Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]  (อ่าน 53326 ครั้ง)

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไหร่จะมาต่ออ่าาาารอนานละน๊าาาา

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อด้วยนะครับพอดีผมรออยู่

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
17


“เอาไรเพิ่มอีกป่าว?” ปืนเอ่ยถามคนที่ตักไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปาก ท่าทางมีความสุขของคนตรงหน้าทำให้เผลอยิ้มตาม


“ฮึ.. แต่อยากไปเดินดูของ น้ำหอมกูใกล้หมดแล้วอ่ะ” ร่างเล็กกว่าส่ายหน้าตอบพลางยกน้ำขึ้นจิบ


หลังจ่ายเงินเสร็จไอ้ปืนก็เดินตามตูดคนอายุมากกว่าต้อยๆเข้ามาในร้านน้ำหอมแบรนด์ดัง มองอีกฝ่ายคุยกับพนักงานหนุ่มที่ออกมาแนะนำสินค้าและลองน้ำหอมกลิ่นนั้นกลิ่นนี้อยู่หลายนาทีก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลือกได้ แล้วไอ้ท่าทางกะลิ้มเกลี่ยของพนักงานนั่นมันอะไรกัน มองเมียกูจนตาจะหลุดอยู่แล้วชิบหาย! ไอ้ปืนตีหน้ายุ่ง เดินดุ่มๆเข้าไปยืนซ้อนหลังคนที่กำลังฟังพนักงานคุยจ้อแล้วยกข้อมือขาวข้างที่อีกฝ่ายเพิ่งจะพรมน้ำหอมลงไปขึ้นมาจรดกับปลายจมูก สูดหายใจดังฟอดไม่สนสายตาหลายคู่ของลูกค้าในร้านและพนักงานอีกสองชีวิตที่มองมาแม้แต่น้อย


“ทะ ทำอะไรของมึงเนี่ย” ดวงตาเรียวสวยเบิกขึ้นอย่างตกใจ ที่อยู่ดีๆก็ถูกคนที่มาด้วยกันเข้าประชิดอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว พีทดึงมือออกจากการเกาะกุมของร่างสูงกว่าซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมปล่อยโดยดี ไม่ชินเท่าไหร่กับการทำอะไรเปิดเผยในที่สาธารณะแบบนี้ ถึงจะไม่แคร์แต่มันก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ ไหนจะสายตาหลายคู่ที่กำลังมองมานั่นอีก ผิดกับอีกคนที่ดูจะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่


“กลิ่นนี้แรงไป” ไอ้ปืนไม่ได้ตอบคำถาม มันว่าก่อนจะฉวยเอาน้ำหอมขวดที่อยู่ในมือขาวมาเก็บ แล้วหยิบเอาอีกขวดที่พนักงานคนเดิมแนะนำตะกุกตะกักว่ากลิ่นอ่อนกว่ามาฉีดเข้าที่ข้อมือขาวอีกข้าง จากนั้นก็ทำเหมือนเดิมโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสปฏิเสธ เล่นเอาคนเป็นพี่ถึงกับเบิกตากว้างปั้นหน้าไม่ถูกอีกรอบ “อืม.. กลิ่นนี้กำลังดีเลย หอมเย็นๆได้กลิ่นแล้วผ่อนคลายดี ปืนชอบ …พีทชอบรึเปล่า” ประโยคสุดท้ายไม่ว่าเปล่ามันยังก้มลงมาถามซะชิดอีกต่างหาก


“อืม ชอบ” ได้แต่ครางรับในลำคออย่างว่าง่าย ผิดกับไอ้ปืนที่ยิ้มหน้าระรื่น มันยอมผละห่างในที่สุดแล้วยื่นขวดน้ำหอมไปให้พนักงานคิดเงินอย่างสบายใจเฉิบ


“พีทแม่งขี้อ่อย” เดินออกจากร้านมาได้ไอ้คนตัวสูงก็เริ่มเปิดปากหาเรื่อง เล่นเอาอีกคนหันขวับมามองตาขวาง เรื่องอะไรมาว่าเขา!


“อ่อยห่าไร! มึงนั่นแหละทำไรประเจิดประเจ้อ”


“อ่อยไอ้พนักงานนั่นไง ยืนคุยกับมันอยู่ตั้งนานสองนานดูไม่ออกหรอว่ามันแม่งกำลังม่อพีทชัดๆอ่ะ” ไอ้ปืนเถียงกลับเสียงขุ่น พอ
จะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไงเวลาเห็นเขาแกล้งทำเป็นเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น นี่ถ้าพีททำบ้างเขาคงได้อกแตกตายไปจริงๆแน่ แค่นี้ก็หัวร้อนจะบ้า


แต่ดูเหมือนท่าทางหงุดหงิดของไอ้ปืนจะทำให้อีกคนอารมณ์ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น คนอายุมากว่ากอดอกฉับหรี่ตามองคนหงุดหงิดไม่หายตรงหน้ายิ้มๆ


“เขาก็แค่แนะนำไปตามหน้าทีไหมล่ะ อย่าคิดมากดิวะ อีกอย่างกูจะไปอ่อยคนอื่นทำไม มีอยู่แค่ตัวเดียวนี่ก็เหนือยเหลือจะรับแล้ว!” ว่าแล้วก็ขยี้หัวมันไปที มองหน้าเอ๋อๆของไอ้ปืนอย่างขำๆ ก่อนจะเดินลิ่วนำมันไปที่ลานจอดรถ


“พีทแม่ง..” ไอ้คนถูกทำตัวน่ารักใส่ถึงกับไปไม่เป็น ได้แต่โคลงหัวไปมายิ้มๆแล้วเดินตามแผ่นหลังเล็กไป พอเข้าถึงตัวก็ยกแขนพาดบ่าอย่างถือวิสาสะ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่ว่าอะไรไอ้ปืนก็ยิ้มร่ากระซับแขนแน่นเข้าจนสุดท้ายก็ถูกเจ้าของร่างเล็กหันมาถลึงตาใส่ แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะสะทกสะท้าน …แอบเห็นหรอกนะว่าเมื่อกี้มีหลุดยิ้มอ่ะ หึๆ


“พีท!!”


เสียงเรียกจากบุคคลที่สามดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้พวกเขาทั้งสองคนหันไปมองพร้อมกัน ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะเป็นฝ่ายชะงัก เมื่อเห็นว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนั้น …คนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนจนเขาแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าเคยมีคนๆนี้เป็นคนสำคัญในชีวิต


“พี่พงษ์..” เสียงพึมพำจากคนข้างตัวเรียกให้ปืนหันกลับมามองซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ใครคนนั้นเดินแกมวิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสองคน ใบหน้าหล่อเหลาฉีกยิ้มกว้าง


“ดีใจจังที่เจอพีทที่นี่ พี่โทรหาเราตั้งหลายรอบทำไมไม่รับสายกันบ้างล่ะ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ พี่คิดถึงพีทมากเลยนะ เป็นห่วงเรามากด้วย” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นมือเข้ามาหมายจะจับมือคนที่ยืนอยู่ข้างๆทำเอาไอ้ปืนถึงกับคิ้วกระตุก และก่อนที่ฝ่ายนั้นจะทันได้แตะต้องคนตัวเล็กฝ่ามือหนาก็ปัดเข้าที่มืออีกฝ่ายจนเกิดเสียงดัง เล่นเอาคนถูกขัดถึงกับตวัดมองตาขวาง พอๆกับไอ้ปืนที่จ้องหน้าอีกฝ่ายกลับด้วยสายตาขุ่นขวางไม่แพ้กัน


 “ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับพี่อีก ไปเถอะ” พีทที่เห็นท่าไม่ดีพูดขัดขึ้น ก่อนที่ประโยคหลังจะหันมาพูดกับคนข้างตัวพลางดึงต้นแขนแกร่งให้ออกเดิน


“เดี๋ยวสิพีท!” แต่อีกคนก็ยังตามไม่เลิก ปืนมองคนที่เดินเข้ามาดักหน้าตาขวาง ถึงไม่มีใครบอกก็พอจะเดาได้ว่าคนทั้งคู่น่าจะเคยมีความหลังกันมาก่อนและบางทีอาจจะจบกันไม่ดีนัก


แต่แล้วยังไงในเมื่อตอนนี้พีทเป็นของเขา!


“หลบไป” พีทบอกเสียงแข็ง มือที่กำลังจับแขนคนข้างตัวกระชับแน่นขึ้น ทว่าไอ้ปืนกลับบิดแขนออก เรียกให้ร่างเล็กหันขวับมามองอย่างตกใจ กลีบปากบางเผยอขึ้นคล้ายจะพูดอะไร แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากก็ต้องหุบฉับเมื่ออีกฝ่ายวาดแขนโอบรอบเอวแล้วดึงเข้าประชิดตัวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ปืนยกยิ้มมุมปากให้คนข้างกาย ก่อนตาคมจะหันกลับไปจ้องสบกับบุคคลที่สามซึ่งกำลังมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก


 “ที่หายหน้าหายตาไม่ยอมคุยกันนี่เพราะมีคนใหม่งั้นสิ ไม่ยักรู้ว่าพีทจะลืมพี่ได้เร็วขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังร้องไห้จะเป็นจะตายไม่ยอมให้พี่ไปอยู่แท้ๆ” อีกฝ่ายละสายตาจากไอ้ปืนไปมองร่างเล็กข้างกัน พีทเม้มปากแน่น เหลือบมองเสี้ยวหน้าของคนตัวสูงข้างกาย ดวงตาเรียวสวยสบเข้ากับหน่วยตาคมของไอ้ปืนที่มองมาอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก เขาสูดหายใจลึก จ้องสบตาคมแน่วแน่ ก่อนจะหันกลับไปจ้องหน้าร่างสูงของผู้ชายอีกคนด้วยแววตาแน่วแน่ไม่แพ้กัน


“ใช่ครับ…” พีทหยักยิ้ม “แต่อย่าลืมสิว่าพี่เป็นคนออกปากไล่ให้ผมออกมาเองนะ แล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องเอาอะไร หวงก้าง? อยากให้ผมกลับไปหา? อยากให้ผมกลับไปสนใจ? หรือแค่เพราะใครคนนั้นของพี่ทิ้งไปอีกแล้วล่ะ?”


“พีทพี่..”


“พอเถอะครับ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ผมถอยออกมาแล้วตามที่พี่ต้องการ เพราะฉะนั้นตอนนี้พี่ก็ควรจะถอยบ้าง ตามที่ผมต้องการ”


 “โอเค.. พี่ขอโทษ พี่ยอมรับว่าพี่ผิด แต่พีทให้โอกาสพี่อีกครั้งไม่ได้หรอ ให้พี่ได้อธิบายความรู้สึกที่มีต่อเรา พี่รู้ตัวแล้วนะว่าพี่รักพีท พี่คิดถึงพีทจริงๆนะ” อีกฝ่ายมีสีหน้าสลดลง แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอความเห็นใจ …แต่เขาก็เลือกที่จะมองข้าม


แรงกระชับที่เอวเรียกให้ต้องหันกลับมามอง ไอ้ปืนคิ้วขมวดยุ่งเขาเลยยิ้มให้เพื่อให้มันคลายใจ บอกผ่านสายตาว่าไม่มีอะไรให้ต้องห่วง เพราะตราบใดที่มันยังอยู่ข้างเขา เขาก็จะยังอยู่ข้างมัน และตราบใดที่มันยังต้องการเขา เขาก็จะไม่หนีห่างไปไหน


“ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นแหละครับ พี่ก็เห็นว่าผมมีคนใหม่แล้ว ผมรักเขามาก แล้วผมก็ไม่อยากทำให้เขาต้องผิดหวังเสียใจเหมือนที่พี่ทำกับผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง


“แต่พีทรักพี่!” น้ำเสียงและท่าทางมั่นอกมั่นใจของอีกคนเล่นเอาไอ้ปืนถึงกับคิ้วกระตุกขึ้นมาอีกรอบ แต่เพราะประโยคต่อมาของคนตัวเล็กข้างกันก็ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเย็นลงได้อย่างชะงัด มุมปากได้รูปยกยิ้มเย้ย ตาคมมองหน้าเจื่อนๆของผู้ชายตรงหน้าอย่างผู้เหนือกว่า …งานนี้ข่มได้กูข่มอ่ะบอกเลย


“เคยครับ ผมแค่เคยรักพี่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”


“พีท..”


“กลับไปตามง้อคนของพี่เถอะครับอย่ามาเสียเวลากับผมเลย หมดเรื่องแล้วผมขอตัวนะครับ” และไม่ทันให้อีกคนได้พูดอะไร พีทก็ลากแขนคนตัวสูงข้างกายให้ก้าวฉับๆตามมาขึ้นรถโดยไม่หันกลับไปสนใจอีกคนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น


“ไม่ถามหรอ” บรรยากาศเงียบเชียบในรถตั้งแต่ขับออกมาจากห้างสรรพสินค้าถูกทำลายลงด้วยคำถามของคนตัวเล็กกว่า


“ถามอะไร” พีทถอนหายใจเฮือกใหญ่ ละสายตาจากถนนเบื้องหน้าแล้วหันมาจ้องคนที่กำลังบังคับพวงมาลัยแทน ไอ้ปืนเลิกคิ้วพลางยิ้มนิดๆเมื่อเห็นว่าเขาขมวดคิ้วยุ่ง ...กวนตีน รู้ทั้งรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร


“ก็เรื่องเมื่อกี้ คนที่เข้ามาหาเรื่อง”


“อือฮึ” ไอ้ปืนพยักหน้า


“ไม่โกรธรึไง”


“ทำไมต้องโกรธ?” คนถูกย้อนถามคิ้วกระตุก พอเห็นว่าคนเป็นพี่เริ่มหน้าตึงไอ้ปืนก็หัวเราะออกมาเบาๆ พีทมองมันตาขุ่น ชกเข้าที่ไหล่กว้างไม่เบานัก ไอ้ปืนเลยแสร้งร้องโอดโอยทว่าใบหน้าหล่อเหลากลับระบายยิ้มกว้าง


“กวนตีน” ไอ้ปืนชอบเป็นอย่างนี้ตลอดเลย พอเขาจริงจังก็ชอบมาทำเป็นเล่น


“หรืออยากให้โกรธล่ะ” มันหัวเราะในลำคอ ตามองถนนตรงหน้าพลางเหลือบมองเขาเป็นระยะ


“….” พีทไม่ตอบ


“จริงๆก็ไม่พอใจแหละ” ปืนเกริ่นขึ้นเมื่อเห็นว่าคนข้างๆเงียบไป “แต่พอได้ยินว่าพีทรักปืนมากกกกก แถมยังสัญญาว่าจะไม่ทำให้ปืนเสียใจอีก มันก็เลยพอจะหยวนๆกันได้” ว่าพลางไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ จนคนที่มองอยู่ชักเริ่มหมั่นไส้มันขึ้นมาตงิดๆ


“เหอะ!”


“พีท”


“อะไร”


“รักเหมือนกันนะ”


“….”


“สัญญาว่าจะรักเดียวใจเดียว ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เจ้าชู้”


“….”


“ยอมให้ซักที แล้วปืนสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีเลย”


“ไอ้สัด!”


พีทที่ก้มหน้าก้มตาซ่อนริ้วแดงบนผิวแก้มถึงกับหันขวับ ไม่วายปล่อยหมัดลงบนไหล่แกร่งของคนอายุน้อยกว่าไปทีด้วยความหมั่นไส้ในความกวนโอ้ยของมัน


“รุนแรงตลอดๆ”


“อีกซักทีดีไหมห๊ะ”


“พอแล้วจ้า พอแล้ว” ไอ้ปืนพูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถึงตาจะต้องคอยมองถนนแต่ก็ไม่วายเหลือบมองคนชอบใช้ความรุนแรงข้างกายเป็นระยะ ซึ่งอีกฝ่ายพอหันมาสบตากับเขาก็มองค้อนใส่บ้าง เบะปากใส่บ้าง แต่แอบเห็นนะว่าพีทแม่มแอบยิ้มด้วยอ่ะ กิ้วๆ


มีแฟนน่ารักนี่มันกร๊าวใจจริงๆ!


