(เรื่องไม่สั้น) ยอม...มึงคนเีดียวอ่ะ++ทะเล ~สารภาพ P.21 1/4/12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องไม่สั้น) ยอม...มึงคนเีดียวอ่ะ++ทะเล ~สารภาพ P.21 1/4/12  (อ่าน 173859 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rouk_Uknow

  • Delitto
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
เป้ทําได้ทุกเมื่อ ท่ามีโอกาส 5555

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เป้หื่นที่สุดในสามโลกกกกกกกกกกกกกกก

ปิงปองคงเหนื่อยแย่.......หรือจะชอบ อิอิ

อย่าลืมมาต่ออีกนะค๊าฟฟ รอเหมือนเดิมเล๊ยย^^

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
คู่นี้หวานได้ใจ จะปีนภูไหวไหมเนี่ย

ออฟไลน์ myall

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ร้อนแรงได้ตลอดคู่นี้ อิอิ แต่เราก็ชอบ
อย่าเพิ่งจบนะคะ ขอหวานๆอีกเยอะ เพื่อนก็ยังไม่รู้นิใช่มั้ย
เป้น่ะเพลาๆบ้างนะ ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้จะขึ้นภูนี่ ปิงปองไม่ไหวล่ะแย่เลย

ออฟไลน์ ขนมหวาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +190/-2
เป้หื่น แต่คนอ่านก็ชอบนะ
เหมือนว่าคุณหนูกับคุณชายเค้าจะมีซัมติงกันมั้ย
ตามอกตามใจกันเหลือเกิน :jul3:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
อยากอ่านต่ออ่ะ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ทำอย่างอื่นบ้างก็ได้นะคู่นี้ อย่าหมกมุ่นมาก
พรุ่งนี้ปีนภูไม่รอด จะขำไม่ออกนะจ๊ะ

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
เป้ทุกที่ทุกเวลา 555 ปิงปองเหนือยเเย่เลย ิอิอิ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เป้หื่นมากอ่ะ ระวังจะไม่มีแรงเอานะพรุ่งนี้่อะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sbeam14

  • I♥เล้าเป็ด ก๊าบๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-4
 :o8: น่ารักอ่ะ อยากอ่านต่อแล้วอ่าาา

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
รอก่อนนะคะ  ยังแต่งไม่เสร็จอ่ะ  หึหึ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ

tawan

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักกกกกก

เป้เอาแต่ใจ

ปิงปองก็ตามใจ :z1:

 :call:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
จะปีนไหวไหมเนี่ย :impress2: :-[

วายร้ายหน้าหวาน

  • บุคคลทั่วไป
มารอเช่นกันครับ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 12  ภูกระดึง (ตอนที่ 1)


เช้าวันรุ่งขึ้น พวกผมทั้งสี่คนกินอาหารเช้าที่
ทาง Baan Rai Jit Thaboon จัดไว้ให้
ก็ไม่มีอะไรมากครับ อาหารเช้าที่มีให้เราคือ
ข้าวต้มกุ้ง+ขนมปัง+กาแฟ/ไมโล+ไข่ดาว +เนย/แยม
คือประมาณว่าถ้าใครไม่อยากทานข้าวจะเลือกทาน
แต่ขนมปังไข่ดาว+กาแฟ ก็ได้ครับ เจ้าของที่พักเป็นกันเองมาก
หลังจากท้องอิ่มกองทัพสี่กุมารก็พร้อมจะเคลื่อนที่จากที่พัก 7 นาฬิกา
สารถีสุดหล่อวันนี้เป็นไอ้เอกครับ เมื่อวานนี้ไอ้นัยขับแทบจะทั้งวันแล้ว
มันเลยมอบหน้าที่ให้ไอ้คุณชายหล่อ ขับมาได้ประมาณ 20 นาทีก็ถึง
ทางขึ้นภูกระดึงที่เป็นเป้าหมายครับ
(เอ่อที่นานเพราะมีการแวะถ่ายรูประหว่างทาง  ไอ้คุณหนูจะแวะกินหนมบ้าง ฯ)
ไปถึงไอ้เป้เป็นคนจัดการเรื่องค่าขึ้นภูกระดึง+ค่ากางเต็นท์+ค่าสัมภาระ
พวกเราจ้างลูกหาบขนเต็นท์ขึ้นไปให้ แล้วการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
(หึหึ  ว่าแต่แค่ปีเขาทำไมกุภาคซะเหมือนต้องเข้าไปในแดงมหัศจรรย์เลย )
ง่าย ๆ ครับ แค่มองไปเห็นหินสกรีนลายรูปคนปีนเขา +คำว่าทางขึ้นเขา
ตัวเบ้อเริ่มเราก็เดินไปตามทางนั้นแหล่ะง่ายมั้ยครับ  ฮ่า ๆ
 พวกผมเดินไปเรื่อย ๆ ไปถึงจุดที่เรียกว่า “ซำแฮก” นี่ยังแค่ 1/3 ของระยะทางทั้งหมด
ก่อนจะถึงหลังแปลทุกคนยังอาการปกติครับ ยกเว้นผมที่นอกจากจะ
ขาสั้นกว่าเพื่อน ๆ แล้ว :z3: ยังขาสั่นแบบมีสาเหตุด้วย (ง่ะกุว่าแล้วไอ้เป้)
ไอ้นัย ไอ้เอก ไอ้เป้ เดินนำหน้าผมไปก่อนแล้วครับ มีผมที่รู้สึกว่า
เหนื่อย แค่ก็ค่อยปีนตามไปเลื่อย ๆ โดยมีพวกมันหันมามองหาผม
เป็นระยะ ๆ ไอ้เป้เดินลงมาหาผม ไอ้นัย กะ ไอ้เอกก็หยุดหันมามอง
“ไหวมั้ยครับ” ไอ้เป้ถาม
“เออ ...ไหวป่ะวะเตี้ย” ไอ้นัยตะโกนตามมาอีก
“ปิงปองถ้าไม่ไหว ให้กุถือของให้ก็ได้นะ” ไอ้เอกผู้แสนดี
“เออ ...ไม่เป็นไร กุขาสั้นมึงเดินไปก่อนเลยเดี๋ยวเจอกันหลังแปล” ผมว่า
ตะโกนตอบไอ้คุณหนู กะ คุณชาย (ส่วนมึงไอ้เป้ไปกะกุ  หุหุ)
พร้อมนัดจุดนัดพบไม่ต้องให้มันเสียเวลา เดิน ๆ หยุด ๆ
หันมามองผมเป็นระยะ  (กุกดดัน พวกมึงไปเถอะเดี๋ยวกุไปเอง ฮ่า ๆ)
“ได้  งั้นพวกกุไปก่อนเดี๋ยวเจอกันหลังแปลนะเตี้ย” ไอ้นัยตอบ
หันมามองไอ้เป้
“มึงอ่ะ” ไอ้นัยว่า
“พวกมึงไปก่อน กุไปพร้อมกับไอ้ปิงปอง” ไอ้เป้ตอบ
ว่าแล้วไอ้สองตัวก็เดินต่อโดยไม่สนใจผมอีก  ฮ่า ๆ
“ไหวมั้ย...ให้อุ้มป่ะ” ไอ้เป้ แซวครับ
“มะเหงกนิ” ผมว่า  ไอ้หล่อหัวเราะเบา  ๆ
“มานิ กุถือให้” มันว่า พลางดึงเป้สัมภาระออกจากหลังผม
ผมยอมแต่โดยดี (หึหึ กุจะได้ไม่หนัก กร๊ากกกกกกก)
“ขอโทษนะครับ...ยังเจ็บอยู่มั้ยเตี้ย” ไอ้หล่อกระซิบ :impress2:
ผมหันไปมองมันด้วยหางตา งอน ๆ นิดหน่อยแต่ไม่มาก
“กุบอกแล้วไม่ฟัง ไม่ให้ทำก็โกรธกุ” ผมว่าค้อน ๆ
“คร๊าบ ๆ  เป้ขอโทษครับ ก็ปิงปองน่ารักเองนิ” มันว่ายิ้มกริ่ม
“กูหล่อออออเว่ย” ผมเถียง
“เออ....มึงหล่ออออ พอใจยั๊ง ฮ่า” มันว่าขำผมท้องขดท้องแข็ง
(ชิส์  อย่าให้สาว ๆ มาใกล้กุนะ จะจีบให้ดู)
ผมกับไอ้เป้ค่อยเดินตามไอ้นัยกะไอ้เอกขึ้นภูไป  เราเดินไปเรื่อย ๆ
ส่วนผมพอไม่มีสัมภาระก้รู้สึกดีขึ้นมาก ลดแรงกดในการก้าวขาขึ้น
ขาที่สั่น ๆ ก็ลดน้อยลง ปีนได้สะดวกมากขึ้น 
กว่าจะมาถึงหลังแปลก็ใช้เวลาร่วม ๆ  6 ชั่วโมง หนักไปกับการเถลไถล
ถ่ายภาพซื้อของกิน หยุดพัก บ้างไม่ได้เร่งรีบอะไร  เจอไอ้เอกกะไอ้นัย
นั่งรออยู่ที่หลังแปลเรียบร้อยแล้ว
“มึงถึงนานยังอ่ะ” ผมเอ่ยถาม  แต่เห็นไอ้คุณหนุไม่ได้บ่นโวยวาย
ตอนที่ผมมาถึง ก็แสดงว่าพวกมันคงรอไม่นาน
“ไม่นานอ่ะ  พึ่งถึงเหมือนกัน ....  พาลิงไปถ่ายรูปกะต้นไม้อยู่” ไอ้เอกบอกขำๆ
ไอ้คุณหนูไม่ได้เถียงตอบยังทำหน้าระรื่นต่อไป ฮ่า ๆ :z2:
“กุรอมึงคนเดียวนั่นแหล่ะ มา ๆ มาถ่ายรูปกัน” ไอ้นัยว่า พลางลากผมกะไอ้เป้
ให้เดินตามไปนั่งเรียงกันใต้ป้าย ไอ้เอกตั้งขากล้องเรียบร้อย  ก็ตามมานั่งข้าง ๆ
กดรีโมทถ่ายภาพ อยู่หลายภาพ เปลี่ยนที่นั่งบ้าง เปลี่ยนท่าบ้าง
กระโดดลอยในอากาศบ้าง ฮา สุด ๆ อ่ะ แล้วลากขาเดินต่อไปที่พักอีก 3 กม.
ตอนนี้ผมเอาสัมภาระมาถือเองแล้วหลังจากไอ้เป้ช่วยถือระหว่างขึ้นเขา
ไปถึงที่พัก ก็ไปขอรับเต็นท์ที่จ้างลูกหาบให้ขนมา เอากาง
ผมกับไอ้เป้ ช่วยกันกางเต้นท์ ใกล้ ๆ กับเต็นท์ ไอ้นัยกะไอ้เอก
เราเว้นที่ว่างสำหรับก่อกองไฟ กว่าจะกางเต็นท์เสร็จก็ 4 โมงเย็นเข้าไปแล้ว
“หิวอ่ะ.....กุหิวแล้ว”   :เฮ้อ:ไอ้คุณหนูพูดหน้ามุ่ย หันไปบอกไอ้คุณชายครับ
(ตอนปีนเขาหน้าตามึงยังลั่นล้าอยู่เลย  ฮ่าๆ ตอนนี้ทำงอแง)
“ป่ะงั้นไปกินข้าวกัน” ไอ้เอกว่า  หันมาถามพวกผม
“พวกมึงอ่ะ”
“ไปดิ  กุก็หิวเหมือนกัน”  ผมว่า
“ป่ะ...งั้นไปกัน” ไอ้เป้หันมากอดคอผม เดินตามไอ้เอกไอ้นัยไป
“กอดไมอ่ะ เอาออกดิ หนักอ่ะ”  ผมว่างอน ๆ จริงๆ มันดูประเจิดประเจ้อไปป่ะ
“เอ๊า...โทษทีครับนึกว่าที่วางแขน หึหึ” ไอ้เป้ขำ
“ห่า  ..อย่าให้กุสูงแล้วกัน กุจะวางบนหัวมึงเลย” ผมด่ากลับ
“เหรออออออออ” มันลากเสียงซะยาว แล้วเอามือขยี้หัวผม
พอมาถึงร้านข้าว (อยู่ใกล้ ๆ ที่พักครับ)
“เอากระเพราไก่ ไม่เผ็ดครับ” คุณหนูสั่ง ส่งยิ้มหวานให้แม่ค้า
ที่ตอนนี้แทบจะละลาย เพราะแววตาช่างอ้อนของมันครับ
หึหึ ไอ้เอกเห็นแล้วยอมได้ที่ไหน มันเคยบอกว่า
ทำยังงี้เหมือนหักหน้ามันไม่ยอม ฮ่า ๆ พวกมันชอบแข่งกันจีบสาว
“คนสวยครับ  พี่ขอกระเพราหมูเผ็ด ๆ ครับ”  ไอ้เอกว่า
มันพูดเสียงหล่อ ส่งสายตาคม ๆ ไปที่แม่ค้า ตาไม่กระพริบ
(น้องเค้าน่าประมาณไม่เกิน20 เห็นจะได้ ผิวขาว น่ารักดี  อ่ะครับ)
จนน้องเค้าหน้าแดงแปร๊ดดด   ก้มงุด ๆ อายไปแล้ว  ฮ่า ๆ
เลือกเลยครับระหว่าง คุณหนูหล่อ+ขี้อ้อน กับ คุณชายหล่อคม+สุภาพ
“ค่ะ” น้องเค้าก็ยิ้ม ๆ รับออเดอร์ครับ แล้วเลี่ยงหันมามองผมสองคน
“พี่ขอกระเพราทะเลครับ” ผมบอก
(ในเมนูมันมีอ่ะ   อย่าพึ่งว่าปิงปองนะครับ)
“2 เลยครับน้อง พิเศษทั้ง 2 จานเลยนะ”  ไอ้เป้สั่งต่อ ก่อนจะหันมากระซิบผม
“บำรุงเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ ครับ” มันว่ายิ้ม ๆ
ส่วนไอ้สองตัวนั่น ก็มองเขม่นกันอยู่นั่นแหล่ะ ฮ่า ๆ แค่ฮา ๆ ครับ
พวกมันทำประจำ ก่อนจะแข่งหันไปส่งสายตายิ้มหวานให้น้องเค้าอีก
เล่นเอากว่าจะได้กินน้องเค้าจับเครื่องปรุง ผิด ๆ ถูก ๆ เลยอ่ะ
(นี่ถ้ากุท้องเสีย กุโทษพวกมึงสองคนนี่แหล่ะ  หึหึ)
หลังจากกินเที่ยง+เย็นในมื้อเดียวกันแล้ว พวกผมก็กลับไปพักที่เต็นท์
เย็นนั้นไปก็ได้ไปไหนหรอกคับ นั่งกินเบียร์ นั่งผิงไฟ และคุยกันที่เต็นท์
ที่ภูกระดึงกลางคืนบรรยากาศดีมากครับ
หลังสามทุ่มที่นี่เค้าจะปิดเครื่องปั่นไฟ ดังนั้นแสงที่เหลืออยู่มีเพียง
กองไฟกองเล็ก ๆ แก้หนาว ท้องฟ้ากว้างใหญ่
ถูกประดับประดาด้วยดวงดาว พราวแสงนับร้อยนับพันดวง
“สวยว่ะ”  :L2: ผมเอ่ยขึ้น ตอนนี้พวกผมสี่คนปูเสื่อใกล้ เต็นท์
นอนเรียงเป็นแผง ไอ้เอก ไอ้นัย ผม และไอ้เป้ ห่มผ้าห่ม
ผืนเดียวกัน รอบ ๆ ตัวมืดมิด เหลือเพียงแสงไฟน้อย ๆจากกองไฟ
ต่างคนต่างจ้องไปที่ท้องฟ้ากว้างตรงหน้า ตาไม่กระพริบ
“อืมม  ถ้ากุทำได้กุอยากมาที่นี่ทุกปี มานอนมองดาวสวย ๆ
ธรรมชาติที่สวยงาม กับพวกมึงอ่ะ” ไอ้คุณหนูว่า
“ถ้ามึงอยากมาก็มาดิ  กุมากับมึงทุกปีได้อยู่แล้ว” ไอ้เอกว่า 
ยื่นมาลูบหัวไอ้ขี้อ้อน เพราะบางทีไอ้นัยจะอ่อนไหวเรื่องเพื่อนเป็นพิเศษ
“ห่า ... อย่ามาทำซึ้ง มึงกะพวกกุอ่ะ ก็เป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตน่ะแหล่ะ” ไอ้หล่อว่า
พลิกตัวมาทางผม ก่อนจะยื่นมือข้ามไปขยี้หัวไอ้คุณหนู
(มีแอบเนียน ๆ เอาจมูกมาโดนแก้มผม และแอบกุมมือผมใต้ผ้าห่ม)
“ชิส์...เชี่ยนี่ หัวกุยุ่งหมด  หมดหล่อเลยกุ” มันว่า พลางเอามือจัดทรงผมยิ้มๆ
แล้วพวกผมก็ขำกันไป เลิกซึ้งครับขุดเรื่องขายหน้าของแต่ละคนมาเผาซะงั้น
มีความสุขจริงๆ บรรยากาศที่สวยงาม กับเพื่อนที่ถูกใจ และกับคนที่....รู้ใจ
(หึหึ ...เขินอ่ะ)  คุยกันไป คุยกันมาจนดึก คิดว่าน่าจะประมาณ 5 ทุ่มได้
มันหนาวจนทนไม่ไหวครับ เลยแยกย้ายกันไปนอน
ผมกับไอ้เป้นอนเต็นท์ที่เตรียมมาครับ เป็นเต็นท์ขนาด 3-4 คน
อากาศข้างนอกหนาวจริง ๆ หนาวยันมาถึงข้างใน จนตัวผมสั่นเล็ก ๆ
“หนาวมั้ย” ไอ้เป้ที่นอนกอดผมอยู่ถามขึ้น
“อืม  หนาวดิ  แต่พอทนได้อ่ะ”  ผมว่า ทั้งที่ตัวยังสั่นนิด ๆ
มันถอดเสื้อผ้าตัวเองออกหมดเหลือเพียงบอกเซอร์ ผมหันไปมองหน้าเหวอ
(อะไรมึงจะหื่นขนาดนั้นเนี่ย  สงสารกุบ้างงงงงงงง) :serius2:
“เป้ ..กุเหนื่..” ผมพูดยังไม่จบประโยค
“ครับ ไม่ทำอะไรหรอก  สัญญาเลย หนาวไม่ใช่เหรอ
อย่างนี้จะอุ่นกว่า  ถอดเสื้อผ้าสิ” มันว่าสายตาดูเป็นห่วงผมอย่างเห็นได้ชัด
ไม่แพรวพราวหรือมีเลศนัยใด ๆ ทั้งสิ้น ผมมองมันนิ่ง
แล้วก็ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่บอกเซอร์เหมือนกัน
ไอ้เป้ดึงผมไปกอดหน้าผมซุกอกมัน จมูกเย็น ๆ ของผมซุกโดนอกร้อน ๆ
ร่างกายที่เบียดกัน   ทำให้ผมอบอุ่นมาทันที
“ดีขึ้นมั้ยครับ” ไอ้หล่อถาม กดจูบเบา ๆ  ที่หัวผม
“กุมียานะ  จะกินกันไว้ก่อนรึเปล่าเผื่อเป็นไข้
ขอโทษนะปิงปอง กุไม่ดีเองที่เอาแต่ใจอ่ะ
ไม่งั้นวันนี้มึงคงไม่เหนื่อยขนาดนี้หรอก
แถมยังไม่สบายอีก  ขอโทษนะครับ”  ไอ้หล่อว่ากอดผมแน่น
ทำไมไม่รู้ยิ่งมันห่วงใยผมเท่าไหร่ ทำไมผมต้องรู้สึกดี
ขนาดนี้นะ  ได้แต่อมยิ้มหน้าบาน เขินอย่างบอกไม่ถูก
ทำไมถึงอยากจะให้มันมองแต่ผมก็ไม่รุ้ อย่างให้มันสนใจแค่ผม
สำหรับผมแค่มีมันอยู่ข้าง ๆ ก็พอแล้ว
“อืม... มึงอย่าทำอย่างนี้อีกนะเดี๋ยวกุไม่สบายอีก
อยากกอดกุ กุก็เข้าใจนะ กุก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
แต่ว่าบางครั้งมึงก็อดทนบ้าง ..  ถ้าไม่จำเป็นกุก้อ...
เอ่อ  ไม่ได้อยากห้ามมึงหรอก”  ผมพูดเสียงอ้อมแอ้มตอนท้าย
รู้สึกเขินพอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา หน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้
ผมกอดไอ้หล่อแน่นขึ้นอีก ไม่อยากให้มันเห็นหน้าอาย ๆ ของผม
“คร๊าบบบบ  ต่อไปกุจะระวังนะปิงปอง ขอโทษจริงๆ”
ไอ้เป้ลูบหัวผมเบา ๆ อีกที
“งั้นกินยาก่อนนะครับ กันไว้ก่อน” มันเอื้อมไปหยิบยาในเป้บนหัว
พร้อมเอื้อมไปหยิบน้ำส่งมาให้ผม  ผมเงยหน้าขึ้นอ้าปากเหมือนลูกนก
ที่รออาหารจากแม่ อ้อนไอ้หล่อ มันยิ้มขำส่ายหัวหน่อย
ก่อนจะเอายาใส่ปากแล้วยื่นขวดให้ผมดูดจากหลอด
“อืมมมม  ขมอ่ะ” ผมเบ้หน้า แลบลิ้นทันที
“เหรอครับ” ไอ้เป้ว่า ก้มหน้าหล่อดูดกลืนลิ้นผมทันที
“อืมมม  เป้”  :really2: ผมลงมือทุบที่อกมัน ริมฝีปากร้อน ๆของไอ้เป้
หวานจริง ๆ ครับ จากที่ทุบอยู่กลายเป็นจิกที่ไหล่ไอ้เป้เบา ๆ
ไอ้หล่อค่อย ๆ ละปาก มองดูหน้าผม
“เป็นไง...หายขมรึยังครับ”  มันถาม กดจูบเบา ๆ ที่หน้าฝากอีกครั้ง
 “อืม หายแล้ว” ผมตอบ  ซุกหน้าแดงกับอกไอ้เป้ต่อ
.
.
คืนนั้นทั้งคืนผมกับไอ้หล่อนอนกอดกันอย่างอบอุ่น
โดยที่มันไม่ได้ทำอะไร หรือรุกเร้าผมตามสัญญา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2012 23:10:23 โดย Tassanee »

