Only You :: EP.14 [100%]“แกจะไปช้อปด้วยกันมั้ย” ผมถามมันแล้วยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มหลังจากกินข้าวจนหมดกล่อง ไอ้เบนกลอกตาครุ่นคิด เลื่อนสายตาไปมองไอ้อันเดรที่ยังนอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา
“เดี๋ยวถามไอ้อันเดรก่อน ถ้ามันไม่ไหวจะได้อยู่ดูมัน แต่ถ้ามันโอเคฉันไปด้วย” ผมพยักหน้ารับ เสียงเตือนว้อทสแอพดังขึ้น ผมกดเปิดดูก็เป็นออสตินที่ส่งรูปแมทที่นั่งอยู่บนรถตู้แล้วมาให้ดู เขากำลังนั่งเสียบหูฟังฟังเพลง หน้าตาบูดบึ้งหน่อยๆ สงสัยจะงอนที่ผมส่งคนไปประกบ ผมดูรูปนั้นแล้วก็ยิ้มออกมา ชอบหน้าตาบูดบึ้งของเขาซะจริง ผมกดเซฟไว้กะจะอัพลงไอจีแบบไพรเวท จริงๆ ผมจะอัพลงอันที่คนตามเยอะๆ ก็ได้ แต่แมทแหละบอกว่าไม่อยากให้ผมเปิดเผยมาก กังวลว่าจะมีผลเสียตามมาอยู่ได้ ทั้งที่จริงตอนนี้ข่าวเขากับผมเริ่มกระจายไปทั่วแล้ว ผมก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะมีผลตามมายังไง แม้ผมจะโดนทีมโฆษกส่วนตัวจวกยับมาแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ กลับไปค่อยเคลียร์ ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาของผมกับเอเลี่ยนน้อย
‘Don’t frown, baby. Because you gonna make me wanna kiss you more.’
(อย่าขมวดคิ้วสิที่รัก เพราะนายกำลังจะทำให้ฉันอยากจูบนายมากขึ้นไปอีกนะ)ผมยิ้มกว้างแล้วกดอัพรูปเขาลงอินสตาแกรมที่มีคนตามแค่สามสิบคน แต่ละคนที่ตามก็เป็นคนที่ผมไว้ใจและสนิทมากจริงๆ ผมไม่ได้ต้องการยอดคนตามเยอะแยะ อาจเป็นเพราะผมชินแล้วกับการติดตามมากมายจากแฟนคลับ เพียงแต่ผมต้องการพื้นที่ส่วนตัวกับเพื่อนและแฟนผมบ้าง
‘ไอ้บ้า’ผมขมวดคิ้วกับคอมเม้นต์ของแมทที่พิมพ์มาเป็นภาษาไทย นี่บอกรักหรือว่าด่าอะไรผมอีกรึเปล่า เห็นว่าผมไม่แข็งแรงภาษาแม่เขานี่เอาใหญ่ เดี๋ยวต้องให้แฟนไอ้เบนแปลให้สักหน่อยละ ถ้าเป็นคำด่าจะจับตีก้นบวมเลยคอยดู
“เดี๋ยวฉันกลับไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน ฝากดูไอ้อันเดรมันด้วยนะ” ผมพยักหน้าขึ้นที ไอ้เบนลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางประตู เปิดประตูห้องออกไปข้างนอก ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอน กะหาอะไรทำระหว่างรอแมทกลับมา ผมเลยเปิดเช็กข่าวสารอ่านไปเรื่อย บังเอิญไปเจอข่าวตัวเองในโซเชียลพอดี ผมเลยกดเข้าไปอ่าน แน่นอนว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องของผมกับแมท สื่อขุดคุ้ยกันยกใหญ่ว่าความสัมพันธ์ของผมกับแมทนั้นเป็นยังไงกันแน่ เพราะมีภาพที่ผมเข้าไปเอาตัวเขามาจากมหาวิทยาลัยด้วย
ผมล้มเลิกฟ้องร้องพวกที่ด่าแมทแล้ว เพราะเขาขอเอาไว้นั่นแหละ ผมเลยต้องโทรคุยกับเอมิลี่ใหม่ และคุยกับทีมโฆษกของค่ายหนัง ทุกคนเห็นด้วยกับแมท เพราะไม่อยากให้ประเด็นมันขยายความไปมากกว่านี้อีก เพราะตอนนี้ทีมโฆษกผมก็ออกมาตอบคำถามแทนผมกันจ้าล่ะหวั่น แต่คำตอบยังคงไม่ชัดเจน สื่อเลยจับประเด็นได้ไม่ชัด ได้แค่เขียนกันไปเองว่าผมเป็นแฟนกับแมทแน่ๆ ยิ่งพอจับมาโยงประเด็นภาพหลุดผมกับเขาก่อนหน้านี้ยิ่งมีมูล ไหนจะข่าวคลิปหลุดที่เคยออกมาอีก นักข่าวพวกนี้นี่ฉลาดจริง จับโยงกันจนเป็นเรื่องราว
แต่ก็เท่านั้นแหละ ถ้าทีมงานผมยังไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้ มันก็จะแค่ข่าวลือ เขาก็เล่นอะไรมากไม่ได้ และยิ่งผมยังไม่พูดอะไร ข่าวนี้ก็จะยังคงเป็นที่ถกเถียงกันต่อไปอีกยาว ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดจะปิดบัง แต่ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้มันดูยิ่งใหญ่ แค่เราสองคนรู้กันก็พอ ตอนนี้คนที่ผมอยากให้รู้มากที่สุดคือพ่อกับแม่แมท ท่านทั้งสองยังรับตัวตนแมทได้ไม่หมด ผมก็กลัวเหลือเกินว่าเขาจะพาลมาไม่ให้เราคบกัน แต่แมทก็ยืนยันว่าอย่าเพิ่งบอกตอนนี้ ตอนนี้ข่าวยังไปไม่ถึงหูเขาทั้งสอง ไว้สักวันแมทจะพูดเอง
แต่ผมจะปล่อยให้เขาเผชิญหน้าคนเดียวได้ไง ผมขู่เขาว่าถ้าจะบอกพ่อกับแม่ต้องมาบอกผมก่อน
ติ๊ด!
เสียงคียการ์ดเสียบกับที่เปิดประตูดังขึ้น สงสัยแฟนผมจะมาแล้ว ผมมองไปทางประตูห้องนอนที่เปิดกว้างอยู่แล้วก็เห็นร่างเตี้ยๆ เดินต้อกแต้กเข้ามาช้าๆ เขาสะดุ้งนิดหน่อยตอนเห็นอันเดร แต่ก็เดินต่อจนมาถึงห้องนอนจนได้
“อันเดรยังไม่ฟื้นอีกเหรอ” เขาถามหน้าตื่น ผมส่ายหัวยิ้มๆ
“ปิดประตูด้วย” แมทที่กำลังเดินมาหาผมหมุนตัวไปปิดประตูห้องอย่างเบามือ ผมนอนพิงหัวเตียง อ้าแขนรับเขา แมทเดินยิ้มน่ารักเข้ามาหาแล้วล้มตัวลงนอนบนตัวผม สองแขนเขาโอบรอบเอวผมไว้ ผมลดสองแขนลงมาโอบรัดรอบเอวเขาบ้าง แมทแหงนหน้าเอาคางเกยกับอกผม ส่งยิ้มสดใสมาให้ ผมก้มลงจูบริมฝีปากเขาหนึ่งที
“วันนี้ไปซนที่ไหนมารึเปล่า” แมททำตาโตจนตาเขากลมแป๋ว สักพักเขาก็กระพริบตาปริบๆ เอียงหน้าเอียงคอมองผมอย่างไม่เข้าใจ รู้ทั้งรู้ว่าทำหน้าแบบนี้จะมีผลยังไงก็ยังชอบทำ แต่ทำไว้น่ะดีแล้วละ ผมจะได้หาเรื่องฟัดเขา
“ก็ไปพรีเซ้นต์งานไง ผมเปล่าซนนะ” เขาตอบเสียงใส ตอบเหมือนเด็กน้อยตอบคำถามของพ่อที่ว่าถ้าหากลูกทำผิด พ่อจะตีก้นเป็นการลงโทษ
“จริงอ้ะ?!” ผมแกล้งหรี่ตามองเขาอย่างจับผิด แมทพยักหน้ารัวๆ ด้วยหน้าใสซื่อ มีการยกนิ้วสามนิ้วขึ้นมาทำท่าว่าสาบานอีก
“จริงครับ ผมไม่ซนหรอก เดี๋ยวคุณจับตีก้น” ผมยิ้มกริ่ม มองเขายู่ปากใส่อย่างน่าเอ็นดู
“Good boy.” ผมก้มลงหอมหัวเขา ผมชอบหอมหัวเขานะ หอมดี แมทสระผมค่อนข้างบ่อยเลยไม่มีกลิ่นเหงื่อหรือกลิ่นสาบให้รู้สึกเหม็นจมูก เวลาได้จูบได้หอมเขาแบบนี้ ผมรู้จะรู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นผู้นำและสามารถคุ้มครองเขาได้
“กินข้าวยังครับ” แมทถามพลางก้มลงหอมกลางหน้าอกผมผ่านเสื้อยืด ผมเห็นแบบนั้นเลยเลื่อนสองมือมาถอดเสื้อยืดออกซะเลย แมทมองผมหน้าตื่น และทำท่าจะลุก แต่ผมก็ใช้แขนกอดเอวเขาไว้ ให้เขานอนเหยียดอยู่บนตัวผมนี่แหละ
“ถอดเสื้อทำไมอ่ะ” เขาถามหน้าซื่อ
“จะได้หอมถึงเนื้อฉันไง” แมทกลั้นยิ้มเขิน แก้มลงหอมตรงเนินอกซ้ายของผม แล้วเขาก็เอานิ้วมาจิ้มหน้าอกผมเล่นเบาๆ สายตาเขาจ้องมองอกผมอย่างสนอกสนใจ ผมก้มมองภาพตาแป๋ว หน้าใสๆ ของเขาแล้วก็ยิ้มออกมา รู้สึกเพลินตาเหลือเกิน ถ้าให้นั่งมองทั้งวันจนหมดวันผมก็ทำได้นะ
“วันนี้ทิ้งข้อความอะไรไว้ให้ฉันเยอะแยะ” มือที่กำลังลูบอกผมเล่นชะงัก เขาเลื่อนสายตามามองผมแล้วสักพักแก้มเขาก็แดงปลั่ง สีหน้าเขาอึกอักเล็กน้อย เขาทำท่าจะลุกหนี แต่ผมรีบแยกขาออกให้ช่วงล่างเขาตกลงไปบนเตียงก่อนจะยกสองขาเกี่ยวพันขาเขาไว้แน่น แมทจ้องตาผมตาแป๋ว แก้มแดงนวลใส จนผมอดใจไม่ไหวเลยต้องก้มลงขยี้แรงๆ
“อยอ…” แมทครางเสียงแปลกประหลาด แต่ผมก็บดขยี้จมูกลงไปบนแก้มเขาหนักๆ
“แอ๊ะ!” เขาพยายามใช้มือดันหน้าผมออกจากแก้มเขา แต่ผมก็ฝืนเอาไว้ พอสู้ไม่ได้เขาเลยส่งเสียงงอแงกลับมา ผมดึงหน้าออกพร้อมส่งเสียงหัวเราะชอบใจ ก้มมองเอเลี่ยนหน้าบูดที่เอามือลูบแก้มป้อยๆ
“ว่าไง รู้ตัวมั้ยว่าทิ้งข้อความอะไรไว้” หน้าเขายิ่งแดง ปากเขาเหมือนจะยิ้มแต่ก็กลั้นเอาไว้จนทำให้หน้าดูฝืนไปหมด ผมหัวเราะเสียงเบา
“แล้วชอบมั้ยล่ะ” เขาถามเสียงอ้อแอ้ ท่าทางจะเขินจัด ตอนเขียนข้อความพวกนั้น เดาว่าเขาคงนั่งหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
“ชอบมาก แต่รู้มั้ยลูกชายฉันตื่นตั้งแต่ที่นายบอกว่าอยากใช้ลิ้นนวดตัวฉัน…” เขาทำตาโต ปากหวอเป็นรูปตัวโอเล็กน้อย แล้วเขาก็หัวเราะกิ๊กกั๊กในลำคอ ท่าทางจะชอบใจที่เห็นผมเป็นแบบนั้น
“…ตอนแรกมันก็สงบแล้วนะ แต่พอเจอที่นายบอกว่าชอบฉันใส่กางเกงในสีขาว ฉันเลยต้องช่วยตัวเอง” แมทอ้าปากค้าง แต่ไม่ใช่ค้างเพราะตกใจนะ เหมือนเขากำลังจะอ้าปากหัวเราะมากกว่า ดวงตาเขาเป็นประกายน่ามอง
“จะ… จริงอ้ะ?!” เขาถามตาโต ผมยิ้มกว้าง ก้มลงหอมหน้าผากเขาไปหนึ่งที
“เสร็จไปหนึ่งรอบ นั่งมองรูปนายในมือถือ” เขาหรี่ตามองกลับมาทำหน้าว่าไม่เชื่อ
“โกหกรึเปล่า คิดถึงหน้าสาวคนอื่นล่ะสิไม่ว่า” เขาทำปากเชิดขึ้น ผมคลี่ยิ้มบางๆ
“หาว่าฉันโกหกอีกละ รู้งี้อัดคลิปตอนชักไว้ให้ดูดีกว่าว่าฉันครางเป็นชื่อใคร” จากที่ทำหน้างอ เขาก็เปลี่ยนมาเป็นหัวร่อเสียงเล็กเสียงน้อย
“ว่าแต่ ชอบฉันใส่กางเกงในสีขาวจริงหรอ” แมทหยุดหัวเราะแล้วเปลี่ยนมายิ้มเขินอย่างน่ารัก
“ก็… ถ้าเปียกน้ำด้วยมันก็เห็นชัดดี แต่จริงๆ สีดำก็ชอบนะ ลึกลับดี” เขาพูดตาแป๋ว หน้าซื่อๆ แต่สักพักเขาก็ยกมือปิดหน้าและส่ายหน้าไปมาในมือ ผมก้มมองเขาแล้วหัวเราะชอบใจกับท่าทีนี้ของเขา แมทแหวกนิ้วให้เห็นดวงตาเขา พอเห็นว่าผมจ้องมองอยู่ก็เอาปิดตาแล้วก้มหน้ามุดอกผมผ่านฝ่ามือ
“หึฮึ…” เข่าสงเสียงประหลาดๆ ออกมาจากลำคอ ผมหัวเราะขำขันกับกิริยาซนๆ เหมือนเด็กของเขา แมทไม่ได้เอาอกเอาใจอะไรผมเลย แต่แค่เขาทำแบบนี้ ผมก็ชื่นใจแล้ว
“แล้วระหว่างใส่กางเกงในกับไม่ใส่อะไรเลยชอบแบบไหนมากกว่ากัน” ผมแกล้งหยอกเขา แมทเอามือออกจากหน้า ใช้สองมือมารองค้างเขาไว้ แล้วจ้องผมอย่างใสซื่อ ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางเบา
“ไม่รู้” เขาขยุ้มปากจู๋ ส่ายหน้าไปมาบนมือตัวเอง ผมยกยิ้มมุมปาก ยกมือซ้ายขึ้นมาเสยเส้นผมตรงหน้าผากเขา เผยให้เห็นเหม่งน้อยๆ ผมเสยเส้นผมเขาเบามือ เส้นผมเขานุ่มมือมากเลย
“ไม่รู้ได้ไง นายลวนลามฉันทั้งสองแบบไปแล้วนะ” แมททำหน้าแหยงใส่ผมประหนึ่งว่าผมเป็นแมลงสาบก็ไม่ปาน
“กล้าพูด คุณสิลวนลามผมอ่ะ” เขาว่าแล้วยื่นหน้ามากัดคางผมเบาๆ ผมเลยยื่นคางให้เขากัดเล่นสนุกสนาน เหมือนหมาแทะกระดูกเลย ฮ่าๆๆๆ
“หนวดทิ่มปากหมดแล้ว วันนี้โกนหนวดกันเถอะ” เขายกสองมือขึ้นมาลูบแก้ม ลูบคางผมที่หนวดขึ้นเฟิ้มดกหนาไปหมด ผมไม่ค่อยชอบโกนหนวด โกนแล้วหน้าดูติ๋มไปเลย
“กลับมาจากข้างนอกก่อนแล้วกัน” ผมปล่อยให้เขาขยุ้มหนวดเคราผมเล่น แมทยิ้มร่ายามได้สัมผัสหนวดของผม ไม่รู้กำลังคิดอะไรเพี้ยนๆ อยู่รึเปล่า
“หวังว่าคงไม่ได้คิดจะจุดไฟเผาหนวดฉันหรอกนะ” ดักทางไว้ก่อน บางทีแมทก็ซนเหมือนเด็กพอๆ กับหน้าตาเขานั่นแหละ ใช้ที่ช็อตยุงช็อตก้นผมมาแล้ว หรือเอาหัวหอมเหม็นๆ มาทาตัวผมก็เคยมาแล้วเช่นกัน ความคิดพิเรนทร์พวกนี้ไม่รู้ว่าเอาสมองต่อมไหนคิด บางครั้งก็อำมหิตเกินตัว
“บ้าเหรอ ไม่ทำอย่างนั้นหรอก ตายไวไป” แน่ะ พูดแล้วยังหัวร่ออารมณ์ดี เห็นแล้วมันเขี้ยว เลยก้มลงฟัดแก้มเขาแรงๆ อีกรอบ แมทย่นหน้าจะหนีแต่ผมก็ตามไปหอมแก้มเขาไม่หยุด
“Giant! (ไอ้ยักษ์!)” เวลาเขาหงุดหงิดหรืองอแง เลเวลเรียกฉายาผมจะกระแทกแรงขึ้นพร้อมหน้าตายับยู่ยี่ ผมดึงหน้าตัวเองออกแล้วส่งเสียงหัวเราะเสียงดัง แมทแยกเขี้ยวใส่ผม ก้มลงกัดหัวนมซ้ายผมเต็มฟัน
“โอ้ว! ซี๊ดดด!” เจ็บมันก็เจ็บอยู่หรอกนะ แต่ความเสียวนี่แล่นปรี๊ดไปหมด เล่นเอาหน้าผมกระตุกเหยเก
“อ้า อย่างนั้นแหละ กัดแรงๆ” ผมร้องบอกแมทที่กัดหัวนมผมไว้แน่น แต่พอผมบอกไปแบบนั้นเขาก็เลิกกัด แล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองผมกลับมา ผมทำหน้าใสซื่อ บุ้ยปากไปที่หัวนม แมทแบะปากใส่แล้วฟาดมือลงบนหัวนมผมแทน
“ทำร้ายร่างกายฉัน ระวังโดนจับกดบนเตียงนะ” ผมแกล้งทำหนาขู่ แมทบู้ปากใส่ผมเหมือนปลาทองไม่มีผิด
“แล้ววันนี้จะพาผมไปไหน ผมจะไปกินขนมกับเพื่อนก็ไม่ให้ไป” เขาว่าหน้ามุ่ยเล็กน้อย ผมยกมือซ้ายเสยผมหน้าเขาต่ออย่างเบามือ
“จะพาไปซื้อเสื้อผ้า อาทิตย์หน้าก็งานฟิล์มแล้วนะ” แมทตาโตมองกลับมา
“ซื้อทำไม ผมใส่ชุดที่มีก็ได้”
“ไม่ได้ ต้องหาชุดใหม่ จะใส่ชุดธรรมดาๆ เดินบนพรมแดงได้ไง” คราวนี้เขาทั้งตาโตและสั่นหัวรัวเร็ว
“ผมไม่เดินด้วยนะ…” หน้าผมตึงทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ผมมองเขาเขม็ง แมทดีดตัวลุกขึ้น รีบคลานมานั่งคร่อมตักผมไว้ สองมือจับกรอบหน้าผมไว้อย่างอ่อนโยน
“…ผมจะเดินได้ยังไง ผมไม่ใช่ดารานะ”
“แต่นายเป็นแฟนฉัน” ผมบอกเสียงเรียบ หน้าตานิ่งสงบ แมทใช้สองมือลูบแก้มผมขึ้นลงเบาๆ
“ครับ ผมเป็นแฟนคุณ แต่ผมไม่จำเป็นต้องเดินด้วยหรอก จริงๆ นะ ให้ผมไปในฐานะคนดูแลคุณตามปกติเถอะ ผมไม่อยากให้คุณถูกมองไม่ดี…” ผมมองเขานิ่ง แมทมองกลับมาอย่างออดอ้อน หน้าตาเว้าวอนอย่างมาก
“…นะครับ น้า… ยักษ์ที่รัก อย่าให้ผมไปเดินเลยนะ ผมห่วงคุณนะ แค่นี้คุณก็มีประเด็นเยอะพอแล้ว นะครับ นะ” เขายกมือขวาเสยผมที่ปรกหน้าผากอยู่ออก ยื่นหน้ามาหอมหน้าผากผมหนักหน่วง อาการหงุดหงิดผมแทบมลายหายไปทุกครั้งเวลาที่โดนแมททำแบบนี้ ไอ้ตัวแสบพอรู้ว่าทำแบบนี้ผมจะอ่อนให้ก็เอาใหญ่
“เฮ้อ… ก็ได้ๆ” พอผมบอกแบบนั้น เอเลี่ยนน้อยก็ยิ้มแป้นด้วยความดีใจ พุ่งเข้ากอดผมไว้แน่น ผมยกยิ้มมุมปากนิดหน่อย สองมือยกขึ้นมาโอบกอดเขาตอบ
“ไอ้ห่ามากๆ” ผมหัวเราะในลำคอ หลอกด่าผมอีกรึเปล่าหรือตั้งใจจะชมตามความหมายที่เขาเป็นคนกำหนดขึ้นมาเองก็ไม่รู้
“แต่ฉันจะพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่อยู่ดี ห้ามปฏิเสธนะ”
“ครับ” เขาตอบรับทันควัน ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง
“ไม่ปฏิเสธหน่อยรึไง” เขาดึงหน้าตัวเองออกจากซอกคอผม มามองผมตรงๆ ส่งยิ้มกว้างมาให้
“ของฟรีนี่นา” เขาหัวเราะเสียงใส ผมยิ้มกว้างตาม ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเห็นแก่เงินหรอก เพราะผมเองก็เต็มใจจะซื้อให้เขาอยู่แล้ว อีกอย่างผมอยากซื้อเสื้อผ้าเหมือนกันให้เราสองคนด้วย
“หอมแก้มขอบคุณฉันก่อน” แมทเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด บอกให้หอมก็โน้มหน้ามาหอมเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่หอมแก้มพ่อ เขาหอมแก้มผมทั้งสองข้างเสียงดังฟอดชัดเจน แถมมีจุ๊บปากส่งท้ายด้วย
“ถ้าให้ทำมากกว่านี้ ฉันยกมรดกให้เลย” ผมว่ายิ้มๆ แมทยิ้มกัดปากล่างไว้ ส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดเสียงอ้อน
“เมื่อคืนคุณก็ทำไปแล้วไง แถมยังทำแรงด้วย” ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“ฉันทำนายแรงเหรอ” แมทพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว
“มาก และเอาแต่ใจมากกว่าปกติด้วย” แมททำหน้าขยาดเล็กน้อย ผมยกเสื้อนักศึกษาเขาดูตามตัว รอยฟันแดงๆ เต็มหน้าอกเขาไปหมด
“ไม่ได้มีแค่ตรงนี้นะ ในต้นขา ตรงก้น เต็มไปหมดเลย” แมทว่าหน้ายู่น้อยๆ ผมแอบใจไม่ดีนิดๆ ไม่รู้ว่าตัวเองทำไปแรงขนาดไหน ปกติผมก็ทำเขาแรงอยู่แล้ว แต่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยท่าทางจะแรงกว่าเดิม
“แล้วทำไมไม่ห้ามฉัน”
“โอ้โห…” แมททำหน้าว่านี่ถามจริงๆ ใช่มั้ย จากที่กำลังเครียดๆ ถึงกับต้องยิ้มขำออกมากับสีหน้าเขา ที่อ้าปากหวอ ถลึงตามองกลับมา
“…ปกติผมห้ามคุณได้ที่ไหน พอคุณเมา คุณยิ่งไม่ฟังอะไรผมเลย เล่นร้องขอผมไม่หยุด”
“แล้วก็ปล่อยให้ฉันปู้ยี้ปู้ยำจนเละไปหมดเลย” ผมบอกด้วยความเป็นห่วง ผมจำแทบไม่ได้จริงๆ ว่าทำเขาไปขนาดไหน รู้แค่ว่าเหนื่อยจนสลบคาอกเขาจริงๆ
“กะ… ก็…” แมทพูดตะกุกตะกัก หน้าแดงก่ำ ผมมองอย่างต้องการคำตอบ
“…ก็ คุณร้อนแรงดี”
“ฮะ?!” ผมขมวดคิ้วฉับ มองเขาเหมือนไม่อยากเชื่อ แมทเสมองไปทางอื่น สองแก้มเขาแดงแจ๋ เขาหันกลับมามองผมด้วยท่าทีเงอะงะก่อนจะตอบอ้อมแอ้ม
“ผมว่าคุณฮ็อตมากเลย ปากหวานกว่าปกติ เสียงคุณกระเส่าทั้งคืน แล้วก็ ถึงจะรุนแรง แต่ผมก็ดันชอบ แบบว่า แรงแต่ก็ดูรักผมม้ากมาก…” เขาพูดไปกลั้นอาการเขินไป ผมมองเขาแล้วยิ้มเยิ้ม ชอบตอนเขาทำหน้าเหมือนจะฟินแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้
“แล้วปกติฉันดูไม่รักนายเหรอ”
“เปล่าครับ แค่ เอ่อ ไม่รู้สิ ผมเคยเห็นพ่อเมา แล้วจะปากหวานกับแม่มากกว่าปกติ อย่างกับเพิ่งจีบแม่ใหม่ๆ ยังไงยังงั้น ผมว่าน่ารักดี แล้วคุณก็ดันเหมือนพ่อตอนเมา…” เขาเม้มปาก สายตาแอบเหลือบมองผม อย่างเคอะเขิน ดูน่าเอ็นดู น่าเลี้ยงดูมากมาย
“…ผมว่าน่ารักดี ผมเลยยอม” พอพูดจบเขาก็ยิ้มยิงฟัน ยกสองมือขึ้นจับแก้มยุ้ยสีแดงของตัวเองเอาไว้ เขาดูเขินเหมือนตัวจะระเบิด ผมเผยอปากขึ้น ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ พอได้ยินเสียงหัวเราะผม แมทยิ่งยิ้มตาหยี น่ารักน่าฟัดมาก ผมหัวเราะไม่หยุด ยิ่งนึกถึงน้ำเสียงอ้อมแอ้มกับท่าทีเขินอายของเขาตอนบอกว่ายอมผม ผมยิ่งรู้สึกชอบใจ อดใจไม่ไหวเลยดึงมือเขาออกแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาทั้งสองข้างแรงๆ
“น่ารักมาก (ฟอด!) น่ารักมาก (ฟอด!) แฟนใครเนี่ย ฮึ?! ฮึ?!”
“คิกๆ คึๆ ฮี่ๆ” แมทหัวเราะเสียงใส พยายามหนีผมแต่ก็โดนผมตามไปฟัดแก้มเขาไม่หยุด จนแมทต้องเอาสองมือมาจับหน้าแล้วดึงออก ผมมองหน้าเขาแล้วยิ้มอบอุ่นไปให้ ยกมือขึ้นลูบหัวเขาด้วยความเอ็นดู
“เดี๋ยวฉันจะกินเหล้าบ่อยๆ แล้วกันนะ” แมทเม้มปากเขินๆ ใบหน้าแดงไม่หยุดหย่อน
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวจะได้ออกไปข้างนอกกัน” เขาพยักหน้ารับหงึกหงัก ใช้เข่ายันตัวเองให้ลุกขึ้น ก้าวเท้าลงไปยืนข้างเตียง เขากำลังจะเดินไปหยิบเสื้อผ้า ผมก็นึกบางอย่างขึ้นได้
“แมท เอาโทรศัพท์มานี่ซิ ฉันจะเช็กว่านายไม่ได้แอบไปซนที่ไหนแน่ๆ รึเปล่า” แมทไม่ได้ทำสีหน้าอะไรกลับมา แต่ใช้มือคลำหาโทรศัพท์ไปรอบตัวเขา สักพักเขาก็ล้วงออกมาจากกางเกงยีนส์สีดำแล้วส่งให้ผม
“รหัสวันเกิดคุณนะ ผมเพิ่งเปลี่ยน” ผมยิ้มอย่างพอใจ แมทเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ระหว่างนั้นผมก็รีบปลดล็อคโทรศัพท์เขา แต่เดี๋ยวก่อนเถอะ ไอ้เอเลี่ยนจอมดื้อ หน้าจอนี่ยังเป็นอดัม มารูนไฟว์อยู่เลย รักเหลือเกินนะ แต่ไว้ค่อยเคลียร์ ตอนนี้ต้องรีบจัดการทำตามอย่างที่แฟนไอ้เบนบอกก่อน ผมเหลือบไปมองแมทที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าอย่างเชื่องช้าโดยไม่ได้หันมาสนใจผม นั่นจึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะจัดการหาทางติดตามตัวเอเลี่ยนน้อยได้ตลอดเวลา
ผมกรอกอีเมลและรหัสผ่านใหม่ตามที่บาสเก็ตบอลแนะนำมา ใช้เวลาไม่นานผมก็จัดการส่งสัญญาณมือถือแมทมาที่เครื่องผมได้ ผมยิ้มกริ่มพอใจ กดออกจากสิ่งที่ทำอยู่เงียบๆ หวังแค่ว่าแมทจะไม่รู้ตัวเร็วๆ นี้ก็แล้วกัน
“เสร็จแล้วครับ” ผมหันไปส่งยิ้มเนียนๆ ให้เด็กน้อยที่อยู่ในชุดเสื้อยืดลายการ์ตูนตัวช้อปเปอร์ใส่หมวกสีชมพูที่เขาชอบ และเปลี่ยนจากขายาวเป็นขาสั้นดูสบายตา
“ป่ะ” ผมบอกพลางลุกขึ้นยืนบนพื้น เอื้อมไปหยิบเสื้อยืดมาสวมใส่ตามเดิม ผมไม่ได้คืนโทรศัพท์แมทหรอก ยึดเอาไว้ เดี๋ยวจะเอาแต่เล่นเกมส์อีก นี่มีการแอบโหลดมาไว้ในเครื่องผมด้วยนะ ตอนแรกว่าจะเอาออก แต่เขาอ้อนให้เก็บไว้ แถมมีน้ำใจมาสอนผมเล่นอีก เลยกลายเป็นว่าบางช่วงของวันผมก็เอาแต่จิ้มเกมส์ที่เขาสอนนั่นแหละ
“อันเดรล่ะ” เขาถามตอนที่เราเดินออกมาจากห้องนอน ผมเดินเข้าไปสะกิดอันเดร มันสลึมสลือปรือตาขึ้นมามอง
“ฉันจะออกไปข้างนอก แกจะนอนอยู่นี่หรือจะไปด้วยกัน ถ้าไปฉันจะได้รอ” มันหรี่ตามองผมนิ่งๆ ราวกับกำลังประมวลคำถามผมอยู่
“ไม่ไป แต่ฝากซื้อขนมมาให้ด้วยนะ” ผมพยักหน้ารับคำฝากของมัน หันไปจูงมือแมท เขาหันกลับไปมองอันเดร ฉีกยิ้มกว้างให้พร้อมกับโบกไม้โบกมือไปให้ไอ้ขี้เมา อันเดรยิ้มอ่อนแรงตอบกลับมาและยกมือโบกกลับมาหนึ่งที
“อย่ายิ้มให้ผู้ชายคนอื่นบ่อยนัก” ผมก้มบอกเขาเสียงเรียบ คนตัวเล็กย่นคิ้วมองกลับมา
“อันนั้นเพื่อนคุณเองนะ”
“ยิ้มได้ แต่อย่าดูเยอะเกินไป” แมทเหมือนคนโดนทุบหัว เขาดูสับสนและมึนงง
“ผมก็ไม่ได้ยิ้มให้เขาบ่อยๆ สักหน่อยนี่นา”
“ถ้าเป็นไปได้ฉันไม่อยากให้นายยิ้มให้ผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อนายกับฉัน” แมทอ้าปากหวอ กระพริบตามองผมปริบๆ ผมทำหน้านิ่ง จูงมือเขาเดินไปรอลิฟต์ เขาอ้าปากทำท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หุบปากฉับแล้วทำนิ่งไปแทน
ผมขี้หวง ผมเป็นแบบนี้มาแต่เด็ก ไม่ใช่เพิ่งมาเป็น แค่เป็นกับแมทมากกว่าอะไรและใครเท่านั้นเอง (ไม่รวมย่ากับแม่นะ) ผมเอาแต่ใจ ไม่ใช่ผมไม่รู้ เพราะแมทชอบด่าผมบ่อยๆ สมัยที่เพิ่งรู้จักกันแรกๆ (และปัจจุบันก็ยังแอบจิกกัดผมเรื่อยๆ)
อะไรที่เป็นของผม ผมรักผมหวงประหนึ่งกอลั่มหวงแหวนครองพิภพนั่นแหละ
TBC......................................
ตอนนี้วิคเตอร์เป็นหัวหน้าสมาคมคนอวดเมียแห่งอเมริกาและแห่งประเทศไทยไปแล้วนะคะ 555555 ติดแฮชแท็ก ยักษ์อวดเมีย ได้ในทวิตเตอร์ เพื่อประกาศความขี้อวดของพี่แกได้นะ 5555555 แซวเล่นน้อพี่ยักษ์
ก็หวานฉ่ำจัมโบ้เอกันไปเนาะ ขอสวีตหน่อยยยจ้าาา คริๆ ก็อย่างที่เคยบอกว่านิยายเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ของผู้ชายสองคนเนาะ ก็สบายๆ กระชุ่มกระชวยเบาๆ ตามสไตล์ขุ่นเจ้ เย๊เยเย่
โลเกชั่นตอมอาจน้อยนิดกระปิดกระปรอย อยู่ในห้อง ในโรงแรมซะเยอะ แต่พยายามใส่โมเม้นต์ของเขาสองคนให้อ่านกันมากกว่า แต่ยังไงมันก็ต้องมีออกไปเยื้องย่างข้างนอกบ้างอยู่แล้วแหละจ้า
ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะที่อยู่เป็นเพื่อนกันเสมอ