◕‿◕。 เทพบุตรกับหนูอ้วน ◕‿◕。 #ปั้นเกลือ ▹ ▹ ตอนที่ 22 (29.1.62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◕‿◕。 เทพบุตรกับหนูอ้วน ◕‿◕。 #ปั้นเกลือ ▹ ▹ ตอนที่ 22 (29.1.62)  (อ่าน 21677 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
หวาย น่ารักกกก ปั้นตามใจทุกอย่างเลยนะ ดีตรงที่ชอบที่เกลือเป็นเกลือ
น้องเกลือของเราน่ารักจะตาย ชอบตอนเกลืออยู่กับแม่ น่ารัก

ขอบคุณค่ั

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โชคดีจังน้าา น้องเกลือ เจอคนดีๆแบบปั้น  5555 พี่นี่เหมือนเกลือเลย แต่ต่างกันที่ไม่มีใครมองมา  :laugh:

ออฟไลน์ merizel-rada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-0
ตอนที่ 8


(ปั้นใจ)
   “ออกมาไม่ได้เหรอ”
   {อืม วันนี้แม่เราจะให้ช่วยทำขนมอ่ะ}
   “ขนม...”
   {พวกทองหยอด ฝอยทอง เห็นว่าดูหนังเมื่อคืนเลยอยากทำ วันหยุดพอดีด้วย}
   “อ่า...” ผมที่ตอนนี้นั่งขมวดคิ้วอยู่บนเตียงหลังจากที่รู้ว่าเกลือไม่สามารถออกมาเจอกันในวันอาทิตย์ได้ ทำให้การนอนไวและตื่นเช้ากว่าปกติของผมนั้นดูเหมือนจะเสียเปล่าไปเฉยๆ “นี่...”   
   {หืม...}
   “กูก็ชอบกินนะ”
   {จริงเหรอ}
   “อืม”
   {งั้นเดี๋ยววันไป ม. เราห่อไปให้นะ}
   “วันไป ม.”
   {อือ}
   มันอีกหลายวันเลยไม่ใช่หรือไง...
   ผมที่ไม่รู้จะพูดยังไงต่อ เลยได้แต่ถอนหายใจออกมา ดูเหมือนแผนวันนี้จะต้องล่มไปไม่เป็นท่า ก่อนที่จะได้ยินเสียงของเกลือที่เหมือนจะคุยกับคนที่อยู่ใกล้ตัว
   {แม่ ถ้าทำเสร็จแล้วเกลือขอห่อไปให้ปั้นใจบ้างได้มั้ย...ช่าย ปั้นใจชอบกิน...เอ๊ะ...อีกหลายวันไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ชวนมากินที่บ้านเลยล่ะ...} เสียงประโยคสุดท้ายไม่ใช่ของเกลือ แต่มันก็ทำให้ผมเด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที และไม่นานเสียงที่ผมรอคอยก็ดังขึ้น {เอ่อ...ปั้น...}
   “ว่าไง”
   {แม่เราชวนมาบ้านอ่ะ แต่ถ้าไม่ว่าง...}
   “ว่าง !”
   {อะ...อื้อ งั้นวันนี้มาบ้านเรา...}
   “อืม ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
   ผมที่รีบคว้ากระเป๋าสะพายที่เตรียมไว้ขึ้นมาโดยที่โทรศัพท์ยังแนบอยู่ที่ข้างหู ก่อนจะต้องชะงักการเดินเมื่อเห็นว่าไอ้ฟางมันเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วขมวดคิ้วมองมาด้วยใบหน้าสงสัย
   “เดี๋ยว ไอ้ปั้น มึงจะรีบไปไหนแต่เช้า”
   “ไปบ้านเพื่อน”
   “ห๊ะ...”
   “กูไปละ” ผมบอกคนที่ทำหน้าไม่เข้าใจสุดขีดแค่นั้น ซึ่งก็พอจะเข้าใจอยู่เพราะไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ผมไม่เคยคิดเรื่องที่จะไปบ้านเพื่อนสักครั้ง
   อืม แต่อยากไปบ้านเกลือ
   {ปั้นมาถูกมั้ย}
   “เดี๋ยวกูลองบอกทางแท็กซี่”
   {อืมๆ งั้นเดี๋ยวเราส่งโลไปให้นะ}
   “อืม”
   เกลือที่วางสายไปพร้อมกับแชทไลน์ที่เด้งเข้ามาทำให้ผมที่ตอนนี้หยุดยืนอยู่หน้าห้องเปิดเข้าไปดูก็พบกับแผนที่ของจุดหมายที่ผมจะไปวันนี้
   อ่า...
   แป๊บเดียวก็ได้
   ก็ยังดีกว่าไม่ได้เจอล่ะนะ...



(เกลือ)
   “เกลือ เพื่อนจะมาตอนไหนเหรอ”
   “เห็นว่ากำลังจะมา...”
   “หืม ไม่ได้บอกเขาเหรอว่าเราทำขนมตอนบ่าย”
   “จะ...จริงด้วย เกลือลืมเลย...!”
   “น่าจะไม่ทันแล้วน้า...” ผมที่ตอนนี้รู้สึกผิดสุดๆ เพราะลืมบอกปั้นใจว่าขนมจะเริ่มทำตอนบ่าย เพราะตอนนี้ของอะไรก็ยังไม่ได้เตรียม และผมกับแม่ก็กำลังจะออกไปซื้อของกันข้างนอกด้วย
   ทะ...ทำยังไงดี...
   “แม่...”
   “งั้นเดี๋ยวแม่ออกไปซื้อของคนเดียวก็ได้ เกลือก็อยู่รอรับเพื่อนเนอะ”
   “ครับ...”   
   ผมที่ก้มหน้าขานรับอย่างว่าง่ายเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี แต่ก็ต้องขอบคุณแม่ที่ช่วยหาทางออกให้ ก่อนที่มืออุ่นๆ จะลูบที่หัวของผมเบาๆ ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่าย ก็เห็นว่าแม่กำลังส่งยิ้มให้ผม มันเป็นยิ้มที่อบอุ่นจนผมต้องเผลอยิ้มตาม
   “มีเพื่อนดีขนาดนี้ ก็ต้องรักษาเขาไว้ให้ดีเข้าใจมั้ย”
   “อือ เกลือจะรักษาปั้นใจไว้ดีๆ และเกลือก็จะทำตัวดีๆ ด้วย”
   เพราะผมก็ไม่อยากเสียเขาไปเหมือนกัน...
   “ดีมากเจ้าหมูอ้วนของแม่”
   “รักแม่ที่สุดเลย”
   “แม่ก็รักเกลือเหมือนกัน”
   คนตรงหน้ากอดผมไว้ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่มีคนมาเห็นผมพูดแบบนี้และถามว่าผมไม่เขินกับการบอกรักแม่บ้างเหรอ แต่ผมกลับมองว่ามันไม่เห็นจะน่าเขินตรงไหน แม่เองก็บอกรักผมอย่างไม่อายใครเหมือนกัน ทำไมผมต้องอายในเรื่องที่แสดงความรักกับคนที่รักผมด้วยล่ะ
   ก็ผมรักแม่มากจริงๆ นี่...
   “งั้นแม่ไปซื้อของก่อนนะ เกลือก็อยู่บ้านรอรับปั้นใจอแล้วกัน เดี๋ยวแม่จะรีบกลับมา”
   “ได้ครับ”
   ผมยิ้มกว้างๆ ก่อนจะคลายกอดออกแล้วมองแม่ที่เดินออกไปจนตอนนี้เหลือแค่ผมที่นั่งอยู่ที่เดิมเพื่อรอคนที่จะมาบ้านผมในวันนี้
   อ่า...ตื่นเต้นจัง
   ละ...แล้วทำไมต้องตื่นเต้นด้วยเล่า !
   Rrrrrr ~
   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้งก่อนจะรีบหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าเป็นปั้นใจที่โทรเข้ามาจริงๆ ทำให้ผมรีบกดรับเพราะกลัวว่าเขาจะมาไม่ถูกหรือเปล่า
   “ปะ...ปั้น...”
   {เข้ามาในซอยแล้ว}
   “งั้นเดี๋ยวเราไปยืนรอหน้าบ้านนะ !”
   {อืม}
   ผมวางสายก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปหน้าบ้านทันที เพราะกลัวว่ารถแท็กซี่ที่ปั้นใจนั่งมานั้นจะเลยบ้านผมไป แต่ดูเหมือนว่าพอออกมาแล้วถนนในหมู่บ้านยังคงเงียบกริบ ทำให้ผมถอนหายใจออกมา เพราะคิดว่าเขายังมาไม่ถึงแน่ๆ
   ระ...รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกแล้ว...
   ผมที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าบ้านโดยที่สายตาก็พยายามมองหารถแท็กซี่ที่ปั้นใจบอกว่าเข้ามาในซอยแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย ซึ่งบ้านผมก็ไม่ได้อยู่ลึกมาก แต่ทำไมปั้นใจถึงยังมาไม่ถึงสักที
   หรือจะเลยไปแล้วจริงๆ
   “เอ๊ะ...”
   ผมที่ตอนแรกคิดไม่ตกอยู่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงขาวยาวธรรมดาๆ แต่ก็สามารถดูดีได้สุดๆ ตอนนี้กำลังเดินอยู่ไม่ไกลนัก ทำให้ผมต้องแปลกใจว่าทำไมเขาถึงไม่ให้รถเข้ามาส่ง แล้วยังเลือกที่จะเดินฝ่าแดดช่วงสายเข้ามาอีก
   “ไง”
   ผมที่ตอนแรกมองด้วยความสงสัยปนเป็นห่วงอยู่ห่างๆ ก็ได้แต่มองคนที่ก้าวเข้ามาใกล้แล้วทักทายขึ้น ก่อนที่ผมจะมองใบหน้าที่มีเหงื่อซึมของเขาจึงรีบชวนเข้าบ้าน
   “ขะ...เข้าไปข้างในกัน !”
   ผมพูดก่อนจะเดินนำคนมาใหม่เข้าไปในบ้าน ซึ่งปั้นใจก็ไม่ได้ขัด เขาเดินตามผมเข้ามาอย่างว่าง่าย และเมื่อแอร์เย็นๆ ภายในบ้านสัมผัสโดนร่างกายผมก็รู้สึกดีขึ้นมาก ขนาดผมออกไปตากแดดแค่แป๊บเดียว แต่ปั้นใจนี่สิ เดินมาตั้งไกล
   ถึงบ้านผมจะอยู่ไม่ลึก แต่ผมว่ามันก็ไกลมากอยู่ดีสำหรับคนที่เดิน...
   “อ่า...เย็น...”
   “ปั้นไปนั่งก่อน เดี๋ยวเราหาน้ำให้”
   “ขอบใจ”
   ผมมองปั้นใจที่ตอนนี้กำลังมองไปรอบๆ บ้านของผมแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาแต่โดยดี ทำให้ผมต้องเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาน้ำเย็นๆ มาให้เขา พอได้ของที่ต้องการและเดินออกมาก็เห็นว่าปั้นใจนั้นตอนนี้กำลังนั่งตัวเกร็งอยู่ที่โซฟา จนผมที่เดินเข้าไปหาต้องทักขึ้นด้วยความสงสัยในท่าทางแบบนั้น
   “เป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่าป่วย...”
   “ไม่ๆ”
   “อ่า...”
   “แม่...”
   “อ๋อ” ผมที่พอจะรู้สาเหตุที่ทำให้ปั้นใจนั่งตัวเกร็งแล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขาก่อนจะเอาน้ำเปล่าที่รินใส่แก้วให้อีกฝ่าย ซึ่งเขาก็รับไปแต่โดยดีและมองมาที่ผมอย่างต้องการคำตอบ “แม่ออกไปซื้อของ จริงๆ แล้ววันนี้จะทำขนมตอนบ่ายอ่ะ”
   “...”
   “ขอโทษนะ ถ้าเราบอกก่อน ปั้นก็ไม่ต้องรีบมาขนาดนี้”
   “ไม่เป็นไร”
   “ว่าแต่ทำไมถึงเดินเข้ามาไหนว่ามาแท็กซี่...”
   “ลุงเขารีบไปที่อื่นต่อ เลยให้ส่งกลางทาง”
   “อ่า...”
   “ขอโทษที่ทำให้มึงต้องยืนรอ”
   “ไม่เป็นไร เรารอปั้นแป๊บเดียวเอง !”
   “อืม”
   ปั้นใจพยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นจิบเพียงนิดเดียวก็วางแก้วลง ซึ่งตอนนี้ใบหน้าของเขาเริ่มแห้งแล้ว ผมที่สังเกตอยู่เลยต้องยอมละสายตาออกมาเพราะกลัวว่าอีกคนจะจับได้ว่าแอบมองเขาอยู่ขนาดนั้น
   วะ...ว่าแต่ผมควรจะชวนเขาคุยอะไรต่อดี...
   “ปั้นกินข้าวมาหรือยัง”
   “ยัง”
   “เอ่อ กินมั้ย บ้านเรามีข้าว”
   “ไม่เป็นไร ยังไม่ค่อยหิว” ปั้นใจว่าพลางมองไปรอบๆ ผมเลยมองตาม ซึ่งบ้านของผมหลังไม่ใหญ่มาก เป็นสองชั้นที่ดูจะเรียบๆ สำหรับสองแม่ลูก ซึ่งพี่น้ำตาลพี่สาวของผมจะกลับมานานๆ สักครั้ง ตอนนี้เลยมีแค่ผมกับแม่อยู่ที่นี่กันแค่สองคน “บ้านน่าอยู่ดี”
   “อือ เรากับแม่ช่วยกันเลือกเฟอนิเจอร์ล่ะ”
   “เข้าดีนะ” คำชมที่ธรรมดาของปั้นใจทำให้ผมยิ้มกว้างออกมา แม้มันจะไม่ได้ดูเยินยออะไรมาก แต่ผมกลับดีใจที่ได้ยินคำชมจากเขา แม้จะเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยก็ตาม “นี่...”
   “หืม...”
   “ทำไมแก้ม...”
   คำถามของปั้นใจพร้อมกับสายตาที่จับจ้องมาที่แก้มของผมทำให้ตัวเองต้องหุบยิ้มลงแล้วยกมือจับแก้มของตัวเองไว้
   แก้มใหญ่ หรือแก้มเยอะ...
   ปั้นใจคิดว่ามันน่าเกลียดหรือเปล่า
   “เราอ้วน...”
   “ไม่ได้ว่าอะไร แค่คิดว่ามันคงนิ่ม”
   “อือ ก็เนื้อเยอะอ่ะ” ผมว่าพลางหลบสายตาของเขาด้วยความประหม่า จะว่าเขินก็ใช่ อายก็ใช่อีก ก่อนที่ผมจะต้องสะดุ้งเมื่อสัมผัสอุ่นๆ ของมือคนข้างๆ จับที่มือของผมที่จับแก้มอยู่แล้วเอามันออก และมือข้างเดิมก็ขยับขึ้นมาจับแก้มของผมเบาๆ
   “อืม นิ่มอย่างที่คิด”
   “อะ...อื้อ”
   ผมที่ตอนนี้มองคนที่กำลังลูบและขย้ำแก้มของผมเบาๆ ก็ต้องนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น ซึ่งปั้นใจเองก็ดูเหมือนจะเพลินกับการเล่นแก้มของผม
   อ่า...แอบเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ของปั้นใจอีกแล้ว
   “มองอะไรขนาดนั้น”
   “หะ...”
   “แก้มแดง...”
   เสียงของคนตรงหน้าทำให้ผมเบิกตากว้างก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นทำให้มือของปั้นใจหลุดออกไปด้วย ก่อนที่ตัวเองจะรีบถอยออกมาให้ห่างจากคนที่ตอนนี้ลุกขึ้นตามผม
   “อะ...เอ่อ...เราว่าเราไปหาอะไรให้ปั้นกินดีกว่า แม่บอกว่าอดข้าวเช้าไม่ดี ให้เราหาอะไรให้กินนะ !”
   “อืม ก็ได้”
   “อะ...อือ ทะ...ทำอะไรดี ไข่เจียว หรือหมูทอด...” ผมที่ตอนนี้รู้สึกว่าลิ้นพันกันสุดๆ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อคนที่ตอนแรกอยู่ห่างออกไปก้าวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะหนีเขาต้องยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
   “อะไรก็ได้ เดี๋ยวกูช่วย”
   “อะ...อื้อ...”
   ผมพยักหน้ารับก่อนจะกลับหลังหันด้วยร่างกายเกร็งๆ แล้วเดินนำปั้นใจเข้ามาในครัว ซึ่งคนที่เดินตามมาอย่างเงียบๆ ก็ไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไรมากนัก เมื่อเข้ามาเขาก็มองไปรอบๆ ราวกับสำรวจอีกครั้ง ก่อนที่ปั้นใจจะหันมาถามผม
   “แล้วกินข้าวหรือยัง”
   “กินแล้ว กินตั้งแต่เช้า”
   “อ่อ...” เขาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “งั้นเอาไข่เจียวก็ได้ ง่ายดี”
   “เอ่อ...ใส่หมูสับด้วยมั้ย”
   “ไม่เป็นไร”
   “แต่ใส่ก็ได้นะ เราทำได้”
   “...”
   “หรือว่าปั้นไม่ชอบหมู...”
   “งั้นทำอะไรมาก็ได้ กินได้หมดแหละ” เขาตอบออกมาทันที ทำให้ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบเดินไปเอาเนื้อหมูจากในตู้เย็นที่แม่ชอบซื้อติดตู้ไว้ให้ผมในวันหยุด เพราะรู้ว่าเมนูง่ายๆ ที่ผมชอบทำกินกลางดึกบ้าง เวลาอยู่คนเดียวบ้างคือไข่เจียวหมูสับ หรือไม่ก็หมูทอด
   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมผมถึงไม่ผอมสักที...
   ก็คนมันอดใจกับความหิวไม่ได้นี่นา...
   “ให้ช่วยทำอะไรมั้ย”
   “ไม่เป็นไร ไข่เจียวหมูสับของถนัดเราเลย”
   “ชอบกินเหรอ”
   “อื้อ มันทำง่ายสุดแล้ว” ผมว่าพลางหันไปยิ้มให้ปั้นใจที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนเริ่มเอาเนื้อหมูสับสำเร็จรูปออกมาแล้วตามด้วยไข่ไก่อีกสองใบ ซึ่งคนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ก็ไม่ได้เข้ามาใกล้ ทำให้ผมต้องเบาใจอยู่บ้าง เพราะถ้าปั้นใจเข้ามาใกล้กว่านี้ผมต้องตื่นเต้นและทำมันออกมาได้ไม่อร่อยแน่ๆ
   “อยากช่วย”
   เสียงเบาๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมที่ตอนแรกเร่งมือทำอยู่ต้องหันไปมองก็พบกับใบหน้าที่ตอนนี้ดูเหมือนแอบขัดใจนิดๆ ของปั้นใจอยู่ ก่อนที่ตัวเองจะทำได้แค่มองอีกฝ่ายแล้วยอมตอบกลับไปเสียงเบาเช่นกัน
   “งั้นช่วยก็ได้...”
   “อืม”
   คนตัวสูงเดินเข้ามาหาผมทันทีจนตอนนี้ร่างของแทบติดกันแล้ว ผมเลยหาสิ่งที่คิดว่าง่ายที่สุดอย่างการตีไข่ให้เขาทำ ซึ่งปั้นใจเองก็ไม่ได้ขัดเท่าไหร่ เขารับไปทำอย่างว่าง่าย ก่อนที่ผมจะเอาเนื้อหมูและเครื่องปรุงใส่ตามโดยมีคนที่ช่วยผสมทุกอย่างให้เข้ากันอย่างปั้นใจนั้นทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่นานไข่ในถ้วยก็พร้อมลงกระทะแล้ว
   “เดี๋ยวที่เหลือเราทำเอง ปั้นไปนั่งรอข้างนอกก่อนก็ได้”
   “...”
   “อ่า...หรือจะรอในนี้ก็ได้...” ผมที่พูดออกไปพลางหลบสายตาคนตรงหน้าที่บ่งบอกว่าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของผมเมื่อสักครู่ทำให้ตัวเองต้องเอาถ้วยไข่มาจากเขา สุดท้ายปั้นใจก็ยอมขยับออกห่างไปและยืนดูผมที่ตอนนี้ตั้งกระทะเตรียมเทไข่ลงแล้ว และแน่นอนว่าพอโดนจ้องอยู่แบบนี้ก็ทำเอาผมไปไม่เป็นเหมือนกัน “เราจะตั้งใจทอดนะ”
   ผมเคยคิดว่าการทำไข่เจียวหมูสับนั้นง่ายมากมาตลอด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ความคิดสำหรับวันนี้สักนิด
   ผมกลัวว่าจะทำมันออกมาไม่อร่อย
   กลัวว่ารสชาตจะหนักไป หรือเบาไป ไม่พอดี
   กลัวว่าหมูที่ใส่ลงไปนั้นเยอะเกินไปหรือเปล่า คนกินจะชอบมั้ย เขาชอบไข่เยอะกว่าหมู หรือชอบหมูเยอะกว่าไข่
   และผมก็เชื่อว่าถ้าผมถามเขาออกไป ปั้นใจจะต้องตอบกลับมาแบบนี้แน่ๆ
   ทำมาเถอะ...
   “กูกินได้หมดนั่นล่ะ”

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ความมั่นใจในไข่เจียวหมูสับสั่นคลอนซะแล้ว   o22

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โอ๊ยย อิจฉาหมูอ้วน อิอิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไปถามปั้นอีกทีไหม ว่าชอบกินไข่เจียวหมูสับแบบไหม้ไหม้ไหม  :hao3:

ออฟไลน์ Nureeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Nureeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หนูอ้วนน่ารัก ปั้นรอกินไข่เจียวนานแล้วนะ

ออฟไลน์ merizel-rada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-0
ตอนที่ 9


   “อืม...”
   “...”
   “อร่อย”
   คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ ทำให้ผมที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงข้ามเขาและกำลังมองอีกคนตักข้าวไข่เจียวราดซอสกินก็ต้องถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มให้คนตรงข้าม
   “ตื่นเต้นตั้งนาน”
   “ตื่นเต้นอะไร”
   “ก็...” ผมที่กำลังจะพูดว่า ‘กลัวไม่อร่อย’ ก็ได้แต่หุบปากลง เพราะกลัวว่าเขาจะหัวเราะกับการคิดเล็กคิดน้อยของผมหรือเปล่า ก่อนที่ตัวเองจะส่ายหัว “ไม่มีอะไรหรอก เราคิดไปเรื่อยอ่ะ ปั้นกินเถอะเดี๋ยวหายร้อน”
   “อืม”
   คนตรงข้ามผมขานรับอย่างว่าง่าย โดยที่ในขณะที่เขากินนั้น ปั้นใจไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาเล่น เขาเหมือนสนใจกับแค่อาหารตรงหน้าเท่านั้น ทำให้ผมที่เฝ้ามองอยู่อย่างลุ้นๆ ในทุกคำที่เขาเอาเข้าปากได้แต่มองเพลินๆ ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อเจอสายตาของอีกฝ่ายมองมา แต่ดูเหมือนว่าผมจะหลบไม่ทันซะแล้ว
   “อะ...เอ่อ...”
   “มีอะไรหรือเปล่า อยากกินหรือไง”
   “เปล่าๆ แค่คิดว่ามองปั้นกินแล้วเพลินดี”
   “...”
   “อึดอัดมั้ย ไม่งั้นเราไม่มอง...”
   “ไม่เป็นไร มองเถอะ”
   ปั้นใจก้มหน้ากินข้าวต่อโดยที่เขาไม่ได้เงยหน้ามองมาทางผมแล้ว ไม่รู้ว่ากลัวผมอึดอัดหรือเขาแค่กำลังประหม่าเองกันแน่ และไม่นานข้าวไข่เจียวฝีมือผมก็หมดลง ทำให้ผมได้แต่มองอย่างดีใจเพราะปั้นใจไม่ได้เหลือไว้แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะข้าวหรือไข่ก็ตาม
   เจอแบบนี้คนทำก็ปลื้มเหมือนกันนะ...
   “เดี๋ยวเราเอาจานไปเก็บให้ !”
   ผมรีบพูดก่อนจะลุกขึ้นคว้าจานข้าวของปั้นใจแล้วเดินเข้ามาในครัว ซึ่งคนที่ดื่มน้ำอยู่ก็ไม่ทันทักท้วงอะไร จึงได้แต่นั่งรออยู่กับที่เท่านั้น ผมที่เก็บจานเรียบร้อยก็ออกมาก็เห็นว่าปั้นใจนั้นมองมาที่ผมไม่ละสายตาไปไหน จนกระทั่งผมเดินกลับมาถึงที่เขาจึงถามขึ้น
   “แม่จะกลับมาตอนไหน”
   “อ่า...น่าจะอีกสักพักนะ...”
   “อ่อ...” ปั้นใจพยักหน้ารับ ดูเหมือนเขาจะสีหน้าดีขึ้นทันที ทำให้ผมที่สังเกตท่าทางเขาตั้งแต่มาถึงอดถามออกไปไม่ได้
   “ตื่นเต้นเหรอ”
   “...”
   “แม่เราใจดี” ผมรีบพูดขึ้นเมื่อเขามองกลับมาทันที ก่อนที่คนตรงหน้าจะพยักหน้ารับ “แม่เราอยากเจอปั้นด้วย”
   “ทำไม”
   “ก็ปั้นดี...” ผมตอบออกไปแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ก่อนจะคิดได้ว่าคำพูดของผมนั้นนะทำให้เขาเข้าใจได้หรือเปล่า “ก็แบบ ปั้นเป็นเพื่อนที่ดี”
   “อ่า...”
   “อือ...”
   แล้วอยู่ๆ ทั้งผมและเขาก็เงียบกันไปทั้งอย่างนั้น ซึ่งผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนปั้นใจนั้นแน่นอนว่าเขาตอนนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นกัน ก่อนที่คนตรงหน้าผมจะยื่นแก้วน้ำที่ตอนนี้ไม่เหลือของเหลวด้านในแล้วมา
   “ขอน้ำอีกแก้วได้มั้ย”
   “ดะ...ได้ๆ มีน้ำส้มด้วย เอามั้ย”
   “ไม่เป็นไร น้ำเปล่าก็พอ”
   “อือ ได้” ผมพยักหน้ารับก่อนจะรีบคว้าแก้วแล้วเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง ก่อนจะรินน้ำอุณหภูมิห้องให้เขา ซึ่งปั้นใจบอกว่าเขาไม่ค่อยชอบกินน้ำเย็นเท่าไหร่นัก และเมื่อผมออกมาก็เห็นว่าปั้นใจกำลังมองโทรศัพท์ด้วยใบหน้าคิ้วขมวดอยู่ จนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ และเมื่อผมเดินเข้ามาหาเขาก็รีบวางโทรศัพท์ลงแล้วรับแก้วน้ำจากผมไป
   “เผลออ่านไปแล้ว”
   “หะ...หืม...” ผมได้แต่ทำหน้างง ก่อนจะทำตัวเสียมารยาทโดยการมองไปที่โทรศัพท์ของปั้นใจที่ตอนนี้กำลังเปิดแชทของใครสักคนค้างไว้ ซึ่งดูเหมือนเขาจะอ่านอย่างเดียวแต่ยังไม่ได้ตอบกลับไป “มีธุระเหรอ”
   “อืม นิดนึง”
   “สำคัญมั้ยอ่ะ ถ้าสำคัญไปก็ได้นะ เดี๋ยวทองหยอดเราห่อไว้ให้”
   “ไม่อยากไป”
   “นั่นสิเนอะ ก็วันหยุดทั้งที” ผมได้แต่ทำหน้าเข้าใจเขา เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจริงๆ และท่าทางแชทนั่นก็เป็นแชทของพวกรุ่นพี่นั่นล่ะ “ลองบอกเขาว่าไม่ว่างสิ”
   “คราวก่อนบอกไปแล้ว”
   “อ่า...งั้นบอกว่าป่วย”
   “...”
   “ถ้าบอกว่าป่วยเขาให้ปั้นหยุดแน่ๆ”
   “ให้โกหกว่าป่วยเหรอ”
   “กะ...โกหกเหรอ...” ผมที่ตอนแรกยิ้มกว้างกับความคิดของตัวเองก็ต้องหุบยิ้มลงทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนถึงผมจะบอกทุกคนว่าป่วย แต่ผมก็ป่วยจริงๆ แต่ปั้นใจนั้นเขาไม่ได้ป่วยสักนิด “คือเราไม่ได้ตั้งใจจะให้ปั้นโกหกนะ”   
   “งั้นไม่โกหกแต่บอกว่าป่วยแล้วกัน”
   “...”
   “ลองจับตัวกูสิ ร้อนนะ” ปั้นใจที่มองมาทางผมทำให้ตัวเองที่ตอนแรกรู้สึกผิดว่าได้ชักชวนให้คนทำไม่ดีไปแล้วก็โดนคนตรงหน้าเอื้อมมือมาจับมือผมให้ไปแตะที่หน้าผากของเขาเบาๆ “ร้อนมั้ย”
   ระ...ร้อนที่ไหนล่ะ เย็นมาก...
   แต่...
   “ร้อน...”
   ก็ได้...
   “ถ้าร้อนแสดงว่าป่วย”
   “...”
   “มีพยายานบอกว่าป่วยแล้วหนึ่งคน ตามนั้นนะ” ปั้นใจยิ้มให้ผมก่อนที่ตัวเองจะรีบชักมือกลับมาด้วยความประหม่า โดยที่ใจตอนนี้ก็เต้นตึกตักกับรอยยิ้มเมื่อสักครู่ไปแล้ว ก่อนที่ผมจะมองปั้นใจที่กำลังพิมพ์แชทกลับไป “เรียบร้อย”
   “ขะ...เขาไม่ให้ไปแล้วเหรอ”
   “อืม ก็ป่วย ไปไม่ไหวหรอก”
   “...”
   “เหมือนจะกลับบ้านไม่ไหวแล้วด้วย...”
   “เอ๊ะ...”
   ผมที่ตอนแรกมองคนตรงหน้าที่พูดออกมาตอนนี้ก็ต้องอ้าปากพะงาบเพราะไม่รู้จะตอบยังไง ยิ่งโดนสายตาของปั้นใจมองมายิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังพูดไม่ออก และดูเหมือนคนตรงข้ามเองเขาก็ไม่คิดจะอธิบายคำพูดเมื่อสักครู่แม้แต่น้อยโดยตอนนี้มีเพียงรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของอีกฝ่ายเท่านั้น
   มะ...เหมือนโดนเขาแกล้งเข้าแล้วยังไงไม่รู้ !
   “พรุ่งนี้กูน่าจะต้องไปมหา’ลัยมึงไม่ไปใช่มั้ย”
   “อือ ถ้าไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไรอ่ะ” ผมที่ตอนแรกกำลังคิดกับตัวเองอยู่ก็ต้องพยายามสลัดเรื่องก่อนหน้านี้ออกไปแล้วตอบคำถามของปั้นใจ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนอีกคนจะเริ่มหายเกร็งหลังจากมาที่บ้านผมแล้ว “พรุ่งนี้เราน่าจะนอนอยู่บ้าน...”
   “นอน”
   “ก็อาจจะไม่ได้นอนทั้งวันหรอก แต่ก็อยู่บ้านอ่ะ ทำอะไรเรื่อยเปื่อย”
   “...”
   “แม่ไม่อยู่ด้วย...”
   “พรุ่งนี้อยู่บ้านคนเดียวเหรอ”
   “อือ แม่ไปทำงานอ่ะ” ผมตอบออกไปตามความจริงทำให้ปั้นใจที่ตอนแรกดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจเรื่องของผมนักตอนนี้เขากับยืดตัวขึ้นราวกับเจอเรื่องอะไรดีๆ เข้า ก่อนที่คนตรงข้ามผมเขาจะรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทำให้ผมได้แต่ทำหน้างงเพราะไม่เข้าใจการกระทำของคนตรงหน้านัก
   “นี่”
   “หะ...หืม...”
   “ทองหยอดน่ะ...”
   “...”
   “ถ้ามากินพรุ่งนี้จะได้มั้ย” คำถามพร้อมกับแววตาที่ดูเหมือนเด็กของปั้นใจทำให้ผมไม่กล้าปฏิเสธ จึงได้แต่พยักหน้ารับ
   “ก็ได้...แต่พรุ่งนี้ปั้นต้องไปมหา’ลัยไม่ใช่เหรอ”
   “อ่า...” คนตรงข้ามผมก้มหน้าลงมองหน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นทำให้ผมได้แต่มองงงๆ สุดท้ายก็ยอมลุกตาม ก่อนที่คนตรงหน้าผมจะเดินกลับไปที่ห้องรับแขกแล้วเอากระเป๋าสะพายของตัวเองขึ้นมาหยิบเอาบางอย่างออกมาจากกระเป๋า ทำให้ผมเห็นว่ามันคือขนมคุกกี้ที่มีแพ็คเกจจิ้งน่ารักขนาดไม่ใหญ่มากโดยปั้นใจยื่นมันมาให้ผม “กูเลือกของฝากให้ผู้ใหญ่ไม่ค่อยเก่ง”
   “ให้แม่เหรอ”
   “อืม”
   “แม่ต้องชอบแน่ๆ” ผมรับของตรงหน้ามา ซึ่งมันดูน่ารักและน่ากินจนตัวเองยังเผลอกลืนน้ำลาย ก่อนที่ถุงห่อขนมช็อกบอลลูกเล็กๆ จะถูกส่งมาให้อีกชิ้น “หืม...”
   “อันนี้ของเกลือ”
   ของที่ถูกยื่นมาให้ทำให้ผมรับมาโดยที่ตอนนี้ในใจก็ดีใจสุดๆ เพราะอย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้ของฝากจากเขาตั้งหนึ่งชิ้น
   “ขอบใจนะ”
   “อืม ยังไงไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ และคราวหน้าจะอยู่ไหว้แม่ให้ได้”
   “เอ๊ะ...”
   “รุ่นพี่เขาอยากให้ไปวันนี้ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องไป” คำตอบของปั้นใจทำให้ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย
   “อืม เราก็อยากให้แม่เจอปั้นเหมือนกัน”
   “ไว้เย็นนี้จะทักมาหา”
   “...”
   “ทักแชท” ปั้นใจพูดพลางก้มมองโทรศัพท์ในมือของตัวเอง ทำให้ผมพยักหน้าตาม ซึ่งผมเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเป็นเพื่อนกับเขาในเฟซบุ๊กแล้ว “ได้ใช่มั้ย”
   “ได้ๆ จะรอนะ”
   ผมพูดออกไปแม้ตอนนี้จะแสดงออกว่ากลั้นยิ้มไปแล้วก็ตาม ซึ่งปั้นใจเองก็ไม่ต่างกัน เขาดีดูจะดีใจเมื่อได้ยินคำตอบของผม และผมก็ไม่ได้คิดว่าผมคิดไปเอง ปั้นใจแสดงออกแบบนั้นจริงๆ เขาเหมือนเด็กที่เก็บความดีใจไว้ไม่มิด คิดยังไงก็แสดงออกแบบนั้น
   แต่เขาก็เด็กกว่าผมจริงๆ ล่ะนะ
   “งั้นไปก่อนนะ”
   “อือ”
   ผมมองคนที่เอากระเป๋าพาดบ่า ก่อนจะเดินตามไปส่งปั้นใจที่หน้าบ้าน ซึ่งขาออกไปเขาก็เลือกที่จะเดินเหมือนตอนเข้ามา ซึ่งตอนแรกผมตั้งใจว่าจะโทรเรียกวินที่หน้าปากซอยให้ แต่เขาบอกไม่เป็นอะไร และเดินแค่นี้ก็ไม่ได้หนักหนานัก สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ยืนมองอีกคนที่เริ่มเดินออกจากซอยบ้านผมไปจนสุดสายตา
   อืม...
   ถึงจะได้เจอแค่แป๊บเดียวแต่ก็ทำให้รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย



   ติ๊ง...
   เสียงแชทเข้าที่ดังขึ้นทำให้ผมที่กำลังนอนมองรูปถ่ายขนมทองหยอดและฝอยทองหลังจากที่ช่วยแม่ทำจนถึงเย็นต้องละสายตาจากภาพแล้วกดเข้าแชทที่เด้งขึ้นมาทันที
   
   Punjai : กลับห้องแล้ว

   อ่า...
   ผมหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้สองทุ่มกว่าแล้ว ทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่เขาไปทำกับพวกรุ่นพี่วันนี้คงจะหนักหนาเอาเรื่อง ผมจึงกดส่งรูปถ่ายขนมไปให้เขา
   
   Gunchai : (รูป)
   Gunchai : เราก็ทำขนมเสร็จแล้ว
   Punjai : น่ากิน
   Gunchai : อร่อยด้วย
   Punjai : พรุ่งนี้ฝากท้องอีกครั้งนะ
   Gunchai : ได้เลย

   ผมที่พิมพ์แชทตอบกลับไปในขณะที่นอนเล่นอยู่บนเตียง ซึ่งวันนี้ผมเลือกที่จะนอนเฉยๆ แทนที่จะดูหนังหรือฟังเพลงฆ่าเวลาแบบทุกครั้งเพื่อรอแชทปั้นใจ และเขาก็ทักมาหาผมจริงๆ ทำให้แชทที่เงียบมานานของผมได้มีปฏิกิริยาอีกครั้ง
   “พรุ่งนี้ทำอะไรให้ปั้นใจกินดี...”
   ผมที่นอนนึกเมนูสำหรับพรุ่งนี้ก็ได้แต่หลุดยิ้มออกมา ก่อนจะดูที่หน้าจอโทรศัพท์ที่มีแชทใหม่เข้ามาอีกครั้ง

   Punjai : จะนอนหรือยัง
   Gunchai : ยังไม่ง่วงเลย
   Punjai : ไม่ง่วงเหมือนกัน
   
   ผมอ่านแชทที่ถูกตอบมาอย่างรวดเร็ว จนไม่รู้ว่าเขาเป็นเหมือนผมหรือเปล่าที่ไม่ได้กดออกจากแชทเลย ก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองโทรศัพท์ด้วยความอารมณ์ดี แต่ยังไม่ทันจะพิมพ์อะไรกลับไป อีกฝ่ายก็พิมพ์มาหาผมซะก่อน

   Punjai : ทำอะไรอยู่
   Gunchai : นอนเล่นอ่ะ ไม่มีอะไรทำ ปั้นอ่ะ
   Punjai : ว่าจะอาบน้ำ ร้อน
   Gunchai : อ๋อ งั้นไปอาบน้ำก่อนก็ได้
   Punjai : อาบเสร็จแล้วจะคุยด้วยต่อเหรอ
   Gunchai : อืม ก็ถ้าปั้นอยากคุย เราคุยเป็นเพื่อนก็ได้
   
   ผมที่ตัดสินใจพิมพ์กลับไปก็ได้แต่มองแชทที่จะตอบกลับมาอย่างลุ้นๆ ซึ่งผมเองก็ยอมรับว่าอยากคุยกับเขาเหมือนกัน เพื่อนผมไม่ได้มีเยอะแยะ และการคุยผ่านแชทกับเพื่อนครั้งแรกก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นไม่น้อย
   ถ้าขอให้ปั้นใจกับพาฝันสร้างกลุ่มแชทจะเป็นไรมั้ยนะ...   
   ติ๊ง...
   เสียงแชทที่ดังขึ้นทำให้ผมก้มไปมองหน้าจอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

   Punjai : ขอเวลา 10 นาที เดี๋ยวมา

   ผมที่พิมพ์ตอบกลับไปแค่ ‘อืม’ ก็ได้แต่มองแชทตรงหน้าอย่างกลั้นยิ้มไม่อยู่ ผมรู้ว่าการคุยแชทกับ ‘เพื่อน’ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขขนาดนี้หรอก
   แต่เป็นเพราะเจ้าของแชทที่ผมคุยด้วยเป็นปั้นใจต่างหาก
   อ่า...เรื่องกลุ่มคงต้องไว้สร้างทีหลังแล้วกัน
   ผมวางโทรศัพท์ลงตรงหน้าก่อนจะเอามือขึ้นกุมแก้มของตัวเองไว้ ซึ่งแก้มผมก็ยังคงเยอะเหมือนเดิมและผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันเยอะกว่าเดิมแล้วด้วย ก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้ากระจก ซึ่งผมเป็นคนตัวขาว คอสั้น เนื้อที่แขน ขา พุง แก้มมีเยอะจนถ้าตัดขายคงได้หลายกิโล ซึ่งผมไม่เคยคิดเรื่องลดความอ้วนมาก่อน ผมไม่เคยอยากดูดีในสายตาคนอื่น แม้ว่าหลายๆ คนจะบอกว่า ลดหน่อยเถอะ อนาคตจะได้มีโอกาสในเรื่องการงานมากขึ้น ซึ่งผมก็รู้ดีว่าบุคลิกเป็นเรื่องสำคัญ ใช่ว่าคุณจะเก่งแล้วจะได้งานเลย แต่ผมก็ยังก้มหน้าก้มตากินอยู่โดยไม่สนเรื่องอื่น จนกระทั่งผมได้รู้จักกับปั้นใจ ผมเริ่มอยากจะดูดีในสายตาเขา แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
   ผมควรจะลดความอ้วนดีมั้ย...
   ถ้าปั้นใจเดินกับเพื่อนที่อ้วนอย่างผม เขาจะอายคนอื่นหรือเปล่า...ไม่สิ ปั้นใจไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่มีทางที่จะอายแค่เรื่องคบผมเป็นเพื่อนแน่...
   งั้นก็ไม่ต้องลดก็ได้มั้ง...
   Rrrrrr ~
   เสียงโทรศัพท์ทำให้ผมสะดุ้งก่อนจะเดินกลับไปที่เครื่องมือสื่อสารเล็กๆ บนเตียง ก่อนที่ตัวเองจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมานั้นเป็นเจ้าของแชทที่เพิ่งบอกผมว่าไปอาบน้ำเมื่อสักครู่ ทำให้ผมที่ตอนแรกตกใจอยู่ก็ได้แต่กัดปากข่มความประหม่าไว้ก่อนจะเอื้อมมือสั่นๆ ไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ
   “ปะ...ปั้น...”
   {นอนแล้วเหรอ}
   “ยังๆ ยังไม่นอน แค่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย...”
   {คิดอะไร}
   “เรื่องลดความอ้วน”
   {อยากลดเหรอ} คำถามของคนในสายทำให้ผมได้แต่คิดหนักก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียงเหมือนเดิม {ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากลดล่ะ}
   “ไม่รู้อ่ะ...”
   {ไม่อยากกินเค้กแล้วเหรอ}
   “อยากสิ !” ผมรีบพูดออกไปและรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเมื่อนึกถึงว่าถ้าลดน้ำหนักผมต้องอดกินเค้กแน่ๆ “งั้นไม่ลดแล้ว...”
   {อืม ก็ไม่ได้อ้วนขนาดนั้น ไม่ต้องพยายามลดหรอก แค่ออกกำลังกายบ้างก็พอ} ปั้นใจที่พูดขึ้นทำให้ผมพยักหน้าตามแม้เขาจะไม่เห็นก็ตาม {แล้วทำอะไรอยู่}
   “ตอนแรกก็คิดเรื่องลดน้ำหนักแหละ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคุยกับปั้นแล้ว”
   และผมก็ไม่รู้ว่าเราเปลี่ยนจากการคุยแชทเป็นคุยด้วยเสียงกันได้ยังไง...
   {อ่อ...} เขาขานรับก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงจากฝั่งนั้นเหมือนกำลังทำอะไรสักอย่าง ซึ่งผมก็ไม่กล้าถามเหมือนกัน เขาจึงเป็นฝ่ายถามขึ้น {พรุ่งนี้เอาขนมอะไรมั้ย}
   “ง่ะ...”
   {เป็นอะไร}
   “ก็เมื่อกี๊เราบอกว่าจะลดความอ้วนอยู่เลย ตอนนี้ปั้นกลับถามเราละว่าจะกินอะไรมั้ย แกล้งเราหรือเปล่าเนี่ย...”
   {อ้าวเหรอ โทษที} เสียงหัวเราะเบาๆ ของปลายสายทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน
   “คงไม่ผอมง่ายๆ แน่”
   ผมพูดขำๆ ทำให้ทางนั้นเองก็หัวเราะออกมาอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน ก่อนที่เสียงของปั้นใจจะทำให้ผมที่กำลังหัวเราะอยู่ต้องค้างไปทั้งอย่างนั้น มีเพียงหัวใจเท่านั้นที่เต้นแรงกว่าเดิมหลายเท่าตัว
   {อืม...}
   “...”
   {คงไม่ปล่อยให้ผอมง่ายๆ เหมือนกัน}

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มีความไม่ปล่อยให้ผอมด้วยคนเรา 555  :m20:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กลัวว่าถ้าเกลือผอมไป จะมีคนเข้าหาเยอะกว่าเดิมล่ะซิ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น่ารัก แน่ะมีขยำแก้มกันด้วย ไม่รุ้จะหลอกทำไรน้องป่าว แม่ไม่อยู่เนี่ย
ปั้นอ่อนโยนกับเกลือนะ ส่วนเกลือ น่ารักเกินไปละ เดั๋ยวกินเข้าไปทั้วตัวซะเลย

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โดนจีบอยู่ยังไม่รู้อีก เจ้าหมูความรู้สึกช้ามาก  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กลัวว่าถ้าเกลือผอมไป จะมีคนเข้าหาเยอะกว่าเดิมล่ะซิ  :hao3:

โดนจีบอยู่ยังไม่รู้อีก เจ้าหมูความรู้สึกช้ามาก  :laugh:

คิดเหมือนเลย
ชอบบบบบบ  น่ารักมาก
ปั้น เกลือ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอตอนต่อไปจร้า  :-[

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
วางแผนขุนให้อ้วน เพราะกลัวจะผอมแล้วออร่าเปล่งประกายเข้าตาคนอื่นแหงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ merizel-rada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-0
ตอนที่ 10


   “เกลือ”
   “ครับ”
   “แม่ไปทำงานก่อนนะ”
   “อะ...อื้อ...!”
   ผมรีบพยักหน้ารับก่อนจะเดินมาส่งแม่เหมือนอย่างเคย ซึ่งแม่เองก็มองมาทางผมยิ้มๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเข้ามาแล้วหยิกแก้มเยอะๆ ของผมไปหนึ่งที
   “ตื่นเต้นที่เพื่อนจะมาเหรอเรา”
   ผมไม่ได้ตอบแต่เชื่อได้เลยว่าสีหน้าของผมคงจะแสดงออกให้แม่รู้ไปแล้ว ก่อนจะเลือกพยักหน้า แม่จึงลูบหัวของผมพร้อมกับหัวเราะเบาๆ แล้วเดินขึ้นรถไป ส่วนผมเองก็ได้แต่มองแม่ขับรถออกไปจนลับสายตา ก่อนจะปิดบ้านเพราะตอนนี้เพิ่งแปดโมงเช้า ส่วนปั้นใจผมคิดว่าเขาน่าจะมาสายๆ
   คิดว่านะ...
   Rrrrrrr ~
   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้งก่อนจะรีบล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงก็พบว่าเป็นคนที่นัดมาบ้านผมวันนี้ ก่อนที่ตัวเองจะรีบกดรับไม่นานเสียงของอีกฝ่ายก็ดังขึ้น
   {เกลือ...}
   “หะ...หืม...”
   {ตื่นแล้วเหรอ}
   “ตื่นแล้ว”
   {...}
   “แม่ออกไปทำงานแล้วด้วย” ผมพูดเสียงเบา ทั้งๆ ที่ตอนนี้ที่บ้านก็เหลือผมอยู่คนเดียว ก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปในบ้าน โดยวันนี้ผมเลือกที่จะยังไม่กินข้าวเช้าเพื่อรออีกคน แต่ก็ไม่แน่ใจอยู่ดีว่าเขาจะมาตอนไหน
   ถ้าไม่ได้กินข้าวเช้า กินข้าวเที่ยงพร้อมกันก็ได้...
   {อืม นี่รอไอ้ฟางตื่น เดี๋ยวจะออกไปแล้ว}
   “อ๋อ...งั้นเดี๋ยวเรารอนะ”
   {อืม} เสียงตอบรับอย่างว่าง่ายของปั้นใจทำให้ผมที่ไม่รู้จะชวนเขาคุยอะไรต่อดี เพราะตอนนี้ก็รู้แล้วว่าเขามาแน่นอน แต่แค่รอเพื่อนตื่น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าตอนไหน และไม่รู้ว่าจะได้กินมื้อเช้าด้วยกันหรือเปล่า และสุดท้ายผมก็อดถามออกไปไม่ได้จริงๆ
   “จะกินข้าวมาหรือเปล่า”
   {แล้วกินข้าวหรือยัง} คำถามที่ออกมาพร้อมๆ กันทำให้ทั้งผมและเขาต่างเงียบไปทันทีแทนที่จะตอบคำถามของอีกฝ่าย และก็เป็นปั้นใจเองที่ตอบคำถามของผมก่อน {น่าจะไม่ได้กินไป}
   “อะ...อือ เราก็ยังไม่ได้กิน”
   {อ่า...}
   “มากินพร้อมกันมั้ย แม่ทำกับข้าวไว้เยอะเลย...”
   {อืม งั้นเดี๋ยวรีบไปนะ รบกวนด้วย}
   “อือ”
   ผมพยักหน้า แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจะไม่เห็นท่าทางของผมก็ตาม ก่อนที่สายจะตัดไปทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าเกิดอาการโล่งใจเรื่องอะไร แต่พอได้คุยกับปั้นใจผมก็รู้สึกเกร็งๆ ทุกครั้งเลยจริงๆ
   เฮ้อ...
   ผมถอนหายใจออกมา แต่สุดท้ายก็หลุดยิ้มจนได้ ก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาเพราะที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อ จะทำกับข้าวก็ไม่ได้เพราะแม่ทำไว้แล้ว และการนั่งอยู่นิ่งๆ ก็ไม่ใช่เรื่องสนุกนัก ผมจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปหน้าบ้านอีกครั้งโดยเลือกที่จะรดน้ำต้นไม้ในเช้านี้แทน
   ปกติตอนนี้ผมคงยังนอนอยู่สินะ
   ผมรีบจัดการเปิดน้ำและหยิบสายยางมารดน้ำต้นไม้ที่บริเวณบ้านทันที บ้านของผมมีสนามหญ้า แต่ไม่กว้างนัก เพราะบ้านไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น อยู่กันสองคนได้อย่างไม่รู้สึกว่ามันกว้างเกินไป ก่อนที่ผมที่ไล่รดน้ำต้นไม้ทุกต้นในบ้านจะต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามีพื้นที่ว่างอยู่
   อืม...สงสัยต้องหาต้นไม้มาปลูกเพิ่มแล้ว
   ผมเดินไปรอบๆ บ้าน จนกระทั่งรดน้ำเสร็จ แต่ดูเหมือนเวลาก็เพิ่งผ่านไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้น และท้องผมก็เริ่มหิวแล้วด้วย ก่อนจะเก็บสายยางลงที่เดิมแล้วเริ่มมองหาอะไรทำเพื่อรอเวลาและเพื่อลืมความหิวที่เกิดขึ้น ก่อนจะเดินไปเอาไม้กวาดมากวาดใบไม้ที่มีอยู่น้อยนิด ไม่นานมันก็เสร็จจนผมต้องเริ่มมองหาอย่างอื่นต่อ
   หิวแล้วนะ
   ผมลูบท้องตัวเอง เพราะปกติผมจะกินข้าวเช้าช้าสุดก็แปดโมงกว่า และตอนนี้ก็เลยเวลากินข้าวผมไปนานแล้วด้วย
   งื้อ เมื่อไหร่ปั้นใจจะมา...
   ผมที่ลูบท้องตัวเองไปสองสามทีก็เอาไม้กวาดไปเก็บก่อนจะเริ่มเดินรอบบ้านราวกับชมวิวที่ไม่เคยเห็น แต่ดูเหมือนยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย พอเหนื่อยก็เพิ่มความหิวเข้าไปอีก ผมเลยเลือกที่จะยืนนิ่งๆ แทน โชคดีที่แดดตอนนี้ยังไม่ร้อนมากนักผมเลยยืนหน้าบ้านได้อย่างสบายๆ
   กริ๊ง ~
   หืม...
   ผมที่ตอนแรกยืนนิ่งๆ ก็ต้องเบิกตากว้าง ก่อนจะมองไปทางหน้าบ้านที่มีรถส่งเสียงคุ้นหูปั่นผ่านมาทำให้ตัวเองต้องรีบวิ่งไปเกาะรั้วไว้ ก่อนจะตะโกนเรียกสิ่งที่ทำท่าว่าจะผ่านหน้าบ้านไป
   “ไอติม !”
   กินนี่ก่อนแล้วกัน !
   ผมรีบเปิดรั้วบ้านก่อนจะเดินออกมาก็เห็นว่ารถของพ่อค้าของหวานนั้นจอดรอผมแล้วทำให้ตัวเองต้องยิ้มกว้างเดินไปหาไอศกรีมกะทิที่มีทั้งใส่ถ้วย ใส่ขนมปัง และใส่กรวย
   อยากกินหมดเลย !
   ผมที่ตัดสินใจเลือกอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเอาแบบใส่ขนมปังมา ซึ่งรอไมนานไอศกรีมสีขาวที่ราดด้วยซอสช็อกโกแลตบนขนมปังสีเขียวราคาอันละสิบบาทก็ถูกส่งมา ทำให้ผมยิ้มรับอย่างมีความสุข ก่อนจะมองพ่อค้าที่ปั่นรถออกไปโดยที่เสียงกระดิ่งก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ผมจึงเดินถือของหวานเพื่อกลับเข้าบ้าน แต่ดูเหมือนพอหันกลับมาจะต้องชะงักเมื่อพบกับคนคุ้นหน้าที่ตอนนี้ยืนอยู่ที่หน้าบ้านผมโดยที่เขามองมาที่ผมที่ถือขนมปังไอศกรีมอยู่
   ปั้นใจ...
   มะ...มาเร็ว...
   ผมอ้าปากพะงาบๆ เมื่อรู้สึกประหม่าขึ้นมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองมาที่ของในมือ ราวกับว่าการแอบกินของหวานก่อนกินข้าวของผมนั้นจะโดนจับได้ซะแล้ว
   “อร่อยมั้ย”
   “ยะ...ยังไม่ได้กินเลย...”
   “กินสิ เดี๋ยวละลายหรอก” ปั้นใจว่าก่อนที่ผมจะรีบเอาของในมือเข้าปากทันที โดยที่สายตาก็มองไปที่เขาอยู่ และแน่นอนว่าอีกฝ่ายเองก็มองผมกลับมาเช่นกัน ก่อนที่ผมจะรีบเดินเข้าบ้านแล้วเชิญอีกคนเข้ามาด้วย
   “เราหิวอ่ะ...”
   “ไม่ได้ว่าอะไร”
   “อือ” ผมว่าก่อนจะกินไอศกรีมในมือโดยมีคนที่มาใหม่ยืนมองไม่วางตาจนผมไม่รู้จะแสดงท่าทางยังไงออกมา ก่อนที่เขาจะชูถุงพลาสติกใสๆ ที่ด้านในมือขนมมาการองสีสันหน้ากินอยู่ “น่ากิน”
   “ซื้อมาฝาก”
   “ขอบใจนะ” ผมยิ้มให้อีกคนก่อนจะเดินนำเข้ามาในบ้าน โดยที่ก็ยังคงพยายามรีบกินของหวานให้หมดไวๆ เพื่อที่จะได้กินข้าวต่อ และดูเหมือนปั้นใจที่มาคราวนี้จะไม่ค่อยเกร็งแล้ว ผมเลยเลือกที่จะถามสิ่งสงสัยออกไป “เรานึกว่าจะมาช้ากว่านี้”
   “รีบมา กลัวจะหิว” คำพูดของปั้นใจพร้อมรอยยิ้มที่เกิดขึ้นทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวเพราะดูเหมือนสายตาของเขาที่มองมานั้นรู้เรื่องของผมจนทะลุปรุโปร่งแล้ว
   และก็เถียงไม่ได้ด้วย เพราะผมหิวจริงๆ
   “แม่เราทำกับข้าวไว้เยอะเลย...”
   “กินไอติมก่อนก็ได้” เขาว่าพลางมองมาที่ผมที่ยืนนิ่งค้างอยู่ ก่อนที่ตัวเองจะรีบกัดก้อนไอศกรีมเย็นๆ หวานๆ ตามด้วยขนมปัง ไม่นานของในมือก็โดนผมส่งเข้าปากจนหมด แต่ดูเหมือนปากของผมนั้นจะไม่สมดุลกับแก้มใหญ่ๆ เท่าไหร่ มันจึงปิดสนิทจนไม่สามารถเคี้ยวได้ โดยที่ตอนนี้ขนมปังก็เต็มกระพุงแก้มของผมจนมันบวมเป่ง
   งื้อ...น่าเกลียดแน่ๆ
   “อื้อ...” ผมรีบยกมือปิดปากไว้ ก่อนจะพยายามเคี้ยวโดยที่ปั้นใจนั้นก็จ้องมองมาแล้วพูดออกมาคำเดียว
   “หนู...”
   หนู ?   
   ผะ...ผมฟังผิดหรือเปล่า อาจจะเป็นหมู...
   “อื้อ !”
   “ค่อยๆ กินสิ”
   ไม่ทันแล้ว !
   ผมที่ตอนนี้พยายามตัดความคิดทุกอย่างออกแล้วรีบเคี้ยวของในปาก ไม่นานมันก็สามารถกลืนลงคอได้แม้จะใช้เวลานานไปหน่อย และคงเป็นผมที่ผิดเองที่รีบยัดมันเข้าปากเพื่อที่ได้จะกินข้าวไวๆ โดยตอนนี้หิวไม่ไหวแล้ว ของหวานกับของคาวผมไม่นับรวมกันนะ เหมือนกระเพราะมีช่องหนึ่งไว้ใส่ของหวาน ถึงจะกินไปเยอะยังไงก็หิวของคาวอยู่ดี
   “หิวแล้ว”
   ผมพูดออกไป ทำให้ปั้นใจหลุดยิ้มออกมา พลางเอื้อมมือมายีหัวผมเบาๆ ซึ่งผมที่โดนแบบนี้ครั้งแรกก็ได้แต่เอื้อมมือจับหัวตัวเองไว้ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นมา
   “กินข้าวเลยมั้ย”
   “อือ” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินนำอีกคนไปที่โต๊ะกินข้าว ซึ่งตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไปยกกับข้าวออกมาเอง แต่ปั้นใจก็อาสามาช่วย ไม่นานทั้งต้มข่าไก่ ต้มจืด และผัดผักที่อุ่นร้อนแล้วก็มาวางอยู่บนโต๊ะ เหลือแค่ไข่เจียวที่คนมาเยือนขอให้ผมทำไว้ตั้งแต่คุยกันตอนกลางคืน ไม่นานไข่เจียวหมูสับฝีมือของผมก็ตามออกมาติดๆ โดยมีปั้นใจที่ถือจานข้าวสวยร้อนๆ สองจานเดินตามมา
   น่ากินสุดๆ !
   “น่ากิน”
   ดูเหมือนความคิดของผมกับปั้นใจนั้นจะตรงกัน แต่อีกคนเลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ มีแค่ผมเท่านั้นที่คิดอยู่ในใจ ผมจึงยิ้มกว้างให้เขาโดยที่คนตรงข้ามก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน ก่อนที่เราทั้งคู่จะทิ้งตัวลงนั่งคนละฝั่งแล้วเริ่มมื้อเช้าของวันนี้กันอย่างเงียบๆ
   แต่ผมคิดว่าการทานอาหารมื้อนี้ให้ความรู้สึกที่ ‘อร่อย’ สุดๆ ไปเลย
   หวังว่าปั้นใจเองจะคิดเหมือนกัน...




   “เกลืออออออออ ~!”
   “ฝัน !”
   “ไอ้หมูอ้วนนนนนนนน ~!” ผมที่ตอนนี้ยิ้มกว้างแล้วรับผู้หญิงร่างสูงมาในอ้อมกอด โดยที่พาฝันแสดงออกว่าดีใจที่เจอผมมากๆ ก่อนที่เธอจะหยิกแก้มผมไปแรงๆ หนึ่งที “คิดถึงแก้มอวบๆ ขาวๆ เหมือนซาลาเปาของมึงที่สุด !”
   “งื้อ...”
   ผมที่โดนทำร้ายร่างกายก็ได้แต่หลุดยิ้มออกมา โดยที่คนตรงหน้าเองก็ยังเล่นแก้มผมไม่เลิก ซึ่งผมก็ได้แต่ยินยอมให้อีกฝ่ายกระทำอยู่แบบนั้น
   ก็มันให้ความรู้สึกดีมากกว่ารู้สึกแย่นี่นา...
   วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังจากที่หยุดไปหนึ่งเดือน หลังจากนี้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของผมคงเริ่มขึ้นจริงๆ แล้ว และผมรู้สึกดีใจมากๆ เพราะรู้สึกว่าการได้มาเจอเพื่อนจะดีกว่าการอยู่บ้านไปวันๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะได้เจอปั้นใจบ้าง แต่หลังจากที่เขามาหาผมวันนั้นเขาก็กลับบ้านต่างจังหวัดไป ผมไม่รู้ว่าเขากลับกรุงเทพฯ มาตอนไหน เราคุยผ่านแชทกันนานๆ ครั้ง ส่วนเรื่องกิจกรรมต่างๆ ผมก็ไม่ได้ติดตามนักรู้แค่ว่าคนที่ได้เป็นเดือนนั้น คือปั้นใจแน่นอน
   การอยู่ในจุดที่มีคนสนใจมากๆ นี่มันเป็นยังไงนะ
   “แล้วกินข้าวมาหรือยังห๊ะ”
   “กินขนมปังแล้ว”
   “กินแต่ขนมปัง แม่ไม่ทำกับข้าวหรือไงยะ”
   “วันนี้ไม่ทำอ่ะ แล้วเราก็อยากกินขนมปังด้วย...” ผมตอบออกไปโดยที่พาฝันก็เขกหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะประจำ ซึ่งดูเหมือนก่อนหน้านี้เป็นยังไง ตอนนี้ผมและเธอก็ยังเหมือนเดิม เช้านี้ดูเหมือนจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งนักศึกษาที่มากหน้าหลายตา ไหนจะเสียงที่ดังกว่าปกติทำให้ผมอดตื่นเต้นไม่ได้ คงจะมีแต่พาฝันเท่านั้นที่กำลังนั่งมองบรรยากาศรอบๆ ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
   “สถานการณ์เหมือนกันทุกปี...”
   “ตื่นเต้นนะ”
   “ไม่เลย น่ารำคาญจะตาย”
   “โหย แต่เราชอบ” ผมพูดออกไปพลางส่งยิ้มให้คนตรงข้าม ซึ่งเธอก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่โทรศัพท์ที่ผมเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงจะมีเสียงแชทเกิดขึ้น ทำให้ผมต้องล้วงมันออกมาดู ก็พบว่าเป็นปั้นใจที่ทักแชทมา และใครจะรู้ว่าการกระทำของผมที่เกิดขึ้นนั้นเรียกความสนใจจากคนตรงข้ามไม่น้อย “มีอะไรหรือเปล่า”
   “หืม...ใครทักแชทมาน่ะ”
   “อ่า...” ผมก้มมองแชทก่อนจะเงยหน้ามองพาฝันที่จ้องมองมา ก่อนจะเลือกหลบตาแล้วอ่านแชทตรงหน้าแทน

   Punjai : มามหาลัยหรือยัง

   “ฮั่นแหน่ กูรู้นะว่าใคร !”
   “หะ...หืม...”
   “ไปๆ ตอบแชทไป ไม่แซวหรอก กลัวมึงเขินจนระเบิดตาย แค่นี้ก็หน้าแดงละ” พาฝันกว่าพลางหันหน้าหนี ซึ่งผมที่ฟังคำว่า ‘ไม่แซว’ ของเธอนั้นก็ได้แต่ก้มหน้าลง ก่อนจะพิมพ์แชทตอบกลับคนที่ทักมา ซึ่งผมเองก็อดตื่นเต้นกับแชทตรงหน้าไม่ได้จริงๆ แม้แชทใหม่ๆ ของปั้นใจนั้นจะเข้ามานานๆ ครั้ง แต่ก็ผมนับจำนวนข้อความที่คุยกับเขาไม่ได้แล้ว
   
   Gunchai : มาแล้ว ตอนนี้อยู่กับฝัน
   Punjai : อ่อ...
   Gunchai : แล้วปั้นมาหรือยัง
   Punjai : ถึงแล้ว เดี๋ยวเดินไปหา
   
   ผมที่อ่านแชทก็รีบหันมองซ้ายมองขวาด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นมา แต่ดูเหมือนคนที่บอก ‘จะมาหา’ นั้นยังไม่มา ทำให้ผมต้องก้มมองแชทอีกครั้งที่ตอนนี้ปั้นใจได้ส่งข้อความมา และก็ทำให้ผมต้องเบิกตากว้าง

   Punjai : เห็นเกลือแล้ว
   
   ผมรีบเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆ โดยคราวนี้พยายามจับจ้องไปทุกที่ แต่ก็หาเจ้าของแชทไม่เจอสักที

   Gunchai : อยู่ตรงไหนอ่ะ
   Punjai : ก็ไม่ใกล้เท่าไหร่
   Gunchai : แกล้งเราเหรอ
   Punjai : เห็นจริงๆ

   ผมขมวดคิ้วใส่หน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งดูเหมือนจะโดนอีกคนแกล้งให้แล้ว ก่อนจะหันมองรอบๆ อีกครั้ง จนมั่นใจว่าปั้นใจนั้นไม่ได้อยู่แถวนี้แน่ๆ
   
   Gunchai : เพราะเราตัวใหญ่ปั้นเลยเห็น แต่ปั้นตัวเล็กเราเลยไม่เห็นหรือเปล่า

   ผมพิมพ์แชทตอบกลับไปก่อนจะหลุดยิ้มออกมาและทางปั้นใจนั้นก็อ่านทันทีแต่ไม่ได้ตอบกลับมาทันทีเหมือนครั้งก่อนๆ ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงแล้วเงยหน้าขึ้นก็ต้องรีบหุบยิ้ม แต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้วเมื่อมีสายตาแซวๆ จากพาฝันมองมาอย่างไม่ปิดบัง
   “คุยกับใครเหรอจ๊ะ”
   “ปั้นใจอ่ะ...” ผมตอบออกไปตามความจริง โดยที่พาฝันนั้นก็ยิ้มออกมากับคำพูดตรงๆ ของผม ก่อนที่คนตรงข้ามจะเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมแรงๆ
   “ได้ข่าวว่าไปเที่ยวบ้านกันด้วย”
   “หะ...หือ...”
   “ร้ายๆ” ผมที่ตอนนี้อ้าปากค้างไปแล้วก็ได้แต่มองคนตรงข้ามที่หัวเราะออกมา จนตัวเองคราวนี้ได้แต่ก้มหน้าหนีจริงๆ ซึ่งผมไม่รู้ว่าพาฝันรู้ได้ยังไง แต่ผมเองก็ไม่กล้าเถียงหรือโกหกออกไป “งั้นเดี๋ยวกูมานะ แป๊บบบบบ”
   ผู้หญิงตรงข้ามผมลุกขึ้น ทำให้ผมต้องเงยหน้ามองตามคนที่เดินออกไปจากโต๊ะก่อนจะเห็นว่าคนที่พาฝันเดินไปหานั้นเป็นเพื่อนของปั้นใจที่ไม่รู้ว่ามานั่งอยู่ที่คณะเราตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินออกไป ส่วนผมที่มองตามสุดท้ายสายตาก็ไปหยุดที่ผู้ชายตัวสูงในชุดนักศึกษาที่โดนเพื่อนของเขาตบบ่าเบาๆ แล้วเดินสวนกันไป โดยที่คนที่ผมจับจ้องอยู่ตอนนี้ก็กำลังเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
   “เจอแล้ว”
   “ปะ...ปั้น...”
   “เจอตัวจริงแล้ว” ปั้นใจพูดหลังจากที่มายืนอยู่ตรงหน้าผม ทำให้ผมได้แต่มองเขาอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะร้อง ‘อ๋อ’ ขึ้นมาในใจเมื่อเขาโชว์รูปถ่ายของผมจากระยะไกลๆ ให้ผมดู จนผมรู้แล้วว่าที่เขาบอกว่า ‘เห็นผม’ แล้วนั้นมาจากที่ไหน
   เพื่อนที่ชื่อฟางถ่ายให้นั่นเอง
   “อือ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาหลังจากที่เราไม่ได้เจอกันมาเกือบเดือน แล้วพูดออกไปเสียงเบา “เจอปั้นแล้วเหมือนกัน”
   ไม่ต้องมองหาแล้ว
   ก็มาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้แล้วนี่เนอะ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2018 08:53:55 โดย merizel-rada »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ปั้นจีบเบาเบา เดี๋ยวหนู(เกลือ)ตื่น  :mew4: :mew4: :mew4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด