บทที่ 14
สองวันก่อนหน้านั้น
นิ้วเรียวแตะลงบนหน้าจอโทรศัพท์ขณะที่หูฟังเพลงซึ่งเสียบสายเข้ากับตัวเครื่อง
SlimeSmileS: มังกร
SlimeSmileS: พี่ว่าจะพี่จะปิดช่องเลยว่ะ
คนที่กำลังฟังเพลงเพลินๆ แทบจะสะดุดล้มคว่ำกลางอากาศ ถ้าไม่ได้ติดที่ว่าเขานั่งเล่นอยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเองอยู่ล่ะก็นะ
ชายหนุ่มกนะชากสายหูฟังออกจากหู ความรื่นรมย์ที่มีหายไปจนหมดเพราะความลนลานและความตกใจเข้ามาแทนที่
Vk Dragon: เฮ้ย ทำไมอ่ะพี่
Vk Dragon: เพราะข่าวลือที่เจออยู่เนี่ยเหรอ?
เขากลั้นใจรอเจ้าของชาแนลที่ตัวเองติดตามมานานตอบกลับ
SlimeSmileS: อืม
SlimeSmileS: มันเบื่อๆ ด้วยอ่ะ
SlimeSmileS: มีหลายอย่างต้องทำ
SlimeSmileS: งานมหาลัยก็เยอะ ไหนจะสอบอีก
SlimeSmileS: ปิดไปอาจจะดีกว่า
โอ้โห ข้ออ้าง ข้ออ้างมาเป็นล้าน
มังกรรู้ดีว่าสไลม์ที่เขาคุยอยู่ด้วยนี่เข้ามหาลัยมาตั้งหลายเดือนแทบจะจบเทอมอยู่แล้ว ถ้าคิดว่าชีวิตมหาลัยมันหนักจนทำช่องไม่ไหวจริงก็ควรต้องปิดไปแต่แรก ไม่ใช่ปล่อยให้ล่วงเลยมาขนาดนี้ แต่นี่เจ้าตัวมีเหตุผลอย่างอื่นไง
Vk Dragon: ไม่เอาดิพี่ ใจเย็นๆ ก่อน
ร่างสูงเพรียวของคนพิมพ์ผลุงลงจากเตียง ถลาไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบกางเกงยีนขายาวกับเสื้อยืดออกมาเปลี่ยนแทนชุดที่ใส่อยู่บ้าน เดินไปคว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ ซอยเท้าถี่ยิบลงบันไดเสียงปึงปัง ตาเลิ่กลั่กอยู่กับหน้าจอมือถือ
SlimeSmileS: ก็เย็นอยู่นะ
SlimeSmileS: แต่เบื่อแล้วอ่ะ
เขารีบพิมพ์ตอบอย่างทุลักทุเล
Vk Dragon: พี่แค่นอยด์เรื่องข่าวลือใช่ไหมล่ะ
Vk Dragon: แค่ออกมาอธิบายให้ทุกคนฟังก็พอแล้วนี่ครับ ไม่เห็นต้องลบช่องเลย
Vk Dragon: อย่าลบเลยนะพี่ ผมยังอยากดูคลิปพี่อยู่นะ
หญิงสาวร่างท้วมเดินออกมาจากครัวเพราะเสียงฝีเท้าของลูกชายเมื่อครู่
“บอส” หล่อนว่าเสียงเข้ม มือถือตะหลิวอยู่ข้างหนึ่ง “อ้าว จะออกไปไหนล่ะลูก จะได้เวลาข้าวเย็นแล้วนะ”
“ไปมหาลัย แม่” บอสว่าพร้อมกับกดออกจากแอปพลิเคชันเพื่อต่อสายหาเพื่อนสนิท โทรศัพท์เขาสั่นระหว่างที่กมันแนบหูฟังเสียงสัญญาณ มิวคงจะตอบข้อความกลับมาแล้ว เขาก็อยากรีบตอบกลับแต่ต้องโทรหาไอ้กชเสียก่อน
“ไปทำไมมหาลัย มีเรียนชดเชยเหรอ แล้วแต่งตัวแบบนั้นได้เหรอ”
“โธ่แม่” บอสพูดเหมือนครางขณะผูกเชือกรองเท้า เขารู้ว่าไม่ควรหงุดหงิดใส่อีกฝ่ายแต่ตอนนี้เขาวุ่นวายไปหมด เรื่องที่มิวพูดมาทำเอาเขากังวลเป็นจริงเป็นจังราวกับว่าช่อง SlimeSmileS นั่นเป็นของเขาเสียเอง “ผมจะไปหาไอ้กช… เออ แต่ไม่รู้มันอยู่หอหรืออยู่บ้าน…. ทำไมไม่รับสายวะเนี่ย”
“แล้วจะไปหาเพื่อนน่ะ เอาอะไรติดมือไปบ้างรึเปล่า”
“แม่” บอสว่าอย่างเซ็งๆ “นี่เพื่อนนะ ไม่ใช่ญาติ ไม่ต้องพิธีรีตองขนาดนั้น”
“ไม่ได้ไง บอสชอบไปรบกวนเพื่อนอยู่เรื่อย”
ชายหนุ่มทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดนั้น เขายืดตัวขึ้นหลังจากผูกเชือกรองเท้าเสร็จ
“งั้นผมไปก่อนนะแม่”
“แล้วจะกลับกี่โมง” คนเป็นแม่ถามอย่างอ่อนใจ บอสชำเลืองมองนาฬิกา เลื่อนโทรศัพท์ออกจากหูเพราะไม่มีคนรับสาย ให้มันได้แบบนี้สิ
“เดี๋ยวผมลองไปที่หอก่อน ถ้าไอ้กชไม่อยู่ผมจะไปหาที่โรงกลึงมัน”
บ้านเพื่อนเขาทำธุรกิจนี้มานานแล้ว เขาเองก็มีโอกาสแวะไปเยี่ยมเยียนบ่อยๆ
“โห ถ้าไปบ้านกชก็ต้องวนไปอยุธยาเลยนะ จะไหวเหรอลูก ทำไมไม่โทรไปถามเพื่อนล่ะว่าตอนนี้อยู่ไหน”
“โทรแล้ว---” เขายกมือขึ้นมาข้างหนึ่งเมื่อโทรศัพท์แผดเสียงร้อง กชโทรกลับมาหาแล้ว บอสกดรับ “เออ มึง อยู่ไหน”
“ใครน่ะ” เสียงงัวเงีย มันเพิ่งตื่นแน่นอน ไอ้ห่านี่เพิ่งตื่นทีไรก็ไม่เคยรู้เรื่องตลอด แล้วเดี๋ยวก่อน… นี่มันจะห้าโมงเย็นแล้วนะ
“บอส”
“บอสไหน”
“บอสมอเดียวกับมึง” ตอบกลับได้อย่างเยือกเย็นเพราะเคยเจอสถานการณ์นี้มาก่อน กชรู้จักบอสสองคน แต่ที่เขาไม่เข้าใจเลยคือมันก็ไม่ได้ติดต่อกับบอสอีกคนมาเป็นชาติล่ะ ทำไมยังต้องสับสนอีก
“...อ้อ” ตอบช้าแบบนี้สมองยังประมวลผลไม่ทันแน่นอน
“ตกลงมึงอยู่ไหน” พูดพร้อมกันหันไปทำไม้ทำมือกับแม่เป็นเชิงบอกว่าขอออกไปก่อน แม่เขาพยักหน้าอย่างเอือมๆ แล้วเดินกลับเข้าครัวไป บอสตรงไปที่มอเตอร์ไซค์ของตัวเอง หยิบหมวกกันน็อกขึ้นมา “หอหรือบ้าน”
“อือ”
“อือพ่อมึงสิ” น่าหงุดหงิดเป็นบ้า “ตอบมาเร็วๆ หอหรือบ้าน”
“หอ” เสียงงัวเงียงุนงง ให้เขาเดานะ มันต้องดื่มหนักมาแน่ๆ รูมเมทไม่อยู่ห้องแค่นี้ช้ำใจจะเป็นจะตาย กากสิ้นดี “โอย มึง ปวดหัว ซื้อยามาด้วยนะ”
“เห็นกูเป็นคนใช้ส่วนตัวมึงเหรอ”
“ทำไมต้องดุด้วยวะ”
“มึงลุกไปอาบน้ำไปไอ้กช” เขาเริ่มไล่ ยกขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ “อีกครึ่งชั่วโมงกูไปหา ล้างหน้าล้างตาให้มีสติหน่อย แค่นี้นะ เจอกัน”
บอสไปถึงหอพักของเพื่อนโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ตอบตกลง สีหน้าของกชบึ้งตึงหลังจากที่เดินมาเปิดประตูให้เพื่อนรักเข้ามาข้างใน อันที่จริงเขาไม่เคยเอาเพื่อนมาที่หอนี้เลยเพราะเกรงใจมิว มิวเองก็ไม่เคยเอาใครมาตอนที่เขาอยู่ด้วย เรียกได้ว่าเคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกันจริงๆ
แต่ตอนนี้มิวไม่อยู่ และกชก็ไม่ค่อยอยากอยู่คนเดียว
“เหมือนผีตายซากเลยเพื่อน” ว่าแล้วก็ปล่อยหมาออกมาจากปากหนึ่งตัว หากกชที่ชินแล้วไม่สนใจ เขาเดินเลี่ยงไปอีกทางพร้อมกับยกมือเกาหน้าท้องของตัวเองอย่างเกียจคร้าน บอสไม่แปลกใจเลยที่หมอนี่จะเปลือยท่อนบนแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจกล้ามเนื้อบนหน้าท้องของเพื่อนอย่างที่พวกผู้หญิงในเน็ตกรี๊ดกันหรอกนะ รสนิยมเขายังไม่แย่ขนาดนั้น
หากสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มสนใจกลับเป็นบริเวณโต๊ะทำงานของมิว
บอสเดินเข้าไปสำรวจโต๊ะคอมที่วางข้าวของมากมาย ไม่ถึงกับเป็นระเบียบ แต่ก็ไม่ได้รกรุงรังมากมาย เขาหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งที่วางอยู่ขึ้นมา นี่เป็นเล่มล่าสุดที่เพิ่งวางตลาดไม่นาน เขาเองก็ตามเรื่องนี้อยู่ ไม่แปลกใจเลยที่รสนิยมเขากับมิวจะคล้ายๆ กัน คิดว่าเขาตามชาแนลของมิวทางยูทูปมาตั้งแต่เปิดแรกเพราะอะไรล่ะ
ความคิดที่ว่าตอนนี้ได้อยู่ตรงที่ที่มิวอัดคลิปมาตลอดทำให้แฟนคลับอย่างบอสตื่นเต้นนิดหนึ่ง แต่เขาไม่แสดงมันออกมาให้ใครเห็นหรอก
กชลากโต๊ะญี่ปุ่นออกมาตั้งตรงกลางห้อง ขมวดคิ้วมุ่นมองเพื่อนที่สำรวจโต๊ะทำงานของรูมเมทตัวเอง
“ไอ้บอส มึงจะไปยุ่งกับของน้องเขาทำไมเนี่ย ออกมา”
“ก็แค่ขอดูเอง” รู้นะว่าเสียมารยาท แต่อดใจไม่ไหวจริงๆ
จะว่าไปมิวก็เป็นไอดอลของเขาในความหมายหนึ่ง ไม่ใช่ไอดอลยิ่งใหญ่แบบที่เขาจะกรี๊ดสลบเมื่อได้เจอ ไม่ใช่ไอดอลแบบที่ได้พบตัวเป็นๆ แล้วอยากจะขอลายเซ็น แต่เขาก็นับถือรุ่นน้องคนนั้นที่มุ่งมั่นทำคลิป สร้างชาแนลของตัวเองขึ้นมาอย่างไม่ย่อท้อแม้ว่ายอดวิวหรือยอดซับจะไม่ได้มากมายเท่าของคนอื่นๆ แต่ทุกครั้งที่มิวเล่นเกม แปลเกมอย่างตั้งอกตั้งใจ คนดูอย่างเขาก็สัมผัสถึงความพยายามของอีกฝ่ายได้
คงเพราะอย่างนั้นล่ะมั้ง… เขาถึงได้ผิดหวังเหลือเกินตอนที่รู้ว่ามิวแกล้งเล่นละครคบกับกชเพื่อจะเรียกคนดู
บอสรู้มาแต่แรกแล้วว่ามิวกลายเป็นรูมเมทของเพื่อสนิทตัวเอง เพราะนอกจากเขาจะคอยตามมิวอยู่เรื่อยๆ ไอ้กชก็คอยเล่าเรื่องในชีวิตของตัวเองให้เขาฟังตลอด
ตอนแรกเขาก็ตื่นเต้นกับเรื่องนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดจะเผยตัวหรอกว่าเป็นแฟนคลับ เพราะถึงยังไงอีกฝ่ายก็เด็กกว่า แล้วเขาก็ไม่คลั่งไคล้ขนาดจะไปตามติดชีวิตเจ้าตัวขนาดนั้น แค่ชอบดูคลิปเกมที่มิวทำไปเรื่อยๆ ก็เท่านั้นเอง ที่สำคัญ ตลอดเวลาที่เขาติดต่อกับมิวในฐานะแฟนคลับ เขาทำตัวเหมือนเป็นรุ่นน้องอีกฝ่ายมาตลอด อาจเป็นเพราะแฟนคลับส่วนใหญ่ของมิวมีแต่คนที่อายุน้อยกว่าเจ้าตัวด้วยล่ะมั้ง เขาก็เลยไหลตามน้ำคนอื่นไปได้
อ้อ ส่วนเฟสที่ใช้ติดต่อมิวในฐานะ SlimeSmileS น่ะเหรอ? ก็ต้องเป็นอีกแอคเคาท์ที่เขาสร้างขึ้นมาเล่นๆ อยู่แล้ว งานอดิเรกส่วนตัวเขามันติงต๊อง และเขาก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ ในโลกความเป็นจริงรับรู้มากมาย
กชเปิดโน้ตบุ๊คของตัวเองขึ้นมาขณะที่บอสปิดหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นของมิว
“แล้วนี่มึงมาทำไม” กชเริ่มถาม ใบหน้ายับยู่ยี่เพราะเรื่องที่เจอติดๆ กันช่วงนี้ นอกจากจะผิดใจกับรุ่นน้องที่ตัวเองแอบชอบแล้วเขายังประสบกับสภาวะมรสุมการเรียนอยู่ เขามีรายงานตัวหนึ่งที่ยังทำค้างอยู่ ถ้าไม่เสร็จภายในเที่ยงคืนนี้เขาได้เอฟมากินเล่นแน่ “ทำรายงานของอาจารย์พงศ์ศักดิ์เสร็จยัง”
“เสร็จไปสามชาติที่แล้วแล้ว”
“ไอ้ห่า เอามาดูดิ๊”
“มึงมาบอตอนนี้กูจะเอาจากไหนให้ล่ะ” ไม่ได้หยิบอะไรมาจากบ้านเลยนอกจากโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์เนี่ย
“งั้นมึงกลับบ้านไปแล้วส่งมาให้กูด้วย”
“ไอ้เหี้ย มึงยังสบายใจเฉิบได้อยู่อีกเหรอวะ”
คนที่ไม่ได้มีท่าทีสบายใจเฉิบเลยแม้แต่นิดเงยหน้าขึ้นมาจ้องเพื่อนตาขวาง
“มึงเห็นกูสบายใจเฉิบงั้นเหรอ? ”
“ทำไมมึงไม่ไปง้อน้องมิวให้มันจบๆ ”
“มึงคิดว่ากูไม่พยายามเหรอ? ” เขาอุตส่าห์ไปดักรอหลังคาบเรียน ตามโรงอาหาร แต่มิวบทจะหายตัวก็เล่นซะประหนึ่งตัวเองเป็นนินจามืออาชีพ จับไม่ได้ไล่ไม่ทันจริงๆ
แต่ก็อย่างว่าอีก ชีวิตเขาก็มีหลายอย่างต้องรับผิดชอบ จะให้มาตามแต่รูมเมทก็ใช่ที่ ตอนนี้การเรียนเขาก็กำลังวิกฤต… อะไรก็ได้แล้วตอนนี้ขอแค่ไม่ต้องเรียนซ้ำก็พอ แต่ขนาดตั้งมาตรฐานต่ำแค่นั้นยังแทบเอาตัวไม่รอด
“มึงรู้ไหมว่ากูโกรธมาก” บอสพยายามลากเข้าเรื่อง สาเหตุที่เขามาหาไอ้กชถึงที่ก็มีแค่เรื่องเดียว
“อะไร? ”
“มิวจะปิดช่องตัวเอง”
“อะไรนะ!? ” กชตะโกนลั่นด้วยความตกใจ มองสีหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนแล้วใจคอไม่ดี “แต่… ปิดทำไมอ้ะ ก็ทำช่องมาตั้งนาน”
“มึงยังจะถามอีกเหรอว่าเขาจะปิดทำไม”
กชคอตกทันที “แต่… แต่ถึงขั้นปิดเลยเหรอ น่าเสียดายออกนะ”
“ไปบอกเจ้าตัวนู่น”
“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าน้องเขาจะปิดช่อง”
“ก็กูคุยกับมิวมา”
“อ้อ” กชเป็นเพื่อนคนเดียวที่รู้ความลับนี้ของเขา “ที่มึงไปหลอกน้องเขาว่าตัวเองชื่อกิ้งกืออ่ะนะ? ”
“มังกรโว้ย” คนชอบมังกรโวยลั่น “แล้วกูก็ไม่ได้หลอก เขาเรียกนามแฝง”
“คนที่อยู่หลังหน้าจอนี่ไว้ใจกันไม่ได้สักคน”
“มึงกับมิวก็ด้วยใช่ไหม” เล่นหลอกคนดูแบบนั้น
เจ้าของห้องเริ่มตัวลีบลง “ก็… ก็นะ”
“แต่กูถามจริงๆ เถอะ” บอสพูดสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นอีกครั้ง “มึงจะอุบอิบเรื่องความรู้สึกของตัวเองไปอีกนานแค่ไหน กูรู้นะว่าทำไมมึงถึงตอบตกลงยอมเล่นเป็นแฟนกับน้องเขาวันนั้น”
กชขมวดคิ้วมุ่นขึ้นเรื่อยๆ ก้มหน้างุดลงกับโต๊ะ
“มึงชอบน้องเขาจริงๆ ”
“เออ” อันที่จริงเขาเคยพูดเรื่องนี้กับไอ้บอสไปแล้ว ไอ้บ้านี่ก็รู้ดี แต่นี่ก็ยังจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดซ้ำอีก
“ทุเรศ” ว่าแล้วก็ปล่อยหมาอีกตัวพร้อมกับส่ายหน้า “แอบชอบเขาก็ทุเรศพอแล้ว ยังจะฉวยโอกาสอีก”
“แอบชอบทุเรศตรงไหน” เฮ้ย อันนี้กชไม่เข้าใจครับ แต่อันหลัง… โอเค สำนึกผิดก็ได้ “แต่ก็นั่นแหละ กูไม่ได้เป็นคนเสนอไอเดียนี้นะเว้ย น้องมิวต่างหาก แล้วตอนแรกกูก็พยายามปฏิเสธแล้ว แต่… แต่…” พูดไปก็นึกถึงสีหน้าอ้อนวอนของอีกฝ่าย นัยน์ตาดำขลับที่เป็นประกายคู่นั้น แล้ว… แล้ว… ใครจะห้ามใจไหวล่ะครับ! แค่กลั้นใจไม่ให้ถลาเข้าไปฟัดตอนนั้นได้ก็เก่งแล้ว!
“แต่มึงเสือกเห็นแก่กิน! ”
“เออ ใช่! นั่นแหละ! ”
“ตอแหล! ” พูดแล้วก็ตบหัวเพื่อนรักไปรอบหนึ่งดังผัวะ! กชแทบหน้าคว่ำไปจูบโต๊ะ “มึงหวังแต๊ะอั๋งน้องเขาอยู่แล้ว ไอ้สัส แต่ละคลิปที่ออกมานี่ อื้อหือ… อย่าให้กูพูดนะ แต่ละอย่างนี่ความตั้งใจจริงของมึงล้วนๆ ”
“กูก็เล่นให้สมบทบาทไง! ”
ยังอีก ยังไม่ยอมรับอีก
บอสถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยเพื่อนแก้ปัญหายังไงดีในเมื่อข่าวลือที่ออกมาก็เป็นความจริง
“ถ้ามึงจะเล่นให้สมบทบาทขนาดนั้นก็ไปคบน้องเขาซะเลยสิ” พูดไปด้วยแรงหมั่นไส้ล้วนๆ “จะได้แก้ปัญหาที่คิดไม่ตกกันอยู่นี่ไง”
แทนที่มันจะเห็นดีเห็นงามด้วย ไอ้กชกลับหน้าแดงแปร๊ดอย่างน่าหมั่นไส้ เจ้าตัวกลับก้มหน้างุดจนแทบจะกลืนไปกับโต๊ะได้อยู่แล้ว
ว่าแล้วก็ตบหัวมันด้วยหมั่นไส้อีกที กรกชครวญครางอย่างน่าตบอีกสักรอบ นี่น่ะเหรอ ผู้ชายที่สาวกรี๊ดกันตอนอยู่บนหน้าจอกับมิว พอไม่มีมิวแล้วก็ขี้กากดีๆ นี่เอง
“มึงนี่… ชอบน้องเขาจริงๆ สินะ” ถอนหายใจอีกเฮือก ให้ตายเถอะ เพื่อนกู เป็นผู้ชายปกติมาตั้งนาน...
“ก็น้องเขาน่ารัก” กชสารภาพ “รู้ตัวอีกทีก็ตกหลุมรักไปแล้ว”
“มึงรู้ไหม” บอสว่าพร้อมกับถอนใจ “กูเคยว่ามิวว่าใช้มึงเป็นเครื่องมือ”
กชเงยหน้าพรวดขึ้นมาทันที เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน แต่พอได้เห็นท่าทีจริงจังของเพื่อนสนิทแล้วก็ต้องกัดฟันกรอด “ไอ้เลว มึงว่ามิวทำ--”
“ใช่” บอสยอมรับอย่างไม่สะทกสะท้าน ขึงตามองเพื่อนนิ่ง “กูควรจะว่ามึงมากกว่า”
“....”
“มึงต่างหากที่ใช้มิวเป็นเครื่องมือ”
“โอ๊ย ไอ้ห่าบอส” คิดยังไงเอามันเป็นเพื่อนสนิทวะเนี่ย “พอมึงพูดออกมาแล้ว กูรู้สึกเหมือนตัวเองทำผิดระดับก่อการร้ายข้ามชาติเลยว่ะ”
“นี่ มึงฟังนะ ไอ้กช” เขาตัดบท สีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง “กูไม่สนว่ามึงจะใช้วิธีไหน ไม่สนด้วยว่ามึงจะทำยังไง แต่มึงต้องไม่ยอมให้มิวปิดช่องของตัวเอง”
“กูจะไปมีสิทธิ์---”
“มึงก็รู้ว่ามิวรักช่องตัวเองแค่ไหน”
กรกชชะงักไปทันที เขานึกถึงความกระตือรือร้นของเพื่อนรุ่นน้องทุกครั้งที่จะอัดวิดีโอ สีหน้ายินดียามที่ได้อ่านคอมเม้นท์จากแฟนๆ ความทุ่มเทของมิวที่มีให้ชาแนลนั่นเป็นของจริง…
“เข้าใจนะ นี่เป็นหน้าที่มึง” บอสโยนงานให้อีกฝ่ายหน้าตาเฉย แต่กรกชไม่คัดค้านหรอก เขาเองก็เห็นด้วยว่าตัวเองมีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้
เขาหวังแต่… มิวจะเปิดโอกาสให้เขา
…
กรกชทำตามคำพูดของเขา
บอสรับรู้เรื่องนี้ได้ขณะที่ไถนิ้วลงบนจอระหว่างที่นั่งกินข้าวในโรงอาหารของมหาลัย มิวอัพคลิปใหม่คู่กับกช เล่นเกมอะไรสักอย่างด้วยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่บอสเดาว่าคงมีการแถลงเรื่องข่าวลือในช่วงต้นคลิป แต่เขาจะยังไม่เปิดดูตอนนี้หรอก เขาไม่ได้สนเรื่องที่มิวจะคบหรือแกล้งคบกับใคร
ไม่สิ… อาจจะสนนิดหน่อยก็ได้ แต่แค่เจ้าตัวยืนยันว่าจะทำช่องของตัวเองต่อ แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว
ชายหนุ่มมองเวลาบนมือถือแล้วกดปิดหน้าจอ ยืดตัวขึ้นเอาจานที่กินเสร็จแล้วไปวางในที่คืนภาชนะ หลังจากนี้เขามีเรียนที่ตึกใกล้ๆ นี้แล้วหลังจากนั้นเขาต้องไปทำรายงานกลุ่มตามนัด แล้ววันเขาก็ตั้งใจจะ---
“อ๊ะ! ” เสียงอุทานของใครบางคนพร้อมกับความเปียกชื้นที่หน้าท้องทำให้บอสต้องก้มลงดู
โอ้โห… เสื้อกู ไปหมดแล้วครับ ซดน้ำโค้กจากแก้วของคนตรงหน้ามาหมดจดทีเดียว
แล้วไอ้คนที่เพิ่งทำเสื้อเขาเลอะแบบนี้… ไอ้แว่นแฝดไอ้มิวนี่เอง
จำได้ว่าเด็กนี่ชื่อแนท… เอ๊ะ? หรือว่านัท? แล้วตอนนี้ดวงตาหลังกรอบเลนส์ก็กำลังเบิกกว้างอย่างตกใจ ปากอ้าค้างอย่างคาดไม่ถึง
“ผมขอโทษครับ” แนทพูดอย่างร้อนรน บอสเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างแปลกใจเพราะไม่นึกว่าจะได้ยินคำขอโทษ ก็คราวก่อนที่พวกเขาเจอกันสงครามน้ำลายใช่ย่อยที่ไหน
“ขอโทษแล้วหายเปียกเหรอ” สันดานเดิมแก้ยาก คำพูดกวนประสาทนั่นทำเอาแนทเม้มริมฝีปากแน่นขึ้น หายใจลึกๆ เพื่อควบคุมอารมณ์
“ผมจะชดใช้ให้”
“ไม่ต้องหรอก” บอสกลับว่าเสียอย่างนั้น ทำเอาคนที่ตั้งใจควักเงินมาจ่ายอ้าปากค้าง แล้วพอเห็นร่างสูงจะเดินจากไปทั้งๆ อย่างนี้จริงๆ แนทก็เริ่มพูดอย่างงุนงง
“เดี๋ยว พี่”
“อะไร”
“ไม่เป็นไรแน่เหรอ ไม่ให้ผมชดใช้อะไรเลยแบบนี้”
“แล้วนายจะชดใช้ยังไง? ” นี่ถามจริงๆ นะ ไม่ได้ตั้งใจกวน แต่น้ำเสียงอาจจะยียวนไปหน่อย “ถอดเอาไปซักให้ตอนนี้หรือไง? ไม่เป็นไรดีกว่า อาจารย์คงไม่ให้เข้าห้องแน่ถ้าเปลือยท่อนบนไปเรียน”
“แล้ว เอ่อ… ผมออกค่าซักให้ดีไหม” พยายามหาทางออก บอสส่ายหน้ารัวๆ
“แค่เสื้อเปียกแค่นี้ เดี๋ยวเดินๆ ก็แห้งแล้ว”
“เอ่อ” แนทยังไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะโอเค ก็ครั้งที่เจอกันตอนแรกดูรุ่นพี่คนนี้งี่เง่าเอาเรื่องนี่นา… “ก็… ถ้าพี่โอเค ผมก็โอเค”
“อืม” พูดพร้อมกับสะบัดเสื้อเล็กน้อย ให้ตาย เปียกเยอะเหมือนกันนะเนี่ย “ไปละ มีเรียน”
“ขอโทษอีกครั้งนะพี่”
ไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะเขามีอิมเมจของแนทแย่พอๆ กับที่แนทมีอิมเมจของเขา ประมาณว่าปากหมาด้วยกันทั้งคู่ แต่พอได้ยินอีกฝ่ายขอโทษรัวๆ แบบนี้ บอสก็อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้
“ขอรับคำขอโทษไว้แล้วกัน”
แล้วเจ้าตัวก็เดินไปเรียนทั้งสภาพเปียกปอนแบบนั้น
---------------------------------------
Talk: สุขสันต์วันเด็กค่ะทุกคน <3 แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตามนอกจากขดตัวอยู่ในผ้าห่ม//ซุกเตียง