/5
หลังมื้อเย็นจบลง วิรัลก็บ่นว่าปวดหัวและขึ้นนอนไวกว่าปกติ และยังสั่งพิชญ์ว่าถ้าไม่มีธุระด่วนอะไรก็ไม่ให้ใครเข้ามารบกวน ซึ่งพิชญ์ก็รับรู้และปฏิบัติตาม เพราะคิดว่านายน้อยของเขายังคงกลัดกลุ้มเรื่องคู่หมั้นอยู่ไม่หาย และต้องการใช้เวลาปรับตัวปรับใจตามลำพังอีกสักพัก
“คืนนี้เขาจะมาไหมนะ...”
วิรัลนึกถึงธามที่เคยบอกเขาว่าจะกลับมาหาอีกครั้ง เด็กหนุ่มชะโงกหน้าจากระเบียงไปดูบริเวณด้านล่างอย่างเป็นกังวล เพราะล้วนแล้วแต่มีเวรยามเฝ้ากันอยู่หนาแน่นไปหมด
“ขออย่าให้เขาถูกจับได้เลย...”
วิรัลพึมพำกับตัวเอง เขาไม่ได้ปิดล็อกประตูกระจก แต่ล็อกที่ประตูห้องแทน เจ้าตัวเดินไปเดินมา ก่อนจะย้ายไปนอน แล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง เป็นอย่างนั้นอยู่หลายชั่วโมง จนกระทั่งได้ยินเสียงหอนของหมาป่าดังแว่วเข้ามา จากทางท้ายหมู่บ้าน และเสียงโวยวายของพวกพิชญ์ที่ดังมาจากหน้าคฤหาสน์
“พวกนายเฝ้าท่านวิรัลเอาไว้ให้ดี! เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเจ้าหมาป่านั่นเอง!”
วิรัลเปิดบานกระจกและผ้าม่านออกไป เขาเห็นพิชญ์วิ่งไปทางทิศหลังหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงทั้งธามและพิชญ์ เขาไม่อยากให้ทั้งคู่ปะทะกันเลย เพราะไม่ว่าใครจะบาดเจ็บ เขาก็เสียใจทั้งนั้น
“ได้โปรดเถอะ...ขออย่าให้ใครเป็นอะไรไปเลย...”
วิรัลพึมพำอย่างวิตกกังวล เขายืนอยู่แถวนั้นครู่ใหญ่ ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงคนของเขาโวยวายอยู่ด้านล่าง
“มารวมกันทางนี้เร็วเข้า! ให้ตายเถอะ! นั่นมันหมาป่าจริง ๆ ไม่ใช่พวกมนุษย์หมาป่า อย่างเผ่าวกะนี่!”
วิรัลชะโงกหน้าลงไปดูอย่างตกใจ เขาเห็นธามในร่างของหมาป่าสีเงิน กำลังยืนเผชิญหน้ากับลูกน้องของพิชญ์ราวสามสี่คน และพวกนั้นก็กำลังกลับคืนสู่ร่างมโค เพื่อพร้อมต่อสู้เช่นกัน
“บ้าชะมัด...หยุดสู้กันนะ!”
วิรัลตะโกนห้าม ทำให้ธามอาศัยจังหวะที่มโคตนอื่นเผลอและหันไปมองเด็กหนุ่มด้านบนระเบียง พุ่งกระแทกมโคตนหนึ่งล้มลง และเตรียมขย้ำคออีกฝ่าย ทว่าเขาก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงของวิรัลตะโกนขัดขึ้นมาเสียงหลง
“อย่าฆ่านะครับ! ผมขอร้อง!”
ธามสบถอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยอมกระโจนถอยออกมาตั้งรับ ส่วนมโคตนอื่นก็เริ่มลังเล ทว่าก็ยังคงรุมล้อมธามอยู่เหมือนเดิม และมีบางตนเตรียมจะส่งสัญญาณเรียกรวมพลมโคที่เหลืออยู่บริเวณนี้ ทว่าวิรัลที่สังเกตเห็นก็เม้มปากแน่น แล้วตัดสินใจกระโดดจากระเบียงชั้นสอง ลงมาขวางทางอยู่ระหว่างทั้งสองฝ่าย
“ท่านวิรัล!”
มโคตนอื่นต่างพากันเรียกชื่อวิรัลอย่างตกตะลึง ส่วนธามนิ่งอึ้งเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะโดดลงมาร่วมวงด้วยแบบนี้
“...คุณช่วยกลั้นหายใจสักพักได้ไหมครับ”
วิรัลหันไปบอกกับธามด้วยน้ำเสียงกระซิบแผ่ว ธามที่อ่านริมฝีปากนั้นออกพยักหน้ารับรู้ แม้จะยังไม่แน่ใจว่าเด็กหนุ่มกำลังคิดทำอะไรกันแน่
“ขอโทษนะทุกคน ...แต่ฉันไม่อยากให้การนองเลือดเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหน ฉันก็รู้สึกไม่ดีทั้งนั้น”
วิรัลหันมาพึมพำกับพรรคพวกของเขาด้วยสีหน้าสำนึกผิด ทำให้มโคแต่ละตนเอะใจ แต่ว่าพวกเขายังไม่ทันทำอะไร ก็ต้องพลันชะงัก เมื่อได้เห็นวิรัลเริ่มกลับกลายคืนสู่ร่างเดิมของตน เสื้อผ้าที่สวมใส่ค่อย ๆ ปริฉีกขาด แต่พอร่างนั้นสลัดเบา ๆ เศษผ้าก็หล่นไปกองกับพื้น และร่างที่เคยเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ก็กลับกลายเป็นกวางทอง ที่มีเขายื่นออกไปทั้งสองข้างเป็นวงโค้งแยกแตกแขนงอย่างสวยงาม ทว่าหลังจากที่วิรัลกลับคืนสู่ร่างเดิมได้ไม่นาน มโคแต่ละตนก็พากันยืนโงนเงน และมองว่าที่ประมุขของเขาด้วยแววตาตกตะลึง
“ท่าน...วิรัล...”
ธามที่กำลังกลั้นหายใจมองภาพตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ เขาเองก็เคยพอได้ยินมาอยู่หรอกว่า มฤคมาศมีความสามารถพิเศษบางอย่าง แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปล่อยกลิ่นกายหอมหวานสะกดให้ผู้ที่ได้กลิ่นหลับใหลได้เช่นนี้
“ขอโทษ...ขอโทษจริง ๆ”
วิรัลในร่างกวางทองเดินย่างเหยาะฝีเท้าเข้าไปใกล้ ๆ มโคแต่ละตนที่หลับกันไปหมดแล้ว เจ้าตัวใช้ศีรษะไซ้ไปที่ลำตัวของเพื่อนร่วมเผ่าอย่างสำนึกผิด แล้วจึงหันมามองธามในร่างหมาป่าที่จ้องอยู่
“คุณรีบกลับไปเถอะครับ...ที่นี่คืนนี้อันตรายเกินไป เดี๋ยวสักพักพิชญ์ก็คงจะกลับมา พร้อมกับมโคที่มีฝีมืออีกหลายตน”
หมาป่าสีเงินพอได้ฟัง เขากลับเดินย่างกรายเข้ามาหากวางทองแสนสวยผู้บอบบาง พอมายืนใกล้ ๆ กันแบบนี้ ร่างหมาป่าของธามกลับดูใหญ่โตเสียยิ่งกว่าที่วิรัลเคยคิดไว้อีก
“ฉันอยากพบเธอ...ทุก ๆ วัน”
ธามเอ่ยพึมพำ แต่วิรัลก็รีบแย้ง
“มันเป็นไปไม่ได้...คุณก็รู้ดี”
“ใช่...ฉันรู้ดี แต่ถึงรู้ ฉันก็ยังอยากเจอเธอ... สัมผัสเธอ...”
ธามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม นัยน์ตาคมกริบของสัตว์ป่ากลับอ่อนแสงลงอย่างอ่อนโยน แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“คุณ...”
“เรียกชื่อฉันบ้างสิ...รู้จักชื่อฉันใช่ไหม...”
ธามแกล้งทัก เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปเพราะความสับสน
“คุณ...ธาม”
วิรัลยอมเรียกชื่อของชายหนุ่มด้วยความเอียงอาย ซึ่งก็ทำให้คนฟังพึงพอใจยิ่งนัก
“ผม...ผมว่าคุณรีบกลับไปเถอะครับ...”
วิรัลรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อคล้ายได้กลิ่นพรรคพวกเดียวกันเข้ามาใกล้ทุกที
“หือ...พวกเธอกำลังมาหรอกหรือ อืม...สงสัยชาครจะหลอกล่อไม่สำเร็จแฮะ ...แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะพี่เลี้ยงคนเก่งเธอไปด้วยนี่ คงเอะใจพอสมควรนั่นล่ะ”
“คุณธามครับ...”
วิรัลอ้อนวอน เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยใส่ใจในความปลอดภัยของตนเองเท่าไรนัก
“ไปก็ได้...แต่ขอเบอร์โทรศัพท์เธอไว้สักหน่อยได้ไหม”
วิรัลชะงักเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขากลืนน้ำลายลงคอนิด ๆ แล้วจึงเอ่ยอ้อมแอ้มบอก
“คือ...ผมไม่เคยพกโทรศัพท์มือถือหรอกครับ”
หมาป่าหนุ่มขมวดคิ้วตีหน้ายุ่ง แล้วแกล้งถามติดแซวอีกฝ่ายกลับไป
“อย่างนั้นหรือ... อืม...อย่าบอกนะว่าไม่เคยเล่นคอมเล่นเน็ตอะไรพวกนั้นด้วย”
กวางทองแสนสวยพยักหน้าน้อย ๆ แล้วบอกเสียงค่อย
“ผมไม่เคยเล่นคอมพิวเตอร์หรอกครับ...ท่านย่าชอบให้เรียนรู้จากตำรามากกว่า”
หมาป่าสีเงินพอได้ยินเช่นนั้น ก็พ่นลมหายใจพรืดอย่างกึ่งปลงกึ่งหงุดหงิด แต่พอหันไปมองกวางน้อยตรงหน้าที่ดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์สลดหดหู่ เขาจึงเอ่ยปลอบอีกฝ่ายเบา ๆ
“เอาเถอะ ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็บอกพี่เลี้ยงของเธอแล้วกัน ว่าต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จะได้หัดเล่นเป็นกับเขาบ้าง...”
บอกแค่นั้นธามก็กระโจนขึ้นไปบนห้อง เจ้าตัวกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วไปค้น ๆ สมุดกับปากกาแถวนั้นเขียนอะไรบางอย่างยุกยิกใส่กระดาษ ทำให้วิรัลที่กระโดดตามขึ้นมาและกลายร่างคืนสู่ร่างมนุษย์บ้าง ชะโงกหน้ามามองอย่างสนใจ
“เบอร์อีเมล์ฉัน ...เล่นเน็ตส่งเมล์เป็นเมื่อไหร่ ค่อยติดต่อมานะ ระหว่างนี้ฉันคงต้องให้เวรยามฝั่งเธอซาก่อน แล้วถึงจะมาหาได้ใหม่”
วิรัลรับสมุดเล่มนั้นมากอดแน่นอย่างหวงแหน แล้วยิ้มรับพร้อมพยักหน้า ทำให้คนมองต้องกลืนน้ำลายลงคอ เพราะยามนี้อีกฝ่ายอยู่ในร่างเปลือยเปล่า ชวนกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ยิ่งนัก
“วิรัล...”
เสียงทุ้มที่เรียกชื่อของตนเป็นครั้งแรก ทำให้วิรัลชะงักกึก ก่อนจะหน้าร้อนวูบวาบยามเมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าลงมาใกล้เขา พร้อมกับขยับกายเข้ามาเบียดชิดมากยิ่งขึ้น ทว่า...
จู่ ๆ เสียงหอนยาวของหมาป่าก็ดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล ทำให้ทั้งคู่ชะงัก และเป็นธามที่สบถเบา ๆ อย่างหงุดหงิด
“ลูกน้องฉันเตือนว่าคนของเธอใกล้ที่นี่เข้ามาทุกที ...ฉันคงต้องไปแล้ว...อยากรั้งสู้อยู่หรอก แต่เธอคงจะไม่ชอบใจใช่ไหม...”
วิรัลพยักหน้าหงึกหงักถี่ ๆ ทำให้คนมองต้องอมยิ้มอย่างเอ็นดู
“ฉันจะพยายามไม่ลงมือทำให้คนของเธอต้องเจ็บนะ... แต่ถ้าพลั้งไปบ้าง เพราะป้องกันตัวก็คงต้องขอโทษ แต่ยังไงก็จะพยายามไม่ให้มีการตายเกิดขึ้นแน่”
ธามให้สัญญาทำให้วิรัลรู้สึกตื้นตันนัก และพอธามเตรียมจะกระโดดลงไปจากระเบียง วิรัลก็เรียกชื่ออีกฝ่ายให้หยุดรอ แล้วจึงโผเข้าหาพร้อมกับใช้สองแขนโอบรั้งคอร่างสูงให้โน้มลงมา ก่อนที่ตัวเองจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อบดเบียดจุมพิตกับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“เด็กไม่ดี...เธอทำให้ฉันไม่อยากจะกลับไปแล้วนะ...”
ธามพึมพำเสียงแผ่ว ยังคงรับรู้ถึงรสหวานที่ติดอยู่ปลายลิ้นของตนได้เป็นอย่างดี
“รีบ ๆ ไปเถอะครับ ... ระหว่างนี้ผมจะพยายามหัดเล่นคอมไว้ติดต่อกับคุณนะ”
วิรัลบอกแล้วยิ้มหวานระคนเอียงอาย ธามถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจึงกลายร่างเป็นหมาป่าอีกครั้งก่อนจะกระโดดแผล็วลงจากระเบียงและส่งเสียงหอนเป็นสัญญาณบอกชาครให้ไปเจอกันที่รถของตน
“อ๊ะ! นั่น! มันหนีไปแล้ว!”
พิชานที่เห็นหลังไว ๆ ตะโกนบอกกับพิชญ์ พวกเขายังคงอยู่ในร่างมนุษย์เพราะชาครนั้นเพียงแต่ซุ่มอยู่ข้างนอก ไม่ได้เข้ามาโจมตีแต่อย่างใด
ทางด้านพิชญ์ เขามองไล่หลังหมาป่าสีเงินไป ก่อนจะเม้มปากแน่น เมื่อหันมาเห็นลูกน้องเขาทั้งที่กลายร่างเป็นมโค และคนอื่นที่เฝ้าอยู่รอบคฤหาสน์ ต่างพากันหลับใหลทั้งหมด เพราะกลิ่นหอมสะกดของวิรัลที่เจ้าตัวจงใจปล่อยออกมา
“ท่านวิรัล!”
พิชญ์เรียกนายน้อยของเขาเสียงแข็งอย่างโมโห ชายหนุ่มกระโดดขึ้นไปบนระเบียง อันเป็นจังหวะเดียวกับที่วิรัลเอาผ้าห่มมาคลุมร่าง หลังจากซ่อนสมุดที่ธามเขียนเบอร์อีเมล์ให้เขาไว้ใต้เตียงเรียบร้อย
“พิชญ์...ฉันขอโทษ...”
วิรัลที่เห็นสีหน้าโกรธจัดของอีกฝ่ายรีบบอกเสียงแผ่วอย่างสำนึกผิด ทำให้คนฟังต้องลอบสบถเบา ๆ แล้วยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยถามโดยไม่ยอมมองหน้า
“ทำไมต้องเข้าข้างอีกฝ่าย แล้วทำร้ายพวกเดียวกันเองแบบนี้ล่ะครับ!”
วิรัลชะงักแล้วจึงรีบแย้งกลับไปอย่างรวดเร็ว
“มันช่วยไม่ได้นี่! ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก แต่ถ้าไม่ทำ พวกเขาก็ต้องสู้กัน...ฉันไม่อยากให้ใครบาดเจ็บทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพวกเรา หรือเขาก็ตาม...”
พิชญ์เงียบกริบ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะสิ่งที่นายน้อยของเขาอ้าง ก็มีเหตุผลเพียงพอ
“เอาเถอะครับ...ท่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
“จะเป็นอะไรได้ยังไง...เขาไม่คิดจะทำร้ายฉันสักหน่อย ...นายก็น่าจะรู้ดีนะ...”
วิรัลแย้งเสียงแผ่ว แล้วสะดุ้งนิด ๆ เมื่อพิชญ์ตวัดสายตากลับมามองเขา
“ท่านเคยบอกกับผม ว่าจะพยายามตัดใจไม่ใช่หรือครับ!”
“ฉันก็บอกเขาแล้ว...ว่าอย่ามาอีก...เขาก็คงเข้าใจแล้วล่ะ...”
พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่งพยายามจ้องมองคนพูดอย่างจับผิด แต่อีกฝ่ายก็รีบหลบตาเขา แล้วจิกผ้าห่มที่คลุมร่างตัวเองแน่น
“ท่านวิรัลครับ...ท่านกำลังปิดบังอะไรผมอยู่หรือเปล่าครับ...”
วิรัลสะดุ้งเฮือกอย่างลืมตัว เขาไม่อยากปิดเป็นความลับกับพิชญ์ แต่หากบอกไป เขาก็เกรงว่าพิชญ์จะขัดขวางเขา ไม่ยอมให้เขาติดต่อกับธามอีก เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากตนเองเบา ๆ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ด้วยแววตาที่คลอด้วยน้ำใส ๆ วิบวับ
“พิชญ์...แค่รักก็ไม่ได้เหรอ...ฉันสัญญานะ ว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด...แต่ขอฉันได้รักเขาบ้าง แค่นั้นก็พอ...”
พิชญ์เงียบกริบ เขาเงียบไปพักใหญ่จนวิรัลใจเสีย ทว่ายังไม่ทันเอ่ยอะไรต่อ เสียงทอดถอนหายใจจากพี่เลี้ยงหนุ่มก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ขอโทษครับ...ผมอาจจะฝืนจิตใจท่านมากไปหน่อย...เอาเถอะครับ...ผมจะไม่บังคับให้ท่านเลิกรักเขาในเร็ววันนี้อีกแล้ว... ส่วนเขา...”
พิชญ์กลืนคำพูดประโยคหลังไว้ในลำคอของตัวเอง แล้วจึงฝืนยิ้มแย้มอ่อนโยนให้กับนายน้อยของเขา
“ไปอาบน้ำเถอะครับ จะได้นอนสบายตัวหน่อย เดี๋ยวผมเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ให้”
“อืม...ขอบคุณที่เข้าใจนะพิชญ์”
วิรัลพึมพำ แล้วจึงเดินตรงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายต่อ ด้านพิชญ์ถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะเม้มปากน้อย ๆ เมื่อนึกถึงธาม
“คงต้องคุยกันตรง ๆ สักทีแล้ว ...ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็ได้ยุ่งวุ่นวายกันทั้งคืน แทบไม่ต้องหลับต้องนอนกันแบบนี้ตลอด”
ชายหนุ่มพึมพำเบา ๆ เขามั่นใจว่าเมื่อคืนก่อน ธามก็น่าจะแอบมาหาวิรัลด้วยเช่นเดียวกัน แต่จากทั้งสองคืนที่ผ่านมา ยังไม่มีมโคตนใดในหมู่บ้านถูกทำร้าย ก็ทำให้เขาพอจะเชื่อใจอีกฝ่ายได้บ้างว่า ต้องการมาพบแค่วิรัลจริง ๆ โดยไม่มีจุดประสงค์อื่นใดแอบแฝง
“ถ้าเขาไม่ใช่วกะก็คงดี...”
พิชญ์พึมพำกับตัวเอง เรื่องความรักของเพศเดียวกันเขายังพอพูดเกลี้ยกล่อมให้ท่านย่าของวิรัลซึ่งเป็นนายหญิงของเขายอมรับได้ แต่เรื่องวิรัลรักชอบกับพวกวกะรับรองว่าหากท่านย่าของเด็กหนุ่มรู้เข้า เผลอ ๆ วิรัลก็จะได้ถูกพาไปกักตัวอยู่ในที่ลับตาจากผู้คนอีกครั้งเป็นแน่ เพราะประมุขคนก่อนซึ่งเป็นลูกชายแท้ ๆ ของนาง และเป็นบิดาของวิรัล ก็หายสาบสูญ ไม่พบศพ เพราะการทำสงครามกับพวกวกะนั่นเอง
พอตอนเช้าวิรัลก็รีบลงไปขอโทษพวกมโคที่เขาทำให้หลับไปเมื่อวาน ซึ่งแต่ละคนก็โกรธเด็กหนุ่มไม่ลง โดยเฉพาะมโคตนที่วิรัลช่วยห้ามไม่ให้ธามทำร้าย ก็ยิ่งต้องขอบคุณเด็กหนุ่มแทนด้วยซ้ำ
“ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีก...ฉันสัญญา”
วิรัลบอกแล้วโค้งให้ทุกคนที่เขาให้พิชญ์เรียกมาพบ ทำเอาแต่ละคนรีบโค้งรับแทบไม่ทัน
“เอาล่ะ ๆ พวกนายไปทำงานกันต่อได้แล้ว ส่วนท่านก็ไปพักผ่อนต่อเถอะครับ”
พิชญ์ตัดบท แล้วให้มโคตนอื่น ๆ แยกย้ายไป โดยนึกพอใจอยู่ลึก ๆ ที่วิรัลนั้นเลือกมาขอโทษลูกน้องด้วยตัวเอง เพราะการกระทำเช่นนี้จะช่วยซื้อใจลูกน้องไม่ให้หนีหาย และพร้อมจะเสี่ยงชีวิตรับใช้ผู้เป็นนายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ท่านวิรัลครับ ... มีอะไรหรือครับ”
พิชญ์ถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเด็กหนุ่มยังคงยืนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่ยอมไปไหน
“คือ...ช่วงนี้ฉันไปเดินเล่นในหมู่บ้านไม่ได้ใช่ไหม...”
วิรัลเปรยขึ้น ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบรับทันที
“ก็เพราะอย่างนั้น...ฉันเลยเบื่อมาก...แล้วนายก็ไม่มีอะไรให้ฉันช่วยเลย...ไหนเคยบอกว่าจะเริ่มสอนฉันเกี่ยวกับเรื่องงานของบริษัทบ้างยังไงล่ะ”
พิชญ์ขมวดคิ้วนิด ๆ แต่ก็ยังคงพยักหน้ารับรู้ค่อย ๆ
“ใช่ครับ ผมเคยพูดแบบนั้น และก็ยินดีมากด้วยที่ท่านสนใจงานของบริษัทขึ้นมาแบบนี้”
“ก็นั่นล่ะ ...แต่ฉันเล่นคอมไม่เป็นเลยสักนิดนะ!”
วิรัลรีบบอก ทำเอาคนฟังชะงักแล้วขมวดคิ้วอย่างแปลกใจอีกครั้ง จนเด็กหนุ่มต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ เพราะตนนั้นดันเผลอรีบร้อนบอกความต้องการเร็วเกินไปหน่อย
“เอ่อ...ก็ถ้าจะเรียนงานเกี่ยวกับบริษัท ก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ใช่ไหมล่ะ...แล้วที่สำคัญ ฉันก็อยากลองเล่นคอมพิวเตอร์ที่ว่าดูบ้าง...มันมีเกมสนุก ๆ ให้เล่นเยอะไม่ใช่หรือ...”
วิรัลอ้อมแอ้มบอก พร้อมกับอ้างเรื่องเล่นเกมมาบังหน้า แม้จะรู้สึกอายมากก็ตามที
“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง”
พิชญ์พึมพำ แล้วยกยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกเอ็นดูขึ้นมาแทน
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมหาโน้ตบุคมาให้ท่านหัดใช้ และหัดฝึกพิมพ์ง่าย ๆ ก่อนดีไหมครับ ...พิชาน อยู่แถวนี้ไหม!”
ขาดคำของพิชญ์ ลูกน้องคนสนิทของอีกฝ่ายก็เดินเข้ามาในห้องนั้นทันที เจ้าตัวยืนรอรับคำสั่งก่อนจะชะงักนิด ๆ เมื่อได้ยินชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
“เดี๋ยวให้คนจัดเตรียมโน้ตบุคมาสักเครื่อง แล้วนายก็รับผิดชอบสอนท่านวิรัลให้ที ...เพราะกลางวันนี้ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย”
“ง่า...ครับ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องทางนี้เองครับ”
พิชานรับคำ แล้วหันไปมองวิรัลที่กำลังยิ้มกว้างอย่างยินดี เขายิ้มน้อย ๆ ตอบ แม้จะแปลกใจว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงเพิ่งจะมาอยากเรียนคอมพิวเตอร์เอาเสียตอนนี้ ทั้งที่วันแรกพอมาถึง พิชญ์ลองเสนอเรื่องนี้ขึ้น แต่เจ้าตัวกลับเบ้หน้าใส่แล้วบอกว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีด้วยซ้ำไป
…TBC…
คู่รักคู่นี้เจอกันได้แป๊บ ๆ ก็ต้องจากกันอีกแล้ว แต่ก็ทำให้พิชญ์เริ่มเห็นใจและใจอ่อนล่ะนะ (ยกความดีให้ลูกอ้อนของน้องกวางน้อย) และแล้วตอนนี้น้องม่านฟ้าก็ยังไม่โผล่สักที -- แต่เดี๋ยวก็คงมีโอกาสมีบทกับเขาบ้างล่ะนะคะ ส่วนตัวละครอื่น ๆ ก็จะทยอยกันออกมาเรื่อย ๆ เองล่ะค่ะ แต่รับรองว่าจะพยายามใช้ชื่อให้สั้น ๆ จำง่าย ๆ นะคะ ^^
ป.ล. แอบคิดอยากเขียนฉากที่ให้น้องกวางกับพี่หมาป่าเขาแชทผ่านกล้อง แล้วเปลื้องทีละชิ้น หน้ากล้อง โชว์กัน ...แต่คิดไปคิดมา อย่าดีกว่า -*- เดี๋ยวจะโดนนายพิชญ์ตบบ้องหูคนเขียนเอา หุ ๆ