Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนจบ  (อ่าน 7955 ครั้ง)

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนจบ
« เมื่อ27-05-2017 12:33:36 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม











เพ้อเพราะรัก



บทนำ



       พรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ซึ่งเป็นวันที่ผมรอคอยใก้มาถึงครับไม่ใช่ว่าอยู่ที่บ้านมันน่าเบื่ออะไรหรอกครับแต่ ถ้าผมได้ไปโรงเรียนผมมก็จะได้เจอกับเขาคนนั้น คนที่ผมแอบชอบมาตลอดเวลาสามปี มันอาจจะไม่นาอะไรขนาดนั้นนะครับแต่มันก็คือรักแหละครับถึงจะไม่สมหวังผมก้ไม่เสียใจหรอกครับ
       เพราะรักในแบบของงผมไม่จำเป็นได้ครอบบครองก็ได้ขอแค่เขาอยู่แบบนี้ให้ผมรักต่อไปก็พอ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2018 06:02:52 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ไอ้ขี้เพ้อ[เพ้อเพราะรัก]
«ตอบ #1 เมื่อ27-05-2017 12:35:07 »

​เพ้อเพราะรัก

​​ตอนที่หนึ่ง


   "ไอ้เชี่ยออม!!"เสียงของเพื่อนผมดังขึ้นทำให้ตัวผมที่กำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกกระจกได้หันกลับเข้ามามองหน้าเพื่อนของผมซึ่งมานั่งอยู่ข้างหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

   "อ่าวไงไอ้แบล็คมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"ผมถามเพื่อนสนิทของผม

   "ก็เมื่อกี้ไงมึง มึงจะเหม่ออะไรนักหนาวะโบกมือให้ก็ไม่ยอมมองจนกูต้องเดินมานั่งตรงนี้แล้วค่อยเรียกมึงเนี่ย" เพื่อนผมมันด่าผมเป็นฉากๆเลยครับราวกับผมไปด่าพ่อแม่มันไว้

   "เออๆกูโทษทีว่ะพอดีกูเบลอๆไปหน่อยเปิดเทอมวันแรกมันตื่นเช้าอ่ะ"ผมแก้ตัวไปงั้นแหละครับที่จริงผมกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ "อ่าวแล้ววันนี้ทำไมมึงมาคนเดียวอ่ะไอ้บอมไปไหนทำไมไม่มาพร้อมกันวะ"ผมถามหาเพื่อนสนิทของผมอีกคนนึงที่หายไปเพราะทุกครั้งไอ้แบล็คกับไอ้บอมมันจะมาโรงเรียนพร้อมกันครับเพราะพวกมันอยู่บ้านใกล้กัน

   “ก็ไอ้บอมแม่งตื่นสายกูขี้เกียจรอมันก็เลยออกมาก่อน”

   “งั้นหรอ”

   “ก็เออหน่ะสิวะ”เพื่อนผมตอบแบบกวนตีนเหมือนเดิมครับไม่ว่าจะผ่านไปกี่เทอมก็ตาม”ว่าแต่มึงนี้เปิดเทอมวันแรกทำไมมาเร็วจังวะ หรือว่า.....”มันทำหน้ารู้ทันผมครับ

  “ไม่มีชง มีเชี่ยอะไรทั้งนั้นแหละก็กูหิวข้าวกูก็เลยมานั่งกินขนมปังกับนมรอพวกมึงนี่ไงแม่งชอบมาช้า“ผมด่ามันกลบเกลื่อนไปงั้นแหละครับเดี๋ยวมันจะล้อผม

  “หรอออออออออ”มันลากเสียงยาวครับมันหน้าตบหัวมันทิ่มโต๊ะนัก

  “ก็เออหน่ะสิ”ผมกระชากเสียงตอบมัน

  “กูนึกว่ามึงมารอ....”

กริ๊ง กริ๊ง เสียงประตูร้านเปิดออกทำให้ไอ้แบล็คและผมหันไปมองคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางปกติแต่สำหรับผมคิดว่ามันช่างเท่ห์เหลือเกินโดยเฉพาะคนที่เดินนำหน้าเพื่อนในกลุ่มของเขา เขาชั่งตัวสูง ผิวขาวแล้วก็เท่ห์ระเบิดสุดๆไปเลย ซึ่งไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะครับที่มองพวกเขาแต่มีคนอีกหลายกลุ่มที่หันไปมองพวกเขาอย่างไม่ละสายตาโดยเฉพาะพวกผู้หญิงและเด็กนักเรียนหน้าใหม่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพวกเด็ก ม.4 ที่พึ่งจะเข้ามาเรียนที่นี่ จนในที่สุดพวกเขาก็เดินไปนั่งที่โต๊ะซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามอยู่ทางด้านซ้ายมือของโต๊ะพวกผมพอดี

    “แหมมมมมมม มึงนี่ไม่ได้รอใครเลยเนาะ”มันมองหน้าผมพลางเบะปาก

   “กูเปล๊า”ผมปฏิเสธอย่างเคยครับ

   “กูเปล๊า”มันทำเสียงล้อเลียนผมครับ “มองตามขนาดนั้นไม่ได้รอเลยเนาะ”

ไอ้สึดล้อกูอีกแล้วถึงงี้ไงกูถึงไม่อยากให้มึงรู้ไอ้เพื่อนเลว

   “เออ รอก็รอพอใจยัง”ก็ต้องยอมบอกมันตามเคยครับอย่างว่าเพื่อนสนิทโกหกยังไงมันก็จับได้อยู่ดี

   “แล้วมึงจะแอบมองมันทำไมวะ ไปกูจะพาเข้าไปนั่งกับมันเอาแบบมีทแอนด์กรี๊ดเลยมั้ย ป่ะ!!”ไม่ว่าเปล่าครับมันลุกขึ้นจับมือผมพลางดึงจะพาไปโต๊ะฝั่งตรงข้าม

   “ไม่เอากูไม่ไป”ผมบอกมันเสียงเบากลัวฝั่งตรงข้ามจะได้ยินและหันมามองว่าพวกผมกำลังทำอะไรกันอยู่ แต่ไอ้แบล็คมันก็ไม่ล้มเลิกความพยายามดึงผมออยู่นั่นแหละ จนผมเริ่มเสียงดังขึ้นอีกครั้งเลเวลหนึ่ง แล้วในที่สุด

เพี้ยะ!!

เสียงฝ่ามือของไอ้บอมแล้วกระทบกับกะโหลกหนาๆของไอ้แบล็คซึ่ง

    “ไอ้เชี่ย แม่งตบกูทำไมวะ”ไอ้แบล็คหันกลับไปด่าไอ้บอมนั่นทำให้ไอ้แบล็คปล่อยมึออกจากแขนของผมจนได้

    “แล้วมึงไปแกล้งมันทำไมวะก็รู้อยู่ว่ามันอาย”ไอ้บอมด่าไอ้แบล็ค “แถมยังไม่รอกูอีก”

   “ก็มึงตื่นสายอ่ะกูขี้เกียจรอ”

   “เออแม่งหยุดเถียงกันแล้วนั่งลงดิคนจะหันมามองหมดแล้ว”ผมเอ็ดเพื่อนสองคนอย่างไม่จริงจังนัก แล้วพวกมันทั้งสองคนก็ยอมนั่งลงในที่สุด

   “เออพวกมึงกินไรยัง”ไอ้บอมถามขึ้น

   “กินแล้ว”ผมตอบ

   “แต่กูยังไม่กิน”ไอ้แบล็คสวนขึ้น

   “แล้วทำไมมึงยังไม่กินวะ”ไอ้บอมถาม

   “ก็กูรอมึงไง”

   “โหมึงเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆว่ะ”

   “อย่าสำคัญตัวผิดไปนะครับที่กูยังไม่กินเพราะมึงติดเงินกู 54บาท25สตางค์เมื่อเทอมที่แล้วกูเลยรอเอาเงินจากมึงอยู่นี้เอามาเร็วๆกูหิว”ไอ้แบล็คว่าพลางแบมือออก

   “ตอนไหนวะกูจำไม่ได้”ไอ้บอมพูดพลางทำหน้าเลิ่กลัก

   “มึงจะให้กูแจกแจงใช่มั้ยได้” ไอ้แบล็คพูดด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนกับจะบอกว่ากูจะไม่ยอมมึงอีกต่อไปแล้ว “ใน วันพฤหัส ที่ 24 พฤษจิกายน 25xx เวลา 16นาฬิกา 45นาที 29วินาที มึงยืมเงินกูไม่ใช่สิ ดึงไปจากมือกูเอาไปซื้อกาแฟของอิพริ๊ตตี้นมตู้ม จำนวน 55บาท กาแฟข้างถนนเชี่ยอะไรตั้ง 55บาท แต่อิพริ๊ตตี้บอกว่าลดราคาพิเพษต้อนรับคริสมัส มันเลยทอนให้มึง 75สตางค์ ลดเชี่ยอะไรวะ 75สตางค์” เมื่อไอ้แบล็คพูดเสร็จก็หยิบเอาสมุดเล่มเล็กออกมาพลางเปิดไปที่หน้าที่เขียนตัวหนังสือสีแดงพร้อมรายละเอียดที่พูดมาเมื่อกี้ให้ไอ้บอมดู “เป็นไงจำได้ยัง”

   “เออสัส จะลืมได้ไงล่ะเทอมที่แล้วมึงทวงกูทุกวันเลยหนิ” ไอ้บอมพูดหน้าจ๋อย

   “ก็มึงแม่งไปซื้อกาแฟอิพริ๊ตตี้นั่นมันทำให้กูอดซื้อเค้กให้แฟนกู จนต้องเลิกกันไงสัส”แบล็คตอกกลับอย่างถึงพริกถึงขิงจนผมอดที่จะชื่นชมในความแค้นฝังหุ่นของมันซะไม่ได้

   “แบล็คมึงแม่งเทพว่ะ”

   ในที่สุดไอ้บอมก็ยอมควักเงินออกมาจากกระเป๋าจำนวน55บาทให้ไอ้แบล็คและที่เด็ดกว่านั้นคือ

   “เอานี้กูทอน”ไอ้แบล็คควักเงินจำนวน75สตางค์ออกมาจากกระเป๋าแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะจนผมต้องปรบมือให้มัน “นี้คือเงินทอนของอิพริ๊ตตี้นั่นเอาไป”

   “กูเคารพมึงจากใจจริงเลยว่ะไอ้แบล็ค”ผมพูดออกมาจากใจจริง

   “เออ กูหิวแล้วไปซื้อของกินกัน”ไอ้แบล็คชวนไอ้บอมที่กำลังหน้าบึ่งกำลังจะลุกขึ้นแต่แล้วมันก็เปลี่ยนใจแล้วนั่งลง “ไอ้ออมไปซื้อให้กูหน่อย”

   “อะไรของมึงวะ”ผมโวย “คนยิ่งขี้เกียจอยู่”

   “กูจ้าง”

   “มึงจะเอาเงินฟาดหัวกูหรอ”ผมมองหน้ามันไม่กระพริบตาเลยครับทีนี้

   “เออ หรือมึงจะไม่เอา”มันมองหน้าผมกลับ

   “เอาสิครับเพื่อน”ก่อนที่ผมจะยิ้มอย่างเต็มที่ให้มัน “แล้วจะเอาอะไรบ้างครับ”ผมถามอย่างประจบก็แหงล่ะผมชื่อออมหนิก็ต้องรู้จักค่าของเงินเป็นธรรมดา

   “เอาครัวซองสองชิ้น แยมสตรอเบอร์รี่กับแยมส้มอย่างละอันแล้วก็นมจืดสองกล่อง”

   “นี่มึงกินหรือแดกวะ”ผมถามเพราะเห็นมันสั่งอย่างกับตายอดตายอยากมาจากไหนทั้งๆที่บ้านมันก็รวย

   “กูสั่งให้ไอ้บอมด้วยไง”มันตอบข้อสงสัยผม

   “ไม่เอากูไปซื้อเอง”

   “ถ้ามึงไปก็หารสอง”ไอ้แบล็คพูดขึ้นนี้แหละครับวิญญาณลูกเจ้าของตลาดเข้าสิงมันครับเวลาจะเอาแต่ใจก็งี้

   “ถ้างั้นกูไปคนเดียวดีกว่า”แล้วผมก็รีบเดินไปที่เคาน์เตอร์โดยที่มองเห็นไอ้แบล็คกำลังกระซิบไอ้บอมแล้วก็ยิ้มกันอยู่สองคน

เมื่อผมเดินมาถึงเคาน์เตอร์ผมก็สั่งอาหารที่ต้องการทันทีแต่

   “เอาครัวซองสองชิ้นครับ/เอาครัวซองหนึ่งชิ้นครับ”ผมสั่งพร้อมกับใครคนนึงที่กำยืนอยู่ข้างหลังผม ผมจึงรีบหันกลับไปข้างหลังแล้วมองหน้าอีกคนนึงซึ่งสูงกว่าผมประมาณซักเซ็นได้แล้วเขาก็ยิ้มให้ผม

   “เอาไปก่อนเลยก็ได้นะ”พระเจ้าอะไรจะสุภาพบุรุษจุฑาเทพขนาดนี้ แถมยังหล่ออีกต่างหาก ณ จุดๆนี้ จุดที่ได้ยืนใกล้เขาขนาดนี้ ผมนี้แทบจะหัวใจวายตาย เอาแต่แหงนหน้ามองใบหน้าของเขาอย่างละสายตาไม่ได้ ให้ตายเถอะผมต้องเป็นหินไปแล้วแน่เลยแต่ สติๆ ต้องมีสติเท่านั้นถึงจะผ่านไปได้

   “เออ”ผมพูดขึ้นเสียงดังโดยที่ไม่ได้ตั้งใจทำให้คนที่อยู่ข้างๆแถวนั้นหันมามองแล้วเขาก็ดูเหวอๆไปจึงหันหน้ากลับมาที่เคาน์เตอร์

   “เอาครัวซองสองชิ้น แยมสตรอเบอร์รี่กับแยมส้มอย่างละอันแล้วก็นมจืดสองกล่องครับ”ผมสั่งแบบเร็วๆรัวๆด้วยความตื่นเต้นสั่งถูกหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

  “โหทำไมกินเยอะจังเลยอ่ะ”เขาทำเสียงตกใจซึ่งทำให้ผมยิ่งเขินขึ้นไปอีก แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อจะตอบเขาว่าไงดี แต่เคยอ่านเจอมาว่าถ้าคุยกับคนที่แอบชอบให้ทำเย่อหยิ่งเข้าไว้จะได้ดูแพง

   “ยุ่ง”คำเดียวสั้นๆแต่โก้เรียบหรู แพงแน่นอน

   “เอ่อ ขอโทษ”น้ำเสียงของเขาดูหม่นๆลงทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีจึงได้พูดออกไปว่า

    “ยุงอ่ะเยอะเนาะ”ผมหันหน้าไปพูดกับเขา

   “อ่าวว่ายุงหรอนึกว่า ด่าเรา”เขาพูดพลางยิ้ม

   “เปล๊าาา”เสียงสูง

เขายิ้ม

   “ได้แล้วค่ะ”พนักงานเรียกทำให้ผมหันไปรับถาดจ่ายเงินแล้วเดินหยิ่งๆออกจากตรงหน้าเคาน์เตอร์มาจนใกล้ถึงโต๊ะผมจึงนึกขึ้นได้ว่าลืมขอบคุณพ่อสุภาพบุรุษซังนัมจาของผม ผมจึงรวบรวมความกล้าแล้วเดินกลับไปยังหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งตอนนี้เขากำลังเดินถือถาดออกมาจากหน้าเคาน์เตอร์ ผมกำลังจะใกล้ถึงเขาแล้วแต่มีผู้หญิงคนเดินตัดหน้าผมแล้ววิ่งเข้าไปคุยกับเขาอย่างสนิทสนม ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจว่าเขาเป็นแฟนกันหรือเปล่า ผมจึงตัดสินใจเดินกลับมาที่โต๊ะของผมที่มีไอ้เพื่อนสองคนนั่งยิ้มอยู่จนมันเห็นสีหน้าของผม พวกมันจึงหยุดยิ้มแล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

   “เป็นไรวะ ไม่ฟินหรอ”ไอ้แบล็คพูดขึ้น

   “ฟินกับผีน่ะสิ”ผมพูดหน้าหงอยๆ “มึงดูดิเขาเขาทำอะไรอยู่กับใคร”

ทั้งสองมองไปยังสุภาพบุรุษซังนัมจา ของผมที่กำลังคุยกระดี้กระด้ากับผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งอยู่

   “เออแม่งน่ารักว่ะ หุ่นนี้แบบ.....”ไอ้บอมพูดขึ้นก่อนที่จะโดนไอ้แบล็คเอาข้อศอกกระทุ้งสีข้างจึงหยุดลง

   “เออ มึงเขาอาจจะเป็นพี่น้องกันก็ได้”แบล็คพูดขึ้น

   “เออจริงๆ อย่างที่ไอ้แบล็คว่า”ไอ้บอมเสริมขึ้น

   “พวกมึงรีบกินเถอะจะได้รีบเข้าโรงเรียน”ผมพูดขึ้นดูจะไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ จนไอ้สองคนนี้กินเสร็จแล้วเราก็เดินเข้าโรงเรียนด้วยกันในใจของผมได้แต่ภาวนา

ขอให้สองคนนั้นเป็นแค่พี่น้องกันด้วยเถิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2017 12:39:50 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ เปลว แว๊บแว๊บ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ไอ้ขี้เพ้อ[เพ้อเพราะรัก]
«ตอบ #2 เมื่อ27-05-2017 13:26:11 »

สนุกมากเลยค่ะรอตอนต่อไปนะ แต่อย่าลืมแปะกฎเล้าด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สอง

ผมเดินขึ้นไปห้องโฮมรูมด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ไม่ใช่อารมณ์แนววีนเวี่ยงอะไรแบบนั้นนะครับแต่เป็นอารมณ์หน่วงๆยังไงไม่รู้ แต่ผมก็ทราบสาเหตุแหละครับว่าเพราะอะไร แต่เฮ้ออออ.....  ผมมันก็คงได้แต่แอบน้อยใจในมุมของผมหน่ะแหละ แล้วก็เศร้าอยู่คนเดียว เสียใจอยู่คนเดียวตามเคย แอบรักมันง่ายซะที่ไหนล่ะครับ แสดงตัวมากก็ไม่ได้ทำตัวออกนอกหน้าก็ไม่ได้ แต่ที่ผมรักเขามาได้นานขนาดนี้ก็คงเป็นเพราะผมเลือกที่จะมองแต่ในด้านที่ดีของความรู้สึกที่มีต่อเขา ผมก็เลือกที่จะมองและคิดแต่ในด่านที่ดีๆ ผมไม่รู้หรอกนะว่าใครจะคิดยังไง แต่ผมคิดแค่ว่าในเวลาที่ผมได้รักเขาผมแม่งโคตรมีความสุข แล้วอีกอย่างตั้งแต่ผมรักเขาผมก็เริ่มรู้จักทำอะไรหลายอย่างเพื่อตัวเองมากขึ้น(เป็นผลพลอยได้จากการที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออยากให้เขาหันมามอง) ผมบอกได้เลยว่าในจุดๆนี้ ผมมาไกลมากจริงๆ ถึงแม้ว่าในยามที่ผมได้รักเขามันจะดีมากแค่ไหนแต่ในยามที่เห็นเขาอยู่กับคนอื่นผมก็อดเศร้าไม่ได้ทุกที มันมีทั้งความอึดอัดบางอย่างที่ดูเหมือนจะหึงมั้งแต่ก็ต้องก็ต้องคอยเก็บไว้ก็เราแม่งไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขาเลยซักอย่าง ผมล่ะเหนื่อยใจ     “เฮ้ยออมมึงจะคิดมากทำไมวะอาจจะไม่ใช่แบบที่มึงคิดก็ได้”ไอ้แบล็คพูดขึ้น

    “เออใช่กูเห็นด้วยกับไอ้แบล็คนะ”ไอ้บอมเสริมทัพอีกตามเคย

    “เออช่างแม่งเถอะ กูกะว่าจะเลิกชอบเขาแล้วล่ะ”ผมตอบมันไปตามที่คิด

   “เฮ้ยมึงคิดดีๆก่อน”ไอ้บอมมันบอกผมพร้อมกับกระทุ้งไอ้แบล็คให้เสริมทัพ

   “เออใช่”ไอ้แบล็คพูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักเพราะไอ้แบล็คมันไม่ค่อยถูกกับความรักน่ะครับมีความรักทีไรเสียใจทุกทีแต่มันก็คอยช่วยผมในเรื่องแบบนี้ตลอดสนับสนุนตลอดผมล่ะซึ้งใจจริงๆ

    “กูแม่งไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขาสักอย่างเลยนะเว้ย”ผมพูดในสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ในตอนนี้

    “แล้วไงวะ”ไอ้บอมถามขึ้น “มึงแน่ใจหรอวะว่านี่คือเหตุผลของมึง”

    “เฮ้ยไอ้บอม”ไอ้แบล็คปลามไอ้บอมครับ

   “กูไม่รู้”ผมตอบเสียงแผ่ว

   “กูรู้ว่ามึงชอบมัน แล้วกูก็ไม่อยากเห็นมึงมาเสียใจเพราะความคิดโง่ๆของมึง มึงการที่เรารักใครซักคน มึงเห็นว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยหรอวะ อย่างมึงอ่ะรักใครได้ง่ายๆซะที่ไหน กูว่าเราจะพบคนที่เรารักจริงๆอะมันไม่ง่ายขนาดที่จะเดินไปแล้วเจอได้ทุกสิบเมตรนะเว้ย แล้วมึงจะยอมทิ้งทุกอย่างไปโดยที่จะไม่สู้เพื่อมันเลยหรอวะ”ไอ้บอมพูดออกมาเป็นชุดใหญ่เลยครับทีแต่มันไม่ได้ด่านะครับเป็นทำนองเตือนสติมากกว่า“ถึงกูจะไม่เคยมีแฟนเลยนะเว้ย แต่กูก็รู้ว่ามันต้องมีขั้นตอนเพื่อพิสูจน์ความรักของเรามากมายกว่าจะรักกันได้ แล้วถ้าเป็นกู กูก็จะสู้เพื่อมัน”

   “เออไอ้แบล็คแม่งพูดได้ดีว่ะ แม่งไปเอามาจากไหนวะ”ไอ้แบล็คถาม

   “ฟิค”สั่นๆแต่ได้ใจความครับ

   “สัส แต่แม่งเจ่งว่ะ”ไอ้แบล็คชม

   “กูไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้นะเว้ยแต่ถ้าสองคนนั้นเขาเป็นแฟนกันล่ะกูยังควรที่จะสู้ต่อหรอ”ผมถามเศร้าๆ

   “ก็แค่ 'แต่ถ้า' ป่ะวะยังไม่ชัวร์ซักหน่อย”ไอ้บอมอีกตามเคยครับ

   “กูเห็นด้วยนะ ถึงกูแม่งไม่เคยจะเจอรักกที่ดีเลยซักครั้ง”ไอ้แบล็คเสริมทัพหน้าเศร้าๆครับ “แต่กูไม่เคยเอาอะไรที่ไม่แน่นอนมาตัดสินว่าจะเลิกกับแฟนของกูเลยซักคนเลยนะเว้ย มีผัวใหม่ หมดรักกันแล้วก็ต้องรู้ให้มันเคลีย”

   “เป็นเคสสตัดดี้ที่ดีว่ะ”ไอ้บอมชมอย่างเห็นใจ

   “แล้วอีกอย่างถึงความรักของกูจะไม่สมหวังเลยแต่กูก็อยากเห็นมึงมีความสุขนะ”

    “ขอบใจพวกมึงมากนะเว้ย แต่วันนี้กูขอพักใจก่อนดีกว่าวะ”ผมบอกอย่างเหนื่อยอ่อน

     “ถ้างั้นอีกไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนคาบแล้วอ่ะ ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไปจะได้สดชื่น”ไอ้บอมพูดขึ้น

    “เออก็ดีว่ะ งั้นกูฝากถือกระเป๋าให้ด้วยนะเรียนบาสใช่ป่ะ”ผมถาม

   “ก็ไปด้วยกันไง”ไอ้แบล็คพูด

   “ไม่เอาอะกูจะไปคนเดียว อยากคิดอะไรด้วยอ่ะ”ผมบอก

   “เออก็ได้”ไอ้บอมตอบ

   “อย่าเพ้อให้มันมากนะมึง”ไอ้แบล็คแควะผมอีกแล้ว

   “เพ้อพ่อง”ผมด่ามันกลับครับพร้อมกับยิ้มนิดหน่อย

ผมเดินไปห้องน้ำแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่าเขากับผู้หญิงคนนั้นจะใช่แฟนกันหรือเปล่ายิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ไม่เอาๆไม่คิดๆๆๆๆๆ(สะบัดหัวไล่ความคิดออกไป)

ปั๊ก!!!

   “โอ้ย”ผมเดินไปชนกับใครเข้าก็ไม่รู้แต่ที่รู้ตอนนี้เจ็บก้นครับ

   “ขอโทษนะครับ”คนที่ผมเดินชนพูดขึ้น

ผมจึงหันหน้าไปมองเขาตอนนี้หน้าของเขากับผมอยู่ใกล้กันมากครับเพราะเขากำลังก้มลงมาเพื่อที่จะช่วยพยุงผมขึ้น ให้ตายสิผมทำอะไรไม่ถูกอีกแล้วต้องทำไงต่อไปดีเจอเขาทีไรคิดจะตัดใจก็ทำไม่ได้ทุกที ก็เพราะอย่างงี้ไงดีขนาดนี้คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองขนาดนี้ใครจะไม่รักไหว

   “เป็นอะไรมากมั้ยครับ”เขาถามผมขึ้น

  “เปล่าอ่ะ ไม่เป็นไรมากแล้วดินล่ะ”ใช่ครับคนที่ผมชอบชื่อดินและตอนนี้ผมถามเขาครับหยิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วตอนนี้

   “ไม่อ่ะ ไม่เป็นไรแต่...”เขามองไปที่เมล็ดอะไรซักอย่างที่หล่นอยู่เต็มพื้น

   “เฮ้ยขอโทษนะมาเราเก็บช่วย”

   “เฮ้ยไม่เป็นไร”

   “ไม่เป็นไรเราช่วยเองเป็นเพราะเราไม่ดูทางเองเลยทำให้เป็นแบบนี้”พูดเหมือนรู้สึกผิดนะครับแต่ที่จริงดีใจนะครับที่ได้อยู่ใกล้เขา

    “ขอบใจนะ”

   “เฮ้ยขอบจงขอบใจอะไร เต็มใจ”เขาหันมามองหน้าผมครับ “อ๋อก็เราเป็นคนทำไงเราก็ต้องเต็มใจช่วยอยู่แล้ว”ผมแก้ตัวพลางหลบหน้าเขาครับ

   “ว่าแต่เมื่อกี้เป็นอะไรอ่ะ”เขาถามพลางมองหน้าผมครับ

   “อ๋อ.. เรา.. เวียนหัวอ่ะ”ผมแก้ตัวอีกแล้ว แล้วจะให้ผมตอบว่าไงล่ะครับบอกว่ากำลังคิดถึงดินอยู่อย่างนี้หรอบ้าใครจะไปทำ

   “เป็นไรมากป่ะเนี้ย”เขาพูดพลางเอามือมาแตะหน้าผากของผมครับ “ตัวก็ไม่ร้อนหนิ เครียดหรอ”

   “ปล่ะ..เปล่า เราเป็นบ่อยๆอะเป็นอะไรไม่รู้”ให้ตายเถอะเขาเอามือมาแตะหน้าผากผมแถมยังเป็นห่วงผมอีกมั้ง

   “ไปหาหมอบ้างนะ”เขาบอกแบบนี้ชัวร์ครับเป็นห่วงร้อยเปอร์เซ็น “ว่าแต่....”

   “ฮึ่ม”

   “ออมรู้จักชื่อเราได้ไงอ่ะ”ถามผมแบบนี้จะให้ผมตอบยังไงล่ะครับถึงจะเคยเห็นกันมาตั้งแต่ ม.4 ก็ใช่ว่าจะเคยคุยกันนะครับพึ่งคุยกันครั้งแรกเมื่อเช้านี้เองผมถึงได้ตื่นเต้นไงครับ

   “เออเสร็จแล้วอ่ะ”ผมรีบตัดบท “เราไปเรียนก่อนนะ”ผมพูดเสร็จก็รีบวิ่งออกไปโดยที่ได้ยินเสียงแว่วๆของเขาตามหลังมาแต่ก็ได้ยินไม่ชัด

ผมวิ่งมาจนถึงสนามบาสทันครู ธีรวัฒ กำลังเช็คชื่ออยู่ พอเช็คชื่อเสร็จครูเขาก็ปล่อยให้ลองเล่นกันไปก่อนเพราะเป็นเปิดเทอมวันแรกแล้วผมก็ยังคิดเรื่องนั้นตลอดเวลาที่เล่นจนไอ้สองตัวนั้นเข้ามา

   “ไอ้ออมมึงเป็นอะไรวะ ยิ้มอยู่ได้”ไอ้แบล็คถาม “หรือว่ามึงรู้แล้วว่าสองคนนั้นเขาเป็นอะไรกัน”

ผมหุบยิ้มทันที

   “เออว่ะเขาเป็นอะไรกันวะ”ไอ้บอมเสริมทัพตามเคยครับ

  “แม่งกูอุส่าลืมแล้วพวกมึงแม่ง”ผมบ่น

  “เอ้ากูก็นึกว่ามึงรู้แล้ว”ไอ้แบล็คพูดขึ้นท่าทางผิดหวัง “แล้วมึงยิ้มเรื่องอะไรวะ”

  “เรื่องของกู”ผมตอบกวนๆ

  “กูจะจำไว้”ไอ้แบล็คพูด

  “เออบอกก็ได้”พวกมันทำหน้าดีใจครับเผือกสุดๆ “แต่พักเที่ยงก่อน”ไอ้แบล็คกับไอ้บอมทำหน้าเซ็งสุด

    “แม่งลีลาว่ะ”ไอ้บอมบ่น

    “แล้วจะฟังป่ะ”ผมถามอย่างเหนือกว่าทุกด้าน

   “ฟังดิแม่ง”ไอ้แบล็คทำหน้าตาเหมือนต่อมเผือกของแม่งจะแตกยังไงอย่างงั้นแต่ก็ยอมอดทนรอ

    เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงผมจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง

   “แม่งฟินว่ะสัส”แบล็คพูดขึ้น

   “แม่งอย่างกับฟิค”ไอ้บอมวิภาควิจารในสายของมัน

   “ว่าแต่พวกมึงว่านี่มันเมล็ดอะไรวะ”ผมถามมพร้อมกับยื่นเมล็ดพืชในมือให้พวกมันสองตัวดู

   “แม่งใครจะไปรู้วะไม่ใช่นักพันธุศาสตร์”ไอ้แบล็คตอบกวนตีนตามเคย

   “กูว่าเมล็ดอะไรไม่สำคัญแต่ที่สำคัญก็คือว่ามึงรู้อีกอย่างแล้วว่ามันชอบปลูกต้นไม้”ไอ้บอมพูดขึ้น

    “เออจริงว่ะ”

   แล้วรอบตัวผมก็เริ่มมีเสียงซุบซิบดังขึ้นแล้วก็มีเสียงกรี๊ดเบาๆมาจากโต๊ะข้างๆแล้วเสียงของโต๊ะทางด้านขวาที่มีสาวอ้วนเป็นหัวโจกก็ดังขึ้น

   “เออแม่งผู้ชายอะไรวะหล่อจัง”

   “พ่อของลูกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

   “แกรรรรรรรรร......เขามาทางนี้แล้วอะ”

  “มาหาฉันแน่นอนเลย

   “กรี๊ดดดดดดดด”

   “อะไรกันวะมึง”ผมถามเพื่อนทั้งสองคนของผม

   “มึงลองหันหลังดูดิ” ไอ้บอมบอก

   ผมค่อยๆหันไปตามที่มันบอกจนเห็นดินกำลังเดินเข้ามาทางโต๊ะที่ผมอยู่

   “เฮ้ยเชี่ยมึงว่าแม่งมาหาใครวะ”ผมถามเพื่อน

   “กูว่ามึง”ไอ้แบล็คตอบท่าทางมั่นใจ

   “กูพ่องมึงสิ”ผมด่ามันแก้เขินแล้วหันกลับไปมองเขาที่กำลังส่งยิ้มมาให้ทางผม ผมไม่มั่นใจว่าเป็นผมหรือปล่าวจึงยิ้มจางๆให้แล้วเขาก็ใกล้เข้าๆ จนในที่สุด

    “ดิน ดิน ดิน!!!”เสียงของครูวิชัยหัวหน้าหมวดสุขศึกษาและพละศึกษาดังขึ้นแล้วกวักมือเรียกดินจนทำให้ดินต้องรีบเดินไปหา

   แล้วเสียงจากโต๊ะข้างๆก็ดังขึ้น

   “โอ้ยยยยยย ลำไยคร้า.....”สาวอ้วนพูดขึ้น

   “เออจริงงเลยนกเลยอุส่าลุ้น”

   “มึงกูว่าเราไปกันเถอะ”ผมชวนไอ้สองตัวที่กำลังกินข้าวอยู่

   “อะไรวะ แดกยังไม่เสร็จเลย”ไอ้บอมโวยครับ

   “เออจะรีบไหนวะ”ไอ้แบล็คช่วยเสริมครับ

   “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเลี้ยงข้าวเช้าเอาป่ะ”ผมรีบเสนอให้มันสองตัวเพราะผมอยากไปจากที่นี่แล้ว

   “เออๆแม่งจะรีบไปไหนวะ”ไอ้แบล็คบ่นแต่ก็ยอมลุกขึ้นเดินตามมา

   แล้วพวกผมก็พากันขึ้นเรียนจนเลิกเรียนแล้วก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้าน

   “แม่ครับสวัสดีครับ”ผมกลับถึงบ้านแล้วก็ต้องทักทายแม่อย่างเคยก่อนที่จะเข้าไปกอดแม่แล้วหอมแก้มทีนึง

   “ไม่ต้องมาอ้อนเลย แล้วกินอะไรมาหรือยัง”แม่ถาม

   “ยังครับ”

   “กินแตงโมในตู้เย็นไปก่อนนะเดี๋ยวค่อยกินข้าว”

   “ครับ”

   ผมเอาแตงโมออกมานั่งกินเล่นจนเห็นเมล็ดของมันจึงนึกขึ้นได้

   “เอ่อ...แม่ครับช่วยดูให้หน่อยสิครับว่านี่มันเมล็ดอะไร”ผมแบมือและยื่นให้แม่ดูเมล็ดพืชที่อยู่ในมือผมแค่เมล็ดเดียว

   “แม่ไม่รู้หรอกจ้ะแต่พ่อน่าจะรู้รอพ่อกลับมาจากทำงานค่อยถามพ่อดูสิ”

   “ครับ"

   “แล้วทำไมวันนี้แม่โทรไปไม่รับสายเลยล่ะ”แม่ถาม

   “เอ๊ะ แม่โทรมาด้วยหรอไม่เห็นได้ยินเลย”

   “ไหนเอาโทรศัพท์มาดูสิ”

   “โทรศัพท์ เฮ้ย ใช่แล้วโทรศัพท์อยู่ไหนอะ”ผมว่าพลางค้นหาโทรศัพท์ไปทั่วทั้งในกระเป๋านักเรียนและในบ้าน “แม่สงสัยออมทำหายอ่ะแม่”ผมทำหน้าหงอยเพราะเสียดายภาพและข้อมูลในเครื่อง ก่อนจะโดนแม่สวดว่าไม่รู้จักรักษาของ ของตัวเองให้ดีแล้วอีกมากมายหลายอย่างจนในที่สุด

กริ๊งงงงงงงงงงงง

เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นผมเลยอาสาแม่ไปดูว่ามีใครมา จนเห็นซองอะไรบางอย่างแขวนอยู่หน้าบ้านผมจึงเปิดดู อ้าวนี้มันโทรศัพท์ของผมที่หายไปนี่นา แล้วก็มีโน๊ตแปะอยู่ว่า *อย่าลืมอีกนะ* ผมดีใจมากที่ได้มันกลับคืนมาแต่ก็อยากขอบคุณคนที่เอามาคืนด้วยเช่นกันแต่ไม่รู้ว่าเขาคือใครนี่สิ

   “ขอบคุณนะ”ผมตะโกนออกไปโดยที่ไม่มีใครอยู่หน้าบ้านผมเลยด้วยซ้ำคิดแค่ว่าเผื่อเขาได้ยินและผมอยากขอบคุณเขา

    แล้วผมก็เข้าไปในบ้านเล่าเรื่องที่คนเอาโทรศัพท์มาให้แม่ฟัง

     “แปลกจังทำไมไม่เอาให้ด้วยตัวเอง”แม่พูดขึ้น

   “ไม่รู้เหมือนกันแม่”ผมตอบ

   “คงไม่ใช่โรคจิตรหรอกนะ”

   “บ้าไม่ใช่หรอก”

   ผมกับแม่ก็นั่งคุยกันจนพ่อกลับมาจากทำงาน แล้วจึงได้ทานข้าวเย็นกันจนทานเสร็จผมจึงถามพ่อว่าเมล็ดที่ผมมีอยู่คือเมล็ดอะไรพ่อบอกว่าพ่อไม่รู้แต่มีวิธีแต่ผมต้องหาคำตอบเองมันจะมีคุณค่ากว่าโดยการให้ผมปลูกเมล็ดนั้นแล้วคอยดูว่ามันจะเป็นต้นอะไรผมจึงลงมือปลูกในทันทีแล้วขึ้นไปอาบน้ำก่อนนอนผมได้เอากระถางต้นไม้มาวางไว้ที่ระเบียงหน้าต่างแล้วก็นอนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในวันนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างจนถึงตอน.......

“ไปหาหมอบ้างนะ   ว่าแต่.......”

“ฮึ่ม”

“ออมรู้จักชื่อเราได้ไงอะ”

   “เฮ้ย ดินรู้จักชื่อเราด้วยว่ะ”ผมร้องขึ้นเสียงดังแล้วลองคิดดูดีๆอีกทีจนมั่นใจว่าจำไม่ผิดแน่นอนผมเลยนอนชักดิ้นชักงอทั้งคืนจนไม่ได้นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2017 08:49:21 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สาม

   ในวันนี้ก็เหมือนๆทุกๆวันที่เป็นช่วงเปิดเทอมของผมน่ะแหละครับ แต่ที่แตกต่างนิดหน่อยคือเมื่อคืนผมไม่ไดนอนมัวแต่คิดเรื่องของดินทั้งคืน คิดแต่ว่าเขารู้จักผมได้ยังไง รู้จากใคร แล้วเขาคิดอะไรกับผมหรือเปล่า ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรที่จะมั่นใจได้ซักอย่างเพราะผมก็ยังรู้จักเขาไม่มากพอที่จะไปเดาหรือตัดสินความคิดของเขาได้ว่ามันคืออะไรก็ได้แต่เดาและภาวนาเท่านั้นแหละครับ

    ผมเดินบนฟุตบาทสีแดงมาเรื่อยๆจนถึงร้านขนมปังหน้าโรงเรียนที่พวกผมมักจะมานั่งกินกันในตอนเช้าก่อนเข้าไปเรียนในโรงเรียน แต่วันนี้แตกต่างจากทุกวันเพราะไอ้เพื่อนรักสองตัวของผมมานั่งรออยู่ในร้านแล้ว ผมจึงรีบเดินเข้าไปหาพวกมันในร้าน

   “ทำไมมาเช้าจังวะ”ผมถามมันขึ้นเมื่อนั่งลงข้างพวกมันแล้ว

   “เมื่อวานมึงบอกพวกกูว่าไงครับเพื่อน”ไอ้แบล็คถามผมขึ้นพร้อมกับยิ้มที่ตอแหลมสุดๆ

   ผมจำได้แล้วล่ะครับว่าที่มันมารอผมที่ร้านในวันนี้เพราะอะไร ผมไม่น่าไปสัญญากับพวกมันไว้เลย เสียใจจุงT.T

   “เออแล้วจะกินอะไร”ผมถามอย่างจนมุม

   “กูเอาเอแคลร์ไส้ครีม กับนมจืดแก้ว”ไอ้แบล็คตอบ

   “แล้วมึงล่ะ”ผมหันหน้าไปถามไอ้บอม

   “เซมๆ”ไอ้บอมตอบไม่มองหน้าผมเอาแต่อ่านฟิคในโทรศัพท์ของมัน

   เมื่อผมได้คำตอบจึงเดินไปสั่งอาหารที่ต้องการ ให้ตายเถอะวันนี้มันสดใสเป็นบ้าเลยอ่ะ ผมคิดถึงแต่เรื่องของดินแล้วก็เผลอคิดตามเคยน่ะแหละครับว่าเขาอาจจะมีใจให้ผมก็ได้

   “อื้อออออออ”ผมครางขึ้นในลำคอเพื่อไล่ความเขินออกไปจนผมเดินไปเคาน์เตอร์ในที่สุด

   “เอาเอแคลร์สิบชิ้น เอาขนมปังปิ้งทาช็อคโกแลตหนึ่งชิ้น นมจืดสองแก้วแล้วก็นมสตรอเบอร์รี่หนึ่งแก้วครับ”ผมสั่งไปก็สงสารพนักงานไปเพราะเห็นเขาเอาแต่จดไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลย

   “รอสักครู่นะคะ”พนักงานคนนั้นบอก

  “ครับ”ผมตอบพลางยิ้มให้พนักงานคนนั้น

  แล้วก็มีมือมือนึงมาสะกิดที่ไหล่ข้างขวาของผม ผมจึงหันไปมองตามสัญชาติญาณแต่ก็ไม่เจอใครจึงได้หันกลับมามองที่ด้านซ้ายจึงเห็นใบหน้าของคนคนนึงกำลังยิ้มให้ผมอยู่ทำให้ผมตกใจจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว

   “ไง”ดินทัก  

   “ไง”ผมตอบสั้นๆแล้วมองหน้าดิน “มาเร็วเนาะ”ผมถามเพื่อไม่ให้มันเกิดความเงียบมากเกินไป

   “เราว่าไม่นะมาช้ากว่าออมอีก”ดินตอบ “ต่อไปมาให้เร็วกว่าออมดีกว่า”

   “บ้าเราก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง”ผมตอบ

   “หรอ..แล้วกินอะไรอ่ะ”ดินถาม

   “ก็ขนมปังเอแคลร์ปกตินี่แหละ”ผมตอบ

   “หรอ..แล้วอร่อยป่ะ”ดินถามขึ้นอีก

   “อึ้มก็อร่อยนะเราชอบ”ผมตอบไปปกติแต่ก็ยังเขินอยู่ดีจะถามอะไรนักหนาเนี่ย

   “ได้แล้วค่ะ”พนักงานสาวคนนั้นบอก

   “อ๋อครับ”ผมตอบพนักงานคนนั้นไป

   “โห...ออมกินเยอะขนาดนั้นเลยหรอ”ดินพูดขึ้นพร้อมกับทำตาโต

   “บ้า ไม่ใช่ของเราทั้งหมดหรอกมีของเพื่อนด้วยอ่ะ นั่งอยู่นู้นไง”ผมบอกดินพร้อมกับทำหน้าไปทางไอ้แบล็คกับไอ้บอมที่นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะรอผมอยู่

    “แล้วของออมอันไหนบ้างอ่ะ”ดินถาม

   “ไม่บอก”ผมตอบดินพร้อมกับจ่ายตังค์พนักงานแล้วหันมามองหน้าดิน “ดินต้องบอกเราก่อนว่าดินรู้จักชื่อเราได้ไงอะ”ผมจ้องหน้าเขาไม่วางตาเลยครับตอนนี้ผมมองเขาด้วยความรู้สึกที่ต้องการคำตอบมากที่สุด แล้วเขาก็มองหน้าผมเหมือนกันครับในตอนนั้นเขาทำปากเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่ก็กลายเป็นว่า

   “แล้วออมรู้จักชื่อเราได้ไงอ่ะยังไม่ตอบเราเลยนะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”ดินพูดขึ้นทำให้ผมไปไม่เป็นเลยครับตอนนี้

   “เอ่อ......เรา.....เราไม่อยากรู้แล้วก็ได้”ผมบอกออกไปด้วยความรู้สึกที่เขินแบบสุดๆ “เราไปก่อนนะ”

   ผมพูดเสร็จจึงเตรียมตัวที่จะเดินออกไปจากหน้าเคาน์เตอร์แต่

   “เดี๋ยวก่อนดิออม”เขาพูดพลางดึงแขนผมไว้ “ออมยังไม่บอกเราเลยนะว่าออมกินอะไรอ่ะ”

    “เรา....แล้วดินจะรู้ไปทำไมอ่ะ”ผมถามเขากลับ

    “ก็เราอยากรู้”เขาพูดออกมาทำให้ผมไปไม่เป็นเลยครับดอกนี้

   “เอ่อ....เรา.....”จะให้ตอบเร็วอะไรเบอร์นั้นได้ไงล่ะครับอยู่ดีๆผมก็ใจเต้นแรงขึ้นมากับคำแค่นี้ได้ไงไม่รู้  

    “แต่ถ้าออม...”

