ชายาแห่งดวงจันทร์ :::Ch.19::: Update 24/01/2015 (P.9)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชายาแห่งดวงจันทร์ :::Ch.19::: Update 24/01/2015 (P.9)  (อ่าน 47752 ครั้ง)

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
หูยยยย อ่านแล้วตื่นเต้นมาก ชอบ ๆ ๆ ๆ
มาอยู่ในอณาจักรเงาจันทร์นี่ เหมือนมันคนละโลกกับอณาจักรแสงจันทร์เลย
มีแต่อะไร ๆ น่ากลัวเต็มไปหมด นึกภาพตามศพที่ถูกชำแหละนี่ สยองสุด ๆ
แต่น้องวีบรรยายทำให้คลายความน่ากลัวไปได้เยอะเลย
แถมเชอเชสยังพาฟินได้ทุกสถานการณ์อีก เป็นคู่ที่น่ารักตลอด ๆ
นึกถึงคนธรรมดา ๆ อย่างน้องวี ต้องมาเจอเรื่องโหด ๆ แบบนี้ มันน่ากลัวมากเลยนะ
แล้วจะคลายมนต์ ดันต้องมาใช้เลือดน้องวีอีก โถ ปรกติแค่มีดบาดนิดเดียวก็เจ็บแล้วอ่ะ
เอาใจช่วยทุกคน โดยเฉพาะน้องวีวี่ น่าสงสารที่สุดอ่ะ ฮืออ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L1:

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


เริ่มจะดุเดือดแล้วสิ... ขอให้พระชายาวีและพ่อม่วงขนนุ่มกับบรรดาคนสนิทผ่านพ้นวิบากกรรมทั้งหลายไปได้นะคะ
แต่เอ... ที่คุณคนเขียนบอกว่าชอบให้วีดิ้นรน นี่ก็เท่ากับแกล้งพ่อม่วงไปพร้อม ๆ กันด้วยนะคะ เพราะพ่อม่วงคงไม่ยอมปล่อยให้เมียตกระกำลำบากเพียงลำพังแน่ ๆ ถ้าไม่เห็นใจวีที่มาแย่งพ่อม่วงของป้าไป... ก็เห็นใจพ่อม่วงหน่อยเถอะค่ะ ป้าอ่านตามแล้วใจไม่ค่อยดีเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

รอตอนต่อไปค่ะ ^^  :pig4:

 


ออฟไลน์ ไอ้กิ๊ก

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียวเลยจ้า มาต่อไวๆ น้า กำลังลุ้นว่าพระชายาวีกับน้องต่ายน้อย แอนด์เดอะแก๊งจะหนีออกไปยังไง ลุ้นๆๆๆๆ เรื่องนี้น่ารักมากขอบอก พระเอกนายเอกน่ารัก

ออฟไลน์ pattapong200320

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รออยู่นะค้าา

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รอลุ้นอยู่ครับ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ Air_Yaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ varirinnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: ชายาแห่งดวงจันทร์ -17-
«ตอบ #217 เมื่อ20-01-2016 16:55:23 »




-17-
มันเป็นการเสียสละที่เจ็บชิบหายเลยครับ




 
อาคมสีแดงทอแสงเรืองรอง เส้นใยเหนียวแน่นสีดำแผ่ขยายเต็มพื้นที่ ท่ามกลางความวุ่นวายที่ระดับความปลอดภัยดิ่งวูบลงจนน่าใจหาย ผมได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจผ่านทางเส้นใยสีดำที่รัดแน่นรอบตัวผม

พอลองมองตามก็พบว่ามันเชื่อมต่อกับดักแด้สามศพที่ขยายตัวใหญ่ขึ้น กลิ่นอันตรายแผ่กระจายออกมาจนฝ่ามือเย็นเยียบแผ่นหลังชื้นเหงื่อ สีหน้าเจ้าม่วงตอนนี้ดูย่ำแย่หนักกว่าเก่า แม้แต่เทรซัสที่ผมให้ฉายาหมาป่าน้ำแข็งเดินได้(ในใจ)ยังเหงื่อตกกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ถ้าลองอ้างอิงจากการ์ตูนหลายเรื่องที่เคยอ่านและหนังหลายเรื่องที่เคยดู ผมทำนายให้เลยก็ได้ว่าหลังจากนี้ไอ้ดักแด้สามศพนั่นมันจะต้องกลายเป็นปัญหาระดับชาติสำหรับพวกเราแน่นอน

ทายผิดผมให้ถีบเลยเอ้า!

“สิบสองเขี้ยวจันทร์…”

เมื่อสองแขนถูกมัดไว้แน่นยิ่งกว่าใช้เชือกไนล่อนผูกเงื่อนตายสักสิบทบ ผมก็หมดปัญญาที่จะทำร้ายตัวเองให้พอแค่บาดเจ็บนิด เรียกเลือดหน่อย ไอ้ที่จะสร้างรอยแผลให้มันน่ารักกรุบกริบนี่เลิกคิดไปได้เลย

ที่ผมต้องทำตอนนี้คือตั้งสมาธิให้มั่น พูดให้ดูดีลงมาหน่อยก็คือกูขอทำใจแป๊บครับ การจะใช้มีดแทงตัวเองทั้งที่ผมไม่ได้คิดอยากจะตายนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ อีกอย่าง ผมไม่ใช่พวกสาย M ที่ชื่นชอบความเจ็บปวดด้วย ไอ้บทโดนแทงแล้วร้องอ๊าๆ ขออีกๆ นี่ตัดทิ้งไปได้เลย ผมไม่ได้โรคจิตถึงขั้นนั้น!

‘ท่านวี... เวลาแบบนี้ท่านยังจะ...’ เสียงของเชอเชสดังขึ้นขัดความคิดฟุ้งซ่านของผมเรียกสติที่บินไปไกลถึงดาวมฤตยูให้กลับคืนสู่ร่างอีกครั้ง

‘ผมยังจะอะไร?’ ผมขมวดคิ้วถามเขา นอกจากจะทำใจแล้วผมยังจะทำอะไรได้อีกห๊ะ!?

‘ไม่มีอะไรครับ...’ เจ้ากระต่ายหลบตาผมแบบส่อพิรุธเต็มขั้น แต่เอาเถอะ ผมรู้ดีว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลามานั่งไล่บี้เอาความจริงกับกระต่ายคิดลึกแถวนี้ ที่ผมต้องทำคือกัดฟันรอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น และสวดภาวนาให้พระเจ้าชังน้ำหน้าผมต่ออีกนิด อย่าเพิ่งใจดีรับดวงวิญญาณของผมขึ้นสวรรค์ไปเลย!

ฉึก!!!

เสียงอาวุธปักเข้าเนื้อดังขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดแสนสาหัสตรงฝ่ามือข้างขวา กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งจนผมได้แต่เบ้หน้ากัดฟันแน่น รับรู้ได้ถึงของเหลวอุ่นที่ไหลลงมาตามแขนอาบย้อมเสื้อผ้าจนเปียกชุ่ม ผมหายใจหอบหนัก น้ำใสๆ เอ่อคลอเต็มตา ได้ยินเสียงเชอเชสเรียกชื่อผมดังอยู่ตรงหน้าแต่ผมเจ็บปวดเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมองเขา

หยาดโลหิตไหลรินลงสู่พื้นหินสีคล้ำเป็นด่างดวง เสียงวิญญาณโหยหวนดังขึ้นเหมือนถูกไฟนรกขุมใหม่โหมไหม้ เส้นใยที่ตรึงรัดข้อมือข้างขวาเอาไว้พลันคลายเกลียวออกเหมือนต้องของร้อน มือที่มีใบมีดสีน้ำเงินเข้มปักคาอยู่จึงร่วงหล่นลงข้างลำตัว เจ็บจนผมอยากแหงนหน้าร้องไห้โฮๆ แข่งกับเด็กเจ็ดขวบที่ปั่นจักรยานแล้วรถล้มคางแตก แต่ไม่ได้... ผมทำอย่างนั้นได้ซะที่ไหน ต่อหน้าคนตั้งเยอะตั้งแยะแบบนี้ผมต้องฉีกยิ้มแล้วบอกว่า ‘แค่นี้จิ๊บๆ’ สิ แต่...

ฮือออออออ เจ็บอ่ะ!!!

‘ท่านวี...’

เชอเชสไม่พูดอะไรมากไปกว่าการเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงเครียดขรึม ต่อให้ไม่ต้องเปิดตาดูผมก็พอจะรู้ว่าเขากำลังมองมาทางนี้ด้วยสายตาแบบไหน ที่ผมไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก็เพราะกลัวว่าจะเผลอปล่อยโฮออกมาต่อหน้าเขานี่ล่ะ

ผมยกฝ่ามือที่เจ็บจนชาขึ้นมองบาดแผล ถึงแม้จะเลือดชุ่มแต่ปริมาณยังน้อยนักไม่เพียงพอต่อความต้องการ ผมเลยกัดฟันทนเจ็บอีกครั้ง สั่งให้มีดสั้นที่ปักคามือกระชากตัวออกไปจนหยาดเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากปากแผล ความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาอีกครั้งจนผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

‘ท่านวี...เจ็บมากไหมครับ’

มันใช่คำถามที่ควรถามเวลานี้มั้ย T_T

กูเจ็บสิครับถามได้ โดนมีดจิ้มแล้วดึงออกนี่ไม่เจ็บเลยมั้ง ฮือออ

‘ท่านวีอ่าาา...’

‘ค..แค่นี้พอไหม?’ ผมพยายามกล้ำกลืนฝืนทนเงยหน้าขึ้นถามเจ้าม่วง ยื่นฝ่ามือที่แทบไม่เหลือสีเนื้อออกไปเพื่อถามเขา เชอเชสมีสีหน้ายู่ยับเหมือนเจ็บปวดแทนผม เขาปิดตาก้มลงส่ายหน้าเบาๆ ให้ผมสูดน้ำมูกขึ้นดังฟื้ด

ไม่พอสินะ... ฮึก

มหกรรมทรมานตัวเองเลยต้องเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเพื่อเพิ่มปริมาณเลือดให้เพียงพอต่อความต้องการ ต่อจากมือขวาก็ย้ายไปซ้ายบ้างให้ความเจ็บนี้มันเท่าเทียมกัน เสียง ฉึก! และ ฉัวะ! ดังขึ้นติดกันเมื่อผมรู้แกวแล้วว่าเสียบแล้วดึงออกเลยมันเจ็บน้อยกว่าการถูกใบมีดปักคา (มันใช่เรื่องที่กูควรเรียนรู้ป่ะวะ!?) เลือดสดๆ ไหลรินต่างน้ำจนกลายเป็นแอ่งเลือดขนาดย่อมใต้ฝ่าเท้าให้เสียงกรีดร้องโหยหวนดังป่วนประสาทผมมากขึ้นไปอีก

แค่เสียเลือดกูก็หน้ามืดจะตายห่าอยู่แล้วครับ ไม่ต้องเพิ่มปริมาณเสียงทำร้ายเยื่อแก้วหูกูเพิ่มอีกก็ได้

ข้าพเจ้าจะเป็นลมได้อยู่แล้ว!

เส้นใยสีดำเมื่อเจออำนาจมืด(?)จากเลือดของผมพลันปล่อยร่างผมให้กลายเป็นอิสระ สองขาอ่อนย้วยจนตัวผมเซไปข้างหน้า แก้มปะทะเข้ากับเส้นใยเหนียวๆ ที่พันรอบอกเชอเชสไว้อย่างแน่นหนาจนขนลุกไปทั่วสันหลัง

“ท่านวี ใช้เลือดนั่นป้ายเส้นใยพวกนี้ทีครับ” เชอเชสเอ่ยเตือนผมให้รีบลงมือ ผมก็อยากเร่งทำตามให้อ่ะนะ แต่พอยื่นมือเข้าไปใกล้ก็ดันฉุกคิดขึ้นมาได้ซะก่อนว่าไอ้เส้นใยพวกนี้แม่งทำขึ้นมาจากอะไรก็ไม่รู้ เหม็นก็เหม็น เหนียวก็เหนียว ทั้งสัมผัสยังชวนยึกยือเหมือนตัวปลิงอีกต่างหาก จะให้ผมเอามือไปลูบไล้มันประหนึ่งเป็นผิวนางงามมันก็…แอบแหยงอยู่ง่ะ

จากจะลูบเลยเปลี่ยนเป็นคั้นหยดเลือดสดๆ ให้ไหลลงไปหยดโดนแทน แต่ปริมาณเลือดที่มือแม่งไม่ทันใจเลยครับ กระฉูดไปพรวดเดียวเสร็จก็เริ่มแห้งกรังจับตัวเป็นก้อนบ้างแล้ว ผมเลยต้องเรียกกำลังใจครั้งใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ใช้เขี้ยวจันทร์อันเดิมกรีดท้องแขนเป็นแนวยาวจนเลือดทะลักออกมาเป็นสาย ไม่รู้ว่ากว่าจะช่วยหมดครบทุกคนผมจะเสียเลือดตายไปก่อนหรือเปล่า ถ้าผมหน้ามืดสลบไปก็วานจัดการที่เหลือตามแต่เห็นสมควรเลยนะ เชอเชส

ผมสั่งเสีย(?)ไว้ล่วงหน้าเพราะเริ่มรู้สึกตาพร่าสมองเบลอขึ้นมาวูบหนึ่ง ดีนะแขนแกร่งของเชอเชสที่หลุดออกจากพันธนาการเอื้อมมารับร่างผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอดของเขาเสียก่อนที่ผมจะหงายเงิบไปนอนแอ้งแม้งโชว์พุงอวดสายตาชาวดวงจันทร์ เขาก้มลงมองมือของผมที่ห้อยต่องแต่งอย่างเป็นห่วง นิ้วโป้งช่วยเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกให้ แถมเนียนจูบหน้าผากผมชมว่าอดทนได้ดีมากไปอีกทีด้วย เวลาอย่างนี้ยังมาเอาเปรียบผมอีกนะ!

‘กำลังใจจากข้าไงครับ’

ไอ้กระต่ายหน้ามึน เห็นกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็อ้างคำนี้ตลอด!

“หยุดเลยๆ เอาเลือดของผมไปช่วยคนอื่นก่อนเร็ว เดี๋ยวมันแห้งแล้วผมได้ซวยกรีดแผลเพิ่มอีก”

เชอเชสพยักหน้ารับ แต่เขากลับรวบตัวผมขึ้นจนตัวลอยให้ผมที่ยังตั้งตัวไม่ติดได้แต่กอดรอบคอเขาจนลืมไปเลยว่าท้องแขนข้างหนึ่งมีแผลลากยาว งานนี้เลยร้องโอ๊ยซะดังลั่น หมดมาดแมนๆ ที่อุตส่าห์สร้างสมมาเลยโว้ยไอ้วี!

ว่าแต่เชอเชส... นายจะอุ้มผมทำไมห๊ะ? แถมยังไม่รีบพาผมไปหาสามคนนั่นอีก จะยืนเฉยทำด๋อยอะไรตรงนี้ครับคุณชาย ไหนว่าเวลาไม่คอยท่าไง!

“ปริมาณที่กองอยู่บนพื้นนี่น่าจะพอสำหรับสามคนนี้แล้วครับ”

เจ้าม่วงยิ้มๆ มองผมที่นอนขู่ฟ่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่เข้าใจหรอกว่าที่เจ้าม่วงนี่พูดมามันหมายถึงอะไร เลือดที่หยดลงพื้นไปแล้วมันเอามาใช้ได้ที่ไหน ไม่ซึมลงหินก็ติดตามไอ้พวกเส้นใยดำๆ นั่นไปหมดแล้ว

“วิธีน่ะหรือ นี่อย่างไรเล่า” สิ้นคำพูดของเจ้าชายกระต่าย ฝ่ามือของเขาพลันส่องแสงสีม่วงครามออกมาก่อเกิดเป็นสายพลังขุมหนึ่งที่สดสวยเหมือนกับลูกแก้วเวทมนต์

โลหิตที่ไหลรินลงพื้นอย่างสูญเปล่าพลันถูกดูดกลืนขึ้นมาจากร่องหิน กลั่นตัวเป็นหยดน้ำลอยขึ้นฝืนกฏแรงโน้มถ่วงโลก ค่อยๆ เติมเต็มภาชนะใสกลวงจนลูกแก้วสีม่วงครามถูกแทนที่ด้วยโลหิตสีแดงคล้ำ เชอเชสรอคอยอย่างใจเย็นจนปริมาณมันมากต่อความต้องการ จากนั้นก็ใช้พลังดันมันขึ้นสูง ดีดพลังอีกสายเข้าปะทะจนมันแตกโพล๊ะกลางอากาศกลายเป็นฝนเลือดที่สาดย้อมไปทั่วบริเวณ

คุณสมบัติพิเศษที่แฝงตัวอยู่ในเลือดของผม(ได้ยังไงก็ไม่รู้)ทำปฏิกิริยากับสิ่งชั่วร้ายทันทีจนเส้นใยสีดำต่างพากันคลายหนี นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นเลือดของผม ผมคงได้คิดว่านี่น่ะเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านพิธีกรรมหลายขั้นตอนจนสามารถขับไล่ภูติผีปีศาจได้

แต่บังเอิญกูรู้ไงครับ... รู้ดีเจ็บจี๊ดถึงใจเลยด้วย เลยไม่รู้จะคิดยังไงดีที่เห็นเลือดตัวเองแม่งใช้งานได้ดีไม่ต่างจากน้ำสะอาดที่ผ่านการปลุกเสกมาเจ็ดวันเจ็ดคืน ไอ้ธาได้รู้แม่งคงซึ้งใจยิ่ง หน้าที่เป็นไม้กันผีถาวรคงไร้ทางหลีกเลี่ยงอีกต่อไป กอดไอ้วีคนนี้คงได้ผลดียิ่งกว่ากำไม้กางเขน ตกลงนี่กูยังเป็นมนุษย์อยู่ใช่ไหมครับ ใครก็ได้ช่วยบอกที...

เสียงกรีดร้องดังระงมจนผมหลุดจากห้วงภวังค์ความเพ้อเจ้อ หลังเจอเลือดของผมสาดเข้าใส่ ฟาฮากับเทรซัสพลันหลุดออกจากการถูกจับตรึงกลับมายืนสง่าหน้าตายแข่งกันเหมือนเดิม ผิดกับเจ้าดำเซริมที่ถูกมัดเป็นก้อนกลมแข่งกับดักแด้ศพกลางห้อง พอสิ่งที่รัดตรึงผละตัวออกจึงหล่นตุ๊บลงมาหมดท่า หน้าจูบพื้นเต็มรัก ไม่เหลือมาดองครักษ์ผู้เกรียงไกรแม้แต่น้อย บอกว่าเป็นคนบ้ายังน่าเชื่อถือซะกว่า

‘ชอบแกล้งเซริมเสียจริงนะครับ’ เจ้าม่วงพูดเสียงนุ่ม ยิ้มอย่างอ่อนใจ มองผมคล้ายเอ็นดูทั้งที่ตัวเองอายุน้อยกว่าผมตั้งสามปี

‘ก็ลูกน้องคนสนิทของนายน่าแกล้งเองนิ’ ผมยกยิ้มขึ้นนิดนึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเหยเกเมื่อขยับนิดความเจ็บก็ลามไปถึงบาดแผลที่มีด้วยกันถึงสามจุด

“ฟาฮา รักษาท่านวีซะ” เห็นดังนั้น เจ้าชายแห่งอาณาจักรแสงจันทร์จึงไม่รอช้ารีบสั่งการกับองครักษ์ประจำกายทันที

เจ้าขาวได้ยินดังนั้นก็รีบรับคำ ก้าวขาขึ้นมาวางฝ่ามือไว้เหนือปากแผล เรียวปากบางเฉียบได้รูปขมุบขมิบคาถาที่มีท่วงทำนองเหมือนบทเพลงแห่งสรวงสวรรค์ พลันวงเวทย์สีขาวบริสุทธิ์ทอวาบขึ้นส่งผ่านความอบอุ่นเข้าตรงสู่หัวใจ บาดแผลค่อยๆ สมานตัวเข้าหากันจนเหลือร่องรอยเบาบางที่แทบสังเกตไม่เห็น

“เอ่อ... ให้ฟาฮารักษาแบบนี้จะดีเหรอ?”

ถึงพวกเราแต่ละคนจะหลุดออกจากการกักกุมของเส้นใยสีดำพวกนั้นแล้ว แต่อาคมยังไม่ถูกทำลายลงสักหน่อย ปล่อยให้แผลปิดเลือดไม่ไหลแบบนี้มันจะไม่เป็นไรได้ไง

“เลือดตรงส่วนนั้น ต่อให้ท่านวีเค้นเพิ่มอีกเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หรอกครับ”

พูดอย่างนี้หมายความว่า ผมต้องแทงตรงอื่นที่ไม่ใช่ฝ่ามือใช่ไหม...?

หัวที่ผงกลงแทนคำตอบพาเอาในหัวได้ยินเสียงวิ้งๆ เหมือนสมองดับไปชั่วคราว บทจะฉลาดขึ้นมาทั้งทีก็ดันฉลาดในเรื่องที่ตัวเองจะต้องเจ็บตัวตลอดเลยนะไอ้วี!

“แล้วผมต้องแทงตรงไหน...”

ไม่อยากถามให้มันแสลงใจเล่นหรอกนะ แต่เสียงปริแตกของอาคารกับเสียงร้องที่ทวีขึ้นหนักหน่วงเหมือนวิญญาณทุกตนในที่นี้พร้อมใจกันปล่อยพลังเสียงแข่งร้องโอเปร่าขึ้นมา มันทำให้ผมอยากเร่งออกจากที่นี่ไวๆ

คิดถึงเตียงอุ่นๆ ขนมอร่อยๆ ชีวิตที่มีแต่กิน ขี้ เล่น นั่ง นอนจะตายอยู่แล้ว!

เชอเชสคิ้วขมวดปิดตาลงเหมือนต้องการใช้ความคิด ไม่รู้คิดจริงหรือกำลังกลุ้มกับความไร้สาระของผมอยู่กันแน่ น่าขัดใจจริงๆ ที่เขาปิดกั้นความคิดตัวเองได้หมดจนผมไม่สามารถอ่านใจเขาได้ยกเว้นแต่เขาจะยินยอมให้ผมรับรู้ ฉับพลันดวงตาเรียวสวยคู่นั้นก็เปิดออก เจ้าตัวเปิดปากพูดกับผมด้วยประโยคที่ทำเอาใจร่วงลงโถสวมแล้วถูกกดชักโครกลงคอห่าน (เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่าใจผมมันร่วงลงไปลึกขนาดไหน...)

“จุดที่สามารถแทงได้และไม่ตายในทันที ตำแหน่งช่วงท้องน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ”

ไม่ตายในทันที... แม่งแปลได้อีกความหมายว่ากูมีสิทธิ์ตายได้ถูกไหม?

ฮือออ ผมอยากเขียนใบลาตายล่วงหน้า ไม่รู้ว่าคุณแม่ที่น่ารักของผมได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ให้ลูกชายสุดหล่อแสนจะเพอร์เฟ็คสุดๆ คนนี้เอาไว้แล้วหรือยัง พินัยกรรมก็ยังไม่ได้เขียน จดหมายลาคนที่รักก็ยังไม่ได้ร่ายบรรยายความรู้สึกลงไปเลยสักฉบับ ทั้งยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอีกตั้งเยอะตั้งแยะ ให้ตายตอนนี้ผมก็คงกลายเป็นผีที่นอนตายตาไม่หลับ วิญญาณวนเวียนอยู่ในที่ที่ผูกพันไม่ยอมจากไปไหน ซ้ำยังไม่ได้ตายบนโลกที่ผมเกิดขึ้นมาอีก

ชีวิตไอ้วีดูจะน่ารันทดอดสูยิ่งกว่านางเอกในละครหลังข่าวเกินไปแล้ว!!!

“ไม่เหลือเวลาแล้ว จะทำสิ่งใดก็รีบตัดสินใจ มิเช่นนั้น ‘พวกมัน’ ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อไหร่ สถานการณ์คงเลวร้ายกว่านี้เป็นแน่” เป็นคนประหยัดคำพูดที่วาจามีค่าเทียบเท่าทองคำหนึ่งบาทพูดขึ้น เทรซัสมองผมที่เล่นบทโศกแข่งกับนางเอกในนิยายไทยด้วยสายตาเย็นเยียบเอาจริง

ผมลองมองตามที่อีกฝ่ายพูด ดักแด้สามศพมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าตอนแรกอักโข มีสภาพบวมเปล่งใกล้คลอดเต็มที ไม่รู้หรอกนะว่ามันจะมีผีเสื้อแสนสวยฟักตัวออกมาหรือเป็นผีห่าซาตานนรกตัวใดถือกำเนิด รู้อย่างเดียว

กูต้องรีบจิ้มพุงตัวเองแล้วครัช!

“เชอเชส ผมขอยืมดาบของนายหน่อยได้ไหม” ดูยังไงมีดสั้นของผมก็อานุภาพเป็นรองกว่าดาบเล่มยาวอยู่หลายเท่า บทจะเรียกเลือดครั้งใหญ่ทั้งทีก็เอาให้แม่งสุดๆ ไปเลยดีกว่า เจ็บครั้งเดียว(?)เกินพอ

แต่เจ้าม่วงดันส่ายหน้าไม่ให้ผมยืมซะงั้น...

เฮ้ยๆๆ เวลาอย่างนี้มาทำงกเรอะ!?

“มิใช่ข้าไม่อยากให้นะครับ เพียงแต่...” เขาชักด้ามดาบออกจากฝัก เพียงแค่วูบเดียวก็จ้วงทะลวงเข้าใส่กลางลำตัวของผมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

ผมหลับตาแน่น คิดถึงความเจ็บปวดที่เลวร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่พุ่งเข้ามา พร้อมกับด่าสวดส่งเจ้าม่วงในใจที่กล้าทำร้ายผมได้ลงคอ!

ทว่ารอแล้วรอเล่าความเจ็บปวดที่ความคิดนำไปก่อนหน้ากลับไม่เกิดขึ้นจนเครื่องหมายคำถามเด้งขึ้นเต็มหัว ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นทีละข้าง ก้มลงมองเนื้อโลหะสีเงินที่เห็นอยู่ชัดคาตาว่าแม่งแทงทะลุหลังผมไปแล้ว

ใช่ แทงทะลุไปแล้ว และแทงทะลุไปเลย ไม่เจ็บ ไม่ปวด เหมือนผมเป็นภาพลวงตาที่ไม่สิ่งใดสามารถแตะต้องได้

นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกวะ?

หรือผมตายห่าไปแล้ว??

ที่ยืนอยู่นี่คือวิญญาณ???

โอ๊ยยย งง!

“ดาบของชาวแสงจันทร์มิอาจทำอันตรายต่อชายาแห่งดวงจันทร์ได้ครับ”

เจ้าม่วงเฉลยให้ฟังด้วยถ้อยคำเรียบรื่นแต่สถานะบรรลัยลงอย่างคำนวนหาผลลัพธ์ไม่ได้

เฮ้ยๆๆ อย่าบอกนะว่าผมต้องใช้มีดสั้นแทงพุงตัวเองจริงๆ น่ะ ความยาวมันแค่สี่นิ้วเองนะเฟร้ย กว่าผมจะแทงจนเลือดมันไหลเป็นก๊อกน้ำได้ ไม่ใช่ว่าต้องแทงซ้ำลงไปหลายๆ ครั้งจนกว่ามันจะได้เรอะ!?

จากที่โอกาสรอดต่ำเตี้ยเรี่ยนรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ความหวังไม่ยิ่งดิ่งลงเหวเอาชีวิตไปแขวนอยู่บนปากทางเข้าห้วงอเวจีเลยรึยังไง

ผมไม่ไหวจะเคลียร์อยู่แล้วนะ!

ในขณะที่ตกลงผลประโยชน์กันได้ไม่ลงตัว(?) ความหวังครั้งสุดท้ายของหมู่บ้านก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเจ้าชายขี่หมาขาวปรากฏตัวพร้อมกับอาวุธคู่กายที่สามารถทำร้ายผมได้แน่ๆ (นี่กูควรดีใจป่ะวะครับ?)

เทรซัสยื่นดาบของเขามาให้ผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างกับฉาบความรู้สึกเอาไว้ด้วยน้ำแข็งพันปี พร้อมกันนั้นก็เสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษที่ทำให้ผมต้องฝืนกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก

“ลองใช้ดาบของข้าดูจะเป็นไร ในเมื่อตกลงกันได้ลำบากนัก จะให้ข้าช่วงสงเคราะห์แทงเจ้าให้ด้วยเลยรึเปล่า ข้ายินดีรับหน้าที่นั้นด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง”

แววตาวาววับของหมาป่าสีขาวที่ครุกรุ่นไปด้วยอารมณ์หงุดหงิดฉาบวาบออกมาให้องศาความหนาวเย็นในห้องลดฮวบลงกะทันหัน จนผมต้องกัดฟันฉีกยิ้มเป็นมิตรให้เจ้าสีหมอกใจร่มๆ ลงหน่อย ถึงแม้อีกฝ่ายจะเต็มใจจิ้มพุงผมให้หมดเรื่องหมดราวเป็นอย่างยิ่ง แต่กูนี่แหละครับที่เกรงใจคุณมึงอย่างยิ่งยวดไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย!

และถ้าให้ดีจนน่าแจกทิปให้... เอาดาบที่ยื่นมาพาดลำคอผมไปไกลหน่อยเถอะพ่อคุณ เดี๋ยวผีผลักซาตานโผล่มาแกล้งขึ้นมาล่ะผมได้ตายห่าจริงๆ นะเออ!





--------------------------------------------------------------
มุ้งมิ้งกันต่อไป #มุ้งมิ้งในแบบเลือดสาดอ่ะนะ ฮ่าๆๆ

PS. ขอโทษืที่หายไปนานนะก๊า พอดีโดนลักพาตัวไปศรีราชามา พอกลับมาก็ไปงานนู้นงานนี้จนถึงวันเปิดเรียนก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาว่างเลยค่ะ T v T

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น่าสงสารพระชายาจริงๆ เลือดจะหมดตัวก่อนไหมล่ะนั่น

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
วีน้อยกลอยใจของแม่น่าสงสารจริงๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โธ่.....ยอมสละเลือดเพื่อช่วยว่าที่สามีเชียว
พระชายาวีช่างหาญกล้ายิ่งนัก

ว่าแต่....เจ้าตัวม่วงขนนุ่มนี่ออกแนวซาดิสม์หน้าตายใช่ไหม? ...ตรงที่แทงแล้วไม่ตายทันที....โว๊ะ!




ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โดนแทงซะงั้น

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
มุ้งมิ้งเลือดสาดจริงๆ บางทีชายาวีก็ฮาเกิน

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วต้องทนคือวี หุหุ ภารกิจสมกับเป็นชายา

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
และแล้ว การเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้น5555

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตายๆ งานนี่นุ้งวีโชกเลือด
ระวังเป็นโลหิตจางนะ ขอบอก 5555

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
หนูวีจะตายไหมเนี่ยยย 55
รอตอนต่อไปค่าา

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ varirinnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1


-18-
คำสัญญาของเจ้าชายแห่งดวงจันทร์




กี๊ซซซซซซซซ

เสียงร้องบาดหูของอสูรกายที่ใกล้จะถือกำเนิดดังสะท้านห้องลงทัณฑ์ มนุษย์อย่างผมต่อให้อุดหูสนิทแค่ไหนก็ยังปวดหูแทบตาย ไม่ต้องสืบเลยว่ากระต่ายกับหมาป่าที่มีประสาทสัมผัสด้านการรับฟังดีกว่ามนุษย์ตั้งหลายเท่าจะตะลัลล้ากันขนาดไหน

“โอย หูข้า...” เจ้าดำเซริมแทบลงไปแดดิ้นที่พื้น คนอื่นๆ ยังดีหน่อยที่รักษาภาพพจน์กันได้ดีเยี่ยม ยืนนิ่งทั้งที่คิ้วขมวด ปิดตาแน่น กัดฟัดกรอด ต้องขอยกนิ้วให้เลยว่าความอดทนของพวกนายนั้นช่างเป็นเลิศในใต้หล้า

“ไม่ได้การ มันเริ่มกัดกินเครื่องสังเวยแล้วขอรับ!”

ฟาฮาหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคนท้องผูกถ่ายไม่ออกมาสามวันติด ซาวน์เอฟเฟคที่เป็นเสียงเขมือบแบบตะกรุมตะกรามดังขึ้นชวนสยองหนักประหนึ่งผมได้หลุดเข้ามาอยู่ในหนังสัตว์ประหลาดก็ไม่ปาน พอลองกวาดสายตาไปทางซ้ายหวังหาที่พึ่งให้ชวนอุ่นใจขึ้น ก็พบว่าเจ้าม่วงของผมกำลังยืนหน้าทะมึนบ่งบอกว่ากูโคตรกลุ้มอยู่ เบนไปทางขวาอีกนิดก็ปะทะเข้ากับดวงตาสีฟ้าที่มองมาแบบโคตะระจะกดดันกัน

เทรซัสครับ... ไม่ต้องมองผมซะเย็นเยียบขนาดนั้นก็ได้ ลูกกะตาคุณแทบจะพ่นน้ำแข็งใส่หน้าผมได้อยู่แล้ว!

อย่าลีลาให้มันมาก

จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ

หรือจะรอจนกว่า 'ไอ้นั่น' มันฟักตัวออกมาก่อนค่อยตัดสินใจได้!?

ความคิดอีกฝ่ายอ่านได้ไม่ยากเลยจากสายตาที่มองมา แม่งทั้งเร่งทั้งกดดัน บีบคั้นจิตใจอันแสนบอบบาง(?)ของผมอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทำไมทุกสิ่งมันต้องมาลงที่ไอ้วีสุดหล่อคนนี้ตลอดเวย์เลยครับ หน้าที่เสียสละแห่งชาตินี้ไม่ต้องยัดให้ผมบ่อยนักก็ได้ ...กูเข็ดจะแย่แล้วนะ!

ผมฟาดฝ่ามือลงแก้มดังเพี๊ยะเรียกกำลังใจ ไม่ลุยอย่างสง่างามตอนนี้ก็ไม่รู้จะมีโอกาสได้ทำตอนไหนอีกแล้ว (ใช่เหรอวะไอ้วี?)

“เอ้า แทงมาเลย! ผมพร้อมแล้ว!” ผมปิดตาตะโกนดังลั่น กางสองแขนออกเตรียมพร้อมรับความเจ็บเต็มที่ นาทีนี้ไม่รู้ว่านับแกะแล้วจะช่วยอะไรไหม ขาผมแม่งสั่นพั่บๆ ไปหมดแล้ว!

หมาป่าสีหมอกได้ยินดังนั้นก็ช่างทำงานได้ว่องไวทันใจนัก ผมบอกให้แทงก็แทงฉัวะลงมาเลยแบบไม่มียั้งมือเลยสักกะนิด ชั่วขณะที่ปลายดาบเสือกตัวเข้ามาในพุงผ่านชั้นเนื้อหนังและไขมันอันอุดมสมบูรณ์ มันจุกก่อนค่อยรู้สึกเจ็บจนแทบจะลงไปชักดิ้นชักงอร้องงอแงบนพื้น ในจังหวะที่โลหะสีเงินถูกดึงชักกลับไป เลือดพลันทะลักออกมาเป็นสายน้ำพร้อมกับสติที่ถูกดีดผึงจนแตกกระเจิง

“อึก...!!!” สองมือกอบกุมบาดแผลที่เจ็บจี๊ดถึงใจลามไปถึงตับไตไส้ติ่ง เชอเชสหน้าตาตื่นรีบก้าวเข้ามารับร่างผมไว้ก่อนที่จะหงายหลังล้มลงจูบพื้น เสื้อผ้าชุดหนาของผมเปียกชุ่มไปด้วยสีแดงเลือด มือหนึ่งถูกกอบกุมไว้คล้ายกับคนใกล้ตายที่มีคนรักคอยดูใจอยู่ข้างๆ เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต

เชี่ย...ไม่เอาช็อตนี้ได้ไหม ผมยังไม่ตายและไม่พร้อมจะตายตอนนี้ด้วย!

“ร..รีบเอาเลือดผม...ไปใช้...เร็ว..เข้า.....”

ผมพยายามพูดให้เป็นภาษาที่สุดเท่าที่แรงอันน้อยนิดจะเอื้ออำนวย โดยลืมไปซะสนิทว่าตัวเองสามารถสื่อสารภาษาใจกับสิ่งมีชีวิตสีม่วงแถวนี้ได้

เชอเชสผงกหัวรับคำ รีบใช้เวทย์เดิมดูดกลืนเลือดทั้งหมดของผมขึ้นจากพื้นและเสื้อผ้าที่เปียกชุ่ม บอลเวทย์ลูกใหญ่บรรจุเลือดของผมไว้เต็มอัตรา ปริมาณมากกว่าที่ผมกับไอ้ธาเคยไปบริจาคที่สภากาชาดไทยร่วมกันซะอีก

ทีแรกผมก็คิดว่าเชอเชสจะซัดบอลเลือดลูกนั้นไปตรงกลางห้องเพื่อสลายอาคม ทว่าไม่ใช่ เขาใช้มันซัดใส่เส้นใยสีดำเหนียวหนืดที่ปิดกั้นทางเข้าออกห้องนี้แทน จากห้องที่ถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนาจึงค่อยคลายออกเผยให้เห็นทางรอดที่ทุกชีวิตในที่นี้พร้อมจะกระโดดเข้าใส่ ถ้าผมยังวิ่งไหว กูนี่แหละครับจะเป็นคนแรกที่พุ่งตัวออกไปจากห้องนี้ก่อนใครเพื่อนเลย

“อย่าชักช้า รีบไปจากที่นี่เร็วเข้า!”

เจ้าม่วงออกคำสั่งกับสององครักษ์และหนึ่งนายกองจากต่างแดนทันทีที่เส้นทางเปิดออก แต่เพราะความกว้างมันเหลือแค่พอให้หนึ่งคนเดินผ่านได้ เชอเชสเลยจัดท่าให้ผมใหม่เปลี่ยนเป็นขึ้นขี่หลังเขาแทน ซึ่งการตกอยู่ในท่วงท่านี้มันทำให้เลือดจากบาดแผลของผมกระฉูดแล้วกระฉูดอีก เจ้าม่วงวิ่งทีปากแผลก็เปิดที เลือดมันเลยทะลักออกมาไม่หยุด กลิ่นสนิมเหล็กลอยตลบอบอวลจนผมคิดว่าชีวิตนี้คงไม่รอดแน่แล้ว...รอดได้กูแม่งโคตรตายยากเลยเหอะ สติสัมปชัญญะกำลังขาดลงทุกขณะ ทว่าความระทึกครั้งใหม่ที่ไล่หลังตามมาแม่งดันเสือกเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดีที่ทำให้ผมตาสว่างยิ่งกว่ากระดกคาเฟอีนเข้าไปสามถ้วยติด

ฮว้างงงงงงง

เสียงคำรามลั่นของอสูรกายที่เพิ่งถือกำเนิดดังขึ้นประกาศศักดา ไอเย็นแผ่อนุภาพจนทุกชีวิตที่ตกอยู่ในอาณาเขตของมันขนลุกวาบไปทั่วสรรพางค์กาย หัวใจสัมผัสได้ถึงความกลัวที่ฝังลึกลงในจิตวิญญาณ เสียงโครมครามที่ดังไล่หลังตามมาทำเอาผมลืมเจ็บไปชั่วขณะ สิบเล็บเผลอกดจิกบ่าเจ้าม่วงแน่น ได้แต่เร่งบอกให้เจ้าม่วงขยับเท้าไวขึ้นอีกนิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น(?)

“เชอเชส พวกเด็กในกรงขัง!”

ผมร้องเตือนเมื่อการพังทลายของปราสาทมันเริ่มหนักขึ้นพร้อมกับตัวอะไรบางอย่างที่ยากจะจินตนาการถึงกำลังไล่หลังตามมา เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังอื้ออึงพร้อมกับมือหลายคู่ยื่นออกมาไขว่คว้าขอความช่วยเหลือ

“ทราบแล้วครับ” เชอเชสรับคำอย่างว่าง่ายก่อนหันไปสั่งให้ฟาฮากับเซริมช่วยทำลายแม่กุญแจลงเพื่อปลดปล่อยเหล่าคนที่ถูกจับตัวมากักขังไว้ไม่ว่าจะด้วยความผิดอะไรก็ตาม

ทันทีที่ได้รับอิสระจากผู้บุกรุก ทุกชีวิตที่รักตัวกลัวตายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่รอช้ารีบโกยอ้าวออกจากที่คุมขังกันเร็วไว สองขาสับแข่งกับกระต่ายต่างอาณาจักรและท่านนายกองหมาป่าที่หน้านิ่งวิ่งอย่างไวไม่แพ้คนอื่น ครั้นไอหมอกสีดำพวยพุ่งขึ้นมาครอบงำทางเดินทุกตารางนิ้วเอาไว้พร้อมกับกลิ่นอายชั่วร้ายที่เหม็นเน่าบรรลัยตามมา จากสองขาที่พากันโกยหน้าตั้งในร่างมนุษย์จึงเริ่มเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นหมาป่าตามเดิมแล้วพุ่งทะยานด้วยสี่เท้าแทน

เพียงพริบตาเดียว หมาป่าตัวเล็กตัวน้อยก็ซอยเท้าแซงหน้าพวกผมไปเรียบไม่เห็นฝุ่น เหลือทิ้งไว้แต่อีตัวข้างหลังที่ร้องฮว้างๆ ไล่ตามพวกผมมาอย่างกับแม่งน่ารักนักหนา ตาผมเริ่มปรือเมื่อเราหลุดออกมาจากทางลงไปยังชั้นใต้ดินกันได้ ยังไม่ทันจะได้งัดแรงที่เหลือร้องไชโยออกมาก็ต้องงับปากให้แน่นเพราะถูกปลายหอกนับสิบพุ่งจ่อมาที่คอหอย เหลือบตามองซ้ายขวาก็พบว่ามีเจ้าเด็กหมาป่าถูกทหารยามจับกุมตัวไปไม่น้อย ตาละห้อยหูตกกันไปตั้งหลายตัว

“ยอมวางอาวุธแล้วไปกับพวกเราซะ มิเช่นนั้น...” ยังไม่ทันที่นายทหารหมาป่าคนนั้นพูดจบ เสียงตูมที่ดังขึ้นพร้อมกับแรงกระแทกสนั่นหวั่นไหวพลันบังเกิดแบบไม่มีใครตั้งตัวติด

เจ้าสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้ไปเลียนแบบฉากเปิดตัวของก็อตซิลล่าอีท่าไหนได้ปรากฏตัวขึ้นเหนือผืนดินพร้อมกับปากที่อ้ากว้างส่งเสียงทำลายประสาทหูออกมาต่อเนื่องไม่หยุด ลำพังแค่เสียงกรีดร้องของมันก็แทบจะกระชากวิญญาณคนฟังให้ออกจากร่างได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่มีความทนทานต่ำอย่างผม ซ้ำยังบาดเจ็บหนักแทบปางตาย...

โอย... ใครก็ได้ ช่วยกดปุ่มฉุกเฉินเรียกหมอด่วน… ผมนี่จะไม่ไหวแล้วครัช......

อ่อก..ก....

“ฟาฮา รีบรักษาท่านวีแล้วพาไปรวมตัวกับคนอื่นๆ ซะ ทางนี้พวกข้าจะรับมือเอง!”

แว่วเสียงเจ้าชายกระต่ายยืนสั่งการด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ จากนั้นสติสตังผมก็ลอยละล่องไปในความฝัน ไม่นานก็รู้สึกถึงความอุ่นเหมือนมีใครเอาถุงน้ำร้อนมาวางไว้อยู่บนพุง ความเจ็บเริ่มเลือนหาย แทนที่ด้วยความสบายเหมือนกำลังนอนเล่นอยู่ในสวนหินที่แม่งทั้ง...หนาว...แข็ง... และเปียกชื้น?

เหวย?????

พรวด!

ผมทะลึ่งลุกพรวดขึ้นมาทำหน้าเหรอหราใส่คนที่กำลังเท้าคางจ้องผมตาแป๋ว

หัวดำๆ แบบนี้... ตาดำๆ แบบนี้... หน้าเกรียนๆ แบบนี้...

ทั้งชีวิตที่ผมรู้จักมันก็มีอยู่แค่คนเดียว!

“ไงมึง ตื่นจากนิทราแล้วเหรอจ๊ะ นึกว่าต้องรอให้เจ้าชายกระต่ายมาจุมพิตซะอีกถึงจะฟื้นขึ้นมาได้”

ว่าที่เทพกระต่ายแห่งดวงจันทร์ฉีกยิ้มจนตาเกือบปิด บนหัวมันมีลูกสุนัขตัวหนึ่งเกาะอยู่ บนบ่าข้างซ้ายก็มีอีกหนึ่ง บนตักมันก็ด้วย ตรงเท้ามันก็มี รอบๆ นี่ล้อมกรอบเป็นคอกเลยครับ...

“มึง... และนี่...” ผมชี้ไปที่ลูกหมาป่าสีขาว สีเงิน สีฟ้า สีเทา มีตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และตัวโตเต็มวัยให้เลือกสรร ถัดไปไม่ห่างมีฟาฮานั่งพักสายตาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พี่กล้ามลูกน้องของเทรซัสคอยเฝ้าระวังให้พร้อมกับลูกน้องใต้การปกครองอีกหลายคน ผมลองมองซ้ายแลขวาดูแล้วก็ไม่พบคนอื่นอีก “เชอเชสกับคนอื่นๆ ล่ะ?”

คนที่กำลังฟัดพุงลูกหมาป่าอยู่แสยะยิ้มเหี้ยแบบไม่มี ม.ม้า ปิดท้ายออกมาแบบกะแซวผมเต็มที่ ตานี่วิ้งวับซะจนผมแทบจะกางสองนิ้วพุ่งไปทิ่มตาแม่งให้บอดทั้งสองข้างไปเลย

“อะไรๆ มองแบบนี้คือไร?”

“กูก็ไม่ได้อยากจะแซวอ่ะนะ แต่ตื่นมาก็เปิดปากถามหาสามีก่อนใครเพื่อนเลยนี่มันยังไงกันวะ เป็นห่วงเขา? รักเขาแล้วก็บอก หุหุ” มันยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะด้วยท่วงท่าที่บอกได้เลยว่าแรดมาก มีอุ้มหมาขึ้นมาเป็นโล่กำบังวิชาหมัดมวยของผมซะด้วย แมนชิบหายเลยใช้หมาเป็นโล่อ่ะ

“ตลกละ กูถามดีๆ เสือกกวนตีนกูอีก” ผมแจกค้อนมันวงใหญ่ก่อนก้มลงสำรวจพุงป่องๆ ของตัวเอง ไม่เจ็บ ไม่ปวด แถมเสื้อผ้ายังเป็นชุดใหม่แกะห่อ สวมทับอีกชั้นด้วยผ้าคลุมหนังสัตว์ผืนหนาที่ช่วยบรรเทาความหนาวไปได้มากโข “นี่มึงเปลี่ยนชุดให้กู?”

“เออ สำนึกบุญคุณกูด้วยล่ะ” มันยักคิ้วกวนบาทา จับอุ้งตีนหมาโบกไปมาด้วยท่วงท่าน่ารักแอ๊บแบ๊วเพื่อกวนตีนผม

“แล้วจะตอบคำถามกูได้ยัง?”

“เรื่องสามีมึง? คนอื่นๆ ? หรือจะเอาเป็นเรื่องเจ้าพวกนี้ก่อนดี?” ว่าแล้วมันก็ผายมือบอกให้รู้ว่า ‘เจ้าพวกนี้’ ที่มันพูด หมายถึงบรรดามะหมาสี่ขาครับที่นั่งกระดิกหางกันน่ารักน่าอุ้มกลับบ้าน

“ทุกอย่าง” เนื่องจากเสียเลือดไปมาก ถึงแม้จะได้รับการรักษาจนไม่หลงเหลือความเจ็บปวดแล้ว ทว่าร่างกายยังคงอ่อนเพลียและไร้เรี่ยวแรงจะทำอะไร ผมเลยตอบไอ้ธาสั้นๆ ก่อนเอนตัวลงนอนเป็นเบาะมนุษย์ให้ลูกหมาป่าสองสามตัวขึ้นมานอนขดพึ่งพิงไออุ่น แต่ละตัวน่ารักน่าบี้ทั้งนั้น ไว้เชอเชสกลับมาก่อน ผมจะขอเขาเอากลับไปเลี้ยงด้วยสักตัวสองตัว

“งั้นเริ่มจากเจ้าพวกนี้ก่อนละกัน” เจ้าเพื่อนบ้าเอาตีนหมามาประทับหน้าผม แล้วปล่อยเจ้าตัวสีขาวลงให้มันเลียแก้มผมอยู่อย่างนั้นด้วยความรักใคร่(?)

“ฟาฮาบอกว่ามึงเป็นคนเอ่ยปากขอให้ช่วยเด็กพวกนี้ออกมาจากคุก ตอนเขาพามึงมารักษาตัวที่นี่ เจ้าพวกนี้ก็ตามมาด้วย อยู่เฝ้ามึงไม่ยอมไปไหนเลยว่ะ”

ลูกหมาป่านับสิบพร้อมใจกันเห่ารับคำพูดของไอ้ธา บ้างกระโดดขึ้นมาเลียหน้าแสดงความรัก บ้างเอาหัวถูไถออดอ้อน ต่อมความรักสัตว์ในตัวผมพลันโลดแล่นขึ้นมาทันที อยากจะจับเจ้าพวกนี้ฟัดเรียงตัวชะมัด ติดก็แต่สังขารตัวผมนั้นยังไม่พร้อมให้ทำอย่างนั้นได้ เลยได้แต่นอนแบ็บให้ลูกหมาป่าพวกนี้ย่ำยี(?)ต่อไป

“ส่วนคนอื่นๆ ...” เจ้าเพื่อนหัวดำยังคงหาเรื่องยืดเวลาที่จะพูดเรื่องเชอเชสออกไป โดยหารู้ไม่ว่าผมขี้เกียจรอเลยต่อสายตรงหาเจ้าม่วงของผมไปแล้วเรียบร้อย และได้ความว่านาเทลที่เชี่ยวชาญการใช้เวทมนต์และอาคมทุกรูปแบบได้รุดหน้าไปช่วยเชอเชสต่อกรกับอสูรหมื่นราตรี(ที่ตอนแรกกูนึกว่าชื่อดักแด้สามศพซะอีก) ตอนนี้กำลังฟัดกันนัวเนีย เหลือแค่ทำลายแกนกลางของเจ้าอสูรนี่ได้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกต่อไป

ทางด้านซอโรกับท่านลุงหมีดาเนสได้พบตัวคุณเชษฐ์แล้ว ทั้งสามคนรวมทั้งลูกน้องของแม่ทัพเจ็ดดาบกำลังไปช่วยพวกทิชากับจาเรลที่ห้องเก็บของหลังปราสาท ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง เพราะอาคมกลืนวิญญาณที่วางไว้เป็นกับดับมันร้ายกาจถึงขั้นติดหนึ่งในสิบอาคมต้องห้ามบนดวงจันทร์ ถ้าไม่ได้เลือดของมนุษย์โลกเป็นสื่อกลางในการทำลายอาคม ต่อให้มีเก้าชีวิตก็ยากที่จะเอาตัวรอด

เสียงคำรามของอสูรที่ถูกอัญเชิญด้วยมนต์ดำกู่ร้องดังก้องน่านฟ้า เรียกให้ผมผุดลุกขึ้นนั่งจนทำเอาหมาป่าตัวน้อยทั้งหลายที่ยึดตัวผมเป็นเตียงนอนกลิ้งตกไปหลายตัว

ไม่เพียงแค่ผมที่รับรู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงของสิ่งมีชีวิตที่สยายปีกบินขึ้นเหนือยอดปราสาท เจ้าพวกขนปุยต่างพร้อมใจกันย้ายที่นั่งมาซุกหลังผมกับไอ้ธาเหมือนเห็นเป็นที่พึ่งสุดท้าย แต่ละตัวหูตก ตัวสั่น หางจุกตูด มีก็แต่เจ้าขาวที่ไอ้ธาปล่อยมันเลียหน้าผมตัวเดียวเท่านั้นที่ตะเบ็งเห่าไอ้ตัวที่กระพือปีกบินอยู่ไม่ไกล

ตัวแค่นี้ยังทำเป็นซ่าส์ เดี๋ยวมันบินมาตามเสียงเรียกได้ตัวใครตัวมันนะเอ็ง...

อสูรตัวใหญ่ที่โผตัวขึ้นอวดศักดาเป็นสัตว์ประหลาดตัวเดียวกับที่ทลายชั้นใต้ดินแล้วปรากฏตัวขึ้นเหมือนก็อตซิลล่าในหนังก่อนที่สติของผมจะดับวูบไป ลำตัวสีดำมะเมื่อมนั้นช่างเด่นชัดเมื่อมันตัดกับท้องฟ้าสีเทาขาวของดินแดนน้ำแข็ง ส่วนหัวมันมีสามเศียร รูปหน้าเหมือนคนถักทอด้วยเส้นใยนับหมื่นเชื่อมต่อกับส่วนตัวที่เป็นสายระโยงระยางน่าขยะแขยง ริ้วสีดำโบกพัดไปตามสายลม เส้นสายสีดำเปรียบดั่งอาวุธใช้ทิ่มแทงทุกชีวิตที่เข้าใกล้

“เชี่ยแม่ง ตัวนี้ใหญ่กว่าที่กูเจออีก!”

ไอ้ธาผงะตามบรรดาหมาๆ ที่พร้อมใจกับขยับถอยหลังอย่างไม่ได้นัดหมาย จากคำบอกเล่าของนาเทลที่ส่งต่อมายังเชอเชสอีกที ทำให้ผมได้รู้ว่าเจ้าเพื่อนบ้านี่ก็พลีร่าง เอ๊ย พลีเลือดไปไม่น้อยเลยเหมือนกันกว่าจะรอดออกมาจากอาคมเจ้าปัญหานั้นมาได้

แต่คุณภาพชีวิตมันแลดูจะดีกว่าผมเยอะ เพราะอย่างน้อยนาเทลก็มีวิธีรับมือกับอาคมกลืนวิญญาณต่างจากเชอเชสที่ไม่ค่อยสันทัดด้านเวทมนต์เท่าไหร่ ไอ้ผมเลยจำเป็นต้องเสียเลือดไปเป็นลิตรกว่าจะเอาชีวิตรอดออกมาจากใจกลางของอาคมนั้นได้

“พวกนั้นจะไหวมั้ยวะ...”

