It’s Real เดี๋ยวรักเลย
พิเศษ HAPPY FAMILY
เสียงเพลงไทยเดิมดังแว่วมาจากในบ้านไม้หลังใหญ่ของไร่รณวีร์ พร้อมกับเสียงเชียร์และเสียงปรบมือเปาะแปะของกองเชียร์ที่
ท่าทางจะมีกันหลายคน โซลที่เพิ่งกลับมาจากในไร่เดินเข้าบ้านมาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยทักสองพี่น้องจอมดื้อที่กำลังทำการฝึก
ซ้อมฟ้อนรำกันอยู่
“ทำอะไรกันอยู่ครับเด็กๆ”
โซลส่งเสียงทักทายลูกสาวตัวน้อยกับพี่ชายคนสนิท จินนี่ที่กำลังซ้อมรำวิ่งเข้ามาหาคุณพ่อขาแล้วบอกเสียงใส
“จินนี่ซ้อมฟ้อนรำเพลงงามแสงเดือนอยู่ค่ะพ่อขา”
จินนี่น้อยในวัยประถมฯสองรายงานคุณพ่อ เพราะที่โรงเรียนของจินนี่กำลังจะมีงานวันเด็กที่จัดขึ้นทุกปี ชั้นเรียนของน้องหนู
จินนี่นั้นคุณครูประจำชั้นได้คัดเลือกเด็กนักเรียนเพื่อทำการฝึกซ้อมฟ้อนรำเพลงไทยเดิม และจินนี่คือหนึ่งในนางรำตัวจิ๋วในงาน
นี้ด้วย เพลงที่คุณครูของจินนี่น้อยจะใช้คืองามแสงเดือนที่ท่ารำไม่ยากนัก มีสอดสร้อยกับมาลาเป็นหลัก พอเด็กๆตัวเล็กๆมารำ
มาฟ้อนแล้วมันดูน่ารักน่าเอ็นดูจริง พอตาต้ารู้ว่าน้องสาวคนสนิทได้เป็นหนึ่งในนางรำของโรงเรียน หนุ่มน้อยก็หัวเราะขำพี่โซล
ก็พี่โซลส่งลูกสาวไปเรียนบัลเล่ แต่ลูกดันกลายเป็นนางรำตัวน้อยของโรงเรียนไปเสียอย่างนั้น
“ไหนลองฟ้อนให้พ่อขาดูหน่อยสิคะ สวยหรือยังเอ่ย?”
โซลเอ่ยชี้ชวน จูงมือลูกสาวที่น่ารักไปหาตาต้าที่นั่งขัดสมาธิเป็นผู้ชมอยู่บนเสื่อกับพี่นุ่น พี่เลี้ยงของลูกสาวตัวน้อย รอบๆนั้นยังมี
บรรดาพี่สาวที่เป็นแม่บ้านอยู่ด้วย พอเห็นนายมาพวกพี่สาวจึงลุกออกไป เหลือแค่พี่นุ่นที่เป็นพี่เลี้ยงของน้องจินนี่ไว้คนเดียว
“จินนี่ว่าพ่อขาไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ เพิ่งกลับมา เหงื่อเต็มเลย”
เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าพี่ตาต้าแล้วจินนี่จึงเงยหน้าขึ้นมองคุณพ่อขาแล้วเอ่ยบอก ก่อนเด็กหญิงจะทำเป็นย่นจมูก ตาต้ากับพี่นุ่น
แอบขำเบาๆ ก่อนที่หนุ่มน้อยจะลุกขึ้นมายืนข้างๆน้องสาว
“พี่ตาต้าขา~” จินนี่ย้ายข้างมาหาพี่ตาต้าทันที
“ครับผม” ตาต้าขานรับน้องสาวตัวเล็กที่กำลังเขย่ามือของตนเอง
“จัดการเลยค่ะ คุณพ่อขาตัวเหม็น”
จินนี่ฟ้องพี่ชายก่อนหันไปทำหน้าทะเล้นใส่คุณพ่อขา โซลรวบตัวลูกสาวขึ้นอุ้มก่อนฟัดแก้มหนูน้อยช่างเจรจา จินนี่ร้องวี้ดก่อน
หัวเราะเมื่อหนวดคุณพ่อโดนแก้ม ร้องบอกพี่ตาต้าพาคุณพ่อไปโกนหนวดเลย โซลปล่อยคนน้องลงยืน ก่อนรวบคนพี่ขึ้นบ้านไป
อาบน้ำ โกนหนวดกัน
“แก้มจินนี่แดงไหมอ่ะคะพี่นุ่น คุณพ่อขานี่ชอบไว้หนวดจริงๆเลย” เด็กหญิงตัวน้อยบ่นงุ้งงิ้ง มือน้อยๆนั้นลูบแก้มตนเอง
“เดี๋ยวพี่ตาต้าก็ช่วยคุณพ่อขาของน้องจินนี่โกนหนวดจนเกลี้ยงแล้วล่ะ” พี่นุ่นบอกยิ้มๆ จินนี่น้อยพยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิเนอะ ต้องให้ถึงมือพี่ตาต้าทุกทีเลยเนาะพี่นุ่น”
เด็กหญิงพยักเพยิดกับพี่เลี้ยง ก่อนที่จะบอกให้พี่นุ่นเปิดเพลง เพราะตนเองจะซ้อมฟ้อนรำอีกรอบ เดี๋ยวพรุ่งนี้วันเสาร์มีซ้อมพร้อม
เพื่อนๆที่โรงเรียนอีก ไม่อยากน้อยหน้าเขา
-------------------------------
เมื่อวันงานวันเด็กของโรงเรียนจินนี่น้อยมาถึง ตาต้ากับโซลที่เป็นผู้ปกครองก็ได้ไปร่วมงานด้วย มีคุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆไปให้
กำลังใจลูกของตนเองกันหลายครอบครัว พี่ชายอย่างตาต้าเตรียมกล้องไปเก็บรูปน้องสาวไว้ทุกชอต รู้สึกปลื้มใจกับการแสดง
ของน้องน้อยอย่างมาก จินนี่น้อยในชุดไทยประยุกต์ ถูกจับแต่งตัว แต่งหน้า จนเด่นเด้ง ผมยาวๆที่ตาต้าชอบถักเปียให้จนตอนนี้
หนุ่มน้อยชำนาญการแล้วนั้นถูกรวบเกล้าสูง ก่อนประดับด้วยดอกไม้แทนที่จะใส่มงกุฎ ดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มไม่เบา ตาต้านั่งยิ้ม
มองน้องร่ายรำ ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปบ้างตามโอกาส โซลที่นั่งข้างไม่รู้จะขำน้องดีไหม ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นคนไปรำเองอย่าง
นั้นล่ะ
เมื่อการแสดงของเด็กๆจบลง บนเวทีการแสดงก็ถึงเวลาสัมภาษณ์พูดคุยกับเด็กนักเรียนตัวน้อย นางรำตัวน้อยต่างแนะนำให้รู้จัก
กับคุณพ่อคุณแม่ จินนี่เองก็แนะนำให้รู้จักคุณพ่อกับพี่ตาต้าของตนเองด้วย เด็กหญิงโบกมือให้คุณพ่อขากับพี่ตาต้าที่มาเป็นกำลัง
ใจให้ในวันนี้ เมื่อสัมภาษณ์แล้วครูก็ได้มอบของรางวัลเล็กๆน้อยๆเป็นกำลังใจให้นักเรียนตัวน้อยทุกคนที่ทำผลงานออกมาดี
จินนี่ลงจากเวทีมาโดยมีคุณพ่อขามารับถึงขอบเวที โซลพาลูกสาวมานั่งข้างตาต้า พี่ชายคนสนิทพัดให้น้องสาวคลายร้อน ก่อน
หาน้ำให้ดื่มกลัวน้องเหนื่อยจากการฟ้อนรำเมื่อครู่
หลังจากการแสดงของแต่ละชั้นปีจบลง ทางโรงเรียนก็มีกิจกรรมให้เด็กๆกับผู้ปกครองได้เล่นร่วมกัน เป็นกิจกรรมเสริมความ
สามัคคีในครอบครัว แล้วแต่ว่าครอบครัวไหนจะสมัครใจเล่น ไม่บังคับกัน ตาต้าและพี่โซลก็ได้ร่วมเล่นเกมกับจินนี่น้อยด้วย
เพราะเด็กน้อยอยากเล่น
เกมที่ว่านั้นคือเกมที่ให้แต่ละครอบครัวที่ประกอบไปด้วยสมาชิกสามคนยืนบนกระดาษที่มีพื้นที่จำกัด และกระดาษนั้นจะถูก
เปลี่ยนให้เล็กลงเรื่อยๆ ครอบครัวไหนยืนอยู่เป็นครอบครัวสุดท้ายคือผู้ชนะ เด็กๆพากันตื่นเต้น แต่คุณพ่อคุณแม่นี่สิท่าจะคิดหนัก
เมื่อรู้กติกาแล้วตาต้าก็แอบซุบซิบกับน้องหนูจินนี่ เด็กหญิงเอียงหูฟังที่พี่ชายบอก ก่อนจะพยักหน้ารัวๆแล้วทำท่าโอเคให้พี่ชาย
เมื่อเกมเริ่มกระดาษยังสามารถยืนได้ทั้งสามคน นับหนึ่งถึงสิบไม่มีใครก้าวเลยกระดาษออกมา จนเหลือพื้นที่ให้ยืนได้สองคน