   “ขนมปังปิ้งทาช็อคโกแลต กับนมสตรอเบอร์รี่”ผมตอบไปทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้าเขาแต่พอแอบมองก็เห็นเขายิ้มบางๆอยู่หรือว่าเขาจะคิดว่าผมกินเหมือนตุ๊ดแต่กินช็อคโกแลตก็ออกจะเท่ห์ออกทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยไม่เข้าใจบอกที “ถ้างั้นเราไปก่อนนะ”ผมหันไปมองหน้าเขาที่ตอนนี้ไม่มีรอยยิ้มแล้วแต่เขาก็ยังพยักหน้าให้ผมเบาๆผมจึงเดินจากมา ไอ้บ้านี้ทำไมอารมณ์เปลี่ยนเร็วจังวะหรือว่าเขาจะไม่ได้ยิ้มเราคิดไปเอง ประสาทหลอน หรือเห็นภาพลวงตาวะ

    เมื่อผมเดินมานั่งที่โต๊ะก็เห็นไอ้เพื่อนตัวดีของผมนั่งยิ้มมองมาทางผมอยู่

   “เป็นไง”ไอ้แบล็คถาม

   “เป็นไงเชี่ยอะไรของมึงวะ”ผมถาม

   “กูเห็นนะ”ไอ้แบล็คพูดพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์

   “เห็นแล้วจะถามเพื่อ”ผมด่ามันแต่มันก็ยังทำหน้าตาคาดคั้นหาคำตอบมาที่ผมอยู่ได้ “ก็คุยกัน”ผมตอบไปด้วยความลำคาญ

   “แล้วไงต่อ”มันถามในครั้งนี้พร้อมกับใบหน้าที่คาดคั้นหาคำตอบครับ

   “อย่าเสือกดิ”มีหรือที่ผมจะบอกถ้าบอกล่ะก็ถามไม่หยุดแน่นอนระดับไอ้แบล็คนะครับมันน่ะไม่มีหรอกครับจะเอาแค่เรื่องย่อมันต้องเอาแบบละเอียดยิบ

   “ชิได้แฟนแล้วลืมเพื่อนนะมึงน่ะ”ไอ้แบล็คว่าผมล้อๆ

   “แฟนพ่อง”ผมก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกันนะครับว่าทำไมหาเรื่องให้ผมด่าได้ทุกวัน “แล้วไอ้บอมล่ะไปไหน”ผมถามหาเพื่อนอีกคน

   “ไปห้องน้ำอ่ะ”ไอแบล็คบอก “เออไอ้ออมทำไมมึงไม่อ่านไลน์กูวะถามการบ้านนี่ไม่ตอบกูเลยจนกูต้องได้ไลน์ไปถามไอ้บอมถึงเสร็จ"

  “หรอ”ผมถาม

  “ก็เออน่ะสิมึงเอาขึ้นมาเปิดดูเลยนะ”ไอ้แบล็คบอกผมพลางสั่ง

  “เออ”ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูไลน์ก็เห็นข้อความของไอ้แบล็คไลน์มาถามการบ้านจริงแต่ที่เพิ่มเติมคือแจ้งเตือนตรงเพื่อนมีอยู่หนึ่งอันผมจึงกดเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นเพื่อนกันเรียนร้อยแล้ว ไลน์ชื่อว่าเกรย์ รูปโปรของเขาเป็นรูปตัวการ์ตูนที่ชื่อเกรย์จากแฟร์รี่เทล “ไอ้แบล็คนี่ใครวะ”ผมถามพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ไปให้ไอ้แบล็คดู

   “ไม่รู้ว่ะ”ไอ้แบล็กตอบ “กูว่าถ้าไม่รู้จักก็ลบแม่งไปเลยเหอะ”

  “กูไม่ลบดีกว่า”ผมบอกไอ้แบล็ค

   “อ่าวทำไมวะ”ไอ้แบล็คถาม

   “ก็มึงดูสิเขาเป็นเพื่อนกับกูตั้งแต่ยังไม่รับขนาดนี้ก็แปลว่าเขาต้องมีเบอร์กูใช่ป่ะถ้าเขามีเบอร์กูก็แปลว่าต้องรู้จักกู”ผมบอก

    “เออที่มึงพูดมาก็มีเหตุผลนะ แต่แม่งเป็นใครวะ”ไอ้แบล็คถาม

    “ไม่รู้ว่ะอาจจะเป็นเพื่อนในห้องเราก็ได้”ผมบอกไปตามสมมุติฐานที่คิดขึ้นเอง

   “คิดงั้นหรอวะ”ไอ้แบล็คถามขึ้น

   “มีอะไรกันวะ”ไอ้บอมที่เพิ่งเดินมาจากห้องน้ำถามขึ้น

  ผมจึงหันไปมองมันแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟังแต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร พวกผมจึงพากันกินอาหารให้เสร็จแล้ว รีบเข้าไปในโรงเรียนเพื่อจะได้ทันเข้าแถว

   “แล้วแม่งใครวะ”ไอ้บอมพูดขึ้นในขณะที่พวกผมพากันเดินไปเข้าแถว

   “อะไรขของมึงวะ”ไอ้แบล็คถามขึ้น

   “ก็เรื่องไลน์อ่ะ มึงมั่นใจหรอว่าจะเป็นเพื่อนในห้อง”ไอ้บอมพูดขึ้นทำเสียงลึกลับ

   “แล้วแม่งจะมีใครอีกวะที่รู้จักเบอร์กู”ผมพูดขึ้น

   “แล้วมึงไม่คิดหรอวะว่าแม่งเป็นโรคจิต”ไอ้บอมพูดขึ้นทำให้ผมเริ่มกลัวแล้วครับทีนี้ก็ใครจะไปคิดถึงล่ะเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ แต่ไอ้บอมแม่งถนัดครับเรื่องแบบนี้

   “บ้ามึงอะคิดมากไปหรือเปล่า”ไอ้แบล็คพูดขึ้นเพื่อไม่อยากให้ผมเป็นกังวลมากไป

   “ไม่หรอกกูเคยอ่านเจอแบบนี้ล่ะบางครั้งอาจจะไม่ใช่คนก็ได้นะ”ไอ้บอมพูดขึ้นผมนี้กลืนน้ำลายเอือกใหญ่เลยครับทีนี้กลัวจะเป็นอย่างที่มันว่ามาจริงๆ

   “มึงว่าเขาคบกันจริงๆหรือเปล่าวะ”เสียงของผู้หญิงตัวผอมคนนึงดังขึ้น

   “ไม่รู้สิ”เพื่อนของเธอตอบ

   “กูว่าใช่ชัวร์”ผู้หญิงตัวผอมบอกเพื่อนด้วยท่าทางที่มั่นอกมั่นใจอย่างมาก

   “ทำไมมึงคิดงั้นอะ”เพื่อนของเธอถามกลับ

   “มึงคิดดูนะว่าตั้งแต่กูรู้จักเขามานะ”เพื่อนของเธอมองเธอตาโต “กูหมายถึงกูรู้จักเขาแต่เขาไม่รู้จักกูอ่ะ กูไม่เคยได้ยินข่าวว่าพี่ดินเขาสนผู้หญิงคนไหนเลยนะมึงเขาอาจจะมีคนที่ชอบหรือมีแฟนอยู่แล้วก็ได้ว่าป่ะ”

   “ที่มึงพูดก็มีเหตุผลนะ”เพื่อนเธอพูดพลางพยักหน้าเห็นด้วย

   “แล้วอีกอย่างนะ”ผู้หญิงตัวผอมคนนั้นพูดพลางทำหน้าบุ่ยบ้ายไปทางเวทีผมและเพื่อนจึงหันหน้ามองตามไปด้วย “มึงเห็นมั้ยพูดกันกระดี้กระด้าขนาดนั้นมึงเคยเห็นเขาทำกับใครป่ะวะ”

   ผมเห็นด้วยกับสิ่งงที่ผู้หญิงคนนั้นพูดนะครับ ก็เขาคุยกันสนิทสนมขนาดนั้นจะเป็นแค่คนรู้จักกันปกติคงไม่ได้หรอก ผมทำหน้าเศร้าอีกตามเคยจนไอ้แบล็คมองมาเห็น

   “มึงกูว่า...”ไอ้แบล็คพูดขึ้น

   “ไม่ต้องหรอกกูไม่เป็นไร”ผม ตอบไปแล้วรีบเดินไปที่แถวของผม

   “จะคิดมากทำไมวะ ทำตัวเป็นนางเอกนิยายไปได้ มั่นๆหน่อยสิวะ”ไอ้บอมบอกผม

   “กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย”ผมเถียง “แล้วอีกอย่างนะกูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย”ผมโกหกออกไปทั้งๆที่รู้สึกหน่วงในใจ

   “คร้าบบบบบบ”ไอ้บอมลากเสียงยาวใส่ผม “กูว่านะถ้ามึงอยากรู้ก็ควรจะถามเขาไปตรงๆนะ” ไอ้บอมพูดขึ้นในขณะที่มันก้มไปอ่านฟิค

   “กูจะไปกล้าได้ไงวะ”ผมพูดออกไปพลางบุ้ยหน้า

   “กูถามให้เอาป่ะ”ไอ้แบล็คถามขึ้น

   “ไม่เอา”ผมปฏิเสธเสียงแข็ง

   “แล้วมึงจะเอาไงวะ”ไอ้บอมถามผมขึ้น

   “ไม่รู้วะ”ผมตอบมันไปอย่างจนปัญญาจริงๆ

   “ถ้าอะไรที่มันคลุมเครือแล้วไม่สบายใจก็ไม่ต้องเก็บมันไว้ก็ได้นะ กูว่าถามออกไปตรงๆจะดีกว่า”ไอ้บอมบอกขึ้น แต่จะว่าไปก็อย่างที่มันว่าแหละครับถ้ามันไม่สบายใจจะเก็บไว้ทำไมแต่ผมแม่งก็ลบมันออกไปไม่ได้ซักที

   เมื่อเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จพวกผมจึงเดินขึ้นห้องเรียนตามปกติซึ่งคาบแรกก็คือคาบคณิตศาสตร์ซึ่งมันคือวิชาที่ผมชอบครับ ผมคิดว่ามันเป็นวิชาที่จำได้ง่ายดี แค่รู้สูตรก็แก้ได้หมดทุกโจทย์แล้ว

   “มึงเข้าใจป่ะวะ”ไอ้แบล็คถามผมขึ้นในขณะที่กำลังเรียนอยู่

   “ก็เข้าใจสิวะตรงนี้ยังไม่มีคำนวณเลยนะ”ผมบอกไอ้แบล็ค

   “มึงแม่งเข้าใจไปได้ไงวะกูไม่เห็นจะเข้าใจเลย”ไอ้แบล็คพูดขึ้นด้วยหน้าตาที่บอกว่ากูอยากตาย

   “ก็มึงโง่ไง”ไอ้บอมพูดขึ้น

   “สัส”ไอ้แบล็ด่าไอ้บอมกลับ

   “เดี๋ยวกูสอนให้ก็ได้หลังเลิกเรียนนะ”ผมบอกมัน

   จนในที่สุดผมก็เรียนคณิตเสร็จจึงได้เปลี่ยนคาบเรียนผมก็เดินสวนกันกับดินตอนเปลี่ยนคาบเรียนแต่ผมก็ไม่มองหน้าเขาเลยผมยังเคืองๆในใจอยู่ วิชาสุดท้ายที่ผมได้เรียนคือวิชาสุขศึกษา

   “เอ้าสุดท้ายของคาบนี้ ครูอยากให้นักเรียนทุกคนทำรายงานมาส่งครูนะจ๊ะ”ครูศิริพรพูดขึ้น “เนื่องในคาบนี้เราเรียนสภาวะทางอารมณ์และสังคมของวัยรุ่น ครูมีหัวข้อจะให้นักเรียนทำทั้งหมด หัวข้อหนึ่งสังคมของวัยรุ่นสมัยปัจจุบันนี้ ความเสี่ยงที่เกิดจากการขาดการควบคุมอารมณ์ของวัยรุ่น และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ของวัยรุ่นในยุคปัจจุบันนี้คือความรัก ที่ให้ทำมาส่งนี้เป็นเป็นทัศนคติของนักเรียนล้วนๆ วิชาการไม่ต้องก็ได้ และที่สำคัญห้ามไปหาจากเน็ตนะจ๊ะ ไม่งั้นไม่ได้คะแนน”ครูศิริพรพูดจบนักเรียนก็ต่างพากันพูดคุยกัน

   “เลือกเอาหัวข้อไหนก็ได้ใช่มั้ยคะ”ฝนหัวหน้าห้องของผมถามขึ้น

   “ไม่จ้ะครูจะให้จับสลากเรียงแถวกันออกมาได้เลยนะจ๊ะครูเตรียมไว้แล้ว”ครูศิริพรบอกนักเรียนทุกคนจึงพากันลุกขึ้นแล้วไปจับสลากผมเลือกที่จะจับเป็นคนสุดท้ายเพราะไม่อยากวุ่นวาย

   “มึงได้หัวข้ออะไรวะ”ไอ้แบล็คถาม

   “ความรักว่ะ”ผมตอบเมื่อเปิดฉลากที่ได้อ่านแล้ว

   “เชี่ยเซมๆ”ไอ้แบล็กพูดขึ้น

   “แล้วมึงล่ะไอ้บอม”ผมถามไอ้บอมขึ้น

   “เซมๆ”ไอ้บอมตอบสั้นๆ

   “เชี่ย เจ๊กเคร็ก ได้เหมือนกันสามคนเลยหรอวะ”ไอ้แบล็คพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นมากกว่าแปลกใจครับ

   “ก็ดีออกจะได้ช่วยกันไง”ผมบอก

   “เออก็ดีแต่มันบังเอิญไปป่ะวะหรือว่ามันจะเป็น เดสตินี้”ไอ้แบล็คพูดขึ้น

   ไม่มีใครแย่งมันหรอกครับเพราะก็เชื่อเรื่องนี้กันทั้งกลุ่มผมได้จากความหวัง ไอ้บอมได้จากการอ่านฟิค ไอ้แบล็คได้มาจากการอกหักจนเสียสติ

   เมื่อคุยกันเสร็จพวกผมจึงไปเรียนเคมีที่มีต่อกันถึงอีกสองคาบรวดเสร็จแล้วพวกผมจึงไปพักกลางวันกัน พอเดินมาถึงโรงอาหารผมก็นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมของผมแล้วกะว่ากำลังจะวางกระเป๋าแล้วไปซื้อข้าวตามที่เคยแต่ว่าวันนี้ไอ้เพื่อนสองตัวของผมทำตัวแปลกๆคะยั้นคะยอจะขอผมไปซื้อข้าวให้ให้ได้เลยแล้วจะให้ผมนั่งรออยู่ตรงนี้มีหรอผมจะไม่เอาผมจึงฝากมันซื้อผัดมักกะโรนี พวกมันจึงรีบพากันเดินไปซึ่งผมก็ไม่ได้หันตามไปมองแต่อย่างใด

   “มึงดูนั่นสิ”สาวอ้วนข้างโต๊ะของผมบอกเพื่อนของเธอดูอะไรบางอย่างพลางชี้ไม้ชี้มือผมจึงอดที่จะอยากรู้ไม่ได้เลยหันไปมองตามจนเห็นภาพของดินกับผู้หญิงคนนึงกำลังถือจานอาหารเดินมาด้วยกันอยู่ ภาพนั้นทำให้ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจครับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนน้ำตาจะไหลแต่ก็ไหลไม่ออก เหมือนต้องการอากาศแต่สูดหายใจเข้าไปเท่าไรก็ไม่เต็มปอด ผมจึงเลือกที่จะหันหน้ากลับมาที่โต๊ะเผื่อว่าจะหายจากอาการนี้แต่ผมก็ยังคิดถึงหน้าเขาอยู่ดี ผมจึงมองไปเห็นฟิคที่ไอ้บอมอ่านค้างไว้ผมจึงหยิบขึ้นมาอ่าน

   ‘ผมไม่ได้รักคุณ คุณเลิกมาตอแยผมสักทีได้มั้ยผมลำคาญ’

   ‘แต่ฉัน....’

   ‘ผมกลียดคุณ’

   โอ้ยไอ้สัสแม่งจะมาอ่านถึงอะไรตอนนี้วะ เมื่อฟิคช่วยไม่ได้ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นแต่

   ‘มีคนที่ชอบอยู่แล้วทำไมไม่บอกกูตั้งแต่แรกวะ’

  ‘แอบรักก็ไม่ต่างจากการทรมานตัวเอง......’

   “โอ้ยสัส!!แม่งจะอะไรกันนักกันหนาวะ”ผมตะโกนขึ้นทำให้คนที่อยู่ข้างๆหันมามองผมจึงเอาหูฟังมาเสียบหูแล้วเปิดวิทยุฟัง

   ‘ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ถ้าหากเรารักมากเรายิ่งเจ็บมากนะโยม เพราะงั้นเราควรเดินทางสายกลาง.....ฯลฯ’เสียงพระสวดครับที่นี้โอ้ยสงสัยจริงว่าวันนี้มันวันซวยอะไรของผมเนี่ยเนื่องจากทำอะไรไม่ได้แล้วก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วผมจึงเอาหน้าฟุบกับโต๊ะแล้วฟังพระสวดต่อไป จนไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองของผมเดินมา

   “ที่มึงไม่อยากให้กูไปนี้เพราะดินกับเด็กคนนั้นใช่มั้ย”ผมถามเพื่อนทั้งสองสีหน้าจริงจัง

   “ขอโทษว่ะก็ไม่อยากให้มึงคิดมากอะ”ไอ้บอมบอก

   “ไม่เป็นไรหรอกกูเริ่มชินแล้วล่ะ”ผมบอกเพื่อนทั้งสองของผมไป

   “แล้วมึงฟังอะไรอยู่อะ”ไอ้แบล็คถามผมขึ้น

   “พระ”ผมตอบเสียงแผ่วทำให้เพื่อนทั้งสองของผมหันมองหน้ากันแล้วทำหน้าแบบส่งสัญญาณเหมือนจะบอกว่าผมไม่ปกติแล้ว

  “มึงจะตัดใจแล้วจริงหรอวะ”ไอ้แบล็คถามผมขึ้นด้วยท่าทางหวั่นๆ

  “บ้ากูแค่เปิดผ่านมาเจอพอดีอะ”ผมบอกเพื่อนของผมเสียงแผ่วก่อนที่จะรับเอาจานจากมือมัน 

  “รีบกินเหอะ"ผมบอกเพื่อนผม

   “เออๆได้”ไอ้แบล็คกับไอ้บอมพูดขึ้นพร้อมกันแล้วมองผมด้วยสีหน้าหวาดๆพอกินเสร็จก็ไปนั่งเล่นก่อนที่จะขึ้นเรียน จนเรียนวิชาสุดท้ายในช่วงบ่ายเสร็จผมจึงตัดสินใจไปนั่งที่ไต้ร่มจามจุรีที่ติดอยู่กับสนามฟุตบอลเพื่อที่จะสอนการบ้านให้ไอ้แบล็คครับ พอสอนมันไปได้สักพักก็มีนักฟุตบบอลพากันมาลงสนามเพื่อที่จะฝึกซ้อมหนึ่งในนั้นก็มีดินด้วย มันทำให้ผมรีบสอนไอ้แบล็คให้เข้าใจเร็วๆแต่แม่งก็เข้าใจอะไรยากอยู่ดีจนในที่สุดมันก็เข้าใจสักทีผมจึงดูนักกีฬาพวกนั้นวอร์มร่างกายกันอยู่ขอบสนามแต่ส่วนมากผมจะมองดินซะมากกว่าก็เขาวอร์มไปเรื่อยๆมันก็จะมีเหงื่อไหลออกมาดูเท่ห์สุดๆไปเลยครับผมนี่อยากไปเช็ดเหงื่อให้แบบสุดๆ (มีความแรด5555) แต่ก็ทำได้แค่คิดน่ะแหละครับ แต่ก็ไม่ใช่ผมคนเดียวอีกตามเคยครับในตอนนี้มีผู้หญิง ตั้งหลายคนที่ไปเกาะอยู่ที่รั่วสนามฟุตบอล แต่ละคนนี้พร้อมที่จะเช็ดเหงื่อให้เขาแบบเต็มที่เกินร้อยเชียว ผมนี้ก็ได้แต่แอบหมั่นไส้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีก็เขาไม่ได้เป็นอะไรกับผมหนิ

   “ออมกูขอกลับก่อนนะพอดีม้าจะพาไปทำธุระนอกบ้านอ่ะ”ไอ้แบล็คบอกผม

   “เออได้ดิแล้วไอ้บอมล่ะ”ผมถามขึ้น

   “กูก็จะไปด้วย แล้วมึงจะกลับบ้านพร้อมพวกกูป่ะ”ไอ้บอมถามขึ้น

   “ไม่อะกูว่าจะอยู่อีกซักแป๊บ”ผมบอก

   “อย่ามัวแต่ฟินจนไม่กลับบ้านนะมึง”ไอ้แบล็คแซวผมแล้วเดินจากไป

   “สัส”ผมด่าไล่ตามหลังมันไป

   ผมก็นั่งดูดินเตะบอลไปผมก็ได้ยินเสียงกรี๊ด เสียงร้องเชียร์ดินกับวินเพื่อนของเขาไม่ขาดสาย จนในที่สุดเขาก็เตะบอลเสร็จผมจึงรีบเก็บของเพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้านเพราะมันก็ใกล้ค่ำแล้ว

   ถึงว่าการแข่งขันจะจบลงแล้วแต่ว่าเสียงกรี๊ดเสียงเชียร์ที่มีให้พวกเขาก็ยิ่งมากขึ้นแถมเสียงยิ่งดังขึ้นอย่างกับมันมาอยู่รอบตัวผมอย่างไงอย่างงั้น ผมจึงเงยน่าขึ้นมามองดูก็เห็นดินมานั่งอยู่ที่โต๊ะข้างผมในสภาพเหงื่อท่วมตัวมันก็ดูดีไปอีกแบบอะครับแต่สำหรับผมแบบไหนเขาก็ดูดีเสมอ

   “หิวน้ำว่ะ”เขาพูดขึ้นกับเพื่อนกลุ่มของเขา

   “ก็นี่ไงน้ำเปล่า”เพื่อนเขาที่ชื่อวินบอก

   “อยากกินน้ำอัดลม”เขาบอกเพื่อนของเขา

   “แม่งเรื่องมากว่ะ”วินด่าขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก

   ก็อย่างที่บอกน่ะแหละครับว่าเขาหล่อแค่ได้ยินว่าเขาอยากกินน้ำอัดลมแค่นั้นแฟนคลับของเขาก็วิ่งแจ้นไปซื้อมาให้แล้ว ที่จริงแก้วน้ำที่ผมถืออยู่ในตอนนี้ก็คือน้ำอัดลมเหมือนกันนะครับแต่ว่ามันเป็นน้ำส้มที่ไม่ค่อยซ่าแล้ว แล้วอีกอย่างผมกินมันแล้ว ที่จริงผมก็อยากจะให้เขานะครับแต่พอดีผมกินมันแล้วอะ

   “ที่จริง.......”ผมพูดขึ้นทำให้กลุ่มของดินหันมามองผมที่ถือแก้วน้ำอยู่

   “หื่ม”ทำเสียงแล้วมองมาทางผม

   “เปล่าอะ”ผมโกหกครับใครจะไปกล้าบอกล่ะว่า ‘กินน้ำเราก็ได้’ทั้งๆที่ตัวเองกินไปแล้ว “เอ่อ เรากลับก่อนนะ”ผมบอกก่อนจะรีบเดินออกไปจนเร็วขึ้นๆจนกลายเป็นวิ่งจนถึงบ้าน

   “แม่ครับสวัสดีครับ”ผมทักทายอย่างทุกวัน

   “จ้ะ”แม่ตอบ “แล้วกินอะไรมาหรือยัง”แม่ถาม

   “ยังครับ แม่ครับวันนี้ผมไม่กินข้าวเย็นนะผมจะนอนเลย”ผมบอกแม่ก่อนที่จะเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บแล้วไปอาบน้ำ

     เมื่อผมออกมาจากห้องน้ำก็พบว่ามีไลน์เข้าจึงรีบแต่งตัวแล้วเปิดอ่านผมตกใจมากครับเพราะว่าไลน์ที่ทักมามันเป็นไลน์ของคนชื่อเกรย์ครับ

เกรย์

'Hiiiiiiii'เขาทักมาหาผมครับ

'สวัสดีครับคือเรารู้จักกันหรอครับ'****(ผมถามด้วยความสงสัยครับ)

'ไม่บอกครับ****><'เขาตอบ

'เอ้าได้ไงอะบอกมาเถอะครับผมอยากรู้แล้วอีกอย่างคุณเอาเบอร์ผมมาจากไหนผมยังไม่ให้เบอร์ใครเลยนะครับหรือว่าเป็นเพื่อนในห้อง'(ผมเริ่มกลัวๆแล้วหล่ครับ)

'ไม่ใช่ครับ'เขาตอบ

'แล้วคุณเป็นใครหรอครับ'(ผมเริ่มคิดถึงคำพูดของไอ้บอมแล้วครับ)

'ไม่ต้องรู้หรอกครับคุณรู้ว่าผมชื่อเกรย์ก็พอแล้วอีกอย่างผมอยากคุยกับคุณในฐานะคนที่ไม่รู้จักกันมากกว่า'เขาตอบแต่ผมคิดว่าคำตอบของเขายิ่งทำให้เขาหน้ากลัวเข้าไปใหญ่

'แล้วผมจะมั่นใจได้ไงครับว่าคุไม่ใช่....'****(ตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวแล้วครับ)

'ไม่ใช่อะไรครับ'เขาถาม

'โรคจิตTT'(จะโดนตามฆ่าป่ะวะ)

'มั่นใจผมได้ครับผมแค่อยากคุยกับคุณได้คุยกันก็พอครับผมจะไม่ทำให้คุณหนักใจเด็ดขาดครับ****ได้โปรดให้ผมได้คุยกับคุณในนี้นะครับ'เขาตอบมาท่าทางหนักแน่นครับ

'ผมขอคิดดูก่อนนะครับ'(ถ้าเขาพูดขนาดนี้ผมก็เริ่มใจร่มขึ้นแล้วล่ะครับแต่ก็ยังกลัวอยู่)

'อย่านานนะครับ'เขาบอก

'ผมนอนก่อนนะครับ'ผมตอบเขากลับ

'ครับฝันดีครับ'เขาตอบ

'ครับเช่นกันครับ'ผมตอบก่อนจะปิดหน้าจอโทรศัพท์ลง

เมื่อคุยกันกับคนที่อยู่ในไลน์เสร็จผมก็คิดว่ามันก็รู้สึกน่ากลัวเหมือนกันนะครับที่คุยกับใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จักเขาแต่เขารู้จักเราแต่ถ้าเขาเป็นคนดีอย่างที่เขาพูดก็คงดีนะครับจะได้มีเพื่อนใหม่ด้วย


ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่สี่
ดึ่ง!
   นี้เป็นเสียงแรกที่ผมได้ยินในเช้าวันนี้ครับ ซึ่งก็เป็นเวลาประมาณ 8 โมงเช้าวันนี้ผมไม่ได้ไปโรงเรียนครับเพราะมันคือวันเสาร์ ผมค่อยๆหันไปมองทางหน้าต่างที่มีโทรศัพท์ของผมวางอยู่ผมหยิบมันขึ้นมาดูก็เห็นข้อความหลายข้อความครับผมจึงได้เปิดเข้าไปอ่าน
เกรย์
   ‘ตื่นได้แล้ววววววววววว’
  ‘ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’
   ‘ตื่นยังงงงงง’
   เกรย์ทักไลน์ผมมา ตั้งแต่ 6.30 นาฬิกา คนอะไรขนาดวันหยุดยังตื่นเช้าได้ขนาดนี้
   ‘ตื่นแล้ว’ผมตอบไลน์เขาไปก่อนจะเดินไปเปิดม่านแล้วออกไปที่ระเบียงที่เริ่มจะร่มแล้วผมหยิบฝักบัวรดน้ำต้นไม้ก่อนที่จะหันมามองที่กระถางต้นไม้ของผม
   “เฮ้ย!!!”ผมร้องขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเมื่อเห็นต้นอ่อนที่ออกมาจากเมล็ดพืชของดินที่ผมแอบเก็บมา ผมก้มลงไปมองที่ต้นอ่อนต้นนั้นผมมองมันอยู่นานราวกับว่ามันเรืองแสงออกมายังไงยังงั้นแต่ความจริงมันก็แค่ต้นอ่อนสีเขียวอ่อนที่มีใบยับยู่ยี่ก่อนที่จะรดน้ำมันแล้วนั่งมองมันพร้อมกับคิดว่าควรจะทำกับมันยังไงดีควรให้ปุ๋ยเลยมั้ยคิดได้ดังนั้นผมจึงรีบวิ่งลงไปข้างล่าง
   “แม่!!!!”ผมเรียกแม่เสียงดังเมื่อกระโดดลงมาจากบันไดสามคั่นรวด
   “มีอะไรเอะอะโวยวายเชียว”แม่เอ็ดผมในขณะที่ยืนล้างจานอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆแม่แล้วก็หยิบจานไปคว่ำให้ “แล้วมีอะไรล่ะ ยิ้มหน้าบานเชียว”แม่พูดพลางหันมามองหน้าผมแปลกๆ
   “เปล่าหนิ แค่จะบอกว่าเมล็ดที่ออมเอามาปลูกอะ มันแตกหน่อแล้วนะเป็นต้นอ่อนแล้วรากลงดินแล้ว มันต้องโตเป็นต้นไม้ที่สวยแน่นอนเลย แม่อยากรู้ป่ะว่าเป็นต้นอะไร”ผมพูดไปพร้อมกับจินตนาการว่ามันจะเป็นต้นอะไร
   “ดีใจขนาดนั้นเชียว”แม่พูดพลางมองหน้าผมแบบสแกนหาอะไรสักอย่าง
   “เปล่าหนิออมแค่อยากรู้ว่ามันเป็นต้นอะไร”ผมพูดพลางหลบตาแม่
   “แล้วทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย ดูท่าทางจะสำคัญมากด้วยเนาะ”แม่พูดพลางมองมาที่ผมจนผมต้องหลบตา “แม่ถามจริงๆเหอะไปเอามาจากไหนหรือใครให้มา”แม่พูดพลางมองผมหนักมากขึ้นกว่าเดิม
   “จะไปมีอะไรที่ไหนกันเล่าแม่ ก็ออมแค่เห็นมันหล่นอยู่เลยอยากรู้ก็เลยเก็บมาปลูกเท่านั้นแหละ”ผมตอบแม่ไปโดยที่ไม่ได้มองหน้าด้วยซ้ำ
   “หรออออออออออออ”แม่พูดพลางลากเสียงยาวอย่างกับจะบอกว่าอย่างแกน่ะโกหกฉันไม่ได้หรอก “เชื่อก็ได้”แม่บอกพลางเดินไปเช็ดมือเพราะล้างจานเสร็จแล้ว “แล้วที่เรียกมีแค่นี้ใช่มั้ย”แม่ถาม
   “เปล่าออมว่าจะถามว่าแล้วเราจะดูแลมันยังไงอ่ะ ซื้อปุ๋ยมาใส่เลยได้มั้ย”ผมถามแม่ออกไปพร้อมกับเดินมานั่งที่โต๊ะกับข้าว
   “ถ้าเป็นแม่นะแม่ว่าออมอย่าพึ่งให้มันโดนแดดมากเลยเดี๋ยวจะโดนแดดเผาตายกันพอดี แต่เรื่องปุ๋ยแม่ไม่รู้นะ”แม่พูดพลางเดินมานั่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามผม “ทำไมออมไม่ลองไปถามพ่อดูล่ะพ่อหน้าจะรู้มากกว่าแม่นะ”แม่บอก
   “แล้วพ่ออยู่ไหนครับ”ผมถามแม่
   “อยู่ในสวนหลังบ้าน”แม่บอก “ไปหาพ่อกลับมาก็รู้จักไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวด้วยล่ะตัวเหม็นหึ่งเชียว”แม่พูดขณะที่ผมใส่รองเท้าอยู่หน้าประตู
   ผมเดินไปหาพ่อที่อยู่หลังบ้านบ้านของผมจะมีผักสวนครัวแล้วก็พวกต้นไม่ที่พ่อชอบครับ พ่อเป็นคนที่ชอบธรรมชาติแล้วก็ต้นไม้ครับเพราะตอนเด็กพ่ออยู่ต่างจังหวัดกับย่าที่เชียงรายต้นไม้เยอะแล้วอากาศก็ดีพ่อก็เลยอยากให้บ้านมีแบบนี้บ้างแต่ผักสวนครัวนี้เป็นความชอบของแม่ครับเพราะมันจะประหยัดเวลาทำอาหารแล้วก็ปลอดภัยแต่แม่ก็ไม่ได้ปลูกหรอกครับรดน้ำบ้างบางครั้งส่วนมากพ่อจะเป็นคนทำผมเดินมาก็เห็นพ่อกำลังรื้อแปลงผักสลัดที่แก่แล้วออกอยู่ผมจึงเดินเข้าไปทำช่วยพ่อพร้อมกับถามสิ่งที่ผมอยากรู้พ่อจึงอธิบายให้ผมฟังว่าควรจะทำยังไงใส่ปุ๋ยได้ตอนไหน
   “แล้วทำไมถึงมาปลูกต้นไม้ได้ล่ะ”พ่อถามขึ้น
   “คือออมเห็นมันตกอยู่อ่ะ ออมเลยเก็บมา”ผมบอกพ่อไปพลางหลบหน้า
   “โกหกไม่เนียนเลยนะไอ้ลูกคนนี้”พ่อพูดพลางยิ้ม “แต่ถ้าออมไม่อยากบอกพ่อก็ไม่เป็นไรหรอกพ่อจะไม่ยุ่งแต่จำไว้นะว่าจะทำอะไร ลองถามหัวใจเราดูว่าสุขหรือทุกข์”
   “ครับ”ผมตอบ
   “ไป...เข้าไปข้างในได้แล้วมันร้อน”พ่อบอกผมแล้วทำสวนต่อผมจึงเดินเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปอาบน้ำแล้วก็เห็นเกรย์ตอบไลน์ผมมาอีก
   ‘ตื่นแล้วหรอกินข้าวยัง’
   ‘แล้วทำอะไรอยู่’
   ผมเห็นไลน์ที่เขาส่งมาแล้วด้วยความขี้เกียจผมจึงเลือกที่จะไม่ตอบเมื่อผมอาบน้ำเสร็จจึงเดินออกมาแต่งตัวจนเสร็จแล้วจึงตอบไลน์เกรย์
   ‘ยังไม่กินกำลังจะไปกินข้าว’ผมตอบไลน์ของเขาซึ่งที่จริงเขาก็ถามผมมาตั้งนานแล้ว
  ‘กว่าจะตอบเราได้รอตั้งนาน’เกรย์ว่า
   ‘ก็เราไม่รู้หนิว่าเธอเป็นใคร’ผมบอก
   ‘อยากให้เราตอบเร็วก็บอกมาสิว่าเป็นใคร’ผมตอบแบบที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะตอบไปทำไมทั้งๆที่เรากับเขาก็ไม่รู้จักกัน
   ‘ไม่เป็นไรเรารอได้ไม่ต้องรู้จักเราหรอก’มันตอบผมครับ
   แล้วตลอดเสาร์อาทิตย์ที่เป็นวันหยุดผมก็คุยกับมันตลอดทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะคุยไปทำไมมันเป็นใครก็ไม่รู้ขนาดออกไปเที่ยวกับไอ้เพื่อนสองคนนั้นผมยังต้องคุยกับมันเลย ไม่เข้าใจผมใช่มั้ยล่ะครับผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่จริงถ้าผมจะบล็อกก็ทำได้แต่กลับไม่ทำคุยกับมันตั้งสามวันแล้ว แล้วส่วนมากก็จะด่ามันหรือไม่ก็จะถามว่ามันเป็นใครแต่มันก็ไม่ยอมตอบจนถึงวันนี้ผมไม่อยากรู้แล้วช่างเถอะขอแค่มันไม่เอาผมไปฆ่าหั่นศพโบกปูนก็พอ
   แล้วในที่สุดวันหยุดก็หมดไป
   “เฮ้อออออ”ผมถอนหายใจเมื่อผมคิดถึงภาพที่ต้องเห็นในวันนี้คือภาพของดินกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในขณะที่ผมเดินไปตามทางฟุตบาทสีแดงที่ใช้เดินในทุกๆวันที่ไปโรงเรียน
   จนผมเดินมาถึงก็เป็นไปตามที่คาดเลยครับแต่เกินคาดไปหน่อยเพราะผมเห็นดินกับเด็กผู้หญิงคนนั้นเดินมาด้วยกันแถมกอดคอกันมาท่าทางกะหนุงกะหนิงอีกต่างหากจนผมและเขาทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าร้านขายขนมปังดินเห็นผมจึงยกมือขึ้นทำท่าเหมือนจะทักแต่ผมยังไม่อยากคุยกับเขาจึงเดินข้ามถนนไปโดยที่ไม่หันกลับไปมองเขาอีก
   Trrrrrrrrrrrrrrr
   ‘ไอ้ออมมึงอยู่ไหนวะ กูมารอตั้งนานละไม่ยอมมาซักที’ไอ้แบล็คพูดขึ้นหลังจากที่ผมกดรับสายจากมันครับ
   “โทษทีว่ะตอนนี้กูอยู่ในโรงเรียน”ผมตอบ
   ‘มึงไปทำเชี่ยอะไรในโรงเรียนเร็วจังวะ’ไอ้แบล็คถามขึ้น
   “กูมาทำเวรอ่ะ”ผมตอบ
   ‘เวรพ่อง!!!มึงเวรวันศุกร์แล้วอีกอย่างโรงเรียนเขาให้ทำเวรหลังเลิกเรียน’ไอ้แบล็คด่าผมกลับมาอย่างโหดร้ายก็จะทำไงได้ล่ะใครจะไปโกหกเก่งขนาดนั้นแล้วจะให้ผมบอกไอ้แบล็คว่าผมเห็นสองคนนั้นแล้วทนไม่ได้อย่างงั้นหรอใครจะไปทำ
    “เออเรื่องของกูไม่เสือกสักเรื่องซิ”ผมด่ามันกลับ
    ‘สัสคนอุตส่าห์เป็นห่วง’ไอ้แบล็คด่าผมกลับ ‘แล้วจะเอาอะไรมั้ยจะให้ไอ้บอมซื้อไปให้’ไอ้แบล็คถาม
   “ไม่อะไม่หิว”ผมตอบ “งั้นแค่นี้นะแล้วเจอกัน”
   ‘เออ’ไอ้แบล็คตอบผมแล้วก็วางสาย
   “พี่ครับช่วยส่งลูกบาสมาให้ผมหน่อยครับ”เสียงของเด็กผู้ชายคนนึงดังขึ้นผมจึงหันไปมองทางเขาแล้วก็เห็นลูกบาสกลิ้งเข้ามาใกล้ผม ผมจึงเดินเข้าไปแล้วเก็บมันขึ้นมาก่อนที่จะส่งไปให้เด็กผู้ชายคนนั้นเขาขอบคุณผมก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าไปในสนามแล้วเล่นบาสกับเพื่อนเขา แต่มาลองคิดดูดีๆแล้วเด็กคนนั้นก็หล่อดีเหมือนกันนะ ตัวสูงๆผิวขาวหน้าตาออกทางตี๋ๆ
   อ๊อดดดดดดดดดด
    เสียงออดดังขึ้นผมจึงเดินไปที่หน้าเสาร์ธงเพื่อที่จะเข้าแถวโดยที่ไม่หันไปมองทางห้องของดินเลยแล้วก็หาไอ้เพื่อนทั้งสองคนของผมที่มองหน้าผมแบบเหมือนจะหาคำตอบให้คำถามที่อยู่ในใจของมัน
   “ไม่มีอะไร”ผมตอบโดยที่พวกมันไม่ได้ถาม
   “ให้มันจริงเถอะ”ไอ้แบล็คพูดขึ้น
   “เหนื่อยก็พัก....”ไอ้บอมพูดขึ้น
   “อย่าให้รู้นะว่าเพราะผู้ชาย ถ้ารักแล้วเจ็บก็พอเหอะ”ไอ้แบล็คพูดขึ้นท่าทางอยากจะเรียกสติของผมเพราะตั้งแต่ผมแอบชอบดินมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมคิดว่าบางครั้งมันก็คงจะเป็นเพราะผมเองที่ไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้แต่กลับมีแต่จะดันทุรังอยากเป็นในสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้
   “เออน่ะ”ผมบอกมันไปปัดๆเพราะไม่อยากให้มันเป็นห่วงมาก
   จนพวกผมเข้าแถวและเรียนคาบแรกจนถึงคาบสามเสร็จก็ต้องไปเรียนพละต่อจึงต้องไปเปลี่ยนชุดเพื่อจะได้สะดวกในการเรียนซึ่งก็ต้องเจอกับห้องของดินเพราะเรียนพละคาบเดียวกันแต่ครูสอนคนละคนแล้วก็คนละสนาม
   เมื่อผมเปลี่ยนชุดเสร็จผมกับเพื่อนก็พากันเดินไปที่สนามในขณะที่เดินไปสนามผมดันเดินไปชนใครคนนึงที่ประตูโรงยิมพอดีผมจึงเงยหน้าขึ้นดูจึงเห็นว่าเป็นดินที่ยืนอยู่ด้านหน้าของผม
   “ไง...เป็นไรมั้ย”ดินถามขึ้นในขณะที่ผมก้มหน้าอยู่
   “ก็...”ผมพูด
   “ก็ไม่ไงอะ ไม่เป็นไรด้วย”ไอ้แบล็คพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน
   “อ่าวคนอุตส่าห์พูดดีๆด้วย”วินเพื่อนของดินพูดขึ้น
   “เสือก”ไอ้แบล็คหันหน้าไปตอบกลับสั้นๆครับแต่ได้ใจความ
   “อ่าวไอ้เตี้ยทำไมพูดแบบนี้วะเดี๋ยวแม่ง.....”วินพูดขึ้นได้ยังไม่จบไอ้แบล็คก็สวนขึ้นทันทีเลยครับ
   “เดี๋ยวแม่งเชี่ยอะไรล่ะ ถ้ามันยากลำบากจนต้องใช้คำว่า ‘อุตส่าห์’ นะทีหลังก็ไม่ต้องถาม”ไอ้แบล็คตอบกลับไป
   “คิดเล็กคิดน้อยจังเลยวะเป็นตุ๊ดหรอ”วินพูดขึ้นด้วยเสียงล้อเลียนไอ้แบล็คครับ
   “ตุ๊ดพ่องมึงสิ”ไอ้แบล็ดตอบกลับแล้วก็ดูเหมือนว่าวินกำลังจะด่ากลับแต่
   “เป็นเชี่ยอะไรกันวะ”ไอ้บอมพูดขึ้น “แม่งขนาดเจ้าของเรื่องเขาเองยังไม่โวยวายเท่าพวกมึงสองตัวเลยอย่าไปเสือกเรื่องของเขาดิให้เขาคุยกันเองดิกูว่ามึงทั้งสองตัวนี้ก็ขี้เสือกทั้งคู่น่ะแหละ”ไอ้บอมโวยขึ้นทำให้สองคนนั้นถึงกับเงียบครับ
   “ไอ้แบล็คมา”ไอ้บอมพูดพลางดึงแขนของไอ้แบล็คเดินไปด้วยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักก่อนที่จะหันหน้ามาทางวินที่ยืนอยู่ข้างดินแล้วเหลือกตาใส่เชิงสั่งว่าออกมาเดี๋ยวนี้วินจึงค่อยๆเดินออมาแต่ไปคนละทางกับพวกนั้นจนเหลือแค่ผมกับดินอยู่สองคน
   “เอ่อ..เป็นไรมั้ย”ดินถามขึ้น
   “ไม่อะไปก่อนนะ”ผมตอบเขาแล้วจะเดินออกไปแต่ดินกลับเอามือมาจับแขนผมแล้วดึงไว้ผมจึงหันไปมองหน้าเขา
  “เดี๋ยวก่อนสิ”ดินพูดในขณะที่มองหน้าผม “เราทำอะไรให้ออมโกรธหรือเปล่า”ดินถามขึ้น
   “มะ..ไม่”ผมตอบในขณะที่หัวใจของผมเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเพราะตอนนี้ดินกำลังจับมือผมอยู่
   “แล้วเมื่อเช้าทำไมเราทักไม่เห็นทักเราเลยอะ”ดินถามสงสัยคงเป็นตอนที่ผมหันหน้าหนีล่ะมั้ง
   “เราไม่เห็นอะ”ผมตอบ
   “จริหรอ”ดินถามพลางเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ
  “ก็เออน่ะสิ”ผมตอบ “ว่าแต่จะปล่อยมือเราได้ยัง”ผมถามพลางมองมาที่มือของเขาที่จับมือผมอยู่
   “เออโทษที”เขาพูดพลางเอามือลูบหัว
   “ไปก่อนนะ”ผมบอก
   “จะไปไหน”ดินถาม
   “ไปด้วยกันสิ”ดินบอก
   “บ้าคนละสนาม”ผมบอก
   “ดูนั้น”ดินบอกพลางทำหน้าบุ้ยไปทางสนามที่เขาใช้เรียน ผมจึงหันไปมองตามก็เห็นว่าเพื่อนๆห้องผมเข้าแถวอยู่สนามนั้นด้วยซึ่งบางคนก็ทำหน้าดีใจแต่บางคนก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ
   “ทำไมเป็นงี้อะ”ผมพูดขึ้น
   “ไม่รู้ดิไปกัน”ดินบอกผมแล้วเดินนำหน้าไป
   “เกิดอะไรขึ้นวะมึง”ผมถามไอ้บอมเมื่อเดินมาถึงแถว”ครูธีรวัฒ โดนรถชนว่ะระหว่างที่ครูธีวัฒพักลักษาตัวครูคิม จะเป็นคนสอนแทนแล้วถ้าคาบไหนเรามีเรียนพละทับกับห้องอื่นเราจะต้องได้เรียนกับห้องนั้นพูดง่ายๆก็คือเราต้องเรียนพละรวมกับพวกเด็กพิเศษทั้งหลายแหล่นี้”ไอ้บอมพูดออกมาเป็นชุดแล้วมันก็ดูท่าทางไม่พอใจด้วยจะให้ดีใจได้ไงล่ะครับก็ผู้หญิงห้องนี้แต่ละคนมีแต่นิสัยแบบ....แย่จะคุยด้วยได้ก็ไม่เกินสามคนหรอกครับพวกเธอชอบคิดว่าตัวเองเด่นดีกว่าคนอื่นซึ่งไอ้บอมมันก็ไม่ชอบคนที่ดูถูกคนอื่นรวมถึงไอ้แบล็คก็ด้วยเช่นกันแต่มันจะค่อนข้างหนักหน่อยเพราะไอ้แบล็คมันค่อนข้างจะแสดงออกมาชัดเจนมากเพราะมันไม่ชอบทนกับอะไรที่มันไม่ชอบถ้าจะให้ทนมันขอไฟต์ยังจะดีกว่า
   “โอ้ยยยยกูล่ะลำบากใจที่ต้องอยู่กับไอ้พวกนี้จริงดูทำหน้าเข้า”ไอ้แบล็คพูดขึ้นพลางมองไปทางผู้หญิงผมแกะที่ชื่อว่าพริ้งที่กำลังทำหน้าไม่พอใจและกำลังโวยวายกับเพื่อนของเธอพร้อมกับหันหน้ามาทางห้องของพวกผม
   “แล้วมึงจะไปสนทำไมวะ”ผมพูดขึ้น
    “กูจำเป็นต้องเฉยหรอ”มันพูดเสร็จก็หันไปหาพริ้งพร้อมกับโบกมือให้เขามองเห็นแล้วด่าเขาแบบไม่ออกเสียงด้วยคำพูดที่ผู้หญิงคงจะรับไม่ได้ด้วยรูปปากชัดเจนมากจนเธออ่านได้แล้วเธอก็ทำท่ากระฟัดกระเฟียดแต่ไอ้แบล็คกับทำหน้ามีความสุขพอหันมามองได้บอมก็เห็นมันยิ้มอยู่เช่นกันผมล่ะเหนื่อยใจกับมันสองตัวจริงๆ
   “อ่าวนักเรียนฟังทางนี้นะครับ”ครูคิมพูดขึ้น “ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนนะครับแล้วออกมาเอาลูกบาสไปหัดส่งลูกรับลูกแล้วครูจะสอบนะครับ”เมื่อครูพูดเสร็จเพื่อนผมทั้งสองจับคู่กันทันทีพร้อมกับทำหน้าชั่วร้ายมองไปทางผู้หญิงที่อยู่ห้องเดียวกันกับดินผมว่ามันสองตัวต้องวางแผนแกล้งพวกเธออย่างแน่นอนแต่แล้วพวกมันก็เดินออกไปจากโรงยิมพอผมถามว่าจะไปไหนมันกลับบอกว่าไปห้องน้ำทั้งๆที่เพิ่งไปมา แล้วผมก็ยืนอยู่คนเดียวตามอัตภาพเพราะห้องผมมีคนอยู่เป็นเลขคี่จึงทำให้ผมไม่มีคู่
   “ออม”เสียงของใครคนนึงดังขึ้น
   “ฮึ้มว่าไง”ผมตอบพลางหันหน้ากลับไปมองคนที่เรียกผมเขาคนนั้นคือพิชครับเป็นเพื่อนผู้ชายจากห้องของดินเขาเป็นผู้ชายตัวสูงครับขาวแล้วก็ใส่แว่นดูดีไม่เนิร์ดนะครับ
   “ออมมีคู่ยัง”พิชถามขึ้น
   “ยังอะทำไมหรอ”ผมถาม
   “เราก็ยังไม่ได้คู่เลยอะ คู่กับเรามั้ยล่ะ”พิชถาม
   “เอาดิ”ผมตอบ
   “ถ้างั้นเราไปเอาลูกบาสก่อนนะ”พิชบอกก่อนที่จะไปหยิบลูกบาสมาแล้วก็ส่งให้ผม
   “พิชพอเหอะเราเหนื่อยแล้วอะ”ผมบอกพิชหลังจากที่เราเล่นได้ประมาณยี่สิบนาทีแล้ว
    “งั้นนั่งพักก่อนสิ”พิชบอกผมพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆ “ออม”
   “หึ้ม”
   “ออมได้โทรศัพท์คืนแล้วใช่มั้ย”พิชถามขึ้น
   “โทรศัพท์อะไรหรอ”ผมถามขึ้นอย่างสงสัย
   “ก็โทรศัพท์ของออมที่ทำหล่นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว”พิชพูดขึ้น
   “อ๋อได้คืนแล้วว่าแต่พิชรู้ได้ไงอะ”ผมถามอย่างสงสัย
   “ก็เราเป็นคนเอาไปคืนออมเอง”พิชบอก
   “อ่าวหรอแล้วทำไมไม่รอเราออกไปเอาล่ะ”ผมถาม
   “พอดีเราไปกับพ่อแล้วต้องรีบไปทำธุระต่ออ่ะ”พิชตอบ
   “อ๋อถ้างั้นขอบใจมากนะ”ผมบอก
   “ไม่เป็นไรเพื่อนกัน”พิชพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม
   เมื่อหมดคาบพละพวกผมจึงพากันไปเปลี่ยนชุดในระหว่างที่เปลี่ยนชุดอยู่ก็ได้ยินเสียงกรี๊ดของพริ้งและเพื่อนๆของเธอที่อยู่ห้องข้างๆดังขึ้นดูท่าทางตกใจมากแต่ไอ้แบล็คกับไอ้บอมกลับหัวเราะชอบใจเพื่อนผมที่เปลี่ยนชุดอยู่ในห้องก็ต่างพากันมองมันเป็นตาเดียวแต่สายตานั้นกับเต็มไปด้วยความพอใจสงสัยคงไม่ใช่แค่ไอ้แบล็คกับไอ้บอมแล้วที่เกลียดพวกเธอ
   “ฝีมือพวกมึงใช่มั้ย”ผมถามขณะนั่งกินข้าวเที่ยงอยู่กับพวกมันที่โรงอาหาร
   “ใครบอกอย่ามามั่วนะ”ไอ้แบล็คพูดขึ้น “ว่าแต่มึงเหอะตอนพวกกูไปเข้าห้องน้ำเป็นไงบ้างวะโดนผู้หญิงพวกนั้นดูถูกหรือเปล่า”
   “มึงนี่ก็เวอร์เนาะไม่มีเชี่ยอะไรทั้งนั้นแหละมีแต่....”ผมพูดพร้อมกับเว้นจังหวะไว้
   “แต่อะไรวะ”ไอ้บอมถามขึ้น
   “ก็.....”ผมพูดเสียงยาว
   “ก็เชี่ยอะไรอีกวะไม่เล่าก็ไม่ต้องเล่า”ไอ้แบล็คโวยครับทีนี้
   “เออเล่าก็ได้แหมใจร้อนไปได้”ผมพูดเสร็จจึงเล่าเรื่องที่ว่าพิชเป็นคนเก็บโทรศัพท์ไปให้ผมให้พวกมันฟัง
   “นั่นไงโป๊ะเชะ ไอ้พิชเป็นไอ้เกรย์แน่นอน”ไอ้แบล็คพูดขึ้น
   “เออเชี่ยจริงกูลืมถามว่ะ”ผมพูด
   “ตอนแรกกูก็นึกว่าไอ้ดินเห็นว่าเดินชนกันหนิ”ไอ้บอมพูดขึ้น
   “กูไม่หวังอย่างงั้นหรอกไม่อยากผิดหวังว่ะ”ผมพูด
   “มึงนี้เป็นอะไรมากป่ะดราม่าได้ตลอดเลยนะมึง”ไอ้บอมพูด
   เมื่อกินข้าวเที่ยงเสร็จพวกผมจึงได้พากันขึ้นไปเรียนคาบบ่ายที่ออกจะน่าเบื่อนิดๆเพราะมีวิชาพระพุทธศาสนาทำเอาคนในห้องง่วงไปตามๆกันแล้วก็ประวัติศาสตร์ที่ครูเล่าแต่ประวัติของตัวเองได้ทุกกคาบจนเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จพวกผมจึงได้ไปนั่งกินเค้กกันที่ร้านหน้าโรงเรียน
   “กูเอาเครปเค้กสตอร์เบอร์รี่กับแอ๊ปเปิ้ลโซดานะ”ผมบอกไอ้แบล็คที่กำลังจดรายการขนมอยู่
   “แล้วมึงอะ”ไอ้แบล็คถามไอ้บอม
   “ดับเบิ้ลช็อคกับนมสดเย็น”ไอ้บอมตอบ
   “มึงรายงานของครูศิริพร มึงทำเสร็จยัง”ผมถามไอ้บอม
   “เสร็จแล้ว”ไอ้บอมตอบ
   “ทำไมเร็วจังวะ”ผมถามแบบเซ็งๆ
   “ก็แค่คิดยังไงก็ทำอย่างงั้นเปล่าวะ”ไอ้บอมตอบ
   “ไม่ต้องดงต้องแดกมันแล้วกลับ”ไอ้แบล็คเดินมาด้วยหน้าตาอันบูดบึ่ง “ไอ้ออมของมึงกูสั่งใส่กล่องแล้วนะเดินไปเอา”
   “แล้วของกูล่ะ”ไอ้บอมถามขึ้น
   “ไม่ต้องแดกแล้วกลับ กูกลับก่อนนะ”ไอ้แบล็คบอกผม
   “แม่งเป็นอะไรวะไปโกรธใครมาจากไหนวะ”ไอ้บอมโวยขึ้น
   “เออจริง”ผมพูด
   “ก็ไอ้เชี่ยนั่นน่ะดิ”ไอ้แบล็คพูดทำให้ผมหันหน้าไปมองทางเคาน์เตอร์ที่ตอนนี้เห็นวินที่ตัวเต็มไปด้วยนมชมพูกับผู้หญิงคนนึงกำลังเช็ดนมออกให้เขาอยู่
   “มันไปทำอะไรให้มึงวะ”ไอ้บอมถามขึ้น
   “ก็มันมาหาว่ากูเป็นตุ๊ดแถมยัง..... ชั่งแม่งเหอะยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย”ไอ้แบล็คบ่นอย่างกับผู้หญิงเลยครับตอนนี้ “แล้วมึงจะกลับมั้ย”มันถามไอ้บอมขึ้น
   “เออกลับก็กลับ กลับก่อนนะมึง”ไอ้บอมบอกผม
   “เออกลับดีๆล่ะอย่าให้ไอ้หมาบ้านั้นไปกัดใครล่ะ”ผมพูดพลางแขวะไอ้แบล็คที่กำลังอารมณ์เสียแต่มันก็ไม่โกรธผมหรอกครับ
   “บาย”ไอ้แบล็คกับไอ้บอมพูดพลางโบกมือให้ผมแล้วเดินออกไป
   “บาย”ผมตอบพลางโบกมือให้มันทั้งสองตัวแล้วนั่งมองจนพวกมันเดินออกไปจากร้านแล้วผมจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเอาเค้กแล้วกลับบ้านตามเคย
   “มาเอาเค้กที่สั่งใส่กล่องไว้ครับ”ผมบอกพนักงานที่หันหลังอยู่
   “ได้แล้วค่ะ”พนักงานพูดขึ้นแล้วหันเอาเค้กมายื่นให้ผม “นี่ที่มาสั่งเอาไว้นี่เพื่อนน้องหรอ”พนักงานถามขึ้น
   “ครับ ทำไมหรออครับ”ผมถาม
   “ก็เมื่อกี้น่ะสิเขามีเรื่องกันพี่ล่ะกลัวว่าจะตีกันใส่ร้านโชคดีที่แค่สาดน้ำ”พนักงานพูดขึ้น
   “เขามีเรื่องอะไรกันหรอครับ”ผมถาม
   “พี่ก็รู้ไม่มากหรอกนะแต่ตอนที่พี่เอาของที่น้องเขาสั่งให้ก็เหมือนว่าจะโดนผู้ชายที่มากับผู้หญิงคนนึงว่าเขากินนมชมพูเหมือนตุ๊ด แต่เขาก็ไม่สนแล้วก็เหมือนว่าผู้ชายคนนั้นจะจับก้นเขามั้งเขาเลยโวยแต่ผู้ชายคนนั้นก็ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเขาเลยจ่ายเงินแล้วเอานมสาดเลยแล้วบอกที่เหลือให้ใส่กล่องไว้ให้น้องนี่แหละ”ผู้หญิงคนนั้นบอก
   “โหพี่จำได้หมดเลยหรอครับ”ผมถาม
   “บ้าคิดมากพี่แค่ได้ยินผ่านๆน่ะไม่ได้ตั้งใจฟังเล๊ยยยย”พี่พนักงานบอกเสียงสูง
   “ครับๆ”ผมตอบยิ้มๆ
   “เอาเค้กช็อคโกแล็ตกับโกโก้ปั่นแก้วนึงกลับบ้านนะครับ”เสียงของผู้ชายคนนึงดังมาจากข้างหลังของผมซึ่งเป็นเสียงที่คุ้นมากผมจึงหันหลังกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นดินแต่เขามากับผู้หญิงคนเมื่อเช้าครับ “แล้วดาวจะเอาอะไร”เขาถามผู้หญิงคนนั้น
   “ไม่เอาไม่ได้หรอดาวขอกลับกับเพื่อนนะ”ผู้หญิงคนนั้นทำท่าทางอ้อนซึ่งทำให้ผมรู้สึกหน่วงๆในใจ
   “ก็ได้แต่ต้องดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ”ดินบอกผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่ห่วงใย
    “ครับผมรับทราบ”ดาวบอกดินก่อนที่จะเดินออกไปจากร้านแล้วดินจึงหันกลับมาที่เคาน์เตอร์
   “อ่าวออม”ดินทักขึ้น
   “ไง”ผมตอบ
   “มาคนเดียวหรอ”ดินถาม
   “อึ้มพอดีเพื่อนเราพึ่งกลับอะ”ผมตอบ
   “เหมือนกันเลยไอ้วินก็พึ่งกลับเห็นมันตัวชมพูไปหมดเลยไปทำอะไรมาก็ไม่รู้”ดินพูดพลางขำนิดๆ
    “เอ้าหรอ ว่าแต่ผู้หญิงคนเมื่อกี้....”ผมถามขึ้นทั้งที่มีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วว่าเขาต้องเป็นแฟนกันแน่นอนก็ท่าทางสนิดสนมกันขนาดนั้น
    “อ๋อน้องเราเองอะพอดีเพิ่งเข้าม.4 ตอนแรกๆเข้ามายังไม่มีเพื่อนก็ติดเราแจแต่พอมีเพื่อนก็ทิ้งเราเฉยเลยเห็นมั้ย”ดินพูดพลางยิ้ม
   “ว่าไงนะน้องหรอ”ผมถามขึ้นอย่างไม่เชื่อหูเผื่อว่าโรคมโนเข้าข้างตัวเองของผมมันจะกำเริบทำให้ได้ยินอะไรผิดไป
   “อื่ม ทำไมหน้าไม่เหมือนกันหรอ”ดินถามขึ้น
   “เปล่าก็ต้องเหมือนกันดิพี่น้องกันหนิ”ผมตอบพลางหลบหน้าดินแล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียวความรู้สึกตอนนี้คือโล่งไปหมดเหมือนสมองเบาเหมือนไม่มีเลยครับให้ตายเถอะเชื่อไอ้บอมตั้งแต่แรกก็จบแล้ว
    “หรือว่าออมคิดว่าเป็นแฟนเรา”ดินถามขึ้น
    “บ้าไม่มีไม่ได้คิดเล๊ย”ผมตอบแล้วหันหลังให้เขากลัวเขาจับโกหกได้
    “ถ้าไม่ใช่งั้นก็...ออมชอบน้องเราหรอ”ดินถามขึ้น
    “บ้า!! เราชอบ...”ผมตอบพลางหันหน้าไปหาเขาที่ตอนนี้มันห่างจากหน้าผมไม่มาก ซึ่งมันทำให้ใจผมเต้นแรงอีกแล้วครับ
   “ชอบใครหรอ”ดินถามพลางมองหน้าผม
   “ชอบ...ชอบคนที่เราชอบอะ”ผมตอบแบบงงๆซึ่งตอนนี้ดินก็มองหน้าผมอยู่
   “ได้แล้วค่ะ”พนักงานพูดขึ้นแล้วมองดินกับผมยิ้มๆ
   “ถ้างั้นเราไปก่อนนะ”ผมบอกดินแล้วหยิบเอาถุงขนมของผมแล้วจะเดินออกไปแต่ดินจับแขนผมไว้
   “เดี๋ยวก่อนสิค่อยไปพร้อมกัน”ดินบอกแล้วจ่ายตังหยิบเอาถุงขนมแล้วจูงแขนผมเดินออกมาจากร้าน
   “ดิน”ผมเรียกดิน
   “หื้ม”ดินตอบ
   “มืออะ”ผมบอกดิน
   “อ๋อโทษที”ดินบอกแล้วยิ้ม ผมก็ไม่เข้าใจทำไมเขาชอบทำให้ผมเขินตลอดเลยไม่เข้าใจเหมือนกัน “แล้วออมจะกลับยังไงอะ”ดินถามขึ้น
   “เดินอะบ้านเราไม่ได้ไกลมาก”ผมตอบ
   “งั้นเราไปส่ง”ดินพูดขึ้น
   “ไม่เป็นไรเราไปเองได้ใกล้ๆเอง”ผมบอก
   “เราว่าฝนมันจะตกแล้วนะ”ดินพูดพลางมองดูฟ้าที่ตอนนี้ครึ้มได้เต็มที่แล้ว
   “ไม่....”

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
   ซ่า
   ฝนตกลงมาอย่างกับสั่งได้เลยครับหนักด้วย
   “มาเดี๋ยวเราไปส่งเองเรามีร่ม”ดินพูดพลางหยิบร่มออกมาจากกระเป๋าแล้วกางออก “มาดิ”ดินเรียกผมเข้าไปในร่มด้วยผมจึงเดินเข้าไปแล้วเราทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกัน
   “ขอบใจนะ”ผมพูดขึ้นขณะที่เดินใกล้ถึงบ้านแล้ว
   “ไม่เป็นไร”ดินบอกพลางมองไปข้างหน้า
   “นั่นอะไรอะ”ผมถามในขณะที่เห็นอะไรสีน้ำตาลกลมอยู่ข้างฟุตบาท
   “นั่นมันลูกหมาหนิ”ดินพูดขึ้น
   “ใช่จริงๆด้วย”ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกใจผมจึงวิ่งออกไปนอกร่มเข้าไปหาลูกหมาตัวนั้น(พันธุ์โกล์เดนดีทีฟเวอร์นะครับ)แล้วอุ้มมันขึ้นมามันตัวสั่นเทาไปด้วยความหนาวครับผมจึงกอดมันไว้ “ทำไงดีอะตัวสั่นใหญ่แล้ว”ผมถามดิน
    “เดี๋ยวออมถือร่มไว้ก่อนนะ”ดินบอกผมแล้วยื่นร่มให้แล้วถอดเสื้อแขนยาวที่เขาใส่อยู่ออกแล้วเอามาห่มให้ลูกหมาตัวน้อยที่สั่นเทาแล้วยื่นมันให้ผม “รีบไปบ้านออมกันเถอะ”ดินบอกแล้วพวกผมก็พากันเดินออกไปอีกประมาณร้อยเมตรก็ถึงบ้านผมแล้วรีบเข้าไปในบ้าน
   “แม่ครับ”ผมเรียกหาแม่แต่ดูเหมือนว่าท่านคงจะยังไม่กลับเพราะไฟในบ้านก็ยังไม่เปิด
   “ออมมีไดรฟ์เป่าผมป่ะ”ดินถาม
   “มีสิเดี๋ยวไปเอามาให้”ผมบอกแล้วรีบไปหยิบไดรฟ์เป่าผมมาแล้วส่งให้ดินแล้วดินจึงเสียบปลั๊กแล้วเป่าให้น้องหมา
   “ออมไปอาบน้ำเหอะเดี๋ยวไม่สบาย”ดินบอก
   “ไม่เอาเราอยากช่วย”ผมตอบ
   “ไปอาบน้ำก่อน”ดินพูดพร้อมกับทำหน้าจริงจังผมเลยต้องยอมขึ้นไปอาบน้ำให้เสร็จแล้วย้ายกระถางต้นไม้เข้ามาในห้องเพราะมันโดนฝนสาด(ต้นไม้สูงได้สามนิ้วแล้ว)พอลงมาก็เห็นว่าลูกหมาตัวนั้นหลับปุ๋ยไปแล้ว
   “อะดิน”ผมพูดพลางยื่นผ้าเช็ดตัวให้เขา
   “ขอบใจนะ”ดินบอกแล้วรับผ้าเช็ดตัวไป
   “เราว่าควรพามันไปหาหมอนะ”ผมพูดขึ้น
   “ใช่แต่เราไม่มีรถ”ดินพูด
   “แล้วจะทำไงดี”ผมถาม
   “พรุ่งนี้ค่อยพามันไปแล้วกัน”ดินบอก
   “เออเสื้อดินเลอะหมดเลยอะ”ผมพูดขึ้น
   “ไม่เป็นไรหรอก”ดินบอก
   “ถ้างั้นเราซักให้นะ”ผมพูดขึ้น
   “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเอากลับไปซักเองก็ได้”ดินบอก
   “ให้เราซักให้เถอะนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “นะ”ผมขอเขา
   “ก็ได้”เขาตอบ ผมยิ้มแล้วจึงเอาเสื้อเขาไปใส่ตะกร้าไว้ พอกลับมาก็เห็นพ่อกับแม่กลับมาแล้วแล้วคุยกับดินอยู่
   “อ่าวพ่อแม่กลับมาแล้วหรอครับ”ผมถามขึ้น “นี้ดินครับเพื่อนคนละห้องกับผม”ผมพูดแนะนำดินกับพ่อแม่
   “พ่อรู้แล้วล่ะเพื่อนลูกบอกแล้ว แล้วลูกจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้หรอ”พ่อถามขึ้น
   “คือว่า....”ผมไม่กล้าตอบครับกลัวว่าพ่อกับแม่จะไม่ให้เลี้ยง
   “ถ้าจะเลี้ยงก็เลี้ยงได้แต่ต้องดูแลเอาเองนะ”พ่อบอกทำให้ผมใจดีขึ้นครับ
   “ครับ ขอบคุณนะครับพ่อ”ผมพูดแล้วหันไปยิ้มให้ดิน
   “งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ดินพูดขึ้น
   “อ้าวไม่อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนหรอจ๊ะ”แม่ถามขึ้น
   “นั่นน่ะสิ”ผมเสริมทัพแม่เพราะผมอยากให้เขาอยู่นานๆ
   “ไม่รบกวนแล้วกันครับขอบคุณมากนะครับ”ดินบอก
   “งั้นเราไปส่งนะ”ผมบอก
   “อื้ม”ดินตอบผมจึงเดินออกไปส่งดินหน้าบ้านเพราะฝนเริ่มซาแล้ว
   “กลับดีๆนะ”ผมบอกดินแล้วโบกมือลาให้เขา
   “อื้มม ฝันดีนะ”เขาโบกมือลาให้ผม(เขินจังคืนนี้ผมต้องฝันดีแน่นอนเลย^.^)แล้วเดินออกไปผมจึงเดินเข้ามาในบ้านแล้วตรงไปที่เครื่องซักผ้าแล้วก็ซักผ้าให้เขาจนเสร็จแล้วจึงได้มาอุ้มเอาเจ้าลูกหมาน้อยขึ้นไปนอนด้วย
    ดึ่ง
เสียงไลน์ของผมดังขึ้น
เกรย์
   ‘ไม่เห็นทักมาบ้างเลย’เกรย์ส่งข้อความมาครับ
   ‘ไม่ว่างหรอ’เกรย์ถาม
   ‘อยากคุยก็ทักมาเองดิ นายก็ไม่ทักมาเหมือนกันแหละ’ผมตอบ
   ‘ทำไมคิดถึงหรอ’เขาถามมา
   ‘หลงตัวเอง’ผมด่า
   ‘หรอแล้ววันนี้เป็นไงบ้างฝนตกด้วยหนิดูแลตัวเองด้วยนะเป็นห่วง’เกรย์บอก
   ‘หยุดพูดอย่างนี้ดิขนลุก’ผมตอบเขาไปก็ผมเป็นผู้ชายหนิครับ
   ‘วันนี้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเยอะเลยล่ะ’ผมบอกเขาไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะบอกทำไม
   ‘หรออยากเล่ามั้ย’เขาถาม
   ‘ไม่’ผมตอบ
   ‘ว่าแต่นายจะบอกเราได้ยังว่านายเป็นใคร พิชใช่มั้ย’ผมถาม
   ‘ไม่บอกเหมือนกันน่ะแหละ’เขาตอบ
   ‘งั้นนอนก่อนนะไม่อยากคุยกับคนโรคจิต’ผมบอกเขาไป
   ‘หรอออออออ’เขาส่งมา
    ‘เออ’ผมตอบ
   ‘งั้นฝันดีนะ’เขาบอกพร้อมกับส่งอิโมจิมาแต่ผมก็ไม่ได้ส่งกลับตามเคย
แล้วก็เดินไปห่มผ้าให้เจ้าหมาน้อยแล้วก็กลับขึ้นที่นอนจนผมนอนหลับไป

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่ห้า กล่องของวัญสีชมพู
   ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแต่ว่าเช้านี้อากาศไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่เพราะว่าเมื่อคืนฝนตกอากาศเลยไม่ค่อยดีนัก ผมมองไปรอบๆห้องก็เห็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือเจ้าหมาน้อยตัวสีน้ำตาลที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ในตะกร้า ผมจึงลุกขึ้นจากที่นอนเพราะว่าจะต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปและเรียนตามปกติแต่สิ่งที่ผมพบก็คือว่าผมรู้สึกเวียนหัวครับแต่ไม่มากและไม่ถึงกับทำให้ผมสงสัยอาจจะเป็นเพราะฝนเมื่อวานแน่นอนเลย เมื่อผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ทำให้รู้ว่าผมเจ็บคอหน่อยๆด้วยในขณะที่บ้วนปาก เมื่อผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เห็นเจ้าหมาน้อยตื่นแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยร่าเริงสักเท่าไหร่
   “ไง ตื่นแล้วหรอ”ผมพูดกับเจ้าหมาน้อยทั้งที่ไม่รู้เลยว่ามันจะเข้าใจหรือเปล่าแล้วเอามือไปลูบหัวมันเบาๆด้วยความเอ็นดู มันจึงครางเบาๆเป็นการตอบรับ ผมมองดูมันด้วยความเอ็นดูอีกครั้งแล้วจึงอุ้มมันแล้วลุกขึ้น “เดี๋ยวกลับมาพาไปหาหมอนะ”ผมบอกมันเพราะรู้สึกว่าตัวมันจะอุ่นๆ ก่อนที่ผมจะเดินลงไปข้างล่างแล้วเอานมให้มันกิน(นมไม่เย็นนะครับ)แล้วจึงเดินออกจากบ้านไป ผมเดินตามทางฟุตบาทมาเรื่อยๆจนนึกขึ้นได้ว่าลืมเอาร่มมาด้วยยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหตัวเองทั้งๆที่รู้ว่าอากาศไม่ค่อยดียังจะลืมอีกทั้งตัวเองก็รู้สึกอาการไม่ค่อยดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถ้าฝนตกขึ้นมาผมล่ะกลัวว่าจะป่วยจริงๆ เมื่อผมเดินมาถึงร้านขนมปังหน้าโรงเรียนก็เห็นว่าไอ้เพื่อนสองตัวของผมยังไม่มาผมจึงเข้าไปนั่งรอในร้านก่อนแล้วสั่งนมอุ่นมากินแก้วหนึ่งเพราะว่าไม่ค่อยจะหิวเท่าไหร่ทั้งยังรู้สึกคันๆคออีกผมนั่งจิบนมได้ยังไม่ถึงนาทีก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งอายุประมาณห้าขวบได้เดินมาหาผมพร้อมกับหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วพูดขึ้น
   “พี่คะ”เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้น
   “ครับผม”ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้น้องเขาแล้วน้องเขาก็ยิ้มตอบ แก้มน้องเขาขึ้นสีนิดหน่อย
   “นี่ค่ะ”เด็กหญิงตัวเล็กยื่นกล่องสีชมพูลายจุดขนาดเล็กเท่ากับกล่องใส่แหวนดูน่ารักให้ผม “มีคนฝากมาให้ค่ะ”เด็กหญิงตัวน้อยบอกผม
   “ให้พี่หรอครับ”ผมถามตาโตเพราะไม่เคยได้อะไรแบบนี้มาก่อนจึงทำให้ผมอยากรู้ว่าใครเป็นคนให้น้องเขาเอาของมาให้
   “ใครฝากมาหรอครับ”ผมถามเด็กหญิงตัวน้อยข้างหน้าผม
   “เขาไม่บอกชื่อค่ะ”น้องตอบ
   “แล้วเขาอยู่ไหนหรอครับ”ผมถามน้องด้วยความอยากรู้พร้อมกับความตื่นเต้นเพราะอยากเห็นหน้าของคนที่เอาของมาให้ผมซะเหลือเกิน
  “นู้นค่ะ”น้องตอบยิ้มๆพร้อมกับชี้ไปที่หน้าประตูร้าน ผมมองตามไปแต่ก็ไม่เห็นใคร “อ้าวเขาไม่อยู่แล้วค่ะ”เด็กหญิงตัวน้องพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวังเล็กน้อย
   “ไม่เป็นไรครับ ขอบใจมากนะ”ผมบอกน้องพร้อมกับลูบหัวเบาๆทำให้น้องน่าขึ้นสีอีกครั้งผมคงหล่อล่ะมั้งครับ55555555
   “ถ้างั้นหนูไปก่อนนะคะ”น้องบอกแล้วเดินจากไป  ผมจับกล่องเล็กๆใบนั้นขึ้นพลิกไปพลิกมาด้วยมือเดียวแล้วมองมันด้วยความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูกก็ผมไม่เคยได้อะไรแบบนี้มาก่อนหนิ
   พรึ่บ!!!
   กล้องหลุดออกไปจากมือผมเพราะมีใครคนนึงดึงเอามันออกไปแล้วไอ้คนที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไอ้แบล็คนั้นเองครับมันนี้แม่งเสียมารยาทชิบหาย
   “เชี่ยแม่งมึงจะเอาไปให้ใครวะออมหวานชิบหาย หรือว่ามึงจจะเอาไปสารภาพรักไอ้ดิน”ไอ้แบล็คนี้พูดขึ้นคำแรกก็ปากหมาใส่ผมเลยครับ
   “ไม่เสือกดิเอามา”ผมด่ามันครับแต่แม่งก็ไม่ยอมคืนจนผมยืนขึ้นไปแย่งกับมันแต่มันก็ยกสูงขึ้นจนผมแย่งมันไม่ถึงใช่สิก็มันสูงกว่าผมหนิ
   “บอกมาก่อนว่าเอาไปให้ใคร”มันต่อรองครับ
   “กูไม่ได้เอาไปให้ใคร”ผมบอก
   “แล้วมึงเอามาทำไม”ไอ้แบล็คถามขึ้น
   “กูไม่ได้เอามามีคนเอามาให้”ผมบอกแบล็คไปตามความจริง
   “ห๊ะ!!!มึงว่าไงนะ/ห๊ะ!!!มึงว่าไงนะ”ไอ้แบล็คกับไอ้บอมพูดขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจครับ
   “มึงพูดอีกทีดิ”ไอ้บอมบอก
   “ก็อย่างที่บอกน่ะแหละว่ามีคนให้มา”ผมบอก
   “ใครให้ของขวัญคนอย่างมึงวะ”ไอ้แบล็คพูดขึ้น
   “ไอ้สัส คนอย่างกูนี้มันยังไงวะ”ผมถามมันมันอย่างไม่จริงจังนัก
   “ก็มึงทั้งเตี้ยหล่อก็ไม่หล่อ”ไอ้แบล็คบอกออกมาอย่างจริงใจมากครับแต่พอหันไปมองไอ้บอมก็กลับเห็นว่ามันกำลังพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้แบล็คอยู่ “แล้วตกลงใครเป็นคนให้มึงมาวะ”ไอ้แบล็คถาม
   “ไม่รู้ว่ะเขาฝากเด็กผู้หญิงคนนึงเอามาให้”ผมบอก
   “เฮ้ยโรแมนติกว่ะมีกามเทพสื่อรักงี้ กูว่านะเขาจะต้องแอบชอบมึงมานานแบบที่มึงไม่รู้ตัวก็ได้”ไอ้บอมพรรณนาไปในแบบของมันครับ
   “อ่านฟิคมากไปแล้วมึงน่ะ”ผมด่ามัน
   “เออสัส”ไอ้บอมด่าผมตอบแบบไม่จริงจังมาก
   “แล้วรู้ยังว่าในนี้มีอะไร”ไอ้แบล็คถามด้วยใบหน้าขอคำตอบ
   “ยังว่ะยังไม่ได้แกะเลย”ผมตอบ
   “ถ้างั้น.....”ไอ้แบล็คพูดพลางมองกล่องแล้วแกะออกทันทีเลยด้วยความหน้าด้านของมันเมื่อแกะกระดาษห่อของขวัญออกหมดแล้วจึงเปิดฝาที่ปิดกล่องอยู่ขึ้นทันที
   “เชี่ย!!!”ไอ้แบล็คตะโกนออกมาเสียงดังด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ตกใจอย่างมากพร้อมกับโยนกล่องนั้นลงบนโต๊ะจึงทำให้กล่องใบนั้นปิดฝาลง และในตอนนี้คนที่อยู่โต๊ะข้างๆก็หันมามองมันหมดแล้วครับตอนนี้
   “เป็นอะไรวะ”ไอ้บอมถามขึ้น
   “มึงก็ดูสิ”ไอ้แบล็คบอกพลางชี้ไปที่กล่องใบนั้นไอ้บอมจึงหยิบขึ้นมาแล้วค่อยๆเปิดที่ให้ผมเห็นด้วยเมื่อเปิดออกมาก็ทำให้ผมกับไอ้บอมถึงกับสบถออกมาเพราะว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นก็คือลูกตาของคนครับแต่ว่าเป็นลูกตาปลอมที่ราดด้วยน้ำหวานสีแดงสด พร้อมกับมีกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งพับแนบมาในกล่อง ผมจึงหยิบมันขึ้นมาแล้วค่อยๆคลี่มันออกดูก็ได้เห็นว่ามันเป็นข้อความที่เขียนด้วยปากกาหมึกซึมสีแดงว่า
ขำๆนะ555
   “เชี่ย แม่งใครมาแกล้งวะ”ไอ้แบล็คโวยขึ้นด้วยความโกรธ
   “กูว่าถ้าแกล้งอย่างงี้มันแกล้งแรงไปป่ะวะ”ไอ้บอมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โกรธเป็นอย่างมาก
   “กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครอยากจะแกล้งกูขนาดนี้”อารมณ์ผมก็เริ่มขึ้นแล้วเหมือนกันครับ
   ในตอนเช้านั้นไอ้เพื่อนทั้งสองคนของผมนี้ไม่ได้กินข้าวเลยเพราะอารมณ์เสียไปหมดแล้วพวกเราจึงได้เดินเข้ามาในโรงเรียนแล้วเข้าแถวก่อนที่จะขึ้นเรียนตามปกติจนถึงเวลาพักเที่ยงในขณะที่พวกผมนั่งกินข้าวเที่ยงกันอยู่ไอ้บอมก็ได้ถามขึ้น
   “มึงว่าคนที่อยากจะแกล้งมึงเป็นใครว่ะ”ไอ้บอมถาม
   “กูไม่รู้ว่ะเพราะกูก็ไม่เคยมีศัตรูที่ไหนถูกมั้ย”ผมถามกลับ
   “กูว่าบางครั้งอาจจะไม่ใช่ไอ้ออมก็ได้ที่ไอ้เลวนั้นอยากจะแกล้งมันอาจจะเป็นกูก็ได้ที่มันอยากแกล้ง กูพอจะเดาออกว่ามันเป็นใคร”ไอ้แบล็คพูดพลางมองไปทางกลุ่มของดินที่มีวินและเพื่อนๆของเขานั่งกินข้าวอยู่จนวินมองมาเห็นว่าพวกผมกำลังมองอยู่จึงทำหน้ากวนตีนส่งมาให้ “นั้นไงใช่จริงด้วยกูจะไปจัดการมัน”ไอ้แบล็คพูดขึ้นพร้อมกับจะลุกแต่ก็โดนไอ้บอมดึงแขนเอาไว้แล้วตบหัวมันไปทีนึง “เชี่ยตบกูทำไมวะ”ไอ้แบล็คโวยขึ้น
   “มึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นคนทำ”ไอ้บอมถาม
   “ก็มึงดูหน้ามันสิ”ไอ้แบล็คตอบ
   “แค่นี้หลักฐานก็ไม่มีเกลียดเขาแล้วอคติไปทั่ว”ไอ้บอมด่าไอ้แบล็ค
   “แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันไม่ได้ทำ”ไอ้แบล็คถามอยากจะเอาชนะ
   “ก็ไม่รู้แต่กูมีวิธี”ไอ้บอมพูดแล้วมองมาที่ผม
   “มีอะไรวะ”ผมถาม
   “กูจจะถามมึงว่าตอนที่เด็กคนนั้นเอากล่องมาให้มึง ไอ้วินมันอยู่ในร้านป่ะ”ไอ้บอมถาม
   “อึ่มอยู่สิเขาเข้ามาในร้านก่อนกูอีก”ผมบอก
   “นั้นไงโป๊ะเชะ”ไอ้บอมพูดขึ้น
   “ยังไงวะ”ไอ้แบล็คถามน่าตาอยากรู้เป็นอย่างมาก
   “ก็ไอ้ออมมันบอกว่าเด็กคนนั้นเอาของมาให้หลังจากที่มันเข้ามานั่งแล้วไม่ใช่หรอแล้วอีกอย่างเด็กคนนั้นบอกว่าคนที่ให้เอาของมาให้ยืนอยู่ที่ประตูทั้งๆที่ไอ้วินมันนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วอีกอย่างก็คือเด็กคนนั้นก็ต้องไม่รู้ว่าของในกล่องนั้นคืออะไรแล้วเมื่อไอ้วินมันก็นั่งอยู่ในร้านทำไมเด็กคนนั้นถึงไม่ชี้ไปที่มันล่ะแล้วสุดท้ายก็คือตอนที่เด็กคนนั้นเอาของมาให้มึงกับกูไม่ได้อยู่ในร้านถ้าเขาอยากจะแกล้งมึงทำไมไม่ให้เด็กเอามาให้มึงแทนล่ะ”ไอ้บอมพูดออกมาอย่างละเอียดและมีเหตุผลกว่าไอ้แบล็คมากครับจึงทำให้ข้อถกเถียงจบลง
   “เออกูยอมแม่งปกป้องมันชิบหาย”ไอ้แบล็คบอกอย่างผู้แพ้
   “กูไม่ได้ปกป้องมันแต่อยากให้มึงมีเหตุผลไม่ใช่ไปกล่าวหาคนอื่นเขาไปทั่ว”ไอ้บอมพูดขึ้นด้วยเหตุผลที่ผมก็เห็นด้วยแต่ไม่ได้พูดเสริมทัพแต่อย่างใด
   “กูล่ะสงสัยว่าใครแม่งอยากแกล้งกูนัก”ผมพูดขึ้นหลังจากออกจากโรงอาหารแล้ว
   “กูภาวนาให้มันแค่อยากแกล้งมึงเหอะ”ไอ้บอมพูดขึ้น
   “หมายความว่าไงวะ”ไอ้แบล็คถามสิ่งที่ผมข้องใจแทน
   “ไม่เอาไม่อยากพูดให้ไอ้ออมกลัว”ไอ้บอมบอก ทั้งๆที่เปรยมาแล้วก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะหยุดกลางคันทำไม
   “บอกมาเหอะกูไม่กลัวหรอก”ผมบอกมันเพราะอยากรู้ว่ามันคิดยังไง
   “ที่กูจะพูดก็คือถ้าเป็นคนแกล้งปกติก็ดีแต่ถ้าหากว่าเป็นพวกโรคจิตล่ะจะทำไงมึงไม่เคยได้ยินหรอคนเจอแบบนี้เยอะจะตายแต่มึงไม่ต้องกลัวหรอกอาจจะไม่ใช่ก็ได้”ไอ้บอมบอกด้วยน้ำเสียงปกติแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรแถมยังบอกให้ผมสบายใจอีก โหไอ้ห่ากูสบายใจมาก
    “มึงคิดได้ไงวะ”ไอ้แบล็คถามขึ้น
   “กูไม่ได้คิดเองนะกูเคยเห็นในข่าว”อ่าวไอ้สัสเอาเข้าไปตอกย้ำเข้าไปกูก็กลัวเป็นนะเว้ยได้ยินคำตอบไอ้บอมนี้ผมแทบเข่าอ่อนเลยครับก็มันพูดซะน่ากลัวนี่นา
   “พอเหอะกูไม่อยากรู้แล้ว”ผมบอกให้พวกมันหยุดเพราะทำท่าจะเถียงกันอีกแค่นี้ผมก็กลัวจะตายอยู่แล้วแต่ต้องชื่นชมไอ้บอมมันจริงๆนะครับเรื่องสร้างเรื่องปกติให้น่ากลัวนี้มันเก่งสุดๆ
    หลังจากเวลาพักเที่ยงผ่านไปพวกผมก็ได้พากันไปเรียนในภาคบ่ายที่มีเรียนแค่สองชั่วโมงแล้วก็เป็นคาบว่างเมื่อผ่านสองคาบนั้นไปพวกผมจึงได้ไปนั่งเล่นและกินขนมที่สวนย่อมที่อยู่ข้างสระน้ำของโรงเรียน
   “มึงกูคิดออกแล้ว”ไอ้แบล็คพูดขึ้น
   “อะไรอีกวะ”ผมถามขึ้น
   “ก็คนที่แกล้งมึงไงกูให้ทายว่ามันเป็นใคร”ไอ้แบล็คพูดพลางเว้นวรรคนิดนึงแล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องเดาแล้วมันคือไอ้เกรย์คนที่มึงคุยไลน์ด้วยไง”ไอ้แบล็คบอกทำให้ผมตกใจอย่างมากเพราะไม่เคยนึกถึงเกย์เลยและก็ไม่มีวันจะนึกถึงเพราะถึงมันจะกวนตีนแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวจนจะทำอะไรแบบนั้นได้
   “กูเห็นด้วยนะ”ไอ้บอมเสริมทัพขึ้นทำให้ไอ้แบล็คยิ้มเล็กน้อย “ก็ถ้าจะเป็นมันน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดเพราะมันน่ะน่ากลัวที่สุดแล้วเหมือนกับเงาอ่ะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นใคร”
   “กูว่าไม่ใช่”ผมออกตัวแทนทั้งๆที่ไม่รู้จักอะไรเขามากขนาดนั้น
   “มึงรู้ได้ไงวะ”ไอ้แบล็คถาม
   “กูไม่รู้หรอกแต่ที่กูรู้สึกก็คือไม่ใช่มันถึงกูจะไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมันมาก่อนแต่กูก็รู้จักมันมากที่สุดในพวกเราสามคนป่ะวะแล้วกูก็มั่นใจว่าไม่ใช่มัน”ผมบอก
   “ที่จริงจะไปฟันธงก็ไม่ได้อย่างว่า”ไอ้บอมพูดขึ้น
   เมื่อหาบทสรุปไม่ได้พวกผมจึงตกลงกันว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเพราะมันค่อนข้างที่จะซีเรียสเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนพวกผมจึงแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะวันนี้ผมต้องรีบกลับไปที่บ้านเพื่อพาเจ้าหมาน้อยไปหาหมอระหว่างที่เดินกลับบ้านคนเดียวผมก็รู้สึกเสียวสันหลังนิดๆเมื่อคิดถึงคำพูดของไอ้แบล็คกับไอ้บอม
    เมื่อกลับมาถึงบ้านผมไหว้แม่ตามที่เคยแล้วจึงรีบตรงเข้าหาเจ้าหมาน้อยที่นอนอยู่ในตะกร้าทันทีเมื่อสัมผัสโดนตัวมันผมก็ถึงกับตกใจเพราะตัวมันร้อนมาก
   “แม่ครับทำไมมันตัวร้อนขาดนี้ล่ะ”ผมถามแม่ที่ทำกับข้าวอยู่ในครัว
   “ใครจ๊ะ”แม่ถาม
   “ก็เจ้า...”ผมสะดุดไปเพราะพึ่งนึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้ตั้งชื่อให้มัน “เจ้าหมาน้อยนี้ไงครับ”
   “จริงหรอตอนเที่ยงแม่เอานมให้มันกินมันยังปกติอยู่เลย”แม่บอกแล้วเดินออกมาจากในครัวโดยที่ผ้ากันเปื้อนผูกอยู่ที่เอว     
    “แม่ลองมาจับตัวมันดูสิ”ผมบอกแม่ แม่จึงเดินมานั่งลงข้างๆผมแล้วแตะตัวเจ้าหมาน้อย
   “ว้ายตายจริง! ตัวร้อนจริงๆด้วย”แม่อุทานขึ้นเมื่อสัมผัสโดนตัวเจ้าหมาน้อย “แล้วจะทำไงดีล่ะออม”แม่หันหน้ามาถามผม
   “ผมว่าจะพามันไปหาหมอ”ผมบอกแม่
   “แต่ตอนนี้รถไม่อยู่นะลูกฝนก็จะตกแล้วด้วย”แม่บอก
   “เดี๋ยวผมจะนั่งวินพามันไปเอง”ผมบอกแม่
   “แม่ไปด้วยนะ”แม่บอก
   “ไม่เป็นไรครับผมไปเองได้”ผมบอกแม่
   “ไปได้จริงหรอ”แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
   “ครับ”ผมตอบแม่อย่างหนักแน่นแล้วอุ้มเจ้าลูกหมาตัวน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดแล้วเดินออกจากบ้านโดยไม่ลืมที่จะหยิบเอาร่มไปด้วยเมื่อเดินออกมาจากซอยฝนก็ตกพอดีผมจึงเอาร่มออกมากางและกอดเจ้าหมาน้อยในแขนแน่นขึ้นนิดหน่อยในตอนนี้ผมคงนั่งวินไปไม่ได้แล้วผมจึงยืนรอแท็กซี่แต่ก็ไม่มีคันไหนจอดซักทีผมจึงเลือกที่จะขึ้นรถประจำทางเอาแต่ก็โดนละอองของเม็ดฝนสาดเข้ามาตลอดแต่ผมก็ป้องกันไม่ให้เจ้าหมาน้อยโดนฝนมากกว่านี้เพราะกลัวว่าจะป่วยนักกว่าเดิมเมื่อถึงป้ายใกล้ๆกับคลินิกผมจึงลงที่ป้ายแล้วกางร่มเดินต่อไปอีกหน่อยจนถึงคลินิกเมื่อผมเปิดประตูคลินิกเข้าไปทำให้ผมถึงกับตัวสั่นเพราะความเย็นของแอร์แต่ผมก็ต้องเดินเข้าไปเพราะต้องพาเจ้าหมาน้อยที่ตัวร้อนจี๋มาหาหมอผมจับบัติคิวแล้วรอไม่นานก็ถึงคิวผมจึงพาน้องหมาไปหาหมอแต่หมอบอกว่าตัวร้อนมากจนต้องเจาะเลือดเอาไปตรวจเพราะไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรมากมั้ย เป็นแค่ไข้ธรรมดา หรือเป็นHypertermia ผมล่ะสงสารมันจริงๆเพราะมันคงเจ็บมากเพราะร้องตลอดเลยเมื่อเจาะเลือดเสร็จผมจึงเอามันมาอุ้มไว้เพราะไม่อยากให้มันกลัวและเมื่อผลออกมาก็เป็นว่าน้องหมาเป็นไข้ปกติคุณหมอบอกว่าจะฉีดยาให้แต่ผมไม่ยอมเพราะตอนน้องโดนเจาะเลือดก็เจ็บมากแล้วและก็เคยได้ยินมาด้วยว่าถ้าฉีดยาให้น้อง น้องจะซึมเลยขอแค่ยามาให้น้องหมากินจะดีกว่าพอเดินออกมาจากห้องตรวจผมก็เห็นกระเป๋าที่เอาไว้ใส่น้องหมาผมจึงเอาเงินในกระเป๋าที่มีซื้อมันมาแล้วเอาน้องหมาเข้าไปพร้อมกับห่มผ้าให้แล้วนั่งรถประจำทางกลับบ้านตามเคยทั้งๆที่ฝนก็ยังตกอยู่ไม่หยุดละอองฝนที่สาดเข้ามาก็เช่นกันเมื่อถึงป้ายที่อยู่ใกล้บ้านของผม ผมจึงอุ้มเอากล่องน้องหมาด้วยมือเดียวอีกมือก็ถือร่มแล้วเดินลงไปแล้วเข้ามาถึงบ้านในที่สุด
   “กลับมาแล้วหรอลูก หมอว่าไงบ้าง”แม่ถามผมขึ้นเมื่อเห็นผมมาถึงบ้าน
  “น้องเป็นไข้ธรรมดาครับ”ผมตอบแบบเหนื่อยๆพร้อมกับอุ้มน้องหมาออกจากกระเป๋าแล้วเอามานอนที่ตักของผมแล้วลูบตัวมันเบาๆ
   “อ่อเมื่อกี้เพื่อนลูกคนเมื่อวานมาด้วยเพิ่งกลับไปเมื่อกี้เอง”แม่บอก
   “ใครครับดินน่ะหรอ”ผมถามพลางมองแม่ตาโต
  “อ๋อใช่จ๊ะใช่”แม่ตอบ
   “แล้วเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”ผมถามแม่
   “ก็ตอนที่ออมออกไปได้ประมาณห้านาทีนี้แหละเขาก็มาเลยเห็นว่าจะมาหาลูกหมาจะดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่าแต่พอแม่บอกว่าออมพาไปหาหมอทั้งๆที่ฝนตกเข้าก็ถามหาคลินิกแต่แม่ไม่รู้โทรหาออม ออมก็ดันไม่เอาโทรศัพท์ไปเขาก็เอาแต่นั่งรอจนกลับไปเมื่อกี้นี้ไม่สวนกันหรอ”แม่ถาม
   “ไม่ครับ”ผมตอบอย่างเสียดายเพราะวันนี้ทั้งวันผมไม่ได้คุยกับเขาเลย “ฮัดชิ้ววววว”ผมจามออกมาเสียงดังครับสงสัยคงเป็นเพราะฤทธิ์ของละอองฝนแน่นอนเลย
    “ไปขึ้นไปอาบน้ำก่อนไปแล้วลงมากินข้าวกินยาเดี๋ยวแม่ดูเจ้านี้ให้”แม่บอกอย่างใจดีแล้วอุ้มเอาน้องหมาไปผมจึงไปเอาผ้าเช็ดตัวแล้วไปอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จแล้วลงมาข้างล่างก็เห็นว่าแม่ตักข้าวต้มหมูใส่ถ้วยไว้ให้ ผมจึงลงมือกินมันจนหมดถ้วยก่อนจะกินยาแล้วอุ้มเจ้าหมาน้อยขึ้นไปนอนโดยที่ไม่ได้จับโทรศัพท์อีกเลย
    เมื่อผมตื่นขึ้นมามองไปรอบๆห้องก็เห็นเจ้าหมาน้อยนอนอยู่ในตะกร้าหลับสนิทแล้วทำหน้าเคลิ้มอย่างน่ารัก
   ครื้ดดดดดดดด
   เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นผมก็เห็นว่ามันวางอยู่โต๊ะข้างที่นอนของผมสงสัยว่าแม่คงเอามาไว้ให้ผมจึงจะลุกขึ้นเพื่อไปหยิบเอาโทรศัพท์ของผมขึ้นมาดูแต่ผมก็ต้องล้มลงไปบนที่นอนอีกครั้งด้วยความรู้สึกเวียนหัวและเหมือนว่าร่างกายของผมหมดเรี่ยวแรงที่จะทำอะไรไปซะหมดเลย ผมจึงค่อยๆกระเถิบไปใกล้โต๊ะแล้วค่อยๆหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นว่ามีสายของแม่ที่โทรมาตั้งแต่เมื่อคืน ไลน์ของไอ้แบล็คที่ส่งมาถามการบ้านเกมส์ที่ไอ้บอมแชร์มาให้และไลน์ของเกรย์ประมาณยี่สิบข้อความผมจึงกดเข้าไปดู
   เกรย์
   ‘ออมทำอะไรอยู่’
   ‘ทำไม่ไม่ตอบล่ะ’
   ‘เป็นไรป่ะเนี้ย’
   ‘อยู่ไหนหรอ’
   ‘ตอบหน่อยสิ’ฯลฯอีกหลายข้อความ
   ‘เราอยู่บ้านไม่เป็นอะไร’ผมตอบข้อความเขา
   ‘ขอโทษทีนะที่ไม่ได้ตอบพอดีว่าเมื่อคืนเรากลับบ้านดึกน่ะแล้วก็ยุ่งๆด้วย’ผมบอกเขาไป
   ‘อย่าหายไปไม่บอกแบบนี้เรารู้สึกไม่ดีเลยนะรู้มั้ยเราตกใจหมดตกใจแทบแย่’เขาตอบ
   ‘กลัวว่าจะเป็นอะไรไป’เขาตอบ
   ‘รู้หรือเปล่าว่าเราเป็นห่วงขนาดไหน’เขาตอบ มาทำให้ผมถึงกับทำตัวไม่ถูก นี้ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะครับที่เขาใช้คำว่าเป็นห่วงกับผมหากแต่ว่าครั้งนี้มันจริงจังและหนักแน่นมากกว่าทุกครั้งเท่านั้นเอง
  ‘อะไรไม่ต้องมาดุเลยนะไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย’ผมตอบเขาแบบนี้ก็เพราะจะได้แก้เขินครับไม่อยากเขินมาก แต่เดี๋ยวผมจะหวั่นไหวกับเขาไม่ได้เพราะผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วไอ้ออมคิดถึงหน้าดินเอาไว้ดินๆๆๆๆๆๆๆๆ
   ‘ก็ใช่สิเรามันไม่ได้สำคัญอะไรหนิอุสส่าเป็นห่วงยังโดนวีนอีก’เขาตอบมาทำให้ผมถึงกับโมโห
   ‘วีนบ้านมึงสิผู้ชายเขาไม่ใช้คำว่าวีนกันหรอกโว้ย’ตอบกลับด้วยอารมณ์ที่คลุกกรุ่น
  ‘คร้าบๆทราบแล้วคร้าบ’เขาตอบ
   ‘แต่เดี๋ยวที่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันนี้แสดงว่าอยากให้เราเป็นใช่ป่ะจะได้มีสิทธิ์มากๆ555’เขาตอบกลับมาได้กวนตีนผมมากครับเอาซะผมควันออกหูเลย
   ‘พ่อง’ผมตอบตำเดียวสั้นๆด้วยความโมโหครับ
   ‘จะพยายามนะคร้าบบบ’เขาตอบผมมาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ผมจะปิดจอโทรศัพท์ลงแล้วลุกขึ้นจากเตียงไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวเพื่ออาบน้ำผมจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี้ผมปวดหัวมากแต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วถึงจะไม่มากก็ตามสงสัยการที่ผมได้ด่าไอ้บ้านั้นมันอาจจะทำให้ผมลืมว่าป่วยจนร่างกายดีขึ้นเองก็ได้ใครจะไปรู้ผมจึงรีบไปอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จรดน้ำต้นไม้ที่ตอนนี้จะได้หนึ่งอาทิตย์แล้วก่อนที่จะเอานมและยาให้เจ้าหมาน้อยกินแล้วบอกวิธีเอายาให้มันกินให้กับแม่แล้วไปโรงเรียนตามปกติแต่เพิ่มเติมคือความเวียนหัวที่มากขึ้นมากกว่าเมื่อตอนเช้าอีกเมื่อผมมาถึงร้านขนมปังหน้าโรงเรียนพอมองเข้าไปในนั้นคนก็เยอะน่าอึดอัดเหลือเกินผมจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปในโรงเรียนทางสนามบาสที่ไม่ค่อยจะมีคนนักแต่แปลกที่วันนี้มีคนมากเป็นพิเศษผมล่ะอยากจะเปลี่ยนที่จริงๆแต่
   “พี่ดินสู้ๆพี่ดินสู้ตาย”เสียงของกองเชียร์ในโรงยิมดังขึ้นจึงทำให้ผมถึงกับต้องหยุดนิ่งแล้วเดินกลับเข้าไปในนั้นและสิ่งที่ผมคิดก็เป็นจริงครับผมเห็นดินกับเพื่อนๆของเขากำลังเล่นบาสกันอยู่ผมจึงเดินเข้าไปหาที่นั่งเสียดายที่ ที่นั่งเต็มหมดแล้วจึงทำให้ผมต้องยืนทำตัวโงนเงนอยู่ข้างสนามมองดินที่กำลังแย่งบอลกับเพื่อนอย่างชลมุนและในที่สุดดินก็ได้บอลลูกนั้นมาและมองมาที่เพื่อนที่อยู่ทางเดียวกันกับผมแล้วส่งบอลมาให้อย่างรวดเร็วแต่เพื่อนคนนั้นดันโดนฝ่ายตรงข้ามชนล้มไปด้วยกันทั้งสองลูกบอลจึงตกกระทบพื้นแล้วลอยเข้ามาใกล้หน้าผมมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนภาพสโลว์โมชั่นในหนังแล้วในที่สุดทุกอย่างก็มืดไปหมดผมได้ยินเพียงแค่เสียงคนเรียกชื่อผมมาจากไกลๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่ผมมองเห็นเพียงความมืดและรู้สึกถึงกลิ่นคาวๆที่ปลายจมูกก่อนที่จะไม่รู้สึกอะไรเลย

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ผมลืมตาขึ้นมาก็พบกับห้องสีขาวที่มีแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ลอดเข้ามาทางบานเกร็ดเมื่อผมมองมาที่ข้างเตียงก็เห็นว่ามีใครคนหนึ่งฟุบอยู่ข้างเตียงผม ผมของเขาดูไม่เป็นทรงสักเท่าไหร่ก็มันดูดีจนใครคนนั้นค่อยๆลืมตาขึ้นมามองผมที่กำลังมองเขาอยู่เขาจึงรีบลุกขึ้นอย่างกะทันหัน
   “ออมฟื้นแล้วหรอ”ดินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดีใจอย่างมากพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าผมคิดว่าเขาคงดีใจและโล่งอกที่ผมไม่เป็นอะไรไปเพราะลูกบาสของเขา “เราเป็นห่วงแทบแย่เลยรู้มั้ย”เขาบอกซึ่งนั้นทำให้ผมดีใจอย่างมากไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้เขาพูดออกมาเช่นนั้นมันทำให้ผมมีความสุขมาก
   “ตอนนี้กี่โมงแล้ว”ผมถามเขาออกไปด้วยเสียงที่แหบแห้งจนทำให้ผมเองถึงกับตกใจดินจึงเอาน้ำมาให้ผมจิบจึงทำให้ผมรู้สึกชุ่มคอขึ้นแต่ที่มีมากกว่าความชุ่มคอก็คือกระชุ่มกระชวยหัวใจนี้แหละครับผมล่ะอยากร้องเพลงของเชอร์รีนเดอะสตาร์ซะตอนนี้เลย
   “ห้าโมงเย็น”ดินตอบขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องเขาเพลินๆจึงทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากครับนี้ผมหลับไปตั้งสิบชั่วโมงพระเจ้าช่วยกล้วยตานีทอด “แล้วออมรู้สึกยังไงบ้าง”ดินถามผมขึ้น
   “ก็มึนหน่อยๆอะ”ผมตอบ
   “เราขอโทษทีนะเราไม่ได้ตั้งใจอะ”ดินบอกด้วยหน้าตารู้สึกผิด
   “เฮ้ยไม่เป็นไรเราแข็งแรงจะตาย”ผมบอกพลางจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องล้อมลงอีกครั้งเพราะอาการเวียนหัวอย่างแรง
   “เฮ้ยเป็นอะไรมั้ยไม่ไหวก็ไม่ต้องพยายามดิ”ดินบอกผมด้วยเสียงท่าทางโกรธ
   “เราขอโทษ”ผมบอก
   “ที่เราดุนี่ไม่ได้โกรธนะเราห่วง”ดินบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับมองหน้าผมทำให้ผมหัวใจเต้นแรงอีกครั้งแรงมากจนผมได้ยินเสียงของมัน
   “เอ่อ..คือ...เพื่อนเรามาเยี่ยมบ้างหรือเปล่า”ผมถามเพื่อแก้เขินตามเคย
   “อืมมาสิ มาตอนเช้ากับตอนเที่ยงอะ”ดินบอกพลางค้นอะไรสักอย่างในกระเป๋า “นี่เขาฝากชีทไว้ให้ออมด้วยนะ”ดินบอกพร้อมกับยื่นใบงานให้ผมดูแล้วก็เก็บลงไปในกระเป๋า “อย่าพึ่งทำเดี๋ยวปวดหัว”
   “อื้อ”ผมตอบเข้าสั้นๆ
   “แล้วอยากกลับบ้านยัง”เขาถามผม ผมจึงนึกขึ้นได้ว่านี้มันห้าโมงแล้วทำไมเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปไวขนาดนี้เนี้ย
   “อื้อ”ผมตอบ
   “แล้วลุกไหวมั้ย”เขาถามก่อนที่จะค่อยๆเอามือมาประคองข้างหลังผมเมื่อผมลุกขึ้นนั่งได้แล้วมันทำให้ผมรู้สึกเวียนหัวราวกับจะอ้วกแต่ผมก็กลั้นมันเอาไว้ได้จนในตอนที่เขาพยุงตัวผมลุกขึ้นนี้ผมนี้แทบจะทนไม่ไหวแม้แต่ความฟินก็เอาไม่อยู่มันรู้สึกราวกับว่านั่งอยู่บนม้าหมุน โลกรอบๆตัวของผมนี้หมุนติ้วไปหมดจนผมต้องรีบวิ่งไปที่ถังขยะแล้วอ้วกใส่โชคดีนะครับที่ไม่ไปอ้วกใส่ดินเข้า เมื่อทำภารกิจเสร็จผมจึงไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ
   “เดี๋ยวรออยู่นี้นะเดี๋ยวเราไปเอารถก่อนเดี๋ยวไปส่ง”ดินบอกก่อนจะเดินไปที่โรงรถแล้วขับรถยนต์คันสีขาวของเขามาจอดแล้วผมจึงเปิดประตูขึ้นไปนั่งในรถ
   “ไปเอารถใครมาขับเนี้ย”ผมถามด้วยความสงสัย
   “ก็รถเราไง”ดินบอก “ถามทำไมไม่ชอบหรอ”ดินหันมามองหน้าผมขณะขับรถ
  “เปล่าก็แค่กลัวโดนจับ”ผมตอบโดนที่ไม่ได้มองเขา
   “กลัวทำไมเราสิบแปดแล้วนะใบขับขี่ก็มีแล้วขับรถก็เก่ง สรุปแล้วก็คืออยู่กับเราออมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นแหละ”ดินบอกด้วยน้ำเสียงเก๊ก
   “หรอออออออออ จะเชื่อได้แค่ไหนกันเชียว”ผมพูดแซวๆเขา
   “ก็ลองเชื่อในตัวเราดูสิแล้วเราจะไม่ทำให้ออมต้องผิดหวังเลย”ดินพูดอย่างนั้นมันทั้งทำให้ผมดีใจทั้งต้องชั่งใจกลัวว่าสิ่งที่เขาพูดมันจะไม่จริงจังอะไรมากแล้วผมต้องกลับมาเจ็บคนเดียวอีก
   “ถึงแล้ว”ดินบอกขณะจอดรถที่หน้าบ้านผมก่อนที่เขาจะลงมาจากรถแล้วเข้ามาประคองผมเข้าไปในบ้านที่มีแม่กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าลูกหมาตัวน้อยที่ดูท่าว่าน่าจะดีขึ้นจากอาการป่วยแล้ว
   “แม่สวัสดีครับ”ผมทักทายแม่
   “สวัดีครับ”ดินพูดต่อ
   “จ๊ะดูเจ้านี่สิดูสดชื่นขึ้นเนาะ”แม่ขอความเห็น
   “ใช่ครับ”ดินตอบแม่
   “ทำอย่างกับเห็นมันทุกวัน”ผมแขวะเขาไม่รู้สิผมรู้สึกว่าการได้แขวะเขามันจะทำให้เราสนิทกันขึ้นยังไงไม่รู้
   “ก็ดีกว่าวันแรกแล้วกันล่ะ”ดินบอกผมจึงทำท่าจะเถียงอีก “ไปนั่งเลยเดี๋ยวก็อ้วกอีก”ดินบอกผมเชิงสั่งนิดหน่อยก่อนที่จะพาผมไปนั่งที่โซฟา
   “แล้วนี้ออมเป็นอะไรจ๊ะทำไมถึงต้องพยุงกันเดินขนาดนี้
    “อุบัติเหตุนิดหน่อยครับ”ผมตอบแม่
    “อุบัติเหตุอะไรอีกแม่บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเล่นอะไรแผลงๆน่ะไม่รู้จักฟังเลย”แม่เริ่มบ่นแล้วครับทีนี้
    “ผมขอโทษครับผมทำเองตอนที่ผมเล่นบาสอยู่แล้วพอดีออมยืนอยู่ข้างสนามผมส่งบอลให้เพื่อนไม่ดีเองครับแล้วมันก็เลยโดนออม”ดินบอกจึงทำให้แม่เงียบลง
    “แล้วกินอะไรกันมาหรือยังจ๊ะ”แม่ถาม
    “ยังครับ”ผมตอบพลางยิ้มให้กับแม่
   “เดี๋ยวแม่ไปเอาขนมชั้นมาให้ เจ้านี้อร่อยมากเลยนะ”แม่บอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวแล้วเอาขนมออกมาให้ก่อนที่จะเข้าไปทำกับข้าว
   “ออม”ดินเรียกผม
   “อื้อ”ผมตอบ
   “แล้วเจ้านี้ชื่อว่าอะไรอ่ะ”ดินถามพร้อมกับมองไปที่เจ้าลูกหมาตัวน้อยที่กำลังนอนแทะตุ๊กตาเป็ดอยู่
   “ไม่รู้สิเรายังไม่ได้ตั้งเลยอ่ะ”ผมบอก
   “แล้วออมจะตั้งชื่อว่าอะไรดีล่ะ”ดินถาม
   “เอาชื่อเจ้าหลงมั้ยดูน่ารักดี”ผมบอก
   “ไม่เอาดิชื่อแบบนี้เราเป็นหมาเราโกรธตายเลยไม่เห็นตั้งใจตั้งเลยซักนิดดูไม่รักกันเลยเนาะเจ้าหมาน้อย”ดินพูดกับมันจึงทำให้มันหันมามองตาบ่องแบ๋ว
   “ถ้างั้นเอาชื่ออะไรดีล่ะให้ดินตั้งเลย”ผมบอก
    “เอาเป็นชื่อเจ้าโด้แล้วกัน”ดินบอกซึ่งผมรู้สึกว่าชื่อนี้โหลมากกกกกกก
   “ชื่อโคตรโหลเลย”ผมพูด
   “แต่มันมีความหมายนะ”ดินบอก
   “ยังไง”ผมถาม
   “ก็เราเอาตัวดีในชื่อเรามาผสมกับตัวโอในชื่อออมไงเพราะเราเจอมันด้วยกันถูกมั้ย”ให้ตายเถอะดินตอบผมอย่างจริงจังราวกับตั้งชื่อลูกผมล่ะเขินจนจะแย่
   “ก็โออ่ะ”ผมตอบทำท่าไม่สนใจ
ดึ้ง
    เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น
   “เดี๋ยวเราไปดูให้เอง”ดินบอกก่อนที่จะเดินไปหน้าบ้านแล้วเดินกลับมาพร้อมกับไอ้แบล็คและไอ้บอม
   “ออมถ้างั้นเรากลับก่อนนะ”ดินบอก
   “ทำไมกลับเร็วจังอะ”ผมถาม
   “นั่นสิทำไมกลับเร็วจัง”ไอ้แบล็คถามขึ้นเสริมทัพ
   “พอดีกูรีบน่ะ”ดินหันไปตอบไอ้แบล็คกก่อนที่จะหันมาผม “เรากลับก่อนนะ”ดินบอกผมจึงโบกมือให้เขาก่อนไป
    “นี่มันอะไรกันวะไอ้ออม”ไอ้แบล็คถามขึ้น
    “ไม่มีอะไรเขาแค่มาส่งกูแล้วก็แวะมาดูลูกหมา”ผมตอบ
   “มันแวะทำไมมันรู้ได้ไงว่ามึงมีลูกหมาลูกหมาที่ไหนใครเอามา เอามาจากไหนมันรู้จักบ้านมึงได้ไงบอกกูมาให้หมดเลยนะ”ไอ้แบล็คพูดแล้วก็มองมาที่ผมพร้อมกับมีไอ้บอมที่มองมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นผมจึงลากพวกมันขึ้นไปบนห้องพร้อมกับเจ้าโด้แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนเย็นของเมื่อวานก่อนให้พวกมันฟังอย่างละเอียดถี่ถ้วนตั้งแต่ต้นจนจบ
    “นั้นไงกูบอกแล้วว่าพี่น้อง”ไอ้บอมบอกด้วยสีหน้าภูมิใจ
   “แล้วทำไมมึงไม่เล่าตั้งแต่เมื่อวานวะ”ไอ้แบล็คถาม
   “ก็เมื่อวานมันมีเรื่องวุ่นน่ะกูเลยลืมซะสนิทเลย”ผมตอบพวกมัน
   “เออก็จริงว่ะ”ไอ้แบล็คว่า
   “เออมึงระหว่างที่กูไม่อยู่มีงานอะไรอีกมั้ยวะนอกจากชีท”ผมถาม
    “งานน่ะไม่มีหรอกมีแต่เรื่องที่ฟินกว่านั้น”ไอ้บอมบอก
   “อะไรวะ”ผมถามหูผึ่งด้วยความอยากรู้
  “ก็เรื่องมึงนั้นแหละมึงรู้มั้ยว่าไอ้ดินน่ะมันเป็นคนอุ้มมึงไปห้องพยาบาลเลยนะเว้ยแล้วอีกอย่างมันเป็นคนเฝ้ามึงตั้งแต่เรียนคาบแรกยันคาบสุดท้ายเลยนะเว้ยขนาดข้าวเที่ยงยังไม่ยอมไปกินกูว่ามันต้องห่วงมึงมากแน่เลยว่ะ”ไอ้บอมบอกทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้หัวใจมันพองโตจนจะพาผมลอยไปในอากาศได้อยู่แล้ว
   “ก็ต้องเป็นห่วงป่ะวะก็เขาเป็นคนทำกูเจ็บหนิ”ผมตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองมากนัก
   “บทจะมองโลกในแง่ร้ายก็เป็นงี้ บทจะเพ้อบอกให้เกลียดยังทำไม่ลงมึงนี้ยังไงวะ”ไอ้บอมโวยใส่ผมครับ
   “เออน่า แล้วพวกมึงไม่กลับหรอดึกแล้วนะ”ผมถามมันสองคนที่มองหน้ากันแล้วหันมายิ้มให้ผมครับ “จะนอนนี้”ผมถามอย่างรู้ทันเพราะพวกมันก็มานอนบ้านผมเป็นประจำอยู่แล้ว “ถ้างั้นกูอาบน้ำก่อนนะ”ก่อนที่ผมจะเข้าไปอาบน้ำทั้งที่ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่เมื่อผมอาบน้ำเสร็จก็ตามด้วยไอ้บอมและไอ้แบล็คก่อนจะลงไปกินข้าวข้างล่างกัน
   “ไงเรื่องเรียนเป็นไงบ้าง”พ่อถามขึ้นขณะที่นั่งกินข้าวด้วยกัน
   “ก็ดีครับ”ผมตอบพ่อ
   “ปีนี้ก็ม.6แล้วนะคิดกันหรือยังว่าจะไปเรียนอะไรกันต่อ”พ่อถามแล้วมองหน้าพวกผมทุกคน
   “ผมจะเรียนธุรกิจการบินครับ”ไอ้แบล็คบอก
   “ส่วนผมจะเรียนสถาปัตย์ครับ”ไอ้บอมบอก
   “แล้วออมล่ะ”พ่อถามพลางหันหน้ามามองผม
   “ออมอยากเรียนนิเทศครับ”ผมบอกพ่อ
   “เรียนอะไรก็ดีหมดน่ะแหละดีแล้วที่มีคณะที่ชอบแล้วที่เหลือก็ตั้งใจนะพ่อเป็นกำลังใจให้”พ่อบอกพร้อมกับยิ้มให้พวกผมทุกคน
   “แม่ก็ด้วยนะจ๊ะ”แม่บอกแล้วจึงเข้าไปในครัวแล้วเอาของหวานออกมาซึ่งมันก็คือกระท้อนลอยแก้วซึ่งผมชอบเอามากโดยเฉพาะส่วนที่หนุ่มๆหวานๆปุยฝ้ายของมันกินกับน้ำแข็งนี้ชื้นใจสุดๆ
แล้วเมื่อกินข้าวเสร็จแล้วพวกผมจึงพากันขึ้นมาบนห้องของผมก่อนที่ผมจะคุยแชทกับเกรย์
เกรย์
   ‘ไงทำอะไรอยู่หรอ’เกรย์ถาม
   ‘อยู่กับเพื่อนน่ะ’ผมตอบ
    ‘ยังไม่กลับบ้านอีก’เกรย์ถาม
   ‘มันมานอนด้วยที่บ้าน’ผมตอบ
   ‘หรอ แล้วเป็นไงบ้างดีขึ้นยัง’เกรย์ถาม
   ‘ดีขึ้นอะไรถามอย่างกะรู้ว่าป่วย’ผมตอบไปด้วยความสงสัยว่าเขาจะใช่คนในโรงเรียนหรือเปล่า
   ‘เปล่าก็แค่เดาอะ’เขาตอบผมมาด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยครับผมจึงจะพิมพ์ด่าเขาแต่
   “ไอ้เชี่ยออมแม่งจะเล่นอีกนานมั้ยเนี่ยมานอนดิ้ คุยแต่กับผู้ชายไม่สนใจพวกกูเลยนะ”ไอ้แบล็คโวยวายขึ้นโดยที่มีไอ้บอมนั่งอยู่ข้างพร้อมกับทำตาเขียวมาทางผม
   ‘ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะจะนอนแล้ว’ผมตอบเกรย์ไป
   ‘คร้าบบบ ถ้างั้นฝันดีนะ’เขาตอบกวนๆๆก่อนที่ผมจะปิดจอโทรศัพท์ลงแล้วไปนอนคุยกันกับไอ้พวกนั้นมากมายหลายเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดเทอมจนถึงเดี๋ยวนี้รวมทั้งเรื่องในวัยเด็กคุยไปก็หัวเราะไป แล้วก็รามมาถึงเรื่องตลกๆที่พวกผมได้ทำร่วมกันหรือฉายเดี่ยวบ้างแต่พอมาลองคิดดูแล้วก็คือว่าพวกผมอยู่กันมานานและรักกันมากจริงๆแล้วในที่สุดพวกผมก็หลับซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตั้งแต่เมื่อไหร่

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนที่6/1
«ตอบ #9 เมื่อ28-06-2017 09:44:48 »

เพ้อเพราะรัก
ตอนที่หก My firt ....
[/b]
        "ไอ้ออมตื่น...ตื่น!!"เสียงของไอ้แบล็คตะโกนปลุกผมครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้แต่ว่าผมพึ่งจะได้ยินจึงค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกหนักๆที่เปลือกตาและหัว
        "อะไรวะ"ผมถามมันก่อนที่จะทำตาโตเพราะตอนนี้เสียงที่ผมได้ยินออกมาจากปากของตัวเองนั้นมันเป็นเสียงที่แหบมากเกินกว่าที่ผมจะเคยได้ยินจากปากตัวเอง
        "เฮ้ยทำไมเสียงมึงเป็นอย่างนั้นวะ ฮ่าๆๆ"ไอ้แบล็คแบล็คถามผมพร้อมกับหัวเราะแล้วทำเสียงล้อเลียนผมล่ะอยากจะลุกขึ้นไปตบหัวมันซะจริงๆแต่ตอนนี้ผมนี้แทบจะลุกไม่ไหวด้วยซ้ำ
       "มึงเป็นอะไรวะ"ไอ้บอมถามขึ้นในขณะที่กำลังใส่กระดุมเสื้อนักเรียนอยู่
       "กู..."ผมเอ่ยออกมาเสียงแหบพร้อมกับความรู้สึกเริ่มเจ็บคอที่เพิ่มเข้ามาด้วยผมล่ะอยากจะร้องไห้จริงๆ
       "ไม่ต้องพูดละ"ไอ้บอมบอกผมอย่างสมเพชก่อนที่จะเดินเอามือมาแตะที่หน้าผากของผม "เป็นไข้ชัวร์"ไอ้บอมบอก
       "แล้วมึงจะไปเรียนได้หรอวะ”ไอ้แบล็คถามผมหลังจากที่มันหัวเราะจนสมใจแล้ว
       "...."ผมไม่ตอบมันแต่ส่ายหัวแทน ทั้งๆที่เวียนหัวอยู่ยิ่งเพิ่มอาการเวียนหัวมากขึ้นอีกผมนี้แทบจะอ้วกเลยครับ
       "นอนลงไปเหอะไม่ไปก็ไม่ต้องไปเดี๋ยวพวกกูจดงานไว้ให้"ไอ้บอมบอกก่อนที่จะไล่ไอ้แบล็คให้ไปอาบน้ำแล้วมันจึงไปเอาน้ำมาให้ผมกินพร้อมกับบอกแม่ว่าผมป่วยแม่จึงฝากมันมาบอกผมว่าจะทำข้าวต้มขึ้นมาให้ เมื่อไอ้แบล็คอาบน้ำเสร็จพวกมันก็พากันไปโรงเรียนเลยส่วนผมก็นอนโทรมอยู่กับที่นอนแล้วหายใจผงาบๆต่อไปก็จะทำไงได้ล่ะครับก็มันหายใจไม่สะดวกหนิ ผมก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับจะเป็นคนค่อนข้างแข็งแรงแต่พอได้ป่วยนี้หนักเลยครับอย่างกับชาตินี้จะไม่ได้ป่วยอีกแล้วงั้นแหละ ผมนอนไปสักพักจนแม่เอาข้าวต้มมาให้กินแล้วก็ให้กินยาแล้วผมก็นอนทั้งวันโดยที่มีแม่คอยมาดูแลและมีเจ้าแบล็คเป็นเพื่อนแต่แม่ไม่ใช่แค่ดูแลผมเท่านั้นนะครับยังคอยทำอะไรต่อมิอะไรแทนผมด้วยไม่ว่าจะรดน้ำต้นไม้และให้อาหารเจ้าโด้อีกผมล่ะสงสารแม่จริงๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นอนแล้วก็ไม่ทำตัวให้เป็นปัญหามากนักผมนอนอยู่บนที่นอนจนถึงเย็นแล้วพวกไอ้แบล็คก็เอางานมาให้ผมแล้วกลับบ้านไปเป็นแบบนี้อยู่สี่วันครับจนผมเริ่มดีขึ้นแล้วมันก็ตรงกับวันหยุดพอดีผมจึงได้จับโทรศัพท์ครั้งแรกเพราะว่าผมไม่อยากเล่นในช่วงที่ป่วยเพราะมันยิ่งทำให้ผมปวดหัวมากขึ้น ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นก็พบว่าในโทรศัพท์ของผมมีข้อความไลน์มาเป็นร้อยๆไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะครับว่าเป็นใคร เกรย์ ครับคนที่ส่งข้อความมาเป็นร้อยนั้นก็คือเกรย์เพื่อนของผมคนที่ผมไม่แม้แต่จะรู้ว่าเขาเป็นใครแต่ก็ถือได้ว่าเขาเป็นคนดีคนนึงเพราะเขาจะคอยเป็นห่วงเป็นใยผมเสมอและเขาก็เป็นคนที่ผมไว้ใจคนนึงเหมือนกันไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไรก็คนมันไว้ใจไปแล้วอะเวลามีอะไรผมก็อยากจะบอกให้เขารู้ด้วยจะได้รู้ว่าผมคิดถูกหรือเปล่าที่ไว้ใจเขา
เกรย์
        'โทษทีนะที่เราไม่ได้ตอบเราป่วยน่ะเลยไม่ค่อยอยากจับโทรศัพท์มันปวดตา'ผมตอบข้อความของเกรย์หลังจากที่อ่านข้อความที่เอะอะโวยวายและถามนั้นถามนี้ผมทั้งๆที่ผมไม่ได้เปิดอ่านเลย
        'เป็นอะไรมากหรือเปล่า'เขาถามผมขึ้นมาทันทีที่อ่านข้อความจบ
        'ก็แค่ไข้หวัดธรรมดาอะ ไม่ได้เป็นอะไรมาก'ผมตอบ
        'ไม่ได้เป็นอะไรมากแต่หายไปตั้งสี่วันเนี่ยนะ'เขาถามขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอารมณ์ไหนก็คนมันพิมพ์มาแค่ตัวหนังสือหนิใครจะไปเดาออกถ้าให้เดาก็คงจะเข้าข้างตัวเองตามเคยแต่ผมไม่บอกหรอกว่าเข้าข้างตัวเองว่าอะไร
        'ก็เป็นหนักนิดหน่อยเอง'ผมตอบไป
        'ทีหลังเป็นอะไรก็บอกเราด้วยชอบทำให้เป็นห่วงอยู่ได้'เขาตอบไลน์ผมมามันยิ่งทำให้ผมหวั่นไหวครับก็จะไม่หวั่นไหวได้ไงล่ะเขาชอบทำเหมือนผมสำคัญอย่างกับว่าเรารู้จักกันอย่างนั้นแหละแต่จะว่าไปก็ตลกเหมือนกันนะครับถ้าผมจะมาหวั่นไหวกับคนที่ตัวเองไม่รู้จัก
        'อื่ม'ผมตอบเขาไปด้วยความรู้สึกแปลกๆก่อนที่จะปิดโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปหาไอ้บอมกับไอ้แบล็คที่นั่งรอผมอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหลังบ้าน พอเดินไปถึงก็เห็นว่าพวกมันกินขนมกับน้ำอัดลมกันอยู่ผมจึงเดินไปนั่งกับพวกมัน

       "แม่งมึงรู้มั้ยกูนี้โคตรรำคาญเลย"ไอ้แบล็คพูดขึ้นในขณะที่กินน้ำอัดลมอยู่กับไอ้บอมที่่บ้านผมในวันหยุดสุดสัปดาห์แต่ผมไม่ได้กินด้วยเพราะยังไม่หายจากอาการป่วย
       "เรื่อง"ผมถามโดยที่ไม่ค่อยสนใจนัก
       "ก็ไอ้ดินแม่งตั้งแต่มึงป่วยนะกูว่ากูเห็นหน้ามันแทบทุกคาบทุกชั่วโมงแม้แต่ขนาดกูเรียนอยู่แม่งยังเห็นเลย แม่งจะเดินผ่านบ่อยอะไรเบอร์นั้น"ไอ้แบล็คโวยวายขึ้นทำให้ผมรู้สึกร้อนๆที่หน้าเพราะกำลังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่
       "เออจริง"ไอ้บอมบอก
       "แล้วไงวะ"ผมถาม
       "อย่ามาแอ๊บ กูรู้ว่ามึงอะรู้ว่ามันมาหามึงดูก็รู้ว่าแม่งชอบกันแต่เสือกไม่มีใครบอกใครปัญญาอ่อนได้อีกกกกก"ไอ้แบล็คแขวะผมครับผมล่ะมั่นไส้ความเสือกและคิดไปเองของมันจริงจะไปรู้ได้ไงว่าเขาชอบผมถ้าบอกไปเขาไม่ชอบก็หน้าแหกสิ
       "มึงรู้ได้ไงว่าเขาชอบกู"ผมถาม
       "ก็เผื่อว่ามึงไม่ได้สังเกตนะไอ้บอมจะบอกให้ ไอ้บอมฉายดิ"ไอ้แบล็คบอกพลางหันหน้าไปทางไอ้บอมไอ้บอมยิ้มแล้วจึงพูดขึ้น
       "อย่างแรกแม่งคุยกับพวกกูนี้อย่างกับหมาคุยกับมึงนี้เพราะซะเหลือเกิ๊นนนนนน"ไอ้บอมบอกพลางทำท่าทางเลี่ยนๆ
       "ก็พวกมึงกวนตีนไงแล้วกูก็ไม่ได้เรียกเขาว่าอีว่าไอ้เหมือนพวกมึง"ผมเถียง
       "ไหนจะมาส่งบ้านอีกขนาดฝนตกยังมาส่งมึงไม่คิดหรอว่ามันควรรีบกลับบ้านน่ะ"ไอ้แบล็คพูดขึ้นซึ่งมันก็ทำให้ผมคิดเหมือนกันแหละครับแต่ผมก็มีคำตอบไว้ให้มันอยู่แล้ว
       "ก็เพราะฝนตกไงเขาถึงต้องมาส่งอย่างแรกนะเขาเป็นคนมีน้ำใจอย่างที่สองเขาเป็นคนดีแล้วก็รู้จักเห็นใจคนอื่น"ผมบอก
       "แล้วอีชื่อหมาเลี่ยนๆนี้อีก"ไอ้บอมพูดพลางมองไปที่เจ้าโด้ที่ขุดดินเล่นอยู่ที่ข้างสวนผัก"แม่งคิดได้ไงวะเอาชื่อมาบวกกันกูนึกว่าตั้งชื่อลูก"
       "มึงฟังกูนะก็เราเจอมันด้วยกันก็ไม่แปลกป่ะ"ผมเถียงออกไปหน้าตึงเพราะกำลังกลั้นยิ้มอยู่จะว่าไปที่ไอ้บอมมันพูดก็มีเหตุผลดีเหมือนกันแหละครับแต่ผมไม่อยากหวังเยอะ
       “แล้วตอนที่มึงสลบมันยังอุ้มมึงไปที่ห้องพยาบาลเลยแบบนี้หมายความว่าไงไม่ได้ชอบแล้วจำเป็นต้องอุ้มป่ะแค่แบกก็หนักจะตายห่าอยู่แล้วทำอย่างกะมึงตัวเล็กๆ"ไอ้บอมพ่นออกมาเป็นชุดเลยครับ
       “เดี๋ยวมึงว่าไงนะ”ผมถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าผมได้ยินว่าดินเป็นคนอุ้มไปห้องยาบาล
        “ก็มึงตัวหนักไง”ไอ้แบล็คบอก
         “ไม่ใช่ไอ้สัส!ที่ว่า.....”ผมพูดพลางมองแล้วก็หลบหน้าไอ้บอมครับก็คนมันอายอ่ะ
         “เออสัสมันอุ้มมึงไปห้องพยาบาลที่หลังถ้าจะถามก็ถามเลยนะไม่ต้องทำท่าทางแบบนี้มันกระแดะ”อ้าวไอ้สัสไอ้บอมมันด่าผมครับก็แหมผมก็ไม่ใช่คนที่จะชอบทำอะไรออกนอกหน้าขนาดนั้นสักหน่อยแล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรงี้หรอผมทำไม่ได้หรอกก็คนมันเขินอ่ะ “แล้วมึงจะแก้ตัวว่าไงล่ะทีนี้”ไอ้บอมมันถามผมทำให้ผมเริ่มคิดครับว่าดินทำแบบนั้นทำไมพอคิดได้ความรู้สึกดีใจก็ค่อยๆลดลง
         “เขาคงรู้สึกผิดมั้งที่เป็นคนทำให้กูสลบเลยต้องรับผิดชอบ”ผมบอกหน้าเศร้า
เพี๊ยะ!!!
        ไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับมันเป็นเสียงของมือไอ้แบล็คกระทบกับหัวของผมเองแม่งมือหนักชิบหาย
       “เชี่ยมึงตบกูทำไมวะ”ผมโวยไอ้แบล็คครับ
       “ก็กูรำคาญไงแม่งอะไรก็ไม่ใช่สักอย่างตกลงมึงอยากให้เขาชอบมึงจริงป่ะวะหรือมึงอยากให้เรื่องที่ผ่านมาแม่งมันเป็นแค่ความรับผิดชอบความไม่ตั้งใจหรือเชี่ยอะไรสักอย่างเลยมึงคิดดูดีๆนะ”ที่ไอ้แบล็คพูดมามันก็ถูกครับมันดูเหมือนผมผลักไสเขาอยู่ตลอดแต่จะให้ทำไงล่ะครับก็บอกแล้วว่าผมไม่อยากคิดไปเองอะ เมื่อเห็นว่าประเด็นนี้เริ่มทำให้เครียดแล้วพวกผมจึงตัดสินใจที่จะจบประเด็นนี้แล้วเปลี่ยนประเด็นใหม่จนทำให้ผมเริ่มคอแห้งจึงเดินเข้าไปเอาน้ำเปล่าในบ้านออกมากินกับพวกมันแล้วนั่งคุยกันไปได้สักพักก็ห้าโมงเย็นพวกมันจึงกลับบ้านไปเพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์พวกมันเลยต้องรีบกลับแต่พรุ่งนี้ผมก็คงไม่ได้ไปโรงเรียนหรอกครับเพราะยังไม่หายขาดโชคดีที่มีเจ้าโด้เป็นเพื่อนในตอนกลางวันมันนี้ชอบมาเลียหน้าผมแล้วก็แทะนิ้วแต่ว่าแค่เบาๆเท่านั้นมันน่ารักดีครับแล้วบางครั้งก็เหมือนฟังเรารู้เรื่องจับอารมณ์เราได้งั้นแหละและในตอนเย็นกับตอนเช้าผมก็จะมีเกรย์เป็นเพื่อนครับเพราะว่าเขาจะคุยกับผมแค่ตอนนั้นถามก็ไม่บอกว่าทำไมผมก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันครับจนถึงวันพุทธครับผมก็หายดีและไปเรียนวันแรกในรอบสัปดาห์ในเช้าวันนั้นผมเดินไปโรงเรียนตามเส้นทางเดิมที่ผมเคยเดินไปในทุกๆวันที่ผมต้องไปโรงเรียนแต่ว่าวันนี้รู้สึกหวิวๆแปลกๆเหมือนมีคนมองสงสัยคงอยู่บ้านนานไปหน่อยเมื่อมาถึงร้านขนมปังหน้าโรงเรียนก็เห็นไอ้เพื่อนทั้งสองตัวของผมนั่งรออยู่แล้วพร้อมกับอาหารเต็มโต๊ะไปหมด
        “ยินดีตอนรับครับเพื่อน”ไอ้แบล็คพูดพร้อมกับผายมือให้ผมแต่ผมไม่เดินเข้าไปหามันมันจึงลุกขึ้นมากอดผมเองตอนแรกผมก็จะขัดขืนนะครับแต่ว่าไอ้บอมมันเข้ามากอดผมด้วยอีกคนทำให้ผมทำอะไรไม่ได้ผมได้แต่ยืนอายคนที่มองมาทางพวกผมผมจึงบอกให้มันทั้งสองคนหยุดก่อนที่จะนั่งลงที่โต๊ะ
        “เป็นอะไรกันวะ”ผมถามพลางมองหน้ามันทั้งสองคน
         “ก็คิดถึงมึงไง”ไอ้บอมตอบ “มึงไม่อยู่รู้สึกเหงาว่ะ” แหมมันพูดทำเอานี้แทบน้ำตาไหลเลยคับอะไรจะรักผมขนาดนั้น
          “ขนาดนั้นเชียว”ผมถาม
         “ก็เออน่ะสินี้ไงขนมเต็มเลยอุตส่าห์สั่งมาให้เลยนะ”ไอ้แบล็คบอก
         “กะจะไม่ให้เรียนคาบแรกเลยว่างั้น”ผมถามพลางมองหน้ามันสองคน
        “เออน่ะแดกๆไปเหอะอุตส่าห์เลี้ยงยังจะเรื่องมากอีก”ไอ้แบล็คด่าอย่างไม่จริงจังนักแต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่จะมากงมากินมากนักแต่ก็หมดแทบทุกอย่างล่ะครับก็ผมเห็นค่าของเงินหนิไม่ได้ตะกละเลยเพียงแต่ว่าระหว่างที่ผมกินไปผมก็มองประตูร้านไปอยากเห็นใครคงไม่ต้องบอกนะครับ
        “แม่งมันมาประจำนะยิ่งตอนมึงป่วยมันยิ่งมาบ่อยแต่วันนี้แม่งทำไมไม่มาวะหรือว่า....”ไอ้บอมพูดขึ้นแล้วเว้นวรรคไว้
        “หรือว่าอะไรวะ”ผมถามอย่างสงสัย
        “มันไม่อยากเจอมึงไงฮ่าๆๆ”ไอ้บบอมบอกก่อนที่จะหัวเราะผมล่ะอยากจะตบมันจริงเลยถ้าไม่เห็นว่ามันเลี้ยงนะวันนี้ผมตบมันแน่
        “แกๆเราไปดูเขาเล่นบาสในโรงเรียนกันป่ะ”ผู้หญิงโต๊ะข้างๆพูดขึ้น
        “ทำไมวะ”เพื่อนของเธอถาม
        “ก็พี่ดินเขาเล่นไงพี่วินด้วยโอ้ยฉันล่ะจะสลบ”เธอบอกเพื่อนอย่างออกรส
        “แล้วจะเข้าไปเพื่อ อีกยี่สิบนาทีก็จะเข้าแถวแล้วป่ะ”เพื่อนเธอถาม
         ผมมองหน้าไอ้เพื่อนสองตัวของผมก่อนที่จะพยักหน้าให้แล้วดึงแขนมันทั้งสองคนลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยที่พวกมันไม่ได้เต็มใจเลยโดยเฉพาะไอ้แบล็ค เมื่อผมเดินมาถึงขอบสนามก็เห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้วสงสัยคงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดกันหมดแล้วพวกผมจึงพากันไปเข้าแถวแล้วเข้าเรียนตามปกติก็ผมไม่ค่อยเห็นดินเลยตั้งแต่เข้าแถวมาจนเลิกเรียนผมจึงเดินไปที่ร้านเค้กหน้าโรงเรียนแต่ก็ไม่ได้กินอะไรมากผมก็คอยมองหาดินแต่เขาก็ไม่ได้มาจนผมล้มเลิกความตั้งใจที่จะมองหาเขาในที่สุดแล้วกลับมากินน้ำในแก้วอย่างจริงจัง
         “ออม”เสียงของใครคนนึงดังขึ้นที่ไหล่ซ้ายของผม ผมจึงหันไปมองแต่ก็ไม่เจอจึงหันมามองที่ไหลขวาก็เห็นหน้าเขาอยู่ใกล้ๆผมแต่ก็ไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำไอ้แบล็คก็ผลักหัวของเขาออก
        “เชี่ยผลักกูทำไมวะ”ดินถามขึ้นหลังจากที่โดนไอ้แบล็คผลักออกไป
         “แล้วมึงจะทำอะไรเพื่อนกูล่ะ”ไอ้แบล็คถามโดยที่มีไอ้บอมนั่งตาเขียวอยู่ข้างๆแต่ผมน่ะสิครับกลับก้มหน้าด้วยความเขินอยู่
         “กูเปล่าสักหน่อยแค่ล้อเล่นเอง เนอะออม”ดินบอกแล้วเดินมานั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ข้างผมครับแต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอกนะที่เขาชอบทำชอบพูดอะไรแบบนี้มันดูเหมือนว่าอะไรเขาก็จะเล่นไปซะหมดไม่จริงจังกับอะไรเลยแม้แต่ผมแต่ที่จริงมันก็ไม่แปลกหรอกครับก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันหนิ
         “แล้วดินมีอะไรกับเราหรอ”ผมถามเสียงเรียบเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับคำว่าล้อเล่นของเขาสักเท่าไรก็ผมไม่อยากเป็นของเล่นของใครหนิ
         “เปล่าหรอกแค่ไม่เจอออมนานอะเลยอยากทัก”ดินบอกพลางโบกมือให้วินและดาวน้องสาวของเขาที่กำลังเดินมาที่โต๊ะของพวกผมเมื่อไอ้แบล็คเห็นวินเดินมาก็ทำให้มันหน้างอลงทันที
         “พอดีเราไม่ค่อยสบายอะเลยไม่ได้มาโรงเรียน”ผมตอบพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างจะว่าเป็นเพราะดีใจที่เขาคอยให้ความเอาใจใส่กับผมแต่สิ่งที่เขาพูดมันเป็นการให้ความเอาใจใส่หรือเปล่าก็ไม่รู้ผมล่ะเหนื่อยใจกับอะไรที่มันไม่เคลียจริงๆเลยถ้าผมใจกล้ากว่านี้ผมคงจะถามเขาในทุกๆสิ่งที่ผมอยากจะรู้ไปหมดแล้ว
         “นั่งด้วยนะคะ”ดาวพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงโต๊ะที่มีไอ้แบล็คนั่งทำหน้าบูดอยู่
        “ครับ”ผมตอบแทนพวกมันดาวกับวินเห็นเช่นนั้นจึงนั่งลงข้างดินส่วนวินไม่มีที่นั่งจึงไปนั่งข้างไอ้แบล็คแทน
         “เป็นอะไรวะไอ้ตุ๊ดดูทำหน้าดิ”วินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทนไม่ได้กับหน้าของไอ้แบล็ค
        “ไม่เสือกดิ”ไอ้แบล็คตอบกลับครับ
        “ทำเป็นแค้นฝังหุ่นไปได้แค่จับก้นเองเป็นผู้ชายเปล่าวะมึงอะ”วินพูดออกมาได้หน้าด้านมากครับผมล่ะยอมรับจริงๆวินพูดก็ทำให้ผมคิดถึงวันที่เขาตัวแดงด้วยนมชมพูของไอ้แบล็คครับ
       “ไอ้สัสมึงไอ้น่าด้านพูดได้หน้าไม่อายนะมึงน่ะคนอย่างมึงควรจะสูญพันธุ์ไปซะให้หมดโลกจะได้สูงขึ้น”ไอ้แบล็คด่าวินพร้อมกับทำตาเขียว แต่วินก็ใช่ว่าจะยอมครับทำท่าจะเถียงเหมือนกันแต่โดนไอ้บอมเอาขนมอุดปากแล้วทำตาเขียวใส่ก่อนทั้งสองคนนั้นจึงหยุดลงผมก็ไม่เข้าใจนะครับว่าสองคนนี้ถ้าไอ้บอมไม่ห้ามจะหยุดกันเองไม่ได้เลยหรอผมล่ะเหนื่อยใจกับพวกมัน
           “คอยดูนะเดี๋ยวสองคนนี้ก็รักกัน”ดินกระซิบผม
           “บ้าไม่มีทางกัดกันอย่างกะหมา”ผมกระซิบกลับ
          “คอยดูแล้วกัน”ดินบอก
        “กระซิบอะไรกันอะ”ไอ้แบล็ควีนมาทางผมกับดิน
         “เปล่า”ดินตอบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ส่วนผมก็ได้แต่ยักไหล่ให้ มันจึงทำให้มันหน้างอมากกว่าเดิมครับ ดินจึงบอกว่าขนมที่ซื้อมาเยอะๆนี้ซื้อมาเลี้ยงกินกันได้เลยพอผมถามว่าเลี้ยงเรื่องอะไรก็ไม่บอกแต่ของฟรีผมไม่เกี่ยงหรอกครับยิ่งเป็นของคนที่แอบชอบแล้วด้วยผมจะกินให้หมดเลยพวกผมกินไปได้เกือบหมดแล้วน้องดาวจึงพูดขึ้น
         “พี่ดินไหนว่ามีเรื่องจะคุยกับพี่ออมไง”ดาวถามพลางมองหน้าผมยิ้มๆ
       “มีอะไรหรอ”ผมถามพลางมองหน้าดินอย่างหาคำตอบ
        “คือเรา...ว่าจะชวนออมไปงานวันเกิดเราวันเสาร์นี้อะถ้าออมไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ”ดินบอก
        “เดี๋ยวเราขอคิดดูก่อนนะ”ผมพูดพลางทำท่าคิดไปแต่ความจริงผมก็ว่างตลอดแหละครับผมแค่อยากเล่นตัวไปงั้นเองจะได้ดูแพงหน่อยฮ่าๆๆๆๆๆๆ
         “อื้อก็ว่างนะ”ผมตอบพลางหลบหน้าดินไปยิ้มแต่ก็เห็นว่าไอ้แบล็คทำหน้างอใส่ผมอยู่
         “แล้วจะชวนแค่ไอ้ออมคนเดียวใช่มั้ย”ไอ้แบล็คถามเสียงห้วนๆ
         “นั้นดิ”ไอ้บอมพูดเสริมทัพ
       “คนอะไรเจ้าของงานเขาไม่ชวนยังจะถามไปอีก”วินแขวะไอ้แบล็คครับ
        “เสือก”ไอ้แบล็คตอบสั้นๆแต่ได้ใจความครับ
        “กูก็ว่าจะชวนอยู่แต่มึงก็ถามก่อนนี้ไง”ดินตอบ “ถ้างั้นถือว่าชวนพวกมึงไปด้วยเลยแล้วกันถ้าอยากชวนเพื่อนมาอีกก็ได้นะพอดีพ่อกับแม่กูไม่อยู่”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนที่6/1
« ตอบ #9 เมื่อ: 28-06-2017 09:44:48 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนที่6/2
«ตอบ #10 เมื่อ28-06-2017 09:46:36 »

        “งั้นก็สนุกดิวะ”ไอ้บอมว่าขึ้น
        “งั้นตกลงตามนี้นะแล้ววันเสาร์เจอกัน”ดินว่าก่อนที่จะนั่งกินกันต่อไปอีกสักพักจึงแยกย้ายกันกลับบ้านวันนี้เป็นอะไรไม่รู้ดินมีของมาฝากผม......เอาไปให้ไอ้เจ้าโด้ด้วยเป็นขนมหมาครับซึ่งก็ดูน่าจะแพงเหมือนกันผมรับมาจึงรีบกลับบ้านเพราะว่าเขาถามว่าจะให้ไปส่งมั้ยซึ่งผมไม่อยากให้ไปเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลแถมยังเกรงใจน้องดาวด้วยกลัวว่าจะอยากกลับบ้านมากกว่า
        ผมกลับมาถึงบ้านก็รีบวิ่งตรงเข้าไปเล่นกับเจ้าโด้ทันทีก่อนที่จะขึ้นไปรถน้ำต้นไม้ที่อยู่ระเบียงห้องนอนผมมองมันด้วยความรู้สึกที่หลากหลายครับทั้งตื่นเต้น ภูมิใจ และดีใจไปพร้อมกันเพราะตอนนี้มันมีความสูงของต้นได้ประมาณห้านิ้วได้ดูแล้วคงอีกนานทีเดียวกว่าจะได้เห็นดอกของมันแต่ผมก็จะรอจะประสาอะไรกับรอดอกของต้นไม้ที่ออกดอกในไม่กี่เดือนขนาดคนที่ผมไม่รู้เลยว่าเขาจะรักผมหรือเปล่าผมยังรอได้
          เมื่อรถน้ำต้นไม้เสร็จผมจึงไปอาบน้ำและกินข้าวทำการบ้านคุยไลน์กับเกรย์แล้วนอนตามปกติก่อนที่จะตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปโรงเรียนตามปกติแต่เช้านี้พิเศษหน่อยตรงที่มีกล่องพัสดุมาส่งก่อนที่ผมจะเซ็นรับโดยที่ได้แต่สงสัยว่าใครส่งมาให้ผมซึ่งกล่องก็ไม่ใหญ่มากผมจึงเปิดดูที่หน้าบ้านเลยก็เห็นว่ามันคือซากสัตว์ครับเป็นซากของลูกไก่ที่เน่าแล้วผมเห็นจึงโยนทิ้งไปด้วยความผะอืดผะอมโดยทันทีแล้วก็ได้แต่รู้สึกกลัวว่าเหมือนจะมีคนโรคจิตส่งมาการที่มาแค่พัสดุนี้มันไม่เท่าไหร่หรอกครับแต่ถ้าหากว่าเขาเข้ามาถึงในบ้านของผมจะทำยังไงผมกลัวมากครับแต่ก็ไม่ได้บอกใครวันนั้นผมจึงขอติดรถพ่อไปโรงเรียนซึ่งค่อนข้างจะสายหน่อยแล้วเมื่อผมถึงหน้าโรงเรียนผมก็รีบเดินเข้าไปทันทีผมได้แต่ภาวนาว่าขอให้เรื่องที่ผมเจอเมื่อเช้าเป็นแค่เรื่องของคนที่แกล้งกันตามปกติ
       ในวันนี้ผมก็เรียนตามปกติครับแต่จะมีแปลกหน่อยก็ตรงที่ว่าจะคิดถึงเรื่องเมื่อเช้ามากเป็นพิเศษแค่นั้นเอง เมื่อผมเรียนเสร็จในคาบสุดท้ายของวันผมจึงรีบพาตัวไอ้เพื่อนสองคนไปที่ห้างสรรพสินค้าทันทีเพื่อไปหาซื้อชุดมาใส่ไปงานวันเกิดของดิน ก็นานๆได้ไปทีผมก็ต้องหล่อหน่อย
         “ชุดนี้เป็นไงบ้าง”ผมถามไอ้แบล็คกับไอ้บอมหลังจากที่ออกมาจากห้องลองชุด
        “จะเอาชุดไหนก็เอาเหอะแม่งเปลี่ยนกี่ชุดแล้วมึงนี่ไม่งั้นก็ซื้อมันแม่งทุกชุดไปเลยกูขี้เกียจรอแล้ว”ไอ้แบล็คมันโวยหลังจากที่ผมไม่เลือกสักที
        “กูว่าชุดเมื่อกี้ก็ดีแล้วนะ”ไอ้บอมบอก
        “งั้นหรอ”ผมถามก่อนที่จะหันเข้าไปมองในชุดที่แขวนอยู่ในห้องลองชุดผมเลยเลือกหยิบตัวที่ไอ้บอมบอกแล้วเอาเสื้อผ้าที่เหลือไปคืนที่เดิมก่อนที่จะเดินไปจ่ายตังค์โดยที่ไม่ลืมที่จะแวะร้านเครื่องเขียนเพื่อซื้อของอีกนิดหน่อยก่อนที่จะกลับบ้าน
        “กลับมาแล้วครับ สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่”ผมไหว้พ่อกับแม่ที่ตอนนี้นั่งกันอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
        “ไปไหนมากลับค่ำเชียว”แม่ถาม
       “ไปซื้อของมาครับ”ผมตอบแม่พลางยกของในมือให้แม่ดูก่อนที่จะไปล้างมือแล้วมานั่งกินข้าวแล้วขึ้นไปอาบน้ำก่อนที่จะรดน้ำต้นไม้แล้วเริ่มทำของขวัญให้กับดินด้วยของจากร้านเครื่องเขียนที่ซื้อมาผมรู้ครับว่าเขาชอบอะไรผมจึงเริ่มทำให้เขาด้วยความตั้งใจคงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมรู้ได้ยังไงก็ผมชอบเขามาตั้งนานแค่นี้ไม่รู้ก็แปลก(หรือเปล่า)แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะครับกว่าที่จะทำได้ทั้งต้องวัดต้องตัวทำเอามีดคัตเตอร์กีดมือผมไปต้องหลายทีแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ให้ของกับเขาแบบตรงและเป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์พิเศษแบบนี้ผมก็อยากให้เขาประทับใจในตัวผมบ้างผมทำอยู่นานครับโดยที่มีเจ้าโด้คอยวิ่งเล่นอยู่ข้างเป็นเพื่อนจนผมทำเสร็จก็เห็นว่ามันนอนหลับไปแล้วผมจึงอุ้มมันไปนอนที่ตะกร้าของมันก่อนที่จะดูนาฬิกาว่ากี่โมงแล้วจึงทำให้ผมรู้ว่าเป็นเวลาตีสองเข้าไปแล้วผมจึงรีบนอนเพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง
        ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก่อนที่จะจับโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าตอนนี้กี่โมงแล้วก็เห็นข้อความของเกรย์เข้ามาครับพอเปิดดูก็เห็นว่านั่นมันเป็นข้อความตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
        เกรย์
        ‘ออมทำอะไรอยู่’
        ‘ทำไมไม่ตอบเลยล่ะ’
        ‘ออมมมมมมมมมมมมมมมม’
        ‘หายอีกแล้ว’
         ‘ชอบหายไปแบบนี้ก็บอกแล้วว่าเป็นห่วง’ข้อความของเกรย์ทำให้ผมรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ครับแต่พอมาคิดดูแล้วก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกผิดไปทำไมรู้จักกันก็ไม่รู้จักสักหน่อย
       ‘อะไรก็เราไม่ว่างอะ’ผมตอบไปแล้วเขาก็อ่านครับแต่ว่าไม่ตอบผมรออยู่สักพักเขาก็ยังไม่ตอบผมเริ่มอารมณ์เสียครับเขาไม่เคยทำตัวแบบนี้กับผมเลยมันทำให้ผมหงุดหงิดมากครับหรือว่าเขาจะโกรธผม ผมก็พอจะรู้อยู่หรอกครับว่าผมตอบช้าแต่ว่าเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยทำไมต้องมาโกรธมางอนอะไรผมด้วยผมนั่งดูโทรศัพท์อยู่สักพักก่อนที่จะไปอาบน้ำจนผมอาบน้ำเสร็จออกมาเขาก็ยังไม่ตอบผมอีกจนผมโมโห
        ‘อยากงอนก็เชิญเลย’ผมส่งข้อความไปให้เขาก่อนที่จะแต่งตัวแล้วไปโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวหน่อยก็ผมไม่เข้าใจหนิว่าจะอะไรกันนักกันหนาไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยถ้าทำแบบนี้ผมก็ไม่สนเขาเหมือนกันแหละ
        “ไอ้ออมมึงเป็นอะไรวะ”ไอ้แบล็คถามขึ้นในขณะที่พวกผมนั่งกินข้าวเที่ยงกันอยู่
        “เปล่า”ผมตอบเสียงเบา
         “เปล่าเชี่ยอะไรมึงแม่งหน้าบูดเป็นตูดปลากระเบนตั้งแต่เช้าแล้วเป็นอะไรก็บอกมาดิวะ”ไอ้แบล็คบอก
          “เก็บอะไรไว้คนเดียวมันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ”ไอ้บอมเสริมทัพอีกแล้วครับผมล่ะเกลียดจริงๆ
          “ก็ไอ้เกรย์แม่งจะอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้มึงรู้ป่ะว่าแม่งอะไม่ตอบไลน์กูเพราะโกรธว่ากูไม่ตอบไลน์มันมึงคิดดูดิเป็นอะไรกันก็ไม่ได้เป็นยังจะมาเรื่องมากอีกอย่าให้กูรู้นะว่าแม่งเป็นใคร”ผมพ่นออกมาหมดเลยครับทีนี้มันทำให้ผมโล่งมากทีเดียว
         “นี้มึงแคร์มันขนาดนั้นเลยหรอวะ”ไอ้แบล็คถามพลางทำตาโตทำให้ไอ้บอมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
        “แคร์เชี่ยอะไรของมึงวะไม่ได้แคร์”ผมโวย
        “ก็ที่มึงพูดอยู่นี่ไงถ้าไม่แคร์มึงจะโวยเพื่อ จะสนทำไมว่าแม่งจะตอบไม่ตอบอย่าบอกนะว่ามึงชอบมันทั้งๆที่มึงยังไม่เห็นหน้ามันเลยอะนะ”ไอ้บอมพูดออกมาทำให้ผมถึงกลับสะอึกครับที่มันพูดมาถูกต้องทั้งหมดแหละครับผมจะไปแคร์มันทำไมถ้าไม่ชอบแต่ไม่สิผมต้องไม่หวั่นไหวสิผมมีดินอยู่แล้วหนิผมจะไม่ชอบไอ้บ้าเกรย์เด็ดขาดจะงอนก็งอนไปเลยไม่ต้องคุยกันได้ยิ่งดี(แต่ถ้าทักมาก็ยังตอบอยู่นะ)
         “กะ...กู...ไม่ได้แคร์มันสักหน่อย”ผมเถียง
          “แคร์”ไอ้บอมบอกสั้นๆ
          “กูไปแล้วพวกมึงแม่งไร้สาระ”ผมทำท่าอารมณ์เสียก่อนที่จะเดินออกมาจากโรงอาหารก็คนมันไม่อยากให้คนอื่นว่าหนิแล้วไอ้เพื่อนทั้งสองตัวของผมก็เดินตามออกมาครับมันคงรู้แหละครับว่าผมทำไปงั้นความจริงไม่ได้โกรธอะไรหรอกในคาบบ่ายวันนี้ผมค่อนข้างที่จะว่างครับก็เลยชวนไอ้แบล็คกับไอ้บอมไปดูพวกนางรำที่ซ้อมรำเพื่อไปแสดงในวันภาษาไทยที่ใกล้จะถึงนี้ครับหนึ่งในนั้นมีปริมกับกี้เพื่อนห้องเดียวกันกับผมด้วยพวกผมเข้าไปนั่งในห้องนั้นเมื่อทั้งสองเห็นพวกผมก็ต่างพากันโบกมือแล้วก็ยิ้มให้สาวๆพวกนั้นซ้อมกันอยู่นานครับกว่าที่จะได้พักในช่วงพักนั้นเองทั้งสองคนก็ได้มานั่งข้างผม
        “ไงเหนื่อยป่ะ”ผมถาม
       “ลองมารำดูป่ะล่ะ”ปริมตอบยิ้มๆ
        “แต่ปริมกับกี้รำสวยมากเลยนะ”ไอ้แบล็คบอกยิ้ม
        “ขอบใจนะ”กี้บอก
        “นี้น้ำ คงจะเหนื่อยหน้าดูเลยสิ”ไอ้บอมพูดพลางยื่นขวดน้ำให้กับเพื่อนสองคนก่อนที่พวกผู้หญิงที่นั่งอยู่ในห้องจะเริ่มมีอาการแปลกๆกันเริ่มมีคนพูดคุยกันเสียงดังแล้วชี้มาทางผมซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไม
        “หลบสิคนจะเดิน นั่งขวางประตูอยู่ได้”พริ้งหนึ่งในนางรำที่มาจากห้องของดินพูดพลางเหลือบตามาทางพวกผมแต่คงจะไม่ใช่ผมหรอกมั้งครับคงจะเป็นทั้งสี่คนที่นั่งอยู่ข้างผมมากกว่าทั้งปริม กี้ ไอ้บอมและไอ้แบล็คต่างพากันส่งพลังตาพิฆาตไปที่พริ้งเหมือนกันผมหันไปมองข้างหลังจึงเห็นว่าคือพวกของดินที่ยืนอยู่หน้าห้อง
        “ไม่เป็นไรหรอก”ดินบอกในขณะที่ยืนอยู่หน้าประตูก่อนที่จะนั่งลงข้างกลุ่มของพวกผม “ออมคือเราขอเบอร์ออมหน่อยได้ป่ะ”ดินพูดขึ้นไม่แรงมากหรอกครับแต่พวกที่อยู่ในห้องนี้แหละที่เงียบกันตั้งใจฟังทุกคำพูดของเขาเองผมว่าคงได้ยินกันหมดทุกคนนะแหละครับ
        “อะไรนะ”ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
        “ขอเบอร์หน่อย”ดินบอกอีกครั้งแต่ครั้งนี้แรงกว่าเดิมครับจึงทำให้ทุกคนในห้องมองมาที่ผมครับแต่ด้วยอารมณ์ไหนก็ไม่อาจทราบได้เพราะแต่ละคนก็ทำสีหน้าไม่เหมือนกันแต่ที่แน่ๆผมเขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
        “เอาไปทำอะไรอะ”ผมถามดินพลางมองหน้าเขาบ้างแล้วก็คนในห้องบ้าง
       “อ้าวก็ออมจะไปบ้านเราไม่ใช่หรอเราจะได้บอกทางไงหรือว่าออมรู้แล้ว”ดินถามพลางมองหน้าผม
        “อ๋อ...ยังหรอก”ผมบอกก่อนที่จะหลบตาดินหน่อยๆทั้งเขินแล้วก็อายด้วยผมล่ะไม่เข้าใจว่าจะมาขออะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ ผมจึงบอกเบอร์เขาไป
         Rrrrrrrrrrr
        เสียงของโทรศัพท์ของผมดังขึ้นเพราะว่าดินโทรเข้าซึ่งนั้นยิ่งทำให้คนในห้องหันมามองหนักขึ้นอีก
        “นี้เบอร์เราอย่าลืมเมมไว้นะ”ดินบอกโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสายตาของคนรอบข้างเลย “มานี้เราเมมให้ดีกว่า”ดินดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือผมคงเป็นเพราะเขาเห็นผมไม่ยอมเมมซักทีเอาแต่ทำหน้าเอ๋ออยู่ “เมมชื่อว่าอะไรดี”ดินถาม
        “ฮ่ะ...”
        “เมมเบอร์เราว่าอะไรดี”ดินทวนคำถามอีกครั้ง
         “ก็ชื่อดินไง”ผมบอก
         “แค่นั้นหรอ”ดินถามพลางทำสีหน้า
         “เออแค่นี้แหละ”ผมตอบเขาลนๆเพราะอยากให้เขารีบๆไปสักทีเพราะคนมองกันตาจะถลนอยู่แล้วโชคดีนะที่คนไม่ค่อยเยอะเขาเมมแล้วมองหน้าผมก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ให้ผมก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องซึ่งทำให้ผมโล่งใจขึ้นครับแต่ก็ไม่มากซักเท่าไรเพราะจากตอนแรกที่ว่าคนมองตอนนี้กลายเป็นว่าหันไปซุบซิบกันแทน
       “จะไปบ้านดินทำไม”พริ้งถามเสียงห้วนทำให้ผมที่อยากอยู่นิ่งๆถึงกับเอ๋อไปชั่วขณะไม่รู้จะตอบยังไง
       “จำเป็นต้องบอกด้วยหรอ”ไอ้แบล็คตอบแทนผมครับ
       “ไม่ได้ถามอย่ายุ่ง”พริ้งว่าให้ไอ้แบล็ค
       “ก็ไปกับไอ้ออมหนิจะตอบแทนจะเป็นไรไปทำไมเขาไม่ชวนหรอ”ไอ้แบล็คพูดพลางทำหน้าเยาะเย้ย
        “ชวนน่ะชวนย่ะ แค่อยากรู้ว่าใช่งานเดียวกันหรือเปล่าเพราะไม่อยากไปร่วมงานกับคนบางพวกขยะแขยง”พริ้งตอบ “ไงล่ะว่ามาสิ”
        “พวกเราไม่จำเป็นต้องตอบเธอเลยว่ามั้ยแล้วอีกอย่างมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรานะมันเป็นมารยาทของคนที่สูงส่งหรอที่อยากรู้เรื่องของคนอื่นโดยที่เจ้าของเขาไม่เต็มใจน่ะ”ไอ้บอมตอบเสียงเรียบด้วยหน้าที่นิ่งทำให้พริ้งถึงกับเงียบ
          “ว้าย!!!กินเผือก”กี้พูดขึ้นยิ้มๆแต่เสียงไม่ดังมาก
          “ไปก่อนนะ”ผมบอกปริมกับกี้ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องเพราะไม่ต้องการให้เพื่อนทั้งสองมีเรื่องเพราะผมไม่มีอยู่แล้ว ผมไม่สนใจจะไปฟังอะไรที่ไร้สาระจากคนแบบพริ้งหรอกตอนนี้ผมมีแค่อารมณ์เดียวเท่านั้นคือเขินผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นก็เห็นว่ามีไลน์ของดินเด้งขึ้นมาเป็นรูปของเขาที่ถ่ายตอนไปเที่ยวทะเล
            เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนวันนี้ผมรีบกลับบ้านเร็วเป็นพิเศษเพราะผมอยากจะไปขัดผิวมาร์คหน้าให้ดูดีซักหน่อยเพื่อว่าพรุ่งนี้ผมจะดูดีพอทำให้ดินหวั่นไหวบ้างผมกลับมาถึงบ้านก็เข้าห้องน้ำเลยทันทีแล้วก็เริ่มปฏิบัติการแปลงโฉมแล้วผมขัดตัวและอาบน้ำอยู่ในนั้นจนถึงหนึ่งทุ่มก่อนที่จะออกมาจากห้องน้ำแล้วแต่งตัวก่อนจะลงไปกินข้าว รถน้ำต้นไม้ แล้วเอาขนมให้เจ้าโด้กินเสร็จแล้วจึงขึ้นมามาร์คหน้าวันนี้ผมกะว่าจะนอนตั้งแต่สี่ทุ่มทั้งที่พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดเพราะว่าอยากจะนอนให้ครบสิบชั่วโมงจะได้ดูดีหน่อยแต่ว่า
      ดึ่ง
      เสียงของไลน์ผมดังขึ้นครับผมจึงเปิดมันขึ้นอ่านครับแล้วสิ่งที่เห็นก็คือไลน์ของเกรย์ที่ตอบผมกลับมาอย่างที่ผมคิดไว้ทั้งวันครับ
       เกรย์
       ‘เป็นไงล่ะให้ลองรอดูบ้างสนุกมั้ย’เกรย์ถาม
       ‘แต่เราไม่ได้เงียบเพราะเราอยากเอาคืนหรืองอนหรอกนะ’เกรย์ตอบ
       ‘ที่เราเงียบเพราะอยากให้ออมเข้าใจความรู้สึกของเราบ้างว่าเรารู้สึกยังไงเราต้องบอกออมอีกกี่ครั้งว่าเราห่วงออมอะ’เกรย์ตอบทำให้ผมหัวใจเต้นแรงแปลกๆ
        ‘เออเข้าใจแล้วน่ะ’ผมตอบ
        ‘แล้วหายโกรธยัง’ผมถาม
       ‘ยังTT’เขาตอบ
       ‘เราขอโทษ’ผมตอบทั้งๆที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะง้อไอ้คนที่ไม่รู้จักกันไปทำไม
       ‘ยังไม่หาย’เกรย์ตอบ
       ‘ต้องทำไงถึงจะหาย’ผมถาม
       ‘ขอคิดดูก่อนแล้วกัน’เกรย์ตอบ
       ‘แล้วทำอะไรอยู่’เกรย์ถาม
      ‘กำลังจะนอนแล้ว’ผมตบ
       ‘อ่าวหรองั้นฝันดีนะ’เขาตอบ ที่จริงผมอยากคุยกับเขาต่อนะครับแต่พอลองคิดดูแล้วพรุ่งนี้ผมต้องทำตัวให้ดูดีหน่อยผมก็เลยเลือกที่จะนอนครับ
       ‘งั้นก็ฝันดีนะ’ผมตอบเขากลับก่อนที่จะปิดโทรศัพท์แล้วนอนหลับไปผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าซึ่งเป็นเวลาเก้าโมงตรงครับก็ทำให้ผมรู้ว่าผมนี่นอนไปกว่ากว่าสิบเอ็ดชั่วโมงแล้วแปลงฟันครับก่อนที่จะลงไปหาแม่แล้วให้แม่ห่อของขวัญที่ผมทำให้ดินให้
       “ออมทำไปให้ใครหรอ”แม่ถาม
       “น้องรหัสอะแม่”ผมบอกแม่พลางหลบตา
       “หรอออออออ”แม่ลากเสียงยาวๆอย่างล้อเลียน
       เมื่อห่อของขวัญเสร็จแล้วผมก็ขึ้นไปมาร์คหน้าอีกครั้งหนึ่งก่อนที่หลับไปจนไอ้เพื่อนสองตัวของผมมันเข้ามาปลุกผม
       “กูก็นึกว่าตายแล้วเห็นแต่ไอ้โด้มันมาดมแล้วก็แทะมือมึงนี้”ไอ้แบล็คมันบอกหลังจากที่ผมตื่นแล้ว “แล้วมึงจะไปป่ะวะงานวันเกิดไอ้ดินเนี่ย”ไอ้แบล็คถาม
       “ไปดิวะ”ผมตอบพลางขยี้ตา
       “ไปก็ไปอาบน้ำสิวะนี้มันตั้งสี่โมงเย็นเข้าไปแล้ว”ไอ้แบล็คบอกทำให้ผมถึงกับตาโตครับผมจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่ออาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าไอ้บอมได้เอาชุดที่ผมจะใส่ออกมาจากตู้ให้แล้วผมจึงแต่งตัวเร็วขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ปาเข้าไปตั้งห้าโมงครึ่งครับกว่าจะเสร็จเมื่อเสร็จแล้วผมจึงลงมาข้างล่างกับพวกไอ้บอมครับเพราะกะว่าจะไปกันแล้วแต่พอถามกันดูกลับเป็นว่าไม่มีใครรู้จักทางผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรไปถามทางแต่ว่า
       Rrrrrrrrrrr
         เสียงของโทรรศัพท์ของผมดังขึ้นพอดูมันเป็นเบอร์ของดินครับ
       ‘ไงออมอยู่ไหนแล้ว’ดินถามหลังจากที่ผมรับสายของเขาแล้ว
       “อยู่บ้านอะกำลังจะโทรไปถามเลยว่าไปบ้านดินทางไหน”ผมตอบ
        ‘ถ้างั้นก็พอดีเลยพอดีเราออกมาซื้อของอะออมรอเราอยู่ที่บ้านนะเดี๋ยวเราไปรับ’ดินบอกทำให้ผมดีใจมากครับเพราะจะได้ไม่หลงทางแล้วอีกอย่างจะได้ไปกับเขาด้วยไม่กี่อึดใจรถของดินก็มาจอดที่หน้าบ้านของผมแต่พอดีว่าดินมาคนเดียวผมเลยต้องไปนั่งรถกับเขาแล้วให้ไอ้เพื่อนทั้งสองคนของผมขับรถตามมาซึ่งโมเมนท์นั้นมันดีจริงๆเมื่อมาถึงบ้านพวกผมก็พากันเดินลงรถแล้วเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นว่าเพื่อนๆของเขารวมถึงเพื่อนห้องของผมอีกห้าหกคนกำลังนั่งกินบาร์บิคิวและขนมต่างๆอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา(ไม่ใหญ่มากนะครับ)พร้อมกับเปิดเพลงฟังเบาๆไม่ดังมากจนรบกวนเพื่อนบ้านในนั้นยังมีปริมกับกี้ด้วยซึ่งตอนนี้กำลังปิ้งปลาหมึกกับสามชั้นช่วยน้องดาวอยู่บนเตาย่างบาร์บิคิว
       “ปริม กี้มากันด้วยหรอ”ผมทักทั้งสองคนที่กำลังปิ้งหมูสามชั้นอยู่
        “อ่าวออม...พอดีบ้านเราอยู่แถวนี้อะน้องดาวเลยไปชวน”ปริมตอบผม ผมเลยพยักหน้าให้แทนครับว่ารับทราบ
         “แล้วออมกินอะไรมายัง”กี้ถาม

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนที่6/3
«ตอบ #11 เมื่อ28-06-2017 09:47:36 »

        “ยังเลยอะ”ผมตอบ
        “งั้นต้องลองนี้”ปริมบอกก่อนที่จะเอาหมูสามชั้นที่พึ่งจะย่างสุกร้อนๆยกออกจากตะแกรงโดยที่มันของมันยังคงเดือดปุดๆอยู่เลยปริมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนที่จะจิ้มน้ำจิ้มแล้วป้อนให้ผม ผมคงต้องบอกว่ามันอร่อยมากจริงๆโดยเฉพาะน้ำจิ้มอร่อยสุดๆไปเลยเปรียวหวานกำลังดีผมนี้อยากจะกราบคนทำจริงๆพอถามน้องดาวน้องดาวก็บอกว่าคุณป้ามาทำให้แล้วก็กลับบ้านรวมทั้งน้ำจิ้มซีฟู๊ดด้วยอาหารอร่อยทุกอย่างครับแต่ส่วนมากจะเน้นไปที่ปิ้งย่างมากกว่า
        “เป็นไงอร่อยป่ะ”ดินถามผมที่กินหมูสามชั้นอยู่หน้าเตาเพราะตอนนี้ทั้งสามสาวเข้าไปเอาน้ำอัดลมอยู่ในครัว
        “อร่อยดิ อร่อยมากด้วย”ผมตอบ
        “เรายังไม่ได้กินสามชั้นเลยอะ”ดินบอก
       “ก็กินดิ”ผมมบอกพลางจิ้มเอาสามชั้นอีกชิ้นแล้วจิ้มน้ำจิ้ม
        “มือเราไม่ว่าง”ดินบอกทำให้ผมหันไปมองมือทั้งสองข้างเขากำลังถือจานของปลาหมึกกับกุ้งอยู่
       “แล้วจะให้เราทำไงอะ”ผมถามพลางมองหน้าเขา
       “ก็ป้อนเราสิ”เขาบอก
         “ก็วางจานลงสิแล้วกิน”ผมบอกเขาเขินๆครับแต่ว่าไม่แสดงอาการมาก
        “โหใจร้ายจังเลยนะป้อนเรานิดเดียวก็ไม่ได้”ดินบอกพลางทำหน้าเศร้าแต่ไม่เหมือนหรอกครับเพราะแอคติ้งแย่มากกกก
       “อ่ะ”ผมว่าพลางยื่นหมูในมือให้เขาก่อนที่เขาจะงับกินพลางยิ้ม
        “อร่อยจริงๆด้วย”เขาตอบก่อนที่จะเดินเอาปลาหมึกกับกุ้งไปให้เพื่อนพอผมมองที่ไอ้แบล็คผมก็อดที่จะเวทนามันไม่ได้เพราะตอนนี้มันเอาแต่เถียงกันวินอยู่จนไม่ได้กินของอร่อยๆส่วนไอ้บอมก็มาเอาคุ้มจริงๆครับตั้งแต่มานี่มันยังกินไม่หยุดเลยไม่สนใจแม้แต่ว่าไอ้แบล็คจะเถียงกันกับวินหรือผมจะปิ้งของกินอยู่คนเดียว
        พอปิ้งไปสักพักก็รู้สึกว่าทุกคนจะเริ่มอิ่มๆกันแล้วและของกินก็มีเยอะดินจึงชวนทุกคนเข้าไปในบ้านและไปกินกันต่อในนั้น ในบ้านก็มีโต๊ะญี่ปุ่นกางอยู่ครับจึงเอาของไปวางและนั่งกินกันได้สบาย
        “กูว่าถึงเวลาแล้วว่ะ”เข้มเพื่อนจากห้องของดินพูดขึ้น
       “ถึงเวลาอะไรวะ”พิมพ์เพื่อนผู้หญิงจากห้องของดินพูดขึ้น
        “ก็ถึงเวลาของ....ไอ้วินโชว์ของดิ”เข้มบอก
         “แท่นแท้นนนนน”วินทำเสียงก่อนที่จะดึงขวดที่มีน้ำสีน้ำตาลออกมาประมาณห้าขวด
         “เชี่ย!มึงไปเอามาได้ไงวะ”พิมพ์ถาม
        “ฝีมือไงรู้จักป่ะ”เข้มตอบกวนๆก่อนที่จะหันไปยิ้มกับวินสองคน
        “เถื่อนชิปหาย”ไอ้แบล็คว่าขึ้น
       “เงียบไปเลยไอ้ตุ๊ดถ้าป๊อดก็ถอยไป”วินว่าให้แบล็ค
       “ตุ๊ดพ่องระดับกูไม่มีป๊อดหรอกโว้ย”ไอ้แบล็คพูดขึ้นทำท่าอย่างกับชำนาญการนักหนาทั้งๆที่หน้าอย่างมันเคยกินก็แต่โค๊กกับแป๊บซี่
       “เราไม่กินนะเดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้”ผมปฏิเสธก่อนที่พวกเขาจะชวน
       “อ่าวไอ้ออมได้ไงวะ”วินว่า
       “เพื่อนไม่กินมึงจะไปบังคับมันทำไมวะ”ดินดุวินครับ
      “เออๆก็ได้ๆ”วินบอก “ถ้างั้นไปเอาโซดาในครัวให้เราหน่อยสิ”
      “ได้”ผมตอบ
       “งั้นเราไปช่วย”ดินบอก
        “ไม่เป็นไร”ผมบอกก่อนที่จะลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวก่อนที่จะไปหยิบเอาลังโซดาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะแต่ผมก็คิดขึ้นได้ครับว่าน้ำอัดลมหมดผมจึงเปิดตู้เย็นดูว่ายังมีอยู่หรือเปล่าพอเปิดดูก็เห็นขวดแฟนต้าครับสามขวดสีแดงหมดเลยผมจึงหยิบเอาออกมาทั้งหมดแล้วเอาเข้ามาในห้องที่พวกนั้นนั่งกันอยู่
       “เอ้ามาแล้ว”ผมเรียกพวกวินให้รับของ
        “ขอบใจนะ”วินบอกก่อนที่จะรับเอาโซดาและแฟนต้าไปครับพอได้โซดาไปวินมันก็ชงให้ไอ้แบล็คก่อนเลยแล้วก็เชียร์ให้ไอ้แบล็คกินหมดแก้วครับไอ้แบล็คก็เสือกบ้ายออีกหรือกลัวแพ้ก็ไม่รู้เลยกินเข้าไปหมดเลย ผมไม่อยากดูมันเลยรินแฟนต้ามากินพอชิมเข้าไปรถชาติมันแปลกครับหวานๆเปรี้ยวๆซ่าๆแต่ก็อร่อยดีครับผมกินเข้าไปหลายแก้วเลยครับมันทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกหัวเบาๆยังไงไม่รู้จนผ่านไปได้สักพัก
       “เฮ้ยน้ำแข็งหมดว่ะ”วินพูดขึ้น”ทำไงดีวะ”
       “เดี๋ยวเราไปซื้อให้เอง”ผมอาสาครับเพราะอยู่ไปก็ไม่ได้กินกับเขาอยู่แล้ว
       “เดี๋ยวเราไปด้วย”ดินบอก
       “ไม่เป็นไรเราไปคนเดียวได้”ผมพูดพลางข่มไหล่ดินไว้แล้วลุกขึ้นก่อนที่จะเซนิดๆสงสัยคงนั่งนานไป “ที่จริงดินไปด้วยก็ดีนะ”ผมบอกดินก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปพร้อมผม
       “ออมเป็นอะไรป่ะทำไมเดินแบบนี้”ดินถาม
      “ไม่หนิ”ผมตอบด้วยความรู้สึกเวียนหัวเบาๆครับ
       “ไหวใช่มั้ย”ดินถามเพื่อความแน่ใจ
       “ไหวสิ”ผมตอบอย่างหนักแน่นครับ
       “ถ้างั้นไปกันรถมอร์เตอร์ไซนะ”ดินบอก
      “โอเคอยากรับลมพอดี”ผมตอบ
       ดินเอารถออกมาแล้วสตาร์ทก่อนที่ผมจะขึ้นไปนั่งซ้อนหลังเขาก่อนที่เขาจะขี่ออกไปได้ซักสองร้อยเมตรผมก็เอาหน้าไปแนบหลังเขาก่อนที่จะเอามือไปกอดเอวเขาโดยที่ไม่แม้แต่จะอายเลยครับผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแต่ที่รู้ๆมันเบาไปหมด จนเขาขี่รถมาถึงเซเว่นอีเลฟเว่น
        “เป็นไงจะลงมั้ย”ดินถาม
        “ลงสิถามมาได้”ผมตอบก่อนที่จะลงรถแล้วเดินเข้าไปในร้านโดยที่ไม่รอเขาก่อนที่จะไปซื้อน้ำแข็งและขนมอีกเยอะแยะโดยที่มีดินเดินตามเข้ามาผมจึงเดินเอาของทั้งหมดไปคิดตังค์
        “ทั้งหมดหกร้อยยี่สิบห้าบาทค่ะ”พนักงานบอกผมแต่ผมไม่ได้ยินครับรู้สึกสมองมันโล่งๆเอียงๆยังไงไม่รู้ “คุณลูกค้าคะ”เธอตะโกนครับทีนี้
         “ครับ”ผมตอบ
         “ทั้งหมดหกร้อยยี่สิบห้าบาทค่ะ”
         “อ๋อครับ”ผมตอบก่อนที่จะหากระเป๋าตังค์แต่ก็หาไม่เจอได้ยินแต่เสียงหัวเราะของดินดังขึ้นมาจากข้างหลังของผม “เอาตังค์มาดิ้”ผมสั่งเข้าเชิงใส่อารมณ์ครับ
         “คร้าบบบบบ”เขาตอบก่อนที่จะเอาตังค์มาให้แต่โดยดีผมจึงจ่ายตังค์แล้วเดินออกจากร้านไปแล้วดินจึงเดินตามออกมาแล้วสตาร์ทรถแต่ปรากฎว่าสตาร์เท่าไหร่ก็ไม่ยอมติด
        “สงสัยรถจะเสียอะออม”ดินบอกผม
       “เป็นไปได้ไงอะเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย”ผมถาม
       “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”ดินตอบ
       “แล้วทำไงดีอะ”ผมถาม
       “เราคงต้องเดินกลับก่อนอะเพราะพรุ่งนี้ร้านซ้อมถึงจะเปิด”ดินบอก
       “เออเดินก็เดิน”ผมตอบห้วนๆ
        “มาเราถือช่วย”ดินบอกแล้วดึงเอาของจากมือผมไป
        “ขอบใจ”ผมบอกก่อนที่จะเดินไปเรื่อย
        “อากาศดีเนาะ”ดินบอก
        “อื้มออมเราถามอะไรหน่อยดิ”ดินถาม
        “ก็ว่ามาดิ”ผมตอบเสียงเรียบไม่มีความรู้สึกใดๆ
        “ออมคิดยังไง.....”ดินถาม
         “ก็ดีเพื่อนเยอะดี งานวันเกิดดินของกินเยอะด้วยเลยสนุกเข้าไปใหญ่”ผมตอบโดยที่เขาถามยังไม่จบ “เหนื่อยจัง”ผมพูดก่อนที่จะถึงป้ายรถเมล์ “เราขอนั่งก่อนนะ”ผมบอกดินก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้
          “ก็เอาสิเราก็เหนื่อยเหมือนกัน”ดินบอก “ที่จริงเราไม่ได้จะถามเรื่องงานวันเกิดหรอกนะ”ดินบอกในขณะที่ผมนวดขาตัวเองอยู่ “เราว่าจะถามว่าออมรู้สึกยังไงกับ....”
        “ไปกัน”ผมบอกดินก่อนที่จะลุกขึ้นแต่
         “ออมเดี๋ยวก่อน”ดินเรียกก่อนที่จะดึงแขนผมจนผมเสียหลักนั่งลงอีกครั้งและหันหน้าไปหาเขาแต่ทีนี้หน้าเราใกล้กันมาก ห่างกันแค่คืบพอผมมองไปที่ดวงตาเขา ไล่มาที่จมูกและมาที่ปากของเขามันมีความรู้สึกเหมือนมีแม่เหล็กในตัวของเราทั้งสองคนที่กำลังคอยดึงดูดเราทั้งสองคนให้เข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น และในที่สุดริมฝีปากของผมกับเขาก็สัมผัสกันอย่างแผ่วเบา........

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนที่7
«ตอบ #12 เมื่อ10-07-2017 21:29:55 »

เพ้อเพราะรัก
ตอนที่เจ็ด

         “ไปกัน”ผมบอกดินก่อนที่จะลุกขึ้นแต่
         “ออมเดี๋ยวก่อน”ดินเรียกก่อนที่จะดึงแขนผมจนผมเสียหลักนั่งลงอีกครั้งและหันหน้าไปหาเขาแต่ทีนี้หน้าเราใกล้กันมาก ห่างกันแค่คืบพอผมมองไปที่ดวงตาเขา ไล่มาที่จมูกและมาที่ปากของเขามันมีความรู้สึกเหมือนมีแม่เหล็กในตัวของเราทั้งสองคนที่กำลังคอยดึงดูดเราทั้งสองคนให้เข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น และในที่สุดริมฝีปากของผมกับเขาก็สัมผัสกันอย่างแผ่วเบาริมฝีปากอุ่นๆของเขาทำให้ผมทั้งใจสั่นแล้วก็อบอุ่นในเวลาเดียวกันผมจึงค่อยๆปิดเปลือกตาลงตาลงช้าๆทั้งที่ริมฝีกปากของผมยังคงสัมผัสกับริมฝีปากของเขาอยู่ผมรู้สึกราวกับว่าเวลาในตอนนี้มันได้หยุดหมุนไปแล้ว
          ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้งทั้งที่ยังสัมผัสได้ถึงความอุ่นที่อยู่บนริมฝีปากแต่ในตอนนี้มีแสงสว่างเกิดขึ้นรอบตัวผมไปหมดทั้งยังมีแสงที่ส่องลงมาที่ตาของผมด้วยและสิ่งที่อยู่บนปากของผมกลับไม่ใช่ปากของดินแต่อย่างใดมันคือมือของไอ้แบล็คครับที่วางทับอยู่บนริมฝีกปากของผมโดยที่เจ้าของมันนอนอยู่ข้างผมนี้แหละครับเมื่อผมทราบว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่ฝัน ผมจึงดึงมือของไอ้แบล็คออกแล้วค่อยๆลุกขึ้นแล้วเปิดโทรศัพท์ดูเวลาว่ากี่โมงแล้วก็เห็นว่ามันคือเวลากว่าแปดโมงครึ่งแล้วเมื่อผมมองไปรอบก็เห็นพวกเพื่อนๆที่นอนกองกันอยู่ในห้องรับแขกของดินนี้แหละครับแต่ที่ตลกที่สุดคือต้องยกให้กับไอ้แบล็คครับเพราะที่มันนอนอยู่ข้างผมกลับมีวินนอนกอดมันอยู่ผมเห็นดังนั้นจึงค่อยๆลุกขึ้นแต่ผมกลับมีความรู้สึกเวียนหัวเข้ามาแต่ไม่มาก(ไม่เหมือนกับเวียนหัวเป็นไข้นะครับ)ทั้งยังมีความรู้สึกเหมือนจะอ้วกแต่ไม่อ้วกครับแถมยังหิวน้ำอีกผมจึงเดินเข้าไปในครัวก็เห็นว่าดินกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัวเมื่อเขาได้ยินเสียงผมเขาจึงหันมามองนั่นทำให้ผมเขินมากครับเพราะคิดถึงเรื่องที่ฝันเมื่อคืน
        “ อ่าวออมตื่นแล้วหรอ”ดินทักขึ้น
        “อื้ม”ผมตอบ
        “แล้วจะเอาอะไรหรอ”เขาถามพลางมองหน้าผม
        “อ๋อเราหิวน้ำอะ”ผมตอบดินจึงเดินไปหยิบน้ำมาให้
        “นั่งสิ”เขาบอกผมนั่งที่เก้าอี้ในครัวแล้วจึงส่งแก้วน้ำให้ผมก่อนที่ผมจะกินไปอึกใหญ่เพราะว่าหิวน้ำมากครับแต่พอกินเข้าไปรสชาติมันกลับเป็นเฝื่อนๆไม่เหมือนน้ำปกติ “นี้น้ำอะไรอะทำไมรถชาติมันเป็นแบบนี้”ผมถาม
         “ฮื้ม...ก็น้ำเปล่าปกติหนิ”ดินบอกพลางหยิบเอาแก้วน้ำจากผมไปจิบดู
          “ใช่หรอรสชาติมันเฟื่อนๆนะ”ผมบอก
         “อ๋อไม่ใช่น้ำหรอกที่รสชาติแปลกมันเป็นที่ปากออมต่างหากก็น้ำที่ออมกินเมื่อคืนนี้น่ะไอ้วินกับไอ้เข้มแม่งเล่นพิเรนเอาเหล้าไปผสมกับแฟนต้าอะดิ ที่ออมเป็นอยู่นี้เขาเรียกว่าเมาค้างอะ”ดินบอก
          “เฮ้ยจริงดิ”ไม่น่าล่ะเมื่อคืนถึงได้เวียนหัวแปลกๆ         
          “แล้วออมไม่รู้เลยหรอ”ดินถาม
          “ไม่อะเราไม่เคยกิน”ผมบอก “แล้วเราจะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยอะ”
           “ไม่หรอกเดี๋ยวซักชั่วโมงก็หายกินข้าวต้มก่อนดิเดี๋ยวเราตักให้”ดินบอกก่อนที่จะเดินไปที่หม้อที่เขาเฝ้ามันอยู่เมื่อกี้แล้วตักข้าวต้มปลากลิ่นหอมมาให้ผมมันน่ากินมากครับผักชีก็เยอะเนื้อปลาก็เยอะผมล่ะน้ำลายไหลผมจึงตักมันขึ้นมาแล้วเป่าเบาๆก่อนที่จะชิมเข้าไปคำโต
          “เป็นไงอร่อยหรือเปล่า”ดินถามหลังจากที่ผมเคี้ยวเสร็จแล้ว
         “อย่าว่าอร่อยเลย อร่อยมากต่างหากดินทำเป็นได้ไงอะ”ผมถามพร้อมกับตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าก่อนที่จะกินเข้าไปอีกคำผมไม่ได้ยอเขานะครับนี้มันอร่อยจริงๆจากใจของคนที่ทำอาหารเป็นเลยครับ(ทอดไข่ ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากะป๋อง สามอย่างนี้แหละครับก็คนมีแม่ทำอาหารเก่งอะไม่ต้องทำเองทำได้แค่นี้ก็ดีแล้วป่ะ)
         “พอดีว่าแต่ก่อนพ่อกับแม่เราไม่ค่อยอยู่บ้านอะเราเลยต้องทำให้ดาวกินบ่อยๆ ถ้าออมชอบก็กินเยอะๆนะ”ดินบอกพร้อมกับยิ้มให้ผมเบาๆผมนี้แทบละลายเลยครับก็จะไม่ละลายได้ไงล่ะครับคนอะไร เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนก็เก่ง ทำอาหารได้ แถมเป็นผู้นำอีกโอ้ยยยยยยยยยย ไม่รักไงไหวเนี้ยยยยยยย
          ผมกินไปเรื่อยๆครับแต่ก็ยังไม่หมดถ้วยแรกเพราะว่ามันร้อนครับจนผมได้ยินเสียงเอะอะโวยวายในห้องรับแขกดังขึ้น จึงรีบวิ่งไปดู
          “ไอ้เลวมึงมานอนกอดกูได้ห้ะมึงทำอะไรกูหรือเปล่าเนี้ย”ไอ้แบล็คพูดหน้าเสียพร้อมกับเอามือมาจับตัวเองเพื่อสำรวจว่ามีอะไรสึกหรอหรือเปล่าผมล่ะขำหน้ามันจริงๆอย่างกับเห็นผี
           “มึงจะอะไรนักหนาวะมึงกับกูก็ผู้ชายเหมือนกันป่ะ”วินบอกพลางขยี้ตาแบบง่วงๆพร้อมกับหาว
          “ก็กูไม่ได้มักง่ายเหมือนมึงไง”ไอ้แบล็คบอกเสียงโกรธแต่พอหันไปมองพวกที่เหลือกลับพากันหัวเราะชอบใจผมก็หนึ่งในนั้นเหมือนกันครับ “หัวเราะเหี้ยอะไรกันว่ะ”ไอ้แบล็คโวย
           “มึงจะไปพาลคนอื่นเขาทำไมวะ กูไม่ได้ทำอะไรมึงสักหน่อยแล้วอีกอย่างนะกูขอบอกไว้เลยว่าไม่มีทาง”วินพูดก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำโดยที่ปล่อยให้ไอ้แบล็คบ่นอยู่คนเดียวในตอนนี้ทุกคนก็ตื่นขึ้นมากันหมดแล้วจึงพากันไปกินข้าวต้มที่ดินทำก่อนที่จะช่วยกันเก็บข้าวของแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน
           “กลับมาเช้ากันเลยนะ”แม่ทักขณะที่ผมสามคนเข้ามาในบ้าน
            “นิดหน่อยครับแม่ ก็เมื่อคืนไอ้แบล็คมันกลับไม่ไหวอะครับแถมเหนื่อยๆกันด้วยเลยไม่ขับรถกลับมากลัวอุบัติเหตุไง”ผมแก้ตัวครับเพราะว่าไม่อยากบอกความจริงว่าเมาเดี๋ยวโดนสวดยาวอีก
              “หรอออ นึกว่าติดลมกันแล้วไม่ยอมกลับอย่าให้รู้เชียว”แม่พูดพลางทำจมูกฟุดฟิด “ว่าแต่ออมนี้มันกลิ่นอะไรอะเหมือน...”
              “ไม่มีอะไรหรอกครับแม่กลิ่นคนไม่ได้อาบน้ำนั่นแหละครับ ผมกับไอ้พวกนี้ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”ผมรีบตอบปัดๆพร้อมกับหันหน้าไปมองหน้ากันเพราะสงสัยว่าแม่คงได้กลิ่นเหล้าจากไอ้สองตัวนี้แน่นอนพวกผมจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องผมก่อนที่จะหยิบเอาผ้าขนหนูกันคนละผืนแล้วเข้าไปอาบน้ำ
            เมื่อผมอาบน้ำเสร็จจึงไปรถน้ำต้นไม้ ก่อนที่จะมานอนที่เตียงกับไอ้เพื่อนทั้งสองของผมที่เล่นโทรศัพท์กันอยู่
            “เฮ้ยยยยยย”ผมอุทานขึ้นเมื่อมองไปเห็นกล่องของขวัญที่ผมทำให้ดินอยู่ที่โต๊ะข้างที่นอน
              “เป็นอะไรวะ”ไอ้แบล็คถามขึ้น
             “กูลืมเอาของขวัญให้ดินว่ะ”ผมบอก
             “กูก็นึกว่าเรื่องอะไร”ไอ้แบล็คว่า “แล้วทำไมไม่เอาไปให้วันจันทร์ล่ะ”
             “เออจริงว่ะ”
             “แต่จะว่าไปก็สงสัยยังไม่หายเลยว่ะ”ไอ้บอมพูดขึ้น
             “สงสัยอะไรวะ”ไอ้แบล็คถาม
             “ก็มึงกับไอ้วินไงวะต้องเมาขนาดไหนวะถึงไปนอนกอดกันได้”ไอ้บอมถามด้วยหน้าที่สงสัยเหมือนกับโลกจะแตก
              “ไอ้สัสไม่พูดดิแม่งขนลุกยังไม่หายจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างไม่น่าซ่าเลยว่ะกู”ไอ้แบล็คบ่นออกมาอย่างเสียหมา “แต่กูจำได้อยู่เรื่องนึง”ไอ้แบล็คพูดพลางมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่ลุกวาวครับ
            “อะไร มองกูแบบนี้หมายความว่าไง”ผมถามมันครับ
            “ก็มึงกับไอ้ดินออกไปซื้อของด้วยกันไม่ใช่หรอ”ไอ้แบล็คพูดขึ้น
           “เออจริงด้วย”ไอ้บอมพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ “เป็นไงบ้างวะ”ไอ้บอมถามผมจึงเริ่มคิดถึงเรื่องเมื่อคืนผมถึงกับงงเพราะตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นแค่ฝันแต่ทีนี้มันกลับเป็นความจริงแต่ผมก็จำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่
              “แล้วพวกมึงไปทำอะไรกันมาบ้างวะ”ไอ้แบล็คถามพลางทำหน้ามีเลศนัย
             “ทำห่าอะไรของมึงล่ะไม่มีหรอก”ผมพูดพลางคิดถึงเรื่องเมื่อคืนผมก็อดที่จะอายตัวเองไม่ได้ทั้งกอดเขาทั้งวีนเขาผมนี่ไม่น่าเลย งั้นก็แปลว่าเรื่องที่ผมจูบกับเขามันก็ต้องเป็นเรื่องจริงน่ะสิ
             “แล้วทำไมตอนกลับมามันถึงแบกมึงมาวะ”ไอ้บอมถามขึ้น
            “แบกอะไรวะ”ผมถามมันเพราะว่าจำเรื่องเมื่อคืนไม่ค่อยได้
             “ก็เมื่อคืนไอ้ดินมันแบกมึงมาไง แต่ก็แปลกนะตอนแรกมึงไปก็ยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่หรอแล้วทำไมตอนกลับมามึงหลับไปได้หรือว่าไอ้ดินมันทำอะไรมึง”ไอ้บอมพูดออกมาทำให้ผมถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยครับ
             “ไม่มีห่าอะไรทั้งนั้นแหละกูจำไม่ได้”ผมโกหกมันไปครับก็จะให้ไปบอกว่าผมกับดินจูบกันหรอผมทำไม่ได้หรอกทั้งจะมาลองคิดๆดูแล้วผมกับเขาจูบกันจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้จำอะไรก็ไม่ค่อยได้ด้วยเผื่อว่าผมฝันไปเองใครจะไปรู้
           “แล้วมึงน่าแดงทำไม”ไอ้แบล็คถามพลางมองผมด้วยสายตาจับพิรุธ
           “แดงแม่มึงสิกูร้อน”ผมโวยใส่มันครับ
          “ร้อนบ้านมึงสิถ้าจะให้เย็นกว่านี้กูก็แข็งตายแล้วมั้ง”ไอ้แบล็คพูดพร้อมกับยื่นอุณหภูมิที่รีโมทแอร์มาให้ผมดู
           “เออน่าก็กูร้อนหนิมึงจะมาเซ้าซี้เอาอะไรวะ”ผมบอกมันก่อนที่จะหลบหน้ามันสองคน
            “กูว่าแม่งแปลกๆแล้วว่ะมึงบอกกูมาเลยนะว่ามึงสองคนไปทำอะไรกันมาหรือว่ามันจูบมึง”ไอ้แบล็คมันพูดออกมาทำให้ผมถึงกับสะอึก
            “กูลงไปเอาของขึ้นมากินก่อนนะ”ผมบอกไอ้เพื่อนทั้งสองตัวของผมก่อนที่จะเดินไปที่ประตูห้องแต่แม่เปิดเข้ามาในห้องพร้อมกับจานขนมพอดี
            “คุยอะไรกันอยู่หรอจ๊ะ”แม่ถาม
            “ไม่มีอะไรหรอกแม่”ผมตอบแม่
            “นี้ไงของกินมาแล้วจะไปไหนอีกล่ะ”ไอ้แบล็คถามเพราะว่ามันเห็นว่าผมกำลังเดินออกจากห้องไป
            “เอ่อ..กู...จะไปหาไอ้โด้”ผมตอบรนๆ
          “เขาเป็นอะไรหรอจ๊ะ”แม่ถามไอ้สองตัวนั้นในขณะที่ผมเดินลงบันไดมาก่อนที่จะวิ่งไปหาเจ้าโด้ที่คุ้ยดินอยู่ผมเล่นอยู่กับมันพร้อมกับคิดถึงเรื่องของดินได้สักพักไอ้เพื่อนสองตัวของผมก็ลงมาข้างล่างพร้อมกับแม่ทั้งสามคนมองมาที่ผมด้วยสีหน้าที่มีแต่สงสัยและหาคำตอบจนหน้ากลัว พอผมทักว่าจะกลับแล้วหรอแม่งก็กลับมาแขวะผมว่าไม่อยากอยู่ใกล้คนมีความลับผมนี้ล่ะอยากโดดถีบมันทั้งสองคนจริงๆเลยวันนี้ผมก็เลยได้มานั่งเล่นอยู่คนเดียวจนดึกแล้วคุยไลน์กับเกรย์สักพักก่อนที่จะนอนหลับไป
             ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วก็ทำภารกิจทุกอย่างให้เสร็จตามเคยโดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบเอากล่องของขวัญของดินใส่กระเป๋าไปด้วยเพื่อที่จะเอาไปให้เขาก่อนที่จะไปโรงเรียนแล้วเข้าห้องเรียนในคาบแรกซึ่งเป็นคาบโฮมรูม
           “นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ”หัวหน้าห้องของผมในขณะที่ครูดวงดาวครูที่ปรึกษาของผมเดินเข้ามาในห้อง
           “สวัสดีจ๊ะทุกคนวันนี้ครูก็ไม่มีอะไรจะพูดมากหรอกนะจ๊ะครูจะให้นักเรียนคุยกันเองดีกว่าแต่ว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานโรงเรียนที่กำลังจะถึงนี้นะจ๊ะ ถ้างั้นครูเชิญมิ้นอออกมาพูดกับเพื่อนเลยดีกว่าเดี๋ยวครูจะขอตัวไปห้องวิชาการแป๊บนึงเนาะเราจะได้คุยกันได้สะดวก”ครูบอกก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
            “โอเคทุกคน”มิ้นลุกขึ้นยืนเมื่อครูดวงดาวออกไปแล้ว “งานในปีนี้ไม่เหมือนกับทุกปีนะปกติละครห้องจะส่งก็ได้ไม่ส่งก็ได้เนาะแต่ว่าปีนี้ทางโรงเรียนบังคับให้เราส่งเพราะว่าอยู่ม.6แล้วแต่ว่าในปีนี้ทางโรงเรียนจะให้เราทำร่วมกับห้องอื่นโดยจะแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละสี่ห้อง กลุ่มของเราก็จะมีห้องเราห้องหนึ่งเนาะ ห้องสอง ห้องสี่ แล้วก็ห้องของพวกห้องคิง”พอพูดถึงห้องสุดท้ายมิ้นมองบนนิดหน่อยพร้อมกับเสียงโห่ของคนในห้องเบาๆ “แล้วเราได้ไปร่วมประชุมกับหัวหน้าห้องห้องอื่นมาแล้ว เขามอบหมายให้ห้องเราทำฉากช่วยกันกับห้องสี่ ดูแลเรื่องชุดนักแสดง เขียนบท แล้วก็ผู้กำกับนะ”มีเสียงดีใจจะคนในห้องครับเพราะว่าไม่ได้ไปทำงานรวมกับพวกเด็กคิงเพราะส่วนมากจะเห็นแก่ตัว(แต่บางคนก็ไม่นะคับเช่นดินอ่อลืมบอกไปดินเป็นหัวหน้าห้องคิงนะครับ)
         “แล้วใครทำอะไรมิ้นได้แบ่งไว้ยัง”ปริมถาม
          “เราแบ่งไว้แล้วจะไล่ให้ฟังนะว่าใครทำอะไรบ้าง คนที่เป็นทีมเขียนบทเราขอยกหน้าที่ให้ออม แบล็ค แล้วก็อิมนะ”
          “เราหรอ”อิมถามขึ้นอิมผู้หญิงผมฟูใส่แว่นตาชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมากบางคนบอกว่าอิมไม่สวยนะครับแต่ผมว่าเขาเป็นคนที่สวยคนนึงเลยล่ะเพียงแต่เขาเลือกที่จะทำตัวให้คนมองข้ามเขาเท่านั้นเอง
           “ใช่เรารู้ว่าอิมเขียนได้เราเคยเข้าไปอ่านนิยายของอิมในเว็ป”มิ้นบอกทำให้อิมถึงกับหน้าแดง
           “ไม่ต้องกลัวหรอกน่ามีเรากับออมซะอย่าง”ไอ้แบล็คบอกจึงทำให้อิมพยักหน้าเบาๆ
           “ถ้างั้นต่อนะ บอม เฟย์ มิว แล้วก็ฟาง ไปช่วยกันกับ  เมย์ มายด์ แล้วก็ขวัญห้องสี่ดูแลเรื่องชุดนะเดี๋ยวมาเอาเงินที่เรา ส่วนแอมป์ผอม กับแอมป์อวบมาช่วยเราเรื่องกำกับนะ ที่เหลือทำฉากช่วยห้องสี่ยกเว้น ปริมกับกี้เพราะว่าเป็นนางรำแล้ว อ้อลืมไปงานวันภาษาไทยจะจัดศุกร์หน้านะ มีใครจะถามอะไรมั้ย ถ้าไม่ก็จบแค่นี้นะ”เมื่อมิ้นพูดเสร็จทุกคนก็มานั่งคุยกันในส่วนงานของตัวเองผม ไอ้แบล็ก แล้วก็อิมก็ตกลงกันว่าจะเริ่มแต่งบทกันทันทีซึ่งเรื่องที่พวกผมจะทำคือบ้านทรายทองครับ
            หลังจากที่เลิกเรียนผมรีบเดินไปที่สนามบอลพร้อมกับไอ้เพื่อนสองตัวของผมครับเพื่อว่าผมจะไปดูดินเล่นบอลแล้วเอาของขวัญให้เขาด้วย พอไปถึงก็เหมือนอย่างเคยครับผู้หญิงเต็มข้างสนามไปหมดก็คงมาดูดินกับเพื่อนๆของเขาตามเคยผมล่ะเหนื่อยใจศึกครั้งนี้ชั่งใหญ่หลวงนัก 
            ผมรอจนเขาเตะบอลเสร็จครับแต่ว่าคนก็ยังเยอะเกินไปรวมทั้งไอ้แบล็คกับไอ้บอมก็ขอกลับบ้านก่อนผมจึงเลือกที่จะเดินขึ้นไปรอเขาที่ล็อกเกอร์
           “เอ้าออมมานั่งทำอะไรตรงนี้อะ ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”ดินถาม
          “ยังอะนี้เราให้”ผมพูดพลางยื่นของขวัญให้เขา
           “อะไรอะ”ดินถาม
           “ของขวัญวันเกิดดินอะเราลืมให้”ผมบอกพลางมองไปที่หน้าของเขาก่อนที่จะโฟกัสอยู่ที่ปากของเขามันทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับ
           “ขอบใจนะ ว่าแต่มันคืออะไรอะ”เขาพูดพลางยิ้มให้ผมซึ่งผมก็ยังจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเขาอยู่ครับ “ออมมองอะไรอะมีอะไรติดหน้าเราหรอ
          “อ๋อเปล่าหรอกแล้วเพื่อนดินไปไหนหมดแล้วล่ะ”ผมถามพลางไล่ความคิดนั้นออกไปจากสมอง
         “มันกลับกันหมดแล้วล่ะพวกมันขึ้นมาเอากระเป๋าตอนไหนไม่รู้แต่กลับไม่เอาไปให้เราด้วยน่ะสิ”ดินพูดพลางถอดเสื้อออกครับซึ่งนั้นทำให้ผมเห็นซิกแพ็คขาวๆของเขาเข้าเต็มๆ ผมนี้ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยครับเลิกลั่กไปหมดใจนึงก็อยากมองอีกใจก็โคตรเขิน “ออมเป็นอะไรอะทำไมหน้าแดง”เขาพูดพลางเอามือมาแตะหน้าผากผม “ไหนดูซิ”เขาจับหน้าของผมให้เงยขึ้นมามองหน้าเขา(แต่ไม่แรงมากนะครับ)ทำให้ตอนนี้เราทั้งสองสบตากันครับซึ่งมันยิ่งทำให้ผมหัวใจเต้นแรงเข้าไปใหญ่แต่เดี๋ยวก่อนนะเหตุการณ์นี้มันคุ้นๆเหมือนตอนที่ป้ายรถเมล์เลยหน้าของเขาใกล้เข้ามาๆ แล้วในที่สุดผมก็.....

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่แปด ใช่เดทหรือเปล่า

       แล้วในที่สุดผมก็.....
       ผมก็หลบออกมาจากตัวเขา
       “ดินก็ใส่เสื้อดิ”ผมบอกเขาพร้อมกับเอาเสื้อยื่นให้
       “ไม่เอาอะเราร้อน”ดินบอก ผมนี้แทบจะตายอยู่แล้วเดี๋ยวก็ปล้ำซะเลยนี้
        “ก็รีบใส่เสื้อดิจะได้รีบกลับบ้านไปอาบน้ำไง”ผมบอกเขาแต่ว่าเขากับไม่ยอมเอาเสื้อไปจากมือผมสักที่แถมยังเดินเข้ามาใกล้ๆอีก ผมจึงค่อยๆถอยหลังไปจนหลังของผมติดกับล็อคเกอร์แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้นแถมยังจะเอามือมาค้ำตูล็อคเกอร์อีกแล้วยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆอีก จนผมต้องหลับตาปี๋ก่อนที่จะได้ยินเสียงเขาเปิดล็อคเกอร์ออกแล้วหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้น ก็เห็นเขากำลังใส่เสื้ออยู่
           “เสื้อตัวนั้นมันเหม็นแล้วอะ เราไม่อยากใส่”ดินบอก
           “อ่าวหรอ”ผมพูดพลางเกาท้ายทอยแก้เขินที่ตีตนไปก่อนไข้นึกว่าเขาจะจูบซะอีก
           “ออมคิดว่าเราจะทำอะไรหรอ”ดินถาม
           “ฮ่ะ!!”
           “ก็เห็นหลับตาปี๋เชียว”
           “ก็เห็นว่าจะเอาเสื้อน่ะสิถามได้”ผมตอบวีนๆครับกลัวเขาจับได้ “งั้นเรากลับก่อนนะ”
         “เดี๋ยวก่อนสิ เดี๋ยวเราไปส่ง”ดินบอกก่อนที่จะสะพายเอากระเป๋าแล้วเดินออกมาจากห้องพร้อมกับผม
         เมื่อออกมาจากห้องแล้วผมกับเขาจึงเดินไปเอารถด้วยกันซึ่งวันนี้เขาเอารถมอเตอร์ไซค์มาครับ ซึ่งนั้นทำให้ผมชั่งใจอยู่นานกว่าจะขึ้นเพราะคิดถึงเหตุการณ์ที่ผมกอดเขาแน่นเป็นตุ๊กแกวันนั้น พอผมขึ้นนั่งผมก็ไม่กล้าแตะตัวเขาเลยครับตัวแข็งไปหมดจนได้ยินเสียงหัวเราะจากเขา
          “ออมเป็นอะไรอะ ทำไมนั่งแบบนั้น”
         “อ๋อเราก็เป็นแบบนี้แหละชอบนั่งแบบนี้มันสบายดีนั่งใกล้กันมันอึดอัด”
         “งั้นหรอ แต่วันนั้นกอดเราแน่นเลยนะ”ดินพูดทำให้ผมเหมือนกับโดนน้ำเย็นสาดใส่เลยครับตัวแข็งไปหมดเลย
         “อ้าววววหร๊อออออ...เราจำไม่เห็นได้เลยสงสัยเมาหนัก”
         “ก็คงจะจริงเดินมาจับเป้าเราด้วยแหละ”
         “มั่วและตอนไหนจำไม่เห็นได้เลยก็แค่กอดเฉยๆไม่ได้จับซักหน่อย”ผมเถียงตาเหลือกเลยครับเพราะจำได้ว่าไม่ได้ทำแบบนั้น
         “อ้าวไหนว่าจำไม่ได้ไง”อ่าวเหี้ยแล้วไงหลงกลเขาจนได้ดินนี้ก็ร้ายใช่ย่อยนะครับยิ่งได้อยู่ใกล้เขามากๆยิ่งรู้สึกว่าหัวใจไม่ปลอดภัยเลยยยยย
         “ก็....ก็ดินลืมไปแล้วหรือไงว่าเสื้อตัวนึงของดินอยู่บ้านเราอะฝากซักไม่มาเอาเลย เดี๋ยวถึงบ้านแล้วเอามาให้นะ”ผมเปลี่ยนประเด็นเลยกกลายเป็นว่าผมตอบไม่ตรงคำถามเลยครับก็คนมันคิดไม่ทันหนิครับคิดอะไรได้ก็ต้องตอบๆไปก่อนแต่ดินก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรผมอีกครับ
           จนถึงหน้าบ้านของผม ผมจึงรีบเปิดประตูเข้าไปในบ้านแล้วเอาเสื้อออกมาให้ดินซึ่งตอนนี้เล่นอยู่กับเจ้าโด้ที่หน้าบ้านของผม
          “น่ารักเนาะ”ดินพูดพลางมองหน้าผมเมื่อผมเดินไปถึงเขาทำให้ผมถึงกับทำตัวไม่ถูก “เจ้าโด้อะ น่ารักเนาะ”ดินพูดพลางอุ้มเจ้าโด้ขึ้นมาให้ผมดู
           “อ้าววว”ผมพูดเสียงอ่อยก็นึกว่าชมผมหนิ
           “ฮื้ม”ดินมองหน้าผม
            “อื้มก็ต้องน่ารักสิเราเลี้ยงดีขนาดนี้”ผมบอก “อ่าวนี้”ผมบอกพลางยื่นเสื้อให้เขา
            “ขอบใจนะ งั้นเรากลับก่อนนะ”ดินบอกก่อนที่จะวางมือจากเจ้าโด้แล้วลุกขึ้นเดินไปที่รถ
            “ดินเดี๋ยวก่อน”ผมบอกจึงทำให้ดินหันมาพร้อมกลับเลิกคิ้วให้ผมเชิงถาม “คือถ้าเราเมาแล้วทำอะไรให้ดินลำบากเราขอโทษด้วยนะ”ผมบอก
             “ไม่เป็นไรหรอกเราไม่คิดมากอยู่แล้ว”ดินบอกพร้อมกับยิ้มให้ผม 
             ผมมองไปที่ริมผีปากของเขามันทำให้ผมหัวใจเต้นแรงอีกครั้งครับ
             “แล้วอีกอย่างเรามีอะไรจะถามดินน่ะ”ผมบอกพลางมองหน้าเขาหวั่นๆ
            “ว่า”
            “คือวันนั้น...เรากับดิน...เอ่อ..เรากับดินได้..จ...จู...”ผมพูดตะกุกตะกักมากครับเพราะทั้งอายทั้งไม่กล้าก็จะให้ถามว่า ‘เราจูบกันหรอ’อย่างงี้หรอครับใครจะไปทำได้ “คือเราสองคนได้จู...”ดินมองมาที่หน้าผมอย่างหาคำตอบครับ
           “จูบหรอ”ดินพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยครับซึ่งนั้นทำให้ผมถึงกับหน้าขึ้นสีก่อนที่จะพยักหน้าตอบเบาๆ “ออมอยากรู้ไปทำไมอะ”ดินถามทำให้ผมยิ่งใจเต้น
            “ก็เรา...”ผมเขินมากครับตอนนี้ทั้งอาย
             “แล้วออมคิดว่าเราได้จูบกันป่ะล่ะ”ดินพูดพลางเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆผมตอนนี้ผมจะบ้าตายอยู่แล้วครับ
             “เรา...เราถึงได้ถามไงก็บอกมาดิ”ผมบอกเขาครับตอนนี้ผมหน้าร้อนมากๆ
             “ออมคิดยังไงก็อย่างงั้นแหละ”ดินบอกผมก่อนที่จะเดินไปสตาร์ทรถแล้วทิ้งให้ผมคิดอยู่คนเดียว
              ตกลงเราจูบกันหรือเปล่าวะหรือว่าเราฝันไปเองใช่เราต้องฝันไปเองแน่นอนเลยแต่ว่าบางครั้งเรากับเขาอาจจะจูบกันจริงๆก็ได้นะไม่สิไม่ได้จูบแต่ว่าภาพมันเหมือนจริงมากเลยนะหรือว่าจะจูบ โอ้ยบ้าอะไรเนี่ยทำไมไม่บอกความจริงมาเลยวะ
             หลังจากที่คิดอยู่นานผมจึงขึ้นไปอาบน้ำและทำการบ้านครับ
         ดึ่ง
        เกรย์
         ‘ไงวันนี้เป็นไงบ้างสนุกป่ะ’เกรย์ส่งข้อความมาครับซึ่งผมก็รอเขาอยู่เหมือนกัน
        ‘ก็ดีอยู่หรอกแต่ว่ามีเรื่องปวดหัวนิดหน่อย’ผมตอบ
       ‘เรื่องอะไรหรออยากเล่าหรือเปล่า’เกรย์ถาม
       ‘ก็เรามีเรื่องที่อยากรู้อะ เราก็เลยไปถามเพื่อนคนนึง แต่ก็ไม่ยอมบอกสักทีมันคาใจไม่เคลียเลย’ผมตอบ
          ‘โหมันคาใจจริงๆนะถ้าเจอแบบนี้เราต่อยเลยนะไม่ให้ความจริงกับเราเนี่ย’เขาตอบ
          ‘บ้าใครจะไปกล้าทำ’ผมตอบ
         ‘อ้าวก็เพื่อนไม่ใช่หรอหรือว่าแฟน’เขาถาม
         ‘ไม่มั่วดิแค่เพื่อน เขาคงคิดแบบนั้นแหละ’ผมตอบแบบหงอยๆ
        ‘หรอ...ทำไมดูหงอยๆอะอยากรู้มากว่างั้น’เขาตอบ
       ‘บอกได้เปล่าว่าไอ้นั้นมันเป็นใคร’เขาถาม
        ‘จะรู้ไปทำไม’ผมถาม
        ‘ก็เราจะไปต่อยมันให้ไงเผื่อว่ามันทำให้ออมไม่สบายใจอีก’เขาตอบ
        ‘คิดว่าตัวเองเป็นใครฮะ! จะได้หาเรื่องคนเขาไปทั่วเนี้ย’ผมตอบพร้อมกับอมยิ้มเบาๆทั้งๆที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
        ‘ก็เราไม่อยากให้ออมไม่สบายใจหนิ’เขาตอบมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอีกแล้วครับ
         ‘จะอ้วก’ผมตอบก่อนที่จะปิดจอลง ก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าทำไมต้องตอบเขาแบบนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดดีๆด้วยยังไงแล้วที่สำคัญก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่โกรธผมด้วย
        ดึ่งๆ
        มีข้อความส่งเข้ามาครับผมคิดว่ามันคงเป็นข้อความของเกรย์แน่นอนแต่มันกลับไม่ใช่ของเกรย์คนเดียวครับมันมีข้อความของดินอยู่ด้วยผมมองข้อความทั้งสองด้วยความสับสนครับว่าจะกดเข้าไปอ่านของใครก่อนดีทั้งที่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยผมจึงใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือหลับตาแล้วจิ้มลงไปที่หน้าจอโทรศัพท์เผื่อว่าหากโดนของใครก็อ่านของคนนั้นก่อนผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาพบกับข้อความของดินครับ
         ดิน
         ‘ขอบใจนะรู้ได้ไงว่าเราชอบ’ดินส่งข้อความมาพร้อมกับรูปของเจ้าหุ่นยนต์ที่ประกอบด้วยอะไรเยอะแยะมากมายจากร้านเครื่องเขียนซึ่งดูบิดๆเบี้ยวๆนิดหน่อย
        ‘ของที่ดินชอบเรารู้หมดแหละ’ ‘เราเก่ง’ผมพิมพ์ก่อนที่จะลบออกอยู่หลายรอบไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ผมจึงเข้าไปถามเกรย์ในข้อความ
         เกรย์
         ‘ใจร้าย’ข้อความของเกรย์ที่ส่งมาครับ
         ‘ขอโทษษษษษ’ผมตอบ
       ‘มาไม้ไหนเนี่ย’เขาถามผมคงสงสัยน่าดูเพราะผมไม่ค่อยจะพูดดีๆกับเขานัก
        ‘ขอถามอะไรหน่อยดิ’ผมตอบ
         ‘ว่าแล้วไง’เขาตอบ
          ‘แล้วได้ป่ะล่ะ’ผมถาม
          ‘ก็ต้องตอบว่าได้อยู่แล้วป่ะ’เขาตอบ
          ‘แล้วว่าไง’เขาถาม
          ‘สมมุตินะว่าถ้าเกิดว่ามีคนถามว่าเรารู้ได้ไงว่าเขาชอบอะไรทั้งๆที่ยังรู้จักกันได้ไม่นานเนี่ยเราควรตอบว่ายังไงหรอ’
           ‘ก็ตอบตามตรง’เขาตอบ
           ‘ตอบตรงไม่ได้’ผมตอบ
           ‘ทำไมอะ’เขาถาม
          ‘เออน่ะ’ผมตอบ
          ‘คนที่ชอบหรอ’เขาถาม ผมคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ยกะจะมาถามเขากลับให้เขาถามซะงั้น
            ‘ไม่มีอะไรแล้ว’ผมตอบก่อนที่จะกดออกมาจากแชทของเขาแล้วกดเข้าไปในแชทของดิน

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
         ดิน
        ‘เราเดาเอาอะ’ผมตอบ
         ‘โหออมนี้เดาเก่งเนาะ’ดินตอบ
         ‘อื้มใครๆก็บอก’ผมตอบแบบอายๆเพราะกลัวความจะแตกทั้งที่เขาไม่สามารถจับพิรุจผมได้ด้วยซ้ำ
          ‘ถ้างั้นเรานอนก่อนนะ’ผมบอกเขาเพื่อตัดประเด็นครับไม่อยากโกหกเขาให้มากนักเดี๋ยวไม่เนียน
           ‘งั้นฝันดีนะ’ดินบอก
           ‘อื้อ เหมือนกันนะ’ผมตอบเขาไปแล้วปิดโทรศัพท์ลงด้วยรอยยิ้ม ให้ตายเถอะจากแต่ก่อนที่คิดว่าผมจะได้แค่มองเขาอยู่ไกลๆแต่วันนี้ผมกับเขาได้อยู่ใกล้กันอย่างกับฝันผมล่ะดีใจจริงๆ
           ผมหลับตาลงอย่างแผ่วเบาบนเตียงของผมหลังจากปิดโคมไฟที่หัวเตียงแล้วแต่ก็นอนไม่หลับเพราะผมเอาแต่คิดถึงภาพที่ผมกับดินจูบกันจะให้พลิกซ้ายพลิกขวายังไงก็ไม่หลับอยู่ดีจนผมเผลอหลับไปเอง
            ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่ค่อยสดชื้นเท่าไรนักเพราะเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ ผมจึงรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จและแต่งตัวลงมาข้างล่างแต่สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจแทบหงายหลังเลยครับเพราะว่าเห็นดินนั่งคุยกับแม่อยู่ที่โต๊ะกินข้าว
            “ดินมาทำอะไรอ่ะ”ผมถามเมื่อเดินลงมาถึงโต๊ะกินข้าวแล้ว
             “เรามีเรื่องจะคุยกับออมอะ”ดินตอบ
             “คุยที่โรงเรียนก็ได้ป่ะ”ผมถามพลางเลิกคิ้วเพราะว่าคำตอบของดินไม่ค่อยที่จะสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่
            “ก็มันสำคัญไง”เขาบอก
            “แล้ว...”
             “พอแล้วออมจะไปเซ้าซี้ดินเขาทำไมรีบไปโรงเรียนได้แล้ว”แม่สวนขึ้น
            ผมกับดินจึงไหว้แม่แล้วเดินออกไปข้างนอกเพื่อที่จะไปโรงเรียน
            “ดินมีอะไรกับเราหรอ”ผมถามเมื่อขึ้นมาในรถของเขาแล้ว
            “ไม่มีอะไรหรอก”เขาตอบแต่ไม่มองหน้าผมครับ
          “แล้วดิน....”
             “ช่วงนี้ออมอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวก็ดีนะ”ดินบอกหน้าตาจริงจัง
             “ทำไมอะ”
             “ไปกับพวกไอ้แบล็คไอ้บอมจะดีกว่า”ดินไม่ตอบผมครับ
              “ทำไมจะไปคนเดียวไม่ได้”ผมถามด้วยความสงสัย
              “รับปากเราได้มั้ยล่ะ”ดินถาม
              “ก็บอกเรามาสิว่าทำไม”ผมยังถามด้วยความอยากรู้
              “ออมไม่ต้องรู้หรอกเพียงแค่ออมรับปากเราก็พอนะ”ดินพูดพลางมองหน้าผมด้วยความจริงจัง
               “อื้อ”ผมตอบเขาแบบงงๆ
             “ดีมาก”เขาบอกพร้อมกับยิ้มให้ผมเบาๆ
              เมื่อถึงโรงเรียนเขาจึงพาผมไปหาไอ้พวกเพื่อนของผมพวกมันก็แซวตามเคยนั้นแหละครับผมเลยเล่าทุกอย่างให้มันฟังพวกมันยังบอกเลยว่าดินทำตัวแปลกๆ  หลังจากที่คุยกันอยู่สักพักจึงได้พากันไปเข้าแถวแล้วขึ้นเรียนคาบแรก
              เมื่อผมไปถึงห้องประจำของผม ผมจึงเอากระเป๋าวางแล้วเอามือล้วงเข้าไปหาปากกาที่ใต้โต๊ะแต่ว่ากับพบกระดาษอีกแผ่นนึงแทนผมจึงดึงมันออกมาแล้วคลี่ออกอ่าน
“จะไม่ทนแล้วนะ”
            นี้คือข้อความที่ผมพบครับเป็นข้อความที่เขียนด้วยหมึกซึมสีแดงเหมือนกับที่แนบมากับกล่องของขวัญที่ร้านขนมปังเลยครับ
           “แม่งเป็นใครวะ”ผมสบถขึ้นด้วยความโมโห จึงทำให้คนในห้องหันมามองผม
           “อะไรวะไอ้ออม”บอมถาม
            “มึงดูสิ”ผมยื่นกระดาษให้เพื่อนทั้งสองคนของผมดู
             “อีกแล้วหรอวะ”ไอ้แบล็คถาม
              “นี่ไม่ใช่ครั้งที่สองนะโว้ย”ผมบอก
               “หมายความว่าไงวะ”ไอ้บอมถาม ผมจึงเล่าเรื่องที่มีคนส่งซากไก่มาที่บ้าน ให้มันทั้งสองคนฟัง
              “กูว่าไม่ใช่แกล้งกันแล้วว่ะแม่งโรคจิตชัดๆ”ไอ้บอมพูดขึ้น
               “กูว่าไปแจ้งตำรวจเถอะว่ะ”ไอ้แบล็คบอกผม
               “ไม่เอาว่ะกูไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจด้วย”ผมบอก
               “แต่นี้มันไปถึงหน้าบ้านมึงแล้วนะ”ไอ้แบล็คว่า
               “ถ้ามันยังไม่ทำอะไรกู กูก็ไม่เป็นไรหรอกทำเป็นไม่เห็นไปก็แล้วกัน”ผมบอกเพื่อนสองคนทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะสบายใจนัก
              หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมากมายหรอกครับแต่จะเป็นพวกผมเองต่างหากที่ทำอะไรย้ำคิดย้ำทำมากขึ้นแล้วพวกผมก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กันอีกเลยเอาแต่ทำงานวันภาษาไทยที่ได้รับมอบหมายจนผม ไอ้แบล็ค กับอิมช่วยกันเขียนบทจนเสร็จในวันพฤหัสจึงเอาบทไปให้มิ้น มิ้นก็ดูวุ่นๆเหมือนกันครับเพราะต้องทำงานกับพวกห้องคิงที่ค่อนข้างจะเรื่องมากแต่โชคดีที่มีแอมป์ผอมกับแอมป์อวบคอยช่วยตั้งแต่ เลือกตัวละคร ซ้อมบท ซึ่งผมกับเพื่อนในห้องก็ได้ไปช่วยบ้างบางครั้งแต่ว่าในการแสดงละครครั้งนี้กลับเป็นว่าไม่มีดินเล่นด้วยแต่กลับเป็นวินที่ได้เล่นแทนแถมได้รับบทเป็นชายใหญ่อีกต่างหากผมล่ะขำตอนที่เขาเล่นเพราะพวกผมเขียนบทให้มันคอมเมดี้หน่อยๆ
               ละครซ้อมกันอยู่ค่อนข้างนานครับเพราะบางครั้งก็คนขาดบ้างแต่โชคดีที่มีไอ้แบล็คคอยต่อบทช่วยจนมันจำบทได้จะแทบทุกตัวอยู่แล้วครับ ไอ้บอมก็ยุ่งใช่ย่อยเหมือนกันครับเพราะว่าต้องไปเช่าชุดเยอะแยะแถมต้องถือเงินอีกแต่มันก็ดูสนุกดีสรุปคือวุ่นกันทุกคนนั้นแหละครับแม้แต่พวกทำฉากก็ด้วยจนต้องได้นัดกันมาทำเสาร์-อาทิตย์รวมทั้งพวกที่เล่นนละครก็ด้วยผมก็มาช่วยครับเพราะว่าเพื่อนมาเยอะแถมไม่ได้เรียนคงจะสนุกดี
          “ออม”เฟย์เพื่อนห้องของผมเรียกขึ้นหลังจากที่หอบเสื้อผ้าไปเก็บไว้ในห้องแต่งตัว
           “ฮื้มว่าไง”ผมถามเฟย์
           “ว่างป่ะ”
          “อื้มว่างดิ”
          “งั้นช่วยไปเอาน้ำให้พวกทำฉากหน่อยได้ป่ะ”เฟย์มองผมด้วยสายตาที่อ้อนวอนก็คงจะเนื่อยแหละครับเห็นเดินไปเดินมาหลายรอบแล้ว
         “ได้สิว่าแต่อยู่ไหนหรอ”
          “ถังน้ำแข็งตรงอาคารห้าอะ”เฟย์ตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “ขอบใจนะ”เฟย์บอกแล้วเดินออกไป
           ผมเดินไปเรื่อยๆครับจนผมเดินถึงอาคารห้าจึงได้เดินเข้าไปที่ถังน้ำแข็งแล้วเปิดขึ้นแล้วจึงหยิบเอาน้ำที่แช่ไว้ออกมาสองแพ็คก่อนที่จะเดินไปถึงใต้บันไดของอาคารห้า
           ซ่า
          เสียงของน้ำพร้อมกับแก้วพลาสติกหล่นลงมาบนหัวผมเต็มๆจึงทำให้ตัวของผมเปียกไปหมดพอผมมองขึ้นไปดูก็ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ข้างบน ผมไม่ได้สนใจจึงเดินต่อไปแล้วเอาน้ำไปให้เพื่อนๆที่โรงยิม
          “ออมมึงไปทำอะไรมาวะทำไมตัวเปียกแบบนี้”ไอ้บอมถามหลังจากที่เดินมาเอาน้ำจากผม
          “ไม่รู้ว่ะอยู่ดีๆแม่งน้ำมันก็ตกลงมาใส่กูได้ไงก็ไม่รู้สงสัยคงจะเป็นพวกเด็กที่กินน้ำแล้วไม่เอาไปทิ้งเอาวางไว้ราวบันไดอ่ะ..มันคงจะตกลงมา”ผมตอบอย่างที่คิด
           “พวกนี้แม่งเลวจริงๆกินแล้วยังจะให้เป็นภาระคนอื่นอีก”ไอ้บอมบ่นโกรธๆก่อนที่จะไปเอาผ้าขนหนูผืนเล็กในกระเป๋ามันมาให้มันพกไว้เผื่อว่ามันออกกกำลังกายตอนเย็นน่ะครับเพราะมันขี้เกียจกลับบ้าน
           ผมหยิบเอาผ้าขนหนูมาแล้วเช็ดผมเบาๆก่อนที่จะไปทาสีฉากช่วยเพื่อนคนอื่นๆสรุปคือวันนี้สนุกอย่างที่คิดไว้จริงๆแหละครับ
             ในช่วงเสาร์-อาทิตย์พวกผมไม่ได้หยุดเลยเพราะมาเตรียมงานรวมทั้งจันทร์ถึงพฤหัสต่อมาเพื่อนก็ซ้อมละครหลังเลิกเรียนกันทุกวันซึ่งผมก็ไปดูบ้างแต่ไอ้แบล็คแม่งก็ไม่ยอมให้ผมไปดูได้นานเพราะว่าละครมีวินเป็นพระเอกแถมมีพริ้งเป็นนางเอกอีกมันจึงแอนตี้ละครเรื่องนี้เป็นพิเศษทั้งๆที่มันก็เป็นทีมเขียนบทแท้ๆ บ่นไปว่าพระเอกเล่นแข็งบ้าง นางเอกเล่นเกินเบอร์บ้างผมล่ะเหนื่อยใจกับมันจริงๆ แต่ที่เหนื่อยใจจริงๆคือผมไม่ค่อยได้เจอดินเลยตั้งแต่วันที่เขาไปรับผมที่บ้านวันนั้นพอเห็นเขาทีไรก็เหมือนจะหนีผมหลบหน้าผมตลอด
                 จนมาถึงวันศุกร์ครับเป็นวันที่โรงเรียนของผมจัดงานวันภาษาไทยวันนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษครับเพราะว่าไม่ได้เรียนแล้วก็มีกิจกรรมมากมายตั้งแต่เช้าจนถึงเลิกเรียนเลย
              “วันนี้น่าสนุกเนาะ”ผมพูดขึ้นขณะนั่งอยู่ที่โรงยิมสองคนเพราะไอ้บอมไปดูชุดให้คนที่แสดงละครเผื่อว่ามีของอะไรไม่ครบจะได้โทรถามร้านให้
              “ก็ต้องสนุกสิวะคนข้างนอกเขาแต่งตัวจัดเต็มกันจะตายกูจะไปดูเขาโต้วาทีค่อยไปดูนางรำกัน ไปด้วยป่ะ”
              “เออก็ดีนะน่าสนุกดีว่ะ”ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
             “งั้นไปกัน”ไอ้แบล็คบอกก่อนที่จะลุกขึ้นยืนผมจึงยืนตามแล้วเดินออกไปจากโรงยิมด้วยกันแต่
              “แบล็คคคคคคคคคคคคคคคคค”เสียงของผู้หญิงคนนึงดังมาตั้งแต่ไกลๆแต่ดังมากครับจนทำให้ผมกับไอ้แบล็คต้องหันกลับไปมอง เธอคือแอมป์อวบนั้นเองดูจากท่าวิ่งน่าสงสารมากครับเพราะว่าเธอค่อนข้างตัวใหญ่ “แบล็ค..รอ..ก่อน..แฮ่กๆๆๆๆ”เห็นเธอหอบหายใจยิ่งน่าสงสารเข้าไปใหญ่
               “ใจเย็นๆ เป็นอะไร”ไอ้แบล็คถาม
                “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”แอมป์อวบบอก
                 “อะไรล่ะบอกมาสิ”ไอ้แบล็คถาม
              “ไปหามิ้นก่อนเหอะ”แอมป์อวบบอกแล้วจึงวิ่งนำหน้าออกไปพวกผมจึงวิ่งตามไปแบบงงๆ
           เมื่อถึงห้องก็เห็นทุกคนในห้องทำหน้าเครียดกันอยู่ทั้งๆที่แต่งตัวยังไม่เสร็จด้วยซ้ำบางคนก็เหมือนกับว่าทาคิ้วได้ข้างเดียวแล้วหยุดไปเฉยๆ
           “เกิดอะไรขึ้นอะมิ้น”ผมถามมิ้นเมื่อเดินมาถึงห้อง
           “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”มิ้นบอก
           “แล้วอะไรล่ะ”ไอ้แบล็คถามด้วยความอยากรู้
           “ก็พริ้งน่ะสิไม่มาโรงเรียน”มิ้นบอก
           “ไม่มีความรับผิดชอบที่สุดเลย”ไอ้แบล็คบ่น “โทรหายัง”
          “โทรแล้ว”มิ้นบอกเสียงอ่อย
          “โทรแล้วยังไม่ยอมมาอีกเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วเดี๋ยวเราไปตามให้เอง”ไอ้แบล็คบอก
          “ไม่มีประโยชน์หรอกแบล็ค”มิ้นบอก
          “ทำไมล่ะเราจะยอมไม่ได้นะ”ไอ้แบล็คเริ่มโวยครับ
          “ตอนนี้พริ้งอยู่ญี่ปุ่น”มิ้นบอกพร้อมกับเอาโทรศัพท์มาให้ดูเป็นภาพที่พริ้งถ่ายอยู่ที่สนามบินพร้อมกันแคปชั่น ‘สู้ต่อไปนะจ๊ะทุกคน’
         “เฮ้ยแล้วเราจะทำไงดีล่ะ”ผมถามออกมาด้วยความตกใจ
           “คนแบบนี้มันน่าฆ่าทิ้งนักเห็นแก่ตัว”ไอ้แบล็คบ่น
           “ถึงได้เรียกแบล็คมานี่ไง”มิ้นบอก

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
           “เราจะช่วยอะไรได้ล่ะ”ไอ้แบล็คถาม
          “ได้สิก็แบล็คเป็นคนเดียวที่จำบทได้...”มิ้นบอกพร้อมกับมองมาที่แบล็ค
           “อย่าบอกนะว่า....”ไอ้แบล็คพูดขึ้นตาโต มิ้นพยักหน้าให้ด้วยสายตาอ้อนวอน “โนนนนนนน”ไอ้แบล็คปฏิเสธเสียงแข็งทำให้ทุกคนในห้องมองมาที่มันด้วยสายตาที่ขอความกรุณา “จะให้เล่นเป็นผู้หญิงแถมยังต้องเล่นคู่กับไอ้นี้เนี่ยนะ”ไอ้แบล็คพูดพลางชี้ไปทางวินอย่างเหยียดหยาม
            “กับกูแล้วมันทำไม”วินถามอย่างหาเรื่อง
            “ก็ไม่ทำไมอะ”ไอ้แบล็คตอบกลับ
             “กูว่ามึงไม่ได้กลัวที่จะได้เล่นกับกูหรอกที่จริงมึงกลัวว่าความสามารถมึงไม่ถึงใช่มั้ยล่ะกลัวอายว่างั้นเหอะ”วินพูดออกมาอย่างเหยียดหยาม
             “ว่าไงนะ”ไอ้แบล็คจ้องเขม็ง
            “กูว่าแล้วคนอย่างมึงมันเก่งแต่ปาก ความสามารถแม่งไม่ม......”
            “กูจะเล่น!!!” ไอ้แบล็คพูดสวนขึ้น “แล้วมาดูว่าใครแม่งตัวห่วย”นี้แหละครับไอ้แบล็คฆ่าได้หยามไม่ได้จริงๆ
              “เย้!!!!”เสียงของคนในห้องดังขึ้นด้วยความดีใจแล้วจึงพากันไปแต่งตัวต่อ
             “ขอบใจนะแบล็ค”มิ้นบอกราวกับน้ำตาจะไหล
             “แบล็คมาทางนี้จ้ะ จะแต่งตัวแต่งหน้าให้”แดนหรือแดนดี้เพื่อนตุ๊ดจากห้องสี่เรียกไอ้แบล็คไปแต่งตัวผมไปยืนดูมันอยู่สักพักครับเลยออกมานั่งรอจนเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า
               “ออม”เสียงของคนเรียกผม ผมจึงหันไปมอง มองอยู่นานครับจึงรู้ว่าเป็นไอ้แบล็คเพราะมันน่ารักมากตาโตแถมผมเปียอีกผมดูมันนี้จำแทบไม่ได้ก็ต้องยอมรับฝีมือการแต่งหน้าของแดนดี้ด้วยครับเก่งจริงๆ
               “เฮ้ย ไอ้แบล็คแม่งจำไม่ได้เลยว่ะน่ารักมากเลยมึง”ผมบอกเสียงดังทำให้คนหันมามองมันด้วย
               “น่ารักพ่อมึงสิ”ไอ้แบล็คบอกหน้างอ
               “น่ารักจริงๆนะ”มิ้นบอก
               “จริงๆ”เสียงคนบอกมันหลายคนทำให้มันหน้างอลงเรื่อยๆครับ
                “ถ้าพวกมึงยังไม่หยุดบอกว่ากูน่ารักนะกูจะไม่เล่นแล้ว”ไอ้แบล็คขู่แล้วทำตาเขียวไปทางไอ้บอมที่กำลังจับกล้องขึ้นมา “ห้ามถ่ายด้วย”ไอ้แบล็คบอกเสียงแข็งแล้วมานั่งหน้างออยู่ข้างผม
                  ในที่สุดก็ถึงคิวของกลุ่มพันธมิตรของพวกผมต้องขึ้นไปแสดงครับผมจึงไปนั่งดูอยู่หน้าเวที แล้วก็มีใครคนนึงเดินมานั่งข้างผมคนคนนั้นคือดินนั้นเอง
                  “ไง”เขาทักขึ้น
                   “ก็ไม่ไงอะ”ผมตอบเขาเสียงห้วนๆ
                “ออมเป็นอะไรอะ”
                  “เปล่า”ผมตอบหน้าตึงผมรู้สึกงอนๆนิดหน่อยครับที่เขาหลบหน้าผมทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์
                  “ไม่ค่อยได้เจอกันเลยเนาะ”เขาบอก
                 “แล้วหายไปไหนมาอะ”ผมถามพลางมองหน้าเขา
                  “จะไม่หายแล้ว”เขาบอก “คิดถึงอะดิ”
                  “ไม่สักหน่อย”ผมตอบพลางหันหน้าหนีเขาครับ
                  “หรอ เสียใจอะ”เขาบอกหยอดๆ
                  “แล้วหลบหน้าเราทำไม”ผมถามพลางมองหน้าเขาอย่างจริงจัง

“นี้คือสถานแห่งบ้านทรายทอง”
             เสียงเพลงประกอบการแสดงดังขึ้น
          “ดูนั้นสิ”ดินไม่ยอมตอบผมครับ
             “ดินตอบเราก่อนสิ”ผมบอก
             “ดูก่อนหน่า”ดินบอกผมพร้อมกับจับหน้าผมหันไปเบาๆก็เห็นกับภาพของไอ้แบล็คผมเปียถือฉลอมออกมาครับมันไม่ได้ทำหน้าบูดเหมือนตอนอยู่ข้างในแล้วแต่กลับกลายเป็นว่ายิ้มแย้มแจ่มใสแทนแอคติ้งมาเต็มครับ
                “นั่นใครอะออม”ดินถาม
                  “ไอ้แบล็ค”ผมตอบเขาเสียงห้วนๆ
                   “ยังไม่หายโกรธอีกหรอ”ดินถาม ผมถึงกับหัวใจเต้นแรงครับไม่คิดว่าผมจะสำคัญจนเขาต้องมาแคร์ขนาดนี้ “ถ้างั้นมานี้”ดินพูดพลางจับมือผมแล้วพาวิ่งออกไปทำให้คนมองมาที่เราสองคนครับ
                     “จะไปไหนอะ”ผมถาม
                      “น่ารับรองว่าสนุก”ดินบอกก่อนที่จะพาผมมาถึงประตูหลังโรงเรียนแล้วพาผมค่อยๆย่องผ่านป้อมยามที่มีลุงยามนอนหลับอยู่ “เป็นไงสนุกป่ะ”
                     “ถ้าโดนจับได้จะเป็นไงเนี้ย”ผมพูดยิ้มๆ
                     “น่าวันเดียวเองอีกอย่างวันนี้ไม่มีเรียนสักหน่อย”ดินบอกก่อนที่จะเดินนำหน้าผมไปโบกแท็กซี่ แล้วบอกให้ไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
                   “ออมหิวป่ะ”ดินถามเมื่อเข้ามาในห้างแล้ว
                    “อื้ม”ผมตอบ
                  “แล้วกินอะไรกันดีอะ”ดินถาม
                  “อะไรก็ได้แล้วแต่ดินเลย”ผมบอกเพราะไม่ค่อยเลือกอยู่แล้วขอให้อร่อยจะอะไรกินได้หมดแหละ
                  “งั้นร้านอาหารญี่ปุ่นกัน”ดินบอกก่อนที่จะจูงแขนผมเดินไปในร้าน “เอาอะไรดี”ดินถาม
                  “โอเคถ้างั้นเราเอา เทมปุระเห็ด ยำสาหร่าย ซุปสาหร่าย แล้วก็ไข่ม้วน”ผมบอกดินจึงเรียกพนักงานแล้วสั่งของเพิ่มเติมอีสามรายการครับเมื่อได้อาหารมาแล้วบอกได้เลยครับว่ารสชาติดีจริงผมกินจนเกือบหมดทุกจานก็แหมเมื่อเช้าไม่ได้กินข้าวหนิ
                  “ไม่เป็นไรเราจ่ายเอง”ดินบอกในขณะที่ผมกำลังจะควักตังค์มาจ่ายพนักงานหลังจากที่บอกราคาอาหารทั้งหมดแล้ว
                  “เห้ยได้ไงอะ”ผมถาม
                   “คิดซะว่าเราเลี้ยงไถ่โทษแล้วกัน”ดินบอกผมก็เลยถือว่าให้เขาได้ชดใช้บ้างก็ดีหลังจากออกมาจากร้านดินก็พาผมไปซื้อตั๋วหนังครับแต่ว่าเป็นหนังผีผมก็อยากจะบอกเขาอยู่นะครับว่าผมกลัวแต่จะได้ดูหนังด้วยกันสักทีผมเลยไม่ห้ามแล้วอีกอย่างมันก็เหลืออยู่เรื่องเดียวที่เวลาใกล้ที่สุด หลังจากนั้นเขาก็พาผมไปกินไอ้ติมร้านข้างโรงหนังเพื่อรอเวลาผมก็ไม่ขัดศรัทธาเขาหรอกครับเพราะผมถือคติที่ว่า กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ ก็เลยกินเข้าไปเยอะเลย
                      “ทำไมกินมอมแมมจังเลยอะ”ดินบอกพร้อมกับเอื้อมมือมาเช็ดที่ริมฝีปากของผมโดยที่ไม่รอให้ผมเช็ดเองด้วยซ้ำซึ่งนั้นทำให้ผมถึงกับหน้าร้อนครับคิดว่าจะมีแต่ในหนัง
                       “ขอบใจนะ”ผมบอกเขายิ้มๆให้ตายเถอะทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนี้มันเหมือนเดทกันชัดๆ
                        “เต็มใจ”ดินบอก
               ดึ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
               เสียงไลน์ผมดังขึ้นรัวๆเลยครับผมเลยต้องหยิบขึ้นมาเปิดดูก็เห็นว่ามีทั้งไลน์ของไอ้บอมแล้วก็ไลน์กลุ่มเลยครับที่ส่งรูปมาให้ผมพร้อมกับถกเถียงกันเรื่องรูปที่ส่งมาและรูปที่ส่งมานั้นก็ทำให้ผมถึงกับอึ้งครับเพราะว่าเป็นภาพของไอ้แบล็คกับวินจูบกันอยู่บนเวทีครับๆ
             ‘มึงว่าจูบจริงป่ะวะ’ไอ้บอมถาม
            ‘กูว่าจูบจริงว่ะ’มิ้นตอบ
             ‘กูว่ามุมกล้อง’ปริมบอก
             ฯลฯ
               นี้เป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับภาพของไอ้แบล็ครับ
                  “เชี่ย”ผมอุทานขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพเพราะในบทละครที่ผมเขียนมันไม่มีฉากจูบ
                 “อะไรออม”ดินถาม
                  “ดูนี้ดิ”ผมบอกพลางยื่นภาพให้ดินดู
                   “เฮ้ย”ดินอุทานออกมาครับ
                    “ตกใจใช่มั้ยล่ะ”ผมถาม
                     “ที่จริงเราไม่ได้ตกใจที่มันจูบกันหรอกนะแต่ตกใจที่มันทำต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้ต่างหากไม่อายฟ้าอายดินบ้างเลย”ดินบอกพลางส่ายหัว
                      “ทำไมอะ”ผมถามด้วยความสงสัย
                      “ก็บอกแล้วไงว่าสักวันสองคนนี้ต้องชอบกัน”ดินบอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจก่อนที่จะกินไอติมต่อแล้วไปดูหนัง
                       หนังที่ว่าก็เป็นหนังผีอะครับผมเข้าไปดูนี้ก็หลับตาปี๋เลยบางครั้งตกใจผมก็มีแอบไปกอดดินเขาด้วยผมนี้โคตรอายเลย หลังจากดูหนังเสร็จออกมาเขาก็พาผมไปเล่นเกมส์แล้วก็กินชานมไข่มุกคือวันนี้มันชั่งแสนสุขใจจริงๆได้อยู่กับดินทั้งวันอย่างกับเดทกันแหน่ะถึงเขาไม่นับผมก็จะขอนับแล้วกันนะครับว่านี้คือเดทแรกของผม
             “เป็นไงหายโกรธยัง”ดินถาม
             “อื้ม”ผมตอบพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่เคยโกรธเขามาก่อน “ความจริงเราก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกไม่เคยเล้ยยยยย”
              “หรอออออออออ”เขาถามผมเสียงยาวพร้อมกับยิ้ม “งั้นกลับกัน”เขาบอก
               “เออดินไปส่งเราที่โรงเรียนนะพอดีเราต้องไปเอากระเป๋าอะ”ผมบอก
              “ได้”เขาบอกก่อนจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่โรงเรียน
              “ขอบใจนะ”ผมบอกเขาเมื่อลงจากรถหน้าโรเรียนเขาไม่ตอบครับแต่เดินมากับผมแทน “ไม่กลับหรอ”ผมถาม
              “จะไปเอากระเป๋าไม่ใช่หรอ”ดินถาม
              “ใช่”
              “ก็จะไปเป็นเพื่อนไง”
             “จะไปทำไมเราไปเองได้”ผมบอก
             “ก็อยากไปด้วยอะมันอันตรายรู้มั้ยไปไหนมาไหนคนเดียวเนี่ย”เขาบอกผมดุๆผมจึงยอมให้เขาไปด้วยพอขึ้นไปเอากระเป๋าเสร็จแล้วเขาก็ยังไม่ยอมจะไปส่งผม ผมจึงให้เขาไปส่งแค่หน้าปากซอยเพราะไม่อยากให้เขากลับดึก
              “กลับได้นะ”ดินถาม
             “ได้”ผมตอบเสียงหนักแน่น
               “ให้เราไปส่งเถอะ”ดินบอก
               “ไม่เป็นไรกลับได้แล้ว มานี้”ผมจับมือเขามาก่อนที่จะเรียกแท็กซี่แล้วให้เขาขึ้นไปนั่งแล้วมองรถแท็กซี่วิ่งออกไปผมจึงหันหลังเดินเข้าไปในซอย ระหว่างทางผมเห็นคนๆนึงครับยืนอยู่ด้านหน้าของผมห่างไปสักร้อยเมตรได้ซึ่งผมก็ดูไม่ออกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะเขาใส่เสื้อแขนยาวมีฮู้ดเขาหันหน้ามาทางผมครับแต่ว่าไม่ขยับเขยื่อนตัวเลย
               “นั่นใครครับ”ผมตะโกนถามด้วยความกลัว “ได้ยินผมมั้ย”ผมกะโกนถามอีกครั้งในตอนนี้เขาค่อยๆเดินครับเดินตรงมาหาผมแล้วก็เปลี่ยนเป็นวิ่ง ด้วยความตกใจผมก็เลยวิ่งด้วยครับจากที่จะกลับบ้านกับวิ่งออกมาทางหน้าปากซอยแทนผมวิ่งเร็วขึ้นๆแต่เขาก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนผม
                พลั้ก!!!
 


ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่ 9 สอบกลางภาค
               “นั่นใครครับ”ผมตะโกนถามด้วยความกลัว “ได้ยินผมมั้ย”ผมตะโกนถามอีกครั้งในตอนนี้เขาค่อยๆเดินตรงมาหาผมแล้วก็เปลี่ยนเป็นวิ่ง ด้วยความตกใจผมก็เลยวิ่ง จากที่จะกลับบ้านกับวิ่งออกมาทางหน้าปากซอยแทน ผมวิ่งเร็วขึ้นๆแต่เขาก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆส่วนผมก็หันไปมองเขาที่กำลังใกล้เข้ามาพร้อมกับวิ่งไปด้วยจนผม
                พลั้ก!!!
           ผมวิ่งชนเข้ากับใครคนหนึ่งข้างหน้าผมด้วยความตกใจผมจึงชกเข้าที่หน้าเขาแล้วเตะเข้าที่หน้าแข้งของเขาทันทีแล้วก้มหน้าตั้งกาดรอรับเพราะไม่กล้ามองหน้าของเขา
             “โอ้ย!!...ออม!นี้เราเอง”ผมได้ยินคำพูดของเขาผมจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นว่าเขาคือดินผมดีใจมากครับตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนกับว่าน้ำตาจะไหลยังไงไม่รู้ดีใจมากที่ได้เจอเขาในตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าจะไม่มีอะไรมาทำร้ายผมได้แล้วถ้าอยู่กับเขา
                “ดินช่วยด้วย มีคนวิ่งตามเรามา”ผมบอกเขาโดยที่ยังไม่ทันได้หันหลังกลับไปมอง
                “ไหนไม่เห็นมีเลย”ดินบอกทำให้ผมหันกลับไปมองปรากฎว่าไม่มีใครจริงๆครับบนถนนโล่งไปหมดไม่มีใครสักคนจนทำให้ผมถึงกับขนลุก เพราะว่าเมื่อกี้นี้มีคนวิ่งตามผมมาติดๆแท้ๆ “ทำไมมีอะไรหรอออมใครตามออมมาหรอ???”ดินถามขึ้น
           “คือเรา...ไม่แน่ใจอ่ะ”ตอบไปทั้งที่รู้สึกกลัวในใจว่าถ้าหากมันไม่ใช่คนล่ะมันจะตามผมไปหรือเปล่าผมจะกลับบ้านคนเดียวได้อีกมั้ยแล้วถ้าหากว่ามันเป็นคนเขาจะมาดักอยู่ตรงนี้อีกหรือเปล่าจะทำร้ายใครหรือเปล่า
               “แล้วออมเจออะไร ใครจะทำอะไรออม”ดินถามสีหน้าเป็นห่วง
               “เรา..คือเรา...เราไม่รู้อ่ะดิน”ผมตอบเสียงสั่นหน่อยๆเพราะคิดถึงตอนนั้นแล้วมันน่ากลัวจริงๆ
                “ไม่เป็นไรแล้วนะ”ดินมองผมก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอด “ไม่ต้องกลัวแล้วนะเราอยู่นี้แล้ว”เขาบอกแล้วลูบหลังเบาๆมันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆครับเหมือนกับว่าความกลัวของผมเมื่อกี้นี้ได้หายไปแล้วเหลือแต่ความอบอุ่นจากเขาเข้ามาแทน “งั้นกลับบ้านกันเดี๋ยวเราไปส่ง”ดินบอกก่อนที่จะค่อยๆผละออกจากผม
                  “อืม..”ผมตอบก่อนที่จะเดินตามเขาไปและไม่นานก็ถึงบ้าน ผมมองจากหน้าบ้านเข้ามาก็รู้เลยว่าไม่มีคนอยู่เพราะไฟปิดหมดทั้งบ้านเลยจะเปิดไว้ก็แค่ไฟหน้าบ้านเท่านั้น
                 “อ้าว!!ทำไมมืดอย่างงี้ล่ะไม่มีคนอยู่บ้านหรอ”ดินถามขึ้น
                 “คงจะใช่อ่ะ”ผมตอบเสียงหงอยเพราะผมไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวปกติก็อยู่ได้แหละ แต่ว่าวันนี้มันเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีกกลัวว่าเขาจะตามกลับมา เข้าใจเวลาคนมันหลอนมั้ยครับ
                   “ถ้างั้นเดี๋ยวเราอยู่เป็นเพื่อนเอง”ดินบอกออกมาเสียงค่อนข้างจะหนักแน่นครับซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีเอามากๆ
       “แล้วดาวล่ะ”ผมถามเพราะกลัวว่าดาวจะอยู่บ้านคนเดียว
        “พอดีดาวไปฉลองกับเพื่อนน่ะที่ทำละครเสร็จ”ดินตอบ
        “หรอ”ผมตอบเสียงดีใจพร้อมกับยิ้มให้ดิน “ถ้างั้นเข้าบ้านกัน”ผมบอกดินก่อนที่จะเปิดประตูรั้วแล้วเดินเข้าไปในบ้านพอเปิดประตูบ้านก็เห็นเจ้าโด้นอนอยู่ที่พรมเช็ดเท้า ผมจึงเขย่าตัวมันก่อนที่มันจะตื่นขึ้นแล้วกระโดดเข้ามาเลียหน้าผม ผมจึงวางมันลง แล้ววางกระเป๋าลงที่โซฟาก่อนที่จะเดินไปที่ตู้เย็นในครัวก็เห็นข้อความที่แม่เขียนติดไว้
‘แม่ไปต่างจังหวัดกับพ่อนะจ๊ะจะกลับพรุ่งนี้ตอนเย็น อาหารอยู่ในตู้เย็นนะเอาออกมาอุ่นกินส่วนไก่แม่หมักไว้ในตู้เย็นเอาออกมาทอดกินได้’
          ผมเห็นข้อความของแม่ทำให้ผมถึงกับหน้างอเลยครับเพราะว่าคืนนี้ทั้งคืนพ่อกับแม่คงไม่กลับ ผมเองก็เกรงใจดินด้วย
         “ดิน”
         “ฮึ้ม”ดินตอบทั้งที่ยังเล่นกับเจ้าโด้อยู่
          “ถ้าดินอยากจะกลับก็ได้นะเพราะว่าวันนี้พ่อกับแม่เราคงไม่กลับอ่ะ”ผมบอก
           “ไม่เป็นไรก็บอกแล้วไงว่าจะอยู่เป็นเพื่อน”ดินบอกพร้อมกับยิ้มให้ผมทำให้ผมยิ่งปลื้มเขาเข้าไปใหญ่ก็คนอะไรน่ารักได้ขนาดนี้
             “แล้วจะกินอะไรป่ะ”ผมถามไปงั้นแหละครับเพราะว่าที่จริงผมก็อิ่มตั้งแต่อยู่ห้างกับเขาแล้ว
         “ไม่เป็นไรอ่ะเราอิ่มแล้ว”ดินตอบ
        “แล้วอยากอาบน้ำป่ะจะไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้”ผมถาม
        “เราไม่มีชุดเปลี่ยนอะ”ดินบอก
        “ถ้างั้นรอเดี๋ยว”ผมบอกดินก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนห้องแล้วหยิบเอาผ้าเช็ดตัวที่พึ่งซักกับชุดนอนของผมลงมาให้เขา “เอ้านี้”ผมบอกพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนให้เขา
         “อะไรอ่ะ”ดินถามด้วยสีหน้าสงสัย
         “ก็ชุดนอนไง”ผมตอบ
         “ไปเอามาจากไหน”ดินถาม
         “ของเราเองใส่ได้เรายังไม่ได้ใส่เลย”ผมตอบตามความจริงเพราะว่าชุดนี้ผมไม่เคยใส่เลยเพราะอะไรน่ะหรอครับ...
           “แล้วเราจะใส่ได้หรอ”ดินถามพลางมองที่ชุดด้วยสายตาที่ลังเล
           “อาจจะคับนิดหน่อยนะแต่ก็น่าจะใส่ได้อยู่”ผมตอบพลางยื่นให้เขาก่อนที่เขาจะรับเอาไปแล้วไม่พูดอะไร
            “ขอบใจนะ”เขาบอกก่อนที่จะมองที่ชุดด้วยสายตาที่หนักใจอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำผมก็ได้แต่นั่งเล่นแล้วเตรียมชุดอาบน้ำรอครับจนเขาออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดสีชมพูลายคิตตี้น่ารักสดใสที่ไอ้แบล็คมันเคยซื้อมาแกล้งผมเป็นของขวัญวันเกิดซึ่งทำให้ผมงอนมันไปหลายวันเลยครับจนมันต้องซื้อของมาทดแทนให้ผม แต่ว่าพอมาอยู่บนตัวดินแล้วแม่งโคตรตลกเลยครับเพราะเขาทั้งตัวใหญ่ทั้งสูงจึงทำให้ชุดที่ใส่อยู่มันเลยหน้าแข่งกับข้อแขนไปเยอะเลย ฟิลเหมือนพี่ชายที่เป็นตุ๊ดแล้วแอบใส่ชุดนอนของน้องสาวเลยครับ ผมเห็นนี้กลั้นหัวเราะแทบไม่ทันแต่ก็ยังเก๊กหน้าไว้ได้ครับ
        “เป็นไงบ้าง”ดินถามอายๆ
       “อื้ม...ก็เข้าดีนะน่ารักออก”ผมพูดพลางกลั้นหัวเราะ
       “เฮ้ยหัวเราะทำไมอะ”ดินพูดเสียงเคืองๆ
      “ปล่าว..พื้ด...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”ผมกลั้นไม่ไหวแล้วครับมันตลกเกินที่ผมจะทนได้ให้ตายเถอะไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นเขาในสภาพนี้ “โทษทีไม่ไหวจริงๆขอถ่ายรูปไว้ดูหน่อยนะฮ่าๆๆๆๆๆ”ผมพูดพลางเปิดกล้องถ่ายเขา
        “โหย...ไหงงี้อ่ะคนอุตส่าต์มาอยู่เป็นเพื่อนแกล้งกันแบบนี้ได้ไงเอามานี้เลย”ดินวิ่งมาแย้งกล้องจากผมครับ “เอามานี้”
        “ไม่ให้ แบร่...”ผมพูดพลางแลบลิ้นยืนชูแขนอยู่บนโซฟาไม่ให้เขาจับได้
         “จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ยได้...”ดินพูดก่อนที่จะขัดขาผมจนผมล้มลงบนโซฟาแต่ว่าผมก็ยังสู้เต็มที่ครับยื่นมืออกไปสุดแขนเท่าที่จะหนีเขาได้ ดินก็ยังคว้าตามไม่หยุดจนเขาขึ้นมาคร่อมผมแล้วจับแขนผมทั้งสองข้างตรึงไว้กับโซฟา “ยอมหรือยัง”ดินถามผมทั้งที่ยังดิ้นสู้อยู่
           “ปล่อยนะ”ผมพูดพร้อมกับดิ้นไปมาจนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างผมจึงหยุดดิ้นแล้วมองไปที่หน้าของดินที่กำลังจ้องผมอยู่เหมือนกัน
         “จะลบมั้ย”ดินถามเสียงเรียบ
         “ไม่”ผมตอบเสียงแข็ง
          “แน่ใจหรอ”ดินถามพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์
          “อื้อ”ผมตอบพลางทำหน้าเหนือกว่าทั้งๆที่เป็นรองเขาทุกอย่างในตอนนี้
           “ถ้างั้นเราก็คงต้อง....”ดินพูดพลางมองหน้าผมแปลกๆ
          “ต้องอะไร”ผมเขาถามเสียงหวั่นๆ
          “ออมอยากรู้ใช้มั้ยว่าเราสองคนน่ะ...เคยจูบกันหรือเปล่า”ดินมองผมหน้าหื่นๆ “งั้นเรามาลองดูกันดีกว่าว่ามันจะเหมือนที่ออมคิดหรือเปล่าเผื่อว่าออมจะได้คำตอบว่ามันจริงมั้ย”ดินพูดทำให้ผมถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่เลยครับ ก่อนที่เขาจะค่อยๆยื่นหน้าใกล้เขามาๆ ใกล้เข้ามา.... ส่วนผมก็หลับตาปี๋เลยครับ
             “ยอมแล้วๆ ยอมแล้วก็ได้”ผมตอบทั้งที่หลับตาปี๋ด้วยน้ำเสียงที่จนตรอกอย่างที่สุด และยังสัมผัสได้ถึงลมหายใจของดินที่อยู่บนแก้มผมอยู่เลย ก่อนที่เขาจะค่อยๆเอาหน้าออกไปผมจึงลืมตามองเขาที่กำลังแบมือขอโทรศัพท์จากผมอยู่ “ก็ลุกออกไปก่อนสิ”ผมบอกเขาอายๆ
              “ทำไม กลัวเราหรอ”ดินพูดพลางเอาหน้าเข้ามาใกล้ “รู้นะว่า....” เขากระซิบข้างหูของผมเบาๆทำให้ผมถึงกับขนลุกไปทั้งตัว
              “อะไร”ผมถามเสียงแผ่ว
             “ออมอยากให้เราอยู่ด้วยใช่มั้ยล่ะชอบเราอ่ะดิ”ดินกระซิบเสียงแผ่วยิ่งทำให้ผมขนลุกเข้าไปใหญ่
             “บ้ะ..บ้า หลงตัวเอง”ผมพูดเลิ่กลั่ก
             “ว่าไงนะพูดอีกทีซิ”ดินบอก
             “บอกว่า หลงตัวเอง”
            “หรอออ หลงตัวเองหรอ คนอื่นที่หลงเราก็มีตั้งเยอะ”ดินพูดก่อนที่จะดึงโทรศัพท์มือถือออกจากมือผม แล้วเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมมากเข้าไปอีก “จริงป่ะ” เขาถามยิ่งทำให้สั่นเข้าไปใหญ่ดินนะดินคนบ้าอะไรยิ่งรู้จักยิ่งกวนหรือว่าเขาจะรู้ว่าผมชอบเขาแล้วคิดได้ดังนั้นผมจึง
         ผลั๊ก!!
        ผมผลักเขาออกไปติดอยู่กับโซฟาฝั่งตรงข้ามแล้วจึงรีบวิ่งตรงเข้าไปในห้องน้ำทันทีให้ตายเถอะเขาทำให้ผมใจเต้นได้ตลอดเลยแล้วพักนี้ยังถึงเนื้อถึงตัวผมบ่อยด้วยก็อาจจะไม่แปลกหรอกมั้งที่เขาจะรู้ว่าผมชอบเขา
20%
     

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
       ผมจึงรีบอาบน้ำก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้แต่ก็อดที่จะคิดถึงเขาไม่ได้จนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมจึงเอาผ้าเช็ดตัวไปตากแล้วเดินเช็ดผมเข้ามาหาดินที่นั่งเกาพุงเจ้าโด้ที่หลับปุ๋ยไปแล้ว
        “อาบน้ำเสร็จแล้วหรอ”ดินถามขึ้น
        “อืม”ผมตอบ “แล้วง่วงยัง”
       “ก็นิดๆนะ ทำไมออมง่วงหรอ”
       “เปล่าก็เผื่อว่าดินง่วงไง งั้นกินนมป่ะ”
       “เอาดิ”
       “งั้นรอแป๊บ”ผมบอกก่อนที่จะเอานมในตู้เย็นออกมาต้มให้อุ่นนิดหน่อยเวลากินจะได้สบายท้อง
        “อ่ะ”ผมยื่นนมอุ่นๆให้ดิน
        “ขอบใจนะ”ดินบอกพร้อมกับยิ้มให้ผม
        “อื้ม...ไม่เป็นไร”ผมตอบก่อนที่จะนั่งลงข้างๆเขา
        “อื้อ..เกือบลืมไปเลย เมื่อกี้ไอ้แบล็คโทรมา ออมเข้าห้องน้ำอยู่เราเลยรับให้”ดินบอก
        “หรอ...แล้วมันว่าไงบ้างอ่ะ”ผมถามตาโตขณะที่จิบนมอยู่เพราะถ้าไอ้แบล็ครู้ว่าผมอยู่กับดินสองคนแบบนี้มันจะต้องไปบอกไอ้บอมแล้วก็พากันคิดไปไกลอีกแน่ๆ
      “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ เห็นว่ามีเรื่องจะคุยแต่พอรู้ว่าเป็นเราก็เงียบไปแล้วก็ไม่พูดอะไรเลยบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยพรุ่งนี้ พรุ่งนี้จะเข้ามาหา”
       “แปลก แล้วแบล็คมันไม่ถามอะไรดินอีกเลยหรอ”ผมถาม
       “ไม่นะตอนที่โทรมาเสียงแหบๆยังไงไม่รู้”ดินบอกทำให้ผมเริ่มเป็นห่วงเพื่อน
        “มันเป็นอะไรของมันนะ”ผมพูดพลางคิด
        “คงไม่เป็นไรหรอกมั้งอย่าคิดมากเลย”ดินบอก
        “อืม..ถ้างั้นไปนอนกัน”ผมบอกก่อนจะเก็บแก้วนมไปวางไว้ที่อ่างล้างจาน
        “เรานอนห้องออมนะ”ดินบอก
        “ได้”ผมตอบเขินๆ
         “งั้นเดี๋ยวเราอุ้มเจ้านี้ให้”ดินบอกพลางอุ้มเจ้าโด้ขึ้นอย่างเบามือจนเดินขึ้นถึงห้องผม “วางไว้ไหน”ดินถาม
         “ตรงตะกร้าอ่ะ”ผมบอกดินก่อนที่จะเดินไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้เขา
         “ขอบใจนะ”ดินบอกขณะที่ผมยื่นผ้าห่มกับหมอนให้เขาบนเตียง “แต่ที่จริง... ห่มผ้าผืนเดียวกันก็ได้นะ”ดินพูดพลางมองหน้าผมให้ตายเถอะเขาตั้งใจจะฆ่าผมหรือไงนี้อ่อยได้ตลอดเลย
           “คนละผืนน่ะดีแล้วเรานอนดิ้น”ผมตอบพยายามให้ใสที่สุด ทั้งที่ในใจก็เริ่มคิดไม่ดีกับเขาแล้ว
            “แล้วพวกไอ้แบล็คกับไอ้บอมมานอนบ้านออมบ่อยป่ะ”
         “ก็บ่อยนะ”
         “หรออิจฉาจัง”
         “อิจฉาอะไร”ผมถาม
         “ก็เราอยากไปนอนบ้านเพื่อนบ้างไงเราไม่ค่อยได้ไปนอนบ้านเพื่อนเท่าไหร่คงจะสนุกดีถ้าได้ไปบ่อยๆ”
         “ก็สนุกอยู่หรอกแต่ไม่สนุกตรงไม่ได้นอนนี้แหละ”
         “ทำอะไรกันถึงไม่ได้นอน”ดินถามพลางมองหน้าผมอย่างมีเลศนัย
        “ทะลึ่ง ก็ต้องคุยกันน่ะสิ”ผมตอบ
       “เอ้ามาว่าเราอีก...ทะลึ่งอะไรก็แค่ถามหรือว่าออมคิดอะไร”ดินถามพลางมองหน้าผมเข้ามาใกล้ขึ้นอีกด้วยสายตาแปลกๆซึ่งทำให้ผมใจเต้น
         “ไม่เถียงด้วยแล้ว จะนอน”ผมบอกก่อนที่จะห่มผ้าแล้วหันหลังให้กับดิน
         “เอาตอบเราก่อนดิ”ดินพูดพลางเขย่าตัวผม “ถ้างั้นฝันดีนะ”ดินบอกในขณะที่ลมหายใจของเขากำลังรดหูของผมนั้นยิ่งทำให้ผมสั่นเข้าไปใหญ่ทำไมเขาชอบทำแบบนี้จังเดี๋ยวคอยดูเถอะ จากที่จะได้นอนหลับปกติจะกลับเป็น  หลับนอน เข้าให้
          ผมพยายามข่มตานอนให้หลับแต่กว่าจะหลับก็เกือบเช้า
          ผมตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าดินกำลังหลับอยู่ผมมองดูเขาที่ตอนนี้ดูเป็นเพียงเด็กผู้ชายน่ารักๆคนนึงซึ่งนั่นมันทำให้ผมอดที่จะยิ้มออกมาเสียไม่ได้ผู้ชายอะไร ทั้งน่ารัก ทั้งเท่ทั้งหล่อผมมองใบหน้าของเขาอยู่แป๊บนึงก็ทำให้ผมไปสะดุดที่ปากของเขา มันทำให้ผมคิดถึงภาพในฝันคืนนั้นที่เราจูบกัน ผมอยากรู้จริงๆว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
       ถ้าผมต้องการที่จะรู้ความจริงก็คงมีอยู่ทางเดียวเท่านั้นก็คือต้องลองจูบเขาดูว่าจะเหมือนกับคืนนั้นหรือเปล่า ก็ในเมื่อผมถามเขาก็ไม่ยอมบอกนี้น่า ถ้าโดนลักหลับก็อย่ามาว่าทีหลังแล้วกัน
       ผมคิดได้ดังนั้นผมก็ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหาเขาจนใกล้ขึ้นเรื่อยๆให้ตายเถอะผมไม่คิดเลยว่าผมจะทำอย่างนี้ยิ่งใกล้ขึ้นผมยิ่งเห็นใบหน้าของเขาชัดขึ้น ใจผมก็ยิ่งสั่นมากขึ้น จนผมมาหยุดอยู่ที่จมูกของเราชนกันตอนนี้ลมหายใจของเราแทบจะเป็นลมหายใจเดียวกันเรียกว่าแลกลมหายใจกันก็ยังว่าได้
         ผมค้างอยู่อย่างนั้นซักพักก่อนที่จะหลับตาแล้วเอาริมผีปากของผมไปสัมผัสกับริมฝีปากของเขาแล้วรีบเอาออกมาอย่างรวดเร็วให้ตายเถอะผมทำมันแล้ว ผมทำมันลงไปแล้วจริงๆ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งอาย ผมลักหลับดินเข้าไปแล้วจริงๆ ผมทั้งอาย ทั้งเขิน ทั้งกลัวว่าดินจะรู้ ผมนี้ทำตัวไม่ถูกเลย จนต้องรีบวิ่งลงไปข้างล่างเพื่อสงบสติอารมณ์แล้วไปอาบน้ำ ทั้งเปิดฝักบัวใส่หน้า ทั้งกระโดดโลดเต้นอย่างกับในมิวสิควิดีโอก็ไม่อาจที่จะลบภาพนั้นออกไปได้ ภาพที่ผมขโมยจูบไปจากดิน
        “ออม... ออม... อยู่ในห้องน้ำหรอ”ดินตะโกนถามขึ้น
        “....”ผมตัวชาไปเลยในขณะนั้น
ก๊อกๆ
        “ออมอยู่ในนี้หรือเปล่า”ดินมายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ
       “อื้อ... อยู่ ทำไมหรอดิน”ผมทำเสียงปกติ
        “เปล่าแค่ถามเฉยๆ”
         เมื่อผมรู้ว่าดินตื่นแล้วผมจึงรีบแต่งตัวแล้วออกมาจากห้องน้ำ เห็นดินนั่งอยู่ที่โซฟาจึงเดินเข้าไปหา
        “อาบเสร็จแล้วหรอ”ดินถามพลางมองหน้า
        “อือ..”ผมตอบพลางมองหน้าเขาแล้วไปหยุดอยู่ที่ปากของเขา
        “มีอะไรติดหน้าเราหรอ”ดินถามพลางลูปหน้าไปมา ทั้งที่ตอนนี้ผมเขาก็ยุ่งๆแท้ๆแต่ทำไมมันถึงยังดูดีในสายตาผมก็ไม่รู้ “ไหน ออมช่วยเอาออกให้หน่อยดิ”ดินบอกพลางจะเข้ามาใกล้
         “ไม่มีอะไรหรอก”ผมบอกพลางดันอกเขา “เออ ดินยังไม่ได้อาบน้ำเลยหนิ งั้นรีบไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวเราจะทำอาหาร”
           “เดี๋ยวก่อนออมเรายัง...”
            “น่าไปอาบก่อน”
            “ออมเรายังไม่...”
            “ไม่อาบไม่ได้ ไปอาบก่อน”ผมบอกพลางลากตัวเขาเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูห้องน้ำก่อนที่จะเอาหลังพิงประตูอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับดินนานเกินไป
              ให้ตายเถอะผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าหากเขารู้ว่าผมแอบจูบเขาแล้วผมจะทำยังไงผมคงต้องอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆ แต่คิดไปก็เท่านั้นเรื่องยังไม่เกิดจะคิดมากไปก็ไม่ได้อะไร ผมจึงสั่นหัวเพื่อไล่ความคิดแล้วเดินไปที่ครัวแล้วเอาไก่ออกมาทอดทอดไปซักพักก็ได้ยินเสียงร้องเรียก
           “ออม ออม..”เสียงเรียกนั้นดังออกมาจากในห้องน้ำ
           “อะไรหรอดิน”ผมพูดพลางหรี่ไฟที่เตาลง
           “เราไม่ได้เอาผ้าเช็ดตัวเข้ามาด้วย เอามาให้เราหน่อย”ดินบอกทำให้ผมถึงกับหูผึ่ง
           “อะไรนะ!แล้วทำไมไม่เอาเข้าไปด้วย”ผมถามด้วยความตกใจ
           “ก็ออมดันเราเข้ามาเอง จะบอกก็ไม่ฟัง”ดินเถียง “หรือไม่เอา มาให้ก็ได้นะเดี๋ยวเราเดินออกไปเลยก็ได้ถ้าออมไม่ถือ”
           “ไม่ต้องเดี๋ยวเอาไปให้”ผมตอบอย่างจำใจก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากอยู่ให้ดิน ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำก่อนที่จะเคาะประตูห้องน้ำ
            “เข้ามาเลยเราไม่ได้ล็อค”ดินบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย แล้วอะไรทำให้เขาทำตัวสบายอย่างกับบ้านตัวเองได้ขนาดที่จะอาบน้ำบ้านคนอื่นโดยที่ไม่ล็อคห้องได้
             “ก็ยื่นตัวออกมาเอาดิ”ผมบอกด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก
             “เราสระผมอยู่”ดินบอกทำให้ผมถึงกับควันออกหูแล้วทำไมไม่บอกตอนที่อาบเสร็จวะ “ไม่เป็นไรก็ได้เดี๋ยวเราเดินออกไปเลยก็ได้ผ้าขนหนูไม่ต้อง” ดูสิขยันแกล้งผมซะจริงๆ
             “เออก็ได้”ผมเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปพร้อมกับหลับตาปี๋ก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้นโชคดีที่ดินเขาเอาผ้าม่านปิดอยู่แต่ยังไงมันก็ยังเป็นผ้าม่านที่ทำให้เบลอเท่านั้นไม่ได้ปกปิดสรีระของผู้ที่อยู่หลังม่านแต่อย่างใด ผมเห็นดังนั้นก็ทำให้ผมถึงกับร้อนไปทั้งหน้า
               “เราเอาไว้นี้นะ”ผมบอกก่อนที่จะแขวนไว้ที่ราวแล้วจึงเดินออกมาพร้อมกับปิดประตูห้องน้ำลง แล้วพักหายใจอยู่แป๊บนึงก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในครัวเพราะได้กลิ่นไหม้ออกมาจากในครัว แต่โชคดีมากครับที่ยังไม่ไหม้เพราะผมหรี่ไฟไว้ก่อนที่จะไปหยิบผ้าขนหนูให้ดิน
                “เกือบไป..แต่เกรียมไปนิด งั้นให้เจ้าโด้กินแล้วกัน”พูดเสร็จผมก็เอาไก่ที่เกรียมๆมาขูดตรงที่ไหม้ออกแล้วเอาไก่ชุดใหม่ลง
                 เมื่อทอดไก่สุกแล้วผมจึงเอามาวางที่โต๊ะกับข้าวอย่างอารมณ์ดีก่อนที่ดินจะเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยท่อนบนแล้วมีผ้าขนหนูพันด้านล่าง
                  “เฮ้ย! ดิน ดิน...ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า”
                   “ก็ออมไม่ได้เอาชุดให้เราอ่ะ”
                    “เออ....รอแป๊บนะ”ผมบอกก่อนที่จะเอาชุดของผมที่ใหญ่ที่สุดมาให้ดินใส่แต่ก็ยังคับไปสำหรับเขาอยู่ดี
                   “หิวยัง”ผมถามดินที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
                   “อื้อ หิว”
                    “มากินดิ แต่มีแค่ไก่ทอดธรรมดานะพอดีแม่เราหมักไว้อ่ะ”ผมพูดพลางยิ้มเจื่อนๆให้ดิน
                     “อะไรเราก็กินได้หมดแหละเราเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย”ดินบอกพลางยิ้มก่อนที่จะกินไก่เข้าไปคำหนึ่ง ทำให้ผมมองตามพร้อมกับมองสีหน้าของเขาเพื่อรอผลลัพธ์
                     “เป็นไงบ้าง...”ผมถามพลางมองเขาไม่วางตา
                      “นี้มัน...”ดินทำหน้าแปลกๆ “อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยนะเนี้ยออมนี้ทอดเก่งจังเลยเนาะ”
                        “พอเลย..ไม่ต้องยอหรอกแม่เราหมักอร่อย”ผมบอกพร้อมกับยิ้มให้เขาในท่าทีที่เขาแสดงออกเพราะมันดูเว่อร์จนตลก
                       “ถ้าอร่อยขนาดนี้ต่อไปเราคงต้องมาฝากท้องบ่อยๆซะแล้วล่ะ”ดินพูดก่อนจะกัดกินอีกคำ
            “ใครห้ามเล่า!”ผมพูดเสียงอู่อี้ในลำคอ
            “ห๊ะว่าไงนะ!”ดินถามเสียงดัง
            “ไม่รู้ไม่ได้พูดซักหน่อย”ผมบอก
             “ถ้างั้นก็ถือว่าตามนั้นนะ”
       “ตามนั้น...ตามไหนอ่ะ”
       “ก็บอกว่าไม่ได้ห้ามไม่ใช่หรอ”
       “เอ้า! แล้วถ้าได้ยินแล้วจะถามทำไมล่ะ”ผมถามพลางมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
       “ก็อยากมั่นใจไง”เขาพูดพลางมองหน้าผมกลับ “ตกลงตามนั้นนะ”
        “...”
        “นะ”
        “อื้อ..”ผมรับคำ
       “อื้อ..คืออะไรอ่ะ”เขาถามอย่างกวนๆ
       “ก็ตามนั้นแหละ”ผมตอบแบบปัดๆ
        “ตามไหน”เขาถามด้วยหน้ากวนๆอีกครั้ง
        “ดิน!”
       “โอ๋ๆ ล้อเล่นๆ ฮ่าๆๆ ออมนี้เวลาโมโหนี้ก็น่ารักไปอีกแบบเนาะ”เขาพูดพร้อมกับหัวเราะ
         “ไม่ต้องมาหัวเราะเลยอร่อยไม่ใช่หรอเอ้า! กินเข้าไป”ผมพูดแล้วเอาไก่ยัดเข้าปากเขาจนเต็มก่อนที่จะหัวเราะให้กับสีหน้าของเขา แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้จับไก่ขึ้นมาทำท่าจะเอาคืน “เฮ้ย!หยุดนะดินนั้นของกินนะ”ผมปรามเขา แต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ครับแถมวิ่งเข้ามาหาผมอีก
       “มารับโทษซะดีๆ”ดินบอกด้วยสายตาที่พร้อมจะเอาคืนให้ได้ทุกเมื่อ
       “ฝันไปเถอะ แบร่”ผมพูดพลางแล้ปลิ้น
       “ถ้างั้น...”ดินวิ่งเข้ามาล็อคตัวผมก่อนที่จะยื่นไก่เข้ามาใกล้หน้าผม
        “อย่าน้าา......”ผมบอกพลางปัดมือเขา จนในที่สุด

แกร๊ก...

       “ไอ้ออม”เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูบ้านของผมทำให้ผมและดินต้องหยุดชะงักหันไปมองใครคนนั้นก็คือไอ้แบล็คนั้นเองครับแต่แปลกที่มันใส่แว่นตาดำมาด้วย เมื่อเป็นดังนั้นผมกับดินจึงผละออกจากกันโดยทันที “แหมแม่ไม่อยู่เนี่ยเอาใหญ่เชียวนะ”ไอ้แบล็คมันแซว
        “เอาใหญ่บ้านมึงสิ”ผมเถียงกลับ “แล้วกินอะไรมายัง”ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
        “นิดหน่อยแต่ซื้อขนมกับน้ำมาด้วย”มันบอกพลางชูถุงขึ้น “ของเจ้าโด้ก็มีนะ”มันบอกก่อนที่จะแกะให้เจ้าโด้แล้วมานั่งที่โต๊ะกับพวกผม
        “อิ่มกันแล้วอ่ะดิ”มันถามเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้
         “พึ่งกินจะอิ่มได้ไงเล่า”ผมตอบ
          “แล้วเป็นอะไรทำไมถึงต้องใส่แว่นวะ”ดินถามไอ้แบล็คขึ้น
         “ไม่ยุ่งดิ”ไอ้แบล็คตอบกวนๆแต่ไม่จริงจังมาก
        “ครับๆ”ดินบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก
         “ก็อยากเท่ห์บ้างไม่ได้หรอวะ”ไอ้แบล็คบอกขึ้น
         “เท่ห์ครับเท่ห์”ดินบอกล้อๆออกมา จนนั่งกินไปกันซักพักผมจึงถามไอ้แบล็คขึ้น
         “ว่าแต่มีอะไรมาหากูวะ”ผมถามไอ้แบล็คขึ้น
         “คือกูมีเรื่องส่วนตัวอยากจะคุยกับมึง”ไอ้แบล็คพูดเสียงจริงจังแล้วมองมาที่หน้าผม
          “งั้นเรากลับก่อนดีกว่า”ดินบอก
          “เฮ้ยดินกูไม่ได้ไล่มึงนะอยู่ต่อก่อนก็ได้กูไม่รีบ”ไอ้แบล็ครีบอธิบายเพราะกลัวดินจะเข้าใจผิด
          “เฮ้ย..มึงคิดมากอะไรวะกูจะกลับอยู่แล้ว ก็ออมมีเพื่อนแล้วหนิก็คงจะไม่มีอะไรน่าห่วง”ดินบอก
           “เอาซะรู้สึกผิดเลย”ผมพูดเบาๆ
         “แล้วจะรีบกลับไปดูดาวด้วยว่ากลับหรือยัง”ดินบอก
         “ถ้างั้นชุดดินเอาไว้นี้แหละเดี๋ยวเราซักให้ ดินก็ใส่ชุดเรากลับละกัน”ผมบอก
         “เฮ้ยไม่ได้ดิ”ดินเถียง
         “ดินให้เราทำเถอะถือว่าตอบแทนที่มานอนเป็นเพื่อน เราจะได้สบายใจด้วยไง”ผมบอกจริงจัง
       “ก็ได้”ดินตอบ
       “งั้นเราไปส่ง”ผมบอกก่อนที่จะออกไปส่งดินที่หน้าบ้านเพราะเขาโทรเรียกแท็กซี่มา “กลับดีๆนะ”ผมบอกพลางโบกมือให้เขา
        “อื้อ.. ขอบใจนะ”เขาตอบยิ้มๆพร้อมกับโบกมือกลับ ก่อนที่รถจะวิ่งออกไป
        “แหมหงอยเชียวนะ”ไอ้แบล็คพูดเมื่อผมเดินเข้ามาในบ้าน
        “อะไรของมึง”
        “ทำเป็นเฉไฉ ว่าแต่เมื่อคืนเป็นไงวะ”
        “อะไร”ผมถาม
         “ก็หลับนอน โอ้ย! นอนหลับกันไป กี่ยก โอ้ย! กี่ตื่น”มันพูดเสียงทะลึ่ง
        “ไม่มีอะไรทั้งนั้นเหละมึงนี้ชอบคิดอะไรไม่ดีอยู่เรื่อย”ผมว่ามัน
        “โหยอะไรวะ ไม่สนุกเลย”มันว่าเซ็งๆ
        “ไม่ต้องมาเรื่องกูหรอก เอาเรื่องมึงให้รอดก่อนเถอะ”ผมว่ามัน “มีอะไรวะได้ยินดินบอกว่าเสียงแหบเสียงแห้ง”
         “คือกู...”มันเลิ่กลั่ก
         “มึงไม่ไว้ใจกูหรอวะ”
         “ถ้าไม่ไว้ใจกูจะมาหามึงมั้ยล่ะ”มันบอกผมเสียงวีนๆก่อนที่จะถอดแว่นตากันแดดออกซึ่งทำให้เห็นถึงรอยคล้ำใต้ตามันซึ่งดำปี๋อย่างกับคนไม่ได้นอนมาสามวัน
       “เฮ้ย!มึงไปทำอะไรมาวะทำไมตามึงเป็นแบบนี้”ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
        “สาเหตุทั่วไปนั้นแหละกูนอนไม่หลับ”มันบอกเพลียๆ
        “แล้วทำไมถึงนอนไม่หลับ”ผมซัก
       “กูเครียด”มันบอก
       “แล้วทำไมมึงถึงเครียด”
       “ก็มีเรื่องให้คิดน่ะสิ”
        “เรื่องอะไร”ถ้าไม่ซักจนละเอียดไม่มีทางได้ความจริงหรอกครับกับไอ้นี้
         “เรื่อง....”
         “จะเล่าไม่เล่าไม่เล่ากูไปนะ”ผมพูดขู่พลางจะเดินหนี
         “เออๆบอกแล้วแม่ง ก็ไอ้เชี้ยวินน่ะสิ”
        “ทำไมวะมันทำอะไรมึง”
         “ก็ที่มัน... มัน...จูบกูไง”มันพูดเสียงเบาตรงคำว่าจูบพร้อมกับหลบหน้าผม
          “เลยทำให้มึงคิดมากหรอ”ผมถามพลางดึงหน้ามันขึ้นมามองหน้าแล้วสบตาผม
         “อื้อ..ก็มึงลองคิดดูสิว่ากูนี้เกลียดมันขนาดไหน มันเคยว่าอะไรให้กูบ้าง แล้วที่สำคัญมันยัง(เสือก)เป็นจูบแรกของกูไง กูแม่งปวดหัวจะตายอยู่แล้วทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้วะกูสับสนไปหมดแล้วอยากลืมก็ลืมไม่ได้ กูเกลียดมัน มันแม่งทำไม่ดีกับกูสารพัดแต่กูไม่คิดเลยว่ามันจะกล้าทำกับกูมากถึงขนาดนี้ มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกของกูนะเว้ยที่มันทำลายมึงเห็นคนที่เขาพูดกันในแชทมั้ย เห็นรูปที่เขาถ่ายแล้วแชร์กันหรือเปล่าจะให้คนเลิกแชร์เลิกโพสต์แม่งก็เห็นกันทั่วแล้ว กูไม่รู้ว่ากูควรทำยังไง...กูควรทำไงดีวะออม”มันพูดออกมาหน้าเหมือนจะร้องไห้ผมจึงดึงมันเข้ามากอดพร้อมกับลูบหลังมันเบาๆ จนสัมผัสได้ว่ามีน้ำอุ่นๆเปียกที่ไหล่ของผมพร้อมกับไอ้แบล็คที่ตัวสั่นเบาๆ
          ผมเลือกที่จะไม่พูดอะไรที่เป็นการปลอบเพราะในเวลานี้ผมรู้ดีว่ามันต้องการคนที่รับฟังและเข้าใจไม่ใช่คนที่เล่นบทเพื่อนที่แสนดีแล้วพูดจาซึ้งๆเหมือนกับว่าเข้าใจมันซะทุกอย่างทั้งๆที่เราไม่เคยเจอและไม่ได้เข้าใจมันจริงๆด้วยซ้ำไป ผมจึงทำหน้าที่เป็นผู้ฟังและคอยเออออไปกับมันในบางครั้ง จนมันคงเริ่มโล่งลงบ้างเพราะมันได้สาธยายเรื่องราว ไม่ดีหรือที่มันเรียกว่าเรื่องราวเลวๆของวินออกมาตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้
        “มึงอย่าไปเล่าให้ไอ้บอมฟังนะ”มันบอกพลางเช็ดน้ำตา
       “น่า กูไม่บอกใครหรอกหรือมึงเคยเห็นกูทำ”
         “ก็ไม่อ่ะ”
         “ก็นั้นไง ฟังนะแบล็คมึงไว้ใจกูได้กูก็เหมือนหมาถึงมึงไม่บอกกู กูก็ไม่เล่านอกจากมึงจะเล่าเอง”ผมบอกมันจริงจัง
           “ขอบใจนะ”
           “ขอบจงขอบใจอะไรวะ ไม่สมเป็นมึงเลย ว่าแต่เป็นไงบ้างรู้สึกดีขึ้นยัง”
         “อื้อ..ฮ้าววว...สมองโล่งเลยว่ะกูเริ่มง่วงละงั้นกูขอไปนอนบนห้องมึงนะ”
         “เดี๋ยว”
          “ทำไมอะ”
           “รอแปบ”ผมวิ่งเข้าไปในครัวก่อนที่จะฝานแตงกวาเป็นแว่นแล้วเอามาให้มันประคบตาที่ทั้งบวมทั้งช้ำของมัน “จะได้สบายตา”
            “ขอบใจ”มันบอกก่อนที่จะขึ้นไปนอนบนห้องผม
             หลังจากที่ไอ้แบล็คขึ้นไปพักผ่อนแล้วผมจึงต้องทำความสะอาดความเสียหายที่กินไว้เมื่อกี้ แล้วโทรชวนไอ้บอมมานอนบ้านอาทิตย์หนึ่งเพราะว่าอาทิตย์หน้าสอบจะได้อ่านหนังสือด้วยกันพร้อมกับบอกมันไปเก็บเสื้อผ้าไอ้แบล็คมาด้วยเมื่อไอ้บอมมาถึงก็ช่วงๆเย็นๆพอดีกับพ่อและแม่กลับมาจากต่างจังหวัดแล้วไอ้แบล็คตื่นก็พากันมาทานข้าวเย็น
             วันรุ่งขึ้นผมเอาชุดของดินไปให้เขาที่บ้านแล้วก็นั่งเล่นซักพักก่อนที่จะกลับเพราะไอ้เพื่อนทั้งสองตัวของผมไปด้วย

เกรย์
‘เป็นไงบ้างช่วงนี้’เกรย์ถาม
‘ก็เรื่อยๆอ่ะแต่หนักหน่อยช่วงนี้สอบ’ผมตอบ
‘เหมือนกันเลยปวดหัวตุ๊บๆเลย’ขอบตอบ
‘เว่อร์’ผมว่าเขา
‘ก็จริงอ่ะ’เขาว่า
‘คร้าบๆ อ่านหนังสือบ้างมั้ยเนี้ย’ผมถาม
‘อ่านดิ’เขาตอบ
‘เชื่อได้แค่ไหนเนี้ย’ว่าขำๆ
‘เชื่อใจพี่แล้วน้องจะไม่เสียใจ’เขาตอบ
‘แหวะเสี่ยว่ะ’ผมว่าพลางขำกับมุกของเขา
‘สอบวันจันทร์เลยป่ะ’เขาถาม
‘อื้อ’ผมตอบ
‘งั้นโชคดีนะ รีบนอนไม่กวนแล้ว’เขาบอก
‘เคๆฝันนะ’ผมตอบ

       คาบสุดท้ายของการสอบ

       ถ้าผ่านหลังจากสอบกลางภาคผ่านไปผมนี้คงโล่งเลยครับเพราะชีวิตจะได้กลับมาเป็นปกติสุขเหมือนเดิมไม่ต้องอ่านหนังสือหนักเหมือนเดิมซึ่งเป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับเด็ก ม.ปลายมากแต่ก็ต้องอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยอยู่ดี
       ผมเดินออกมาจากห้องสอบอย่างอารมณ์ดีคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วแบบนี้ต้องฉลองผมกับเพื่อนมี ไอ้แบล็ค ไอ้บอม ปริม กี้ แล้วก็ผม
       นั่งกินไปได้ซักพักเห็นดินกับวินเดินเข้ามาที่โต๊ะ
        “ขอนั่งด้วยคนดิ”ดินบอก
        “ก็เอาดิ”ไอ้บอมตอบแต่ไอ้แบล็คกลับเงียบไม่เห็นพูดเหมือนอย่างเคย
         “สอบเสร็จแล้วเขาหยุดห้าวันรู้ใช่ป่ะ”ดินถาม
         “รู้”ทุกคนตอบ
          “มีใครมีแพลนไปไหนกันยังแบบไปเที่ยวอ่ะ”ดินถาม
            ทุกคนก็มองหน้ากันพลางส่ายหัว
           “งั้นไปเที่ยวด้วยกันป่ะแบบตั้งแคมป์พอดีเรารู้จักกับลุงเจ้าของสถานที่เขาจะให้เราไปพักฟรีอยากไปกันมั้ย”ดินถาม
            ทำให้กลุ่มของผมเริ่มมีท่าทีสนใจจึงเริ่มคุยกันก็รู้สึกว่าน่าสนุกยกเว้นไอ้แบล็คแต่ถ้าเพื่อนไปมันก็ไปอยู่แล้วจึงตกลงกันว่าจะไป ผมก็คงได้โอกาสที่จะได้ไปเที่ยวกับดินถึงจะไม่ใช่สองต่อสองก็ตาม
             “แล้วที่พักแบบไหนอ่ะ”ปริมถามขึ้น
             “เต้นท์ เอาไปเองหรือไปเอาที่นู้นก็ได้แล้วตอนกลางคืนก็ก่อกองไฟนั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงพูดคุยกันไป”ดินบอก
              “น่าสนุกว่ะ”ไอ้บอมว่า
            “จริงที่สุด”กี้เสริม
             “ตกลงไปทุกคนนะ”ดินถาม
              “Yes”ทุกคนตอบพร้อมกันยกเว้นไอ้แบล็คผมจึงเอาข้อศอกกระทุ้งสีข้างมัน
               “โอ้ย!อะไรวะ”มันโวยขึ้น
               “ว่าไง”ผมถาม
               “ถ้าพวกมึงไปแล้วกูไม่ไปได้ว่างั้น”มันถาม
               “ฮื้อ”ทุกคนส่ายหน้า
               “แล้วจะถามทำไมวะ”ไอ้แบล็คว่า
               “โอเคไปครบทุคน”ผมบอกดิน
               “โอเคถ้างั้นเอาแบบนี้นะ วันอาทิตย์เก้าโมงเช้า เจอกันที่บ้านเราเอารถไปสามคันรถเรากับรถไอ้วิน แล้วก็รถไอ้เข้มเออน้องเรากับเพื่อนเขาก็ไปด้วยนะแต่คนละวงกันไม่ต้องกลัวว่าจะวุ่นวายนะ”ดินบอกพร้อมกับอธิบายแล้วจึงนั่งคุยกิจกรรมที่จะทำกันต่ออย่างสนุกปากและผมเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สิบ แคมป์ปิ้ง

วันอาทิตย์(สีชมพู><)

       “ไอ้แบล็คมึงออกมายังรอนานแล้วนะโว้ย”ผมถามในขณะที่ไอ้แบล็ครับสาย

         “...”ไอ้แบล็คเงียบ

          “มึงเป็นอะไรเนี้ย เงียบทำไม”ผมด่ามัน

           “ออม!”

           “ฮ่ะ...?”ผมตัhงใจฟังพร้อมกับตกใจเพราะเสียงไอ้แบล็คมันแปลกๆหรือว่า

           “ออมใช่มั้ยลูก นี้แม่เองนะ”นั่นไงว่าแล้ว

           “อ๋อ... ครับ”

         “แบล็คเขาออกไปตั้งนานแล้วนะลูกยังไม่ถึงอีกหรอ”แม่แบล็คถาม

          “อ๋อ..ครับ”

        “เอ๋...ทำอะไรกันอยู่นะทำไมยังไม่ถึงอีก”แม่แบล็คถาม

  ปริ๊นๆๆๆๆ

         เสียงบีบแตรรถหน้าบ้านทำให้ผมเดินออกไปดูซึ่งก็คือไอ้แบล็คกับไอ้บอมนั้นเอง

         “แม่ครับถึงแล้วครับ”

         “อ๋อจ่ะ แล้วแบล็คจะเข้ามาเอาโทรศัพท์อีกมั้ยจ๊ะ นี้ลืมไว้ทำไมถึงเป็นคนขี้ลืมแบบนี้นะ”

          “แม่ครับ”

         “จ๊ะ”แม่แบล็คตอบ

         “ผมขอโทษนะครับ”ผมพูดอายๆ

         “โอ้ย...ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เรื่องแบบนี้แม่ก็เคยเป็นกับย่าของแบล็คด้วยซ้ำ”แม่แบล็คพูดพลางหัวเราะทำให้ผมโลงใจมากขึ้น

         “ครับ”ผมตอบพลางหัวเราะแห้งๆ

          “จ่ะ อย่าคิดมาก ถามแบล็คด้วยว่าจะเข้ามาเอาโทรศัพท์มั้ยถ้าจะเข้ามาเอาก็ให้รีบมา”

           “ครับ ได้ครับ”ผมตอบ

            “งั้นแค่นี้นะจ๊ะเที่ยวกันให้สนุกนะ”

           “ครับ สวัสดีครับ”ผมตอบก่อนที่จะวางสายแล้วรีบวิ่งไปหาพวกนั้นที่หน้าบ้านแล้วเรียกให้มาขนของช่วย

            “แม่ครับ พ่อครับ ผมไปก่อนนะครับสวัสดีครับ”ผมบอกพ่อกับแม่ก่อนออกจากบ้าน

              “สวัสดีครับ”ไอ้แบล็คกับไอ้บอมพูดพร้อมกับไหว้พ่อและแม่

             “จ้า เที่ยวให้สนุกนะเที่ยวเผื่อแม่ด้วย”แม่บอก

           “เผื่อพ่อด้วยคนนะ”พ่อบอกพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

          “ครับ”ผมบอกแล้วจึงเดินไปขึ้นรถ

          “แบล็คมึงลืมโทรศัพท์ไว้บ้านใช่มั้ย”ผมถามไอ้แบล็คขึ้นเมื่อปิดประตูรถแล้ว

         “เออจริงว่ะ”ไอ้แบล็คบอกเมื่อค้นกระเป๋าแล้ว “รู้ได้ไงวะ”

        “ก็กูโทรไปแล้วแม่มึงรับน่ะสิโชคดีนะที่กูไม่ได้ด่าอะไรเขามาก”

        “นี้มึงด่าแม่กูด้วยหรอ”ไอ้แบล็คถามแล้วทำหน้าตกใจพลางหัวเราะพร้อมกับไอ้บอม

        “พวกมึงไม่ต้องขำเลย กูนี้อายแทบตาย”ผมทำหน้ามุ่ย

        “อ่ะๆไม่หัวเราะแล้ว”ไอ้บอมพูดพลางกลั้นหัวเราะ

        “แล้วมึงจะเข้าไปเอาหรือเปล่าล่ะ”ผมถามไอ้แบล็ค

        “ไม่อ่ะกะจะไปพักผ่อนอยู่แล้วไม่อยากเล่นโทรศัพท์แล้วก็ไม่อยากให้คนโทรมากวนด้วย อยากอยู่กับธรรมชาติให้ธรรมชาติโอบกอดแล้วก็โอบกอดธรรมชาติ” ไอ้แบล็คพูดออกมาทำให้ผมถึงกับต้องเบะปากมองหน้ากันกับไอ้บอมเพราะตอนแรกมันก็ทำท่าไม่อยากจะไปแต่ตอนนี้กับมาเล่นใหญ่จะดื่มด่ำกับธรรมชาติ

         “คร้าบบบบ พ่อคนอินดี้”ไอ้บอมพูดประชดแต่ไอ้แบล็คไม่สนใจ สตาร์ทรถแล้วออกไปรับปริมกับกี้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านดินมากนัก

          ผมมาถึงบ้านดินในเวลาแปดโมงสิบห้าพอดีก่อนที่จะลงรถแล้วเข้าไปในบ้านดินก็เห็นว่ามีคนเต็มไปหมดทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องซึ่งก็เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นเพื่อนของดาว

          “อ้าว!!มากันแล้วหรอ”ดินทักขึ้น

          “อึ้ม...มากันครบแล้วหรอ”ผมถาม

          “ยังหรอกเหลือไอ้วินมันไปเอาของอยู่”ดินบอก

          “แล้วจะต้องแวะซื้อของกินอีกป่ะ”ไอ้แบล็คถาม

         “ไม่ โทรสั่งที่แคมป์ไว้แล้วเครื่องดื่มก็มีครบ”ดินบอก

         “เยี่ยม”ไอ้บอมบอก

         “พี่ดิน...ดาวออกไปก่อนนะเพื่อนมาครบแล้ว”ดาวเดินมาบอกดิน

         “อื้มพ่อเพื่อนไปส่งใช่มั้ย”ดินถาม

          “ใช่ค่ะ”

          “อย่าซนล่ะไปถึงก็อย่าลืมไหว้คุณลุงเขาด้วย”ดินบอก

         “คร้าาาาาา เข้าใจแล้วงั้นดาวไปนะ”ดาวบอกก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนอีกหลายคน

          พวกผมนั่งรออยู่ไม่นานวินก็มาถึง ไม่รอช้าพวกผมก็รีบเดินไปที่รถ ที่ในขณะนี้ของเต็มรถไปหมดซึ่งก็นั่งกันแทบไม่ได้ตั้งแต่ไปรับกี้กับปริมแล้วเพราะทั้งสองก็เอาเต้นท์ขนาดใหญ่มากันอีกคนละหลังแถมที่นอนลมอีกเพราะกลัวว่าจะไม่สะดวกสบาย ในตอนนี้ของที่เคยกองกันไว้สูงๆในรถก็หล่นลงมากองอยู่ที่เบาะเต็มไปหมดจนไม่สามารถที่จะนั่งได้

          “ทำไมของรถออมมันเยอะจังล่ะ”ดินถาม

          “ไม่รู้ดิไม่รู้ว่าเอาอะไรกันมาบ้าง”ผมตอบพลางมองไปที่รถอย่างเวทนาเพราะคงเข้าไปนั่งกันไม่ได้เหมือนเดิมแล้วเนื่องจากเหลือเพียงที่ของคนขับกับที่นั่งข้างคนขับเท่านั้นที่พอจะนั่งได้

          “แล้วจะทำไงต่อล่ะ"ดินถาม

          “เอางี้เดี๋ยวกูไปนั่งรถมึงนะดินส่วนมึงก็ขับรถกูไปกับไอ้ออมจะได้นำทางด้วย”ไอ้แบล็คบอก

          “ขับคันไหนก็นำทางได้ป่ะวะ”ผมถาม “แล้วทำไมกูต้องนั่งคันนี้ล่ะ"ผมถาม 

         “เอ้ามึงคิดดูนะครับเพื่อน ถ้าให้กูกับไอ้บอมขับไปแล้วปริมกับกี้ล่ะเพื่อนเป็นผู้หญิงจะให้ไปอยู่กับเพื่อนที่เป็นผู้ชายต่างห้องได้ยังไงถึงมึงไปนั่งด้วยก็ใช่ว่าจะดีกว่าพวกกูสองคน แล้วถ้าให้กูมาขับกับไอ้ดินกูก็คงเหงาตายพอดีดูดิมันคงจะคุยกับกูหรอก แล้วที่ต้องเป็นมึงก็เพราะมึงสนิทกับมันไงเห็นไปมาหาสู่กันบ่อยไม่ใช่หรอไอ้ดินก็จะได้มีเพื่อนคุยด้วย จะได้ไม่หลับในไง โอเคนะ”ดูมันพูดเข้าครับถ้าจะเอาอะไรก็งี้แหละครับเหตุผลนี้มาเต็มทั้งที่ ที่มันพูดก็ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลเท่าไหร่ด้วยซ้ำไป

          “ถ้าออมอยากนั่งกับเพื่อนก็ได้นะเราขับคนเดียวได้”ดินบอกทำให้ผมถึงกับรู้สึกผิด

          “ไม่หรอกเราจะนั่งคันนี้แหละ”ผมบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งในรถก่อนที่ดินจะแลกกุญแจกับไอ้แบล็คแล้วตามขึ้นมาบนรถก่อนที่จะสตาร์ทแล้วออกรถไป(สถานการณ์ช่างเป็นใจดีจริงๆ)

        “โชคดีเนาะ”ดินพูดขึ้นยิ้มๆ

        “ฮื้อ..โชคดียังไงอ่ะ”ผมถามพลางมองหน้าเขา

           “ก็ที่ไอ้แบล็คเอารถมาไงไม่อย่างนั้นคงขนของไปไม่หมดแน่”ดินบอก

          “จริง”ผมตอบไปอย่างที่คิดเพราะตอนแรกจะเอารถไปแค่สามคัน เพื่อนดินก็ตั้งแปดคนส่วนพวกผมก็อีกห้าคงไปกันไม่หมดแน่ไหนจะของอีก

        จนดินขับรถออกมาซักพักดินก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาให้ฟังตั้งหลายเรื่องทั้งตลกทั้งสงสาร

        “จริงๆนะดอนเด็กเราแอบกินยาสีฟันอยู่บ่อยๆมันอร่อยดีหอมด้วย”ดินบอกพลางขำ “ครั้งนึงโดนแม่จับได้แม่ไม่ยอมให้ใช้ยาสีฟันเด็กอีกเลยต้องเลือกของผู้ใหญ่มาให้ใช้ที่มันทำให้แสบปากอ่ะ”

         “ฮ่าๆๆ เคยเหมือนกันแต่ไม่บ่อย”ผมบอก

         “ ฮ่าๆๆ จริงหรอ แล้วเคยกินยางลบป่ะอันที่หอมๆอ่ะ”ดินถามพลางหันมามองหน้าผมยิ้มๆ

          “บ้าคนบ้าอะไรจะกินยางลบ”ผมถามติดตลก

           “เราไง”ดินบอกขำๆ

           “เฮ้ยจริงดิ มันยิ่งกว่ากลืนหมากฝรั่งอีกนะ”ผมบอกพร้อมกับขำ

           “ก็คิดว่ามันกินได้ไงก็มันหอมอ่ะเลยลองดู”

           “แล้วเป็นไงบ้างอร่อยป่ะ”ผมถามหยอกๆ

            “ติดใจเลยล่ะ”ดินบอกพลางเลียปาก

            “เฮ้ยบ้า..”ผมพูดพลางทำหน้าตกใจไม่คิดว่าคนหล่อแบบนี้จะมีชีวิตที่ดำมืดขนาดนี้ น่าฉงฉาน

            “ล้อเล่น แหมทำหน้าจริงจังเชียวนะ เหนียวขนาดนั้นใครจะเคี้ยวแหลก”เอ้าไอ้คนขี้จุนี้


ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Rrrrrrrrrr

           เสียงโทรศัพท์ของดินดังขึ้น

          “รับให้หน่อยดิ”ดินบอกผมจึงรับแล้วเอาไปแนบหูเขา “ว่าไง”ดินพูดกับปลายสาย “หรอว่ะ แล้วจะทำไงล่ะ เอ้าหรอ เออโชคดีน่ะเนี้ย เออข้างหน้าน่าจะมีนะโอเครออยู่ตรงนั้นนะ”ดินพูดเสร็จก็ทำท่าให้ผมวางสาย

          “มีอะไรหรอดิน”ผมถาม

          “รถของพวกไอ้วินมันเสีย โชคดีนะที่พวกไอ้แบล็คกับไอ้เข้มขับตามมันมาเลยต้องย้ายคนย้ายของนิดหน่อย”ดินบอก

          “หรอโชคดีจริงๆด้วยแล้วของจะเอาไปเก็บไว้ไหนกันหมดล่ะเนี้ย”

          “ก็คงจะต้องทนอุ้มไว้ก่อนอ่ะ แล้วพวกนั้นบอกให้เรารอที่จุดพักรถข้างหน้าก่อนเดี๋ยวจะเอาของมาไว้รถเรา”ดินบอกทำให้ผมเข้าใจแล้วไม่ถามอะไรอีกจนขับรถไปอีกห้าร้อยเมตรก็ถึงจุดพักรถพวกผมก็เลยพากันนั่งอยู่ในรถสักพักหนึ่ง จนผมเริ่มเบื่อๆจึงเปิดเพลงฟัง

        “ดินอยากฟังเพลงอะไรป่ะ”ผมถามในขณะที่ผมเปิดเพลงอยู่

         “ออมนี้ชอบเพลงรักหรอ”ดินถาม

        “ทำไมอ้ะ”

        “ก็เห็นเปิดแต่เพลงรักนี้”ดินบอก

        “ใครๆก็ชอบเพลงรักทั้งนั้นแหละ”

          “เออก็จริง”ดินบอก “งั้นเราขอเพลงนี้หน่อย”

         “เพลงอะไรอ่ะ”ผมถามพลางมองหน้าเขา

         “รักหวานๆ”เขาตอบพลางมองตาผม ทำให้ผมถึงกับใจสั่น

         “ระ..รัก..รักหวานๆ ของ Writing Machine”ผมถามก่อนที่จะหลบตาเขาเพราะมันทำให้ผมเริ่มหน้าร้อนขึ้นผมกลัวว่าเขาจะรู้ว่าผมเขิน

          “อื้อ”เขาตอบยิ้มๆ ผมกดเปิดเพลงยิ่งฟังไปเนื้อหามันก็ยิ่งทำให้ผมเริ่มเขิน และทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่แค่เพื่อนและผมคงมีความหวังมากขึ้นอีกนิด

ท่อนฮุก

แค่ให้รู้ว่าเรา จะยังมีกัน ไม่ว่าวันเวลาเนินนานแค่ไหน

ความรักจะยังอยู่ และมั่นคงเสมอไป จะไม่มีอะไรสิ่งไหนมาแยกเรา

แค่เธอกับฉันนะ แค่เราเท่านั้นนะ จะเติมความหวานให้ความรักเรามีความหมาย

อัดเต็มในหัวใจ ที่เปี่ยมด้วยรักเรา จะทำให้โลกใบนี้นั้นอิจฉา

แค่เราเท่านั้นนะ แค่เธอกับฉันนะ จะเติมความหวานให้กับโลกนี้ได้ทั้งใบ

ก็ไม่รู้จะบอก ว่ารักเธอเท่าไร โลกใบนี้คงเล็กไป ถ้าเทียบรักเรา



ก๊อกๆๆ



        เสียงคนเคาะกระจกรถทำให้ผมหันไปมองก็เป็นวินนั้นเองที่ตอนนี้กำลังทำหน้าบึ้งตึงอยู่ซึ่งจะเป็นเพราะอะไรก็ไม่อาจทราบได้ ผมจึงลดกระจกลง

         “มาขนของช่วยดิ”วินบอกผมกับดินจึงลงจากรถแล้วช่วยกันขนของของเพื่อนที่พากันเอามาวางไว้ข้างรถ ขึ้นรถ

          เมื่อเสร็จพวกผมจึงตกลงกันว่าจะทานข้าวเที่ยงที่จุดพักรถนี้ก่อนเพราะอีกประมาณชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึง ในขณะที่กินข้าวกันไอ้แบล็คก็บ่นเรื่องที่ต้องนั่งรถคันเดียวกันกับวินไม่ขาดปาก บอกว่าขับรถห่วยบ้าง หาเรื่องบ้างต่างๆนาๆทั้งๆที่มันนี้ก็ใช่ย่อย

           เมื่อกินข้าวเสร็จพวกผมก็พากันขับรถต่อแต่ระหว่างทางผมง่วงจึงขอดินงีบซักพัก

        “ออม..ออม.. ออม”ดินพูดพลางเขย่าตัวผมเบาๆทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้น “ถึงแล้ว”ดินบอกทำให้ผมลืมตาขึ้นเต็มตาแล้วมองไปรอบๆภาพตรงหน้าเป็นภาพของทุ่งหญ้าสีเขียว ภูเขาน้อยใหญ่หลายลูก และท้องฟ้าสีฟ้าสวยที่สุดเท่าที่ผมจะมองหาได้ในชีวิตประจำวันมันต่างจากในเมืองลิบลับสดใสกว่า น่ามองกว่า และเหมาะสมกับสถานที่มากกว่า

          “โห......”ผมอุทานออกมาอัตโนมัติ

         “ฮ่าๆๆ”ดินมองผมพลางหัวเราะ

           “อะไรอ่ะ”ผมถามพลางมองหน้าเขาแล้วเขาก็ชี้ไปที่มุมปากของผม

            “น้ำลาย”เขาบอกทำให้ผมรีบเช็ดอย่างรีบร้อนทั้งตกใจด้วยอายด้วย “ฮ่าๆๆๆ”เขาหัวเราะหนักขึ้นไปอีก

          “อะไร ทำไม”ผมถามเขาเพื่อหาคำตอบ เขาหยุดหัวเราะแล้วหันมาตอบ

           “เราล้อเล่น” เขายิ้มให้ผมจนเห็นฟันทุกซี่ทำให้ผมฉุนหน่อยๆเลยเอามือฟาดลงบนต้นแขนเขาอย่างอดเสียไม่ได้ “โอ้ย!ทำร้ายร่างกายเราหรอ”

          “สมควร”ผมบอก

ก๊อกๆๆๆ

            “ลงมาซักทีสิโว้ยคนจะเอาของจีบกันอยู่นั่นแหละ”ไม่ต้องเดาก็รู้ครับว่าใครเป็นคนเคาะกระจกรถปากหมาๆแบบนี้ไอ้แบล็คแน่นอน

             “จีบบ้านมึงสิ”ผมด่ามันแก้เขินพลางเปิดประตูออก ทำให้ผมได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ ผมสูดมันเข้าไปเต็มปอดซึ่งนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นมากขึ้น

             หลังจากนั้นผมกับเพื่อนก็ช่วยกันขนของเข้าที่พักจนเสร็จ ส่วนที่พักนั้นก็ดีกว่าที่คิดครับเพราะว่ามันเป็นเต้นท์ผ้าใบที่ทำเป็นรูปบ้านด้านในมีเตียงคู่หนึ่งคู่ โคมไฟหนึ่งอันปลั๊กไฟ อุปกรณ์ต่างๆครบครับซึ่งถ้าให้เช่าก็น่าจะแพงพอตัว(ทำให้เต้นที่เตรียมมานี้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย)



            “เรามากันสิบสี่คนใช่มั้ย”ดินถามขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็นอนเต้นท์ละสองคนนะ”

            “โอเคเลยงั้น ปริมกับกี้นอนด้วยกัน ส่วนเราจะนอนกับไอ้บอม”ไอ้แบล็คบอก

           “เอ้า!!!แล้วกูล่ะ"ผมถาม "มึงนี้มันโง่ในเรื่องที่ไม่ควรโง่เลยนะไอ้ออม มึงสนิทกับใครที่สุดในกลุ่มไอ้ดินก็นอนกับคนนั้นแหละ”ไอ้แบล็คบอกผมอย่างไม่สนใจใยดี 

             “กูเอาเต้นท์นี้”ไอ้บอมบอกพลางวิ่งเข้าเต้นท์ปล่อยให้ผมยืนเอ๋ออยู่คนเดียว

             “เอาเต้นท์ไหนดีออม”ดินถามอย่างรู้งานก็ใช่สิถ้าไม่ใช่เขาผมจะไปสนิทกับใครอีกล่ะผมชี้ไปที่เต้นท์ตรงกันข้ามกับเต้นท์ไอ้แบล็คกับไอ้บอมแล้วเดินเข้าไปแบบเหนื่อยๆโดยที่มีดินถือกระเป๋าช่วย ที่เหนื่อยนี้ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับเพราะใจผมเต้นแรงอีกแล้วน่ะสิเป็นทั้งวันสงสัยผมคงต้องไปพบแพทย์ซะแล้วเผื่อจะมียาแก้เขิน

           “เอาเตียงไหน”ดินถาม

              ผมมองพิจารณาไปที่เตียงทั้งสองเตียงแล้วก็เห็นว่าเตียงขวาดูน่านอนดีผมจึงเลือกเตียงขวา

              “เตียงนุ่มดีเนาะ”ผมบอก

              “ก็นุ่มดีอยู่หรอกแต่คงไม่ได้ใช้นอน”ดินพูดออกมาทำให้ผมถึงกับต้องหันไปมองเขาอย่างไม่ละสายตา

               “ทำไม”ผมถาม

              “ก็มากับเพื่อนเยอะขนาดนี้ก็คงจะโต้รุ่งกันน่ะสิยิ่งไม่มีแอลกอฮอล์ด้วยแล้วนี้คงจะคุยกันทั้งคืน”ดินตอบข้อสงสัยของผมทำให้ผมโล่งใจบางครั้งผมก็คงต้องยอมรับว่าผมคิดอกุศลไปเองจริงๆ

