คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 167748 ครั้ง)

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #330 เมื่อ23-07-2007 11:55:31 »


เพี๊ยะ....นี่แน่ะ ดื้อนัก...

ยังงี้ต้องทำโทษ...   :interest: :interest: :interest:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #331 เมื่อ23-07-2007 13:03:07 »

ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมนะครับ.........อิอิ

tor13

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #332 เมื่อ23-07-2007 16:17:33 »

ตายแล้วเล่นตัวแค่เนี้ยะ มะตะบะห่อเดียว ถ้าสองห่อก็ว่าไปอย่าง มันอร่อย :m3:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #333 เมื่อ23-07-2007 21:44:59 »

หุหุ นัทเค้าก็ง้อในแบบของเค้าเนอะ  :m1:  :m1:  :m1:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #334 เมื่อ24-07-2007 09:33:37 »

                         อีกสองสามวันก็จะเป็นวันวาเลนไทน์แล้ว..............ผมยังไม่มีแพลนอะไรสำหรับเราสองคนเลย........และผมก็ไม่ได้คิดว่า วันแบบนี้จะมีความสำคัญมากไปกว่าวันธรรมดาอื่นๆแต่อย่างใด............แต่ยังไงก็ตาม ผมน่าจะหาของขวัญให้นัทบ้างก็คงจะดีไม่น้อย...........เดี๋ยวจะหาว่าตอนจีบกันใหม่ๆขยันให้นั่นให้นี่..........พอนานเข้าชักจะทำเป็นลืมไม่ใส่ใจ.............

                         ช่วงนี้นัทมีสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องไปฝึกงานเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาต่อเนื่องกันหลายวัน...........ผมจึงมีเวลาว่างในช่วงเย็นๆของบางวันที่นัทเลิกคลาสค่ำ............

                         ธรรมดานิสัยผมจะไม่ชอบนั่งอยู่โยงเฝ้าห้องในช่วงหัวค่ำ............เพราะพาลจะรู้สึกปวดหัวและหายใจไม่ออกอย่างไรอย่างนั้น..........ผมจะต้องหาทางออกไปร่อนตามที่ต่างๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายเสมอ.........และปกติผมก็มักจะไปกับนัท........แต่หากไม่มีนัท ผมก็จะไปกับคนอื่นตามแต่จะหาได้จากรอบๆตัว...........

                         และคนที่ผมหาได้ในเย็นนี้คือ เจ...............ผมไม่ได้รู้สึกพิศวาสอะไรในตัวเค้าแล้ว...........แต่ผมยังสนุกกับเกมส์ชิงไหวชิงพริบของเราสองคนอยู่..........อ่อยกันไปอ่อยกันมา.........ดูซิว่าใครจะยอมแบไต๋ก่อนกัน.........ซึ่งเกมส์นี้ผมเป็นต่อ.........เพราะผมมีคนที่รักอยู่แล้ว.........แต่เจจะมีหรือไม่ผมไม่สน..........ผมแค่อยากจะพูดจาแดกดันให้เค้าได้เจ็บปวด หรือเสียหน้าบ้างก็เท่านั้น.........มันสมควรแล้วกับคนเหลี่ยมจัดพรรค์นั้น.......

                           “เจว่างหรือเปล่า.........เย็นนี้ไปชอบปิ้งเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ” เมื่อสมัยก่อนโน้น.........เวลาผมชวนเจไปไหนมาไหน เค้ามักจะอิดออด........และมีข้ออ้างนั่นนี่ให้ต้องรำคาญใจเสมอๆ........แต่เจในตอนนี้กับเจในตอนโน้นไม่เหมือนกันซะแล้ว........เพราะสำหรับเจที่ผมรู้จักตอนนี้ ทุกอย่างมันช่างง่ายดายเหลือเกิน เพียงแค่ผมเอ่ยปากขอเท่านั้น...........

                          “นัทไม่อยู่เหรอ” เจถาม ทำเสียงประชดอยู่ในที............แต่มีหรือที่คนอย่างผมจะแสร้งทำเป็นปิดบังให้เค้าเข้าใจว่าผมแคร์...........
                        “อืม......วันนี้เค้ามีสัมมนา คงเลิกค่ำๆ........เห็นว่าต้องทำรายงานกับเพื่อนต่อ”........เป็นไงล่ะ.......ผมยิ้มเยาะอยู่ในใจ.........อยากฟังนักไม่ใช่เหรอ...........
                        “ พี่มารับผมที่บ้านแล้วกัน” เจตกลงรับปากทันที..........เป็นอันว่าวันนี้ผมไม่เหงาแล้ว............แม้จะดีใจที่หาเพื่อนช้อปได้แล้ว แต่อีกใจก็ยังคิดกังวลว่า ถ้านัทรู้จะโดนด่ามั้ยนะ..........เหอะน่า......เค้าน่าจะเชื่อใจผมอยู่บ้างกระมัง............

                         จะว่าไปแล้ว ที่ผ่านมาผมเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อใจนัทสักเท่าไหร่.............แม้ว่าเค้าจะไม่เคยแสดงให้เห็นว่ามีเงื่อนงำอะไรให้น่าสงสัยก็ตาม.........ตรงกันข้าม...........ผมซะอีกที่ชอบทำให้เค้าคิดว่าผมมีเงื่อนงำ (โดยใช้เจเป็นเครื่องมือ)...........ทั้งๆที่จริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรในกอไผ่เลยแม้แต่น้อย............ถึงยังไงผมก็เชื่อใจตัวเองว่า ไม่มีทางทำอะไรนอกลู่นอกทางโดยเด็ดขาด ตราบที่ผมยังเป็นแฟนกับนัทอยู่..........

                         ...คนเรานี่ก็แปลก.........เชื่อใจตัวเอง แต่ไม่เชื่อใจคนอื่น..............ที่เป็นแบบนั้น ก็คงเป็นเพราะว่า.......เรารู้ความคิดของตัวเราเองดี........ว่าเราคิดอย่างไร เป็นอย่างไร.........แต่ว่าเราไม่สามารถรู้ความคิดของฝ่ายตรงข้าม........ดังนั้นเราจึงมักจะคอยระแวงและจับผิดอีกฝ่ายเสมอๆ..............

                            เมื่อรับเจออกจากบ้านแล้ว ผมกับเจมาถึงห้างเซ็นทรัลแอร์พอร์ทอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา..............ช่วงเย็นๆแบบนี้ คนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันหนาตา...........เราตกลงว่าจะเริ่มต้นเดินที่ชั้นล่างก่อน เพื่อเช็คดูว่ามีสินค้าอะไรลดราคาบ้าง............

                           “พี่กั้ง แดปเปอร์ ลดตั้งห้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่ะ” เจชี้ชวนให้ผมดูเคาเตอร์แดปเปอร์ยี่ห้อโปรดของเราสองคน (เกย์ส่วนมากก็ชอบแดปเปอร์กันอยู่แล้ว)............จากนั้นเราสองคนจึงรี่เข้าไปทำการคุ้ยเขี่ยกองเสื้อผ้าทันที.............

                           ผมเลือกเสื้อให้ตัวเองได้สองตัวกับกระเป๋าหนึ่งใบ.......ในขณะที่เจยังไม่ได้อะไรเลย..........ระหว่างที่จับๆเลือกๆดูของอยู่นั้น................ผมก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า น่าจะซื้อให้นัทสักตัว............ผมอยากดูแลนัทแบบคนเป็นแฟนเค้าทำกันบ้าง...........และก็เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ไปในตัวด้วย....

                            ผมจับๆพลิกๆดูเสื้อสองสามตัวสำหรับนัท...........แพงจัง...........แค่ซื้อของตัวเองก็หมดเงินไปเยอะแล้ว...........ความงกเริ่มคลืบคลานเข้ามาครอบงำในความคิด.............แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับความปรารถนาดีที่ผมอยากจะมอบให้กับคนรัก..............

                            เสื้อใส่สักพักก็คงเสื่อมสภาพ..........ซื้อกางเกงยีนส์ให้ดีกว่า.........ของที่นัทมีอยู่ทั้งเก่าและเยินไปหมดแล้ว.............คิดได้ดังนั้นผมจึงเดินเลี่ยงมาดูที่กระบะกางเกงแทน................

                             “พี่กั้งจะซื้อกางเกงให้ใครเหรอ” เจเดินกระแซะเข้ามาถามพลางทำท่าจับๆเลือกๆดูกางเกงพวกนั้น..............
                           “อ๋อพี่ว่าจะซื้อให้นัทน่ะ...........เจช่วยเลือกหน่อยสิ”..........หุหุ............นี่ผมร้ายไปหรือเปล่าเนี่ย.............เจยังคงเก็บอาการเอาไว้ได้เป็นอย่างดี...............แต่ถึงยังไง ผมว่าหน้าเค้าก็ยังดูเจื่อนๆอยู่ดีนั่นแหล่ะ..................
   
                           กางเกงพวกนี้แพงกว่าเสื้อหลายเท่านัก...............จะซื้อให้ดีมั้ยนะ........ผมเริ่มชั่งน้ำหนักอีกครั้ง............ซื้อก็ซื้อวะ...........ผมตัดใจซื้อในที่สุด...........ถึงไงมันก็ยังใส่ได้อีกนานแหล่ะ.......อาจจะสักเก้าปีสิบปีเลยก็ได้..................หากภายหลังจากที่ผมเลิกกับเค้าไปแล้ว..........เค้าอาจจะยังใส่มันอยู่ก็ได้...........

                           “เจว่าตัวนี้สวยมั้ย” ผมยกกางเกงตัวที่เห็นว่าสวยที่สุดแล้วให้เจดู
                           “ก็สวยดีนี่” ........เจชำเลืองมองอย่างเสียไม่ได้
                           ผมไม่ว่าอะไรต่อนอกจากอมยิ้มที่มุมปาก..........พลางยกกางเกงตัวที่หมายตาเอาไว้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง.........ไซส์ใหญ่สุดก็ 36 นิ้ว..........นัทน่าจะใส่ได้แหล่ะ..........ปกติก็ไม่เคยมานั่งวัดเอวกันสักที...........

                           ผมจ่ายเงินค่าเสื้อผ้าและเดินดูของต่อสักพักก่อนจะชวนเจไปนั่งดื่มกาแฟกันต่อ...........ผมสามารถดื่มกาแฟได้ทุกเวลา...........ไม่ใช่เพราะว่าเป็นคอกาแฟ..........แต่เพราะมันเป็นที่เดียว ที่เราจะได้จ่ายน้อยแต่ดูดี..........และได้นั่งในที่บรรยากาศดีๆนานๆ โดยไม่ต้องมีใครมาเขม้นมองขับไล่ด้วยสายตาเพื่อให้รีบออกไปจากร้านให้เสียอารมณ์.........

                           “เดี๋ยวพี่เลี้ยงกาแฟแล้วกัน อุตส่าห์มาเดินซื้อของเป็นเพื่อน” ผมหันไปบอกเจเมื่อเราจวนจะขับรถมาถึงที่ร้านกาแฟวาวี...........
                           “ไม่เป็นไรพี่กั้ง ผมจ่ายเองได้...........ปกติคนอื่นเค้าให้พี่กั้งจ่ายให้บ่อยๆเหรอ”..............คนอื่น............นี่เค้าหมายถึงใคร............เค้าหมายความว่าผมจ่ายให้นัทบ่อยๆงั้นเหรอ...........
                          “ก็ไม่นะ........เค้าก็จ่ายของเค้าเอง” ผมรีบปกป้องคนรักทันที..............ใครจะจ่ายให้ใครมันสำคัญตรงไหน............คนรักกันเค้าไม่มานั่งคิดเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้หรอก.........ตราบใดที่เค้าไม่มาแบมือขอเงินเราใช้ก็น่าจะเป็นพอ............ขืนจะมานั่งคิดเรื่องพวกนี้.........ก็คงไม่มีความสุขกันพอดี...........คนโตๆกันแล้วใครจะดูไม่ออกว่าเค้าคบกับเราเพราะเงินหรือเพราะอะไร...........จะดูถูกมันสมองกันมากไปหน่อยแล้ว..............

                             สุดท้ายเจก็ให้ผมจ่ายให้อยู่ดี.........นึกว่าจะวิเศษเหมือนที่ชอบทำตัวคอยยกตนข่มท่านอย่างเมื่อครู่............เรานั่งคุยกันร่วมชั่วโมงจึงพากันกลับ.............ผมแวะไปส่งเจที่บ้านก่อนจะกลับเข้าห้อง........

                             หลังจากอาบน้ำเป็นที่สบายอารมณ์แล้ว ผมจึงหันไปหยิบกางเกงที่ซื้อให้นัทมาพิจารณาด้วยความสุขใจ..........พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์ผมต้องหาโอกาสเอาให้เค้าตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้............ว่าแล้วก็โทรไปถามข่าวดูซิว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่นะ............

                             ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถึงนัททันที
                             “ฮัลโหล” เสียงปลายสายทักทายท่าทางอารมณ์ดี
                             “ทำไรอยู่” ผมยิงคำถามตามความเคยชิน
                             “ทำรายงานกลุ่มอยู่ห้อง กับเพื่อน”.........เหรอ........ทำไมเงียบอย่างนี้ล่ะ.........ในใจผมเริ่มนึกระแวง...........ไม่เห็นจะเจี้ยวจ๊าวเลยสักนิด...........เพื่อนประเภทไหนกันแน่นะ...........
                            “เพื่อนจริงเหรอ ทำไมเงียบอย่างงั้นล่ะ........อย่าเพิ่งพูด........อยู่เฉยๆ ให้พี่จะฟังเสียงคนในห้องซิ”..........ผมออกคำสั่ง...........อยากจะฟังซิว่ามีเสียงใครดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์บ้างมั้ย........งี่เง่าสิ้นดี....อิอิ

                            “โบว์ๆ ส่งเสียงหน่อย” เสียงนัทหันไปตะโกนบอกเพื่อนที่ชื่อโบว์
                            “อะไร” ผมได้ยินเสียงผู้หญิงดังลอดกลับมาก่อนจะมีเสียงคนเจี๊ยวจ๊าวอึงคนึงตามมาติดๆ...........แล้วไป.........ถ้าเป็นผู้ชายล่ะก็น่าดู.....หุหุ...........
                            “เออๆ พอแล้ว อายเค้า” ผมรู้สึกงี่เง่าขึ้นมาในทันที..........หึงไม่เข้าเรื่อง........ถ้าเพื่อนเค้าสงสัยว่าแฟนนัทโทรมา.............เค้าก็คงจะคิดว่าแฟนคนนี้ช่างขี้หึงได้อย่างน่ากลัวนัก...........ผมไม่อยากให้ใครมองผมแบบนั้นหรอก.............

                            “อย่าลืมเอาแปรงสีฟันกับน้ำยาล้างคอนแทคส์มาให้ด้วยนะ นัทลืมไว้อ่ะ” .........นัทสั่งเสียให้ผมเอาของไปให้พรุ่งนี้แต่เช้า.............
                           “อืม.........ไม่ลืมหรอก............พรุ่งนี้เช้าก็ออกมารอที่หน้าคณะแล้วกัน” ผมรับปากก่อนจะกล่าวคำลาและวางสายไป.............

                             พรุ่งนี้ก็จะได้ให้ของขวัญเค้าแล้ว...........นัทจะดีใจมั้ยนะ..........ผมหยิบกางเกงยีนส์ตัวนั้นขึ้นมาลูบคลำอีกครั้ง.........กลิ่นหอมใหม่ของมันโชยมาจางๆ.........รู้สึกเป็นสุขจังที่ได้ดูแลคนที่เรารักแบบนี้................

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #335 เมื่อ24-07-2007 10:08:37 »


นัท จะชอบหรือเปล่าน๊า...หุ หุ

ยังไงก้อมีผมคอยช่วย (ซ้ำเติม) นะ...อิ อิ

 :impress2: :impress2: :impress2:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #336 เมื่อ24-07-2007 10:26:33 »

จะช่วยหรือจะซ้ำเติมเอาให้สักอย่างแน่จิ.....อิอิ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #337 เมื่อ24-07-2007 16:40:04 »

รอลุ้นนัทจะชอบกางเกงมั้ย  :m1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #338 เมื่อ24-07-2007 19:05:05 »

หุหุ ถึงนัทจะชอบแต่อาจจะมีฟอร์มอีกก็ด้ายยย  :m14:  :m14:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #339 เมื่อ25-07-2007 12:13:35 »

                         ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเช้าของวันวาเลนไทน์ที่แสนจะเงียบเหงา..........กลิ่นอายของวันวาเลนไทน์ลอยกรุ่นอยู่ในใจผมจางๆ................ทำให้หวนนึกไปถึงเมื่อครั้งแรกรุ่นที่เพิ่งเริ่มจะรู้จักกับวันวาเลนไทน์ใหม่ๆ.............สมัยนั้นผมมักคอยแอบอิจฉาเพื่อนๆ ที่ได้รับดอกไม้วันวาเลนไทน์จากคนที่เค้าได้แอบหมายตากันเอาไว้เสมอ............หากใครได้รับดอกไม้เยอะเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ........สังเกตดูว่าวันนั้นพวกก็จะเดินชูคอหน้าบานไปทั่วโรงเรียนทั้งวัน...........น่าอิจฉาชะมัด............

                         ในช่วงนั้นผมเองใช่ว่าจะไม่เคยได้รับดอกไม้ในวันวาเลนไทน์..........แต่คนที่ให้ดอกไม้ผมกลับเป็นผู้หญิงเสียทั้งนั้น.............เพราะฉะนั้น.......ดอกไม้พวกนั้นจึงไม่มีความหมายต่อผมแต่อย่างใด............เนื่องจากว่า ผมอยากได้ดอกไม้จากผู้ชายมากกว่าน่ะสิ........

                          ยุคนั้นเกย์ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเช่นปัจจุบันนี้........ดังนั้นเกย์รุ่นเยาว์อย่างผมก็ต้องพยายามหนีบความเป็นสาวเอาไว้ให้สนิทไม่ให้ประเจิดประเจ้อออกมาเกะกะสายตาคนอื่น.............พวกเธอทั้งหลายจึงไม่รู้ว่าผมเป็นเกย์.........อย่างมากก็แค่มองว่าเป็นผู้ชายประเภทเรียบร้อย เด็กเรียนก็เท่านั้น..........แต่ลึกๆในใจ ผมกลับแอบฝันหวานที่จะได้ดอกกุหลาบจากชายหนุ่มเช่นเดียวกันกับพวกเธอบ้าง............

                          ถึงนั่นมันจะเป็นเพียงอดีตชาติที่นานนมมาแล้ว.............และตอนนี้ผมก็โตขึ้นมากและมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเมื่อครั้งยังเยาว์วัย.............แต่กระนั้น ลึกๆภายในใจผมก็ยังแอบฝัน ที่จะมีวันวาเลนไทน์สุดแสนโรแมนติกแบบในหนังหรืออะไรเทือกนั้นดูบ้าง..........คงจะรู้สึกดีแบบสุดๆ

                           สลัดผ้าห่มออกจากตัวขยับลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ...........ถุงกางเกงยีนส์ยังคงวางสงบนิ่งอยู่ที่เดิม...........ผมเหลือบไปมองก่อนจะทอดถอนหายใจ...........นัทไม่มีทางทำอะไรโรแมนติก แบบนั้นเด็ดขาด..........และผมเองก็คงรู้สึกประดักประเดิดใจไม่น้อย หากเค้าเกิดนึกเพี้ยนขึ้นมาทำอะไรหวานๆในวันวาเลนไทน์ดูบ้าง..............คิดไปแล้ว คนเราบางครั้งก็แปลก..........มักจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกถึงความรักในแนวหวานๆ..............ทั้งๆที่ในใจของเราต่างก็ต้องการที่จะได้รับจากคนที่เรารักกันทั้งนั้น............

                           หลังจากแต่งตัวเสร็จผมเดินไปหยิบถุงกางเกงและของเล็กน้อยที่นัทลืมเอาไว้..........ก่อนจะเดินลงลิฟท์มายังลานจอดรถ...............ผมยังไม่ได้บอกนัทเลยว่ามีของขวัญให้เค้า..............แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่านัทจะตื่นเต้นอะไรมากมาย..............อีกทั้งธรรมดาแล้ว ผมไม่นิยมการให้ของกำนัลแก่ใคร...........มันเหมือนเป็นการไปให้ความสำคัญกับวัตถุมากจนเกินไป................ผมคงจะไม่ชอบใจ...........หากจะบังเกิดความคิดระแวงแคลงใจว่า เค้าประสงค์ในเรื่องวัตถุมากกว่าจิตใจ............แต่ในกรณีที่นานๆทีแบบนี้ คงไม่เป็นไรกระมัง.............เพราะถึงยังไงการได้ทำตัวเป็นผู้ให้ย่อมสบายใจกว่าการต้องทำตัวเป็นผู้รับเป็นไหนๆ.........

                          “ฮัลโหล..........พี่จะถึงที่หน้าคณะแล้ว ออกมารอเลยนะ” .........ผมต่อสายถึงนัท..........วันนี้นัทก็คงไม่ไปไปค้างที่ห้องอีกเหมือนเคย..............เห็นว่าต้องทำรายงานกลุ่มเรื่องสัมมนากับเพื่อนๆ.............ผมก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยเป็นกำลังใจให้เค้า...............

                           นัทยืนรออยู่ที่หน้าคณะอยู่แล้วเมื่อผมมาถึง.............เค้าดูดีทีเดียวในชุดเสื้อกาวน์สีขาว...........ผมค่อยๆเคลื่อนรถเข้าไปเทียบใกล้ก่อนจะกดเลื่อนกระจกลง................

                           “หวัดดีคับ” นัทโผล่หน้ามาที่หน้าต่างพลางทักเสียงทะเล้น
                           ผมหันไปหยิบถุงกางเกงจากเบาะข้างๆ แล้วยื่นให้...............เค้ารับเอาไปท่าทางดูประหลาดใจไม่น้อย
                           “ของขวัญวันวาเลนไทน์”.............ผมบอก............
                           “อะไร”...........นัทแง้มถุงดูท่าทางอยากรู้.............แล้วเงยหน้าขึ้นมอง............
                          “ขอบคุณครับ”.........เค้ากล่าวคำขอบคุณออกมาในที่สุด............ผมได้แต่ยิ้มรับ ไม่ได้พูดอะไรออกไป...............
                          “เย็นนี้นัทจะทำรายงานกลุ่มกับเพื่อนนะ.” นัทบอกเป็นนัยให้รู้ว่า เย็นนี้หาข้าวกินเองนะ...........ผมยิ้มเป็นเชิงรับรู้.............
                         “พี่ไปแล้วนะ” .............ในที่สุดผมก็ตัดใจกล่าวคำลาออกมา............นัทโบกมือลาแล้วเดินหันหลังกลับเข้าไปที่คณะ.............ผมมองตามอยู่พักหนึ่ง............ถุงใบเบ้อเร่อ หิ้วเข้าไปที่คณะแบบนั้น ใครต่อใครมิซักไซร้จนป่นหรือนี่................

                             แล้ววันวาเลนไทน์ที่แสนจะน่าเบื่อก็เคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆจนพลบค่ำ...............เย็นนี้ผมไปกินข้าวกับน้องพร............หล่อนมีเรื่องมาให้อัพเดทอีกครั้ง หลังจากที่เงียบหายไปได้สักพัก.....
                           
                             “พี่กั้ง...........พักหลังนี้อาร์เค้าเป็นอะไรก็ไม่รู้........ดูห่างเหินพิกล........ไม่เหมือนเมื่อก่อน....โทรไปก็ไม่ยอมรับสาย”........เอาล่ะสิ..........นึกเอาไว้แล้วไม่มีผิด.........จากรูปการผมประเมินว่าอาร์เป็นสาวแอ๊บแมน........เมื่อมาเจอสาวแอ๊บแมนอย่างน้องพรเหมือนกัน............หลังจากที่ความจริงเปิดเผยแม่เหล็กทั้งสองจึงออกแรงผลักกันสุดฤทธิ์............
                             “แล้วได้เจอกันบ้างหรือเปล่า”........ผมเริ่มทำตัวเป็นนักสืบ..........
                             “เจอเฉพาะตอนตีเทนนิส...........เวลาอื่นไม่ค่อยได้เจอ.......พักหลังมานี่น้องทำอะไรมันก็จะมีแต่คอยบ่นนั่นบ่นนี่ตลอดเลย”.........น้องพรพูดพลางทำหน้าย่น..........
                         
                            ก็เป็นของธรรมดาที่คนเราเมื่อจะหมดรักกันแล้ว...........อะไรต่ออะไรก็ย่อมมองว่าไม่ดีไม่งามสักอย่าง.........อีกทั้งผมมองว่าน้องพรเอง ก็เดินหมากผิดมาตั้งแต่แรกแล้ว............จุดจบจึงไม่ผิดจากที่คาดเอาไว้............

                             ที่ว่าการเดินหมากผิดของหล่อนก็คือ ประการที่หนึ่งความไม่ชัดเจนในภาพลักษณ์เรื่องรสนิยมทางเพศ......... เนื่องจากน้องพรนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น หล่อนจะมีกิริยาท่าทางประหนึ่งหนุ่มน้อย ไม่มีเจือความสาวเอาไว้เลยสักนิด.........จะมาแตกสาวก็ต่อเมื่ออยู่กับคนใกล้ชิดเท่านั้น...........ถ้าจะให้เดาหล่อนคงแตกสาวต่อหน้าน้องอาร์มากขึ้นเรื่อยๆ.........และคำว่าไม่ใช่จึงติดตามมาเหมือนเงา.......เรื่องบทบาททางเพศไม่มีข้อกำหนดตายตัว.........อยู่ที่คนสองคนจะตกลงและปรับเปลี่ยนกันเอง.........แต่ผมมองว่าอย่างน้อยๆเราควรแสดงให้เค้าเห็นว่าเราพอใจในแบบไหนตั้งแต่แรก......โดยการใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็นการแตกสาวให้เห็นว่าฉันเป็นรับนะคะเสมอไป...........

                              เคยมีเรื่องตลกเล่ากันขำๆในหมู่เกย์ที่ชอบเที่ยวหาคู่นอนรายคืนว่า...........หากจิกใครมาได้จากผับในคืนนั้น.........เมื่อมาถึงที่ห้องนอนแล้ว...........ใครแตะเตียงได้ก่อนคนนั้นจะได้เป็นเมีย.........นั่นก็แสดงว่าเราไม่มีทางจะรู้ความชอบของอีกฝ่ายเลย จนกว่าจะได้ขึ้นเตียงกันถึงจะมารู้ทีหลังว่าคืนนี้ต้องผัดไท เป็นต้น..........

                              “บางทีฉันก็ต้องเป็นผัวมัน ทั้งๆที่มันแมนกว่าฉันอีก” เพื่อนเกย์สาวก๋ากั๋นของผมจีบปากจีบคอเล่าให้ฟัง
                             “แล้วแกเอามันได้เหรอ” ผมพยายามซักไซร้เอาข้อมูลต่อ
                              “ได้สิ.....แต่โครตเซ็งเลยว่ะ..........พอถึงพรุ่งนี้ก็ทางใครทางมัน ไม่ต้องมาเจอะมาเจอกันอีก”...........หล่อนสาธยายต่อ..........อืม............ถ้าตัดเรื่องความมักมากหลายใจออกไป ผมว่านี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พวกเกย์คบกันไม่ยืด...........คบกับคนนี้พักเดียวก็เลิก..........กับคนนั้นพักเดียวก็ลา............เหตุเพราะมาจับได้ภายหลังว่าอีกฝ่ายแอ๊บสาวนั่นเอง...........

                              ประการที่สองน้องพรสำคัญตัวผิดมาตั้งแต่ต้น..........เนื่องจากไม่มีเกย์ที่ไหนจะมานั่งคอยเทคแคร์เกย์อีกคนประหนึ่งว่าเธอเป็นหญิงสาวที่น่าทะนุถนอม............เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเค้าก็ควรจะหันไปชอบผู้หญิงจริงๆซะยังจะดีกว่า............จากที่ผมเก็บข้อมูลมาตลอดพบว่า น้องพรจะสำคัญตัวผิด คิดว่าเค้ารัก จึงทำตัวเยี่ยงสาวน้อยที่เอาแต่ใจตัวเองและแสนงอน...........จะเอานั่นจะเอานี่.....อยากได้นั่นอยากได้นี่..........อยากให้ทำอย่างนั้นอยากให้ทำอย่างนี้...........จึงไม่แปลกว่าเค้าจะเอือมระอาและอยากจะถอยห่างออกไปในที่สุด............ขนาดผมคอยดูแลเอาใจนัทขนาดนี้ ยังได้แค่นี้เลย......เรื่องอื่นอย่างไปคิดเล้ยยยยยย.....

                               “ไม่ต้องคิดมากหรอก..........เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง” .........ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนอกจากพูดปลอบอกปลอบใจไปตามเรื่องตามราว............
                               “อืม.........มันคงจะดีขึ้น........หรือไม่ก็แย่ลง........” น้องพรพึมพัมเบาๆ...........


                               ผมกลับมาถึงห้องเสียค่ำมืด.........เพราะมัวแต่ไปเดินเที่ยวตลาดกันต่อ............ปกติหากเจอน้องพรเมื่อไหร่ผมมักจะชวนไปซื้อของกินที่กาดดอกไม้กันต่อ..........ไม่ใช่ซื้อเพื่อผมเองหรอก........แต่ผมซื้อมาไว้ให้นัทน่ะ............อิอิ.........