โซลก็อุ้มลูกสาวขึ้นมา งานนี้ไม่ยากจึงยังคงไม่มีผู้ตกรอบ กระดาษจึงถูกเปลี่ยนเป็นแผ่นที่เล็กลงให้เหลือยืนได้แค่คนเดียว แต่ละ
ครอบครัวก็หาวิธีที่จะคานน้ำหนักกันใหญ่ ตาต้าเลยเป็นคนอุ้มน้องจินนี่เองแล้วเหยียบขึ้นไปบนเท้าพี่โซลให้พี่โซลกอดเอาไว้
สองพี่น้องจึงตกอยู่ในอ้อมแขนของโซล สายตาแห่งความหวังปิ๊งปั๊งสองคู่ถูกส่งไปให้โซล ทำให้ชายหนุ่มตัวโตต้องกอดลูกน้อย
ทั้งสอง(?)เอาไว้ให้แน่น รอบนี้คนที่ผ่านมาได้เหลือไม่กี่ครอบครัวที่คุณพ่อก็ตัวโตพอๆกับพี่โซลทั้งนั้น รอบต่อไปคงยากขึ้นแน่
รอบสุดท้ายกระดาษถูกเปลี่ยนอีกหนให้พอดีกับเท้าแค่ข้างเดียว บางครอบครัวก็สละสิทธิ์ไปยืนลุ้นครอบครัวอื่นแทน ตาต้ามอง
กระดาษแผ่นน้อยนั่นแล้วก็ตัดสินใจ เล่นมาขนาดนี้แล้วก็ไม่อยากแพ้ หนุ่มน้อยให้พี่อุ้มลูกสาวตัวน้อยเอาไว้ ส่วนตนเองกระโดด
ขี่หลังพี่ จินนี่ก็กอดคอคุณพ่อขาเกาะเอาไว้อย่างเหนียวแน่นหนึบ ครอบครัวอื่นต่างเซโรงัง เหลือครอบครัวตาต้ากับอีกครอบครัว
ที่คุณพ่อของครอบครัวนั้นก็ตัวโตพอกัน พี่โซลท่าจะไม่ไหว แต่มันแค่อีกนิดเดียว อึดใจเดียวก็ชนะแล้ว สองพี่น้องจอมดื้อจึง
หอมแก้มโซลคนละฟอด ก่อนที่ตาต้าจะกระซิบบอก
“ถ้าเกมนี้ชนะ ต้ายอมพี่โซลทุกอย่างเลย”
ประโยคเดียวพี่โซลถึงกับแข็งเป็นหินผา กำลังใจมาเพียบ ต่อให้เอาช้างฉุดพี่โซลไม่มีล้มแล้วงานนี้ จนในที่สุด สุดท้ายแล้ว
ครอบครัวน้องจินนี่ก็เป็นฝ่ายชนะไปดังใจหมาย สองพี่น้องคนสนิทร้องเฮโลกันใหญ่ แต่โซลนี่สิถึงกับปาดเหงื่อ
นอกจากนั้นแล้วภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆให้เด็กๆได้ร่วมเล่นกันมากมาย แต่จินนี่ไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อนคนอื่นเพราะตนเอง
ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย คุณครูประจำชั้นของน้องหนูมาเรียกให้ไปเปลี่ยนชุดกัน จินนี่กับพี่ชายคนสนิทจึงเดินตามคุณครูไป พอ
กลับมาอีกทีพี่โซลที่นั่งรอลูกสาวกับน้องชายที่รักอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนใต้ร่มไม้ก็มีสาวน้อยสาวใหญ่ห้อมล้อมเต็มไปหมดแล้ว ตาต้า
ที่เดินจูงมือน้องกลับมาหยุดมองพี่โซลนิ่งๆ น้องจินนี่ที่แสนจะรู้ใจพี่ชายจึงเดินเข้าไปพาคุณพ่อออกมาจากวงล้อมของสาวๆแทน
พี่ชายคนสนิท
“คุณพ่อขา มาคุยกับสาวๆอยู่ตรงนี้นี่เอง เดี๋ยวจินนี่ฟ้องคุณแม่นะ” หนูน้อยส่งเสียงไปทัก พร้อมกอดอกแล้วทำแก้มพองให้สม
บทบาท
“อุ๊ย! คุณแม่น้องจินนี่มาด้วยหรือคะ?” หนึ่งในสาวๆเอ่ยถามน้องจินนี่น้อย
“มาค่ะ ถ้าคุณแม่เห็น คุณแม่จินนี่ต้องเสียใจแน่ๆเลยค่ะ”
พูดแล้วจินนี่ก็ทำหน้าเสียใจจะร้องไห้ ตีบทแตกกระจุย จนแม้แต่โซลยังหลงเชื่อ ให้มันได้อย่างนี้ น้องสาวพี่ตาต้า!
“โถ งั้นน้องจินนี่พาคุณพ่อกลับไปหาคุณแม่เถอะนะคะ พวกน้าไม่กวนแล้ว”
สาวๆลูบแก้มเด็กน้อยที่ทำหน้าเศร้า หอมแก้มเด็กหญิงตัวน้อยคนละฟอดก่อนไป โซลอุ้มลูกสาวขึ้นมาก่อนจะเอ่ยถามเมื่อออก
ก้าวเดิน
“คุณแม่เรามาด้วยหรือคะจินนี่?”
“คุณแม่ไม่มา แต่พี่ตาต้ามาค่ะ” จินนี่ตอบเสียงชัดแจ๋วไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย คุณพ่อขาถึงกับหน้าซีด
“อุ้ย! นั่นยิ่งหนักเลยนะน่ะ” ชายหนุ่มตัวโตพึมพำกับตนเอง เห็นตาต้ายืนกอดอกรออยู่แล้วก็ชักจะเริ่มใจฝ่อ
“พี่ตาต้าเขาโกรธคุณพ่อขารึเปล่าคะ?” โซลแอบถามสถานการณ์ล่วงหน้าจากลูกสาวตัวน้อย
“ไม่โกรธหรอกค่ะ แค่ทำหน้าแบบนี้เอง”
จินนี่กอดอกเลียนแบบพี่ชาย ก่อนทำหน้าบึ้งออกแนวถมึงทึงเกินจริง
“โอ้ย ตายแน่งานนี้”
โซลโอดครวญ น้องจินนี่ยกมือน้อยๆปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก
“มาหัวเราะพ่อนะจินนี่”
โซลเข่นเขี้ยว แต่จินนี่น้อยยังหัวเราะไม่หยุด จนเมื่อมาถึงที่ตาต้ารออยู่โซลก็วางลูกสาวลงยืน สายตาลอบมองหนุ่มน้อยตรงหน้า
ว่ามีทีท่าอย่างไรบ้าง
“พี่ตาต้า~”
จินนี่เดินไปจับมือตาต้า ขณะที่ตาต้ามองพี่โซลเขม็ง ก่อนหนุ่มน้อยจะก้มลงมองน้องที่เขย่ามือของตนเองไปมา
“กลับบ้านกัน~”
จินนี่ยิ้มบอกตาหยี ตาต้าจึงยิ้มให้น้อง
“ไปค่ะ กลับบ้านๆ”
จินนี่ดึงมือพี่ชายให้ก้าวตามตนเอง สองพี่น้องจูงมือร้องเพลงไปด้วยกันจนกระทั่งถึงรถ โซลนั่งประจำที่คนขับ ตาต้ากับจินนี่
เป็นผู้โดยสารนั่งคุยกันอยู่เบาะด้านหลัง ตาต้าเอากล้องที่ตนเองถ่ายรูปกับถ่ายวิดีโอตอนน้องรำเอาไว้มาให้น้องดู จนกลับมาถึง
บ้าน จินนี่น้อยเอาของรางวัลที่ตนเองได้มาไปอวดพี่นุ่นกับพี่สาวในบ้าน ตาต้าเดินเลี่ยงขึ้นบ้านไป โซลจึงเดินตามน้องขึ้นไป
ด้านบนด้วย ตามเด็กดื้อเข้าไปในห้องก่อนรวบกอดเอวบางๆนั้นเอาไว้
“โกรธพี่หรือเปล่าครับเด็กดื้อ?”
“ต้าไม่ได้โกรธหรอกครับ ไร้สาระ” ตาต้ายักไหล่นิดๆอย่างไม่ใส่ใจ
“จริงอ่ะ?” โซลถามท่าทางล้อน้องหน่อยๆ ตาต้าบุ้ยปากทำท่าคิด
“อืม นิดหน่อยก็ได้”
“โกรธนิดหน่อยเองเหรอ โกรธเยอะกว่านี้ก็ได้นะ พี่จะได้ง้อเยอะๆ” โซลทำหน้าหื่นใส่น้อง ตาต้าขำ ทุบอกพี่เบาๆด้วยความเขิน
“พี่โซลอ่ะ หื่นอีกแล้ว”
“ไหนใครบอกน้าว่าจะยอมพี่ทุกอย่าง”
คนเป็นพี่เอ่ยทวง ตาต้าอมยิ้ม ก่อนกระซิบบอกพี่โซลให้รอคืนนี้ แก้มหนุ่มน้อยขึ้นสีเมื่อเอ่ยบอก น่าฟัดจริงๆเลยเด็กดื้อ อย่างนี้พี่
โซลก็หวานหมูล่ะสิ หุหุ
---------------------------------
หลังจากที่พี่ต้น พี่ชายของตาต้าน้อย ได้หมั้นหมายกับพิมพิกา น้องสาวของดิน เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วต้นก็ได้ให้ผู้ใหญ่มาสู่
ขอพิมพิกาให้เป็นกิจจะลักษณะ ชายหนุ่มได้ย้ายที่ทำงานมาที่ภาคเหนือเพื่อที่จะได้อยู่กับภรรยา คุณพ่อคุณแม่ของตาต้ากับต้นยัง
ไม่ได้ย้ายตามมาเพราะยังสะสางงานทางโน้นไม่เรียบร้อย ต้นจึงได้มาก่อร่างสร้างตัวอยู่ทางนี้รอพ่อกับแม่มาอยู่ด้วยกัน เวลาปิด
ภาคเรียนตาต้าก็กลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ และอยู่เป็นเพื่อนท่านทั้งสองด้วย
ไม่นานจากนั้นไร่รณวีร์ก็มีข่าวดีอีกหน เมื่อพิมพิกาตั้งท้องหลังจากแต่งงานกับต้นพี่ชายของตาต้าได้ไม่นาน ว่าที่คุณพ่อตื่นเต้นดี
ใจใหญ่ ตาต้าเองพอรู้ว่ากำลังจะมีหลานก็เห่ออยากจะซื้อของมาเตรียมไว้ แต่คุณแม่ของตาต้าบอกว่าโบราณเขาถือ ไม่ให้ซื้อของ
ไว้ก่อนที่เด็กจะเกิด ตาต้าจึงตั้งตารอคอยว่าเมื่อไหร่ลูกพี่ต้นจะคลอดออกมาลืมตาดูโลกเสียที
จนเมื่อถึงวันที่พิมพิกาจะคลอด ยังไม่ถึงกำหนดคลอดดีจึงทำให้ทุกคนอลวนกันใหญ่ เมื่อนำตัวว่าที่คุณแม่ส่งถึงมือหมอ ผู้เป็น
พี่ชายอย่างดินก็ได้แต่เดินวนอยู่หน้าห้องคลอด ทำอย่างกับว่าตนเองเป็นพ่อของเด็กเสียเองอย่างนั้นล่ะ กังวลยิ่งกว่าว่าที่คุณพ่อ
อย่างต้นเสียอีก ต้นได้แต่มองพี่ชายภรรยาอย่างขำๆ เพราะอีกฝ่ายกังวลแทนเขาไปแล้ว ลุงสนกับป้าพิศก็มาเฝ้าเป็นกำลังใจอยู่
หน้าห้องคลอดด้วยเช่นกัน เวลาผ่านไปอีกนานมากทำให้ดินเดินไปมาจนป้าพิศจะเวียนหัว จนไตรภพมาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว
ลากดินให้มานั่งรอเงียบๆนั่นล่ะดินถึงได้หยุดเดินเสียที
เมื่อพยาบาลออกมาจากห้องคลอด ทั้งสามหนุ่ม ทั้งดิน ไตรภพ และต้นต่างก็ลุกพรึ่บขึ้นพร้อมกัน พยาบาลถึงกับงงว่าใครเป็นพ่อ
เด็ก ต้นยกมือบอกว่าเป็นตนเอง ดินจึงได้ถอยออกมาให้คุณพ่อตัวจริงคุยกับพยาบาล พยาบาลจึงแจ้งข่าวดีว่าต้นได้ลูกชาย
สุขภาพแข็งแรงดีมากทั้งแม่ทั้งลูกเลย ทุกคนต่างดีใจกันถ้วนหน้า
ตาต้าที่รู้ข่าวว่าพี่พิมพ์คลอดวันนี้ เมื่อเลิกเรียนทั้งที่วันถัดจากนั้นไม่ใช่วันหยุด แต่ตาต้าก็ชวนกายกลับมาที่ไร่ด้วยกัน โซลแปลก
ใจที่เห็นน้องกลับมาที่ไร่ พอรู้จากกายว่าตาต้าจะกลับมาดูหน้าหลานทำให้โซลได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ คุณอาบ้าเห่อนี่เอง
โซลพาน้องไปที่โรงพยาบาล ให้ได้เห็นหน้าหลานอย่างที่ต้องการ ให้สมกับที่ถึงขั้นกลับมาจากมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง พอ
กลับมาที่ไร่จินนี่ก็อยากไปดูน้องบ้าง แต่โซลบอกกับลูกสาวตัวน้อยว่าให้อาพิมพ์เขากลับมาบ้านก่อน เดี๋ยวคุณพ่อขาจะพาไป
ดูเอง จินนี่น้อยจึงรอคอยด้วยความหวัง เพราะอยากเจอน้องมากๆๆๆเลย
เมื่อพิมพิกากลับมาที่ไร่ จินนี่ก็ได้มาเจอน้องน้อยเสียที พอว่างก็มาขลุกอยู่กับอาพิมพ์กับน้องไอติมตัวน้อยๆ ผิวน้องสีชมพู นุ่นนิ่ม
ไปหมด พอน้องกำนิ้วมือจินนี่ก็หัวเราะถูกอกถูกใจใหญ่ บอกกับคุณพ่อว่าอยากอยู่กับน้องทั้งวันเลย
ตาต้าที่เห็นว่าน้องสาวกับหลานชายน่ารักน่าหยิกก็ถ่ายรูปเก็บไว้เสียหลายแชะ ต้นจึงจัดให้พี่ชายกับน้องสาวคนสนิทอุ้มน้อง
ไอติมแล้วถ่ายรูปให้ พอตาต้าจะได้อุ้มหลานจริงๆก็กลัวจะทำหลานหลุดมือ พี่ต้นเลยให้นั่งนิ่งๆแล้วอุ้มลูกชายไปวางบนอ้อม
แขนของน้อง น้องไอติมก็ดูจะเป็นใจ ยิ้มให้พี่สาวตัวน้อยกับคุณอาจนเห็นเหงือกสีชมพูเลยทีเดียว คู่พี่น้องจอมดื้อเลยยิ้มแก้มจะปริ
-------------------------------
ทางด้านคุณลุงดินแดน นอกจากจะเป็นลุงดินของน้องจินนี่แล้ว ในตอนนี้ยังกลายเป็นคุณลุงของน้องไอติมอีกตำแหน่ง ดินดูจะ
เห่อหลานเอามากๆ ไม่ค่อยจะต่างกับคุณอาอย่างตาต้าน้อยสักเท่าไหร่เลย หนุ่มหน้าเข้มคอยช่วยพิมพิกาดูลูก จนคุณพ่อคนใหม่
อย่างต้นแทบจะไม่ได้แตะลูกน้อยเลยด้วยซ้ำเมื่อคุณลุงเขาเหมาหมด พิมพิกาเอ่ยแซวพี่ชายกับคุณผู้กองที่ตอนนี้เลื่อนขั้นมาเป็น
คุณสารวัตรไตรภพไปแล้วว่าจะศึกษาเอาไว้มีเองหรือ ดินหันไปมองหน้าสารวัตรที่นั่งมองมาที่ตนเองเงียบๆแล้วลุกหนี คุณแม่
ลูกอ่อนหัวเราะพี่ชายก่อนยุส่งให้สารวัตรไตรภพเดินตามไป
“เสียใจด้วยนะ ผมมีให้คุณไม่ได้หรอก”
ไตรภพที่เดินตามดินมาหยุดกึกเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยลอยลมมา นายตำรวจตัวโตเดินอ้อมไปด้านหน้าอีกคน ก่อนบอก
“ก็ไม่ได้บอกว่าจะให้มีให้สักหน่อย ถ้ามีลูกกับคุณจริงนะ ผมคงปวดหัวน่าดู” ไตรภพเอ่ยบอก แล้วยิ้มกวนก่อนว่าต่อ “แค่คุณคน
เดียวนี่ผมก็จะแย่แล้ว รับมือยากยิ่งกว่าอะไร”
“บ่น?” ดินทำเสียงเชิงถาม เลิกคิ้วนิดๆ
“โอ๋ย เปล่าคร้าบ เปล่าบ่นเลยครับคุณดินแดน~” นายตำรวจหนุ่มปฏิเสธน้ำเสียงทะเล้น ดินมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ สีหน้าดูจริงจัง
ทำให้ไตรภพนิ่งตามไปด้วย
“เอาจริงๆ คุณอยากมีไหม?”
คุณสารวัตรถอนใจกับความจริงจังของหนุ่มหน้าเข้ม ท่าทางจะงานเข้าเสียแล้วไหมล่ะ
“ตอบจริงๆ... อยาก”
พออีกฝ่ายตอบมาเช่นนั้นคนที่มีสีหน้าจริงจังเมื่อครู่กลับหน้าเจื่อนลงถนัดตา
“ถามแล้วจ๋อย ยังไงกันครับคุณ?”
ไตรภพเอ่ยถามกลั้วหัวเราะ ก่อนรั้งแขนดินให้ขยับเข้ามาใกล้
“อย่ากังวลเลยดิน เรื่องนี้มันไม่ได้สำคัญไปกว่าเรื่องที่ว่าผมรักคุณหรอก”
ดินมองหน้าไตรภพที่เอ่ยถ้อยคำแสนหนักแน่นนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยเรียก
“ไต๋”
“?”
“ผมรักคุณนะ”
คำสารภาพรักนั้นทำให้แขนแกร่งตวัดรัดร่างของอีกฝ่ายแน่น ดินมัวแต่ตกใจเลยกลายเป็นยืนนิ่งให้ไตรภพกอด นายตำรวจหนุ่ม
ยิ้มกว้างขวาง หน้าบานเป็นกระด้ง อดไม่ได้ที่จะฟัดแก้มของคนในอ้อมแขน
“วิเศษที่สุดเลยที่รัก” ไตรภพเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้ม
“อย่าล้อน่า”
“ไม่ล้อครับ แค่ดีใจมากเฉยๆ”
“ดีใจอะไร?” ดินขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าอีกคนจะดีใจอะไรขนาดนั้น
“ก็ดีใจสิ คุณบอกรักทั้งทีนะ แถมเป็นครั้งเดียวในรอบหลายปีเลยด้วย”
“ขนาดนั้นเลย?”
หนุ่มหน้าเข้มทำเสียงราวไม่อยากจะเชื่อ เลยถึงตาไตรภพทำหน้าจริงจังบ้าง
“ต้องขนาดนั้นล่ะ นี่ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าตัวเองไม่เคยบอกรักผมสักครั้งเลยน่ะ มีแต่บอกว่าถ้าไม่รักจะยอมขนาดนี้เหรอ”
“แล้วนั่นมันไม่ใช่การบอกรักหรือไง?”
“มันเหมือนกันที่ไหนเล่ากับอันเมื่อกี้น่ะ”
นายตำรวจหนุ่มว่าอย่างขัดใจ จะบอกรักแต่ละทีนี่ยากแสนยากเลยล่ะ ดินแดนคนนี้น่ะ
“เรื่องมากนะ” ดินว่าเสียงเรียบพอๆกับหน้าตา
“เรื่องมากก็เพราะว่า... รักมาก”
จากที่ตัดพ้อต่อว่าเมื่อครู่ พอโดนคนหน้าเข้มว่า ไตรภพเลยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาหยอดหวานแทน
“วันไหนไม่ได้หยอดคงไม่ใช่คุณนะ”
“ชอบล่ะสิ” ไตรภพเย้าหยอก
“ที่ไหนมี?” ดินทำไม่รู้เรื่อง
“ที่นี่ล่ะ ชอบก็บอกมาเห๊อะ”
ไตรภพทำเสียงสูง ดินอมยิ้ม ยอมแพ้จริงๆกับคนๆนี้ คิดเองเออเองได้ตลอดนั่นล่ะ
สายลมยามเย็นพัดพา ดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำกำลังจะลาลับโลก แสงออกส้มอมชมพูกระจายบนท้องฟ้ากว้าง ค่อยๆก้าวเข้าสู่
บรรยากาศไร่รณวีร์ยามค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาว ฟ้าเปิดโล่งไร้เมฆหมอกมาบดบังทัศนียภาพแสนสวย
บนทางเดินเส้นเล็กที่มุ่งตรงสู่บ้านไม้หลังใหญ่ของไร่รณวีร์ ตาต้ากับพี่โซลและน้องหนูจินนี่กำลังเดินกลับบ้านกันช้าๆหลังจาก
พาจินนี่ไปหาน้องไอติมมา ก้าวสั้นๆของเด็กหญิงตัวน้อยทำให้การเดินทอดน่องของหนุ่มน้อยกับหนุ่มใหญ่ต้องช้าลงไปอีก จินนี่
ไม่ให้คุณพ่ออุ้มเพราะโตแล้วเลยอยากเดินเอง มีคุณพ่อขากับพี่ตาต้าจับมือของหนูน้อยคนละข้าง
“พ่อขา~” เสียงใสๆของเด็กน้อยเอ่ยเรียกคุณพ่อขา
“ขา”
โซลขานรับก่อนก้มลงมองลูกสาวตัวน้อย ดวงตากลมโตมองคุณพ่อ ประกายแห่งความหวังทอแสงวิบวับ ก่อนเอ่ยบอกคุณพ่อ
“จินนี่อยากได้น้อง”
“หือ? นั่นมันน้องอาพิมพ์นะคะ จินนี่เอามาไม่ได้หรอก”
พอลูกสาวบอกจุดประสงค์ คุณพ่อขาจึงแจกแจงให้ทราบ ท่าทางจินนี่จะชอบน้องน้อยมาก ตาต้าโยกศีรษะกลมๆของน้องสาว
ตัวน้อยด้วยความเอ็นดูปนหมั่นเขี้ยว
“งั้นคุณพ่อขาก็ทำน้องมาให้จินนี่หน่อยสิคะ”
หนูจินนี่เอ่ยบอกอย่างไม่ยอมแพ้ ก็หนูอยากได้น้องตัวเล็กๆอย่างน้องไอติมนี่นา โซลหันไปมองหนุ่มน้อยที่จับมือจินนี่อยู่อีกข้าง
ก่อนเอ่ยถามยิ้มๆ
“ว่าไงครับตาต้า?”
“อะไรครับ?” ตาต้าทำหน้างงเมื่อพี่โซลถาม อะไร ยังไงครับผม?
“จินนี่อยากได้น้อง ตาต้าพร้อมสำหรับคืนนี้หรือยัง?”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนเป็นพี่ทำให้สีหน้าเอ๋อเหรอของตาต้าเปลี่ยนเป็นอึ้ง อ้าปากหวอ กะพริบตาปริบๆเมื่อเริ่มรู้ว่าพี่โซลหมายถึง
อะไร
“พี่โซลอ่ะ ทะลึ่งอีกแล้วนะ”
โซลหัวเราะเมื่อเห็นน้องหน้าแดง จินนี่น้อยแหงนคอมองผู้ใหญ่สองคนคุยกันไปมา ก่อนที่เด็กหญิงจะเอ่ยแทรกบทสนทนาที่
ตนเองไม่มีส่วนร่วม
“พูดอะไรกันน่ะ พูดให้จินนี่เข้าใจด้วยสิคะ”
จินนี่น้อยหน้าตามู่ทู่ ปากจู๋ แก้มพอง ให้รู้ว่าหนูน้อยชักจะงอนแล้วนะ โซลกับตาต้าน้อยหัวเราะ ก่อนที่ตาต้าจะกระซิบบอก
น้องสาวว่าคุณพ่อขาติงต๊อง จินนี่อย่าไปฟังเลย น้องจินนี่ตาโตมองหน้าคุณพ่อขาทันทีก่อนจะยิ้มแล้วหัวเราะออกมา ผู้ใหญ่ทั้ง
สองคนที่ไม่รู้ว่าเด็กหญิงกำลังคิดอะไรถึงได้หัวเราะคิกคัก แต่พอเห็นท่าทางน่ารักนั้นก็อดหัวเราะตามไม่ได้
มือเล็กๆของจินนี่จับมือคุณพ่อขากับพี่ตาต้าเอาไว้ ก่อนเท้าน้อยๆนั้นจะก้าวเดินแล้วดึงพี่ชายกับคุณพ่อให้เดินมาด้วยกัน พูด
อะไรงุ้งงิ้งๆอยู่คนเดียวแล้วก็หัวเราะ แขนเล็กๆแกว่งไปมาเวลาเดิน บางทีก็เงยขึ้นมาส่งยิ้มให้คุณพ่อขากับพี่ตาต้าด้วย ตาต้าหัน
ไปมองพี่โซลที่ก็มองมาที่ตนเองเช่นกันแล้วยิ้มให้กัน
วันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่แสนธรรมดา ถนนที่ก้าวเดินกันอยู่ก็เส้นเดิมที่เคยเดินอยู่ทุกบ่อย แต่ช่วงเวลาเล็กๆน้อยๆที่ได้ใช้ร่วมกับ
‘ครอบครัว’ มันกลับทำให้วันธรรมดามีความพิเศษขึ้นมา แม้ทุกสิ่งจะเป็นเพียงเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่แค่มีคุณพ่อขา
ของน้องจินนี่ มีพี่ชายคนสนิทอย่างพี่ตาต้า และเด็กหญิงจินนี่ตัวน้อยที่น่ารัก ความสุขเล็กๆก็สามารถเกิดขึ้นได้ไม่รู้จบ
END
จบบริบูรณ์แล้วค่ะ สำหรับเรื่องนี้ ตอนพิเศษเยอะเหลือเกิน^___^
ขอบคุณนักอ่านทุกๆท่าน ทุกๆกำลังใจค่ะ
น้องตาต้ากับจินนี่น้อยจบไปแล้วก็อย่าลืมคิดถึงกันบ้างน้า
วันใหม่ค่า
ปล. ว่าด้วยเรื่องท่ารำของน้องจินนี่
(ร้องเป็นทำนองเพลงด้วยจะได้ฟีลมาก)
เทพพนม ปฐมเอย พรหมสี่หน้า
สอดสร้อย มาลา เฉิดฉิน
ทั้งกวางเดินดง หงส์ บิน
กรินริน เลียบถ้ำ อำไพ
อีก ช้า นางนอน ภมรเคล้า
แขกเต้า ผา ลา เพียงไหล่
เมขลา โยนแก้ว แววไว
มยุเรศ ฟ้อนใน นภาพร
ยอดตองต้องลม พรหมนิมิต
อีกทั้ง พิสมัย เรียงหมอน
ย้ายท่า มัจฉาชมสาคร
พระสี่กร ขว้างจักร ฤทธิรงค์
(ท่าสอดสร้อยกับมาลาเป็นท่าที่ง่ายมาก อีกท่าคือ บิน มันง่ายจริงเพราะทำท่ากางแขนบินแค่นั้น ฮ่า เคยสอบตอนมัธยม พอจำได้
บ้างนิดนึง (นิดเดียวจริงๆนั่นล่ะ) พอพูดถึงสมัยมัธยมแล้ว รู้สึกว่าตัวเองแก่ไงไม่รู้^^” )