คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 167830 ครั้ง)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #630 เมื่อ18-12-2007 18:50:56 »

 :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #631 เมื่อ19-12-2007 18:28:35 »

 :undecided:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #632 เมื่อ20-12-2007 10:58:30 »


ก็ได้แต่เชียร์แหล่ะ   ตอนไหนลุ้นว่าเราจะเสียประตู  ก็เสียวซะลืมหายใจเลย     :serius2:



เสียประตู (หลัง) ?   ยืนยันว่าเสียวเจงๆ  :o8: :o8: :o8:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #633 เมื่อ20-12-2007 19:39:57 »

อะไรคือประตูหลังเหรอ  :o8:

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #634 เมื่อ20-12-2007 20:12:18 »

เอ่อ....คุณ moody คะ  เรื่องของคุณนี่อ่านแล้วอึดอัดชะมัดเลย

ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องทนถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ  ก็ถ้าตรึกตรองดูแล้ว คิดว่าอยู่กันไม่ยืดแน่

ทำไมต้องไปทู่ซี้เป็นแฟนกันด้วย ต้องไปยอมมันถึงขนาดนั้น  เลิกกะมันไปเถอะ ไอ้คนเฮงซวย ที่คิดได้แต่เรื่องตื้นๆ พรรค์นี้ คนเราถ้ารักกันเค้าไม่ทำกันอย่างนี้หรอก ทำอย่างนี้แสดงว่าไม่ได้รักกันเลยแม้กระผีก

เสียดายความรู้สึกที่มีให้  แต่มันคงไม่มีประโยชน์หรอก  สำหรับมันคงไม่เห็นค่าแม้แต่น้อยนิด

เราอาจพูดแรงไปมั่ง แต่ก็พูดตามประสบการณ์นะ เพราะเคยเจ็บมาก่อน  แต่ก็ตัดใจได้ เพราะคิดว่าอยู่คนเดียวมันไม่ตายหรอก แต่ถ้าอยู่กะมันนะ ไม่มันก็เราอาจตายไปข้างนึง

แต่เหตุการณ์ผ่านมาสองปีแล้ว  ตอนนี้คงทำใจได้แล้วใช่มั้ยคะ

ขอโทษอีกทีนะ  คืออ่านแล้วมันอินน่ะ เลยแรงไปนี้ดนึง

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #635 เมื่อ21-12-2007 11:16:33 »

ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทน............จนบัดนี้ก็ไม่เข้าใจตัวเอง...........มันคงเป็นวังวนอย่างที่คนเค้าว่า..........เส้นผมบังภูเขาเนอะ...........

...
                        ทำไมหนังที่เกี่ยวกับชีวิตรักของเกย์มักจะต้องลงเอยความความเศร้าตลอดเลยนะ.........หรือว่านี่มันคือสูตรสำเร็จของชีวิตเกย์ไปซะแล้ว..........แต่จะว่าไป ความรักของผมในตอนนี้ก็คงไม่แตกต่างกับหนังเกย์พวกนั้นมากนักหรอก.................ยิ่งดูก็ยิ่งสะท้อนสะท้านในหัวใจ............ดูๆไปแล้ว ส่วนใหญ่ความไม่ลงตัวของชีวิตคู่เกย์ทั้งหลาย ก็มักจะมาจากฝ่ายพระเอกนั่นแหล่ะ...........ไม่ว่าจะเป็นการไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์เอย นิสัยเช้าชู้หลายใจเอย นิสัยไม่ดีเอย โอ้ย สารพัดของความเลว........แต่จะมียกเว้นอยู่บ้างในหนังบางเรื่อง เช่น เรื่อง Happy together ที่ เลสลี่จางรับบทเป็นนางเอก...........อันนั้น ชีมั่นซะไม่มี.............ร่านซะจนพี่เหลียงเฉาเหว่ย ยอมรามือถอยทัพไปเลย..............หุหุ..........ส่วนพระเอกนั้นก็ดีแสนดีนักหนาจนน่าสงสาร..........อย่างว่าล่ะ คนเรามีของดีอยู่กับตัวมักจะไม่ค่อยรู้สำนึกกันหรอก...............อีกเรื่องก็เป็นเรื่องที่นัทเอามาให้ผมดู เมื่อครั้งที่ผมบอกเลิกเค้าล่าสุด...........ชื่อเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว..........รู้แต่ว่าจบแบบ happy ending โอเวอร์ซะไม่มีอ่ะ...........นัทเองก็คงดูไปฝันไป.........แต่ในชีวิตจริงเค้าไม่มีทางกล้าทำแบบนั้นหรอก.............

                       “ใช่สิ.......นัทมันก็เป็นพวกไก่ได้พลอยอยู่แล้วนี่”............นัทมักพูดประชดผมแบบนี้เสมอ.........เวลาผมบ่นถึงความไม่ได้เรื่องต่างๆของเค้า.............
 
                       ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวเนอะ...........แต่ก็ยังทำอยู่ได้...............หรือว่าใครๆเค้าก็ชอบคนเลว อย่างที่ในเพลงเค้าร้องกันทั่วบ้านทั่วเมือง..............มิน่าล่ะ ผมถึงทิ้งเค้าไม่ลงซักที.......สงสัยผมเองก็คงชอบคนเลวเหมือนกัน..........อิอิ...........เอ....หรือว่าผมจะเป็นมาโซคิสต์กันนะ........บรึ๋ยยยย....


                      ผมออกมาจากโรงหนังด้วยความรู้สึกแจ่มใสกว่าที่คาด (ตอนแรกนึกว่าจะได้หลั่งน้ำตากลางโรงหนังซะอีก......ประมาณว่าไม่รู้จะสงสารนางเอกในหนัง หรือสงสารตัวเองกันแน่เทือกนั้น)............แต่ถ้าหนังทำได้รันทดแค่นี้ ก็ถือว่าชิวชิว..............ชีวิตผมรันทดกว่าเยอะ...............ยกเว้นก็แค่ผมไม่ได้ตายในตอนจบให้นัทต้องมานั่งคร่ำครวญเสียใจในภายหลังเหมือนอย่างในหนังก็เท่านั้นแหล่ะ..........



                     “พี่กั้งพรุ่งนี้มารับที่อาเขตด้วยนะ.........นัทขนของมาจากบ้านเยอะเลย”..........นัทโทรมาแจ้งกำหนดการเดินทางแก่ผมในตอนหัวค่ำ..........ตอนนี้ความรู้สึกของผมที่มีต่อนัทกำลังจะด้านชาลงเรื่อยๆตามวันเวลาที่ผ่านไป.........แต่ลึกๆในใจ ผมก็ยังแอบหวังว่าเค้าจะคิดได้..........ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป.........

                       “กี่โมงอ่ะ”..........ผมถามถึงเวลามาถึงที่แน่นอน..........จะได้ออกไปรับแต่เนิ่นๆไม่อยากจะให้เค้าต้องรอนาน...........

                       “ประมาณสิบเอ็ดโมงอ่ะ”..........เฮ้ย..........ยังเช้าอยู่เลยนี่หว่า..........เอ.......หรือว่าเค้าอาจจะอยากมีเวลาส่วนตัวกับผมก่อนจะกลับแพร่นะ...........

                      “แล้วจะกลับเข้ามาที่ห้องก่อนหรือเปล่า”............ผมถามเสียงสั่น.............เค้าจะรู้มั้ยเนี่ยว่าผมแอบคิดอะไรอยู่..........

                      “ไม่..........กลับเลยดีกว่า”...........นัทปฏิเสธเสียงเรียบ...........ผมแอบลอบถอนหายใจเงียบๆ........เค้าไม่ได้รู้สึกเหมือนเรา.............

                      “นัทอยากไปเที่ยวน้ำตกมากกว่า...........เราออกไปจากเชียงใหม่ก่อนเที่ยงจะได้แวะเที่ยวน้ำตกระหว่างทางกันก่อนดีมั้ย.........นัทไม่อยากไปถึงที่โรงพยาบาลแต่วัน”.............นัทเสนอแผนการอื่นทดแทนสิ่งที่ผมต้องการ.........แต่มันไม่ใช่แบบนี้.........ผมอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันเงียบๆเพื่อจะได้เปิดใจคุยอะไรต่ออะไรกับเค้ามากกว่าที่จะออกไปเที่ยวน้ำตก..............แต่เกมส์นี้ผมเป็นผู้ตาม.........เพราะฉะนั้นก็เลยตามเลย.........

                     “อืม..........เอางั้นก็ได้”...........ผมยอมตกลงโดยดี..........


                      อยากให้เค้ากลับเข้ามาที่ห้องแล้วอยู่กับผมที่นี่มากกว่า.........บ่ายๆเราค่อยเดินทางออกไปก็ได้.........ผมไม่อยากออกไปเที่ยวตะลอนๆ...........ผมไม่ชอบ.........แต่ก็ช่างมันเถอะ..........แทนที่จะเอาเวลามานั่งทอดถอนใจ.........สู้ทำตัวให้สดใสดีกว่า..........ยิ่งทำตัวเศร้าก็ยิ่งดูเหมือนคนกำลังจะโดนทิ้งยังไงก็ไม่รู้...........

                      คิดได้ดังนั้นผมก็ลุกขึ้นมาสำรวจใบหน้าตัวเองในกระจก............ดูซูบเซียวไปหน่อยหรือเปล่านะ.........ทั้งๆที่ผมก็จัดว่าดูดีพอแล้วสำหรับคนอย่างนัท..........แต่ตอนนี้ผมชักขาดความมั่นใจขึ้นมาหน่อยนึง..........หาอะไรมาประทินผิวบ้างดีกว่า...........

                      คิดได้ดังนั้นผมก็เดินไปรื้อวัตถุดิบจำพวกที่จะให้กรดผลไม้จากตู้เย็น...........รวมทั้งพวกที่จะให้ความชุ่มชื้นและความเต่งตึงแก่ผิว.........สิ่งที่ผมรวบรวมได้ก็มี ไข่ไก่ โยเกิร์ต น้ำผึ้ง มะนาว และกล้วยหอม..........แล้วพรุ่งนี้จะใส่เสื้อผ้าชุดไหนดีล่ะ............เอาแบบที่ดูทะมัดทะแมงและก็ดูดีหน่อยนึง.......ผมควรจะหวีผมแบบใหม่ดีมั้ยน๊า..........นัทเคยค่อนขอดเมื่อคราวก่อนว่าไม่ชอบให้หวีปรกหน้าผากลงมา...........อืม......แล้วจะทำอะไรก่อนหลังดีล่ะ..........รู้สึกเหมือนคนที่กำลังพยายามแต่งตัวเพื่อมัดใจสามีหลังจากที่จับได้ว่าเค้าแอบไปมีบ้านเล็กยังไงยังงั้นเลย.........น่าสมเพชตัวเองชะมัด........แต่ก็ทำ........


                        ผมแต่งตัวเนี้ยบเรียบเป๊ะตรงตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ ออกมายืนรอนัทที่สถานีขนส่งอาเขตก่อนถึงเวลานัดเล็กน้อย........ไม่นานรถโดยสารจากเชียงรายก็เคลื่อนตัวเข้ามายังสถานี..........นัทหิ้งกล่องและกระเป๋าเสื้อผ้าพะรุงพะรังตรงมาที่รถของผมเหมือนกับจะรู้ว่าผมมารออยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว.........เราสองคนส่งยิ้มให้กันอย่างเก้อเขิน...........

                        “ไปกินข้าวกันก่อนมั้ย.........พอดีแม่ฝากของมาให้น้องชายด้วย..........เราไปหาอะไรกินแถวที่ทำงานมันก็แล้วกันจะได้ไปทีเดียวเลย”.............น้องชายของนัทเป็นนักเทคนิคการแพทย์ (ตระกูลนี้ชอบเรียนเกี่ยวข้องแต่กับสาขาแพทย์) อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมือง.............แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นครอบครัวของนัทสักคน..........อย่าว่าแต่ครอบครัวเลย..........คนใกล้ตัวนัทคนอื่นๆผมก็ยังไม่เคยเห็นเลย.........นี่ถ้าผมเป็นผู้หญิง.......สถานการณ์อย่างนี้คงเข้าข่าย กำลังจะโดนหลอกฟันแล้วทิ้งแหง๋ม......โชคดีนะที่ผมไม่ใช่ผู้หญิง (ฮา).....

                        “หวีผมใหม่เหรอ........นัทบอกแล้วว่าให้หวีแบบนี้ดูดีกว่า”..........นัทมองมาที่ผมด้วยสายตาขบขันกึ่งพอใจ............

                       “นี่ไปซื้อแว่นกันแดดมาจากไหนอ่ะ.............”...........นัทเอื้อมมือมาจะหยิบแว่นกันแดดที่ผมใส่อยู่ออกไปดู..........ผมเอียงหน้าหลบเล็กน้อยพอเป็นพิธี.........พลางถามแก้เก้อ

                       “ทำไมเหรอ”..........

                       “เปล่า..........ก็สวยดี”..........แผนปรับลุกส์ใหม่ได้ผลเกินคาดแฮะ.........หรือจะเป็นอย่างที่เค้าว่า.........คู่รักที่กำลังจะจืดชืด........จะต้องเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ.........ปรับอะไรใหม่ๆเพื่อเพิ่มสีสันให้ชีวิตรักบ้าง............แต่ผมว่าได้ผลแค่บางส่วนเท่านั้นแหล่ะ...............ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจของเค้ามากกว่า..........เอาไว้ให้ไปถึงที่น้ำตกก่อนเถอะ.........ผมต้องหาหนทางดึงความรู้สึกเก่าๆของเค้ากลับมาให้ได้..........

                       เมฆฝนตั้งเค้าทะมึนมาแต่ไกล............เราสองคนแวะเข้าไปทานข้าวในร้านอาหารตามหลักศาสนาของนัท..........เค้าเป็นคนจัดแจงให้ผมเสร็จสรรพทุกสิ่งอัน............

                       “เดี๋ยววันนี้นัทเลี้ยงเอง”...........ได้ยินแล้วชื่นใจเหลือเกิน............เรื่องเงินทองโดยมากหากคิดว่าใครได้ใครเสียแล้วล่ะก็.........ส่วนใหญ่ก็มักเป็นฝ่ายเรานั่นล่ะที่ต้องเสีย............แต่จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของแต่ละคู่.............หากจะมานั่งคิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้ก็คงได้ขึ้นคานตายกันพอดี............สำหรับผมน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันแบบนี้ก็ดีเกินพอแล้ว..........เธอออกมั่งฉันออกมั่ง...........แต่อย่าให้ถึงกับต้องให้ผู้ชายมาเป็นฝ่ายควักตังเลี้ยงตลอดเลย..........มันดูไกลความจริงจนเกินไป...........ไม่อยากจะฝันถึง...........


                        บรรยากาศภายในร้านไม่พลุกพล่านนัก............ผมนั่งกินข้าวอย่างสงบเสงี่ยมเช่นเคย...........ปกติหากต้องไปไหนด้วยกันข้างนอก...........ผมมักจะสำรวมมากกว่าปกติอยู่แล้ว............โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชาย...........

                        “เวลากินข้าวต่อหน้าผู้ชายทำเป็นเสงี่ยมเรียบร้อย..........ทีกินกับเพื่อนๆกูนึกว่าปอปลง”……..เดียวและเพื่อนสนิทคนอื่นๆของผม มักว่ากระทบกระเทียบแบบนี้เสมอเวลาที่พวกเรากินข้าวด้วยกัน..........ก็แน่ละสิ จะมีใครเพอร์เฟ็คขนาดนั้นล่ะ.......ก็มันกินไม่ลงเองอ่ะ......ไม่ได้เฟคนะเว้ย.........ถ้าฉันเป็นปอป แกก็เป็นกระสือละวะ........อุอุ.........

                      “อ้าว กินไม่หมดอีกแล้วเหรอ.........เอามานี่เดี๋ยวนัทกินเอง”...........ผมยื่นจานข้าวที่เหลือให้นัท........ซึ่งเขาก็รับไปกินอย่างหน้าตาเฉย...........แต่รู้มั้ยว่า ผมชอบอะไรทื่อๆแบบนี้แหล่ะ.........มันดูจริงใจดี..........เสียดายที่เค้ามีข้อจำกัดหลายอย่าง...........ไม่อย่างนั้นเราสองคนคงไปได้สวย........แต่ก็ช่างมันเถอะ...........อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด.........ผมจะทนจนกว่าจะถึงวันที่เสียงหัวใจผมสั่งว่าไม่ต้องทนอีกต่อไป..............

T-Jang

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #636 เมื่อ21-12-2007 11:29:14 »

ลองมาคิดดูถ้าเราเป็นแบบคุณกั้งเราคงไม่ทนอ่ะ
ขนาดแค่เป็นคนอ่านเฉยๆยังทรมานใจเลย
ไม่รู้ทนได้ยังไง  :เฮ้อ:
แต่มันรักไปแล้วนี่เนอะ o7

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #637 เมื่อ22-12-2007 14:31:32 »


ก็ได้แต่เชียร์แหล่ะ   ตอนไหนลุ้นว่าเราจะเสียประตู  ก็เสียวซะลืมหายใจเลย     :serius2:



เสียประตู (หลัง) ?   ยืนยันว่าเสียวเจงๆ  :o8: :o8: :o8:

 :m30:    :m25:     



เรื่อง Happry together เลสลี่จางเล่นได้น่าหมั่นไส้มาก
แต่ตอนจบดีนะ อย่างน้อยพี่เหลียงของเราก็ยังพอมีความหวังกะรักครั้งใหม่

ผิดกะเรื่อง lanyu ทำไมต้องจบแบบนี้ด้วย
น้องlanyuของเราสุดแสนจะซื่อแล้วก็แสนดีแต่โดนทำร้ายจิตใจตลอด 
ทำไมต้องเป็นแบบนี้   :m15:

ถ้าอ้างอิงเอาจากหนังนะ
คุณกั้งก็เหมือนนายเอกในหนังหลายๆเรื่องที่เคยดู
ชีวิตนายเอกต้องอดทน ต้องใจสู้ เจ็บแล้วไม่จำ  ให้อภัยคนรักได้ตลอด   :sad2:
แม้ว่าพระเอกมานจะน่าโดน   :เตะ1:  แค่ไหนก็ตาม
คนดูคนอ่านอย่างเราก็ได้แต่     :a6:


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #638 เมื่อ22-12-2007 20:49:24 »

...........ผมนั่งกินข้าวอย่างสงบเสงี่ยมเช่นเคย...........ปกติหากต้องไปไหนด้วยกันข้างนอก...........ผมมักจะสำรวมมากกว่าปกติอยู่แล้ว............โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชาย...........
^
^
^
^
^
^
ll
ll

เจ้นอนยันเลยเคอะ นู๋ๆ ขา  ว่าจริงล้านแปดเปอร์เซนต์

พี่กั้งอะ เจ้าแม่ประดิษฐ์  ประดิษฐ์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :m30:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #639 เมื่อ24-12-2007 00:32:43 »

รักน้อยๆแต่รักนานๆ
นานๆเจอกันที มันก็มีความสุขที่ได้คิดถึงกันนะ
 :mc1: :mc1: :mc1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #639 เมื่อ: 24-12-2007 00:32:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #640 เมื่อ24-12-2007 12:01:29 »

หุหุ ทนจนนาทีสุดท้ายเลยนะ  :m21: :m21:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #641 เมื่อ26-12-2007 11:21:46 »

 :a3:  รอ ร๊อ รอ ตอนต่อปาย....
 :m13:
 :m1:

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #642 เมื่อ29-12-2007 13:05:22 »




 :a12: :a12: :a12:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #643 เมื่อ07-01-2008 09:44:38 »

ดีใจจังที่ board กลับมาเปิดได้อีกครั้ง ยังไงก็สู้ๆนะครับ..............


...

                 สายฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆหลังจากที่พวกเราทานข้าวเที่ยงเสร็จพอดี..............เราสองคนออกวิ่งเหยาะๆ กลับมายังรถก่อนที่เสื้อผ้าจะเปียกปอนไปมากกว่านี้......วันนี้คงเป็นอีกวันหนึ่งของฤดูฝนที่สุดแสนจะโรแมนติกสำหรับใครต่อใครหลายคน.........ได้นอนกอดก่ายกับคนรักบนเตียงอุ่นๆ.............ชี้ชวนกันดูเม็ดฝนสีชมพูที่โปรยปรายอยู่ข้างนอกหน้าต่าง..........เหมือนฝันเลยเนอะ..........

                 “เดี๋ยวแวะเอาของไปส่งให้น้องชายนัทที่โรงพยาบาลก่อนนะ”........เสียงนัทดังทำลายจินตนาการของผมให้พังครืนลงมาในพริบตา........กำลังฝันหวานอยู่เลยเชียว.........

                 “อืม”.......ผมครางออกมาเบาๆ พยายามเรียกสติกลับคืนมา.....ในใจนึกเสียดายบรรยากาศอันแสนโรแมนติกอยู่ครามครัน..........


                 โรงพยาบาลที่น้องชายของนัททำงานอยู่ เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงตั้งอยู่ใกล้ตัวเมือง.............ผมไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่าน้องชายของนัททำงานอยู่ที่นี่.........จะว่าไปแล้ว ผมก็แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนัทเลย........ยกเว้นแต่เรื่องที่เค้าอยากให้ผมรู้........ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า........แต่ผมก็ไม่ได้พยายามขนขวายหาข้อมูลพวกนั้นหรอก.......ถึงเวลาก็คงได้รู้เองแหล่ะ
........แต่ดูเหมือนเวลาที่เหลือของผมกำลังงวดเข้ามาทุกที............

                  “พี่กั้งรออยู่ตรงนี้นะ.........เดี๋ยวนัทเอาของไปส่งให้น้องแป๊บเดียว”........นัทยก ลังของฝากเดินตัวปลิวหายไปตรงมุมตึก.........รีบร้อนจริงนะ..........ผมแอบคิดในใจ..........กลัวเราจะตามไปด้วยหรือยังไง........ถ้านัทคิดแบบนั้นก็นับว่านัทไม่รู้จักผมดีพอ..........ตั้งแต่คบหากันมา ผมไม่เคยนึกอยากไปแสดงตัวกับคนรอบๆตัวนัทเลยว่าผมกับเค้าเป็นอะไรกัน.......มันน่าอายจะตายไปที่จะต้องตามไปเสนอหน้าเพื่ออยากจะแสดงตัวอะไรแบบนั้น.........ผมเลือกที่จะขออยู่เงียบๆในโลกของผมดีกว่า..........

                   “คนแบบแกหาแฟนยาก..........เงื่อนไขเยอะ.........ไม่อยากโทรหาเค้า.........ต้องรอให้เค้าเป็นฝ่ายโทรหา........เค้านัดไปเจอก็ไม่ไป...........ต้องให้เค้ามาหาเอง”.........เดียวเคยวิพากวิจารณ์ถึงนิสัยส่วนตัวของผม เมื่อครั้งผมนำปัญหามาปรึกษาว่าทำไมผมถึงหาแฟนไม่ได้เหมือนหล่อน ทั้งที่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีตรงไหนที่ไม่ดีขนาดนั้น.........นัทเองก็น่าจะรู้ดีว่าผมเป็นคนยังไง............แต่เค้าก็ยังพยายามปกป้องพื้นที่ส่วนตัวเสียจนน่าหมั่นไส้..............เค้าทำให้ผมรู้สึกด้อยค่ายังไงก็ไม่รู้............


                    นัทหายไปนาน จนผมเริ่มกระสับกระส่าย..........สายฝนขาดเม็ดไปนานแล้ว.........แสงแดดอ่อนๆทอดทะลุผ่านก้อนเมฆสีขาวปุกปุยลงมายังเบื้องล่าง............ผมเริ่มรู้สึกร้อน และไม่อยากจะนั่งรอในรถอีกต่อไปจึงหยิบซองบุหรี่และไฟแช็คเดินออกมาหามุมหย่อนอารมณ์...........ชายวัยกลางคนมองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกๆ..........สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล.........แรง.........ผมอ่านคำประนามจากสายตาที่ฟ้องออกมาแบบนั้น.........ผมเบือนหน้าหนีทำทีเป็นไม่สนใจ พลางพยายามซ่อนสายตาที่ร้อนผ่าวเอาไว้ภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิท............ผมเกลียดที่นี่จัง...........

                   เดิมทีผมไม่ใช่คนสูบบุหรี่ แต่ดื่มแอลกอฮอล์บ้างตามโอกาส.........ผมเพิ่งจะเริ่มหัดสูบมันได้ปีกว่าเท่านั้น.........ความรู้สึกในตอนนั้น ก็แค่อยากทำตัวแร่ดๆแรงๆดูบ้าง........ผมไม่ชอบให้ใครมองว่าผมดูอ่อนเดียงสา น่าทะนุถนอมหรืออะไรเทือกนั้น.........เพราะมันไม่ใช่ตัวผมจริงๆ...........การสูบบุหรี่จึงเปรียบเสมือนการต่อต้านบุคลิกภาพภายนอกของตัวเองอยู่ลึกๆ..........ผมไม่อยากดูว่าเป็นคนเดียงสา........บุหรี่จึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงความขัดแย้งอย่างแรงต่อบุคลิกภาพโดยรวมของผมเป็นอย่างดี.........ได้ทำแบบนี้แล้วสะใจดีนัก.......


                   นัทเดินกลับมาที่รถเมื่อผมเริ่มต้นสูบบุหรี่มวนที่สาม...........เขากวาดสายตามองหาผมไปรอบๆ..........ผมยืนมองเค้าอยู่เงียบๆ..........ไม่อยากจะให้เค้าเห็นผมในตอนนี้ แต่ก็ช้าไปแล้ว.........นัทมองเห็นผมในไม่กี่อึดใจต่อมา..........สายตาของเค้าแสดงออกถึงการตำหนิอย่างโจ่งแจ้ง พลางทำท่าฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ...........ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งรออยู่ในรถ..............

                   ผมทิ้งบุหรี่ลงถังขยะแล้วเดินตามมาที่รถอย่างสงบ............ในตอนนี้ ผมไม่อยากพยายามที่จะทำอะไรเพื่อเอาใจเค้าจนเกินไป............เคยเป็นอย่างไรจะเป็นอย่างนั้น............หากจะต้องให้ผมมาคอยตามพะเน้าพะนอเพื่อทำคะแนนเพราะเห็นว่าเค้ามีท่าทีว่ากำลังจะตีจาก..........สู้ให้เค้าจากไปเลยซะยังจะดีกว่า.........แม้พื้นนิสัยของผมจะเป็นคนชอบโอ๋เอาใจคนรัก..........แต่ผมก็ไม่ชอบวิธีการประจบประแจง..........ถ้าหากจะทำ ก็เป็นเพราะอยากจะทำมากกว่า..........

                   “สงสัยเราจะไม่ได้ไปเที่ยวน้ำตกแล้วล่ะพี่กั้ง”............นัทเปรยขึ้นมาเบาๆ พลางหยิบเอาแผนที่ประเทศไทยออกมากาง............

                   “ไอ้น้ำตกที่เราจะไปเนี่ย มันอยู่ไกลมาเลย..........พี่กั้งดูสิ..........ขืนไปเราคงกลับมาไม่ทันมืดแน่ๆ”............ผมรับเอาแผนที่จากนัทมาดู............เออ...........จริงแฮะ.........แล้วทำไมไม่รู้จักเช็คข้อมูลมาตั้งแต่แรกล่ะเนี่ย คนอุตส่าห์เตรียมตัวมา..............ผมนึกเคืองนัทอยู่ในใจ แต่ไม่ว่ากระไรนอกจากยื่นหนังสือแผนที่คืนให้.............

                   “แล้วจะเอายังไงต่อไปล่ะทีนี้”...........ผมถามความเห็นของนัทอย่างสิ้นหวัง............อย่าบอกนะว่าจะให้ผมไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วจะให้กลับมาเชียงใหม่เลย.............ถ้าอย่างนั้นจะออกมาทำไมแต่ยังไม่ทันเที่ยง รู้งี้นอนเล่นที่ห้องก่อนแล้วค่อยออกมาตอนบ่ายๆก็ได้.............ผมพยายามข่มอารมณ์โมโหไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า...............

                    “ไปเที่ยวแม่เมาะแทนมั้ยล่ะ...........นี่ก็ยังวันอยู่ นัทเองก็ไม่ได้อยากรีบกลับเข้าไปที่โรงพยาบาลนักหรอก”.........โอ้ย........เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ได้..........ชักจะหมดอารมณ์แล้วนะ.......อยากไปไหนก็ตามใจแล้วกัน........แม้ในใจจะนึกเช่นนี้ แต่ผมก็ต้องจำใจเออ ออไปตามเรื่อง..........

                     “อืม.........แล้วที่นั่นมันมีอะไรเหรอ”..........ผมพยายามกลบอาการไม่พอใจเอาไว้ภายใน.........ดูเหมือนวันนี้อะไรๆก็ผิดแผนไปซะหมด.........

                     “ก็มีอ่างเก็บน้ำ”............แล้วมันมีอะไรให้น่าดูตรงไหนหว่า..........เอาวะ...........ว่าไงก็ว่าตามกัน...........



                      รถแล่นฉิวขึ้นเนินไปตามรดับความสูง...........รู้สึกว่าวันนี้นัทจะคุยเก่งกว่าปกติ.............ดูขยันหยิบยกเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเล่าได้ไม่มีเบื่อ.......แต่โดยมากก็มักเป็นเรื่องส่วนตัวของตัวเค้าเองซะมาก.........ไม่เห็นจะถามถึงเรื่องของผมบ้างเลยเนอะ..........แต่ยังไงก็ดีกว่าให้มานั่งทำหน้าเป็นตูดล่ะวะ.........ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า ส่วนใหญ่เวลาที่นัทพูดมากๆ มักจะต้องมีสาเหตุมาจากการที่เค้ารู้สึกผิดอะไรต่อผมบางอย่าง..............ครั้งนี้สงสัยเค้าอาจจะเกรงใจที่ผมต้องขับรถมาส่ง ถึงที่แพร่...........ทั้งๆที่ช่วงเวลาที่ผ่านมา เค้าทำไม่ค่อยดีกับผมเท่าไหร่............

                      “ที่โรงพยาบาลเค้าจะมีแข่งกีฬา........พี่ๆที่ทำงานเค้าชวนให้นัทไปเตะบอลด้วย”..........ผมเริ่มสนใจในประโยคที่ว่า เตะบอล...........เตะบอลเหรอ.........เกย์ส่วนใหญ่ไม่ชอบเตะบอลนี่............

                      “แล้วนัททำไงอ่ะ..........ไปเตะกับเค้าด้วยหรือเปล่า”.............ผมถามหยั่งเชิงดูท่าทีว่านัทจะทำอย่างไร กับเรื่องนี้

                           “ไม่.........นัทกลัวจะทำขายหน้า.........เดี๋ยวเตะไม่โดนลูก........อายเค้าเปล่าๆ”............หุหุ..........ก็อยากเป็นผู้ชายนักไม่เหรอ..........ก็ไปเตะบอลกะเค้าสิ.........ผมอยากเหน็บเค้ากลับด้วยคำคำนี้นัก...........แต่ก็ได้แค่อยาก...........

                       “อ้าว ทำไมล่ะ..........ไม่ลองไปซ้อมกับเค้าเล่นๆดูก่อนล่ะ เดี๋ยวก็เก่งเองแหล่ะ”............ลึกๆแล้วผมรู้สึกสะใจเหลือเกิน ที่เห็นว่าแม้เค้าจะพยายามหลอกลวงคนอื่นโดยการทำเก๊กแมน.....แต่แท้ที่จริงแล้ว เค้าเองก็ยังขาดความมั่นใจในตัวเองเรื่องนี้อยู่มาก.........เค้าจะมีความสุขไปได้อย่างไร......แล้วผมควรจะทำให้เค้ามั่นใจหรือควรจะทำให้เค้าเสียความมั่นใจดีล่ะ.............

                        ผมอยากจะพูดเพื่อตอกย้ำให้เค้ารู้สึกเจ็บปวดและรู้สำนึกซะบ้างว่าตัวเองเป็นเกย์............เค้าไม่มีทางจะเป็นผู้ชายไปได้หรอก...........แต่ในที่สุดผมก็เลือกที่จะเงียบ และก็ฟังเพียงอย่างเดียว..........ปล่อยให้นัทพล่ามเรื่องของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ........ส่วนความคิดของผมกลับล่องลอยออกไปไกลแสนไกล...........ผมเหนื่อย.........ผมไม่อยากฟังคนที่พูดแต่เรื่องของตัวเอง..........



                        “พี่กั้ง......ไม่ต้องไปแม่เมาะหรอกเนาะ...........มันคงไม่มีอะไรให้น่าดูหรอก”.............นัทเอ่ยออกมาเมื่อเรากำลังเลี้ยวเข้าเส้นทางมุ่งสู่แม่เมาะได้สักพักหนึ่ง............ผมหันมามองด้วยท่าทีประหลาดใจ............จะเอายังไงของเค้าเนี่ย..........

                        “แล้วจะเอาไงอ่ะ.......”...........ผมถามออกมาเนือยๆ.............ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โตหรอก........แค่เค้าทำแผนพังมาโดยตลอดตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้วล่ะ.......มันพังมาตั้งแต่ตอนที่ผมไปรับเค้ากลับมาเชียงใหม่ แต่เค้าบอกว่าจะเลยกลับบ้านที่เชียงรายเลย.........และมันก็พังต่อเนื่องมาอีกนิดหนึ่งตอนที่เค้าบอกว่าอยากให้เราออกเดินทางแต่เช้า เพื่อจะได้แวะไปเที่ยวน้ำตกระหว่างทาง แทนที่เค้าจะมาอยู่ที่ห้องกับผมเมื่อเค้ากลับมาถึงเชียงใหม่แล้ว............ต่อมาเค้าก็บอกว่าไม่ไปน้ำตก แต่จะไปเที่ยวแม่เมาะแทน........แล้วตอนนี้กะอีแค่เค้าจะไม่ไปแม่เมาะ แต่จะกลับโรงพยาบาลเลย.......ก็แค่ยกเลิกแผนนิดๆหน่อยๆ มันคงไม่มีอะไรให้ต้องเสียความรู้สึกมากมายนักหรอก.........แค่นี้ชิลๆ.............

                         “กลับโรงพยาบาลเลยดีกว่า”..........อืม..........เยี่ยม........ถ้าจะให้มองในแง่ดี..........อย่างน้อยๆเราก็ได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันตั้งหลายชั่วโมงในรถระหว่างที่เราเดินทางไปแพร่...........และมีโอกาสได้รื้อฟื้นความรู้สึกที่กำลังจะตายลงไปจากใจ ให้ฟื้นกลับคืนมาใหม่.............จนกว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในเดือนหน้า...........

                         การกลับมาของนัทในเดือนนี้.........ผมแทบจะไม่มีโอกาสได้เปิดอกซักถามความในใจของเค้าถึงเรื่องที่เค้าทำอะไรแย่ๆกับผมเอาไว้มากมายตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา...........ตอนนี้สถานการณ์ยังดูคลุมเครือ.........ผมยังมองไม่ออกว่าในใจของเค้าคิดอะไรอยู่..............คงต้องรอดูท่าทีให้ชัดเจนกว่านี้อีกสักนิด.....................หากเดือนต่อไปพฤติกรรมต่างๆของเค้ายังเป็นเหมือนเดิม...........บางทีเราควรจะต้องหันหน้ามาคุยกันดีๆ เพื่อที่จะหาคำตอบว่าเค้าจะเอาอย่างไรกันแน่.................

                        “นัทหาร้านทำป้ายชื่อติดหน้าอกแต่ก็ยังไม่เจอสักทีไม่รู้มันมีร้านแบบนั้นแถวไหน.........อันที่นัทมีอยู่มันเป็นอันที่ใช้สมัยเป็นนักศึกษา.......ตอนนี้คำนำหน้าชื่อมันไม่เหมือนกัน”...............นัทเปรยถึงป้ายชื่อที่เค้าอยากจะได้ระหว่างที่เรากำลังเข้าสู่เขตจังหวัดแพร่.........

                        “เดี๋ยวพี่ไปทำให้เอามั้ย........”.........ผมรีบขันอาสาในทันที............ผมแสนจะภูมิใจที่ตอนนี้นัทได้เป็นหมอเต็มตัวแล้ว..........ไม่น่าเชื่อเลยว่านัทที่แสนจะซกมกเฉิ่มเชยของผม จะได้เป็นคุณหมอกับเค้าด้วย........แต่ถึงยังไงผมก็ยังมองว่าเค้าเป็นนัทคนเดิมอยู่ดีนั่นล่ะ.......

                       “อืม..........เอาสิ.........พี่กั้งทำมาสักสามอันนะ”...........นัทออกคำสั่งตามความเคยชิน.........

                       “ได้สิ........เอาไว้ทำเสร็จแล้วพี่จะส่งไปให้ที่โรงพยาบาลนะ”.........ตอนนี้ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะไปหาร้านที่ทำป้ายแบบนั้นได้ที่ไหน.........แต่คงไม่ยากเกินความสามารถหรอก...........อีกอย่างผมกำลังคิดว่าจะส่งซีดีหนัง Broke Black Moutain และก็ Lan Yu ไปให้นัทพร้อมกันเลย.........มันเป็นวิธีการเตือนให้เค้ารับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวผมและก็ความเป็นเกย์ของตัวเค้าเองด้วย..........และนี่ก็เป็นวิธีเดียวเท่าที่ผมพอจะนึกออกในตอนนี้...............



                      บรรยากาศในบริเวณโรงพยาบาลดูเงียบสงบ คงเพราะเป็นบ่ายของวันอาทิตย์........นัทขนของลงจากรถด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน...........ผมยืนมองดูด้วยความเหนื่อยใจ..........

                      เราสองคนยืนมองหน้ากันอยู่ในห้องเมื่อขนข้าวของลงจากรถเรียบร้อยแล้ว.............ผมกำลังนึกสงสัยอยู่ในใจว่าเค้าจะไล่ให้ผมกลับเชียงใหม่เลยหรือไม่............หรือเค้าจะชวนผมค้างที่นี่ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ...........หรือ............

                      “ถ้านัทไม่มีรูมเมท นัทคงจะให้พี่กั้งนอนที่นี่ด้วยหรอก...........พรุ่งนี้ก็เช้าค่อยกลับ”...........นัทพูดถึงรูมเมทที่เป็นแพทย์ฝึกหัด ซึ่งตอนนี้ก็กลับบ้านเช่นกัน ตอนนี้คงอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับมา.............นัทเคยพูดถึงรูมเมทคนนี้ให้ผมฟังบ้างเป็นครั้งคราว แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นหน้าคาดตาสักที.....ได้ยินว่าเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนนัทอีกทีหนึ่งด้วย แถมยังเป็นผู้ชายมากซะจนนัทต้องคอยระวังตัวแจเพราะกลัวโดนสงสัย (นัทชอบคบเพื่อนผู้ชาย เถื่อนๆเซอร์ๆเพื่อปกปิดตัวเอง)............หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่นัทไม่ชอบให้ผมโทรมาหาเพราะกลัวเพื่อนรู้ว่านัทเป็นเกย์...........แต่ถ้ากลัวเค้ารู้ก็ออกมาคุยโทรศัพท์นอกห้องก็ได้นี่.......ไม่น่าจะใช่หรอก...........หรือว่านัทจะกำลังชอบกะเค้าอยู่..........แต่ก็คงไม่ใช่อีกนั่นล่ะ............นัทกลัวคนจะรู้ว่าเป็นเกย์จะตาย คงไม่กล้าเสี่ยงมีความรักในที่ทำงานหรอก..........อีกอย่างเค้ากลัวจะเป็นบาปจะตายไปที่ต้องเป็นเกย์.........ถ้าเค้าจะเลิกชีวิตเกย์มันน่าจะจบลงที่ผมสิ............แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันนะ.........

                       “พี่อยากพักสักเดี๋ยวค่อยกลับ..........นัทไม่มีที่น่าเที่ยวแถวนี้เหรอ”.............ผมแสร้งถามที่เที่ยวกลบเกลื่อนความเสียใจที่นัททำทีเหมือนบอกให้รู้ว่าผมต้องรีบกลับไปก่อนที่คนอื่นจะมาเจอ...........

                       “ก็มีสวนสาธารณะใกล้ๆนี้ และก็วัดที่เค้ากำลังสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขา..........พี่กั้งอยากไปดูมั้ยล่ะ”..........นัทเสนอท่าทางกระตือรือร้นมากขึ้น...........เค้าอาจจะอยากตอบแทนด้วยการพาผมเที่ยวชมรอบๆก็ได้...........หรือว่าเค้าอยากจะให้ผมออกไปจากห้องนี้โดยเร็วกันนะ........

                        “เอาสิ”........ผมตอบตกลงทันที...........ก็ดีกว่าโดนไล่ให้กลับเลยล่ะวะ...........


                        แม้จะอยู่นอกโรงพยาบาล แต่นัทก็ยังไม่คลายความตื่นตระหนกลงไป...........เค้ายังหลุดท่าทีลุกลี้ลุกลนให้เห็นบ้างเป็นบางคราว ทั้งๆที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้แค่เดือนเดียวแท้ๆ จะมีใครมารู้จักอะไรนักหนา......อีกอย่างเราก็แค่เดินไปด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้เดินไปจูบกันไปซะเมื่อไหร่............

                        “ถ้ามีคนมาเห็นทะเบียนรถพี่กั้งว่าเป็นอุบลราชธานี เค้าจะสงสัยว่าพี่กั้งเป็นใคร ทำไมต้องมารับนัท........ถ้าเป็นญาตินัททำไมต้องขับรถทะเบียนอุบล........ถ้าเป็นเพื่อนทำไมต้องมารับมาส่ง..........แล้วเค้าก็จะเอาไปเม้าท์กัน.......นัทขี้เกียจต้องมานั่งตอบคำถามและก็สร้างเรื่องโกหกอีกสารพัด”...........นัทเคยปรับทุกข์กับผมด้วยปัญหาทำนองนี้เสมอ...........จนบางครั้งผมรำคาญในความหวาดระแวงดังกล่าว......

                        “แล้วนัทบอกเค้าว่าไง”.........

                        “ก็บอกเค้าว่าเป็นเพื่อน มาจากพิษณุโลก จะขึ้นไปทำฟันที่เชียงใหม่เหมือนกัน ก็เลยแวะมารับ”.....ยุ่งยากจังเนอะ........การที่ต้องคอยโกหกแบบนี้.........นี่ผมเป็นปัญหากับเค้าถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย........เค้าพารานอยด์เกินไปหรือเปล่า.......ดูๆไปเหมือนคนเป็นโรคประสาท.....

                        “นัทก็บอกเค้าไปสิว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่.........แล้วนัทก็วางตัวหมือนเราเป็นเพื่อนกัน ทำยังกะว่านัทไม่เคยมีเพื่อเป็นเกย์งั้นแหล่ะ........นัทวางตัวกะเค้ายังไงก็ทำกับพี่แบบนี้ก็ได้”.......ผมพยายามเสนอทางออกเพื่อลดความกดดันของนัทลง.........

                        “ไม่ได้หรอก........กับพวกนั้นนัทไม่ได้คิดอะไร.........มันไม่เหมือนกัน.........หรือพี่กั้งไม่อยากให้นัทคิด”...........เฮ้อ....เวรกรรม........เกลียดตัวกินไข่แท้ๆ...........


                        หลังจากแวะนั่งเล่นที่สวนสาธารณะริมน้ำ........เราสองคนจึงแวะขึ้นไปไหว้พระพุทธรูปบนยอดเขา (อันที่จริงผมไหว้คนเดียว นัทไหว้ไม่ได้).........ผมก้มกราบพระพุทธรูปและตั้งจิตอธิฐานต่อหน้าท่านรวมถึงต่อหน้านัทที่กำลังยืนดูอยู่เงียบๆ...........

                        “หากแม้นว่าเรามีบุญวาสนาต่อกัน ก็ขอให้เราผ่านพ้นปัญหาในครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว และขอให้ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข...........แต่หากเราหมดวาสนาต่อกันแล้วก็ขอให้ผมตัดใจจากเค้าให้ได้โดยไว และขอให้เราจบกันไปเสียที สาธุ”.........สายลมพัดกรูเกรียวต้องใบไม้ที่อยู่โดยรอบไหวระริก.......ท่านคงรับที่ผมอธิฐานแล้วกระมัง..........

                        จวบดวงตะวันใกล้จะลับเหลี่ยมเขา...........นัทจึงชวนผมกลับ.........เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังโดยปราศจากสิ่งรบกวนจิตใจจากภายนอกเช่นเย็นวันนี้........ผมมักได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่แท้จริงของนัทที่มีต่อผมเสมอ..........จนบางครั้งผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารเค้า...........ในขณะดียวกันผมก็รู้สึกสมเพชตัวเองพอๆกัน..........เมื่อไหร่ก็ตามที่เค้ากลับเข้าสู่สังคม ครอบครัว ศาสนา.........เมื่อนั้นผมก็จะไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเค้าได้อีก............เค้าจะคอยปัดป้องและโต้กลับมาอย่างแรงเสมอหากผมคิดจะลองดี..........จนบางครั้งผมอดสงสัยไม่ได้ว่านัทที่ผมรักคือคนๆไหนกันแน่..............


                        ผมเข้าไปนั่งตักนัทที่เตียง พลางกอดและหอมแก้มนัทเบาๆเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเรากลับมาถึงที่ห้องเรียบร้อยแล้ว............

                        “เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้าหรอก”..........เสียงนัทครางออกมาเบาๆ.......แม้จะทำท่าบ่ายเบี่ยงและทำเสียงเหมือนดุแต่ก็ดูอ่อนแรงเต็มที............ความยับยั้งชั่งใจของเค้าคงกำลังจะหมดลงหลังจากที่ได้ต่อสู้กับมันอย่างดุเดือดมาตลอดบ่าย.............

                        “ใครเค้าจะมาเห็น..........ที่นี่มีแต่เราสองคน”.........ผมแกล้งยั่วต่อ ไม่ยอมปล่อยมือจากการเกาะเกี่ยวง่ายๆ.............

                         “อยากจะโดนหรือไง”.........นัทถามเหมือนเป็นคำขู่ แต่น้ำเสียงเจือไปด้วยไฟปรารถนา............ใครกันแน่ที่อยากโดน............

                         ผมมองไปที่หน้าต่างซึ่งไม่มีผ้าม่านปกปิด..........หากเกิดอะไรขึ้นคนอาจจะมองเข้ามาเห็นได้................และผมไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อการมีเซ็กส์...........อีกทั้งคำถามที่นัทถามเมื่อครู่ มันก็ยังทำให้ผมรู้สึกละอายอยู่ลึกๆอีกด้วย.........จะให้ตอบว่าอยากเหรอ..........ไม่มีวัน.........

                         ผมหอมแก้มนัทอีกทีเบาๆ ก่อนจะลุกเดินออกมา...............

                        “พี่จะกลับแล้วนะ”............ผมเก็บข้าวของเตรียมตัวจะเดินทางกลับเชียงใหม่.............นัทไม่ว่าอะไร นอกจากเดินตามมาส่งที่ตรงระเบียง..............เราสองคนโบกมือให้กัน ก่อนที่ผมจะตัดใจขับรถจากมา............สำหรับช่วงเวลาหนึ่งเดือนถัดไป ผมก็แค่กลับไปเตรียมตัวตั้งรับกับพฤติกรรมร้ายๆที่เค้าอาจจะแสดงกับผมแบบที่เคยทำมาแล้วอีกก็ได้.............แล้วผมจะสามารถอดทน จนกว่าเราได้กลับมาเจอกันอีกในเดือนถัดไปหรือไม่........อันนี้ผมไม่รู้..........เรื่องนี้คงต้องถามนัทแล้วล่ะ.................

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #644 เมื่อ07-01-2008 10:30:55 »

อ่านไปอึดอัดแทนคุณกั้งไป
เหนื่อยใจด้วย  :serius2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #645 เมื่อ07-01-2008 11:06:23 »

ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

พี่ตู  น่าสงสาร  o7

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #646 เมื่อ07-01-2008 12:43:11 »

อดทน อดทน อดทน      :m15:  :m15:  :m15:  :m15:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #647 เมื่อ07-01-2008 17:14:53 »

หลังจากรอ ร๊อ รอ....ตอนต่อไป
พอได้อ่านก็ต้อง ทน ท๊น ทน อึดอัดใจกันต่อปายยยยยย    :เฮ้อ:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #648 เมื่อ07-01-2008 17:23:09 »

อิอิ...........มีแต่คนอึดอัดอ่ะ..........เกรงใจจัง

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #649 เมื่อ14-01-2008 09:23:30 »

^
^
น่ารักจริงๆ  ไม่ต้องเกรงใจ  ปล่อยมาหมดแม๊คเลยพี่กั้ง  จะได้บ้าไปเลย  o7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #649 เมื่อ: 14-01-2008 09:23:30 »





yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #650 เมื่อ14-01-2008 11:16:56 »

เรทติ้งไม่ค่อยขยับเรยอ่ะ........สงสัยจะเครียดเกินไปเนอะ..............งั้นมาต่อเลยละกันนะคับ

...

                        “จะรักทำไมให้เจ็บให้ช้ำ...........รักทำไมให้เหนื่อยให้ล้า.............อยู่กันไปก็เปลืองเวลา........ก็มีแต่ทุกข์ในใจ..............”...............ฮึ่มมมมมมม............เพลงบ้าอะไรวะ แต่งได้แทงใจอิ้บอ๋าย...........

                        ผมเอื้อมมือไปหรี่เสียงเพลงอันแสนเศร้านั้นลงช้าๆ...........ในใจนึกทบทวนถึงวันคืนเก่าๆที่เราสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาเกือบหนึ่งปีเต็ม..........แม้จะรู้ซึ้งถึงแก่นของสัจธรรมที่ว่า “ความรักในหมู่เกย์ ไม่มีคำว่าสมหวัง”........แต่ผมก็ยังอดหวังไม่ได้ว่าผมอาจจะได้รับการยกเว้นจากกฎเกณฑ์ดังกล่าว......มาถึงตรงนี้ผมก็คงต้องยอมรับความจริงเสียที แล้วก็คงต้องยอมรับโดยดุสดีว่า สติปัญญาที่ผมพากเพียรสั่งสมมาเกือนค่อนชีวิต ก็ไม่อาจจะสามารถพาผมก้าวผ่านปัญญาหัวใจครั้งนี้ไปได้...........ส่วนเวลาที่เหลืออยู่ ผมก็คงได้แค่นั่งเฝ้ามองดูตัวเองกระเสือกกระสนหาทางออกต่อไป จนกว่าผมจะอ่อนแรงและยอมแพ้ไปเองในที่สุด................

                         “ถ้าไม่มีรูมเมท.......นัทก็คงให้พี่กั้งนอนค้างด้วย........พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ”.........หึ........ฟังดูดีเนอะ.......แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้แสดงออกถึงความห่วงใยดังที่ได้พูด...........แม้จะโทรมาถามสักนิดว่าตอนนี้ผมขับรถกลับมาถึงไหนแล้วก็ไม่มี........

                         เวลาสองชั่วโมงต่อจากนี้ ผมจะต้องขับรถขึ้นเขา ฝ่าความมืดมิดกลับเชียงใหม่เพียงลำพัง............ผมได้แต่เฝ้าเพียรถามตัวเองว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องของเรา.........แต่ผมก็ไม่พบคำตอบที่น่าพอใจ.........ผมสับสนเกินกว่าจะตัดสินอะไรในตอนนี้............
 

                          “พี่กั้ง ไปเดินถนนวัวลายกันมะ”...........ตั้งแต่นัทจากไป ผมก็มีอ้นคอยไปไหนมาไหนเป็นคู่หู สลับกับเจบ้างเป็นพักๆ........แม้ว่าอ้นกับนัทจะไม่ค่อยกินเส้นกันนัก..........แต่ผมก็คงไม่คิดจะเลิกคบกับใครเพียงเพราะว่า แฟนผมไม่ชอบขี้หน้าเค้าหรอก.........

                          “นัทเป็นไงบ้างอ่ะ..........หมู่นี้พี่กั้งดูหน้าอมทุกข์จัง”.............หล่อนทำหน้าตายกลบเกลื่อนความอยากรู้อยากเห็นได้ไม่แนบเนียนนัก..........แต่ผมก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบังอยู่แล้ว.........

                           “ไม่ดีนัก........พี่ก็ไม่รู้ว่าจะทนรับสภาวะแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน”............ผมถอนหายใจออกมาดังๆอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่โฉบเข้าไปนั่งเลือกเครื่องเงินหลากสไตล์ที่วางขายบนแผงขนาดกระทัดรัดริมทางเดิน..........


                           ถนนวัวลายเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญอีกเส้นหนึ่งของเมืองเชียงใหม่.........ตลอดสองข้างทางของถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านเครื่งเงินเก่าแก่มากมาย...........และในคืนวันเสาร์ ถนนเส้นนี้จะถูกปิดเป็นถนนคนเดินสำหรับขายของพื้นเมือง คล้ายๆกับถนนคนเดินที่มักเปิดในคืนวันเสาร์อาทิตย์ในตัวเวียง..........แต่ที่นี่คนไม่พลุกพล่านเท่า........และเดินสบายกว่า..........

                          “พี่กั้งจะไปคิดอะไรมาก........ให้เวลาน้องเค้าปรับตัวอีกหน่อยสิ........เค้าเพิ่งไปอยู่ที่นั่นได้ไม่นานเองนะ”..........อ้นเดินเข้ามานั่งเลือกเครื่องเงินอยู่ข้างๆ พลางพยายามปลุกเร้าให้ผมคิดในแง่บวกต่อเรื่องแย่ๆที่นัทได้ทำลงไป............แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องปรับตัววะ.........ผมได้แต่แอบนึกสงสัยอยู่ในใจ............

                         “วงนี้สวยมั้ย”.........อ้นชูนิ้วที่สวมแหวนเงินวงโตลวดลายแปลกตาเพื่อขอความเห็น........ผมมองพิจารณาดูแหวนวงนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะ get ไอเดียขึ้นมาอย่างแรง...........

                         “พี่ว่าพี่เลือกแหวนเงินเกลี้ยงไว้ใส่กับนัทคนละวงดีกว่า”..........ผมร้องบอกไอเดียสุดเจ๋งกับอ้น แล้วรีบก้มหน้าก้มตาค้นหาแหวนวงที่ถูกใจ...........ครั้งหนึ่งที่ผมเคยมาเดินเที่ยวกับนัทและมอลลี่ที่ถนนวัวลาย........นัทเคยอยากได้แหวนเงินเกลี้ยงๆแบบนี้...........แต่สุดท้ายก็ไม่ซื้อเพราะไม่พอใจที่แม่ค้าทักว่านิ้วใหญ่ (หุหุ)............

                         “อันนี้เป็นไง”........อ้นชูแหวนเงินวงเกลี้ยงสะท้อนแสงไฟแวววับ.............ดูดีไม่เลวเลย.................ยังกะแหวนแต่งงานแน่ะ..........ผมยิ้มออกมาพลางไพล่นึกไปถึงเรื่องโรแมนติกๆ........

                          ผมรับซองพลาสติกที่บรรจุแหวนเงินสองวงมาเก็บไว้ในกระเป๋าอย่างบรรจง ก่อนจะจ่ายเงินให้กับพ่อค้า.......วงหนึ่งสำหรับนัท............อีกวงหนึ่งเป็นของผม.......ผมจะต้องบังคับให้เค้าสวมให้ผมให้ได้..........แต่ เอ.........ว่าแต่เค้าจะยอมให้ความร่วมมือหรือป่าวเนี่ย........คิดแล้วสยองจัง.........



                          หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป..........ยังไม่มีวี่แววจากนัทแต่อย่างใด.........ในขณะที่ผมเองก็เริ่มยอมรับกับสภาพดังกล่าวได้มากขึ้นเรื่อยๆ.........ผมจะไม่โทรไปหาให้เค้าโวยวายใส่อีกแล้ว.........ดูซิว่าเค้าจะทำอย่างไรต่อไป.......เลิกก็เลิกสิ..........เป็นไงก็เป็นกัน...........

                         “มีคนรักก็เหมือนไม่มี.........ก็ยังเหงา”.........การได้ตั้งชื่อสำหรับออนเอ็มเอสเอ็นแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกสะใจกับความล้มเหลวในเรื่องความรักของตัวเองดีเหมือนกัน..........แต่โดยปกติผมก็มักจะตั้งชื่อออนเอ็มเอสเอ็นไปตามสถานการณ์ในชีวิตแต่ละช่วงอยู่แล้ว.............

                         “พี่กั้ง......เป็นอะไรนักหนากับความรัก”........คนที่ผมไม่คาดฝันว่าจะได้รับความสนใจกลับกลาย
เป็นคนแรกที่เข้ามาถามถึงความทุกข์ใจที่ผมกำลังเผชิญอยู่........การเข้ามาทักทายของเค้าทำให้ผมหวนระลึกย้อนกลับไปถึงเมื่อครั้งที่ผมยังใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ........

                         “ที่โน่นกี่โมงแล้วเต้”..........ผมเลี่ยงไปถามคำถามอื่นเพราะไม่อยากให้เต้มองว่าผมเป็นคนขี้แย มีอะไรก็วิ่งร้องไห้มาฟ้องเค้าอะไรเทือกนั้น..........

                         “เกือบหกทุ่มแล้วครับ”...........เต้ตอบกลับมาเกือบจะในทันที...........ตั้งหกทุ่มแล้ว ดูซิ ยังมีแก่ใจมาถามไถ่ทุกข์สุข..........ค้าเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดที่ผมเคยพบ.......หล่อ.......สุภาพ........ฉลาด.......การศึกษาสูง........ละเอียดอ่อนและแสนดี.........แต่ผมคงทำบุญมาไม่มากพอ ผมจึงได้พบเค้าในช่วงสุดท้ายก่อนจะกลับมาเมืองไทย.........แม้ว่าตอนนั้นเค้ากำลังจะหลงกลมาตีแบดกับผมอยู่แล้วก็ตาม.........เฮ้อ........ผมจึงต้องกลับมาเมืองไทยทั้งๆที่ยังอยากจะทำความรู้จักกับเค้าให้มากกว่านี้.....

                          “เมื่อไหร่เต้จะมาเมืองไทยสักที.........พี่คิดถึงเต้”...........กรี๊ดดดดด........ไม่อยากจะเชื่อว่าผมเพิ่งพูดอะไรออกไป..........ไม่มีความเป็นกุลเกย์ซะบ้างเลย.........ช่างสิ.........คนเราไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอย่างที่อยากทำบ่อยนักหรอก.........

                         “ช่วงนี้คงไม่ได้กลับหรอกครับ กะลังมีสอบ”.........ถึงเค้าจะกลับมาก็คงไม่ได้มาเจอผมหรอก.........ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเค้านี่........อีกอย่างเค้าก็รับรู้มาโดยตลอดว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว.........

                        “ถ้าเต้กลับมาอย่าลืมมาเที่ยวเชียงใหม่นะ......พี่จะรอ”.......ผมยังไม่วายหยอดคำหวานทิ้งท้าย........ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าวันหนึ่งเราอาจจะได้กลับมาเจอกันอีกก็ได้........

                        “ครับ.......ผมเองก็ยังไม่เคยไปเชียงใหม่เลย”..........หัวใจที่ห่อเหี่ยวของผมได้สัมผัสกับความชุ่มชื่นอีกครั้ง จากคำปรารภลอยๆนั้น..........

                         “ว่าแต่พี่กั้งเป็นอะไรไปเหรอ กับความรักอ่ะ”..........ได้โอกาสที่ผมจะอ้อนเค้าบ้างแล้ว..........ถึงจะเป็นได้แค่ชู้ทางใจ..........แต่เค้าก็เป็นสุดยอดของผู้ชายในความฝันที่มีตัวตนอยู่จริงของผม.........แล้วผมจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปทำไมกัน.............

                         หลังจากที่รับฟังผมประจานความห่วยแตกของนัทจนจบ..........เต้ก็ได้แสดงความเห็นออกมาตามตรง..........

                         “พี่กั้งเลิกกับเค้าเถอะ.........จะทนไปทำไมคนพรรณนั้น”............ผมดีใจที่เต้โกรธ และเข้าข้างผม.........แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก..........

                         “ถ้ามีแฟนแล้วไม่ดี ก็อยู่คนเดียวยังจะดีกว่า..........ผมเองถ้าไม่มีแฟนคนนี้.........ผมก็อยู่คนเดียวได้........ไม่เห็นต้องกลัวเหงาเลย”..........แฟนคนนี้..........ผมเคยได้ยินมาว่าเต้มีแฟนแล้ว...........เป็นเพื่อนสมัยเรียนตั้งแต่ปริญญาตรี...........อีกไม่นานทั้งคู่ก็คงจะแต่งงานกัน...........แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาได้ยินจากเจ้าตัวเอง...........ถึงยังไงผมก็คิดว่าเต้เป็นเกย์ชัวร์..........แต่ถ้าเค้าเลือกที่จะแต่งงาน มันก็เป็นเรื่องของเค้า...........

                        “เลิกกับเค้าเถอะนะ”............เต้ย้ำในตอนท้าย ก่อนจะพูดให้กำลังใจผมอีกสองสามประโยคแล้วลาจากไป...............

                        “ถ้าพี่เลิกกับเค้าแล้ว.........เต้จะดูแลความรู้สึกของพี่ได้มั้ยล่ะ”...........ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ.........ไม่มีประโยชน์ที่จะหน่วงเหนี่ยวเค้าเอาไว้...........แต่อย่างน้อยๆ การที่ได้พูดคุยกับเค้าในวันนี้ ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าขึ้นมาเป็นกอง.........หลังจากที่โดนนัททำลายมันไปอย่างย่อยยับในช่วงเวลาที่ผ่านมา..........




                       นัทยังไม่โทรมาอีกเหมือนเคย.............ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ที่เหลือในแต่ละวัน ไปกับการพล่ามพรรณนาถึงความทุกข์ใจเรื่องนัทให้อ้นฟัง............รวมถึงการออกไปไหนมาไหนกับเจบ้างตามโอกาส...........แต่เค้าก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง.........ไม่มีวันเป็นตัวจริงไปได้หรอก.........บางครั้งผมก็เคยถามตัวเองว่าทำไมผมถึงไม่ลองให้โอกาสเค้าดูบ้างล่ะ.........บางทีการยอมรับใครสักคนเข้ามา อาจจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้นก็ได้.............

                       “ผมขอไปดูหนังที่ห้องพี่กั้งได้มั้ย”...........หนังที่ว่า หมายถึงคลิปฉาวของคนดังที่หลุดออกมาสู่สาธารณะ....นี่เค้าจะขอไปดูคลิปที่ว่าที่ห้องผมงั้นเหรอ..........หมายความว่ายังไงกันเนี่ย............

                       “ได้สิ”............ผมตอบตกลงหลังจากที่คิดใคร่ครวญแล้วว่าผมควรจะเปิดโอกาสให้คนอื่นที่แคร์ความรู้สึกของผมมากกว่าบ้าง...........

                       น่าแปลกเหลือเกินที่ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองใจเต้นแรง เมื่อเจมาอยู่ที่ห้องกับผมเพียงลำพัง.............ผมเปิดคลิปวิดีโอให้เจดู ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ..........

                       การที่เค้าขอมาดูคลิปวิดีโอโป๊ในยามค่ำคืนที่ห้องของผม...........นั่นก็แสดงว่าเราอาจจะมีเซ็กส์กันต่อ ถ้าอะไรต่ออะไรมันเป็นไปตามจังหวะจะโคนที่มันควรจะเป็น.............แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะ...........ทำไมผมถึงไม่รู้สึกกระตือรือร้นหรือเกิดความปรารถนาแบบนั้นขึ้นมาบ้างเลย...........

                       ผมเดินกลับมานั่งที่เตียงและดูวีดีโอกับเจเงียบๆ............เค้าหันมายิ้มให้แล้วหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาดูวีดีโอนั้นต่อ..........ผมเอนตัวลงนอนเงียบๆและผล็อยหลับไป...........แน่นอนผมชอบมีเซ็กส์..........แต่สำหรับผมมันไม่ใช่แค่การกินอาหารจำพวกฟาสฟูดส์หรืออะไรง่ายๆแค่พออิ่มท้อง..........ผมอยากจะเห็นความเป็นไปของอาหารนั้น นับตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ........การปรุงอย่างละเมียดละไม........และการนำมาจัดตกแต่งเพื่อเสริฟขึ้นโต๊ะ........เซ็กส์ในนิยามของผมจึงละเอียดอ่อนกว่าการแค่พาใครสักคนหนึ่งที่ผมไม่ได้รักมาดูหนังโป๊........และลงเอยด้วยการมีอะไรกันในตอนท้าย..........

                        “พี่กั้ง........กลับกันเถอะ”............เจชวนผมไปส่งที่บ้านด้วยสีหน้าผิดหวัง...........ผมไม่ใช่คนประเภทที่ใครๆจะมาล่วงเกินทางเพศได้ง่ายๆหากผมไม่เป็นฝ่ายเชิญชวน..........บุคลิกภาพที่วางเฉย และเชื้อเชิญของผมแตกต่างกันราวกับคนละคน.........ไม่แปลกหรอกที่เจไม่กล้าแม้แต่จะแสดงท่าทีพิศวาสออกมา..........

                         ผมกลับมาถึงห้องภายหลังจากไปส่งเจราวหนึ่งชั่วโมงต่อมา...........การมาของเค้าในคืนนี้ไม่ใช่ว่าไม่เกิดประโยชน์ซะทีเดียว..........อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้ค้นพบตัวเองว่า..........ผมมีความมั่นคงต่อนัทมากแค่ไหน..........ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่แยแสว่าผมจะซื่อสัตย์ต่อเค้าหรือไม่ แต่ผมก็จะไม่มีวันทำลายศักดิ์ศรีตัวเองเป็นอันขาด..........ผมเหลือบไปมองแหวนเงินสองวงที่วางสงบนิ่งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง.........มันส่งแสงวิบวับเมื่อยามแสงไฟตกกระทบ..........ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสได้มอบมันให้นัท.........เราจะใส่กันคนละวง ที่นิ้วนางข้างซ้าย.........คงจะโรแมนติกน่าดู.........ใช่.......มันคงจะโรแมนติกน่าดู...............

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #651 เมื่อ14-01-2008 11:43:45 »

แววเศร้าส่อมาเลย  o7  o7  o7

มีแฟนห่วย  สู้อยู่คนเดียวดีกว่า  หากิ๊กแก้เหงาเล่นเอา เอิ๊กๆ
เป็นอาทิตย์ไม่มีโทรมาหากัน  แฟนกันประสาอะไรหว่า 

รอๆๆ อ่านต่อ    :oni2:
Happy New Year พี่กั้ง  ขอให้มีความสุข  พบกับรักที่รอคอยตลอดไป  :pig3:


ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #652 เมื่อ14-01-2008 11:54:51 »

 :เฮ้อ: เริ่มเห็นด้วยกะรีบน
มีแฟนห่วยๆอยู่คนเดียวดีกว่า
ฉะบายกว่าเยอะเลย :a1:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #653 เมื่อ14-01-2008 12:26:36 »

Happy new year เหมือนกันจ้ะ มูมู่น้อย...........

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #654 เมื่อ14-01-2008 13:03:36 »

 ไอ้นัทมันคงจะใส่อยู่หรอกนะเคอะคุณพี่  :m14:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #655 เมื่อ14-01-2008 19:00:28 »

น่านสิ คงจะใส่อยู่หรอกนะ   :m21: :m21: :m21:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #656 เมื่อ16-01-2008 11:38:11 »

นับถือคุณกั้งสุดๆเลย     o13
การที่แฟนเราไม่ดี มานก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องทำตัวตกต่ำประชดเค้า
ไม่ว่าจะเป็นการไปมีอะไรๆกับใครก็ได้ทั้งที่ไม่รัก   หรือทำตัวแย่ๆในทางอื่น
เพราะถ้ามานึกเสียใจทีหลังมานก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
ขออยู่อย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่า  ใครไม่เห็นคุณค่าของเรา เราเห็นเองก็ได้เนาะ
เป็นกำลังใจให้คุณกั้งนะ   
คุณกั้งสู้ๆ   fighting  ๆๆ        :a2:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #657 เมื่อ16-01-2008 12:37:27 »

 :a6: ความรู้สึกเหมือนน้ำซึมบ่อทรายเลย

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #658 เมื่อ16-01-2008 18:25:57 »

น้ำซึมบ่อทรายนี่ หมายถึงความรัก หรือความเกลียดกันน๊อ......อิอิ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #659 เมื่อ16-01-2008 19:39:11 »

ยิ่งอ่านยิ่งเครียดแทน เหนื่อยแทนคุณกั๊ง  :เฮ้อ: สู้ต่อไปทาเคชิ  :a2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด