“ เฮ้ยยยยย!! ”
เสียงร้องระดับฟ้าจะถล่มดินจะทลายโลกจะพังเขื่อนจะแตกโคตรจะดังแทงแก้วหูตายนี่มันเสียงใครวะ ไม่รู้จักมีความเกรงอกเกรงใจ พ่อแม่มันเคยสอนมารยาทมามั้ย หนังสือผู้ดีเคยอ่านมั้ย ยังสินะ ยัง ยัง...
ยังไม่หยุดด่าตัวเองอีก!
ไอ้เสียงร้องดังสุดติ่งงูกระดิ่งฟรุ้งฟริ้งเมื่อครู่เป็นของกระผมนายชลธีคนเดิมเพิ่มเติมคืออาบน้ำแล้ว แฮ่!
เบรกอารมณ์พูดคนเดียวแปบ... และก้มมองดูสถานการณ์ประหลาดตรงหน้า...
คุณจะคิดยังไง... เมื่อคุณกำลังเดินเอื่อยๆจะเข้าตึกคณะเรียนแล้วมีบางอย่างร่วงลงมาตรงหน้า ไม่ดิ แบบปรากฏตรงหน้าเลย โผล่มาแบบผีในหนังไม่มีผิด! แต่ที่โผล่มาเสือกไม่ใช่ผีไง เป็นเด็กสามตัว เอ๊ย สามคนยืนทำหน้ายิ้มแป้นมาให้
“ ยูจินนนนน ”
“ ครับ ”
“ ยูนิคคคคคค ”
“ อ่า...ครับ ”
“ พนาาาาา ”
“ คร้าบบบบบบบ ^O^ ”
ร้องซาวด์สโลโมชั่นเพื่อ? จะลากยาวทำแป๊ะซะปลาช่อนรึไง เปลืองแรงเขียนมั้ย เปลือง!
หันซ้ายหันขวามองหน้ามองหลังกระโดดตบมองวิดพื้นมองด้วยความเงียบเพราะเกรงว่าจะมีคนสนใจ... แต่ถ้าเขาสนใจ เขาสนใจตั้งแต่มึงกระโดดตบแล้วชล...
“ มากันได้ไงเนี่ย มานี่เลยๆๆ ” จัดการหนีบหิ้วคว้าคอเด็กให้เดินตามมายังลานกว้างสวนของตึกคณะเลือกหามุมมืดสักมุมเพื่อคุยกัน
ผมมองรอบตัวที่ดูจะสนใจไม่เลิกแล้วต้องแยกเขี้ยวใส่ให้หยุดมอง เออ รู้ว่าหน้าตาดีครับ ไม่ต้องมอง
หมายถึง ไอ้เด็กทั้งสามนะครับที่หน้าตาดี ส่วนผมน่ะเหรอ... เศษเล็บขี้เล็บของไอ้เด็กพวกนี้น่ะสิ
คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ ฮึก!
“ ชล คิดถึงพนาเปล่า ” เด็กมีหางเพิ่มเติมคือชุดนอนแฟนตาซีเป็นชุดหมาสีน้ำตาล เหลือบๆมองดูเหมือนจะไม่มีหางแล้วแต่เสือกมีปีกแทน โอ๊ยยย หาความปกติให้ไอ้เด็กนี่ไม่ได้สักที
ผมทำหน้าบึ้ง “ ไม่ ”
หันหน้าลูกมันแล้วพาลจะนึกถึงพ่อมังกรมัน มันทำอะไรกับกูไว้รู้มั้ยยยยยยย
มันไม่ปล้ำกูเว้ย! กูเคือง!
เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ๆ ผิดประเด็นไปไกลล่ะ กูเคืองเพราะพี่มันจะปล้ำกูเว้ย และกูดีใจสุดๆที่รอดเงื้อมือมันมาได้โดยที่ตัวเองยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใยอยู่
ทุกคนควรเข้าใจให้ตรงกัน นายชลธีนั่นไม่เกินก็ขาด บ้าๆบอๆ พูดไม่รู้เรื่อง
“ ฮึก! ฮือออออออ ” สองวิต่อมาเสียงระเบิดร้องไห้ดังสะท้านปฐพีตึกแทบถล่ม... เพื่อนพี่น้องนักศึกษาหันขวับมาจ้องเขม็งที่ผมเป็นเชิงต่อว่าทันที กรี๊ดดดด กูทำอารายยยย
ผมวางของลงบนโต๊ะแล้วจัดการอุ้มไอ้เด็กเจ้าปัญหาขึ้นมาปลอบทันที “ โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ พี่แค่ล้อเล่นเองงงง ”
“ แง!!! ”
ร้องหนักกว่าเดิมอีก ไอ้เด็กเวร....
ผมทำหน้าเอ๋อไม่รู้จะทำยังไงพอหันไปขอความช่วยเหลือจากเด็กแฝดก็นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มองนกมองไม้กินขนม(มาจากไหนวะ)
เบะปากจะร้องไห้ตาม “ ยูนิค มาช่วยพี่ปลอบหน่อยสิครับ ”
เจ้าของชื่อยิ้มหวานให้ และ... “ พี่ชลทำน้องร้องไห้ก็ปลอบเองสิครับ ”
ไอ้เด็กปีศาจนี่ครายยยยยยย
เอาน้องยูนิคแสนดีเชื่อฟังคนเดิมกลับมาด่วนนนน
“ ฮึอ ฮึกกก ” ไอ้นี่ก็ยังไม่หยุดร้องอีก ผมล่ะจนปัญญาจะปลอบแล้วจริง ร้องไห้ร้องไป กูมีปัญญาทนฟัง อีกสามสิบนาทีกูจะชิ่งไปเรียนล่ะ
“ ทำอะไรอยู่วะชล ” อุ๊ย เสียงหล่อที่ไหนเรียกเค้า...
หันขวับคอแทบเคล็ด...ผมหันไปมองตามเสียงนั้นก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเลิกสนใจไอ้เด็กขี้แยแทบจะทันที ก็เจอหน้าหล่อๆขาวผ่องลอยกระแทกเบ้าตาทันที มันสูงเปรตพอๆกับไอ้พี่นาท ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองมัน ทำมายทำไมคนที่ผมรู้จักแม่งหน้าตาดีระดับชนิดถวายข้าวสารวัดสิบตันบริจาคเงินสามล้านก็ยังไม่ได้เบ้าหน้าแบบนี้เลย
“ เคลียร์ มาไงวะมึง ” ผมถามกลับมองหน้าโคตรจะหล่อโคตรอปป้าของเพื่อนต่างคณะที่เผลอไปสนิทตอนไหนก็ไม่รู้ นานๆจะได้เห็นหน้ามันสักที มั่วแต่ไปคลุกอยู่กับสาว
มันยักไหล่ “ ขับรถมา ”
“ กวนตีน ” หล่อแล้วกวนตีนนับว่าผิดนะครับ “ มาส่งสาวอ่ะดิ๊ ”
“ รู้ใจจริง ” มันหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะให้ความสนใจกับเด็กในอ้อมกอดผมที่แม่งหยุดร้องไห้แล้วแถมยังจ้องหน้าเคลียร์นิ่งไม่วางตาอีก “ นี่ลูกนายเหรอ ”
“ บ้า! / ใช่! ”
“ หา? ”
“ เฮ้ย! / เฮ้ย! ”
“ ไอ้ชลมีลูกเว้ย!!! ”
“ จริงดิ ไอ้ชลธีอ่ะนะ! ”
“ มีผู้หญิงเอามันด้วยเหรอ หน้าแม่งหวานกว่าผู้หญิงอีก ”
เสียงแรกคือ ผม เสียงที่สอง คือ ไอ้เด็กเวรพนา เสียงที่สามคือ เคลียร์ที่เอ๋อไปแล้ว เสียงที่สี่ห้า คือ เด็กแฝด และไอ้สามเสียงสุดท้าย มึงมายังไงห่ะ ไอ้โต๊ะข้างๆ! สาระแน! หน้าใครหวาน เขาเรียกหวานสไตล์ผู้ชายอ่อนโยนเฟ้ย! เห็นหงิมๆนี่ หญิงเยอะนะมึงงงงงง
“ น้องชายข้างบ้านน่ะ ” ผมยิ้มร่ากัดฟันกรอดพยายามพูดไหลลื่นเป็นปลานิล(คืออยากกิน ไม่มีไรมาก) มือจับผมเด็กลูบๆอย่างเอ็นดู แม้ในใจนั้นกูอยากจะกระชากหัวมันก็ตาม...
“ เหรอ ” เคลียร์มันหรี่ตามองพิจารณาแล้วโน้มหน้ามาจนแทบจะชิดกับเด็กในอ้อมกอดผม พนาน้อยมองนิ่งๆไม่ได้ขยับหนี ดูแววตาแล้วแทบจะลุกไหม้แปลกๆ... “ เด็กน่ารักดีนะ”
เคลียร์มันยิ้มหวานให้ก่อนจะทำเรื่องไม่คาดฝัน
ฟอด... ปลายจมูกโด่งๆหอมลงบนแก้มอวบๆของพนาหนักๆก่อนจะผละออกโดยที่ไอ้เด็กพนาตาค้างเติ้งไปแล้ว พอได้สติก็เบะปากร้องไห้จ้าอีกรอบ จนผมต้องรีบปลอบ ไอ้เด็กนี่ โดนคนหล่อหอมแก้มแล้วยังร้องไห้อีก ถ้าเป็นผมนี่คงดีใจเนื้อเต้นริกๆเป็นจังหวะสามช่าไปแล้ว
อะไรเอ่ย... ใจง่าย
“ มึงแกล้งเด็กทำไม ” ผมทำเสียงดุใส่ไอ้เพื่อนตัวดีที่ยังคงไม่สนโลก นั่งลงที่นั่งโต๊ะหินอ่อนก่อนจะฉกตัวเด็กจากอ้อมกอดของผมไปนั่งแหมะบนตักมันแล้วดึงแก้มอวบทั้งสองข้างอย่างเมามันส์ให้เด็กแหกปากร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ ปล่อย ปล่อย ไอ้บ้า ปล่อยพนานะ ”
เด็กน้อยหยุดร้องไห้แล้วก็อาละวาดตีมือเคลียร์ไม่หยุด ไอ้คนรักเด็กก็หัวเราะร่าอุ้มตัวเด็กมังกรขึ้นลงแกล้งจะโยนขึ้นฟ้าหลายรอบล่ะ แต่มึงอย่านะเว้ย นี่ลูกมังกรเว้ย ขืนโยนขึ้นฟ้าเดี๋ยวมันกางปีกบินขึ้นมา ชิบหายเลยนะ
“ โอ๋ๆ เด็กน่ารัก ไม่ร้องสิครับ พี่แค่หยอกเล่นเอง ” เคลียร์มันรักเด็กนะ จากที่เพื่อนต่างคณะมันเล่ากันมา เห็นมีค่ายอาสาที่ไหน มีมันที่นั่น หล่อไม่พอยังเสือกใจบุญรักเด็กแข่งกับนางงามอีก
ยูจินนั่งมองเงียบไม่ได้คิดจะช่วยพนาเลย “ พี่ชล เลิกเรียนกี่โมงอ่ะครับ ”
“ ยูจินนนน ช่วย อุ๊บ ” พนาน้อยหันจะไปร้องขอความช่วยเหลือแต่โดนขนมปังยัดปากเล็กไปด้วยฝีมือเคลียร์ “ แอ่ก แอ่ก ”
“ โทษที พี่ไม่น่ายัดไปแบบนั้นเลย ” คนหล่อทำหน้ารู้สึกผิดพลางลูบหลังเด็กไปด้วย พนาแหน้าดำหน้าแดงคายขนมปังใส่ฝ่ามือใหญ่ที่รองรับอยู่ น้ำลายและก้อนขนมปังชิ้นใหญ่เปื้อนเปรอะมือใหญ่แต่เคลียร์ไม่ได้รังเกียจอะไร ออกจะเอ็นดูเด็กมีหางที่ตอนนี้มีปีกอยู่มากกว่าเดิมอีก
“ แค่กๆ แค่กๆ ” เด็กตัวน้อยยังไอไม่หยุดจนเคลียร์ต้องอุ้มให้ซบกับไหล่กว้างมันและลุกขึ้น
“ เดี๋ยวกูเอามาคืน พาไปหาน้ำกินก่อน ”
ว่าเสร็จก็ฉกตัวเด็กไปเลย ทำเอางงแดกทั้งโต๊ะ... เออ เอาไปเถอะ แค่ไม่เอาไปขายก็พอ ผมพยักหน้าหงึกๆไป ถ้าพนามันโตกว่านี้ไม่เด็กทารกนะ กูคงคิดว่าไอ้เคลียร์มันจีบมันเต๊าะแล้ว แต่ถ้ามันชอบจริงนี่เสี่ยงคุกไปเปล่า เด็กแม่งยังไม่ถึงห้าขวบเลยมั้ง แล้วนี่กูคิดอกุศลไรเนี่ย
“ พี่ชล ปล่อยพนาไปกับผู้ชายไม่น่าไว้ใจแบบนั้นได้ไง ” ยูจินดุผมพลางยัดขนมเข้าปากแล้ววิ่งตามไป “ พี่มันแย่ ”
ว๊ายยย โดนเด็กด่า
เจ็บเหมือนโดนส้นตีนอัดหน้ากลางมหาสมุทรเลยครับ....
ผมพ่นลมหายใจทิ้งอย่างไม่ได้คิดมาก โธ่ ผมรู้จักไอ้เคลียร์มาตั้งนาน ดีกรีสิบผู้ชายในฝันที่สาวๆชะนีเก้งกวางสมันเลียงผาทั้งหลายต้องการ มันคงไม่สิ้นคิดขโมยเด็กน่ารำคาญไปหรอก
จริงสิ... เหมือนผมลืมอะไรไป
“ ยูนิค แล้ว...พี่นาทอ่ะ ” อ้อมแอ้มก้มหน้างุดราวเด็กสิบห้าหัดมีความรัก ความรักพ่องสิ กูอายเรื่องเทื่อคืน ตอนนี้คิออยากกระทืบมัน
ยูนิคทำหน้างงนิดๆก่อนจะตอบ “ ท่านท้าวรักษาตัวอยู่ครับ น่าจะมาไม่ได้สักสามวัน ”
“ เป็นอะไรมากมั้ย ”
“ เจ็บหนักเลยครับ คงออกมาไม่ได้หลายวัน กระดิกตัวคงยาก แผลเต็มตัวมากครับ ” คงหมายถึงแผลจากวันนั้นที่เกิดการปะทะที่ห้างแล้วก็ที่ไอ้พี่มันไปป่าแล้วก็...
“ เรารู้ใช่มั้ยว่า...เอ่อ ไอ้พี่นาทอ่ะมันโดนแบบ แบบ ” ติดอ่างเลยครับ มันน่าอายนี่หว่า
ยูนิคพยักหน้า “ ครับ โดนเวทย์กระตุ้นปลุกกำหนัดครับ ” ยิ้มนิดๆ “ แต่พี่ชลก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ ยังไม่โดนไม่ใช่เหรอ ”
“ ก็...ใช่ ” แล้วทำไมผมต้องมานั่งคุยเรื่องปั่มๆปั๊มๆๆกับเด็กที่อายุหน้าตารูปร่างรวมกันจะถึงสิบห้าด้วยเนี่ย “ พี่...รอดมาได้ไงยังงงอยู่เลย ”
“ อ้อ ” เด็กหนุ่มหน้าหวานพยักหน้ารับฟังมีแวบหนึ่งที่ผมเห็นว่าไอ้เด็กนี้มันจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ยั้งไว้ “ เรื่องนี้ผมขอไม่ยุ่งแล้วกัน ไปถามท่านท้าวเองนะครับ ”
“ อีกตั้งนานกว่าจะเจอ... ” ผมหลุดพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เสียงสงสัยของยูนิคจะดังขึ้นเรียกสติผม
“ เอ๋... พี่ชลคิดถึงท่านท้าวขนาดนั้นเลยเหรอครับ ”!!
“ ปะ เปล่าสักหน่อย ” เอ่ยตะกุกตะกักก่อนจะเบือนหน้าร้อนๆของตัวเองไปอีกทาง” ดี ไม่ต้องมมาเลย ตายไปเลย ถ้ามาให้เห็นหน้าจะกระทืบให้เละเลย ”
คนฟังหัวเราะเบาๆ “ ครับ ผมจะพยายามเชื่อแล้วกัน ” รอยยิ้มสวยยกขึ้นแล้วเหม่อมองไปบนท้องฟ้า “ เหมือนเมื่อก่อนเลย... เขาก็ปากแข็งปากหนักแบบนี้ตลอด ”
หูหางตั้งทันที “ เขาไหน ชลธารเหรอ ”
“ ...อ่า ครับ ” ยูนิคครางรับเบาๆ “ แต่ไม่ต้องถามเรื่องราวของเขาเลยนะครับ เดี๋ยวพอพี่อายุครบก็รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ”
“ ก็มันอยากรู้เร็วๆนี่หว่า ” นายชลธีไม่ค่อยจะขี้เสือกเลยครับ... “ เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นเรียนแล้ว เราก็กลับกันได้แล้วนะ”
“ ที่มาก็เพราะพนาบังคับล่ะครับ เดี๋ยวถ้าท่านท้าวรู้ว่าหนีออกมาคงแย่กันหมดแน่ ”
เด็กยูนิคอร์นว่าหน้าแหยจะเปิดปากพูดอีกครั้งไอ้ตัวกลมๆเป็นก้อนๆก็กระโดใส่หน้ายูนิคแล้วร้องไห้โยเยเป็นรอบที่สามล้านของวันตั้งแต่ผมเจอมัน
“ ฮือออ ยูนิค กลับบ้านๆๆๆ ”
พยายามยามแกะมือกาวออก “ ปะ เป็นอะไรครับ เดี๋ยว พี่หายใจไม่อก ”
“ ไอ้บ้าเคลียร์ มันแกล้งเค้า มันแกล้ง แง! ” ฟ้องใหญ่เลย ผมเบือนสายตาไปทางเพื่อนตัวดีที่ยิ้มร่าไม่ได้รู้สึกผิดแล้วเกิดอาการหมั่นไส้เอื้อมมือไปหยิกพุงมันแรงๆทีนึง
“ แกล้งเด็กทำห่าไร ดูมันดิ๊ ร้องไห้จนหน้ามันแดงหมดแล้ว ” ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วลุกขึ้นเท้าแขนกับโต๊ะข้างหน้า อีกข้างเอื้อมไปเช็ดหน้าเช็ดตาให้เด็กขี้แย
“ เหรอ... ร้องไห้เพราะหน้าแดงเหรอ ” น้ำเสียงดูเจ้าเล่ห์ซะจนผมแปลกใจ หันกลับไปหามัน...
“ มึงทำอะไรน้องห่ะ ”
“ ก็เปล่า แกล้งเล่นเฉยๆ ” มันกดยิ้มมุมปากก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด “ มึงก็ไปเรียนได้แล้วชล ไป เดี๋ยวกูไปส่งหน้าห้อง ”
มันกระตุกแขนเสื้อผมพลางหันไปยักคิ้วให้พนาที่มองจ้องไม่หยุด พอสบตาเข้า ไอ้เด็กพนาก็เบือนหน้าหนี.... เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย
“ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ ” ยูนิคที่มีสภาพงงไม่ต่างจากผมว่าก่อนจะพยักหน้าให้ยูจินที่ยืนมองสำรวจไอ้เคลียร์แปลกๆเงียบๆ “ ไปเถอะจิน ”
มาสร้างความอยากรู้ให้กูและก็จากไป...ขอบคุณ
ผมมองตามเด็กสามคนนั้นไปอย่างห่วงๆ จะกลับกันได้มั้ยนะ แต่ช่างเถอะ ขนาดมายังมาได้ กลับก็ต้องกลับได้สิ สองมือเก็บกวาดหนังสือชีทขึ้นมาถือแต่โดนใครอีกคนที่ยังไม่ไปไหนสักทีเหมือนมันไม่มีเรียนแย่งไปถือ
“ เร็ว เดี๋ยวกูไปส่ง ”
ผมเบ้ปากนิดๆ “ กูไม่ใช่พวกผู้หญิงของมึงไม่ต้องมาเอาใจ ”
“ หน้าอย่างมึง กูไม่แลเหมือนกันครับ ” คนหล่อปากหมา ชลรับไม่ได้จริงๆ ขี้เกียจต่อปากต่อคำเลยเดินนำขึ้นตึก มันก้เดินตามมาไม่พูดอะไร
เดินไวเหมือนควายหายแต่ก็เบรกเท้าแทบไม่ทันหน้าเกือบทิ่มไปนอนวัดกับพื้นขัดมันของคณะ... นัยน์ตาเบิกโตมองไปข้างหน้า... ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนคนตามหลังมาถึงกับร้องทัก
“ หยุดทำไม ” เคลียร์โน้มมาถามเพราะผมเตี้ยไง “ มองอะไรวะ ”
มองอะไร... นั่นสิ...
ตรงหน้าผมในระยะร้อยเมตร(สายตากูช่างไกลจริงๆ) เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาโคตะระคุ้นๆเดินมากับผู้หญิงฝูงหนึ่ง... หน้าตาก็โคตรจะสวย มีคนหนึ่งควงแขนมาด้วย ใบหน้าของคนที่อยู่ศูนย์กลางนั้นตอบรับยิ้มแย้มพูดคุยสนุก...
ยูนิคอร์นตัวไหนมันบอกวะ... ไอ้พี่นาทจะไม่มา...
แล้วไอ้ที่เดินหน้ายิ้มหัวเราะหยอกล้อกับผู้หญิงนั่นมันอะไร...
วูบหนึ่งรู้สึกเหมือนอะไรมาผลักตกเหวไม่มีผิดและรู้สึกถึงความร้อนในอก แต่มีเพียงครู่เดียวก็เรียบเฉย... มันแค่วูบเดียวจริงๆ
“ หือ... มองพี่กัมปนาทเหรอ ” เคลียร์มองตามแล้วหันมาพูดกับผม “ เขาเรียนคณะนี้นี่เนอะ ไม่ได้เป็นเดือนคณะแต่ดังมากเลยว่ะ ”
“ เหรอ ” ผมพยายามจะไม่ใส่ใจอะไร แต่ตานี่ยังจ้องมันไม่เลิก
“ ไม่เคยเห็นคบใครเลยนะ แต่รู้กันทั้งมหาลัยว่ามันคุยเล่นไปทั่ว ใครเข้าหามันก็คุย ” ทำไมกูไม่รู้วะ ปกติกูนี่รู้หมด ใครชอบใคร ใครเกลียดใคร บ้านใครปลาทองตาย บ้านไหนหมาคลอดลูกกี่ตัวกูรู้หมด “ ไม่ใช่มันเจ้าชู้นะ แต่แบบใครเข้ามาคุย มันก็คุยเหมือนๆกันทุกคน แล้วผู้หญิงมักคิดเองเออเองแหละว่ามันชอบ ”
ผมรู้จักมันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง... ทำไมผมไม่รู้อะไรเลย
แล้วไอ้เกือบๆเดือนที่ผ่านมา พาผมเจอแต่อะไรก็ไม่รู้นี่...คือห่าไรวะ
ทำไมกูรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกแบบนี้วะ...
คิดว่ารู้จักมันดี คิดว่าสำคัญ... แต่แม่งไม่ใช่ว่ะ
แต่...ไม่เคยจะเห็นเลยว่ามันควงหญิง... ไม่เคยเห็นจริงๆนะตั้งแต่รู้จักพี่มันมา
“ มึงได้ดูในเฟสปะ คนติดตามเยอะชิบหาย กูเห็นแล้วโคตรอิจฉาเลยว่ะ ” มันเล่นเฟสด้วย โห...ไอ้มังกรไฮเทคยุคโซเซี่ยลดิจิตอล แต่มึงไม่รู้จักแฮร์รี่ พอตเตอร์... ทำดี
รู้สึกเหมือนคนโง่ก็คราวนี้แหละ...
ผมยืนนิ่งกับสภาพจิตใจที่ติดลบคำพูดไอ้เหี้ยเคลียร์แม่งก็เข้าหูทุกอย่าง จนสุดท้ายก็หันไปถามมันด้วยความสงสัย
เรื่องราวของมันในอีกโลกผมก็ไม่รู้
เรื่องราวของมันในโลกมนุษย์ที่มันสร้างขึ้นมาลวงตาคน...ผมก็ไม่รู้
สรุป ผมรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้างวะ “ มึงชอบพี่เขารึไงวะ ดูจะรู้ทุกอย่างเลยจริงๆ ” ผมถาม
“ อ้าว ชอบน้องสาวเขาก็ต้องรู้นิสัยพี่ชายเขาไว้บ้างดิว่ะ ” น้องสาว...อ้อ น้ำฟ้าน่ะเหรอ....
ผมหัวเราะนิดๆ “ โชคร้ายหน่อยนะ ไอ้นนท์เพื่อนกูใกล้จะคบกับน้ำฟ้าล่ะ ” ตอแหลครับ
“ จริงดิเฮ้ย! ” มันคว้าตัวผมหมับแล้วเขย่าๆๆๆ กูคนนะ ไม่ใช่ขนมโลตัส ยิ่งเขย่ายิ่งอร่อย “ ไม่ได้ล่ะ กูต้องไปทำคะแนน มาเลยมึง พากูไปหานางฟ้าคนสวยซะดีๆ ห้องไหน บอกกูมาเลย ”
จับข้อมือผมหมับแล้วลากขึ้นบันไดตรงไปห้องเลยไอ้ผมก็ขี้เกียจจะขืนแรงมันก็ปล่อยๆให้มันลากไป แล้วเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้พี่นาทมันเงยหน้าขึ้นมาพอดี มันดูตกใจอ้าปากจะเรียกผมแต่จู่ๆแววตามันก็เปลี่ยนพลันเจือความขุ่นเคืองไว้มากมายจนผมไม่เข้าใจ...
ใครสมควรจะเป็นคนโกรธวะ!!
ผมตีหน้าบึ้งกลับไปแล้วหันกลับไปเดินเร่งนำไอ้เคลียร์ไปห้องเรียนเอง ไอ้เคลียร์มันก็คงงงมั้งว่าผมจะรีบไปตามควายที่ไหน พอมาถึงห้องก็ตรงรี่ไปหาน้ำฟ้าที่นั่งรอเรียนอยู่โดยมีสายตาไอ้นนท์ทิ่มแทงเป็นหมาวัดหวงนางฟ้าอยู่แล้วขำ เพราะอาจารย์ยังไม่มามันก็เลยต้องรีบใช้โอกาสน้อยนิดในก่อนจีบ
ผมยิ้มขำเดินเข้ามาเตรียมนั่งข้างๆไอ้นนท์...
หมับ!!
แรงจับที่ต้นแขนดึงรั้งไม่ให้ผมนั่ง... ในห้องที่กำลังเสียงดังสุดก็เริ่มเงียบ... และซุบซิบ...
“ แก นั่นพี่กัมปนาทรองเดือนปะ ”
“ เข้ามาหาฟ้ามั้ง ”
“ ตาบอดไปมั้ยมึง เขาจับแขนไอ้ชลอยู่ แหกตาดู ”
ไม่ต้องตกใจแบบนิยายครับที่หันไปแล้ว เฮ้ยยย นาย มาได้ไงวะ! ฟังจากคนรอบข้างขี้เสือกก็รู้หมดแหละว่าใคร ไม่มีอารมณ์มาตกใจแหละ ผมวางของในมือลงก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับมัน...
“ มีอะไร ”
มันทำหน้าขรึม “ ไปคุยกันข้างนอก ” เหลือบมองไปทั่วห้องที่มองมาอย่างสนใจ...
“ ผมต้องเรียน ” ว่าแล้วก็สะบัดแขนออก แล้วมันก็จับใหม่ “ ปล่อยดิ! ”
“ ไปคุยกัน ” มันว่าอย่างเอาแต่ใจ “ แปบเดียว ”
เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ “ จะเรียน ” เอาดิ เอาแต่ใจเป็นเหมือนกัน
“ งั้นเลิกเรียนคุยกัน ” มันถอนหายใจระบายอารมณ์โมโห คิดว่ามึงโมโหคนเดียวรึไงวะ “ เลิกกี่โมง ”
“ ... ”
ผมเงียบไม่ตอบสะบัดแขนออกแล้วนั่งลงปล่อยมันยืนค้างไว้แบบนั้นแหละ มันดูจะหงุดหงิดกว่าเดิมแล้วเดินไปหาฟ้าคุยกันนิดหน่อยแล้วพยักหน้าสองสามที หันไปทางไอ้เคลียร์อีกแปปจากนั้นก็เดินออกไป ผมถอนหายใจอย่างเซ็งแซ่เพราะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ากำลังเล่นบ้าอะไร
หลังจากไอ้พี่นาทไป ไอ้เคลียร์ก็ไป ไม่ถึงสิบวินาทีที่พวกมันไป อาจารย์ก็เดินเข้ามา และเริ่มสอนต่อจากบทที่แล้วที่ค้างไว้... ไอ้ผมที่ปกติไม่เคยคิดจะตั้งใจวิชาเจ๊แกก็จดโน้ตยิกเลยครับ ถามว่าเขาใจมั้ย ตอบเลย ไม่สักนิด แค่จดๆไปเท่านั้นจะได้ไม่ต้องเอาสมองไปคิดอะไร
ท่าทางผมคงประหลาดมากมั้งจนเพื่อนต้องสะกิดถาม “ มึง... เป็นไรวะ ”
“ เปล่า ” ผมตอบไปแต่ตายังคงจ้องที่โปรเจกเตอร์ “ มึงคิดว่ากูมีอะไร ”
“ เปล่า... ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ” มันทำหน้าลังเลก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ “ ถ้ามีอะไรก็เล่าให้กูฟังได้นะ ยังไงก็เพื่อนกัน ”
“ อืม ”
ผมพยักหน้าไปก่อนจะดำดิ่งต่อการจดทุกอย่างลงกระดาษ สามชั่วโมงเต็มๆที่ผมจดไม่หยุด เลิกจดก็ตอนหมดเวลา เจ๊แกดูหงุดหงิดพอสมควรที่สอนไม่จบบท เลยต้องสั่งงานเดี่ยวเพิ่ม การบ้านเพิ่มอีก โอ๊ย ส่งพรุ่งนี้! .ให้ตายเถอะ
“ ชล ”
“ หือ ”
ผมครางรับอย่างงงๆขณะที่กำลังเก็บของ เงยหน้ามองฟ้าเล็กน้อย ดูจากสีหน้าแล้วคงมีเรื่องจะถามผมแน่ๆ
“ มีอะไรรึเปล่า ”
เธอส่ายหน้า “ เปล่าๆ แค่แปลกใจนิดหน่อยนะ ตอนแรกพี่นาทบอกจะไม่มานะ แต่ไหงมาได้ก็ไม่รู้ แถมยังดูหงุดหงิดใส่ชลด้วย มีอะไรกันรึเปล่า ตอนอยู่บ้านพี่นาทก็ปกตินะ ”
ปกตินี่..คงเป็นภาพลวงตาที่มันใช้แทรกแซงความทรงจำเธอสิไม่ว่า...
“ ไม่มีอะไรกันหรอก อย่าสนใจเลยๆ ” ผมยิ้มให้เพื่อบอกว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วลุกขึ้น “ เรากลับก่อนนะฟ้า จริงสิ มีร้านไอติมเปิดใหม่หน้ามอ ลองชวนไอ้นนท์ไปกินดิ ”
“ อ้อ ” ฟ้าพยักหน้ารับแล้วหันไปทางเพื่อนผม “ เอ่อ...นนท์ว่างมั้ย ”
“ ว่าง!!! ”
สำหรับฟ้าแล้ว ต่อให้ไอ้นนท์ไม่ว่างมันก็ว่างให้ได้แหละ ผมยิ้มรับกับภาพน่ารักตรงหน้า คู่นี้เหมาะกันจะตาย ไอ้นนท์มันก็หล่อ ฟ้าก็สวยแถมนิสัยยังน่ารักอีก เป็นแฟนกันคงน่าอิจฉาดี
เดินพ้นขอบประตูห้องเรียนให้รองเท้าพ้นมาสามเซนก็โดนมือใหญ่คว้าหมับ วันนี้มันเป็นอะไรกันวะ มีแต่คนคว้าคนจับแล้วลาก ลาก นี่คนครับ ไม่ใช่ตุ๊กตาที่คิดว่าจะจับลากไปไหนก็ได้
ไม่ต้องมองก็รู้ว่าใคร ไม่ใช่ริว จิตสัมผัสก็เดาได้....
ไอ้พี่นาท...
“ พี่มีอะไรกับผม ” น้ำเสียงฟังดูห่างเหินจริ๊งจริง ปล่อยให้มันลากลาก และลาก มันไม่ตอบคำถามผมพาเดินออกจากตึกคณะมาหน้ามอ...คือมึง... คือร้อนมาก วันนี้กูไม่ได้ทาครีมกันแดดมาด้วย
“ เฮ้ยพี่ หยุด! ”
หมดความอดทนแหละ ปล่อยให้ตัวเองเป็นนางเอกผู้อ่อนแอมานานโดนฉุดกระชากลากถูกข่มขู่รังกลั่นแกล้งตบจูบล่ามโซ่ พอๆไม่ใช่ล่ะ ผมสะบัดมือออกจากมือตุ๊กแกมันแล้วจ้องหน้ามันตรงๆ
เสือกมาหยุดตรงหน้าป้ายรถเมล์อีกห่า... คนมองตรึม... ไม่เป็นไร กูหน้าหนาพอ
“ มีอะไรก็พูดมา จะกลับหอ ” พยายามคุมเสียงให้ปกติแต่หน้าผมนี่งิกงอไปแหละ
“ ไปคุยที่อื่น ”
ทำท่าจะจับตัวผมอีกรอบ แต่รอบนี้ไม่ง่ายครับ เพราะผมหลบไง
“ ตรงนี้ เดี๋ยวนี้ ” เอาดิ ไอ้ชลนอกจากมีดีที่ขี้เสือกก็ดื้อนี่แหละ
ไอ้พี่นาททำหน้าเคร่งเครียดพลางกัดปากตัวเองนิดๆ แววตามันแทบจะเผาร่างผมได้แล้ว ก็ดูมันดิ ทำท่าจะบีบคอซะขนาดนั้น เป็นบ้าอะไร
“ มันเป็นใคร ”
ห่ะ? คำถามอะไรวะ
“ ใครเป็นใคร ” ไม่ได้จะกวนครับ แต่ไม่รู้จริงๆ
มันถอนหายใจเล็กน้อย “ คนที่จับมือชลที่บันได ”
ร้องอ้อในใจกำลังจะตอบไปว่าเพื่อน แต่มาคิดอีกที... แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ ทำไมต้องบอกมันวะ ที่มันหงุดหงิดก็เรื่องนี้เหรอ
แต่คนที่ควรหงุดหงิดมันผมเปล่าวะ
“ ทำไมไม่ตอบ ” มันร้อนรนขึ้นมาดื้อๆ
“ แล้วทำไมผมต้องบอก ผมกับพี่ยังไม่ได้เคลียร์เรื่องเมื่อคืนนะ พี่ทำอะไรผมไว้ หา!! ” กระชากคอเสื้อนักศึกษามันแล้วเหวี่ยงไปกระแทกต้นไม้ที่มีอยู่ต้นเดียวท่ามกลางแดดร้อนๆทางเดินฟุตบาท
“ พี่ เอ่อ เรื่องนั้น ” มันอึกอัก “ พี่ไม่รู้ตัว คือพี่ขอโทษ แต่ แต่ชลก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ ”
“ ก็ใช่! ”
“ งั้นเราก็ตอบพี่มา ไอ้คนที่คุยเมื่อเช้ามันใคร ” แววตามันวาวโรจน์ขึ้นอีกครั้งเอาซะกูตามไม่ทัน เดี๋ยว คือมึงผิดแล้วมึงมาเปลี่ยนประเด็นใหม่เนี่ยนะ
ให้โอกาสกูได้โกรธบ้างเถิดดดมึงงงง
“ เพื่อน ทำไม มีปัญหาอะไร ” ผมเล่นหูเล่นตาใส่ ทีตัวเองยังรายล้อมด้วยผู้หญิง ยังไม่ได้ว่าสักคำ อ้าว...แล้วทำไมกูต้องว่ามันด้วยวะ
“ เพื่อนแล้วทำไมต้องจับมือ ”
“ นั้นมัน... ”
“ คิดว่าพี่ไม่เห็นรึไง ชลกับมัน... ”
ผมมองหน้ามันด้วยแววตาแบบไหนก็ไม่รู้แต่ก็ทำให้มันเงียบชะงักไปได้ “ พี่นาท ”
“ ... ”
“ พี่เป็นบ้าอะไรวะ ”
“ พี่... ”
“ ทำเหมือนหึงผม ”
“ ! ”
ผมถอนหายใจแล้วมองมันตรงๆ “ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่าลืม ”
“ ผมมันแค่รุ่นน้องคนหนึ่ง ไม่สิ คนสำคัญ สำคัญแค่พิธีกรรมบ้าๆนั้น รอวันรวมวิญญาณกับชลธารอะไรนั่น ผมก็สำคัญกับพี่แค่นั้นแหละมั้ง พี่จะอะไรนักหนาวะ ทีตัวเองแม่งอยู่กับหญิง กูยังไม่ว่าห่าอะไรสักคำ ”
ประชดลูกใหญ่เลยครับ น้อยใจ โกรธ หึง...
ไม่ใช่แล้ววววว อันสุดท้ายไม่ใช่แล้ววว
“ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ” ไอ้พี่นาทที่ตอนแรกแม่งเป็นมังกรบ้าเมากาวอยู่ก็สร่างเลยครับ หายหงุดหงิดผมไปในทันทีแทนที่ด้วยแววตาเศร้าแทน จับมือผมไว้ข้างหนึ่ง “ ผู้หญิงนั่นเพื่อในคลาสๆ มันไม่มีอะไร พี่ขอโทษ พี่แค่คิดมากไปเอง แล้วก็ พี่แค่ แค่ แค่ ”
“ มาบอกผมพรุ่งนี้แล้วกันนะ ” ถ้าจะติดอ่างขนาดนี้
“ เดี๋ยวสิ แค่ๆ โว้ย!! ” จู่ๆมันก็ตะโกนใส่หน้าผมอย่างหงุดหงิดแล้วหันไปอีกด้านแล้วบ่นกับตัวเอง “ เมียก็เมียข้า ทำไมข้าดูไม่มีสิทธิ์อะไรสักอย่างเลยวะ”
อะไร เอียๆ เมียๆวะ
ผมนิ่งเงียบไปเพราะโดนมันตะโกนใส่หน้า... พานน้ำตาจะไหล แม่งเป็นเหี้ยอะไรวะ มาตะคอกใส่
“ สงสัยต้องมาเริ่มกันใหม่ตามแบบวิธีมนุษย์ ”
มันหันกลับมาด้วยใบหน้าจริงจัง... เปลี่ยนอารมณ์ไวไปมั้ยพ่อมังกร เดี๋ยวโมโห เดี๋ยวเศร้าเดี๋ยวจริง ไปหาหมอมั้ย
“ เริ่มอะไร ” ถามอย่างระแวง และยิ่งเหงื่อตรงเมื่อมันขยับมาชิด...
“ มนุษย์เวลาเขาชอบใครสักคนนี่ เขาต้องจีบกันก่อนใช่มั้ย ”
“ ก็...ใช่ ”
ไม่จีบแล้วจะให้เดินไปฉุดกระชากลากคนที่ชอบมาปล้ำขืนใจรึไงวะ
ประสาทดิ
“ ถ้าพี่ชอบชล พี่ก็ต้องจีบก่อนใช่มั้ย ”
ผมพยักหน้าหงึกๆ “ ใช่ ”
“ งั้นถ้าพี่จีบเรา เราจะโอเคมั้ย ”
“ โอเค ”
ผมยักไหล่อย่างชิวๆ ตอบไปไม่ได้คิดหนัก ก่อนจะมาทบทวนใหม่ว่ามันพูดอะไร ค่อยเบิกตากว้างหันควับสบตายิ้มๆกับรอยยิ้มกว้างของมันแล้วรู้สึกตัวเองพลาดไปแล้ว...
“ ...เอ่อ... ขอเอาคำเมื่อกี้คืนได้มั้ย ”
“ ไม่ทันแล้วครับ ”
“ เริ่มจากอะไรดี ถ้าจีบกัน...” มันนิ่งคิดมืออบอุ่นเลื่อนมาจับข้อมือผมไว้ “...งั้นไปเดทกัน ”
“ !! ”
“ มนุษย์เขาเรียกแบบนี้ใช่มั้ย งั้นไปกันเถอะ ”
!!
อะไรเอ่ย... เนี๊ยนเนียน
มึงก็เนียนเกินนน เนียนซะจนกูลืมไปแล้วว่ากูยังโกรธมึงอยู่
ไอ้มังกรเจ้าเล่ห์!! ไอ้มังกรเผด็จการ!!
TBC.
มายาวๆ เผื่อจะหนีไปทำงานส่งก่อนสอบ ฮึบบบ
อะไรเอ่ย ดองนิยาย
ตอนนี้เรามีอะไร อะไร กุบกิบอยู่น่า มีใครเห็นบ้าง
ขอบคุณนะคะ ^^