Falling in love หลุมพลางหัวใจของนายหน้านิ่ง
(Special part)
เพื่อใครสักคน
วันนี้เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ อากาศเริ่มจะหนาวแต่ท้องฟ้ากับสดใสผมกับไอหมากายเราสองคนนอนขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มบวกกับอากาศที่เริ่มหนาวเหน็บเพราะแม้งดันเปิดแอร์ยังกับอยู่ขั้วโลกเหนือ..
"กายยยย"เสียงผมสั่นอย่างอดไม่ได้
"ห้ะ"แต่ไอหมานี้กับดูเสียงสดใสต่างกับผมลิบลับ
"ไปปิดแอร์ดิ้กูหนาว"ผมร้องบอกมันพร้อมกับมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม
"แต่กูร้อนอะทนหน่อยนะ ถ้าหนาวก็ขยับเข้ามากอด " มันพูดพร้อมกับแอ่นตัวรอผมแถมยังเสือกทำหน้าคิดเหมือนมันเป็นเรื่องเล่นๆ
"ถ้ากูหนาวตายนะกูจะมาหักคอมึงคนแรกเลยคอยดู"ผมพูดแต่ตัวเสือกดันขับเข้าไปให้มันกอด ห่าเอ้ยทำไมผมใจง่ายแบบนี้วะ
"รู้แล้ว"อยู่ๆมันก็โพล่งถามขึ้น
"รู้ไรวะ"
"วิธีทำให้อุ่นไง"
"วิธี?" ผมดันหน้าออกจากอกเพื่อมามองหน้ามัน สาบานถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่ทำอย่างนั้น ..ก็แม้งดูมันส่งสายตาหื่นกามมาที่ผมสิ และก็เป็นไปอย่างที่คิดครับไม่ทันที่ผมจะได้ตอบตกลงอะไรมันก็พุ่งจัวขึ้นมาคล่อมผมไว้ทั้งตัวก่อนจะเริ่มนัวเนียตั้งแต่หน้าผากขมับแก้มลามลงมาเรื่อยๆจนในที่สุดทุกสิ่งที่อย่างก็จบลงในเวลาไม่นาน
"เจ"หลักจากที่ผมเพลียๆกำลังจะเผลอหล้บกายมันก็ถามขึ้น
"อือ"ผมตอบโดยที่หน้ายังคงฟุบอยู่ที่อกของมัน
"กูว่ากูอยากทำธุระกิจวะ "ผมดันหน้าออกจากอกก่อนจะเงยมองมันให้ชัด
"มึงว่าไงนะ"
"กูอยากทำธุระกิจ"มันตอบหน้านิ่ง
"แต่มึงเรียนวิศวะนะ"
"ก็ทำควบคู่กันไปก็ได้นิ่ อีกอย่างนะทำธุระช่องทางการตลาดมันกว้างกว่าวิศวะเยอะ"
"แต่บ้านมึงรวยอยู่แล้วนิ่". นี้คือความจริงที่ผมยังตั้งข้อสงสัย
"นั้นเงินพ่อกับแม่กูเกี่ยวที่ไหนละ"
"แต่เขาก็พ่อแม่มึง ไม่มีก็ขอเขาสิ"ขนาดผมยังขอตังพ่อใช้อยู่ เลย กร้าก
"จะขอไปทั้งชีวิตเลยหรอวะ "คำตอบกายทำให้ผมหยุดคำและมองมันด้วยสายตาที่จริงจัง
"เอาจริงดิ"
"อืม"
"แล้วอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร"
"ระบบซอรฟ์แวร์ เครือข่าย อะไหล่คอมพิวเตอร์"
"นี้มึงเอาจริงดิ"
"กูเคยพูดเล่นหรอ ขนาดเมื่อกี้กูยังเอาจริงเลย"ไอสัดมัยคนละเอาแล้วบักหำ
"ความรู้มึงมีหรอ " เพราะถ้าเกิดให้มันไปเรียนใหม่คงปูพื้นฐานอีกยาว
"แฟนมึงเป็นใครมึงลืมแล้วหรอ"
"เป็นหมา ชอบกัด ชอบเลีย ชอบซุก ชอบดม กูชินละ"คำพูดของผมทำเอามันหลุดคำไปหลายนาที ก่อนที่มันจะดึงหน้าผมเข้าไปจุ้บที่หน้าผาก น้านไง ผมพูดผิดที่ไหนกันละ
"กูเกียรตินิยมเชียวนะมึงลืมแล้วหรอ.."เออผมก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปซะชิบ
"แล้วจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่อะ"
"เริ่มมาสักพักแล้วแต่พึ่งมีโอกาสได้บอกมึง "
"แล้วพ่อแม่ละรู้เรื่องยัง"
"ยังอะกูมาบอกมึงก่อน "
"ไอลูกทรพีแทนที่มึงจะบอกพ่อแม่มึงก่อน "อดด่ามันไม่ได้จริงๆ
"เพราะกูแคร์มึงไง อีกอย่างมึงเป็นเมีย ถ้ากูแคร์คนอื่นมากกว่าเมียตังเองเดี้ยวมันก็น้อยใจแย่สิวะ"เออเว้ยแม้งพูดมีเหตุผล เอารางวัลไปหนึ่งที จุ้บ
. . . .
