกไปทางหน้าร้านอย่างรวดเร็วทั้งๆที่กำลังทานข้าวอยู่



       "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ คุณทานข้าวต่อเถอะ ไอ้เจ้าหมูอ้วนมันก็เป็นอย่างนี้แหละ" จุนมยอนบอกเมื่อ

เห็นว่าชานยอลมองตามหลังจีซองไปอย่างเป็นห่วง



       "ยังไงหรอครับ"



       "อินดี้คาเฟ่ยินดีต้อนรับฮับพี่สาวคนสวย~~ พี่สาวคนสวยจะรับอะไรดีฮับ!!" ไม่ต้องรอให้จุนมยอนตอบ

อะไร เสียงของจีซองก็ดังเข้ามาให้ได้ยินและก็เป็นคำตอบให้ชานยอลได้อย่างดี



       "นั่น!! จีซองออกไปต้อนรับลูกค้าเองหรอครับ?" ชานยอลถามอย่างไม่แน่ใจนักเพราะเขาไม่เคยเห็นเด็ก

สี่ขวบที่ไหนทำอย่างจีซองมาก่อนและยิ่งไอ้คำว่า 'พี่สาวคนสวย' ที่เจ้าตัวทำเสียงอ่อนเสียงหวานยิ่งแล้วใหญ่



       "ฮึๆ ไอ้อ้วนมันร้ายใช่เล่นใช่มั้ยครับ?" จุนมยอนถามอย่างขำๆ

 

       "คงจะแสบหน้าดูนะครับ"



       "ก็เล่นเอาปวดหัวกันไปทั้งบ้านนั้นแหละ แต่ก็ดีนะครับไม่เหงาดี เดี๋ยวก็อ้อนคนโน้นอ้อนคนนี้เขาไปทั่ว

จนตายายนี่หลงหลานจนแทบจะไม่ไปทำงานทำการเลย ฮ่าๆ" และแล้วชานยอลก็ทำให้คนหลงหลานอย่าง

จุนมยอนสามารถพูดคุยกับชานยอลได้อย่างเป็นกันเองไม่ใช่ถามคำตอบคำอย่างที่ผ่านมา



       "อย่างนี้ที่บ้านคุณคงจะสนุกน่าดูเลยนะครับ ต่างกันกับที่บ้านของผมเลย ที่บ้านผมนะมีแต่ผู้ใหญ่ไม่มีเด็ก

เลยซักคน พอเจอหน้ากันก็พูดคุยกันแต่เรื่องเคลียดๆจนผมนี่ต้องออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวอย่างนี้นี่ไง"

ชานยอลพูดบอกพรางนึกถึงครอบครัวของตัวเอง ครอบครัวที่อึดอัดและเคร่งเครียดทุกครั้งที่อยู่ใกล้

ครอบครัวที่ไม่มีความใกล้ชิดสนิดสนมแม้แต่กลับพี่น้องที่คลานตามกันมายังต้องใช้ภาษาพูดอย่างเป็น

ทางการคุยกันเลย ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันล้วนไม่ใช่หรือไม่ใกล้เคียงตัวตนแท้ๆของเขาเลยสักนิด



       "เอาน่า..คุณเป็นเพื่อนของเซฮุนก็เป็นเหมือนน้องชายของผมคนนึงเลยเหมือนกันนะ" เพราะเห็นสี

หน้าหม่นๆของชานยอลที่เจ้าตัวไม่ได้ต้องการที่จะแสดงออกมาแต่มันเป็นเพียงกลไกลธรรมชาติเท่านั้นเอง

จุนมยอนก็พูดปลอบแถมยังใช้ภาษาแบบกันเองอีกต่างหาก และนั่นก็ทำให้ชานยอลยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย



       .....คุณจะทำให้ผมหลงรักคุณไปถึงเมื่อไหร่นะคุณนีออนคนสวย......



       "ผมเป็นแค่น้องเองหรอครับ?" ชานยอลเลิกคิ้วถาม และคำถามที่ถามออกไปนั้นก็ทำให้จุนมยอนแทบจะ

สำลักน้ำส้มที่กำลังดื่มอยู่เลย



       "แล้วคุณอยากจะเป็นอะไร อยู่ในสถานะไหนกับผมล่ะครับ?" จุนมยอนแกล้งถามพร้อมทั้งเอียงคอมอง

ชานยอลด้วยถ้าทางน่ารักๆที่ถ้าใครสักคนในครอบครัวของเจ้าตัวได้เห็นก็คงจะมีจะต้องมีคนตกใจกันบ้างล่ะ

ใครจะไปคิดล่ะว่าคนบ๊องๆห่ามๆอย่างลุงจุนของจีซองจะมีมุมมุ้งมิ้งกับชาวบ้านเขาด้วย



       "แล้วถ้าอยากเป็นแฟนจะได้ไหมครับ?" ชานยอลถามรีบกลับแบบตรงๆตามที่ใจตัวเองต้องการแบบไม่มี

อ้อมค้อมเลยทีเดียวเชียว



       "อืม...ไอ้ได้น่ะมันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่มันอยู่ที่ว่าคุณจริงจังแค่ไหน? ถ้าแค่จะเล่นๆผมไม่เอาหรอกนะ

เพราะว่าไอ้ผมน่ะมันแก่แล้ว ไม่อยากเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ" ประสานมือรองใต้คางพร้อมทั้งส่งสายตาถามอย่าง

สื่อความหมาย



       "ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยจริงจังกับเรื่องไหนเท่ากับเรื่องของคุณเลยจริงๆนะ" ชานยอลพูดบอกด้วยน้ำเสียง

มั่นคง แววตาจริงใจ



       "อาฮะ! ถ้าคุณอยากเป็นแฟนผมก็จงจำไว้ว่าคุณควรที่จะมี ความจริงใจ มั่นคง ซื่อตรงและจริงจัง ถ้าคุณทำ

ทั้งสี่ข้อนี้ให้ผมเห็นและสามารถทำให้ผมมั่นใจในตัวของคุณมากพอแล้ว วันนั้นผมจะตกลงเป็นแฟนของคุณ

โอเคมั้ย??" จุนมยอนพูดบอกอย่างจริงจังไม่แพ้กัน



       Tru...Tru...Tru



       "วันนั้นของคุณมันจะต้องมาถึงเร็วๆนี้แน่ผมรับรอง และวันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับผู้จัดการโทรมา

ตามผมแล้วล่ะ แล้วเจอกันใหม่นะที่รัก" ชานยอลบอกพร้อมกับชูโทรศัพท์ของตัวเองที่หน้าจอขึ้นโชว์

คำว่าเมเนเจอร์ให้กับจุนมยอนดู ก่อนที่จะลุกออกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่พร้อมทั้งใส่ผ้าปิดปากสวมฮู้ดเพื่อพรางตัว

จากสายตาแฟนคลับและนักข่าวแต่ก่อนที่จะเดินออกไปยังไม่วายยักคิ้วหลิ่วตาใส่จุนมยอนเป็นการทิ้งท้ายอีกที



       "หึ้ย!! ไอ้บ้าเอ้ย!!!" จุนมยอนโวยวายแก้เขินกับตัวเองอย่างไม่ดังนักและดีที่โต๊ะนี้เป็นส่วนตัวอยู่มุมอับ

ของร้านและลับตาคนมากพอที่จะทำให้ศิลปินดังอย่างชานยอลได้นั่งทานข้าวอย่างเป็นสุขไร้การรบกวน

จากเหล่าแฟนคลับและนักร้องที่คอยเป็นสต๊อกเกอร์ติดตามชีวิตศิลปิน





...

พาร์ทย้อนอดีตของชานยอลกับจุนมยอนยังไม่หมดนะคะ

ถ้าชอบถ้าใช่จงกดบวก

แต่ถ้าไม่บวกเป็ดก็ขอแค่คนละคอมเม้นเป็นให้กำลังใจให้คนแต่งก็ยังดีนะคะ

เรื่องนี้กำลังจะจบลงในอีกไม่กี่ตอนข้างหน้าแล้ว นี่คือเรื่องจริงไม่ใช่ล้อเล่นอย่างที่ผ่านมา

อีกไม่เกินสิบตอนแน่ๆค่ะ และหลังจากที่จบแล้วมี่จะค่อยๆรีไรต์เนื้อเรื่องในช่วงแรกๆที่มันแล้ว

ขัดหูขัดตา ภาษาไม่ดี บรรยายได้ไม่โอเลย อันนี้มี่แก้ไขแน่ๆค่ะ

เพราะมี่ลองกลับไปอ่านเองแล้วมันเป็นอะไรที่ขัดใจมากๆ

#คิดถึงงงงงงงง(กอดแน่นๆ)ม๊ากกกกกกกกกกก  :katai5:



 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ประธานโอคงจะได้ลูกเขยเข้าบ้านอย่างเดียวเลย 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 29 





       รถครอบครัวคันหรูแล่นอยู่บนถนนเลียบชายหาดด้วยความเร็วที่ไม่มากนักเพราะในรถประกอบไปด้วยคุณแม่ท้องแก่
และเด็กแสบที่นั่งหลับคอพับคออ่นอยู่ในคาร์ซิทที่นั่งเด็กงานนี้คุณพ่อซุปเปอร์สตาร์ที่เป็นคนในครั้งนี้จึงขับอย่างระมัดระวัง
เต็มที่เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกครอบครัวที่รักสุดหัวใจอย่างเต็มที่ และจุดหมายปลายทางการเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้
คือบ้านพักต่างอากาศของศิลปินรุ่นพี่ของจงอินที่นานๆทีจะปล่อยให้พวกเซเลปหรือศิลปินดาราด้วยกันมาเช่าสถานที่พักผ่อน
ที่จงอินเลือกที่นี่นั้นเพราะบ้านพักต่างอากาศหลังนี้อยู่ไม่ไกลใจกลางเมืองอย่างกรุงโซลสักเท่าไหร่แต่ความสงบเงียบและ
ความเป็นส่วนตัวนั้นไม่แพ้ที่ไกลๆเลยเพราะบ้านพักต่างอากาศหลังนี้มีชายหาดส่วนตัวที่กินพื้นที่กว้างห่างไกลจากบ้าน
ประชากรคนอื่นไในหมู่บ้านนี้มากและแน่นอนว่าลับสายตาความอยากรู้อยากเห็นของประชาชนประชาชีแถวๆนี้แน่ๆ


       "จีซองครับ จีซอง ตื่นเถอะครับ ถึงทะเลแล้วนะครับลูก" หลังจากที่จอดรถและประคองหม่าม๊าเซฮุนไปนั่งพักผ่อน
รออยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้วจงอินก็กลับมาปลุกลูกชายสุดที่รักตัวแสบที่ยังคงนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่คาร์ซิทของตัวเอง
เหมือนเดิมทั้งๆที่รถจอดอยู่หน้าบ้านของจุดหมายในครั้งนีี้มาได้ซักพักแล้ว ไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริงๆลูกชายคนนี้ของเขานี่
ขึ้นรถไม่ได้เลยจริงๆ ไอ้ตอนที่ออกรถมาจากบ้านก็ยังชวนคุยเอะอะวุ่นวายอยู่เลยแต่ผ่านไปได้ซักสิบนาทีเท่านั้นแหละเสียง
เจื้อยแจ้วก็เงียบหลายไปเลยหันไปมองอีกทีลูกหมูตัวแสบของเขาก็หมดฤทธิ์หลับไปซะแล้ว


       "งื้อออ...ป๊ะป๋าาาา" ยังไม่ทันได้ลืมตาเลยปากก็ร้องเรียกหาป๊ะป๋าสุดที่รักเสียแล้ว พอเห็นว่าป๊ะป๋ากำลังปลดเข็มขัดล็อค
ที่นั่งออกให้ตัวเองอยู่จีซองก็อ้าแขนโผเข้ากอดคอจงอินซะแน่นเลย


       "ไม่งองแงนะครับลูก ถึงทะเลแล้วนะครับ เห็นมั้ย?" จงอินบอกพร้อมกับเอี้ยวตัวหลบให้จีซองที่กอดตัวเองเป็นลูกลิง
ติดแม่ให้เห็นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมรอบๆตัวให้เจ้าตัวได้เห็นว่าถึงปลายทางที่เจ้าตัวร้องขออยากจะมาแน่แล้ว


       "อุ๊ต๊ะ!!! ทะเล๊...ทะเลลลลลลลลลลล....พี่จีซองมาแล้วววววววววววววว!!!!" พอได้เห็นภาพพื้นน้ำทะเลที่อยู่เบื้องหน้า
ตัวเองเจ้าเด็กน้อยที่ร้องอ้อนงองแงป๊ะป๋าตัวเองเมื่อกี้นี้ก็เปลี่ยนกลายเป็นอีกคนเลย จีซองดีดดื้นดันตัวเองหลุดจากอ้อมแขน
ของป๊ะป๋าตัวเองได้ก็วิ่งร้องตะโกนอยู่ข้างๆรถอยากอารมณ์ดีเลยทีเดียว


       "ทะเลล่ะ ป๊ะป๋าทะเลจริงๆด้วยอ่ะ" จีซองหันมาพูดพรางชี้ให้จงอินที่ยืนกอดอกมองลูกชายอยู่ดูด้วยกันอย่างตื่นเต้น


        "ครับๆ ป๊ะป๋าเห็นแล้วครับ" ลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดูเบาๆ


       "ไปเล่นน้ำกันนะป๊ะป๋า เล่นน้ำกันๆ" จีซองบอกพร้อมกับกระตุกมือชวนจงอินจะให้ไปเล่นน้ำด้วยกัน


       "ตอนนี้เราจะยังไม่เล่นน้ำกันนะครับจีซองเพราะแดดยังร้อนอยู่เห็นไหมครับ" จงอินบอก จีซองก็พยักหน้ารับรู้แต่ยัง
คงหน้ามุ่ยอยู่เพราะอยากจะเล่นเดี๋ยวนี้เลยนี่นา
 
       "อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ตอนนี้เป็นเวลาทานมื้อกลางงวันใช่มั้ยครับ จีซองจำได้หรือป่าวว่าป๊ะป๋าเคยบอกว่ายังไง"
จงอินย่อตัวนั่งยองเพื่อให้เสมอกับจีซองแล้วถามอย่างใจเย็น


       "ถึงเวลากินก็ต้องกินฮะ เพราะถ้าไม่กินตอนนี้ก็จะไม่ได้กินอะไรอีกเลยจนกว่าจะถึงมื้อต่อไป" จีซองก้มหน้าตอบเบาๆ


       "แล้วมีอะไรอีกครับ?" จงอินจับแขนทั้งสองข้างของลูกชายเพื่อให้จีซองหยุดบิดตัว


       "ถึงเวลาเล่นก็จะได้เล่นให้เต็มที่แบบสุดๆไปเลยฮะ" จีซองตอบพร้อมกับค่อยๆช้อนตามองจงอิน


       "อืม..แล้วถ้าอย่างนั้นตอนนี้พี่จีซองควรจะทำอะไรก่อนดีครับ"


       "ไปกินข้าวกับป๊ะป๋าแล้วก็หม่าม๊าครับ" จีซองตอบพร้อมกับหลบสายตาของจงอินที่จ้องมองตัวเองอยู่ เพราะถึงป๊ะป๋า
จะใจดีแค่ไหนแต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ป๊ะป๋าเคยดุแล้วก็ทำโทษให้พี่จีซองอดข้าวมาแล้วนะเพราะตอนนั้นพี่จีซองห่วงเล่นไง
พี่จีซองจำได้นะหิวจนปวดท้องเลย พี่จีซองเลยกลัวป๊ะป๋านิดหน่อย แค่นิดหน่อยจริงๆนะ!!


       "อื้ม!! ลูกชายป๊ะป๋าเก่งที่สุดเลยครับ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราไปทานมื้อเที่ยงกันดีกว่าเน๊าะ แดดร่มเมื่อไหร่ป๊ะป๋าจะรีบพา
พี่จีซองออกมาเล่นน้ำเลย ป่ะ! เข้าบ้านกันดีกว่า ป่านนี้หม่าม๊ากับน้องเล็กๆรอแย่เราสองคนจนหิวแย่แล้ว" จงอินบอกพร้อม
กับจูงมือลูกชายสุดที่รักเข้าไปในบ้านพักเพื่อไปทานอาหารมื้อเที่ยงของวันกันอย่างมีความสุขและภาพข้างหลังของสองคน
พ่อลูกที่เดินจับจูงมือแกว่งไปมาที่ฉายออกไปทางทีวีนั้นก็ทำให้คนดูทางบ้านมีความสุขเช่นเดียวกัน
.
.
.
 .
.
       "จงอิน! จีซอง! เล่นระวังๆ กันหน่อยนะ นี่!! ที่หม่าม๊าพูดเนี่ยฟังกันบ้างมั้ย!! เฮ้อ! พอกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย" เซฮุนตะโกน
บอกสองพ่อลูกจงอินและจีซองที่พากันวิ่งลงทะเลหลังจากที่พาเขามานั่งอยู่ใต้ร่มไม้เรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนกับว่าต่อให้
เซฮุนตะโกนให้คอแตกกันไปข้างนึงสองคนพ่อลูกนั่นก็หาได้สนใจไม่ จนเซฮุนต้องถอนหายใจอย่างปลงๆ เพราะทำได้
แค่เพียงนั่งลูบท้องกล่อมลูกคนเล็กไปพรางนั่งดูสองพ่อลูกเล่นน้ำทะเลไป ตอนนี้จงอินเหมือนกับกลายร่างไปเป็นเด็ก
ห้าขวบวัยเดียวกันกับลูกชายไปเสียแล้วจากที่เซฮุนเห็นเพราะเหมือนกับว่าใจไม่มีใครยอมใครในการแกล้งสาดน้ำใส่กันเลย


       "ฮึๆ สู้ป๊ะป๋าไม่ได้หรอกลูกหมูตัวแสบเอ้ย! นี่แนะๆ ฮ่าๆ" จงอินแล้งวักน้ำสาดใส่ลูกชายอย่างไม่หยุดพัก จนจีซองทำ
หน้ามุ่ยเพราะเริ่มสู้ไม่ได้ แต่ก็นะขึ้นชื่อว่าจีซองศิษย์ลุงจุนซะอย่างเรื่องเอาคืนป๊ะป๋าแค่นี้สบายมาก


       "ฮึ่ม!! ฮึ่มๆ พลัง!จีซองแมน ย๊ากกกกกกก!!!" จีซองชูมือทำท่าเรียนแบบซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจตัวเองก่อนที่จะตะโกน
ออกมาด้วยเสียงที่ดังและพุ่งตัวใช้หัวโขกหน้าท้องแกร่งของจงอินอย่างไม่ออมแรง คือมีแรงเท่าไหร่จีซองแมนก็ใช้เต็มที่
เลยเหมือนกัน

       "อุ๊ก!! โอ๊ยยย!! จีซองงงงงง" จงอินโหยหวนออกมาด้วยความจุก แรงลูกชายสุดที่รักของเขาใช่ว่าจะน้อยปกติก็มือหนัก
อยู่แล้ว แต่นี่เล่นโหม่งมาซะสุดแรงเลยจะไม่ให้เขาร้องออกมาได้อย่างไง

       "ฮะๆ ฮ่าาาาาา เป็นไงล่ะปีศาจป๊ะป๋า เห็นพลังของจีซองแมน!! รึยัง คึๆ" จีซองเก๊กปิดท้ายเลียนแบบซุปเปอร์ฮีโร่เวลา
ปราบปีศาจในการ์ตูนเสร็จปิดท้ายอีกทีก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

       "ชริ! ป๊ะป๋างอนจีซองแล้วครับ จีซองทำป๊ะป๋าเจ็บมาก โป้งงง!!" จงอินพูดออกมาพร้อมกับแสดงสีหน้าและท่าทาง
เหมือนกับว่าโกรธจีซองมากจริงๆซะอย่างนั้น ก่อนที่จะเดินหนีจีซองขึ้นจากริมชายหาดที่เล่นกันอยู่กับจีซองและเดิน
กลับไปหาเซฮุนที่มองดูทั้งคู่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ พูดคุยอะไรกันสักอย่างก่อนที่จะเดินผละออกจากเซฮุนขึ้นฝั่งไป ทำเอาจีซอง
ที่ยืนมองท่าทางของจงอินอย่างงงๆอยู่ที่เดิมเริ่มหน้าเสียเหมือนจวนจะร้องไห้เสียเต็มประดาซะแล้ว

       "เป็นอะไรไปครับจีซอง ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ หืม.. รึว่าเล่นน้ำไม่สนุกแล้วครับ" เซฮุนเดินแบกท้องโตๆ
ของตัวเองเข้ามาถามลูกชายคนคนโตใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าจีซองยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าที่จะขยับเขยื้อนไปไหนเลย
ตั้งแต่จงอินเดินออกไป

       "หม่าม๊าาาา.....ป๊ะป๋าอ่าาา" จีซองพุ่งเข้ากอดพร้อมกับถูหน้ากับท้องกลมๆของเซฮุนก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสี่ยงสั่นๆ
เหมือนกับว่าเจ้าตัวนั้นกำลังร้องไห้อยู่

       "หือ...ป๊ะป๋าทำไมหรอครับ? ป๊ะป๋าเขาบอกกับหม่าม๊าว่าจะไปเข้าห้องน้ำนี่ครับลูก จีซองเป็นอะไรรึป่าวครับ" เซฮุนดัน
ตัวจีซองออกให้ห่างจากตัวเองเพื่อที่จะมองหน้าลูกชายชัดๆ และบอกในสิ่งที่เขาได้คุยกับจงอินก่อนหน้านี้ให้จีซองได้ฟัง
เพราะว่าจงอินบอกกับเขาว่าปวดท้องจะไปเข้าห้องน้ำในบ้านเท่านั้นเอง แต่จีซองกับน้ำตานองอย่างนี้มันหมายความว่ายังไง
มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างการเล่นของสองพ่อลูกที่เขาไม่รู้รึป่าวเนี่ย       

       "ป๊ะป๋าโกรธลูกฮะหม่าม๊า ลูกทำป๊ะป๋าเจ็บอ่า" จีซองเบ้ปากบอกเพราะเริ่มใจคอไม่ดีน้ำตาเม็ดน้อยก็เริ่มไหลออกมาอย่าง
ไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าป๊ะป๋าจะโกรธตัวเองจริงๆทั้งๆที่ตัวเองก็ยังคงงงๆอยู่เพราะปกติแล้วเล่นกันแรงกว่านี้จงอินยังไม่
เคยดุเคยว่าอะไรเลย แถมยังเป็นคนที่ชอบชวนเล่นอย่างนี้เองซะด้วยซ้ำ แล้ววันนี้ป๊ะป๋าเป็นอะไรอ่าาาา....

      "อืม..หม่าม๊าว่าจีซองคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะลูก หม่าม๊าไม่เห็นป๊ะป๋าจะเหมือนโกรธอะไรลูกเลยนะครับ ป๊ะป๋าแค่บอก
กับหม่าม๊าว่าปวดท้องจะไปห้องน้ำก็แค่นั้นเองนะครับลูก" เซฮุนค่อยๆเซ็ดน้ำตาให้ลูกชายเบาๆ และพยามที่จะอธิบายให้
จีซองสบายใจไปด้วย ใจก็พรางคิดไปว่าจงอินนี่หรอ คนอย่างคิมจงอินที่ทั้งรักทั้งหลงจีซองแถบจะเอาลูกชายขึ้นหิ้งบูชา
เลยเนี่ยนะจะโกรธและเย็นชาไม่สนใจลูกได้ลงคอน่ะ พนันล้านวอนโอเซฮุนคนนี้ขอแค่วอนเดียวพอ ไม่มีทางซะหล่ะ

       "ป๊ะป๋าโกรธลูกจริงๆนะฮะหม่าม๊า พอลูกทำป๊ะป๋าเจ็บ ป๊ะป๋าก็ว่าลูกแล้วก็เดินหนีไปเลย" จีซองยังคงยืนยันคำเดิมว่า
จงอินนั้นโกรธเคืองตัวเองอยู่จริงๆ

       "ถ้าอย่างนั้นหม่าม๊าว่าเราเข้าไปหาป๊ะป๋าที่ในบ้านเลยดีกว่าจะได้รู้เรื่องไปเลย นี่ก็เริ่มมืดแล้วด้วย เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อย
ออกมาเล่นน้ำพร้อมกับดูคุณพระอาทิตย์ดวงใหญ่กันตอนเช้าเลยดีกว่าเน๊าะ" เซฮุนบอกเมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังตกดิน
ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ทั้งๆที่เหมือนกับว่าออกมาเล่นข้างนอกกันได้ไม่เท่าไหร่เอง ถ้าเกิดจีซองอยากจะจะโทษใครก็ต้อง
บอกให้ไปโทษคุณป๊ะป๋าดีเด่นอย่างจงอินแล้วหล่ะ เพราะกว่าจะยอมให้จีซองออกมาจากบ้านได้ก็ต้องรอให้แดดมันอ่อน
จริงซะก่อน ก็เลยได้ออกมาแป๊ปเดียวอย่างนี้นี่ไง

       "ฮะ!" จีซองรับคำพร้อมกับยื่นมือไปกับกันกับมือเซฮุนก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินกลับไปยังบ้านพักที่อยู่ไม่ไกล
จากชายหาดที่นั่งอยู่ซักเท่าไหร่หรอก แต่ก็อาจจะต้องให้เวลามากกว่าปกติซักหน่อยเพราะเซฮุนนั้นเดินเร็วมากไม่ได้
เนื่องจากมีท้องใหญ่ๆคอยถ่วงอยู่นั่นเอง
.
.
.
.
.
       "งื้ออออ!! ทำไมบ้านมืดจังล่ะฮะหม่าม๊า" จีซองกระตุกมือเซฮุนถามเมื่อเดินพ้นประตูบ้านเข้ามาแล้วเห็นว่าทั้งบ้านนั้น
มืดสนิทไร้เงาของป๊ะป๋าจงอินของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็นเลย

       "นั่นสินะ หม่าม๊าว่าเรามาลองเรียกป๊ะป๋ากันก่อนดีกว่านะจีซองเพราะหม่าม๊าไม่รู้ว่าสวิตช์ไฟอยู่ไหนซะด้วยสิ
ขืนเสี่ยงเดินมั่วๆเข้าไปมีหวังพากันชนโน่นชนนี่ให้เจ็บตัวกันซะป่าวๆนะหม่าม๊าว่า จงอินๆ จงอินอยู่รึป่าว จงอิน!!"
เซฮุนบอกพร้อมกับตะโกนเรียกจงอินไปด้วย ก่อนที่จะต้องขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเหมือนกับว่าเห็นแสงอะไรแว๊บๆ
อยู่ทางตำแหน่งห้องครัวนะถ้าเขาจำไม่ผิดก่อนที่แสงนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว

       แซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา~
       แซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา~
       ซา-รัง-ฮา-นึน-จีซอง-อา~
       แซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา~~

       เสียงของร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ทำเอาจีซองสะดุ้งตกใจเผลอบีบมือที่จับกันกับ
เซฮุนเข้าอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงของป๊ะป๋าตัวเอง จนเซฮุนต้องลูบหลังเป็นการปลอบลูกชายเบาๆ และดันตัวจีซองที่ยืน
อยู่ข้างๆกันให้ออกมายืนอยู่ตรงด้านหน้าของเขาแทนเมื่อเห็นจงอินถือเค้กปอนด์ใหญ่ที่จุดเทียนพร้อมแล้วเดินร้องเพลง
อวยพรวันเกิดออกมาจากประตูห้องครัวของบ้านพักก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าจงอินคงจะจัดเซอร์ไพร์วันเกิดให้ลูกชายด้วยตัว
ของตัวเองคนเดียวเสียแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาลืมวันเกิดลูกชายตัวเองแต่อย่างไรนะเพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้เขาและจงอินได้
ปรึกษากันแล้วว่าจะจัดวันเกิดให้จีซองหลังจากที่กลับจากทะเลเพราะคงจะเตรียมตัวไม่ทันเพราะเจ้าลูกชายดันเรียกร้อง
อยากจะมาให้ได้ แต่นี่อะไรจงอินแอบทเซอร์ไพร์ลูกชายลับหลังโดยไม่บอกเขาเพื่อเรียกคะแนนพิศวาสเพิ่มจากลูกชาย
ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองเป็นขวัญใจลูกมากกว่าเขาอย่างนั้นหรอ? ฮึ่ม!! คิมจงอินนะคิมจงอินคอยดูเถอะโอเซฮุนคนนี้จะเอา
ลูกคนเล็กในท้องมาเป็นพวกเดียวกับตัวเองให้ได้เลยคอยดู!! นอยด์นะนอยด์งานนี้เซฮุนขอบอกเลยว่านอด์มากอ่ะ

       "อธิฐานขอพรและเป่าเทียนเร็วๆสิครับลูกชาย เทียนจะดับหมดแล้วนะ เอ้า! ยืนงงอะไรครับ วันนี้วันเกิดของจีซอง
ไงครับลูก" จงอินบอกเมื่อเห็นว่าจีซองยังคงทำหน้าสงสัยเหมือนกับว่ายังคงงงๆอยู่ก่อนที่จะย่อตัวนั่งทั้งๆที่ถือเค้กอยู่อย่างนั้น
เพื่อให้ตัวเสมอกับจีซองและจีซองจะได้เป่าเทียนได้ถนัดๆ
 
       ฟู่ว!! ฟุ่ว!! ฟู่ว!!

       เมื่อได้ยินจงอินบอกอย่างนั้นจีซองก็รีบหลับตาอธิฐานขอพรเหมือนกับที่หม่าม๊าเคยสอนในทุกๆวันเกิด ก่อนที่จะ
เป่าเทียนที่ปักอยู่บนเค้กอย่างสุดแรงเกิดจนเทียนดับหมดทุกเล่ม

       "สุขสันต์วันเกิดครบห้าขวบครับพี่จีซองลูกชายสุดที่รักของป๊ะป๋า" เมื่อเทียนดับหมดแล้วจงอินก็ลุกขึ้นยืนเพื่อกดเปิด
สวิตช์ไฟที่อยู่ข้างผนังตรงที่ตัวเองยืนอยู่ ก่อนที่จะพูดอวยพรวันเกิดจีซองอีกที และพากันเดินไปนั่งกันทีี่ชุดโซฟารับแขก
เพราะไม่อยากให้เซฮุนต้องยืนเป็นเวลานานๆ

       "แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับพี่จีซองสุดหล่อของหม่าม๊า หม่าม๊าขอให้พี่จีซองสุขภาพแข็งแรงๆอย่างนี้ไปตลอดเลยนะครับ"
เมื่อนั่งลงกันได้เซฮุนก็คว้าตัวลูกชายสุดที่รักเข้ามากอด ก่อนที่จะพูดอวยพรวันเกิดให้จีซองอีกคน อย่างไม่ยอมน้อยหน้า
กันกับจงอินเลย

        ฟอดดด!! ฟอดดด!!

       "ลูกรักหม่าม๊ากับป๊ะป๋าที่สู้ดดดดดดในโลกเลยฮะ" จีซองหอมแก้มเซฮุนกับจงอินอย่างเน้นๆคนละทีก่อนที่จะตะโกน
บอกรักออกมาจนดังลั่นบ้าน

       "ฮึๆ / ฮ่าๆ" คำพูดบวกกับท่าทางของจีซองทำเอาจงอินกับเซฮุนขำไปตามกันกับความทะเล้นน่ารักของลูกชาย
ที่ดูเหมือนว่ายิ่งโตจีซองก็ยิ่งมีความสามารถในการทำให้คนอื่นมาหลงรักตัวเองเพิ่มมากขึ้นทุกที และหลังจากนั้น
ก็มีเสียงหยอกล้อ หัวเราะและเสียงพูดคุยกันอย่างมีความสุขสนุกสนานของสามคนพ่อแม่ลูกดังคละเคล้าไปกับความ
อบอุ่นที่อบอวนไปทั่วทั้งบ้านจนล่วงเวลาเลยไปจนค่อนคืน
.
.
.     
.
.
        ช่วงสุดท้ายของรายการ 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์'
     
       "เอาล่ะค่ะ และช่วงเวลาต่อนี้ไปก็คือช่วงที่ทุกช่วงพิเศษท้ายราย 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' นั่นเองหล่ะครัา
คุณผู้โช้มมมม....ช่วงนี้ของรายการก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เพียงแต่เราแค่อยากจะนำความคิดเห็นของคุณผู้ชมคนดูที่
รับชมรายการ 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร' อยู่ทางบ้านก็ดีหรือช่องทางออนไลน์อย่างในอินเทอร์เน็ตก็ดี ว่าหลังจาก
ที่ทุกท่านได้ชมรายการกันมาตลอดจนถึงล่าสุดสัปดาห์นี้แล้วมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง และทางทีมงานก็ได้รวบรวม
ผลสำรวจความคิดเห็นจากทุกช่องทางมาให้ดิฉันแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันไปพร้อมๆกันเลยนะคะ" พอภาพครอบครัว
ของจงอินตัดไปก็แทนที่ด้วยพิธีกรสาวสวยคนนึงที่ออกมาพูดอธิบายและชี้แจงอย่างละเอียดว่าทำไมรายการไม่ได้ตัดจบ
ไปปอย่างทุกๆสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่หน้าจอจะขึ้นภาพวีดีโอที่เหมือนกับจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้ชมจากทางบ้านโดยทีมงาน

       "ครั้งแรกเลยที่พวกคุณรู้ข่าวว่าคิมไคมีภรรยาและลูกคุณรู้สึกอย่างไรคะ" เสียงทีมงานภาคสนามเป็นคนถาม

       "เสียใจค่ะ เสียใจมากๆเลย รู้สึกเหมือนกับโดนหักหลังอย่างไงอย่างงั้นเลย" ผู้ให้สัมภาษณ์ 1

       "โกรธค่ะ ทั้งโกรธทั้งเกลียดผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนเลยค่ะที่เขาเข้ามาแย่งไคโอปป้าของพวกเรา" ผู้ให้สัมภาษณ์ 2
 
       "ใช้ค่ะ ผู้ชายและเด็กคนนั้นมีสิทธิ์อะไรที่จะมาแย่งคิมไคไป คิมไคเป็นของพวกเรานะ!!" ผู้ให้สัมภาษณ์ 3

