DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
4
ตกอยู่ในสถานการณ์ผีอำอย่างสมบูรณ์แบบ...
ผมตาเหลือกมองค้างกับภาพตรงหน้าเมื่อเห็นร่างหนาของคนที่กำลังคร่อมร่างของผมอยู่ กำลังระบายยิ้มให้กับผม แน่นอนว่าภายในห้องถึงจะดับไฟหมดแล้วแต่แสงจากห้องน้ำก็สามารถทำให้ผมพอจะเห็นโครงหน้าของไอ้ผีตัวนี้ได้อย่างชัดเจน ความสงสัยที่ทำให้ผมเป็นกังวลมาทั้งวันบัดนี้มันกระจ่างแก่ใจแล้วว่า คริส คือตุ๊กตาผี!!!!!
"ฉันไม่ใช่ผี"
แถมมันยังสามารถอ่านใจผมได้ด้วยเถอะ! ย๊ากกกกกก!!! พ่อแก้วแม่แก้ว ไอ้ห่าไก่ช่วยกรูด้วยนี่ก็เอาแต่นอนจังเพื่อนมึงจะโดนผีหักคอตายห่าแล้วยังจะเสือกละเมอ
"น้องผึ้งจ๋า... งืมๆ"
ผึ้งบ้านมึงสิ! มาช่วยกูไล่ผีก่อนเถอะ!
ผมนอนเกร็งตัวค้างเหงื่อแตกซิกสบตาสีครามที่สะท้อนแสงจางๆในความมืด ร่างของเขาค่อนข้างที่จะหนามากกว่าผม ใบหน้าคมจัดได้ว่าหล่ออย่างกับเทพบุตร ดวงตาคมที่สามารถมองทะลุได้ถึงหัวใจ แต่ถ้าเป็นสาวๆที่ถูกมองนาทีนั้นอาจจะได้ละลายอ่อนละทวยกันไปข้าง คิ้วหนาซึ่งถูกบดบังด้วยเรือนผมสีบรอนเลิกขึ้นเล็กน้อยเหมือนมันกำลังประหลาดใจในอาการที่หวาดกลัวของผม
จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังแสยะยิ้มนี่มันคิดจะหักคอผมป่าววะ แต่ยอมรับว่าแม่งหล่อมากเหอะ หล่อกว่าผมหลายเท่าเลยก็ว่าได้ ไอ้บ้าเอ๊ยก่อนตายมึงใช้โฟมล้างหน้ายี่ห้ออะไรวะทำไมถึงหล่อเป๊ะ! ไร้สิวแบบนี้ แต่มันใช่เวลามาชื่นชมความหล่อของมันปะวะ?
"นะ นะ..โม... อะระ..." อาการลิ้นชาที่หลับตาปี๋พยายามจะสวดมนต์ทำให้ผมกลายเป็นคนโง่ และโรคอัลไซเมอร์ในนาทีนั้น ไม่ต้องบอกว่าผมกลัวขนาดไหนขนาดร่างเจ้าตามวัดที่โดนองค์ทรงยังต้องอาย แล้วผมต้องอธิบายไหม! ว่าผมกลัวไอ้ห่านี่แค่ไหน!
"หึหึ"
ฮือออออ.... แม่จ๋าเขาจะทำร้ายเต๋า มันหัวเราะแบบสยิวกิ้วฟังแล้วขนลุก แถมมันก็ยังนั่งทับเต๋าด้วยตัวมันเบาๆซะเมื่อไหร่ มึงเปลี่ยนตำแหน่งให้กูอยู่บนจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง แต่มันใช่เรื่องเรอะ?
"อย่ากลัวสิ รักคริสมากไม่ใช่หรอ?"
ไม่ลงไม่รักมันแล้วเฟร้ย!
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองอย่างช้าๆแม้ว่าจะกลัวอยู่ก็ตาม หัวใจผมนี่เต้นเป็นระบำจ้ำบ๊ะแทบจะกระเด็นออกมาอยู่แล้ว สบนัยน์ตาสีครามที่กำลังระบายยิ้มให้กับผม ถามว่ามันน่ากลัวไหม หึ ผมสายหัวรัวๆให้กับคำตอบว่าไอ้ผีตัวนี้ไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่ผมชอบมโนเอาเอง แต่พึงระลึกว่าผี... ผีแม่งน่ากลัวทั้งโลกนั่นล่ะวะ! จะผีไทย ผีเทศ ผีฝรั่ง คือผมกลัวผีเข้าใจม้ายยยยยยยยย!!!!!
"อยะ... อย่าทำอะไรผมเลยผมกลัวแล้ว..." แทบจะยกมือไหว้กราบอ้อนวอน แต่บังเอิ๊ญ! ข้อมือผมเสือกโดนเขาจับล็อกไว้ไม่ให้ผมขยับไปไหน ถามจริงเหอะกูโดนผีหลอกแบบนี้แล้วจะมีแรงดิ้นปะ? แล้วตัวใหญ่อย่างกับหมีแบบนี้ ผมนึกสภาพตอนที่ไอ้หมอนี่เป็นดอลฟี่กับเป็นผีนี่ต่างกับลิบลิ่ว คุณหลอกดาวชัดๆ!
"รักคริสทำไมต้องกลัวล่ะ ไม่ได้จะทำร้าย" แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่มึงจะเล่นกับกูว่างั้น!?
เอ่อออออ.... เพิ่งจะรำลึกว่าไอ้นี่มันเป็นตุ๊กตาผี เป็นคริสแน่แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเสื้อผ้าหน้าผมอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมเชื่อว่าคริสเป็นตุ๊กตาที่แสนจะโมเอะ คาวาอี้ น่าร๊ะ มุ้งมิ้ง กุ้งกริ้ง ความน่ารักชนิดที่ว่าสาวไทยนี่ชิดซ้าย ความหล่อน่ารักที่ทำให้หนุ่มไทยนี่ชิดขวา แต่ผมชอบคริสแบบน่ารักมากกว่าร่างหมีที่คิดพยายามจะทำอะไรผมก็ไม่รู้นี่มากกว่า...
ฮึก... กูกลัวแล้วนะเนี่ยไอ้บ้าเอ๊ย!
"อย่าร้องไห้สิ ทำไมต้องร้อง?"
ถามจริง? ไอ้ตุ๊กตาผีนี่มันซื่อหรือมันคิดจะกวนตีนผมกันแน่วะ?
"อย่าหลอกกูเลย.... ฮือ.... เดี๋ยวเช้าเมื่อไรจะกรวดน้ำทำบุญไปให้..." พยายามหลอกล่อด้วยคำพูดเพราะๆที่ดูสั่นๆเพราะผมกลัวมาก อยากกินไรบอกมาเลยเดี๋ยวป๋าจะไปซื้อ และใส่บาตรให้ แต่ขออย่างเดียวอย่างเสือกทำให้กลัวแบบนี้ เดี๋ยวจัดหมูกระทะชุดใหญ่ให้ก็ได้นะถ้ากลัวไม่อิ่ม อ้อ! ไอ้ตุ๊กตาผีนี่มันมาจากเมืองนอกเดี๋ยวทำบุญด้วยสเต็กจากซานตาเฟ่ให้ด้วยเอ้า! นี่กูโฆษณาให้ร้านเขาเต็มที่เลยนะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขาเล้ยยยยย... แต่มันอร่อยจริงๆ พูดถึงแล้วก็หิว...
"บุญ... มันคืออะไร" เสียงทุ้มนุ่มหูถามผมเหมือนจะข้องใจ
เอ๊ะ! ไอ้ผีนี่เป็นผีประสาห่าอะไรวะ สงสัยจะเป็นผีนอกเลยไม่รู้ ผมค่อนข้างที่จะจิ๊จ๊ะกับไอ้ผีบ้านนอกนี่เต็มทน ลืมตามองมันด้วยอาการที่เริ่มจะหงุดหงิดมากกว่ากลัวในเวลานั้น
"แล้วอยากกินอะไรล่ะเดี๋ยวกูจัดให้ แล้วช่วยๆไปจากกูอย่ามารังควาญได้ไหมวะ!"
แล้วชั่วขณะนั้นสีหน้า และแววตาของเขาก็เปลี่ยนไป มันดูน่ากลัว... มันน่ากลัวนะ แต่ไม่ได้น่ากลัวในฉบับผีว่ะ ผมได้กลิ่นอะไรไม่รู้ตุ่ยๆว่าไอ้หมอนี่มันไม่น่าจะเป็นผีสักเท่าไร คือผมสามารถสัมผัสเนื้อหนังของเขาได้มิหนำซ้ำผมยังรู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายที่ส่งผ่านมาจากเขา เรียกได้ว่าผมคิดว่าไอ้นี่มันเป็นคนมากกว่าผีทำนองนั้น
ผมย่นคิ้วแล้วเงียบด้วยอาการสงสัย แล้วอยู่ๆใบหน้าหล่อๆนั่นก็ระบายยิ้มออกมาอย่างช้าๆ เป็นยิ้มที่โคตะระน่ากลัวแปลกๆ
"ทำไม่ได้หรอกในเมื่อตั้งชื่อให้แล้ว"
ชิบหาย... ไอ้บ้านี่ค่อนข้างที่จะดื้อน่าดู
"อื้อ... ปล่อยสิวะกูอึดอัด" ในเมื่อการเจรจาระหว่างผมกับไอ้ตุ๊กตาผีนี่ไร้ผล สุดท้ายคงต้องใช้กำลังกันหน่อยละครับพี่น้อง! ผมพยายามที่จะดิ้นให้หลุดออกจากพันธนาการหน้าแดงหน้าเขียว แต่โลกนี้มันยังมีคนที่แรงเยอะกว่าผมเป็นหลายเท่าอย่างไอ้ห่านี่ แต่ผมลืมไปว่ามันไม่ใช่คน!
นาทีนี้กูไม่กลัวแล้วเฟร้ย! อ๊ากกกกก! ไอ้ไก่ช่วยกูด้วย!
ผมพยามหันไปเรียกไอ้ไก่ แน่นอนว่าผมตะโกนเรียกมันลั่นห้อง "ไอ้ห่าไก่ช่วยกูด้วยยยยยยย!" แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้ยินผมเลยสักกะติ๊ด พยายามหลับตาฝืนแขนให้หลุด แต่ดูเหมือนมือใหญ่ๆจะพยายามกอบกำข้อมือของผมเอาไว้เสียแน่นหนา พยายามที่จะตะโกนให้หลุดออกจากพันธนาการที่มันดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์ เฮ้ย! นี่ฝันหรือเรื่องจริงวะ? ถ้าฝันก็ตื่นเร็วๆเหอะเหนื่อยแล้วนะเนี่ย แต่ถ้าเรื่องจริงขอเถอะ อย่าทำอะไรกูเลยชีวิตนี้ยังใช้ไม่คุ้มเลยน๊า!
ผมนี่นึกถึงเพลง คุกเข่าของCOCKTAIL เลยคับ
ฉันกำลังอ้อนวอนขอร้องเธอไปไกลๆ
ทิ้งใจลงตาตุ่มผลักไสไปจากผม
พนมสองมือขึ้นกราบวอนมึงอย่าหลอกหลอน
มันคงไม่มีประโยชน์ถ้าคิดจะหลอกเต๋า....
ได้โปรดอย่าหลอกหลอนตูเลย... อ่ะฮืออออ.....
"..."
เอิ่ม... กูนี่ก็มีอารมณ์ร้องเพลงนะไอ้บ้าเอ๊ย!
วินทีนั้นไม่ว่าจะบทสวดอะไรก็แล้วแต่ที่ท่องได้นี่งัดเอามาใช้หมดเลยครับ แต่ทำม้ายทำไมผมยังข้องใจว่าผมสวดผิดไปท่อนไหนหรือเปล่า ไอ้ผีตัวนี้ถึงไม่ได้กลัวหรือหวาดเกรงเลยสักนิด มันกลับยิ่งหัวเราะเหมือนจะขำ... "ฮึฮึ"
ตลกตายห่า! ขำมากป่าววะ!? ไม่ว่าจะสวดหรือจะดิ้นแต่ดูเหมือนผมจะกลายเป็นตุ๊กตาเเทนมันที่ให้มือนิ่มๆ นิ้วเรียวๆของมันลูบไปตามหน้า
อ่ะเฮือกกกก....
ผมนี่ขนลุกตั้งชันเลยให้ตาย! นี่มันจะทำอะไรวะ!?
"แปปเดียว..."
ฮะ? อะไรแปปเดียว? วอสสสสสส!!!!!?
ผมนี่ตาเหลือกยิ่งกว่าไข่ห่านอีกเหอะ! สมควรเอาไปเปรียบกับดวงจันทร์หรือลูกโลก อยากจะบอกว่าผมเหลือกตาแทบจะถลนออกมาแล้วเพราะสิ่งที่เห็นข้างหน้ามันทำให้ผมถึงกับช็อก...
"อ่ะ... ฮือ ย่ะ อย่า" อย่าไปยุ่งกับน้องชายกรูไอ้บร้า!
"อะอา... ไอ้ห่าอะ..." คำว่าเอ๊ยนี่ไม่สามารถเปล่งออกมาจากผมได้เมื่อริมฝีปาก และความอบอุ่นชื้นแฉะกำลังโลมเลียไปที่ส่วนนั้น แล้ว... ไอ้น้องชายของผมที่ไม่รักดีนั่นมันก็กำลังตื่นตัวเต็มที่ ไอ้บร๊า!!! มึงหิวแล้วเสือกกินน้องชายกรูทำม๊ายยยยย!!!
"อ่ะ อือ... ไม่เอา" สองแขนที่ถูกปล่อยออกเป็นอิสระ สองมือจิกไปบนที่นอนเพื่อระงับความปั่นป่วนที่อยู่ภายใน ดวงตาที่ปรือของผมมองเพ่งผ่านความมืดที่เห็นร่างสูงใหญ่ของเขากำลังดูดดุนไปที่ส่วนนั้น ความแข็งขืน และปันป่วนตีรวนไปกับความทรมานทำให้ร่างกายของผมบิดเร้าจวนเจียนระเบิด แล้วไอ้คนที่กำลังกินน้องน้อยของผมก็เหมือนเอร็ดอร่อยหนักหนา นี่มันเห็นน้องชายผมเป็นแท่งไอติมหรือไงวะพับผ่าเอ้ย!
ผมพยายามเอื้อมมือไปทางไอ้ห่าไก่เพื่อที่จะให้มันช่วยผม...
ชะ... ช่วย... กูด้วย... ไอ้เหี้ยไก่กูโดนผีข่มขืน อ่ะเฮือก....
พยายามปัดแขนให้โดนไอ้เพื่อนเวรที่หลับเป็นตายไม่ได้รับรู้เลยว่าเพื่อนมันกำลังแย่ ผมพยายามสะกิดให้มันตื่นแต่มันกลับอือออเหมือนรำคาญ ผมเลยใช้แรงเฮือกที่มีซึ่งไม่ได้ถูกครอบงำทั้งหมดประเคนส้นตีนยันไปที่ก้นงามๆของไอ้ไก่ดังพลัก!!!!
โครม!
กึก!
"อ่ะ อ๊า!!!" ผมนี่ร้องไม่เป็นภาษาเมื่อฟันคมๆของคริสครูดไปตามลำแกร่งในขณะที่ผมยันตีนให้ไอ้ไก่ แถมมันไม่ตื่นด้วยครับ ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากมันเลยนอกจากผมที่บิดเร้าๆเหมือนไก่โดนน้ำร้อนลวก เมื่อความชื้นแฉะพยายามดูดรีดน้ำที่อยู่ในท่อนลำออกมา
ขุ่นพระ! กรูเพิ่งจะเคยเห็นผีขอส่วนบุญเป็นน้ำอสุจิกูนี่แหละสัดเอ๊ย!!
"อ่ะ อือ เจ็บ" เสียงผมนี่แม่งก็เซะซี่ได้อีกว่ะ
คือมีอารมณ์ร่วมไหมเนี่ย?
นะตอนนี้คือรู้สึกปวดมากๆเหมือนไอ้ตรงส่วนนั้นกำลังจะระเบิดออกมาให้ได้ ผมแอ่นสะโพกไปตามแรงจังหวะที่สาวปากเข้าออกจนมันแข็งปลักเสียยิ่งกว่าตอนแรก มันอึดอัดจนจุกเสียดไปทั้งท้อง มือของผมกำไปที่กลุ่มผมนุ่มสลวยสีบรอน ความรู้สึกนุ่มนิ่มเหมือนขนแมวยิ่งทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม และสับสนในเวลาเดียวกัน ไม่นานนักน้ำรักที่อัดแน่นจนถึงขีดสุดทะลักออกมาจากลำกล้องเหมือนเขื่อนแตกทะลักออกมา
ผมได้ยินเสียงดังอึก! กลืนของเหลวข้นคาวที่ออกมาจากร่างกายของผม โลมเลียทำความสะอาดชนิดที่ว่าไม่เหลืออะไรเลย นี่ถ้าผมทำกับผู้หญิงรับรองว่าเธอคงมีลูกน้อยๆให้ผมแน่ๆล้านเปอร์เซ็นต์ หอบหายใจหนักด้วยความรู้สึกแปลกๆมองร่างสูงที่ลุกขึ้นนั่งคุกเข้าแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบขาวไปตามกลีบปาก ดวงตาสีครามเปล่งประกายกว่าในคราแรกมากนัก แล้วเขาก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกใจเต้นตึกตักอีกระลอก...
หนำใจแล้วสิ? พอเหอะแค่นี้กูก็โดนเหมือนสูบวิญญาณออกจากร่างจนจะแย่แล้วนะ นั่น... อะไรน่ะ ไม่อ๊าววววว!!!!
ผมหลับตาแน่นเมื่อใบหน้าหล่อเหลากำลังโน้มเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ ริมฝีปากอวบอิ่มประทับจูบแนบแน่นมาที่ริมฝีปากของผม กลิ่นคาวยังคงอบอวนอยู่ในปากของเขา ผมเพิ่งจะตระหนัก และรับรู้แล้วว่ารสชาติของน้ำขาวข้นที่ออกมาจากกายมันมีรสชาติปร่าลิ้นอย่างนี้นี่เอง...
แหยะไม่เห็นจะอร่อย...
ลิ้นร้อนโลมเลีย และดุนดันแลกน้ำลายอยู่ข้างในปากจนผมสับสน ตกลงมันเป็นผีแน่หรอวะ? ทำไมมันถึงได้รู้สึกว่าไอ้นี่มันมีเนื้อหนังเหมือนกับคน แต่ความสงสัยนั่นก็ถูกกลบด้วยความรู้สึกที่ตื่นตัว เมื่อมือใหญ่ๆ และนุ่มนิ่มกำลังสัมผัสไปตามแผ่นอก ลูบไล้ลงไปตามพุงน้อยๆที่มีกล้ามเนื้อแค่ไม่กี่ก้อน สัมผัสแปลกๆที่กำลังทำให้ผมเตลิดเปิดเปิง สุดท้ายแล้วผมกลับคล้อยตามสัมผัสนั้นจนเผลอคราง "อือ" กระเส่า
บ้าเอ๊ย! ทำไมเสียงมันถึงได้สยิวกิ้วแบบนี้วะ ครางเอง ได้ยินเอง เขินเอง
ผมกัดฟันยกมือปิดปากเมื่อร่างสูงที่ผละออกมาจากริมฝีปากกำลังจ้องหน้าผม มือแกร่งยังคงลูบไล้และยิ้มกระหายกรุ้มกริ่ม ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้ผมทำสีหน้ายังไง แล้วเป็นแบบไหน เพียงแค่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกร้อนมาก ความร้อนมันมากระจุกอยู่ที่หน้าของผมในยามที่สบตาเข้ากับดวงตาสีครามทะเลนั่นที่ยิ้มที่มุมปากเหมือนพึงพอใจอะไรบางอย่างหนักหนา ก่อนที่ผมจะเบิกตาเมือสะโพกของผมถูกยกขึ้นจนลอยหวือ
"อะ มะไม่"
ยึดรั้งหัวเตียงเอาไว้เมื่อรู้ชะตาตูดในอีกข้างหน้าจะเป็นเช่นไรต่อจากนี้ ท่อนลำที่แข็งแกร่งพร้อมๆกับความชื้นแฉะที่เย็นเฉียบ ไม่รู้ว่าผมถูกทำอะไรลงไป แต่รู้เพียงแค่ว่ามันเจ็บ เจ็บมาก เจ็บของมากๆๆๆๆ ที่สุดเหมือนร่างกายจะฉีกขาดก่อนที่ความเจ็บนั้นจะกลายเป็นความกระสัน และปั่นป่วน ผมแอ่นกายไปตามจังหวะเนิบนาบ และมือแกร่งที่ประคองเอวของผมเอาไว้ จังหวะเร่งเร้าขยับสะโพกพลิ้วไหว จนผมเผลอร้องครางออกมาอยู่บ่อยครั้ง ยอมรับเลยก็ได้วะ ว่ารู้สึกดี! อะไรมันจะช่ำชองขนาดนั้นวะกูไม่ได้พิสมัยผู้ชายด้วยกันเล้ย! แถมถูกกระทำด้วยแล้ว หมดกันหนุ่มมาดแมนทั้งแท่งเยี่ยงผม
เสียงครางอืออาระงมด้วยเสียงกระทบของเนื้อหนังที่รับจังหวะของร่างแกร่งที่ถาโถม โลกทั้งใบแม่งขาวโพลนเหมือนตัวเองหลุดออกไปจากนอกระบบของจักรวาล ผมมองร่างสูงที่หิวกระหายพยายามกลืนกินผมไปทั้งร่าง แต่มันผิดที่ว่าร่างกายของผมกำลังกลืนกินท่อนลำท่อนนั้นแทน...
มะ... ไม่นะ... นี่ผมเสียตัวให้กับตุ๊กตาดอลฟี่ของผมหรือวะเนี่ย!? เวรเอ้ยยยยยย!!!!
"เต๋า ไอ้เต๋า เฮ้ย! เป็นไรป่าววะ..."
อ่ะฮึกกก!!!
แรงเขย่า และเสียงเรียกที่ดูเหมือนตื่นตกใจทำให้ผมสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นพรึบ!!! ปรากฏเป็นไอ้ไก่ที่ดูเหมือนกังวลอะไรของมันก็ไม่รู้ ผมย่นคิ้วมองมันแล้วปรือตาที่รู้สึกแสบเพราะแสงที่สว่างจ้า และอาการหนักอึ้งของเปลือกตาเหมือนนอนไม่พอ
"อือ... อะไรวะ" ครางในลำคอเพราะกำลังงุนงง และสับสน ไอ้ไก่มันถอนลมหายใจพรืดแล้วกลับไปนั่งอยู่ที่ขอบเตียงมองมาทางผม มองเหมือนเป็นห่วงผมอยู่
"จะอะไรล่ะก็มึงไข้แดกอยู่นี่ไง"
"อ้าวหรอ" เลิกคิ้วแล้วยกมือจับห้าผากตัวเอง เออว่ะร้อนจริงด้วย "แคกๆ"
"ยังจะอ้าวอีก เมื่อคืนเจอผีจนจับไข้หรือไงวะ?"
หืม? ผี...
ผมชะงักดวงตานิ่งค้างเมื่อไอ้ห่าไก่มันพูดอะไรที่สะกิดใจผมเหลือเกิน ผมมองไปทางคริสขวับในทันทีแล้วเห็นว่าดอลฟี่ของผมยังคงนอนอยู่ข้างๆไม่ได้หนีหายไปไหน ผมขยับหนีโดยอัตโนมัติจนไอ้ไก่มันเลิกคิ้วสงสัยในอาการผม
"เป็นไรวะทำอย่างกับคริสหลอกมึงจริงๆ"
ผมหันไปหามัน "มึงไม่โดนหลอกหรอ?"
มันส่ายหน้า "ไม่เห็นจะมีห่าอะไรเลย"
ไม่มีส้นตีนสิ! กูโดนผีปล้ำทั้งคืนแถมแหกปากซะคอแหบแห้งจะไม่มีเลยได้ไง แล้วไอ้ไก่ก็ทำเหมือนปกติไม่ได้สงสัยหรือถามอะไรแปลกๆสักอย่าง มีแต่ผมนั่นล่ะที่โดนกระทำทั้งคืน บัดซบ! แล้วพอตื่นมาก็จับไข้ แล้วมาบอกไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวมองไปทางตุ๊กตาเจ้าปัญหายังนอนแอ้งแม้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ...
แต่ถ้าพูดถึงตามหลักวิทย์...
เชรี้ย! มึงยังจะเอาหลักวิทย์มาอีกนะไอ้เต๋า มึงย้ายสายไปเรียนเอกวิทย์เลยไหม!
ผมนี่จะบ้าขึ้นทุกวันว่ะ แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงวิญญาณที่ไหนมันจะถึงเนื้อถึงตัวคนได้วะ หรือผมจะฝันเพราะพิษไข้วะ? อันที่จริงเมื่อวานก็รุมๆเหมือนจะเป็นไข้ด้วยล่ะเพราะหวัดแดกอยู่แล้ว เมื่อคืนไอ้ไก่มันล่อเปิดพัดลมเบอร์สามด้วย แต่... ไม่ได้รับรู้ความหนาวเลยนอกจากความร้อนแล้วก็เหงื่อที่ชุมไปทั้งตัวของผมกับคริส...
เอ่อ... แล้วทำไมผมต้องร้อนวูบวาบที่หน้าด้วยวะ?
"เป็นอะไรวะหลุดไปอยู่ในมิติที่สี่หรือไง?" ไอ้ไก่มันทักผมแล้วเลิกคิ้วเหมือนจะขำในท่าทาง
"มิติบ้าอะไรล่ะ" ถีบมันไปทีด้วยความหมั่นไส้ แต่มันเสือกทำหน้าเหมือนเจ็บปวดมากทั้งๆที่ผมแค่สะกิด
"แล้วมึงเจออะไรล่ะไอ้เต๋า พูดทำนองเหมือนมึงโดนหลอกจริงๆ"
ผมเงียบไปครู่ครับ สบตามันแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงให้โผล่พ้นแค่ลูกตามองมันแล้วตอบอู้อี้ "กูโดนผีขย่มว่ะ"
ไอ้ห่าไก่มันทำหน้าเป็นหมางงแดก "อะไรวะ?"
"ไม่ๆ" ผมส่ายหน้าเพราะคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ มันต้องบอกว่า "ไอ้ผีทะเล" แล้วหันไปมองค้อนคริสที่นอนอยู่ แต่ก็ยังอดสยองตัวเองไม่ได้ ไอ้ไก่มันพ่นลมเหมือนจะขำไม่ขำก้ำกึ่งแล้วส่ายหน้าแบบเอือมๆ
"อยู่กับมึงแล้วกูจะปัญญาอ่อนตามว่ะ เดี๋ยวกูลงไปซื้อโจ๊กให้มึงก่อนนะ"
พยักหน้าให้มันส่งๆแล้วหันไปมองคริสที่ยังคงนอนสงบแน่นิงไม่ไหวติง...
ทำไมถึงยังเป็นตุ๊กตาวะ พอเช้ามาแม่งเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเหมือนโดนแกล้งยังไงชอบกล หรือเป็นเพราะว่าคิดไปเองวะไม่เข้าใจเลยว่ะ แต่ผีที่ไหนจะมาขอส่วนบุญ บะ แบบ...
มันต้องเป็นความฝัน... เป็นฝันที่ขายขี้หน้าที่สุด...
ผม... ปลอบใจตัวเองอย่างนั้น...
"ตอนที่กูลงไปซื้อโจ๊กมึงก็ลุกขึ้นมาเช็ดตัวมึงซะ ไหวเปล่า"
ผมพยักหน้าให้มันเพราะมั่นใจว่ายังพอมีแรง ไอ้ไก่พยักหน้าอืมๆแล้วหยิบกระเป๋าตังของมันที่วางเอาไว้ยัดใส่กระเป๋ากางเกงยีน ผมเห็นมันยืนท่าแปลกๆ แถมเดินกะเผลกเหมือนคนปวดขา ผมเลยทัก
"มึงเป็นไรวะเดินเหมือนเจ็บขา"
มันหันมาทางผมแล้วตอบสีหน้าแบบหงุดหงิด "จะห่าอะไรล่ะเมื่อคืนกูนอนตกเตียง" แล้วมันก็หันไปใส่รองเท้าพร้อมบ่นงึมงำในลำคอ "แม่งนอนดิ้นแล้วถีบกูหล่นแหงๆ อย่าให้เผลอเถอะ กูจะเอาคืน จะยันมึงแรงๆกลับเลยคอยดูดิ่ นี่เห็นว่าป่วยหรอกเชี่ยเต๋า"
"..."
ปังงงง!!!
เอ่อ... ไม่รู้ว่าผมควรที่จะบรรยายอารมณ์ของผมอย่างไรดีในตอนนี้ที่รู้สึกหนาววาบไปทั้งร่างมองคริสที่นอนอยู่ข้างๆด้วยอาการตัวเกร็งเหมือนโดนสต๊าฟเอาไว้...
สัดก่ายยยยยยยยย!!!! อย่าทิ้งกรูววววววววววว!!!!!