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ผมกลับมาอยู่ร้านช่วยพี่อินขายของ เกือบทั้งวันที่ผมนั่งรอ ข้อความในไลน์ขึ้นแจ้งเตือนรอแล้วรอเล่ามันก็ยังไม่ทักมา เอ๊ะหรือ มันเป็นอะไรไปนะ ว่าแล้วก็ทักไปแม่งเลย
JJ:Naja.: ฮัลโหลว วอสองๆ
รอเกือบนาทีกว่ามันจะตอบผมมา
Guy.smile : ว่าไง
คือมึงจะตอบคนที่เป็นห่วงมึงแค่นี้จริงๆหรอวะ
JJ:Naja.: ทำไรอยู่คิดถึง.
Guy.Smile: อ่านหนังสืออยู่. พึ่งจบไปสามบทเอง
JJ:Naja: เมียมึงเป็นหนังสือรึไง ไอสัด อ่านอยู่ได้แล้วกูละ
ลึกๆในใจผมแอบเก็บไปคิดเล็กคิดน้อยเรื่องที่มันให้ความสนใจเกี่ยวกับหนังสือมากกว่าผมนะ
Guy.Smile: ขอเวลาอีกนิดนะใกล้จบแล้ว อีกไม่กี่บทเอง รอหน่อย
คือกูรอจนเหงือกแห้งละไงสัด ไม่ทักกูมาซักที ผมโคตรน้อยใจเลยจงใจเงียบใส่มัน
Guy.smile.: โกรธหรอ
เออ โกรธไอสัด ยังกล้าถามอีกเนอะ เซ้นต์มึงต่ำรึไงไอควาย แต่สิ่งที่ทำได้จริงๆก็มีเพียง
JJ:Naja: ป่าวหรอก อ่านต่อเถอะ กูช่วยงานพี่อินต่อละ
ผมหวังอย่างให้มันคิดทักท้วงอะไรสักนิดแต่มันดันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จะมีก็แต่
Guy.Smile: (สติ๊กเกอร์ หมีน้อย พร้อมกับแคปชั่นว่าสู้ๆ)
สู้พ่อง ไอสัดกูงอล
แม้จะเก็บมาคิด แต่ลึกๆในใจผมก็แอบเข้าใจมันนะ กายมันโตเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ จนบางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองดูเด็ก ลงไปเลยตอนอยู่ด้วยกันกับมัน
หลายสัปดาห์ผ่านไปเรายังคุยกันน้อยลง แต่ก็อาจจะมีบางครั้งที่ มันเป็นฝ่ายชวนผมออกไปทานข้าวบ้าง รวมถึงวันนี้ด้วย
ณ ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง
พนังงานสาวคนนึงน่าตาน่ารักเธอเดินเข้ามารับออเดอร์ที่โต๊ะผม เธอส่งเมนูให้พร้อมกับ ยืนรอรับออเดอร์
พรึ่บ พอเปิดออกมาลูกกะตาผมแทบถนนออกมาเต้นแซมบ้า ไอเหี้ย อาหารอะไรจานละสามสี่พัน
"เอา...&:฿4:/(-;&: ครับ แล้วก็ ;&;฿)
฿:& อีกที่นึง มึงเอาอะไรอะ " เอ่อเมื่อกี้หูผมไม่ดีรึมันพูดภาษาต่างด้าวกันวะ พูดไรวะฟังไม่รู้เรื่องแต่น้องพนักงานดันเสือกรู้วะเออ กูงง
"มึง น้องเขารอ "กายุามยย้ำผมที่เอาแต่เหม่อ
"ห้ะ เออๆแปปนะ"ผมสะดุ้งนิดๆเพราะกับลังพินิจเกี่ยวกับราคาอาหารจนเผลอเหมอลอยไปหน่อย ผมกวาดสายตามองตั้งแต่บนยันล่างจนสุดเมนูถึงเจอ
"เอาอันนี้ครับ "ผมชี้ให้น้องเขาดูน้องเขาพนักหน้าก่อนจะมองผมต่อ
"น้องเขารอไรวะ"ผมแอบกระซิบถามกายที่กำลังนั่งยิ้มอยู่...
"รอมึงสั่งไง"
"บ้ากูสั่งไปแล้ว "
"งั้นเอาเท่านี้แหละครับ" น้องพนักงานพยักหน้าก่อนจะเดินจากไป
ไม่นานนักอาหารก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าผมเป็นที่เรียบร้อย..แล้ว แต่เอ ผมตงิดอะไรในใจนิดหน่อยฺ ร้านนี้เขามีน้ำซุปเป็นออเดิปด้วยหรอ
"มึง "ผมถามกายตอนที่มันกำลัฃจิ้มไอเนื้อดำๆเข้าปาก
"อืม มีไรอะจะสั่งเพิ่มหรอ"
"ป่าว กูแค่จะถามว่า ร้านนี้มีบริการน้ำซุบด้วยเหรอวะ "
"ซุปอะไรของมึง"กายขมวดคิ้วถามผม
"ก็นี้ไง"ผมชี้ไอที่อยู่ในจานให้มันดู
"มึงสั่งอะไรไปละ"กายถามผมกลับ
"ไม่รู้อะอยู่แถวล่างๆ"
"ก็ถูกละนิ่ แถวนั้นมีแต่ซุป "หา !!!!! ผมร้องก้องในใจ ซุป ถ้วยละเกือบสี่ร้อยไอเหี้ย นี้กูทำอะไรอยู่..ถ้าคืนเขาตอนนี้จะทันมั้ยวะ
ผ่านไปสักพัก
"เจ เป็นอะไรรึเปล่า". จะบอกว่าชอคราคาอาหารก็กะไรอยู่
"ป่าวๆไม่มีอะไร"
"แต่หน้ามึงมันบอกว่ามี "เออเดาทางผมถูกแหะ. แต่เพื่อความสบายใจของมันผมจึงพูดอีกอย่างออกไป
"ก่อนจะมากูกินข้าวที่บ้านมาแล้วอะเลยอิ่มๆ "บอกไปทั้งที่เสียงท้องกำลังร้องคำรามเหมือนสิงโตนาเนียร์
"อิ่มแล้วงั้นคิดตังเลยละกัน"กายยกมือเรียกน้องพนักงานคนเดิมมาเก็บเงิน ส่วนผมนะเหรอๆเห้อๆ นั่งกุมท้องเก็บเสียงอยู่เนี้ย
"ทั้งหมดเจ็ดพันสี่ร้อยห้าสิบบาทค่ะ"พนักงานตอบหน้ายิ่งแต่กูนี้สิช็อคสตั้นไปแล้วแต่ความเหี้ยไม่ได้หยุดอยู่ที่ตรงนั้นสิครับ มันอยู่ตรงนี้ต่างหาก
"เจ กูลืมหยิบเป๋าตังมาอะ จ่ายให้ก่อนได้มั้ย "ผมอึ้งหนักมากไม่คิดว่ามันจะให้ผมจ่าย แต่ก็ยอมส่งบัตร ให้น้องเขาไปคิดเงิน
ข้อความแจ้งเตือนยอดเงินในบัญชีผมเหลือราวๆสี่พักกว่าบาท หึหึ น้ำตากูแทบไหลมึงรู้บ้างมั้ย...
พอกลับมาที่ร้านกายมันก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องยืมตังผมเองก็ไม่อยากพูดถึง มากเท่าไหร่ เดี้ยวมันจะดูเป็น การงี้เง่าไป. แปลกแต่จริงถ้าเป็นไอวินผมคงจะพูดไปแล้วแต่พอเป็นกาย ความกล้าจะทวงมันไม่มีเลย ผมเลยจำใจนั่งเงียบกอดกระเป๋าตัวเองพร้อมกับเงินเจ็ดพันกว่าๆ ที่ลอยลับหายไป ฮือๆๆ
และในคืนนั้นเอง ผมก็ได้รับข่าวเซอร์ไพรท์อะไรบางอย่าง แต่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ
"เจ กูมีเรื่องจะบอก..."
"อือว่ามา "คงไม่มีอะไรเศร้าเท่ากับเงินเจ็ดพันกุแล้วละ
"บอกพี่วินว่ากูจะไปอยู่ด้วยสักพักนะ"
"มีไรวะ ทะเลาะกับคนที่บ้านหรอ"
"ก็นิดหน่อย แต่เดี๋ยวคงเคลียได้"
"เออๆเดี๋ยวบอกให้"
"แต่เจ..."มันเว้นวรรคไปแปปนึงก่อนจะพูดต่อ
"ช่วงนี้กูไม่ค่อยมีตังอะ ขอใช้ด้วยกันกับมึงนะ" นี้แหละครับเซอไพรท์ของจริง เรื่องดีมั้ยละ ในบัญชีมีสี่พันกับในออมสินอีกพันกว่าบาทแค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้ว
และด้วยความป๋าของผมเองจึงตอบอืมๆไป
วันถัดมากายย้ายมาอยู่บ้านผมพร้อมกับพร็อบเสริมของมันทั้งหลายแหล่ กระเป๋าเสื้อผ้าแต่จะหนักไปทางหนังสือ..ผมช่วยมันจัดของบนห้องเสร็จก็ขอตัวออกมาช่วยงานอีกสักพัก กายมันก็ลงตามมาพร้อมกับแบมือขอตังผมน่าโคตรนิ่ง
"เอาไปทำอะไร"กายมันทำท่าคิดๆ
"หนังสืออะแล้วก็สมุดแลคเช่อร์" เออฟังดูมีเหตุผลอยู่
"เอาเท่าไหร่ละ"
"สามพัน "
"ห้ะ"...สส สามพัน เกือบหมดบัญชีกูเลยนะนั้น
"ตกใจอะไรแค่สามพันเอง"แค่สำหรับมึงแต่อื้อหือสำหรับกู
"ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปยืมไอวินก็ได้ มันพูดพร้อมกันหันหลังกลับ ผมเลยรีบคว้ามือมันเอาไว้
"มีๆเดี๋ยวไปกดมาให้"กายมันยิ้มร่าออกมา ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด.
"สัญญาเลยได้บัตรคืนเมื่อไหร่จะรีบเอามาคืนเลย"
"ห่าคิดมากมีเมื่อไหร่ค่อยเอามาให้ก็ได้"ปากกับใจผมที่ตอแหลได้อีก
หลังจากนั้นอีกหลายๆวัน กายมันก็ยังคงวุ่นกับการอ่านหนังสือ จนบางทีมันอาจลืม ว่ายังมีผมยืนอยู่ตรงนี้ หลายครั้งที่แอบน้อยใจ แต่ก็ต้องแกล้งว่าทุกอย่างโอเค อยู่ มันเหนื่อยจริงๆนะไอกายที่เราต้องทำข้ามกับสิ่งที่ใจเราคิดเนี้ย แต่พอมานึกๆดูความสุขของผมก็คือการได้เห็นรอยยิ้มของกาย นั้นคือสิ่งที่ผมหวงแหละห่วงที่สุดแล้ว เพราะต่อให้ผมมีเงินมากมายมหาสารผก็ไม่อาจซื้อความสุขแบบนี้ได้เลย
นานวันเข้าใกล้จะเปิดเทอม. กายมันยังคงยืมเงินผมต่อเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร พยายามทำงานเก็บเงินเท่าที่ตัวเองจะหาได้ แต่พอมาคิดๆดู เหมือนผมมีลูกชายเลยวะ ผมเป็นซิงเกิ้ลมัมหรือเปล่าวะ คิดแล้วก็นึกขำ แต่ก็ขำได้ไม้นานเพราะผู้จัดการเดินมานู้นแล้ว
อ่อผมอาจจะลืมบอก ตอนนี้ผมได้งานเป็นเด็กเสริฟ อยู่แถวทองหล่อ จะบอกว่าเงินดีมาก แถมติ้บนี้ไดิที่เกือบสี่ห้าร้อยแต่ก็นะ เงินดีก็ต้องแลกมาด้วยงานที่หนักขึ้นสองเท่า. ผมกัดฟันทนทำงานไปเรื่อยๆ เพือให้กาย มันมีเงินใช้ เพราะผมไม่รู้ว่ากายจะคืนดีกับที่บ้านเมื่อไหร่แต่ถึงมันจะไม่คืนดี ผมก็พร้อมที่จะทำแบบนี้ต่อไป
"เจ!" เสียงพี่อ้ายพี่ในที่ทำงานผมร้องขึ้นในตอนที่ผมถูกลังอะไรสักอย่างหล่นใส่หัว
"เป็นอะไรรึเปล่า"พี่อ้ายถามผมด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง
"สบายมากพี่"ตอบแบบนั้นทั้งๆที่ยังรู้สึกปวดๆที่ต้นคอ
"ทำอะไรระวังหน่อยละกันพี่ไปดูลูกค้าก่อนนะ"ผมพยักหน้าเป็นเชิงตอบก่อนที่พี่อ้ายจะเดินออกจากห้องไป
หลังเลิก งานผมรู้สึกเหมือนร่างตัวเองจะพังให้ได้ ระหว่างนั้นกายเองก็ส่งข้อความในไลน์ถามผมซึ่งผมก็ตอบทุกครั้งว่าอยู่กับไอวิน ใช่ ผมโกหกจนติดเป็นนิสัยไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ผมบอกว่าอยู่กับไอวิน กายมันก็จะสบายใจและไม่ถามอะไรต่อ นั่นแหละถึงทำให้ผมต้องบอกกับมันแบบนี้ทุกครั้ง ทึ่มันถาม
"จะกลับเมื่อไหร่ ไอเชี้ยวินรั้งตัวอีกแล้วใช่มั้ย กูจะโทรไปด่ามัน "ผมรีบปรามมันทันที ขืนมันโทรไปหาไอวินก็รู้หมดสิว่าผมโกหก
"เห้ยๆไม่ต้องจะกลับแล้ว เนี้ยไม่เกินครึ่งชั่วโมงหรอก .."
"ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะ ขลุกตัวอยู่แต่กับไอวินอะ กูเหงาเป็นนะ เจ"คำพูดที่เหมือนตัดพ้อของมันทำเอาผมรู้สึกผิด
"เอางึ้ เดี๋ยวกลับไปกูจะทำให้มึงอามรมณ์ดีเลย"บอกไปทั้งๆที่ร่างกายแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
"ให้มันจริง เถอะเจ ถึงเวลาทีไรคลุมโปรงหนีกูตลอด "เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ที่บางครั้งกายมันอยากแต่ไม่ได้อยากด้วยเลย อาจเป็นเพราะร่างกายที่แทบทั้งตัวผมของผมมีแผ่นบรรเทาปวดเต็มไปหมดด้วยแหละมั้งผมถึงพยายามเลี่ยงมาโดยตลอด
"เออเดี๋ยวไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า"
"งั้นกูไปรับเองดีกว่า กูเป็นห่วง"คำตอบของมันเล่นเอาซะผมลนลานทำตัวไม่ถูก
"เฮ้ย ไม่ต้อง เดี๋ยวกูกลับเองได้"
"กลับยังไงใครมาส่ง "
"พี่วินไง"
"ไม่เอาอะเดี๋ยวกูไปรับเองรออยู่นั้นแหละ"กายมันยังคนดึงดันจะมารับผมให้ได้
"บอกว่าไม่ต้องไงกายกูกลับเองได้ "จบคำพูดของผมมันโทรมาเลยครับสงสัยขี้เกียดพิมพ์
"เออ บอกให้นอนรออยู่บ้านไง"
"กูจะไปรับ.."
"ต้องทำไงมึงถึงจะสบายใจเนี้ย"ผมถามเหนื่อยๆ
"ให้กูไปรับสิ มีของจะให้ไอวินด้วย"ไปๆมาๆไอวินดันมีเอี้ยวเข้ามาด้วยซวยแล้วแถไงดีกู
"อะๆงั้นเดี๋ยวกูให้ไอวินไปส่งโอเคมั้ย มึงจะได้ไม่ต้องลำบากด้วย"กายเงียบไปสักพักก่อนจะตอบผมกลับมา
"เออ เอางั้นก็ได้"เฮ้อโล่งอกไปที
"โอเคไว้เจอกัน" หลังจากที่ผมวางสายก็รีบติดต่อไอวินให้มารับอยู่ที่จุดนัดพบ และไม่นานเท่าไหร่ไอวินมันก็โผล่มา
"ไอเจ มึงไปโดนใครซ้อมมาเนี้ย"ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถมันก็เอาแต่หันมามองดูผม
"ซ้อมห่าไรละกูทำงาน"
"งานห่าอะไรของมึงถึงสะบักสะบอมขนาดนี้ แล้วมือนี้ไปโดนอะไรมา แขนนั้นอีก ตรงคอ ท้ายทอยนั้นอีก นี้สรุปมึงไปทำงานหรือมึงไปออกรบมาเนี้ยห้ะไอเจ!"วินขมวดคิ้วถามผมเสียงดัง
"บอกกูมา สรุปมึงไปทำอะไรมาแน่ ขอดีๆนะตอบไม่ดีกูตบตอบไม่ตรงคำถามกูก็จะตบ "
"เว่อละมึงอะ"
"จะตอบไม่ตอบถ้าไม่ตอบโดดลงรถไป"ไอเหี้ยแม้งคนจริงวะ
"กูมีเด็ก"
"เด็ก?"มันทำหน้าเหมือนจะถามว่า เด็กอะไรของมึง?
"กูเลี้ยงเด็กอยู่คนนึงต้องหาเงินเปย์"เด็กชายคนนั้นชื่อทินกร ^.^
"ควายไอกายอีกละสิ แล้วมันรู้มั้ยเนี้ยว่ามึงแอบมาทำอะไรแบบนี้อะ"
"มึงคิดว่าถ้ามันรู้ มันจะให้กูออกมาปะละ"
"คงไม่"
"ก็เออไง"
"แล้วมึงจะหาเงินไปให้มันทำไมวะบ้านมันก็ออกจะรวย"
"มันทะเลาะกับทางบ้าน พ่อแม่มันเลยยึดเงินมันไปหมดกูถึงต้องดิ้นรนหาเงินให้มันใช่นี้ไง"
"เว่อร์ชิบ เหนื่อยตัวเองเปล่าๆ"คำพูดไอวินทำเอาผมรู้สึกฉุนนิดๆ
" มึงจะลืมคำว่า เหนื่อยไปเลย ถ้ามึง ได้ทำเพื่อใครสักคน.."
"โหคนจริง2018"
"แต่กูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทีกับกูมึงยังไม่เห็นเป็นงี้เลย. ทำไมถึงเป็นแต่กับไอกายวะ"ผมนึกยิ้มๆในใจก่อนจะพูดตอบ
" เพราะกู รักมันไง เหตุผลแค่นี้พอรึป่าววะ ..."End ..Special part.