.

.


เกือบหกโมงเย็นหลังพาคนเป็นพี่ไปหาซื้อของฝากจนได้ตามที่เจ้าตัวต้องการ ร่างสูงก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง ยุทธนาไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ทำไร่ทำสวนอย่างที่ตั้งใจเพราะถูกคนเป็นน้องเบรกไว้ซะก่อน แต่ของฝากที่ได้ติดไม้ติดมือมาก็ถือว่าถูกใจเขามากทีเดียว ที่เหลือก็ได้แต่หวังว่ามันจะถูกใจคนรับล่ะนะ


กลับมาถึงคอนโด หลังทำอะไรง่ายๆทานกันเสร็จเจ้าของห้องก็ไล่ให้เขาไปอาบน้ำ ส่วนเจ้าตัวก็นั่งทำอะไรไม่รู้อยู่หน้าคอมพ์ กระทั่งเดือนสิบอาบเสร็จถึงได้บอกให้คนเป็นพี่เข้าไปอาบบ้าง ซึ่งคนเป็นพี่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำไปก็ยังไม่วายฉวยโอกาสหอมแก้มนิ่มๆจนคนเป็นน้องเผลอค้อนเข้าให้ เดือนสิบโคลงหัวเบาๆ ก่อนจะเดินมานั่งเช็ดผมบนเตียงกว้าง ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มบาง มองไปทางประตูห้องน้ำที่ใครบางคนเพิ่งเข้าไปได้ไม่นานแล้วก็ได้แต่สายหัวไปมา เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่ มือไม้ไวเป็นปลาหมึกห้ามไม่เคยทัน


ฟึบ!


“อื้ออ พี่ยุทธ! ทำอะไรเนี่ย หนัก” เดือนสิบโวย เมื่อนอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ดีๆคนเป็นพี่ก็ทาบทับลงมาทั้งตัว แถมยังฉวยโอกาสแนบปากเย็นๆไปทั่วใบหน้าเขาอีกต่างหาก


“หมั่นเขี้ยว” ว่าแล้วก็ฟัดแก้มนิ่มๆนั่นอีกซักทีโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียงโวยวาย ก่อนจะพลิกร่างคนเป็นน้องให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้วกอดเอวไว้หลวมๆ เดือนสิบอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขาเหมือนเดิม ซึ่งมันทำให้เขาอดใจไม่ได้ทุกทีที่ได้เห็น อยากหอม อยากฟัด อยากกอดรัดเอาไว้ทั้งตัวไม่ให้ไปไหน


“ฮื้อ! พอแล้ว” พอโวยไม่ได้ก็เริ่มมาออดอ้อน หัวทุยส่ายไปมาบนไหล่เขา ยุทธนายิ้มเอ็นดูกับท่าทางนั้น อดยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองกับน้องมีนิสัยเหมือนกันก็ตรงนี้ ชอบเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียยามอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ


“จูบก่อน” ยื่นข้อเสนออย่างเจ้าเล่ห์ ทว่าครานี้ลูกแมวน้อยกลับไม่ตกหลุมพราง เจ้าตัวเอาแต่มุดหน้ากับไหล่กว้างราวกับรู้ดีว่าถ้าหากได้เริ่มจูบคนเจ้าเล่ห์ก็ยากที่จะหยุด “ไม่จูบจับปล้ำนะ” ไม่ว่าเปล่าแต่ยังพลิกตัวคนเป็นน้องลงมาอยู่ใต้ร่างอีกต่างหาก เดือนสิบแทบจะทุบเข้าให้


“โอ้ยย ไม่ต้องเลยพี่ยุทธ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ลุกออกไปเลยครับ ผมหนัก” เดือนสิบทำเสียงเข้ม มองคนพี่ตาเขม่งแต่อีกคนกลับยิ้มระรื่น


“ใจร้าย” ตัดพ้อด้วยแววตาพราวระยับ ดูน่าหมั่นไส้จนอยากจะทุบให้ซักที


“ไม่ต้องมามองด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะ” จ้างให้ก็ไม่ใจอ่อนหรอก เดือนสิบส่งเสียงหึขึ้นจมูกแล้วเบือนหน้าหนี แต่ถึงอย่างนั้นคนพี่ก็ยังไม่วายตามมารุกรานแก้มใสอย่างแกล้งๆอีก โวยวายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยกระทั่งเขาหมดแรงหอบแฮกนั่นแหละเจ้าตัวถึงได้ยอมผละห่างแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี มันน่าทุบซักทีไหมเนี่ย


“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย ดูซิเนี่ยยับยู่หมดแล้ว”


“เบื่อพี่ยุทธว่ะ ขี้แกล้ง” เดือนสิบย่นจมูกพลางส่ายหน้าหนีมือคนเป็นพี่ที่ยื่นมาบีบแก้มนุ่มจนมันยุบลงไป ยุทธนาหัวเราะ ปล่อยมือจากแก้มน้องแล้วเปลี่ยนมาจับรวบมือเล็กเอาไว้


“ก็แกล้งแค่คนนี้คนเดียว”


“ตลอดเลย”


เสียงหัวเราะหึๆดังอยู่ในลำคอ ก่อนที่คนเป็นพี่จะล้มตัวลงนอนแล้วเกี่ยวเอาร่างน้องลงไปด้วย ยุทธนารั้งขาขาวให้พาดติดกับช่วงเอวสอบก่อนจะรวบเอวบางเข้าหาจนแนบชิดไปทุกสัดส่วนเล่นเอาคนเป็นน้องถึงกับหน้าร้อนวาบ


“พี่ยุทธ” เรียกชื่ออีกคนเสียงเบายามริมฝีปากร้อนแตะลงเบาๆบนแผ่นอก


“ชู่วว.. แค่นอนกอดเฉยๆ” เสียงทุ้มกระซิบ พลางคลายแขนออกเล็กน้อยเป็นกอดหลวมๆเพื่อให้น้องนอนได้สบายตัวขึ้น เดือนสิบพอได้ยินแบบนั้นก็เริ่มผ่อนคลายแล้วเป็นฝ่ายวาดแขนโอบรอบตัวคนเป็นพี่ไว้บ้าง


“เล่าเรื่องครอบครัวพี่ยุทธให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ” นิ่งไปซักพักเดือนสิบถึงได้เอ่ยขึ้น ฝ่ามือที่เทียวไล้วนอยู่บนแผ่นหลังทำให้เขารู้ว่าพี่ยังไม่หลับ


“ทำไม่จู่ๆถึงอยากรู้?” ถามทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่กับอกน้อง แนบริมฝีปากเข้าหาซ้ำๆจนเจ้าของร่างเผลอแขม่วหน้าท้องไม่เป็นจังหวะเพราะความรู้สึกหวิวแปลกๆ


“ก็แค่อยากรู้… ไม่ได้หรอครับ?”


“ได้ครับ…” ยุทธนายิ้มจาง มือหนาไล้วนอยู่บนผิวเนื้อเนียนผ่านช่วงเอวบางก่อนจะเริ่มเอ่ยปาก “พ่อกับแม่พี่แต่งงานกันเพราะธุรกิจ พ่อค่อนข้างเป็นคนเจ้าชู้.. แต่งงานกับแม่แล้วก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคน สุดท้ายแม่ทนไม่ไหวเลยขอหย่า…”


“พี่ยุทธ” เดือนสิบครางแผ่ว ผละห่างจากคนเป็นพี่เล็กน้อย ก่อนจะประคองใบหน้าคมคายให้เงยขึ้นมาสบตา “ขอโทษนะครับ”


“พี่ไม่เป็นไร อีกอย่างเรื่องมันก็ผ่านมานานจนแทบจะไม่มีผลอะไรต่อความรู้สึกไปแล้ว” เขายิ้มให้น้อง กุมมือเล็กกว่าไว้แนบอก
“พอหย่ากันแม่ก็เอาพี่ชายไปอยู่ด้วย ส่วนพี่ก็อยู่กับพ่อ นานครั้งถึงจะได้เจอแม่บ้างเพราะท่านย้ายไปอยู่กับสามีใหม่ที่อิตาลี ส่วนพี่ชายก็เจอกันอยู่เรื่อยๆ จำได้ใช่ไหมร้านอาหารที่พาไปกินคราวนั้น”


“ครับ จำได้” เดือนสิบพยักหน้า


“พี่โอเคจริงๆ ตอนนี้ก็กำลังมีความสุขมากด้วย” เอ่ยย้ำแล้วกอดรัดตัวคนเป็นน้องแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงทำหน้าหงอยๆป


“ผมไม่น่าถามเลย”


“ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าอยากไถ่โทษจริงๆก็ต้องรักพี่ไปนานๆรู้เปล่า?”


“อื้อ …รักพี่ยุทธ” อ้อมแขนเล็กกระชับแน่นเข้า ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะมอบสัมผัสบางเบาลงบนหน้าผากเนียนของคนเป็นพี่ ทำอยู่
อย่างนั้นสามสี่ครั้งราวกับต้องการปลอบประโลม


“พี่ก็รักเรา เดือนสิบ”


*********





หายไปนานเลย ขอบคุณทุกคนที่ยังรอนะคะ  :กอด1:
เดือนที่แล้วปัญหาเราเยอะมากจริงๆ ทั้งเรื่องสอบทั้งกิจกรรม ไหนจะปัญหาทางบ้านอีก
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้วคงได้มาต่อบ่อยๆเหมือนเดิม
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะคะ แถมยังมาสั้นอีก ฮาาา
ตอนหน้าพี่ยุทธจะไปเจอพ่อตาแม่ยายแล้ววว
 :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-06-2017 15:18:50 โดย เล็กต้มยำ »

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ดีใจที่กลับมาต่อนะ
น่ารักทั้งสองคู่เลย
พี่ยุทธจะไปฝากตัวกะพ่อตาแล้ว เอาใจช่วยพ่อตารักแม่ยายหลง

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ดีใจ กลับมาแล้ว เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ลุ้นๆตอนหน้าพ่อตาแม่ยายจะหวงลูกชายหรือเปล่า

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ดีใจที่คนเขียนกลับมา
หวานนะตอนนี้ :-[

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ตอนนี้นี่กลับมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจคนอ่านแท้ๆๆ >\\\\\\\<

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
พี่ยุทธซื้ออะไรไปฝากพ่อตาแม่ยายกันนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ปืน พี่พีท  :L2: :L2: :L2:
ดีมาก ปืนแสดงความเป็นเจ้าของพีท
พี่ยุทธ เดือนสิบ มุ้งมิ้ง น่ารัก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ยังไงก็ยังรอออออ
นิยายดีๆแบบนี้จะทิ้งได้ไงๆๆๆ
รีบมาต่ออีกน้าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาใจช่วยพี่ยุทธชนะใจพ่อตาแม่ยาย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอาใจช่วยนะพี่ยุทธ หวังว่าจะชนะใจพ่อตาแม่ยายได้นะ

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
กลับมาแล้ววววววว น่ารักเหมือนเดิม :hao3:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
รักกันนานๆนะคะ

ออฟไลน์ TheP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักเหมือนเดิม  :mew1:

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักทั้ง 2 คู่เลยครับ,,,

ออฟไลน์ LoveRead

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
กร๊าวใจมากค่า ฮือออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
18


ซีอาร์วีป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานครเลี้ยวเข้ามาจอดที่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ในเขตรั้วบ้านสีขาวเหลือง บ้านของเดือนสิบเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ทาสีขาวทั้งหลัง บริเวณรอบบ้านเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับหลากชนิดที่เยอะจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสวนดอกไม้ขนาดย่อม แต่ที่เห็นเด่นชัดสุดๆคงเป็นต้นกุหลาบขาวที่ปลูกเรียงกันอยู่ราวๆสี่ห้าแปลงใหญ่ซึ่งกำลังเริ่มออกดอกชูช่อ เยื้องไปทางด้านหลังอีกหน่อยจะเห็นกุหลาบหินหลายสิบต้นหรืออาจจะเป็นร้อยต้นที่ตั้งเรียงกันอยู่บนชั้นไม้ทาสีขาวเรียบๆ รวมถึงกระบองเพชรและไม้พันธุ์แคระชนิดอื่นๆอีกประปราย


“บ้านน่ารักดีจัง” เสียงทุ้มเอ่ยชมหลังจากลงรถมาแล้วกวาดสายตามองบริเวณโดยรอบอย่างคร่าวๆ เขาสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปวดเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินมาช่วยคนเป็นน้องขนของลงจากหลังรถ


“ขอบคุณครับ” เดือนสิบยิ้มรับ ก่อนจะเดินนำพี่เข้าไปในบ้าน เขาบอกให้อีกฝ่ายนั่งรอที่โซฟาก่อนจะเดินเข้าครัวไปเอาน้ำเย็นๆมาให้ ดวงตาเป็นประกาย ยามเปิดตู้เย็นแล้วเห็นขันน้ำใบใหญ่ที่ข้างในลอยดอกมะลิแช่เอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆของมันเรียกรอยยิ้มถูกใจขึ้นมาประดับอยู่บนริมฝีปากได้รูป


“ทำไมบ้านเงียบจัง” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อกวาดสายตามองโดยรอบแล้วไม่เห็นใครซักคน


“สงสัยเข้าไร่กันมั้งครับ พี่ยุทธดื่มน้ำก่อน” เดือนสิบว่าพลางยื่นขันน้ำลอยดอกมะลิไปตรงหน้าคนพี่ ยุทธนาเลิกคิ้ว มองของที่อยู่ในมือน้องก่อนจะรับขึ้นมาจิบเมื่อเจ้าตัวพยักพเยิดให้ลอง กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิบวกกับน้ำเย็นๆทำให้เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ความปวดเมื่อยจากการขับรถยาวนานกว่าหกชั่วโมงคล้ายจะค่อยๆจางไปทีละนิด


“เป็นไงครับ” มองคนเป็นน้องที่กำลังมองมาด้วยดวงตาเป็นประกาย เขายิ้มตอบแล้ววางขันน้ำลงตรงหน้า


“ชื่นใจ”


ได้ยินดังนั้นเจ้าบ้านก็ยิ้มกว้าง


“แม่ชอบน่ะครับ แช่ไว้ก่อนออกไปทำงานกลับบ้านมาจะได้มีน้ำหอมๆเย็นๆไว้ดื่มแก้เหนื่อย บางทีก็เอาน้ำยาอุทัยทิพย์มาหยดใส่มันจะกลายเป็นสีแดงๆดื่มแล้วเย็นๆแถมยังแก้ร้อนในได้อีกด้วยนะ พี่ยุทธเคยกินรึเปล่าครับ”


“ไม่หรอก แต่ฟังที่เราพูดแล้วชักอยากจะลองเหมือนกัน” คนเป็นน้องได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วน ก่อนจะผุดลุกเดินหายเข้าไปในครัวชั่วครู่แล้วกลับออกมาพร้อมกับขวดอะไรซักอย่างในมือ


“นี่ครับน้ำยาอุทัยทิพย์ แต่อันนี้เป็นแบบสกัดเองตามภูมิปัญญาชาวบ้านนะ หอมชื่นใจกว่าซื้อจากตลาดเป็นไหนๆ” พรีเซ้นต์สรรพคุณเสร็จสรรพเจ้าตัวก็เหยาะมันลงไปในน้ำ กลั้วขันให้มันกระจายจนกลายเป็นสีแดงอ่อนๆแล้วถึงได้ยื่นมาตรงหน้าเขาอีกครั้ง ตากลมเป็นประกายจ้องสบมาราวกับจะบอกว่าให้เขาชิมมันเดี๋ยวนั้น ยุทธนาหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางกระตือรือร้นจนชวนให้รู้สึกเอ็นดูนั่น ก่อนจะยกขันน้ำขึ้นจิบอีกครั้ง กลิ่นหอมเย็นๆถึงจะแปลกไปหน่อยแต่ก็ช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลายจนลืมตัวดื่มไปเสียหลายอึก


"อื้มม หอมมาก" เอ่ยปากชมเปาะ เรียกสีหน้าภูมิอกภูมิใจนักหนาจากคนเป็นน้อง


“บอกแล้ว ขวดนี้แม่ผมสกัดเองกับมือด้วย เน้นกลิ่นดอกสารภีมากหน่อยเพราะแม่ชอบมากเป็นพิเศษ ที่หลังบ้านมีปลูกไว้ตั้งหลายต้นแน่ะ พี่ยุทธเคยเห็นรึเปล่าครับ” ยุทธนาส่ายหน้ายิ้มๆ ปล่อยให้คนเป็นน้องพูดนั่นเล่านี่ให้ฟังไปเรื่อยๆ น้ำเสียงห้าวต่ำบวกกับท่าทางดูมีชีวิตชีวากว่าครั้งไหนๆชวนให้ฟังไม่รู้เบื่อ เดือนสิบดูเหมือนจะร่าเริงขึ้นมากตั้งกลับมาถึงบ้าน ไม่สิ เรียกว่าตั้งแต่ตื่นเช้ามาเลยต่างหาก ตอนนั่งรถมาด้วยกันก็ชวนเขาคุยนั่นคุยนี่ไม่หยุด


“โอ๊ะ! ลืมไปเลย พี่ยุทธหิวรึยังครับ” อยู่ดีๆคนที่เอาแต่พูดจ้อก็กลับมาทำหน้าตกใจราวกับเพิ่งนึกได้ว่าลืมเรื่องสำคัญไปยังไงอย่างนั้น


“นิดหน่อย” เขาตอบ จริงๆก็หิวมาซักพักแล้วแต่เห็นว่าน้องกำลังเล่าเรื่องเพลินๆเลยไม่อยากขัด นานๆทีเดือนสิบจะพูดมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่เถียงว่าชอบฟังเสียงห้าวๆนั่นพูดเจื้อยแจ้วแบบนี้ เจ้าตัวพอได้ยินคำตอบก็หัวเราะแหะๆ เอ่ยขอโทษขอโพย


“ผมก็ลืมไปเลย พี่ยุทธรอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวผมไปดูกับข้าวในครัวก่อนไม่รู้ว่าแม่ได้ทำไว้ให้รึเปล่า” ว่าจบก็รีบเดินแกมวิ่งเข้าไปในครัวอีกรอบ ทิ้งให้ร่างสูงได้แต่มองตามยิ้มๆ รออยู่ไม่นานใบหน้าน่ารักก็โผล่ออกมาจากหลังประตูอีกครั้ง


“พี่ยุทธ มีแกงเลี้ยงผักหวานกับผัดยอดฟักแม้วแหละ ทานได้รึเปล่าครับ” เสียงใสเอ่ยถาม ยุทธนาพยักหน้ายิ้มๆ คนน้องเลยผลุบหายเข้าไปในครัวอีกครั้ง เขาเดินตามไปหยุดยืนอยู่หน้าประตู เห็นน้องกำลังสาละวนอยู่กับการอุ่นกับข้าว


“อยากได้อะไรเพิ่มรึเปล่าครับ” เจ้าตัวเอ่ยขึ้นเมื่อหันมาเห็นเขา ยุทธนาเลยส่ายหน้า


“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม”


“ช่วยไปนั่งรอเฉยๆก็พอครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง” ว่าพลางยักคิ้วกวนๆแล้วหันไปยกหม้อที่มีควันหอมฉุยพวยพุ่งออกมาลงจากเตา


“เดี๋ยวพี่ช่วยยก”


“ไม่ต้องๆ พี่ยุทธไปนั่งรอเลย บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวผมจัดการเอง” เจ้าตัวทำหน้าขึงขังก่อนจะเดินมารุนหลังเขาให้เดินออกจากห้องครัว ยุทธนาได้แต่โคลงหัวยิ้มๆแล้วเดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเดิม แต่ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่งเสียงคุยกันที่แว่วมาจากหน้าบ้านก็ทำให้เขาชะงักอยู่กับที่ซะก่อน


“เพราะแม่เลยมัวแต่โม้ไม่หยุด”


“ใครจะไปรู้ล่ะพ่อ ปกติเห็นมารถประจำทางกว่าจะถึงก็เกือบเย็นโน่น โอ๊ะ!”


“เอ่อ.. สวัสดีครับ” ยุทธนายกมือไหว้สองสามีภรรยาที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ของคนที่เตรียมกับข้าวอยู่ในครัว รอยยิ้มเล็กๆถูกส่งไปให้เมื่อถูกผู้อาวุโสกว่าทั้งสองชะงักมองเขาอย่างแปลกใจ ก่อนที่ผู้เป็นภรรยาจะเป็นฝ่ายยิ้มหวานแล้วเดินเข้ามาใกล้


“ไหว้พระเถอะพ่อคุณ มากับเดือนสิบใช่ไหม”


“ครับ ผมชื่อยุทธนาครับ เรียกยุทธเฉยๆก็ได้ ยังไงต้องขอรบกวนคุณลุงกับคุณป้าด้วยนะครับ” รีบเอ่ยแนะนำตัวพร้อมฝากเนื้อฝากตัวไปด้วยไม่ให้เสียโอกาสซะเสร็จสับ ถึงจะรู้สึกเกร็งๆนิดหน่อยในทีแรกแต่พอได้รับรอยยิ้มกว้างๆละม้ายคล้ายกับคนเป็นน้องใจมันก็ชื้นขึ้นมาบ้าง


“รบกงรบกวนอะไรกันฮึ เพื่อนเจ้าสิบก็เหมือนลูกแม่อีกคน ยังไงก็ให้คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองนะ ไหนมาให้แม่ดูใกล้ๆหน่อยซิ หน้าตาหล่อเหลาหน่วยก้านก็ดี ดูซิเนี่ยสูงกว่าพ่อตั้งเยอะแน่ะ” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักจนคนถูกพาดพิงทั้งที่ยืนมองนิ่งๆอยู่ทีแรกต้องเอ่ยปรามอย่างไม่จริงจังนัก


จากที่ได้สังเกตบุพการีทั้งสองคนของน้องคร่าวๆ ยุทธนาก็สรุปได้ทันทีว่าเดือนสิบถอดแบบจากคนเป็นพ่อมาแทบจะทุกระเบียดนิ้ว หน้าตาละหม้ายคล้ายคลึงจนแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน จะมีก็แต่ดวงตากลมโตคู่นั้น และรอยยิ้มสดใสที่ถอดแบบผู้เป็นแม่มาไม่มีผิดเพี้ยน พ่อของเดือนสิบเป็นคนตัวเล็ก อาจจะสูงกว่าน้องบ้างนิดหน่อยแต่พอมาเทียบกับเขาก็ยังเรียกได้ว่าตัวเล็กกว่ามากอยู่ดี ส่วนคนเป็นแม่ก็เหมือนกัน ส่วนสูงอยู่แค่ระดับอกของเขาเท่านั้น หน้าตาก็ยังดูไม่แก่มาก กะจากสายตาคร่าวๆน่าจะอยู่ที่ประมาณสามสิบปลายๆ หรือไม่ก็สี่สิบต้นๆ ผิวขาวสะอาดด้วยกันทั้งคู่ดูไม่เหมือนคนทำไร่ทำสวนเลยซักนิด เห็นแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเดือนสิบถึงได้ผิวสวยขนาดนั้น เพราะถอดแบบจากทั้งคนเป็นพ่อและแม่มานี่เอง


“ก็มันจริงนี่พ่อ ว่าแต่เจ้าสิบไปอยู่ไหนซะล่ะ” ว่าพลางชะเง้อหาลูกชายที่โทรมาบอกตั้งแต่เช้าว่าจะกลับมาหาวันนี้


“แม่!” เสียงใสดังออกมาก่อนตัวทันทีเมื่อได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในบนสนทนา ก่อนที่ร่างเล็กในมือมีถาดอาหารจะเดินแกมวิ่งตึกตักออกมาจากในครัว วางกับข้าวลงบนโต๊ะได้ก็โผเข้ากอดคนเป็นแม่เสียเต็มรัก “คิดถึง”


“ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” คนเป็นแม่ยิ้มรับจนเต็มแก้ม กอดลูกชายไว้เต็มอ้อมแขนพลางลูบหัวลูบไหล่ให้พรไม่ขาดปาก ความอบอุ่นคุ้นเคยที่ถึงแม้จะห่างหายไปนานทำให้เดือนสิบกระชับกอดแน่นขึ้น สูดเอากลิ่นหอมของดอกมะลิอ่อนๆจากไหล่เล็กที่กำลังซุกซบอยู่จนเต็มปอด ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมานานคล้ายจะปลิวหายไปเพียงแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้


“พ่อ..” กอดแม่จนเต็มอิ่มถึงได้ค่อยๆผละออกแล้วขยับมายืนอยู่ตรงหน้าบุพการีอีกคนที่กำลังกางแขนรอท่าอยู่ก่อนแล้ว เดือนสิบยิ้มให้พ่อ ที่ทำเพียงคลี่ยิ้มจางๆส่งมาก่อนจะโผเข้าหาอ้อมกอดที่ห่างหายไปนานจนเต็มรัก


“ขวัญมานะเอ็ง”


คำอวยพรสั้นๆแต่เรียกความรู้สึกสุขล้นได้มากโข เดือนสิบกอดกระชับคนเป็นพ่อแน่น ใบหน้าน่ารักเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มจนเต็มแก้ม ไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อที่นานครั้งจะได้เผยรอยยิ้มกว้างๆแบบนี้ซักที


“พ่อผอมลงอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย” เดือนสิบเอ่ยขึ้นหลังจากผละห่างออกมาแล้วไล่สายตาสำรวจพ่อทั้งตัว ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกันดูซูบตอบลงไปนิดหน่อยจากครั้งสุดท้ายที่เจอกัน


“ผอมอะไรของเอ็ง น้ำหนักข้าขึ้นตั้งสองกิโล” คนเป็นพ่อเถียงพลางลูบหัวลูบไหล่ลูกชายไม่ขาด ใบหน้าแม้ติดจะนิ่งเรียบตามความเคยชินทว่าแววตาที่มองลูกชายคนโตกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและคิดถึง ขนาดยุทธนาที่เป็นคนนอกมองอยู่ห่างๆยังสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากดวงตาคู่นั้นไปด้วย


“ไม่จริงหรอก พ่อทำงานหนักอีกแล้วใช่ไหม สิบบอกแล้วไงว่าให้พักบ้าง”


“ขี้บ่นเหมือนแม่เอ็งไม่มีผิด”


“ก็มันจริงนี่ พ่อน่ะชอบรั้น เนอะแม่เนอะ” เดือนสิบย่นจมูกใส่เมื่อถูกพ่อโยกหัวไปมา แต่ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มกลับไม่จางหายไปจากใบหน้า ยิ่งผู้เป็นแม่เออออรับคำไปตามน้ำเจ้าตัวก็ยิ่งหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ


“เข้ากันดีจริงๆ นะพวกเอ็ง แล้วนี่มาถึงกันนานรึยังล่ะ” ผู้อาวุโสสุดในบ้านว่าพลางหันไปมองแขกไม่คุ้นตาที่กำลังมองมาหน้าสลอน เล่นเอาคนที่อยู่ดีๆก็ถูกสามคนพ่อแม่ลูกจ้องมาเป็นตาเดียวถึงกับนิ่งชะงักไปชั่วขณะ


“ถึงซักพักแล้วครับ” ยุทธนาตอบ เขารู้สึกเกร็งขึ้นมานิดหน่อย แต่พอเห็นน้องคอยส่งยิ้มให้กำลังใจมาอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งสายตาที่คอยส่งมาถามไถ่อยู่ตลอดว่าเขาอึดอัดไหม โอเครึเปล่า เพียงแค่นั้นยุทธนาก็ยิ้มออกแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เพียงแต่เกร็งนิดหน่อยเพราะยังไม่คุ้นชินเท่านั้น


คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะรุนหลังลูกชายที่ยังยืนเกาะเป็นลิงให้เข้าไปนั่ง


“งั้นก็กินข้าวกินปลากันซะก่อน ว่าแต่อาหารบ้านๆอย่างนี้พอกินได้ไหมล่ะไอ้หนุ่ม”


“ได้ครับ ตอนอยู่ที่กรุงเทพน้องก็ทำให้ทานบ่อยๆ” คนแก่กว่าชะงักนิ่งไปชั่วขณะ แววตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมองสำรวจคนหนุ่มกว่า


“สนิทกันมากรึ”


“ครับ ผมกับน้อง เอ่อ เดือนสิบอยู่หอพักใกล้ๆกัน เลยไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ” ยุทธนามองตอบอีกฝ่ายอย่างฉะฉาน ก่อนจะรีบเปลี่ยนสรรพนามเมื่อเห็นว่าคนเป็นหัวหน้าครอบครัวหลุดคิ้วกระตุก
จากสายตาที่มองเขาเหมือนจะจับผิดนี่แล้ว ดูท่าคนเป็นพ่อเขาจะหวงลูกชายไม่เบาเลยทีเดียว


 “เป็นพี่เป็นน้องกันมันก็ดี มีอะไรจะได้ช่วยเหลือช่วยดูกัน เจ้าสิบไปอยู่ที่โน่นก็ตัวคนเดียวแม่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ …นี่ยังแปลกใจกันไม่หายเลยนะตั้งแต่ที่โทรมาบอกว่าจะมีเพื่อนมาด้วย ปกติก็ไม่เห็นว่าจะพาใครที่ไหนมาเที่ยวบ้านเที่ยวช่องซักที” คนเป็นพ่อบ่นยาว เดือนสิบเลยย่นจมูกใส่


 “มีแต่แม่ห่วง แล้วพ่อไม่ห่วงสิบบ้างหรอ”


“ข้าก็ห่วงหมดนั่นแหละ ทั้งเอ็งทั้งเจ้าอ้ายมันด้วย” โดยเฉพาะเดือนอ้าย เจ้าลูกชายคนเล็กที่เหมือนจะแสบจะซนกว่าพี่มันเป็นไหนๆ


 “เอ้อ แล้วนี่อ้ายมันอยู่ไหนอ่ะแม่ ตั้งแต่มาสิบยังไม่เห็นเลย” เดือนสิบตักข้าวใส่จานส่งให้คนเป็นพ่อ พลางเอ่ยถามถึงน้องชายวัยไล่เลี่ยกันที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบ้าน


“ไร่ลุงพงษ์โน่น แกมาตามตั้งแต่เช้า เห็นว่าเจ้าเพชรมันไม่อยู่เลยให้อ้ายมันไปช่วยขับรถให้”


เดือนสิบพยักหน้ารับหงึกหงัก ถามโน่นถามนี่กับบุพการีทั้งสองอีกนิดหน่อยระหว่างที่ทานข้าวไปด้วย บ่อยครั้งที่เขาเห็นพ่อเอาแต่จ้องมองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ขนาดพูดกับเขาสายตาก็ยังเอาแต่จับจ้องอยู่ที่พี่ยุทธไม่ไปไหน


 “แล้วนี่จะมาอยู่กันซักกี่วันล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม มองลูกชายที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆด้วยรอยยิ้ม แถมยังเผื่อแผ่ไปยังชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆลูกชายเธออีกด้วย


“จนกว่าจะเปิดเทอมโน่นอ่ะ สิบอยากอยู่กับแม่นานๆ” คนเป็นลูกก็ว่าพลางยิ้มอ้อนซะเต็มแก้ม


“แล้วแม่บอกให้กลับตั้งแต่ปิดเทอมก็ไม่ยอมกลับ มันน่าตีนักเชียว”


“ก็ทำงานไงแม่ เนี่ยได้มาตั้งสองหมื่นเชียวนา” ว่าอย่างอวดๆ คนเป็นแม่เห็นท่าทางภูมิอกภูมิใจของเจ้าตัวก็อดเอ็นดูไม่ได้


“ได้มาก็เก็บไว้ อย่าเอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เอาไว้ใช้ยามจำเป็น เข้าใจไหม” ว่าพลางยื่นมือไปลูบหัวทุยของลูกชายไปด้วย เดือนสิบเป็นคนเก่ง เป็นเด็กขยันและไม่เคยทำให้เธอกับสามีผิดหวังเลยซักครั้ง


“รับทราบ” เจ้าตัวทำท่าตะเบะรับ ซึ่งคนเป็นแม่ก็ได้แต่โคลงหัวไปมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปพูดกับอีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังมองลูกชายเธอยิ้มๆ


“แล้วนี่ยุทธจะอยู่ซักกี่วันล่ะลูก หรือจะอยู่ยาวเหมือนน้องเลย” คนถูกถามยิ้มค้าง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเผลอสบตากับผู้อาวุโสสุดในบ้าน ที่ถึงแม้จะนั่งฟังอยู่เงียบๆแต่ก็พอจะรู้ว่ากำลังเก็บทุกรายละเอียดไม่ปล่อยให้คลาดสายตา


สงสัยเขาจะโดนหมายหัวเข้าแล้วจริงๆสินะ


“คงกลับพร้อมเดือนสิบนั่นแหละครับ ยังไงก็ต้องขอรบกวนคุณลุงคุณป้าด้วย” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มละไมเรียกคะแนนซักหน่อย


“ตามสบายนะลูก คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเองอยากอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น” แม่น้องว่าแล้วยิ้มตอบเขา แววตาที่กำลังมองมาดูอ่อนโยน


“ขอบคุณครับ” ยุทธนายิ้มรับ บรรยากาศอบอุ่นที่ลอยฟุ้งอยู่รอบตัวผู้หญิงคนนี้พลอยทำให้เขารู้สึกอุ่นไปด้วย มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นแบบที่เขาก็ไม่แน่ใจว่าห่างหายจากมันมานานแค่ไหนแล้ว


“แล้วนี่ไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะ” คนที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถามบ้าง ยุทธนาหันมาสบตากับเดือนสิบ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรคนเป็นน้องก็ชิงตอบขึ้นซะก่อน


“พี่ยุทธเป็นรุ่นพี่ที่คณะไงพ่อ มาช่วยติวหนังสือให้เลยรู้จักกัน พี่ยุทธเรียนเก่งมากเลยนะ สอนก็เข้าใจง่าย นี่ถ้าไม่ได้พี่ยุทธช่วยติวนะสิบแย่แน่ๆ ข้อสอบย้ากยาก”


คนเป็นพ่ออือออรับคำ ตักข้าวเข้าปากพลางลอบสังเกตท่าทางของลูกชายไปด้วย ไม่บ่อยนักที่เดือนสิบจะพูดคุยเรื่องของคนอื่นให้ฟัง เวลาโทรมาหาก็เพียงแต่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ว่าเป็นยังไงบ้าง ทานข้าวหรือยัง ส่วนนอกจากนั้นก็จะเป็นฝ่ายแม่เขานั่นล่ะที่เล่าโน่นเล่านี่ให้ลูกชายฟังไม่หยุด


“เพราะเราหัวไวด้วยต่างหาก” ยุทธนาขัดขึ้นยิ้มๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปยีผมน้องเบาๆด้วยความเคยชิน


ซึ่งท่าทางนั้นก็ไม่ได้เล็ดรอดไปจากสายตาของผู้อาวุโสทั้งสองคน


.
.


หลังจากทานข้าวเสร็จเดือนสิบก็พาคนเป็นพี่เอาของขึ้นมาเก็บบนห้องตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ เดินเข้ามาในห้องได้เจ้าตัวก็ทิ้งตัวกลิ้งเกลือกลงบนฟูกนอนทันทีด้วยความคิดถึง แม้ห้องนี้จะไม่ได้ใช้งานเลยตั้งแต่ที่เขาไปเรียนกรุงเทพแต่มันก็ยังสะอาดสะอ้านเพราะแม่บอกว่าเข้ามาทำความสะอาดให้อยู่บ่อยๆ ยิ่งพอรู้ว่าเขาจะกลับมาก็ถึงกับหอบผ้าห่มผ้าปูไปซักให้ซะหอมฟุ้ง


ยุทธนาที่เดินตามหลังเข้ามาวางกระเป๋าไว้หน้าตู้เสื้อผ้า ยิ้มขำกับท่าทางของคนเป็นน้องจนถูกเจ้าตัวย่นจมูกใส่อย่างที่ชอบทำ ก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ริมระเบียงที่ยื่นห่างไปจากตัวห้องราวๆหนึ่งเมตร บ้านของเดือนสิบบรรยากาศดีมากจริงๆ ถึงจะมีแดดออกแต่มันก็ไม่ได้ร้อนจนแสบเหมือนที่กรุงเทพ แถมรอบๆตัวบ้านยังมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นคอยให้ความร่มรื่นอีกต่างหาก


“พอจะนอนได้ไหมครับ” กลิ้งเกลือกเอาสัมผัสคุ้นเคยที่ห่างหายไปนานจนพอใจแล้วก็เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างกายสูงของคนเป็นพี่


 “มันก็ได้ แต่สิบนอนกับพี่ไม่ได้หรอ” ยุทธนาหันมามองคนเป็นน้อง ส่งสายตาออดอ้อนแต่กลับถูกเจ้าตัวยิ้มขำซะอย่างนั้น


“แน่ะ! ไม่ได้ยินที่พ่อบอกหรอครับว่าให้พี่ยุทธนอนห้องผม ส่วนผมก็ต้องไปนอนกับอ้าย” เดือนสิบยักคิ้ว


แน่นอนล่ะว่ายุทธนาได้ยินมันเต็มสองรูหู แต่เขาก็อยากนอนกับน้องนี่ อุตส่าห์ได้มาเที่ยวบ้านแฟนทั้งทีแต่กลับถูกพ่อตากีดกันตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มแบบนี้มันใช่ที่ไหน นี่มันไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลยซักนิด


“นี่พี่เผลอทำอะไรผิดไปจนพ่อเราไม่ชอบรึเปล่า” คิ้วเข้มขมวดมุ่น


“ไม่หรอกครับ พ่อคงอยากให้พี่ยุทธนอนสบายๆมากกว่า อีกอย่างที่นอนผมมันเล็กนอนสองคนคงไม่สบายตัวเท่าไหร่ พี่ยุทธนอนคนเดียวน่ะดีแล้ว ห้องอ้ายมันก็อยู่ข้างๆนี่เองไม่ได้อยู่ไกลกันซักหน่อย” เอ่ยปลอบใจ พลางใช้ปลายนิ้วเขี่ยรอยย่นบนหน้าผากคนเป็นพี่ให้คลายออก


“อยู่ใกล้แค่ไหนก็ไม่เท่าอยู่ในอ้อมกอดของพี่อยู่ดี”


“หึ่ยย เลี่ยนอ่ะ ฮ่าๆๆ”


“เดี๋ยวจะโดน” ยุทธนาว่าพลางทำท่าจะเคาะมะเหงกลงบนหัวคนเป็นน้องซักที แต่เจ้าตัวรู้แกวเลยเอียงตัวหลบไปแล้วหัวเราะร่วน แน่นอนว่าท่าทางสดใสของเดือนสิบทำให้เขายิ้มตามได้ไม่ยาก


.
.


หลังจัดของช่วยคนเป็นพี่เสร็จเดือนสิบก็พาอีกฝ่ายออกมาเดินเล่นสำรวจบริเวณรอบๆบ้าน ตกเย็นพ่อกับแม่เขาก็ต้องออกไปข้างนอก เพราะวันนี้ที่บ้านของลุงชอบญาติห่างๆที่อยู่ถัดไปอีกหมู่บ้านมีงานบุญเลยต้องไปช่วย เดือนสิบไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่บ่นเสียดายนิดหน่อยที่กลับมาบ้านวันแรกพ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน กระทั่งหกโมงเย็นน้องชายที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมาหลายเดือนก็กลับมาบ้านซักที เดือนอ้ายโผกอดเขาที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้านเต็มรักด้วยความคิดถึง โชคดีที่เขากับมันตัวพอๆกัน ไม่อย่างนั้นคงได้ล้มพับไปทั้งคู่


“ปล่อยเลยๆ ดูดิเนื้อตัวมอมแมมขนาดนี้มากอดได้ไง” เดือนสิบว่ายิ้มๆ มองสำรวจทั่วร่างของน้องชายที่ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เพียงแต่เดือนอ้ายจะมีหน้าตาติดหวานเหมือนแม่ซะมากกว่า


“คิดถึงอ่ะ” มันอ้อน กระพริบตาปริบๆ นั่งแหมะลงข้างกันแล้วเกาะแขนเขาหนึบไม่ยอมปล่อย


“เออ คิดถึงเหมือนกัน”


เดือนสิบยีผมยุ่งฟูของคนเป็นน้องไปมา ก่อนจะนึกขึ้นได้จึงหันมาเอ่ยแนะนำคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างกันให้น้องชายได้รู้จัก


“พี่ยุทธนี่เดือนอ้ายครับน้องชายผมเอง ส่วนนี่พี่ยุทธ รุ่นพี่ที่มหา’ลัย”


“สวัสดีครับ แต่สิบแน่ใจนะว่าเป็นแค่รุ่นพี่เฉยๆอ่ะ” เดือนอ้ายยกมือไหว้คนโตกว่า ก่อนประโยคหลังจะหันกลับมาเอ่ยถามคนเป็นพี่ชาย


“ทำไมถามงั้นอ่ะ”


“ทำไมอ่ะ ถามไม่ได้หรอ หรือจริงๆแล้วไม่ใช่แค่รุ่นพี่ธรรมดา” มันย้อน หรี่ตาลงมองเขาสลับกับพี่ยุทธที่เอาแต่นั่งยิ้มมุมปากราวกับจะจับผิดสลับกันไปมา


นี่ก็ไม่คิดจะช่วยกันเล้ย!


 “บ้าดิ ก็ไม่ทำไม ก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิท” เขาเลือกที่จะตอบไปแบบนั้น เพราะตัวเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าพร้อมหรือยังที่จะให้คนในครอบครัวรับรู้ เขาก็แค่กังวน กลัวว่าถ้าทุกคนรู้แล้วเกิดรับไม่ได้ขึ้นมาคงเป็นตัวเขาเองนี่แหละที่จะแย่


“สนิทมากป่ะ” เดือนอ้ายซักต่อ แววตาหรี่ลงมองพี่ชายด้วยท่าทีที่เห็นแล้วต้องบอกว่าโคตรน่าถีบ


“ก็มาก แล้วจะมาซักอะไรนักหนาเนี่ย เข้าไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้วไป เหม็นเหงื่อ” เขาบอกปัด ขืนปล่อยให้มันซักต่อมีหวังได้หลุดบอกออกไปจริงๆแน่ ถึงจะเตรียมใจมาบ้างแล้วตอนที่อยู่กรุงเทพ แต่พอมาถึงบ้าน ได้เห็นหน้าพ่อหน้าแม่แล้วมันก็ทำใจกล้าให้บอกออกไปได้ยากจริงๆ ยิ่งมาถูกเดือนอ้ายมองด้วยสายตาจับผิดแบบนี้อีก


เฮ้ออ!


ขอเวลาอีกนิดเถอะ ให้เขาพร้อมกว่านี้ก่อนรับรองว่ามันได้รู้สมใจอยากแน่ แล้วพอถึงตอนนั้นก็หวังว่ามันจะรับได้และเข้าใจเขาก็แล้วกันนะ


“แค่นี้ทำมาโมโห โด่! เดี๋ยวคอยดูเหอะ” มันส่งเสียงฮึขึ้นจมูกใส่เขา ก่อนจะยื่นหน้าออกมามาส่งยิ้มให้กับอีกคนแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าไปในบ้านเพื่ออาบน้ำอาบท่า


เดือนสิบมองตามหลังน้องชายแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่


“คิดมากอะไรฮึ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ยิ้มบางๆให้คนเป็นน้องที่ยังขมวดคิ้วไม่เลิก


“พี่ยุทธว่าอ้ายจะรู้ไหมครับว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน” แววตาจ้องตอบคนเป็นพี่ดูเป็นกังวล


“ไม่รู้สิ แต่ถ้าเขารู้สิบจะทำยังไงล่ะ”


“ไม่รู้สิครับ ก็คงต้องยอมรับไปตามความจริง” เพียงแต่ตอนนี้เขายังใจกล้าไม่พอเท่านั้นเอง


“ลำบากใจหรอ” เดือนสิบส่ายหน้ารัว ไม่อยากให้พี่รู้สึกแย่กับความขี้ขลาดของเขาเลย


“เปล่าครับ มันแค่รู้สึกกลัวแปลกๆน่ะ ไม่รู้สิผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน คงกลัวว่าพวกเขาจะรับไม่ได้ล่ะมั้ง”


“พี่อยู่ข้างเรานะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่ตรงนี้ ถ้าสิบไม่สบายใจที่จะบอกพวกเขาตอนนี้ก็ยังไม่ต้องบอกก็ได้” เขาเลื่อนมือไปกอบกุมมือเล็กของน้องเอาไว้ ส่งถ่ายความรู้สึกที่ยังคงเดิมให้อีกฝ่ายสบายใจ


“ขอบคุณนะครับพี่ยุทธ เฮ้อ! ทำไมถึงได้ดีกับผมขนาดนี้เนี่ย” ดีจนเขากลายเป็นแฟนที่ไม่เอาไหนไปเลย


“คนดีๆอย่างพี่หายาก เพราะงั้นต้องรักษาไว้ดีๆรู้ป่าว” ยุทธนาโยกหัวคนเป็นน้องไปมา


เดือนสิบฟังแล้วได้แต่ย่นจมูกใส่คนเป็นพี่อย่างที่ชอบทำ ช่างเป็นคนที่ขยันพูดให้เขานึกหมั่นไส้ได้บ่อยจริงๆเลย แต่มันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่าล่ะนะ ดีขนาดนี้จะไปหาได้อีกจากที่ไหน


“ครับ ผมจะจับไว้ให้แน่นเลย”




 :katai5: :katai5:
ขอให้พี่ยุทธรอดปลอดภัย  :m12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2017 22:20:12 โดย เล็กต้มยำ »

ออฟไลน์ LoveRead

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พ่อตาเซนส์ไวมาก
พี่ยุทธต้องสู้นะ 55555555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เจอพ่อ(ตา)หวงลูกเสียแล้วสินะ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
โดนพ่อตามองแรงซะแล้ว

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เราว่า โดนว่าที่พ่อตาเพ่งเล็งแล้วล่ะ 555

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
พ่อตาคิ้วกระตุกละค่ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ผ่านด่านให้ได้น้าาาา

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

งานหนักละ พี่ยุทธ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด