ตอนที่ 11
เรือนร่างบอบบางยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องน้ำมาเป็นเวลากว่าสิบนาที จังหวะการหายใจพลันติดขัดเนื่องด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว กานต์รักอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำซึ่งคนตัวโตเอ่ยสั่งให้ใส่ ยังดีที่อีกฝ่ายเห็นใจให้เขาได้มีเวลาทำใจต่ออีกนิด
หากบอกว่าคืนนั้นเป็นคืนที่ชวนสั่นไหวแล้ววันนี้กลับรู้สึกไม่ต่างกันซักเท่าไหร่ คราวนี้รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะต้องเจอกับอะไรยิ่งพาให้จินตนาการในหัวโลดแล่นไปไกล กานต์รักไม่แน่ใจว่าการอาบน้ำนั้นมันจะจบลงที่เพียงการอาบน้ำจริงหรือไม่ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้สองขาเรียวไม่กล้าก้าวเดินไปเสียที
จะกี่ครั้งก็ยังไม่ชินกับความขัดเขิน...
ทว่าหากช้าไปกว่านี้ซาตานตัวร้ายคงจะขุ่นเคืองกันยิ่งกว่าเดิม คุณแพทริกเอาแต่ใจแค่ไหนกานต์รักรู้ดี ยามนึกถึงใบหน้าคมดุเรียบนิ่งใจดวงน้อยก็วูบโหวงขึ้นมาอย่างไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น จนในที่สุดต้องกลั้นใจพาตัวเองก้าวเข้าไปข้างใน
ยิ่งเข้ามายังห้องน้ำกว้างขาเล็กก็ยิ่งสั่นจนแทบเดินไม่ตรง กระทั่งเห็นคนตัวสูงนอนหลับตาพิงขอบอ่างที่เต็มไปด้วยฟองอยู่จึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
หากให้เห็นอะไรต่อมิอะไรสว่างโล่งโจ้งแบบนี้ก็กลัวว่าตัวเองจะหัวใจวายไปเสียก่อน
“กว่าจะเข้ามาได้ ฉันเกือบจะหลับไปแล้ว”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังไม่ลืมตาพาให้คนขวัญอ่อนที่ค่อยๆก้าวเข้ามาสะดุ้งสุดตัว บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัดจนกานต์รักได้ยินเสียงหัวใจอันถี่รัวของตัวเอง สองขาเรียวก้าวเดินไปกระทั่งพาตัวเองมาหยุดอยู่ข้างอ่างอาบน้ำกว้าง แม้ใบหน้าคมจะหลับนิ่งทว่าก็ยังเขย่าใจดวงน้อยจนสั่นไหว
“ระ รักต้องทำยังไงบ้างครับ” เสียงหวานใสเอ่ยสั่นด้วยความตื่นเต้นระคนขัดเขิน แทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าจะพาตัวเองไปอยู่ตรงไหนอย่างไร มือบางกำแน่นเข้าหากันจนเหงื่อซึมตามข้อนิ้วไปหมด
“สระผมให้ฉันหน่อย” ดวงตาคมลืมขึ้นสบกับคนที่ยืนนิ่งก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง รู้ดีว่าหากมองอยู่อย่างนั้นคงไม่พ้นกานต์รักไม่เป็นอันทำอะไร
“...ครับ” ตอบรับเสียงแผ่ว ลมหายใจติดขัดถูกสูดเข้าลึกก่อนร่างเล็กจะค่อยๆก้าวขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างด้านที่อีกคนพิงหัวเอาไว้
“ขออนุญาตนะครับ” เสียงหวานเอ่ยบอกก่อนจะค่อยๆวางมือลงบนหัวของแพทริกอย่างแผ่วเบาเมื่อเจ้าของนั้นพยักหน้าอนุญาต สายน้ำเย็นชโลมลงมาพร้อมกับสัมผัสนุ่มยามมือเล็กสางไปตามเส้นผมคนที่นอนอยู่ก็รู้สึกสบายเสียจนต้องยกยิ้ม
“ใช้น้ำอุณหภูมิห้องสระผมจะดีกว่านะครับ ถ้าใช้น้ำอุ่นอาจจะทำให้ผมแห้งได้” กานต์รักพูดพร้อมกับสางนิ้วไปตามเส้นผมหนาอย่างระมัดระวัง ตักบอบบางเปียกชื้นไปทั่วเนื่องจากน้ำที่ไหลลงมา
“อืม ฉันไม่เคยสนใจเรื่องอะไรพวกนี้หรอก” เสียงทุ้มตอบทั้งที่ยังคงหลับตา
“คุณแพทชอบอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นมากกว่ากันครับ” คนตัวเล็กชวนคุย
“น้ำเย็น” ถ้าหากไม่หนาวจริงๆแพทริกไม่คิดจะอาบน้ำอุ่นเลยด้วยซ้ำเพราะน้ำเย็นนั้นให้ความรู้สึกสดชื่นมากกว่า
“ที่จริงสระผมด้วยน้ำอุ่นจะทำให้ผมนุ่มนะครับ แต่ห้ามบ่อยเกินไปนานๆทีสระได้ไม่เป็นไร” กานต์ปิดฝักบัวให้น้ำหยุดไหลก่อนมือเล็กจะกดแชมพูใส่ฝ่ามือแล้วขยี้เบาๆไปทั่วเส้นผมหนาจนเกิดฟอง
“นายใส่ใจแม้แต่เรื่องสระผมด้วยน้ำอุ่นน้ำเย็นหรือไง” คนที่รู้สึกสบายหัวจนแทบเคลิ้มหลับเอ่ยขึ้น
“รู้ไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ”
“อืม” แพทริกตอบรับเสียงเบาเพราะรู้สึกสบายเกินกว่าจะพูดอะไร มือเล็กแต่นุ่มราวกับผู้หญิงขยี้ผมแผ่วเบาอย่างกลัวว่าเขาจะเจ็บ ทำให้คนที่แทบไม่เคยใส่ใจกับอะไรแบบนี้รู้สึกอุ่นๆขึ้นมาในใจ เวลาแพทริกสระผมก็แค่ขยี้ให้มันเสร็จๆไป และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่คนอื่นมานั่งสระผมให้แบบนี้
“ถ้ารักทำแรงไปบอกได้นะครับ” กานต์รักล้างผมหนาที่เต็มไปด้วยฟองออกจนสะอาดเกลี้ยงก่อนจะชโลมยาสระผมลงไปใหม่อีกครั้ง
“แค่นี้หัวฉันก็แทบไม่สะเทือนแล้ว มือนายเบาอย่างกับผู้หญิง”
“เคยมีผู้หญิงสระผมให้คุณแพทริกด้วยเหรอครับ” เสียงของคนเหนือหัวเอ่ยแผ่วเบาจนแพทริกต้องลืมตาขึ้นมอง สองสายตาสบกันนิ่งกระทั่งดวงตากลมโตเลือกที่จะหันไปมองทางอื่น
วูบหนึ่งของความรู้สึกนั้นคือความหึงหวงที่กานต์รักรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ แต่ยิ่งตอกย้ำตัวเองเท่าไหร่กลับยิ่งคิด ข่าวสารมากมายที่เห็นและได้รับรู้แล่นเล่นงานใจดวงน้อยเข้าอย่างจัง
“ไม่มี”
“...”
“ฉันก็แค่เปรียบเทียบ คิดไปถึงไหน” แม้มือบางจะยังคงทำหน้าที่ของมันทว่าใบหน้าหวานที่ฉายแวววูบไหวก็ทำให้แพทริกรับรู้ได้ว่าร่างบางนั้นคิดไปไกลกับประโยคที่เขาพูด
แม้อาจจะไม่จำเป็นที่คนอย่างแพทริก เบรนเนแกนต้องอธิบายทว่าพอเป็นกานต์รักมันกลับไม่ใช่อย่างนั้น เขาพอใจที่จะพูดให้คนคิดมากฟัง
“เปล่าครับ...”
“เปล่าแล้วทำไมยังทำหน้าแบบนั้น”
“ผม...ขอถามอะไรคุณแพทริกหน่อยได้ไหมครับ” เพราะมีเรื่องที่ยังคงค้างคาในใจคนตัวเล็กจึงเอ่ยออกมาเสียงเบา
มือบางที่ล้างผมให้จนสะอาดกำลังจะกดครีมนวดใส่ฝ่ามือเป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อคนที่นอนพิงขอบอ่างอยู่ลุกขึ้นมาคุกเข่าประชันหน้า จนใบหน้าคมอยู่ในระดับเดียวกัน ยังดีที่ตั้งแต่ใต้เอวสอบลงไปนั้นมีน้ำในอ่างช่วยปกปิดส่วนที่แข็งแกร่งเอาไว้ ไม่อย่างนั้นกานต์รักคงใจสั่นจนไม่เป็นอันทำอะไร
แค่ในตอนนี้ที่เห็นเรือนกายส่วนบนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อในระยะใกล้ชิดก็พลันทำให้สมองแทบไม่ทำงาน กานต์รักเกือบจะลืมไปหมดแล้วว่าก่อนหน้านั้นตนกำลังวูบไหวด้วยเรื่องอะไร
“ว่ามาสิ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างบอกว่าอนุญาตให้กานต์รักถามมาได้ คนตัวเล็กสูดหายใจเข้าลึก เรียบเรียงคำพูดในหัวเพื่อให้มันไม่ออกมาดูเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีกฝ่ายมากนัก
เขาแค่อยากรู้ แม้ว่าคำตอบจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
“...ตอนนี้...คุณแพทคบกับใครอยู่ครับ”
“...”
“รักหมายถึง...ทุกอย่าง...ระ รวมถึงคู่นอน...นอกจากรักแล้ว มีใครอีกบ้างครับ” ทันทีที่เสียงเล็กหลุดออกไปทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
เป็นเวลากว่านาทีก่อนใบหน้าคมจะเคลื่อนเข้าหาดวงหน้าเล็กที่หลุบมองตักของตัวเองนิ่ง นิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยขึ้นมาสบตาคมดุที่มีกระความไม่พอใจเจืออยู่จางๆ
“ฉันดูเป็นคนยังไงในสายตานาย”
“...”
“ฉันไม่ได้มีเวลามากมายนะกานต์รัก มีเวลาว่างฉันก็อยู่กับนายขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรือไง...จะให้ฉันไปอยู่กับใครตอนไหน
ไม่ได้คบใครก็มีอยู่คนเดียว”
“...”
“แล้วเป็นคู่นอนอะไร ถ้านายเป็นแค่คู่นอนฉันไม่จำเป็นต้องสนใจเลยด้วยซ้ำ”
“...”
“มีอยู่คนเดียว คบอยู่คนเดียว ทั้งคู่นอนหรืออะไรก็ตามนายเป็นมันทั้งหมดนั่นแหละ” กานต์รักค่อยๆเลื่อนสายตาอันสั่นไหวขึ้นมาสบกับนัยน์ตาคมตรงหน้า เสียงทุ้มดังผ่านเข้าหูก่อนจะไหลซึมไปทั่วร่าง และราวกับว่ามันสลักลึกลงไปในหัวใจ ใจดวงน้อยที่วูบโหวงก่อนหน้าค่อยๆเต้นถี่รัวขึ้นมาเหมือนต้นไม่แห้งแร้งได้รับน้ำ
ใบหน้าคมที่ถูกเสยผมไปทางด้านหลังจากการสระพาใจให้สั่นไหวจนเจ็บหน้าอก หยดน้ำไหลลงตามกรอบหน้าหล่อเหลาช่างเป็นภาพหน้ามองทว่ามันกลับไปไม่ได้ทำให้ใจสั่นได้เท่าทุกประโยคที่อีกฝ่ายพูดออกมา
กานต์รักไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง ทำอย่างไร จะคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม...ตอนนี้ไม่รู้อะไรเลยซักนิด
“ร้องไห้ทำไม?” คนถูกถามนั้นไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าน้ำตาไหลลงมาตอนไหน กระทั่งเสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับข้อนิ้วแกร่งที่ไล่เช็ดให้อย่างแผ่วเบาถึงได้รู้สึก ใบหน้าเล็กส่ายสะบัดไปมาอย่างไม่รู้จะตอบคำถามนั้นอย่างไร
กานต์รักไม่รู้...ไม่รู้เลยว่าทำไม ไม่รู้เลยว่าต้องรู้สึกยังไง มันตื้นตันไปหมด
“ฮึก มะ รักไม่รู้ครับ”
“ฉันไม่ใช่คนที่ดีและอาจจะเห็นแก่ตัวมากที่ยังไม่สามารถพูดคำว่ารักได้ในตอนนี้...รู้ไว้แค่ว่าฉันหวง ห่วง และไม่ต้องการที่จะขาดนายไป...แล้วตอนนี้ฉันก็ไม่ได้มีใครนอกจากนาย” ยิ่งเสียงทุ้มเอ่ยออกมามากเท่าไหร่น้ำสีใสยิ่งไหลลงมามากเปรอะแก้มเนียนมากเท่านั้น กระทั่งกานต์รักทนไม่ไหวจนหลุดเสียงสะอื้นออกมา
มือใหญ่ที่กุมใบหน้าเล็กแทบมิดยังคงไล่เช็ดน้ำตาให้อย่างใจเย็น คนร้องไห้มองใบหน้าคมที่แสนพร่ามัวจนแทบไม่เห็นก่อนจะโผเข้ากอดแล้วซบหน้าที่เปื้อนด้วยหยดน้ำตาลงกับไหล่กว้างเปล่าเปลือย
“ฮึก ขอบคุณครับ...อึก รักไม่ได้ คาดหวังขนาดนี้เลย...ต่อให้ คุณแพทจะมีใคร แต่ขอแค่รักยังได้อยู่ตรงนี้ กะ ก็พอแล้ว”
แพทริกโอบตวัดเอวเล็กที่โถมกายเข้าหา ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังบอบบางภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำอย่างปลอบประโลม
คราแรกเขาอาจจะใจร้ายกับเด็กตรงหน้ามาก แต่ทุกอย่างก็ค่อยๆถูกหลอมละลายด้วยความอ่อนหวานและความอ่อนโยนอันแสนบริสุทธิ์
กานต์รักพังทลายความแข็งกระด้างที่เขามีจนแพทริกสัมผัสได้ว่าตัวเองแปลกไป อาจจะไม่ได้ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงทว่าเขาย่อมรู้ดีว่าบางอย่างในหัวใจมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“
นายอยู่ตรงไหนก็ได้เท่าที่นายอยากอยู่”
“ระ รักรัก...รักคุณ” เสียงใสเอ่ยพร้อมกับสะอื้นฮักในอ้อมกอดแข็งแรงของแพทริก คำที่เมื่อได้ยินก็เขย่าหัวใจดุจหินผาให้สั่นไหวได้ทุกครั้ง
“ฉันรู้...แต่ว่าตอนนี้เลิกร้องไห้ได้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบโยนเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่คนตัวเล็กก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดร้อง น้ำตาจากดวงตาโตรินรดไหล่แกร่งเป็นวงกว้าง
“ฮึก รักหยุดไม่ได้” กานต์รักเองก็ไม่ได้อยากร้องไห้แต่ว่าน้ำตากลับไม่ยอมหยุดไหลเลยซักนิด ร่างหนาผละออกห่างจากร่างเล็กก่อนจะพยายามเช็ดน้ำตาให้อีกครั้ง
เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยต้องมานั่งเช็ดน้ำตาให้เด็กขี้แยคนไหนเลย
“ไม่หยุดฉันจะจูบแล้วนะ” แพทริกแกล้งเอ่ยเผื่อว่ามันอาจจะทำให้กานต์รักหยุดร้องไห้ได้
แต่แล้วอีกคนกลับทำให้เขาแปลกใจด้วยการขยับริมฝีปากเข้ามาทาบทับ คนตัวเล็กแนบชิดกันนิ่งอยู่ซักพักก่อนจะค่อยๆพยายามจูบอย่างไม่ประสาจนแพทริกนึกขัน มือหนาที่วางอยู่บนกรอบหน้าเล็กจึงรั้งให้สัมผัสนั้นแนบแน่นมากยิ่งขึ้นแล้วสอนให้อีกคนรู้ว่าจูบจริงๆมันต้องเป็นอย่างไร
คิดว่าตอนนี้น้ำคงไม่ต้องอาบกันแล้ว
“ยั่วฉันหรือไง” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อละริมฝีปากออกเพื่อให้กานต์รักได้หายใจ นิ้วเรียวแกร่งเช็ดน้ำลายที่เลอะตรงมุมปากสีสดให้อย่างแผ่วเบา
“ระ รักแค่อยากทำ”
“หึ งั้นไม่ต้องอาบแล้วน้ำ ค่อยอาบทีเดียวแล้วกัน”
มือหนาค่อยๆเลื่อนลงมายังไหล่เล็ก แหวกสาบเสื้อคลุมที่เปียกว่าครึ่งให้ค่อยๆแยกออกจากกันโดยที่กานต์รักไม่ได้เอ่ยห้าม หากแต่ความขัดเขินก็ยังคงทำงานจนใบหน้าหวานขึ้นสีจางๆ กระทั่งเสื้อคลุมหลุดลงมากองที่ตักเล็กเปิดเผยเรือนร่างส่วนบนให้ปรากฏแก่สายตา
“ตะ แต่รักยังสระผมให้คุณไม่เสร็จเลยนะครับ”
กานต์รักไม่ได้คิดจะคัดค้านแต่ว่าพอเหลือบเห็นเส้นผมหนาที่ยังคงเปียกชื้นไปด้วยน้ำแล้วจึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้หมักผมให้คุณแพทริกเลย
“ช่างมัน”
ปมเชือกชุดคลุมอาบน้ำที่รั้งเอวบางเอาไว้ค่อยๆหลุดออกจากกันด้วยการจัดการของมือหนา ก่อนร่างกายบอบบางแทบไร้ซึ่งสิ่งปกปิดจะปรากฏให้เจ้าของความอร้าอร่ามต้องเบือนหน้าขึ้นสีไปอีกทางเมื่อสายตาคมที่เต็มไปด้วยความต้องการสบมาอย่างร้อนแรง
แพทริกค่อยๆรั้งอีกคนให้ลงมาอยู่ในอ่างกว้างด้วยกันอย่างเชื่องช้า กลายเป็นว่าทั้งสองกำลังนั่งคุกเข่าเข้าหากันโดยที่ดวงตาโตก็ยังคงไม่กล้าหันกลับมาสบ หากแต่เจ้าของร่างสูงก็ไม่ได้คิดจะว่าอะไรเพราะรู้ดีว่ากานต์รักกำลังเขินอาย
อ้อมแขนแข็งแรงรัดรึงเอวเล็กให้ร่างกายแนบชิดกันก่อนใบหน้าคมจะเคลื่อนเข้าหาซอกคอบางอย่างช้าๆ ปากเล็กทำได้เพียงแค่อดกลั้นไม่ให้เสียงครางผะแผ่วดังขึ้นน่าอายไปมากกว่านี้ ยิ่งยามลิ้นร้อนไล้เลียไปตามความบอบบางยิ่งกระตุ้นความต้องการของกานต์รักให้ลุกโชน
มือหนาลูบไล้ฟ้อนเฟ้นไปทั่วความเนียนนุ่มยิ่งสร้างความกระสันจนร่างเล็กหลุดเสียงครางเพราะความทนไม่ไหว
“ฮะ...อะ...อ๊ะ”
เสียงร้องอย่างพยายามอดกลั้นดังขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่านิ้วมือแกร่งกำลังแทรกผ่านความคับแน่นเข้ามาช้าๆ ฝ่ามือเล็กจิกลงบนไหล่กว้างเปล่าเปลือยเพื่อระบายความรู้สึกอันถาโถม เปลือกตาสีอ่อนหลับแน่น ริมฝีปากบางถูกกัดจนเลือดแทบซิบ
แพทริกมองภาพนั้นอย่างพึงพอใจ พาให้ความปวดหนึบแล่นริ้วเล่นงานความแข็งขืนจนต้องกัดฟันแน่น
กานต์รักดูเซ็กซี่ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นอย่างนั้น ความใสซื่อที่แสดงออกอย่างซื่อสัตย์กับอารมณ์ความต้องการของตัวเองมันน่ามองเสียยิ่งกว่าคนตั้งใจจะยั่วยวน
“อย่ากัดปาก” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบบอกข้างหูก่อนจะเลื่อนลิ้นร้อนลากไล้ไปยังปากบางสีสดแล้วแลบเลียอย่างแผ่วเบาให้อีกคนคลายการขบกัดออก
“อึก คะ คุณแพท อะ ฮ๊ะ” เมื่อไร้ซึ่งการกลั้นเสียงปากบางจึงส่งเสียงออกมาได้มากกว่าเดิม ยิ่งยามข้อนิ้วแกร่งควานลึก หมุนวนจนสัมผัสเข้ากับจุดกระสันร่างบางยิ่งสะดุ้งเฮือกแล้วครางฮือ
แพทริกกระตุ้นช่องทางนั้นจนร่างเล็กสั่นผวาด้วยความเสียวซ่าน เรือนกายบางสะท้อนขึ้นลงด้วยจังหวะจากมือหนาที่รัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งกานต์รักทนไม่ไหวอีกต่อไป
“อ๊ะ อา อ๊า คุณ แพท อือออออ” สะโพกเล็กเกร็งกระตุกก่อนจะปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาไหลวนรวมกับน้ำในอ่างอย่างไม่อาจอดกลั้น
ความอุ่นรอดตอดรัดนิ้วเรียวยาวที่ยังไม่ได้ถอดถอนออกจนแพริกต้องกัดฟันกรอดยามจินตนาการว่าหากสิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นความใหญ่โตของตัวเองมันจะให้ความรู้สึกมากแค่ไหน
เมื่อกานต์รักค่อยๆกลับมานิ่งสงบนิ้วมือแกร่งจึงเคลื่อนออกมาอย่างเชื่องช้า
แพทริกรั้งคนตัวเล็กให้ตามมานั่งคร่อมตักแกร่งเมื่อพาตัวเองมานั่งพิงยังขอบอ่างอีกด้าน กลางกายที่พึ่งปลดปล่อยจึงสัมผัสกับความแข็งแกร่งที่ปวดหนึบภายใต้สายน้ำเย็นเฉียบอย่างแนบสนิท กานต์รักปรือตาขึ้นมองคนตัวโตก่อนจะต้องขบริมฝีปากด้วยความประหม่าเมื่อสายตาคมที่เต็มไปด้วยความต้องการมองอยู่ก่อนแล้ว
“หะ ให้รักทำให้คุณบ้างนะครับ” ดวงตากลมโตที่สบมาอย่างไม่แน่ใจมีแววสั่นไหวขึ้นเสียยิ่งกว่าเดิมยามเอ่ยประโยคนี้ออกมา แพทริกเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อคนขี้อายยอมที่จะทำอะไรแบบนี้ให้ ในขณะที่กานต์รักนั้นอยากทำเพื่อเอาใจอีกฝ่ายบ้าง
“เอาสิ” ร่างสูงตอบออกมาพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ากานต์รักจะทำอย่างไร
สิ้นเสียงคำอนุญาตคนที่ทำเป็นใจกล้าก็ค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าหาก่อนริมฝีปากทั้งสองจะแนบกันสนิท ลิ้นเล็กพยายามไล้เลียไปตามปากได้รูปอย่างที่สมองน้อยๆจดจำได้ว่าอีกคนทำอย่างไร แม้มันจะไม่ประสานักทว่ากลับทำให้คนใต้ร่างพึงพอใจได้
ลิ้นเล็กค่อยๆสอดเข้ามาในโพรงปากร้อนอย่างเก้ๆกังๆ ขณะที่มือบางก็พยายามลูบไล้ตามเรือนกายแข็งแกร่งอย่างที่พอจะนึกได้ยามอีกฝ่ายทำให้
“อืม” เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอเมื่อนิ้วมือเล็กอ่อนนุ่มลูบไล้สะกิดเม็ดกลางอกสีเข้ม ไหนจะลิ้นเล็กที่กำลังพยายามดูดดึงลิ้นหนายิ่งทำให้แพทริกนึกเอ็นดูจนได้แต่ยิ้มกับตัวเอง
สัมผัสนุ่มของปลายลิ้นดูดกลืนแทรกซึมกันอย่างช้าๆ แพทริกค่อยๆตอบรับลิ้นเล็กนั้นอย่างแผ่วเบาและคอยชักนำว่ากานต์รักควรทำอย่างไรกระทั่งทุกอย่างเป็นไปได้คล่องแคล่วขึ้น มือหนาที่วางอยู่บนสะโพกเล็กก็ควบคุมให้มันหมุนวนเบียดคลึงช้าๆ
ใบหน้าเล็กผละออกเมื่อหายใจไม่ทันก่อนจะเปลี่ยนมาจู่โจมที่ซอกคอแกร่งอย่างที่อีกคนชอบทำ ลิ้นสีสดแลบเลียออกมาแผ่วเบาก่อนจะเงยมองใบหน้าคมอย่างไม่แน่ใจแล้วก้มหน้าลงไปอีกครั้งเมื่อแพทริกไม่ได้ว่าอะไร
ร่างเล็กทำเพียงแค่ปาดลิ้นไล้เลียขบเม้มทว่าไม่กล้าดูดดึงทิ้งรอยเอาไว้เพราะกลัวอีกฝ่ายไม่ชอบใจและเพราะตัวเองทำไม่เป็น ก่อนใบหน้าหวานจะเคลื่อนต่ำลงจนถึงยอดอกแข็งแรงหนักแน่น ลมหายใจร้อนถูกสูดเข้าลึกก่อนจะค่อยๆไล้เลียเม็ดกลางอกนั้นอย่างช้าๆ
แพทริกสะดุ้งเล็กน้อยก่อนใบหน้าคมเข้มจะแหงนขึ้นปล่อยเสียงทุ้มต่ำดังในลำคอด้วยความพอใจ มือหนาละจากสะโพกบางขึ้นมาสอดนิ้วเข้ากับเส้นผมนุ่มเพื่อควบคุมและชี้นำ ยามลิ้นนุ่มปาดไล้สะเปะสะปะอย่างตั้งอกตั้งใจพลันยิ่งทำให้ความต้องการในอกพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากด้านซ้ายไปด้านขวา สลับไปมาอยู่อย่างนั้นจนมือหนารั้งใบหน้าเล็กให้ผละออก เรือนร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างด้วยความรวดเร็วพลันทำให้ความใหญ่โตปรากฏสู่สายตาจนกานต์รักต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะสะเทิ้นอายเกินกว่าจะจ้องมอง
“ลองจัดการมันดูสิกานต์รัก”
เสียงทุ้มเอ่ยแหบพร่าพาให้ลำคอเล็กรู้สึกแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายลงไปช้าๆ แม้จะขัดเขินแค่ไหนแต่ด้วยเพราะอยากทำให้อีกคนพึงพอใจกานต์รักจึงเคลื่อนเข้าหาความแข็งขืนนั้นด้วยความสั่นไหว กระทั่งริมฝีปากสีสดอยู่ห่างจากกายแกร่งเพียงไม่กี่เซน มือเล็กจับประครองแก่นกายใหญ่โตเอาไว้อย่างไม่แน่ใจนักก่อนที่ลิ้นเล็กจะค่อยๆแลบออกแล้วเลียส่วนบนสุดนั้นเบาๆ
“อืม อย่างนั้นแหละ”
แม้ตอนแรกจะยังกลัวเกร็งทว่ายามได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยชมความตื่นเต้นและกังวลจึงค่อยๆลดลง ปากเล็กรับตัวตนของแพทริกเข้ามาแม้ว่าจะไม่สามารถรับได้หมดแต่กานต์รักก็พยายามและมีมือหนาคอยช่วยควบคุม ก่อนทุกอย่างจะเป็นไปได้ดีมากขึ้นในเวลาต่อมา
แพทริกต้องพยายามควบคุมตัวเองเป็นอย่างมากในการที่จะไม่กระแทกกายเข้าหาความอุ่นนุ่มนั้นเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะสำลัก กระทั่งทนไม่ไหวจึงรั้งให้ใบหน้าหวานให้ผละออกแล้วฉุดดึงกานต์รักให้ขึ้นมานั่งคร่อมตักแกร่งอีกครั้ง
ริมฝีปากร้อนปิดทาบปากบางแล้วดูดกลืนอย่างร้อนแรง มือใหญ่เอื้อมไปด้านหลังประครองกลางกายแกร่งก่อนจะสอดใส่เข้าไปในช่องทางเล็กอย่างเชื่องช้า
“อื้อ อึก ฮึก คุณแพท”
แม้ว่าจะมีอะไรกันมาหลายครั้งหากแต่ความใหญ่โตนั้นก็ไม่ได้ทำให้กานต์รักคุ้นชิน มือบางจิกลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่ายด้วยความอึดอัด ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากเข้าหากันอย่างดุเดือดเพื่อเบี่ยงเบนความคับแน่นในช่วงล่าง
แพทริกอดทนจนกระทั่งเคลื่อนกายเข้าไปได้จนสุด มือหนาจับสะโพกเล็กหมุนวนเค้นคลึงไปมาเบาๆทั้งที่ปากยังคงไม่ละออกจากกันเพื่อรอให้ร่างบางปรับตัว
จนเมื่อกานต์รักพร้อมที่จะรองรับความร้อนแรง กลางกายใหญ่โตจึงเคลื่อนออกอย่างช้าๆก่อนจะสอดเข้าไปใหม่อย่างหนักแน่นจนคนด้านบนสะท้านเฮือก จากความเนิบช้าแปรเปลี่ยนเป็นรัวเร็วตามแรงอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ ก่อนบทรักของทั้งสองจะดำเนินไปอย่างไม่จบสิ้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกระทั่งกานต์รักทิ้งตัวพิงอกแกร่งอย่างหมดแรง เสียงหวานแหบแห้งไม่มีแรงแม้แต่จะเอื้อนเอ่ย
“ไม่ไหวแล้วหรือไง” แพทริกรั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดให้แผ่นหลังเล็กแนบชิดกับอกกว้างเมื่อปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่นับไม่ได้ ขาเล็กสั่นระริกจนไม่มีแรงจะยืนยั้งได้อีกต่อไป
น้ำในอ่างนั้นถูกปล่อยออกไปตั้งแต่บทรักรอบที่สองเนื่องด้วยเพราะกลัวว่าอีกคนจะตัวเปื่อยไปเสียก่อน ขณะนี้จึงมีเพียงร่างกายเปล่าเปลือยไร้สิ่งใดๆขวางกั้นที่กำลังตระกรองกอดกันแนบแน่น
“วะ ไหวครับ...แค่ไม่มีแรง แฮกๆ” กานต์รักเอ่ยตอบคนที่ไล้เลียไปตามต้นคอระหงทางด้านหลังอย่างแผ่วเบา
“หึ ยั่วมากก็ต้องโดนแบบนี้ วันนี้นายทำตัวน่ารักรู้ตัวหรือเปล่า”
กานต์รักพยายามเอาใจเขาหลายอย่างทั้งที่ตัวเองไม่ถนัดและขัดเขินยิ่งกว่าอะไร ยามเห็นความกังวลและความไม่แน่ใจแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพยายามจะทำมันทำให้แพทริกรู้สึกเอ็นดูร่างเล็กนี้เหลือเกิน
“คุณ...แพท ชอบไหมครับ” คนที่หลับตาพิงอกแกร่งถามออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฉันจะยืนยันนายอีกรอบแล้วกันว่าฉันชอบมากแค่ไหน”
ก่อนจะทันได้เอ่ยค้านความร้อนแรงก็เริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง กว่าคนตัวโตจะเลิกยืนยันความพึงพอใจก็เรียกได้ว่าทุกมุมในห้องน้ำแทบไม่มีตรงไหนเลยที่กานต์รักไม่ได้สัมผัส...
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋
“รู้สึกจะไม่สบายหรือเปล่า” แพทริกเอ่ยถามคนที่นอนซบอยู่กับอกของตัวเองเมื่อทั้งสองนั้นนั่งอยู่บนรถคันหรูโดยมีแซมทำหน้าที่เป็นคนขับ
เพราะว่าเขานั้นมีงานแต่เช้าจึงต้องมาส่งกานต์รักตั้งแต่เช้าตรู่เนื่องด้วยอีกคนยืนยันว่าจะกลับร้านเพราะมีนัดคุยงานกับลูกค้า สภาพคนตัวเล็กที่รับศึกหนักมาทั้งคืนจึงอ่อนระโหยโรยแรงอย่างที่เห็น
“ปะ เปล่าครับ” เสียงที่เปล่งออกมานั้นแทบจะเพียงแค่ลมเปล่าๆ กานต์รักไม่มีมีแรงแม้แต่จะปรือตาขึ้นมองคนถามที่กอดกระชับตัวเองอยู่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“บอกให้นอนพักอยู่ที่ห้องฉัน” แพทริกเอ่ยเสียงดุเป็นรอบที่ห้าตั้งแต่ขึ้นรถมา แม้จะให้คนในอ้อมกอดกินยาดักเอาไว้แล้วทว่าก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าอีกคนจะไม่ป่วย
เมื่อคืนเขาเอาแต่ใจไปมาก แม้ร่างบางจะอ่อนแรงทว่าก็ไม่เอ่ยห้ามยิ่งทำให้ย่ามใจจนใส่ทุกอย่างไปเต็มแรง ช่องทางเล็กบวมช้ำเสียจนแม้แต่แพทริกยังนึกกร่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักพอ
“รัก...ต้องทำงาน...ครับ”
“ก็โทรไปยกเลิกจะเป็นอะไร” คนเป็นห่วงเอ่ยออกมาเสียงเข้ม
“แค่คุยงาน แล้วก็ทำสัญญา...ปะ แป๊บเดียวครับ”
ใบหน้าเล็กถูไถเข้ากับอกแกร่งอย่างออดอ้อนเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกคนกำลังเริ่มไม่พอใจ แม้จะเหนื่อยและระบมแค่ไหนหากแต่ใจดวงน้อยกลับมีความสุขอยู่เต็มเปี่ยม กานต์รักทนไหวทั้งนั้นถ้าหากได้ทำให้คุณแพทริกพอใจ
“หลังจากนั้นก็พัก ไม่ต้องทำอะไรเข้าใจไหม”
“...ครับ” คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นอีกครั้งโดยมีมือหนาคอยลูบไล้กระชับเสื้อตัวหนาให้เข้าที่ แพทริกไม่ได้กวนคนในอ้อมกอดอีก ปล่อยให้ร่างบางได้พักกระทั่งรถคันหรูแล่นมาจนถึงหน้าร้าน
“คุยเรื่องงานเสร็จแล้วให้โทรหาฉัน” แพทริกเอ่ยสั่งคนที่ยันกายนั่งตัวตรงเรียบร้อย รถจอดนิ่งสนิททว่าร่างสูงยังไม่ปล่อยให้กานต์รักลงไป แพทริกอยากจะลงไปส่งแต่อีกคนกลับบอกว่าไม่เป็นไรเพราะกลัวว่าเขาจะไปทำงานสาย
“ครับ...”
“ถ้าไม่ไหวต้องบอกฉันทันทีเข้าใจไหม” คิ้วเข้มขมวดมุ่นมองคนหน้าซีดเซียวอย่างนึกเป็นกังวล มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานไปมาอย่างแผ่วเบา
“เข้าใจครับ คุณแพทไปทำงานได้แล้วนะครับ...รักไหวจริงๆนะ” รอยยิ้มอ่อนแรงถูกส่งให้คนตรงหน้าเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง แพทริกมองคนตรงหน้านิ่งก่อนจะกดจูบลงไปบนหน้าผากเนียนเกลี้ยงเกลาแล้วผละออก
“รักไปแล้วนะครับ” คนฟังจำต้องพยักหน้ารับในที่สุด
ฟอด
“ขอให้งานราบรื่นนะครับ” กานต์รักกดจูบลงไปบนแก้มสากอย่างรวดเร็วก่อนจะบอกพร้อมรอมยิ้มหวานแล้วเปิดประตูรถลงไป แม้จังหวะก้าวขาลงจะพาร่างกายบอบบางไม่มั่นคงจนเกือบเซแต่ก็ยังตั้งหลักได้ทัน กานต์รักโบกมือให้คนในรถอีกครั้งแล้วปิดประตูลง
แพทริกมองตามคนที่ก้าวเดินเข้าร้านอย่างช้าๆจนแผ่นหลังเล็กหายลับไปจากสายตาก่อนจะถอนหายใจอย่างเป็นห่วงแล้วบอกให้แซมออกรถ
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋
(มีต่อ)