ปู๊น ปู๊น ตอนพิเศษมาแล้วครับ
เฮ้อ...จะมีใครเชื่อไหมเนี๊ยะ ว่าคาสโนว่าตัวพ่ออย่างผม จะต้องมานั่งกลุ้มเรื่อง เอ่อ...เรื่องเซ็กส์
นี่ก็จะสองเดือนแล้วที่ผมคบกับน้องเจได แต่เชื่อไหม...ผมยังไม่ได้มีอะไรกับน้องเจไดเลย อย่างมากก็แค่หอมแก้มอ่ะ ผมบอกตรงๆว่า...ผมเบื่อที่จะมีเซ็กส์กับมือตัวเองเต็มทนแล้ว
ไม่ใช่ว่าน้องเจไดไม่ยอมนะครับ แต่ทุกครั้งที่ผมจะเริ่ม น้องเจไดก็ทำหน้าเหมือนจะร้องให้ซะทุกที ผมเองก็ไม่อยากจะฝืนใจน้อง ถ้าน้องไม่เต็มใจหรือว่ายังไม่พร้อม ผมก็จะก็ไม่ทำ
แต่บางครั้งก็ไม่ไหวนะครับ จะให้เราคิดแบบนั้นทุกครั้งไปก็ไม่ใช่ คนเรารักกันก็ต้องมีอะไรกันเป็นเรื่องธรรมดา ผมก็ไม่ใช่ผู้ชายที่แสนดีอะไรนักหนาหรอก แอบคิดในใจอยู่เหมือนกันว่า ถ้าน้องเจไดไม่ยอม ผมก็
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมจะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จะข่มขืนแมร่งเลย ห๊าๆๆๆ
ผมให้เจไดย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดของผมแล้วละครับ เพราะมันกว้างกว่า (แถมยังแพงกว่าด้วย) แรกๆเจไดก็ไม่ยอมนะครับ แต่เจไดทนลูกตื้อของผมไม่ไหวเลยต้องย้ายมา
"พี่เบิ้ม เจไดกลับมาแล้วครับ"
เสียงของน้องเจไดปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ วันนี้ผมไม่มีเรียนช่วงบ่าย เลยกลับมานอนเล่นที่ห้องก่อน
เจไดเดินเข้ามาในห้องถอดถุงเท้าใส่ตะกร้า แล้วเดินมาหาผมที่โต๊ะคอม
"ฟ่อด"
เจไดหอมแก้มผมแล้วนั่งลงบนตัก ผมกอดเจไดไว้หลวมๆ
"ว่าไงครับ เหนื่อยไหม"
เจไดส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วใช้มือโอบรอบคอผม
"หิวหรือยัง หืม"
เจไดพยักหน้า สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
"ลุกหน่อย เดี๋ยวพี่เบิ้มไปเอาพุดดิ้งมาให้ทานนะครับ"
ผมเดินเข้าไปเอาพุดดิ้งที่ซื้อมาตุนไว้ เรื่องอาหารการกินผมต้องดูแลหมดเลยครับ เพราะว่าน้องเขาไม่ค่อยใส่ใจกับการกินเท่าไหร่ เจไดเป็นพวกมีก็กิน ไม่มีก็ไม่ต้องกิน อย่างเวลาอยู่ที่มหาลัย เจไดชอบกินขนมปังกับนม จนบางครั้งผมต้องไปลากเจไดมานั่งกินข้าวด้วย ไม่งั้นก็ไม่ยอมกินอะไร ตอนนี้ก็ผอมแห้งเหลือแต่กระดูกอยู่แล้ว
ผมหยอบเอาพุดดิ้งไปวางไว้บนโต๊ะในห้องนอน ส่วนเจไดก็กำลังเริงร่ากับการเล่นเฟสบุ๊คอยู่
"เจได มากินขนมก่อน เดี๋ยวค่อยไปเล่น"
"พี่เบิ้มเอามาป้อนให้เจไดหน่อยสิ"
ดูสิครับ...ดู ขนาดจะกินยังขี้เกียจเลย ไม่ไหวจริงๆเด็กคนนี้
เจไดเป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจครับ พอไม่ได้ดั่งใจก็งอน ไม่ยอมกินข้าว ผมก็เลยต้องยอมทุกครั้งไป จนตอนนี้เริ่มเสียคนแล้ว
"เจไดมากินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเล่น ไม่งั้นพี่เบิ้มจะไปปิดคอมจริงๆด้วย"
เจไดทำหน้ามุ่ยก่อนจะเดินมานั่งที่โต๊ะ แต่ก็ยังไม่วานให้ผมป้อนให้
"ครืด ครืด"
โทรศัพท์ผมสั่นอยู่ที่หัวเตียง เจไดเอื้อมไปหยิบแล้วดูที่หน้าจอว่าใครโทรมา ก่อนจะยื่นมาให้ผม
"เป๊ก"
เจไดบอกผมแล้วยิ้มให้น้อยๆ 'เป๊ก' เป็นเด็กคณะบริหารครับ แต่มาติดพันกับผม ผมก็ปฎิเสธไปแล้วเพราะผมมีเจไดอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนเป๊กจะไม่ยอมรามือง่ายๆ อีกอย่างเป๊กก็เป็นลูกของเพื่อนแม่ผมซะด้วย ผมจะไล่ตรงๆก็น่าเกลียด
"รับสิครับ"
เจไดเอ่ยปากบอกผมเมื่อเห็นว่าผมมีสีหน้าลำบากใจ จะไม่ให้ลำบากใจได้ยังไง ถ้าผมไม่รับ เป๊กก็โทรมาอยู่นั่นแหละ หรือถ้าผมปิดเครื่อง เป๊กก็จะโทรเข้าเครื่องเพื่อนๆผมกันให้วุ่น ไอคิวโดนประจำเลยครับ
เจไดเองก็แปลกคน เหมือนจะสนับสนุนให้ผมมีชู้เลย ยิ่งน้องเป๊กน่ะ ขี้ยั่วจะตาย แต่ก็ยังกล้าให้ผมรับโทรศัพท์น้องเป๊กอีก จนผมเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าเจไดชอบผมจริงหรือเปล่าเนี๊ยะ
"ตอนนี้รู้สึกเซ็งจังเลย คนที่ชื่อ เป๊ก โทรหาพี่เบิ้มอีกแล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าผมไม่ให้พี่เบิ้มรับ ก็กลัวจะดูเป็นคนใจร้ายเกินไปเพราะพี่เบิ้มบอกว่า เป๊กเป็นลูกของเพื่อนแม่พี่เบิ้ม
และที่ผมให้พี่เบิ้มรับโทรศัพท์ของคนที่โทรมาหาพี่เบิ้มนั้่น ก็เพราะว่าผมไว้ใจพี่เบิ้ม
"สวัสดีครับ น้องเป๊ก ตอนนี้พี่ยุ่งๆอยู่นะครับ ไม่ว่างครับ อ๋อ ก็อยู่ครับ อยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิ เจไดไม่ใช่คนแบบนั้นครับ พี่ขอวางสายก่อนน่ะ พี่ต้องทำงาน"
ถ้าให้เดา คนที่ชื่อว่าเป๊ก คงจะถามถึงผมแน่ๆเลย ตอนนี้พี่เบิ้มก็วางสายไปมันแล้วครับ
"เจไดครับ เจไดให้พี่รับสายคนอื่นแบบนี้ เจไดไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ"
พี่เป๊กถามผมทันทีหลังจากที่วางสายจากเจได
"ไม่รู้สิครับ เจไดรู้แต่ว่า เจไดไว้ใจพี่เบิ้ม อีกอย่างเจไดเองก็นั่งอยู่ข้างๆนี่เอง"
ผมเดินไปนั่งคร่อมบนตักพี่เบิ้มแล้วโอบรอบคอพี่เบิ้มทันที พี่เบิ้มยิ้มให้ผมก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผม
นี่ก็สองเดือนแล้วที่ผมคบกับพี่เบิ้ม แต่ผมกับพี่เบิ้มยังไม่ได้มีอะไรกันเลยน่ะ ผมบอกตามตรง...ว่าผมกลัวเจ็บ ก็ไอไก่น่ะสิ มันมาคุยให้ฟังว่าเจ็บเจียนตายเลยแหละ แถมมีเลือดออกมาด้วย ขนาดฟังยังขนลุกเลย แล้วถ้าทำจริงๆจะขนาดไหนเนี๊ยะ
ผมก็เห็นใจพี่เบิ้มน่ะครับ หลายครั้งเหมือนกันที่พี่เบิ้มทำท่าเหมือนจะเริ่มจูบผม ผมเองก็คล้อยตาม แต่สมองก็กลับไปคิดถึงเรื่องที่ไอไก่เล่าให้ฟัง พาลทำให้กลัวไปซะทุกครั้งเลย จนบางครั้งก็อดสงสารพี่เบิ้มไม่ได้ พี่เบิ้มคงอึดอัดน่าดูเลย เวลาผมใช้ห้องน้ำหลังจากพี่เบิ้มทีไร ผมก็จะเห็นคราบน้ำรักของพี่เบิ้มทุกที
กลุ้มใจจะตายแล้ว เมื่อไหร่ผมจะกล้าเหมือนคนอื่นๆบ้างเนี๊ยะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วันนี้ผมไม่มีเรียนครับ แต่ว่าต้องเอางานมาส่งที่ตึกคณะ พี่เบิ้มเลยโทรนัดให้ผมไปกินข้าวด้วยกันในตอนเที่ยง
หลักจากที่ผมเอางานไปส่งเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินเข้าไปหาพี่เบิ้มที่โรงอาหารของวิศวะ กวาดสายตาแป๊บเดียวก็เจอกับพี่เบิ้ม แต่ว่าข้างๆพี่เบิ้มนั่นมีใครอีกคนนั่งอยู่ด้วย
ผมจะเจอคนๆนี้บ่อยมากเวลาที่ผมมาหาพี่เบิ้มที่คณะ คนนั้นก็คือ 'เป๊ก' นั่นเอง ภาพที่เห็นคือเป๊กกำลังป้อนขนมให้พี่เบิ้ม พี่เบิ้มก็นั่งทำงานอยู่ สีหน้าไม่แสดงออกว่าพอใจหรือว่าไม่พอใจที่มีเป๊กนั่งอยู่ข้างๆ
ผมเดินเข้าไปหาพี่เบิ้มทันที กว่าจะได้พี่เบิ้มมาไม่ใช่ง่ายๆ ผมไม่ยอมใครหรือว่าหมาตัวไหนคาบไปแดกทั้งนั้นแหละ
"พี่เบิ้ม คิดถึงจังเลยครับ"
ผมเดินไปนั่งตรงข้ามกับพี่เบิ้ม แล้วหยอดประโยคหวานๆไปให้ ก่อนจะหันไปยิ้มให้เป๊กที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ส่งงานแล้วหรอ หิวหรือยังล่ะ"
พี่เบิ้มถามผม สีหน้ายิ้มแย้ม ผิดกับเมื่อกี้ที่นั่งหน้าตายสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆเลย
"หิวแล้วครับ"
ผมตอบพี่เบิ้มแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เป๊กที่นั่งหน้าหนาไม่ยอมลุกไปไหน
"จะกินอะไรดี"
"อยากกินผัดไทอ่ะ ไปซื้อให้หน่อยดิ"
ผมอ้อนพี่เบิ้ม แล้วก็ได้ผล พี่เบิ้มเก็บงานเข้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้น พอลับหลังเป๊ก พี่เบิ้มก็ยักไหล่อย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินไปซื้อผัดไทให้ผม
"หนิ!! เมื่อวาน แกใช่ไหมที่เป็นคนไม่ให้พี่เบิ้มออกมาหาชั้น"
เป๊กถามผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ ทั้งๆที่ผมไม่เคยแสดงท่าทางอะไรแบบนั้นกับเขาเลย
"เปล่าหนิ พี่เบิ้มเค้าไม่ว่าง เค้าทำงานน่ะ"
ผมตอบกลับแล้วยิ้มให้ พยายามผูกมิตรเข้าไว้ อะไรๆจะได้ง่าย
"ตอแหล!! คิดจะกกพี่เบิ้มไว้คนเดียวใช่ไหม อย่าคิดน่ะ ว่าชั้นรู้ไม่ทันความคิดของแก"
ผมได้แต่นั่งเงียบ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ถ้าเขาอยากจะบ้าก็ปล่อยให้เขาบ้าคนเดียวเถอะ อย่าให้ผมต้องบ้าตามเลย เพราะถ้าผมบ้าขึ้นมาจริงๆ คนที่เดือดร้อนคือเป๊ก ไม่ใช่ผม
"ตีหน้าซื่อให้ตลอดน่ะมึง ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน"
เป๊กคาดโทษผมไว้ก่อนจะสะบัดบ๊อบใส่ผมแล้วเดินออกไปจากโรงอาหารทันที
ไม่นานพี่เบิ้มก็เดินถือผัดไทมาให้ ดูพี่เบิ้มจะแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นเป๊กนั่งอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร คงเพราะเป๊กไม่ได้สำคัญขนาดนั้นละมั้ง
หลังจากที่ทานผัดไทกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่เบิ้มก็เข้าเรียนต่อในตอนบ่าย ส่วนผมก็ไปนั่งในสวนใกล้ๆตึกคณะ เพราะว่ารอกลับพร้อมพี่เบิ้มเลย
ตอนนี้ในสวนมีกลุ่มของน้องอ้อนนั่งอยู่ ท่าทางจะคุยกันสนุกปากเลย
"สวัสดีครับพี่เจได"
กลุ่มของน้องอ้อนยกมือไหว้ผม ผมรับไหว้แล้วเดินไปนั่งด้วย
"ไม่มีเรียนกันหรอ"
ผมถามขึ้นหลังจากหย่อนก้นนั่งข้างๆน้องเมย์
"ไม่มีครับ แล้วพี่เจไดล่ะ"
น้องอ้อนตอบก่อนจะถามผมกลับ
"ไม่มีจ๊ะ พอดีพี่แวะมาส่งงานหน่ะ"
"อ้อ คิดว่ามาหาพี่เบิ้มซะอีก"
น้องอ้อนแซวผม ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือเขกกะโหลกน้องอ้อนไปทีนึง
"เจ๊บน๊า เฮ้ยๆ นั่นมันไอเป๊กนี่หว่า มันมาทำไมว๊ะ"
ทันทีที่ผมได้ยินคนชื่อเป๊ก ผมก็หันไปมองทันที ตอนนี้เป๊กกำลังเดินมาทางที่ผมนั่งอยู่ เป๊กไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับเพื่อนประมาณ 3 คน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร หันกลับไปหาน้องอ้อน
"รู้จัก เป๊ก ด้วยหรออ้อน"
ผมค่อนข้างแปลกใจ เพราะว่านอกจากจะเรียนต่างคณะแล้ว เป๊กกับอ้อนก็เรียนอยู่ปีหนึ่งด้วยกันทั้งคู่ ไม่น่าจะรูจักกันง่ายๆ นอกจากจะอยู่หอเดียวกันหรือไม่ก็รู้จักกันมาก่อน
"รู้จักสิพี่ รู้จักดีเลยแหละ"
แล้วเป๊กก็เดินมาหาผมจริงๆด้วย ไม่รู้ว่ามาหาผมหรือว่ามาหาน้องอ้อน แต่ดูจากสีหน้าแล้ว ผมเริ่มสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่เข้ามาแล้วครับ
"อีเจได มึงเลิกยุ่งกับพี่เบิ้มซะ ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน"
เป๊กพูดขึ้นสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
"อีเป๊ก มึงอย่ามาพูดปีนเกลียวกับรุ่นพี่กูแบบนี้น่ะ"
น้องอ้อนพูดปกป้องผมทันที ผมรักน้องอ้อนที่สุดเลย
"มึงหุบปากไปเลยอีอ้อน"
เป๊กหันไปตวาดใส่น้องอ้อน น้องอ้อนจะลุกขึ้นจะสู้ แต่ผมห้ามไว้
"ไม่เป็นไรอ้อน เป๊กมีอะไรก็ว่ามาตรงๆเลย"
ผมลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเป๊ก ความสูงเราไล่เลี่ยกัน แต่เป๊กน่าจะตัวหนากว่าผม
"ก็อย่างที่กูบอก เลิกยุ่งกับพี่เบิ้มซะ"
ไอเด็กเป๊กยังคงพูดแบบเดิม คือให้ผมเลิกยุ่งกับพี่เบิ้ม
"แล้วถ้าไม่เลิกล่ะ"
ผมพูดขึ้นด้วยสีหน้ากวนๆ ตอนนี้คนเริ่มมองกันแล้ว เพราะเสียงเริ่มดังแล้ว
"มึงโดนกูยำแน่"
"หึหึ"
ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะถีบเข้าให้ตรงกลางอกของไอเป๊ก จนมันล้มเซไปตรงสนามหญ้า ผมไม่รอช้า ตามเข้าไปกระทืบหน้ามันทันที ไอเป๊กก็ได้แต่เอามือป้องหัวมันไว้ ส่วนผมก็ใส่ตีนไปไม่ยั้งเหมือนกัน จากนั้นผมก็ขึ้นคร่อมมันทั้งชกทั้งตบไอเป๊กอย่างมันส์มือ
"ห๊าๆ สะใจกูจริง"
ผมสบถออกมาทั้งๆที่มือก็ยังคงต่อยไปเป๊กอย่างไม่ลดละ
"เฮ้ยๆ ถ้าพวกมึงเข้ามา..เจอกูแน่ กูแค้นมานานแล้วอีเหี้ยเป๊กเนี๊ยะ ชอบปล่อยข่าวว่ากูถือหลุยส์(วิตตอง)ปลอม"
น้องอ้อนสกัดเพื่อนๆของไอเป๊กที่จะเข้ามาช่วย ดูเหมือนเพื่อนๆมันจะเกรงน้องอ้อนอยู่เหมือนกัน
ส่วนผมจิกหัวไอเป๊กขึ้นมา ตอนนี้คิ้วไอเป๊กแตก เลือดออกด้วย แต่ผมไม่สน ผมจับหัวมันแล้วโขกกับพื้นหญ้าอย่างแรง ถ้าพื้นเป็นสีเมนต์คงจะมันส์กว่านี้ จะเอาให้เลือดหัวมันออกเลย
"มึงจำไว้น่ะ พี่เบิ้มอ่ะ...ผัวกู ถ้ามึงยังไม่เลิกยุ่งล่ะก็ มึงเจอหนักกว่านี้แน่"
ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะตบหน้ามันไปสองฉาด แล้วลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าหน้าผมตัวเองให้เรียบร้อย ผมบอกแล้ว อย่าให้ผมบ้า ไม่งั้นคนที่เดือดร้อนก็คือไอเป๊ก ไม่ใช่ผม
น้องอ้อนเดินเข้าไปหาไอเป๊กที่นอนอยู่กับพื้น แล้วจิกไอผมเป๊กขึ้นมา
"ถ้ามึงยังไม่เลิกแย่งผัวพี่เค้า แล้วยังไม่เลิกปล่อยข่าวกูล่ะก็ กูเอามึงตายแน่ ถุย"
แล้วน้องอ้อนก็ลุกขึ้น หันมายิ้มใสซื่อให้ผม ส่วนไอเป๊กเพื่อนมันก็พยุงออกไป ไทมุงก็แตกกระจายทันที
"พี่เป๊กนี่สุดยอดไปเลย เห็นตัวบางๆ ไม่คิดว่าจะแรงเยอะขนาดนี้"
น้องมด เพื่อนในกลุ่มน้องอ้อนชม ผมก็ได้แต่ยิ้มไปให้แล้วก็นั่งคุยต่อกับพวกน้องอ้อน จึงทำให้รู้ว่า ที่น้องอ้อนไม่ถูกกับเป๊ก เพราะว่าคนที่เป๊กชอบนั้น มาจีบน้องอ้อน เป๊กไม่พอใจเลยปล่อยข่าวให้น้องอ้อนเสียๆหายๆ แต่น้องอ้อนบอกว่า ปล่อยข่าวไหนก็ไม่เจ็บใจเท่ากับข่าวที่ว่า 'น้องอ้อนไม่มีปัญญาซื้อหลุยส์ วิตตองของแท้' ทั้งๆที่หลุยส์ที่อ้อนถืออยู่นั้น ผมดูก็รู้ว่าของแท้
[ลิงค์คลิปจำลองเหตุการณ์บู๊ของเจไดข้างล่างเลยครับ/ไรท์เตอร์]
http://video.sanook.com/เด็กพัทยาตบกัน-392467-player.html (ftp://http://video.sanook.com/เด็กพัทยาตบกัน-392467-player.html)