น้องไดกับช่วงเวลาที่น่าจดจำ
“เวก้า”เสียงหวานแผ่วเบาเอ่ยเรียกชื่อผม
“ครับ?”ผมหันไปหาคนที่เรียกผมเมื่อซักครู่ เป็นคุณน้าที่มายืนอยู่ข้างๆผม
“พอดีไดจะปิดเทอมละ น้าอยากพาไดไปเที่ยวน่ะ… ที่ไหนดี?”ผมเงียบครุ่นคิดก่อนจะนึกถึงสถานที่หนึ่งขึ้นมา
“ภูเขาครับ ไปภูเขากัน”ผมให้ความคิดเห็น คุณน้าคิดอยู่ซักพักก่อนจะพยักหน้ารับ
“ก็ดีสิ ขอบใจมากนะจ๊ะเวก้า เดี๋ยวเรื่องนี้น้าจัดการให้”คุณน้ายิ้มกว้างออกมาให้ผม ก่อนจะแตะบ่าเบาๆ ผมพยักหน้ายิ้มรับอีกฝ่าย
“ไปเก็บของก่อนนะลูก”คุณน้าลูบหัวของไดเบาๆ ไดยิ้มกว้างออกมา ผมยิ้มกลับให้อีกฝ่ายก่อนจะจับข้อมือจูงขึ้นไปเก็บของ
“ใบเมเปิ้ลสีแดง...”ไดตาวาวทันทีและกระโดดลงไปกับเตียง ผมขำกับการกระทำอีกฝ่าย
“คุณน้านอนอีกห้องหนึ่ง เพราะงั้นเรากับพี่อยู่ด้วยกัน”ผมบอกอีกฝ่าย ไดพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มออกมา และมองไปยังวิวด้านนอกที่เป็นภูเขาและต้นไม้
“วิวสวยๆมากเลยนะครับ”
“พี่เป็นคนเลือกเอง”
“จริงเหรอครับ?”
“จริงสิ”ผมพูดจบ ไดก็หันหน้าหนีที่ทางอื่น เหมือนจัดวางของอะไรเสร็จก็นั่งลงข้างๆอีกฝ่ายบนเตียงใหญ่
“ไปเดินเล่นกันไหมครับ?”ผมถามอีกฝ่าย ไดพยักหน้า ผมจึงฉวยโอกาสจับมืออีกฝ่ายและพาไปเดินเล่น
ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นพอดีของภูเขาและเป็นฤดูที่ดอกไม้เริ่มผลิบาน ท่ามกลางดอกเหมยที่เริ่มผลิบานเต็มไปหมด บรรยากาศที่แสนโรแมนติกอบอุ่นนี้ ช่างเหมือนกับที่ยัยมณีแนะนำเอาไว้ มือที่ประสานกันในตอนนี้จับแน่นกันจนไม่เหลือพื้นที่ให้อากาศเข้าไปได้ ไดที่เหม่อมองดอกไม้ ผมก็ยิ้มออกมา เป็นเด็กที่น่ารักมาก ตั้งแต่ตอนเด็กๆที่แม้ไม่เคยเห็นสีในชีวิต แต่กลับสนใจสิ่งนั้นแม้ไม่เห็นสีที่แท้จริง
“ดอกเหมยเหมาะกับน้องไดดีนะครับ”ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวาน อีกฝ่ายตื่นจากภวังค์ก่อนจะมองที่ผมแต่ไม่ยอมสบตา
“ยังไงเหรอครับ?”ไดถามผมกลับ ผมลูบหัวอีกฝ่าย
“มันมีความหมายว่า ความงามอันบริสุทธิ์ สดใสไง เหมือนน้องไดเลย”ผมพูดจบอีกฝ่ายก็อึ้งหน้าแดงซักพัก
“ผมไม่ใช่ผู้หญิงซักหน่อย มางงมางามได้ไง”ไดเสมองทางอื่นแทน ผมหัวเราะเบาๆ
“คนเรามีความงดงามไม่เหมือนกันซะหน่อยนี่ครับ”
“นั่นสิ...”
ไดหลับตาก่อนจะหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา และมองมาที่ผม ก่อนจะพยายามเอ่ยคำบางคำที่เหมือนไดจะพูด แต่ก็ดันเลิกพูดไปก่อน
“ผะ… ..ไม่สิ ขอบคุณนะครับ”ใบหน้าที่ดูจะจริงจังของได ทำผมสงสัยว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร แต่ผมไม่อยากไปก้าวก่ายนัก เพราะงั้น… ผมว่าผมเงียบไว้ดีกว่า…
“เราไปนั่งชมวิวกันตรงไหนดีไหม”ไดถามผม ยังไม่ทันตอบอีกฝ่ายก่อนจะจูงมือพาผมไปที่แห่งหนึ่งที่มีโต๊ะหินอ่อนอยู่ ก่อนจะพามานั่งตรงนี้
“วิวตรงนี้สวยดีนะ”ผมบอก ไดพยักหน้าก่อนจะเอนมาพิงกับแขนของผม มือที่ยังประสานกันยังคงแน่น เหมือนไม่มีใครอยากจะจากเวลานี้ไปเลย
เป็นเวลาที่คุ้มค่าและพิสูจน์ให้ผมต้องพร้อมได้แล้ว…
ผมกับไดดูพระอาทิตย์ตกจนความมืดและเข้ามาในที่สุด ผมจึงบอกให้ไดกลับไปที่โรงแรมและไปพักผ่อน ซึ่งเมื่อไดถึงห้องก็เข้านอนทันที ผมจึงเดินออกจากห้องมาแล้วไปเคาะประตูห้องทางด้านขวามือ
คุณน้าอยู่ห้องนี้และวันนี้แหละที่ผมจะคุยกับเธอ คุณน้าเปิดประตูมาก่อนจะยิ้มให้ผม
“เวก้าไงพี่ เอ้า ว่าไงจ๊ะ?”คุณน้าหันมาหาผม ผมจึงขออนุญาตเข้าไปในข้างใน และนั่งลงที่เก้าอี้มุมห้องกับคุณน้าและแม่ของผมที่วิดีโอคอลมาหา
“ขอเข้าเรื่องนะครับ คือผม… เอ่อ...”เอาแล้วไง… ผมไม่กล้าที่จะพูดออกไป คุณน้าเลิกคิ้วข้างหนึ่งรอผมพูด
“ผมชอบน้องได… แล้วผมกะจะขอเขาเป็นแฟน ผมก็เลยจะมาขอคุณน้าก่อนน่ะครับ”ผมพูดจบ คุณน้าก็ยิ้มออกมา
“พี่ได้ยินเหมือนน้องใช่ไหม”คุณน้าหยิบไมโครโฟนตรงหูฟังมาไว้ตรงบริเวณปาก คำตอบที่ได้น่าจะดีมากจนทำให้คุณน้ายิ้มกว้างออกมา
“น้าไม่ว่า น้าไม่คิดมากอยู่ น้าอนุญาตและแม่หนูก็เห็นด้วย น้ายินดีอยู่แล้วถ้าน้องไดมีใครซักคน ยิ่งเป็นหนู น้าก็ยินดีและสนับสนุนนะ”คุณน้าพูดจบก่อนจะเข้ามากอดผม มือบางลูบหลังผมเบาๆ
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านนะเวก้า”เสียงอันน่าฟังพูดขึ้น ผมพยักหน้ารับ
แค่นี้… ภารกิจของผมก็น่าจะเริ่มได้แล้ว