พยับพิเศษ เมื่อสามแฝดโตเป็นหนุ่มหลังจากที่คุณหลวงนพเทพอัครา รับเด็กลูกครึ่งแฝดสามมาอุ้มชูเลี้ยงดูในครานั้น เวลาก็ล่วงมากว่าสิบห้าปีแล้ว จากทารกน้อยก็กลายเป็นหนุ่มวัยรุ่นที่ทำเอาทั้งคุณพ่อ คุณป๋า และคุณย่าปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ก็ตอนเด็กๆดื้อแบบไหน ตอนโตก็คูณเข้าไปเถอะ!!
“พ่อทีป์ พ่อทีป์ อยู่รึไม่จ้ะ”
“อยู่ในเรือนขอรับพี่นพ มีกระไรหรือขอรับ”
“จักถามว่าพ่อสามคนนั้นไปไหนกันเล่า พี่ขึ้นเรือนมาไม่เห็น ไปที่วัดก็ไม่เห็นเยี่ยงกัน”
“เอ...คงไปที่ตลาดกระมังขอรับ”
“อีกแล้วหรือ พ่อทีป์ทำไมตามใจลูกนักนะหืม”
“ก็ผมรักของผมนี่ขอรับ”นภทีป์อ้อนพลางดึงคนตัวสูงที่ตอนนี้ยังหุ่นฟิตเปรี๊ยะผิดตำราพระยาบ้านอื่นมากอดพลางซบหน้าลงกับท้องอีกคน
“ดูเอาเถิด ก่อเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ยังดีที่มันรักเรียนกันบ้าง มิอย่างนั้นพี่คงจักฟาดเสียให้เข็ดเชียว”
“โธ่ จักไปฟาดกระไรมันขอรับ ลูกออกจะฉลาดเฉลียว เอางานเอาการ เสียแต่ชอบเที่ยวเล่นสนุกเสียหน่อยเท่านั้นเอง”
“พ่อทีป์นี่ละก็ ไยตามใจลูกมันนัก ยากจักฟาดทีก็หลบหลังพ่อทีป์ที สักห้าปีจะลงหวายสักทียังยาก เยี่ยงนี้มันถึงได้เกกมะเหรกเกเรกันนัก”เจ้าคุณนพ(อัพเกรดเวอร์ชั่นจากคุณหลวง)บ่นกระปอดกระแปดพลางพ่นลมหายใจพรู ลูกๆสามคนโตเป็นหนุ่มรุ่นกระทง รูปร่างสูงใหญ่ตามที่คาดไว้ เอ่อ ผิดไว้ก็แต่พ่อรพีกระมังที่ออกจะตัวเล็กเสียหน่อย แต่หน้าตาที่ถอดแบบกันมาทั้งสามคนนั้นก็หล่อเหลาดังที่คาด ผมสีน้ำตาลทอง จมูกโด่งเป็นสัน ไม่มีกระไรคล้ายเขาเลยสักนิดเดียว ยามนี้ข่าวลือเรื่องที่เขาเป็นลักเพศก็ซาไปแล้ว ด้วยเพราะชาชินกันทั่วพระนคร แลคุณหญิงแม่ของเขาเองก็มิได้ออกมาเดือดเนื้อร้อนใจอันใดด้วยมีหลานชายให้รบราด้วยถึงสามคน พ่อสามคนนั้นตั้งแต่เด็กก็มีเรื่องวุ่นมิได้ว่างเว้นเลยสักวัน
“พี่นพขอรับ พวกเขาเป็นเด็กดี”นภทีป์ว่าพลางดึงร่างสูงใหญ่ลงมานั่งข้างๆกาย รั้งใบหน้าคมลงมาใกล้ๆแล้วประทับจูบออดอ้อนแผ่วเบาที่ริมฝีปาก คลอเคลียกันจนลืมไปว่า ตอนที่เข้ามาในห้องท่านเจ้าพระยาเทวนพวิสูตรวัตรมิได้ลั่นดาลประตู อีกทั้งมิได้ปิดประตูเลยเสียด้วยซ้ำ!!
รวิ รวีและรพีมองหน้ากันพลางยิ้มกริ่ม มองคุณป๋ากับคุณพ่อคลอเคลียกันแผ่วเบาอยู่ในห้อง ตอนแรกพวกเขาว่าจะมาอ้อนป๋าขอไปเที่ยวกันในวันพรุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าจะมาเจอฉากเด็ดเข้าเต็มตาแบบนี้ รพีคนตัวเล็กสุดอยู่ด้านล่างสุดของฝาแฝดสองคน มองคุณป๋ากับพ่อตัวเองพลอดรักกันด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“เอ่อ วิ วี ฉันว่าเราออกไปก่อนดีไหมวะ”ระพีกระซิบถามพี่น้องสองคนที่เหลือ เพราะพ่อกับคุณป๋าเริ่มเร่าร้อนขึ้นทุกที นี่ไม่ได้รู้ตัวเลยรึไงนะว่าตัวเองไม่ได้ปิดประตูลั่นดาลน่ะคุณพ่อ เป็นเจ้าพระยะประสาอะไรกัน!!
“เออ ฉันก็เริ่มคิดแบบนั้นแล้วแหละ แต่ว่าอีกนิดได้ไหมวะ”รวิเอ่ย สายตาไม่ได้ละจากภาพตรงหน้า คุณป๋าเชิดหน้าสูงส่วนคุณพ่อก็เอาแต่หอมซอกคอคุณป๋าอยู่นั่นแหละ ให้ตายเถอะ นี่พวกผมยังไม่ได้ขึ้นครูนะครับพ่อ คุณป๋า ทำไมจะทำลูกใจแตกเสียแล้วล่ะ
“ฉันว่าพอเถอะน่า อีกนิดพ่อกับคุณป๋าก็จะอ๋า แค่คิดฉันก็เสียวซ่านไปหมดทั้งตัวเลยแหละ”
“ป๊าบบบ”เพราะตัวแต่ก้มหน้าสุมหัวซุบซิบกันไปมา จนไม่ทันดูว่าคุณพ่อพระยาของพวกตนที่ตะกี้คลอเคลียอ้อ ร้ออยู่กับคุณป๋าเดินใกล้เข้ามาจนฟาดเข้าให้ที่หัวกบาลเหม่งๆของรวีที่ยืนอยู่บนสุด
“โอ้ยยยยยยย เห้ยย คุณพ่อไหงมาอยู่ตรงนี้ได้เล่าขอรับ”
“มาสั่งสอนเด็กดื้อให้มันรู้จักเรื่องรู้จักราวเสียบ้างน่ะซี มีอย่างทีไหนมาแอบดูคนเขาพลอดรักกัน หือ? ป๋าตามใจจนเคยตัวแล้วกระมัง!!”
“คุณพ่อไม่ลั่นดาลเองต่างหากเล่าขอรับ พวกกระผมแค่จะมาหาคุณป๋าแต่ดันมาเจอคุณป๋าอ้อนคุณพ่ออยู่ แล้วก็...”รพีเถียงเบาๆทำเอาคนเป็นพ่อได้แค่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“น่าจักฟาดให้รู้จักหลาบเสียบ้างนะเจ้าเด็กพวกนี้ มาหาป๋ามีกระไรมาอ้อนอีกเล่าหือ??”
“จักขอไปเที่ยวน่ะขอรับ”รวีรีบเข้าไปกอดเอาป๋าพลางเอาหน้าหล่อๆซุกไปที่หน้าอก ส่วนรวิก็กอดอยู่อีกทาง รพีเลยได้แต่ยืนมองตาปริบๆ จะไปกอดขาเหมือนตอนเล็กๆก็คงไม่ดีกระมัง
“ขอพ่อเขาซี ป๋ามิช่วยพูดให้เด็กไม่ดีดอกนะ”
“โธ่ คุณป๋าขอรับ ถ้าคุณป๋าไม่ช่วยมีหวังพวกกระผมอดไปแน่ๆนะขอรับ”รวิกระซิบข้างๆหูป๋าพลางทำหน้าอ้อนวอนสุดฤทธิ์
“นะครับคุณพ่อ”รพีกอดแขนผู้ที่เรียกว่าพ่อมาตั้งแต่เล็กๆพลางเกยหน้าเข้ากับไหล่ผู้เป็นพ่อส่งสายตาหวานเชื่อมทำหน้าน่าเอ็นดูสุดฤทธิ์สุดเดช
“จักไปเที่ยวเล่นที่ไหนกัน?”ประมุขของบ้านถามเสียงเรียบ ทำเอาลูกๆขนลุกซู่ จากที่เตรียมจะอ้อนก็กลัวจนความอยากหายไปแล้วเกินครึ่ง ก็ใครใช้ให้คุณพ่อดุเป็นที่หนึ่งอย่างนี้ล่ะ ถึงจะไม่เคยได้เอาหวายมาลงที่หลังพวกเขาสักรอย (เพราะบารมีคุณป๋าแท้ๆ จะเรียกว่ากลัวเมียก็ว่าได้) แต่เขาก็กลัวอยู่ดีนั้นแหละ หน้าดุอย่างกับโจรแหนะ สามแฝดมองหน้ากันไปมาเป็นเชิงให้อีกคนพูด สุดท้ายก็เป็นรพีที่กอดแขน
“ก็ อันที่จริงวันพรุ่งพวกกระผมต้องเรียนภาษาอังกฤษกับคุณป๋านี่ขอรับ แต่ว่า...พรุ่งนี้มีงานมหรสพที่วัดน่ะขอรับ แลพวกกระผมก็อยากจักไปเดินเที่ยวเล่นกันเสียหน่อย”รวิพูดพลางพยักเพยิดกับพี่น้องอีกสองคน ที่พยักหน้าถี่ๆแบบขุนพลอยพยักเต็มที่จนคนที่เด็กๆเรียกว่าคุณป๋าได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ หรือเพราะเขาตามใจลูกมากไปแบบที่พี่นพบอกจริงๆนะ
“ตั้งแต่หัววันเลยหรือ?”
“โธ่ คุณพ่อขอรับ ก็ตอนกลางวันเขามีงานแข่งเรือกันด้วยนี่ขอรับ”
“เอาเถิดไปก็ไป แล้วไปกับใครบ้างเล่าลูก?”คนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยรูปว่าลูกตัวเองมีสหายที่เป็นลูกขุนน้ำขุนนางด้วยกันอยู่ เรียกว่าพากันซุกซนได้ที่
“ก็ไปกับพ่อเทพ แลพ่อเดชขอรับ”รพีตอบพลางยิ้มหวาน แค่นี้แผนการไปเที่ยวของพวกเขาก็สำเร็จ สุขกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
“ระมัดระวังตัวให้มากหนาลูก แลอย่ากลับให้ค่ำมืดมากนัก ป๋าจะรอ”นภทีป์เอ่ยดักทางด้วยรู้ว่าเจ้าเด็กพวกนี้ซุกซนยิ่งนัก เกรงจะไปเที่ยวกันดึกดื่นเลยบอกว่าจะอยู่รอเสียลูกจะได้ไม่กล้าไปนาน
“ขอรับป๋า พวกกระผมจะรีบไปแลรีบกลับมาอย่างปลอดภัยครบสามสิบสองประการแน่นอนขอรับ”รวีพูดพลางทำหน้าทะเล้น สี่พ่อลูกหยอกกันสักพักก่อนคุณป๋าของเด็กๆจะไล่ให้ไปอ่านหนังสือ ด้วยว่าอายุก็ใกล้วัยจะรับราชการได้แล้วสมควรให้ลูกมีความรู้มากๆเข้า
“วิ วี เสร็จกันรึยังพีรอนานแล้วนะ”รพีที่รออยู่ที่หอนั่งเดินมาตามรวิกับรวีที่หอนอน พวกเขาสามคนนอนด้วยกันตั้งแต่เด็ก จนโตเป็นหนุ่มรุ่นก็ยังไม่ได้แยกกันนอนแต่วันนี้เขาตื่นก่อน ไปช่วยป๋าพับดอกกลีบดอกบัวไปใส่บาตร ช่วยป๋าคุมบ่าวทำกับข่าวเพราะว่าคุณย่าแก่ตัวลงมากแล้วปีนี้เลยไม่ค่อยได้หยิบจับงานเรือนมากอย่างเคย แต่ยังดุมากเหมือนเคยละนะ
“อีกเดี๋ยวสิพี วีมันนุ่งผ้าอยู่ เดี๋ยวไม่หล่อทำไงเล่า”รพีได้แต่ส่ายหัวกับคำตอบของฝาแฝดตัวเอง ไอ่พวกนี้
“หล่ออยู่แล้วล่ะน่า รีบๆออกมาได้แล้วกระเดี๋ยวไม่ทันได้ดูแข่งเรือกันพอดี”
“เออน่า เสร็จแล้วๆ”รวิกับรวีเปิดประตูอกมาจากหอนอน สองหนุ่มแต่งตัวเหมือนกันเปี๊ยบ จะว่าไปก็เหมือนที่รพีแต่งอยู่แหละ ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงชอบแต่งตัวเหมือนกันนัก ผมสีอ่อนถูกใช้น้ำมันจับเสยจนเรียบแปล้กันทั้งคู่
“กลัวเขาไม่รู้รึไงว่าเป็นฝาแฝดกันถึงได้แต่งตัวเหมือนกันเยี่ยงนี้หือ?”นภทีป์เอ่ยกระเซ้าลูกชายเมื่อหนุ่มๆเดินผ่านหอนั่ง ลูกของเขาเริ่มโตจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าอีกปีหรือสองปีข้างหน้าเขากับพี่นพของเขาคงต้องเตรียมสินสอดทองหมั้นไว้แต่งเมียให้ลูก
“พวกนี้แต่งตามพีขอรับ เพราะพีตื่นก่อนแต่งตัวก่อน”รพีพูดพลางส่ายหน้าระอา มันเป็นแบบนี้แทบจะทุกครั้งแหละ เขามักจะตื่นก่อนพี่น้องตั้งแต่เล็กๆ ไปใส่บาตรกับคุณป๋า ช่วยคุณป๋ากับคุณย่าคุมบ่าวทำกับข้าว หรือไม่ก็ลงครัวเองบ้าง สายมาก็ไปเรียนกับพี่น้องอีกสองคน
“เชอะ ก็ใครใช้ให้พีตื่นก่อนตลอด พวกเราก็เลยต้องแต่งตามพีน่ะซี ถ้าพีไม่อยากโดนแต่งตัวตามพีก็ต้องตื่นทีหลังเสียบ้างรู้หรือไม่”รวีเอ่ยพลางโยกหัวรพีไปมา พวกเขาไม่รู้ว่าใครเกิดก่อนเกิดทีหลัง หลวงลุงที่วัดก็ไม่รู้เพราะตอนที่รับพวกเขามาก็ไม่ได้คุยกับแม่มายมาย สุดท้ายเลยถือว่าเกิดพร้อมกันเสียหมดเนี้ยแหละ
“ก็วีกับวิตื่นสายเองต่างหากเล่า แล้วมาแต่งตัวตามทำไมก็ไม่รู้ ไม่เห็นต้องแต่งตัวเหมือนกันแบบนี้ก็ได้นี่นา”
“เอ้าๆ มัวแต่เถียงกัน กระเดี๋ยวไปไม่ทันแข่งเรือพ่อไม่รู้ด้วยหนา”ประมุขของบ้านที่เพิ่งเดินมาที่หอนั่งเอ่ยกับลูกชายที่ดูท่าจะเถียงกันไม่เลิกรา
“งั้นพวกกระผมไปแล้วนะขอรับคุณพ่อ คุณป๋า แล้ววันนี้คุณย่าไปไหนเสียเล่าขอรับ”รวิถามพ่อกับป๋าพลางสอดส่ายสายตาหาคุณหญิงย่าที่ตั้งแต่ออกมาจากห้องนอนยังไม่เห็นเลยสักแวบเดียว
“คุณย่าลงไปที่ครัวน่ะลูก อย่าลืมไปบอกคุณย่าเสียก่อนล่ะท่านจะได้ไม่เป็นห่วง แล้วก็รีบๆกลับมาเล่า อย่าให้ดึกดื่นมากนัก”
“ขอร้าบบบบบบ”พอประสานเสียงรับคำพร้อมกันเสร็จก็รีบวิ่งลงเรือนด้วยเกรงจะโดนดุอีกยกข้อหากวนประสาทพ่อกับป๋าเสียเหลือเกิน นภทีป์ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจกับลูกชายทั้งสามคน เห็นทีจะจริงอย่างที่พี่นพชอบค่อนเขาว่าตามใจลูกเหลือเกิน
“เป็นอย่างไรเล่า ลูกคนดีของพ่อทีป์หืม”
“พี่นพขอรับ จะค่อนว่ากระผมอีกแล้วหรือ ว่ากันมาตั้งสิบห้าปีเข้าไปแล้วไม่เบื่อบ้างหรือขอรับ”
“ก็เบื่อน่ะซี เพราะพ่อทีป์ตามใจลูกเสียอย่างนี้ เฮ้อ...ยังดีที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหาไม่พี่คงได้ฟาดพ่อทีป์แรงๆสักสองสามที”
“จะฟาดได้ลงคอเทียวหรือขอรับ?”
“หึคิดว่าพี่ไม่กล้าหรือจ้ะพ่อคุณ กระเดี๋ยวถ้าพี่ฟาดด้วยไม้เรียวพี่ก็ฟาดด้วยอย่างอื่นเท่านั้น”เจ้าคุณนพกระเซ้าพลางรั้งคนตัวบางกว่าเข้ามากอดไว้เบาๆ
“พี่นพ กระไรถึงลามกเยี่ยงนี้ขอรับ แก่จนป่านนี้แล้วยังจะคิดแต่เรื่องพรรค์นี้อยู่อีก”
“กระไรมาว่าพี่เล่า หากไม่ฟาดด้วยไม้เรียวพี่ก็ฟาดด้วยแส้ ไม่ได้หมายถึงอย่างอื่นเลยสักนิด ไยพ่อทีป์ถึงได้เขินอายเยี่ยงนี้เล่าจ้ะ คิดถึงกระไรอยู่หรือ”เจ้าคุณนพกระเซ้าเมียรักที่นั่งอยู่อ้อมแขนพลางรัดอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด ดีเหลือเกินที่พ่อทีป์ไม่ได้จากเขาไปไหนจวบจนวันนี้...
“พี่นพ!!”นภทีป์ได้แต่ดิ้นเร้าๆอยากจะฟาดคนตัวโตกว่าให้เป็นรอยหนักๆ คนอะไรแถนัก ไม่รู้สีข้างถลอกไปแล้วรึยัง ทำหน้าตาทะลึ่งตึงตังอยู่เห็นๆยังจะมาพูดอีก
“วี วิ พี ทางนี้โว้ยทางนี้”เสียงเอะอะมะเทิ่งของเทพดังขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสามเดินเข้ามา สามคนนี้เป็นที่เตะตาของผู้คนนักแลด้วยใบหน้าแบบฝรั่งแต่แต่งตัวอย่างไทย พูดไทยชัดถ้อยชัดคำเสียขนาดนั้น
“อ้าว ไอ่เทพแล้วเดชละ?”รพีเอ่ยถามเมื่อมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นวี่แววของเดชเพื่อนอีกคนที่นัดกันว่าจะมาดูแข่งเรือด้วยกัน
“เดี๋ยวมันก็ตามมาน่า คงไปเกี้ยวสาวอยู่แถวๆนี้ พีก็รู้ว่าเดชมันเจ้าชู้ประตูดินจะตาย”
“เออ งั้นเราไปหาที่นั่งกันเถอะ”รพีนำทุกคนไปใต้ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ ปูเสื่อกกพลางทรุดตัวลงนั่ง แถวๆนี้มีของมาขายบ้างล้วนน่ากินไปหมดทั้งนั้น รออีกสักเดี๋ยวเถอะพ่อจะฟาดให้หนำใจ
“อ้าว นั้นไอ่เดชมาแล้วนี่ เดชโว้ยเดช ทางนี้ๆ”รวีกวักมือเรียกเพื่อนหยอยๆ เรียกให้สาวๆแถวนั้นหันมามองตามไปด้วย พอเห็นหน้าคนส่งเสียงก็ได้แต่เมียงมองสะเทิ้นอายไปเป็นแถบๆ
“เสียงดังน่าวี แล้วนี่มากันนานแล้วหรือ”
“มาก่อนกระเดี๋ยวเดียวเอง พ่อเดชไปไหนมาเล่า คงมิได้ไปเกี้ยวพาสาวบ้านไหนมาดูแข่งเรือด้วยกันดอกหนา?”รวิถามเสียกระเซ้าเย้าแหย่พลางขยิบตาไปมาเป็นที่น่าหมั่นไส้จนเดชแทบอยากจะยกเท้ามายันเพื่อนดูสักยก
“เกี้ยวสาวกระไร ฉันไปส่งหนังสือให้คุณพ่อดอกจึงมาสายเสียหน่อย เขายังไม่เริ่มแข่งกันอีกหรือ”
“เริ่มก็เห็นแล้วซีเอ็ง ตาถั่วจริงๆเลยเพื่อนเรา”เทพเอ่ยพลางส่ายหัวจนได้รับฝ่ามือจากเดชไปประทับอยู่บนหัวเกรียนๆนั้นถึงสองที จะว่าห้าหนุ่มนี่เป็นหนุ่มงามแห่งพระนครเลยก็ว่าได้ในยามนี้ ทุกผู้ล้วนเป็นบุตรของขุนนางชั้นสูงทั้งนั้น แลหล่อเหลาเอางานเอาการกันเสียทุกคนเสียด้วย
“เป็นกระไรหรือพีทำไมหน้ามุ่ยเยี่ยงนั้นเล่า”เดชถามพลางยื่นนิ้วไปเขี่ยแก้มคนตัวเล็กกว่าเบาๆ รพีน่ารักเสมอสำหรับเขาถึงหน้าตาจะเหมือนกับรวิกับรวีอย่างกับแกะก็เถิด แต่ถึงอย่างไรเขาก็ว่าไม่เหมือนกันอยู่ดีนั้นแหละ
“เปล่า พีไม่ได้เป็นกระไรเสียหน่อย เดชไปส่งหนังสือที่ไหนมาหรือ”
“กระทรวงน่ะ คุณพ่อท่านวานให้เอาไปส่งให้ เรามิได้เถลไถลอื่นไกลแลมิได้ไปเกี้ยวพาใครที่ไหนเลยนะ”
“พวกเราก็มิได้ว่ากระไรเดชนี่”รพีหันมายิ้มให้เพราะคิดว่าเพื่อนนึกว่าพวกตนโกรธที่มาสาย ทางข้างเดชก็ได้แต่นึกในใจปลงๆด้วยคนตรงหน้าไม่รู้ตัวเสียทีว่าเขามีใจให้ เมื่อไหร่จักรู้กันนะพ่อพี
“นี่สองคนนั้นน่ะมิดูแข่งเรือหรือไร”เทพตะโกนถามเพราะพอเรือเข้าที่พวกเขาก็รีบถลาไปที่ริมตลิ่งจนลืมดูไปว่าเพื่อนยังมิได้มาด้วย
“ดูซี ไปกันเถิดเดช กระเดี๋ยวพลาดละแย่เลย”
“อืม”เดชรับคำในลำคอพลางลุกขึ้นยืน หึ ตอนนี้ยังมิรู้ตัวก็มิเป็นไรให้รู้ตัวเมื่อไหร่เถิดพ่อพี พี่เดชคนนี้จักขย้ำมิให้เหลือเชียว!!
========================================
กลับมาแล้วพร้อมตอนพิเศษค่าาา ขอโทษที่หายไป (อีกแล้ว อีกแล้ว อีกแล้ว อีกแล้ว) ส่วนตอนปกติจะตามมาในไม่ช้าอาจจะหลังจากปั่นวิดีโอแนะนำคณะเสร็จ
เค้ามาง้อละน้าาา อย่าโกรธเค้าเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย อยากให้สามแสบมันเกรียนกว่านี้แต่ไม่รู้จะทำยังไง พวกนางโตมาแบบค่อนข้างเรียบร้อย -..-