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
พอดีแต่งตอนนี้มันยาวมากๆ ค่ะ เลยเอามาลงก่อน ประมาณ 1/3 
ฮ่า ๆ  :z1:

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 12  ภูกระดึง (ตอนที่ 2) 

.
ผมตื่นมาอีกทีเกือบ ๆ 8 โมงเช้า โดยมีไอ้หล่อที่นอนกอดผมอยู่ข้าง ๆ
มันตื่นแล้วครับนอนมองผมตาแป๋ว เราทั้งคู่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย
(กุตื่นมาใส่ตอนไหนว่ะ ...จำไม่ได้  ฮ่า ๆ )
“ตื่นแล้วเหรอครับ   เป็นไงดีขึ้นมั้ย”  ไอ้หล่อถาม
ผมที่ยังงัวเงีย ส่งสายตามึนๆไปที่ไอ้เป้ งง ๆ กับคำถาม กระพริบตาช้า ๆ
สมองยังไม่ทำงาน  (ฮ่า ๆ ก้ออ่ะนะ ผมพึ่งตื่นก้องี้แหล่ะครับ)
ไอ้หล่อยิ้มขำ ๆ ขยี้หัวผมอีกที
“ตื่นยังครับ”
“อื้ออออออ...ตื่นแล้ว” ผมลากเสียงอย่างรำคาญ
“แล้วหายยังครับ” ไอ้หล่อว่า
“อือ หายแล้ว”
“หิวมั้ยครับ  เป้ซื้อข้าวมาแล้ว”
“อือ” (จะถามอะไรกุนักหนาว่ะ)
“งั้นไปอาบน้ำก่อน  เป้เตรียมของไว้แล้ว ป่ะ”
ไอ้หล่อลุกขึ้นไปหยุดของที่เตรียมไว้
ผมลุกขึ้นนั่งพับผ้าห่มเก็บ
(กร๊ากกกกกกก กุช่างเรียบร้อย เป็นผ้าพับไว้)
เดินตามไอ้หล่อไปที่ห้องน้ำครับ
ห้องน้ำอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 200 เมตรเห็นจะได้
ผมอาบน้ำเสร็จก็กลับมาที่เต็นท์  มองหาไอ้คุณหนูกะไอ้คุณชาย
“มันสองตัวไปไหนอ่ะ” ผมหันหน้าไปถามไอ้หล่อ
“มันไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอ่ะ  กุบอกว่ามึงไม่สบาย
ตั้งแต่ก่อนปีนภูแล้ว  กุให้กินยาคิดว่าคงตื่นไม่ไหวอ่ะ
ไม่ต้องรอให้พวกมันไปเที่ยวก่อนเลย
เดี๋ยวกุรอไปพร้อมมึงเอง ป่ะไปกินข้าว” ไอ้หล่อว่า
“มึงกินข้าวยังอ่ะ” ผมถามขึ้นขณะที่ไอ้หล่อเดินเข้าเต็นท์
เพื่อไปหยิบข้าวกล่องที่ซื้อเตรียมไว้
“ยังอ่ะ  กุรอกินพร้อมมึง” มันว่า
ผมแอบยิ้มให้กับความน่ารักของไอ้เป้ มันทั้งน่ารัก
และเป็นห่วงผมเสมอ ไม่ใช่แค่ตอนนี้ที่ผมกับมันมีอะไรกัน
แต่ตั้งแต่ตอนที่รู้จักกับมันวันแรกจนถึงวันนี้
มันไม่เคยเปลี่ยนเลย  ไอ้หล่ออกมาพร้อมกล่องอาหาร 3 กล่อง
(ฮ่า ๆ ยังกินจุเหมือนเดิมนะเชี่ยเป้)
กินเสร็จก็เริ่มออกเที่ยวครับตามเส้นทางไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น
(http://travel.kapook.com/view477.html)
ผาหล่มสัก... น้ำตกวังกวาง... น้ำตกเพ็ญพบใหม่...
สระอโนดาด... ต้นเมเปิ้ลสามแฉกสีสวย ต้นไม้นานาพันธุ์
และจบด้วยการดูพระอาทิตย์ตกที่  ผาหมากดูก..
มาถึงผู้คนทั้งหลายที่รอชมพระอาทิตย์อยู่ก็ได้สมใจ
เมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ในยามนี้ดูพระอาทิตย์
ช่างสวยงาม ดวงกลมโตทอแสงเล็ดลอดก้อนเมฆออกเป็นสาย
ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีท้องฟ้าที่เคยเป็นสีคราม
ให้กลับกลายเป็นทองอมส้ม จนเกือบจะลาลับขอบฟ้าไป
ผู้คนค่อย ๆ ทยอยกลับ เหลือเพียงผมกับไอ้เป้
ที่ยังยืนจับมือกัน เฝ้ามองขอบฟ้าอยู่อย่างนั้น
อยากจะเห็นจนมันลับหายไปจากสายตา
“เป้...”  ผมเอ่ยขึ้นเบา ๆ หลังจากไม่เหลือใครนอกจากเราสองคน
“หืมม..ว่าไงครับ” ไอ้หล่อที่ยืนข้างผมหันหน้ามามอง
“ขอบใจนะที่อยู่ข้าง ๆ กุ” ผมบอก เงยหน้าไปมองไอ้หล่อ
“อืม” มันยิ้มหวานตอบกลับ ยังจ้องมองมาที่ผม

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะเป้
ขอบคุณที่รักกุ ขอบคุณที่ดูแลกุ
กุดีใจที่คนที่ยืนข้าง ๆ กุเป็นมึง
กุมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับมึง
กุไม่รู้หรอกว่าอนาคตพวกเราจะเป็นยังไง
กุรู้แค่ว่าตอนนี้............กุรักมึง
และกุก็อยากให้เป็นมึง..ที่อยู่ข้าง ๆ กุ ตลอดไป”

ผมซุกหน้าลงกับอกไอ้เป้ น้ำตาร้อน ๆ ไหลอย่างห้ามไม่ได้
ไอ้หล่อกอดผมไว้หลวม กดจูบเบา ๆ ที่หัวผม
ผมรู้ว่ามันรู้ ว่าผมคิดยังไง แต่ก็อยากบอก
ผมกอดไอ้เป้กลับแน่น ๆ มันใจดีกับผมเสมอ
จนผมกลัวว่าวันนึงมันจะไม่รักผม กลัวจะเสียมันไป
กลัวตัวเองจะขาดมันไม่ได้  อยากจะบอกให้มันรับรู้
ว่าความรุ้สึกของผมที่มีกับมันนั้น มันมากมายแค่ไหน
ความรู้สึกที่มันแทบจะล้นใจ ถ้ามันไม่ได้พูดออกมา
อยากบอกให้ไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ดีใจ อยากเห็นรอยยิ้ม
ที่ตอนนี้ผมรู้ว่ามันยิ้มแม้จะมองไม่เห็น อยากหยุดเวลาอยู่ตรงนี้
ให้มันมีแค่เราแค่นี้  ....จะได้ไหมนะ
บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดสลัว บนฟ้ากว้างเริ่มมีดวงดาว
หลากหลายดวงประดับประดา ทั้งที่เรามีแค่ไฟฉาย
 แต่ผมกลับไม่กลัวอะไรเลย
ไอ้เป้วางคางของมันบนหัวผม กระชับกอดผมแน่น ๆ

