วันที่ 201 ไอซ์สุขุม&จุ้มมุ้งมิ้ง
"คุณไอศูรย์ครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก"
จุมพลกำลังกินข้าวเย็นกับคุณไอศูรย์ แต่อยู่ดี ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว และพอนึกขึ้นได้จุมพลก็คิดว่าต้องรีบบอกคุณไอศูรย์ทันที
"อะไร"
คนถามที่นั่งอยู่ตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย และจุมพลก็ขมวดคิ้วมุ่น
"้ถ้าบอกแล้วจะยอมทำตามหรือเปล่าครับ ผมค่อนข้างซีเรียสกับคำตอบ ถ้าไม่คิดว่าจะทำได้ตามที่ขอ ผมขอเลี่ยงด้วยการไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้วกันครับ"
คุณไอศูรย์วางช้อนและส้อมไว้บนจานข้าว และเงยหน้าขึ้นมองหน้าของจุมพลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"มีอะไรก็บอกมาตรง ๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม"
แต่ว่า...... จุมพลมีสีหน้าลังเลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม ก้มหน้าลงเล็กน้อย และตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป
"มันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรหรอกครับ คุณไอศูรย์คงพอทำได้ แต่จะยินดีทำหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ"
ก็แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ ถ้าทำได้ก็จะทำให้
"พูดมา"
จะดีเหรอครับ
"อย่าโกรธนะครับ"
แสดงว่าเป็นเรื่องใหญ่สินะ
"เท่าที่ผมควรทำ"
ก็ได้ครับ ถ้างั้นก็.... จุมพลก้มหน้าลงเล็กน้อย ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตัดสินใจใช้ส้อมจิ้มทอดมันปลากรายส่งให้คุณไอศูรย์พร้อมกับพูดคำพูดบางอย่างออกมา
"ผมจะบอกว่าคุณไอศูรย์ช่วยอ้าปากหน่อย กินทอดมันที่ผมป้อนหน่อยนะครับ................อ้ามมมมมม"
คุณไอศูรย์ถึงกับนั่งนิ่ง และจ้องหน้าของจุมพลเงียบ ๆ
"ผมไม่ชอบกินทอดมันปลากราย"
แป่ววววววววว....ทำไมคำตอบมันกลายเป็นแบบนี้ล่ะครับ
ไม่แบบว่าจะยอมฝึนใจกินเลยเหรอ ไม่รู้สึกดี ที่ผมอุตส่าห์อยากทำอะไรหวานแหววด้วยเลยใช่มั้ยไม่มีอารมณ์แบบว่าอยากทำแบบนี้บ้างจริง ๆ เหรอ จุมพลถือส้อมจิ้มลูกชิ้นปลากรายค้างอยู่อย่างนั้น และก็กลับมานั่งที่ของตัวเอง
เออ ไม่อินก็ไม่อินวะ ไม่อินก็ไม่ว่า ชีวิตแม่งเหี่ยวเฉาหมด ทำไมถึงได้เป็นคนเย็นชาแบบนี้วะ ผมล่ะไม่เข้าใจความคิดของคุณเลยจริง ๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++
"ขยับไปหน่อยซิ"
อะไรอีกล่ะ
จุมพลนั่งเล่นเกมส์ไปเรื่อย ๆ แต่อยู่ดี ๆ คุณไอศูรย์ที่กำลังทำงานก็เดินมาหา และลงมานั่งอยู่ที่หน้าโซฟา ข้าง ๆ จุมพล มานั่งไม่ว่า แต่บอกให้ขยับให้หน่อย จุมพลก็เลยขยับให้ ทั้งที่ไม่ยอมมองหน้าของคนที่มานั่งอยู่ข้าง ๆ เลยสักนิดเดียว
"เล่นอะไร"
เล่นอะไรเหรอ ไม่ได้เล่น ออกจากเกมส์ที่เล่นทันที และจุมพลก็วางมือจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ปิดเครื่อง ชัตดาวน์ และเมื่อหน้าจอดับลง จุมพลก็เตรียมลุกหนีคนที่มานั่งข้าง ๆ
"จะไปไหน นี่เพิ่งสามทุ่ม"
ก็ไม่ได้ไปไหน
"จะไปนั่งที่อื่น ไม่อยากนั่งกับคนเย็นชา ป้อนทอดมันปลากรายก็ไม่ยอมกิน"
ถามมาก็ตอบ ไม่ได้ทำตัวหมางเมิน สิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้ก็แค่เลียนแบบพฤติกรรม คนเย็นชาบ้างเท่านั้น แล้วคุณไอศูรย์ก็ได้แต่อ้าปากค้าง และค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ
"ผมไม่ค่อยชินกับการที่คุณทำอะไรแบบนี้ด้วย"
อ่อ
แล้วผมชินหรือไงครับ ผมก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับคุณอยู่นี่ ผมไม่ได้บ้าบอขนาดมาอ้อนผู้ชายด้วยกันแล้วไม่รู้สึกรู้สา ไม่กระดากอายหรอกนะ แต่ที่ทำอยู่ตอนนี้ ก็แค่อยากให้เราสนิทกันมากขึ้น ไม่ต้องมาวางฟอร์มใส่กัน
ใครจะว่าผมทำตัวแปลก ๆ เพี้ยน ๆ ผมก็ไม่คิดจะสนหรอก ที่ผมทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้ใครมาคาดหวังกับผม
ที่ผมทำอะไรเพี้ยน ๆ โง่ ๆ แบบนั้น คุณไม่เข้าใจหรอกว่านั่นน่ะ เรียกว่า "ความพยายาม" ในการทำให้ช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมีความสุขมากที่สุด แต่คุณคงไม่เข้าใจ ทำตัวเย็นชาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็ยังคงเป็นอยู่แบบนั้น มันไม่สนุกนะ ที่ผมต้องพยายามอยู่คนเดียว แต่คุณไม่คิดจะพยายามด้วยกันกับผมเลย
"ไม่ชอบแบบนั้นก็ดีแล้ว ต่อไปผมจะได้ไม่ทำใส่คุณอีก"
จะไม่ทำอีกเหรอ จะไม่ทำ กลายเป็นคุณไอศูรย์ที่ต้องเป็นฝ่ายขมวดคิ้วมุ่นแทน
"โอเค ผมเข้าใจแล้ว คุณอยากให้ผมทำอะไร เอาที่ผมพอรับได้ คุณว่ามา"
อย่าให้พูดเลย
"พูดไปคุณก็ทำไม่ได้หรอก"
"แล้วรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้ ยังไม่ได้พูดเลยไม่ใช่เหรอ"
อ่อ
"แล้วอย่างคุณเนี่ย จะขอโทษผมแล้วพูดจาดี ๆ กับผมได้เหรอ ผมว่ายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีก"
แล้วอยากจะให้พูดอะไรล่ะ
"พี่ไอซ์ขอโทษครับ จุ้มจ๋า อย่าโกรธพี่ไอซ์เลยนะ พี่ผิดไปแล้ว ให้อภัยพี่นะครับ"
ประโยคคำพูดชวนเลี่ยนแบบยาว ๆ ที่จุมพลไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคุณไอศูรย์ มันทำให้จุมพลที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นถึงกับเกิดอาการเหวอ คนพูดไม่ได้มีอารมณ์กับบทพูดหวานเลี่ยนของตัวเองเลยสักนิด พูดเหมือนท่อง ทั้งที่ประโยคแสนหวาน แต่ใบหน้าของคนพูดเรียบเฉย และน้ำเสียงเวลาที่พูดประโยคแบบนั้นยาว ๆ มันดูตลกสำหรับจุมพลสิ้นดี
"คุณพูดว่าอะไรนะ"
ก็ไม่ได้พูดอะไรนี่
"ผมแค่บอกว่า .... พี่ไอซ์ขอโทษครับ จุ้มจ๋า อย่าโกรธพี่ไอซ์เลยนะ พี่ผิดไปแล้ว ให้อภัยพี่นะครับ"
เอ่อ....
ไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่ได้ฟัง แต่มันทำให้จุมพลทำหน้าแปลก ๆ และรู้สึกว่าประโยคคำพูดแบบทั้งหวานทั้งเลี่ยนนั้นมันฟังดูตลกมากเกินกว่าที่จะเรียกว่าคำขอโทษ
"อ่ะ.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เออออออออออ ผมเข้าใจแล้ว เข้าใจดีแล้ว ต่อไปไม่ต้องพยายามพูดแบบนี้กับผมก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องพยายามหรือฝืนทำอะไรแปลก ๆ แบบนี้หรอกผมเข้าใจแล้วครับ ผมเข้าใจแล้ว......ไอ้เรื่องแบบนี้ ให้ตายก็ไม่มีทางเหมาะสมกับคุณได้หรอก.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกชะมัด"
เข้าใจแล้วสินะ เข้าใจก็ดีแล้ว ปัญหาทุกอย่างผมพร้อมฟันฝ่า แต่ปัญหาที่ว่าควรพูดจาหวานซึ้งกินใจให้กับคนรักผมยอมรับว่าจนปัญญา
"พี่ไปยืนซ้อมขอโทษผม ในห้องน้ำมากี่รอบ ทำไมมันถึงได้กลายมาเป็นประโยคแบบนี้ แม่งตลกว่ะ โคตรฮาเลยจริง ๆ"
จุมพลถึงกับหัวเราะลั่นไมยอมหยุด และคุณไอศูรย์ก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ และเมินหน้าหนีไปทางอื่น เพราะรู้สึกอนาถตัวเองที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้
"เข้าใจแล้วว่าพี่ไอซ์ไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ ผมเข้าใจแล้ว"
เข้าใจก็ดีแล้ว เข้าใจก็เลิกงอแงได้แล้ว
"ผมทำของผมคนเดียวแบบนี้ก็ได้ จะทำจนกว่าคุณจะรำคาญผมจริง ๆ ไปเลย ดีมั้ย"
ก็.....ได้ คุณไอศูรย์พยักหน้า และส่งยิ้มน้อย ๆ ให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เราดีกันเรียบร้อยและจุมพลก็ขยับเข้ามาหาคุณไอศุรย์อีกนิด
วางมือทั้งสองข้างไว้ที่ขาของคุณไอศูรแล้วก็กระพริบตาปริบ ๆ ทำหน้าตาน่ารักใส่
"............"
ไม่มีคำพูดใด ๆ จากคุณไอศูรย์มีแค่เพียงดวงตาสองคูที่จ้องมองกัน แค่มองตา จุมพลก็รู้ว่าคนที่ทำหน้าเฉย โคตรจะชอบสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้
"พี่ไปสายอ้อนไม่รอดหรอกเชื่อผม"
ก็คิดว่าอย่างนั้นล่ะ
"ก็เลยเอาดีสายจริงจังอยู่นี่ไง"
นั่นสินะ ก็เลยเอาดีทางสายจริงจังว่างั้น ผมว่าก็เหมาะสมกับพี่ดี อย่างน้อยผมก็จะได้ไม่ต้องเคร่งเครียดหรือคิดมากให้ปวดหัว
เพราะมาคิด ๆ ดูแล้ว พี่ไอซ์ตอนที่อ้อนคงน่ารักมาก และผมคิดว่าไม่ควรมีใครได้เห็น นอกจากผมคนเดียวเท่านั้น
ใครจะมองยังไงจุมพลไม่รับรู้และไม่สน แต่ใครจะมองคุณไอศูรย์ตอนที่ทำท่าทางน่ารัก มากกว่าทำท่าเคร่งขรึม อันนี้ผมยอมรับไม่ได้ และก็อยากให้รู้ด้วยว่า นอกจากไม่ชอบแล้ว ผมยังคิดว่าตัวเอง กำลังเริ่ม "หึง" และ "หวง" คุณอยู่ไม่น้อย
และถ้าเป็นไปได้ ผมขอเก็บคุณเอาไว้กับตัวเงียบ ๆ และไม่ปรารถนาให้ใครได้เห็นสีหน้าแววตาของคุณในเวลาที่คุณคิดจะอ้อน ผมขอเก็บสิ่งพิเศษแบบนี้เอาไว้กับตัวนะ ผมไม่ปรารถนาให้ใครได้เห็นความน่ารักของคุณ
โปรดรู้เอาไว้ก็ดีก็นะครับคุณไอศูรย์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันที่ 275 จุ้มปลอบใจ กับ พี่ไอซ์ขี้กลัว
"ดินสอเนี่ยแหละเขียนง่ายสุด เขียนเสร็จแล้วก็ลบได้"
การเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระระหว่าง คุณไอศูรย์และจุมพลเริ่มขึ้นแล้ว
"ไม่เอา เอาปากกาเขียน"
ทำไมต้องปากกาด้วยวะ
"ดินสอเนี่ยแหละดีแล้ว" จุมพลยังคงมุ่งมั่นกับการใช้ดินสอเขียนลงไปในเอกสาร และคุณไอศูรย์ก็เร่มทนไม่ไหว
ดึงดินสอ ออกจากมือของจุมพลและยัดเยียดปากกาใส่มือให้แทน
"มันลบง่ายดี ทำไมถึงต้องให้ใช้ปากกาด้วยล่ะ"
เงยหน้ามามองคนที่ให้ช่วยทำงาน แล้วคุณไอศูรย์ก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ และบอกเรื่องบางอย่างที่จุมพลไม่เคยรู้มาก่อน
"ผมกลัวเสียงดินสอทื่อ ๆ เวลาขีดลงบนกระดาษมันจะเป็นเสียงแปลก ๆ ผมไม่ชอบเสียงแบบนี้"
กลัวเสียงดินสอเนี่ยนะ กลัวเสียงดินสอ กลัวเสียงดินสอ.................. พี่ไอซ์ พี่จะน่ารักเกินไปแล้วววววววววว
จุมพลถึงกับหัวเราะออกมาและเงยหน้าขึ้นมองคนที่ทำหน้าขรึมแต่หน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ
อายเหรอนั่น พี่อายเหรอ พี่ไอซ์อายว่ะ เพิ่งเคยเห็น จุมพลลุกขึ้นไปกอดคุณไอศูรย์เอาไว้แน่น หัวเราะออกมาเสียงเบาและคุณไอศูรย์ก็บ่นอะไรบางอย่างเสียงดังพึมพำ
"กอดทำไมเนี่ย มันใช่เรื่องต้องมากอดมั้ย"
มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องกอดหรอก แต่ผมอยากโอ๋พี่ไอซ์บ้างมันผิดด้วยเหรอ เห็นกลัวหรอกนะ ถึงอยากโอ๋ ไม่อยากให้พี่ไอซ์ตกใจกลัวไปยิ่งกว่านี้
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
พี่ไอซ์รู้มั้ย อาการกลัวเสียงแปลก ๆ ของพี่มันทำให้ผมรู้สึกว่า พี่น่ารักเพิ่มขึ้น อีก 10 เท่า พี่ไอซ์นะพี่ไอซ์ อะไรก็ไม่เคยกลัว มากลัวเสียงขูดดินสอเนี่ยนะ พี่จะน่ารักเกินไปแล้วครับ จุมพลยังคงยิ้มหน้าระรื่น แต่คุณไอศูรย์ที่นั่งให้กอดทำหน้าเฉย
ทั้งที่อาการเขินอาย แสดงออกให้เห็นชัด
หูแดงหมดแล้วพี่ไอซ์ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ผมไม่เคยเห็นพี่อาย แต่เวลาพี่อาย แม่งน่ารักชะมัด ดีแล้วที่พี่ไม่ไปทำให้ใครเห็น
แบบนี้ไง โคตรน่าหวง พี่น่ารักขนาดนี้ได้ยังไงวะ ผมอยากรู้ว่าพี่น่ารักขนาดนี้ได้ยังไง จุมพลกอดคุณไอศูรย์เอาไว้แน่น และคุณไอศูรย์ก็ยังคงบ่นอะไรบางอย่าง
"ก็คนมันกลัวจะให้ทำไง"
ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ก็กลัวไปสิ แค่คิดว่า ถ้ากลัวอะไรน่ารัก ๆ แบบนี้ พี่รีบ ๆ กลัวเยอะ ๆ เลยนะ นาน ๆ ที ผมจะได้กำไรจากพี่บ้าง
เวลาพี่ไอซ์เขินและอาย....มันน่ารักจนผมแทบละลาย........ ทำไมพี่น่ารักได้ขนาดนี้ครับ ผมไม่เข้าใจ
วันที่ 365 จุ้มงี่เง่า กับ พี่ไอซ์ช่างง้อ
จุมพลหลับไปตั้งนานแล้ว และวันนี้ไม่ได้รอคนที่นั่งทำงาน สาเหตุที่ไม่รอ ก็เพราะว่าเรา ทะเลาะกัน
เรื่องที่ทะเลาะกัน ช่างแสนไร้สาระ คุณไอศูรย์ไม่ยอมกินคุกกี้ที่จุมพลป้อน แค่นั้นเอง
หลับไปได้พักใหญ่ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมายุกยิกวุ่นวายอยู่ที่เอว และเมื่อปรือตาตื่นขึ้น ก็รับรู้ได้ว่าคนที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลัง เริ่มลงมือก่อกวน กันอีกแล้ว
"อย่า"
ร้องออกมาเสียงเบา และก็ยกหลังมือขึ้นขยี้ตา รู้สึกตัวตื่นขึ้นและจุมพลก็ได้ยินคำพูดจากน้ำเสียงทุ้มต่ำที่ดังแผ่วเบาที่หลังหู
และนั่นทำให้จุมพลขนลุกซู่และต้องเม้มริมฝีปากแน่น
"อยากกอดจุ้มแน่น ๆ"
ไม่ขอโทษสักคำ แล้วอยู่ดี ๆ ก็มาพูดว่าอยากกอดแน่น ๆ แล้วนี่เรียกว่ากอดแน่น ๆ เหรอวะ มันใช่ที่ไหนกันล่ะพี่ไอซ์
จับมือของคนที่เริ่มยุกยิกเอาไว้ให้หยุดการเคลื่อนไหว และพยายามเอาตัวรอดด้วยการพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของคุณไอศูรย์ให้ได้
"นอนนิ่ง ๆ อยู่ดีๆ แล้วให้พี่กอดซะ"
อะไรวะ แบบนี้มันเรียกบังคับกันชัด ๆ ถึงในใจจะต่อต้าน แต่จุมพลก็นอนนิ่งให้คุณไอศูรย์กอด และปล่อยให้ฝ่ามือร้อนรุ่มลากไล้เล่นที่หน้าท้อง
ทำไปทำไมวะ นอนแล้วลูบขนาดนี้ มันใช่เรื่องที่ไหนวะ ลูบขึ้นลูบลงแบบนี้อยู่ได้ ถามหน่อยเถอะ โดนลูบขนาดนี้ใครจะไม่มีอารมณ์ล่ะครับ ผมอยากจะรู้
"พี่อะ...ไอซ์ อืมมม"
เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง และคนที่นอนอยู่ด้านหลังก็ขานรับเสียงเบา
"อือ"
ไม่ต้องมาตอบแค่ "อือ" คำเดียวแบบนี้นะ แบบนี้มันเรียกว่า "ยั่ว" ให้ "อยาก" ชัด ๆ
"จะทนไม่ไหวแล้ว"
"ทนอะไรไม่ไหว"
คงไม่ต้องให้อธิบายมาก พูดแค่นี้ก็น่าจะรู้ว่าอะไรที่ว่าทนไม่ไหว ไม่มีคำอธิบายของจุมพล นอกจากการที่จุมพลเป็นฝ่ายกุมมือของคุณไอศูรย์เอาไว้และเป็นฝ่ายจับมือของคุณไอศูรย์ให้เลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ
จนฝ่ามือร้อน ๆ กุมอยู่ที่ความโป่งนูนที่เหมือนจะทะลุกางเกงที่ใส่นอนออกมา
"อ่ะ นี่ ผมทนไม่ไหวแล้ว"
ไม่ไหวเหรอ
"แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะ ถ้าจุ้มทนไม่ไหว"
ก็ไม่ต้องทำไง ก็แค่....... ค่อย ๆ พลิกกายหันมาหาคุณไอศูรย์และช้อนสายตาขึ้นมองหน้าของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ กัน
แหงนเงยใบหน้าขึ้นเล็กน้อย และแตะริมฝีปากเบา ๆ ที่ปลายคางของคนที่นอนทำหน้าเฉย และก็กลายเป็นจุมพลที่ค่อย ๆ เคลื่อนกายขึ้นไปทาบทับอยู่บนร่างของคุณไอศูรย์
จัดการกับเสื้อที่สวมอยู่ ถอดออกและโยนทิ้งเอาไว้ ลูบไล้ฝ่ามือไปตามแผ่นอกกว้าง และจุมพลก็โน้มใบหน้าลงมาดูดกลืนริมฝีปากร้อนรุ่มคู่นั้นเอาไว้ แสดงความต้องการทั้งหมดออกมาทั้งทางร่างกายและสายตา
และเมื่อดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง ต่างฝ่ายต่างก็รู้ความหมายของกันและกัน
คุณไอศูรย์อมยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากและแหงนเงยใบหน้าขึ้นรองรับรสจูบแสนหวานแสนเร่าร้อนของคนที่ขึ้นไปคร่อมทับอยู่เหนือร่าง
นี่เพิ่งแค่เริ่ม ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล และทั้งคุณไอศูรย์และจุมพลก็รู้ดี เราหายโกรธกันแล้ว ตั้งแต่เราขึ้นมานอนร่วมเตียงเดียวกัน
TBC.