ก่อนอ่าน.... ตอนนี้อาจจะงง สับสนนิดหน่อย
และไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมจากตอนที่แล้ว แต่จะเป็นช่วงกระต่ายบ่นเฉยๆ นะคะ
อย่าคาดหวังเอาอะไรมากไปกว่า "ความคิดลึกๆ" ของกระต่ายนะคะ ....
อ่านขำๆ ค่ะ
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
(\_(\ กระต่ายหมายจันทร์
(=' :')
(,(')(') In my heart.
(\__/)
(='.'=)
(")_(") (กระต่ายแอบมาเวิ่นเบาๆ )
โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย...
พี่มาเว่า ฮักเจ้าหนุ่มคำดวง
โอ้ว่าดึกแล้วหนอ...พี่ขอลาล่วง
อ๊กพี่เป็นห่วง ฮักเจ้าดวงเดือนเอย...
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักมัน... ก็รู้แล้วล่ะว่ามันน่ะเจ้าชู้
ก็ไม่อยากจะฟ้อง แต่ขนาดพี่ต้อง เจ้าของร้านริมทางที่มีเมียแล้วทั้งคน มันก็ยังไม่วายจะไปหยอกเย้า เอาใจ รอเมียเขาเผลอเลยนี่...
ผมเป็นลูกค้าประจำร้านนี้มาก็เกือบปี เห็นชีวิตเสเพลของมันมาเยอะ คู่นอนของมันไม่ซ้ำหน้า
นิสัยเจ้าชู้นั่นว่าแย่แล้ว... สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคือมันมีเสน่ห์ด้วยอีกต่างหาก...ทำให้หมายตาใครไว้ไม่เห็นจะพลาดสักราย.. แม้แต่เจ้าหนุ่มเคลียร์อะไรนั่นก็เถอะ ทีแรกผมยังนึกว่าเป็นเด็กในสังกัดมันอีกคนซะอีก ถ้าแค่นั้น...ก็คงไม่เท่าไร แต่ใครจะนึกว่าคนอย่างมันจะ “จริงจัง” กับใครเป็น
ไม่อยากจะเรียกว่าน้อยใจ แต่ไม่รู้ทำไม...
อารมณ์บ่จอย อารมณ์บ่จอย โอ๊ย...ดูซิเธอมาเชิดใส่...
คุยกันกระหนุงกระหนิงไม่สนใจผมเลยสักนิด ทำยังกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา
หนอย... ถ้าไม่คิดถึงผลระยะยาวล่ะก็ พ่อจะแฉให้ลึกถึงลำไส้เลย....
พอผมลุกจากโต๊ะ จะตามมาง้อสักนิดก็ไม่มี ยังมีหน้าคุยกันต่อหน้าระรื่นอีกต่างหาก ทำให้แผนเรียกร้องความสนใจพังครืนไม่เป็นท่า เลยเดินโต๋เต๋ดูลาดเลาอยู่แถวๆ นั้น ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเมื่อก้างชิ้นโตอย่างผมไม่อยู่ พวกมันจะพากันไปต่อที่ไหน...
โชคยังดีที่ไอ้วอกกับยาสระผมนั่นไม่ได้กลับไปด้วยกันให้ผมอารมณ์เสีย ผมจึงหาเรื่องแกล้งไอ้ตัวแสบอีกครั้งให้หายหงุดหงิด แต่แล้วต้องมาหงุดหงิดมากกว่าเดิมอีกเพราะมันพยายามจะอธิบายให้ฟังว่า
“ต่อให้เจ้าชู้แค่ไหนมันก็ต้องมีอยู่ดีแหละ คนที่รักมากที่สุด หรือที่เรียกว่าตัวจริงน่ะ” ก็จริงนะ ไอ้เรื่องนั้นน่ะไม่เถียงหรอก
แต่ไอ้คนที่สามารถทำให้คนเจ้าชู้อย่างมัน พูดคำว่า “รักที่สุด” และเรียกว่า “ตัวจริง” ออกมาได้เต็มปากเต็มคำขนาดนั้นน่ะ มันมีอยู่จริงๆ เหรอ?
ถ้ามันจะมี แล้วทำไมเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมล่ะ
คนอย่างไอ้ตุลย์ไม่เคยนึกอิจฉาใคร
แต่คราวนี้ก็ถึงกับอิจฉา ตาร้อนผ่าว
ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยากได้อะไรก็ต้องได้...
โดยเฉพาะ.....
มัน!!
………………………………………
น้องมีน น้องสาวของผมเคยเลี้ยงกระต่ายอยู่ตัวหนึ่งชื่อยู่ยี่ มันเป็นที่รักของสาวๆ ในบ้าน (แม่กับน้องสาว) จนบางครั้งผมแอบหมั่นไส้ ชอบแกล้งมันไม่ว่าจะมีคนเห็นหรือไม่ ภายหลังผมเป็นตัวอันตรายที่ห้ามเข้าใกล้เจ้ายู่ยี่ แค่เดินเฉียดผ่านกรงก็โดนกล่าวหาว่าจะหาทางประทุษร้ายมันอย่างเดียว ไม่เว้นแม้แต่วันนั้น
“พี่ตุลย์!!” เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้ผมชะงักและหันไปมองตามเสียงทันที
ร่างเล็ก บอบบางของมีนรีบปรี่เข้ามาหาพลางถาม
“แกล้งอะไรยู่ยี่อีกล่ะ” เสียงนั้นมีแววหาเรื่อง นั่งยองๆ ลงข้างกรงกระต่ายสีขาวขนฟูผู้น่ารักตัวนั้น
“ไม่ได้แกล้งอะไรซักหน่อย แค่ให้ขนมปังมันกิน”
“หา?” อีกฝ่ายอุทานเสียงหลง “พี่จะบ้าเหรอ? กระต่ายมันกินขนมปังได้ที่ไหนล่ะคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ ดูสิ เคี้ยวตุ้ยๆ ท่าทางจะอร่อย” ผมตอบไม่รู้ไม่ชี้
“กระต่ายอ่ะมันต้องกินผักกับผลไม้ พวกขนมนมเนย ที่มีแป้งอ่ะมันย่อยยาก เดี๋ยวมันก็ท้องอืด หรือไม่ถ้ากินบ่อยๆ ก็สะสมในร่างกายมัน เดี๋ยวก็ตายเร็วหรอก” น้องมีนอธิบายเสียงดุ
“ช่างมันดิ ... อย่างน้อยก่อนตายมันก็ยังได้รู้ไงว่าไอ้นี่น่ะอร่อย... ถึงตายก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว ดูอย่างคนเราสิ รู้ว่าเหล้าไม่ดีก็ยังดื่ม บุหรี่ไม่ดีก็ยังสูบเลย”
“ก็เพราะติดไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าจะเหล้า บุหรี่ กาแฟ หรือแม้แต่ผงชูรส ก็ติดจนเลิกไม่ได้ทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าไม่มีครั้งแรกอ่ะ ก็จะไม่มีครั้งต่อมาด้วย ไม่ว่าขนมปังมันจะอร่อยแค่ไหน หรือเจ้ายู่ยี่จะชอบกินมากแค่ไหน ถ้าพี่ตุลย์ไม่ได้เอาให้มันลองกินครั้งแรก มันก็ไม่มีวันรู้ ไม่มีวันชอบ และไม่มีวันติดไม่ใช่เหรอ?”
ผมนึกคัดค้านว่ายังไงตอนนี้มันก็ได้ลิ้มรสชาติขนมปังไปแล้วแหละน่า มันอาจจะติดไปแล้วก็ได้ใครจะรู้...
หลังจากนั้น...ผมไม่ได้เอาขนมปังให้เจ้ายู่ยี่อีก เพราะไม่อยากทำให้น้องมีนโกรธ และผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินใจแทนมันอยู่ดีว่าควรกินหรือไม่กิน ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ไม่มาโทษว่าเป็นความผิดของผมอีก
ผ่านไปสองสามเดือน... เจ้ายู่ยี่ก็ตายเพราะโดนตะขาบกัด
ถ้าผมรู้ก่อนล่ะก็ จะเอาขนมปังให้มันทุกวัน อย่างน้อยมันก็อาจจะได้มีความสุขก่อนตาย....
...................
นอกเรื่องไปไกลนะครับ กลับมาที่เจ้าขนมปังชิ้นเดิมของผมก่อนดีกว่า
ของผม .... นั่นสินะ มันไม่อาจจะเรียกว่า “ของผม” ได้เลยนี่นา เพราะการนอนด้วยกันแค่ไม่กี่ครั้ง ไม่สามารถทำให้ใครเป็นเจ้าของใครได้ โดยเฉพาะขนมอย่างมัน “เคี้ยวยาก” จะตาย
ทั้งๆ ที่รู้ว่ากินแล้วท้องจะอืด กินแล้วต้องทุกข์ทรมาน หรืออาจจะอายุสั้นลง
แล้วไงล่ะ? ก็ได้ลองชิมไปแล้ว มันก็เลิกยากแล้วล่ะ
ทำยังไงก็ไม่หายหงุดหงิด ขนาดเร่งความเร็วจนสุดฤทธิ์ จนคนซ้อนถึงกับกอดเอวแน่น ทำท่าจะอ้วกแตกอ้วกแตนเมื่อจอดรถ
แปลก...ทั้งๆ ที่เคยชอบรถ ชอบความเร็วมากขนาดนั้นแท้ ๆ แต่มาครั้งนี้ มันกลับไม่ได้ทำให้ความขุ่นเคืองใจของผมลดน้อยลงสักนิดเลย แล้วมันยังจะมีหน้าถามผมอีกนะว่า มันทำให้ผมเครียดอะไร?
นี่ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่....
ยิ่งหงุดหงิดไปกันใหญ่ และคิดไม่ออกว่าจะมีอะไรที่ทำให้หายง่ายๆ ได้เลย และคงเป็นอย่างนั้นไปจนกว่า...จะหาทางออกเจอ...
คิดอะไรไม่ออกขออาบน้ำให้เย็นๆ ก่อนแล้วกันหัวสมองจะได้โล่ง พลางบอกให้ต้นเหตุความเครียดช่วยคิดหาอะไรที่ผมชอบได้มากกว่า หรือเทียบเท่าความเร็วทีสิ จะได้มาทำให้หายหงุดหงิด
อาบน้ำอยู่ครึ่งชั่วโมงแต่ยังคิดอะไรไม่ออกนอกจาก... วนไปวนมาซ้ำๆ เรื่องของมัน...
ออกจากห้องน้ำมาแล้วต้องถอนใจเฮือก เอาวะ...พักเรื่องเครียดไปก่อนแล้วกัน... มีขนมปังวางรออยู่ ขอกินอะไรที่ชอบก่อนแล้วกันนะ....
.
.
.
.
คงไม่มีใครรู้...ว่ากระต่ายชอบกินขนมปัง...
แต่ขนมปังกลับอยากให้คนอื่นกิน...
เพียงแค่คิดถึงวันใดวันหนึ่ง ที่จะไม่ได้กินขนมปังอีกแล้ว ก็แทบอยากจะคว่ำน้ำ คว่ำขัน กัดกรงประท้วงเสียให้ได้
อือ.... มองโลกในแง่ดี .... อย่างน้อยผมก็ได้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้แหละวะ...
ยังไงตอนนี้ก็ได้กอดก่าย นอนเคียง ฟังเสียงครางของมันได้บ่อยกว่าชาวบ้านก็ยังดี แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว...
เออแปลก ทำไมอารมณ์ดีขึ้นมา....
.
.
.
.
.
หรือว่า.... เราจะเจอแล้วนะ ไอ้ของที่รักมากกว่า รถ...หรือความเร็ว.....
ที่แท้...ก็ขนมปังนี่เอง....
ลองคิดดูนะ ขณะที่กระต่ายน้อยผู้แสนเอาแต่ใจกำลังเล็มขอบขนมปังอย่างเอร็ดอร่อย
ทันใดนั้นก็มีหมาน้อยตัวหนึ่งตรงเข้ามาแย่งขนมปังเนื้อนุ่มไป เป็นใคร ใครจะยอมได้ล่ะจริงไหม?
หรือใครจะยอมก็ช่างปะไร แต่ใครคนนั้นไม่ใช่กระต่ายตัวนี้หรอก.... ไม่ใช่กระต่ายที่ชื่อตุลย์แน่นอน
สักวันกูจะเป็น “สุดที่รัก” ของมึงให้ได้
กูจะพยายามทำให้ได้ เพราะวันไหนที่ทำสำเร็จ กูจะได้มั่นใจว่า กูจะมีขนมปังกินไปตลอดชีวิตไง... กูจะหวังอย่างนั้นก็ไม่แปลก
ก็กระต่ายที่ไหน...ก็ต้องหมายจันทร์ อยู่แล้ว
ยิ่งกระต่ายตัวนี้ยี่ห้อ
ราหูด้วยนะเลยชอบ “อมจันทร์” เป็นพิเศษ
##################################
จันทร์จันทร์เจ้า ไม่ขอข้าวไม่ขอแกง
ไม่ขอแหวนทองแดง ไม่ขอช้าง ไม่ขอม้า
ไม่ขอเก้าอี้ ไม่ขอเตียงตั่ง ไม่ขอละคร
ไม่ขอยายชู ไม่ขอยายเกิด
...แต่ขอให้ได้... “ชมจันทร์” ทุกวันก็พอแล้ว... ++++++++++++
รู้ไหม? ว่าถ้าหากไม่มีพระจันทร์ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น
เราจะไม่ได้ฟังเพลงเพราะๆ เหรอ?
หรือว่า คู่รักจะไม่ได้มาชี้ชวนชมจันทร์เหรอ?
อาจจะไม่ได้วันลอยกระทง
หรือไม่ได้ดูบั้งไฟพญานาคงั้นเหรอ?
อะไรนะ ไร้สาระเหรอ?
นั่นสิ ก็ว่างั้นแหละ
ประโยชน์ของพระจันทร์น่ะมันเกี่ยวกับ ระบบหมุนเวียนของน้ำในโลก พวกน้ำขึ้น น้ำลง อะไรอย่างนั้นมากกว่า
แล้วไงต่อล่ะ?
ถึงไม่มีพระจันทร์แล้วน้ำจะท่วมโลก หรือน้ำจะเน่า
ช่างมันดิ.....
เวลากลางคืนจะมืดสนิทจนน่าใจหาย
ช่างมันดิ.....
สำหรับผม.... นั่นก็ยังไม่สำคัญอยู่ดี
สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือคำถามที่ว่า....
ถ้าหากไม่มีพระจันทร์
แล้วกระต่ายจะไปอยู่ที่ไหนมากกว่า.... ..............................................................................
ตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนะคะ บอกแล้วว่าตุลย์มาเวิ่นเฉยๆ
ส่วนหลายคนที่ถามว่า ยังไม่มีเบอร์กันอีกเหรอ?
ตอบว่ามีแล้วค่ะ แต่ที่ตุลย์ให้อีกก็เพราะมีเหตุผลน่ะค่ะ
ก็ได้กันมาหลายยกแล้วก็จริงแต่ ในเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ได้รัก ก็ไม่แปลกนี่นาที่ตุลย์จะจีบใหม่ แต่จะจีบยังไงเนี่ย นิก็ยังเครียดเหมือนกัน...
ใครคิดออกก็บอกกันมั่งนะ ว่าจะใช้วิธีไหนดีจะทำให้ปอนด์หมอบราบคาบแก้ว อิอิ