ถามยังไม่ทันขาดคำ สายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงลงมาจนเห็นเส้นแสงสีฟ้าเงินสว่างวาบไปทั่วบริเวณ อสูรหมื่นราตรีกรีดร้องเสียงแหลมสูง พ่นไฟผลาญสีดำทมิฬออกจากปากเป็นวงกว้างแต่กลับถูกสายน้ำที่ไม่รู้ผุดขึ้นมาจากตอไหนสาดโครมเข้าใส่จนเปลวไฟมอดดับลงเหลือเพียงแค่เขม่าควันไฟลอยละล่องในอากาศ

การโจมตีระรอกสองโถมเข้าใส่ทันทีไม่ให้อสูรหมื่นราตรีตั้งตัวทัน พายุใบมีดถูกเรียกใช้จนเห็นสายลมบิดเกลียวห้อขึ้นเป็นวงสูงเหมือนพายุทอร์นาโด เงาร่างสีดำทะมึนถูกตัดขาดเป็นชิ้นๆ เส้นสายร่วงกระจายเกลื่อนฟ้าจนดูคล้ายสายพิรุณสีดำจากระยะไกล

เสียงร้องกราดเกรี้ยวดังก้องกังวาน ปีศาจร้ายที่ถือกำเนิดขึ้นมนต์ดำพยายามดิ้นรนออกจากสายลมที่ผูกมัดตัวมันไว้กลางอากาศ แต่พันธนการจากจอมเวทย์ที่ไอ้ธาการันตีความเจ๋งไว้ประมาณสามหน้ากระดาษเอสี่นั้นร้ายกาจยิ่ง เพียงอาคมชั้นสูงหนึ่งบทก็สามารถฉีกกระชากร่างใหญ่โตจนขาดกระจุย ตามด้วยสายฟ้าฟาดที่กระหน่ำซัดใส่แบบกะให้มันดำไหม้ไม่เหลือซาก ไม่นานนักอสูรหมื่นราตรีก็สิ้นชื่อ เหลือเพียงก้อนเนื้อสีดำกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นเป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่งมันเคยถือกำเนิดขึ้นบนดินแดนน้ำแข็งแห่งนี้

ผมมองภาพบนฟ้าด้วยสายตาตะลึงงัน นี่น่ะหรือฝีมือที่แท้จริงของเจ้าชายลำดับสองแห่งอาณาจักรแสงจันทร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมขมังเวทย์ที่เก่งที่สุดในแผ่นดิน...

“ไงล่ะมึง นาเทลแม่งโคตรของโคตรเทพเลยใช่ป่ะล่ะ!”

เกลอซี้ของผมอวยเจ้าม่วงคนพี่อย่างออกหน้าออกตา มะหมาในมือมันถูกจับเหวี่ยงจนแทบเห็นลายก้นหอยในดวงตาทั้งสองข้างของเจ้าตัวน้อยที่น่าสงสาร

“มึง...จะดีใจก็เพลาๆ หน่อย อย่ารังแกหมา”

“เจ้านี่ชื่อซาร์ดีน”

มึงฟังกุมากครับเพื่อน... พูดไปคนละเรื่องเดียวกันเลย

“เอาชื่อปลามาตั้งให้หมาเนี่ยนะ?” น่าเห็นใจเจ้าสีเทาในมือไอ้เพื่อนบ้าของผมชิบหาย เป็นหมาป่าอยู่ดีๆ ดันได้ชื่อเป็นปลาทะเลที่มนุษย์โลกนิยมบริโภคกันซะงั้น เสียชาติเกิดดีแท้

“ก็สีมันดูน่าอร่อย”

นั่นหมาป่านะมึง...

ผมล้มตัวนอนอีกครั้งแบบขี้เกียจเถียง ที่เห็นผมเฉาไม่ใช่ว่าเบื่อความเกรียนของเพื่อนตัวเองหรอกนะ แต่หมดแรงด่าแล้วต่างหาก... การเสียเลือดมากเกินไปมันส่งผลกระทบต่อร่างกายค่อนข้างมาก ยามนี้ผมจึงต้องการการพักผ่อนที่มากกว่าปรกติ นี่ถ้าได้เตาผิงไฟด้วยจะดีมากๆๆๆๆ เลย

คิดถึงความอุ่นความอุ่นก็มา มาพร้อมกับวงแขนที่คุ้นเคยและกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้ใจผมสงบทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ปรือตาขึ้นมองก็พบรอยยิ้มที่ปั้นแต่งขึ้นแต่ไม่โรคจิตเหมือนครั้งแรกๆ ที่พบกัน เป็นเชอเชสนั่นเองที่รวบตัวผมขึ้นจากพื้นมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ความอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาจนผมซุกตัวเข้าหาเขามากกว่าเก่า ไม่สนใจคำแซวของไอ้ธา ไม่สนใจเจ้าพวกลูกหมาป่าที่พากันเห่าหอนต้อนรับคนมาใหม่

“บาดเจ็บตรงไหนมั้ย?” ถามคนที่ทำหน้าที่เตาผิงส่วนตัวให้ผมได้อย่างดีเยี่ยม เสร็จจากการกำจัดอสูรหมื่นราตรีก็พุ่งมาหาผมทันทีแบบนี้ ...มันน่าดีใจนิดๆ แฮะ

“ไม่ครับ” กระต่ายขี้ฉวยโอกาสประทับความอุ่นลงบนหน้าผากผมหนึ่งที กอดรัดแน่นขึ้น เป็นการกระทำที่เหมือนปรกติแต่ผมกลับสัมผัสความผิดแปลกได้เจือจาง

“เป็นอะไรรึเปล่า?”

อยากจะงัดตัวขึ้นมาคุยด้วยให้รู้เรื่อง แต่ความหนักที่เปลือกตากลับมีมากกว่าเมื่อผมโดนมนต์บางอย่างทำให้ดำดิ่งลึกลงสู่ห้วงนิทราทั้งที่ไม่เต็มใจ

ก่อนจะเดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน ผมได้ยินเสียงนุ่มของเจ้าสีม่วงดังขึ้นอยู่ข้างหู เป็นคำสัญญาที่หนักแน่นยิ่งกว่าครั้งใดที่ผมเคยได้รับจากเจ้าตัว

เขาบอกว่าเขาจะต้องเก่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้ เพื่อที่ในอนาคตผมจะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้อีก

เชอเชสให้สัญญาที่ทำให้ผมยิ้มบางๆ ก่อนยอมหลับใหลในอ้อมกอดเขาแต่โดยดี

เจ้าชายกระต่ายพระองค์นี้... ผมคิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกเขา



---------------------------------------------------------
ซึ้งๆ ปิดท้าย นุ้งวีเริ่มเปิดใจ(?)ละฮะะะะะะ
ปล. ชอบเวลาที่น้องธากับนุ้งวีอยู่ด้วยกันที่สุดแล้ว เวลาเขียนเพื่อนซี้สองคนนี้คุยกัน มันช่างปลื้มปริ่มระอาใจ5555555
ฝันดีก่ะทุกคนนนน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ตอนนี้นุ้งวีเสียเลือดคนอ่านก็อยากเสียเลือดบ้าง อิอิ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ชอบตอนวีกับธาอยู่ด้วยกันอีกคน มันเนียนแบบเพื่อนคุยกันจริง ๆ

อา...นอกจากจะมีชีวิตชิลด์ ๆ (?) อยู่ในดงกระต่ายขนนุ่ม นุ้งวีกับนุ้งธายังมีดลงหมาขนฟูให้ฟัดเล่นอีก

อิจฉาาาาาา

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
หวานกันอีกแล้วค่ะ  :impress2: :katai2-1:

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
เบื่อผัวเมียคู่นี้จริงๆ 55
รอตอนต่อไปค่าา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น่ารักกก

ออฟไลน์ noksamsee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :mew3:ให้รางวัล ว่าที่สามีด้วยน่ะ

ออฟไลน์ เกรียนเหมียว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :mew1: เจ้าส้มน่ารักเสมอ อยากจะเก่งขึ้นเพื่อปกป้องคนรัก  :katai2-1:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
สองคู่
น่ารักจัง
เชอเชสวี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด