LengZab 14
จงอางหวงไข่
50%
“หม่าม้า!!”ทันทีที่รถของเล้งจอดหน้าร้านอีตัวดีก็ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ที่กำลังล้างหน้าบ้านลั่นด้วยความดีใจ มันวิ่งเข้าไปกอดหม่าม้าของมันแน่นเอาแก้มถูไถกับแก้มของพรรณีด้วยความคิดถึงแค่นั้นเหมือนยังๆไม่สาแก่ใจมันหอมแก้มของแม่ซ้ายขวาไม่ลืมที่จะจุ๊บหน้าผากของแม่ไปอีกที
“คิดถึงจังเลยยยยยย”
“อะไรกันเด็กคนนี้นี่ไม่เจอแม่แค่ครึ่งเดือนทำไมถึงได้อ้อนเก่ง”พรรณีดึงจมูกลูกอย่างหยอกเย้าก่อนจะหันไปรับไหว้เล้งที่เดินลงมาสวัสดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เป็นไงเล้ง เหนื่อยมั้ยลูกต้องมาคอยดูแลย้ง”
“เหนื่อยมากครับม้า”เล้งตอบกลับอย่างไม่ลังเลทำเอาอีตัวดีที่หวังจะได้คำตอบดีๆถึงกับทำหน้าตูบ
“พี่เล้งอ่ะ!!”มันแสร้งทำท่ากระฟัดกระเฟียดกอดแม่ออเซาะราวกับงอนหนักหากแต่กลับยิ้มกว้างจนน่าหมั่นไส้
“พอๆ เลิกอ้อน ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไปเดี๋ยวแม่ไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าวให้กิน เล้งก็อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะ ไปอาบน้ำกับน้องข้างบนนั่นแหละ”หล่อนบอกกับเด็กๆก่อนจะหันกลับไปถูพื้นหน้าบ้านต่อ ย้งยี้กับเล้งพากันเดินขึ้นไปด้านบน ย้งยี้เดินไปหยิบเสื้อผ้าสำหรับผลัดเล้งเองก็เอาเสื้อผ้าตนเองขึ้นมาแล้วเดินตามคนน้องเข้าไปในห้องน้ำด้วย เมื่ออีตัวดีหันมาเห็นมันก็เลิกคิ้วถามอย่างแปลกใจ
“พี่เล้งเข้ามาทำไมอ่ะ จะอาบก่อนเหรอ งั้นเดี๋ยวย้งออกไปก่อนก็ได้”มันเบี่ยงตัวจะออกเพื่อให้เล้งได้อาบก่อนหากแต่เล้งจับข้อมือมันรั้งไว้ ร่างสูงก้มลงมากระซิบข้างหูเบาๆหากแต่กลับทำใจดวงน้อยๆของอีตัวดีสั่นราวกับเจ้าเข้า
“อาบด้วยกันนี่แหละ”
“ได้ไงล่ะ...”มันอมยิ้มตอนที่เอ่ยปากถาม
"ได้ดิ่ ทำไมมึงเขินเหรอ กูก็เห็นก็จับมาทั้งตัวแล้วมั้ยล่ะ?”เล้งแกล้งพู้อีตัวดีเขิน ซึ่งก็ได้ผล มันยืนเขินบิดม้วนต้วนจนน่ารังแก เล้งค่อยๆปลดกระดุมเสื้อให้ย้งยี้ทีละเม็ด ย้งยี้เองก็เก็บกลั้นความเขินอายช่วยถอดเสื้อให้เล้งเช่นเดียวกัน
เป็นการอาบน้ำที่อาบน้ำจริงๆไม่ได้มีกิจกรรมลามกเกิดขึ้นแม้จะเปลือยเปล่าต่อหน้ากัน เล้งแค่อยากใช้เวลาที่เหลือด้วยกันกับย้งยี้ก่อนที่คืนนี้จะต้องกลับไปนอนที่บ้านของตัวเองตามเดิม มันถูกสบู่ลงบนเรือนร่างบอบบางของอีตัวดีจนทั่วสวมกอดร่างแน่งน้อยจากด้านหลังอดไม่ได้ที่จะกดจูบลงบนลาดไหล่เล็กของคนเป็นน้อง ย้งยี้ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปหาเล้งเงยหน้าขึ้นกดจูบลงบนสันกรามของเล้งเบาๆ
“คืนนี้ย้งคงคิดถึงพี่เล้ง”มันบอกกับเขาเสียงอ่อน
จะไม่ให้คิดถึงได้ยังไง สองอาทิตย์ที่ผ่านมาได้นอนซุกอกอุ่นของพี่เล้งทุกวันจนกลายเป็นการเสพติดไปเสียแล้ว
“อย่ามาอ้อนตอนนี้ เดี๋ยวเป็นเรื่อง”เล้งปรามมันเบาๆ อดไม่ได้ที่จะบีบแก้มก้นนุ่มเสียจนเต็มไม้เต็มมือ มันกดจูบลงบนกลีบปากนุ่มของคนน้องดูดดึงเคล้นคลึงด้วยความอ่อนโยนถนอมไม่ให้ปากของน้องบวมช้ำหรือเจ่อจนมองแล้วรู้ว่าถูกจูบมา ตัดใจเอาเฮือกสุดท้ายก่อนจะเลยเถิดด้วยการเอาผ้าเช็ดตัวโปะลงบนหัวอีย้งเสีย
“แต่งตัวแล้วลงไปช่วยม้าทำกับข้าวเถอะ เดี๋ยวกูอาบต่ออีกแป๊บแล้วจะเก็บของกลับบ้าน”ย้งยี้ใจหายกับคำพูดของเล้ง มันโผเข้าสวมกอดเล้งแน่นอย่างหวงแหน เล้งรู้ว่าอีตัวดีกำลังอ้อน แต่เขาจะทำอะไรได้ในเมื่อหน้าที่ของเขาจบลงแล้วเมื่อหม่าม้ากลับมาถึง เล้งได้แต่สวมกอดมันกลับกระชับอ้อมแขนให้มันรู้สึกอุ่นใจว่าถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ไปไหนไกล
แม้ไม่อยากแยกแต่สุดท้ายก็ต้องกลับบ้านใครบ้านมันอยู่ดี มันกดจูบลงบนแผงอกของพี่เล้งอย่างรักใคร่ สูดดมความหอมจากกลิ่นกายที่คุ้นเคยจนเต็มปอดเงยหน้ามาส่งยิ้มจางๆให้เล้งแล้วใช้ผ้าเช็ดตัวพันกายออกจากห้องน้ำไปอย่างว่าง่าย ย้งยี้ลงไปข้างล่างหม่าม้าก็ไม่อยู่แล้ว บ้านสะอาดสะอ้านมากกว่าตอนที่ย้งอยู่เสียอีกกลิ่นน้ำยาถูพื้นหอมกรุ่นไปทั้งบ้าน อุปกรณ์ทำขาหมูถูกนำมาล้างฝุ่นเรียงจนเต็มโต๊ะยาวหลังบ้าน ย้งยี้จัดการหุงข้าวรอหม่าม้า ไม่นานเล้งก็ตามลงมาพร้อมกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าข้าวของส่วนตัว เอาเอามันวางลงบนมุมในสุดของโต๊ะนั่งคุยกับย้งยี้เพื่อรอหม่าม้ากลับ ส่วนมากจะเป็นอีตัวดีที่มาอ้อนมานัวเนียเขาเสียมากกว่า อดไม่ได้ที่จะจุ๊บๆปากกันเหมือนจุ๊บปากลูกหมาที่อ้อนขอขนม เด็กสองคนแยกออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงรถของพรรณีจอดข้างหน้าร้าน ย้งยี้กับเล้งเดินออกไปช่วยหม่าม้าขนของเข้าบ้าน พรรณีซื้อของสด ผลไม้ แล้วก็พวกขนมที่ย้งยี้ชอบกินมาสามถุงใหญ่
“เล้ง อันนี้หม่าม้าซื้อให้ เอาไว้กินกับเฮียหลิวนะ”พรรณีผลักถุงของกินอีกถึงหนึ่งให้
“แล้วก็นี่ยี่ฝากมาให้ บอกเคยสัญญากับเล้งไว้ว่าจะซื้อให้แต่ไม่ได้กลับบ้านซักที”พรรณีหยิบถุงกระดาษที่วางไว้มุมห้องมาให้ เล้งเปิดดูก็พบว่ามันเป็นกางเกงยีนส์ที่เขาเคยฝากจิวยี่ซื้อแต่ไอ้เพื่อนเวรบอกไม่มีเวลาตลอด
“ยี่บอกว่าจริงๆกะจะส่งมาเซอร์ไพรท์วันเกิดเล้งแต่แขนดันมาหักซะก่อนไหนๆหม่าม้าก็ไปหาแล้วเลยส่งมาให้ซะเลย”
“ขอบคุณครับม้า เดี๋ยวคืนนี้ผมจะโทรไปขอบคุณไอ้ยี่มันอีกที ว่าแต่มันเป็นยังไงมั่งครับแขนดีขึ้นหรือเปล่า?”
“ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ตอนแรกหม่าม้าก็ห่วงว่าจะอยู่เองได้มั้ยแต่เพื่อนเขาทางนู้นก็เยอะอยู่ไปเรียนก็มีคนคอยดูแลตลอด ม้าห่วงเจ้าย้งยี้มากกว่ากลัวรบกวนเล้ง”
“ไม่รบกวนหรอกครับ ยังไงถึงหม่าม้าไปโทรไปบอกให้ผมมาผมก็ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนย้งมันอยู่ดี”
“นั่นสิ นึกถึงเมื่อก่อนเนอะ เวลาม้ากับป๊ามีธุระต้องไปต่างจังหวัดแล้วทิ้งยี่กับย้งไว้กับอากงอาม่าสองคนก็จะหอบเสื้อผ้าไปนอนบ้านเล้งตลอดเลย เผลอแป๊บเดียวทั้งสามคนก็โตกันหมดแล้ว”
“นั่นสิม้า เหมือนย้งเพิ่งโดนเฮียยี่เตะให้เลิกเป็นตุ๊ดเมื่อไม่นานมานี้เลย”ย้งยี้พูดพลางส่งเสียงหัวเราะจนตาหยี หม่าม้าเริ่มเอาของออกมาเรียงแล้วบอกเมนูที่จะทำโดยมีอีตัวดีคอยเป็นลูกมือ
“อ่าว ย้ง หม่าม้าลืมซื้อรสดีมา ย้งขับรถไปซื้อให้ม้าหน่อยสิลูก”พรรณีร้องบอกกับย้งที่ล้างผักอยู่ข้างๆ ย้งยี้รับคำแม่ก่อนจะคว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์มาถือ เล้งลุกเพื่อจะไปเป็นเพื่อนแต่พรรณีกลับเรียกไว้
“เล้งมาช่วยม้าก่อเตาถ่านหน่อย เดี๋ยวม้าจะต้มขาหมู ย้งรีบไปรีบมานะลูกจะได้ทำกับข้าวกัน”ในเมื่อหม่าม้าพูดอย่างนั้นย้งยี้ก็เลยต้องไปคนเดียว เล้งทมี่อยู่ลำพังกับพรรณีก็ไปช่วยจุดเตาถ่านเพื่อย่างขาหมู ชายหนุ่มเหลือบมองพรรณีที่เริ่มเรียงถ่านยามที่ไฟติดชิ้นยางในรถที่หั่นชิ้นสำหรับทำเชื้อไฟ
เรื่องแค่นี้พรรณีทำได้เองสบายๆด้วยซ้ำแต่กลับขอให้เขาอยู่ช่วย
“ม้ามีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่าครับ”เล้งไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ตัวเองสงสัยอะไรฝ่ายเดียวเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบ พรรณีเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มที่เห็นกันมาตั้งแต่ตัวเท่าเมี่ยง
เล้งโตจนถึงขั้นมองหล่อนออกได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“เล้ง...”หล่อนใส่ถ่านจนเต็มเตาก่อนจะเอ่ยเรียกเด็กหนุ่มที่หล่อนก็รักและเอ็นดูเหมือนเป็นลูกชายอีกคน
“กับย้งยี้น่ะ เล้งคิดยังไงกับน้อง เล้งบอกหม่าม้าได้มั้ย?”หล่อนเงยหน้าเพื่อจ้องตาเล้งตรงๆ
“เล้งรู้ใช่มั้ยว่าหม่าม้าเลี้ยงย้งเหมือนเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากเพศสภาพตั้งแต่เกิดย้งยี้ก็ไม่เหลือความเป็นผู้ชายอยู่เลย น้องโตมากับเสียงหัวเราะเยาะของคนรอบข้าง ใครๆต่างก็พากันมองว่าน้องเป็นตัวตลก ยิ่งย้งทำตัวน่ารักคนพวกนั้นก็ยิ่งหัวเราะดังมากขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเอ็นดูเล้งก็รู้ใช่มั้ย”
“ครับ”
“ย้งน่ะเป็นเด็กมองโลกในแง่ดีเกินไปจนบางทีหม่าม้าก็คิดว่าหม่าม้าสอนน้องผิดไปหรือเปล่า ย้งยี้แทบจะดูแลตัวเองไม่ได้เลย โตมาก็มียี่กับเล้งคอยดูแลมาตลอด แม้กระทั่งตอนนี้ถึงยี่จะไม่อยู่แต่เล้งก็ยังอยู่ หม่าม้าไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยว่าเล้งเองก็รู้สึกดีๆกับน้องเหมือนกัน”
“ครับ”เป็นอีกครั้งที่เล้งตอบกลับสั้นๆ แต่คำตอบนี้กลับหนักแน่นและไม่หลบตา พรรณีส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับคุณากร หล่อนรู้อยู่แล้วว่าเล้งจะตอบแบบนี้ หล่อนแค่ต้องการฟังออกจากปากของเล้งเพื่อความมั่นใจ
“ผมรักย้งมันจริงๆนะครับหม่าม้า”และเหมือนเล้งเองก็อยากจะย้ำให้พรร๊มั่นใจในความรู้สึกที่เขามีต่อย้งยี้ เล้งจึงตอบย้ำกลับไปอีกครั้ง
“ผมอยากดูแลย้งยี้ไปเรื่อยๆจนกว่าวันหนึ่งเราจะตายจากกันหรือจนกว่าย้งยี้จะไม่ต้องการผมแล้ว”
“แต่เรื่องนี้เล้งจะตัดสินใจเองไม่ได้รู้ใช่มั้ยครอบครัวคนจีนยังไงก็ยังถือเรื่องนี้อยู่"
“แต่ผมคุยกับป๊าแล้ว ป๊าไม่ว่าอะไรป๊าบอกว่าถ้าจะรักกันชอบกันป๊าไม่ว่า ป๊าสอนว่าคบกันก็อย่าทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่ หม่าม้าครับ ถึงผมจะแก่กว่าย้งยี้ 2 ปี แต่ผมมั่นใจว่าผมดูและมันได้ดีเหมือนที่หม่าม้าดูแลนะครับ เพราะฉะนั้นหม่าม้าให้เราสองคนคบกันเถอะนะครับ ผมสัญญาว่าผมจะดูแลมันให้ดีเหมือนที่หม่าม้ากับไอ้ยี่ดูแล”เล้งยกมือขึ้นไหว้พรรณี ปากก็เอ่ยคำพูดขอร้องทั้งที่มันไม่เคยต้องขอร้องใครแบบนี้มาก่อน พรรณีวางมือลงบนไหล่เด็กที่หล่อนเองก็รักเหมือนลูกบีบมันเบาๆราวกับจะถ่ายทอดความรักความรู้สึกเหล่านั้นให้เล้งรับรู้
“จะคบกันก็คบเถอะ หม่าม้าลุ้นแทบแย่ว่าสองคนจะลงเอยกันยังไง แต่หม่าม้าก็ขอให้เล้งช่วยเมตตาลูกของหม่าม้ามากๆนะ ย้งมันเป็นเด็กซื่อจนบางทีก็ตามใครไม่ทัน ม้าห่วง ม้าไว้ใจเล้งนะ”หล่อนยิ้มให้กับเด็กหนุ่มที่ส่งยิ้มตอบกลับมา เล้งเหมือนยกภูเขาออกจากอกยามที่ได้คุยกับพรรณีจนรู้เรื่อง หลังจากนั้นอีตัวดีก็กลับมา บทสนทนาระหว่างเล้งกับพรรณีก็หายไปกลายเป็นเสียงเจื้อยแจ้วของย้งยี้ที่เล่านู่เล่านี่ให้คนเป็นแม่ฟัง รวมทั้งที่ถูกทำร้ายร่างกายมันก็เล่าทั้งๆที่เล้งนั่งตาเหลือกใส่มันจนแทบจะถลน พรรณีหัวเราะจนน้ำตาไหลตอนที่ย้งยี้ตั้งการ์ดตามแบบมวยที่เล้งสอนก่อนจะร้องแอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ แอ้ยใส่แม่พร้อมฟูลเทิร์นรอบครึ่งให้แม่ดูแล้วอวดว่าตัวเองไปเรียนมวยเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว
“มืออ่อนแขนอ่อนอย่างนี้จะไปสู้ใครเขาได้ล่ะลูก”พรรณีถามลูกคนเล็กอย่างอ่อนใจ
“ย้งจะต้องไปต่อยตีกับใครล่ะหม่าม้า ยังไงเดี๋ยวพี่เล้งก็มาช่วยอยู่ดีอ่ะ จริงมั้ยพี่เล้ง”มันไม่พูดเปล่ายังเอาไหล่ตัวเองชนอกแน่นๆของเล้งเป็นระยะจนพรรณีส่ายหน้าให้ลูกคนเล็ก หลังจากทำกับข้าว 3 อย่างทั้งสามคนก็ยั่งกินข้าวด้วยกันโดยไม่ลืมที่จะทำใส่ปิ่นโตแบ่งให้แปะหลิว ทั้งสามคนนั่งคุยกันอีกพักใหญ่จนเวลาสามทุ่มอีตัวดีที่เริ่มตาปรอยก็เดินมาส่งเล้งที่หน้าบ้าน มันยังมิวายงอแง
“กลับไปแล้วคิดถึงย้งด้วยนะพี่เล้ง”มันจับมือเล้งเขย่าไปมาอย่างเอาแต่ใจ
“งอแงจังว่ะโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว”เล้งยื่นมือไปลูบผมมันเบาๆ
“พี่เล้ง”มันเรียกตอนที่เล้งเดินมาจนถึงมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่หน้าร้าน
“อะไร?”
“กอดหน่อย”มันอ้าแขนร้องบอกอย่างเอาแต่ใจ เล้งส่ายหน้าราวกับเอือมระอาแต่ในที่สุดมันก็รับร่างบอบบางของย้งยี้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอยู่ดี
ได้ตามบัญชาของเจ้าหญิงน้อยเสมอ...
..........................
เรากลับมาอัพให้แล้วนะคะ อยากอัพทุกวันแต่กลับถึงบ้านก็หลับเป็นตาย แถมหลังๆมานี่เราปวดหลังมากจนต้องพัก นี่ก็พิมพ์ไปหลับไป
ปล.เนื่องจากมีคนอ่านทักเรื่องคำผิดเรายอมรับค่ะว่ามักจะหลุดคำผิดบ่อยเนื่องจากเรามองตัวหนังสือมากๆแล้วตาลาย แบบตัวหนังสือมันซ้อนกันแบบเบลอๆอ่ะค่ะ ทำให้เราอ่านซ้ำได้อย่างมากก็รอบเดียว ดังนั้นจึงมีคำผิดเล็ดรอดออกมาบ้างเราต้องขอโทษจริงๆนะคะ ถ้าอยากช่วยเราตวรจคำผิดแนะนำให้แคปแล้ววงแดงส่งให้เราทางทวิตเตอร์ก็ได้ค่ะ
มีข้อติชมอะไรสามารถบอกเราได้นะคะ เราอยากเป็นแก้วที่พร้อมจะรับน้ำอยู่เสมอ #พี่เล้งแซ่บมาก