( ต่อ )
ในที่สุดเมอสิเดสคันหรูก็เลี้ยวมาจอดในโรงแรม 5 ดาว ซึ่งคงเป็นที่พักของเราคืนนี้ หวังว่าห้องพักคงไม่เหลือห้องเดียวทั้งๆ ที่เป็นโลซีซันแบบในละครนะ
" ชู่ววว โรงแรมท็อปซีเครสสวัสดีค่ะ " เห้ย เพิ่งเคยเห็นพนักงานสาวสวย 2 คนทำท่าประกอบขณะต้อนรับด้วย เจ๋งวะ ว่าแต่ได้เงินเดือนเท่าไหร่ เผื่อผมจะมาทำพาร์ทไทม์ " ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจองที่พักไว้รึยังคะ? " นั่นไงๆ อย่าพูดเชียวนะว่าถ้าไม่ได้จอง ทางเราต้องขออภัยเพราะห้องพักเต็ม แต่ถ้าต้องการจะพักจริงๆ เราเหลือห้องสุดท้ายที่ยังว่างอยู่ และห้องนั้นจริงๆ แล้วเคยมีคนตาย ไม่ใช่ละๆ ไหงจากโรแมนติคกลายเป็นสยองขวัญเฉย = =
" จองไว้แล้วครับ ชื่อปุณณัตต์ " ให้มันได้แบบนี้เซ่ โฮะๆ สมแล้วที่เป็นเจ้าพ่อเงินกู้ รอบคอบๆ
" อ่อ คุณปุณณัตต์ อภิมหาธนวัชร์ จองห้อง Suite ไว้ 1 ห้องนะคะ "
" ใช่ครับ "
เหยดดดดด มา 2 คนแต่จอง 1 ห้อง คิดได้ไง
" ยังมีห้องว่างอื่นอีกมั้ยครับ " ผมค่อยๆ แทรกประโยคคำถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
" ว่างทุกห้องเลยค่ะ ยกเว้นห้องที่คุณปุณณัตต์จอง " โรงแรมห่าไรวะ
" ดีเลยครับๆ งั้นผม.. "
" มึงจะทำอะไร ถ้าคิดจะแยกห้อง ก็จ่ายเอง "
คุณปูนจบข้อความแค่นั้นก็สะบัดหน้าเดินตามพนักงานชายหนุ่มที่เข็นรถกระเป๋านำไปก่อนหน้า ทิ้งผมไว้กับพนักงานต้อนรับคู่ดูโอ้
“ ห้องที่ถูกที่สุดราคาเท่าไหร่ครับ ”
“ 8,000 บาทค่ะ ถ้าจ่ายผ่านบัตรเคดิตทางเราจะลดให้ 5% คุณลูกค้าสนใจรับเพิ่มมั้ยคะ ” ช็อก นี่ถูกสุดแล้วใช่ป่ะ ถึงอยากจะแยกห้องแค่ไหน แต่เงิน…แค่ยี่สิบบาทยังไม่มีเลย!
" ไม่แล้วครับ ขอบคุณ คุณปูนรอผมด้วย " และสุดท้ายฉันเองนั่นแหละที่ทำไม่ได้ พูดไม่คิด ฮื่อๆ~~~~~~~
ภายในห้อง Suite สุดหรู ทุกอย่างทุกจัดวางเป็นสัดเป็นส่วนเสมือนเป็นคอนโดขนาดย่อม มีทั้งห้องครัวสำหรับทำอาหารง่ายๆ ถัดไปเป็นห้องรับแขกที่มีโซฟาตัวยาววางตรงข้ามกับทีวีจอยักษ์ที่มาพร้อมกับชุดโฮมเธียเตอร์สุดทันสมัย ห้องน้ำขนาดใหญ่ 2 ห้อง มีตรงบริเวณห้องรับแขกและในห้องนอน แต่ที่แย่ที่สุดเห็นจะเป็นห้องนอนนี่แหละที่มีเพียงห้องเดียว เตียงเดียว ถึงมันจะเป็นคิงไซส์ก็ตาม
“ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น นึกว่ากูจะนอนร่วมเตียงกับมึงรึไง ”
“ ปะ..เปล่านะครับ ” ไม่นอนเตียงเดียวกันนี่แหละที่ผมต้องการ
“ จัดของกูเสร็จแล้วก็ออกไป วันนี้ก็รีบนอนล่ะ ถ้าพรุ่งนี้ตื่นสายมึงตายแน่ ”
“ อ้าว แล้ววันนี้ไม่ไปพบลูกค้าแล้วหรอครับ เมื่อเช้าคุณ.. ”
“ มึงแหกตาดูนี่จะ 2 ทุ่มแล้วใครเขาจะรอมึง ”
“ … ”
“ อีกอย่างเขาโทรมาขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้ตอนมึงหลับ เลิกถามมากได้ละ จะไปไหนก็ไป กูเพลีย ขับรถให้มึงทั้งวัน ”
ผมก้มหัวเดินหันหลังเตรียมตัวออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าพ้นจากประตู สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
“ เดี๋ยวก่อน ”
ผมเอี้ยวตัวกลับมาหาตามเสียงเรียก ในขณะที่คนเรียกก็เดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมกล่องใบเล็กในมือ
“ เอาไป ” กล่องปริศนาถูกโยนใส่ผมด้วยความรวดเร็ว โชคดีนะที่รับทัน จะให้ของคนอื่นเขาโยนกันแบบนี้รึไง คนอะไรไม่มีมารยาท!
“ อะไรหรอครับ? ”
“ เปิดดูเองซิวะ ” เริ่มรู้สึกว่าคิดผิดตอนได้ยินคำตอบ ไม่น่าถามคำถามโง่ๆ กับคนพรรค์นี้เลยจริงๆ ผมก้มหน้ามองกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวอีกครั้งก่อนจะลงมือแกะ ภาพเหตุการณ์นี้เป็นภาพแดจาวูเมื่อคืนข้ามปี เมื่อกล่องถูกเปิดออกสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้จากคนตรงหน้าก็ปรากฏให้เห็น
สมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกับที่โทนี่ซื้อให้ ต่างกันแค่เครื่องนี้เป็นสีดำ ผมเงยหน้าสบตาเจ้าหนี้อีกครั้งเพื่อถามหาคำตอบ
“ เป็นเลขาแต่ไม่มีโทรศัพท์ใช้ได้ไง ตอนมีก็เสือกโง่ไปให้แท็กซี่ปล้ำแล้วทำเครื่องพังอีก เดือดร้อนกูต้องซื้อให้ใหม่ ” ชื่อจริงคุณชายน่าจะชื่อปูนแดงมากกว่าปุณณัตต์นะ กัดมาทีเจ็บชิบหาย
“ ผมรับไว้ไม่ได้ ”
“ ทำไม กลัวกูเอาไปรวมกับหนี้พ่อมึงรึไง ไม่ต้องห่วงหรอกกูให้ใช้แค่ 3 เดือนไม่ได้ให้ใช้ตลอดไป ”
“ ไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่ผมมี.. ”
We're only getting older baby
And I’ve been thinking about you latelyโทรมาอะไรตอนนี้ครับ อยากจะเปลี่ยนชื่อเพลงจาก night change เป็น life change ซะจริง ชีวิตผมกำลังจะเปลี่ยนเพราะเสียงเรียกเข้านี่แหละ
“ เสียงอะไร! ” ไม่รอให้ผมตอบ คุณปูนก็เดินมาหาคำตอบด้วยตัวเอง มันหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องสีทองออกจากกระเป๋าเสื้อผมก่อนจะกดรับสายอย่างถือวิสาสะ
ผมไม่ได้ยินเสียงปลายสายลอดมาจากโทรศัพท์ มีเพียงเสียงลมหายใจของคนตรงหน้าที่บ่งบอกอารมณ์เดือดได้ที่ เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีสมาร์ทโฟนที่เคยอยู่ในมือเจ้าหนี้ก็ปลิวลอยระริ่วออกนอกหน้าต่างห้องไป เห้ย ยย ย ย ย เครื่องนั้นมันเกือบสามหมื่นนะเว้ย!
“ ทำบ้าอะไรของคุณ โอ้ย! ”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงคุณปูนเดินมากระชากตัวผมให้ล้มลงไปกระแทกเตียงคิงไซส์อย่างแรง ก่อนจะใช้สองมือกดไหล่ผมให้จมไปกับเตียง
“ เพราะมันใช่มั้ยเลยไม่รับของกู ”
“ ผม.. ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนโมโหหรือตวาทใส่ แต่ครั้งนี้สายตาที่ถูกมองมันดูต่างออกไปจนผมเริ่มกลัว มือทั้งสองข้างกำ
ผ้าปูที่นอนแน่นข่มอาการไว้ไม่อยากให้คนข้างบนรู้
“ กูเคยบอกมึงแล้วว่าถ้าอยากได้เงินให้มาขายกู กูจะซื้อเอง ”
“ ผมไม่ อึก ” เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ถูกริมฝีปากสีเชอร์รี่จู่โจม แม้ทุกครั้งมันจะไม่เคยมีคำว่าอ่อนโยนอยู่ในนั้น แต่ผมก็อดหวังว่าให้มีวันนั้นไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ มันคงไม่ใช่วันนี้ ในเมื่อคนตรงหน้ายังเป็นฝ่ายดูดดึงปากผมจนบวมอยู่ฝ่ายเดียว
“ อืมม โอ้ย ” ผมร้องครางออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกคุณปูนกัดเข้าที่ริมฝีปากล่าง ในจังหวะที่ผมเผลอเผยอปาก เรียวลิ้นอุ่นก็ถูกสอดเข้ามาภายในไล่เกี่ยวกระหวัดไปทั่ว ผมดิ้นสุดตัวพยายามผลักคนด้านบนให้ออกไปจากร่าง แต่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นผล เมื่อคนตัวใหญ่ใช้ฝ่ามือเพียงข้างเดียวรวบแขนทั้งสองข้างผมไว้เหนือหัว และใช้อีกแขนที่ว่างจับใบหน้าผมไม่ให้หันหนี น้ำตาที่ถูกกักเก็บไว้นานเริ่มเอ่อล้น คนตัวใหญ่คงรู้สึกได้ถึงถอดริมฝีปากออกเพื่อให้ผมได้พักหายใจ แต่ใบหน้าเรายังคงห่างกันไม่ถึง 2 นิ้ว
“ ทำไมชอบทำให้กูโมโหอยู่เรื่อย ” เสียงทุ้มที่เคยตวาทกลับอ่อนลงทำเอาผมร้องไห้หนักกว่าเดิมอย่างไม่รู้สาเหตุ ริมฝีปากสีเชอร์รี่ประทับจุมพิตเบาๆ ที่ขมับ เป็นความนุ่มนวลครั้งแรกที่ผมเคยได้รับ
“ ฮื่อๆ ปล่อย..ผมเถอะ ” แม้คำพูดจะขาดเป็นห้วงตามเสียงสะอื้นไห้ แต่ผมก็พยายามจะส่งสารนั้นออกไปให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ กูพยายามแล้ว แต่กู ”
“ … ”
“ ปล่อยมึงไม่ได้ ”
สิ้นคำ คนตัวใหญ่เริ่มปฏิบัติการเล่นงานผมอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซร้ที่ต้นคอขาว ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นชื้นจากริมฝีปากหนักที่กำลังขบเม้มสร้างรอยแดงบริเวณที่สัมผัส
“ อือ คุณปูน...ยะ..อย่า อ่าส์ ” พยายามกดเสียงไม่ให้เล็ดลอดแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ในเมื่อคนตรงหน้าเชี่ยวชาญและช่ำชองขนาดนี้ ไม่ว่าเขาจะลากลิ้นไปสัมผัสบริเวณไหน ร่างกายผมก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองทุกครั้ง จนน่ารำคาญ
เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวที่เคยสวมใส่ถูกโยนไปกองกับพื้น มือหนาที่เคยจับใบหน้าเริ่มซุกซนแปะป่ายไปทั่วตัว ลิ้นร้อนไล้วนอยู่ที่ยอดอกก่อนจะกลืนกินเจ้าเม็ดทับทิมนั้นจนผมอดครางไม่ได้ พยายามจะแกะมือตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุม ดูเหมือนคนด้านบนจะรู้ใจ เมื่อเขาปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ผมจึงใช้มือทั้งสองข้างขยุ้มผมนุ่มลื่นนั่นทันที
“ อืมม อ๊า ” คนตัวใหญ่เงยหน้ามายิ้มอย่างพอใจ ก่อนเลื่อนใบหน้าลงต่ำไปบริเวณหน้าท้องเนียน กระตุ้นความเสียวให้ผมเข้าไปอีก มือข้างหนึ่งของมันเขี่ยยอดอกผมเล่นไม่หยุด ส่วนอีกข้างก็จัดการถอดกางเกงยีนส์ตัวเก่งให้ลงไปอยู่กับเสื้อที่พื้น
“ อ๊ากกกกกกกก คุณปูน ย..อย่าจับ โอ้ย ผ..ผมเจ็บ ” เสียงไม่ได้ศัพท์ดังลั่นเมื่อคนตรงหน้าเริ่มขยับบนร่างกายผมมากขึ้น
“ เอาออกไป..เถอะ..ครับ...ได้โปรด อึก อื้อ โอ้ย ”
“ โอ้ย ยย ยย ผมเจ็บ ไม่ไหวแล้ววว ววว ว ”
น้ำตาที่เหมือนจะแห้งเหือดกลับมาไหลรินอีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดหวนคืนอีกระลอก แต่ดูอีกฝ่ายจะหงุดหงิดกับการกระทำของผม จนต้องหยุดทุกกิจกรรมแล้วหันมาตวาทใส่
“ มึงเป็นห่าอะไรเนี่ย กูยังไม่ได้เหี้ยอะไรเลย ร้องยังกับสาวเสียพรมจรรย์ ”
“ ผ..ผม ”
“ เป็นตะคริว ”
เรื่องราวดราม่า แอคชั่น เกือบจะอีโรติคในตอนต้น สุดท้ายต้องมาลงเอยด้วยภาพที่เจ้าหนี้นั่งอยู่ปลายเตียงพร้อมใช้มือกดฝ่าเท้าผมให้เส้นคลาย ไม่มีใครยอมพูดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ มีเพียงร่องรอยสีแดงระเรื่อฉาบหน้าว่าพวกเรารู้ว่าเพิ่งทำอะไรลงไป
“ ผ..ผม หายแล้วครับ ขอบคุณครับ ”
ในที่สุดผมก็ต้องยอมเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ คุณปูนหันหลังให้ผมพลางจะก้มตัวหยิบเสื้อผ้าบนพื้นโยนมาให้ ก่อนจะออกปากไล่
“ ไสหัวไปแล้วรีบนอน กูไม่.. ”
“ ผมทราบแล้วครับ คุณไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง งั้นผมขอตัว ” ผมหอบเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ในมือ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องแต่เท้าดันมาสะดุดไอ้กล่องเจ้าปัญหา แม่ง จะตามหลอกหลอนไปถึงเมื่อไหร่วะ
ผมหันหลังมองหน้าเจ้าหนี้เล็กน้อย เห็นมันก็มองผมอย่างชั่งใจว่าผมจะหยิบหรือไม่หยิบ สุดท้ายผมเลยต้องก้มตัวลงเก็บกล่องนั้นขึ้นมาถือไว้อย่างช่วยไม่ได้
“ ฝันดีนะครับ ” พูดก่อนจะปิดประตูโดยไม่ได้หันไปมองคนในห้องอีกเลย
****************
ของแถมจากผู้เขียน
“ เด็กที่ไหนครับคุณปูนน่ารักจัง "
" ลูกเราไง "
" ห๊ะ? "
" ทำไมชอบให้พูดซ้ำอยู่เรื่อย ป๊อด บอกแม่เขาสิลูก "
" ผมชื่อป๊อส ลูกแม่บอสกับพ่อปูน "
" เห้ย ผมไปท้องกับคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ "
" คืนนั้นไง แม่จำไม่ได้หรอ "
" .. "
" พ่อบอกแม่แล้วไงคะ ว่าให้เรียกพ่อว่าพ่อ "
" แต่คุณ.. "
" ถ้าไม่เรียก คืนนี้แม่เตรียมตัวท้องน้องของป๊อดได้เลย หึหึ "
" โอเค เรียกแล้วๆ "
" ^^ "
" พ่อ "
" แม่พูดเบาจัง "
“ พ่อ พ่อ พ่อ ได้ยินมั้ย? ”“ ร้องหาพ่ออะไรหนักหนาวะ ” ผมหันมองคนข้างๆ ที่นอนหลับบนเบาะมา 4 ชั่วโมงกว่าแล้ว ใบหน้าหวานราวกับมีมนต์สะกดให้ผมจ้องตาไม่กระพริบ ขนตายาวหนาเป็นแพชวนให้ลุ่มหลง ริมฝีปากสีแดงสดชวนให้ลิ้มลอง ผมยอมรับด้วยความสัตย์จริงว่าอดใจไม่ไหวที่จะไม่เอื้อมมือไปสัมผัสเรียวปากสวย ถึงแม้ใจจริงอยากจะเปลี่ยนจากนิ้วมือเป็นปากตัวเองแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อผมกำลังขับรถอยู่
เมื่อสติสัมปชัญญะเริ่มกลับมาผมจึงเงยหน้าหันมองถนนอีกครั้ง แล้ว...
ปี้นนนนนน เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด
----------------------------
TBC ขอโทษที่เสร็จดึกทั้งๆ ที่ตั้งใจจะลงก่อนเที่ยงคืน พอดีมันส์มือไปหน่อย แฮ่ๆ
แต่หวังว่าเนื้อเรื่องจะชดเชยความผิดได้นะ ^^ ตอนนี้ขอให้เป็นพาร์ทเรียกเรทติ้งพี่ปูนเลย คงเรียกคะแนนได้ไม่มากก็น้อย
ปล คนเขียนขอลาหยุดเสาร์อาทิตย์นะคะ ไว้เจอกันใหม่อาทิตย์หน้า คืนนี้ไปนอนก่อนละ จุฟ
ปล2 ใครยังไม่ได้โหวตอย่าลืมนะคะ (ด้านบนๆ) แล้วก็ฝากเพจในเฟสด้วยเน้อ (ด้านล่างๆ) ขอบคุณค่ะ ติดตามกันไปนานๆ นะ รักทุกคน