Chapter 14
เสี่ยใจร้าย!!
เรื่องราวแฮปปี้เอนดิ้งทำให้สองเพื่อนซี้มักจะมาที่บ้านเสี่ยเป็นประจำด้วยความ...เอ่อ..’เผือก’
กลายเป็นเจ้าที่ฝ่ายสังเกตการณ์ ที่ได้รับค่าแรงเป็นขนมไทย อย่างพวกบัวลอย เต้าทึง ลอดช่อง และอื่นๆเท่าที่แม่ครัวจะทำให้ได้
“เฮ้อ เซ็งว่ะ”
จู่ๆไอ้ตัวแสบอย่างเอ็มก็โพล่งขึ้นมา
“อะไรของมึง”
“ก็กูนึกว่าจะมีแฟนสวยๆอย่างเจ๊แพรซะแล้ว ไม่น่าเลย”
เน่กลอกตามองบน
“เขาแค่มาส่องครั้งสองครั้งก็คิดไปดาวอังคารแล้ว”
“เออ ก็มันเหงานี่หว่า”
“เราเพิ่งม.3เอง จะรีบมีไปทำไม”
เนเน่เตือนสติเพื่อน พาให้เพื่อนหันมองขวั่บ
“มึงลืมไรป่ะเน่”
“อะไร?”
ไม่รู้จริงๆ ทำไมเพื่อนต้องมองเน่ด้วยแววตาหมั่นไส้ด้วย
“กูว่าเน่ต้องโดนเสี่ยล้างสมองแน่เลยว่ะ ทำไมมันใสซื่อวะ ผิดปกตินะเนี่ย”
เอ็มหันไปกระซิบกับมิค ซึ่งมิคที่สติดีกว่ากลับเห็นด้วยซะงั้น
“เราจะบอกผู้กองโจดีไหมวะ”
“ต้องบอกสิ เขาอุตส่าห์ให้ตังค์มาสืบ”
“นี่! ได้ยินนะเว้ย หูไม่ได้ตึง!”
เน่ชักจะกลุ้มใจกับไอ้สองตัวนี่ขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่เลือกคบด้วย
“แหะๆ ไม่มีไรหรอกเน่ ผู้กองโจแค่ห่วงว่าเน่จะถูกเสี่ยทำมิดีมิร้าย เลยให้พวกเรามาดูแล”
“แล้วผู้กองจะมาห่วงอะไรนักหนา สนิทก็ไม่สนิท”
“ก็เขาสนิทกับเสี่ยไง คงกลัวเพื่อนโดนข้อหาไรงี้มั้ง”
มิคบอก
“แต่กูว่ามันแปลกๆนะ มันเว่ออ่ะ—หรือผู้กองจะแอบชอบเสี่ย!?”
“โอ๊ยไอ้เอ็ม เขาจ้างเราแค่ห้าสิบบาท มึงคิดว่าเขาจริงจังขนาดนั้นเหรอ มึงนี่มโนฉิบผาย”
“อ้าวเหรอ”
“แล้วนี่คุยกัน คิดออกหรือยังว่าคำตอบคืออะไรห๊ะ!”
“ซวยๆๆ เชี่ยมิคมึงได้ยัง”
“แป๊บนึงดิเน่ มันยากนะเว้ย”
“แค่ใส่ if ข้างหน้าประโยคที่ให้อ่า ไม่ยากหรอก”
“แป๊บๆๆๆ”
สองเพื่อนซี้รีบระดมหัวคิดเพราะกลัวคุณครูพิเศษแหวกอก แถมยังโม้กับพ่อแม่เสียดิบดีว่ามาเรียนหนังสือ พวกแกเลยให้เอาสมุดไปให้ดูว่าเรียนจริงๆ ซึ่งแกก็อ่านไม่ออกหรอก แต่เขาเป็นเด็กดีที่รู้จักละอายต่อการโกหก อย่าน้อยวันนี้ได้สักข้อก็ยังดีวะ
ส่วนเนเน่นอนกินขนมอย่างสบายใจรอคำตอบเพื่อน รู้สึกสนุกที่ได้ใช้เวลากับเพื่อนใหม่ จึงไม่ค่อยติดต่อเพื่อนเก่ามากเท่าแต่ก่อน เรื่องที่เรียนก็ต่างกัน สังคมก็ต่างกัน เน่รู้สึกว่าฝ่ายนั้นมองเขาเป็นคนนอกไปแล้ว เศร้านะ แต่ไม่โกรธหรอก อย่างน้อยๆก็ไม่ได้จากกันด้วยเรื่องแย่ๆ
แต่พอนอนนานๆเข้าก็เหนียวตัว อาจเพราะอากาศวันนี้อบอ้าว เน่จึงลุกเดินไปเดินมาบนเรือน เห็นบอดี้การ์ดข้างล่างกำลังรวมตัวประชุมกัน มีลุงคนหนึ่งเป็นหัวหน้า เน่ก็เพิ่งรู้นี่แหละ นึกว่าไทเป็นหัวหน้าคนเดียว แต่จริงๆแล้วไทมีตำแหน่งคล้ายเลขาเสี่ยมากกว่า คนที่ดูแลบอดี้การ์ดจากบริษัทนี้โดยตรงคือลุงหัวขาวๆคนนั้น ดูสิ ขนาดมองไกลยังจำได้เลย เพราะหัวขาวทั้งหัว แต่หนวดเหนือปากงอนอย่างกับนายจันหนวดเขี้ยว
ไม่นานนัก ก็มีพี่คนหนึ่งเดินตรงมาทางเน่ และสบตากันพอดี
“เข้าไปในห้องก่อนเน่”
“หา? ทำไมเหรอฮะ?”
“จะมีแขกมา”
แขกคนนั้นสำคัญขนาดไหนกัน เน่ก็โตแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกเลย อย่างกับว่าเขาไม่มีมารยาทตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น ทั้งๆที่ลูกน้องเสี่ยชอบกวนใส่เขาก่อน
เฮ้อ! ไม่มีใครดีเท่าพี่เทียน(เรียกชื่อได้สักที)
ทุกคนมองว่าเน่ยังเด็กเกินไปกันหมด
เนเน่หันหลังกลับไปหาสองเกลอที่น่าจะได้คำตอบแล้ว
“เข้าไปทำข้างในกัน เปิดแอร์ด้วย ร้อน”
“แล้วใครจะมาวะ”
“ไม่รู้อ่ะ”
“กูเข้าห้องมึงได้แน่นะ เสี่ยจะว่าป่ะ”
“ไม่ว่าหรอก”
หลังจากนั้นเด็กกำลังโตสามคนก็หมกตัวอยู่ในห้อง ดูท่าทางตั้งใจเรียนดี เว้นเน่ที่เล่นเกมฆ่าเวลายามเพื่อนหาคำตอบ ก็คุณครูโหดนี่นะ ชอบให้แต่โจทย์ยากๆ ศัพท์ก็จำไม่ได้ บ่นจนหูชาแล้ว
แต่เงียบได้ไม่เท่าไหร่ทั้งสามก็ได้ยินเสียงเอะอะของคนๆหนึ่ง ไม่ใช่เอะอะโวยวาย แต่เป็นเสียงของผู้ชายขี้โม้โอ้อวด
“จริงๆเสี่ยน่าจะให้เขาอยู่ข้างล่างเนอะ”
เน่บ่น
“เสี่ยมาแล้วเหรอ ไม่เห็นได้ยินเสียง”
“เออว่ะ”
ลองแง้มๆประตูดูหน่อย ทำไมเสี่ยเงียบจังเลย
“โอ้! เด็กไอ้เหนกนี่!”
มีลุงหน้าตาแบบอาเสี่ยคนจีนแท้ๆยืนอยู่ แล้วมันพอดีกับที่เน่ยื่นหน้าออกไปอีก
เน่รู้ตัวว่าทำพลาดมหันต์เมื่อเห็นหน้าบอดี้การ์ดเหมือนจะอกแตกตาย
“ออกมาสิหนูๆ ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย”
ต้องออกไปด้วยเหรอ...หันไปถามความเห็นจากเพื่อน
“เดี๋ยวพวกกูไปด้วย”
สองเกลอยืนประกบเป็นองครักษ์ส่วนตัวเมื่อเน่เปิดประตูออก เขายกมือไหว้ตามมารยาท
“น่ารักนี่หว่า”
เสี่ยหน้าหื่นส่งเสียงแหลม สิ่งที่เข้าหูนั้นตีได้ความหมายเดียวว่าชอบเขา
“น่ารักจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอ ไอ้เหนกมันตาถึงว่ะ—เอากันยัง?”
คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง
แต่นาทีนี้เน่ต้องช่วยตัวเองก่อน
“ผมขอตัวเข้าห้องก่อนนะครับ ติวหนังสือกันอยู่”
“เฮ้ยอยู่ก่อนซี่” คว้ามือเน่ไว้ ทุกคนลุ้น มองเป็นตาเดียว
“ผมไม่ว่างครับลุง”
“โอ้โหใจกล้าเว้ยเรียกพี่ว่าลุง”
รุ่นนี้ไม่น่าเรียกพี่นะ แก่กว่าเสี่ยอีก
“อยู่คุยกันก่อนน่า ไอ้เหนกมันโม้ไว้เยอะ ไหนดูซิมีของดีของเด็ดอะไรบ้าง”
เด็กน้อยแทบล้มทั้งยืน เมื่อถูกทำราวกับว่าเป็นสินค้าอย่างนี้ เสี่ยหื่นหมุนตัวเขาไปมาทั้งๆที่เขาขืนสุดฤทธิ์ เหมือนมันรู้ แต่มันก็แกล้ง
อึดอัด
อยากเอามือสกปรกของมันออกไป เขาเป็นของเสี่ยแล้ว ดีกันแล้ว เสี่ยจะขายเน่ไม่ได้นะ!
“พี่คม”
และแล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น ทำให้การกระทำอันน่าขยะแขยงชะงักลง เนเน่รีบวิ่งหลบหลังเพื่อน พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนเสี่ย
“มึงมาช้าจังวะ เนี่ยกำลังดูเด็กมึงอยู่เลย โคตรน่ารัก—ไม่นึกว่ามึงจะกล้าเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง แสดงว่าของดีใช่ไหมวะ”
“ผมแค่รับเลี้ยงครับ”
“ไหนมึงบอกจะยกให้กู”
เนเน่อยากอุดหูตัวเองเสียเดี๋ยวนี้
เขาเห็นเสี่ยถอนใจ แล้วมองมา ราวกับเตรียมจะพูดในสิ่งที่เน่ไม่อยากได้ยิน
“ไม่ยกให้แล้ว”
เด็กน้อยโล่งอก
“อารายวะ”
“ขอโทษทีนะพี่ แต่ว่าเราอย่าเสียเวลาเรื่องนี้เลย เรามาคุยเรื่องงานดีกว่า”
“แต่เด็กมันน่ารักว่ะ”
“พี่อยากติดคุกเหรอ”
เสี่ยมองอย่างเป็นต่อ ทำให้รู้ว่าตาลุงคนนี้คงแค่ระดับปลายแถวที่นับถือกันก็เท่านั้น คงเส้นไม่ใหญ่เท่าเสี่ยเอนกสุดเท่ของเน่ไปได้
•
ร่างสูงกรึ่มๆจากการก๊งเหล้ากับไอ้ลุงหื่นซึ่งเป็นญาติห่างๆ ห่างขนาดที่ว่าเพิ่งมารู้จักเอาตอนสามสิบ
ก็จริงอยู่ที่ทั้งสองทำธุรกิจเครือเดียวกันคือการค้าข้าว แต่ที่ไม่ได้โคจรมาพบกันเพราะลุงเพิ่งกลับจากต่างประเทศ แกทำธุรกิจเก่ง ใจใหญ่ใจกว้าง แต่เส้นสายยังน้อย จึงพยายามเข้าหาเสี่ยอยู่เนืองๆ แล้วเสี่ยเอนกก็ดันเผลอพูดเรื่องเนเน่ให้ฟังช่วงที่งอนกันอยู่ กว่าจะเคลียร์ให้เข้าใจว่าไม่ยกให้แล้ว ก็ต้องยอมเมา แถมยังเสียเงินค่าเหล้าตั้งหลายพัน
นี่ก็ว่าจะไม่คบค้าสมาคมไปมากกว่านี้แล้ว เป็นคนที่วุ่นวายและน่ารำคาญสุดๆ
“โห...!”
เนเน่อุดจมูกด้วยความเหม็นเหล้า นี่เสี่ยไปนอนแช่เหล้ามาหรือเปล่าเนี่ย
“ขอเข้าไปหน่อย”
เด็กๆกลับกันหมดแล้ว เสี่ยเดินโซเซเข้าห้องเน่
เตียงในห้องนี้เล็กกว่าห้องเสี่ยนิดเดียว แต่พอคนตัวใหญ่นอนลงไป พื้นที่กลับกลายเป็นแคบไปถนัดตา
ร่างเล็กเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยังมีผ้าเช็ดหัวเปียกๆอยู่ในมือ จึงทำดีเอาใจเสี่ยด้วยการเช็ดหน้าให้
“เช็ดให้ทั้งตัวเลย ร้อน”
“ก็กินเยอะทำไมล่ะ”
“จะได้ไม่ต้องมาอีก”
“เสี่ยจะยกเน่ให้คนแบบนั้น—ไม่อยากจะเชื่อ”
“ก็เขาชอบเด็กๆเหมือนฉันนี่”
“น่ากลัวเป็นบ้า”
“ถ้าฉันหน้าตาน่าเกลียด เธอจะยังเอาฉันมั้ย”
ถามแปลกๆ สงสัยความเมาเป็นเหตุ
เน่เลยตอบส่งๆไป เพราะเสี่ยคงจำไม่ได้หรอก
ครั้งนั้น....ยังจำไม่ได้เลย
“ไม่เอา ไม่มีทางหรอก คงจะหมดอารมณ์ไปเลย”
“หึๆ อยากเห็นเธอมีอารมณ์จัง”
จับปลายคางเล็กบิดไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว
“จะบ้าเรอะ”
“ไม่อยากมัดใจฉันเหรอ”
“ก็เพราะตาลุงนั่นน่ะแหละ”
“อย่าน้อยใจนะ”
เนเน่เบ้ปาก วางผ้าขนหนูลงข้างเตียง แล้วทิ้งตัวลงนอนกอดเสี่ย
เด็กน้อยใช้ความเงียบเป็นคำตอบ
ใช่
เขากำลังน้อยใจ เคืองใจ ขัดใจ หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่มันเป็นความรู้สึกสีเทาๆ จางๆ ลอยวนไปมาเหมือนหมอก มันอึมครึม ไม่สดใส ทำให้คิดอะไรไม่ออกนอกจากความไม่สบายใจ
“ถ้าเน่ทำตัวไม่ดี เสี่ยก็บอกเน่นะ ขอแค่อย่าส่งเน่ไปให้ใครเลย”
“ฉันนึกว่าเธอไม่ชอบที่นี่”
“ก็นิดนึง แต่เน่ชอบบ้านหลังนี้นะ ตั้งแต่มีหมามีแมว มันก็พอหายเหงาไปบ้างแหละ”
“ที่เป็นปัญหาคือตัวฉันว่างั้น?”
เด็กน้อยส่ายหัว
“ไม่รู้”
ขึ้นเสียงสูงด้วยนะ
“ไหนดูหน้าคนไม่รู้หน่อย”
ร่างสูงพลิกตัวเน่ลงนอนราบ แล้วเคลื่อนตัวทาบทับ มองปากเล็กที่มักจะพ่นแต่คำแก่แดดออกมา มันก็ดูน่ารักน่าชัง ไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่ไหงถึงได้ร้ายนักนะ อดไม่ได้ที่จะกดปากตัวเองลงไป เผื่อคำพูดเพราะๆจะติดต่อกันบ้าง
“เสี่ยเอาเน่สักทีสิ”
คนแก่ชะงัก
“ใครสอนให้พูดแบบนั้น”
“คิดเองได้”
“ดูหนังโป๊มากไปแล้วนะ”
“เน่ก็อยากเหมือนกันนะ”
“เฮ้อ...”
ร่างสูงพลิกตัวนอนหงาย เอามือก่ายหน้าผาก
“จริงๆแล้วไม่ต้องรอให้เน่โตก็ได้ เน่รู้ว่าเสี่ยอยากให้เน่มีความทรงจำดีๆกับเรื่องแบบนี้ แต่เน่ก็เสียครั้งแรกแบบไม่ค่อยดีให้ไปแล้ว เสี่ยก็น่าจะลบภาพนั้นไปสิ ทำเน่อีก...แบบตั้งใจทำ...แบบที่เสี่ยชอบ”
มือเล็กแตะต้นแขนอีกฝ่าย พยายามเกลี้ยกล่อมสุดๆ
“ยิ่งเสี่ยไม่ยอมเอาเน่ เน่ก็ยิ่งกังวล”
“โอเค สรุปว่ากลัวฉันทิ้งหรือไง—ถึงจะเอาเธอจนช้ำ แต่ฉันก็ทิ้งได้นะ เรื่องแบบนี้มันพิสูจน์อะไรไม่ได้ เราต้องรอเวลานะเน่ รอให้ทุกอย่างมันลงตัว”
“เน่รู้ ก็เสี่ยบอกเน่จนหูชาแล้ว”
“ก็อดทนสิ ฉันยังทนเลย”
“ทำไมเสี่ยต้องทำตัวเป็นพ่อพระด้วย ถ้าเน่อยากทำเอง แล้วมันจะไม่ดีตรงไหน”
เสี่ยกุมหัวด้วยความกลุ้มใจ
“เนเน่....การมีเซ็กส์กันด้วยความรักน่ะมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากนะ ฉันอยากให้เธอรักฉันก่อนเข้าใจมั้ย”
เน่แอบเห็นว่าหูเสี่ยแดงแปร๊ดเลย
เด็กน้อยนอนหนุนไหล่เสี่ยรีบออดอ้อน ความในใจเสี่ยเป็นอย่างนี้นี่เอง ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้นะ
“เสี่ยดูไม่ออกเหรอว่าตอนนี้เน่คิดยังไง”
“เธอกำลังสับสนมากกว่า เพราะฉันคือคนเดียวที่อยู่กับเธอ”
“และดูแลเน่ เข้าข้างเน่เวลาที่มีปัญหา เป็นห่วงเน่ ปกป้องเน่ พยายามทำให้เน่มีความสุขทั้งๆที่เสี่ยโคตรจะทำไม่เป็น—เน่อาจจะดูเด็กนะ แต่เน่ก็รู้จักความรู้สึกแบบนี้”
“เธอมันแก่แดดไง”
“ช่าย”
เน่วนนิ้วบนอกแกร่งเป็นวงกลม แล้วเลื่อนผ่านยอดอกสร้างความสยิวให้คนแก่ ...ที่ตบะกำลังจะแตก
“เนเน่”
จับมือเล็กนั่นให้หยุด เด็กนี่ชักจะลามปามใหญ่ ไม่รู้จักฟังเขาสักที แถมดื้อไม่มีใครเหมือน
“เสี่ยทำเถอะ...นะ...เน่เต็มใจ”
“ไม่ใช่ว่าเพราะกังวลเรื่องที่ฉันจะยกเธอให้คนอื่นหรอกนะ?”
“....”
“ก็บอกแล้วว่าต่อให้ได้กันสักพันรอบ มันก็ทิ้งกันได้”
“ก็เอาสักทีสิ เพราะยังไงก็จะทิ้งนี่!”
เด็กน้อยฟึดฟัด แถมยังเผลอทุบหน้าอกเสี่ยไปอีก
ซึ่งทำให้คนแก่แต่หล่อปานซาตานเริ่มมีน้ำโห แกพลิกตัวคร่อมเน่ กดข้อมือเล็กทั้งสองข้างจนจมหายไปกับเตียง
“อยากโดนของจริงใช่มั้ย?”
น้ำเสียงดุดัน แต่เน่รู้ว่าเสี่ยแกล้ง ไม่ได้โกรธจริง
“อื้ม...อยา—อ๊ะ!”
ไม่ทันได้พูดจบ เสี่ยก็ฉกชิงริมฝีปากนิ่มเสียแล้ว
ลิ้นร้อนกวาดเอาความหวานที่มีไปเป็นของตน ไล่ต้อนลิ้นอีกฝ่ายด้วยความรุนแรง เสียงลามกยามปากดูดกันดังไปทั่วห้อง
เสี่ยปลดข้อมือเน่ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของทั้งตัวเองและอีกฝ่ายออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยหอบหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้น เขาไม่เคยเห็นเสี่ยร้อนแรงขนาดนี้มาก่อน หน้าเสี่ยแดงก่ำ และเสียงหายใจหื่นๆของเสี่ย มันกลับยิ่งทำให้คนแก่ดูหล่อและมีเสน่ห์ยั่วยวนมากๆ
“เธอนี่...”
เสี่ยก้มมองดูแท่งอวัยวะขนาดกำลังพอดีที่แข็งชูชันแล้วส่ายหัว เป็นเด็กที่ไวต่อเรื่องแบบนี้จริงๆ
“อ้ะ....”
ท่อนลำถูกครอบครองด้วยปากเสี่ย
แล้วเสี่ยก็ทำให้เด็กทุรนทุรายอีกครั้งด้วยการเลียบริเวณใต้ก้อนกลมที่รอยจีบสีนวล
“หึ...แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ”
บอกตรงๆว่าเด็กน้อยไม่มีสติแล้ว นี่สินะฤทธิ์ของไวน์ชั้นดีที่หมักมานานหลายสิบปี สปายกิ๊กก๊อกอย่างเขาจะสู้อะไรได้
“ต่อไหม?”
เสียงแหบกระเส่าข้างหูถามโดยไม่ต้องการคำตอบ เสี่ยงับใบหูแข็งที่โบราณว่าไว้ว่าเป็นคนดื้อรั้น แต่เสี่ยจะกัดให้จมเขี้ยว จนมันอ่อนให้ได้
“อื้อ...เสี่ย...”
“ตรงไหนอีก”
“ต...ตรงไหนก็ได้”
ฮึ่มม เสี่ยครางในลำคอ สำรวจรอยขี้แมงวันบริเวณเนินใกล้แก่นกาย
‘คนเซ็กส์จัด’ โบราณว่าไว้อย่างนั้น และเน่มีถึงสองจุดอยู่คู่กัน
คนแก่หยอกล้อเด็กน้อยอยู่นานจนเน่รอเก้อ จึงเข้าหาเสี่ยก่อน เฝ้าถามว่าเมื่อไหร่จะเริ่มอยู่นั่น
เอาเป็นว่าเสี่ยก็เริ่มหมั่นเขี้ยวแล้ว แกจับขาอ้างออกกว้าง แล้วใส่ท่อนลำยาวเข้าไป
“อึก...”
“อือออ”
“เจ็บมั้ย”
“เน่ทนได้ครับ”
“อืม”
จึงลองเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด ส่วนมือลูบไล้ต้นขาสวยอย่างเพลิดเพลิน
“อะ...”
เขาอยากร้องไห้ให้กับความสุขนี้จังเลย
ดีใจที่เสี่ยยอมรับเน่
แล้วก็ดีใจที่เสี่ยชอบเน่ หรืออาจจะรักแล้วก็ได้
“อย่าร้อง”
ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เสี่ยบรรจงเช็ดออก และจูบซับข้างแก้ม จากนั้นจึงบรรเลงเพลงแห่งอารมณ์ใส่ตัวเด็กไม่ยั้ง ลืมสิ้นความผิดชอบชั่วดี บางครั้งเสี่ยก็เผลอนึกถึงเพลงเด็กมันยั่ว*ขึ้นมาในหัว
จนทั้งสองแล่นเรือถึงฝั่งแห่งความสุข
โคแก่ที่ก้าวหาคุกไปทั้งตัวก้มมองดูช่องทางบวมเล็กน้อยของเด็ก ก่อนจะหาผ้าแถวนั้นมาเช็ดคราบน้ำขุ่นที่ค่อยๆไหลออกมาให้
“เธอต้องไปล้างในห้องน้ำด้วยนะ”
“ปล่อยไว้ไม่ได้เหรอ”
เน่อยากเก็บมันไว้ เป็นที่ระลึก
“ไม่ได้ เดี๋ยวระบบข้างล่างมันจะรวน”
เสี่ยพยายามเลี่ยงคำที่จะพาบรรยากาศเสีย
“เน่ชอบจังเลย”
รักเลยก็ว่าได้
“เจ็บมั้ย”
มือหนาลูบไล้ต้นขาอ่อนไปมา ไม่รู้ว่าสายตาที่มองตั้งแต่บนลงล่างนั้นหวานเยิ้มขนาดไหน
“ไม่เจ็บเท่าไหร่”
“แน่ล่ะ เตรียมตัวทุกวันนี้”
“เสี่ย...”
เด็กน้อยอ้าสองแขนออกกว้าง ยิ้มออดอ้อน
โคแก่ที่เพิ่งได้ลิ้มยาลดอายุก็รีบโอบกอดตามที่หญ้าปรารถนา ไม่ลืมบดจูบเสียหลายที
“ฉันจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง”
ไม่รู้ว่าเป็นคำบอกรักหรือเปล่า แต่นี่ก็แค่จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ และบทรักอันเร่าร้อนที่มีตามมาอีกนับครั้งไม่ถ้วน
•
--เสี่ยใจร้าย หรือคนแต่งใจร้าย5555 เรามีเวอร์ชั่นเต็มที่ธัญวลัยนะ แต่มันติดเหรียญ
ถ้ารักข้าพเจ้า ชอบข้าพเจ้า ก็สามารถไปอุดหนุนกันได้นะขอรับ
ปล.สำหรับตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของเน่ในวัย 14 ปี ตอนหน้าขึ้นม.5แล้ว