รักใสปิ๊ง
ตอนที่ (13) จุดเริ่มต้นที่สวยงาม
การเข้าค่ายลูกเสือครั้งที่ผ่านมา พอกลับมาถึงบ้านนีออนน้อยก็เอาแต่พูดถึงได้ไม่มีหยุด ท่าทางจะสนุกเขาเลยล่ะนั่น อุ้มรักเองก็ไม่มียอมกัน มีการเกทับกันเองของสองพี่น้องเกิดขึ้นอยู่ตลอด พ่อแม่ก็ฟังได้ไม่เบื่อ เห็นสองแฝดตัวน้อยมีความสุขเวลาเล่าแล้วก็ไม่อยากขัด เพราะฟังๆไปมันก็ได้อรรถรสดี เพราะลูกเล่าด้วยความตื่นเต้นทำให้พ่อ แม่ กับพี่ๆ ฟังแล้วเห็นภาพไปด้วย
“ตอนที่อุ้มนอนนะ ปิงจัดให้อุ้มนอนตรงกลางระหว่างปันกับหวินใช่ปะ พอตื่นมาอีกทีอุ้มนึกว่าโดนผีอำ”
อุ้มรักเล่าไปก็ทำท่าทางประกอบการเล่าไปด้วย ช่วงเย็นหลังทานข้าวอาบน้ำแล้ว สมาชิกทุกคนจะมารวมตัวอยู่หน้าโทรทัศน์ คุยเล่นกัน เล่าเรื่องที่ได้เจอมาในแต่ละวัน ปรึกษาหารือกันบ้าง เช่นวันนี้ที่ตัวเอกของงานคือสองฝาแฝดที่มีเรื่องเล่าจากการเข้าค่ายลูกเสือมาเล่าให้ฟัง
“ทำไมอ่ะ?” นีออนที่นอนกลิ้งอยู่บนเสื่อเอ่ยถามน้องอุ้มถึงเรื่องที่น้องกำลังเล่า
“ก็แขนหวินกับขาปันนี่จะพาดคออุ้มอยู่แล้วน่ะสิ ดีนะที่อุ้มรู้สึกตัวตื่นก่อน เกือบแย่แหนะ”
พออุ้มเล่าจบนีออนก็หัวเราะก๊ากเมื่อนึกภาพตาม พ่อ แม่ กับพี่ๆก็พากันยิ้มขำ อุ้มรักหน้ามุ่ยที่ทุกคนพากันขำตนเอง
“มันไม่ขำนะ อุ้มต้องลุกขึ้นมาลากปันไปนอนข้างหวินเพราะปลุกยังไงปันก็ไม่ยอมตื่นอ่ะ”
ผู้ฟังพากันหัวเราะ ยิ่งนีออนนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เรียกได้ว่าท้องคัดท้องแข็ง กว่าจะได้นอนอุ้มรักคงทุลักทุเลน่าดู พอดูข่าวจบแม่ก็ให้เด็กๆพากันไปนอนจะได้พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะต้องตื่นแต่เช้ากันทุกวัน สองแฝดเข้าไปหอมแก้มราตรีสวัสดิ์คุณแม่ ก่อนจะหันไปกอดพ่อแน่นๆแล้วจึงเดินเข้าห้องไปนอนกัน พ่อลงไปตรวจความเรียบร้อยด้านล่างอีกที ส่วนแม่ก็ปิดโทรทัศน์ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้รอพ่อขึ้นมาก่อนจะเข้านอนตามลูกๆไป
-------------------
วันต่อมา หลังเลิกเรียนกลับบ้านมาแม่ก็บอกว่าวันนี้ฝากพี่ไอรักซื้อวัตถุดิบมาทำเนื้อย่างหมูกระทะทานกัน สองฝาแฝดร้องเย้อย่างถูกใจ เพราะนานๆทีจะได้ทานอะไรที่พิเศษๆบ้าง นีออนกับอุ้มรักขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเอาการบ้านออกมาทำให้เสร็จแต่หัววัน รอพี่ไอรักกลับมาจะได้ไปช่วยแม่ทำหมูกระทะกัน สองฝาแฝดทำการบ้านกันไปเงียบๆจนเสร็จก็มานั่งเล่นรอพี่ไอรักที่ชานบ้าน อุ้มรักบอกว่าเข้าค่ายเดินทางไกลครั้งนี้น้ำหนักท่าจะลด แถมพ่อยังให้ออกกำลังกายทุกวันเลยด้วย นีออนเลยให้ไปช่วยยกเครื่องชั่งน้ำหนักมาชั่งดู พอเอามาแล้วคุณแม่เลยให้แฝดพี่ชั่งก่อน ตัวเล็กจ้อยแบบนี้จะถึงสี่สิบกิโลฯไหมนี่ นีออนขึ้นไปบนเครื่องชั่งน้ำหนักพอเหยียบครบทั้งสองเท้าปุ๊บก็รีบนั่งลงปิดตัวเลขที่หน้าปัดทันที อุ้มรักมองพี่ชายอย่างสงสัยว่าทำอะไร
“อะไรอ่ะออน?”
“ออนกลัวอุ้มรับไม่ได้ถ้าเห็นน้ำหนักออนก่อนที่อุ้มจะชั่งอ่ะ” นีออนทำหน้าตาใสซื่อ เหมือนจะหวังดี แต่ฟังอย่างไรมันก็กำลังล้อเลียนน้องชัดๆ
“นีออน!”
แฝดน้องหน้างอที่ถูกแฝดพี่แกล้งเอา นีออนรีบลงมาจากเครื่องชั่งน้ำหนักแล้วกอดโอ๋น้องทั้งที่หัวเราะไปด้วย ไม่จริงใจเลยนีออนเนี่ย
“ออนล้อเล่นน่า ขึ้นชั่งเลยเร็ว”
เอ่ยเร่งน้องให้ขึ้นเหยียบเครื่องชั่งน้ำหนัก พออุ้มรักขึ้นไปยืนแล้วนีออนก็นั่งยองลงดูว่าตัวเลขมันคือเท่าไหร่ ก่อนจะอุทานออกมาท่าทางตื่นเต้น
“โห~ ลดลงตั้งสองขีดแหนะ~”
“งื้ออ สองโลต่างหาก แม่ ออนแกล้งอุ้มอ่ะ”
อุ้มรักฟ้องแม่ที่พี่ชายแกล้งอีกแล้ว แม่แค่ยิ้มขำคู่แฝดตัวป่วน อุ้มรักลงจากเครื่องชั่งมา แล้วเดินหนีนีออน งอนแล้ว
“ออนแค่ล้อเล่นเอง ไม่โกรธน้า ลงตั้งสองโลแหนะ... แต่พุงยังยื่นอยู่เลยอ่ะ”
“นีออนนนนน”
“ฮ่าๆๆๆ”
ประโยคแรกเหมือนจะดี แต่ประโยคหลังนี่ก็ยังไม่วายล้อน้องอีก คุณแม่เดินมาตีแขนเด็กป่วน แล้วทำหน้าดุไม่จริงจังนัก อุ้มรักกอดเอวอ้อนแม่ทันที
“ชอบแกล้งน้องนะเรานี่” คุณแม่ว่าแฝดพี่ แต่ทางนั้นกลับยิ้มกว้างแล้วบอกด้วยน้ำเสียงรื่นเริง
“ก็น้องมันน่ารักกก”
“อื๊อออ”
เด็กป่วนหยิกแก้มอุ้มน้อยอย่างหมั่นเขี้ยว นีออนชอบที่จะทำตัวเป็นพี่ชายทั้งที่อายุเท่ากันกับอุ้มรัก เกิดห่างกันไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ อยากปกป้องน้องทั้งที่ตัวเองก็ตัวเล็กนิดเดียว ไม่ยอมให้ใครแกล้งน้องได้ แต่ตัวเองน่ะแกล้งได้ไม่มีปัญหา ก็นะ น้องของเขาน่ารักนี่ ชอบแกล้งน้องมันผิดตรงไหน
“พี่ไอกลับมาแล้ว”
เสียงพี่อุ่นดังมาจากด้านล่างพร้อมกับเสียงรถของพี่ไอที่แล่นเข้ามาจอด พอแฝดน้อยได้ยินว่าพี่ไอรักกลับมาแล้วก็มีท่าทีตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที เพราะ...
“เนื้อย่างงง”
เด็กแฝดร้องออกมาพร้อมกันก่อนจะเตรียมวิ่งลงบันไดไปด้านล่าง แต่พอนึกขึ้นได้ว่าแม่ห้ามวิ่งบนบ้านก็เลยชะงักแล้วหันไปยิ้มแหยให้แม่ ก่อนจะค่อยๆพากันย่องลงบันไดไป พอถึงด้านล่างก็วิ่งตื๋อในทันที
“พี่ไออออ ไหนเนื้อย่างอ่ะ เนื้อย่างงง”
เสียงเด็กแฝดสองเสียงตีกันมั่วไปหมด เมื่อพี่ชายเปิดประตูลงจากรถมา ถามหาของกินกันใหญ่ แต่พอเห็นว่าพี่ไม่ได้กลับมาคนเดียวก็ชะงัก ก่อนจะเอ่ยทักผู้ที่เปิดประตูรถตามลงมา
“อ้าว พี่หยงมาด้วย แม่ พี่หยงมา~”
นีออนทักพี่ตันหยงก่อนจะตะโกนบอกแม่ คุณแม่ที่เดินลงบันไดบ้านมาส่ายหน้ายิ้มๆ ถ้าอยู่นิ่งๆสงบเสงี่ยมนี่คงไม่ใช่นีออน
“แม่รู้แล้ว เสียงดังจริงเรานี่”
พอถูกว่านีออนก็ยิ้มแหย ก่อนจะหันไปชวนเพื่อนพี่ชายเข้าบ้าน ทั้งยังอาสาช่วยถือของให้ด้วย
“พี่หยง เข้าบ้านๆ มา ออนช่วยถือ”
ตันหยงแบ่งถุงในมือให้น้องชายเพื่อนทั้งสองคนช่วยถือ ยกมือไหว้พ่อกับแม่เพื่อน ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้านเรือนไทยที่ยกใต้ถุนสูง เอาของที่ถือมาไปวางที่โต๊ะในครัว ไอรักมองตามน้องกับตันหยงแล้วส่ายหน้าให้ความป่วนของน้อง ก่อนจะถือของตามเข้าบ้านไป
สมาชิกในบ้านช่วยกันจัดเตรียมของสำหรับทำเนื้อย่าง คุณพ่อยกกระทะไฟฟ้าสำหรับย่างเนื้อออกมาวางที่โต๊ะทานข้าว นีออนกับอุ้มรักช่วยยกถาดใส่เนื้อสัตว์ที่หมักไว้แล้วออกมาวาง เป็นของสำเร็จรูปที่ไอรักซื้อมาเพราะจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายทำใหม่ให้เสียเวลา ตันหยงกับอุ่นรักถือถ้วยน้ำจิ้มกับจานชามออกมาตามด้วยไอรักที่ยกหม้อน้ำซุปที่พ่อตั้งเตาเอาไว้ออกมาด้วย
เมื่อทุกอย่างครบถ้วนเรียบร้อยก็ลงมือทานข้าวกัน เด็กๆก็ทานเนื้อย่างกันไป ส่วนคุณพ่อก็เอาข้าวมาทานด้วย เห็นว่าแบบนี้มันไม่น่าจะอิ่มหรอก มีแต่เนื้อกับผัก แม่เลยเจียวไข่ใส่ไชโป๊หวานมาให้อีกสามฟอง นีออนก็ยังจะชอบแย่งน้องอุ้มกินบอกว่าหวังดีกลัวน้องอ้วน เพราะน้ำหนักน้องเพิ่งลด
“โอ๊ย!!”
เสียงร้องของตันหยงดังขึ้นมาทำให้ทุกคนชะงัก เพราะน้ำซุปในกระทะกระเด็นมาโดนแขนตันหยงที่กำลังคีบหมูที่อยู่ด้านบนกระทะ มันไม่ได้ร้อนมากเท่าไหร่ ออกจะตกใจมากกว่า แต่ไอรักก็รีบคว้าแขนเพื่อนมาดูทันที ลูบบริเวณที่โดนน้ำกระเด็นใส่ แล้วสีหน้าก็ยิ่งรู้สึกผิดมากมายเมื่อเห็นรอยแผลเป็นจางๆเป็นทางยาวบนแขนขวาเพื่อนที่ตนเองจับอยู่ นิ้วเรียวเกลี่ยไล้รอยแผลนั้นแผ่วเบา
“ไอ ถ้ามึงไม่เลิกทำหน้าเหมือนกูใกล้จะตายแล้วแบบนี้นะ กูจะกลับ!”
ตันหยงบอกเพื่อนแกมขู่ พ่อแม่กับน้องๆนั่งมองเงียบๆ แม้แต่ตัวป่วนอย่างนีออนยังไม่กล้าแม้จะขยับตัว ไอรักถอนหายใจยาวก่อนจะปล่อยแขนของเพื่อน ลุกไปปรับอารมณ์ตนเองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินกลับมา
“ขอโทษที่ทำให้งานกร่อยครับ”
เด็กหนุ่มยกมือไหว้พ่อแม่ แม่โบกมือว่าไม่เป็นไร ก่อนจะชวนเด็กๆทานข้าวกันต่อ พอไอรักนั่งลงข้างตันหยงพ่อจึงบอก
“เอาเถอะ ถ้าดีขึ้นแล้วก็กินต่อเลย ถ้ากลัวมันจะกระเด็นใส่เจ้าหยงมันอีก ก็คีบให้กันเองแล้วกัน”
พ่อว่าอย่างตัดปัญหา แต่ปัญหามันจะมาอยู่ที่หยงนี่สิครับพ่อ ดูหน้าลูกชายพ่อก่อนไหม ปากจะฉีกถึงใบหูแล้วน่ะ ตันหยงมองเพื่อนอย่างหมั่นไส้ รออยู่เลยล่ะสิคำนี้น่ะ
หลังจากดราม่าเล็กๆผ่านไปโดยไม่มีใครเอ่ยถึงมัน จากนั้นทุกคนก็กลับมาเฮฮา ทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเดิม จนทานข้าวเสร็จช่วยกันเก็บล้าง ตันหยงเข้าไปช่วยแม่ในครัว คุณแม่บอกไม่ต้องช่วยหรอก แล้วบอกให้ไอรักพากลับบ้านเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน ตันหยงจึงลาพ่อ แม่ กับน้องๆของเพื่อนแล้วขึ้นรถกลับบ้านไป
พอพี่ชายขับรถพ้นหน้าบ้านไป สองฝาแฝดที่รับหน้าที่เช็ดโต๊ะทานข้าวก็แอบซุบซิบกันเบาๆ
“พี่ไอนี่ชอบทำให้พี่หยงโกรธจริงๆเลยเนาะ” อุ้มรักเริ่มประเด็นก่อน นีออนพยักหน้าอย่างเห็นตามนั้นด้วย
“ก็เขาเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องพี่หยงนะ จะรู้สึกมากกว่าปรกติคูณสิบ” นีออนว่าเสริม
“แต่เรื่องแผลนั่นพี่หยงเคยบอกแล้วว่าไม่ให้ใครมาสงสาร”
“ทำตัวเองเนอะ”
“อะแฮ่ม! แอบนินทาอะไรพี่ไออยู่น่ะสองคนนี้?”
“เฮ้ย!!”
เด็กแฝดสะดุ้งเฮือกที่พี่สาวโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ก่อนจะมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะแก้ตัวไม่ทันแล้ว จนพี่สาวพูดต่อ
“แต่พี่ก็ว่าเหมือนกันแหละว่าพี่ไอน่ะ... พลาด” อุ่นรักเน้นคำสุดท้ายพร้อมทำท่าทางมั่นอกมั่นใจประกอบ
“อ้าววว”
เด็กแฝดร้องอ้าวพร้อมกัน นึกว่าจะถูกพี่อุ่นดุ ที่ไหนได้กลับมาร่วมวงด้วยเสียอย่างนั้น คราวนี้สามคนพี่น้องเลยพากันหัวเราะคิกคักกับการวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่จะเกิดกับพี่ชายคนโตหลังจากนี้
----------------
พักหลังมานี้นีออนได้พูดคุยกับบิวตี้มากขึ้น ไทม์ที่เห็นว่าเป็นแบบนั้นก็ออกจะเบาใจที่น้องเข้ากับเพื่อนใหม่อย่างบิวตี้ได้ แต่เท่าที่นีออนสังเกต เพื่อนของบิวตี้กลับห่างหายไป ไม่เห็นมาเดินเป็นขบวนเหมือนก่อน พอถามบิวตี้ตอนที่มาทานข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน บิวตี้เลยบอกอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
“ฉันเลิกคบกับพวกนั้นไปแล้วล่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ?”
นีออนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามข้างๆพี่ไทม์เอ่ยถาม พักกลางวันมักจะเป็นเวลาที่ได้พูดคุยกันของกลุ่มพี่ไทม์กับกลุ่มของนีออน แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนเซียนของนีออนจะไม่อยากมาเข้ากลุ่มด้วยเท่าไหร่ เพราะที่ตรงนี้มีทั้งศัตรูหัวใจอย่างพี่ไทม์ และคู่ปรับใหม่อย่างพี่แอมอยู่ด้วย
“ก็ฉันรับไม่ได้ที่พวกนั้นทิ้งฉันที่ขาเจ็บเอาไว้ข้างทางโดยไม่สนใจฉันเลยน่ะสิ เพื่อนกันภาษาอะไร ฮึ้ย อย่าให้พูดเลย ของขึ้น!”
ปึ้ง!!
กำปั้นเล็กทุบลงบนโต๊ะอย่างลืมตัวจนเพื่อนๆพี่ๆสะดุ้ง ต่างก็รู้สึกตรงกันเลยว่า ... อย่าทำให้ผู้หญิงคนนี้โกรธ
ไม่นานต่อมา กลุ่มเพื่อนเก่าของบิวตี้ก็ไปก่อเรื่องจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อมีการตบตีกันจนโดนทัณฑ์บน ถูกเรียกผู้ปกครอง และเกือบต้องพักการเรียน นั่นทำให้บิวตี้รู้สึกว่าดีแล้วที่ตนเองถอยออกมาจากวงจรนั้นได้ เพื่อนแท้มันหาไม่ได้ง่ายๆ แต่บิวตี้ก็หวังว่าจะได้พบในเร็ววัน
เมื่อใกล้ช่วงสอบของทุกโรงเรียนแล้ว ไทม์กับน้ำจึงขอพ่อแม่ไปช่วยติวหนังสือให้น้อง และตนเองก็จะได้เอาเวลาที่สอนน้องนั้นทบทวนบทเรียนกันด้วย สถานที่คือบ้านของน้องแฝดเอง มีพี่อุ่นรักคอยช่วยด้วยอีกคน ส่วนพี่ไอพอถึงช่วงใกล้สอบก็ไปขลุกอยู่บ้านพี่ตันหยงเสียเป็นส่วนใหญ่
เพื่อนๆของนีออนกับอุ้มรักก็มาที่บ้านของสองแฝดเพื่อให้พี่ๆช่วยสอนกันด้วย ดีกว่าไปเสียตังค์เรียนพิเศษอีก แสตมป์คือหนึ่งในนั้นที่ถูกอุ้มรักชวนมา ระหว่างที่ติวให้น้อง น้ำก็ลอบมองความสนิทที่เกิดขึ้นระหว่างอุ้มกับแสตมป์อยู่บ่อยๆ น้องสนิทกับเพื่อนมันก็ดีอยู่หรอก แต่เพื่อนคนนี้ให้ห่างๆได้ไหมล่ะ อารมณ์ชักจะไม่ดี แต่พอน้องเงยหน้าจากหนังสือมายิ้มให้ก็พาลใจอ่อนยอมได้หมด แม้ออกจะแสลงใจนิดๆ แต่ก็นึกไปว่าน้องก็ต้องมีเพื่อนบ้างอะไรบ้างก็ชักจะใจเย็นลง
ส่วนเพื่อนของนีออนอย่างเซียนนั้น ไทม์ไม่ได้ห่วงถึงเรื่องนั้นแล้ว เมื่อรู้ว่าน้องก็ใจตรงกันกับตนเอง และไม่ได้คิดเกินเลยกับเพื่อนไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แถมเพื่อนแอมของเขายังมีท่าทีว่าจะถูกใจน้องเซียนคนนี้เสียด้วย ถ้าแอมจองแล้วก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าคนที่ถูกหมายตาจะได้แลใครอีก ก็ขออวยพรน้องเซียนแล้วกัน ให้เพื่อนแอมของเขาไม่ออกตัวแรงจนเกินไปนัก
พอติวหนังสือกันเสร็จ ทบทวนบทเรียนกันเป็นที่น่าพอใจแล้ว พักกลางวันคุณแม่จึงทำอาหารให้ทานกันจนอิ่มหนำ มีของหวานตบท้ายให้อีกด้วย คุณพ่อเองก็ออกจากสวนมาพร้อมผลไม้ตามฤดูกาลที่ปลูกไว้ เอามาให้เพื่อนๆพี่ๆของลูกชายได้ทานกัน เรียกได้ว่ามาบ้านน้องแฝดนี่ได้ความรู้แถมอิ่มท้องอีกต่างหาก
ทานข้าวกันเสร็จแล้วเด็กๆก็ขอตัวกลับบ้านกัน ต่างส่งเสียงสวัสดีคุณพ่อคุณแม่น้องแฝดกันเซ็งแซ่ เมื่อเพื่อนๆกลับไปแล้วนีออนกับอุ้มจึงเดินมาส่งพี่น้ำกับพี่ไทม์ที่รถ พี่สองคนเขามาด้วยกัน บอกว่าช่วยประหยัดน้ำมันรถ ไทม์กับน้ำไหว้ลาพ่อแม่น้อง ก่อนจะไปขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์เตรียมกลับบ้านกัน
“ขอบคุณนะครับพี่ไทม์ พี่น้ำ”
ไทม์กับน้ำยิ้มรับคำขอบคุณจากน้อง ที่จริงพวกเขาก็ไม่ได้เก่งอะไรนัก แต่ด้วยเพราะเคยผ่านการเรียนการสอบระดับมัธยมต้นมาแล้วจึงมีแนวทางอยู่บ้าง สอนน้องกับเพื่อนๆให้เข้าใจตรงกันได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในตอนนี้ ก็หวังว่ามันจะมีประโยชน์กับน้องบ้างสักนิด
“น้ำ ไทม์ เอ้า! เอาผลไม้นี่ไปฝากที่บ้านด้วย ทั้งสองคนเลย ขอบใจมาก”
คุณพ่อของแฝดน้อยเดินมาหาไทม์กับน้ำพร้อมถุงผลไม้ สองหนุ่มไหว้ขอบคุณพ่อที่ตบบ่าพวกเขาอย่างขอบใจที่มาช่วยติวหนังสือให้เด็กๆ เห็นเด็กมันทำดีก็ต้องชื่นชมกันสักหน่อย
คุณพ่อเดินกลับเข้าบ้านไปแล้วไทม์กับน้ำจึงออกรถ นีออนกับอุ้มรักโบกมือลาพี่ๆ ก่อนจะกอดคอกันเดินเข้าบ้านตามพ่อไป อีกไม่นานก็สอบ หวังว่าทั้งนีออนและอุ้มจะสอบผ่านไปได้ด้วยดี และคราวนี้อุ้มรักก็จะได้มาอยู่โรงเรียนเดียวกับนีออนเสียที
TBC
ขอบคุณทุกๆกำลังใจในตอนที่ผ่านมามากๆค่ะ จัดบวกตอบแทนไปทุกบวกเช่นกันค่ะ
ตอนหน้าน้องแฝดสอบ เรามาคั่นเวลาด้วยการทำความรู้จักคู่แถมอย่างพี่ไอกับพี่หยงกันสักนิดนะคะทุกท่าน
ส่วนท่านที่รออ่านคริส&กาย ใหม่จะจัดน้องขิงกับพี่ซ่าเวอร์ชั่นหวานไปก่อนนะคะ แล้วค่อยไปคริส-กาย แต่ไม่รู้จะหวานได้แค่ไหน เพราะน้องขิงเขาเซะกุซี่นี่นา (รับประกันความเซ็กซี่โดยพี่ซ่า ฮา)
และที่สำคัญ... ไม่รู้ว่าระหว่างลูกแมวน้อยจอมยั่วอย่างน้องขิง กับ ลูกไก่น้อยในกำมือมิสเตอร์แอลอย่างน้องเปียว ใครจะได้ลงก่อนใคร แต่ที่แน่ๆได้อ่านน้องแฝดตัวน้อยกันแล้วเนาะ ฮะๆ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
วันใหม่