รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (25) แสบคูณสอง ((ออมรัก))
หลังจากปะหน้ากับสาวน้อยนาขวัญแล้ว นายวินเซนต์คนที่หล่อที่สุดในภูมิภาคนี้ก็ไปหาเพื่อนน้ำที่บ้าน น้ำกำลังจะไปส่งน้องอุ้มรักกลับบ้านพอดี ทำให้วินเซนต์ได้เจอน้องอุ้มน้อยที่น่ารักด้วย
“Hey! เพื่อนน้ำ หวัดดีพวก”
เสียงทักทายจากหน้าบ้านทำให้น้ำที่กำลังมองน้องอุ้มใส่หมวกนิรภัยอยู่หันไปมองต้นเสียง อุ้มน้อยก็โผล่หน้าไปดูด้วย พอน้ำเห็นว่าเป็นใครก็เอ่ยทักทายกลับไปด้วยความยินดี
“เชี่ยวิน กลับมาแล้วเหรอวะ?”
“Oh! ช่างเป็นการทักทายที่หยาบคายมาก ไอรับไม่ได้เลย”
วินเซนต์เดินเข้ามาหาน้ำด้วยท่าทางกวนอารมณ์ ทำเป็นมีสำนวนสำเนียงฝรั่งมังค่าจนน้ำหมั่นไส้เอื้อมมือไปตบกะโหลกเพื่อนสักทีสองทีพร้อมคำชื่นชม
“กระแดะว่ะ”
“มึงนี่ป่าเถื่อนไม่เปลี่ยนเลยสัดน้ำ”
วินเซนต์ลูบศีรษะตัวเองแล้วเหล่ตามองเพื่อนน้ำ มือไวเท่าใจคิดเมื่อมันถูกส่งไปยังเป้าหมายคือศีรษะหนุ่มฮอต แต่หนุ่มฮอตอย่างน้ำก็ไวพอกันเลยหลบทันแล้วหัวเราะเยาะกลับไปซ้ำอีก อุ้มรักมองคนนั้นทีคนนี้ที งงๆ
“เมื่อกี้ยังบอกว่ากูหยาบคายอยู่เลยไอ้ตอแหล” น้ำหลอกด่าเพื่อนซ้ำ
“จุ๊ๆๆ พูดจาภาษาสัตว์ต่อหน้าคนน่ารักไม่ดีนะเพื่อน”
วินเซนต์ที่ให้ความสนใจอย่างอื่นไปแล้วไม่ถือสาหาความใด สายตาหนุ่มหล่อที่สุดในภูมิภาคจับจ้องคนข้างกายน้ำเขม็ง ปากก็พูดตอบโต้เพื่อนไป น้ำหันไปมองน้องอุ้มตามสายตาเพื่อน วินเซนต์ถลาเข้าไปหาน้องอุ้ม
“โอ้ว บร๊ะเจ้า So cute~”
“หวา~”
วินเซนต์ที่ชอบของน่ารักๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเห็นน้องอุ้มน้อยตัวกลมน่ารักเหมือนตุ๊กตาก็อยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงสักที อุ้มน้อยรีบหลบหลังพี่น้ำอย่างรวดเร็ว โผล่แค่ตามามองวินเซนต์หวาดๆ น้ำหัวเราะเพื่อนที่ทำหน้าเหมือนหมาหงอยเพราะเจ้าของทิ้งเมื่อน้องอุ้มไม่ยอมให้กอด แถมยังวิ่งหนีอีกต่างหาก
“เด็กน่ารักคนนี้ใครกันวะครับ?”
พอตั้งหลักได้วินเซนต์จึงเอ่ยถามเพื่อนน้ำแต่สายตายังคงจับจ้องอุ้มรักที่ยังยืนหลบอยู่ด้านหลังของน้ำ น้ำเอี้ยวหน้าไปมองน้องที่เกาะตนเองไม่ปล่อยยิ้มๆ ก่อนหันกลับมาบอกเพื่อนแล้วยักคิ้วกวนๆ
“แฟนกูเอง”
“ห๊ะ!?”
วินเซนต์เอามือป้องหูเหมือนว่าตนเองจะฟังอะไรผิดพลาดไป น้ำจึงย้ำให้ฟังชัดๆกันอีกสักรอบ
“แฟน-กู-เอง-ไอ้-เชี่ย!”
คนหล่อตาโตปากสั่น ท่าทางราวกับว่ามันคือวันสิ้นโลกแล้วในวันนี้ อุ้มรักมองเพื่อนพี่น้ำแหยงๆผสมปนเปไปกับความสงสารเห็นใจพี่เขานิดๆ วินเซนต์เห็นน้องน่ารักเวทนาตนเองแล้วก็ยิ่งรับไม่ได้
“ไม่จริงใช่ไหมมมมมมมมมม สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมมมมม”
------------------
พอพี่น้ำมาส่งน้องอุ้มน้อยที่บ้าน เด็กน้อยก็ตรงขึ้นบ้านมาหานีออนที่นอนอ่านการ์ตูนอยู่ใกล้ๆกับพี่ไอรัก พี่ไอรักที่กำลังดูทีวีอยู่หันมามองแฝดคนน้องเล็กน้อยเมื่อฝ่ายนั้นยกมือไหว้ตนเอง อุ้มรักเล่าให้แฝดพี่ฟังว่าตนเองเจอพี่ชายคนหนึ่งท่าทางประหลาดที่บ้านพี่น้ำด้วย นีออนขยับลุกขึ้นมานั่งสีหน้ามึนงงสงสัยกับคำว่าท่าทางประหลาดของอุ้มรัก
“เขาเป็นบ้าเหรอ?” นีออนก็พูดเสียตรง อุ้มรักเลยว่า
“ก็ไม่เชิง แต่แบบมันแปลกไง เพิ่งเจอกันก็จะโผเข้าใส่อุ้มแล้ว”
“โผเข้าใส่?” นีออนทำเสียงเชิงถามทวน
“อื้อ” อุ้มรักพยักหน้ารัวว่าใช่ เด็กตัวเล็กหรี่ตามองน้องก่อนบอก
“อย่างนั้นเขาไม่เรียกแปลก เขาเรียกว่าชีกอ” นีออนเน้นเสียงท้ายประโยคทีละคำ
“แต่พี่เขาไม่ได้มีท่าทางแบบนั้นเลยนะ เหมือนเขาจะล้นๆไงไม่รู้อ่ะ” อุ้มรักเอียงคอทำท่านึกก่อนบอกตามที่เห็น
“ก็ทำไปงั้นแหละ ไม่เชื่อถามพี่ไอดู รายนั้นน่ะชีกอตัวพ่อเลย”
เด็กตัวเล็กแอบพาดพิงถึงพี่ชายตัวเอง พี่ไอเลยเอ่ยแทรกมา
“พูดอะไร ได้ยินนะนีออน”
“อุ๊บส์ ออนเปล่าน้า~”
นีออนแกล้งทำเป็นปิดปากหน้าตาใสซื่อ อุ้มรักกลั้นขำขณะที่พี่ไอเข่นเขี้ยวเด็กแสบ พุ่งตัวเข้าไปจี้เอวน้องชาย เด็กน้อยดิ้นไปดิ้นมาหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ลืมเรื่องพี่วินเซนต์เพื่อนพี่น้ำไปแล้วเรียบร้อย
วันต่อมานีออนก็ได้เจอกับพี่วินเซนต์ที่อุ้มเล่าให้ฟังเมื่อพี่เขามาที่โรงเรียน พี่นาขวัญที่เห็นว่ามีพี่วินเซนต์มาร่วมทานกลางวันกับกลุ่มน้องแฝดด้วยทำให้ไม่กล้าเฉียดใกล้เลยแม้แต่น้อย จากที่นีออนน้อยสังเกต ดูท่าว่าพี่วินเซนต์จะชอบของน่ารักจริงๆ เพราะเห็นน้องๆน่ารักๆเดินผ่านก็ทักทายอย่างมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเกินจำเป็นมากๆ
“หายหัวไปเลยนะมึง กูนึกว่ามึงเสร็จพวกมะกันไปแล้วเสียอีก” แอมว่า
“อวยพรกูดีมากห่าแอม”
เพื่อนของสองหนุ่มพากันขำกับการที่แอมเอ่ยทักทายเพื่อนเก่าอย่างวินเซนต์กวนๆ วินเซนต์มองเพื่อนแอมที่เลือกที่นั่งแปลกๆ มีเด็กผู้หญิงน่ารักในกลุ่มนี้อยู่สอง แต่เพื่อนเลือกที่จะนั่งข้างเด็กผู้ชายหน้าตาเฮ้วซ่าคนหนึ่ง แถมยังใกล้ชิดสนิทแนบอีกต่างหาก แต่พอละสายตาจากแอมมาก็ต้องมาเจอฉากหวานของเพอร์เฟคแมนกับน้องแฝดตัวน้อยที่มีการเช็ดปงเช็ดปากให้กันด้วย
“แล้วคู่นี้มันอะไรกันเนี่ย หวานกันเกรงใจคนโสดหน่อยครับผม” วินเซนต์เอ่ยแซวเพื่อนไทม์ไป เพื่อนก็เพียงยิ้มตอบกลับมา
“ไม่อยากน้อยหน้าก็หาเอาสิวะครับ” น้ำเป็นคนโต้ตอบแทนไทม์
“พูดยังกะหาเห็ด แฟนนะเว้ย!”
เพื่อนๆเขาพูดคุยกันเฮฮา แต่เซียนที่นั่งข้างพี่แอมกลับกลอกตาไปมาเซ็งๆ รู้สึกเหมือนไม่ชอบพี่คนนี้เท่าไหร่ ก็ในตอนแรกที่มาถึง ทั้งที่ไม่ได้รู้จักมักจี่กันมาก่อนพี่คนนี้ก็ยังทำเหมือนจะกอดนีออนให้ได้เลย ยอมรับกันตามตรงเลยว่าเขาหวงเพื่อน ถึงจะไม่ได้เป็นอะไรที่มากกว่านั้นแต่เขาก็ไม่ชอบที่จะมีใครมาทำรุ่มร่ามกับเพื่อนของเขาทั้งๆที่แฟนเพื่อนอย่างพี่ไทม์ก็ยังอยู่ตรงนั้น ที่สำคัญพี่ไทม์กับพี่วินเซนต์ก็เป็นเพื่อนกันด้วยนี่สิ
“เซียน เป็นอะไรรึเปล่า?”
แอมที่เห็นน้องเซียนท่าทางหงุดหงิดแปลกๆเลยเอ่ยถาม เซียนเพียงปรายตามามองแล้วบอกปัด นั่นก็เพื่อนพี่แอมเหมือนกันล่ะว้า
“ไม่ได้เป็น”
“แต่หน้าเซียนมันบอกนี่ว่าเป็น” แอมยังไม่เลิกห่วง เซียนเลยชักเซ็งมากขึ้นเลยประชดออกไปพาลๆ
“เหรอ มีตัวหนังสือเขียนบอกไว้ด้วย?”
“พาลแล้วนะ”
แอมว่าเสียงนิ่ง เหมือนเซียนจะรู้ตัวเหมือนกันว่าตนเองพาล จึงถอนหายใจเบาๆแล้วลดระดับความหงุดหงิดลงมา
“ช่วยเงียบหน่อยละกัน ขอปรับอารมณ์แป๊บ”
แอมอมยิ้มที่น้องพูดรู้เรื่อง แอบจับมือน้องเซียนใต้โต๊ะให้น้องเขาชักสีหน้าใส่ แต่ก็เท่านั้นแหละน่า น้องเซียนไม่กล้าทำอะไรเขาหรอก เดี๋ยวคนอื่นรู้เข้าแล้วน้องจะอายเขาเปล่าๆ
“กินข้าวไม่ได้”
เซียนประท้วงพี่แอมเบาๆ แอบกลัวว่ายุกยิกๆกันอยู่สองคนแบบนี้เดี๋ยวก็มีคนหันมาสนใจกันพอดีหรอก
“เดี๋ยวพี่ป้อน ...พี่ล้อเล่น” พี่แอมที่เอ่ยเย้าหยอกน้องตอนท้ายรีบกลับคำแทบไม่ทัน อย่ามองพี่ตาขวางขนาดนั้นน่า...
“พี่ไทม์ ออนอยากกินน้ำปั่น เดี๋ยวออนไปซื้อก่อนนะ จะเอาอะไรไหม?”
นีออนที่ทานข้าวเสร็จขยับลุกจะไปซื้อน้ำปั่นร้านประจำเลยเอ่ยถามพี่ไทม์กับทุกคนในโต๊ะ ทุกคนพากันส่ายหน้ายิ้มๆ ขณะที่วินเซนต์ยกยิ้มมุปากเล็กๆโดยไม่มีใครทันสังเกต
“ไม่ล่ะครับ ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม?” ไทม์บอกก่อนเอ่ยถามน้อง
“ไม่เป็นไรครับ”
นีออนยิ้มอย่างขอบคุณในน้ำใจก่อนเดินออกไปจากโต๊ะ พอนีออนไปได้พักเดียววินเซนต์ก็ขยับลุกบอกจะไปห้องน้ำเลยไม่มีใครให้ความสนใจอะไร นีออนที่ซื้อน้ำปั่นเสร็จหันมาเจอพี่วินเซนต์ยืนอยู่ด้านหลังก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มให้นิดๆพอเป็นพิธี พอจะเดินผ่านทางนั้นกลับพูดลอยๆขึ้นมาทำให้นีออนน้อยหยุดกึก
“ไม่คิดว่าไทม์มันจะชอบอะไรแบบนี้เลยนะ”
“หมายความว่าไง... ครับ?” นีออนหันกลับมามองเพื่อนพี่ไทม์ช้าๆ ก่อนย้อนถามกลับไป
วินเซนต์มองนีออนน้อยราวสำรวจ สีหน้าท่าทางมันช่างต่างจากพี่วินเซนต์แสนบ้าบอคนนั้นจริงๆ นีออนขยับถอยห่างเมื่อวินเซนต์เดินอ้อมวนดูรอบตัวนีออนกวนๆ
“นี่!!”
“หึ มันติดใจอะไรในตัวน้องนะ ถึงได้เปลี่ยนรสนิยมมาชอบอะไรแบบนี้ เป็นถึงเพอร์เฟคแมนที่สาวๆกรี๊ดกร๊าด แต่กลับมาชอบอะไรๆ...”
วินเซนต์พูดค้างไว้แล้วมองต่ำท่าทางเจ้าเล่ห์ นีออนโกรธจี๊ดขึ้นมากับท่าทางนั้น มันดูถูกกันชัดๆ เด็กน้อยจึงกระแทกเสียงถามกลับ
“อะไรที่ว่ามันคืออะไรไม่ทราบ?”
“ยังจะให้พี่พูดอีกเหรอครับน้องนีออน?”
“ถ้าพี่ไม่พูดแล้วผมจะตรัสรู้ได้ไหมล่ะครับ!”
วินเซนต์มองหน้าตาท่าทางโกรธกรุ่นจนปิดไม่มิดของนีออนน้อยแล้วถอนหายใจราวเหนื่อยหน่าย ก่อนบอกให้น้องนีออนเจ็บใจเล่นอีก
“น้องก็น่ารักดีน่ะนะ แต่ดูหน่อมแน้มปัญญาอ่อนไปนิดนึง”
พอได้ยินแล้วนีออนก็อยากเอาแก้วน้ำในมือทุ่มใส่หน้าไอ้พี่บ้าคนนี้จริงๆ แต่ก็จำต้องสงบจิตสงบใจเอาไว้ นีออนเดินออกมาจากจุดนั้นแล้วขว้างแก้วน้ำที่ยังไม่ได้แตะสักหยดลงถังขยะแรงๆก่อนตรงไปที่โต๊ะ เมื่อรู้ว่าพี่วินเซนต์เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้แล้วเด็กน้อยก็ไม่อยากอยู่ใกล้ พอมาถึงโต๊ะก็จะดึงอุ้มรักออกไปจากกลุ่มด้วยกัน พี่ๆพากันงงแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น นีออนปรายตามองคนที่เพิ่งเดินมาถึงแล้วทำหน้าใสซื่อแต่คงแอบยิ้มเยาะตนเองอยู่แน่ๆแล้วว่า
“ถ้ามีพี่วินเซนต์อยู่ในกลุ่ม ออนจะไม่มา”
ไทม์ถามว่ามันเรื่องอะไรกัน หันไปมองวินเซนต์ตามสายตาเคืองขุ่นของน้อง วินเซนต์ยักไหล่ นีออนเลยว่าไม่ชอบเพื่อนคนนี้ของพี่ไทม์ วินเซนต์เลยเอาบ้างบอกว่าหมั่นไส้แฟนไทม์กับน้ำเหมือนกัน เรื่องเลยไปกันใหญ่เลยคราวนี้
นีออนที่บอกเอาไว้ว่าถ้าพี่วินเซนต์อยู่ในกลุ่มนีออนกับอุ้มรักก็จะไม่มาเข้ากลุ่มด้วย เด็กตัวเล็กทำแบบที่พูดจริงๆ ทำให้ไทม์กับน้ำหนักใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พอสอบถามน้องก็ได้ความว่าวินเซนต์ตัวแสบไปพูดจาไม่ดีกับน้องทำให้น้องโกรธ ไทม์กับน้ำจึงตัดสินใจล็อคคอเพื่อนอย่างวินเซนต์มาที่บ้านของไทม์ที่อยู่ใกล้โรงเรียนมากสุด เพื่อสอบสวนหาเหตุผลที่ทำให้วินเซนต์เขม่นแฟนของพวกเขา
“ก็แฟนพวกมึงน่ารักเกินไป น่าจับฟัดเกินไป แล้วก็ยัง... น่ากินเกินไปด้วย”
ไทม์กับน้ำมองหน้ากัน ไอ้ที่เพื่อนพูดมานั่นมันไม่เห็นจะมีข้อด้อยอะไรสักอย่าง เพื่อนก็แค่กวนโมโหพวกเขาเท่านั้น ไทม์กับน้ำน่าจะรู้
“กูอยากรู้ว่าแฟนพวกมึงอ่ะ นอกจากน่ารักแล้วมีสมองหรือเปล่า โอ๊ย!!”
พอพูดมาแบบนั้นไทม์กับน้ำเลยพร้อมใจเบิ้ดกะโหลกวินเซนต์ไปคนละผลัวะ มันน่าไหมนี่?
“แล้วนี่มึงกลับมาไทยแล้วจะกลับไปอีกป่ะวะ?”
“ไม่อ่ะ กูเบื่อละ”
“เบื่อ หรือไปสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้ที่นั่นกันแน่วะ?” ไทม์เอ่ยดักอย่างรู้ทัน
“ก็นิดหน่อยอ่ะนะ ต้องเข้าใจว่าเสน่ห์กูแรง สาวน้อยสาวใหญ่ก็ต้องเข้าหากูเป็นธรรมดา แต่ผัวเขานี่สิที่ไม่เข้าใจกู” ประโยคหลังวินเซนต์ทำเสียงขัดใจสามีของสาวพวกนั้นอย่างจริงจัง
“เฮ้ย! นี่ถึงกับแย่งเมียชาวบ้านเลยเหรอวะ?” น้ำถึงกับอุทานเสียงหลง นี่เพื่อนเขาเป็นไปขนาดนี้แล้วหรือ
“หยาบคายมาก กูไม่ได้แย่งเว้ย เขามาหากูเอง”
“มันต่างกันตรงไหนวะ?”
ไทม์ถามหาความต่าง วินเซนต์ยักไหล่ไม่ใส่ใจจะตอบ พลิกตัวไปนอนเอกเขนกดูทีวีห้องคนอื่นเขาเฉย สักพักคุณแม่ถึงขึ้นมาตามลูกชายกับเพื่อนๆลงไปทานข้าวกัน เป็นการทานอาหารเย็นที่คึกคักวุ่นวายน่าดู ทิวากรมาค้างกับทิมด้วยทำให้ไทม์ที่จะถีบเพื่อนไปนอนห้องทิมสักคนเป็นอันยุติโครงการ ก็นะ เห็นๆกันอยู่ว่าทิมคงไม่ยอมให้ใครมานอนเบียดกับทิวากรเป็นแน่
พอทานข้าวกันเสร็จแอมก็มาหา ไทม์กับเพื่อนช่วยแม่เก็บโต๊ะก่อนขึ้นบ้านกันไป พอมีแอมมาด้วยแบบนี้วินเซนต์ก็เลยเล็งแฟนแอมตามไปด้วยอีกคน น้ำเลยรีบบอกเพื่อนเอาไว้ก่อน
“อย่าไปยุ่งกับแฟนมันเลย รายนั้นน่ะหมัดหนัก ถ้ามึงไม่เชื่อลองถามเชี่ยแอมดู กูเห็นมันปากแตกอยู่บ่อยๆ”
พูดจบแล้วน้ำก็ยักคิ้วกวนๆให้เพื่อนแอม แอมหมั่นไส้เพื่อนน้ำเน่าเลยเกทับบัพคืน
“กูกับเมียออกจะสวีทกันเว้ย”
“โห่ กล้าเรียกน้องมันว่าเมีย”
น้ำยังแซวพ่อคาสโนว่าสิ้นลายไม่เลิก แต่คาสโนว่าแอมไม่ใส่ใจเพราะยังตั้งหน้าตั้งตาเกทับเพื่อนต่อ
“ไม่เหมือนมึงกับไอ้ไทม์หรอก ยังคลานเป็นลูกเต่าอยู่เลย ช่างไม่มีการพัฒนาแม้แต่น้อยนิด” แอมลอยหน้าลอยตาก่อนจะหัวเราะเหอะๆอย่างสะใจ
“โหย มันจี๊ดนะเนี่ย มันจี๊ด~”
น้ำทำท่าว่าอารมณ์จะขึ้นเมื่อถูกจี้ตรงจุด วินเซนต์เลยกดตัวเพื่อนไว้แกล้งๆทำให้น้ำดิ้นกะแด่วๆอยู่บนเตียง โดยมีแอมนั่งหัวเราะก๊ากที่เพื่อนทำอะไรตัวเองไม่ได้ ไทม์มองเพื่อนที่เล่นกันเป็นเด็กแล้วส่ายหน้า เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อไปอาบน้ำ ก่อนเดินออกจากห้องที่มีแต่เสียงโหวกเหวกของเพื่อนๆไทม์ก็ชะงักเท้า เดินกลับเข้ามาใหม่เอาโทรศัพท์มือถือออกไปด้วย พอออกมาด้านนอกแล้วก็แวะเอาผ้าเช็ดตัวไปไว้ในห้องอาบน้ำ ก่อนไปที่ห้องน้องชายเพื่อหาที่คุยโทรศัพท์ มือหมุนลูกบิดเห็นห้องล็อคจึงเปลี่ยนมาเคาะห้องแทน
“ทิม”
เสียงเรียกของไทม์ที่หน้าห้องทำให้เกิดเสียงโครมครามภายในห้องดังมา ไทม์ย่นหัวคิ้วงงๆอยู่ชั่วครู่ เมื่อเสียงเงียบไปแล้วน้องชายของเขาก็มาเปิดประตูให้ แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไรทิมก็สวนกลับมาก่อน
“ทิมมีธุระ ไว้คราวหน้านะพี่ไทม์”
“เดี๋ย...ว...”
ว่าแล้วก็ปิดประตูปังลงกลอนเรียบร้อยโดยที่ไทม์ค้านไม่ทัน ได้แต่พูดค้างอยู่แค่นั้น อะไรของมันว้า? ไทม์เกาแก้มงงๆ ก่อนเดินลงไปด้านล่างแล้วออกไปโทรศัพท์หาน้องนีออนน้อยที่หน้าบ้านแทน
นีออนรับโทรศัพท์จากพี่ไทม์น้ำเสียงยังดูตึงๆอยู่บ้าง ไทม์อธิบายกับน้องว่าที่จริงแล้วเรื่องราวมันไม่ได้มีอะไรเลย วินเซนต์แค่แกล้งเล่น
“เพราะมันเป็นคนแบบนั้น นีออนอย่าถือสาเลยนะ”
พอพูดไปแบบนั้นแล้วก็ได้ยินเสียงน้องถอนใจดังมาเบาๆ
“ออนจะพยายาม”
ไทม์ยิ้มกับความเป็นเด็กน้อยน่ารักของน้องที่บอกว่าจะพยายามโดยที่ไม่ดื้อแพ่งจะเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่
“ทีนี้หายโกรธพี่แล้วใช่ไหมครับ?” ไทม์เอ่ยถามน้องเมื่อรู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้างแล้วที่น้องเข้าใจตรงกัน
“ออนเปล่าโกรธพี่ไทม์นะ ออนแค่... ไม่ค่อยชอบเพื่อนพี่เท่าไหร่ พี่ไทม์... อย่าโกรธออนนะ”
เสียงของนีออนน้อยอ่อยลงเรื่อยๆเพราะกลัวว่าพี่จะไม่ชอบใจหรือเปล่าที่ตนเองเรื่องเยอะแบบนี้
“ไม่โกรธหรอกครับ ดีเสียอีกที่นีออนบอกความรู้สึกของตัวเองกับพี่ ดีกว่าให้พี่เดาไปเองคิดไปเองแล้วกลายเป็นอีกเรื่องไป แบบนี้แย่ยิ่งกว่าเนอะ”
คุยกันอยู่อีกครู่หนึ่งเสียงของอุ้มรักก็ดังมาเรียกให้แฝดพี่มานอนได้แล้ว ไทม์หัวเราะเบาๆก่อนบอกให้น้องไปพัก บอกราตรีสวัสดิ์กันเหมือนทุกที ก่อนวางสายไทม์ก็เรียกน้องเอาไว้อีก นีออนรอฟังว่าพี่จะว่าอะไร ก่อนยิ้มเขินหน้าแดงเมื่อพี่บอก
“รักนีออนนะครับ”
+++++++++++++
ต่อด้านล่างค่ะ