Just The Way I Am #แค่เป็นเรา
ตอนที่ 1 รักใส ๆ หัวใจ 3 ดวง
มนายุไม่อยากเข้าใจและยอมรับ
ทำไมโลกนี้ต้องมีเพียงโอเมกา (Omega) ชายเท่านั้นที่มีสิทธิพิเศษตั้งท้องได้ ในขณะที่เผ่าพันธุ์อื่นจะมีเพียงฝ่ายหญิงเท่านั้นที่สามารถตั้งท้องได้ ทำไมโลกใบนี้ต้องกำหนดให้มันเกิดขึ้นกับร่างกายโอเมกาชายด้วย เขาไม่อยากได้ ไม่อยากให้ใครต่อใครมองว่าเขาเป็นเพียงเครื่องมือหรือเป็นเพียงตัวอะไรสักอย่างที่มีหน้าที่ผลิตลูก
ผลิตเด็กที่เกิดออกมาโดยปราศจากความรักของพ่อและแม่
และยังมีสิ่งที่ควบคุมไม่ได้อีกเล่า ทั้งอาการฮีต (Heat) หรือการปล่อยฟีโรโมนที่กลิ่นจะเข้มข้นขึ้นไปอีกหากโอเมกาคนนั้นเกิดมีอาการที่ว่าขึ้นมา แม้ปัจจุบันจะมียาช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังที่กล่าวมา ทว่าโอเมกาทุกคน ทุกเพศไม่สามารถกินยาล่วงหน้าไว้ก่อนได้ ต้องกินระงับหลังเกิดอาการแล้วเท่านั้น
อีกทั้งตัวยายังมีราคาสูง แน่นอนว่าคนจนไม่สามารถซื้อได้ ความโชคร้ายยังไม่หมด โอกาสที่จะมีคนใจดีรับโอเมกาเข้าทำงานด้วยนั้นน้อยมาก โอเมกาสามารถทำงานได้เหมือนคนอื่น ๆ แต่ส่งผลเสียมากกว่านัก อาจมีเหตุการณ์ชุลมุนเนื่องจากจู่ ๆ ก็มีโอเมกาคนหนึ่งฮีตขึ้นมาระหว่างทำงานแล้วบังเอิญว่าไม่มียากินระงับนั้นทำพังมาหลายบริษัทแล้ว นายจ้างทั้งหลายจึงมักส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อรู้ว่าคนสมัครงานเป็นโอเมกา เลือกรับเบตา (Beta) ที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเข้าทำงานยังสบายใจเสียกว่า
แล้วถ้าโอเมกาเกิดฮีตขึ้นมาจะทำอย่างไร หากมียาให้กินก็รอดตัว ถ้าไม่มีน่ะเหรอ? ไม่แคล้วว่าวันนั้นอาจจะมีโอเมกาตั้งท้องโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กเลยด้วยซ้ำ
วิถีความเป็นอยู่ของโอเมกาในยุคสมัยนี้ค่อนข้างลำบาก คนเป็นพ่อแม่นั้นเมื่อรู้ว่ามีโอเมกาในครอบครัว หากมีกำลังเลี้ยงดูไหวก็ไม่มีปัญหา หากบ้านไหนขัดสนยากจนเงินทอง งานที่โอเมกาแทบทุกคนรับทำก็คือรับจ้างอุ้มท้องให้กับตระกูลอัลฟา (Alpha) ต่าง ๆ โอเมกาสามารถรับจ้างทำงานนี้ได้เมื่อบรรลุนิติภาวะหรืออายุยี่สิบแล้วเท่านั้น แต่ใครเล่าจะทำตามกฎทุกคน หากทำแบบนั้นอดตายกันพอดี ดังนั้นจึงมีโอเมกาหลายคนที่ปลอมอายุเพื่อลักลอบเข้าทำงาน
ถึงแม้จะเรียกว่าทำงานแต่อันที่จริงก็ไม่ต่างกับกาฝากเท่าไหร่นัก เมื่อเข้าทำงาน บริษัทหรือนายหน้าจะส่งโอเมกาไปอยู่ที่บ้านตระกูลผู้ว่าจ้างหรืออัลฟาเลย โอเมกาจะได้รับการเลี้ยงดู มีเงินให้ใช้ มีที่พักและอุดมสมบูรณ์พรั่งพร้อมด้วยอาหารการกิน กระทั่งเมื่อคลอดเด็ก โอเมกาจะไม่มีโอกาสเห็นใบหน้าเด็กที่ตนอุ้มท้องมาตลอดเก้าเดือนเพื่อป้องกันปัญหาความผูกพัน
เงินที่ได้มานั้นมากพอที่จะอยู่ได้สบาย ๆ ไปอีกหลายปีถ้าหากใช้อย่างประหยัด และเมื่อเงินหมดก็มารับงานตั้งท้องใหม่ได้ตามที่ต้องการ โอเมกาหลายคนจึงมักจะเก็บเกี่ยวช่วงวัยเยาว์ของอายุ อุ้มทองให้ตระกูลอัลฟาหลาย ๆ ตระกูลเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต หากมนายุก็ไม่ค่อยเห็นโอเมกาคนไหนทันได้ใช้เงินไปจนแก่ตามที่ตั้งใจ
อัลฟาอยู่ในลำดับชนชั้นสูงที่สุด ทำให้โอเมกาหลายคนพลาดมานักต่อนักแล้ว กล่าวคือเมื่อโอเมกาตั้งท้องลูกให้อัลฟานั้นอาจได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างที่ตนไม่เคยได้รับจากใคร ทำให้ตกหลุมรักอัลฟาได้ง่าย ส่งผลให้บางครั้งถูกกัดที่หลังคอตีตราจองก็มีไม่น้อย หมดโอกาสที่จะท้องกับอัลฟาคนอื่น ทำให้ฆ่าตัวตายก็มาก
แล้วทำไมอัลฟาต้องเลือกโอเมกา ยอมเสียเงินจ้างด้วยล่ะ ในเมื่ออัลฟาก็ท้องได้ เบตาก็ท้องได้อีกเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะว่า...
อัลฟาชนชั้นสูงมีบุตรยาก ในความสูงส่งกลับมีความโชคร้ายแฝงในเผ่าพันธุ์ โอกาสที่อัลฟาหญิงจะตั้งท้องกับอัลฟาด้วยกันเองนั้นเกิดขึ้นน้อยมากเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่มั่นใจได้เลยว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นอัลฟาร้อยเปอร์เซ็นต์ และจะมีโอกาสตั้งท้องเพิ่มขึ้นเป็นสิบเปอร์เซ็นต์เมื่ออัลฟาจับคู่กับเบตา ทว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นเบตาร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน ทำให้ไม่มีอัลฟาคนไหนที่คิดจะมีลูกนั้นเลือกเบตามาเป็นคู่ครอง
แล้วถ้าอัลฟากับโอเมกาล่ะ
โอกาสที่โอเมกาจะตั้งท้องอยู่ที่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปและจะเพิ่มเป็นแปดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อโอเมกาคนนั้นอยู่ในช่วงที่ ฮีตแม้จะกินยาระงับไปแล้วก็ตาม และจะกลายเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ทันทีเมื่อโอเมกาคนดังกล่าวอยู่ในช่วงฮีตผนวกกับอัลฟาที่เกิดอาการรัท (Rat) และนอต (Knot)
อยากมีลูกเหรอ ไม่ยาก แค่มีโอเมกาสักคนหนึ่งก็มีลูกได้แล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน...ความสมบูรณ์เพอร์เฟ็กไม่มีอยู่จริงหรอก เพราะลูกที่เกิดจากโอเมกานั้นไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นอัลฟาหรือโอเมกาจนกว่าจะคลอดเด็กออกมา
โลกเรามันก็ไม่ยุติธรรมแบบนี้แหละ น่าขันสิ้นดี ถ้าเลือกได้เขาเองก็ไม่ได้อยากเกิดเป็นโอเมกาเลย
“คุณยุ..คุณยุคะ หลับหรือเปล่าเอ่ย คุณรุจกลับมาแล้วค่ะ” เสียงเคาะประตูห้องตามด้วยเสียงอ่อนโยนจากเบตาสาวสูงวัยที่ทำหน้าเป็นหัวหน้าแม่บ้านมารุ่นต่อรุ่น
“แป๊บนะครับป้าสาย ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้ครับ”
ป้าสายได้ยินเสียงกุกกักในห้องคล้ายมีอะไรตกพื้นจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรหรือเปล่าคะ ให้ป้าเข้าไปช่วยไหม”
มนายุเปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างแต่ดวงตากลับตรงกันข้าม ช่างดูเศร้าเหลือเกินในความรู้สึกของคนที่ผ่านโลกมาครึ่งชีวิตแล้ว “ผมแค่ทำโทรศัพท์ร่วงน่ะครับ หน้าจอแตกเลย”
เจ้าตัวยิ้มแห้งพลางชูโทรศัพท์รุ่นใหม่โชว์หน้าจอแตกร้าวที่มาจากอภินันทนาการเจ้าของบ้าน
“จะโดนคุณรุจดุไหมคะเนี่ย เดือนที่แล้วก็เพิ่งทำร่วงจนพังไปเครื่องหนึ่งนะคะ”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” มนายุบอก เขาก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้หรอก แต่ดวงตาของเขาเริ่มมีอาการแปลก ๆ มองอะไรไม่ค่อยชัด บางครั้งก็ชัดแจ๋วเลย เคยคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับสายตาสั้นหรือยาว แต่เมื่อไปตรวจก็พบว่าค่าสายตากลับปกติเสียอย่างนั้น
“ป้าไม่ได้จะดุคุณนะคะ แต่อยากให้ระวัง ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะคะ”
“ครับป้า”
“ลงไปข้างล่างกันค่ะ คุณรุจรอนานแล้ว ป้าช่วยพยุงนะคะ”
“ไม่ต้องพยุงหรอกครับ ผมเดินได้”
“ไม่ได้ค่ะ ป้าสังเกตเห็นนะคะว่าคุณเดินช้า ๆ”
“ช่วยพยุงก็ได้ครับ” มนายุไม่อยากดื้อรั้นกับความหวังดีของป้าสาย มันก็จริงอย่างที่เธอพูดตอนนี้เขาเดินช้าลงกว่าเดิมมากเพราะมองเห็นอะไรไม่ค่อยชัดนี่แหละทำให้ไม่กล้าก้าวเดินอย่างมั่นใจ
“ลงลิฟต์นะคะ”
“แต่นี่ชั้นสอง..”
“ถึงจะเป็นชั้นสองก็ใช้ลิฟต์ค่ะ” ป้าสายบอกด้วยน้ำเสียงคล้ายจะดุคนขี้เกรงใจ “ต่อไปคุณยุต้องขึ้นลงระหว่างชั้นด้วยลิฟต์เท่านั้นนะคะ ห้ามใช้บันไดอีก”
“เอ่อ..”
“ถ้าไม่ทำ ป้าจะบอกว่าคุณดื้อกับป้าให้คุณรุจฟัง และจะบอกเพิ่มด้วยว่าวันก่อนคุณเกือบล้ม โชคดีที่ป้ามาช่วยทัน”
“ครับ ๆ ต่อไปผมจะใช้ลิฟต์อย่างเดียว เลิกใช้บันไดครับ ป้าสายอย่าบอกคุณรุจนะครับ” มนายุรีบให้สัญญา ถ้าหากเจ้าของบ้านรู้เรื่องนี้ มีหวังเขาต้องถูกอีกฝ่ายบ่นหูชาแน่ ๆ
“ว่าง่าย ๆ ทำตัวน่ารัก ป้าก็จะไม่รายงานค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ป้าสายพยุงมนายุเดินมาถึงโต๊ะอาหารหรูหราใหญ่โตขนาดยี่สิบที่นั่ง แม้ว่าจะมีคนนั่งเป็นประจำเพียงแค่สองหรือสามคนก็ตาม มันสวยงามแต่ดูอ้างว้างในความคิดของมนายุ
“มาแล้วหรือ” สายตาคมจากคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองร่างที่ถูกพยุงเข้ามา “เป็นอะไรทำไมต้องพยุงกันมาแบบนั้น”
“ไม่มีอะไรค่ะ ป้าก็แค่เป็นห่วงคุณยุตามประสา ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้คุณหนูด้วย ป้ายิ่งกังวล” ป้าสายชิงตอบแทน จนมนายุนึกขอบคุณอีกฝ่ายในใจ เพราะเขาเองก็หาข้ออ้างไม่ทัน
“อืม ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว นั่งลงกินข้าวเถอะ”
“ครับ” มนายุนั่งลงที่เก้าอี้ด้านซ้ายมือของเจ้าบ้าน
“คุณยุดูเหนื่อย ๆ นะครับ” ทว่ากลับมีอีกเสียงหนึ่งถามไถ่ขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง เสียงนุ่มชวนให้ผ่อนคลายกำลังถามมนายุอยู่
“เพราะเพิ่งตื่นมั้งครับ”
“ถ้ารู้สึกไม่สบายคุณยุต้องบอกพี่รุจ อย่าเกรงใจนะครับหรือจะบอกธีแทนก็ได้” ใบหน้าอ่อนหวานแต่ก็ดูแข็งแกร่งตามเผ่าพันธุ์อัลฟาบอกด้วยความห่วงใยเอื้อเฟื้อ อัลฟาคนนี้ดูออกว่าโอเมกาตรงหน้าโกหก เขาไม่ได้เชื่อคำตอบของมนายุ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเค้นเอาคำตอบ
“ขอบคุณครับคุณธี”
มื้อเย็นผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไร้การพูดคุย คนนั่งประจำหัวโต๊ะไม่ชอบพูดคุยระหว่างรับประทานอาหาร เขาชอบทำอะไรให้จบเป็นอย่าง ๆ เมื่ออิ่มแล้วจึงค่อยแยกย้ายทำสิ่งอื่นต่อเป็นลำดับถัดไป
“ธีอิ่มแล้วพี่รุจ” เจ้าของชื่อชลธีรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกันพลางบอกอีกคนด้วยใบหน้าทะเล้น
“จะรีบไปหาลูกล่ะสิ”
“ครับ ธีคิดถึงลูก ไม่รู้จะลืมหน้าธีหรือยัง”
“ไม่เจอแค่สองสัปดาห์เอง” รุจอิ่มพอดี มนายุที่เห็นภาพทุกอย่างมัว ๆ นั้น ยังพอมองเห็นว่าเจ้าของบ้านอิ่มแล้ว เขาตั้งใจจะวางช้อนส้อมลงแสดงตัวว่าอิ่มแล้วเช่นกัน ในเมื่อเจ้าบ้านและคนรักอิ่มแล้ว เขาก็ไม่ควรกินต่อทั้งที่ทำได้ก็ตาม
“สองสัปดาห์ก็นานพอจะลืมได้แล้วครับ เด็กกำลังโตขึ้นทุก ๆ วัน ธีไปนะ ถ้าพี่รุจคุยธุระเสร็จแล้วตามธีไปนะครับ”
“ครับ” รุจบอกชลธีแล้วหันไปมองอีกคนที่นั่งทางซ้ายมือของเขา “เธอน่ะ กินอีกสิ”
“แต่ผม..”
“ฉันเห็นเธอเพิ่งกินไปไม่กี่คำ อย่างไรก็ไม่มีทางอิ่มได้”
“คุณรุจอิ่มแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ แต่เธอยังไม่อิ่มเพราะฉะนั้นกินต่อไปจนกว่าจะอิ่ม ฉันจะนั่งรอเงียบ ๆ”
“ครับ”
“ป้าสายเอาผลไม้เข้ามาเลยครับ เดี๋ยวเขาอิ่มแล้วจะได้กินผลไม้ต่อเลย”
“ค่ะคุณรุจ” ป้าสายที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ไม่ไกล รีบกุลีกุจอยกจานผลไม้เข้ามาเสิร์ฟทันที ผลไม้หลากหลายชนิดโดยเน้นที่มีประโยชน์และเป็นของโปรดมนายุมากที่สุด
มนายุกินต่ออีกครู่หนึ่ง เจ้าตัวก็บอกว่าอิ่มแล้วก่อนจะเลือกผลไม้ในจานมากินอย่างระวัง ไม่ใช่ว่าเขาเลือกกิน แต่เขาเริ่มมองไม่ออกว่ามันคืออะไร
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” คำถามที่เหมือนทุก ๆ วันหลังจากที่มนายุเริ่มตั้งครรภ์
“ไม่มีอะไรผิดปกติครับ”
“แพ้บ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีครับ” มนายุส่ายหน้า “ปกติทุกอย่าง”
“สัปดาห์หน้าฉันจะพาเธอไปพบหมอตรวจตามนัด”
“ครับ”
“มีอะไรอยากถามฉันไหม”
“เอ่อ..คือ..วันนี้เขาเป็นไงบ้างครับ” ถ้าประโยคประจำตัวของรุจคือถามอาการมนายุแล้วล่ะก็ ประโยคประจำตัวมนายุคงหนีไม่พ้นคำถามที่เจ้าตัวกำลังถามอีกฝ่ายเช่นกัน
“วันนี้ฉันให้ลุงทัดไปรับเขาที่โรงเรียนแทนฉัน แต่ก่อนจะกินข้าวกับเธอ ฉันไปหาเขามาแล้ว เขาสบายดี เล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนที่โรงเรียนเยอะและสนุกมาก เขาพูดเก่ง ไม่เหมือนเธอที่ไม่ค่อยพูด”
“ขอบคุณครับ”
“อยากรู้อะไรอีกไหม”
“ไม่แล้วครับ ผมแค่อยาก...”
“ไม่ได้ยุ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปหาเขา ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง ฉันจะให้เธอไปอยู่ที่อื่น จนกว่าเธอจะคลอดลูกคนในท้องเธออีกครั้ง” รุจเตือนความจำมนายุ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่มนายุเอ่ยขอร้องเขาในลักษณะนี้
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ขอไปหาเขา ผมแค่จะบอกว่าผมเผลอทำโทรศัพท์ร่วงจนหน้าจอแตก อยากขอเปลี่ยนได้ไหมครับ” มนายุว่าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอแตกร้าวใช้งานไม่ได้ออกมาวางให้อีกฝ่ายได้เห็น
“อย่างนั้นเหรอ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาเครื่องใหม่มาให้”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วจะให้คนเปลี่ยนพรมห้องนอนเธอใหม่ด้วยแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะให้ป้าสายจัดห้องให้ใหม่ระหว่างที่คนงานมาเปลี่ยนพรม”
“เปลี่ยนทำไมครับ”
“พรมในห้องมันเก่าแล้ว คงบางเปื่อยเต็มที ต่อไปของอะไรตกจะได้ไม่เสียหายอีก” เจ้าของบ้านอธิบายเพิ่ม “ป้าสายได้ยินแล้วใช่ไหมครับ”
“รับทราบค่ะ พรุ่งนี้เช้าป้าจะให้เด็กไปทำความสะอาดห้องให้คุณยุใหม่นะคะ แล้วคุณรุจจะให้คุณยุพักห้องไหนคะ”
“ห้องข้าง ๆ ผมก็ได้ครับ”
“ค่ะ”
มนายุเดินเข้าห้องอย่างใจลอย เขาโดยสารลิฟต์ขึ้นมาชั้นสอง เคร่งครัดตามคำสั่งคุณป้าแม่บ้านอย่างดี โอเมกาตาโศกนั่งลงบนเตียงอย่างระวัง รู้สึกอิจฉาชลธีที่มีสิทธิ์ไปหาลูกได้ทุกเวลา เขาเองก็อยากไปหาลูกบ้าง แต่รู้ดีว่าผิดกฎการทำงาน โอเมกาเมื่อคลอดเด็กออกมาแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กทุกกรณี
แค่ขอรู้ชื่อลูก แค่ชื่อก็ยังดี แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ มือเรียวขาวลูบหน้าท้องตนเองอย่างอ่อนโยน นุ่มนวล เต็มไปด้วยความรัก น้ำตาสายหนึ่งไหลลงมา อีกหกเดือน เมื่อเขาคลอดลูกคนนี้ ตนก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกเช่นกัน
ทั้งที่อุ้มท้องมาแต่พอถึงเวลาคลอดกลับไม่มีโอกาสสัมผัสหรือได้เห็นแม้เพียงใบหน้าลูกสักครั้ง ช่างเป็นกฎที่บาดหัวใจเหลือเกิน เขาไม่ได้อยากทำงานนี้เลยด้วยซ้ำ มันทำร้ายหัวใจมากเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะความอดตายกำลังมาเยือน และถ้าไม่ใช่เพราะเขารักคนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว คงไม่ยอมทำมันอีกครั้ง
มนายุสมเพชตัวเอง เขาพยายามกล่อมเกลาสมองให้จดจำว่าความอ่อนโยนและเอาใจใส่ที่อีกฝ่ายทำไปทั้งหมดเพราะเขาคือกำลังตั้งท้องลูกอีกฝ่ายอยู่ ไม่อย่างนั้นคนอย่างรุจไม่มีวันจะชายตาแลเขาแน่นอน หัวใจของคน ๆ นั้นมีเพียงชลธี คนรักอัลฟาคนเดียวเท่านั้น
หกปีก่อน มนายุในเวลานั้นอายุเข้าสู่ปีที่ยี่สิบ เขาไม่ต่างจากโอเมกาคนอื่น พอบรรลุนิติภาวะสามารถทำงานได้ ก็ถูกพ่อแม่เร่งและไล่ให้ไปทำงานเร็ว ๆ บังเอิญจับพลัดจับผลูมาอยู่ในบ้านหลังนี้ รุจเป็นผู้ชายคนแรกที่เขานอนด้วยและเป็นรักแรกของเขาด้วยเช่นกัน วันที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ คืนนั้นเขาเกิดฮีตขึ้นมาแล้วคนว่าจ้างจะพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร
คืนเดียวเขาก็ตั้งท้องลูกของอีกฝ่ายโดยไร้ข้อกังขา เปิดปุ๊บติดปั๊บทันใจ คราวนี้เขากลับมาทำงานนี้อีกครั้งเพราะเรื่องเดิม ๆ ไม่มีใครรับโอเมกาทำงานนอกจากงานประเภทนี้เท่านั้น จังหวะที่เขากำลังเครียดเพราะไม่รู้ว่าจะถูกส่งตัวไปที่ตระกูลอัลฟาบ้านไหน จังหวะเดียวกันนั้นรุจอยากมีลูกเพิ่มอีกสักคนพอดี และเขาก็คือตัวเลือกแรกที่อีกฝ่ายแจ้งความประสงค์
ไม่รู้ว่าโชคดีที่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังเดิมกับผู้ชายคนแรกหรือโชคร้ายที่กลับมาอยู่กับคนที่เขาแอบรักและไม่มีวันจะรักตอบ
มนายุตั้งปณิธานว่าหากคลอดลูกแล้ว เขาอาจจะใช้ชีวิตต่อไปอีกสักพัก เมื่อไหร่ที่เงินใกล้หมด จวนอดตาย เขาตั้งใจจะลาโลกนี้ไปอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพัง ชีวิตที่อยู่โดยไร้ความสุขมีแต่ความทุกข์ ไม่ใช่ชีวิตที่เขาอยากได้
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น มนายุใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว พลางลุกขึ้นไปเปิดประตู ฝืนยิ้มอย่างร่าเริง
“คุณยุนอนหรือยัง”
“ยังครับ คุณธีมีอะไรหรือเปล่า”
“ธีเอานมมาให้ ดื่มอะไรอุ่น ๆ ก่อนนอนเผื่อจะช่วยให้หลับสบายมากขึ้น”
“ไม่น่าลำบากคุณธีเลยครับ ปกติป้าสายยกมาให้ผมเอง” มนายุบอกอย่างเกรงใจที่เจ้าของบ้านอีกคนดูแลเขาอย่างดีถึงที่ห้องพัก
“ไม่ลำบากเลยครับ เรื่องเล็กน้อย คุณยุสิครับลำบากมากกว่าธีอีกต้องอุ้มท้องลูกพี่รุจ"
“ไม่เป็นไรครับ มันคืองานของผม”
“เพราะฉะนั้นถ้าธีช่วยอะไรคุณยุได้ ธีก็อยากช่วยครับ ธีอยากให้คุณยุแข็งแรงมาก ๆ”
“ขอบคุณครับ”
“งั้นธีเอาไปวางให้ในห้องนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” มนายุเอ่ยเกรงใจอีกครั้ง “ผมถือไปเองได้ครับ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ ก็ได้ครับ” ชลธียื่นถาดที่มีแก้วนมวางอยู่บนนั้นให้ ทว่าจังหวะที่มนายุยื่นมือออกไปรับ เขากะระยะผิดจากที่จะจับแก้วกลายเป็นปัดถาดจนแก้วนมร่วงแตกกระจายลงบนพื้น น้ำนมสีขาวไหล่เจิ่งนองไปทั่วบริเวณ
มนายุตกใจ เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“ขอโทษครับคุณธี ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” โอเมกาหนุ่มรีบขอโทษขอโพยอีกฝ่ายเป็นการใหญ่ เตรียมจะหาผ้าหรืออะไรที่พอจะเช็ดได้มาเช็ดเสื้อผ้าให้อีกฝ่าย
“อย่าขยับนะครับคุณยุ เดี๋ยวแก้วจะบาดเท้า”
“ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมผิดเองไม่น่าซุ่มซ่าม คุณอุตส่าห์หวังดีเอานมมาให้แท้ ๆ” มนายุยังพร่ำพูดแต่คำเดิม
“ไม่เป็นไรครับ ธีไม่ได้โกรธคุณ เรื่องนมน่ะช่างเถอะ ให้ป้าสายยกมาให้ใหม่ก็ได้ จริงสิ ลืมเลย ธีนี่แย่จริง ควรเรียกเด็กมาเก็บเศษแก้วกับทำความสะอาดห้องคุณยุก่อน”
“เกิดอะไรขึ้นธี แล้วนี่มาทำอะไรที่ห้องยุ” ทว่าไม่ใช่ป้าสายที่ชลธีนึกถึงกลับเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง
“อุบัติเหตุนิดหน่อยครับพี่รุจ แก้วแตกน่ะ แล้วพี่รุจมาได้ไงครับ” ชลธีหน้าม่อยลงเล็กน้อย
“พี่ได้ยินเสียงดังเลยเดินมาดู”
“ความผิดผมเองครับ คุณธีเอานมมาให้ แต่ผมไม่ระวังเลยปัดถาดจนแก้วตกแตก” มนายุรีบออกรับแทน
“เธอสองคนอย่าเพิ่งขยับตัวเดินไปไหน ยืนอยู่เฉย ๆ” เจ้าบ้านสั่ง ก่อนจะเรียกคนในบ้านให้เข้ามาเก็บกวาดเศษแก้วและทำความสะอาดพรม
“ตายจริงแล้วคืนนี้คุณยุจะนอนอย่างไรละคะเนี่ย” ป้าสายยกมือทาบอกเมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พลางสั่งให้เด็กที่ตามมาด้วยเก็บกวาดอย่างรวดเร็ว
“ทำไมครับ” ชลธีถาม เขาคิดว่าเก็บกวาดและทำความสะอาดเรียบร้อยก็น่าจะนอนได้แล้วนี่นา
“นมซึมไปตามพรมหมดแล้ว คงต้องรื้อทิ้ง อย่างไรพรุ่งนี้ก็จะเปลี่ยนพรมอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่เรื่องนั้นยังไม่น่าหนักใจเท่าเศษแก้ว ไม่รู้กระจายไปตรงไหนบ้าง เดิน ๆ ไปอาจจะเหยียบเข้าก็ได้นะคะ” ป้าสายเฉลยด้วยความกังวลใจ
“งั้นคืนนี้ให้ยุไปนอนห้องอื่นก่อน”
“คุณรุจคะ คุณก็ทราบว่าถ้าห้องไหนไม่ได้ใช้ก็ปิดไว้เฉย ๆ ไม่ได้ทำความสะอาด ขืนให้คุณยุไปนอนคืนนี้มีหวังลูกในท้องคุณยุจะสำลักฝุ่นเอาได้นะคะ" ป้าสายพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจ
"งั้นเอาไงดีล่ะ” ชลธียิงคำถามขึ้นมา
“ให้ยุไปนอนกับธีที่ห้องเราแล้วกัน พี่จะไปนอนกับลูกเอง คืนนี้ธีนอนกับยุได้ไหม” เจ้าของบ้านถามความเห็นคนรัก
“ได้น่ะมันได้ครับ แต่ไม่ดีแน่ ๆ เอาแบบนี้ดีกว่า ธีไปนอนกับลูกเอง ส่วนคืนนี้พี่รุจก็นอนที่ห้องกับคุณยุนะครับ”
“แต่พี่..” รุจทำท่าจะค้าน
“ไม่มีแต่ครับพี่รุจ จะพูดไงดี อย่างไรพี่รุจก็เป็นพ่อของลูกในท้องคุณยุนะครับ” ชลธีมองที่ท้องมนายุแวบหนึ่ง แล้วถอนสายตากลับ
“คุณธี” มนายุรู้สึกเหมือนกำลังกลายเป็นตัวปัญหา เขาตั้งใจจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่อีกฝ่ายไม่ให้โอกาสเขาพูดให้จบ
“ไม่ต้องเกรงใจครับคุณยุ” ชลธียิ้มแล้วหันไปบอกอีกคน “อีกอย่างธีกำลังจะบอกพี่รุจอยู่พอดีว่าอยากไปนอนห้องลูกคืนนี้ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ ธีไปนะพี่รุจ ไปนะครับคุณยุ อ้อป้าสายจัดการต่อได้เลยนะครับ” ชลธียืดตัวหอมแก้มคนรักก่อนเดินห่างออกไป
“ค่ะคุณธี”
“ถ้างั้นผม..” มนายุที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง
“เธอยืนอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวเหยียบเศษแก้วเอาได้” รุจสั่งและเดินเข้าไปหาคนในห้องหมายจะทำอะไรสักอย่าง
“ครับ? ” ไม่ทันได้สงสัยนาน ร่างของมนายุก็ลอยขึ้นจากพื้น รุจกำลังอุ้มเขาออกมาจากห้องนอน โอเมกาหนุ่มดิ้นขลุกขลักด้วยความตกใจ “ไม่เป็นไรครับคุณรุจ ผมเดินเองได้”
“กอดคอฉันไว้แล้วช่วยอยู่นิ่ง ๆ อย่าดิ้น เดี๋ยวร่วงลงไปหรอก” มนายุหยุดทำตามคำพูดอีกฝ่าย เขากอดคอรุจอัตโนมัติ ซุกใบหน้าลงที่ไหล่อีกฝ่าย
เขาขอเก็บเกี่ยวความสุขอันน้อยนิดได้ไหม
อัลฟาสูงใหญ่วางมนายุลงบนเตียงของเขากับชลธีอย่างเบามือเพราะกลัวจะกระเทือนท้องอีกฝ่าย
“ขอบคุณครับ”
“ฉันลืมถามเธอไปเลยว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ผมไม่เป็นไร ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะครับ”
“ไม่เป็นไร ปกติป้าสายจะเอานมขึ้นมาให้เธอดื่มก่อนนอนใช่ไหม”
“ครับ”
“งั้นนั่งรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันลงไปเอามาให้”
“ครับ” มนายุตั้งใจจะปฏิเสธ แต่รู้ตัวว่าไม่มีประโยชน์อยู่ดี หากรุจต้องการทำอะไรแล้ว เจ้าตัวไม่มีวันเปลี่ยนใจ เขาจึงรับคำอย่างสงบ
รอไม่นานเจ้าของร่างสูงใหญ่ตามลักษณะอัลฟาก็กลับมาพร้อมกับแก้วนมและน้ำเปล่าอีกหนึ่งเหยือก มนายุกล่าวขอบคุณและดื่มนมเงียบ ๆ จนหมดแก้ว และตามด้วยน้ำเปล่าอีกหนึ่งแก้วที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ เขาก็ทำตามโดยไม่อิดออด
“จะนอนเลยไหม”
“อีกสักพักได้ไหมครับ ถ้านอนตอนนี้ผมกลัวจะปวดท้อง”
“อืม”
“คุณรุจจะนอนแล้วใช่ไหมครับ ปิดไฟเลยก็ได้ เดี๋ยวผมนั่งอีกสักครู่ก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”
“ยังหรอก ฉันจะไปหาธีกับลูกหน่อย ถ้าเธอง่วงก็นอนไปก่อน”
“ครับ”
เจ้าของห้องออกไปอย่างเงียบกริบ มนายุมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นกระทั่งประตูปิดลงจนไม่มีโอกาสมองเห็นอีกฝ่ายอีก เขามองไปรอบ ๆ แม้ภาพจะไม่ค่อยชัดเจนแต่ก็ไม่เป็นไร เขาได้กลิ่นของรุจและชลธีปะปนกัน แต่กลิ่นของชลธีนั้นบางเบา สาเหตุเพราะอีกคนไปดูงานที่ต่างประเทศสองสัปดาห์เพิ่งกลับมาวันนี้เอง
มนายุก่นด่าตัวเอง เขานี่มันไม่ได้เรื่องเลย ชลธีเพิ่งกลับมาแท้ ๆ อีกทั้งรุจก็ต้องอยู่ห่างคนรักนานหลายวันแทนที่ทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกัน เพราะเขาทำให้ทั้งสองต้องแยกห้องนอนกันเสียอีก แต่ก็ไม่แน่คืนนี้รุจอาจจะนอนค้างที่ห้องลูกก็เป็นได้
บางครั้งเขาก็มองหน้าชลธีได้ไม่สนิทใจ อัลฟาหนุ่มช่างใจกว้าง เพื่อลูกแล้ว ยอมให้คนรักมีสัมพันธ์กับคนอื่นและยังยอมให้คนอย่างเขาเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมชายคาเดียวกัน ยิ่งชลธีดีกับเขามากเท่าไหร่ มนายุยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้น ที่ดันเผลอไปรักคนของอีกฝ่าย
“คุณธีโอเคกับการที่ผมย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เหรอครับ”
“ธีจะไม่โอเคกับคุณยุได้อย่างไร”
“แต่ผมอยู่ที่นี่เพราะท้องลูกคุณรุจ”
“แล้วมันผิดตรงไหน ในเมื่อผมมีลูกให้พี่รุจไม่ได้ วิธีนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด”
“ผม..”
“คุณยุอย่าโทษตัวเองเลยครับ คุณยุต้องการเงิน พี่รุจอยากมีลูก ธีเองก็อยากมีลูก เราต่างวินวินกันหมดทุกคน มีตรงไหนที่ไม่ดีครับ”‘ตรงที่ผมรักคุณรุจไงครับคุณธี’
==========================
เปิดบทมาด้วยเนื้อหาประมาณนี้ค่ะ ใส ๆ แหละเนอะ เขมว่าใช่แหละ อิอิ
ติชมได้น้าาาา ตื่นเต้นเพราะไม่เคยแต่งแนวโอเมก้าเลย บอกให้รู้กันหน่อยนะคะ
ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ
Just The Way I Am #แค่เป็นเรา