ตอนพิเศษ
ช่องว่างของวัย
เสียงจ้อกแจ้กดังคลออยู่ข้างหูผม ผมหันหน้ามองหาต้นตอของเสียงนั้นที่ดังเข้ามาเรื่อย ๆ ผมเลื่อนตามองลงไปทั้ข้อมือตัวเองซึ่งถูกรั้งเอาไว้โดยมือเล็กๆ ใบหน้าใสน่ารักบวกกับแก้มอมชมพูระเรื่อขยับหัวกระดุกกระดิกไปมาแล้วเจ้าตัวเล็กก็เริ่มดึงผมให้เดิน
“จะพาไปไหนน่ะ”
ผมเอ่ยปากถาม เด็กน้อยน่ารักได้แต่หัวเราะร่าออกแรงดึงให้ผมเดินตามไปต่อ
“เดี๋ยว! จะพาพี่ไปไหน”
ผมถามอีกรอบ คราวนี้เจ้าตัวเล็กกระโดดหมุนตัวมาจับมือผมทั้งสองข้าง ริมฝีปากรูปกระจับขยับเปล่งออกมาด้วยเสียงสดสร่าเริงว่า
“คุกไงฮับ”
...คุกไงครับ...
เสียงเซอร์ราวดังวันเวียนอยู่ในหัวผม คุกงั้นหรอเจ้าเด็กนี่จะพาผมไปคุก
คุก
คุก
คุก
.
.
”ม๊ายยยยยยยยยยย!!!”
เฮือก!
ผมสปริงตัวดึ๋งจากที่นอน เอ้า! ฝันหรอกหรอ ให้ตายเหอะน่ากลัวชะมัดเลย ทำไมฝันถึงเรื่องแบบนี้ได้นะ
ครืด~ ครืด~
ผมคว้ามือถือข้างหมอนขึ้นมารับแล้วกรอกเสียงัวเงียลงไป
(คาร์ลลลลลลลล มาเปิดประตูให้กูหน่อยครับ)
อ่ะ ไอ้ฟิลหรอ
“นอนอยู่”
(ทุ่มกว่าเนี่นะ)
วันนี้นอนกลางวันเพลินไปหน่อย ยาวยันค่ำเลย หนังเหนิงก็ไม่มีไรน่าดูก็เลยนอนดีกว่า
ผมวางสายโดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผมต้องมีชะตากรรมต้องโทษสถานหนักเพราะคนที่มากับไอ้ฟิล....คนนั้น
“ฟิลแกดูหลานให้ดีๆด้วยนะ”
หญิงสาวใบหน้าสวยสะบัดลอนผมหยิบกระเป๋าใบหรูเตรียมออกจากบ้าน เด็กหนุ่มนามว่าฟิลเตอร์สะดุ้งจากโต๊ะคอมหันไปมองพี่สาวตัวเองที่กำลังจะหายตัวออกไป
“เจ้จะไปไหน” ฟิลเตอร์รีบถาม
“ฉันจะไปเคลียร์งานที่บริษัท ไอ้รองหัวหน้าอะไรนั่นโทรมาจิกฉันให้ไปแก้เนี่ย”
“แล้วปังอ่ะ”
ฟิลเตอร์เหล่มองเด็กน้อยในชุดนักเรียนอนุบาลปกกะลาสี วันนี้เด็กน้อยคนนี้ถูกแฟนของเขาเอามาฝากพี่สาวไว้เพราะฝาแฝดทั้งสองต้องเดินทางไปเจรจาขายที่ที่ต่างจังหวัด
“เจ้ คืนนี้ฟิลไปอยุธยานะ”
“ไปทำไม”
“รายงานประวัติศาสร์อ่ะดิ ครูเขาให้ไปศึกษาเก็บข้อมูล ถ่ายรูปกับสถานที่จริง แล้วฟิล ไอ้ยุ่น ไอ้หงอกก็จับได้ที่เดียวกัน เดี๋ยวมันจะเอารถมารับคืนนี้”
“ถ่อไปซะไกลเลย แล้วใครจะดูแลปังล่ะ”
“เจ้เอาปังไปด้วยสิ”
“จะบ้าหรอแก! กว่าจะได้กลับคงเช้า งานต้องแก้ใหม่ทั้งเล่มเลยนะ!”
พี่น้องสองคนกุมหน้าผากปรายตามองเด็กน้อยที่ยังไม่รู้เรื่องนั่งกินขนมสบายอารมณ์
“เอางี้! เดี๋ยวฟิลเอาปังไปฝากเพื่อนซักพัก”
“ใคร!”
“คาร์ล”
“เอ้า! มันไม่ได้ไปกับแกหรอ”
“เหอะ.. มันได้กรุงเทพฯ ทำเสร็จไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว”
“แล้วทำไมแกพึ่งทำ..”
ฟิลชะงัก พี่สาวของเขาเริ่มแผ่รังสีอำมหิตออกมาแล้ว เรื่องที่ทำรายงานติดจรวดรอบนี้เป็นเพราะกลุ่มของเขาเอ้อละเหยเอาแต่เดทกับแฟนกัน รวมทั้งตัวเขาด้วย แต่ให้ตายยังไงก็บอกเหตุผลนี้ออกไปไม่ได้หรอก!
“คะ..ครูพึ่งสั่ง แล้วต้องพรีเซนต์วันจันทร์งะT^T”
“หรา-o-”
“จ้าT^T”
“คิดว่าฉันจะเชื่อแก?”
“เชื่อผมเถอะนะ นะ นะ><”
“เออๆ ฉันต้องไปแล้ว”
ร่างอ้อนแอ้นเดินไปจุ๊บศีรษะลูกชายเบาๆแล้วเดินออกไปทำงาน ด้านฟิลเตอร์ก็ลุกขึ้นจัดกระเป๋าเตรียมออกเดินทาง
“น้องปังครับ เดี๋ยววันนี้น้องปังไปค้างบ้านเพื่อนพี่นะครับ”
“หือ”
ดวงตากลมโตฉายแววฉงน
“บ้านใครหรอฮะ”
“คาร์ล”
“พะ...พี่คาร์ลO….O”
เด็กน้อยก้มหน้างุด ฟิลเตอร์ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร กลับคิดว่าเจ้าตัวเล็กคงผิดหวังที่ต้องไปค้างบ้านคนที่ถือเป็นศัตรูคู่อาฆาต เจอกันทีไรคาร์ลเป็นอันต้องแหย่ให้ขนมปังโมโหจนตีกันทุกที
“เดี๋ยวดึกๆพี่จะโทรหานะ อย่าพึ่งหลับล่ะ”
...จะหลับลงมั้ยนะ..
เด็กน้อยมุดหน้าลงกับหมอน คืนนี้จะได้นอนกับพี่คนนั้น
“อื้อออออ>///<”
..เห? เป็นอะไรของเขา...
ฟิลเตอร์ยิ้มแห้งๆมองเจ้าตัวเล็กที่บิดหมอนไปมาก่อนจะหายตัวเข้าไปจัดกระเป๋าสัมภาระตัวเองในห้อง
“ด้วยเหตุนี้มึงเลยมาฝากลูกไว้ที่กู” ผมถามมันหลังจากได้ฟังเรื่องราว
“ไอ้คาร์ลมีเบียร์ป่ะวะ” เฟียสถาม
“มึงครับ จะขับรถยังจะแดก...”
“กูให้คนบ้านคิระมันขับเว้ย!”
“แล้วพวกมึงจะก๊งไปเที่ยวไปหรือไงวะครับ เดี๋ยวก็แฮงค์กลับไม่ทันวันอาทิตย์หรอก!”
“เออๆ คิระแวะปั้มด้วยนะเว้ย!”
คิระพยักหน้าๆนิ่งๆ มาส่งเด็กแค่คนเดียวขนกันมาทั้งคัน นี่จะไปเที่ยวหรือกะแวะค้างบ้านผมก่อนวะเนี่ย พวกมันแบกกระเป๋าขึ้นมาด้วยเนี่ย-_-
“ฝากหลานกูด้วย เดี๋ยววันอาทิตย์มารับ” ไอ้ฟิลบอก
“สองวันเลยนะมึง ค่าจ้างกูอ่ะ”
“เดี๋ยวกูซื้อสายไหมมาฝาก”
“ขอบใจ กูว่ามึงเดินไปหน้าปากซอยง่ายกว่าป่ะวะ”
“น่าๆ เดี๋ยวเอาก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าโบราณมาฝาก”
“มาถึงกูเส้นไม่อืดหรอวะ”
“อย่าแดกเลยมึง! กูไปล่ะครับ!”
ปลาหมอตายเพราะปาก คนจะอดอยากก็เพราะปากตัวเอง กรรม...
“เอาทุเรียนก้านยาวแล้วกัน”
ไอ้สามคนหันมามองผมเป็นตาเดียวแล้วพูดพร้อมกันว่า
“หาแดกเองเหอะ!!”
ขอบคุณที่แสดงความสามัคคี ผมรู้ว่ายังไม่ถึงหน้ามัน แต่อยากกินอ่ะครับ-....-
“ไปล่ะ” คิระบอก
“อือ โชคดี”
เจ้าพวกนั้นกดลิฟต์ลงไป ผมหันกับมามองเด็กตัวเล็กในชุดอนุบาลสีขาว ปกด้านหลังเป็นปกสีเหลี่ยมแบบชุดกะละสีทับอยู่บนชุดกันเปื้อนมีกระเป๋าหน้าท้องสีน้ำเงินอ่อน
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ผมบอกแล้วยกกระเป๋าเสื้อผ้าน้องเขาเข้ามาข้างใน เจ้าตัวเล็กพยกหน้าหงึกๆแล้วเดินตามเข้ามาภายในห้อง ผมไม่ได้อยู่บ้านแต่อยู่คอนโด พี่ชายผมออกไปทำงานทั่วราชอาณาจักรนานๆจะกลับมาที ห้องนี้ผมเลยยึดไปโดยปริยาย
“โห้ *o*”
เจ้าตัวเล็กอ้าปากกว้างทำหน้าเหมือนเจออะไรน่าตื่นตกใจ เจ้าตัวเล็กวิ่งต๊อกแต๊กไปเกาะหน้าต่างกระจกข้างๆเคาเตอร์ครัวแล้วมองลงไปที่ตึกข้างๆที่สาดแสงไฟในยามราตรี
“ถ้าปิดไฟคงจะสวยกว่านี้ ไปดูในห้องก็ได้นะ”
ห้องนอนกระจกเห็นวิวทั้งแถบเลยแหละ ผมยิ้มแล้วตีหัวพองๆแหย่ให้เดินตามผมเข้าไปในห้องนอน
“โห้ เท่สุดๆไปเลย*o*”
ที่เท่เพราะเตียงนอนมันอยู่ข้างบนสินะ ห้องนี้กึ่งสองชั้น ชั้นล่างก็วางพวกคอม ทีวี ตู้เสื้อผ้าสารพัดส่วนเตียงอยู่ชั้นบนต้องเดินขึ้นบันไดไป แต่จะเรียกเตียงก็ไม่ได้มันเป็นแค่ฟูกเอง
“ปังอยากมีห้องแบบนี้บ้างจัง><”
เจ้าตัวเล็กกระโดดโลดเต้น วิ่งขึ้นบนไดไปสำรวจชั้นบน แหม ซนจริงๆเลยนะ
“ปกตินอนคนเดียวหรือนอนกับพ่อล่ะ” ผมถาม
“นอนกับป๊าฮะ บางวันก็นอนกับคุณอาด้วย”
อืม เด็กนี่นะ งั้นคืนนี้คงต้องนอนด้วยกัน...สินะ
“หมอนนิ่มจังเลย><”
เจ้าเด็กนั่นพร่ามแล้วเอาหน้าซุกหมอนกระดกก้น
“เฮ้ย! จะฆ่าตัวตายเรอะ!”
เอาหน้าซุกจมไปแบบนั้นเดี๋ยวหายใจไม่ออกหรอก! ผมรีบยกเอวเจ้าตัวเล็กลอย กลัวจะขาดอากาศหายใจตายไปซะก่อน
“ทำอะไรน่ะฮะ-.-”
เจ้าตัวเล็กส่ายตัวดุกดิกๆ และยังทำหน้ารำคาญใส่ผม ผมเลยวางตัวน้องลง แล้วมันก็ค้างอยู่ท่ากระดกก้นน่ะแหละ
“เปล่า เอ่อ...เดี๋ยวอาบน้ำ..”
เจ้าเด็กนี่ชำเลืองมองผมแล้วซบแก้มยุ้ยๆ ลงบนท่อนแขนเล็ก
“อยากนอนจังเลย ปังนั่งรถมา..จะอ้วก”
ดวงตาใสๆปริ่มน้ำ เจ้าตัวเล็กทำท่าโก่งคอเหมือนอยากจะอ้วก แล้วก้มลงซุกหมอนต่อ แต่คือ...เลิกกระดกตูดซะทีได้มั้ยน้อง!!
ผมก็ไม่รู้ว่าคุยกับน้องแล้วจะเอาตาไปมองตรงไหนนอกจากบั้นท้ายกลมๆสองก้อนที่ยุกยิกไปมา ขนาดมันดูจะเล็ก แต่ถ้าว่าทาบฝ่ามือลงไป....
...กูคิดอะไรเนี่ยยยยยยยยย!!!...
“เป็นอะไรฮะ”
ใบหน้าตุ๊กตาเคลือบมองผม อ่า.. ผมกำลังเข้าโหมดฮาร์คอร์จิกหัวตัวเองที่คิดอะไรอกุศลๆกับก้นเด็ก
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“..คืนนี้พี่คาร์ลนอนกับปังใช่มั้ย”
“อืม ก็คงงั้น”
รอยยิ้มน่ารักผุดขึ้นบนใบหน้า ผมมองข้างแก้มที่บุ๋มลึกลงไป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าเด็กนี่มันน่ารักน่าหยิกขนาดไหน ถ้าผมมีน้องแบบนี้ซักคนคงหลงหัวปักหัวปำแน่ๆ
“ปังจะถีบให้ตกเตียงเลย!”
ถอนคำพูด ถ้าผมมีน้องแบบนี้ผมจะตีมันให้ตายเลย-_-*
“แล้วตอนอาบน้ำ พ่ออาบให้หรือว่ายังไง” ผมถาม
“ป๊าอาบให้ๆ แต่พี่ไม่ต้องอาบให้ปังหรอกนะ ปังอาบเองได้”
จะเทพไปแล้วเติมทรูมาหรือไง ตอนผมอยู่อนุบาลผมยังให้พี่อาบให้อยู่เลยจนป.3อ่ะถึงอาบเอง
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก”
“เปิดน้ำให้ปังเล่นในกะละมังก็พอ”
“บ้าหรอ เดี๋ยวจมน้ำตายไปพี่ก็ซวยสิ!”
ลูกหน้าตาน่ารักๆแบบนี้ ผมจะไปหาแม่พันธุ์มาทำใช้คืนเขายังไงล่ะ
“เดี๋ยวไปอาบพร้อมกันเลย”
“ไม่!”
เสียงเล็กปฏิเสธ เอ๊ะ! ทำไม..งงเว้ย-o-?
“พี่ก็จะอาบเหมือนกัน.....ก็ทีเดียวเลย”
“ทีเดียวเองหรอ-3-”
เจ้าตัวเล็กบ่นเสียงอุบอิบ
“แล้วอยากได้กี่ทีละ” ตามน้ำเลยเอ้า
“ปังอยากอาบน้ำนานๆ แต่ไม่อาบกับพี่!”
“ไม่ต้องอายๆ”
“อายซิ! นอกจากป๊า ม๊าแล้วก็คุณอาปังไม่เคยโป๊ให้ใครเห็นเลยนะ>////<”
“ฮ่า ๆ พี่ไม่สนเด็กหรอก ไม่ต้องห่วง^^”
“.....................”
ชะอ้าว! ไหนเงียบใส่ เจ้าตัวเล็กก้มหน้างุด คิ้วงี้ขมวดกันเป็นก้อนมาม่า
“เป็นไร”
ผมรู้สึกไม่ดีเลยลูบหัวเจ้าตัวเล็กแต่กลับโดนมือเล็กๆปัดออก
“ไม่ต้องมาสนปังหรอก!”
“อะไรกันเล่า”
ผมขยี้หัวมัน มันก็ปัดๆ ไม่ใช่ยุงนะเฮ้ยเดี๋ยวพ่อก็โบกให้หลับยันเช้าหรอก-*-
“งั้นอาบคนเดียวก่อนเดี๋ยวพี่อาบให้ ลุกเร็ว”
ผมดึงแขนเล็ก เด็กเนี่ยกระดูกเล็กจัง ผมจับแล้วก็กลัวจะไปทำกระดูกน้องแตกผมเลยเปลี่ยนเป็นช้อนเจ้าตัวเล็กอุ้มแทน
“อื้อ! อย่ามาอุ้มนะ”
ใบหน้าละอ่อนบึ้งตึง ผมมองเจ้าตัวเล็กที่อยู่ระดับสายตาอยู่ครู่หนึ่งแล้วเจ้าเด็กนั่นก็เลิกพูด
ให้ตายสินี่มันลอกออกมาจากแป้นพิมพ์ตุ๊กตาชัดๆ จมูกเล็กๆรั้นๆแบบคนหัวดื้อ แก้มยุยๆเป็นพวกสีชมพู ริมฝีปากเล็กๆสีแดงสด เส้นผมสีอ่อนเหมือนเด็กลูกครึ่งกับดวงตาสีเข้มที่ดูกลมโตเหมือนเมล็ดอัลมอลล์
คิดดูว่าตอนเล็กยังน่ารักขนาดนี้ โตไปคงน่ารักกว่านี้อีก
“พี่ว่าตอนน้องยิ้มน่ารักกว่าตอนทำหน้าบึ้งอีกนะ”
เจ้าตัวเล็กเบือนหน้าแล้วบ่นอุบอิบซึ่งผมก็ไม่ได้ยินหรอก
“อย่าดื้อสิ” ผมดุ
“เข้าใจแล้ว อาบก็อาบ”
“เก่งมากครับ”
ผมยิ้มแล้วโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มนุ่มนิ่มเบาๆ
“ทะ...ทำอะไรน่ะO///O”
อ่ะ!!
ผมทำอะไรเนี่ย!
ช่วยไม่ได้ก็เห็นแล้วมันอดไม่ได้ ก็เจ้าตัวเล็กทั้งบอบบาง น่ารัก น่าฟัดแบบนี้ ให้ตายเหอะเผลอล่วงเกินเด็กไปซะได้ ตำรวจจะมาจับผมมั้ยเนี่ย!
“ก็น่ารักไง เลยหอม” เอาตรงๆเลยแล้วกันไม่อ้อม
“น่ารักหรอ-////-”
“อือ แต่น้อยกว่าฮารุนะ โคจิมะ นะ^^”
“ใคร”
“คนนี้ไง”
ผมชูมือถือให้ดูสาวน้อยผิวขาวในชุดบิกินี่น่ารัก คนนี้ทำให้ผมยอมลงทุนประมูลโฟโต้บุ๊คด้วยเงินเป็นหมื่นๆเลยนะในebayน่ะ
“เปลี่ยนรูปอีกแล้ว!”
เจ้าตัวเล็กหน้ามุ่ย ตอนแรกก็เป็นรูปเจ้าเด็กน่ารักนี่ที่ถ่ายในโรงพยาบาล แต่ผมเห็นแล้วมันแปลกๆเลยเปลี่ยนมาใช้รูปนี้
“คิ้วหรือสะพานพระรามแปดเนี่ย”
ผมแซวเมื่อเห็นคิ้วเล็กโยกเข้าหากัน น้องเขามองหน้าผมอย่างโมโหก่อนจะผละออกจากอกวิ่งลงไปข้างล่าง อ้าวเฮ้ย! เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย แค่เริ่มเลี้ยงก็เหนื่อยแล้ว เด็กนี่อารมณ์แปรปวนดีจริง ๆ ผมควรซื้อเพ็ดดีกรีให้น้องเขากินมั้ย เผื่อจะสุขภาพดี ขนสวย ขับถ่ายเป็นก้อน...พอเถอะ
ไปดูน้องก่อนดีกว่า เดินลงส้นปึงปังๆเดี๋ยวห้องผมถล่มหมด
-----------------------------------------ยังไม่จบ----------------------------------------------------
“เอ้า ชูแขนคร้าบบบ”
ผมรูดเสื้อกล้ามออกจากปลายแขนเจ้าตัวเล็กต่อด้วยการปลดกางเกงนักเรียนและกางเกงใน
“อื้อ! ไม่เอา>///<” เจ้าตัวเล็กดึงขอบกางเกงลิงไว้
“ไม่ต้องอายหรอกน่า”
ผมพูดจบก็ดึงพรวด เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่วายเอามือขึ้นมาปิดแล้วหันก้นขาวๆน่าหยิกมาให้ผม เหมือนซาลาเปาสองลูกติดกันเลย เห็นแล้วอยากจะ....ตี!
“มายืนตรงนี้”
ผมดึงไปใกล้ๆฝักบัวแล้วเริ่มการอาบน้ำ ผมย่อตัวนั่งย่องๆถูสบู่ไปมาบนผิวนุ่มนิ่มสีขาวเนียนละเอียด ผมสังเกตเห็นเจ้าตัวเล็กแก้มแดงเป็นแอปเปิ้ล คงจะอายล่ะมั้ง
“มีพุงด้วย” ผมพูดขำๆ
“ฮึ่ม-..-”
เจ้าตัวเล็กพ่นลมออกทางจมูกแล้วเลื่อนมือมาคล้ำพุงน้อยๆของตัวเอง แต่ผมว่าน่ารักดีนะ ฮ่าๆ
“วันนี้ล้างก้นสะอาดหรือเปล่า”
เวลาพี่อาบน้ำให้ผมตอนเด็กจะถูก้นให้ด้วย กลัวผมจะล้างไม่สะอาด
“สะอาด><”
และถ้าผมตอบแบบน้องเขาพี่ผมก็จัดการล้วงให้ทันที และนั่นก็คือสิ่งที่ผมกำลังทำ ผมถูนิ้วไปจากร่องก้นด้านหลังเพื่อทำความสะอาด เจ้าตัวเล็กสะดุ้งโหยงเกร็งเนื้อแน่น
“อย่างนี้ก็ทำความสะอาดไม่ได้สิ อ้าขาหน่อย”
ผมจับขาเล็กกางออกแล้วใช้นิ้วถู ๆ มือเล็กๆขยุ้มแขนเสื้อผมแน่น ดวงตากลมโตเบิกขึ้นข้างหนึ่งทำหน้าเหมือนคนกินอะไรเปรี้ยวๆมา
..ยั่วกันหรือไง..
ผิวขาวที่เปลี่ยนเป็นอมชมพูจางๆเพราะถูกน้ำอุ่น ร่างกายเล็กๆน่าทะนุถนอม และกลิ่นหอมจางๆของสบู่ทำให้ผมเผลอทิ้งสติตัวเองไปชั่วขณะ
..เฮ้ย!! ไม่ได้ เด็กนะเว้ยๆๆ!!!...
“ปะ...ไปแต่งตัวกันเถอะ”
ผมรีบจับเจ้าตัวเล็กห่อผ้าขนหนูแล้วอุ้มออกไปด้านนอก ผมหยิบแป้งกับชุดนอนลายแพนด้าออกมา เจ้าตัวเล็กก็เช็ดตัวเองเหมือนรู้หน้าที่
“ทาแป้งนะ”
ผมไล่ทาที่หลังและท้อง ก่อนจะจบที่หน้า ใบหน้าน่ารักหลับตาให้ผมปะโดยดี ปะยังไงแปะๆที่แก้มหรอ เอาเป็นลากจากหน้าผากลงมาแล้วกัน
“อื้อออออ>.<”
“อะไร!”
“เข้าปาก-o-”
“อ้าวหรอ ฮ่าๆ”
ผมรีบเช็ดแป้งออกจากหน้าน้องเขา เจ้าเด็กนั้นลืมตามองผมตาใสแจ๋วก่อนจะทุบกำปั้นใส่ผม
“ไม่ได้แกล้งนะ แต่จงใจฮ่าๆ”
“พี่คาร์ลอ่ะ>.O”
โอ้ยยยยย! น่ารักไปไหนวะเนี่ย ลูกใครกูจะลากกลับบ้านแล้วนะเว้ย>O<!
“ใส่เสื้อ ชูแขนนะครับ”
ผมสวมเสื้อลงไป เจ้าตัวเล็กส่ายหัวกระดุกกระดิกโผล่ขึ้นมาจากคอเสื้อ น้องจับไหล่ผมสองข้างยกขายัดลงไปในกางเกง ในที่สุดผมก็เห็นช้างน้อยของน้องซะที...
....เวร!! กูรอดูช้างน้อยของเด็กหรอเนี่ยเพิ่งรู้>O<…
“เสร็จแล้วปังดูการ์ตูนได้มั้ยอ่า~”
เจ้าตัวเล็กเอียงคอพูดเสียงน่ารัก ๆ
“ผูกโบว์ก่อนนะ”
ผมบอกพลางยิ้มๆแล้วผูกริบบิ้นที่คอเสื้อ เจ้าตัวเล็กก็ดูสนใจก้มมองใหญ่เลย
จุ๊บ
“อ่ะO////O”
ดูเหมือนจะก้มมากไปหน่อย ริมฝีปากนุ่มๆเลยจุ๊บลงบนนิ้วผม
..เฮ้ย...เรื่องแค่นี้ทำไมน้องต้องเขินวะ เขินตามเลย-///-..
“จะ...จูบแรกO///O” เจ้าตัวเล็กทำหน้าตกใจ
“เห~ ที่นิ้วเขาไม่นับหรอกนะ ฮ่าๆ^^”
“หรอ...”
ก้มหน้าหาอะไรล่ะนั่น หรือผมเหยียบเท้าน้องวะ
“เอ่อ พี่อาบน้ำก่อนนะ”
ผมบอกแล้วเปิดทีวีให้น้องดู เจ้าตัวเล็กเดินต๊อกแต๊กๆปีนขึ้นไปนั่งบนโซฟาอย่างทะลุกทุเล ผมเลยจับอุ้มขึ้นไปนั่งแทน
“ขอบคุณฮะ”
ผมยิ้มแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
5 นาทีผ่านไป
ปังๆ!
ผมปิดฝักบัวสะบัดหัวหน่อยๆแล้วตะโกนไปที่ประตู
“อะไร”
ปังๆๆ!
เจ้าตัวเล็กทุบประตูรัว ๆ ผมเลยคว้าผ้าขนหนูมานุ่งแล้วเปิดประตู
“พี่คาร์ล!”
ร่างเล็กๆโผกอดขาผมแล้วซุกหน้าร้องไห้ฮือ
“เป็นอะไร!”
ผมย่อตัวถาม เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมา โห้ ตาแดงแจ๊เลย
“ฮือๆ”
ตอบพี่ได้ดีมากครับน้อง... เป็นคำตอบที่ฟังรู้เรื่องที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาในชีวิตนี้
“ไม่ร้องนะครับๆ”
ผมอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ เสียงสเตอริโอในห้องดังกระหึ่ม ผมรีบหยิบรีโมตขึ้นมาหรี่เสียง พอมองไปที่จอทีวีขนาดยักษ์ถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวเล็กร้องไห้โฮมาหาผมเพราะอะไร
“ใครให้เปิดหนังผีล่ะเนี่ย”
ดันเปิดมาช่องหนังผีแถมเปิดเสียงดังอีก
“ฮือๆ ปังจะดูอีกช่อง ฮึก แต่มันกดเปลี่ยนได้”
“พี่ขอโทษๆ อย่าร้องนะ”
ผมนั่งลงที่โซฟายกมือเช็ดหน้าเช็ดตาเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้จนตัวสั่นเทิ่ม
“ปังกลัว...”
เจ้าตัวเล็กซบอกผม ผมกระชับวงแขนกอดร่างบอบบางเบาๆ ผมกลัวกอดแรงๆแล้วกระดูกจะหักเอา ทำไมเด็กถึงตัวเล็ก อ่อนแอ ขี้ตกใจแบบนี้นะ
...ถ้าไม่มีคนดูและล่ะก็ คง...
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว”
..คาดสายตานิดเดียวเองแท้ๆ..
“พี่คาร์ล...”
เสียงใสเอ่ยเรียกชื่อผม แพขนตาเปียกชุ่มกระพริบขึ้นลงช้า ๆ เจ้าตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วจับแขนผมไว้แน่น
“เลิกร้องได้แล้วนะครับคนดี”
ผมปาดน้ำตาให้เจ้าตัวเล็ก ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงทำให้ผมตกใจได้ขนาดนี้ ให้ตายเถอะผมโคตรรู้สึกผิดเลยตอนนี้ แค่เปิดทีวีผิดช่องเอง!
ร่างเล็กเอนตัวนอนพิงผม ผมได้แต่ลูบเส้นผมนุ่มสลวยเบา ๆ และก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปสูดดมความหอมของเจ้าเด็กนี่ ไม่รู้ว่าเพราะแป้งหรือเจ้าตัวเล็กที่ทำให้ผมอยากจะกอดและอยู่ใกล้ ๆ
“พะ...พี่คาร์ล”
“หือ?”
เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นมามองหน้าเหมือนอยากจะถามอะไรบางอย่าง
“..จูบน่ะ ทำยังไงหรอฮะ”
เอ่อ... เจ้าเด็กแก่แดดนี่ มาถามอะไรแบบนี้ล่ะเนี่ย
“ก็...” จะตอบยังไงดีล่ะ
เอาเป็นว่า
“ถ้าโตกว่านี้แล้วจะบอก”
“โตกว่านี้ โตเท่าไหนหรอ”
เจ้าตัวเล็กเอียงคอน่าเอ็นดู
“อายุ16แล้วกัน”
“อืม...”
เจ้าตัวเล็กก้มหน้าครู่หนึ่งก่อนจะกระดกหัวขึ้นมาอีก
“งั้นพี่จะเป็นคนจูบปังใช่มั้ย”
ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่พูดไปโดยไม่คิดหรือคิดแล้วจึงพูด แต่น่าจะเป็นอันแรก เพราะดูจากสายตาใสซื่อเหมือนลูกหมา เจ้าเด็กนี่กำลังพูดลอยๆชัดๆ แต่ถึงอย่างนั้นถ้าผมตอบว่าโตคนไปน้องก็จะได้รู้จักคำว่าจูบจากแฟนน้อง มันก็หมายความว่า “คนอื่น” ก็มีสิทธ์ได้จูบแรกนั้นไป
..จูบจากริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่น..
“อยากให้ทำแบบนั้นหรอ” ผมถาม
เจ้าตัวเล็กหน้าแดงฉ่าก้มหน้าจิ้มนิ้วตัวเอง
..น่ารักเกินไปแล้ว...
“ถ้าไม่รังเกรียจจะจูบกับคนแก่ล่ะก็นะ” ผมบอก
“ปังรอได้!”
ดวงตาสุกใสฉายแววมั่นใจ เจ้าตัวเล็กลุกขึ้นมาจับไหล่ผมแน่น
“ปังจะรอให้โต! แล้วๆแล้วปังจะ...จะ..”
“จะอะไร”
“แต่งงานกับพี่!”
หา! แต่งเลยหรอ
“เอ่อ... แต่งงานหรอ”
“ก็ถ้าจูบกันแล้ว ก็ต้องแต่งงาน เหมือนในทีวี!”
อ่า ดูละครมากไปสินะ
..แต่ว่า...
“รอให้โตแล้วจะรู้เอง”
“ปังจะรีบโต! พี่คาร์ลอย่าเพิ่งแก่ตายนะ!”
ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่เอาจริงหรอเนี่ย ผมยกมือลูบหัวเจ้าตัวเล็กที่ทำหน้าจริงจัง กำหมัดอย่างมุ่งมั่น
“อื้อ หวังว่าคงไม่เปลี่ยนใจไปจูบกับใครซะก่อนนะ” ผมบอกพลางหัวเราะ
“อื้อออ”
เจ้าหนูน้อยส่ายหน้าแรงๆ
“ต้องพี่คาร์ลเท่านั้น!”
ให้ตายสิทำไมผมต้องยิ้มหน้าบานแบบนี้ด้วยวะ! เจ้าเด็กนี่เริ่มทำผมเป็นบ้าแล้วนะ
..แต่ก็..
รอก็ได้ ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ หวังว่าอีกสิบกว่าปีต่อจากนี้ปังยังจะไม่ลืมเรื่องวันนี้ที่พูดกันไว้นะ ไม่ใช่ว่าไปเจอใครถูกใจแล้วจะทิ้งให้ผมรอเก้อนะ แต่กว่าจะสิบหก....ผมคงแก่แล้วมั้ง อนุบบาลกับม.ปลาย ความห่างมันช่างเยอะเหลือเกิน
ถึงจะเป็นคำพูดของเด็กที่ไม่คิด แต่มันก็ทำให้ผมยิ้มได้
หวังว่าจะไม่ลืมนะน้องปัง
“พี่จะรอนะ”
-----------------------------------------จบตอน----------------------------------------------------
จอบตอนแล้วนะคะ ตอนนี้พยายามปิดเรื่องให้ทันสิ้นเดือน จะทันมั้ยเนี่ย><
ขออัพวันเว้นวันนะคะ ตอนนี้ติดอ่านเพชรพระอุมาอยุ่555