“ปิงปองครับ  ขอบใจนะ
ดีใจที่ในที่สุดมึงก็บอกความนัยใจกับกูสักที
นึกว่าชาตินี้มึงคงไม่บอกอะไรกุแล้ว ถ้ากุไม่ขอซะแล้ว
กุก็รักมึงครับ...ถึงมึงจะฟังจนเบื่อ แต่กุก็จะบอก
ไม่ต้องกลัวนะ....กุสัญญา
กุจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้าง ๆ มึง ตลอดไป
ไม่ว่าจะในฐานะไหนก็ตาม กุเคยบอกมึงแล้วนิ
ถึงต่อไปกุไม่ใช่คนรักมึง แต่กุก็จะเป็นเพื่อนมึง
เป็นคนที่รักมึงเสมอ  ถึงมึงจะรักหรือไม่รักกุก็ตาม
จะอยู่ข้าง ๆ มึง ชนิดที่ว่าถึงไล่กุก็ไม่ไป”
ไอ้หล่อดันผมออกจากตัวเบา ๆ จับคางผมให้เงยขึ้น
ตาบวมแดงของผมสบตาไอ้หล่อ ปากบวมเจ่อ
เพราะเผลอกัดปากตัวเองตอนร้องไห้
“เพราะคนที่กุอยากใช้ชีวิตด้วย  มีแค่...มึง” มันว่า
ก้มลงมากดจูบนุ่มนวลแต่น่าถวิลหา ลิ้นร้อน ๆ สอดรับกัน
เป็นอย่างดี ผมทิ้งตัวพิงไอ้หล่อ สองแขนโอบรอบคอมัน
สองแขนมันกระชับเอวผมเข้าไปหา
เราจูบกันสักพักก่อนจะละปาก  ไอ้เป้ยิ้มแก้มแทบปริ
ส่วนผมหน้าแดงเถือก อมยิ้มอาย ๆ  (เห้อ..เมื่อไหร่จะเลิกเขินว่ะ)
“ป่ะกลับกัน”  ไอ้หล่อว่า 
“เดี๋ยวขอขมาเจ้าที่ก่อน” ผมว่า  (หึหึ  ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)
ผมกับไอ้เป้พนมมือขึ้น
“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายครับ พวกผมทั้งสองคนขอขมา
ในสิ่งไม่สมควรที่ได้ทำไป ยกโทษให้พวกผมด้วยนะครับ
อย่าได้ถือสาพวกผมเลยนะครับ สาธุ”
ไอ้เป้ประสานเสียงตรงแค่ สาธุ นั่นแหล่ะครับ
ผมกับไอ้เป้เดินจูงมือกัน ใต้ท้องฟ้าที่มีแต่ดวงดาว กับ
ดวงจันทร์ที่ส่องแสงไปทั่วท้องฟ้าทำให้คืนนี้ไม่มืดมิด
เรามองตรงไปยังแสงไฟที่เห็นอยู่ลิบหลี่ ตรงที่พัก
ในมือถือไฟฉายเดินหน้ามุ่งตรงไปยังจุดหมาย
.
.
.
ประมาณชั่วโมงเศษผมกับไอ้เป้ก็มาถึงเต็นท์ เห็นไอ้สองตัว
นั่งผิงไฟบนเสื่อพร้อมด้วยผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว ด้านหน้าเรียงราย
เต็มไปด้วยอาหาร และเครื่องดื่ม
“ไงพวกมึง กลับซะช้าเชียว กุนี่แทบจะเรียกเจ้าหน้าที่
ออกตามหาเด็กดอยที่หลงป่าซะแล้ว”
ไอ้นัยครับมันว่าขำ ๆ ยื่นเบียร์มาให้ผมคนละกระป๋อง
พวกผมก็ยิ้มขำ ๆ  ท่าทางมันจะกลับกันมานานแล้ว
“แล้วไม พวกมึงไม่ไปตามเองอ่ะ  ไม่รักพวกกุจริงนิ” ไอ้หล่อว่ายิ้ม ๆ
“ห่า ...พวกกุไปตามมึง เดี๋ยวก็หลงอีกคู่เจ้าหน้าที่วุ่นวายตาย
เสียเวลาตามหาไอ้พวกเด็กดอย  ที่เสือกหลงป่า
มึงว่าป่ะเอก ฮ่าๆ”  ไอ้คุณหนู หันไปพยักเพยิดกับไอ้คุณชาย
“อืม  ใช่ครับ” ไอ้เอกทำท่าตะเบะ เหมือนตำรวจรับคำสั่งจากนา
“ดีมาก ๆ เดี๋ยวเย็นนี้ให้เพ็ดดีกรีแดก” ไอ้นัยว่า พร้อมเอามือลูกหัวไอ้เอก
เลยฮากันไปทั้งหมด  ผมกับไอ้เป้กินข้าวที่ไอ้สองตัวเตรียมไว้
ก่อนจะไปทำความสะอาดตัว
(ไม่อาบนะครับแค่เช็ดตัว หนาวมากกกกก)
อาบเสร็จเดินมาที่เต็นท์ ผมสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มข้างไอ้นัย
ตามมาด้วยไอ้เป้ที่นอนข้าง ๆ ผม พวกเรานอนดูดาว
กันนิ่ง ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ
ร้องเพลงเบา ๆ ด้วยกันไปเรื่อย ๆ จนถึง 4 ทุ่ม
“พรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว กุขอนอนตื่นสาย ๆ แล้วกัน” ไอ้เอกว่า
(เป็นเรื่องที่เข้ากับบรรยากาศตอนนี้มากก)
“เกี่ยวไรวะกลับพรุ่งนี้กะนอนตื่นสายอ่ะ” ไอ้คุณหนู ขมวดคิ้วถาม
“ก็กุต้องขับรถอ่ะ  มึงอ่ะอย่ามากวนกุเลย” ไอ้เอกว่า
“เชี่ยนี่  กุกวนไรมึง แม่งไอ้ปิงปองกุนอนด้วยนะ
ไม่นอนกะแม่งแล้วเซ็ง”  ไอ้นัยว่างอน ๆ
(ทำไมมันต้องหน้าแดงด้วยวะ ห่านิกุคิดนะ เพราะกุก็ทำ กร๊ากกกกก)
“เพี๊ยะ.. อย่าดื้อนอนกะกุดีแล้วไม่ใช่เด็กแล้วนะมึง” ไอ้เอกครับ
มันตีเบา ๆ ที่หน้าผากไอ้นัย  พวกผมก็ขำกร๊ากกกกก
(ดี ๆ มีแต่มึงแหล่ะที่จัดการไอ้นัยได้  ฮ่า ๆ เรียกว่าแพ้ทางกัน)
“เออ ๆ เชี่ยนี่ บอกดี ๆ ก้อได้” ไอ้คุณหนูทำนอยเล็กน้อยครับ
สักพักต่างคนต่างแยกย้านกันไปนอน
ผมกับไอ้เป้นอนกอดกันอยุ่ใต้ผ้าห่ม  เปิดเพลงจากมือถือไอ้เป้
ไร้อาภรณ์เช่นเคยมีเพียงบอกเซอร์ตัวบาง ๆ กางกั้น
ผมลุกขึ้นหันไปล็อกซิปที่เต็นท์ ก่อนจะกลับมานอน
ไอ้เป้มอง งง ๆ ว่าผมทำอะไร
“เป้ครับ” ผมเรียกเสียงอ้อน ๆ ไอ้หล่อยิ้มหวาน มองผมตาเป็นมัน
“จูบหน่อยดิ” ผมอ่อยเหยื่อ  ฮ่า ๆ ทำไมไม่รู้แค่คิดถึงตอนที่คุยกัน
ตอนดูพระอาทิตย์ตก ถึงได้รู้สึกว่าไอ้เป้น่ารักมาก จน..อยากรักมันขึ้นมา
มันกดจูบเบา ๆ แล้วถอนปากออก ไม่กล้าทำอะไร
ผมเลื่อนตัวซ้อนทับตัวมัน สองมือจับหน้าไอ้เป้  กดจูบเบา ๆ ที่หน้าผาก
ไอ้เป้หลับตานิดนึง ก่อนจะมองตอบมาที่ผมอย่างค้นหา
ผมกดจูบอีกครั้งที่เปลือกตาทั้งสองข้างของไอ้หล่อ
ก่อนเอาปลายจมูกเราสัมผัสกันลามไปถึงริมฝีปากหวาน ๆ
ผมแทรกลิ้นร้อน ๆ ซอกซอน ดูดกลืนริมฝีปากไอ้เป้
ช้า ๆ แต่หนักหน่วง มันตวัดลิ้นเกี่ยวตอบลิ้นผมเป็นพลวัน
รสลิ้นที่หวานฉ่ำ ผมสัมผัสดูดกลืนอยู่นาน ไล้มือไปทั่วตัวไอ้เป้
“อืมมมม” ไอ้เป้ครางต่ำ ๆ อย่างพยายามเก็บเสียง
น้ำเสียงกระเส่าสองมือกระสะโพกผม
ให้แนบชิดกับสะโพกตัวเอง นวดคลึงตามแรงปรารถนา
ดันสะโพกของตัวเองขึ้นมาให้แท่งร้อนของมันสัมผัสไอติมหวาน
ของผม แม้จะมีบอกเซอร์กางกั้น
“ปิงปอง ... ถ้าไม่หยุด ทนไม่ไหวแล้วนะ” ไอ้เป้ว่าเสียงแหบพล่า
“ไม่ไหวก็ไม่ต้องทนดิ ใครห้ามอ่ะ” ผมว่ากวน  ๆ ยักคิ้วให้ไอ้หล่อ
มันยิ้มตาพราวววว  ( เหอ ๆ   เหมือนหาเรื่องใส่ตัวยังไงไม่รู้ หึหึ)
“แต่กุ.....กุทำเองนะวันนี้ แต่ไม่เอาเข้านะ” ผมว่า  ไอ้เป้พยักหน้ารับ
ผมถอดบอกเซอร์เราสองคนออก จับแท่งร้อนของมันกับไอติมหวานของผมแนบกัน
เริ่มบรรเลงเพลงหวาน ขยับทั้งไอ้ติม ทั้งมือไปพร้อม ๆ กัน
“อ่ะ” ไอ้เป้ครางต่ำ  ๆ ก่อนจะกั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอด   
ผมไล่จูบไอ้เป้ตั้งแต่ปาก  ซอกคอ อก หน้าท้อง
ก่อนจะคลอบปากที่แท่งร้อนของไอ้หล่อ มันจิกมือที่ไหล่ผม
ลูดปากขึ้นลงเป็นจังหวะ  ดูดแรง ๆ ค้างไว้ แล้วค่อย ๆ ถอนออก
“อึ๊อ....” ไอ้หล่อพยายามบังคับเสียงให้เบาสุด กัดปากตัวเองแน่น
ใช้ลิ้นเลียยอดสุดที่น้ำหล่อลื่นก็กำลังเอ่อล้น ก่อนจะครอบปากลงอีกครั้ง
ไอ้หล่อเกร็งกระตุกกดหัวผมจมมิดชิมน้ำรักของมัน จนไหลล้นปาก
พลางครางเสียงอยู่ในลำคอ  หายใจหอบถี่ ก่อนปล่อยมือให้ผมเป็นอิสระ
ผมถอนปากมองไอ้หล่อที่หน้าแดงซ่าน นอนหอบหายใจถี่ ๆอยู่อย่างนั้น
ไอ้หล่อเอื้อมมือมาดึงแขนผมไปใกล้ ๆ กดจูบเบา ๆ ที่ปาก
ก่อนจะกดผมให้นอนลงที่พื้นครอบปากสาก ๆ ดูดชิม ไอ้ติมผม
ละเลงปากมันดูดกลืน ไล้เลียอย่างชำนาญ ก่อนผมจะเสร็จตามไปติด ๆ
ผมนอนหอบหายใจหมดแรงอยู่ข้าง ๆ ไอ้เป้ มันกอดผมแน่น
“รักมึงว่ะ....แม่งโคตรน่ารักเลย”  มันกระซิบข้าง ๆหนู
“หึ  ...รักมึงเหมือนกันนะ ...ไอ้หื่น” ผมว่าขำ ๆ ฮ่า ๆ หรือจะเถียง
แล้วเราก็หลับไปทั้งอย่างนั้นแหล่ะครับ
.
.
.
ตอนเช้าผมกับไอ้เป้ตั้งปลุกตี 5 ครับเพราะเรายังไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น
ในวันแรก  วันนี้เราจึงเริ่มออกเดินทางไปยังผานกนางแอ่น 
ไปถึงฟ้ายังมืดมิด รอสักพักเท่านั้น ก็เริ่มเห็นแสงสีส้มที่โผล่พ้นขอบฟ้า
หลาย ๆ คนเตรียมกล้องมาเก็บภาพที่แสนประทับใจ
พระอาทิตย์ดวงโตค่อย ๆ เคลื่อนผ่านก้อนเมฆหนาตา ส่องแสงเจิดจ้า
ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนสีมืดมิด เป็นสีส้ม ก่อนค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีคราม
ผมส่งยิ้มให้ไอ้หล่อ มันหันมายิ้มตอบบีบมือผมแน่น
“สวยมั้ย”  มันถาม
“สวยมาก” ผมตอบ
“ถ้ามึงชอบมาทุกปีก็ได้นะ” มันพูดยิ้มๆ
“มึงจะมากะกุเหรอ”
“แล้วใครจะปล่อยให้เมียมาคนเดียวหล่ะ” มันก้มมากระซิบข้างหูผมเบา ๆ
“บ้า...”  ผมชกท้องไอ้เป้เบา ๆ มันหัวเราะขำ
“สัญญานะ...ว่าจะไม่ทิ้งกุอ่ะ” ผมว่า มองไปที่ไอ้หล่อ
“สัญญาครับ ...ว่าแต่มึงหล่ะจะทิ้งกุรึเปล่า” มันตอบ
มองตอบมาที่ผม  สายตาแบบนี้แหล่ะครับที่ผมปรารถนา
สายตาที่ทั้งซื่อสัตย์และมั่นคง   (ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไปนะเป้)
“ไม่มีทาง...ถ้ามึงยังรักกุ  เอ่อ  ... กุไม่มีทางจะทิ้งมึง” ผมตอบ
อาจจะเขินอยู่บ้าง  แต่สายตาผมก็มองกลับไอ้หล่ออย่างมั่นคงเช่นกัน
ไม่อยากเสียใจ และไม่อยากจะเสียดายเวลาทีหลังอีกแล้วครับ
“กลับกันครับ...ที่รัก” ไอ้หล่อเอามือมาโอบรอบคอผม
“อืม” ผมกับไอ้เป้เดินกลับไปที่เต้นท์ ที่ไอ้สองตัวนั่น
ลื้อเต็นท์รอเรียบร้อยแล้ว
“ป่ะ..ไปกินข้าวกัน  กุจะทำให้ดูว่าน้องเค้าต้องเลือกกุ
ไม่ใช่ไอ้นี่  หึหึ” ไอ้นัยว่า ชี้นิ้วไปทางไอ้เอก
(เออ แข่งกันอยู่สองคนนะมึง ฮ่า ๆ)
“นัย  มึงดูถูกกุเกินไปแล้ว กุว่าน้องเค้าชอบหล่อสุภาพอย่างกุ หึหึ”
ไอ้เอกเกทับทันที หันไปยิ้มกวน ๆ ให้ไอ้นับ
ตอนนี้ไอ้นัยทำหน้ายู่ใส่ไอ้เอกอย่างขัดใจ
ชิ่งเดินนำไปร้านค้าก่อน  โดยมีไอ้เอกวิ่งตามไปติด ๆ
พลางขยี้หัวไอ้นัยเล่น ไอ้ตัวก็หันมาแหวใส่
ต่อยเบา ๆ ใส่ไอ้เอก  แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันสองคน
ผมกับไอ้เป้มองหน้ากันขำ ๆ ส่ายหน้าระอากับไอ้คู่นี้
แล้วเดินตามไป ครับ
.
.
กินข้าวเสร็จ ไอ้สองหล่อก็เริ่มเช็คเรทติ้ง
“ฟอร์ยว่า ถ้าต้องลองคบใครใน 4 คนนี้ ฟอร์ยจะคบใครครับ”
ไอ้เอกพูด   หลังจากทั้งแซวทั้งจีบกันมาหลายวันจนคุ้นกันดี
“เอ่อ ...ยังไงดีหล่ะคะ”  น้องฟอร์ยยิ้มขำ ๆ
“นะครับนะ  บอกหน่อยไม่ต้องเขินหรอกครับ”  ไอ้คุณหนู
เสริมต่อ ยิ้มอ้อน ๆ ส่งไปให้
“พี่คนนั้นค่ะ” เรียกเสียงฮาได้อีกรอบครับผมนี่ขำจนแทบตกโต๊ะ
ไอ้สองหล่อหน้าทำหน้าเซ็งเพราะน้องเค้าชี้มาที่ไอ้เป้
บอกว่าพี่เค้านิ่งดี  ...แถมดูไม่เจ้าชู้อีกตะหาก
(กร๊ากกกกกกก พวกมึงจีบแทบตาย แต่ไง๋กลายเป็นแบบนี้)
“พี่เหรอ” ไอ้เป้ยกนิ้วชี้มาที่ตัวเองแบบงง ๆ เอ๋อไปอีกคน
หลังเคลียร์ค่าอาหารเสร็จก็ร่ำลาน้องฟอร์ยสุดที่รักของไอ้เป้
ค่อย ๆ เก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับ
“กุถือให้ป่าว” ไอ้เป้ถามขึ้น ผมส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร” ผมยิ้มตอบ
“เหนื่อยก็บอกนะครับเป้จะถือให้” ไอ้หล่อบอก
ผมมองภาพบรรยากาศที่แสนจะประทับใจ
และคงจดจำไปอีกนานแสนนาน  สองข้างทางที่รายล้อม
ไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ท้องฟ้ากว้างสีครามสดใจ
เสียงนกที่ส่งเสียงร้องอันไพเราะจับใจ ตลอดทาง
ลมเย็น ๆ โบกสะบัด กระทบผิวชื่นใจ
ไอ้คุณหนูวิ่งไปมาอย่างสดชื่น โชว์ความซนของมัน
ก่อนจะวิ่งมาด้านหลังไอ้เป้เตะเข้าที่ขามันแรง ๆ
แล้ววิ่งหนีไปหลบหลังไอ้เอก  ไอ้เป้วิ่งไล่ตามไปเตะ
แต่ดันเตะโดนไอ้เอกแทน เพราะไอ้คุณหนูหลบทัน
ฮ่า ๆ ผมขำกับภาพตรงหน้า ตอนนี้ไอ้เอกเอามือ
ดันหัวไอ้นัย กับไอ้เป้ ให้มันหนีห่างจากตัว
ไอ้สองตัวนี้ก็ยื่นมือ..ยื่นเท้า ตีหัว เตะหลังกัน
อยู่รอบตัวไอ้เอก ก่อนไอ้นัยจะวิ่งมาหาผม
โบกหัวผมแรง ๆ  อย่างหมั่นไส้
“เพี๊ยะ หัวเราะนักนะเตี้ย เดินไว ๆ คลานอยู่ได้
กร๊ากกกกก” แล้ววิ่งหนีไปตามฟอร์ม  แต่ไม่รอดครับ
ไอ้เป้ที่รออยู่แล้วก็ล็อคคอไอ้นัยไว้ได้
“ปิงปอง ..มึงมาจัดการมันเลย ฮ่า ๆ” 
(สมน้ำหน้ากล้าแกล้งกุ  หึหึ โทษทีกุแบล็คดีว่ะ กร๊าก)
ไอ้เอกครับมาร่วมแจม ช่วยจับขาไม่ได้มันดิ้น
ผมวิ่งมาถึงก็โบกหัวมันแรงๆ ไปทีนึง
ไอ้เป้เตะตูดไอ้นัยทีนึงก็ปล่อยมือวิ่งหนี แต่ไอ้นัยล้มตะครุบ
ไอ้เอกไว้ เสร็จครับ ไอ้นัยทุบรัวไอ้เอก
“ช่วยกุด้วยยยยยยย”  ไอ้เอกหลุดได้วิ่งหนีตามมา
เพื่อน ๆ เคยเห็นก็อตซิล่าอาละวาดมั้ยครับ
“พวกกกกมึงงงงงงงงงงงง”  ไอ้คุณหนูตะโกนก้อง
วิ่งไล่ตามมาขย้ำพวกผม เราวิ่งหนีตายกันอลหม่าน
.
.

จนไปถึงหลังแปลครับต่างคนต่างหมดแรง
นั่งหอบหน้าดำหน้าแดง เหมือนหมาหอบแดดลิ้นห้อย
สภาพแต่ละคนดูไม่ได้เลย  ฮ่า ๆ แค่มองหน้าก็ขำกันเลย
“แฮก ๆ  พวกมึง  แฮก ๆ แกล้งกุ” ไอ้คุณหนูว่า ชี้หน้ากราดมาที่พวกผม
“มึงตีกุแล้ว..แฮก ๆ หายกัน ”  ไอ้เอกว่า ตีมือไอ้นัยที่ชี้กราดมา
“ใช่ มึงก็เตะกุแล้ว  แฮก ๆ หายกัน” ไอ้เป้ว่า  เอื้อมมือไปหลังไอ้นัยดัง ๆ
พวกผมก็ขำ กันอีก 
(น้องฟอร์ยใส่กัญชาในอาหารรึเปล่า รู้สึกขาแบบไม่มีเหตุผล)
“ใช่ แฮก .. มึงตีหัวกุแล้วเหมือนกันหายกัน” ผมว่า ตบหัวไอ้นัยแรงๆ
“พวกห่านี่...เดี๊ยะ ๆ แฮก ...พวกมึง โดน” มันชีหน้าอีกที
“หึหึ ...เออ ให้หายเหนื่อยค่อยแก้แค้นพวกกุนะ” ไอ้เป้ว่าขำ ๆ
“เห้ย ...ปีหน้าเรามาเที่ยวด้วยกันอีกนะ” ผมว่า
“อืม  กุสัญญาเลยปิงปอง” ไอ้นัยพูด
“กุด้วย...ยังไงก็มาแน่นอน” ไอ้เป้ว่า ส่งยิ้มมาให้
“ได้อยู่แล้ว กะพวกมึงอ่ะ” ไอ้เอกยืนยันอีกที
พวกเราเดินลงจากภูกระดึงก็ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงได้
เร็วมาก ๆ ถ้าเทียบกับตอนขาขึ้น  เรียกได้ว่าแทบวิ่งลง
เลยทีเดียว หลังขนสัมภาระทุกอย่างขึ้นรถ
ไอ้เอกสารถีประจำวันนี้ก็ขับพาเราเดินทางสู่กรุงเทพฯ
เรานั่งประจำที่เดิม เสียงไอ้คุณหนูเจี๊ยวจ๊าวคุยกับไอ้คุณชายฃ
อย่างถูกคอ ผมนั่งซบไหล่ไอ้เป้ โดยมีมือมันโอบกอดด้านหลัง
ไอ้หล่อมองมาที่ผมตาไม่กระพริบ
“น่ารักว่ะ  ปิงปองรู้ตัวมั้ยว่าน่ารักขึ้นทุกวัน” มันว่า กดจูบมาที่หัวผม
ผมยิ้มเขิน ๆ เงยหน้าไปมองตอบไอ้หล่อ
“น่ารัก....แล้วจะรักกุป่ะหล่ะ” ผมว่า ยิ้มกวน ๆ ให้มันอีกที
“หึหึ ...รักดิ  ...จะรัก ให้ขาดใจเลยคอยดุ” มันว่าเน้นตรงคำว่า
“รัก”อย่างชัดเจน ดูท่าคงจะความหมายกะผม เพราะไอ้เป้ยิ้ม
กรุ้มกริ่มส่งสายตาแพรวพราวมาที่ผม
“ห่านี่...หื่นตลอด”  ผมว่าขำๆ มัน
“ปิงปอง.....รักนะครับ” มันว่า สบตามาที่ผม
ริมฝีปากหนา ๆ กดจูบที่ลึกซึ้ง นุ่มนวล และเนิ่นนาน
ผมหลับตาพริ๊มรับสัมผัสหวาน ลิ้นร้อน ๆควานหาความหวาน
ทำไมอิ่มเอมเหลือเกิน ไอ้เป้ละปากโอบกอดผมทั้งสองมือ
“จะรักปิงปองคนเดียวเลยสัญญา” มันว่า
ผมที่ตอนนี้ยิ้มแก้มปริไปแล้วซุกหน้ากับอกไอ้เป้
“อืม... สัญญาแล้วนะ” หันไปมองไอ้หล่อ แล้วกั้นยิ้ม
“ครับ” ไอ้เป้กดจมุกมาที่หน้าผากผม
“ปิงปอง  ..ก็จะรักเป้คนเดียวครับ...สัญญา” ผมตอบ
ยื่นหน้าไปจูบไอ้หล่อ เป็นคำมั่นสัญญา
ผมนั่งซกอกไอ้ไปอยู่อย่างนั้น หลับตาพริ้มสู่นิทรา
แค่นี้ใช่ไหมที่ผมปรารถนา  ขอแค่ผู้ชายคนข้าง ๆนี้
ที่จะเดินไปด้วยกันทุกที่ทุกเวลา อยู่ข้างๆ ผมไม่ว่า
จะทุกข์จะสุขก็อยู่ด้วยกัน ร่วมแบ่งปันทุก ๆ อย่าง
และไอ้สองตัวเพื่อนสุดแสบ ทั้งแซบ ทั้งซ่า
ขอบคุณความรู้สึกมากมายที่พวกมึงมอบให้มา
ทั้งเจ็บ ทั้งเศร้า รอยยิ้ม  เสียงหัวเราะ  มิตรภาพ
ความจริงใจ 
“กุสัญญาไม่ว่านานแค่ไหน...จะมีพวกมึงอยู่ในใจกุตลอดไป
เป็นเพื่อน เป็นคนรัก  เป็นคนที่จะเคียงข้างกันตลอดไป
ตราบนานแสนนาน”

.
.......................จบ..................

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
จบยังไงอะคะ จบเรื่องนี้ หรือว่าจบตอนนี้เอ่ย?

เรื่องนี้นายเอกดูจะรักพระเอกเร็วไปนิด ถึงแม้จะโกรธและพยายามหลบหน้าอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ก็ให้อภัยค่อนข้างง่าย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถึงเนื้อถึงตัวกัน หรือว่าเป็นเพราะความสัมพันธ์ดีๆ ของเพื่อนที่มีมานานตั้งแต่เด็ก

ขอบคุณคนเขียนสำหรับเรื่องนี้นะคะ  :L2:  :pig4:

ออฟไลน์ zaferianight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อ.....อ่านตอนจบแล้วน้ำตาไหล นี่ละนะมิตรภาพที่สวยงาม

ไม่ว่ายังไงก้อไม่มีวันเลือนหายไปได้เลยจิงๆ

ความรักกับความผูกพัน ยังไงแล้วความผูกพันก้อชนะและไม่มีวันลบเลือนหายไป

รักได้ก้อลืมได้......แต่เมื่อผูกพันแล้วให้ลืมยังไงก้อลืมไม่ลง เพราะมันมีสายใยบางๆกั้นอยู่!!

tawan

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมากเลยอะ

ชอบบบบ :กอด1:

 :call:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
 :pig4:
จบได้น่ารักมากเลย
ขอนคุณ คน เขียน น่ะ

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
จบที่ภูกระดึงสวีทกันในรถ


PoMArmKuB

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักมากอ่ะ แต่อยากอ่านตอนพิเศษ นัยเอก อ่ะอิอิ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

Huasia

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ว้าจบซะละ กำลังหวานน่ารักเลยชักจะติดลม

สะกิดคนแต่งยิกๆ ตะเองๆจะมีตอนพิเศษมั้ยน้า o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด