#HollywoodBoyfriend
@15 Is it too late?
I wish I knew how to quit you.
_Brokeback Mountain
เมื่อการสอบอันหฤโหดเสร็จสิ้นลง เพชรไพลินที่แพ็คกระเป๋าตั้งแต่อาทิตย์ก่อนก็โบกแท็กซี่ไปยังสนามบิน เขาไม่ได้กลับเมืองไทย หากแต่ไปเที่ยวยุโรปต่างหาก
ทริปนี้จะเป็นครั้งแรกที่หนุ่มไทยผู้อ่อนต่อโลกอย่างเขาได้ผจญภัยด้วยตัวเอง เหนื่อยก็เหนื่อยเอง สุขก็สุข...คนเดียว
ตั้งแต่วันนั้นเพชรไพลินก็ไม่เห็นหน้าอเล็กซ์อีก...เขาไม่รู้ชีวิตของดาราสุดฮอตนั่นมากไปกว่าคนอื่น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาสอบหรือเปล่า
จนตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจแล้วว่าควรเรียกอเล็กซ์ในฐานะไหน boyfriend หรือแค่ just friend
อเล็กซ์ทำเขาแสบมาก แสบมากจริงๆ
แต่เพราะว่ามันเป็นชีวิตมนุษย์ไง เพชรไพลินจึงต้องเดินต่อไป ไม่หันหลังกลับ คร่ำครวญแค่วันเดียวนั่นก็สมเหตุสมผลกับแฟนแค่ไม่กี่เดือนของเขาแล้ว
-ถ่ายรูปมาฝากเยอะๆนะ จาก แซลลี่-
สีหน้าของเพชรไพลินดีขึ้นเมื่อเห็นข้อความของเพื่อน เขาปิดการแจ้งเตือนทุกอย่าง ไม่เข้าโซเชียลที่คนเอาแต่ถามว่าเลิกกับอเล็กซ์แล้วเหรอ
เขาอายเป็นนะ
ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นของอเล็กซ์
... หรือว่าการหลอกให้คนอื่นตกหลุมรัก ....จะเป็นงานถนัดของนาย
"ถึงแล้วครับ"
ร่างบางสะดุ้ง เรียกสติตัวเองกลับมาแล้วจึงจ่ายเงินแท็กซี่
สนามบินยังมีคนพลุกพล่านอยู่เสมอ เพชรไพลินแบกเป้ใบใหญ่ขึ้น เดินไปหาที่นั่งรอเช็คอิน
ดูเหมือนวันนี้คนจะเยอะกว่าทุกวัน....
อาจเป็นกรุ๊ปทัวร์ เพราะมีแต่สาวๆยืนคุยกันเป็นกลุ่ม
เพชรไพลินไม่ใคร่สนใจนัก สายตาว่างเปล่ากวาดมองไปตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง เฝ้ามองลูกสาวเกาะแขนคนเป็นพ่อ มองคู่รักที่มีสีหน้าฝืนยิ้มอย่างที่สุด พลางก้มมองมือตัวเอง....ร่องรอยรสสัมผัสยังคงฉายชัดเหมือนภาพขาวดำ
หม่นหมอง...
แสนเศร้า...
"ขอโทษนะคะ"
เขาเงยหน้าตามเสียงเรียก เด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง แก้มแดงเรื่อ ในมือถือโปสเตอร์หนังที่เขาจำได้ดี
"คุณใช่...อ่า.."
เพชรไพลินกลั้นยิ้ม คงไม่รู้ชื่อของเขาสินะ ดีแล้วล่ะ
"มารออเล็กซานเดอร์ วิลสัน ใช่ไหมคะ"
หญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่เยื้องกันใจกล้าถามตรงๆ
หนุ่มไทยนิ่งไป....
กลุ่มสาวๆพวกนั้น ...คงมาต้อนรับดาราในดวงใจ
"ไม่ใช่หรอก จำผิดคนแล้ว ผมจะไปที่อื่น ไม่ได้มาต้อนรับใคร"
เพชรไพลินปฏิเสธไปพร้อมทำสายตาเย็นชา
นี่แหละตัวตนใหม่ของเขา จะไม่ใจดีให้ใครเอาหัวใจไปง่ายๆอีกแล้ว
.
.
.
"เซ็นอันนี้ด้วยค่ะ"
"วันนี้มาไวนะเบล"
"ย้ายบ้านมาอยู่แถวนี้แล้ว"
"โอ้ ดีจัง"
"อเล็กซ์ ไอเห็นคนหน้าเหมือนแฟนยูด้วยล่ะค่ะ เมื่อกี๊เขานั่งตรงนั้น อาจจะเข้าไปเช็คอินแล้วมั้ง"
"เห็นจริงเหรอ?"
"ไอกับเบลเดินเข้าไปถามเลยนะ แต่เขาแบกเป้ไปไหนไม่รู้"
"ใช่คนที่เป้ใหญ่ๆกว่าตัวหรือเปล่า ไอเห็นเดินเข้าร้านแมคอยู่นะ"
"ไม่ตาฝาดใช่มั้ยลิซ่า"
"ไม่หรอก เอเชียที่ตัวอยู่คนเดียวก็มีแค่เขานะ"
อเล็กซ์ยัดปากกาใส่มือแฟนคลับ ความตื่นเต้นทำให้ทิ้งคนที่เหลือ แต่ขึ้นชื่อว่าแฟนคลับ ย่อมเข้าใจเหตุผลของเขา
ร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่ซึ่งหัวใจอยู่ที่นั่น
รู้ ว่ามีคนมอง
รู้ ว่าแฟนคลับวิ่งตามมา
รู้ ว่ามีปาปารัซซี่
แต่เขาไม่ยอม เพชรต้องหนีกลับไทยแน่ อเล็กซ์ยังไม่ได้บอกเหตุผลที่หายไปเลย ถึงแม้มันจะฟังดูทุเรศ แต่เขาก็อยากพูดก่อนจะสายเกินไป
"เอม!"
หนุ่มอเมริกันเรียกเสียงดังหน้าร้าน
ส่งผลให้เพชรไพลินชะงัก เขาลุกขึ้น รวบถุงอาหาร ยิ่งลุกลนเมื่อไออุ่นของใครบางคนชัดเจนอยู่ข้างหลัง
อเล็กซ์แตะข้อศอกอีกฝ่าย ทว่าอัญมณีหม่นแสงเม็ดนี้ยังคงนิ่ง
"จะไปไหนเหรอ"
"......"
"ไอขอโทษนะที่ไม่ได้ติดต่อมาเลย งานยุ่งมาก"
ที่จริงแล้วอยากอธิบายให้ยาวกว่านี้ แต่เพชรไพลินยังไม่พร้อมจะรับฟัง
"......"
หนุ่มอเมริกันใจแป้ว ความเงียบที่คนรักตนส่งให้เริ่มกรีดหัวใจอย่างช้าๆ ร่างสูงเลื่อนตัวเองให้เผชิญหน้ากับอีกคน
"ไอรู้นะว่ายูโกรธมาก แต่ช่วยพูดอะไรสักคำได้ไหม ..."
"....." ร่างบางขยับตัว ยังคงไม่มองอีกฝ่าย
"จะไปไหน? ไอจะตามไปด้วย จะรอให้ยูตัดสินใจ จะยืนเคียงข้าง จะไม่ไปไหนอีกแล้ว"
อเล็กซ์รีบพูดรัว
รู้สึกว่านี่คือการตัดสินใจที่บ้าที่สุดในชีวิต
เขายอมทิ้งงานเพื่อคนสำคัญที่สุด ยอมไปลำบากด้วยกัน ...ยอมทุกอย่างจริงๆ
เสียงคนรอบข้างซุบซิบกัน มีจำนวนไม่น้อยที่ส่งเสียงเชียร์
ทว่าเพชรไพลินส่องประกายความมืดมน....
ร่างบางทิ้งขยะ เดินออกมาจากร้าน หัวใจทำงานหนักเมื่อสัมผัสเบาๆยังคงแตะอยู่ที่ข้อศอก หางตาแลเห็นกลุ่มแฟนคลับทำสัญลักษณ์ให้กำลังใจดาราหนุ่ม
เขาเช็คอิน แล้วยืนรอ
อเล็กซ์เข้าใจได้ทันทีว่าเพชรไพลินอนุญาตให้ไปด้วย จึงรีบซื้อตั๋วไฟล์ทเดียวกัน แม้คนละที่นั่ง แต่แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว
.........
Rome airport Fiumicino
สนามบินที่เพชรไพลินอ่านชื่อไม่ออก เขาจึงเรียกอีกชื่อของมันว่าสนามบินลีโอนาโด ดา วินชี
กระเป๋าเป้ใบใหญ่ทำให้ร่างบางเดินอุ้ยอ้าย ส่วนอเล็กซ์มีเพียงเป้สะพายเล็กๆ ใส่ของใช้ส่วนตัวกับชุดสองชุดที่ติดมาจากกองถ่ายหนัง
คนแข็งแรงกว่าจึงคว้าเอาเป้ใบใหญ่มาสะพาย แล้วส่งเป้เล็กของตัวเองให้คนหน้ามุ่ยเหมือนแมว
"พักที่โรงแรมไหนเหรอ?"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อเล็กซ์มาโรม เขาจึงค่อนข้างรู้แหล่งดีๆ มากมาย และคิดว่าเพชรไพลินน่าจะฟังเขาบ้าง
มือบางหยิบกระดาษเอสี่ออกมา อ่านรายละเอียดที่อยู่ของโรงแรมที่จองไว้อย่างเงียบๆ กระนั้นอเล็กซ์ก็ยังดันทุรังแทรกหน้าเข้าไปอ่าน
"เพิ่งลงจากเครื่อง เราน่าจะนอนโรงแรมดีๆไปเลย แล้วค่อยนอนโฮสเทลวันเที่ยว"
ผู้เชี่ยวชาญเสนอความคิดเห็น เพชรไพลินก็คล้อยตามอยู่บ้าง แต่เขาต้องฟอร์มไม่พูดด้วย เป็นการลงโทษตลอดทั้งทริป
เขาจึงยื่นใบรายละเอียดโรงแรมให้อเล็กซ์ถือ พลางยืนกอดอกรอ
"เอ่อ...จะนอนที่นี่จริงๆเหรอ หรือยังไง?"
กลายเป็นว่าคนทำโทษรู้สึกลำบากกว่าคนโดนลงโทษเสียอีก
ร่างบางจึงเรียกรถแท็กซี่
"บอกแท็กซี่สิ" และยอมพูด ก่อนจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาอยากนอนมากๆ
.
.
.
เพชรไพลินก็ไม่ได้คาดหวังให้อเล็กซ์เอาใจชดใช้ความผิดหรอก อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธถึงขนาดนั้นหลังจากรู้ว่าอเล็กซ์หายไปทำงานจริงๆ เพียงแต่มันยังคงมีความรู้สึกผิดหวังว่ายเวียนในหัวใจ จึงไม่สามารถพูดคุยได้อย่างสนุกสนาน
ทำราวกับว่าที่ผ่านมามันไม่มีอะไร
....เขาทำไม่ได้
เขารู้อยู่แล้วว่าอเล็กซ์คงเลือกโรงแรมหรูหรา ระบบความปลอดภัยสูง เจ้านั่นถึงจะสบายใจ
ร่างสมส่วนทิ้งตัวลงกับเตียงหนา ความอบอุ่นแผ่รอบ เพียงหัวสัมผัสถึงหมอน ตาก็ทำท่าจะปิด
"ถอดรองเท้าก่อนสิที่รัก"
อเล็กซ์พูดจาหวาน หวังให้อีกคนใจอ่อนเร็วๆ
"จะนอน"
เพชรไพลินเผลอตอบไปด้วยสติไม่เต็มร้อย
"งั้นโอเค เดี๋ยวไอถอดรองเท้าให้นะ"
ร่างสูงรู้ตัวว่าทำผิด และคำขอโทษมันไม่พออีกต่อไป
มือเรียวสวยบรรจงถอดรองเท้าผ้าใบสีเขรอะออก ค่อยๆรูดถุงเท้าทั้งสองข้างโยนทิ้งข้างเตียง
จากนั้นจึงจัดการตัวเอง ลูบหน้าด้วยน้ำเย็นสดชื่น ถอดชุดจนเหลือเพียงบ็อกเซอร์ แล้วค่อยๆคลานขึ้นเตียง พลิกตัวมองอีกคนที่หลับสนิท
นิ้วเรียวแตะพวงแก้มขาว ราวกับว่ามันคือของล้ำค่า
เสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำ....
เขาเพิ่งตระหนัก....แค่การประกาศว่ามีคนรัก มันไม่ใช่การยืนยันให้เพชรไพลินมั่นใจได้เลย
ทั้งสองยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน
กระทั่งเป็นเพชรไพลินเองเสียอีก ที่ยื่นข้อเสนอมีสัญญาใจ มีพยานความรักมาให้ เพื่อเป็นการยืนยันว่ารักครั้งนี้จริงจัง แต่อเล็กซ์กลับทิ้งโอกาสนี้ไปให้อีกคนรอเก้อ คิดว่าตัวเองเจ๋ง คิดว่าดีพอที่เพชรไพลินจะอ่อนข้อให้ไปเสียทุกอย่าง
โดยลืมนึกไปว่า หนุ่มไทยก็มีศักดิ์ศรี ใช่ว่าคบกันเพื่อเงินอย่างที่เพื่อนเขาพูดกรอกหูในวันนั้น
อเล็กซ์โตมากับแม่แค่สองคน ครอบครัวไม่ได้อบอุ่นขนาดนั้น แต่แม่ก็รักเขา มีอิสระให้คิดให้ทำ และคอยสนับสนุนอยู่ห่างๆ เขาไม่รู้จักวัฒนธรรมสถาบันครอบครัวของคนอื่น และของชาติอื่น
ดังนั้นชายหนุ่มวัยเพียง19 ปี จึงรับฟังเรื่องราวมาแบบstereotype
ได้ยินว่าเมืองไทยมีทะเลสวย เป็นประเทศของหญิงขายบริการ กระนั้นหญิงไทยที่แต่งงานกับต่างชาติก็มีข้อดีอยู่มาก ทั้งทำอาหารเก่ง เอาอกเอาใจเก่ง แต่ข้อเสียที่เพื่อนมันย้ำนักย้ำหนาก็ไม่พ้นเรื่องเงิน...ดีแค่ไหน ก็ต้องการเงินไปดูแลบรรดาญาติๆทั้งหลาย ซึ่งฝ่ายสามีก็ไม่ค่อยขัดใจด้วยสิ
ถึงเขาจะมีญาติห่างๆอายุรุ่นน้องพ่อ ที่ไปใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย และมีแฟนแสนดีที่นั่น
แต่ด้วยความไม่รู้ข้อมูลมากไปกว่านั้น จึงเอามาเถียงเพื่อนไม่ได้...
"โง่เอง...."
ก็เพิ่งคิดได้นี่แหละว่าเพชรไพลินรวยขนาดที่นึกจะเที่ยวก็เที่ยว นึกจะเรียนก็เรียน แล้วจะมาปอกลอกเอาเงินดารากระจอกๆได้ยังไง
...........
ตามใส่รูปให้ครบทุกตอนแล้ว ค่อยดูดีขึ้นมาหน่อยหลังจากที่อู้มานานค่ะ555
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่อยๆเอื่อยๆของข้าพเจ้า
ซึ่งเรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่นมากจริงๆ เรื่องอื่นนี่หนักหน่วง ชีวิตระทม แต่เรื่องนี้ใสๆ ลมพัดเบาๆ พัดแรงๆบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่ถึงขั้นพายุ555
ดีใจมากเลยค่ะที่ชอบ