                                “ฮัลโหลพี่กั้งเหรอ”.........นัทโทรกลับมาหาผมในคืนนั้น.......ไหนว่าทำรายงานกันอยู่ไง............หรือจะให้พาไปกินข้าวหรือเปล่านะ.............
                                “อืม........เป็นไง” .......ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร นอกจากรอให้เค้าในเอ่ยสิ่งที่ต้องการมา............เพราะปกตินัทจะไม่โทรหาผมด้วยเรื่องไร้สาระ.........ส่วนมากก็เรื่องไปกินข้าว..........
                               “กางเกงที่ให้มาอ่ะ..........นัทใส่ไม่ได้........มันคับเกิน”............เอ๋า...........นี่ขนาดว่าเลือกไซส์ใหญ่สุดแล้วนะนี่.............
                               “ตอนถอดนัทต้องให้เพื่อนช่วยดึงด้วย”.............เวรกรรม............สงสัยจะขุนดีเกินจนอ้วนฉุไปแล้วมั้งเนี่ย..............
                               “เสียดายอ่ะ..........ซื้อมาตั้งแพง” ผมยังไม่วายบ่น............
                              “ไม่เป็นไร.........เดี๋ยวนัทจะลดน้ำหนักอีกหน่อยก็ได้”..........สงสัยจะงก........ลดน้ำหนักก็ยอม.......หุหุ
                              “เพื่อนนัทบอกว่าเค้าทำให้ขนาดนี้ก็ชอบๆเค้าไปเถอะ” ............จะพูดเอาอะไรกัน...........ไม่อยากชอบก็ไม่ต้องชอบสิ...........ฟังแล้วขัดหูพิกล.......

                              ผมแอบกลับมานั่งแค้นเคืองอยู่ในใจคนเดียวหลังจากที่นัทวางสายไปแล้ว.............นี่เค้าเอาไปเล่าให้เพื่อนฟังเกี่ยวกับผมว่ายังไง............คงพูดทำนองว่าผมรักเค้ามากแต่เค้าไม่ได้รักตอบเลยสักนิดสินะ..............นี่มันชักจะมากเกินไปแล้ว.........เค้าทำไปได้ยังไงโดยที่ไม่นึกถึงหัวใจกันบ้างเลย..........หลงตัวเองชะมัด...........

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #339 เมื่อ: 25-07-2007 12:13:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #340 เมื่อ25-07-2007 12:59:19 »


โดนขายลับหลังซะแล้ว อิอิ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #341 เมื่อ25-07-2007 14:38:43 »


.........วันหลังถอดไม่ได้...ก็มาหั้ยคุณกั้งถอดหั้ยดิ......... :laugh: :laugh:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #342 เมื่อ25-07-2007 15:24:44 »


 :o10:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #343 เมื่อ25-07-2007 15:39:45 »

รูปนี้แปลว่าอะไร.........อิอิ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #344 เมื่อ25-07-2007 22:46:51 »

เพื่อนๆเริ่มเชียร์แว้ว น่าจะดีนะ
 :m18: :m18: :m18:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #345 เมื่อ25-07-2007 23:01:35 »

นัทนี่จะว่าไปก็มีมุมน่ารักๆ อยู่ในตัวเหมือนกันนะ
สงสัยต้องรอคุณกั้งขุดมุมนั้นออกมาก่อนอะ  ถึงจะยอมเปิดออกมาทีละนิดๆ

ที่จริง  เราว่าคุณกั้งเอง ก็คาดหวังกับน้องเค้ามากเหมือนกันนะ
คนเราพื้นฐานต่างกัน  แสดงออกต่างกัน  พูดยาก

เอาใจช่วยจ้า  รออ่านต่อเสมอ 
:m1:  :m1:  :m1:  :m1:  :m1:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #346 เมื่อ25-07-2007 23:29:19 »


ถ้านัทเค้าเล่าให้เพื่อนฟังว่ากำลังดูใจกับชายสูงอายุ (กว่า) ผู้หนึ่ง ก้อดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ

เพราะแปลว่าเค้าก้อกำลังเริ่มเปิดเผยตัวตนของเค้าบ้างแล้ว....หรือเปล่าครับ


ส่วนตัวก้อคิดว่านัทก้อคงชอบพอคุณกั้งอยู่บ้าง  แต่ไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

(ผมประเมินว่าน่าจะเท่าเม็ดทรายนะ...    ไม่ใช่ปริมาณ แต่น่าจะเป็นขนาดอ่ะนะ 5 5 5 )

 :laugh3: :laugh3: :laugh3:


สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะครับ  ดูแลสุขภาพด้วยนะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ (แถวนี้อ่ะนะ แถวโน้นไม่รู้)

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #347 เมื่อ26-07-2007 08:51:10 »

แถวโน้นอ่ะแถวไหน...........ถ้าหมายถึงที่ที่ผมอยู่ล่ะก็........กรุงเทพง่ะ (ย้ายมาอยู่ได้สามเดือนแระ)

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #348 เมื่อ26-07-2007 10:31:48 »

                        “เดือนมีนาคมนี้นัทก็ว่างแล้ว นัทไม่อยากกลับบ้าน อยากหางานคลินิกทำที่นี่มากกว่า” .........นัทเปรยออกมาระหว่างที่เราสองคนกำลังหัดขับรถกันอยู่...............ตอนนี้นัทก็ขับเก่งขึ้นเยอะแล้ว...........แต่ยังไม่เก่งพอที่จะปล่อยให้ฉายเดี่ยว.........ถ้าเรายังคบกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง อีกสามปี ห้าปี..........ถึงตอนนั้นผมอยากมีโอกาสเป็นฝ่ายนั่งอยู่เฉยๆแล้วให้นัทขับพาไปไหนต่อไหนบ้าง.......แต่มันก็คงเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ...........

                        ผมสังเกตุว่าหลังจากที่นัทเสร็จสิ้นจากการเข้าร่วมปัจฉิมนิเทศเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พักหลังนี้นัทเอาแต่พูดเรื่องอยากจะหางานคลินิกทำในช่วงเวลาว่างหนึ่งเดือนที่เหลือนี้ ก่อนที่จะออกไปทำงานจริงๆในโรงพยาบาลชุมชุนประมาณกลางเดือนเมษายนที่จะมาถึง.........

                       แน่นอนอยู่แล้วว่า ผมย่อมไม่อยากให้เค้ากลับไปอยู่บ้าน..........เพราะนั่นหมายความว่าเราสองคนต้องแยกกันอยู่........ซึ่งก็ไม่แน่ว่า อาจจะเป็นการแยกกันไปเลยตลอดชีวิตของเราก็ได้............แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่า เวลาเพียงแค่เดือนเดียว..........เค้าจะไปทำอะไรได้นักหนา........ทำไมเค้าไม่ถือโอกาสพักผ่อนหลังจากที่ต้องคร่ำเคร่งกับการเรียนมาเป็นเวลายาวนาน.........ใจจริงผมอยากให้เค้าอยู่เชียงใหม่ต่อ แล้วรอไปทำงานทีเดียวเลยดีกว่า.........จะได้ไม่ต้องย้ายข้าวของไปมาหลายรอบให้วุ่นวาย............

                         “ใบอนุมัติก็ยังไม่ได้........ใครเค้าจะรับเข้าทำงาน” .........ผมพยายามหาข้อแย้งเนื่องจากไม่อยากให้เค้าต้องไปดิ้นรนทำอะไรแบบนั้น..........

                         “เพื่อนนัทก็ยังทำเลย..........ไปทำที่คลินิกคนรู้จัก.........อย่างน้อยๆก็ได้เงินไว้ซื้อชุดทำงานใหม่......ไม่ต้องไปรบกวนที่บ้าน”..........นัทหลุดปากให้เหตุผลออกมาในที่สุด..........

                          เท่าที่ผมทราบ ฐานะทางบ้านของนัทไม่จัดว่าร่ำรวย........นี่คงเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เค้าอยากจะหาเงินใช้เอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปรบกวนที่บ้าน...........ผมชอบที่เค้าเป็นคนรู้จักคิดและมีความรับผิดชอบแบบนี้............แต่บางครั้งผมกลับรู้สึกไม่สบายใจที่เค้าชอบพูดไปในแง่ของการให้ความสำคัญกับเรื่องเงินทองมากจนเกินไป.............

                           “อาชีพอย่างนัทนี่ทำเงินได้เยอะนะ........วันธรรมดาหลังเลิกงานก็ทำโอที........วันเสาร์อาทิตย์ก็ไปทำคลินิก......ชั่วโมงหนึ่งๆได้เงินตั้งเยอะ”.........เวลาที่เค้าพูดถึงเรื่องรายได้ในอนาคต ดูเค้ามีความสุขมาก.........ผมเห็นประกายตาที่แสดงถึงความอยากได้ใคร่ดีฉายออกมาอย่างชัดเจน............

                            “จะทำไปถึงไหน........คนเราไม่รู้จะอยู่จะตายเมื่อไหร่.........เอาแค่พอมีพอกินก็พอแล้วมั้ง.....จะไปดิ้นรนอะไรให้มากมาย.......ควรจะหาเวลาพักผ่อนบ้าง”........ผมพยายามรั้งให้เค้ามองในอีกแง่...........แต่ดูท่าทางแล้วคงจะไม่เป็นผล..........เพราะเค้ายังคงคิดตามแบบที่เค้าเชื่ออยู่ดี..........

                             “ยังมีแรงอยู่ ก็ทำไป” นัทพูดตัดบท..........ผมจึงหุบปากแล้วนิ่งเงียบเสีย...........

                              ผมไม่ใช่คนประเภทชอบใช้ชีวิตแบบประหยัดมัธยัสถ์.........ตรงกันข้าม บางคนอาจจะมองว่าผมเป็นคนติดฟุ่มเฟือยหน่อยๆด้วยซ้ำ............แต่ผมก็ไม่ได้มาจากครอบครัวฐานะร่ำรวยอะไร..........ก็แค่ครอบครัวข้าราชการธรรมดาๆ...........ดังนั้นผมก็ไม่ได้เป็นคนประเภทดูถูกคุณค่าของเงินแบบที่คุณหนูไฮโซทั้งหลายชอบทำกัน..........แต่ผมมองว่าเงินมันเป็นแค่ปัจจัยที่อาจจะทำให้คนเรามีความสุขได้ในบางครั้งเท่านั้น...............แต่ความสุขที่แท้จริงน่าจะมาจากจิตใจภายในที่เป็นสุขมากกว่า............การที่เค้าขนขวายหาเงินทองจนแทบจะไม่มีเวลาให้ตัวเอง........ครอบครัว........และตัวผมหรือคนรักของเค้าในอนาคตก็ตาม.......ผมคิดว่ามันไม่คุ้มค่าเลยกับเงินที่เค้าจะได้มา.............เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้ว........เงินมันก็เป็นแค่ศษกระดาษที่ไม่มีความหมาย........อยู่แบบพอมีพอกิน ใช้ชีวิตให้สมดุลน่าจะดีกว่า........


                             ดูเหมือนว่านัทจะไม่ยอมฟังที่ผมเตือนเลย.............เค้ายังคงเดินหน้าสืบหาข้อมูลจากรุ่นพี่ทั้งหลายว่ามีคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนที่ไหนที่เปิดรับหมอจบใหม่อย่างเค้าบ้าง............

                             “พี่กั้งพานัทไปสมัครหน่อยสิ..........ตอนนี้นัทเตรียมหลักฐานเอาไว้แล้ว......นัทจะไปสมัครที่คลินิกกับโรงพยาบาลในเชียงใหม่สองสามที่”.........นัทปรารภกับผมหลังอาหารมื้อค่ำที่ห้องของเรา.......ผมวางมือจากการรับประทานอาหารแล้วหันมามอง............นี่เค้าจะเอาจริงๆหรือนี่...........

                              ช่วงที่ผ่านมานัทเอาแต่วุ่นอยู่กับโทรศัพท์ถามคนโน้นคนนี้ เรื่องคลินิคที่อาจจะสนใจรับหมอเข้าทำงานเพิ่ม.........ผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรอีก นอกจากเฝ้าดูเงียบๆ........คลินิคที่ไหนเค้าจะรับคนเข้าทำงานเพียงเดือนเดียว...........รับไป เค้าก็ต้องเอาไปฝึกใหม่........เสียเวลาเปล่าๆ เพราะเดือนเดียวก็จะออกแล้ว...........

                               “เอาสิ.......ว่าแต่จะใส่ชุดอะไรไปสมัครล่ะ”.........ผมถามถึงชุดที่นัทจะใส่ไปสมัครงาน........เท่าที่ผมเห็น นัทไม่มีชุดที่ดูดีอยู่เลย...........มีแต่แบบปอนๆทั้งนั้น..........ถ้าผมเป็นผู้รับสมัครก็คงจะหักคะแนนจนไม่มีเหลือเพียงแค่เห็นในแวบแรกเท่านั้น............

                               “นัทจะใส่อะไรดี.........กางเกงสีดำกับเสื้อกาวน์ดีมั้ย.........มันเก่าเกินไปอ่ะ” นัทเองก็ดูวิตกกับชุดที่จะใส่อยู่ไม่น้อย...........
                              “เลือกที่มันดูสะอาดและก็แมทช์กันสิ”.........ผมแนะ.......เป็นหมอเข้าไปได้ยังไง...........ทั้งซกมก..........ทั้งไม่มีสง่าราศี...........แต่ผมก็ยังรักเข้าไปได้.............กรรมจริงๆ


                              วันรุ่งขึ้นผมแวะไปรับนัทที่หอแต่เช้า...........เค้ามาในชุดเสื้อเชิร์ทกางเกงสแลค สีไม่เข้ากัน.......ดูแล้วรวมความว่า ไม่ภูมิฐานเลยสักนิด............แต่ผมก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรให้เสียกำลังใจ นอกจากบอกว่า..........
                              “ดูดีแล้ว”.........แม้จะไม่เห็นด้วยนักกับการตัดสินใจของนัท.........แต่ในฐานะแฟน ผมก็ต้องสนับสนุนในสิ่งที่เค้าอยากจะทำให้ดีที่อยู่แล้ว...........

                                เรามาถึงที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเวลาต่อมา..............ที่นี่ นัทค่อนข้างหมายมั่นปั้นมือว่าจะได้งาน เพราะมีรุ่นพี่ที่รู้จักกันซึ่งทำงานที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว เป็นคนแนะนำมา...........
                               “เดี๋ยวพี่รออยู่ที่รถนะ” ผมเลือกที่จะรออยู่ข้างล่างไม่ตามนัทขึ้นไป..........ไม่ใช่เพราะว่าผมไม่อยากจะอยู่เคียงข้างเค้าในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ..............แต่ผมไม่ไปเพราะผมรู้ว่านัทไม่สะดวกใจต่างหาก..........ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่มั่นใจที่จะเผชิญหน้าเพียงลำพัง แต่เค้าก็ยังไม่ให้ผมไปเป็นเพื่อนอยู่ดี..........


                                นัทหายไปนานจนผิดสังเกต..........แดดเริ่มร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ.............จนผมทนรอในรถไม่ไหวอีกต่อไป..............หลังจากที่คิดใคร่ครวญอยู่นาน ผมจึงตัดสินใจว่าจะขึ้นไปรอนัทที่ตรงลอบบี้ของโรงพยาบาลจะดีกว่า..........ถึงแม้จะทำให้นัทต้องโกรธก็เถอะ..........

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #349 เมื่อ26-07-2007 12:04:49 »



ผมชอบความน่ารักในความคิดของนัทเค้านะครับ  ให้เค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าชอบเถอะครับ

การดูแลและให้กำลังใจแก่เค้าคือสิ่งที่น่าชมเชยแล้วครับ    o14 o14 o14

ว่าแต่จบแบบค้างๆอ่ะ   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #349 เมื่อ: 26-07-2007 12:04:49 »





ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #350 เมื่อ26-07-2007 16:23:50 »


ค้างอย่างแรง

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #351 เมื่อ26-07-2007 17:36:29 »

ไม่ได้ตั้งใจว่าจะจบแบบทื่อๆหรอก........แต่ว่าช่วงนี้งานยุ่งเลยเขียนได้แค่นี้ง่ะ.............

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #352 เมื่อ26-07-2007 18:16:42 »

รอได้จ้า ว่างๆแล้วก้มาต่อนะ  :m18:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #353 เมื่อ26-07-2007 19:10:52 »

 ทำไมนัทขึ้นไปนานจัง จะมีอะไรมั๊ยน้า :a11:   :a11:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #354 เมื่อ27-07-2007 10:53:40 »



 :m21: :m21: :m21:

tor13

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #355 เมื่อ27-07-2007 14:14:59 »

สงสัยไป :a4: :a4:กับหมออยู่มั้ง :laugh: :laugh:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #356 เมื่อ27-07-2007 18:13:47 »

สงสัยไป :a4: :a4:กับหมออยู่มั้ง :laugh: :laugh:



หรือว่ามัวไปเป็นหุ่นให้หมอทดลอง ฉีดยาอยู่    :m26:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #357 เมื่อ27-07-2007 22:19:06 »

^
^
แย่แว้วว  งี้นัทก็อยู่ในภาวะคับขันอะจิ  :a5:

ยังรอคุณกั้งอยู่น้า   :m13:

ปล  เรื่องทำงาน  เราว่าไม่แปลกอะ  ที่นัทอยากทำงานก่อนไปใช้ทุน  จบใหม่ ไฟแรงจ้า  :a2:

tor13

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #358 เมื่อ28-07-2007 14:49:14 »

 :m18:เป็นหมอก็รายได้ดีน่ะ แต่ว่าเราไม่ได้เรียนหมอมานะซิ
ไม่เป็นไรไปเป็นหมอ(นวดแผนโบราณ) ก็ด้าย :a3: :a3: :a3:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #359 เมื่อ31-07-2007 08:17:42 »

 
:m22: :m22:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด