ตอนพิเศษ ลมหายใจแห่งผืนทราย
ชายในฮาเร็ม
บทที่ 2
กวินท์ได้แต่ตกตะลึงกับความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
เขาจินตนาการว่าประมุขของฮาลียันเป็นบุรุษเลยวัยกลางคนไปแล้ว รูปร่างท้วมไปด้วยไขมันใบหน้าเต็มไปด้วยเหนาเครา
อย่างที่ได้รับความนิยมในบรรดาชายชาวอาหรับ แต่ความจริงนั้นช่างแตกต่างกับสิ่งที่เขาคิดไว้เหลือเกิน
สมเด็จพระราชาธิบดีชารุกข์ เซรีมเป็นบุรุษร่างสูงกว่ากวินท์เกือบคืบพระชนมายุราวสามสิบพรรษา พระพักตร์คมเข้มด้วยผิวสี
น้ำตาลคล้ายทะเลทรายกลางแดดจัด ดวงตาคมดุหากแต่ยามมองกลับทำให้ร้อนระอุสลับไปกับหนาวสะท้าน รอบริมฝีปากและคางมีไร
หนวดสีเขียวจาง ๆ ทำให้ดูยิ่งคมสัน
กวินท์ไม่อาจบังคับสายตาให้หยุดมองได้ เขาเลื่อนมองไปตามไหล่กว้าง ต้นแขนล่ำด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด แผงอกกำยำต่อ
เนื่องกับลำตัวที่มีซิกแพ็กเป็นลอนเด่นชัด ไรขนเป็นระเบียบเรียงตัวสวยไล่จากแผ่นอกเป็นแนวยาวจนถึงเหนือท้องน้อยก่อนมันจะหาย
ไปกับขอบกางเกงสีน้ำตาลบางเบาที่ทรงปกปิดกายท่อนล่างอย่างหมิ่นเหม่ และเมื่อถึงตอนนี้กวินท์ก็เกือบลืมหายใจ
ร่างสูงก้าวเข้ามาหาเขา ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กวินท์ตัวแข็งเมื่อกษัตริย์ชารุกข์ เซรีมหยุดยืนเบื้องหน้าใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ
พระพักตร์คมก้มลงมองสบตากับเขา พระเนตรคู่นั้นวิบวับจนกวินท์อยากจะวิ่งหนี
“จะไปไหน”
ตรัสเสียงทุ้มเมื่อเห็นกวินท์ทำท่าจะก้าวถอยหลัง ชายหนุ่มร่างโปร่งหันรีหันขวางจนชารุกข์ทอดพระเนตรอย่างเอ็นดู
“เข้ามาแล้วออกไปไม่ได้หรอก นอกจากผมจะเป็นคนเปิดประตูให้คุณออกไป”
“งั้นคุณ เอ่อ พระองค์ก็เปิดประตูให้ผม เอ๊ย หม่อมฉันออกไปสิครับ”
กวินท์กระสับกระส่าย เขามองทางหนีทีไล่แล้วก็ได้แต่คิดถึงคดีฆาตกรรมในห้องปิดตายที่เคยอ่านจากการ์ตูนสืบสวนของ
ญี่ปุ่น ตอนนี้เขารู้สึกราวกับตัวเองเป็นกระต่ายที่ติดอยู่ในกรงเล็บของสิงโต และสิงโตตัวร้ายก็กำลังจะขย้ำเขาด้วยเขี้ยวฟันแสนคม
“คงไม่ได้”
ชารุกข์ปฏิเสธทันควัน พระโอษฐ์แย้มสรวลขณะพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าที่ทรงถูกพระทัยตั้งแต่แรกเห็นเมื่อวันวาน
เมื่อแยกจากกันเพราะอีกฝ่ายก้าวหนีไปอย่างรวดเร็วแล้วชารุกข์จึงสั่งให้คาลิลที่ติดตามอยู่ห่าง ๆ ด้านนอกของร้านเครื่อง
ดื่มรีบถ่ายรูปเก็บไว้ เพียงอึดใจก็ทรงทราบประวัติของชายหนุ่มที่พบกันในห้องน้ำ หนุ่มลูกครึ่งคนนี้มีความสมบูรณ์แบบของเครื่องหน้า
จากสองทวีปอย่างลงตัว ทรงชื่นชมตั้งแต่เส้นผมสีน้ำตาลเข้มและดวงตาสีฟ้า จมูกโด่งรั้นและกลีบปากสีแดงเรื่อธรรมชาติจนไม่อาจถอน
ใจได้ตั้งแต่แรกเห็น
และในที่สุดกวินท์ก็มาอยู่ตรงนี้ ภายในห้องส่วนพระองค์ที่มีไว้สำหรับทรงพระสำราญ หากแต่ตอนนี้ชารุกข์ไม่ได้นึกถึงสตรี
คนใดที่อยู่เบื้องนอกมากไปกว่ากวินท์ แอนเดอร์สัน
“เพราะผมต้องการให้คุณอยู่ในสายตาของผม”
“พระองค์ทรงบ้าไปแล้ว”
กวินท์ส่ายหน้า เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“ผมเป็นนักท่องเที่ยว ไม่ใช่ เอ่อ คนของพระองค์”
“ผมจะถือว่าคุณเป็นทูตที่มากระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็แล้วกัน”
ทรงดื้อรั้นเกินกว่าจะต้านทานได้ กวินท์มองซ้ายมองขวาก่อนตัดสินใจขยับเท้าหลีกหนี แต่วรกายสูงแกร่งกลับตวัดคว้า
แขนของเขาไว้ราวกับคาดเดาไว้แล้ว ร่างของกวินท์ถูกรั้งเข้าหาก่อนที่ชารุกข์จะรวบเอวของกวินท์ขึ้นมาพาดบ่าอย่างง่ายดาย
“เฮ้ย ปล่อยผม”
กวินท์ดิ้นรนอยู่บนบ่ากว้าง เขาตกใจเมื่อชารุกข์ก้าวดุ่ม ๆ ไปที่เตียงกลางห้องอย่างไม่สนใจว่าเขาจะขัดขืนแค่ไหน ทางหนี
ของกวินท์หมดสิ้นทันทีเมื่อชารุกข์เหวี่ยงเขาลงไปบนเตียงก่อนจะโถมกายหนาลงมาทาบทับจนกวินท์หมดสิ้นอิสรภาพ
“จะดิ้นทำไม คุณก็รู้ว่าหนีไม่พ้นหรอก”
ทรงหยอกเอินพลางใช้ปลายพระหัตถ์เกลี่ยไล้อยู่บนแก้มเนียน กวินท์ตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดที่กักขังเขาไว้บนแท่นพระ
บรรทมแสนกว้าง ชารุกข์บีบจมูกกวินท์อย่างมันเขี้ยว
“ยอมรับเถอะว่าเราต่างปิ๊งกันตั้งแต่แรกเห็นเมื่อวานนี้”
สุรเสียงแสนนุ่มนวลคล้ายจะกล่อมให้กวินท์เลิกหวาดกลัว กวินท์เหลือบสายตามองพระเนตรวาววับพลางเถียงเอาตัวรอด
“ใครจะไปปิ๊งกันในห้องน้ำล่ะ พระองค์เพี้ยนแน่ๆ”
“ก็เราไง” ทรงยืนยันกลั้วเสียงหัวเราะ
“ผมกับคุณมองหน้ากันที่โถปัสสาวะ ใจคุณไม่เต้นบ้างเหรอตอนที่มองผม”
“หลงองค์เองชะมัด”
แก้มของกวินท์แดงก่ำลามไปถึงใบหูและลำคอ พยายามออกแรงผลักร่างแกร่งออกแต่ก็ราวกับผลักภูผาหินก้อนใหญ่ ข้อมือ
ทั้งสองของเขาถูกชารุกข์รวบไว้ทันที ชารุกข์คลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่ากวินท์ตัวสั่น
“ตอนนี้ก็ใจเต้นนี่นะ”
ทรงแนบพระกรรณไปกับหน้าอกของกวินท์เพื่อฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็ว ร่างของกวินท์เมื่อเทียบกับพระองค์แล้วเหมือนจม
อยู่ในอ้อมกอด
“ตื่นเต้นเหรอที่ผมกำลังจะจูบคุณแบบนี้”
“อยะ อย่านะท่าน อื้อ!”
เสียงของกวินท์เงียบหายเมื่อเขาถูกปิดปากจนแนบสนิทด้วยโอษฐ์ของชารุกข์ กวินท์เบิกตากว้างกับสัมผัสเรียกร้องนั้น
ริมฝีปากของเขาสั่นระริกจนชารุกข์ต้องปลุกปลอบด้วยการไล่ขบเม้มก่อนจะฉวยโอกาสสอดปลายลิ้นเข้าสู่โพรงปากหวานฉ่ำที่ทรงอยาก
พิสูจน์ เรียวลิ้นชื้นของกวินท์ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชารุกข์ เซริมในทันที
“อืม หวานจริงด้วย”
ทรงพึมพำอย่างถูกพระทัยขณะตักตวงตวัดชิวหาไปกับความละมุนนั้น พลางวางพระหัตถ์ลงไปกับต้นขาของกวินท์จนสะดุ้ง
สุดตัว ผ้าทอผืนบางมิอาจช่วยกางกั้นความร้อนจากฝ่ามือที่กำลังถูไถไปกับเนื้ออ่อนเช่นสิงโตหิวโหย ชารุกข์ผละจากปากอิ่มนั้นอย่าง
เสียดายก่อนที่พระองค์จะลิ้มรสเหยื่อคำแรกที่ซอกคอหอมกรุ่น
มีต่ออีกนิด....