ตอน : แลกเปลี่ยนบรรยาย ;
“ตื่นได้แล้วครับคุณชายบู้” เสียงนุ่ม ๆ(แต่สไตล์เป็ดเทศ)ของแฝดน้องกระซิบบอกคนในอ้อมแขน พี่ชายทำหน้ามุ่ยอย่างขัดอกขัดใจแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตา
“วันนี้สอบวันแรกนะหมานะ”
“ใครหมา บิ๊กสิหมา......สอบบ่าย นี่เพิ่ง....จะ” พี่ชายทำตาหยีขณะที่มือก็ควานหามือถือที่หัวเตียงเพื่อจะดูเวลา
“โห่.....เพิ่งจะสี่โมงเช้า ขอนอนอีกหน่อยก็ไม่ได้” บู้โอดครวญ ก่อนจะหันหน้าเข้าหาอกแกร่งซึ่งปราศจากอาภรณ์ปกคลุมเพื่อซุกหนีแสงสว่างที่ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแสบตา.....ซึ่งพอร่างกายส่วนล่างที่แข็งขึงของคนทั้งคู่สัมผัสโดนกันโดยไม่ตั้งใจ นายบู้ก็ถึงกับตาสว่าง มือเล็ก ๆ พยายามจะดันตัวออกจากอ้อมกอดของน้องชาย
“เฮ้ย ไอ้บิ๊ก ไม่เอาแล้วนะเว้ยเฮ้ยยย!!!”
“นิดหน่อยก่อนสอบไงคุณพี่ชาย เซ็กซ์ทำให้ความจำดีนะ” นายบิ๊กยกเอาเหตุผลที่คิดขึ้นมาได้เดี๋ยวนั้นมาเป็นข้ออ้างได้อย่างหน้าตาเฉย มือใหญ่บีบขยำแก้มก้นพี่ชายอย่างมันมือ
“ถ้าอยากให้ปล่อยก็อ้อนเค้าสิ หรือถ้าอยากให้เค้าทำต่อก็อ้อนเค้า.....พี่มันอ้อนเก่งอยู่แล้วนี่ ใช่มั้ย.....ไอ้เด็กน้อย”
“คนแบบนี้ก็มีด้วย เกลียดเค้าแต่ก็ยังจะมา.......”
“ก็ไม่เคยบอกว่าเกลียดนี่นะ.....เอ๊ะหรือเคย....เค้าก็จำไม่ได้ละ.....น่านะพี่ชาย เค้าว๊อนท์”
น้องชายเอานิ้วเกลี่ยไปที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มของพี่ชาย เขี่ยเล่นเบา ๆ แต่ก็ต้องรีบชักออกเมื่อนายบู้ทำท่าจะงับเอาจริง ๆ
“ไม่แฟร์เลย ตัวเองเป็นเกย์คนเดียวไม่พอ ยังจะมาแพร่เชื้อ” พูดจบก็หน้าขึ้นสี ปฎิเสธไม่ได้ว่าแอบรู้สึกดีแบบแปลก ๆ เวลาที่ถูกน้องชายทำเรื่องแบบนั้น......แบบนุ่มนวล ไม่รุนแรง แถมยังกระซิบบอกรักข้าง ๆ หู ทั้ง ๆ ที่ก็รู้.......
รู้อยู่แก่ใจว่าน้องโกหก....
“หึหึหึ ก็อยากน่าฟัดเองนี่นะคุณพี่ พอเริ่มแล้วมันก็หยุดไม่ได้ซะด้วยสิ”
ว่าแล้วหมาดำก็จัดการขย้ำเหยื่อในกรงเล็บ ใช้เวลาอันน้อยนิดให้คุ้มค่าในทุก ๆ วินาที
ใครจะปล่อยให้มึงทำคะแนนได้ดีกันเล่า.....กลับบ้านงั้นเหรอ ฝันไปเหอะ ไอ้ลูกหมา!!!นายกฤษณะ นายนี่มันชั่วร้ายไม่มีเปลี่ยนจริง ๆ นะนี่!!!
.................................................................................
“ไหนบอกว่าโดนพักการเรียนไงครับ แล้วนั่นจะแต่งชุดนักศึกษาเพื่อ?”
เจ้าหน้ามึนพูดกับร่างหนาในชุดนักศึกษาที่กำลังเซ็ทผม เช็คความหล่อในกระจก หนวดรก ๆ ถูกโกนออกจนเกลี้ยงเกลา ทำให้หน้าตาที่เคยดูดุร้าย มองดูใจดีขึ้นมาอีกหน่อย กระดุมเสื้อสองเม็ดบนถูกปลดออกเพื่อโชว์ความแน่นหนาของกล้ามเนื้อหน้าอกสุดเซ็กซี่ที่เจ้าตัวภูมิอกภูมิใจกับมันเป็นหนักหนา นายกันต์ไม่ได้หันหน้าไปโต้ตอบ แต่กลับพูดผ่านกระจกที่สะท้อนภาพของชายร่างโปร่งท่าทางเงอะงะ หัวแฉะและนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย
“มันก็เรื่องของกูนะกี๋นะ มึงควรสนใจเรื่องสอบของมึงมากกว่ามั้ย ?”
แม้ว่าสภาพของพ่อตาไม้ขีดในตอนนี้จะดูน่ารักน่าปล้ำขนาดไหนก็ตามทีเหอะ!!!!! พระเจ้า นายกันต์อเนกจะต้องข่มใจ....ข่มลูกชายที่กำลังพองก๋าท้านรกอยู่ในกางเกงสแลค.....เนื่องจากเจ้าหมอนี่มีสอบ ตั้งสองอาทิตย์เชียวนะนั่น!!!!
ร่างหนา ๆของนายกันต์เดินเฉียดร่างผอมบางของเพื่อนร่วมห้อง ก่อนจะหยุดเพื่อกระซิบข้างหูของอีกฝ่าย
“ก็ช่วงนี้มึงมีสอบไม่ใช่เร้อ........กูก็จะยังไม่เล่นกับมึง......ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้กูเงี่ยนโครต ๆ เพราะฉะนั้น กูจะไปหาอะไรทำเแก้เซ็งที่ม.ซักหน่อย.....หลีกไป ไอ้ผอม!!!”
ว่าแล้วก็จัดการดีดขมับรูมเมทหน้าตี๋จนอีกฝ่ายร้องออกมาด้วยความเจ็บ พ่อร่างหนาหัวเราะลั่นห้องก่อนจะเดินออกไป(ยังไม่วายกระตุกผ้าขนหนูของอีกคนจนหลุด เห็นแก้มก้นขาว ๆ) ทิ้งให้ตี๋น้อยยืนเอามือกุมขมับ....กุมเป้าแล้วสบถออกมาเบา ๆ
“เชี่ยเอ๊ย เจ็ทแม่ม!!!”
...
ดูตำรา ตีห้าตีหก มันก็ยังสอบตก......ลาลาลา
นายบู้เดินตัวเอียงออกมาจากห้องสอบด้วยสภาพมึน ๆ คล้ายคนเมาทินเนอร์.....
วิชานี้โชคดีที่ได้สอบห้องเดียวกับน้องชาย
แต่โชคร้ายที่น้องไม่ได้ช่วยอะไรเลย.....นอกจากหันมาทำหน้าสะใจเล็ก ๆ ใช้นิ้วมือดันแว่นสายตาที่สวมอยู่......อย่างเท่ห์ ก่อนจะหันกลับไป แล้วร่างเล็กก็โดนอาจารย์ที่คุมห้องสอบเขม่น......
ไหนว่าเซ็กซ์ทำให้ความจำดีฟะ!!!! ไอ้บุ๊กบิ๊ก......ที่ดูมาเลือนหมด ที่ทำได้จริง ๆ ไม่ถึงครึ่ง นอกนั้นกามั่ว อาศัยเหลือบมองคนข้าง ๆ บ้างเพราะเจ้าตัวโตข้างหน้าไม่ได้ช่วยอะไรเลย กระซิบถามก็แล้ว เอาเศษกระดาษโยนข้ามหัวไปก็แล้ว น้องชายก็ยังเฉย....
ให้ตายดินายบู้เริ่มเครียดกับวิชาหนัก ๆที่จะต้องสอบในวันมะรืน คราวนี้พี่ชายตั้งใจจะหนีน้องไปดูหนังสือที่ไหนซักที่......เพื่อให้รอดพ้นจากเงื้อมมือปิศาจ.....
หนีไปไหนก็ได้ที่ไอ้ดำมันตามไม่เจอ......ต้องทำคะแนนให้ดีดีเพื่อที่จะได้กลับไปหาป๊ากับเบียร์ เดินมึน ๆ อยู่ตรงลานหน้าตึกดีดีก็ได้ลงไปล้มก้นกระแทกพื้น นายบู้ไม่ร้อง แต่กลับตวัดสายตามองขึ้นไปอย่างเอาเรื่อง
“เดินประสาห่าไรฟะ!!.....เดี๋ยวพ่อเตะให้”
แต่พอเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เจ้าหมาน้อยก็กระดี๊กระด๊า ตะโกนลั่นใส่ราวกับว่าสนิทกันมาเป็นชาติ....เหมือนลูกหมาที่เห่าเมื่อดีใจที่ได้เจอคนคุ้นเคย
“นมยักษ์ เออละเหวยเป็นไงมาไงล่ะพ่อคุณ”
แหกปากซะลั่นขนาดนี้ กูนี่แหละจะเตะมึงให้กลิ้งเป็นลูกขนุนกันต์อเนกยื่นมือออกไป หมายจะช่วยฉุดให้คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้น.....
ทางสะดวก ไอ้ตัวดำนั่นก็ไม่ได้อยู่แถวนี้ หึหึหึ.
....
........
.....................
“ไปไม่ได้หรอกกันต์ พี่ต้องขออนุญาติบุ๊กบิ๊กก่อน จู่ ๆ นึกอยากจะไปก็ไป พี่โดนฆ่าตายแน่ ๆ”
ร่างเล็กฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะหินอ่อน โดยที่ยังไม่วายเอื้อมมือสะเปะสะปะคว้าขนมในซองที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนจะพงกหัวขึ้นมากินแล้วฟุบลงไปต่อ
“เป็นถึงลูกพี่แต่กลัวน้องชายตัวเองเนี่ยนะ ขำเหอะ! เดี๋ยวกูก็เขียนใบลาออก ออกจากแก๊งค์มึงซะเลยดีมั้ย”
“ไม่ตลกนะเฟ้ย บุ๊กบิ๊กน่ะเป็นข้อยกเว้น หมอนั่นอ่ะมันน่ากลัวกว่าที่นายคิด เอาไว้พี่ทำงานแล้วอ่ะนะ พี่จะเก็บเงินไปต่อกระดูก เอาให้สูงซักสองเมตรห้าสิบ แล้วที่นี้พี่ก็จะไม่ต้องกลัวใครอีกต่อไปแล้ว แล้วแก๊งค์เราก็จะยิ่งใหญ่ที่สุด” นายบู้เงยหน้าขึ้นมาพูดฉอด ๆ จนอีกฝ่ายถึงกับผงะไปนิดหนึ่งด้วยความอึ้ง.....ตะลึงในความเพ้อเจ้อไปได้เรื่อย ๆ ของคนตัวเล็ก(แต่เสียงใหญ่)
“ฮ่าฮ่าฮ่า คงหมดเป็นล้านแน่แบบนั้น ของเดิมก็มีอยู่เท่าเนี๊ยะ”
“นายมันปากร้าย นมยักษ์..............ชิส์”
“นายมันก็เด็กน้อย”
“พี่เครียดเรื่องสอบอยู่นะ คนโตแล้วเท่านั้นแหละที่เครียดในเรื่องสำคัญ ๆ น่ะ”
“งั้นก็ไปเดินเที่ยวกัน ไปเดินเสาวรีย์มั้ย เค้าซ่อมห้างเพิ่งเสร็จ.....ข้าวมันไก่อร่อยนะ สนป่ะ เสร็จแล้วก็ไปดูหนังกัน”
ร่างหนาเสนอ.....แต่นายบู้ก็ยังคงส่ายหัวดิก ทั้ง ๆ ที่สมองนึกไปถึงข้าวร้อน ๆ โปะด้วยไก่ชิ้นหนา ๆไม่มีมัน ส่งกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลาย.....
แต่ภาพไอ้เด็กยักษ์ตัวดำ กับท่อนลำดำมะเมี่ยมขนาดเท่างูอนาคอนด้า ใบหน้าอันกราดเกรี้ยว และร่างกายหนัก ๆ ที่โถมทับลงมา ก็คอยตอกย้ำให้พี่ชายสงบเสงี่ยมเจียมตัว เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
เมื่อนึกถึงดำ....ดำก็มา เงาทะมึนราวกับราหูมายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้
“อยู่ตรงนี้เอง เค้าหาพี่ไปทั่วเลยนะ ให้ตายดิหัดรับโทรศัพท์มั่งเหอะ” เสียงเข้ม ๆของน้องชาย ทำเอาร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างหวาด ๆ เสียงแหบ ๆ ละล่ำละลักตอบน้อง ดูกลัวเวอร์จนนายกันต์แอบหัวเราะหึหึ
“บุ๊กบิ๊ก.....พี่ปิดเสียงน่ะ แล้ว.......แล้ว อาจารย์เค้าก็ให้ลงมารอข้างล่าง”
“ก็แล้วทำไมไม่ยืนรอหน้าตึกล่ะครับ มานั่งหลบอยู่ตรงนี้.........เอ่อ นายน่ะ น้องล่ำ นายสินะที่พาไอ้หมอนี่มาหลบมุมตรงนี้ คิดจะทำอะไรน้องชาย คิดจะทำอะไร”
“บุ๊กบิ๊ก กันต์เค้าชวนพี่ไปเดินเสาวรีย์แหละ ขอพี่ไปได้มั้ย” พี่ชายขอแบบไม่เต็มเสียงนัก เพียงเท่านั้นแหละ เจ้าบุ๊กบิ๊กก็แทบจะหันมากินหัว.....แล้วอย่างนี้ พ่อลูกหมาพันธุ์ชิวาว่าตัวน้อยมันจะเอาอะไรไปสู้กับพ่อหมาร๊อดไวเลอร์วัยเจริญพันธุ์ได้ล่ะ บู้มองน้องชายตาปริบ ๆ อย่างยอมรับชะตากรรม
“ฝันไปเหอะ กลับไปแล้วพักผ่อน จะได้ดูหนังสือ ถึงเค้าจะหยุดให้ดูก็เหอะ แต่ก็แค่วันเดียว พี่เองน่ะก็ยังดูไม่หมดทุกวิชานะอย่าลืมสิ”
พี่ชายประท้วงในใจ.....
คงจะได้ดูอยู่หรอก......เล่นเสียเวลาไปกับเรื่องพรรค์นั้น.....กลับไปนี่ก็คงไม่พ้นโดนทำบ้าๆอีกตามเคย บู้เซ็ง!!!!! “บุ๊กบิ๊กง่า”
“หึ.....อย่ามาทำหน้าอ้อน ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะพี่นะ”
ร่างหนาอีกคนที่นั่งฟังอยู่เอ่ยขึ้นมาบ้าง....
“ดูท่าลูกพี่จะกลัวน้องจริง ๆ สินะ”
น้ำเสียงที่แฝงความเย้ยหยันของนายกันต์อเนก(บอดี้การ์ดที่ไม่เคยช่วยอะไรลูกพี่เลยซักครั้งตั้งแต่แต่งตั้งมา เลี้ยงเสียข้าวสุกมาก ๆ) ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกฮึดฮัดขึ้นมาอย่างลืมตัว กลัวน้องก็กลัว แต่กลัวเสียหน้ามันมีมากกว่า เสียงแหบๆคำรามใส่น้องชายพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่
“นายนั่นแหละต้องกลับห้องไป อย่ามาข่มพี่นะเฟ้ย พี่ไม่ชอบ!!!!! หัดทำตัวให้สมกับเป็นน้องชายหน่อยเหอะ บิ๊กเป็นน้องนะ ไม่ใช่พ่อ......ป่ะกันนี่ เราสองคนไปเดินเที่ยวกันดีฝ่า ปล่อยไอ้ยักษ์ตุ๊ดมันบ้าไปคนเดียวเหอะ เชอะ!!!!”
พูดฉอด ๆ จนจบ.....ว่าแล้วพ่อก็ฉวยกระเป๋าลุกขึ้น ทั้ง ๆที่ตั้งใจจะเดินชนร่างสูงที่ยืนขวางทางอยู่ แต่นายบิ๊กกลับไม่กระเด็นไปอย่างที่คิด คนเป็นพี่ต่างหากที่ชนเค้าแล้วกลับเป็นฝ่ายเซถอยไปข้างหลังซะเอง
“กลับห้องมึงตายแน่ ไอ้หมาบู้”
น้องชายกระซิบเบา ๆพอให้ได้ยินกันสองคน หลังจากคว้าตัวพี่ชายที่กำลังจะล้มเอาไว้ได้ทัน
“เราไม่กลัวนายหรอกนายกฤษณะ ทำได้ก็ทำไป.....ทำไปเลย....พี่น่ะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว รู้ไว้ซะด้วย”
ทำปากดีไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ใจเต้นตุบ ๆ นายกันต์อเนกยืนมองอยู่อย่างชอบใจ.......
สร้างความพินาศคืองานของกู.
....
............
“อร่อยยยยยยยยย กินแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์” ปากเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยข้าวมันไก่จากจานที่สามพูดขึ้น นายบู้หลับตาพริ้มเป็นการยืนยันในความอร่อย
“กินให้อร่อยจริง ๆ ต้องกินหนังด้วยนะครับ ลูกพี่ หนังร้านนี้เค้าน่ากิน ไม่แหยะนะดูสิ เห็นมั้ย”
“เหรอ ๆ งั้นสั่งให้พี่อีกจานดิ แต่นายเลี้ยงนะ พี่ลืมเอากระเป๋าตังค์มา”
ทั้งปี......นายบูบู้.....นายมันอย่างงี้ทั้งปี
“หึหึ ได้สิ ว่าแต่กินเก่งแบบนี้ ไม่กลัวอ้วนรึไงครับ”
“โด่ อ้วนก็ดีดิ จะได้สู้กับบิ๊กชนะ โดดทับแม่งเลย เอาให้ไส้แตก”
พ่อบอดี้การ์ดหัวเราะชอบใจ เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอคนที่แปลกขนาดนี้ คนที่ดูเหมือนกับว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรเลย นอกจากเรื่องกินไม่ยั้ง.....ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ก็แค่ชอบคิดอะไรแปลก ๆ แล้วก็หน้าตาแปลก ๆ ความรู้สึกของคนตัวโต เหมือนกับกำลังรับจ๊อบเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่พูดมาก แดกจุ.......และซนฉิบชายวายป่วง
แต่ก็น่ารักดีไม่ใช่เหรอ....ถ้าไม่ติดว่ามีใครอีกคนในใจ ฝังแน่นยากจะสลัดให้หลุด.....นายกันต์ก็อยากจะลองจีบไอ้หมอนี่ขึ้นมาจริง ๆ จัง ๆอยู่เหมือนกัน เคยเจอแต่ผู้ใหญ่แอ๊บเด็ก ไม่เคยเจอเด็กแอ๊บนักเลงมาก่อน.....ทั้ง ๆ ที่การแสดงออกดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย แต่ไม่รู้ทำไม ชายหนุ่มกลับมองว่าคน ๆนี้ดูเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
“เอาเตี๋ยวป่ะลูกพี่ เตี๋ยวก็หร่อยนะ”
“พอก่อนกันนี่ พี่จะอ้วก”
เออเฮอะ นี่กูชื่อกันนี่ไปซะแล้วเหรอเนี่ยนายกันต์ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะยื่นมือข้ามไปขยี้หัวพ่อลูกพี่จนเละ.....หมดมาดลูกพี่ผู้องอาจไปเยอะเลยสินะนายบู้
.
....
............
“แล้วคุณพลอยล่ะครับ ไปไหน ทำไมถึงไม่มาด้วยกัน” พ่อหน้าสิว ที่บัดนี้หน้าเกือบจะใสวิ๊งค์หันมาพูดกับสาวผิวแทน(ที่ตอนนี้เลิกห้าวแล้วหันมาหัดถักนิตติ้ง)ขณะที่กำลังนั่งรอดูหนังอยู่ตรงแถบที่นั่งหน้าโรงหนัง กินเป๊บซี่กับป๊อบคอร์นฆ่าเวลา
ไม่ดูโปรแกรมล่วงหน้าก็เงี้ยะ.....ก็ต้องรอเงกกันต่อไป
“พลอยปวดหัว อยากนอนก็เลยกลับไปก่อน ทำไม.....ไม่อยากมาดูหนังกับชั้นสองคนรึไง รึว่าชอบอึ๋ม ๆ ยะ”
“ผมชอบพี่บู้ครับ ลืมแล้วเหรอ”
“จริงสินะ”
เป็ดถอนหายใจเฮือก.....แค่คิดว่าคนที่ตัวเองเคยแอบคลั่ง กำลังจะผันตัวมาเป็นศัตรูหัวใจ(โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว) เป็ดก็อดใจหายไม่ได้
นี่ชั้นชอบมากี่คนแล้วนะ.....
เริ่มแรกก็พี่บิ๊ก......แล้วก็พี่บู้......แล้วก็มาพ่อตี๋หน้ามึนนี่
ใจง่ายจริง ๆ ชั้น!!!ศศิกานต์ยกกระจกขึ้นมาส่องแก้เขิน ก็รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นคนบังคับให้เค้ามาเอง แต่มันก็อดตื่นเต้นไม่ได้.......
“นี่นายน่ะ ไม่คิดจะชอบผู้หญิงบ้างเหรอ ผู้หญิงดีดีก็มีเยอะนะยะ....อาทิเช่น” นิ้วมือชี้ไปที่ตัวเองโดยไม่มีเสียงพูด ก่อนจะบิดกายทุรนทุรายด้วยความเขินจัด
“ฮ่าฮ่าฮ่า....ผู้หญิงที่โชว์หน่มน๊มต่อหน้าคนอื่นไม่นับว่าเป็นผู้หญิงที่ดีหรอกนะครับ โอ๊ย ๆ ๆ”
“หน็อยล้อชั้นเหรอ ไอ้บ้าเชนทร์นี่ ตายซะเถอะแก๊”
กำปั้นหนัก ๆ ทุบเอา ๆ จนร่างโปร่งรู้สึกจุกมากกว่าเจ็บ แต่ก็ไม่จุกเท่ากับตอนที่ตาตี่ ๆ เกือบจะปิดเหลือบไปเห็นคนคู่หนึ่งกำลังขึ้นบันไดเลื่อนมา
ลูกพี่................
กับไอ้เหี้ยกันต์
ฮึ่ม!!!!!!!!!....................................................
“คุณกันต์คิดจะทำอะไรชั่วร้ายอีกแล้วใช่มั้ยครับ ผมขอแล้วนะ.....เรื่องลูกพี่น่ะ ผมบอกหลายครั้งแล้วนะ ว่าคนนี้ผมจริงจังนะเว้ย!!!!!” ร่างโปร่งระเบิดอารมณ์ใส่ทันทีที่กลับถึงห้อง แล้วเจอนายกันต์นั่งผิวปากอย่างอารมณ์ดี มือเรียวยกขึ้นชี้หน้า แต่ก็สั่นเทาด้วยความโกรธ หนังที่ดูไม่ได้เข้าสมองเลยแม้แต่น้อยนิด ในใจคิดแต่อยากจะกลับมาที่ห้องเร็ว ๆ เพื่อที่จะพูดกับคน ๆนี้ให้มันเด็ดขาดไปเลยในคราวเดียว
“ช่าย.....มึงขอแล้ว กูจำได้ แต่.....กู.....ไม่.....ให้ มีของดีก็แบ่งกันใช้สิครับน้องกี๋ ขาว ๆ เนียน ๆ บ๊ะ!!! มันน่าจับล่อให้ครางดีชะมัด......ให้พี่กันต์เปิดก่อนแล้วเดี๋ยวพอพี่กันต์เล่นเบื่อแล้วจะโละต่อให้ละกันนะ หึหึหึ ตัวเล็ก ๆแบบนั้น มึงว่าจะทนได้ซักกี่ยกวะ......ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อจะเอาให้เดินขาถ่างเลย........โอ้ย!!!”
กำปั้นที่หนักใช่ย่อยซัดไปยังกรามของคนที่นั่งอยู่โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าคมเข้มหันไปตามแรงหมัด ก่อนจะลุกขึ้นยืน.....แค่เพียงลุกขึ้นร่างหนา ๆ ก็แทบจะกระแทกเข้ากับคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้า จนนายราเชนทร์ต้องเป็นฝ่ายถอยไปก้าวหนึ่ง
“ผมขอคุณแล้วนะ ลูกพี่ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆที่ผ่านมา คนเหี้ย ๆ อย่างคุณไม่สมควรที่จะทำให้ลูกพี่ต้องแปดเปื้อน รู้เอาไว้ซะ!!!!”
นายกันต์ยังคงยิ้มกวน ๆ ทั้ง ๆที่มุมปากมีเลือดไหลซึมอยู่ มือใหญ่กระชากเอวบางของคนตรงหน้าให้เข้ามาแนบชิด ราเชนทร์เงยหน้าขึ้นมองอย่างท้าทาย.......ทั้ง ๆที่ตัวสั่น
“จะคนนี้หรือคนก่อน ๆ สำหรับกูมันก็ไม่ต่างกัน กูไม่เคยแย่งมึงกูรู้ พวกมันเสนอให้กูก่อนเองทั้งนั้น”
“ไม่จริง พวกเค้าก็แค่โดนคุณหลอก.....แต่ว่าคราวนี้ผมจะไม่ยอมคุณอีกแล้ว พอกันที!!!”
“แล้วมึงจะทำไมกู....หืม? ไอ้ขี้แพ้อย่างมึงจะทำอะไร ร้องไห้แล้วก็อ้อนวอนกูอย่างนั้นเหรอ ทำได้แค่นั้นสินะมึงอ่ะ”
ถึงจุดนี้ความกล้าทั้งหมดทั้งมวลผสมปนเปกับโทสะที่อัดอั้น ทำให้หนุ่มหน้าตี๋ผู้ขี้ขลาดสามารถดิ้นสะบัดตัวจนหลุดจากอ้อมแขนใหญ่ยักษ์ พร้อมกระโดดงับเข้าให้ที่ใบหูของไอ้คนปากเสีย จนพ่อคุณร้องเสียงหลง
“เชี่ยกี๋ เป็นหมาเหรอมึง.....เดี๋ยวเหอะ.....เดี๋ยวมึงตายห่าคาห้องแน่”
“ไอ้เหี้ยกันต์ ขืนมึงแตะต้องลูกพี่ กูก็จะฆ่ามึงเหมือนกัน กูทำแน่ กูไม่เอามึงไว้หรอกไอ้ชาติชั่ว” ปากก็ว่า ส่วนมือก็ออกหมัดออกมวยสะเปะสะปะไปหมด โดนบ้าง ไม่โดนบ้าง หลับหูหลับตาโจมตีร่างกำยำของอีกฝ่าย ราวกับฝูงเครื่องบินจู่โจมเจ้าสัตว์ร้ายในหนังเรื่องคิงคอง
“อ๊ากกกกกก กูบ้าแล้วเว้ยยยยย มาเลย มาต่อยกันตัวตัว ไอ้เลวชาติ.....ไอ้บ้า”
นี่มึง......รักมันมากขนาดนี้เลยเหรอวะกี๋ร่างหนาเองดูตกใจไม่น้อยที่เห็นคน ๆ นี้แสดงความกราดเกรี้ยวออกมาให้ได้เห็นเต็มสองตา......อาจจะเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่นายราเชนทร์กล้าที่จะตอบโต้ด้วยกำลัง.....ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วหมอนี่ทำได้แค่ประชดประชันด้วยคำพูดอย่างกล้า ๆ กลัวก็เท่านั้น
รักมันมาก......สินะ ไอ้ตัวเล็กนั่นคนตัวโตกระตุกยิ้มอย่างชั่วร้าย......ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังกังวานลั่น....ราเชนทร์ผละออกมา ใบหน้านั้นซีดเผือดด้วยความกลัวและคาดเดาไม่ได้ว่าอีกคนจะมาไม้ไหนอีก......
“กูไม่แตะก็ได้ แต่มึงต้องมีอะไรมาแลกกับกูกี๋”
“แลกเหี้ยอะไร มึงจะเอาเหี้ยอะไรจากกูอีก......แค่นี้มึงยังไม่หนำใจอีกเหรอ มึงทำลายชีวิตคน ๆ นึงเพราะความอยากจะเอาชนะโง่ ๆ ของมึงน่ะ มึงทำลายกู.....ทำลายกูมานานเกินไปแล้ว.....ชีวิตกูน่ะ ไม่มีเหี้ยอะไรจะให้มึงแล้ว”
คนพูดน้ำตาคลอ ก่อนจะทั้งทุบทั้งชกไปที่ลำตัวของอีกฝ่ายอีกครั้ง แต่นายกันต์ก็ยังคงยืนนิ่งปล่อยให้ทำโดยที่ไม่ตอบโต้
“มีสิ มึงยังเหลืออีกอย่าง ที่มึงยังไม่ได้ให้กู”
“อะไร”
“หัวใจของมึงไงกี๋....”