       "แล้วหลังจากที่ได้ดูรายการเรียลลิตี้'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ได้รู้ความจริงทั้งหมดและเห็นชีวิตประจำวัน
ของครอบครัวคิมไคไปกันบ้างแล้วล่ะค่ะความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงได้เปลี่ยนไปจากครั้งแรกแล้วบ้างหรือยังคะ"
ทีมงานคนเดิมถาม

       "จากที่ได้ดูเทปย้อนประวัติของทั้งคู่(คิมไคและโอเซฮุน)ไป ก็รู้อยากจะขอบคุณผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนมากๆเลยค่ะที่ทำ
ให้เราทุกคนได้มีโอกาสได้เจอได้รักคิมไคอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณไม่ปล่อยให้คิมไคต้องอยู่อย่างเดียวดายในวันที่ไม่มีใคร
ขอบคุณที่คุณเสียสละเป็นคนยอมทุกข์ใจเพื่อให้คิมไคได้ทำตามความฝันจนเป็นคิมไคอย่างที่พวกเรารักอย่างทุกวันนี้
พวกเราขอโทษที่เคยด่าเคยว่าคุณทั้งๆที่คุณไม่ผิดอะไร สุดท้ายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็ขอยืนหยัดที่จะสนับสนุน
และจะรักคิมไคอย่างนี้ต่อไปค่ะ" ผู้ให้สัมภาษณ์ 1  บอกพร้อมกับปาดน้ำตาตัวเองเบาๆ

       "อื้อ!! เซฮุนอนนี่เป็นผู้ชายที่สวย น่ารักและใจดีที่สุดเลยค่ะยิ่งอยู่กับไคโอปป้ายิ่งน่ารักค่ะ ฉันขอโทษที่ว่าออนนี่นะคะ
ต่อไปนี้ถ้าฉันได้ยินใครว่าหรือพูดถึงออนนี่ในทางแย่ๆฉันจะจัดการให้เอง รักนะคะเซฮุนออนนี่" ผู้ให้สัมภาษณ์ 2 เธอบอก
อย่างมุ่งมั่นและปิดท้ายด้วยการทำมือเป็นรูปหัวใจ

       "คิมไคโชคดีมากๆเลยค่ะที่มีโอเซฮุนภรรยาและแม่ของลูกตัวเอง ถ้ามีข่าวว่าคิมไคทำให้โอเซฮุนเสียใจเมื่อไหร่
ฉันนี่แหละจะพาพวกไปจัดการด้วยตัวเองเลย ส่วนน้องจีซองก็น่ารักน่าหยิกอยากเจอตัวจริงๆบ้างจัง จะกอดจะฟัด
ให้หายหมั่นเขี้ยวเลยจริงๆ เด็กอะไรพ่อแม่ช่างปั้น! ฉลาดน่ารักและแสนซนเป็ที่สุด~" ผู้ให้สัมภาษณ์ 3 เธอพูดบอกและ
ทำท่าทางเพ้อๆเมื่อพูดถึงจีซองทำเหมือนกับว่าตรงหน้าของเธอนั้นมีหนูน้อยจีซองยืนอยู่จริงๆเสียอีก

       "อ่า~ และนั่นก็คือเสียงสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งจากทางบ้านเท่านั้นนะคะ ต่อไปเราลองมาดูความคิดเห็นทางบทความหรือ
แฟนเพจของรายการที่ทางบริษัทสร้างขึ้นมาเพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับรายการบ้างดีกว่านะคะว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความคิดเห็น
เกี่ยวกับข่าวและรายการนี้อย่างไร ความรู้สึกตอนนี้ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้างนะคะ เราไปดูกันเลยดีกว่าคร้า"
พิธีกรสาวสวยคนเดิมบอกพร้อมกับที่มีตัวอย่างข้อคิดเห็นเกี่ยวกับครอบครัวคุณซุปเปอร์สตาร์คิมไคขึ้นมาทางหน้าจอ
ให้คนทางบ้านได้เห็น ในขณะที่เธออ่านให้ฟังไปด้วยบางความคิดเห็น

       ความคิดเห็นที่ 1 'นี่มันอะไรกัน!! จะโกหกอะไรพวกเราอีกถึงได้สร้างไอ้รายการบ้าๆนี้ออกมาอย่างนี้'

      ความคิดเห็นที่ 89 'ออกไปจากชีวิตคิมไคได้แล้วโอเซฮุน ไอ้ผู้ชายหน้าด้าน โอเซฮุนไปตายซะ!!!'
 
       ความคิดเห็นที่ 154 'คิมไคคนหลอกหลวง!! โอเซฮุนผู้ชายหน้าไม่อาย!! ไอ้เด็กบ้าจีซอง!!'

      ความคิดเห็นที่ 378 'เซฮุนออนนี่สู้ๆค่ะ ออนนี่น่ารักที่สุด ดีที่สุด' จากลูกค้อินดี้คาเฟ่คนที่ 1

      ความคิดเห็นที่ 522 'เซฮุนออนนี่คนสวยน้องมาให้กำลังใจ สู้ๆนะคะ รักออนนี่เหมือนเดิมค่ะ' ลูกค้าอินดี้คาเฟ่คนที่ 8

      ความคิดเห็นที่ 781 'กรี๊ดดดจีซองของเจ๊!! หน้าตาหนูเบ้าเดียวกับป๊ะป๋าเลยลูก ดีใจด้วยนะที่เจอป๊ะป๋าแล้ว' แฟนคลับพี่จีที่ 1

      ความคิดเห็นที่ 10790 'อย่าลืมกินข้าวเยอะๆนะพี่จีซองของป้า แล้วป้าจะไปอุดหนุนที่ร้านเหมือนเดิม' แฟนคลับพี่จีที่ 2

      ความคิดเห็นที่ 15647 'คิมไค เซฮุน จีซอง ไฟว์ติ้ง!! สู้เขานะ!!'

       ความคิดเห็นที่ 25464 'อยากเป็นสะใภ้บ้านนี้ค่ะ!! จีซองโตไวๆนะลูกพี่จะรอน้องอยู่บนคานทอง'

       "เป็นยังไงกันบ้านค่ะ นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของคนส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ อย่างที่รู้ๆกันนะคะว่ารายการนี้
เป็นรายการเรียลลิตี้ทั้งหมดคือเรื่องจิงไม่มีจัดฉากหรือเฟคแต่อย่างใด ทั้งโอเซฮุนที่เป็นภรรยาของคิมไคและคิมจีซองลูกชาย
ของเขาทั้งคู่ไม่มีใครรู้เห็นว่ามีรายการนี้หรือข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลยเพราะโดนคิมไคปิดหูปิดตาพาหนีเที่ยวตลอด ก็แหม
อย่างที่รู้ๆ เห็นๆกันอยู่นั้นแหละค่ะว่าครอบครัวคุณซุปเปอร์สตาร์กำลังจะมีสมาชิกใหม่ลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นี้แล้ว ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันก็เลือกที่จะทำอย่างที่คิมไคทำนั้นแหละค่ะ เอาเป็นว่าฉันขอจบช่วงพิเศษของวันนี้เท่านี้ดีกว่าค่ะ
ยังไงก็ลองติดตามดูกันเรื่อยต่อๆไปนะคะ เผื่อบางทีคุณผู้ชมจะหลงรักหนูน้อยจีซองสุดหล่ออย่างดิฉันก็ได้นะคะใครจะไปรู้
เด็กอะไรก็ไม่รู้นอกจากจะถอดแบบคนเป็นพ่อมาอย่างบล็อคเดียวกันแล้วยังจะฉลาดมากเลห์มีเสน่ห์แบบสุดๆเกินหน้าเกินตา
คุณพ่อซุปเปอร์สตาร์คิมไคเสียอีก โอ้ยยยย!! ดิฉันอยากได้!! แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะคุณผู้ชม สวัสดีค่ะ" พิธีกรสาวเธอ
พูดปิดรายการอย่างคล่องแคล่วไม่มีติดขัดสมแล้วที่เป็นมืออาชีพก่อนที่จะตัดเข้ารายการต่อไปของสถานีโทรทัศน์ต่อไป



...
มาแบบสั้นๆอย่างมึนๆ
ต้องขอโทดนะคะที่ไอ้มี่คนนี้หายไปแบบสองอาทิตย์เต็มๆ
คือมี่ติดธุระน่ะค่ะ ที่จริงพรุ่งนี้มีก็ยังต้องไปทำธุระต่อแต่เพราะว่า
ไอ้มี่คนนี้อยากจะมาอัพพี่จีซองให้ทันก่อนวันเกิดตัวเองในวันที่30เดือนนี้
ก็เลยต้องอดหลับอดนอนมาอัพกันอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ส่วนลุงจุนกะอายอลลี่ยังไม่หมดนะคะ
แต่จะมาต่อตอนไหนก็บอกไม่ได้เหมือนกัน ยังไงก็ขอโทดอีกทีนะคะ!!
รักคนอ่านทุกคนมากกว่าเดิมอีก!!  คิดถึงมากๆเลยด้วย(กอดแน่นๆ)

     

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดๆๆๆๆๆ ฟินกับตอนนี้ฝุดๆ
จีซองน้อยโดนคุณพ่อแกล้ง 555555
จงอินคร้า ระวังภรรยาที่รักจะงอนนะคะ อิอิ
แฟนคลับเริ่มเข้าใจแร้วอ่ะ ดีใจ >\\\<

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
จงอินถูกเซฮุนหมั่นไส้เล็กๆ เข้าเสียแล้วนะคะนั่น :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 30 









       ปึก!!



       "โอ๊ะ! ขอโทษครับผมเดินไม่ระวังเอง" จงอินที่อยู่ในชุดปกปิดตัวเต็มยศ ทั้งหมวก แว่น เสื้อฮุ้ด ผ้าปิดปาก เอ่ยขอโทษ

ลูกค้าในร้านที่เขาเดินชนบังเอิญเดินเข้าให้ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้มองว่าเป็นใคร เป็นเพราะว่าเขากลัวว่าลูกค้าจะจำได้เลยรีบ

เดินจนเกินไปและไม่ทันได้มองทางเลยปะชนกับคนอื่นเข้าให้จนได้



       "อุ๊ย! ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ฉันเดินไม่ระวังเอง"



       "หืม...เธอ?" เป็นเพราะได้ยินเสียงที่เหมือนจะเคยได้ยิน แต่กลับนึกไม่ออก จงอินจึงถอดแว่นมองหญิงสาวตรงหน้าตัวเอง

แบบชัดๆ



       "ฉันมินอาไงคะ! น่าน้อยใจจังเราเจอกันออกจะบ่อยแต่ทำไมรุ่นพี่ถึงจำฉันไม่ได้เลยล่ะคะ" หญิงสาวบอกอย่าง

กระเง้ากระงอดด้วยความน้อยใจ

   

     .....ทำไมนะ!! รุ่นพี่ถึงจำเขาไม่ได้หรือไม่จำเขาสักที นี่เขายังสวยไม่พออีกหรอกหรอ?......

 

       "อ่า..เธอนั่นเอง ขอโทษทีนะ พอดีฉันขี้ลืมน่ะ จำหน้าใครไม่ค่อยได้หรอก แล้วนี่เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย" จงอินบอกอย่างปัดๆ

ก่อนจะพูดเปลี่ยนประเด็น



       "อ๋อ! คือเพื่อนฉันแนะนำมาน่ะค่ะว่าร้านนี้มีแต่ของอร่อยๆที่ห้ามพลาด แถมยังกระซิบมาอีกว่าเป็นร้านของคุณเซฮุน

ภรรยาคนสวยของรุ่นพี่น่ะค่ะ ฉันก็เลยอยากจะมาลองชิมดูบ้าง ถ้าถูกใจนี่กะจะยึดเป็นร้านประจำเลยนะคะเนี่ย คริๆ"

เธอบอกพร้อมกับยื่นหน้าไปทำท่าทางเหมือนกับกระซิบบอกในตอนที่เล่าให้จองอินฟังด้วย จนจงอินผงะเผลอชักสีหน้าใส่เธอ

ด้วยความไม่ชอบใจ ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เขาไม่ชอบสนิทหรือใกล้ชิดกับใครง่ายๆด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสิทธิ์เสี่ยงที่จะเป็น

ข่าวด้วยอย่างมินอาด้วยเขายิ่งไม่ชอบใจ จนเผลอทำเสียมารยาทแสดงสีหน้าอย่างนั้นออกไป



       "อ่อ..ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายนะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ พอดีรีบไปทำธุระต่อน่ะ" จงอินพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะบอกลาและรีบ

เดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้สนใจสายตาเจ็บปวดของหญิงสาวที่มองตามหลังตัวเองเลย



       จงอิน เซฮุนและจีซอง ก็ได้กลับมาจากการไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลมาได้สามวันแล้วหลังจากที่หนีคุณปู่คุณย่าและลุงจุน

ไปเที่ยวอยู่ที่นั่นหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ จนลุงจุนสุดที่รักของลูกหมูจีซองโทรตามแล้วตามอีกว่าคนที่บ้านใหญ่คิดถึงแย่แล้ว อีกทั้ง

ที่บ้านใหญ่ยังรอที่จะจัดวันเกิดย้อนหลังให้หลานชายสุดที่รักกันอีก จากที่จงอินตั้งใจจะหลบความวุ่นวายอยู่ที่บ้านพักต่าง

อากาศที่นั่นอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ต้องพับโครงการเก็บทันทีเมื่อโดนประกาศิตจากปากประธานโอคุณปู่สุดที่รักของจีซอง

บอกว่าจะยัดงานให้เขาทำจนไม่มีเวลาได้เจอลูกเมียซักเดือนสองเดือนเลยถ้าเขายังขืนยึดคิมจีซองสุดที่รักของทุกคนไว้กอด

ไว้กกอยู่คนเดียวน่ะนะ



      .....จงอินอยากจะตะโกนกลับไปเหลือเกินว่านี่ลูกชายเขานะ!! แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่เขาตอบกลับประธานโอไปนั้นคือ

'ครับๆ ทราบแล้วครับ แล้วผมจะรีบพากลับ' หึๆ ทำไงได้ล่ะ! นั่นพ่อตาเชียวนะ!! คิมจงอินคนนี้อยากจะบ้าจริงๆ.....



     และไอ้ที่เขาต้องมาที่ร้านอินดี้คาเฟ่อย่างนี้ก็เพราะว่าคุณหม่าม๊ากระต่ายอยากจะได้เทียนปักเค้กที่เป็นรูปหมู หมี และ

รูปกระต่าย ที่มีอยู่ที่ร้านน่ะสิ เพราะวันนี้บ้านใหญ่เขาจะจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้จีซองกันและงานนี้หม่าม๊าเซฮุนก็ลงมือ

ทำเค้กวันเกิดด้วยตัวเองให้ลูกชายเหมือนกับทุกๆปีนั่นแหละเพียงแต่มันก้อนใหญ่กว่าเดิมมากและยังมีตั้งสามชั้นก็เท่านั้นเอ๊ง!

หึๆ ดูเหมือนตั้งแต่วันทีี่ที่เขาเซอร์ไพร์วันเกิดจีซองที่ทะเล คุณหม่าม๊ากระต่ายจะออกแนวเขม่นๆ เขาอยู่นะเวลาเขาจะซื้อหรือ

ทำอะไรให้ลูกชายน่ะ แต่ก็ไม่ได้เป็นจริงเป็นจังซักเท่าไหร่หรอก...แค่คุณหม่าม๊าเขางอลๆปนอิจฉาก็เท่านั้นเอง ฮ่าๆ

.

.

.

       "อยู่กันที่นี่เองหรอคะรุ่นพี่" เสียงของหญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆในขณะนั่งอยู่ในรถของตัวเองมองลอดรั้วเหล็กสูง

ของบ้านหลังสวยเข้าไปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกว่าเจ้าตัวคิดอะไรกันอยู่แน่ เล็บที่ทำสีจิกลงกับพวงมาลัยรถจนแน่นเหมือนจะ

ระบายอารมณ์โกรธแค้นหรืออะไรสักอย่าง  หลังจากที่เห็นว่าจงอินขึ้นรถขันไหนแน่แล้ว เธอก็ขึ้นรถขับตามจงอินออกมา

จากร้านจนถึงหน้าบ้านหลังนี้ด้วยเหมือนกัน

.

.

.

.

.

       "กลับมาแล้วหรอจงอิน ได้มารึป่าวของที่สั่งให้ไปเอาน่ะ" จงอินเข้าบ้านมาได้เซฮุนก็ทวงถามหาของที่ตัวเองสั่งทันทีเลย

แต่แทนที่จงอินจะโกรธหรือน้อยใจใช่มั้ยที่กลับมาจากข้างนอกเหนื่อยๆแล้วโดนทักอย่างนี้ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้นั่งให้หายเหนื่อย

แต่ก็เปล่าเลยเพราะเสียงทวงของจากเซฮุนมันมาพร้อมกับร่างคุณแม่ท้องป่องของเจ้าตัวที่ในมือมีน้ำผลไม้เย็นๆแสนอร่อยฝีมือ

เซฮุนติดมือมาให้เขาได้ดื่มให้ชื่นใจหายเหนื่อยซะด้วย จงอินจึงอดยิ้มไม่ได้ ก็นะ! ก็เพราะเซฮุนน่ารักอย่างอย่างนี้นี่แหละเขาถึง

หลงได้หัวปรักหัวปรำมาจนถึงทุกวันนี้น่ะ ทั้งๆที่เหมือนเจ้าตัวจะงอลเขาแต่ก็ยังคอยดูแลและเป็นห่วงเขาอยู่ดีนั่นแหละ



       "ได้สิ! นี่ไง เอาไปเลยครับที่รัก ฉันเอารูปอื่นมาด้วยนะเผื่อแค่หมี กระต่ายและหมูแค่สามตัวมันจะไม่พอ" จงอินยื่นถุง

กระดาษที่ข้างในมีเทียนสำหรับปักเค้กวันเกิดรูปสัตว์ที่มากกว่าสิบชนิดให้เซฮุนโดยไม่ลืมที่จะยักคิ้วกวนๆส่งให้คุณแม่

ท้องแก่ที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆตัวเองด้วย



       "คิมจงอิน..นายนี่มัน..ฮึ้ย!!" เซฮุนสะบัดหน้าหนีจงอินอย่างงอนๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไร เมื่อเห็นท่าทางของจงอินรู้ที่ดู

เหมือนว่าจะรู้ทันเขาไปซะทุกอย่างอย่างนี้ 



       .....จำไว้เลยนะคิมจงอิน!! งอลที่สุดอ่ะ..ชริ!!.....


.

.

.

.

.

     "ฉันไปก่อนนะเซฮุน..แล้วจะรีบกลับ จีซองไปเร็วครับลูกจะสายแล้วนะ!!" จงอินบอกกลับเซฮุนพร้อมกลับตะโกนเรียก

จีซองที่กำลังวิ่งออกมาจากบ้านทั้งๆที่ปากยังคาบขนมปังอบของหม่าม๊าเซฮุนอยู่เลย ที่สองคนพ่อลูกต้องรีบตาลีตาเหลือกกัน

อย่างนี้ก็เพราะว่าวันนี้ลูกชายเขามีถ่ายแบบคู่กับป๊ะป๋าของเจ้าตัวน่ะสิ! บอกเลยว่าโอเซฮุนคนนี้ตื่นเต้นยิ่งกว่าเจ้าตัวอีกที่ยังมี

คนอยากจะได้เด็กตัวกลมไปเป็นนายแบบน่ะ คึๆ เรื่องข่าวทั้งหมดของเขา จงอินและจีซองที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้เขารู้ทั้งหมด

แล้วล่ะหลังจากที่โดนปิดหูปิดตาอยู่นาน จะถามว่าโกรธไหมตอนที่รู้ว่าจงอินและทุกๆคนที่บ้านใหญ่รู้เห็นกับจงอินปิดเรื่องข่าว

กับเขา บอกเลยว่าโอเซฮุนคนนี้ไม่โกรธหรอกเพราะรู้ดีว่าทุกๆคนตั้งใจปิดเพราะเป็นห่วงความรู้สึกและกลัวเขาเคลียดจนมีผล

ไปกระทบกับลูกในท้อง แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่โกรธแล้วจะไม่ได้รู้สึกไม่น้อยใจนะ บอกเลยว่าน้อยใจมาก โดยเฉพาะ

กับจงอินที่น่าจะรู้จักเขาดีกว่าใครๆ รู้จักตัวตนของเขาดีกว่าพ่อแม่เขาซะอีก! จงอินน่าจะบอกเขาสักนิดว่ามันมีเรื่องอะไรเกิด

ขึ้นบ้างตอนนี้ แค่บอกให้เขารับรู้แต่ห้ามไม่ให้เขาสนใจอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ได้นิ เพราะตัวเขาเองก็เตรียมใจกับเรื่องนี้มานานพอ

สมควรแล้วเพราะคิดว่าสักวันนึงมันจะต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแน่ๆ ในเมื่อจงอินยังคงพาจีซองไปทำงานที่โน่นนี่นั่น อย่าง

เปิดเผยมาได้สักพักแล้วอย่างนี้  ก็แคขอให้บอกกันก็เพียงก็เท่านั้น!!



       "ไปก่อนนะครับคุณกระต่ายที่รัก / ไปแล้วนะฮะหม่าม๊า" เซฮุนสายหน้ายิ้มๆ ให้กับสองพ่อลูกคู่เหมือนเบาๆ และมองตาม

รถยนต์คันหรูของจนอินที่เล่นออกจากรั้วบ้านไปจนลับตา ความจริงเขาก็อยากจะไปด้วยอยู่หรอกในเมื่อนี่มันเป็นงานชิ้นแรก

ในวงการของลูกชายเขาเชียวนะ แต่ก็ติดที่ว่าเขาท้องใหญ่เกินที่จะออกไปตะลอนๆแล้วล่ะ ขืนไปก็พลอยจะไปเป็นภาระให้

จงอินห่วงเอาเปล่าๆอีก จากที่จงอินเล่าให้ฟังว่าทางผู้ว่าจ้างติดต่อกับพี่หมินผู้จัดการส่วนตัวของจงอินมาว่าต้องการมาให้

ไปถ่ายแบบลงปกนิตยสารเล่มนี้กันทั้งครอบครัว ก็คือจงอิน จีซองและรวมถึงเขาด้วย แต่ติดตรงที่ว่าจีซองลูกชายเขาน่ะสิสั่ง

ให้ป้าหมินปฏิเสธทางนั้นไปว่าไม่ให้หม่าม๊าไปถ่ายแบบด้วยเพราะเป็นห่วงน้อง เกี่ยว? ทั้งๆที่คนเป็นพ่ออย่างจงอินบอกว่า

อยากให้ไปกันหมดนี่เลย แต่เจ้าลูกหมูกลับงองแงบอกว่าถ้าเขาไปเจ้าตัวก็จะไม่ไป เถียงกันอยู่นานจนได้ข้อสรุปว่าเจ้าตัวเขา

หวงน้องนั่นเองจากคำสารภาพปากของเจ้าตัว เล่นเอาเงิบไปทั้งเขาทั้งจงอินเลยทีเดียว! ทั้งๆที่น้องเล็กๆของพี่จีซองอยู่ในท้อง

ของเขาแท้ๆใครจะไปมองเห็น ฮึๆ



       ปริ๊นน....ปริ๊นนน



       "หือ...รถใคร?...ใครมาหรอฮะคุณแม่บ้าน" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะได้หันหลังเดินเข้าบ้านเลย ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นพร้อมกับ

มีรถคันสวยจอดรออยู่ตรงหน้าประตูรั้วบ้าน เซฮุนสงสัยอยู่ได้ไม่นานก็มีแม่บ้านวิ่งมาแจ้งถึงแขกผู้มาเยือน



       "คุณมินอาคนที่เป็นนักร้องมาขอพบคุณเซฮุนค่ะ!!"





...

หลังจากนี้มี่คงจะลงนิยายถี่ๆเหมือนเดิมเพราะเคลียร์ปัญหารกสมองอันหนักอึ้งหมดไปแล้วค่ะ ฮ่าๆ

เรื่องนี้จะจบลงแล้วจริงๆนะคะ และก็อย่างที่เคยบอกไปว่าจบแล้ว

มี่คงจะรีไรต์แก้ไขเนื้อหาบางตอนใหม่โดยเฉพาะตอนแรกๆ ที่ภาษามันดูหน่อมแน้มมากๆ

แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
จะมาเรียกร้องเอาอะไรที่นี่คะมินอา ความหลังครั้งเก่าก่อนกับจงอินหรือก็ไม่มี แถมจงอินเองก็แสดงออกชัดเจนเสียขนาดนั้นแล้วว่าแม้กระทั่งรู้จักกันแค่ผิวเผินก็ยังไม่ต้องการ เราว่ามันมากพอที่จะบอกมินอาว่าพยายามไปเท่าไรก็ไม่มีหวังแล้วนะคะแบบนี้น่ะ

เป็นห่วงก็แต่เซฮุนค่ะ เพราะถ้าหากว่าคำพูดที่มินอาตั้งใจจะเอามาทำร้ายเซฮุนทำอะไรเซฮุนไม่ได้ ด้วยเพราะเซฮุนเชื่อใจจงอิน ก็กลัวว่ามินอาจะสติแตกแล้วมาผลักเซฮุนเข้าให้นี่สิคะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอาแล้วไงๆๆๆๆๆ มินอามาวุ่นวายถึงที่บ้าน
นี่นางต้องมาก่อกวนเต็มสตรีมแน่ๆเรย
เซฮุนมั่นคงไว้นะ!!!!

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะมาก่อกวนอะไรห่ะ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ต้องมาก่อกวน หรือมาใส่ร้ายอะไรแน่เลยอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 31 









       "มากันแล้วหรือไค จีซอง" ทันทีที่เข้ามาในห้องที่ผู้จัดการส่วนตัวอย่างคิมมินซอกบอกว่าเป็นห้องแต่งตัว

ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเข้ามาแล้วเห็นประธานโอบุคคลที่เป็นทั้งเจ้านายและพ่อตานั่งรออยู่ก่อนแล้ว     



       "คุณตาาาา..." จีซองร้องเรียกประธานโอแล้ววิ่งเข้าไปโถมกอดด้วยความดีใจ ซึ่งประธานโอก็ตั้งท่ารอรับ

หลานชายสุดที่รักอยู่แล้ว



       "อ้าว! ท่านประธานมาทำอะไรที่นี่ครับ..?" จงอินถามด้วยความสงสัย พลางคิดไปว่าจะต้องมีเรื่องอะไร

ที่สำคัญแน่ๆ เพราะเจ้าของบริษัทอย่างประธานโอเนี่ยน้อยครั้งนักที่จะมาดูศิลปินในสังกัดทำงาน ยิ่งงานที่

เป็นแค่การถ่ายแบบลงปกหนังสือธรรมดาๆอย่างนี้แล้วยิ่งไม่มีทาง



       "กลับไปรับเซฮุนที่บ้านซะจงอิน" ประธานโอไม่ตอบแต่เลือกที่จะออกคำสั่งแทน



       "รับเซฮุน? ไปรับเซฮุนมาทำไมหรือครับ" จงอินถามต่อเพราะไม่เข้าใจในคำสั่งของเจ้านายบวกพ่อตา

สักเท่าไหร่ และอีกอย่างเขาก็ไม่อยากจะกลับไปรับเซฮุนหรอกเพราะเซฮุนนั้นท้องแก่จวนจนจะใกล้คลอด

อยู่แล้วเลยไม่อยากจะให้เคลื่อนไหวหรือไปไหนมาไหนบ่อยๆนัก เพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะสะดุดหรือพลาด

เป็นลมล้มไปอีกจะแย่เสียเปล่าๆ



       "ที่จริงวันนี้ไม่ใช่งานจ้างถ่ายแบบจากข้างนอกหรอก แต่เป็นการถ่ายรูปครอบครัวของเราต่างหากและ

วันนี้เราทุกคนก็จะร่วมกันบันทึกเทปสุดท้ายของโปรเจค 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ของนายกัน

มันก็เหมือนกับแถลงข่าวอย่างกลายๆนั่นแหละเพราะทางช่องที่เราออกอากาศไปเขาส่งพิธีกรและทีมงาน

มาสัมภาษณ์ด้วยในวันนี้" ประธานโออธิบายให้จงอินฟัง เพราะคิดว่าขืนเขาไม่ยอมบอกไม่ยอมอธิบายให้

เจ้าตัวฟังก่อน วันนี้ทั้งวันจงอินก็คงจะไม่ยอมไปรับโอเซฮุนลูกชายคนเล็กของเขามาหรอก

 

        "ถ่ายรูปครอบครัว?" จงอินเผลอหลุดพูดออกมาเบาๆ ไอ้เรื่องสัมภาษณ์ปิดโปรเจคเนี่ยเขาก็เข้าใจอยู่

หรอก แต่การถ่ายรูปครอบครัวเนี่ยมันคืออะไรล่ะ รูปครอบครัวของเขา เซฮุน และจีซอง พวกเขาก็ไปถ่ายกัน

มาแล้วนี่ แล้วก็กะว่าจะให้คนเล็กในท้องเซฮุนออกมาก่อนจะได้ไปถ่ายใหม่อีกครั้งนึง



       "อืม..ก็แค่ถ่ายรูปครอบครัวไงนายยังจะงงอะไรอีก" ประธานโอถามอย่างไม่สบอารมณ์ กะอีแค่การถ่ายรูป

ครอบครัวมันมีอะไรตรงไหนเข้าใจยังไงเนี่ย หรือว่าลูกเขยเขาจะทำงานจนบื้อไปแล้ว?



       "ผมก็มีรูปครอบครัวกันอยู่แล้วนี่ครับ" จงอินตอบกลับ พร้อมกับเหลือบตาสังเกตุมองท่าทางของ

ประธานโอไปด้วย เพราะเขารู้แล้วแหละว่าประธานโอหมายถึงอะไร แต่ก็นะ..ขอแกล้งพ่อตาปากแข็ง

สักหน่อยก่อนเถอะ



       "มีแล้ว? มีตอนไหน? มันจะมีไปได้ยังไงในเมื่อนายยังไม่ได้ถ่ายรูปกับฉัน คุณนายและก็เจ้าจุนมยอนเลย

หรือว่านายไม่อยากจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับฉันแล้ว" ประธานโอถามด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง ทั้งๆที่หน้าและ

ใบหูเริ่มแดง แต่ก็พยายามที่จะเก็บอาการให้มากที่สุดเพราะรู้สึกอายที่โดนลูกเขยพูดไล่ต้อนเหมือนเด็กมี

ความผิด และไอ้การที่เขาเข้ามาพูดมาคุยกับจงอินก่อนก็กระดากปากจะแย่อยู่แล้วเพราะว่าก่อนหน้านี้เขา

ก็ด่าว่าและตั้งแง่หาเรื่องจงอินไปเยอะอยู่เหมือนกัน



       "อ่อๆ ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบไปรับเซฮุนเดี๋ยวนี้แหละครับคุณพ่อ จีซองอยู่แต่งตัวกับคุณตาไปก่อน

นะครับลูก ป๊ะป๋าขอกลับไปรับหม่าม๊ากับน้องก่อน" จงอินบอกกับประธานโอเสียงทะเล้นโดยเน้นคำว่า

'คุณพ่อ' เป็นพิเศษด้วยสีหน้ากลั้นขำ ก่อนที่จะก้มตัวพูดบอกกับลูกชายที่นั่งเล่นของเล่นของเจ้าตัวอยู่

ข้างๆกันกับประธานโอ และเดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อที่จะกลับไปรับเซฮุนทันทีโดยที่ไม่สนสีหน้าบึ้งๆ

เหวี่ยงๆของคุณพ่อตาเลย

.

.

.

.

.

       "สวัสดี...นายหรือเปล่าที่ชื่อโอเซฮุนคนที่เป็นภรรยาของจงอินโอปป้า" ยังไม่ทันทีเซฮุนจะก้าวเดินไปไหน

เลย รถยนต์คันสวยก็จอดเทียบหน้าประตูทางเข้าด้านในบ้านตรงที่เซฮุนยืนอยู่พอดิบพอดีเลย ประตูรถฝั่ง

คนขับเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ดูดีแบบไม่มีที่ติ ซึ่งพอได้เห็นหน้าคาดตาบวกกับชื่อที่แม่บ้าน

บอกกับเซฮุนเมื่อสักครู่นี้เซฮุนก็นึกได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือชินมินอานักร้องหน้าใหม่ที่จงอินเคยไปแสดง

มิวสิควีดีโอให้และตัวเขาเองก็เคยเห็นผ่านๆบ้างทางหน้าจอโทรทัศน์

       

       "สวัสดีฮะ คุณมีธุระอะไรกับผมหรือฮะ" เซฮุนไม่บอกแต่ตอบกลับด้วยคำถามแทน



       "มีสิ! ฉันมีธุระกับนายหลายเรื่องเลยแหละ" เธอบอกพร้อมกับก้าวประชิดตัวเซฮุน ซึ่งเซฮุนเองก็ถอยห่าง

ทันทีเลยเหมือนกัน เพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีกับสีหน้าและท่าทางที่คุกคามของแขกไม่ได้รับเชิญคนนี้แล้วล่ะ



       "ผมกับคุณเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรอ" เซฮุนถามและสำรวจมอง ประเมิณท่าทางและอารมณ์ของคน

ตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง และพยายามที่จะมองหาแม่บ้านของตนเองไปด้วยอย่างไม่ให้มีพิรุธเพราะมินอาเริ่ม

แผ่รังสีแห่งการคุคามออกมาจากตัวมากขึ้นทุกทีๆ



       "ฉันกับแกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหรอก แต่ที่ฉันจะต้องมาทำความรู้จักกับแกถึงที่นี่ทั้งๆที่ฉันทั้งรังเกียจ

และขยะขแยงแกมากถึงมากเพียงแค่ได้ยินชื่อแกออกมาจากปากจงอินโอปป้าแท้ๆ ก็เพราะว่าฉันต้องการที่

จะมาบอกแกว่า แกควรที่จะออกไปจากชีวิตของจงอินโปปป้าได้แล้ว ฉันปล่อยให้แกกับไอ้เด็กนรกลูกของแก

แย่งจงอินโอปป้าของฉันมานาเกินไปแล้ว" มินอาบอกเสียงเย็นพร้อมกับก้าวเดินไล่ต้อนให้เซฮุนอย่างช้าๆ

และแสดงสีหน้าออกเหมือนกับว่าเธอกำลังสนุกเมื่อเห็นเซฮุนก้าวถอยหลังหนีเธอด้วยสีหน้าตื่นๆ

.

.

.

       "เฮ้ยๆ แทคัง! นั่นอะไรว่ะมินอามาทำอะไรที่นี่ แล้วคุณเซฮุนถึงมีท่าทีแปลกๆอย่างนั้นล่ะ?" หนึ่งใน

สองของทีมงานโปรเจค 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ที่ยังคงประจำอยู่หลังต้นไม้พุ่มใหญ่ตำแหน่ง

ลับตาคนในสวนข้างบ้านของจงอินที่ต้องอยู่บันทึกเทปที่เหลือในอีกหนึ่งตอนสุดท้ายนั้นก็พูดขึ้นพร้อมกับ

สะกิดเพื่อนคู่หูที่นั่งหลับอยู่ข้างๆให้ดูมินอาและเซฮุนเมื่อเห็นว่าเซฮุนมีสีหน้าและท่าทางแปลกๆ อย่างที่

ไม่เคยเห็นมาก่อนและเหมือนกับว่าเจ้าตัวนั้นกำลังกลัวหรือหวาดระแวงอะไรสักอย่าง



       "เออว่ะ ชิบหายแล้ว!! เดี๋ยวแกโทรแจ้งไปทางสถานีนะว่าขอถ่ายทอดสด บอกไปว่ามีข่าวใหญ่ ข่าวด่วน

ของคิมไคแล้วกันเดี๋ยวเขาก็ตัดออกอากาศให้แกเอง...ฉันขอไปแอบดูสถานการณ์ใกล้ๆก่อนว่ะเผื่อเกิดอะไร

ขึ้นจะได้ช่วยคุณเซฮุนได้ทัน ท่าจะไม่ดีแล้วว่ะ! อย่าลืมนะเว้ย ถ่ายไว้ๆ เก็บให้ได้ทุกช็อต เช็คกล้องเช็คไมค์

ที่อยู่รอบๆตรงนั้นดีๆ ซูมเอาให้ได้เห็นได้ยินชัดๆแบบทุกมุมเลยนะเว้ย!!" เมื่อมองในสิ่งที่เพื่อนชี้ให้ดูและเห็น

ว่ามินอากระชากแขนของเซฮุนอยู่ไกลๆ แทคังก็พูดบอกในสิ่งที่คู่หูของตัวเองจะต้องทำอย่างระเอียดและ

รวดเร็ว เพราะความเป็นห่วงเซฮุน ก็นะ..ถึงแม้ว่าเซฮุนจะไม่เคยรับรู้ในการมีตัวตนของทีมงานอย่างพวกเขา

แต่ก็รู้สึกดี รู้สึกชอบเซฮุนไปแล้วหลังจากที่ซุ่มดูอยู่เป็นเดือนๆ รับรู้มาโดยตลอดว่าโอเซฮุนนั้นทั้งน่ารักและ

แสนดีขนาดไหน อีกทั้งคิมไคกับจีซองก็ดูและส่งข้าวส่งน้ำรวมถึงส่งขนมฝีมือของเซฮุนมาให้พวกเขาตลอดๆ

อย่างมีน้ำใจทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ และจะพูดฝากฝังให้ช่วยดูแลเซฮุนแทนอยู่ทุกครั้งที่ทั้งสองคนพ่อลูก

จำเป็นต้องไปธุระและปล่อยให้เซฮุนต้องอยู่ตามลำพัง และสิ่งที่สำคัญเลยคือโอเซฮุนคนนี้คือลูกชายคนเล็ก

ของโอซังซูประธานบริษัทหรือเจ้านายใหญ่ของเขานั่นเอง และถ้าสิ่งที่อยู่ในใจเขาตอนนี้เป็นเรื่องจริง จะให้

เขาทนเห็นคนดีๆถูกทำร้ายไปต่อหน้าต่อตาหรอ? บอกได้เลยว่าไม่มีทางซะหรอก!!

.

.

.

       "คุณพูดอะไรของคุณ...ผมไม่เข้าใจ" เซฮุนขมวดคิ้วยุ่งเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่มินอาพูด



       "ไม่เข้าใจ..ตอแหล!! ฉันพูดชัดขนาดนี้แล้วว่าให้แกกับไอ้จีซองเด็กนรกลูกชายของแกออกไปจากชีวิต

ของจงอินโอปป้าของฉันแกยังจะไม่เข้าใจอะไรอีกห๊ะ!!!" มินอาบอกพร้อมกับคว้าแขนของเซฮุนอย่างแรง

จนเซฮุนแทบเซล้ม แต่ดีที่ว่ายังตั้งตัวทัน




       "ทุกสิ่งที่คุณพูดนั้นแหละคือที่ผมไม่เข้าใจ" เซฮุนตอบพร้อมกับพยายามที่จะบิดแขนตัวเองออกจาก

มือมินอาเพราะรู้สึกเจ็บ เพราะมินอาใช้เล็บที่เคลือบสีสดของเธอนั้นมันจิกลงเนื้ออ่อนที่ต้นแขนของเซฮุน

จนเซฮุนทั้งเจ็บทั้งแสบและคาดว่าเนื้อตรงส่วนที่มินอาจิกนั้นคงจะเป็นแผลได้เลือดไปแล้ว



       "แก..แกนี่มันหน้าด้านหน้าทนจริงๆนะ ตอแหลแกล้งซื่อได้เก่งจริงๆ ถึงว่า..ว่าทำไมไอ้พวกคนดูหน้าโง่

มันถึงได้หลงเชื่อไปชื่นชมแกได้ ทั้งๆที่ไอ้รายการเรียลลิตี้บ้าบอกอะไรนั่นมันก็แค่การจัดฉากๆนึง เหมือนกับ

รายการทีวีทั่วๆไป ก็เพราะแกมันแสดงละครได้เก่งแบบนี้นี่เอง"



       "เรียลลิตี้?" เซฮุนหลุดพูดออกมาด้วยความสงสัย รายการ? เรียลลิตี้? เรียลลิตี้ที่มินอาพูดคือ? รายการ

อะไรล่ะ? แล้วมันเกี่ยวกับเขายังไงกันเขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนี้พูดเรื่องอะไร?



       "ห๊ะ? ทำหน้าอย่างนี้คือไรหรอโอเซฮุน หรือแกจะบอกกับฉันว่าแกไม่รู้เรื่องรายการเรียลลิตี้ชีวะประวัติ

ความรักเน่าเฟะ เฟคๆ ที่ปล่อยมาเรียกร้องความเห็นจากพวกชาวบ้านหน้าโง่ให้สงสารแกรึยังไง...มันจะ

เป็นไปได้หรือโอเซฮุน ว่าเรื่องรายการเรียลลิตี้ที่คนทั้งประเทศ ไม่สิ..ต้องบอกว่าคนทั้งโลกรู้ต่างหากล่ะ

แล้วนายจะไม่รู้เลยหรือ..ฮึ? โอเซฮุนชายหนุ่มหน้าหวานแสนดีที่เป็นภรรยาและแม่ของลูกของซุปเปอร์ตาร์

คนดังอย่างคิมไค อ่อ! อีกทั้งยังเป็นลูกชายคนเล็กที่แสนจะเหลวแหลกพลาดท้องโย้ตั้งแต่ยังไม่จบมัธยม

ของเจ้าของบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่อย่างประธานโอซังซูด้วยสินะ!! มันจะตลกไปรึเปล่าฮึโอเซฮุนที่คนทั้งโลก

รู้ประวัติฉาวโฉ่เน่าเฟะของแกกับครอบครัว แต่แกกลับบอกว่าแกไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆ" มินอาพูดกระแทกแดกดัน

เซฮุนอย่างสนุกปากเมื่อเห็นว่าเซฮุนมีสีหน้าตกใจปนสับสนจนในนิ่งไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูด

 


       "......"



       "แต่ก็เอาเถอะ...เห็นแก่ความพยายามในการแสดงสีหน้าตกใจอันล้ำเลิศของแกฉันจะแกล้งโง่ทำเป็น

เชื่อว่าแกไม่รู้เรื่องจริงๆก็แล้วกัน ฉันเองก็เป็นคนดีซะด้วยสิ! เอาเป็นว่าฉันจะสงเคราะห์ผู้ชายหน้าโง่ๆอย่าง

แกด้วยการบอกความจริงในทุกๆเรื่องก็แล้วกันนะ!"



       "......"



       "อย่างแรกเลยคือ เรื่องราวเน่าเฟะของแกตั้งแต่ตอนที่แกเป็นคนใจง่ายชั่วช้าที่หลอกบังคับจงอินโปป้า

ให้นอนกับแกยอมมีอะไรกับแกเพื่อแลกกับการที่แกจะช่วยพูดเร่งเรื่องการเดบิวต์ของจงอินโอปป้ากับพ่อ

ของแกเพื่อที่จะจับจงอินโอปป้า ทั้งๆที่จงอินโอปป้ามีความสามารถแล้วจะได้เดบิวต์อยู่แล้วแท้ๆ แต่แกก็

หลอกให้โอปป้าเขายอมนอนกับแก จนแกพลาดท้องไอ้เด็กนรกจีซองลูกของแกขึ้นมาจนพ่อแกจับได้ไง

หรือจะเป็นเรื่องที่พ่อแม่แกเขาอับอายที่มีลูกร่านๆอย่างแกจนต้องส่งแกไปชุบตัวอยู่เมืองนอกเมืองนา

ตั้งหลายปี เนี่ยเรื่องนี้เนี่ยนะเขารู้กันทั่วโลกแล้ว  หรือจะเป็นเรื่อง......."



       "หุบปากเน่าๆของเธอสักทีชินมินอา!! ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องรายการเรียลลิตี้ที่เธอบอกมาเนี่ยมันจะ

มีอยู่จริงๆหรือไม่มี แต่เรื่องที่ฉันรู้และและสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดเลยคือฉันกับจงอินเรารักกันและฉันก็ไม่เคย

ทำเรื่องบ้าๆที่พล็อตเหมือนกับนิยายน้ำเน่ามาอย่างที่เธอพูดหรอกนะ และพ่อแม่ฉันไม่เคยพูดหรือแสดง

ท่าทีที่บอกว่าเขาอับอายที่มีลูกอย่างฉันเลย มีแต่จะพาไปแนะนำกับเพื่อนกับหุ้นส่วนของพวกท่านอย่าง

ภาคภูมิใจทั้งนั้นว่าฉันโอเซฮุนคนนี้คือลูกชายคนสุดท้องของเขา และสิ่งที่สำคัญเลยคิมจีซองลูกชายของฉัน

คือสิ่งที่พระเจ้าท่านประทานพรให้มาเป็นของขวัญที่มีค่าและแสนพิเศษแก่ฉันและคิมจงอินสามีของฉันไม่ใช่

เด็กนรกอย่างที่เธอพูดสักนิด เธอมันก็แค่ผู้หญิงขี้อิจฉาหน้าไม่อาย ที่เที่ยวคอยแต่จะวิ่งไล่จับสามีของคนอื่น

จนตัวสั่นทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรามีลูกและภรรยาอยู่แล้วแท้ๆ การกระทำของเธอต่างหากที่น่ารังเกียจ!!!"

เซฮุนทนไม่ได้ที่จะฟังคำโกหกของมินอาอีกต่อไปจึงพูดตอกหน้าว่ามินอากลับบ้าง เขาไม่รู้หรอกว่ารายการ

เรียลลิตี้บ้าบออะไรนั่นจะมีจริงหรือป่าวเรื่องนี้เอาไว้ค่อคุยกับจงอินอีกที แต่เรื่องที่เขายอมไม่ได้เลยคือสิ่งที่

มินอาพูดออกมาทั้งหมดมันเกินไป มันดูถูกครอบครัวของเขาเกินไป และที่สำคัญเลยคือมินอาหยาบคาย

มากที่มาเรียกจิกด่าว่าซ้ำๆว่าลูกชายสุดที่รักของเขานั้นเป็นเด็กนรก!! ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขายอมไม่ได้ ลูกใคร

ใครก็รัก ครอบครัวใครใครก็อยากปกป้องและดูแลกันทั้งนั้น!! เซฮุนจึงรวบรวมกำลังแรงฮึดผลักมินอาออก

จากตัวเองอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงเนื้่อของตัวเองที่ติดไปกับเล็บของมินอา ถึงเซฮุนจะเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย

แต่ใช่ว่าคนอย่างโอเซฮุนจะอ่อนแอและหัวอ่อนจนยอมให้ใครมาหลอกปั่นหัวหรือเอาเปรียบโดยที่ไม่โต้ตอบ

อะไรเลยหรอกนะ อย่าลืมสิว่าประธานโอซังซูและคุณนายคิมบอกเสมอว่าโอเซฮุนมีนิสัยที่ถอดแบบมาจาก

คนเป็นพ่อมากน้อยขนาดไหน จะมายืนเงียบๆให้เขาตราหน้าทั้งๆไม่ใช่เรื่องจริง..ไม่มีทางซะหรอก!!!



       "โอ๊ะ...โอ้ย!! ละ..เลือด หัวแตก แกทำฉันหัวแตกเลยหรออีตุ๊ด!!!" มินอาร้องออกมาพร้อมกับทำท่าจะ

พลุ่งใส่เซฮุนเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลลงมาจากหน้าผากของตัวเอง เพราะตอนที่เซฮุนผลักมินอาออกจากตัวเอง

นั้นคงจะใช้แรงเยอะไปหน่อย มินอาถึงได้ล้มหัวไปกระแทกกับกระถางต้นไม้ประดับซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณ

เซฮุนและมินอายืนอยู่สักเท่าไหร่นัก



       "ว๊ายตายแล้ว!! อย่าค่ะ เธออย่าทำอะไรคุณเซฮุนนะ!! / อย่านะคุณมินอา" แต่ยังไม่ทันที่มินอาจะได้

ถึงตัวเซฮุนแต่อย่างใด ก็มีหญิงวัยกลางคนที่เป็นแม่บ้านที่จงอินจ้างมาดูแลเซฮุนและแทคังที่เป็นทีมงาน

จากบริษัทก็กระโดดเข้ามาขวางทางมินอาและจับล็อคตัวมินอาไว้เพื่อไม่ให้มินอาได้เข้าถึงตัวเซฮุนได้อีก

 

       "คุณเป็นใคร" เซฮุนเอ่ยถามแทคัง



       "ผมเป็นพนักงานในบริษัทHK Ent' ครับ คิมไคและจีซองฝากให้พวกผมช่วยดูแลคุณละหว่างที่เขาทั้ง

สองคนไม่อยู่ครับ" แทคังตอบไปตามตรงแต่ก็ไม่ทั้งหมด

 

       "ถ้าอย่างนั้นผมวานคุณช่วยเชิญเขาออกไปจากบ้านผมด้วยนะฮะ ถ้าเขาไม่ยอมก็โทรเรียกตำรวจมา

พาเขากลับไปส่งให้ถึงบ้านทีนะฮะ" เซฮุนบอกพร้อมกับมองไปทางมินอาที่กำลังมองตนอย่างเครียดแค้น

ทั้งๆที่หัวแตกมีเลือดอาบหน้าอยู่แท้ๆ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดเสียที และถึงแม้ว่าเขาจะยังสงสัย

ในการมาของแทคังแต่เขาก็ไม่อยากจะซักถามอีกแล้วละ เพราะรู้สึกเหนื่อยเต็มทนเพราะปกติแล้วเวลานี้

มันควรจะเป็นพักผ่อนของเขาซะมากกว่าที่จะต้องมายืนทะเลาะกับมินอาให้ปวดอย่างนี้ เพราะยิ่งอายุครรภ์

มากขึ้นเท่าไหร่เซฮุนก็ยิ่งต้องการการพักผ่อนมากขึ้นไปด้วย

.

.

.

       "ปล่อย!! ปล่อยฉันได้แล้ว!!" มินอาพูดโวยวายออกมาพร้อมกับพยายามที่จะสะบัดตัวดิ้นรนออกจาก

การจับกุมอันแน่นหนาของแทคัง เมื่อเห็นเซฮุนค่อยๆเดินเข้าบ้านไปอย่างช้าๆเพราะท้องใหญ่เกินกว่าที่

จะเคลื่อนไหวเร็วได้แล้ว โดยที่มีแม่บ้านวัยกลางคนเดินตามไปประคองเซฮุนอย่างประคบประหงบด้วย

ความเป็นห่วงอีกคน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้มินอารู้สึกหมั่นไส้เซฮุนเพิ่มเข้าไปอีก



       "เชิญครับ" แทคังละมือออกจากตัวของมินอาข้างนึงเพื่อที่จะเปิดประตูรถมินอา



       ปึก!!  ปึก!!



      "แกคิดว่าง่ายขนาดนั้นเลยหรือห๊ะไอ้กระจอก!!" มินอาตะโกนใส่หน้าแทคังหลังจากที่เตะไปกลางกล่อง

ดวงใจของแทคังซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้ชายทุกคนและจับหัวแทคังโขกกับรถตัวเองจนแทคังทั้งจุกทั้งมึนใน

ช่วงที่แทคังกำลังเผลอและละมือจากตัวเธอเพื่อที่จะเปิดประตูรถเธอเสร็จแล้วเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน

เพื่อที่จะไปตามหาเซฮุนอีกครั้ง



       "เซฮุนแก...อย่าได้มีชีวิตอยู่อีกเลยอีตุ๊ด!!!" มินอาพูดพร้อมกับที่ใช้สองมือขยุ้มจิกผมของเซฮุนและ

กระชากเซฮุนให้หงายหลังให้ตกจากบันไดอย่างเต็มแรง

 

       "เซฮุน!!! / คุณเซฮุน!!! / คุณเซฮุน!!!" เสียงร้องเรียกของจงอิน แทคังและเสียงกรีดร้องของแม่บ้านที่

ยืนอยู่ข้างๆกับเซฮุนบนบันไดร้องเรียกเซฮุนออกมาพร้อมๆกัน เมื่อเห็นว่ามินอากำลังกระชากผมเซฮุนจาก

ข้างหลังแต่ก็ไม่ทัน ในเมื่อตอนนี้ร่างอวบๆที่มีท้องนูนๆของเซฮุนนั้นนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นตรงทางขึ้น

บันไดแล้วโดยที่มีมินอายืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่เมื่อเห็นว่าเป็นจงอินผู้ชายที่เธอหลงรักกำลังมองมาที่เธอด้วย

ความเกรี้ยวกราดและโกรธแค้นอย่างที่ใครได้เห็นก็คงจะต้องหวาดผวากันบ้างเพราะสายตาคมคู่นั้นมัน

ช่างดูน่ากลัวมากเลยจริงๆ



       "จับผู้หญิงคนนี้ไว้แล้วโทรแจ้งตำรวจด้วย!!!" จงอินตะโกนบอกทุกคนที่อยู่ในบริเวณบ้าน และรีบอุ้ม

ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของเซฮุนขึ้นรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลทันที โดยที่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรีบแหวกทาง

ให้จงอินอย่างไม่ต้องมีใครบอกเลย

.

.

.

      ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้



       "หือ...คนพวกนี้มามุงอะไรกัน" จงอินบ่นกับตัวเองในขณะที่จอดรถอยู่ข้างรั้วทางฝั่งหน้าบ้านตัวเอง

เมื่อเห็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่กำลังมุงออกันอยู่ทางประตูรั้วทางเข้าบ้านของเขา คนพวกนี้รู้จักบ้านของเขา

ได้ยังไงกันและที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาเหล่านี้มาทำไม!!



       ก๊อก...ก๊อก

       

      "ไคโอปป้าคะ พี่รีบเข้าไปในบ้านพี่เถอะค่ะ พี่เซฮุนกำลังจะแย่แล้วนังปีศาจมินอากำลังจะทำร้าย

พี่เซฮุนค่ะ พวกเราจะเข้าไปในบ้านพี่ก็ไม่ได้เพราะประตูมันล็อคอยู่และที่สำคัญมันค่ะพวกฉันปีนเข้าไป

ช่วยพี่เซฮุนไม่ได้ ไปเลยค่ะ รีบๆเข้าไปเลยค่ะ" ไม่ต้องเสียเวลาเดาก็มีแฟนคลับเดินเข้ามาเคาะกระจกรถ

ของจงอิน และเมื่อเห็นว่าเป็นแฟนคลับมารยาทดีที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีของตัวเองจงอินก็เลื่อนกระจกลง

เพืื่อที่จะถามให้หายข้องใจกับสิ่งที่ตัวเองสงสัย แต่จงอินยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรแฟนคลับคนดังกล่าวก็

รีบพูดบอกพร้อมกับชูหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่กำลังเปิดดูถ่ายทอดสดภายในบ้านของของตัวเองที่มี

มินอากำลังวิ่งตาเซฮุนเข้าไปในบ้านทางอินเตอร์เน็ตให้กับจงอินดู เมื่อเห็นดังนั้นจงอินก็ไม่รอให้แฟนคลับ

ผู้หวังดีต้องพูดบอกอะไรอีกเขาก็เร่งเครื่องรถพร้อมกับบีบแตรของทางจากบรรดาแฟนคลับที่ยืนมุงกันอยู่

ทางหน้าบ้านและกดรีโมตเปิดประตูรั้วเลยโดยทันที ซึ่งพวกแฟนคลับก็ช่วยกันแหวกทางโดยที่ไม่ต้องรอ

ให้ใครบอกเลยเมื่อเห็นรถยนต์คันหรูเพราะเดากันได้ว่าต้องเป็นคิมไคอย่างแน่นอน

.

.

.

       "กรี๊ดดดดดดด!!!! พวกแกจะทำอะไรฉัน!! ถอยออกไปนะ ถอยออกไป!!! อีพวกบ้า!!!!" มินอากรีดร้อง

เสียงหลงเมื่อโดนผู้ชายสี่ห้าคนในบรรดากลุ่มของแฟนคลับหามและอุ้มออกเธอมาข้างนอกบ้าน



       "คนจิตใจสกปรกหยาบคายที่ชอบแสดงสันดานต่ำๆอย่าง เธอพวกฉันจะช่วยกันขัดล้างให้ความคิดชั่วๆ

ของเธอได้เจอจางและเบาบางไปบ้างไม่มากก็น้อยกับสิ่งที่เธอทำลงไปก่อนที่จะส่งเธอไปเข้าคุกยังไงล่ะ

โยนอีบ้าโรคจิตนี่ลงไปเลยพวกเรา!!" หนึ่งในแฟนคลับซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มแฟนคลับคนนึงพูดขึ้น

ก่อนที่จะสั่งให้พวกผู้ชายที่ช่วยกันหามมินอาอยู่นั้นโยนมินอาลงไปในบ่อน้ำตกจำลองที่อยู่ทางบริเวณหน้า

บ้านของจงอินอย่างไม่ออมแรง พร้อมกับที่สมาชิกแฟนคลับจงอิน เซฮุนและจีซอง ค่อยๆทยอยเดินลงไป

ลุมทึ้งช่วยกันจับมินอากระชากไปมา พร้อมทั้งร่วมกันจิกหัวมินอากดลงน้ำเป็นพักๆ ซึ่งมินอาเองก็ได้แต่

กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและพยายามที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกจากตรงนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเหมือนกับว่า

จำนวนแฟนคลับที่เข้ามารุมทึ้งตัวเธอนั้นจะเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ ก่อนที่เธอจะสลบไปหลังจากที่เจ้าหน้าที่

ตำรวจมาช่วยกันพาเธอขึ้นจากบ่อน้ำอย่างอยากลำบากและทุลักทุเลเพราะมีแฟนคลับจำนวนมากที่ยืน

ล้อมรอบตัวเธออยู่ และเฮโลกันไปโรงพักตามระเบียบ





...

มาแล้วค่ะ....ขอโทดนะคะที่ปล่อยทิ้งให้อารมณ์ค้างกันไปเสียนาน

หวังว่าตอนนี้คงจะยาวพอที่จะชดเชยความผิดของมี่กันได้นะคะ

จะจบแล้วน้าาา....จะจบแล้วน้าาาา......

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2015 23:56:41 โดย Mimzmie »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จะคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่า จะปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกไหมนะ  :sad4: เกลียดมาม่าจัง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ขอให้ทุกคนปลอดภัยด้วยเถิด

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ท่าทางสติสตังจะไม่ค่อยดีนะคะมินอาถึงได้มาทวงคนรักของคนอื่นเขาคืนได้หน้าตาเฉยแบบนี้น่ะ แย่จริงๆ เลยเชียว

ขอให้เซฮุนกับตัวเล็กปลอดภัยด้วยนะคะ :call:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แงแงๆๆ สงสารลูกในท้องและคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สุด อีชะนีเลว สังคมไม่ควรให้อภัย ตายเถอะค่ะ

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริง  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

น้องน้อย ๆ ต้องไม่เป็นไรนะ   :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

นางชะนีใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยย   :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

คนเขียนรีบมาต่อด่วนค่ะ   :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 32   









      "ช่วยด้วยครับ!! ช่วยด้วย!!! ช่วยภรรยาผมด้วย!!!" ทันทีที่จอดรถหน้าตึกฉุกเฉินของโรงพยาบาลได้
จงอินก็รีบอุ้มร่างโชกเลือดของเซฮุนออกจากรถตัวเองวางลงบนเตียงเข็นผู้ป่วยอย่างระมัดระวังโดยได้รับ
ความช่วยเหลือจากบุรุษพยาบาลที่ประจำอยู่อีกแรง ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข็นเตียงเซฮุนเข้าห้องฉุกเฉิน
ไปโดยมีหมอเวรประจำวันเดินตามเข้าไปดูอาการของเซฮุนอย่างเร่งด่วน หลังจากที่ได้ซักประวัติและสาเหตุ
ที่ทำให้เซฮุนต้องอยู่ในสภาพโชกเลือดอย่างนี้จากปากของจงอินเรียบร้อยแล้ว


      "มีอะไรหรือป่าวครับหมอ!!!" ยังไม่ทันที่จงอินจะได้หายใจหายคอได้สะดวก หมอคนเดิมที่เข้าไปดู
อาการของเซฮุนก็เดินกลับออกมาอีก


      "ตอนนี้อาการของภรรยาคุณน่าเป็นห่วงมาก เพราะการกระทบกระเทือนจากเหตุที่คุณบอกทำให้เรา
ตรวจพบว่าคนไข้มีเลือดคลั่งที่สมองและอีกหนึ่งอย่างที่หน้าเป็นห่วงคือถุงน้ำคร่ำที่หุ้มตัวทารกในครรภ์ของ
คนไข้นั้นแตกเพราะได้รับผลมาจากการกระแทกอย่างรุนแรงและกระทบกระเทือนจนทำให้มีน้ำคร่ำรั่วไหล
ทำให้โพรงมดลูกแห้งจนสายสะดือถูกตัวเด็กกดทับไว้ และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตได้ ดังนั้น
ผมจึงอยากจะให้คุณช่วยตัดสินใจเลือกด้วยครับ ว่าคุณจะให้เรารักษาแม่หรือเด็กก่อนเพราะเราไม่อาจที่
จะผ่าตัดพร้อมกันได้เนื่องจากว่าคนไข้เสียเลือดไปก่อนหน้านี้มากเกินไปแล้ว ถ้าขืนเราทำการผ่าทั้งสอง
อย่างพร้อมกันซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่นั้น...คุณอาจจะเสียไปทั้งภรรยาและลูกไปพร้อมๆกันเลยก็ได้
เพราะคนไข้เสี่ยงที่จะเกิดภาวะช็อคได้ตลอดเวลาในการรักษา"


      "ละ..เลือกหรอครับ" จงอินถามเสียงแห้ง เขานั้นแทบอยากจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอบอก
หูสองข้างของเขานั้นมันอื้ออึงไปหมดเพราะไม่อยากจะรับรู้ไม่และรับฟังในคำพูดของหมอเลย...เลือก?
เลือกหรอ? ที่ผ่านมายี่สิบกว่าปีของเขานั้น เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดและทรมาณมากมายในการที่จะต้อง
ตัดสินใจเลือกอะไรอย่างนี้เลย เพราะการเลือกของเขาในครั้งนี้มันไม่ใช่แค่สิ่งของหรือเสื้อผ้า แต่มันเป็น
การเลือกชีวิตในการต่อลมหายใจของคนสำคัญในชีวิตของเขาทั้งสองคน แล้วเขาคนนี้จะต้องเลือกอะไร
ระหว่างชีวิตของโอเซฮุนผู้ชายที่เป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเหมือนกับทั้งชีวิตของเขาและลูกที่เขายัง
ไม่เคยได้เห็นได้สัมผัสแต่ก็เปรียบเสมือนกับเป็นดวงใจของเขาด้วยเช่นกัน แล้วคิมจงอินคนนี้จะต้องทำยังไง เขาควรที่จะเลือกใคร.....


      "จงอิน" ในขณะที่จงอินช็อคและสับสนวนอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่นั้น ก็มีเสียงคนเรียกเขาจาก
ทางด้านหลังพร้อมกับฝ่ามือหนักๆที่ตบลงเบาๆที่ไหล่ซ้ายของเขาอีกสองทีเหมือนกับว่าคนๆนั้นกำลังให้
กำลังใจเขาอยู่ และเมื่อหันกลับไปเขาก็เจอประธานโอซังซูพ่อตาที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขามาโดยตลอด
กำลังส่งรอยยิ้มซีดเซียวมาให้เขาและข้างหลังของประธานโอนั้นก็ยังมีคุณนายคิมที่ยืนร้องไห้อยู่อีกคน
ถับไปก็เป็นจุนมยอนที่สองตาแดงมีน้ำตาคลออยู่ตรงขอบตาจนเกือบจะล้นออกมาและปาร์คชานยอล
ที่ในอ้อมแขนมีจีซองลูกชายคนโตของเขานอนหลับคาอกอยู่ด้วย ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าคนพวกนี้มา
ตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนไหนยังไงแต่ที่แน่ๆเลยคือทุกคนคงจะได้ยินในสิ่งที่หมอพูดเหมือนกันกับเขา เพราะสีหน้าและแววตาของแต่ละคนนั้นมันบ่งบอกเขาอย่างชัดเจนว่าทุกคนกำลังรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดใจไม่น้อยไป
กว่าเขาเลย


      "คุณพ่อครับ" จงอินเรียกประธานโอด้วยเสียงเบาหวิวในสรรพนามที่ไม่เคยเอ่ยเรียกอย่างจริงจังมาก่อน 


      "เลือกในสิ่งที่นายต้องการเถอะจงอิน ไม่ว่านายจะเลือกเซฮุนหรือว่าลูกของนายก็จะไม่มีใครว่าอะไร
นายหรอกเพราะพวกเราเชื่อว่าสิ่งที่นายตัดสินใจนั้นมันคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ตอบหมอเขาไปเถอะว่านายจะ
เลือกใครก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปกว่านี้" ประธานโอบอกพร้อมกับฝืนยิ้มเซียวๆให้กับจงอินอีกที ก่อนที่จะ
ผละไปนั่งที่เก้าอี้สำหรับญาติผู้ป่วยเพราะไม่อยากที่จะรอฟังคำตัดสินใจเลือกในครั้งนี้ของจงอิน เพราะ
คนนึงก็ลูกและอีกคนก็หลาน ไม่ว่าจงอินเลือกใคร มันก็เจ็บปวดไปไม่แพ้กันหรอก


      "ถ้าเลือกได้แล้วช่วยเซ็นเอกสารระบุการยินยอมในการผ่าตัดรักษาในครั้งนี้ด้วยนะครับ" หมอพูดเร่ง
จงอินเมื่อเห็นว่าเสียเวลามามากพอแล้ว พร้อมกับส่งเอกสารยินยอมให้กับจงอินได้เซ็นอนุญาติในการผ่าตัด
ในครั้งนี้ด้วย


      "ผมฝากด้วยนะครับหมอ" จงอินบอกเสียงสั่นๆ เมื่อยื่นใบเอกสารส่งคืนหมอหลังจากที่เซ็นชื่อเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว


      "ครับ ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ ถ้าคุณโชคดีทั้งภรรยาและลูกของคุณก็อาจจะรอดชีวิตกันหมด
ทั้งคู่ก็ได้นะครับ" พูดจบหมอก็เดินกลับเข้าห้องฉุกเฉินไป เหลือเพียงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงของจงอินคนเดียว
ลำพังที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมหน้าตรงประตูหน้าห้องฉุกเฉิน


      "ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าเป็นอะไร" จีซองที่ตื่นมาแล้วเห็นพ่อของตัวเองยืนอยู่ไม่ไกลจากที่ตัวเองอยู่ด้วยท่าทาง
แปลกๆ ก็รีบวิ่งเข้าไปกระตุกแขนถามจงอินด้วยความสงสัย


      "จีซอง" จงอินเรียกชื่อลูกชายตัวเองด้วยเสียงเบาหวิว น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อายใครเมื่อ
เห็นหน้าลูกชาย ทิ้งตัวคุกเข่านั่งกับพื้นคว้าตัวจีซองมากอดพร้อมกับเรียกชื่อลูกซ้ำๆเหมือนกับคนเสียสติ
จะทำยังไงดี เขาควรจะทำยังไงดี มีอะไรที่เขาสามารถจะทำเพื่อแลกกับการที่เขาไม่ต้องเสียใครไปเลย
สักคนได้ไหม มีบ้างหรือป่าว มีบ้างไหม ใครก็ได้ช่วยบอกเขาที....ต่อให้แลกด้วยชีวิตเขาก็ยอม


      "โอ๋ๆ ป๊ะป๋าอย่าร้องน้า อย่าร้อง..ไหนๆ ป๊ะป๋าเจ็บตรงไหนบอกพี่สิ พี่จะเป่าให้ พี่เก่งนะ เป่าทีเดียว
เดี๋ยวป๊ะป๋าก็จะหายเจ็บเลย" จีซองกอดตอบพร้อมกับพูดปลอบจงอิน เมื่อเห็นว่าจงอินร้องไห้ออกมา
และคิดแบบเด็กๆว่าจงอินคงอาจจะแค่เป็นแผลตรงไหนและเจ็บถึงได้ร้องไห้ออกมา เหมือนกับตอนที่
ตัวเองหกล้มจนได้แผลและหม่าม๊าเซฮุนก็ปลอบตัวเองแบบนี้ทุกทีเหมือนกัน ก่อนที่จะคลายแขนที่กอด
จงอินออกก่อนที่จะเช็ดน้ำตาให้คนเป็นพ่ออย่างเบามือ แต่แทนที่จะหยุดร้องไห้กลับกลายเป็นว่าจงอิน
นั้นร้องไห้ออกมาหนักกว่าเก่าอีกเพราะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถรักษาน้องเล็กๆของเจ้าตัวไว้ได้ และอีกอย่าง
ก็คือเขากลัว กลัวว่าจีซองจะเสียใจที่ต่อไปนี้จะไม่มีน้องอีกแล้ว เพราะเจ้าตัวคาดหวังและเฝ้ารอคอยที่จะได้
วิ่งเล่นด้วยกันกับน้องเล็กๆในท้องของหม่าม๊ามาโดยตลอด


      "ป๊ะป๋าขอโทษลูก ฮึก! ป๊ะป๋าขอโทษ" จงอินพร่ำแต่พูดขอโทษลูกชาย ขอโทษเพราะคิดว่าเป็นความผิด
ของตัวเองที่มัวแต่ชักช้าจนไปไม่ทันช่วยเซฮุน ขอโทษที่ไม่อาจรักษาน้องเล็กๆของพี่จีซองไว้ได้ ขอโทษที่
อาจจะทำให้จีซองต้องผิดหวังและเสียใจเพราะเจ้าตัวนั้นผูกพันกับน้องและตั้งตารอน้องมานานหลายเดือน
ขอโทษที่เป็นสาเหตุให้หม่าม๊าสุดที่รักของเจ้าตัวต้องเจ็บตัว ขอโทษ ขอโทษ และก็ขอโทษ เพราะเขารู้สึกผิด
ต่อลูกชายเหลือเกิน


      "ป๊ะป๋าาา..." จีซองเบะปากเตรียมร้องไห้ตามป๊ะป๋าตัวเองแล้ว เมื่อเห็นว่าจงอินร้องไห้หนักกว่าเดิม
และรู้สึกถึงความเศร้าความเสียใจของจงอินที่ส่งผ่านออกมาให้ได้รับรู้


      "พอเถอะไค ลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้นายจะมามัวนั่งร้องให้เฝ้าโทษแต่ตัวเองอย่างนี้ไม่ได้นะเพราะนายเป็น
หัวหน้าครอบครัว ถ้าขืนนายเป็นอย่างนี้ต่อไปแล้วเซฮุนกับจีซองจะเป็นยังไง จะรู้สึกยังไงในเมื่อคนที่เสาหลัก
อย่างนายยังล้มไม่เป็นท่าอย่างนี้แล้วลูกเมียของนายจะไม่แย่ไปตามๆกันหรอ แล้วอีกอย่างนะตราบใดที่หมอ
ยังไม่ได้เดินออกมาบอกนายว่าลูกนายหรือเมียนายไม่รอดแล้ว นายก็ต้องเชื่อและหวังอยู่เสมอว่าทั้งเมียนาย
และลูกนายเขาสองคนนั้นจะต้องรอดปลอดภัยกันทั้งคู่ เชื่อเถอะว่าปาฏิหาริย์มันมีอยู่จริงเพราะฉันเองก็ยังเชื่อ
เลยว่าเซฮุนและหลานของฉันจะต้องรอดออกมาร้องเรียกฉันว่าอายอลลี่ตามพี่จีซองของเขาอีกคน" ชานยอล
ที่นั่งมองจงอินและจีซองมาตลอดก็ทนดูไม่ได้ที่จะเห็นคู่แข่งตลอดการอย่างจงอินมีสภาพที่อ่อนแอและย่ำแย่
ขนาดนี้ บวกกับการที่เห็นหลานรักอย่าจีซองกำลังเบะปากเจียนจวนจะร้องไห้ตามคนเป็นพ่อรอมร่อ ก็ลุกขึ้น
จากที่นั่งของตัวเอง เข้าไปหาและช่วยประคองจงอินและจีซองให้เดินมานั่งบนเก้าอี้ดีๆ ก่อนที่จะพูดปลอบ
พร้อมกับให้กำลังใจจงอินไปในตัวและเดินกลับไปนั่งของตัวเองข้างๆกันกับคนรักอย่างจุนมยอนเหมือนเดิม
เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนจงอินเองเมื่อได้ยินคำพูดของชานยอลก็เริ่มที่จะตั้งสติได้และพร่ำพูดภาวนา
อยู่คนเดียวในใจว่าขอให้ปาฏิหาริย์ที่ชานยอลพูดนั้นมีอยู่จริง และคนในอ้อมกอดของเขานั้นก็เหมือนกับเป็น
สิ่งมหัศจรรย์เป็นพรวิเศษจากพระเจ้าที่ช่วยให้เขาหายเหนื่อยหายท้อได้ในทุกๆครั้งที่เขาอ่อนแอหรือสิ้นหวัง


      "เรามาช่วยกันส่งกำลังใจให้หม่าม๊ากับน้องให้ได้มีแรงสู้กับความโหดร้ายนี้กันดีกว่านะจีซอง" จงอิน
พูดบอกพร้อมกับจูบศีรษะของลูกชายเบาๆ
.
.
.
      "ขอโทษนะครับท่านประธาน ทางตำรวจต้องการที่จะคุยกับคิมไคน่ะครับ" ผู้จัดการคนเก่งอย่างมินซอก
บอกอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อเห็นท่าทางของแต่ละคนที่นั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินแห่งนี้ เพราะดูเหมือนกับว่าตนนั้น
จะเข้ามาผิดเวลา แต่จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะในเมื่อทางตำรวจติดต่อเขามาอีกทีเพราะต้องการที่จะคุยกับ
จงอินเรื่องคดีความเดี๋ยวนี้เลยเพราะเหมือนกับว่าคดีมันซับซ้อนกันหลายคดีเนื่องจากมีเรื่องที่แฟนคลับรุม
ทำร้ายชินมินอาไปด้วยเกือบร้อยคนรวมไปด้วยเพราะเหตุจูงใจมันเกิดมาจากการที่กลุ่มแฟนคลับต้องการ
ที่จะลงโทษมินอาเรื่องที่เธอไปทำร้ายเซฮุน


      "เอาไว้ก่อนไม่ได้หรือไงครับพี่" จงอินตวัดเสียงถามมินซอกอย่างไม่พอใจ อะไรกันคนเขาก็จะเป็นจะตาย
กันอยู่มะลอมมะล่อใครเขายังจะมีอารมณ์ไปให้ปากคำกับตำรวจอีกห้ะ


      "คือมันมีเรื่องคดีของแฟนคลับที่ไปรุมทำร้ายมินอาเพื่อต้องการที่จะแก้แค้นให้เซฮุนร่วมด้วยนะครับ
ซึ่งจำนวนแฟนคลับมันมากเกินกว่าที่ทางตำรวจจะจับขังไว้รอให้ทางเราพร้อมได้น่ะครับทางตำรวจจึงขอ
ความร่วมมือจากทางเราเพราะกลัวว่าจะเกิเหตุจลาจลขึ้นน่ะครับท่านประธานเพราะทางแฟนคลับยังคง
ไปรวมตัวที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อที่จะรอชินมินอากันอีกกลุ่มใหญ่เลยครับ" มินซอกบอกในสิ่งที่ตนรับรู้มา
จากตำรวจให้ประธานโอฟังอีกทีนึงอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะสีหน้าและท่าทางของประธานโอตอนนี้เป็น
อะไรที่หน้ากลัวมาก เขาละเสียวว่าตัวเองจะโดนเด้งออกจากงานก็อีงานนี้นี่แหละ


      "ไม่เป็นไรหรอกครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจะไปกับพี่มินซอกเองเพราะผมไม่อยากให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไร
กับเรื่องนี้ต้องมาเดือดร้อนไปกับเราด้วย ยังไงผมก็ฝากคุณพ่อกับทุกคนช่วยดูทางนี้ให้ผมด้วยนะครับ ถ้า
มีอะไรคืบหน้าหรือเร่งด่วนอะไรในตอนที่ผมไม่อยู่ ก็ช่วยโทรบอกผมหน่อยนะครับ จีซองอยู่กับคุณตาคุณยาย
ที่นี่ก่อนนะลูกเดี๋ยวป๊ะป๋าไปธุระกับป้าหมินก่อน" จงอินบอกกับประธานโอไปตามความรู้สึกจริงๆของตัวเอง
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นห่วงเซฮุนกับลูกมากมายสักแค่ไหนก็เถอะ แต่เขาไม่ต้องการให้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง
อะไรกับเรื่องนี้มาเดือดร้อนกับเขาไปด้วยไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือว่าจะเป็นแฟนคลับก็ตาม เพราะฉะนั้นเขา
ควรที่จะต้องไปจัดการในส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองซะให้เรียบร้อยก่อนในฐานะที่เป็นคนต้นเรื่อง
ก่อนที่จะก้มลงบอกลูกชายสุดที่รักอย่างจีซองที่นอนพาดอยู่บนตักของเขาอยู่ตอนนี้


      "ไม่เอา! ลูกจะไปกับป๊ะป๋า" เมื่อได้ยินคนเป็นพ่อบอกอย่างนั้น จีซองก็เอ่ยปฏิเสธเลยทันที เพราะอยาก
จะอยู่กลับจงอินมากกว่าที่จะอยู่กับคนอื่น จีซองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมทุกคนถึงต้องมานั่งจ้องประตูสีขาวๆ
นี่ด้วย แต่จีซองก็รู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ก็เลยอยากที่จะอยู่กับป๊ะป๋ามากกว่า เพราะตอนนี้ป๊ะป๋าเป็นคนเดียวที่ทำให้จีซองรู้สึกอุ่นใจเพราะว่าหม่าม๊าเซฮุนคนที่คอยอยู่เคยข้างจีซองในตอนที่จีซองเคยรู้สึก
อย่างนี้มาก่อนนั้นยังอยู่ที่บ้านสองคนกับน้องเล็กๆอยู่เลย


      "จีซองมาอยู่กับยายดีกว่านะลูก ป๊ะป๋าหนูเขาต้องไปธุระนะครับ" เมื่อเห็นว่าจีซองเริ่มที่จะงองแงร้องตาม
จงอินคุณนายคิมก็พูดบอกกับหลานชายเพราะไม่อยากจะให้จงอินเสียเวลาและลำบากใจไปมากกว่านี้
และเข้าใจดีว่าคนที่รู้สึกแย่ที่สุดคงจะเป็นจงอินเพราะเจ้าตัวคงอยากจะอยู่เฝ้ารอข่าวของเซฮุนอยู่ที่นี่มากกว่า
ที่จะไปคุยกับทางตำรวจหรือทางแฟนคลับของเจ้าตัว


      "นะๆ นะครับป๊ะป๋า ให้พี่จีซองไปกับป๊ะป๋าน้า ตอนนี้พี่จีซองรู้สึกวืดๆที่คุณหัวใจจังเลย แต่ถ้าพี่จีซองมี
ป๊ะป๋าอยู่ข้างๆกันพี่จีซองก็จะหายวืดๆตรงคุณหัวใจล่ะ ป๊ะป๋าให้พี่ไปด้วยน้าา..." จีซองบอกหน้าเศร้าน้ำตาคลอ พลางใช้สองมือน้อยๆ จับตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเองตามที่เคยอ่านหนังสือและหม่าม๊าบอกมา
ประกอบกับคำพูดของตัวเองให้ป๊ะป๋าเข้าใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆที่จีซองเองก็ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้
ตัวเองนั้นเป็นอะไร แต่ก็พยายามที่จะบอกให้ป๊ะป๋าได้เข้าใจตัวเองมากที่สุดเท่าที่เด็กห้าขวบอย่างเขาจะทำได้


      "ครับๆ พี่จีซองไปกับป๊ะป๋าก็ได้ครับ ยังไงผมก็ฝากทางนี้ก่อนนะครับ" จงอินพูดกับลูกชายตัวเอง และหัน
ไปพูดบอกกับประธานโอและคุณนายคิม ก่อนที่จะอุ้มจีซองเดินออกจากบริเวณนั้นโดยที่มีมินซอกตามไปดูแล
สองพ่อลูกนี้อีกคน ที่จงอินยอมจีซองง่ายๆอย่างนั้นก็เพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้จีซองนั้นกำลังรู้สึกเจ็บปวดใจ
ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เข้าใจและรู้สาเหตุที่ตัวเองรู้สึกอย่างนั้นก็เถอะ เขาคิดว่ามันคงเป็นเพราะสายสัมพันธ์
ของการเป็นแม่เป็นลูกระหว่างเซฮุนกับจีซองและเป็นเพราะสายสัมพันธ์ของพี่น้องระหว่าจีซองกับลูกคนเล็ก
ในท้องของเซฮุนที่มันอาจจะส่งถึงกันได้ จึงทำให้จีซองรู้สึกอย่างนั้นทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้หม่าม๊ากับน้องเล็กๆ
ของเจ้าตัวกำลังต่อสู้กับความโหดร้ายกันอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลที่ตัวเองไปนั่งเฝ้าอยู่กับเขาเมื่อสักครู่
เพราะเจ้าตัวรู้แค่ว่าหม่าม๊าอยู่กับน้องเล็กๆที่บ้านเหมือนกับตอนที่พวกเขาออกมา
.
.
.
.
.
[ต่อข้างล่างค่ะ]     

ออฟไลน์ เขียนสือ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
    • เขียน'สือ
.
.
.
        เมื่อมาถึงถนนหน้าสถานีตำรวจจงอินก็ต้องตกตะลึงกับกลุ่มมวลชนจำนวนไม่น้อย
ที่ทั้งนั่งและยืนปักหลักออกันอยู่หน้าสถานีตำรวจ จากที่คาดดูจากสายตาก็น่าจะมีจำนวน
ไม่ต่ำกว่าสามร้อยถึงสี่ร้อยคนเป็นแน่และสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจมากที่สุดคือสภาพแวดล้อม
หน้าสถานีตำรวจนั้นเหมือนกับเป็นสนามรบที่พึ่งจะผ่านศึกสงครามมายังไงยังงั้นเพราะมันเละเทะ
เสียจนแทบจะดูไม่ออกเลยว่ามันเป็นสถานที่ราชการที่มีไว้คอยให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้
อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายอย่างสนานีตำรวจมาก่อน

       การที่จงอินจะออกจากรถไปยังตัวอาคารของสถานีตำรวจนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทันทีที่
มวลชนเหล่านั้นได้เห็นรถตู้ของบริษัทที่จงอิน จีซองและมินซอกได้โยสารมานั้น ทุกคนก็พุ่งเป้าเข้ามาหารถ
เลยทันที เลยทำให้จงอินได้ว่านอกจากกลุ่มแฟนคลับแล้วนั้นยังมีพวกนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์หรือจาก
สำนักพิมพ์ต่างๆ อีกจำนวนไม่น้อย และสิ่งเดียวที่จะทำให้จงอินลงไปให้ปากคำได้นั้น มินซอกก็ต้องโทร
ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดต่อมาก่อนหน้านี้ให้มากันคนเหล่านี้ออกจากรถให้เสียก่อน
ถึงจะพากันออกมาจากรถได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาและเป็นไปอย่างทุลักทุเลกันพอสมควร

        และเมื่อมาถึงบริเวรหน้าสถานีตำรวจจงอินก็มีเรื่องที่จะต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไม่ได้พาเขาเข้าไปในตัวอาคารสถานีแต่อย่างใด แต่กลับเชิญให้เขานั่งให้ปากคำเกี่ยวกับคดีตรงบริเวร
หน้าสถานีซึ่งมีโต๊ะตัวยาว ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกันกับโต๊ะที่เขาเคยใช้ในการแถลงข่าวอะไรประมาณนั้น
แต่ก็ห่างจากที่กั้นของกลุ่มแฟนคลับและนักข่าวพอสมควร

       "เชิญครับคุณคิมไค ชื่อจริงของคุณคือคิมจงอินใช่หรือไม่ครับ" เจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งอยู่บริเวรหัวโต๊ะ
ก็ถามขึ้นทันที เมื่อเห็นจงอินนั่งเรียบร้อยแล้วโดยที่มีจีซองนั่งอยู่ที่ตักจงอินและมินซอกผู้จัดการส่วนตัว
นั่งบริเวณเก้าอี้ที่ว่างตัวถัดไปที่ติดกันกับจงอินนั่นแหละ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนดูแลความเรียบอยู่ประจำ
จุดต่างๆในบริเวณรอบๆอีกทีเพื่อป้องกันการเกิดเหตุจลาจลเหมือนก่อนหน้านี้

       "ครับ คิมจงอินคือชื่อจริงของผม" จงอินตอบกลับไป

       "ขอโทษครับ!! พวกผมขออนุญาติตั้งไมค์ตั้งกล้องส่งให้ทางสถานีได้ถ่ายทอดสดออกไปให้ประชาชน
ทางบ้านได้รับรู้ด้วยได้ไหมครับ" ยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ถามอะไรจงอินต่อหนึ่งในกลุ่มนักข่าวก็
ยกมือขึ้นถามอย่างเสียงดังฟังชัด โดยที่มีนักข่าวสำนักอื่นและกลุ่มแฟนคลับส่งเสียงร้องขอเป็นแรงสนับสนุน
กันอีกที

       "ผมจะทำตามที่เขาขอได้รึเปล่าครับ" จงอินถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ

       "เรียกร้องกันขนาดนั้นถ้าผมไม่อนุญาตินี่สถานีผมคงจะต้องปิดถาวรแล้วหล่ะครับ" เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตอบกลับแบบปลงตก ก่อนที่จะหันไปสั่งลูกน้องตัวเองที่ยืนอยู่บริเวรใกล้ๆไปเปิดทางให้แค่นักข่าวและตากล้อง
เข้ามายังบริเวรโต๊ะสอบสวนชั่วคราวนี้ได้มาเซ็ตไมค์ตั้งกล้องและกลับออกไปยังที่เดิมเหลือทิ้งไว้เพียงไมค์และ
กล้องเท่านั้นที่ตั้งอยู่ตรงหน้าจงอิน

       "เรียบร้อยแล้วนะครับ ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษด้วยที่ต้องเรียกพบคุณอย่างกระทันหันแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ดี
ว่าคุณคงจะอยากอยู่ดูอาการของภรรยาอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่ามาสถานีตำรวจอย่างนี้ตามที่ผู้จัดการ
ของคุณได้บอกเรามา แต่เนื่องจากว่าเราไม่สะดวกที่จะขังชินมินอาไว้ที่สถานีได้นานเพราะว่าทางกลุ่ม
แฟนคลับกลุ่มนั้นของคุณได้บุกเข้าทำร้ายชินมินอาถึงในห้องขังบนสถานีของเรา เราจึงจำเป็นที่จะต้อง
เรียกคุณตัวเข้ามาให้ปากคำด่วนอย่างนี้ เพราะเราจะทำเรื่องส่งชินมินอาเข้าไปฝากขังในเรือนจำก่อนที่
จะรู้ผลอาการของภรรยาของคุณ ทางศาลถึงจะตัดสินสิ้นสุดบทลงโทษของคดีความ" เจ้าหน้าที่ตำรวจบอก
กับจงอินพร้อมกับชี้ไปทางรถขนนักโทษคันใหญ่ห้าคันที่ใช้เป็นห้องขังชั่วคราวที่ใช้ขังแฟนคลับของจงอินที่
โดนคดีทำร้ายร่างกายของชินมินอาโดยเฉพาะเลย

       "พวกเขาทั้งหมดจะต้องติดคุกเหรอครับ" จงอินถามเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นจะต้องมา
เดือดร้อนไปกับเรื่องของตัวเองไปด้วย

       "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ พวกนั้นโดนแค่คดีทำร้ายร่างกายเท่านั้น รอแค่มีคนมาประกันตัวและเสีย
ค่าปรับให้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ"

       "ถ้าอย่างนั้นผมขอเป็นคนประกันตัวพวกเขาทั้งหมดเองก็แล้วกันครับ พี่หมินช่วยเป็นธุระจัดการประกัน
ตัวพวกเขาให้ผมทีนะครับ" จงอินบอกพร้อมกับส่งกระเป๋าของตัวเองที่มีทั้งบัตรประชาชน เงินสด และบัตร
เครดิต เรียกว่ามีครบทุกอย่างที่จะใช้ในการประกันตัวเลยทีเดียว ซึ่งมินซอกเองก็เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เข้าไปในอาคารเละๆของสถานีตำรวจทันทีอย่างเต็มใจ

       "เรามาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ...ก่อนหน้าที่คุณจะมานี้ทางเราก็ได้สอบสวนชินมินอามาเรียบ
ร้อยแล้ว ซึ่งเธอก็ยอมรับสารภาพว่าเธอเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายของภรรยาคุณโดยที่เธอได้คิดแผนการณ์ล่วงหน้ามาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งเธอก็ให้เหตุในแรงจูงใจที่ว่า เธอเคยเป็นเพื่อนบ้านและคนรักของคุณมาก่อนที่
จะโดนโอเซฮุนภรรยาของคุณแย่งคุณไปจากเธอ เธอจึงคิดที่จะมาทวงคุณคืนโดยที่จัดการข่มขู่และทำลงมือ
ทำร้ายโอเซฮุนภรรยาของคุณ" เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดแฟ้มตรงหน้าของตัวเองและอ่านให้จงอินฟัง ในข้อมูล
การให้ปากคำของชินมินอา

       "ห๊ะ!! ผมเนี่ยนะ!!" จงอินหลุดถามเสียงหลงเพราะตกใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

       "ครับ เธอบอกกับเราอย่างนั้น" เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันคำตอบกับจงอินด้วยสีหน้าจริงจัง

       "ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าเธอเอาเรื่องอะไรมาพูด แต่สิ่งที่ผมรู้แน่ๆเลยคือ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้
ผมมีคนรักคนเดียวคือโอเซฮุน แฟนคนแรกของผมก็คือโอเซฮุน ภรรยาและคนรักคนแรกและคนเดียวของผม
ก็คือโอเซฮุน และก่อนหน้าหรือหลังจากที่ผมรู้จักกับเซฮุนภรรยาของผม ผมก็ไม่เคยไปมีความสัมพันธ์กับใคร
เลยไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ ส่วนผู้หญิงที่ชื่อชินมินอาคนนี้ผมก็เพิ่งจะมาจำชื่อเธอได้ก็ตอนที่เธอได้
ลงมือทำร้ายภรรยาของผมวันนี้นี่แหละครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับเธอมาครั้งนึงแล้ว
แต่ผมกลับจำชื่อและหน้าเธอไม่ได้เลย จนมาวันนี้นี่แหละผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าผมจะเจอเธอโดยบังเอิญหรือ
มันเป็นความตั้งใจของเธอที่ร้านของภรรยาผมอีกครั้งหรือสองครั้งซึ่งผมเองก็จำไม่ได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในเศษเสี้ยวของความคิดความทรงจำของผมเลย แล้วอย่างนี้ผมจะยังเหมือนกับคนที่เคย
เป็นคนรักเก่าหรือเพื่อนบ้านกันมาก่อนเลยหรือครับ" จงอินตอบกลับไปอย่างชัดเจนไม่มีสะดุดตะกุกตะกัก

       "ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยบอกเราได้หรือไม่ครับว่าบ้านเกิดและที่อยู่ปัจจุบันของคุณอยู่ที่ไหนกัน"

       "ผมเกิดและโตอยู่ที่เมืองซุนชอนและย้ายมาอยู่หอพักของบริษัทตอนอายุสิบสามเพราะต้องฝึกซ้อม
และย้ายมาเรียนมัธยมที่โซลอาร์ทไฮสคูลด้วย ส่วนที่อยู่ปัจจุบันผมก็บ้านหลังที่คุณตำรวจไปจับชินมินอา
นั่นแหละครับ บ้านหลังนี้ผมพึ่งซื้อมาได้ประมาณสามปีหลังจากที่ลูกและภรรยาผมกลับมาจากต่างประเทศ
ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะมาซื้อบ้านหลังนี้ ผมก็อยู่หอของบริษัทนี่แหละครับเพียงแต่มันเป็นคนละที่กลับตอนที่
เป็นเด็กฝึกก็เท่านั้นเองครับ  แล้วที่อยู่ของผมทั้งหมดที่บอกกับคุณตำรวจไปมีที่ไหนตรงกับที่ผู้หญิงคนนั้น
บอกบ้างหรือเปล่าครับ" จงอินแจงรายละเอียดที่อยู่ของตัวเองตั้งแต่เกิดยันปัจจุบันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง
พร้อมถามถึงบ้านหลังที่มินอาอ้างถึงด้วย เพราะเขามั่นใจมากถึงมากที่สุดเลยว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิตเขาไม่เคย
รู้จักชินมินอาเลย แถมเขายังรักการเต้นและใช้เวลาทั้งหมดในชีวิตไปกับการเต้นซะส่วนใหญ่เขาจะเอาเวลา
ที่ไหนไปเป็นคนรักหรือเพื่อนบ้านของชินมินอากัน อย่าว่าแต่ชินมินอาเลย เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาสักคน
ยังไม่มีเลย อย่าลืมความจริงที่ว่าเขาเข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายตั้งแต่ยังไม่โตดีเลย แล้วก่อนหน้านั้นเขาจะเอา
ความรู้สึกที่ไหนไปรักกับใครเขาได้หรือ

       "บ้านเกิดของเธออยู่ที่คยองกีและเธอเพิ่งจะย้ายมาโซลเมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมาครับ ส่วนที่อยู่
ทั้งหมดของคุณที่คุณบอกมามันตรงกันกับที่เราตรวจสอบของคุณและชินมินอาหลังจากที่เธอยอมสารภาพ
แล้วหล่ะครับ ซึ่งคำให้การของคุณในวันนี้บวกกับหลักฐานที่ทางเรามีก็ยืนได้แล้วครับว่าเธออาจจะเข้าใจผิด
หรือจำผิดคนไปเอง หรือไม่เธอก็อาจจะชอบคุณมากเกินไปจนสร้างจินตนาการไปเอง แล้วอย่างนี้คุณจะ
ทำยังไงกับเธอครับ คุณจะยอมความเปล่าครับ"

       "ไม่ครับ ไม่มีทาง ผมต้องการที่จะดำเนินคดีกับเธอให้ถึงที่สุดครับ" จงอินตอบเสียงนิ่ง หนักแน่น
อย่างจริงจัง สายตาคมที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นไม่มีแววของความปราณีอยู่เลย บ่งบอกได้เลยว่าเจ้าตัวนั้น
อาฆาตแค้นคู่กรณีมากขนาดไหน  ตอนที่อยู่บนรถระหว่างทางที่จะมาสถานีตำรวจนี้จงอินได้คิดไว้แล้วว่า
ไม่ว่าชินมินอาจะอยู่ในสภาพไหน หรือว่ามีผลตรวจมายืนยันว่าเธอมีปัญหาทางจิตหรือไม่อย่างใด เขาก็จะ
ตามเอาเรื่องเธอให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะต้องเสียลูกคนเล็กที่อยู่ในท้องของเซฮุนไปหรือไม่คิมจงอินคนนี้ก็จะ
ไม่มีทางที่จะยอมควาและปล่อยให้คนร้ายได้ลอยนวลหรือโดนประกันตัวไปหรอก สำหรับคนที่กล้ามาทำให้
ครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาต้องเจ็บ สำหรับเขาแล้วมันจะไม่มีคำว่าปราณีอีกต่อไป ถึงใครจะว่าเขาใจร้าย
ก็ตาม
.
.
.
       "สวัสดีครับ พวกคุณคงจะรู้แล้วใช่ไหมครับว่าเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆผมนี้คือใครและเป็นอะไรกับผม" จงอิน
พูดขึ้นในขณะที่มายืนหลังที่กลั้นตรงหน้าแฟนคลับ หลังจากที่คุยกับทางเจ้าหน้าตำรวจที่เสร็จแล้ว

       "สวัสดีครับ ผมชื่อคิมจีซอง เป็นลูกป๊ะป๋าจงอินกับหม่าม๊าเซฮุนและก็เป็นหลานชายสุดหล่อของคุณปู่
คุณย่าแล้วก็ลุงจุนมยอนด้วย ยินดีที่ได้รู้จักครับ" เมื่อเห็นพ่อของตัวเองทำอย่างนั้น ลูกหมูน้อยจีซองตัวแสบ
ก็ทำตามบ้าง ด้วยการพูดทักทายและนำตัวเองในแบบที่เอาให้รู้จักกันให้ครบไปทั้งบ้านเลยโดยที่ไม่ลืมโค้งตัว
เก้าสิบองศาในแบบที่ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าสอนให้ทำเวลาเจอผู้ใหญ่หรือคนที่โตกว่าด้วย ซึ่งการกระทำและคำพูด
ของจีซองนั้นก็เรียกเอารอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากบรรดาแฟนคลับของป๊ะป๋าตัวเองได้ไม่ยากเลย

        "หึๆ ตามนั้นครับ ถึงจีซองจะแสบหรือเจ้าเล่ห์ไปบ้างแต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันนะครับ ว่าเด็กอ้วนคนนี้คือ
ลูกชายของผมกับโอเซฮุนซึ่งเป็นภรรยาของผมนั่นเอง ไหนๆเรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว...ผมก็อยากจะบอก
ว่า...ผมขอโทษนะครับ ผมขอโทษจริงๆที่ผมอาจจะต้องทำให้พวกคุณเสียใจหรือผิดหวังไปกับคนอย่างผม
พวกคุณจะโกรธ จะเกลียดหรือจะไม่ให้อภัยกับความผิดนี้ของผมก็ได้ แต่ผมขอร้องเถอะครับว่าอย่าไปโกรธ
ไปเกลียดเซฮุนกับจีซองเลย อย่างที่พวกคุณได้ดูจากรายการเรียลลิตี้ไปนะครับว่าถ้าวันนั้นผมไม่มีโอเซฮุน
มันก็จะไม่มีคิมไคอย่างทุกวันนี้หรอกนะครับ ผมอาจจะเป็นแค่คิมจงอินผู้ชายธรรมดาๆที่แทบจะมองหา
อนาคตไม่เจอเลยก็ได้ ขอร้องเถอะครับช่วยยอมรับในตัวของพวกเขาด้วยนะครับ!!!" จงอินบอกพร้อมกับ
นั่งคุกเข่าคำนับศีรษะจรดพื้นซ้ำๆอยู่หลายครั้งหลายที โดยที่มีจีซองทำตามด้วยเมื่อเห็นป๊ะป๋าของตัวเอง
ทำอย่างนั้น ที่จริงจงอินไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ถ้าเป็นศิลปินดาราทั่วไปก็คงจะแค่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพูด
ขอโทษแล้วก็จบไป แต่กับจงอินมันไม่ใช่ที่เขาทำอย่างนี้ก็เพราะอยากจะขอโทษและขอบคุณไปพร้อมๆกัน
ทั้งๆที่จงอินโกหกโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็เป็นเหมือนการทรยศหักหลังเลยหล่ะสำหรับศิลปินที่แอบซุกลูก
ซุกเมียอย่างเขา แต่แฟนคลับของเขาก็ยังถือโทษแถมยังมีน้ำใจมาช่วยเขาและครอบครัวของเขาจาก
เหตุการณ์ร้ายๆอย่างนี้อีก ซึ่งเขาถือว่าเป็นบุญคุณมากเลยล่ะสำหรับเขา

       หลังจากที่จบคำพูดของจงอินทุกสิ่งทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนกระทั้งได้ยินแม้แต่เสียง
ของลมหายใจ และเมื่อจงอินเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องเห็นแฟนคลับของเขาแทบจะทุกคนที่นั่งนิ่ง ปล่อยให้
น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้และไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหรือเป็นเพราะอะไรกลุ่มคน
หรือแฟนคลับที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้ถึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างนี้ เลยไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ส่งยิ้มซีดเซียว
กลับไปให้แฟนคลับตัวเองอย่างรู้สึกผิดเพราะคิดว่าทุกคนอาจจะไม่ให้อภัยและเกลียดเขาไปแล้วจริงๆก็ได้
ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและอุ้มลูกชายเดินออกมาจากบริเวณนั้นเพื่อที่จะขึ้นรถและเดินทางกลับไปโรงพยาบาล
ไปเฝ้ารอดูอาการของเซฮุนต่ออีก เพราะตั้งแต่เขาออกมาก็ยังไม่มีใครโทรมาบอกข่าวอะไรกับเขาเลย

       "ไม่เป็นไร!!!  ไม่เป็นไร!!!  ไม่เป็นไร!!!"

       "เรารักคุณ!!! เรารักคุณ!!! เรารักคุณ!!!"

       "คิมไค โอเซฮุน คิมจีซอง ไฟท์ติ้ง!!!!"

       แต่แล้วในขณะที่เขากำลังจะก้าวขาขึ้นรถนั้นพวกแฟนคลับของเขาร้องตะโกนให้กำลังใจเขามา
สามประโยคสั้นๆ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความหมายกันอย่างพร้อมเพียง ด้วยความสามัคคี

       จงอินเองไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่เขาเพียงแค่หันหลับกลับไปหาแฟนคลับและโค้งตัวขอบคุณอีกครั้ง
ทั้งๆที่อุ้มจีซองอยู่ ก่อนที่จะพากันขึ้นรถไป โดยที่สองคนพ่อลูกซุปเปอร์สตาร์นั้นก็ไม่ลืมที่จะเปิดกระจกรถ
โบกมือลาแฟนคลับของตัวเองด้วยรอยยิ้มอีกที



       .......ได้ยินแล้วใช่ไหมเซฮุน ไม่ใช่แค่ฉันหรือจีซองหรอกนะที่รอนายกับลูกกลับมาหาเรา แต่ยังมี
คุณพ่อคุณแม่ พี่จุน ชานยอลและพวกเขาเหล่านี้อีกนะที่รอ รีบๆกลับมาหาฉันนะคุณกระต่ายที่รัก.......




...
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ไม่นะ คุณกระต่ายต้องไม่เป็นไร น้องเล็กๆด้วยยยยย

ออฟไลน์ Nabee

  • 너만 사랑해~♥
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด