...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 429514 ครั้ง)

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
ถ้าเศร้าน่ะ  เค้าจะ

เค้าจะ.........







เค้าจะ......







เค้าจะเศร้าตามมมมมมมมมมมมมม   ฮือออออออออ

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มาต่ออีก  :angry2:

เห็นนะมาอ่านนิยายอ่ะ  o12

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่าครับผม รักกันดีๆใส่ใจกันนะครับ

พี่ชิพ กับพี่แดน เจอเรื่องผิดหวังมามากพอแล้ว

อยากให้เจอแต่เรื่องดีๆๆแบบนี้เยอะๆแ นานๆไปครับ

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
หายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ปายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



หนายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





รอตอนต่อ ไปยุนร้า

 

:m31:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
รอนานกันมั้ยครับ? แฮะๆ ผมเพิ่งจะว่างได้ฤกษ์มาลงกับเขาสักที แต่ขอกบอกเลยว่าแต่งตอนอวสานแล้ว ไม่อยากใบ้เลย...เอาเป้นว่าผมเองยังน้ำตาไหลพรากเลยครับ

=_="  :m29: (หรือว่าคนแต่งอินไปเองครับ ฮุๆ) :m15: :m20:


บทที่ 25



       เสียงเปิดประตูดังขึ้นเมื่อตอนเช้าของสามวันถัดมา...

       ฝีเท้าหนักๆเดินใกล้เข้ามา ชิพตะโกนร้องเรียกชื่อผม แต่ผม...ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขานตอบเขา

       ในที่สุด ประตูห้องนอนก็เปิดออก ชิพโผล่หน้าเข้ามาท่ามกลางห้องอันเงียบงัน ผมนั่งก้มหน้าเงียบๆอยู่บนเตียงเรียบ ว่างเปล่า ดูอึมครึม...ผมไม่รู้จะพูดอะไร ก็เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นภายในสามวันที่ผ่านมา…

       “แดน…”

      น้ำเสียงของเขาดูมึนงงสงสัย คงเพราะบรรยากาศที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวานี้ ผมเงยหน้าขึ้น ค่อยๆหันไปสบสายตากับเขา...น้ำตานองใบหน้า สีหน้าโรยของชิพซีดเผือดลงทันที

       “คนโกหก...”

      ชิพอึกอัก ทำอะไรไม่ถูก พูดไม่ออก

       “ทำไม...ฮัก...ทำไมคุณไม่บอกผมสักคำ...ฮักๆ…ผมรู้ความจริงหมดแล้วว่าคุณไปไหนมา”

      พูดไปสลับกับสะอึกร้องไห้ไป ชิพอึ้ง เราจ้องมองกันท่ามกลางห้องโล่งที่มีแสงแดดซึมๆลอดผ่านเข้ามา อากาศเย็นเชียบ...ชิพทำท่าขยับจะพูด


       “แดน...คุณพูดเรื่องอะไร?”

      ผมโยนขวดยาขวดหนึ่งลงไปที่พื้น ไม่ใช่ด้วยแรงอารมณ์ แต่ผมปามันให้กลิ้งลงไปกับพื้น หยุดที่ปลายเท้าของเขา ชิพหยิบขึ้นมาดูยิ่งหน้าซีด

       “เมื่อวันก่อนที่ผมจัดกระเป๋าให้คุณ บังเอิญเจ้านั่นล่นลงมาจากตู้เสื้อผ้า...”

       ระหว่างที่เขาไม่อยู่ผมส่งตัวอย่างยาขวดนั้นไปให้เพื่อนที่มหาลัยฯตรวจ...ไม่รู้อะไรดลใจผมให้ทำแบบนั้น แต่เมื่อเจ้าขวดยานั่นมันตกลงมาเหมือนเพื่อให้ผมรู้ความจริง...ความจริงที่ใครต่อใครแม้แต่แอลก็รู้เห็นเรื่องนี้ด้วย ยกเว้นผม...

       ผมลุกขึ้นยืน รู้สึกอ่อนแรงเหลือเกิน

      “ทำไมคุณไม่บอกผมว่าคุณกำลังป่วย?”

       เขาทำหน้าช็อคสนิท

       “ดะ...แดน ให้ผมพูดก่อน”

       “ผมเพิ่งได้คุยกับแอล...คุณรู้มั้ยว่าผมนอนไม่หลับเลย...”

      นั่นก็เพราะความกังวลใจอย่างบ้าคลั่งนี่ไง!

       “ใช่...ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”


      “แต่ผมรู้หมดแล้ว ตั้งแต่เรื่องที่คุณหลอกผมให้ไปดูงานที่ญี่ปุ่น คุณน่ะหยุดทำงานที่บริษัทมาตั้งหนึ่งเดือนแล้ว เพื่อไปปรึกษาหมอด้านสมองที่โอซาก้า...แล้ววันนั้นที่คุณหายไปทั้งวัน ก็เพราะคุณไปเกลี้ยกล่อมให้หมอในโอซาก้านัดผู้เชี่ยวชาญที่นิวยอร์กนี่ ผมไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคุณถึงต้องรีบร้อน เพราะหมอคนนี้คิวยุ่งมากๆ แต่ทำไม...ทำไมคุณถึงใจร้าย ไม่บอกให้ผมรู้เรื่องบ้างสักคำ...ที่ผมพูดมาถูกต้องใช่มั้ย?”

      ชิพมองหน้าผม ก่อนจะพ่นลมหัวเราะออกมา...

       “อะ...โอเค! สรุปว่าคุณรู้แล้ว”

      “มันไม่ตลกนะชิพ”

      ผมกลั้นเสียงสะอื้นด้วยความรู้สึกโกรธเคือง...เขายังมีหน้ามาพูดเล่นอีก นั่นมันความเป็นความตายของเขาชัดๆนะ!

       วูบแรกที่รับรู้ความจริง ผมแถบไม่อยากเชื่อตัวเอง ไม่อยากทำใจยอมรับความจริงว่า...ชิพป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง

       สติมันหลุดหายไปหมด แม้คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นแอลหรือเลขาฯของชิพ ผู้คนที่รู้ความลับนี้ต่างพากันปลอบใจผม แต่มันไม่รู้สึกดีขึ้นเลย...

      เจ้าของนิ้วเรียวยกขึ้นบังซีกหน้า แสร้งทำเป็นยิ้มหัวเราะ...แต่ตัวเขาเริ่มสั่น เสียงเครือ

       “แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่อยากบอกคุณเองหรอกนะ...ผมไม่ได้ตั้งใจหลอกอะไรคุณเลยสักนิด ผมแค่...”


      ชิพทรุดตัวแล้วปล่อยโฮออกมาเบาๆ น้ำเสียงของเขาเหนื่อยล้า อ้อนวอน ขอให้ผมเข้าใจ

       “ชิพ พอเถอะ หยุดได้แล้ว!”

      ผมถลาเข้าไปกระชากตัวเขา กอดไว้แน่น...ตัวชิพสั่นสะท้าน หัวใจของผมมันเจ็บซ่าน ปวดร้าวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ...ในที่สุดชิพก็ร้องไห้ออกมา

       “มันก็แค่เนื้องอก...หมอบอกผมว่ามันยังไม่กลายเป็นมะเร็ง”

       อยากตะโกนเอาความผิดหวัง ท้อแท้ในใจเหล่านี้ออกมาจัง...เพียงถ้ามันช่วยได้บ้าง

       “ไม่ได้นะชิพ คุณจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ!”

      เขากอดผมไว้ พยักหน้าช้าๆ ผมไม่เห็นสีหน้าของเขาแต่น้ำเสียง...น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดนั่น...

      “ผมรู้แดน...ผมรู้”

      “คุณจะต้องหาย ถ้าขาดคุณไปอีก ผมจะทำยังไง ผมจะอยู่เพื่อใคร?”

       เรานั่งกอดกันที่พื้นเยี่ยงนั้น ในหัวสมองอื้ออึงไปหมด คิดอะไรไม่ออก


       “มันยากมากถ้าให้ผมยอมรับว่า...ต้องสูญเสียคุณไปอีก คุณอย่าทำกับผมแบบนี้นะชิพ ได้โปรด...ผมไม่อยากต้องทนอยู่กับความอ้างว้างโดดเดี่ยวตามลำพังแบบเดิมอีก คุณต้อง-“

       ชิพหยุดคำพูดของผม เช็ดน้ำตาให้...ดวงตาของเขาก็รื้นแดงและเต็มไปด้วยคราบหยาดน้ำใสเช่นกัน แววตาของเขาทั้งเหนื่อยล้า เจ็บปวด และเต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆมากมาย

       “ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้คุณรู้...ผมตรวจพบก้นเนื้องอกในสมองตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว”

      ยิ่งฟัง ยิ้งรู้ มันก็เหมือนสติของผมจะยิ่งอยู่ห่างไกลออกไปทุกที…

       “ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณ เพราะผมก็กลัว กลัวมาตลอดเวลาว่าหากคุณรู้ คุณจะคิดเพียงว่าผมสามารถอยู่กับคุณได้อีกไม่นาน...”

      ชิพสูดจมูก

       “ผมเลิกรักษามัน จนกระทั่งคุณก้าวเข้ามาในชีวิตของผมอีกครั้ง คุณทำให้รู้ว่า...ชีวิตของผมมีค่าที่จะอยู่ต่อ เพื่อคุณ...”

      “ยังโชคดีที่เนื้องอกที่กลับมาอีกครั้งยังไม่กลายเป็นมะเร็ง...แต่ผมก็กำลังจะหาย หมอบอกว่าการผ่าตัดครั้งนี้ หากประสบความสำเร็จ มันจะทำให้ผมหายขาดจากโรคนี้”

       กัดริมฝีปากตัวเองแน่น วินาทีนั้น...ความรู้สึกคล้ายกับสูญเสียจิตวิญญาณบางส่วนมันช่างไร้คำอธิบายใดๆ...ผมไม่อยากพูดแบบนี้เลย แต่ถ้าคุณไม่เคยรักใครสักคนสุดหัวใจแบบนี้ และรู้ว่าเขาอาจกำลังจากคุณไป...ตลอดกาล มันเจ็บปวดเพียงใด

       หากต้องไม่ได้เห็นหน้าเขา...

       หากต้องไม่ได้ยินเสียงเขา...

       หากเวลาของเราสองคนหมดไป...

       หากผม...จะไม่ได้ฟังเสียงหัวเราะ พูดคุย ใช้ชีวิตร่วมกับเขาอีกต่อไปแล้ว...

       ...นึกไม่ออกเลย ว่าชีวิตที่เหลือทั้งชีวิตจะต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหน?

       หลับตาลง ก็พบแต่เพียงความปวดร้าวทิ่มแทงนัยน์ตา ผมพยายามเค้นเสียงพูดที่อ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง ตะกุกตะกักขาดหายเป็นช่วงๆเพราะแรงสะอื้น

       “ผมจะไม่ยอมสูญเสียคุณไปอีก...บอกผมมาซิ ว่าคุณต้องหาย ขอร้อง...คุณอย่าทิ้งผมไปอีกเลย”

       รู้ว่าพร่ำรำพรรณไป มันก็เท่านั้น...หลอกตัวเองว่าเขาจะหาย แต่ใครจะรู้...เพราะอนาคตน่ะเล่นตลกกับเราเสมอ

       “คุณรู้มั้ย...คุณรู้มั้ยว่าผมใจสลายแค่ไหนที่รู้ความจริง”

      ชิพกอดผมแน่น น้ำเสียงปลอบประโลม

       “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...แดน...สิ่งที่เกิดขึ้นคือว่าผมรักคุณมาก มากกว่าใครในโลกนี้”

      เราสองคนร้องไห้กันท่ามกลางเสียงสะอื้นเบาๆ บางครั้งผมก็เจ็บจนหายใจไม่ออก...เพียงแค่คิดว่าอ้อมกอดนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย โอกาสสุดท้ายของผมที่จะได้รั้งเขาไว้ในอ้อมแขนของกันและกัน...มันก็แทบทำให้ตายทั้งเป็น

       “ถ้า...ถ้าผมผ่าตัดแล้วแต่ต้องกลายเป็นคนพิการ ผมอยากให้คุณรู้ หากมีอะไรเกิดขึ้น...ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมรักคุณนะแดน”

      ผมหลับตาลง เขื่อนน้ำตาไหลพรากลงมา

       พยักหน้ามอบคำมั่นสัญญา

       “ชิพ คุณต้องหาย คุณต้องไม่เป็นอะไรเพื่อผมนะ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้คุณต้องสูญเสียอะไรไปมากแค่ไหน ผมจะอยู่ข้างคุณชิพ...ผมจะอยู่ข้างคุณเอง...”

      …………………………………

       ………………………….

       ……………..

       ……..



       ตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมา ผมทำใจไว้แล้ว...วินาทีที่รับรู้ความจริง และโทรศัพท์ข้ามทวีปไปคาดคั้นเอาจากปากของไอ้แอลเอาอีกที...ทำให้ผมเพิ่งรู้ว่าผมเป็นคนเดียวที่โดนปกปิดไม่ให้รู้เรื่องนี้มาโดยตลอด ชิพป่วย...นั่นคงเป็นสาเหตุที่เขาอ่อนแอบ่อยๆ แลดูทรุดโทรมลงช่วงนี้

       ชิพแอบกลับไปรักษาโรคเนื้องอกในสมองเมื่องสองเดือนที่แล้ว...ผมก็เพิ่งสังเกตว่าเขาดูไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน...

    แล้วมันสายไปหรือเปล่า?

       ...เขาเคยผ่าตัดแล้วครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะไม่เกิดสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้น แต่การผ่าตัดทุกครั้งก็เป็นการเสี่ยงอันตรายมาก ทว่าเขาพร้อมและยินดีจะเสี่ยง...เขาบอกว่าเพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อผม เขาก็พร้อมยอมแลกมาซึ่งทุกอย่าง...

       หมอเริ่มรักษาด้วยยาก่อน แล้วเดือนหน้านี้ชิพต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัด หลังจากนั้นเขาต้องทำบำบัดคีโมฯ...เขาว่ากันว่าไอ้คีโมฯนี่เป็นส่วนที่ยากที่สุดสำหรับคนป่วยทางด้านนี้ เพราะมันจะเจ็บปวดแสนสาหัส ทรมานอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยทีเดียว

       แต่ผมพร้อมจะต่อสู้มันไปพร้อมกับเขา

       ถ้านี่คือบททดสอบของฟ้า...มันคงเป็นบททดสอบสุดท้ายของความรักสองเรา

       ความรัก...ที่ผ่านเรื่องราว การสูญเสีย คราบน้ำตา และช่วงเวลาดีๆมามากมาย

       แต่รู้อะไรมั้ย? มันไม่ได้บั่นทอดความผูกพันของเราลงแม้แต่น้อยเลย

       จนในที่สุด...มันก็คือความรักบริสุทธิ์แท้จริง ที่คั่นกลางระหว่างคนทั้งคู่

       ไม่ใช่ช่องว่างเปล่าๆ ที่อ้างว้างโดดเดี่ยวอีกต่อไป

       …ทว่ามันคือรักแท้ เต็มสี่ห้องหัวใจ...




      โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
กลัว ใจคนแต่งอะ

แบบว่าร้อง ตอนแรก แล้ว ตอนจบ จบ แบบ happy ending ชิมิ


ม่าอยาก ร้องไห้ อะ


ร้องไห้มากับหลายๆๆเรื่องแล้ว

เฮ้อ


กราบงามๆๆ  หลายที

 :sad2:



ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
ร้องไห้ดีใจ หรือ เสียใจอ่ะ?

ปมปริศนา  :a11:

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าจบเศร้านะ จะเลิกรักน้อง ALEX ตลอดไป  :o12:

ออฟไลน์ astral

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-5
เกลียดโรคนี้มากๆ  o7

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ขอเหอะ จบเศร้ามาสองภาคแล้ว ภาคจบนี่ขอให้มัน happy มั่งเหอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
 :m15:

อย่าเศร้าเลยนะคะ ขอร้องงงงงงงง  :m15: :m15:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

เรื่องนี้ทำให้ผมร้องไห้มากที่สุดเลยครับ

เศร้าได้ใจจริงๆๆ ขอให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีเถอะครับ

เพื่อเห็นแก่ความรักแท้ของผู้ชายตัวน้อยๆ2คนบนโลกใบนี้

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:     สาธุ    :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

เป็นกำลังใจให้ครับผม ชอบมากเลย

:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

lanlan

  • บุคคลทั่วไป
ไหนชื่อเรื่องบอกจะไม่มีช่องว่างไงโห่.....
ไม่กล้าอ่านแล้วแววเคล้าน้ำตาแกลๆๆๆ--"
ง่าทำไมคนแต่งทุกคนชอบให้ออกมาในลักษณะนี้ล่ะงอลลลลล :sad2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
แงๆๆ

สงสารชิพอ่ะ

ผ่าตัดแล้วให้หายได้มั้ย

ไม่ชอบขมแบบนี้เท่าไหร่

ฮืออออ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
บีบคั้นสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใจร้ายยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เฮ้อ...

ไม่รู้เวรกรรมอะไรกันนักหนาสิน่ะ

เศร้าจริงๆ เลย แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :sad2:   :sad2:   :sad2:

sunflower

  • บุคคลทั่วไป
 :o

อะไรกันนี่  :serius2:

Alex อย่าทำงี้สิ แต่งไปร้องไป แถมตอนนี้ยัง o7

บีบหัวใจคนอ่านจริงๆ  :o12:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ก็ ไม่มีอารายมากอ่าคับ แค่แวะมาแถม...ไม่รู้จาถูกใจคนอ่านหรือเปล่า ช่วงนี้โดนหาว่าใจร้ายเยอะเลย งุงิ ยังไงก็ขอยอมรับผิดเต็มๆอ่านะคร้าบ :m23:

เรื่องใหม่...คงยังไม่ลง แต่รับรองว่าสนุกมากๆๆ(<<<จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ!) คือจะออกแนวติงต๊องสักเล็กน้อย ตลกๆ(หรือเปล่า?) ติดตามดูกันนะครับ แต่คงอีกนาน...(เหอะๆ) :a3: :a3: :a3:

ตอนอวสานจะตามมาในอีกเร็ววันนี้นะครับ ถ้าหากไม่มีงานอะไร :a11:

ปล. ขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนนิยายของผม บางคนทิ้งเม้นท์ไว้ก็เป็นปลื้มมากๆเลยครับ เห็นเเล้วชื่นใจ ที่ผมมีวันนี้ได้ต้องขอบคุณทุกคน หวังว่าทุกคนจะมีความสุข ทั้งที่มีรักและยังไม่มี...ขอให้ทุกๆคนสมหวังทุกประการนะครับ

บาย


บทส่งท้าย



       ท่ามกลางถนนที่แน่นขนัด ผมเดินโอบกอดก้าวเดินไปพร้อมๆกับร่างสูง มองท้องฟ้ายามค่ำคืนของนคร
นิวยอร์ก รู้สึกเศร้าๆยังไงไม่รู้

       “แดน อย่าทำหน้าเศร้าซิ”

      ชิพกระชับเอวของผมแน่นขึ้น ไออุ่นแผ่ซ่านออกมาปกคลุมร่างกายของผม ทว่า...พรุ่งนี้แล้วซินะที่เขาจะต้อง
เข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัด ผมอดไม่ได้ที่จะปลดปล่อยความเศร้าโศกที่เก็บไว้ลึกๆข้างในนี้...


       ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ชิพบอกให้ผมพยายามร่าเริงเพื่อเขา...แต่รู้อะไรมั้ยว่ามันยาก...มันยากที่
จะยิ้มให้เขาทั้งๆที่ รู้...รู้ว่าอาจจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มนี้อีก ทุกๆเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวด ทำไม...ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้

       ผมพยายามดูแลเขาสุดความสามารถ ทำเหมือนทุกอย่างเป็นปกติ แต่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน
สั้นๆจะเต็มไปด้วยความสุขและความหมายล้ำค่าต่อผมมากมายแค่ไหน

       เราได้ทำในสิ่งที่อยากทำมากมาย ผมพยายามไม่โกหกตัวเอง แต่ปกปิดความรู้สึกเอาไว้ข้างในลึกๆ...ทุกๆบ่าย
เราจะออกไปนั่งๆนอนๆรับลมเย็นในCentral park มีเขานอนหนุนตักผมในขณะที่กำลังอ่านหนังสือให้เขาฟัง เราเข้านอนพร้อมๆกัน
บนเตียงอุ่นทุกคืน และไม่มีแม้แต่วันเดียวที่เราอยู่แยกจากกัน

       มันเป็นหนึ่งเดือน...หนึ่งเดือนที่คุ้มค่าจริงๆ เพียงแค่คืนนี้...คืนนี้ผมอดทนทำเป็นร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรเกิด
ขึ้นไม่ได้...

       เหตุการณ์ที่ทำให้ชิพต้องเข้ารับการผ่าตัดเร็วขึ้นกว่าเดิมสองอาทิตย์นั่นเป็นเพราะครั้งหนึ่ง เขาเคยหน้ามืด
ล้มลงบนพื้น ดีที่ผมคว้าร่างของเขาไว้ได้ทัน...หมอบอกว่าก้อนเนื้อขนาดเท่าลูกมะนาวในสมองส่วนท้ายของชิพกำลังขยายตัวขึ้น
อย่างรวดเร็ว ทว่ายังไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับการเปลี่ยนตัวเป็นก้อนเนื้อร้าย...ทุกคนจึงลงความเห็นให้ชิพรีบผ่าตัดซะ

       แต่มันเท่ากับว่า...เวลาที่ใกล้จะหมดลง...คืบคลานเข้ามาทุกวินาที

       ผมพยายามทำให้ทั้งเขาและตัวเองมีความสุข คอยอยู่เป็นเพื่อนเขา คอยมอบสิ่งดีๆให้เขายิ้มและเป็นกำลังใจ
ให้กันและกัน...ผมสาบานกับตัวเองว่าผมจะคอยอยู่เคียงข้างเขาจนวินาทีสุดท้าย หากเกิดอะไรขึ้นจริงๆ...ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งเขาไป
ไหนอีก

       คืนนี้แม่ของผมจะบินจากแอล.เอ.มาอยู่เป็นเพื่อน ระหว่างที่ชิพไม่อยู่...ท่านทราบเรื่องหมดแล้วหลังจากผม
โทรฯไปบอก และยินดีจะมาช่วยอยู่เป็นเพื่อนผม ท่านบอกว่าจะช่วยดูแลชิพตอนพักฟื้นด้วย เพราะยังไงเสีย...ท่านก็นับชิพเป็นลูก
ชายอีกคนหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว

       ส่วนแอลกับคุณอรเลขาส่วนตัวของชิพ และหนูน้ำผึ้งจะบินตามมาสมทบทีหลัง ไอ้แอลต้องเคลียล์งานที่
บริษัทก่อน เนื่องจากมันจะหยุดยาวเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนชิพเช่นกัน

       “แดน...มองผมซิ”

      เสียงเรียกของเขาดังปลุกสติผม รอบข้างเต็มไปด้วยบรรยากาศที่วุ่นวาย ผู้คนพูดจอกแจกจอแจ ผมกลับได้
ยินแต่เสียงหัวใจเต้นตึกตัก...เต้นอย่างปวดเร้า น้ำตาพลันจะไหล

       “แดน ยิ้มเพื่อผมนะ...อย่างน้อยวันนี้”

      ผมฝืน...บอกตามตรงว่าฝืนยิ้มเช่นนั้นออกไปจริงๆ ข้างในผมมันแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี เชื่อมั้ยว่าตอนนี้ชิ
พดูผอมลงแล้วก็ดูแก่ลงมาก ตอนกลางคืนเขานอนกำผ้าปูที่นอนต่อสู้กับความเจ็บปวดในสมอง...ถ้าผมสามารถแบ่งความเจ็บปวด
เหล่านั้นมาได้ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ผมก็ยอม

       เพียงเศษเสี้ยวของความเจ็บในหัวใจ มันเทียบไม่เท่าความเจ็บปวดกายใดๆในโลกนี้เลย

       “เรากลับกันเถอะ วันนี้ผมสูดอากาศเต็มที่แล้ว”

      เรากลับเข้ามาในอพาร์ตเม้นท์ ผมเกลียดตัวเอง และเกลียดทั้งเขา...ที่เรายังแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างยังคงปกติ
ไม่มีความคิดสิ้นหวังหรือความเสียใจ ชิพยิ้มเสมอกับโรคร้ายนั้น รอยยิ้มของเขาทำให้ผมละอาย...เขาซะอีกที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
แต่ผมอดกลั้นต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ขอเพียงแค่วันนี้...วันนี้เท่านั้นที่ผมจะยอมแสดงความรู้สึกอ่อนแอออกมา

       ชิพต้มน้ำร้อนเพื่อชงชา เรานั่งกอดกันอยู่บนโซฟาหน้าทีวีฯ เวลาผ่านไป ผมเฝ้ามองนาฬิกา แทบจะฟังอะไร
ในกล่องสี่เหลี่ยมนั่นไม่รู้เรื่องเลย และแล้วน้ำตามันก็ไหลพรากลงมา เงียบๆ...

       “ชิพ...”

      ผมกัดฟันแน่น ขบกรามจนปวด เพื่อกลั้นเสียงสะอื้นเหล่านั้นไว้ หูตาพร่ามัว...ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้ มัน...ว่าง
เปล่าไปหมด เพียงความคิดที่ว่าผม ‘อาจ’ จะสูญเสียชิพไปตลอดกาล มันก็ทำผมถึงจุดสติแตกได้ง่ายๆ

       “อย่าร้องไห้เลยนะครับแดน”

      น้ำเสียงของเขาปลอบประโลม ผมไม่ใช่เหรอที่ต้องเป็นกำลังใจให้เขา?...

      แย่จัง

       ชิพเบาเสียงทีวี เขากุมมือผมไว้แล้วกอด...อ้อมกอดที่อบอุ่น น้ำตาอุ่นร้อนไหลลงมา ผมมั่นใจว่าจะไม่มีใคร
ในโลกนี้ที่เข้าใจความรู้สึกของผมได้อีกแล้วในตอนนั้น...มันเคว้งคว้าง หวาดกลัว และสับสน

       “ชิพ...ผมกลัว กลัวว่า...”

      “ชู่ว์~~~”

      ชิพจูบหน้าผากผมเบาๆ ผมก็ยังไม่หยุดร้อง มันแปลกนะ ความเจ็บหน่วงลึกในโพรงอก ที่ไม่เคยเป็นรุนแรง
มากเท่านี้มาก่อน เหมือนจะตายจริงๆเลย...ที่แน่ๆคือผมไม่เคยเจ็บมากขนาดนี้มาก่อนเลย

       “คุณต้องเข้มแข็งนะแดน คุณต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเอง เพื่อแม่ของคุณ เพื่อนๆของคุณ และที่สำคัญคุณต้อง
เข้มแข็งเพื่อผม...”

      ผมยกมือขึ้นลูบซีกหน้าหล่อเหล่าของเขา หลับตา...จดจำสัมผัสเหล่านั้นไว้ ลืมตา...ชิพเริ่มมีหยาดน้ำใสเอ่อ
คลอ...มือของเขาสั่น ผิวเย็นเชียบ ผมจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น จดจำไว้...จดจำลมหายใจอบอุ่นนี้ไว้ จำทุกอย่างให้ลึกสู่ห้วงหัวใจ
และสาบานกับตัวเองในวินาทีนั้น...

       ผมขอมอบหัวใจทั้งดวงให้เขาครอบครอง

       “ผมรู้ว่าคุณเสียใจ...แต่คุณต้องเชื่อ คุณต้องเชื่อว่าผมจะหาย”

      ผมพยักหน้า แล้วเราก็สวมกอดกัน จูบลึกซึ้ง...แทนคำกล่าวลาหรือเปล่าไม่รู้ได้...ผมได้มอบทั้งความรัก
ความห่วงใย ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดทั้งมวลและจิตวิญญาณ...ผ่านจูบนั้นให้เขาไปหมดแล้ว

       “ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง...ขอบคุณนะครับแดน”

      เขาก้มลงจูบมือผม หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมา ความรวดร้าวตีกระพืออยู่ข้างใน เขากุมมือผมไว้ขณะจ้องกลับ
มาด้วยดวงตาแดงร้อนผะผ่าว...

       “คุณคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ฟ้าส่งมาให้ผมจริงๆ…”

      “คุณไม่รู้หรอก ว่าหากผมขาดคุณ...ชีวิตผมมันจะมุ่งไปทางไหน…”

      “คุณไม่รู้หรอก ว่าหากผมไม่ได้รักคุณ...ผมจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร…”

      ชิพเอามือผมขึ้นแนบหน้า เขาหลับตาลงและทำท่าเหมือนจะจดจำช่วงเวลานี้ไว้เช่นกัน เราต่างพยายาม...
พยายามใช้เวลาให้คุ้มค่า คุ้มกับทุกวินาทีที่มันผ่านพ้นไปในค่ำคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ต่อไป...คงต้องให้โชคชะตากำหนดเอาเอง...

       “อ้อ ใช่ซิ ผมมีอะไรอยากให้คุณดู...”

      จู่ๆเขาก็ลุกพรวดออกไป ผมนั่งนิ่งงันอยู่ตรงนั้น ครู่หนึ่งเข้าก็กลับมาพร้อมกับลังกระดาษใบใหญ่...ค่อยๆวาง
ลงบนตักผม ชิพคะยั้นคะยอ

       “เอาซิ เปิดเลย”

      ผมปาดน้ำตาให้มองเห็นชัดๆ ฝากล่องค่อยๆถูกเปิดออก ข้างในเป็นกองผ้ากำมะยี บนนั้นมีเจ้าลูกหมาพันธุ์ลา
บาดอร์สีน้ำตาลตัวเล็กน่ารักนอนขดตัวอยู่ ผมอ้าปากค้าง ชิพยิ้มร่า...รอยยิ้มของเขาทำให้ผมพอคลี่ยิ้มบางๆได้บ้างเหมือนกัน

       “ฮือ? นี่มันอะไรกันครับเนี้ย?”

      ชิพช้อนเอาร่างเจ้าตูบขึ้นมาอย่างเบามือ ตัวที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ส่ายหัวไปมา สักพักก่อนจะอ้าปากหาววอด...เปิด
เปลือกตาขึ้นมามองผมสลับกับทำท่าจะหลับต่อ =_=”

       “ก็เจ้าหนูนี่เป็นลูกของเราไง เขาชื่อดิฟ พ่อแดนทักทายเขาหน่อยซิครับ”

      ชิพดัดเสียงเป็นเด็กน้อยแทนเจ้าหนูนี่ แล้วก็ทำท่าเอามือมาแตะๆผมประมาณว่าขอให้อุ้มที แต่ขนาดนี้แล้ว
เจ้าดิฟก็ยังไม่ลืมตาตื่นกับเขาซักที ผมได้แต่หัวเราะแล้วรับมันมาวางไว้บนอก ในอ้อมกอดอุ่นๆ...เจ้าดิฟซุกตัวเข้ามาแล้วหลับปุ๋ย
อย่างสบายอารมณ์

       ผมหันไปทางชิพ

       “นี่คุณแอบเอามันมาตั้งแต่เมื่อไร?!”

       เขาดูพึงพอใจที่ผมตื่นเต้นไปกับ ‘ลูกชาย’ คนใหม่ของเรา...นิ้วเรียวลูบหัวนุ่มสีน้ำตาลนั้นอย่างทะนุถนอมเบา
มือ

       “เมื่อเช้านี้ ผมแอบเอาเขาเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า แล้วก็แอบให้นมตอนคุณเผลอน่ะซิ...โชคดีที่เขาไม่ร้องส่งเสียงเลย
คุณเลยเซอร์ไพรส์ได้ ฮ่าๆๆ เก่งมากลูกพ่อ!”

      เจ้าดิฟน่ารักมากกกกกก >.< น่ารักจนผมหลงรักตั้งแต่แรกพบ(เฮอะๆ) ทำให้ลืมคิดถึงเรื่องพรุ่งนี้ไปได้บ้าง

       “ชื่อดิฟ...ชื่อแปลกๆยังไงไม่รู้นะ”

      “เอ้า~~~ก็เขาเป็นลูกของคุณ ลูกของผม ไม่ให้ชื่อดิฟแล้วจะชื่ออะไรล่ะคร้าบคุณพ่อแดน”

       อ่ะจ้าๆ คุณพ่อชิพ

       “เวลาที่ผมไม่อยู่...คุณกอดเขานะ จะได้เหมือนกอดผม คุณคุยกับเขา จะได้เหมือนคุยกับผม”

      เอาแล้ว...อารมณ์ตื้อๆรื้นขึ้นมาอีกแล้ว =_=”

       “คุณช่วยดูแลเขาเหมือนลูกของเรา แล้วผมจะนอนฝันถึงคุณกับเขาทุกคืน...คุณอย่าลืมเอาเขาเข้านอนด้วยล่ะ
เจ้าหมอนี่ดูท่าจะนอนได้ทุกทีทุกเวลา เดี๋ยวหนาวตายพอดี”

      พูดถึงเรื่องความตาย...ผมสะดุ้ง

       “อ่ะ...ผมขอโทษครับ เผลอไป”

      ผมรับปากเขาว่าจะกอดมันแล้วคิดถึงคุณทุกคืนเช่นกัน แล้วเราก็พาดิฟเข้านอน ส่วนชิพกับตัวผมค่อยๆล้ม
ตัวลงนอนบนเตียงด้วยกัน ห่มผ้าพร้อมกับกอดแบ่งปันไออุ่น...รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยและไม่กลัวเท่าที่เคย เพราะอ้อมกอดนี้ช่างแข็ง
แรง...แข็งแรงและอบอุ่นเหลือเกิน

       “ผมรักคุณครับแดน...”

      เสียงทุ้ม...เสียงที่จะดังก้องอยู่ในโสตประสาทตลอดไป

       “ครับ ผมก็รักคุณเหมือนกัน...”

       ......................................................

       .......................................

       ..........................

       ……………..

       หน้าห้องพักเตรียมคนไข้เข้าสู่ห้องผ่าตัด แม่ แอล และคุณอรเดินออกมาหลังจากพูดคุยให้กำลังใจกับชิพเสร็จ
แม่เดินเข้ามากอดผม...นัยน์ตาท่านแดงๆ

       “พวกเราคุยเสร็จแล้ว ตาแดนแล้วล่ะ”

      ทุกคนเดินหลบออกไป เหลือแต่ผม...ขาหนักอึ้งสั่งให้ก้าวไปข้างหน้าเอง ผมหยุดยืนอยู่ในห้องครื้มๆ มีร่าง
ของชิพนอนเหยียดยาวอยู่เงียบๆ เขาหันหน้ามามองผม ยากำลังออกฤทธิ์...เสียงเครื่องวัดชีพจรทั้งหลายแหล่ดังต่อเนื่อง

       ก้าวไปข้างหน้า พร้อมเผชิญกับความเจ็บปวดใจอันแสนยากลำบาก เป็นครั้งสุดท้าย...

       “ไง...”

      ผมนั่งลง กุมมือเขาที่ยื่นรอรับอยู่...น้ำตาพลันไหลริน ใบหน้าที่ชิพมองมาเต็มไปด้วยความสุข เขายิ้มกว้างให้
ผม หยาดน้ำใสหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตา

       “เราไม่จำเป็นต้องทุกข์หรอกนะ เพียงแค่เรามีความสุขทุกวัน มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ?”

      เขาจับมือผม จับมือของเขา ทาบไปไว้บนหน้าอกของเราสองคน จ้องตากัน

       “เราจะมีกันและกันอยู่ตรงนี้ ในนี้...ตลอดไป”

       เขาปิดเปลือกตาลง นางพยาบาลมายืนรอเข็นเขาเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ผมลูบหัวเรียบเนียนที่เกิดจากการโกนผม
ออกอย่างทะนุทนอม ในที่สุด...ผมก็ได้อยู่กับเขาจนถึงวินาทีสุดท้ายที่สามารถอยู่ได้แล้ว ผมดีใจที่รักษาคำสัญญาไว้ได้ ตอนนั้นต้อง
กัดฟันตัวเองไม่ให้ปล่อยโฮออกมา

       ผมกลัวครับชิพ...ผมกลัว

       ...‘เราจะมีกันและกันอยู่ตรงนี้ ในนี้...ตลอดไป’…   

       นึกถึงคำพูดของชิพที่จู่ๆก็ดังขึ้นในหู จริงซินะ...ผมมีเขาอยู่ในนี้แล้ว ถึงเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะไม่กลัวอีกต่อไป

       “ขอบคุณนะครับชิพ ที่เลือกผม”

       จูบเขาอย่างแผ่วเบา กระชิบว่า ”แล้วเจอกันนะ...”

      ผมปล่อยให้นางพยาบาลเข็นเตียงออกไป ตามทางเดินสีขาวในโรงพยาบาล วันนี้ท้องฟ้าในนิวยอร์คมืดครึ้ม
เป็นพิเศษ ทำให้เวลาสิบโมงเช้าแบบนี้ดูเหมือนเวลาใกล้โพล้เพล้เสียมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากแต่ทว่าทำให้ผมยิ่งรู้สึกหดหู่เข้าไป
อีก...

       แสงจ้าจากทางเดินทำให้ถึงกับต้องยี้ตา ผมนั่งลง ปล่อยให้น้ำตาไหลพรั่งพรูต่อไป ได้แต่เพียงภาวนาว่า
ทุกอย่างจะราบรื่น...ทุกอย่างจะออกมาดี

       ... ‘เราจะมีกันและกันอยู่ตรงนี้ ในนี้...ตลอดไป’...

          



       โปรดติดตามตอนต่อไป

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
มาจิ้ม อิอิ

แต่ปล่อยให้ค้างอีกแล้ววววว  :serius2:

ยังไงก็จำไว้นะ  :angry2: ถ้าจบเศร้า เรื่องหน้าไม่มีตามไปอ่าน  o12

 :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ALeX

  • บุคคลทั่วไป
มาจิ้ม อิอิ

แต่ปล่อยให้ค้างอีกแล้ววววว  :serius2:

ยังไงก็จำไว้นะ  :angry2: ถ้าจบเศร้า เรื่องหน้าไม่มีตามไปอ่าน  o12

 :laugh: :laugh:




อ่าครับ โธ่ๆ...อย่าเพิ่งงอนซิครับ

ก็เข้ายอมให้จิ้มแล้วไง อิอิ

(แบบว่า ล้อเล่นอย่างแรง เดี๋ยวคนใกล้ตัวว่า  :laugh:)

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
รู้น่าว่าคนแต่งใจดี ไม่ให้เศร้าหรอก  :o8:

ว่าแต่ก้อเสียวอยู่นะๆๆๆ ห้ามเศร้า น้า

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
รู้น่าว่าคนแต่งใจดี ไม่ให้เศร้าหรอก  :o8:

ว่าแต่ก้อเสียวอยู่นะๆๆๆ ห้ามเศร้า น้า

อ่าครับพี่ แฮะๆ ไม่แน่น๊า~~~ :oni1:

ปล. ไม่อยากบอกเลยว่าเข้าไปในไฮไฟพี่ตั้งนานแล้ว ตัวจริงจาสวยกว่าในรูปม่ะเนี้ย อิอิ :oni2:

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
คำเดียว เรย ว่ากลัว

ไม่กล้า อ่านตอนต่อ ไปอะ

เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



 :เฮ้อ: :m15: :sad2: :serius2: :o12:


ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
คำเดียว เรย ว่ากลัว

ไม่กล้า อ่านตอนต่อ ไปอะ

เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



 :เฮ้อ: :m15: :sad2: :serius2: :o12:





อ่า...ครับ ผมยังกลัวเลย อิอิ(กลัวว่าจะไม่มีคนอ่าน :m15:)

ถ้าจบเศร้านะฮึ่ม  o12


ถ้าจบเศร้าก็... :เตะ1: รี...ล่างได้เลยครับ แฮะๆ ล้อเล่นๆๆๆ :oni1:

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

sunflower

  • บุคคลทั่วไป
กลัวใจคนแต่งจริงๆ เลย ให้ตายเถอะ  o7

ถ้าจบเศร้านะ เค้าจะ....











จะร้องไห้จริงๆ ด้วย   :o12:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
กลัววววววววววววววววววววว ใจคนเขียน อย่าทำร้ายกันเลยน่ะคับ ขอร้องหล่ะ กาซิกๆๆๆๆ  :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด