ตอนที่ 18
พ่อไอ้ปอเป็นเกย์
พ่อไอ้ปอเป็นเกย์
นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย!
ผม ไอ้ต้น ไอ้กรีน เดินเข้าบ้านมาต่างจากขาไปที่แลดูเสี้ยนและกระดี๊กระด๊าเป็นปลากระดี่ได้น้ำกันมาก ตอนนี้น่ะเหรอ เหอะ! พากันหมดอาลัยตายอยากตามผมไปกันหมดแล้ว พอพวกมันเห็นผมไม่มีอารมณ์ หลังจากดูหนังเสร็จก็ชวนกลับมาตั้งหลักที่บ้านผมก่อน
ไอ้กรีนมันเป็นคนที่อยู่ติดบ้านแล้วก็ขยันเรียน ไอ้ต้นเป็นพวกคุณหนู จะออกไปไหนพ่อแม่ตามใจตลอด ส่วนผม ทั้งจนทั้งโง่แล้วก็พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้
รู้สึกกูนี่ไม่มีอะไรดีเลย
ผมทรุดตัวเอาร่างนอนคว่ำพักบนโซฟาพักร่างกายอ่อนล้า แต่ใจล้ากว่า นึกถึงหน้าพ่อไอ้ปอแล้วหลับไม่ลงว่ะแม่ง นึกเห็นแต่ภาพตอนที่ปอมันแสดงถึงความเอาแต่ใจกับพ่อ ไม่แคร์พ่อเพราะเป็นแบบนี้นี่เอง
พอๆๆ หยุดคิดเรื่องของมัน หยุดเป็นห่วงมันได้แล้ว
จะแคร์อะไรมันมากมายวะเนี่ย!
ผมถอนใจ ดวงตามองนาฬิกาเป็นเวลาสี่โมงเย็น พวกไอ้ต้นมันยังไม่คิดจะกลับบ้าน เปิดทีวีแล้วก็นั่งคุยกันสองคนเหมือนไม่ได้คุยกันมาเป็นชาติ ไม่ใช่อะไรหรอกมันไม่ยอมมานั่งคุยให้ผมได้ยินด้วย มือผมยกโทรศัพท์เปิดดูไทม์ไลน์เฟชบุ้คตัวเอง เห็นรูปของมันเด้งขึ้นมาเป็นคนแรก
หล่อเหมือนเดิม
ดวงตาไปสะดุดกับคำบรรยายของมันที่เขียนไว้สั้นๆ ว่า
ขอโทษ
ผมสตั๊นนิ่งมองตัวหนังสือนั้นนานไปหลายนาทีก่อนจะเลื่อนไปเรื่อยๆ เห็นคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็สมน้ำหน้า บ้างก็ตอบรับคำขอโทษของมัน
รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว รีบมาง้อผมซะดีๆ ไอ้บอยเมียเก่ามันแสดงความคิดเห็นพร้อมกับหัวเราะลงท้าย ผมเบ้ปากก่อนจะปิดมันลงไปด้วยความไม่อยากรู้อะไรอีกต่อไป วางโทรศัพท์แล้วฟุบหน้าลงกับโซฟา
ภาพตอนเลือดมันไหล ใบหน้ามันดูไม่เจ็บเลย ต่างจากผมไปโดยสิ้นเชิง
เจ็บชิบหายตอนที่ทำมัน
“โอ๊ย เบื่อ!”
ผมร้องขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย ไอ้สองตัวที่นั่งอยู่หันขวับมามองหน้าตาตกใจคิดว่าผมอาจจะเสียสติไปเพราะเลิกกับผัวแล้วก็ได้ เหอะ พักนี้ชักจะชินกับคำว่าผัวเต็มแก่แล้วสินะ
เสียงไอ้ต้นมันลุกขึ้นมาทรุดตัวนั่งต่อหน้า
“เบื่อ งั้นหาอะไรทำกันดีไหม?” ว่าแล้วยิ้มกริ่มแปลกๆ จะชวนกูเล่นอะไรอีกล่ะ
“ทำอะไรวะ?”
“ก็…” มันลากเสียงทำกรอกตาคิด “แกล้งคนดีกว่าว่ะ”
ผมยกมือขึ้นพลางขยับนั่งทำท่าเกาหัวตัวเองมองตามสายตาไอ้ต้น เมื่อวานนี่มึงเพิ่งจะเศร้าน้ำตาคลอเบ้าอยู่เลยนะกูจำได้ แต่ไม่ได้อัดเป็นวิดิโอมาให้มึงดู ส่วนไอ้กรีนเดินเข้ามาแล้วมองตามรอยยิ้มอันโคตรจะมีเลศนัยของไอ้ต้น
แต่แม่งก็โคตรจะอยากรู้เลยเหอะ
“แกล้งใคร อะไรยังไง?” ผมว่า
ไอ้ต้นมันยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินเสียงคำถามของผมที่ถามออกไป แววตาคิดออกไปไกลแสนไกลก่อนจะทำหน้ามุ่งมั่น หันมาตอบด้วยความชัดถ้อยชัดคำว่า
“มีผัวใหม่กันเถอะ!”
เชี่ย!
ความคิดมึงนี่สร้างสรรค์มาก ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างเดิมกับความคิดของไอ้ต้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้กรีน ทำเป็นไม่สนใจเสียงไอ้นี่ไปด้วย
“มึงเอาอะไรคิดวะ?” ผมบ่น ฟังเสียงมันว่าไปด้วย
“มันเวิร์คนะมึง ถ้ามึงมีผัวใหม่ ไอ้เชี่ยพี่ปอจะได้หึง พอหึงมันก็ตามมายุ่งกับมึงอีก พอยุ่งมากๆ เข้าเราก็บีบให้มันทนไม่ไหวมาขอคืนดีมึงไง”
“ไม่เวิร์ค แล้วใครบอกว่ากูอยากไปคืนดีกับมัน”
“สายตามึงบอกกู”
เชี่ย มาทำรู้ดี
ผมหันตาไปมองทางอื่นไม่สบตากับมัน กลัวมันรู้ทันอีก
“ฟัคยู!” หันหน้าหนีว่าพลางชูนิ้วกลางไปให้ทีหนึ่ง
ผมฟุบหน้าลงกับหมอนนอนคิดตามในสิ่งที่มันว่า
ให้ทำแบบนั้น เพื่อที่มันจะได้มาง้องั้นเหรอ
แล้วใจจริงๆ ของผม ต้องการแบบนั้นไหม ผมอยากกลับไปหามันไหม
วันนั้นฟาดหน้ามันไปแล้ว แล้ววันนี้จะมาทำอะไรบ้าๆ บอ ให้มันมาง้อ นี่แม่งเข้าข้างตัวเองเกินไปปะวะว่ามันจะกลับมาจริงๆ คนดีๆ ที่มันคบมาก่อนหน้าผมก็มีเยอะแยะไป สู้ไปคืนดีกับพวกนั้นไม่ดีกว่าเหรอ
“นะภีม จะได้รู้ไงว่าพี่ปอคิดยังไงกับมึงแน่ มึงไม่เห็นตอนที่เขามาพูดกับกู ไม่เหมือนคนเดิมเลยนะเว่ย” มันว่าพลางเอื้อมมือมาดึงแขนผม
“ไม่เอา”
เรื่องนั้นผมรู้นานแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม มันเก่ง แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้โว้ย!
“นะภีม เดี๋ยวกูเอาด้วย กูจะทำให้พี่ธามมาขอคืนดีกับกู”
“นี่มึงอยากทำเองนี่หว่าแล้วมาบอกให้กูทำ ไอ้นี่!” ผมเงยขึ้นไปว่า มันยกยิ้มเขินๆ
“กูเพิ่งรู้ความจริงบางอย่างมา อยากจะลองใจพี่ธามอีกสักครั้งว่ายังรักกูอยู่รึเปล่า”
ผมชะงัก เห็นไอ้กรีนมันกำลังยิ้มไม่ออกพร้อมไอ้ต้นที่ยิ้มนิดๆ กับสิ่งตัวเองกำลังนึกถึง ผมรีบลุกขึ้นนั่งไปมองมันเหมือนตัวเองตกข่าวอะไรบางอย่าง แต่ว่า…ถือว่าช่วยเพื่อนก็ได้วะ
“เออ ก็ได้”
ผมว่าพลางพยักหน้ารับนิดๆ
ไม่ถึงสิบนาที ไอ้พี่พีก็มานั่งเสนอหน้าร่วมวงด้วยราวกับสนิทกับผมมาเป็นชาติ ตอนนี้มันไม่ได้จะกวนตีนหรือตั้งใจจะแกล้งผมแล้ว เพราะผมเป็นเพื่อนกับเมียมันไง แล้วผมแม่งก็ดันเอนเอียงไปทางพี่พีมากกว่าพี่ธามแล้วด้วย ลูกตื๊อมันเยอะไง
ทำไมแผนมันต้องใช้คนเยอะขนาดนี้ด้วยวะ คิดแล้วอาย วางแผนให้ผัวมาง้อขอคืนดี บัดซบชิบ!
“กับไอ้ปอไม่เห็นต้องทำอะไรสักอย่าง” พี่พีว่าเสียงเบาพร้อมยกยิ้มกับตัวเองราวกับรู้อะไรอยู่
ทำไมวะ ทำหน้ามีเลศนัยชิบหายไอ้พี่นี่
ผมอึกอักแล้วกล่าวเสียงเบา “ก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรหรอก รู้อยู่ว่ามันไม่ได้อยากจะคืนดีตั้งแต่แรก”
“ใครบอก?” เขาหันมาถาม ผมหลบตางุดลงพื้น
“สังเกตเอาเอง”
“เหอะ!” เขาหัวเราะแล้วหันไปทางอื่น ตัวสูงๆ ขยับไปมองหน้าไอ้ต้นที่ตอนนี้ทำหน้าบึ้งใส่ ทั้งๆ ที่มึงเป็นคนโทรเรียกไอ้พี่พีมันมากูจำได้ ถ่ายวิดิโอไว้แล้วด้วย
“แล้วเรียกพี่มามีอะไร?” ถามเหมือนเป็นคนใช้ หรือขี้ข้าอะไรทำนองนั้น หรือมันคิดไว้ว่าตัวเองเป็นแบบนั้นในสายตาไอ้ต้นจริงๆ
มันน่าสงสารนะผมว่า
“ก็…” ไอ้ต้นลากเสียง “พอจะมีเพื่อนที่ไม่สนิทกับพี่ปอพี่ธามสักสองคนไหมล่ะ?”
“กับไอ้ภีมกูหาให้ได้ แต่ของมึงกูไม่ยอม มึงเป็นเมียกูอยู่”
ผมกลืนน้ำลายมองหน้าไอ้ต้นที่เงยขึ้นไปว่า “ไม่! ไม่เอาพี่พี พี่ยังไงก็ไม่ยอมให้ผมคืนดีกับพี่ธามอยู่แล้ว ผมรู้หรอก”
พี่พีหันไปสบตากับมัน ทำเสียงเบาราวกับไม่รู้สึกรู้สา “ใครบอก กูยอมหมดแหละไม่ว่ามึงต้องการอะไร”
ตัวผมชาไปเลยแฮะเมื่อได้ยินพี่มันว่า ผมไม่คิดว่าพี่เขาจะยอมถอยให้พี่ธามง่ายๆ แล้วปล่อยให้ตัวเองเจ็บแบบนั้น ผมเคยคิดมาตลอดว่ามันเป็นคนเห็นแก่ตัวเองมากๆ แต่คราวนี้ผมคงต้องมองมันใหม่ มันเลือกที่จะเป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตาคนอื่นเพื่อไอ้ต้น
ต้น จะมีสักกี่คนที่ยอมเพื่อมึงขนาดนี้วะ
ไอ้ต้นเอง มันแสดงถึงความอึดอัดใจน้อยๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น คงจะวางตัวลำบากแน่ๆ เพราะทั้งคู่ที่ว่ามาก็เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน
“เดี๋ยวกูจะโทรเรียกมันมา ไอ้นี่มันชอบคนน่ารักๆ อยู่แล้ว” พี่พีว่าพลางยกโทรศัพท์ขึ้นเมื่อพูดถึงไอ้คนที่จะมาแสดงเป็นแฟนใหม่ผม
ใจหายชิบ
“แค่มาแสดงละครไม่ได้ให้มาจีบจริงๆ!” ไอ้ต้นมันร้องว่า ผมมองสายตาไอ้กรีนแล้วมันบอกเลยว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่กำลังจะทำ
“เออ กูรู้น่า ถ้าจีบจริงๆ ไอ้ปอมันเอากูตาย!” พี่พีว่า
มันชอบพูดเหมือนรู้อะไรอยู่เลยไอ้พี่พี
จะทำไง ไปอี๋อ๋อกับผู้ชายนอกจากไอ้ปอเนี่ยนะ คิดแล้วขนก็ลุกขึ้นมาเสียเฉยๆ เพราะผมไม่คิดว่าตัวเองจะไปมีอารมณ์หวานแหววกับผู้ชายด้วยกันคนไหนได้อีกนอกจากไอ้ปอคนเดียว
ทำไงดีวะ
ผมลอบมองพี่พีน้อยๆ แล้วว่า“แค่แสดงจริงๆ ไม่เอาถึงเนื้อถึงตัวด้วย”
“ไม่ถึงเนื้อถึงตัวไอ้ปอมันจะเชื่อได้ไง?” ไอ้พี่พี แบบนั้นก็เปลืองตัวแย่สิวะ
“ไม่ได้! แค่เดินควงกัน คุยกันก็พอ”
“นี่กูกะจะให้มึงเข้าโรงแรมกับมันเลยนะ”
ไอ้เชี่ย!
“ไม่เอา!” ผมรีบว่าพลางส่ายหน้า แค่จะมองตาแล้วยิ้มหวานๆ ให้ผู้ชายด้วยกันกูก็จะอ้วกแล้ว นี่มึงกะจะให้มันพากูเข้าโรงแรมเนี่ยนะ ไอ้บ้า มึงเอาสมองส่วนไหนคิด!
“เลิกกวนตีนมันซักทีเถอะพี่ ผมวางแผนไว้แล้วพี่ไม่ต้องมายุ่ง”
“ไม่ให้ยุ่งได้ไงก็กูอยู่ในแผนด้วย มึงต้องถึงเนื้อถึงตัวนะภีม ถ้าไม่โดนตัวกันเลยไอ้ปอมันจะเชื่อได้ไง ดูนะทำแบบนี้…”
มันลากตัวไอ้ต้นมานั่งบนตัก ใจผมเจ็บจี๊ด ตูดกูคงนั่งตักใครไม่ได้นอกจากตักของไอ้ปอ ไอ้ต้นมันดิ้นขลุกขลักพร้อมกับแสดงถึงความโมโห แต่แก้มนี่แดงอย่างกับกำลังเขิน เหมือนผมเลยว่ะ เวลาเขินชอบทำโมโหกลบเกลื่อน
“อย่า ไอ้พี่พี ไอ้นี่! ปล่อยผม!”
“มึงขัดขืนแบบนี้ไอ้ธามมันจะเชื่อได้ไง?”
“ไม่เอา อย่ามาจับ!”
“แต่มึงจะให้ผู้ชายคนอื่นจับว่างั้น จะให้คนเขาแตะต้องมึงง่ายๆ แค่เพราะเขาไม่ใช่กูงั้นเหรอ สมกับที่มันว่ามึงง่ายนะ”
“ไอ้พี่พี!” ต้นมันร้องว่า “เพราะผมรังเกียจพี่ไง สกปรก”
“ใครกันแน่ที่สกปรกกว่า กูน่ะเอากับมึงคนเดียว แต่มึงน่ะเอากับกูคนเดียวรึเปล่า กูรู้นะว่ามึงกับไอ้ปอ…”
“เงียบ ก็ได้ๆ ยอมก็ได้!”
ต้นมันยกมือปิดปากคนพูดแล้วหันมามองผมเหมือนจะกลัวว่าผมโกรธ ผมส่ายหน้าเพราะรู้ดีว่ามันผ่านมานานมากแล้ว ผมไม่ทีทางโกรธมันได้ กลับรู้สึกผิดแทน ส่วนพี่พี ไอ้นี่มันก็ชอบขู่ดีจัง ปากก็จัด ใครเป็นเมียนี่เวลาทำผิดคงโดนด่าเจ็บแสบน่าดู ไอ้ผมก็ได้แต่ยกมือกุมหน้าไม่ไหวกับมันสองคน
มันจะรอดรึเปล่าเหอะ
“เราจะออกไปเที่ยวกลางคืนกัน แล้วทีนี้ พี่พีไม่ต้องไปหรอก ไปอยู่ห้องพี่ปอกับพี่ธาม พอผมโทรไปตามให้มารับ บอกว่าผมเมาแอ๋ไอ้ภีมก็เมามากกลับเองไม่ได้ พี่ทำยังไงก็ได้ให้ทั้งสองคนนั้นรู้ให้ได้ว่าพวกเราอยู่ไหน ให้มาเจอผมกับไอ้ภีมอยู่กับคนอื่น โอเคไหม?”
พี่พีส่ายหน้า “มึงใช้อะไรคิดวะต้น พวกมึงยังไม่ถึงสิบแปดจะเข้าไปเที่ยวที่แบบนั้นได้ยังไงหา อีกอย่างเหมือนกูนี่พิศวาสห้องไอ้ปอมาก ร้อยวันพันปีนอกจากนัดกินเหล้ากูก็ไม่เคยคิดจะไปห้องมันด้วย ถ้าไปวันนั้นน่ะผิดปกติชัวร์”
ผมยกยิ้มกับสิ่งที่พี่พีว่า ต้นมันกลอกตาไปมาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เออว่ะ แล้วเอาไง”
ปวดสมองว่ะกู ขอเข้าห้องน้ำไปปลดทุกข์แปปเหอะ
“เอาแผนกู ให้กูเป็นคนวางแผน” พี่พีว่า
“ไม่เอา ไม่ๆๆ”
“ฟังกูนะ กูรู้จักพวกมันดีแล้วก็รู้ว่าทำยังไงมันถึงจะเนียนโอเคไหม แผนคือพวกมึงมาบ้านกู เดี๋ยวกูจะจัดให้ จะทำเป็นว่างานวันเกิดแฟนใหม่ไอ้ภีมแล้วกัน แล้วจะชวนพวกมันไปด้วย ถ้าพวกมันไม่ไปกูก็จะทำทีให้พวกมันรู้ละกันว่าไอ้นั่นมันเป็นแฟนใหม่ไอ้ภีม โอเคไหม?”
ไอ้ต้นที่คัดค้านตอนแรกพยักหน้ารับพลางยกนิ้วโป้งให้ “เรื่องเลวๆ นี่โคตรเก่งอะ”
“เออ โดยเฉพาะกับมึง กูวางแผนอย่างดี”
ผมยกรอยยิ้มกับตัวเอง มองไปยังไอ้กรีนที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์กับแผนนี้เมื่อมันไม่ได้ร่วมด้วย จากนั้น พี่พีก็ชวนไอ้ต้นกลับบ้านแต่มันยังยืนยันว่าจะอยู่และขอค้างกับผมในที่สุด ไอ้กรีนเช่นกัน
เวลาบนนาฬิกาบอกเวลาทุ่มกว่า ผมนอนฟุบหน้าลงบนโซฟา วันนี้มาเที่ยวและเดินทั้งวันทำเอาผมเพลีย นอนรอไอ้ต้นที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นคนที่อาบน้ำนานเป็นชั่วโมง ไม่รู้จะถูอะไรนักหนา ก็เลยง่วงๆ พริ้มตาหลับพักผ่อนรอมันไปพลาง
ในบ้านเย็นสบาย ผมเคลิ้มหลับไม่รู้ตัว
ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน มารู้สึกตัวก็ตอนที่มีคนมานั่งเบียด ลืมตาเห็นว่าเป็นไอ้กรีนที่โน้มหน้ามาทำท่าจะปลุก ผมพยายามลืมตา แต่ด้วยความตกใจผมผลักมันออกจากตัวสุดแรงจนร่างของมันเซล้มไปกองกับพื้นเมื่อเห็นในระยะแค่คืบ
มันแสดงถึงความตกใจน้อยๆ เมื่อผมลุกขึ้นนั่งมองมัน
ดวงตาของมันมองผมด้วยความไม่เข้าใจ
“ขอโทษนะกรีน เราไม่ได้ตั้งใจ”
มันส่ายหน้า แสดงถึงความไม่พอใจแล้วเดินหนีออกจากบ้านไปเงียบๆ ไม่บอกไม่กล่าวอะไรสักคำ ผมไม่ชอบเลยที่มันทำแบบนี้เพราะตอนที่ผมเศร้าก็มีแค่มันที่เดินเข้ามาปลอบ ร่างของผมรีบสาวเท้าตามมันไปยังหน้าบ้าน วิ่งตามหลังร่างของมันพยายามยื้อแขน
“กรีน เราขอโทษ”
“พอกันทีภีม ปล่อยให้เราไป” มันว่าพลางเรียกแท็กซี่
“เราไม่ได้…”
“ช่างมันเถอะ เรากลับนะ”
มันมองผมนิ่งก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง ตัวผมสั่นได้แต่มองตามรถคันนั้นด้วยใจที่เบาหวิวแปลกๆ ไม่อาจจะทำใจในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แค่ผมกำลังตกใจเท่านั้นไม่คิดว่ามันจะโกรธผมขนาดนั้น
ก็ไหนว่ามันไม่ได้เป็นเกย์ มันรังเกียจคนที่แสดงความรักต่อกันจะตาย ผมตกใจที่มันเข้ามาใกล้ก็เท่านั้นเอง ผิดเหรอที่ทำไปแบบนั้น
ผมจะเสียเพื่อนดีๆ อย่างมันงั้นเหรอวะเนี่ย
เวลาผ่านล่วงเลยไปสองสามวัน ผมกับไอ้ต้นและพี่พีก็วางแผนเริ่มเรื่องที่จะแกล้งไอ้ปอกับพี่ธามได้สำเร็จ แต่ใจจริงผมกลัวตัวเองมากกว่าที่จะเจ็บถ้ามันไม่รู้สึกอะไรเลยในสิ่งที่ผมยอมลงทุนทำ
“มึงพร้อมยังเนี่ย?”
เสียงของไอ้ต้นที่ว่าย้ำกับผมซึ่งวิญญาณล่องลอยไปที่ไหนสักแห่ง ร่างของพวกเรายืนอยู่หน้าบ้านหลังโตหลังหนึ่งซึ่งกำลังอึกทึกครึกโครมจากเสียงเพลงด้านใน ภายในบ้านมีรถหรูๆ หลายคันจอดอยู่น่าจะเป็นรถของแขก ก็โรงเรียนที่ผมเรียนมันเป็นที่ที่รวมคนมีกะตังค์นี่นา
ว่าแต่ว่า นี่บ้านพี่พีงั้นเหรอเนี่ย
รวยไม่หยอกเหมือนกัน ผมกลืนน้ำลายมองรอบๆ บ้านแล้วหันไปมองหน้าไอ้ต้นที่จ้องเขม็งจับผิด ก่อนจะอึกอักรวบรวมความกล้า
“เออ พร้อมละน่า” ผมว่าปัด
ใจนี่ร่วงลงมากองตาตุ่มเมื่อเห็นไอ้ต้นพาเดินนำเข้าไป ได้แต่สาวเท้าเดินตามร่างของมันที่ถือกล่องของขวัญมาพร้อมกับใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง มันดูจะตื่นเต้นมากเหมือนกับไม่เคยไปงานวันเกิดใครมาก่อนงั้นแหละ
แต่ว่า นี่งานวันเกิดแฟนใหม่ผม ท่องไว้ก่อนเดี๋ยวผิดคิวละตายแน่ แผนแตกน่ะสิ
โอย คิดแล้วการทำแบบนี้ นี่มันบ้าชัดๆ
เราสองคนเดินเข้าไปในบ้านที่ตอนนี้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณหนึ่งนั่งอยู่ ใจผมหายเมื่อเห็นว่าพี่ธามกับไอ้ปอนั่งรวมกลุ่มอยู่กับพี่พีและเพื่อนๆ หน้าเดิมๆ ในกลุ่ม พี่พีเห็นแล้วดังนั้นจึงทำท่ากวักมือเรียกพร้อมร้องให้ไอ้ปอพี่ธามหันมามองด้วย ใจผมนี่สั่นแทบจะออกจากอกกับความกดดันจากไอ้ต้น มันกลัวผมทำแผนแตก
ผมทำเพื่อมันหรอก เพราะยังไงซะปอมันก็ไม่ได้รักผมอยากคืนดีกับผม
แล้วทำไมใจต้องหายด้วยวะ
“ภีม มาๆ มานั่งข้างพี่ครับ ดีใจจังนึกว่าจะไม่มาพี่อุตส่าห์ชวน”
ไอ้เชี่ยนี่แหละครับ แฟนใหม่ผม หน้าตาก็ ไม่จัดว่าหล่อมาก ตัวสูงผิวเข้มเพราะกร้านแดด มาดนักกีฬา เป็นเพื่อนของพี่ธามที่ดูจะ…ไม่น่าจะมาคบกับมันได้ แต่เอาเหอะ มันก็ไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร
ได้มีโอกาสคุยกับพี่เขามาสองสามครั้ง พี่พีมันพามา มันรู้เรื่องของผมดีเลยซึ่งดูยังไงก็โคตรจะน่าอายยังไงก็ไม่รู้ที่จะต้องมาทำอะไรบ้าๆ นี่เพื่อทดสอบใจไอ้ปอ
ผมเบิกตาเมื่อมันแม่งปากว่ามือถึงเอื้อมมือมากุมมือผมเดินเข้าไป มันชื่อพี่อิฐ เรียนที่เดียวกันกับพี่พี ดูออกเป็นคนขำขัน ร่าเริง ขี้เอาใจด้วยนะจากสายตามันน่ะ ผมแอบหลบสายตาไอ้ปอเมื่อพี่อิฐมันจับผมทรุดตัวนั่งบนโซฟาข้างๆ ตัวพี่เขา ส่วนไอ้ต้นก็เหมือนกัน ไอ้นี่ก็เล่นสมบทบาท ทรุดตัวนั่งลงบนตักพี่พีท่ามกลางสายตาโหดๆ ของพี่ธาม
พี่ธามหึงมันแฮะ ทำหน้าไม่สบอารมณ์เหมือนปวดขี้
“ดื่มไหม?” พี่อิฐว่พลางยิ้ม ทำทีโน้มหน้ามาใกล้แล้วยักคิ้วเป็นเชิงส่งอะไรสักอย่างมา
“อ้อ ดื่มก็ได้”
“ทำเหมือนพี่บังคับเลย เอาโค้กไปๆ” พี่อิฐว่า
“ไม่เอา เอาแบบพวกพี่น่ะแหละผมดื่มได้ ไม่เป็นไรหรอก”
“เอางั้นเหรอ ไหนบอกไม่ดื่มไง ถ้าเมาพี่ไม่หามกลับนะ” มันทำหน้ายิ้มเผล่ตอนว่า
ไอ้ผมก็แสร้งยิ้มหวานสุดๆ ให้ “งั้นพี่อิฐก็ค้างที่นี่กับผมสิ ได้ไหม?”
มันกำลังจะตอบตกลงครับ ไอ้ผมก็รีบเข้าไปกระซิบหน้าหวานๆ แต่…“กูโกหก”
มันชะงักนิดๆ ก่อนจะเบิกยิ้ม มือนี่เลื่อนมากอดบ่าผมแล้ว ใจของผมนี่กระตุกด้วยความเขินและทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นแววตาคนนั่งตรงข้าม มือหยิบเครื่องดื่มมาดื่มไล่ความร้อนออกจากตัว เวลาโกหกใครนี่ผมโคตรจะไม่เนียนเลยเหอะ
แหวะ!
กินไปยิ่งร้อนคอกว่าเดิมอีก ผมรีบหยิบโค้กเย็นๆ มาดื่มให้หายร้อนพลางสูดลมหายใจเข้า ผู้ชายอะไรวะแดกเหล้าไม่เป็นไอ้สัด
“ไม่ๆ ใครเขาดื่มเพียวๆ นี่ๆ เอาแบบผสมของพี่ไปกินก็ได้”
“แล้วของพี่ล่ะ?” ผมหันไปว่า
“ก็กินแก้วเดียวกับภีมไง”
มันยิ้ม ผมยิ้มตอบแล้วเอียงบ่าหลบให้มือมันตกออกจากตัวอย่างเนียนที่สุด ขยะแขยงไอ้สัด!
ตลอดเวลา ผมเอาแต่หลบตาไอ้ปอและไม่หันไปมองมันเลย คิดอยู่ตั้งนานสองนานว่าจะหันไปสบตา ไปทักทายอะไรมันสักหน่อยไหม แต่ตอนนี้ผมแม่งเหมือนผู้ร้าย เหมือนนักโทษแหกคุกที่ทำอะไรก็โดนจับจ้องตลอดเวลาจากมัน
ผมเงยไปสบตามันที่นั่งนิ่งจากตรงหน้า ระหว่างกลางเป็นโต๊ะเครื่องดื่ม ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ดวงตาอันเขียวปัดของไอ้ปอมันส่งมายังผมโดยที่ไม่พูดอะไร
เคยฟังเพลงไหม ไม่พูดก็ได้ยิน แต่กูนี่
เชี่ย!
ไม่พูดก็เสียวแล้ว
ผมได้แต่หยิบเหล้ามากระดก แล้วก็ร้อนคอ รสชาติห่วยแตกแต่ก็ดื่มแก้กระหายไปเรื่อย แต่แม่งผมว่าพอได้แล้วเดี๋ยวจะเมา แค่นี้ก็ตึงจนจะทำอะไรไม่ถูก คิดแล้วก็ปวดฉี่ขึ้นมาเสียเฉยๆ ว่าแต่ว่าห้องน้ำไปทางไหนวะแม่ง
หันหน้าไปหาไอ้ต้น มันโดนพี่พีเซ้าซี้อยู่ข้างๆ ไอ้นี่มันคอแข็งอยู่แล้วเรื่องอยู่ในวงเหล้าไม่ต้องห่วง ที่น่าห่วงคือกลัวว่าผมจะฉี่ราดกลางวงเถอะ โอย ผมยกมือเกาหัวตัวเองแล้วหันไปเจอะสายตาคนที่จ้องมาตลอด อะไรวะยังไม่เลิกจ้องอีก มึงจะเอาให้กูท้องให้ได้เลยปะวะ
ผมยิ้มยั่วๆ ส่งให้มันไปนิดๆ ยกมือทักทาย เออว่ะเมาแล้วหน้าด้านดี
ขยับเข้าไปถามทางเข้าห้องน้ำกับพี่ธาม มันละมามองผมแล้วยกยิ้มบอก
“เดินตรงไป เลี้ยวซ้ายนะ ตรงขวาจะมีรูปวิวอยู่ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย จำได้ไหม?” มันว่า ผมพยักหน้ารับหงึกๆ
“รูปวิวฝั่งขวาตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย เออ โคตรง่ายเลยพี่”
เยี่ยม ระดับกูไอสไตน์เรียกพ่อ
ผมพยักหน้ารับหงึกๆ แล้วลุกขึ้นเดิน ไม่สนไอ้พวกข้างหลังที่ร้องตามมา เดินตัวโยกเยกเกาะเฟอร์นิเจอร์บ้านพี่พีเดินไปเรื่อยๆ นิ้วมือชี้พลางมองออกไปด้านหน้า เมื่อกี้มันบอกว่าอะไรบ้างวะ
“ตรงไป…” ว่าพลางลากเท้าเดินสลึมลือไปด้วย ปวดหัวก็ปวด ดวงตาหาทางเดินไปเรื่อยกระทั่งเจอบันไดทางขวา ผมหันไปทางซ้ายที่เป็นทางแยก เซ้นส์ผมมันฉลาด
“เลี้ยวซ้าย…รูป รูป… รูปเชี่ยอะไร ไม่เห็นมี” ผมว่าพลางเดินต่อไป มองหารูปก่อนจะถึงบางอ้อ
สาวน้อยนั่งขยับขาเป็นรูปตัวเอ็ม
“วิวมึงนี่หมายถึงผู้หญิงโป๊เหรอ?”
ไอ้หื่นเอ๊ย แต่จะว่าไปวิวก็สวยใช้ได้นะ ผมนี่ยืนมองเพลินไปหลายนาทีเลยเหอะ
"เออ ลืมว่าปวดฉี่..." ผมบ่นอู้อี้งึมงำในคอหันมองหาประตูห้องน้ำ อยู่ไหนวะ
“เหี้ย!”
ขอประทานโทษที่ต้องอุทานคำไม่สุภาพทั้งๆ ที่จริงแล้วเป็นคนที่สุภาพนอบน้อมมาก เพราะตอนนี้โคตรตกใจเลย หัวยังมึนๆ อยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อร่างถูกลากเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่มีอ่างล้างหน้า ม่าน แล้วก็ชักโครก
ห้องน้ำนี่หว่า
เดี๋ยวๆ ขอผมประมวลผลในหัวสมองแปป เมื่อกี้ยืนดูวิวสวยๆ อยู่หน้าห้องน้ำ แล้วจู่ๆ ตัวก็ถูกกระชากเข้ามา…ข้างใน
ชิบหายละ!
ผมรีบเงยหน้าไปมองคนที่พาผมเข้ามา นี่มันจะจับกูข่มขืนปะวะ
“ไอ้ปอ!”
ผมอ้าปากค้างมองมันที่ยืนขมวดคิ้วตัวเองเข้มจ้องมายังร่างของผมซึ่งนั่งกองอยู่กับพื้น พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนแต่โลกมันเอนเอียงจนแทบจะยืนไม่ได้
ปอมันมา มันตามผมเข้ามาในห้องน้ำ!
ผมจะทำไงดี ไม่มีใครห้ามมันเลยเหรอตอนที่เดินลุกออกมาจากกลุ่มแบบนั้น หรือพี่พีเห็นด้วยครั้งนี้เพราะคิดว่ามันยังเป็นแผน ใจผมเต้นตึกตักสูบฉีดดีเกินไป อาการมึนเมาหายไปชั่วขณะ อยากจะบอกทุกคนเลยตอนนี้ว่า
ช่วยกูด้วย!
มาแล้วจ้า มาอัพให้แล้ว
ตอนนี้เรื่องเริ่มหลุดออกมาจากความดราม่าแล้วนะคะ จะกลับมาร่าเริงอย่างเคย ใครที่คิดว่าเรื่องนี้ดราม่าน่ะ มันจะดราม่าแค่ช่วงพีคของเรื่องเท่านั้น หนูนาอยากให้อ่านแล้วดูพัฒนาการของพระนายมากกว่าค่ะ ซึ่งตอนนี้ พวกนางๆสองนางก็พากันเล่นกับความรู้สึกของพระเอกทั้งคู่
มาดูกันว่าที่พี่ปอตามมานั่น จะมาทำอะไรระหว่างมาบอกว่ากูหึงมึงนะ หรือมาบอกว่าแผนมึงแตกแล้ว 5555
เจอกันตอนหน้าจ้า