รักป่วนใจคุณชายหน้าใสกับนายตาดุ 3นัท“เลิกเรียนแล้วไปกินข้าวกันปะ” เสียงใสของหญิงสาวเพื่อนสนิทตัวเล็กดังขึ้น ทำเอาผมที่กำลังเดินลงจากตึกเรียนมาด้วยกันต้องหันไปมองอย่างแปลกใจ
“ทำไมวันนี้ถึงชวน ทุกทีเรียนเสร็จต๊อบต้องมารับมินนี่เลยนี่หน่า”
“วันนี้ต๊อบไม่ว่างต้องทำรายงานกับเพื่อนน่ะ แล้วสรุปนัทว่างมั้ยอ่ะ” มือขาวยื่นมาเกาะแขนอย่างอ้อนๆ ผมก็ได้แต่ขำกับท่าทางน่ารักๆของมินนี่
เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่อนุบาลเรียนด้วยกันมาตลอดจนถึงระดับมหาวิทยาลัย จึงสนิทกันมากและคุยกันทุกเรื่องแม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวขนาดไหนก็ตาม แรกๆที่มินนี่มีแฟนคือนายต๊อบผมก็เหงานะครับแต่ทำยังไงได้ มินนี่เองก็พยายามชดเชยเวลาให้ผมเหมือนกันจนบางครั้งนายต๊อบมากระเง้ากระงอดกับผมเองด้วยซ้ำหาว่ามินนี่รักผมที่เป็นเพื่อนมากกว่าตัวเองที่เป็นแฟน ผมก็ได้แต่ซ้ำเติมนายต๊อบมันไปว่ามาทีหลังก็จงเจียมตัวบ้างตอนนั้นมินนี่ได้ฟังก็นั่งขำใหญ่เลยครับ แต่นายต๊อบไม่เคยมาทำท่าทางหึงผมกับมินนี่หรอกเพราะดูก็รู้ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง และออกจะเปิดตัวด้วยซ้ำว่าผมเป็นอะไร เพราะผมคิดเสมอว่าไม่ได้ทำใครเดือดร้อนใครรับไม่ได้ก็ไม่ต้องคบกันก็จบ
“วันนี้ไม่ว่าง จะมีคนมารับน่ะ” ผมบอกหลังจากเรานั่งกันเรียบร้อยแล้วที่โต๊ะหน้าคณะ มินนี่ได้ฟังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างรู้ทันมาให้ผมทันที
“อ้ออออ แม็คน่ะเหรอ คิกๆ” หัวเราะเสียงใสมาเชียวยัยตัวแสบเอ้ย
ผมก็ได้แต่ยิ้มๆไปให้ไม่ได้ตอบอะไร การที่ผมทดลองคบตามที่นายหัวเกรียนเค้าบอกก็ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้วครับ เราสองคนเจอกันไม่บ่อยนักเพราะนายนั่นต้องเข้าฝึกที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะออกมาได้ก็เป็นทุกวันศุกร์ส่วนใหญ่นายแม็คก็จะมารับผมที่บ้านแล้วออกไปเที่ยวด้วยกัน ส่วนวันที่ไม่เจอกันนายนั่นก็จะเป็นฝ่ายโทรมาหา แต่เป็นผมที่ต้องชวนคุยเพราะมันไม่ค่อยพูดเลยครับผิดกับตอนเห็นหน้าที่ออกจะชอบแกล้งชอบแซวให้ผมโมโหอยู่เรื่อย เรา ‘ลองคบ’ กันก็ดีนะครับเรื่อยๆไม่มีอะไรหวือหวาออกแนวหาเรื่องกันมากกว่า นายแม็คไม่ใช่คนที่พูดหวานๆอะไรมากแต่มันก็ดูแลผมที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่คบกันได้ดี ตอนไปเที่ยวด้วยกันมันก็คอยบริการให้ทุกอย่างนะครับ และออกจะยอมผมในหลายๆเรื่องอย่างถ้าผมโมโหขึ้นเสียงกับมันๆก็จะเงียบซะส่วนใหญ่ นอกจากบางครั้งแม็คเหลืออดกับผมแล้วมันแค่เรียกชื่อผมดังๆบวกกับหน้าตาถมึงทึงน่ากลัวของมันด้วยผมก็จะรู้ตัวกลายเป็นฝ่ายเงียบไปเอง และเข้าไปอ้อนมันนิดหน่อยนายแม็คก็จะเริ่มอารมณ์ดีขึ้นเองครับ อย่างวันนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่คบกันมาที่แม็คจะมารับผมที่มหาวิทยาลัย
“อะไรจ๊ะ ยิ้มคนเดียวก็เป็นด้วยเหรอนัท” เสียงของมินนี่ดังขึ้นเมื่อเห็นผมนั่งเงียบเพราะคิดอะไรเพลินๆจนเผลอยิ้มออกมา แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบโต้ ก็มีเสียงแทรกมาซะก่อน
“ฮึๆ คนที่อยู่ๆก็ยิ้มเนี่ย เค้าว่าบ้านะ จริงมั้ยบัว ฮิๆๆ” เสียงหัวเราะอย่างนางร้ายในละครที่แสนคุ้นหู ก็ทำเอาผมหันขวับไปมองและผมก็เดาไม่ผิดจริงๆว่าต้องเป็นยัยนี่
ผู้หญิงในชุดนักศึกษาตรงหน้าผมที่แต่งตัวไม่เหมาะกับการมาเรียนหนังสือในสถาบันการศึกษาเอาซะเลย ทั้งเสื้อที่รัดจนนมปลิ้นและกระโปรงที่เลยก้นมาเพียงคืบถ้านั่งคงได้เห็นถึงไหนๆ เธอคนนี้คือ ‘ยัยแจ๊ด’ เพื่อนในคณะที่ทำตัวเป็นศัตรูกับผมเพราะแฟนตัวเองมาจีบผมทั้งๆที่ไอ้คนนั้นมันมียัยนี่เป็นแฟนอยู่แล้ว พอยัยแจ๊ดรู้ก็ตามมาวีนผมซึ่งกรณีนี้ผมไม่มีทางยอมเพราะผมไม่ผิดก็แฟนยัยนี่มาชอบผมเองและผมก็ไม่ได้สนใจผู้ชายเลวๆแบบนั้นด้วย ผมก็มีสเป็คของผมนี่หน่าเรื่องอะไรต้องเอาผู้ชายมีตำหนิแบบนั้นด้วยล่ะครับ และตั้งแต่นั้นมายัยแจ๊ดก็คอยหาเรื่องผมมาตลอดทั้งๆที่ตัวเองก็เลิกกับไอ้ผู้ชายคนนั้นไปนานแล้ว ส่วนอีกคนที่ชื่อ 'บัว' ก็เป็นเพื่อนยัยแจ๊ดทำตัวพอกันมิน่าถึงเป็นเพื่อนกันได้ อย่างตอนนี้สองคนตรงหน้าผมก็หัวเราะกันคิกคักมองผมแบบเหยียดๆ ผมก็แค่ปรายตามองและหันกลับมาที่มินนี่
“คนที่ฟังคนอื่นพูดนี่ก็มารยาททรามเนอะมินนี่ แถมยังยุ่งไม่เข้าเรื่องอีก” ผมใช้น้ำเสียงสบายๆพูดกับมินนี่เหมือนพูดเรื่องทั่วๆไปไม่ได้ต่อว่าใคร แต่คงทำให้คนที่ยืนอยู่เต้นได้บ้างล่ะครับ
“นี่แก แกว่าใครนังนัท” มาเลยครับเดินมายืนท้าวสะเอวทำหน้ายักษ์ต่อหน้าผมทันที แถมขึ้น ‘นัง’ กับผมด้วยแน่ะ
“ใครอยากรับก็รับไปซิ แล้วช่วยเรียกคนอื่นดีๆด้วยอย่าหยาบคายเดี๋ยวคนที่ได้ยินจะหาว่าพ่อแม่สั่งสอนแต่ลูกแย่ๆแบบเนี้ยน่ะไม่จำ” ผมพูดหน้ายิ้มๆและชี้นิ้วประกอบไปที่ยัยแจ๊ดเมื่อถึงคำว่า ‘แบบเนี้ย’ ให้ยัยนี่ได้จี๊ดไปเลย มาเล่นกับใครไม่เล่นเจ็บไม่เคยจำจริงๆคนเราเนี่ย
“กรี๊ดดดด แกๆ อีนัท แก อีตุ๊ด” โหหยาบคายมากเหอะคำพูดคำจา ผมที่ไม่ขอทนฟังคำหยาบๆจากผู้หญิงคนนี้ลุกขึ้นพร้อมมินนี่เพื่อนรัก เตรียมตัวมีเรื่องกับยัยแจ๊ดเต็มที่เลยครับ แต่ก่อนที่ผมจะต่อคำก็มีมือมาจับต้นแขนไว้ซะก่อน
“นัท” เสียงห้าวที่คุ้นเคยมาตลอดสองเดือนดังขึ้น มาพร้อมแรงจับที่ไหล่ก่อนจะหมุนผมให้ไปหลบอยู่ด้านหลังร่างสูงใหญ่
ภาพเบื้องหน้าที่ผมเห็นคือแผ่นหลังกว้างดังกำแพงภายใต้ชุดสีกากีแขนยาวขายาว ผมนิ่งอึ้งอยู่กับแผ่นหลังกว้างยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมินนี่มาเกาะแขนอยู่เคียงข้างนั่นแหละครับผมจึงละสายตาจากแผ่นหลังกว้างตรงหน้ามามองมินนี่ที่ยิ้มจนแก้มปริ
“......ผมขอตัวพานัทกลับก่อนนะครับคุณแจ๊ดคุณบัว” เสียงห้าวพูดกับสองสาวที่ผมกำลังจะมีเรื่องด้วยแบบนั้นทำเอาผมงงนี่ผมพลาดอะไรไปครับ
ผมเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงตรงหน้าและเป็นจังหวะเดียวกับที่นายแม็คหันมา ภาพลักษณ์ของคนตรงหน้าทำเอาผมนิ่งค้างอย่างตกตะลึงเพราะตั้งแต่คบกันมานายแม็คไม่เคยมาให้ผมเห็นในชุดนี้มาก่อน ร่างสูงที่ผมต้องเงยหน้ามองอยู่ในชุดนักเรียนนายร้อยสีกากีแขนยาวกระดุมติดถึงคอมีผ้าสีดำผูกอย่างเนคไทด์ไว้ ส่วนเนื้อผ้านั้นก็แนบไปกับลำตัวของคนใส่ที่มีมัดกล้ามอยู่พอตัว บริเวณหน้าอกและไหล่ก็ติดเครื่องหมายสีเงินไว้ มีเข็มขัดหนังสีดำคาดทับกางเกงสีเดียวกับตัวเสื้อ รองเท้าเงาวับส่องแทนกระจกได้เลยนะครับ ผมจ้องแม็คนานเท่าไหร่ไม่รู้ครับ แต่ใบหน้าติดนิ่งของคนหน้าดุคลี่ยิ้มนิดๆที่มุมปากแบบล้อเลียนทำเอาผมรู้สึกตัว กระพริบตาอยู่หลายทีก่อนส่งค้อนไปให้แม็คอย่างลืมตัว ก่อนหันมาเจอมินนี่ที่จ้องนายแม็คอย่างทึ่งๆอยู่ข้างตัวผม ส่วนยัยสองคนที่อยู่ด้านหลังร่างใหญ่ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะแทนที่ที่ผมเคยนั่งอยู่มองนายแม็คตาเยิ้ม
“มินนี่ๆ นี่แม็ค แม็คนี่มินนี่เพื่อนสนิทนัท” ผมต้องเรียกชื่อมินนี่ถึงจะรู้สึกตัวก่อนจะแนะนำนายแม็คให้รู้จัก มินนี่ก็ยิ้มร่าอย่างยินดีที่นายนั่นก้มหัวให้แทนการทักทาย
ผมไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของคนรอบตัวต่อนายแม็คที่ออกอาการเคลิ้มกับหุ่นและชุดนายร้อยตำรวจของมันแบบนี้เท่าไหร่ ขนาดผมที่คบกันมาพอได้เห็นครั้งแรกยังเผลอมองอยู่นานเลย ก็แหมกล้ามแน่นๆหุ่นเฟิร์มๆในชุดเท่ห์ๆแบบนี้เป็นใครก็เคลิ้มง่ายๆไม่เว้นมินนี่เพื่อนสนิทที่มีแฟนแล้ว ผมล่ะอดหมั่นไส้นายแม็คไม่ได้จึงย่นจมูกใส่เมื่อแม็คหันมามองผม มันก็แค่เลิกคิ้วขึ้นแทนคำพูดส่งมาให้ผมครับ
“มินนี่กลับยังไงให้นัทแวะไปส่งก่อนมั้ย” ผมอยากออกไปจากตรงนี้ที่มีสายตาจับจ้องของคนรอบข้างแล้วครับ จึงออกตัวถามเพื่อนสนิททันที
“ไม่เป็นไรนัทไปเดทเถอะ ฮิๆ เดี๋ยวรถที่บ้านมารับน่ะ” มินนี่ส่งยิ้มแซวผมและเผื่อแผ่ไปให้คนข้างกายผมด้วย
“งั้นนัทไปก่อนนะ บาย”
ผมยกมือโบกลามินนี่ก่อนที่นายแม็คจะเอ่ยลา เราจึงเดินออกมาจากหน้าคณะบริหารที่ผมเรียนอยู่ และผมรับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องมาที่เราสองคน จุดดึงดูดสายตาจะใครล่ะครับถ้าไม่ใช่นักเรียนนายร้อยข้างตัวผม ก็ใส่มาซะเต็มยศมาเดินในมหาวิทยาลัยแบบนี้จะไม่เด่นได้ยังไง สาวๆที่เดินผ่านมองเหลียวหลังเลยครับ ผมเงยหน้ามองคนที่เดินข้างกายที่ยังไม่ได้พูดกับผมสักคำเลยตั้งแต่เดินออกมาจากคณะ มันก็เดินหน้านิ่งหลังตรงสายตาจับจ้องไปด้านหน้าไม่สนใจใครเลยครับ มึงจะเท่ห์ไปไหนวะครับ ผมคว้ามือแม็คที่อยู่ข้างตัวมาจับทันที มันก้มมองมือตัวเองที่โดนผมกุมไว้ก่อนเงยมามองหน้าผมและยิ้มนิดๆติดมุมปากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร นายแม็คยังเดินด้วยก้าวย่างที่สม่ำเสมอไม่สะดุดแต่มันก็กระชับมือที่โดนผมจับกุมกลับมานะครับ
‘ผมว่าผมยิ้มอยู่นะ พวกคุณเห็นมั้ย’
การได้ลองคบได้เดินเคียงข้างกับนายแม็คนี่ก็ไม่เลวร้ายอะไรนะครับเนี่ย และเหมือนมีแต่คนอิจฉาผมที่มีนายตัวใหญ่นี่เป็น ‘แฟน’ จนผมอดรู้สึกดีและภูมิใจปนหงุดหงิดใจเล็กๆไม่ได้
“ยิ้มอะไร ภูมิใจล่ะซิมีแม็คเป็นแฟนน่ะ ฮึๆ” เสียงห้าวดังแทรกความคิดผมขึ้นมาทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าไอ้คนที่ดันรู้ทันความคิดผม รอยยิ้มติดมุมปากตาพราวส่งมาล้อเลียนผมโดยเฉพาะ
“ชิ หลงตัวเอง” ผมย่นจมูกให้คนหน้าทะเล้นตาพราวที่เตรียมขับรถแล้วแต่ยังมีแก่ใจหันมาแซวกัน อยู่กันสองคนเมื่อไหร่ไอ้สีหน้าทะเล้นๆนี่ออกมาโชว์ผมทุกทีสิน่า
“ฮึๆๆ แล้วเมื่อกี๊จะไปมีเรื่องกับเค้าทำไม ตัวก็แค่นี้ไม่กลัวเค้าขย้ำเหรอ หืม” เสียงห้าวส่งคำถามมาพร้อมกลั้วหัวเราะในลำคอ ทำเอาผมที่ได้ฟังยังอดหมั่นไส้ไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นห่วงหรือเยาะเย้ยกันแน่นี่ครับ
“หึ ไม่เห็นกลัวเลย ใครจะยอมอยู่เฉยๆล่ะถ้ามีคนมาหาเรื่องก่อนน่ะ” ผมต้องขยับหัวหนีมือใบลานที่ยื่นมาขยี้หัวผมตั้งแต่ ‘หึ’ แรกที่ผมหลุดประชดออกไป ก่อนร่ายยาวความเป็นไปของสองคู่ซี้สาวซ่าที่มาหาเรื่องกับผมครับ
“แล้วไอ้นั่นมันยังมาตอแยนัทอยู่มั้ย” ผมเกิดอาการงงชั่วคราวว่า ‘นายนั่น’ ที่แม็คพูดหมายถึงใคร ก่อนจะสบตาวาวๆของคนขับที่หันมามองแวบหนึ่งเมื่อเห็นผมเงียบ ก่อนผมจะเข้าใจว่าหมายถึงใคร
“ก็มาให้เห็นบ้างแหละแต่นัทไม่ได้สนใจ แน๊ๆๆๆ หึงนัทเหรอ ใช่ม้าๆ” หน้านิ่งๆของไอ้คนขับยังรักษาความนิ่งไว้อยู่ แต่ที่ทำให้ผมรู้ว่าคนตัวโตหน้าดุไม่ได้นิ่งอย่างที่เห็น ก็เพราะหูแดงๆที่ผมเห็นนั่นแหละครับที่ทำให้รู้ว่าคนตัวโตก็อายเป็นกับคนอื่นเค้าเหมือนกัน
หลังจากคบกันมาสองเดือนก็ทำให้ผมได้รู้ว่าคนนิ่งๆแบบนายแม็คนั้นมีมุมน่ารักๆเหมือนกัน เรื่องที่จะได้ยินสิ่งที่อยู่ในใจนายนี่ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็ไม่ได้เกินที่จะรู้แค่คอยสังเกตอาการทางกายเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็จะได้รู้ว่านายแม็คคิดยังไง
“ก็แฟนทั้งคนนี่” อยู่ๆนายแม็คก็หันมาพูดกับผมหน้านิ่งๆ แต่ทำเอาคนได้ยินแบบผมอึ้งและความร้อนก็แผ่กระจายไปทั้งหน้าเชื่อได้ว่าคนผิวขาวๆแบบผมต้องหน้าแดงแจ๋อย่างเห็นได้ชัดแน่นอนครับ
ผมไม่ได้หันหน้าหนีจากภาพใบหน้าด้านข้างของนายแม็คที่กำลังขับรถอยู่ออกไปไหน เพราะแสงอาทิตย์ที่สาดลอดผ่านมาจากกระจกรถด้านข้าง ทำให้เห็นเส้นโครงหน้าชัดตาตั้งแต่หน้าผากนูน จมูกโด่ง ริมฝีปากหนา จรดคางมน ภาพที่เห็นออกแนวละมุมละไมจนผมละสายตาออกไปไหนไม่ได้ ยิ่งนายแม็คหันมาส่งยิ้มเล็กๆติดมุมปากให้ยิ่งทำผมนิ่งงัน ใจเต้นแรงขึ้นกะทันหัน จนเผลอยกมือทาบอกด้านซ้ายของตัวเองและหันหน้าหนีภาพที่เป็นสาเหตุให้เกิดความผิดปกตินี้ ภายในรถไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างกันมีเพียงเสียงเพลงรักจากคลื่นวิทยุที่เปิดคลอเบาๆเท่านั้น
รถมาจอดหน้าร้านอาหารย่านการค้าที่มีทั้งคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาเดินกันขวักไขว่ เมื่อผมได้เห็นจึงได้รู้ว่าวันนี้นายแม็คจะพาผมมาทานข้าวก่อนไปส่งบ้าน เราเดินลงจากรถและตรงเข้าร้านอาหารที่กรุกระจกใสด้านหน้าร้านทั้งแถบ ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตกแต่งร้านให้บรรยากาศเหมือนเราได้ไปทานที่ประเทศต้นกำเนิดของอาหารโดยแท้ พนักงานในชุดกิโมโนพาเรามานั่งที่โต๊ะด้านใน ตลอดทางเดินมาที่โต๊ะมีแต่คนเงยหน้ามองตามร่างสูงของนายแม็คและเลยสายตามามองผมที่เดินนำหน้า ผมรู้สึกคันยุบยิบที่ใจจากสายตาเหล่านั้น หลังเราสั่งอาหารแล้วนายแม็คที่นั่งตรงข้ามมองผมคิ้วขมวดมุ่นยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเมื่อได้เห็น
“เป็นอะไรหน้ายุ่ง ไม่ถูกใจเหรอเห็นอาทิตย์ที่แล้วนัทบ่นอยากกินอาหารญี่ปุ่นนี่” ข้อศอกเท้าโต๊ะกุมมือกำประสานใต้คางสายตาจับจ้องนิ่งตรงมาเหมือนอยากจับความรู้สึกของคนตรงหน้าให้ได้
ผมที่ได้ฟังแอบรู้สึกผิดนิดหน่อยที่นายแม็คอุตส่าห์ใส่ใจจดจำสิ่งที่ผมเผลอบ่นและพามาอย่างที่ผมต้องการ เลยหลบสายตาแน่วแน่คู่นั้นไปยังนอกร้านผ่านกระจกใสออกไป แต่อารมณ์หงุดหงิดที่อยู่ๆก็เกิดนี้มันยังไม่หายเลย ผมเบื่อสายตารอบตัวที่ผมอ่านได้ว่า ‘อยากได้’ ผู้ชายตรงหน้าทั้งๆที่มันก็เดินมากับผมแท้ๆ ตอนที่ไม่มีผมอยู่ด้วยคงมีคนใจกล้าเข้าหานายแม็คแน่ๆครับ แม้ใจลึกๆจะรู้ว่าแม็คจะไม่ตอบสนองหรือใส่ใจเพราะมันไม่มีนิสัยเจ้าชู้เป็นทุนเลยครับ หรือนี่จะเป็นกรรมตามสนองที่ผมเคยนึกอยากได้พี่ฟินว่าที่พี่เขยของแม็คกันครับ
“เดี๋ยวนัทไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ผมไม่ตอบคำถามที่แม็คส่งมาให้แต่กลับขอตัวไปเข้าห้องน้ำอยากสงบจิตใจก่อน ไม่อย่างนั้นผมได้เหวี่ยงแม็คแน่ทั้งๆที่มันไม่ได้ทำอะไรผิด แม็คมองหน้าผมนิ่งๆก่อนพยักหน้าให้ ผมลุกเดินออกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าให้สดชื่นจ้องหน้าตัวเองในกระจกและคลี่ยิ้มเรียกความสดใสให้กลับคืนมา เมื่อมั่นใจว่าตัวเองอารมณ์ปกติแล้วผมก็เดินกลับไปที่โต๊ะ แต่ทุกอย่างที่ผมทำไปกลับศูนย์เปล่า เพราะภาพของผู้หญิงที่กำลังยืนก้มหน้าลงใกล้นายแม็คและรับโทรศัพท์คืนจากมือใหญ่นั่นเอง ผมก้าวเดินตรงไปที่โต๊ะและใช้ไหล่กระแทกใส่ผู้หญิงคนนั้นที่ยังยิ้มหวานใส่ไอ้คนหน้านิ่งที่นั่งอยู่
“ว๊ายยย นี่!! อะไรกัน” ยัยเอวลอยหันมาแยกเขี้ยวใส่ผมทันทีที่ตั้งสติได้
ผมนั่งลงที่เดิมและเงยหน้าจ้องตาผู้หญิงที่ยังยืนหน้าบึ้งพร้อมกระโจนใส่ผมทุกเวลา ก่อนแสยะยิ้มและยกไหล่แบมือให้ มันคงเป็นภาพที่กวนอารมณ์ยัยนี่ไม่น้อยเพราะ ยัยเอวลอยมันขยับเหมือนจะมาเล่นงานผมเลย แต่ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่และก้มมองคนที่นั่งตรงข้ามผมแทน
“ขอโทษแทนแฟนผมด้วย” แม็คจ้องหน้ามองผมนิ่งๆไม่แม้แต่มองหน้ายัยเอวลอย ผมก็เลยย่นจมูกแยกเขี้ยวใส่ไอ้หน้าดุไปทีก่อนหันหน้าออกนอกร้านแบบงอนๆปนโมโห อะไรผมเดินออกไปแป๊บเดียวก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้เข้าหาเลยครับ ผมล่ะอยากกระโดกัดคอมันทั้งคู่จริงๆให้ตายซิ
“เอ่อ แฟนเหรอคะ” ผมทนไม่ได้ต้องหันกลับมา ยัยเอวลอยนี่ยังมีหน้ามาทำเสียงหวานหน้าแอ๊บใส่อีกแน่ะ
“ใช่ แฟน ส่วนเกินน่าจะไปได้แล้วนะ” ผมใส่ทันทีครับไม่สนเรื่องมารยาทไม่รอให้ชีตั้งตัวหรอกอยากมายุ่งกับคนของคนอื่นทำไม
“นี่แก / ผมว่าคุณบีมลองโทรไปตามเบอร์ที่ให้ไปดีกว่านะครับ จะได้จัดการเรื่องให้เรียบร้อย” ยัยบีมอะไรนี่หยุดชะงักหน้าเริ่มเจื่อนเมื่อนายแม็คพูดประโยคยาวๆนี่ออกมา
ผมหันหน้าหนีภาพที่ทำให้หงุดหงิดเพราะนายยิ้มยากดันยกยิ้มให้ยัยเอวลอยซะงั้น ผมไม่สนใจฟังว่าสองคนนี้มันจะคุยอะไรกันต่อเพราะเหมือนความร้อนพวยพุ่งไปออกที่หูแล้ว
“นัทอาหารมาแล้ว กินเร็ว” เสียงเรียกร้องความสนใจมาพร้อมอาหารที่ถูกคีบมาว่างบนจาน แต่ผมยังไม่ยอมหันไปมองหน้าไอ้คนที่ทำผมอารมณ์เสียหรอกครับ ยัยเอวลอยนั่นคงไปแล้วซิถึงกลับมาสนใจกันได้แบบนี้ ทำไมไม่ไปกินด้วยกันซะเลยล่ะ
“ไม่มีอะไรเค้าแค่เข้ามาขอความช่วยเหลือเรื่องคดี ว่าแม็คมีคนรู้จักที่เป็นรุ่นพี่ที่สน.บ้างมั้ยก็เท่านั้น แม็คก็ให้ไปก็จบ” ก็แค่ข้ออ้างตื้นๆที่ยัยนั่นเข้าหา จะรู้ตัวมั้ยว่าโดนจีบอ่ะ ผมล่ะเบื่อมันจริงๆครับคุยกับสาวๆดีตลอด ผมรับรู้ล่ะว่ามันน่ะไม่มีอะไรแต่ยัยนั่นน่ะมีแน่ ยอมหันกลับมาก้มหน้ากินซูชิในจานแต่ไม่มองหน้ามันหรอกครับ
“หึงเหรอครับ ฮึๆๆ” พูดอย่างเดียวก็ได้ทำไมต้องมาจับมือถือแขนกันด้วย ผมพยายามดึงหนี และไอ้หน้ายิ้มๆนี่ก็ทำเอาหมั่นไส้อยากหาอะไรยัดปาก เอาให้ไปยิ้มกับสาวคนอื่นไม่ได้เลย
“กินๆไปเลย พูดมาก” ผมทำอย่างที่คิดเพราะข้าวปั้นหน้าปลาไหลไปอยู่ในปากของคนตัวโตแล้วเรียบร้อย
“ฮิๆๆ สมน้ำหน้า อื้อออ” ผมหัวเราะอย่างสะใจกับแก้มตุ่ยๆบนหน้านิ่งๆคิ้วขมวด แต่สะใจได้ไม่นานเหมือนกรรมตามทันเพราะข้าวปั้นหน้าไข่หวานก็มาอยู่ในปากผมทำเอาเกือบสำลัก
“ฮึๆๆ” ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะผมอีกครับ คดีเก่ายังไม่สะสางเพิ่มคดีใหม่อีกแล้วนะ ชิ หันหน้าหนีมันแบบงอนๆเลย
“ชอบนะที่หึงน่ะ ฮึๆๆ”
ผมหันขวับมามองนายแม็คเต็มตาทันทีที่ได้ยินอะไร ‘หึงๆ’ นั่นสองครั้งสองหนแล้วนะครั้งแรกก็แกล้งไม่ได้ยินไปรอบหนึ่งแล้วแท้ๆเชียว นี่ผมหึงไอ้คนตรงหน้าเหรอครับ ไอ้อาการร้อนรุ่มไม่พอใจนี่ สายตาแพรวพราวของนายแม็คกับประโยคที่ผมเพิ่งทบทวนและเข้าใจความหมายทำเอาผมต้องเสก้มหน้าคีบปลาดิบเข้าปาก ไม่อยากให้นายนี่เห็นหน้าแดงๆของตัวเองเลยครับ เสียฟอร์มน้องนัทผู้มั่นใจหมดเลยแก้เก้อด้วยประโยคที่มันพูดไว้กับผม
“ก็แฟนทั้งคนนี่” กลั้นใจเงยหน้ามองผลงานที่ทำไว้
ใบหน้ายิ้มๆของแม็คเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมแต่แอบหูแดงขึ้นทันตา ผมเห็นแบบนี้ก็ได้ใจลืมอายส่งยิ้มหวานไปให้คนตรงหน้า แม็คยิ่งจ้องผมเขม็งไม่เปิดยิ้มแต่กลับหูแดงกว่าเดิมจ้องปากผมไม่กระพริบเลย นี่สงสัยจะหลงเสน่ห์รอยยิ้มของผมแล้วแน่นอนครับ ดีผมจะใช้รอยยิ้มนี้มัดนายแม็คให้ดิ้นไม่หลุดเลยเชียวล่ะ ฮึๆ
........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
ต้องขอโทษแฟนคลับมิคฟินด้วยที่เอาคู่น้องแม็คน้องนัทมาแทรกนะคะ
เห็นมีแต่คนถามหาเลยจัดมาให้ซะหนึ่งตอน ตอนนี้นัทก็มาแบบน่ารักน่าชัง
น่าเอ็นดูเนอะ เด็กอะไรแสบได้น่ารักจริงๆ คุณๆเห็นด้วยมั้ยคะ ฮุๆๆ
และขอใช้ชื่อเรื่องคู่นี้เป็น “รักป่วนใจคุณชายหน้าใสกับนายตาดุ” นะคะ
อ่านชื่อเรื่องทีแรกมันโดนมากอ่ะเลยขออนุญาตคนคิดมาใช้ ซึ่ง
อภินันทนาการมาจากคุณ Cherry Red ค่ะ ต้องขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่า^^
คู่นี้จะไม่แยกเรื่องนะคะจะแทรกมาให้อ่านเป็นระยะค่ะ ตอนหน้าของคู่นี้
อย่าเพิ่งถามเพราะยังไม่มี 555 แต่จะมีมาแน่(มั้ง)ค่ะ รอ ร๊อ รอ น้า
ส่วนตอนหน้าจะกลับไปที่คู่หลักมิคฟินค่ะเค้าทั้งคู่ก็ยังคงความหวานไว้
เช่นเดิม อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะฝากติดตามต่อด้วยค่ะ
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ เจอกันอีกทีวันอังคารนะคะ
และ
ทุกท่านที่ติดตามค่ะ