ผู้ชายหัวเตียนๆเกือบล้านที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องหนึ่งทำให้คุณหมอณัฐกานต์ชะงักกึก เหลียวหลังมองป้ายที่ติดรูป ตำแหน่ง และชื่อของหนักงานที่เพิ่งเดินผ่านมาเมื่อครู่ ชื่ออะไรไม่ทันอ่าน แต่ตำแหน่งตัวโตกับสัญลักษณ์บ่งบอกว่าดำรงตำแหน่ง บ.ก. ของสำนักพิมพ์... อ้าว...แล้วถ้าคุณ บ.ก.อยู่นี่ แล้วเพื่อนเขาล่ะ....อยู่ไหน?
กำลังจะเดินเข้าไปถามหาแต่ทว่าแรงหนุ่มต่างชาติที่เดินตามมาก็คว้าเขาไว้ทัน...
"จะไปไหนอีก...ซนเหมือนแมวจริงๆนะคุณ...เดินไปได้เรื่อย..."
"เอ๊ะนี่คุณ... ที่สนามบินก็ทีนึงแล้วนะ... มาว่าคนอื่นเค้าเป็นแมวเป็นสุนัข ผมไม่สนุกไปกับคุณด้วยหรอกนะ... แล้วก็ปล่อย ! ผมจะไปหาเพื่อน...!"
"นี่คุณ... เพื่อนคุณเขาก็กำลังคุยงานอยู่...คุณจะไปกวนเขาทำไม มากับผมดีกว่า..." พูดแล้วก็ตั้งท่าจะลาก แต่ทว่าคุณหมอกานต์ก็ไวใช่ย่อยสะบัดแขนทีเดียวหลุดเหมือนกัน...
"...นี่..." เรียกแล้วก็จ้องตาใส่ "คุณรู้มั้ย...ว่าผมไม่ไว้ใจบริษัทนี้ตั้งแต่เห็นคุณที่เคาเตอร์แล้วล่ะ...แต่งตัวยังกับพวกมาเฟียข้ามชาติ... พวกของคุณก็คงจะอยู่กันยั้วเยี้ยเต็มไปหมดเลยล่ะสิ... เพราะงั้นผมจะพาเพื่อนผมกลับ... หนูลินเขาก็คิดถึงแม่แล้วด้วย..." พูดแล้วก็โอ๋หนูไวโอลินที่สะอื้นซบไหล่เขา... มาคัส ไบรอันสะดุดหูกับคำเรียก...
" 'แม่' เหรอ... ก็คุณน้ำฟ้าเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่รึไง..." ที่จริงกะจะนึกแค่ในใจ แต่มันดันหลุดปากถามออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้... คุณหมอกานต์ก็ตีสีหน้ารำคาญใส่พร้อมบอก...
"จะเรียกอะไรมันก็เรื่องของครอบครัวเขา...คุณไปเกี่ยวอะไรด้วย จะอยากรู้ไปทำไม... เอาล่ะ ทีนี้ปล่อยผมไปได้แล้วใช่มั้ย... ผมเดาว่าเพื่อนผมต้องอยู่ในห้องที่คุณ บ.ก. นั่นเฝ้ายามอยู่แหง..." พูดแล้วก็ลงมือทำเลย
เพราะช่วงขาเล็กก้าวไปไม่กี่ก้าวมาคัสก็ตามมาทัน...จึงเอื้อมมือคว้าแขนกะให้หยุด แต่พอดีมันผิดจังหวะคุณหมอดันก้าวพลาดเหยียบเท้าคุณฝรั่งผมทองเต็มๆ....!!
"โอ๊ย !" อุทานเพราะความเจ็บ ! เห็นเท้าเล็กๆแต่ไม่นึกว่าแรงเหยียบจะไม่บันยะบันยังเลย... บอดี้การ์ดตัวโตรีบหดเท้าขึ้นจับ หมดมาดเท่ห์ๆเลยเรา...
ตอนแรกคุณหมอกานต์เหมือนจะตกใจที่ดันเผลอไปทำร้ายร่างกายคนอื่น ...มันผิดจรรยาบรรณแพทย์ แต่... ช่างเถอะ...
"...หึ สมควร..." บอกอย่างเยาะๆ วิเคราะห์อาการคร่าวๆสรุปได้ว่า...เจ็บแค่เนี้ยไกลหัวใจและหายเองได้ก็หมดห่วง... รีบจ้ำเท้าไปทางคุณหัวเตียนที่ยกผ้ามาเช็ดศีรษะเป็นรอบที่ร้อย เขาคงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดล่ะนะแต่คงไม่อยากมายุ่ง...
คุณหมอกานต์ก้าวมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงส่งเสียงถามคุณ บ.ก. เสียงดังฟังชัด...
"สวัสดีคุณ บ.ก. เพื่อนผมอยู่ในห้องใช่มั้ย..." แทนที่จะถามว่าเพื่อนอยู่ไหน...แต่เพราะเซนส์ส่วนตัวบวกกับจิตวิทยาที่เคยเรียนมาคุณหมอจึงถามเอาคำตอบที่ตอบได้ง่ายๆแทน... และคุณ บ.ก. ก็คงยังตกใจที่เห็นเขา 'จัดการ' บอดี้การ์ดผมทองเมื่อครู่ บวกกับน้ำเสียง... จึงเผลอตอบออกมาไม่รู้ตัวเหมือนประชาสัมพันธ์สาวเมื่อครู่
"ชะ...ใช่ ! ครับ..." ตอบแล้วก็เพิ่งนึกได้ จึงรีบยกมือปิดปาก อาการเดียวกันเป๊ะ...! มาคัสส่งสายตาดุๆมาทางคุณบ.ก. และหนุ่มใหญ่หัวเตียนก็ยิ่งสั่นหนัก เมื่อกี๊ก็เพิ่งหัวหดเพราะบอสมาหมาดๆ คราวนี้เจอก็อกสองคุณ บ.ก. แทบจะก้าวไม่ออกกันเลยทีเดียว... ไม่น่าเล้ยยยย ซองขาวพร้อมเงินเดือนล่วงหน้าสามเดือนลอยวิ้งค์ๆมาอยู่ตรงหน้าแล้ว...โธ่ !!
"แว้.......แง้.......อุ....แง.............." เหมือนรู้ว่าอยู่ใกล้ม่าม๊า หนูลินก็เริ่มปี่แตก... คุณหมอกานต์ไม่รอช้ารีบเคาะประตูกระจกตะโกนเรียกเพื่อนทันที...
"ฟ้า !! น้ำฟ้า !!! แกอยู่ข้างในใช่มั้ย....!!! ถ้าอยู่แกก็ช่วยส่งเสียงกลับมาหน่อย...หนูลินเขาอยากกลับบ้าน
ฟ้า !!!" เรียกพลางก็เคาะพลางปละพยายามจะผลักประตู... แต่คุณหมอคงไม่รู้...ว่าห้องนั้นน่ะมันเก็บเสียง... ข้างในจะตะโกนเรียกมาให้ตายยังไงก็ไม่ได้ยิน...
น้ำฟ้าที่อยู่ในห้องยืนเล่นสงครามประสาทกับหนุ่มร่างสูงครู่ใหญ่ก็ตกใจเมื่อประตูมันสั่นเหมือนมีคนมาเขย่าอยู่ข้างนอก... สองเท้ารีบก้าวประชิดประตูทันที
"คะ...ใครอยู่ข้างนอกอ่ะ...ช่วยเปิดให้ผมหน่อย...!! ผมถูกขังอยู่ข้างในครับ... ช่วยเปิดประตูให้หน่อย..." พูดพลางก็เขย่าประตูตอบกลับ...
"ต่อให้ตะโกนใส่ไมค์คนข้างนอกก็ไม่ได้ยินหรอก... ห้องนี้มันเก็บเสียง... อย่างดีด้วย..." พูดแล้วก็เดินเข้ามาหาพร้อมถือวิสาสะคว้ามือที่พยายามยื้ดยุดประตูให้ออกห่างมา... "อย่าพยายามเลย มันไม่มีประโยชน์หรอก... เรามาตกลงกันให้เรียบร้อยดีกว่า... ว่าเธอต้องการอะไร..."
"ผมไม่ตกลงอะไรกับคุณทั้งนั้นน่ะ !! เราไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีก ปล่อยนะ !! นี่..ปล่อยสิ..ปล่อย..." พูดแล้วก็ดิ้นด้วย พยามสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ความแตกต่างเรื่องขนาดพละกำลัง ยังไงๆคนตัวเล็กกว่าและบางกว่าอย่างน้ำฟ้าก็หลุดรอดไปได้ยากอยู่ดี...
"นี่...หยุดดิ้นสักที... เพราะยิ่งดิ้น... คนที่ยิ่งเจ็บมันก็คือเธอ..." รังสิมันต์มองสบตอบสายตาไม่พอใจที่ส่งมาทางเขาอย่างไม่สะท้าน
เอาสิ...ตัวแค่นี้ยังกล้ามาลองดีกับเขา อยากดิ้นให้มันแขนขาดไปเลยก็ลองดู... นึกแล้วก็ยิ่งกำแน่นขึ้น แถมยังยกอีกข้างมาคว้ามือขาวบางที่พยามแกะมือเขาออกมาจับไว้ต่างหาก คราวนี้น้ำฟ้าเหมือนถูกจับตรึง มือดิ้นลำบาก ร่ำๆนึกอยากจะยกเท้ามาเตะเสียให้สิ้นตระกูล... กำลังจะลงมือทำอยู่แล้วเชียว... เสียงเด็กร้องไห้แผดจ้ากับเสียงร้องเรียกชื่อเขา และประตูที่เปิดออกพอดีก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาแทบไหล...
"ฟ้า !!!" คุณหมอกานต์ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนอย่างดีใจ เมื่อสักครู่อีตาฝรั่งผมทองเกือบจะมาดึงเขากลับไปอยู่แล้วเชียว ดีว่ามือที่เขาคว้าเปะปะที่ประตูมันไปโดนล็อกกลอนพอดี ประตูจึงเปิดผลั๊วะออกมาทัน...
"
หมอกานต์ !! หนูลิน !!!" ทั้งตกใจทั้งงงที่คุณหมอกานต์มาพร้อมลูกชายตัวเอง แต่ต้องตั้งสติทันทีเมื่อเห็นชัดๆว่าหนูลินร้องไห้จนน้ำตาไหลน้ำมูกไหลจมูกแดงไปหมด... "หนูลิน !! มาหาแม่ฟ้ามาลูก..." เพราะแรงอยากพุ่งเข้าไปหาลูกเต็มทนน้ำฟ้าจึงฮึดรวบรวมแรงตัวเองทั้งหมดสะบัดหลุดจากการเกาะกุมออกมา และคงเพราะรังสิมันต์เองก็ไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาขัดจังหวะ แรงจับจึงลดหาย น้ำฟ้าจึงสามารถถลาเข้าไปรับหนูลินมาปลอบได้สมใจ...
"โอ๋......... ไม่ร้องแล้วนะครับคนเก่ง.... โอ๋....ใครทำหนูครับ... ไม่ร้องนะคนดี แม่ฟ้าอยู่นี่แล้วนะ... จุ๊ๆเงียบเร็ว... เดี๋ยวตั๊บแกจับกินนะ... โอ๋......" น้ำฟ้าไม่สนใจสถานการณ์ใดๆทั้งสิ้น ตอนนี้ต้องการให้ลูกหยุดร้องโดยเร็วที่สุด เห็นหนูน้อยร้องไห้แบบนี้แล้วคนเป็นแม่อย่างเขาเจ็บจนอยากจะร้องไห้แทน... สิ่งสุดท้ายที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากเห็นมากที่สุดในโลกก็คือ..น้ำตาของลูกนี่แหละ
หนูน้อยไวโอลินที่ยื่นมือถลาเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นที่คุ้นเคยได้ ก็ตะเบ็งเสียงร้องอีกสองสามเฮือกก็เริ่มเบาลงๆ เพราะฝ่ามือคุ้นเคยที่ลูบหลังให้ และเสียงเพราะนุ่มๆเหมือนเคยที่ได้ยินก่อนนอนทุกคืน ทำให้หนูน้อยซุกซบหน้าเข้าหาอ้อมอกราวกับจะหาที่พึ่ง ซึ่งมั่นใจแล้วว่านี่แหละ 'แม่' เขา... เขาจะอบอุ่นและปลอดภัยที่สุดถ้าได้ซุกนอนอยู่ตรงนี้...
หมอกานต์ที่เผลอซึ้งไปกับภาพตรงหน้าไปนิดก็นึกสถานการณ์ปัจจุบันออกมาโดยพลัน เมื่อเห็นผู้ชายร่างสูงที่ยืนเยื้องอยู่เบื้องหลังเพื่อน... แม้จำไม่ได้แม่นแต่ก็เหมือนคุ้นว่าน่าจะใช่คนเดียวกับที่นายฝรั่งเรียกว่า 'บอส'...
"นี่คุณเป็นใคร...ทำไมมาจับตัวเพื่อนผม...ไว้ในห้องแบบนี้..." คุณหมอถามไม่ค่อยจะนึกเกรง... น้ำฟ้ารีบหันมาทางเพื่อนแล้วดึงแขนเสื้อไว้...
"เรากลับกันเถอะหมอกานต์ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว..." บอกแล้วก็ส่งสายตาแกมขอร้องว่าให้กลับ แต่คุณหมอกานต์กลับจับแขนเพื่อนไว้แล้วหันมองจ้องหน้านายฝรั่งที่ไปยืนข้างบอสเขาเมื่อไหร่ไม่รู้ กับเจ้านายนายฝรั่งด้วย... พอยืนคู่กันแบบนี้แล้วน่าจะพาเอาไปช่วยงานพี่ยักษ์วันแจ้งนัก... จะตัวใหญ่ตัวสูงไปแข่งกับยอดเขาเอเวอเรสต์รึไงกันนะพ่อคุ๊ณ...
"นี่คุณสองคน... ผมไม่รู้หรอกนะว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น... แต่ผมหวังว่า 'พวกเรา' กับ 'พวกคุณ' คงจะไม่ได้พบได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สาม..." พูดแล้วคุณหมอกานต์ก็นึกฉุน... นี่มันสำนักพิมพ์บ้าอะไร มาทำเหมือนขังเพื่อนเขาไว้ แถมไอตัวบอสคนนั้นอีก ตะกี๊ตอนเข้ามาเห็นอยู่ว่ากำลังจับเพื่อนเขาไว้ทั้งสองมือขนาดนั้น... หรือว่า... เรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลแล้ว...เย็นนี้ถ้าไม่ได้เรื่องจากเพื่อนสนิทลูกอ่อนนี่อย่าหวังว่าทั้งเพื่อนทั้งเขาจะได้นอน...
"กลับเถอะหมอกานต์..." น้ำฟ้าไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านั้น ดึงแขนเสื้อเพื่อนยิกๆจะพาลากออกไปนอกห้องเสียเองให้รู้แล้วรู้รอดด้วย...
รังสิมันต์ไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรออกมาเมื่อโดนขัดจังหวะแบบนี้... เหลือบตามองลูกน้องคนสนิทที่ยืนเอามือจับกันแล้วก้มหัวเพราะรู้ตัวว่าบกพร่องต่อหน้าที่... แล้วก็เหลือบหางตามามองสองน้าหลานตรงหน้า... คนเป็นน้าของเด็กไวโอลินหันหลังให้เขาอยู่ ส่วนเด็กคนนั้นก็คอพับซบอยู่บนบ่าเล็กๆ ฝ่ามือเด็กกำเสื้อของน้าชายตัวเองแน่นจนยับ สองตาคลอรื้นน้ำตา ส่วนปลายจมูกก็แดง สงสัยว่าคงร้องไห้หนักมาก่อน... ชายหนุ่มเผลอหยุดจ้องนัยน์ตาแป๋วแว๋วคู่นั้นตรงๆ ...ความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาของเด็ก... มันทำให้เขาไม่ค่อยคุ้น ทั้งชีวิตเคยเจอแต่แววตามีเลศนัย หวังผลลับหลังมาตลอด ชายหนุ่มยืนนิ่งสบตากับเด็กน้อยตลอดเวลาที่คุณหมอกานต์พูด เด็กตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีจะหลบ และเหมือนจะมองเขาอย่างสนใจเสียด้วย...
ชายหนุ่มเผลอหลุดยิ้มตรงมุมปากออกมาให้เด็กน้อย... เจ้าตัวเล็กรีบหลบซุกหน้าเข้าหาซอกคอของคนเป็นน้าทันที แต่แป๊บเดียวก็โผล่หน้าออกมาอีก คราวนี้เหมือนจะยิ้มแก้มยุ้ยใส่เขา สองเขนทำท่าจะยื่นมาหา แต่น้าชายกับเพื่อนก็รีบสาวเท้าพาเจ้าตัวเล็กออกจากห้องไปเสียก่อน... รังสิมันต์นึกสงสัยตัวเองอยู่ครามครันว่า ถ้าเมื่อกี๊น้าของเด็กยังอุ้มหลานคุณแม่อยู่ต่ออีกสองสามนาที เขาคงเผลอยื่นมือออกไปหา... นึกอยากลองจับตัวป้อมๆ แก้มยุ้ยๆนั่นซักที...
ทำไมนะ... ทั้งที่เพิ่งเจอกันแค่ครั้งที่สอง... เขากลับมีความรู้สึก 'เอ็นดู' เด็กน้อยไวโอลินขึ้นมาอย่างประหลาด... อยากจะ...ลองอุ้ม...ลองสัมผัสตัวเล็กๆผิวบางๆนั่นดู... มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมี ลูกของรวี...หลานของคุณแม่... หลานแท้ๆของเขาเอง...
"ชื่อไวโอลิน...หนูลินงั้นเหรอ..." พึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว...
"...บอสว่าอะไรนะครับ..." มาคัสถามเพราะนึกว่าคุยกับตน
"เปล่า...ไม่มีอะไร..." บอกลูกน้องไปอย่างนั้น แต่นิ้วเรียวยาวกลับสอดเข้าไปในเสื้อสูท และหยิบรูปถ่ายที่ตัวเองสอดไว้ออกมา
รูปของน้ำฟ้าที่กอดหนูน้อยไวโอลินฉายชัดบนแผ่นกระดาษมันขนาดเท่าฝ่ามือ ชายหนุ่มเผลอไผลไล้นิ้วลงบนพวงแก้มนุ่มของเด็กทารกในห่อผ้าที่น้ำฟ้ากำลังอุ้ม ริมฝีปากจุดรอยยิ้มอ่อนโยน... เกิดเรื่องมาตั้งนาน แต่เขาไม่เคยมีโอกาสได้นั่งมองใบหน้าหรือลองทำความรู้จักกับหนูน้อยไวโอลินเลย... ทั้งๆที่...ก็เป็นหลานของเขาแท้ๆ... หลานถอดแบบมาจากนายทุกส่วนเลยนะรวี... ทั้งจมูก หน้าผาก แก้ม แต่ตาโตไปหน่อย สงสัยคงได้ทางฝั่งแม่...
นึกถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็ดันนึกใบหน้าน้าชายของหลานเขาออกมา... ใบหน้าเรียว ผิวขาวมาก ปากสีอมส้ม แต่มีตาโตๆที่เป็นจุดเด่นบนใบหน้า...เหมือนหนูน้อยไวโอลินจริงๆ ดูเผินๆคงเดายากว่าใบหน้าแบบนี้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แถมยังไว้ผมยาวอีก หลายคนคงฟันธงว่าเป็นผู้หญิงแน่ๆ... เผลอมองใบหน้าด้านข้างของน้ำฟ้าในรูปแล้วรังสิมันต์ต้องรีบกระพริบตาถี่ ...ตัวเล็กแต่กล้าหาญชาญชัยมากไปหน่อย... เถียงคำไม่ตกฟาก... อุตส่าห์มอบข้อเสนอดีๆให้ตั้งมากมายขนาดนั้นยังไม่ยอมรับ... ไม่เคยเจอคนที่กล้าขัดใจเขาแบบนี้มาก่อนเลย...
"บอสครับ...แล้วจากนี้เราจะทำยังไงต่อดี..."
รังสิมันต์เหลือบมองเลขาหนุ่มผมทองแล้วก็ยักคิ้วตอบ... ไม่พูดอะไร...
-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-:+:-
to be continue-->>
แหะๆ มาต่อจบตอนแล้วจ้าาาา ^^
เดี๋ยวหลังจากนี้เค้าคงมาลงบ่อยไม่ค่อยได้เพราะเปิดเรียนแล้ว... แต่จะทยอยเอามาลงให้เรื่อยๆเน้อออ
ตอนนี้แต่งสดแล้วเพราะเนื้อเรื่องหมดสต็อก...
ห้าห้าห้า โดนด่าประจำว่าพอหมดสต็อกแล้วชอบอู้... แต่นี่จะเป็นเรื่องแรกที่(กะว่า)จะไม่อู้...และดอง
เข้ามาทีไรก็เห็นคอมเมนต์จากคุณผู้อ่านเพิ่มขึ้นทุกครั้งรู้สึกชื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่นึกว่าจะมีคนเข้ามาอ่านด้วย ห้าห้าห้า...
หลายคนบอกว่าไม่อยากซดมาม่าเนอะ (เค้าเองก็ไม่อยากอ่ะ เพราะอยู่หอก็เลยโซ๊ยมาม่าแหลกตลอด เบื่อมากกกก (เกี่ยวมั้ย??)
) แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าจะออกมายังไงเหมือนกัน เพราะตอนแรกที่คิดไว้ก็เศร้าขนาดแค่คิดพล็อตยังน้ำตาตก
แต่พออ่านหลายๆคอมเมนต์ก็เลยปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องนิดหน่อย...(ชื่อเรื่องตอนแรกคือ พันธนาการ...รัก น่ะจ่ะ
) เอาเป็นว่าจะเป็นยังไงก็ลุ้นกันต่อไปเน้อ....
ปล. ขอบคุณทุกแรงกำลังใจและคำติชมอย่างสูงงงงงงงงงงงงงงงงง ที่สุดจ่ะ
ปล2. ตอนนี้ชักจะหลงน้องน้ำฟ้าเหมือนกัน ก็เลยยังไม่อู้หรอก ห่ะห่ะ
แล้วเจอกันวันฟ้าใหม่...
รักษาสุขภาพทุกคนนะจ๊ะ จาก เด็กแสบเอง