หัวใจของมึงไง......ให้กูเถอะนะ“เหี้ยอะไรของมึงไอ้กันต์ มึงพูดเหี้ยอะไร”
“ยกมันให้กูซะ อย่าให้มันกับใคร.....แล้วจะไม่มีใครต้องเจ็บ นอกจากมึงกับกู แล้วกูสัญญาว่ากูจะไม่แตะต้องลูกพี่ของมึง”
“มึงมันบ้าไปแล้ว” หนุ่มตี๋ทิ้งตัวทรุดลงกับพื้น ตรงแทบเท้าของนายกันต์......หอบแฮ่กอย่างหมดแรง
ใช่ มึงมันบ้าไปแล้ว......มึงมันบ้า......... วูบหนึ่ง ร่างหนามองคนตรงหน้าด้วยแววตาอันเจ็บปวด แต่เพียงคู่เดียวก็กลับมาวาวโรจน์ด้วยความโหดร้ายเหมือนเดิม
“คิดดูละกันนะ ถ้ามึงรักมันจริง มึงก็ต้องยอมเสียสละสิ......หัวใจของมึง แลกกับความปลอดภัยของมัน”
“ไอ้ชั่ว มึงมันชั่ว.....หึหึ......หึหึหึหึ”
“แล้วแต่มึงจะคิด”
“เลวที่สุด กูเกลียดมึง......เกลียดที่สุด”
“กูรู้กี๋.....กูรู้”
ราเชนทร์ฟุบหน้าลงกับพื้นห้อง น้ำตาไหลพรั่งพรูอย่างสุดกลั้น รู้สึกเหมือนเป็นคนขี้แพ้อย่างที่ชายคนนั้นพูดไม่มีผิด
จะทำอย่างไรดี.......มีทางเลือกอื่นอีกมั้ย.....หรือว่าจะต้องฆ่ามันจริง ๆ.............................................................................................
คนเก่งอีกคนย่องกลับเข้าห้องด้วยใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ
ประตูห้องถูกเปิดและปิดอย่างเบามือ
ในมือกอดกระเป๋าไว้แน่น
และตัวสั่น........ขาสั้น ๆ ค่อย ๆ.....กระดึ๊บ......กระดึ๊บ เหมือนหนอนเดิน
“กลับมาแล้วเหรอไอ้ตัวดี”
น้องชายยืนกอดอกมองด้วยสายตาโหด ๆ นายบู้ตัวลีบ หัวเราะแหะ ๆ
เอาตัวรอดยังไงดีให้เจ็บตัวน้อยที่สุด
สมองเพลีย ๆ พยายามคิด ขณะที่ร่างสูงสาวเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
“บุ๊กบิ๊กเดี๋ยวก่อน”
มือเล็กปล่อยกระเป๋าออกจากตัว และยกขึ้นเป็นเชิงห้าม ร่างสูงชะงัก และมองอีกฝ่ายอย่างประเมินท่าที นายบู้ฉีกยิ้มแฉ่ง มือเล็กของเจ้าตัวค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออก
“พี่ถอดเอง...........ตะ.....แต่ว่า........บ.....บุ๊กบิ๊กทำเบา ๆ นะจ๊ะ น๊า..............พลีส”
คิงคองยิ้ม......ยิ้มทั้ง ๆ ที่หน้าบึ้ง
ไอ้นี่มันเจ้าเล่ห์......แล้วก็เข้าใจเอาตัวรอด
หึ......คิดว่าจะรอดเหรอมึง.....หึหึหึ.....
ฝันไปเหอะ!!!
...................................................
To be con
หายไปหลายวัน คิดถึงป่ะ คอมพ์เสียอ่าค่ะ......แต่ดูท่าทางคงไม่ค่อยคิดถึงเค้ากันเท่าไหร่งุงิ
ปิงเปากำลังแต่งอยู่น๊า ถ้ามีคนอยากอ่านคู่นี้.....อดใจรอกันแป๊บ.....แต่ขอบอกว่าไม่หวานนะ เพราะเรื่องยังไม่จบ....รู้งี้แล้วยังอยากอ่านฟิคเค้าอยู่มั้ย อ่านเหอะ ๆ ๆ อ่านคั่นเวลารอเรื่องอื่นก็ได้เอ้า
แต่งไปเรื่อย ๆ ชักมีฉากหื่น ๆ และคำหยาบเยอะเว่อร์....เขิลเหมือนกันนะ ปกติคนแต่งออกจะเหนิด.....เอ๊ย เนิร์ดซะ
เจอกันตอนหน้าค่า....อิอิ