วันต่อมาน่านนทีกับออมเริ่มงานตอนบ่ายสาม แต่จิตใจกระวนกระวายอยากให้ถึงตอนกลางคืนเร็วๆ หกโมงเย็นกลุ่มคนจากแผนกนิติฯ เริ่มเดินออกจากห้องทำงาน ออมแกล้งเดินไปซื้อกาแฟข้างนอก มองคนในแผนกนั้นเดินจับกลุ่มกันออกไปในซอยแล้วรีบกลับมาเล่าให้คู่ซี้ฟัง
“เดินไปกันหมดเลยว่ะปิง”
“นั่นไง นึกแล้วเชียว กินเลี้ยงใกล้ๆ นี่เอง ขับไปก็หาที่จอดยากอีก ตื่นเต้นเก้อเลยอะ” ผู้จัดการเคยบอกไว้แล้วว่าห้ามจอดรถนอกเวลางานเกินสองทุ่ม เดินไปกันหมดแสดงว่าใกล้ๆ แถวนี้แล้วก็เลิกไม่ดึกชัวร์
“อย่าเพิ่งถอดใจน่า รอตอนเลิกก่อน ถ้าดึกมากก็ผิดอยู่ดี จับได้ยกก๊วนไม่ดีเหรอ”
“ไม่เอาอะ สงสารพี่แวว” น่านนทีตอบ ออมพยักหน้าหงอยๆ อย่างเห็นด้วย สองคู่ซี้นั่งประจำเคาน์เตอร์ทำงานอย่างตั้งใจต่อไป ถึงปากบอกว่าสงสาร แต่ใจก็ยังอยากแก้เผ็ดสองคนนั้นอยู่ดี
เวลาผ่านไปจนสามทุ่มกว่า แจ็คส่งเสียงมาทางวิทยุสื่อสารว่าแผนกนิติฯ กำลังแยกย้ายกลับ เหลือเพียงสากับหงส์ที่ยังไม่เข้ามาเอารถที่จอดทิ้งไว้
ออมพยักหน้าให้น่านนทีอย่างหนักแน่น เดินออกไปดักซุ่มที่ประตูด้านข้างซึ่งมีรถของหงส์จอดอยู่
“ทำไมยังไม่มาอีก นานแล้วนะ” น่านนทีนั่งยองๆ จนเริ่มเมื่อย ลุกขึ้นปัดยุง ชะเง้อมองก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
“นั่นดิ ถ้าออกจากร้านพร้อมคนอื่นก็ต้องเดินมาถึงได้แล้ว เกือบยี่สิบนาทีแล้วเนี่ย ยุงก็เยอะ”
“กลับไปที่เคาน์เตอร์เถอะ ถ้าเข้ามาเมื่อไรแจ็คก็วอมาบอกเอง” น่านนทีชวนเพื่อนเดินคอตกกลับมา ภารกิจนี้ยุ่งยากจนเขาเริ่มรำคาญ ทำไมการดักถ่ายรูปคนอื่นมันถึงลำบากขนาดนี้ การสอดรู้เรื่องคนอื่นนี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
โจมารับช่วงต่อตอนห้าทุ่มครึ่ง คอนเซียซสามคนกำลังนั่งปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องงานเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานของลูกบ้านที่ติดต่อขอใช้สถานที่บริเวณสระว่ายน้ำที่ชั้น 5 ทางคอนเซียซต้องประสานงานทั้งการตกแต่งสถานที่ เตรียมอาหารเครื่องดื่ม แจ้งลูกบ้านเรื่องงดใช้สระว่ายน้ำตามวันและเวลาที่ระบุมา รวมไปถึงความพร้อมเรื่องที่จอดรถสำหรับแขกในงาน ขั้นตอนทุกอย่างต้องจัดเตรียมและเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จสิ้นภายในเวลาสองชั่วโมง เมื่อไม่ให้รบกวนลูกบ้านท่านอื่น
“มาแล้วนะๆ ได้ยินไหม” เสียงจากวิทยุสื่อสารดังขึ้นตอนที่น่านนทีกับออมจะแยกย้ายกันกลับ
“ได้ยินๆ ถึงไหนแล้ว” ออมรีบคว้าวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดตอบโต้ โจมองลูกน้องตัวเองอย่างสงสัย น่านนทีส่งยิ้มแหยให้
“เพิ่งเข้ามา เดินผ่านไปเมื่อกี้” แจ็คส่งเสียงบอก
“ไปเร็วๆ แก” ออมวางวิทยุแล้วคว้าแขนเพื่อนลากไปที่ประตูด้านข้างอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ในมือทั้งคู่แยกกันเปิดโหมดถ่ายรูปและวิดีโอ คนรับหน้าที่ถ่ายภาพเคลื่อนไหวคือน่านนที
ทั้งคู่มองรถเป้าหมายแล้วรีบวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ท้ายรถฝั่งตรงข้ามเพื่อให้ได้มุมที่ใกล้และชัดขึ้น เสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ น่านนทีกับออมโผล่สายตาพ้นขอบกระโปรงหน้ารถมองคนที่กำลังเดินตรงมาด้วยฝีเท้าซวนเซ ไม่มั่นคงเหมือนปกติ ออมรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปไว้อย่างรวดเร็ว น่านนทีก็ไม่น้อยหน้า หามุมที่เห็นชัดที่สุดแล้วกดซูมเข้าไปให้เห็นหน้าและทะเบียนรถที่จอดฝั่งตรงข้าม คนถูกแอบถ่ายไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด มีเพียงอาการโซเซก่อนหยิบกุญแจรถกดเปิดแล้วเข้าไปนั่ง ไม่นานก็ขับออกไป
“อ้าว ทำไมมาคนเดียววะ”
“นั่นดิ หรือแยกกันกลับ”
“ช่างเถอะ คนเดียวก็สะใจเหมือนกัน” ออมยิ้มกว้างเมื่อทำภารกิจสำเร็จ แม้จะเสียเวลารอจนเลิกงานแต่ก็คุ้ม สองคู่ซี้เดินกลับเข้าไปหยิบกระเป๋า เสียเวลาอธิบายให้โจฟังนิดหน่อยก็แยกย้ายกันกลับด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อไม่ถูกตำหนิหรือห้ามปราม อันที่จริงแทบจะเรียกว่าสนับสนุนด้วยการแนะนำให้ส่งทั้งรูปและคลิปไปทางไลน์ของผู้จัดการเลย ใบร้องเรียนเดี๋ยวโจจะพิมพ์แล้วไปยื่นให้ผู้จัดการเอง ทั้งสามคนนัดกันว่าจะร้องเรียนเรื่องนี้วันมะรืนเพื่อไม่ให้ดูเป็นการตั้งใจจับผิดเกินไป
“ยิ้มใหญ่เลยนะ ดีใจขนาดนั้นเลย” คนขับรถส่งกลับบ้านเอ่ยแซวคนรักที่ยิ้มไปเล่าไปอย่างอารมณ์ดี
“โชคดีนะที่เขากลับดึกกว่าคนอื่นขนาดนี้ ถ้าห่างกันไม่มากก็คงฟ้องผู้จัดการไม่ได้หรอก”
“แต่อย่างมากก็แค่โดนตักเตือนเองไม่ใช่เหรอ”
“เขาเคยโดนเตือนไปแล้ว ถ้าทำผิดเรื่องเดิมอีกก็อาจจะไม่ได้โบนัสปลายปี มีผลเรื่องปรับเงินเดือนด้วย”
“แล้วอย่างที่ปิงเคยโดนเรียกล่ะ”
“ของปิงมันร้ายแรงกว่า ก็อาจโดนไล่ออกหรือสั่งย้าย แต่ก็ต้องยอมรับ ปิงทำใจได้ สงสารก็แต่คุณสิง จะไปส่งปิงทั้งทีก็ต้องไปจอดรถรอข้างนอกมืดๆ อย่างนี้” เพราะสถานที่ทำงานกลายเป็นสถานที่ต้องห้าม เวลาไปรับไปส่งก็จะจอดรถห่างจากคอนโดฯ หน่อย แต่บ้านสิงหาตกแต่งใกล้เสร็จแล้ว ไม่นานปัญหานี้ก็จะหมดไป
“ตื่นเต้นดี ผมชอบ” คนพูดแกล้งทำเสียงแหบพร่าชวนคิดลึก
“นับวันยิ่งดูคึกๆ แปลกๆ นะ เอาคุณสิงคนเดิมกลับมาให้ปิงเดี๋ยวนี้นะ” มือเล็กคว้าหมับเข้าที่แก้ม แม้เนื้อจะไม่ค่อยมีก็ยังพยายามดึงออกมา
“ฮ่าๆๆ โอย...อย่าดึงแก้มครับ เจ็บๆๆ”
“นี่มันเรียกแก้มได้ที่ไหน ที่มันแค่ผิวหนังส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง แก้มต้องนิ่มๆ แบบนี้นี่” น่านนทียืดแก้มตัวเองให้อีกคนเห็น เนื้อแห้งๆ แบบนั้นมันไม่ควรเรียกว่าแก้ม มันคือของปลอม
“ไม่นิ่มแต่หอมนะ ลองไหม”
“ไม่เนียนเลย อยากให้หอมแก้มก็บอกตรงๆ” คนขี้เขินสะบัดหน้าหนี รู้ว่าเวลาขอแล้วเขาจะเขินมากกว่าปกติก็ชอบขอนั่นขอนี่อยู่ได้ ทำๆ ไปให้จบๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องขอ
คนขี้ขอชะโงกหน้ามากระซิบใกล้ๆ “อยากให้จูบมากกว่า”
“นั่นก็ตรงเกินนนน” เขารีบผลักหน้าคนขี้แกล้งออกไป จังหวะไฟแดงก็เป็นใจเหลือเกิน พอผลักหน้าคนขับก็ฉวยมือเขาไปจุ๊บอีกแล้วเห็นไหม
“ทำไมน่ารักจังวันนี้ ยิ้มแป้นตลอดเลย เห็นแล้วอยากบีบ” สิงหาคว้ามือนิ่มมาวางแปะบนหน้าขาตัวเอง เดี๋ยวจับเดี๋ยวลูบด้วยความเคยชินไปแล้ว
“ก็ปิงมีความสุข เฮ้อ โลกนี้ช่างมีความยุติธรรม”
“ดีใจจนเพี้ยนไปแล้วแฟนผม” สิงหาแกล้งส่ายหน้าระอา แต่รอยยิ้มที่มีปิดบังความเอ็นดูที่มีให้ไม่มิด น่านนทีแกล้งทำเป็นงอน ใช้หน้าผากโขกหัวไหล่คนขับรถเบาๆ ก่อนอ้อนให้พาไปกินบะหมี่เกี๊ยวกุ้งก่อนกลับบ้าน
หลายวันหลังจากส่งเรื่องร้องเรียนถึงผู้จัดการเรียบร้อยแล้ว สองคู่ซี้ทำได้เพียงรอฟังข่าวจากคนอื่น เรื่องที่ร้องเรียนไปคือการจอดรถนอกเวลางานซึ่งเป็นความผิดเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็เป็นความสุขใจเล็กๆ ที่ได้เอาคืนบ้าง
“ว่างนักหรือไงถึงเที่ยวหาเรื่องคนอื่น ปัญหาตัวเองยังเอาไม่รอด ไม่รู้จักสำนึก” เสียงหงส์ดังขึ้น เธอเดินตามหลังน่านนทีเข้ามาในห้องพักพนักงาน เขามองใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธของอีกฝ่ายแล้วเลือกจะเมินเฉย ถือแก้วไปกดน้ำร้อนเพื่อชงชาผลไม้ไปดื่มระหว่างวัน
“ไอ้ปิง!” หงส์กำหมัดจนเล็บที่ต่อมาจิกลงไปบนเนื้อ
“ทีใครทีมันสิ แค่นี้ทำมาโวยวาย ผิดก็ต้องยอมรับนะ ทีหลังจะได้ไม่ทำอีก”
“บอกตัวเองเถอะ หิ้วกันขึ้นห้องไปกี่รอบแล้วล่ะกับผัวเกย์ของแกน่ะ ทุเรศ”
“พูดอย่างนี้อยากโดนฟ้องหมิ่นประมาทอีกคนใช่ไหม” น่านนทีหันขวับจ้องตาคนพูดอย่างเอาจริง ครั้งนี้เขาพร้อมปะทะ
“ฉันพูดความจริง ผัวแกมันเป็นเกย์ แกก็เป็นเกย์ ไม่รู้ใครผัวใครเมียกันแน่ ทำไมฉันต้องทำงานที่เดียวกับพวกทุเรศแบบนี้ด้วย สกปรก” เมื่อเห็นความไม่พอใจผ่านสีหน้าน่านนที หงส์ก็เริ่มพอใจที่ยั่วให้อีกฝ่ายโกรธได้ ความจริงเธอไม่ได้สนใจเลยว่าใครจะได้กับใคร ยกเว้นมันคนเดียวที่ไม่ถูกชะตาตั้งแต่ทำงานด้วยกันวันแรกแล้ว
“ดีเลย ด่าแรงดี ห้องนี้มีกล้องวงจรปิดด้วยนะ หลักฐานพร้อม” น่านนทีชี้ไปทางกล้องวงจรปิดที่มุมห้อง แต่เขาไม่รู้หรอกว่ามันบันทึกเสียงได้ชัดแค่ไหน
“ไอ้ปิง!! ไอ้บ้า ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด อยากฟ้องก็ฟ้อง คนเขาจะได้รู้กันให้ทั่วว่าแกกับดารานั่นเป็นผัวเมียกัน ไม่กลัวเสียชื่อก็เอาสิ ฟ้องเลย”
ใช่ว่าเขาจะใจเย็นได้อย่างที่แสดงออก เขาพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ ใช้สมองมากกว่าอารมณ์แบบคนโง่ตรงหน้า “....อย่างป้าก็ดีแต่ด่าคนอื่นลับหลังเท่านั้นล่ะ ถึงจะไม่ฟ้องศาลแต่ก็ฟ้องผู้จัดการได้ นินทาลูกบ้านในทางเสื่อมเสีย โดนไล่ออกแน่ๆ”
“ไอ้ปิง!! แก!”
“ถ้าเข้ามาสาดจริงๆ นะ” น่านนทีชูแก้วที่น้ำร้อนให้อีกฝ่ายเห็น หงส์มองแล้วได้แต่กำมือแน่น เหลียวมองของใกล้มือมีชั้นวางขนมเล็กๆ เลยหยิบขึ้นมาแล้วปาลงพื้นข้างเท้าน่านนที จากนั้นก็กวาดขวดโหลชากาแฟ บางส่วนตกแตกกระเด็นแฉลบไปที่ขาน่านนที โชคดีที่เป็นกางเกงขายาวเลยไม่มีแผล ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิดเธอคงโยนใส่หน้าอีกฝ่ายไปตรงๆ แล้ว
น่านนทีมองคนที่สะบัดหน้าเดินออกไปหลังจากทำห้องเละเทะ เขาค่อยๆ วางแก้วน้ำในมือลง มือสั่น ตัวชา ใจเต้นแรงจนแทบทะลุจากอก ทั้งหมดไม่ได้เกิดจากความกลัว แต่เป็นความโกรธที่ระบายออกไปไม่ได้ ถึงแม้อยากทำคืนบ้างแต่ไม่เคยมีความคิดไปถึงขั้นลงไม้ลงมือแบบนี้ ถ้าหงส์พุ่งเข้ามาจริงๆ เขาคงทำได้แค่วิ่งหนี ไม่กล้าสาดน้ำร้อนใส่คนอื่นแน่นอน เขามองของที่กระจัดกระจายบนพื้นก่อนเดินหลบออกจากห้อง ในเมื่อไม่ได้เป็นทำคนก็ไม่จำเป็นต้องเก็บ ให้คนที่ตั้งใจก่อเรื่องมาเก็บเองแล้วกัน
เสียงฟุบจากแรงนั่งของเพื่อนร่วมงานทำให้ออมหันมามองอย่างตกใจ เธอกำลังนั่งดูซีรีส์ติดพัน เพื่อนคนดีเธอของเธอเดินหายไปครู่เดียวทำไมกลับมาหน้าบึ้งอารมณ์เสียขนาดนี้
“เป็นไรแก”
“โดนป้าหงส์มาหาเรื่องอะดิ เกือบโดนตบแล้วเนี่ย”
“เฮ้ย เมื่อกี้น่ะเหรอ แล้วโดนทำอะไรเปล่า” ออมรีบลากเพื่อนมาสำรวจร่างกาย
“ขู่ว่าจะเอาน้ำร้อนสาดเลยขว้างของใส่ ในห้องพักอะเละเลย ไม่ได้เก็บด้วย”
เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่เจ็บตัวก็ดีแล้ว “เออดีแล้ว ไม่ต้องไปทำ แม่ง มันจ้องหาโอกาสตอนแกอยู่คนเดียวแน่ๆ เลย แล้วมันว่าไงบ้าง”
“ก็ด่าตามประสาคนโลกแคบอะ ด่าไปถึงคุณสิงโน่น โคตรโมโหเลย”
“ใจเย็นๆ ด่าแรงเลยเหรอ ฟ้องเลยดิ”
“ไม่เอาหรอก สงสารคุณสิง เดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก”
“เออ ใจเย็นๆ เว้ย มือสั่นเลย อย่าเครียดๆ อย่าร้องนะเว้ย”
“โมโหอะ ทำไมต้องด่าคุณสิงด้วยล่ะ พวกในเน็ตก็เหมือนกัน เห็นเขาใจดีหน่อยก็เลยทำร้ายเขาง่ายๆ เหรอ”
“เออ เข้าใจ เขียนใบร้องเรียนเลยไหม เดี๋ยวเดินไปเอาให้ หรือจะบอกทางไลน์ไปก่อน” ออมพูดเอาใจเพื่อนที่เริ่มตาแดงเป็นกระต่าย ถ้าน้ำตาหยดเมื่อไรเธอสาบานเลยว่าจะรีบโทรไปบอกพี่ฝ้ายให้ฟ้องคุณสิงทันที
“เดี๋ยวปรึกษาพี่โจก่อน” น่านนทีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความปรึกษาหัวหน้าตัวเองก่อน ฟ้องสองเรื่องติดมันดูเป็นคนขี้ฟ้องเกินไป เดี๋ยวจะขาดความน่าเชื่อถือ
โจรู้เรื่องทั้งหมดก็รีบเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว การร้องเรียนคู่กรณีคนเดิมถึงสองครั้งติดมันดูไม่ดีเท่าไร ผู้จัดการอาจไม่ค่อยชอบใจ ฉะนั้นให้จัดการปัญหากันเองแบบง่ายๆ จะได้ผลมากกว่า
ทั้งสองฟังคำแนะนำแล้วดำเนินการทันที น่านนทีวิ่งกลับไปที่ห้องพักพนักงาน สภาพด้านในยังเหมือนเดิม เขาถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้ก่อนเดินกลับมา กดพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มพนักงานประจำคอนโดฯ
ทำผิดระเบียบไม่พอ พอโดนร้องเรียนก็มาอาละวาดใส่คนอื่น ใครทำเอาไว้ไปจัดการด้วย ของที่พังก็ซื้อมาใช้คืนด้วย – ปิง
แนบรูปหลักฐานความเละเทะในห้องส่งให้พนักงานทุกคนได้ดู จำนวนคนอ่านแล้วเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมคำถามที่ว่าใครทำ บางคนเดินเข้าไปดูถึงที่เกิดเหตุแล้วส่งรูปมาให้เห็นว่าน่านนทีไม่ได้ส่งรูปปลอมไป แต่มีคนทำห้องพักเละเทะจริงๆ ออมไม่รอช้า รีบระบุชื่อคนทำให้ทุกคนไปเอาเรื่องได้ตามสบาย
พี่หงส์เป็นคนทำ เขาไม่พอใจที่ปิงฟ้องเรื่องจอดรถนอกเวลางานวันเลี้ยงส่งพี่แวว – ออม
แน่นอนว่าคู่ซี้อย่างสารีบเข้ามาแก้ตัวแทนเพื่อน รวมถึงพนักงานในแผนกนิติฯ คนอื่นด้วย
แค่นี้ทำไมต้องฟ้อง วันนั้นไปเลี้ยงส่งพี่แววกันทั้งแผนก กลับดึกกันทุกคน คนอื่นก็จอดทิ้งไว้เหมือนกัน พี่แววยังจอดเลย ทำไมต้องจ้องหาเรื่องหงส์ตลอด – สา
ออมหัวเราะคิกคักข้างๆ เพื่อน ก่อนส่งรูปคืนนั้นในทุกคนเห็น น่านนทีพิมพ์ตอบโต้กลับไป
คืนนั้นกลับกันตอนสามทุ่มกว่ากันไม่ใช่เหรอ คนอื่นก็กลับกันหมด มีพี่หงส์คนเดียวกลับตั้งเที่ยงคืนกว่า แล้วไม่ใช่แค่ครั้งแรกด้วย ทำบ่อย ใครๆ ก็เห็น – ปิง
ใช่ บางทีก็ไปจอดที่จอดของลูกบ้านแล้วทิ้งกุญแจให้ผมคอยเลื่อนรถให้ แบบนี้ไม่ไหวนะ ผมกลัวโดนด่าเหมือนกัน – แจ็ค
แจ็คเป็นกำลังเสริมชั้นดีโดยที่ไมได้ร้องขอ น่านนทีกับออมนั่งหัวเราะกับการบ่นของแจ็ค ที่สำคัญคือจำนวนคนอ่านไลน์ใกล้ครบแล้ว หวังว่าหนึ่งในนั้นจะมีผู้จัดการคอนโดฯ อยู่ด้วย การตอบโต้ของฝั่งนิติฯ เงียบลงไปเมื่อมีแจ็คเข้ามาร่วมด้วย น่านนทีส่งข้อความส่วนตัวไปขอบคุณ พร้อมสัญญาว่าจะเอาเมนูเด็ดที่บ้านมาตอบแทน
การปะทะคารมจบลงด้วยบรรยากาศคุกรุ่น หลังจากนั้นทุกครั้งที่เจอหน้าไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องสะบัดหน้าใส่กันอยู่เสมอ การแอบมองแอบซุบซิบที่กระตุ้นความหงุดหงิดหายไป เปลี่ยนเป็นต่างคนต่างอยู่เหมือนอยู่ในสงครามเย็นระหว่างแผนก จนกระทั่ง...
“ไล่ออก!!”
“จริงดิพี่นิด ไล่ออกเลยเหรอ”
“เออสิ เดี๋ยวคงมีประกาศออกมา เพิ่งไล่ออกเมื่อเช้า เดินร้องไห้ขึ้นรถออกไปเลย” นิดเล่าให้คู่ซี้ที่มาเข้างานต่อจากเธอฟังถึงเหตุการณ์ตอนเช้า ตอนแรกเธอก็ไม่รู้เรื่องแต่แจ็คมากระซิบบอกอีกที
“โห แค่ขว้างชั้นขนมใส่ปิงมันเองนะ โทษร้ายแรงจัง” ออมยังไม่ค่อยแน่ใจกับข่าวนี้ พนักงานทะเลาะกันควรมีการลงโทษทั้งคู่ แต่น่านนทีก็ไม่ได้โดนเรียกพบ ไม่มีการลงโทษหรือตักเตือน เธอเลยไม่คิดว่าเรื่องนั้นจะร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก ของที่เสียหายคนทำก็รับผิดชอบชดใช้ไปแล้วด้วย
นิดรีบเบรกความคิดไม่เข้าท่าของทั้งคู่ “ใช่ที่ไหนล่ะ ปิงมันเป็นเจ้าของคอนโดฯ หรือไงถึงแตะไม่ได้ คิดอะไรกัน”
“อ้าว แล้วโดนเรื่องอะไร” น่านนทีถามเบาๆ ความจริงเขาแอบคิดเข้าข้างตัวเองไปเหมือนกันนะ สรุปไม่เกี่ยวกับเขาเหรอ
“แจ็คมันเล่าว่าไปแอบยุ่งกับลูกบ้าน ที่ชอบจอดรถทิ้งไว้เพราะไปกับลูกบ้านเนี่ยแหละ ไปเปิดห้องใกล้ๆ ชั่วโมงสองชั่วโมงเสร็จก็มาขับรถกลับบ้าน”
น่านนทีทำหน้าไม่ถูกเมื่อรู้สาเหตุ “โห แล้วด่าปิงซะขนาดนั้น สรุปตัวเองทำเอง”
“ใครจับได้เหรอ ทำไมเก่งจัง” ออมถาม
“เมียเขาสิจับได้ ผู้ชายมีเมียแล้ว ก็อยู่ที่นี่ด้วยกันแต่ชอบแวบหายดึกๆ บ่อยๆ เมียเลยแอบตาม เมื่อคืนตีกันนัวเลยที่หน้าตึก แจ็คมันยังไปช่วยหงส์ไว้เลย โดนถ่ายคลิปประจานในเฟซบุ๊กด้วย สงสารมันเหมือนกันนะ”
“สงสารที่โดนประจานนะ แต่ไม่สงสารที่โดนตบเลย” ออมพูดตรงๆ ผู้หญิงแบบนั้นไม่ได้มีความน่าสงสารเลย แต่การโดนประจานก็เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
“สรุปที่ชอบด่าปิงนี่คือกลบเกลื่อนความผิดตัวเองเหรอเนี่ย เฮ้อ บอกอารมณ์ไม่ถูกเลย พี่นิดเจอเขาด้วยเหรอ ทำไมยังกล้ามาทำงาน” น่านนทีคิดแล้วก็อดเห็นใจนิดๆ ไม่ได้ ถึงเขาจะอยากเอาคืนแต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการแฉคนอื่นบนอินเทอร์เน็ตแบบนี้
“ไม่ได้มาทำงานย่ะ มาเก็บของแล้วก็ไป ผู้จัดการคงโทรไปบอกมั้งว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว ในเพจคอนโดฯ น่ะเมียหลวงเอารูปหงส์ไปแฉไว้เต็มๆ เลย ทั้งรูปทั้งชื่อเบอร์โทรตำแหน่งงาน มีรูปสาด้วยนะ”
“อ้าว เขาเกี่ยวด้วยเหรอ” น่านนทีถาม ส่วนออมรีบหยิบโทรศัพท์เข้าไปเช็กในเพจคอนโดฯ
“เหมือนจะทำทั้งคู่ ไม่รู้นะ เมียหลวงเขาปล่อยรูปเต็มเลย มีรูปสามีเขาไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน แล้วมีหงส์กับสาในรูปด้วย กอดเอวกันแน่นเลยล่ะ” นิดเปิดโทรศัพท์ให้ดูรูปที่คู่กรณีของหงส์นำมาแฉ ในนั้นมีรูปเดียวที่มีสาอยู่ด้วย นอกนั้นเป็นรูปหงส์กับผู้ชายคนนั้น มีทั้งรูปคู่ รูปหมู่ รูปไปเที่ยวตามที่ต่างๆ หรือแม้แต่ไปงานเลี้ยง ตีกอล์ฟ แสดงว่าหงส์ค่อนข้างเปิดตัวเหมือนกัน
“ไซด์ไลน์เหรอ รุ่นนี้ได้ด้วยเหรอ” ออมดูรูปแล้วได้ข้อสรุปแบบนี้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าแค่ทำแบบชั่วคราว หรือเลี้ยงดูกันจริงจัง เรื่องนี้มีแต่คนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้
หลังจากนั้นผู้จัดการคอนโดฯ ก็เรียกหัวหน้าทุกแผนกไปประชุม ก่อนมีประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งเรื่องการปลดพนักงานออกเพราะทำผิดระเบียบร้ายแรง คนที่ถูกไล่ออกมีเพียงหงส์คนเดียว โจเล่าว่าผู้จัดการเรียกทั้งสองคนไปคุยแล้ว ทั้งคู่ยืนยันตรงกันว่าสาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับลูกบ้านในคอนโดฯ นี้ รูปที่ไปเที่ยวสาไปเป็นเพื่อนหงส์เท่านั้น และไม่ได้มีการติดต่ออะไรกับผู้ชายในรูปอีก แน่นอนว่าพนักงานบางส่วนเชื่อ แต่บางส่วนก็ไม่
“ไม่รู้เขาได้ไอเดียการฟ้องจากคุณสิงหรือเปล่า ถึงไปฟ้องเมียลูกบ้านว่าหมิ่นประมาทตัวเอง” น่านนทีเล่าความคืบหน้าของอดีตเพื่อนร่วมงานที่กำลังมีคดีฟ้องหมิ่นประมาทกันอยู่ให้สารถีส่วนตัวฟัง
“ตามหลักกฎหมายมันก็ฟ้องได้อยู่แล้ว จะผิดจะถูกก็ไม่มีใครมีสิทธิด่าหรือประจานคนอื่น”
“มันก็จริง แต่เมียหลวงเขาฟ้องกลับไง หมิ่นประมาทอย่างมากก็ได้สามแสน แต่ไปเป็นชู้คนอื่นนี่มันเรียกได้ตามฐานะใช่ไหม”
“ใช่ อยู่ที่ฐานะคนฟ้องเลย เอาไปฟ้องหย่าได้อีกต่อ”
“เขาว่าไม่หย่านะ ผู้ชายรวยมากเหมือนกัน เฮ้อ ไม่รู้ทำไมทำตัวแบบนี้เนอะ ด่าปิงประจำแต่ตัวเองทำหมดเลย”
“ช่างเขาเถอะครับ เขาไปก็ดีแล้ว ปิงจะได้ไม่ต้องรำคาญอีก”
“ใช่ สบายตาขึ้นตั้งเยอะ คุณสิง! เลยๆๆ จอดก่อนๆ เลยร้านบะหมี่ปิงแล้ว” มือนิ่มตีต้นขาคนขับป้าบๆ เพราะกลัวเลยร้าน
“วันนี้ก็จะกินเหรอ” สิงหาเปิดไฟเลี้ยวเตรียมหาที่จอดแต่ไม่มีว่างเลย
“ใช่ หิวมาก จอดเลย โห เลยมาตั้งไกลแล้ว คุณสิงอะ” แก้มกลมป่องนิดๆ เมื่อหันไปมองระยะทางที่ต้องเดินย้อนไป
“เดี๋ยววนกลับไปให้ก็ได้ หรือจะเลยไป ข้างหน้ามีก๋วยเตี๋ยวเป็ดนะ บะหมี่กินหลายวันติดแล้ว เปลี่ยนเมนูดีไหม”
คนหิวแต่ขี้เกียจเดินเริ่มลังเล “.....อืม ก็ได้ ตามใจคุณสิงเลย”
“หืม...ฮ่าๆๆ โอเค ตามใจผมนะ” สารถีจำเป็นขับตรงไปข้างหน้าตามใจตัวเอง จุดหมายปลายทางคือร้านเด็ดอีกร้านตามเสียงเรียกร้องจากกระเพาะของคนรักที่นั่งตาวาวอยู่ข้างๆ แก้มใสเนียนนุ่มเป็นก้อนกลมเมื่อเจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างตอนมองเห็นเป้าหมายใกล้เข้ามา
“ถึงแล้วๆๆ ท้องร้องจ๊อกๆ เลยเนี่ย”
“ไปครับ เติมพลังกัน” สิงหาพยักหน้าชวนคนรักเดินลงจากรถ กินมื้อดึกเป็นเพื่อนน่านนทีอีกครั้ง ส่วนฟิตเนสวันพรุ่งนี้คงต้องเพิ่มเวลาออกกำลังอีกสักชั่วโมง
จบ