               หลังจากเข้าที่พักเสร็จแผนแรกของเราก็คือการปั่นจักรยานรอบแคมป์ด้วยความที่ว่าแคมป์นี้ใหญ่พอสมควรแล้วรวมกับความที่มันอยู่กลางป่าทำให้พวกผมสามารถขี่ชมวิวได้ ในระหว่างทางยังมีสัตย์ป่าออกมาหากินตามทางไม่ว่าจะเป็นกระรอกและกวางป่าแต่พวกมันก็ค่อนข้างตื่นคนพอเห็นพวกผมมันก็หนีไป เมื่อปั่นจักกระยาน เสร็จก็ต่างพากันแยกย้าย ไปอาบน้ำ ห้องน้ำนั้นก็ให้เราสัมผัสกับธรรมชาติเต็มที่เพราะหลังคาสูงมารวมกับความที่ว่าประตูห้องน้ำนั้นไม่มีมีเพียงผ้าม่านปิดไว้เหมือนห้องเก็บชุดเท่านั้น ซึ่งนั้นก็ทำให้เสียวสันหลังอยู่ไม่น้อยแต่โชคดีที่ไม่ใช่หน้าเทศกาลคนจึงไม่เยอะ

          หลังจากอาบน้ำเสร็จพวกผมก็มารวมตัวกันที่หน้าเต้นท์แล้วแบ่งหน้าที่กัน ทั้งคนก่อไฟ คนไปเอาอาหารก็คือดินคนเตรียมสถานที่ คนย่างบาร์บิคิวและหมูสามชั้นจนถึงเวลาสองทุ่มหลังจากที่กินอาหารอิ่มแล้วก็พากันนั่งรอบกองไฟ

           “ทุกคน...นี้ลุงภีร์กับป้าพิมพ์นะลุงภีร์เป็นพี่ชายของพ่อเราส่วนป้าพิมพ์นี้เป็นแฟนลุงภีร์เขาไม่มีลูกเขาเลยชอบชวนเด็กมาเที่ยวที่นี้แหละจะได้หายเหงา”ดินบอก

             “เป็นไงกันบ้างเด็กๆสนุกมั้ย”คุณลุงเจ้าของสถานที่เดินมากับภรรยาหลังจากที่เดินออกมาจากกลุ่มของดาว

           “สนุกครับ/ค่ะ”ทุกคนตอบ

           “ดีเห็นพวกเรามีความสุขลุงก็ดีใจ ว่าแต่เห็นพวกเราแล้วคิดถึงตัวเองตอนหนุ่มๆเนาะ ฮ่าๆๆ”ลุงพูดพลางหัวเราะทำให้ทุกคนหัวเราะตาม “โอเคถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายนะลุงไปแล้ว”

             “ขาดเหลืออะไรก็บอกนะจ๊ะ”ป้าพิมพ์บอกอย่างใจดีทำให้พวกเรายิ่งเกรงใจกันเข้าไปใหญ่

           “นี้มาเล่นเกมส์กันดีกว่า”ปริมพูดขึ้น

             “เกมส์อะไร”เพื่อนดินที่ชื่อเลย์ถาม

             “บอกความจริง หรือทิ้งสังขาร กติกามีอยู่ว่าเราจะส่งฉลากไปให้จับแล้วได้ชื่อใครก็มีสิทธิ์ถามคนนั้นเพียงหนึ่งคำถามเท่านั้นถ้าคนที่ถูกถามตอบความจริงได้ก็ตอบ ตอบไม่ได้หรือไม่ยอมตอบก็ต้องยอมให้ผู้ที่ถามนั้นสั่งเราให้ทำอะไรก็ได้โอเคป่ะ”

             “เออน่าสนุกดีว่ะ”เข้มบอก

             “งั้นเราจับก่อน”ปริมบอกก่อนที่จับฉลากชื่อขึ้นมา “เข้ม”ปริมบอกเสียงโหด “เห็นว่าเป็นคนแรกเอาเบาๆก็แล้วกัน มีแฟนคนแรกอายุเท่าไหร่”คำถามนี้ของปริมเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนได้เป็นอย่างดีครับ

              “สิบขวบ”เข้มบอกเขินๆ

              “โอ้โห้....มึงเนี้ยชอบสาวเป็นตั้งแต่อายุสิบปีเลยหรอวะ”เลย์ทักขึ้น

              “ไม่เห็นแปลกเลยกูยังมีแฟนตั้งแต่เจ็ดขวบ”โอเป็คเพื่อนของดินบอก

              “อ่ะๆต่อไปตาเข้มจับ”ปริมบอกพลางยื่นแก้วใส่ฉลากให้เข้มจับต่อแล้วก็วนไปเรื่อยๆจนมาถึงชื่อดินซึ่งกี้เป็นได้ถามในครั้งนี้

               “ดินมีคนที่ชอบหรือยัง”กี้ถามขึ้นซึ่งผมต้องขอบคุณกี้เหมือนกันเพราะว่าคำถามนี้ผมก็อยากถามเหมือนกันแต่ไม่กล้าซึ่งคำถามนี้ทำให้ทุกคนฮือฮาขึ้นอีกครั้ง ดินคิดก่อนที่จะตอบ

               “มีแล้ว”ดินตอบพร้อมกับยิ้มบางๆทำให้ผมถึงกับใจแป้วไม่รู้ว่าคนที่เขาชอบเป็นใคร ใครคนนั้นคงโชคดีมาก

               “ใคร”กี้ถามจี้อย่างอยากรู้ซะเต็มประดา

               “เฮ้ยๆ ลืมอะไรหรือเปล่าคำถามเดียวแบบนี้ก็ฟาวล์ดิ”ดินบอก

               “เฮ้ออ...อย่างนี้แหละกี้บอกให้กินปลาเยอะๆเวลาจะถามใครจะได้คิดให้รอบคอบ”ปริมบอกกี้ติดตลก

               “จร้า......แม่คนเก่ง”กี้ตอบอย่างประชดประชันก่อนที่จะยื่นกล่องฉลากให้กับดิน

           “ออม!”ดินบอกหลังจากที่คลี่ฉลากออก

           “ฮ่ะ!”ผมอุทาน พร้อมกับค่อยๆหันหน้าไปหาไอ้แบล็คกับไอ้บอม

           “เราจะถามว่า....ตอนนี้ออมมีคนที่ชอบอยู่หรือเปล่าแล้วเขาเป็นใคร แบบนี้ถือว่าสองคำถามหรือป่าว”ดินถามเพื่อความมั่นใจ

            “สอง”กี้บอก

            “งั้นตอนนี้ออมชอบใครอยู่”ทุกคนเงียบตั้งใจฟังกันหมดซึ่งทำให้ผมถึงกับร้อนไปทั้งตัวด้วยความอาย ไอ้เรื่องของคนอื่นนี้คนเรานี้จะต้องอยากรู้อยากเห็นเป็นพิเศษเลยซะจริงๆ

             ผมมองหน้าไอ้เพื่อนทั้งสองคนของผมซึ่งพวกมันก็ทำหน้าตาสิ้นหวังเพราะว่าไม่รู้จะช่วยผมยังไง

             “เราขอไม่ตอบก็แล้วกัน จะให้ทำอะไรว่ามาเลย”ผมตอบเพื่อตัดปัญหา

             “แน่ใจนะ”ดินถามพลางทำหน้าตาเจ้าเล่ห์

             “แน่!”ผมตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

            “จะทำได้เหรอ”ดินถามพลางมองหน้าผมอีกครั้ง

            “ก็บอกมาเถอะน่า”ผมบอกอย่างรำคาญ

            “เออนั้นดิทำไมลีลาจังวะ”ไอ้บอมเสริมทัพ

             “งั้น..คืนนี้ออมนอนนอกเต้นท์นะ”ดินบอกทำให้ผมถึงกับหน้าเหวอเพราะผมไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายกับผมขนาดนี้ถ้ารู้ว่าชวนมาแล้วจะมาทำใจร้ายแบบนี้นะทีหลังผมจะไม่มาเลย

              “เออก็ได้”ผมตอบงอนๆทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์เพราะมันเป็นกฎที่ต้องเล่นตามอยู่แล้ว “ไปนอนเต้นท์ไอ้แบล็คก็ได้"ผมตอบอย่างเคืองๆ

       “อะไรใครบอกมึงว่าจะให้นอนด้วย”ไอ้แบล็คบอกอย่างผลักไส"ดูสิครับคนเรากับเพื่อนนี้ไม่มีที่จะช่วยมันดูมีความสุขด้วยซ้ำไปที่เห็นผมโดนแกล้งแบบนี้ไอ้เพื่อนเลว

        “ล้อเล่นหรอก”ดินบอกขำๆทำให้ผมดีใจขึ้นหน่อย “แค่นอนพื้นก็พอ”ถึงจะยังใจร้ายอยู่ก็ชั่งเถอะแต่ยังไงก็ไม่ได้นอนข้างนอกถือว่ายังเป็นโชคดีของผม

         “ต่อไปตาเรา”ผมบอกก่อนที่จะเอากล่องฉลากมาจากดินแล้วจับชื่อออกมา “โอเป็ค” ผมบอกเมื่อเปิดฉลากออก “มีแฟนมาแล้วกี่คน ไม่เอาคนคุยนะ”ผมถามแบบไม่คิดเพราะไม่รู้ว่าจะถามอะไรเพราะคำถามแซ่บๆคนอื่นเขาก็ถามไปหมดแล้ว

          “ถ้าไม่นับที่คุยนะ” โอเป็คบอกก่อนที่จะเริ่มนับนิ้ว

          “เอาตีนกูไปนับด้วยมั้ย”วินถามเมื่อเห็นโอเป็คนับอยู่นานซึ่งทำให้เพื่อนๆหัวเราะขึ้น

           “เผือก”โอเป็คด่าวิน “ก็ประมาณสิบห้าคนได้มั้ง”โอเป็คตอบ “ก็กูเริ่มมีแฟนตั้งแต่ ป.1ไงจะแปลกอะไรเล่า” โอเป็คบอกเมื่อเห็นทุกคนทำหน้าอึ้งๆก็แหมคนอะไรจะไปเคยมีแฟนขนาดตั้งทีมฟุตบอลหญิงได้ขนาดนั้นล่ะครับผมยังไม่เคยมีเลย

           “แบล็ค”โอเป็คบอกหลังจากที่จับฉลากขึ้น “งั้นขอถามเบาๆแล้วกัน”โอเป็คบอก “จูบแรกของมึงเป็นใคร”

              “ฮู้วววววววววววว”ทุกคนอุทานขึ้นให้กับทำถามของโอเป็คที่เผ็ชพอสมควรแล้วพากันหันหน้าไปรอคำตอบจากไอ้แบล็ค แต่ไอ้แบล็คนี้สิครับ กลับทำท่าเลิ่กลั่กหน้าแดงให้กับคำถามซึ่งผมก็ทราบคำตอบ ผมล่ะอดสงสารมันไม่ได้จริงๆเพราะคงจะแทงใจดำมันเหมือนกัน

              “เอ่อ...กู..กูขอทำแทนก็แล้วกันไม่อยากตอบ”ไอ้แบล็คบอก

              “โหยอะไรวะไม่ใจเลย”เข้มบอก

        “เอ้าก็คนเขาไม่อยากบอกอ่ะ”ปริมสวนกลับแทนไอ้แบล็คเพราะคงรู้ว่ามันไอ้อยากตอบจริงๆดูจากสีหน้าของมันที่เปลี่ยนไปก็หน้าจะรู้

         “แน่ใจนะ”โอเป็คถามขึ้นพร้อมกับสีหน้าเจ้าเล่ห์ของผู้ชนะอีกตามเคย

         “เออ”ไอ้แบล็คบอกอย่างปัดรำคาญ

         “กูขอสั่งให้คืนนี้มึงไปนอนเต้นท์เดียวกันกับไอ้วิน”โอเป็คบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง

         “เฮ้ย!”ไอ้แบล็คอุทานขึ้น ทุกคนต่างก็มองหน้ากันครับเพราะรู้ว่าสองคนนี้เป็นยังไงกัน “เอาอันอื่นไม่ได้หรอวะ”ไอ้แบล็คบอกอ้อนๆ

           “ก็ได้นี้กูใจดีหรอกนะ ถ้างั้นมึงก็ย้ายที่นอนกับกูก็แล้วกัน”โอเป็คบอกพร้อมกับยิ้ม

            “ค่อยยังชั่วแล้วมึงนอนเต้นท์ไหน”ไอ้แบล็คถาม

            “เต้นท์เดียวกันกับไอ้วิน”โอเป็คตอบ

            “เฮ้ย!!!”ไอ้แบล็คอุทานขึ้น

            “หรือมึงจะตอบคำถามก็ได้นะ”โอเป็คบอกอย่างเหนือกว่าทำให้ไอ้แบล็คคิดอย่างชั่งใจ

            “ก็ได้”ไอ้แบล็คตอบหน้าเศร้า

            “ถ้าไม่อยากมาขนาดนั้นก็ไม่ต้องมาก็ได้จะไปหานอนที่อื่นก็ไปดิกูอยากนอนเต้นท์เดียวกันกับมึงตายแหละ”วินบ่นออกมาอย่างฉุนๆ

            “เออกูไปแน่กูไม่อยากนอนร่วมกับคนอย่างมึงเหมือนกันแหละรังเกียจ”ไอ้แบล็คเถียง

             “กูก็...”

             “พวกมึงสองคนหยุดเลยนะ”เลย์ตวาดขึ้นทำให้ทั้งสองเงียบ

             “นี้ไงกูถึงอยากให้พวกมึงอยู่ด้วยกันเกลียดกันอะไรนักหนาวะคืนนี้อยู่ด้วยกันให้กระอักเลือดไปเลยนะมึงแล้วมึงไอ้แบล็คห้ามไปนอนที่อื่นถ้าไม่อยากนอนก็ตอบ จบนะ เสียบรรยากาศหมดเลย”โอเป็คร่ายยาวออกมาอย่างอารมณ์เสีย

              “ถ้างั้นก็มาร้องเพลงกันดีกว่า”เข้มชวนขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้เลวร้ายไปกว่าเดิม พวกเราก็ร้องเพลงแหกปากกันอย่างสนุกสนานโดยที่มีวินเป็นคนดีดกีต้าร์ตามประสาวัยรุ่น

               “เอ้าไอ้ดินเอากีต้าร์ไปดิกูเหนื่อยแล้ว”วินบอกพลางส่งกีต้าร์ให้ดินหลังจากดีดไปหลายเพลงดินรับมาทำให้เกิดเสียง กรี๊ดดังมาจากไกลๆแต่ไม่แรงมาก พร้อมกับใครคนหนึ่งที่เดินเข้ามา

               “พี่ดินดาวกับเพื่อนมานั่งด้วยได้มั้ย”ดาวถามเมื่อมาถึง “คือเพื่อนดาวอยากมานั่งด้วยอ่ะ”ดาวบอก

               “เออก็ดีนะกี้กับปริมจะได้มีเพื่อนผู้หญิงด้วย”ไอ้บอมบอก ทุกคนก็ต่างบอกว่าหลายคนก็น่าจะสนุกดี “เอาสิ”ดินบอกทำให้ดาวดีใจแล้วรีบวิ่งไปบอกเพื่อนๆ

               “ขอนั่งด้วยนะคะ”เพื่อนของดาวพูดขึ้นเมื่อมาถึงวงของพวกผม

               ทุกคนพยักหน้าให้ทำให้เด็กๆต่างพากันนั่งลงตามที่ว่างระหว่างพวกผมเพราะพวกผมไม่นั่งติดกันมาก แต่ส่วนมากจะเป็นที่ว่างระหว่างเพื่อนผู้ชายซะมากกว่า โดยเฉพาะน้องผู้หญิงสองคนที่ไปนั่งลงข้างดินกับวินซึ่งก็นั่งใกล้เกินไปจนน่าเกลียด

                “โหยเด็กมอสี่เดี๋ยวนี้กล้าดีเนาะถ้าเรากล้าแบบนี้ตั้งแต่สมัยก่อนคงไม่ต้องนกแบบนี้”ปริมกับกี้กระซิบพวกผมไม่รู้ว่าที่พูดนี้ต้องการชื่นชมหรืออะไร

                 เมื่อดินเริ่มดีดกีต้าร์ร้องเพลงน้องผู้หญิงสองคนนั้นซึ่งค่อนข้างที่จะน่ารักก็พากันออกลีลาโยกตัวไปมาผมไม่ได้พูดเว่อร์หรอกครับที่พูดว่าลีลาเพราะทั้งสองคนโยกไปก็เอาไหล่สีดินไป เอาหัวไปซบไหล่บ้างซึ่งทำให้ผมถึงกับตาโต ผมเริ่มหูร้อนขึ้นมาพลางอยากจะเดินไปกระชากตัวดินออกมาจากตรงนั้นซึ่งผมก็ทำไม่ได้ นั้นยิ่งทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น ดินก็อีกคนนะไม่รู้จักห้ามปรามเด็กมันบ้างกลับไปร้องเพลงว่านเสน่ห์เข้าไปอีก 

            “เราไปนอนก่อนนะ”ผมบอกทุกคนก่อนที่จะยืนขึ้น

           “อ้าว..ทำไมรีบไปนอนเร็วจังอ่ะ”ดินถามพลางมองหน้าผมอย่างไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เกิดขึ้น

           “ง่วง!”ผมตอบกระแทกเสียงก่อนที่จะเดินออกจากกลุ่มแล้วไปที่เต้นท์

           “สงสัยง่วงหนักมันชอบเป็นแบบนี้แหละโมโหนอน”ไอ้บอมพูดตามหลัง

           “มีด้วยหรอโมโหนอนเคยได้ยินแต่โมโหหิว”เสียงเข้มถาม ก่อนที่จะได้ยินเสียงทุกคนหัวเราะผม

           ผมจึงรีบเดินเข้าไปในเต้นท์เมื่อเข้ามาในเต้นท์ผมก็นั่งลงบนที่นอนก่อนที่จะมองไปที่เตียงตรงข้ามซึ่งทำให้ผมอดที่จะคิดถึงไอ้เจ้าของเตียงใจง่ายนี้ซะไม่ได้ผมจับหมอนที่เตียงผมขึ้นมาก่อนที่จะโยนไปใส่เตียงตรงข้ามอย่างเต็มแรงและไปหยิบหมอนของเขามาก่อนที่จะเริ่มด่ามันราวกับว่ามันเป็นคนที่กำลังนั่งน่าระรื่นอยู่กับพวกสาวๆ

           “ไอ้คนใจง่าย คงชอบล่ะสิ ชอบนักใช่มั้ยขาวๆ น่ารักๆ เอ็กซ์ๆอ่ะชอบล่ะสิ” ผมมองมันไปก็เริ่มเห็นเป็นหน้าของดินปรากฏขึ้นมาล้อเลียนผม ผมจึงโยนหมอนทิ้งอย่างหมั่นไส้

           “ออม”เสียงของดินดังขึ้นทำให้ผมถึงกับสะดุ้งโหยง

           “อะไร”ผมถามเมื่อดินเดินเข้ามา

           “ทำไมรีบเข้ามาอ่ะ”ดินถามอีกครั้ง

           “ก็เราบอกว่าเราง่วงไง”ผมบอกงอนๆ

           “ง่วงทำไมไม่นอนล่ะ”ดินถามพร้อมกับมองหน้า

           “ก็กำลังจะนอนนี้ไง แล้วเข้ามาทำไมไม่นั่งต่อล่ะกำลังสนุกไม่ใช่หรอ”ผมถาม

           “เราก็ง่วง”

       “ฮ่ะ!”

       “ทำไมอ่ะ ทีออมยังง่วงได้เลย”เขาตอบพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

        ผมล้มตัวลงนอนที่เตียงก่อนที่จะคิดได้ว่าเขาบอกให้นอนพื้นผมจึงเอาหมอนวางลงบนพื้นแล้วนอนลงกับพื้น

        “ออมทำอะไรอ่ะ”ดินถาม

        “ก็บอกให้เรานอนที่พื้นไม่ใช่หรอ”ผมตอบอย่างประชดประชัน

        “เฮ้ยเราล้อเล่นขึ้นมานอนบนเตียงเถอะ”ดินบอก

        “ไม่”ผมตอบงอนๆ

        “ออมเราแค่พูดเล่นเองไม่ต้องทำจริงก็ได้”

        “ไม่”

        “ถ้างั้น”ดินพูดพลางเอาหมอนมาวางลงที่พื้นแล้วนอนลงที่พื้นเหมือนกัน

         “ดินทำอะไรเนี้ย”ผมถามเขาอย่างไม่เข้าใจ

         “ก็จะนอนที่พื้นนี้ไง”

         “ทำไม”

         “ก็ทีออมยังนอนได้เลยเราก็จะนอนบ้าง”ดินตอบอย่างไม่ยอมแพ้

          “เราหมายความว่าทำไปทำไมเพื่ออะไร”ผมถามเขาอย่างเหนื่อยอ่อนไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไงกับผมกันแน่

          “ก็ออมไม่ยอมขึ้นไปนอนบนเตียง เราก็จะนอนนี้เป็นเพื่อนออมไง”

          “แต่...”

          “ออมนอนได้เราก็นอนได้”บอกพลางมองหน้าผม

          “ดินเป็นคนสั่งให้เรานอนเองนะ”ผมบอก

          “ออมคำพูดของเราสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ”เขาตะคอกใส่ผมอย่างมีอารมณ์

          “สำคัญสิสำหรับเรามันสำคัญมาก”ผมบอกเขาอย่างสื่อความหมายแต่ผมกับรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ทั้งเรื่องข้างนอกทั้งที่เขาตะคอกผมผมไม่รู้จะน้อยใจยังไงได้อีกแล้ว แต่ความจริงเรื่องมันก็เกิดจากความงี่เง่าของผมเองแหละที่คิดอยากเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเขา

       “ออมคือเรา...”ดินพูดอย่างรู้สึกผิด

       “ไม่เป็นไรหรอกเรามันงี่เง่าเองแหละ”ผมบอกก่อนที่จะหลบตาเขาแล้วหันหลังให้เขา

       “ออมเราขอโทษ”เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ถ้าคำพูดของเรามันสำคัญขนาดนั้นนะ เราจะไม่สั่งออมแต่เราจะขอให้ออมขึ้นไปนอนบนเตียงเถอะนะพื้นมันแข็งเป็นดินอีกต่างหากมาพักผ่อนทั้งที่ก็นอนที่ที่มันสบายเถอะนะ”ดินบอก เมื่อเขาพูดเสร็จผมก็คิดอยู่สักครู่ก่อนที่คำพูดของเขาจะทำให้ผมใจสั่นไม่คิดว่าเขาจะแคร์ผมขนาดนี้ หรือเขาทำแบบนี้กับทุกคนผมก็ไม่ทราบ ผมค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับถือหมอนขึ้นไปบนเตียงด้วย แล้วจึงนอนลงบนเตียงพร้อมกับหันหลังให้เขาเพราะยังงอนๆเรื่องรุ่นน้องผู้หญิงสองคนนั้น

         “ฮึๆ”เสียงดินหัวเราะเบาๆแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ จนผมนอนไปสักพักก็นอนไม่หลับเพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องที่กองไฟ

         “ทำไมรีบเข้ามาเรารู้นะว่าดินไม่ได้ง่วง”ผมถามทำลายความเงียบในเต้นท์ขึ้น แต่เขาก็ไม่ตอบสงสัยหลับไปแล้ว

         “เราอึดอัด”เขาตอบขึ้น

         “หรอนึกกว่าชอบซะอีก”ผมถามพลางประชดเขา

         “ทำไมคิดงั้นอ่ะ”ดินถามพลางได้ยินเสียงเขาพลิกตัว

         “ก็ไม่รู้สิเห็นนั่งร้องเพลงหน้าระรื่นเชียว”ผมตอบทั้งที่ยังหันหลังให้เขาอยู่

         “ฮึ ออมลองคิดดูนะว่าถ้าหากเราทำท่าจะกันน้องเขาออกหรือเราลุกหนีโดยที่ไม่มีสาเหตุน้องเขาจะรู้สึกยังไง ในใจเราคิดว่าถ้าร้องเพลงจบจะเอากีต้าร์ให้ไอ้วินแล้วก็เปลี่ยนที่นั่งอยู่แล้วเพราะเราก็อึดอัด เราไม่ได้ชอบให้คนมาเซ้าซี้เรามากหรอกนะยิ่งทำตัวน่ารำคาญเรายิ่งไม่ชอบ”ที่เขาพูดมาทำให้ผมรู้เลยครับว่าที่ผมทำมาตั้งแต่อยู่กองไฟจนถึงตรงนี้เขารู้สึกยังไง “ถ้า....”เขาเว้นวรรคไว้นาน

         “ถ้าอะไร”ผมพลิกตัวกลับไปถามอย่างสงสัยไม่ได้ก็ทำให้เห็นกับดวงตาของเขาที่กำลังจ้องมองผมอยู่

         “ถ้าคนนั้นไม่ใช่คนที่เราแคร์”เขาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่นมาให้ผม ทำให้ผมหน้าขึ้นสีทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เขาแคร์คือใคร ผมจึงหันหลังให้เขา

          “คนคนนั้นคงโชคดีมากเนาะ”ผมบอก

          “ไม่หรอกเขาซื่อบื้อจะตาย”เขาบอกติดตลก

           “คนนั้นน่ารักมั้ย”ผมถาม

          “ไม่อ่ะ หน้าตาก็ธรรมดาๆ”ดินบอกซึ่งผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจว่าดินไปชอบคนแบบนั้นทำไม “ฝันดีนะออม”เขาบอกก่อนที่จะปิดโคมไฟที่หัวเตียง

          “อื้ม...”ผมตอบเขายิ้มๆถึงผมจะไม่รู้ว่าคนที่เขาแคร์คือใครก็ชั่งมันเถอะอย่างน้อยคนคนนั้นเขาก็คงซื่อบื้อแถมไม่น่ารัก ไม่แน่พอถึงเวลานั้นดินอาจจะมาชอบผมแทนคนซื่อบื่อคนนั้นก็ได้ใครจะไปรู้









ช่วยเมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สิบเอ็ด วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า

วันจันทร์(สีเทา**-x-**)

       “ออม..ออม..ตื่น..ออม..”เสียงปลุกของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆผมพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้น จึงพบว่าเป็นดิน

       “อารายหรอ...”ผมพูดงัวเงีย

       “ตื่นเร็วไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน”ดินบอกก่อนที่จะดึงตัวผมลุกขึ้น

        “กี่โมงแล้ว”ผมถามเขาทั้งๆที่ยังงัวเงียอยู่

         “ตีห้า”ดินบอก

         “ฮ้ะ! ตีห้า กราบล่ะขอนอนต่อเถอะ”ผมบอกพลางล้มตัวลงอีกทีแต่ดินไม่ยอมเขาหามปีกผมออกมาหน้าเต้นท์สัมผัสกับอากาศเย็นในตอนเช้าทำให้ผมเริ่มสดชื่นมากขึ้น

         “เอ้านี้”ดินบอกพลางยื่นแปลงที่แบบยาสีฝันใส่แล้วพร้อมกับแก้วน้ำมาให้ผมจึงรับมันมาก่อนที่จะเริ่มแปลงฟัน

         “คนอื่นเขาตื่นกันหรือยัง”ผมถามทั้งที่แปลงยังคาปากอยู่

         “คงยังไม่มีใครไปหรอกพวกนั้นกว่าจะนอนก็คงจะปาเข้าไปตีสองตีสามนู้นแนะคงไม่มีใครตื่นไปหรอก”ดินบอก ผมจึงพยักหน้าบอกว่าเข้าใจแต่จะคิดไปก็ดีไม่น้อยเพราะผมจะได้อยู่กับดินสองต่อสอง แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าจะมีโอกาสมากเป็นพิเศษ

         “เสร็จแล้ว”ผมบอกดินพลางเช็ดหน้า

         “เอ้านี้!!!ตอนเช้าอากาศมันเย็น”ดินพูดพลางเอาเสื้อแขนยาวของเขามาคลุมหัวผม ผมจับมันขึ้นมาใส่ยิ้มๆ เพราะว่ามันเป็นกลิ่นที่ดินใช้อยู่ทุกวัน “นี้ด้วย”ดินพูดพลางยื่นไฟฉายยื่นไฟฉายมาให้ผม

        “ขอบใจ”ผมบอกก่อนที่จะรับมา

        “ถ้างั้นไปกัน”ดินบอก ก่อนที่จะออกเดินนำหน้าผมไปผมเดินตามไปพร้อมกับสูดเอาอากาศในตอนเช้าที่เย็นสดชื่นจนชุ่มปอดการที่ได้อยู่กับธรรมชาติว่าดีแล้วการที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติกับคนที่เรารักมันดีกว่ากันหลายเท่าเลยครับ

         ผมเดินตามดินไปเรื่อยๆพลางมองขึ้นไปบนฟ้าก็เห็นว่าฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี เพราะในขนาดนี้เริ่มมีแสงจากดวงอาทิตย์เริ่มปรากฏขึ้นมาทำให้ฟ้าเริ่มเป็นสีเขียวและเหลืองปนกันไป

         “พักก่อนได้ป่ะ แฮ่กๆ...”ผมถามดินเมื่อเดินมาประมานสองกิโลเมตรได้

          “ทนหน่อยนะ อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว”ดินบอกแต่ก็หอบนิดๆ ผมมองนาฬิกาตอนนี้ก็เพิ่งจะตีห้าครึ่ง ไม่รู้ว่าดินจะรีบไปไหน

           “ดินนี้เพิ่งจะตีห้าครึ่งเองนะ”ผมบอกเขาพลางทำหน้างอแง

            “เฮ้ย!จริงดิ”ดินพูดด้วยน้ำเสียงตกใจพร้อมกับจับข้อมือของผมขึ้นมาดูเวลา “ออม”ดินเรียกพลางมองหน้าผม ผมเลิกคิ้วตอบ “เดินต่อไหวป่ะ”ดินถาม ผมส่ายหัว “เราต้องรีบแล้ว”ดินบอก

           “ถ้างั้นดินไปก่อนเลย”ผมบอกเพราะไม่อยากให้เขาช้าเพราะผม

           “ไม่!แล้วอีกอย่างเราปล่อยออมให้อยู่ตรงนี้คนเดียวไม่ได้หรอก”ดินพูดพร้อมกับมองหน้าอย่างสื่อความหมาย

            “แต่เราไม่ไหวแล้วพักอีกซักห้านาทีได้มั้ย”

            “มันก็ไม่ทันน่ะสิ”ดินบอกพลางคิด “ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้มั้ย”

            “เอาแบบไหน”

            “ออมมาขี่หลังเรา”

            “ฮะ!ขี่หลังหรอ”ผมถามออกไปอย่างไม่แน่ใจเพราะผมก็ค่อนข้างที่จะตัวหนักอยู่พอสมควรแล้วอีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายด้วยไง

             “อื้ม...เร็วเข้าเดี๋ยวไม่ทัน”

             “แต่...”

            “น่าออม...”เขาบอกผมน้ำเสียงจริงจัง

            “เราเดินก็ได้”ผมบอกก่อนที่จะลุก

             “อ้าวแล้วไหนว่าเดินไม่ไหวไง”เขาถามพร้อมกับมองหน้าผม

         “ไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน”ผมตอบปัดๆเขาจึงเดินนำหน้าผมไปแต่คราวนี้เขาเดินเร็วมากกว่าตอนแรกแล้วหลังเป็นทางขึ้นเนินซะส่วนใหญ่จึงทำให้ผมเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิมรวมทั้งขาของผมในตอนนี้ก็เริ่มจะก้าวต่อไปไม่ไหวแล้ว

            “ดิน..แฮ่กๆๆ”ผมเรียกดินพร้อมกับยืนหอบ

             “อ้าวออม”ดินหันมามองพร้อมกับเดินเข้ามาหา “เป็นไง ไหวหรือเปล่า”

              “ไม่..”ผมพูดพร้อมกับส่ายหัว “ดิน... ไป... ก่อนเลยนะ”ผมบอกพร้อมกับเอามือเท้ากับเข่าทั้งสองข้าง

             ดินมองผมไม่พูดอะไรแต่ในใบหน้าก็เหมือนกับคิดอะไรอยู่ ส่วนผมก็ได้แต่หายใจหอบจนตัวงอ

            “เฮ้ยดิน!”ผมตะโกนขึ้นเมื่อดินดึงมือของผมออกจากเข่าทั้งสองข้างทำให้ผมถึงกับหัวทิ่มแต่โชคดีที่เขาเอาหลังของเขามารองไว้ก่อนที่จะเอามือทั้งสองข้างของผมไปเกี่ยวที่คอของเขาพร้อมกับช้อนเข้าที่ขาทั้งสองข้างของผมก่อนที่จะลุกขึ้น “เฮ้ยๆๆๆ ดินทำอะไร”ผมตกใจมากจนลืมเหนื่อยไปเลย

          “ก็เหนื่อยไม่ใช่หรอแบบนี้และดีที่สุดแล้ว”เขาบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้ผม

         “แต่..”

        “ไปแล้วนะ”ดินไม่ฟังพร้อมกับออกวิ่ง

         “อ้ากกก”ผมร้องขึ้นด้วยความตกใจ

           “ฮ่าๆๆๆๆ”ดินหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นผมร้องขึ้นด้วยความตกใจ แต่ผมก็ต้องยอมเขาจริงๆนะครับที่เขาสามารถแบกผมพร้อมกับวิ่งได้แสดงว่าเขาก็ต้องแข็งแรงมากพอดู แต่ผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากหรอกครับเพราะเขาออกกำลังกายทุกวันรวมทั้งเตะบอลอีกมันคงช่วยทำให้ขาของเขาแข็งแรงเป็นพิเศษไม่เหมือนผมที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย

             เขาวิ่งต่อไปซักพักก็ค่อยๆเดินช้าลง สงสัยคงเหนื่อยสมน้ำหน้าชอบแกล้งผมดีนัก แต่เวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขามันชั่งเป็นช่วงเวลาที่ดีซะเหลือเกิน พอลองคิดดูว่าจะมีซักกี่คนที่จะมีโอกาสได้ทำแบบนี้กับคนที่ตัวเองชอบบ้างแล้วก็ยิ่งทำให้ผมทั้งเขินทั้งมีความสุขเข้าไปใหญ่จนต้องเอาหน้าไปมุดเข้ากับหลังของเขาแก้เขิน

             “ถึงแล้ว”ดินบอก ทำให้ผมได้สติจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากไหล่ของดินพร้อมกับมองไปยังภาพตรงหน้า

             ภาพตรงหน้าของผมในขณะนี้มันช่างเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกินเพราะมันเป็นภาพของพระอาทิตย์สีแดงดวงโตที่ค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมาจากทิวเขาน้อยใหญ่แสงสีทองของมันค่อยๆเปลี่ยนสีภูมิทัศน์ ที่อยู่ตรงหน้าและรอบกายของผมกับดินให้สวยงามขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับรวมกับที่มีหมอกบางๆอยู่ด้านล่างบวกกับเสียงนกในยามเช้าแล้วยิ่งเพิ่มความสวยงามและบรรยากาศให้น่าชมเข้าไปใหญ่แถมมันยังโรแมนติกแบบสุดๆ

           “ออม”ดินเรียกผม

           “หื้ม”

           “เป็นไงบ้างสวยหรือเปล่า”

          “สวยมากเลย เราขอบใจดินมากนะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”ผมบอกเขาด้วยน้ำเสียงดีใจ

          “ไม่เป็นไร แต่ว่า....เราหนัก”ดินบอกจึงทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมยังไม่ได้ลงจากหลังเขาเลย

           “อุ้ย...โทษที”ผมบอกพร้อมกับกระโดดลงจากหลังเขา “หนักมากป่ะ”ผมถามเขาเขินๆ

           “ที่สุดเลยไปกินตัวอะไรมาหรือเปล่าทำไมหนักจัง”เขาพูดพลางหันมามองหน้าผมพร้อมกับบิดตัวคลายเหมื่อย

          “บ้า เว่อร์ล่ะ”ผมพูดเคืองๆ

          “ฮ่าๆๆ ล้อเล่น....แล้วเป็นไงคุ้มป่ะ”

          “ถ้ารู้ว่าจะสวยขนาดนี้นะเราจะไม่งอแงเลย”ผมบอกพร้อมกับมองวิวด้านหน้าแล้วเดินไปอยู่ข้างดิน

          “ออม”ดินเรียก

          “ฮื้อ..”

          “ออมอยากรู้ป่ะว่าคนซื่อบื่อที่เราชอบเขาเป็นใคร”ดินถามขึ้น

          “....” ทำให้ผมหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับหัวใจเต้นแรงให้กับคำถามของเขา

           ดินเลิกคิ้วขึ้นอย่างขอคำตอบ ผมจึงพยักหน้าให้เขาพร้อมกับลุ้นคำตอบว่าชื่อที่เขาจะเอ่ยออกจากปากของเขาต่อไปนี้จะเป็นชื่อของใคร

         “เรา...เรา....เราชอบ....แล้วทำไมต้องลุ้นขนาดนั้นด้วยเนี้ยเรากดดันนะ”ดินบอกพลางมองหน้าผมยิ้มๆ

        “เปล่าลุ้นซักหน่อย..”ผมบอกไปเขินๆ “งั้นเราไม่อยากรู้แล้วก็ได้”ผมปฏิเสธเขาไปเพราะผมก็กลัวคำตอบอยู่เหมือนกัน

        “แต่เราจะบอก”ผมมองหน้าดินอย่างไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ “เราชอบ...”

        “พี่ดิน....”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้ผมกับดินหันกลับไปมองซึ่งทำให้ผมพบกับดาวและเพื่อนของดาวอีกสองคน

       “อ้าวดาวขึ้นมาด้วยหรอนึกว่าจะยังไม่ตื่น”ดินถาม

      “แหมก็มาทั้งทีไม่ขึ้นมาก็เสียเที่ยวอะดิ”ดาวบอก ที่จริงการที่ดาวขึ้นมาก็ดีเหมือนนะครับเพราะผมจะได้ไม่ต้องยอมรับกับความเป็นจริงเร็วเกินไปเพราะสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องไปรับรู้ว่าคนที่ดินชอบเขาเป็นใครเพราะยังไงในตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วก็คงไม่ผิดที่ผมจะเดินหน้าต่อแล้วที่สำคัญที่สุดผมจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกับคนๆนั้นด้วย

         เมื่อดาวขึ้นมาก็ทำให้มีเรื่องคุยกันมากขึ้นแล้วลืมประเด็นที่คุยกันก่อนหน้านี้ไป ซักพักพวกผมจึงเดินลงมาจากหน้าผาที่ขึ้นไปชมวิว แต่ว่าขาลงจะสบายกว่าขาขึ้นมากครับเพราะมันจะเป็นทางลาดซะส่วนใหญ่ เมื่อลงมาถึงข้างล่างผมถึงแยกตัวออกไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวออกไปทานข้าวเช้ารวมกับคนอื่นที่มานั่งอยู่ก่อนแล้ว

        “มึงไปไหนมา”ไอ้แบล็คถามขึ้นเมื่อผมนั่งลงข้างๆ

        “ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นมา”ผมบอกไปตามตรง

       “ที่ไหนอ่ะ”ปริมถาม

        “ไม่รู้ดิ ดินพาไปแต่ว่าทางขึ้นไปเนี้ยโคตรลำบากเลย”

        “แหมเดี๋ยวนี้ไปไม่เห็นชวนเพื่อนเลยนะ”ไอ้แบล็คแซวขึ้น

        “เอ้า ก็พวกมึงเข้ามานอนดึกไม่ใช่หรอเลยไม่อยากกวนอีกอย่างดินก็พากูไปแบบไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน”ผมบอกไปตามตรง

          “โหยย ที่จริงก็หน้าจะชวนกันบ้างนะเผื่อว่าคนอื่นเขาจะอยากไปด้วยไงเล่นแอบไปกันสองคนไม่ให้คนอื่นรู้แบบนี้ ถ้าไม่รู้จักก็นึกว่าแอบคบกันอยู่นะเนี้ย”กี้พูดขึ้นทำให้ผมถึงกับสำลัก

           “จะบ้าหรอกี้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ

           “เอ้า! เราก็แค่ล้อเล่นเอง”กี้บอกอย่างไม่ใส่ใจ ซึ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลยเพราะก็แอบกลัวอยู่เหมือนกันเพราะไม่รู้ว่าที่กี้พูดแบบนี้ไปรู้อะไรมาหรือเขาจะรู้ว่าผมแอบชอบดินหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้

           หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วพวกผมจึงไปรวมตัวกันที่หน้าเต้นท์เพราะมีแพลนว่าจะให้ลุงของดินกับคนงานของเขาพาขึ้นไปเดินป่าส่องนก ซึ่งเมื่อลองคุยกับลุงของดินแล้วท่านก็เต็มใจที่จะพาเดินไปป่าส่องนก พร้อมกับบอกพวกผมว่าจะไปเล่นน้ำตกอีกต่างหากและยังบอกให้คนงานไปเอากล้องส่องนกมาให้พวกผมลุงของดินนี้ใจดีที่สุดเลย

          พวกผมจึงเริ่มออกเดินทางในตอนสายๆไม่นานนักลุงของดินก็พาพวกผมเดินทางมาจนถึงชายป่าซึ่งเป็นจุดไกลจากแคมป์พอสมควร

          “ออม”ไอ้แบล็คเรียกพลางสะกิดผม

          “ฮื้ม”ผมขานรับพลางหันหน้าไปหามัน

         “กูกลับไปเอาของก่อนนะเดี๋ยวตามมา”ไอ้แบล็คบอกเสียงเบา

         “เอ้าแล้วทำไมมึงไม่บอกลุงของดินวะเขาจะได้รอ”ผมบอก

         “ไม่เอาไม่ต้องรอกูนะเสียเวลา”

         “แล้วมึงจะตามมาถูกได้ยังไงวะ”ผมถาม

        “เออ เดียวกูบอกให้ลุงคนงานอีกคนพาขึ้นมาก็ได้บอกว่าลุงของไอ้ดินสั่งก็น่าจะพาตามขึ้นมาแหละ”ไอ้แบล็คบอกทำให้ผมเบาใจเพราะไม่อยากให้มันพลาดตอนที่ไปเล่นน้ำตก

         “งั้นก็รีบตามมาล่ะ”ผมบอกมันก่อนที่จะเดินต่อ

          ระหว่างทางพวกผมก็ค่อนข้างที่จะเงียบมากครับเพราะว่าถ้าหากเสียงดังนกจะตกใจบินหนีกันไปหมด แต่ว่าจนพวกผมเดินมาถึงน้ำตกกันก็ไม่เห็นว่าไอ้แบล็คจะตามขึ้นมาสงสัยคงเป็นเพราะนิสัยขี้เกียจของมันอีกตามเคยนั้นล่ะครับ ผมล่ะเสียดายแทนมันซะจริงๆเพราะน้ำตกแห่งนี้น้ำใสมาก ใสจนถึงขั้นว่ามองเห็นก้อนหินที่อยู่ในน้ำแทบจะทุกก้อน

          “เป็นไงบ้างเด็กๆชอบกันมั้ย”ลุงภีร์ถามขึ้น

          “ชอบครับ/ชอบค่ะ”ทุกคนตอบ

          “งั้นก็เล่นน้ำกันให้สนุกนะ เดี๋ยวค่อยกลับลงไปกินอาหารข้างล่างลุงบอกป้าพิมพ์เขาเตรียมไว้ให้แล้ว”ลุงภีร์บอกอย่างใจดี ทุกคนก็พากันขอบคุณลุงกันท้วนหน้าจนลุงเดินไปนั่งอยู่ที่ข้างลำธาร

          “เฮ้ยไอ้ออม ไอ้แบล็คไปโดดน้ำกัน”ไอ้บอมเรียกขึ้นพร้อมกับชี้มือไปที่กิ่งไม้ที่ยื่นออกไปในน้ำ

          “ป่ะ” ผมบอกอย่างตื่นเต้น

          “ไอ้แบล็คทำไมไม่ตอบวะ ไอ้แบล็ค!”ไอ้บอมตะโกนเรียกไอ้แบล็คขึ้นทำให้ทุกคนหันมามองที่พวกผม

         “เฮ้ย! นี้มึงจะตะโกนทำไมวะ ไอ้แบล็คมันกลับไปเอาของตั้งแต่ตอนอยู่ตีนเขาแล้ว มันว่าจะตามขึ้นมาแต่มันคงขี้เกียจนั้นแหละเลยไม่ตามขึ้นมามึงก็รู้นิสัยมัน”ผมบอกไอ้บอม

          “เอ้า ไอ้นี้มันนี้ไม่รู้เรื่องจริงๆเลย มาเที่ยวทั้งทียังมาขี้เกียจอีก”ไอ้บอมบ่นตามประสามันก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้แล้วกระโดดตีลังกาลงมา ซึ่งผมก็กระโดดน้ำตามมันลงไป

          “เอ้าดินทำไมไม่เล่นล่ะ”ผมถามดินที่ไม่ยอมลงน้ำซักทีพลางขึ้นมาจากน้ำ

         “เราไม่อยากเล่นพอดีว่าเอาชุดมาน้อยไม่คิดว่าจะมาเล่นน้ำด้วย”ดินนบอก

         “เฮ้ยแต่มาเที่ยวทั้งทีนะ”ผมบอก

         “ไม่เป็นไรหรอกเรามาบ่อยแล้ว”ดิน

         “อ้าวหรอ”ผมพูดหงอยก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเขาแล้วก็

        ตู้ม!!!

        “ฮ่าๆๆๆๆๆ”ผมหัวเราะด้วยความสะใจเมื่อผลักเขาลงน้ำได้

        “ออม!”

        “ฮะ เรียกทำไมฮ่าๆๆ”ผมทำท่าทางกวนประสาทส่งไปให้เขา

        “เดี๋ยวก่อนเหอะถ้าขึ้นไปได้จะเจอดี”ดินบอกเสียงเขียว

        “เจออะไรหรอที่ว่าดี ว้ากลัวจังเล้ยยยยยยยยยยยย”ผมทำเสียงล้อเลียนพร้อมกับหัวเราะเขาไม่หยุดจนเขาว่ายน้ำเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วทำให้ผมถอยหลังไปนิดๆ ก่อนที่จะออกวิ่งเมื่อเขาขึ้นมาจากน้ำได้หากแต่ว่าด้วยความที่ว่าผมค่อนข้างขาสั่นไปสักหน่อยรวมกับน้ำหนักของเสื้อผ้าของผมที่อุ้มน้ำอยู่คงทำให้ผมวิ่งได้ยากขึ้น ดินจึงจับตัวผมไว้ได้ทัน ซึ่งอีกส่วนก็คงเป็นเพราะเขาวิ่งเร็วด้วยแหละครับ

        “เฮ้ย ปล่อยเรานะ”ผมตะโกนขึ้น

        “เอ้า!!!อะไรกันเมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลยนี้”ดินบอกเย้ยๆ

        “อย่าให้หลุดไปได้นะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงพยศ

        “เอ้า เก่งอีกแล้ว”ดินพูดล้อๆ “ถ้างั้นต้อง...”เมื่อพูดเสร็จดินก็เอามือมาจี้ที่เอวของผม

         “อ้ากกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆ”ผมแหกปากร้องออกมาเพราะรู้สึกจั๊กกะจี้

         “เป็นไงยังเก่งอยู่มั้ย”ดินพูดเหมือนพูดกับเด็ก

         “ฮ่าๆๆๆๆ เรายอมแล้ว อ้ากกกกกกกก”ผมร้องบอกเพราะตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว

          “ฮ่ะว่าอะไรนะ”เขาหยุดจี้ที่เอวของผมก่อนที่จะเอาหูเข้ามาใกล้ๆ (เดี๋ยวพ่อก็งับเข้าให้หรอก)

            “เรายอมแล้ว”ผมบอกเสียงอ่อน

            “อ้าว ยอมแล้วหรอ แล้วจะให้เราทำไงล่ะ”ดินถามเสียงเจ้าเล่ห์

            “ปล่อยเราไปเถอะนะ”ผมพูดเสียงอ่อน

            “ปล่อยหรอไปสิ”ดินบอก

            “เฮ้ย!ทำอะไรอ่ะ”ผมท้วงเมื่อดินอุ้มผมขึ้น

            “เอ้าก็บอกให้ปล่อยไม่ใช่หรอ”ดินถามเสียงเจ้าเล่ห์

           “ก็ใช่ไง”ผมตอบพลางสั่น

            “นี้เราก็จะปล่อยอยู่นี้ไง”ดินบอกก่อนที่จะเดินไปที่ข้างน้ำตก

            “ดิน ไม่นะ”ผมพูดพลางมองหน้าดินพร้อมกับส่ายหน้า

             “อะไรนะอยากเล่นน้ำได้ๆ”ดินบอกกวนๆ

          “ดินไม่”ผมบอกเขาพร้อมกับกอดเขาไว้แน่น ก่อนที่ดินจะเหวี่ยงตัวผมลงน้ำ “อ้ากกกกกก”

           ตู้ม!!!

           ผมค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากน้ำพลางสำลักก่อนที่จะมองไปที่ดินอย่างอาฆาดแค้น ก่อนที่สาดน้ำใส่เขา

           “เอ้า นี้ยังจะสู้อยู่อีกหรอ”ดินพูดพร้อมกับมองมาทางผม “ได้”ดินพูดก่อนที่จะลงมาในน้ำแล้วเราจึงเริ่มสงครามสาดน้ำนี้โดยที่เพื่อนคนอื่นๆก็เข้ามาร่วมด้วยอย่างสนุกสนานเสียดายก็แต่ไอ้แบล็คที่ไม่ได้มาเล่นด้วย

            พวกเราเล่นน้ำกันอยู่สักพักจึงได้ขึ้นจากน้ำแล้วลงมาที่แคมป์ซึ่งตอนนี้เวลาก็น่าจะประมาณสี่โมงเย็นได้แล้วล่ะครับ เมื่อลงมาพวกผมก็พากันแยกย้ายไปเอาของเตรียมอาบน้ำซึ่งดินก็เข้าไปเอาของเตรียมตัวไปอาบน้ำ แล้วออกไปจากเต้นท์ก่อนผม ผมจึงเดินเข้าไปเตรียมของของผมบ้างระหว่างที่ผมเปิดกระเป๋าแล้วดึงเสื้อออกมาผมก็พบเข้ากับโพสต์อิทสีเหลืองอันหนึ่งที่ติดอยู่กับเสื้อของผม ผมจึงค่อยๆดึงมันขึ้นมาอ่าน

‘เจอกันหน่อยได้มั้ย ที่ตีนเขา

  ห้าโมงเย็น มีเรื่องจะคุยด้วย’ 

                        ดิน

        เมื่อผมอ่านข้อความในโพสต์อิทเสร็จผมก็รู้สึกใจเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าดินจะคุยกับผมเรื่องอะไร มันคงจะเป็นเรื่องสำคัญมากที่ทำให้เขาอยากคุยกับผมสองคน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่คุยกันค้างไว้เมื่อตอนเช้าก็ได้ ผมคิดไปถึงเรื่องราวต่างๆนาที่จะเกิดขึ้นทั้งที่มันก็ยังไม่ เกิดแต่ถ้าหากเป็นไปได้ผมอยากให้เขาบอกคำนั้นกับผมซะมากกว่าคำที่ผมอยากจะฟังจากปากเขามาโดยตลอด

         ผมรีบไปอาบน้ำแล้วมาแต่งตัวเพราะนี้จะสี่โมงแล้วและอีกอย่างผมก็ค่อนข้างที่จะอาบน้ำนานด้วย ผมเดินผ่านดินที่หน้าห้องน้ำเขาก็หันหน้ามายิ้มให้ผม ซึ่งทำให้ผมยิ่งคิดเข้าข้างตัวเองเข้าไปใหญ่ ผมรีบอาบน้ำให้เสร็จเร็วๆก่อนที่จะออกมาแต่งตัวซึ่งผมก็เห็นว่าดินไม่ได้อยู่ในเต้นท์สงสัยเขาคงไปรอผมแล้วเมื่อเป่าผมแห้งเสร็จผมจึงรีบไปที่ตีนเขาพร้อมกับโพสต์อิทของดิน

         ผมเดินไปด้วยอารมณ์ที่ดีเป็นพิเศษเพราะลองคิดๆดูแล้วในวันนี้อาจจะเป็นวันของผมก็ได้ เดินมาได้ซักพักก็ถึงที่หมาย แต่แปลกครับที่ไม่มีใครอยู่เลยทั้งที่มันก็เลยเวลาไปตั้งห้านาทีแล้ว

          “ดิน!”ผมตะโกนขึ้นเสียงดังก่อนที่จะเดินไปรอบๆเผื่อว่าเขาจะแอบอยู่

          “ดิน..... ดิน....ออกมานะไม่งั้นเราจะไปแล้วนะ”ผมบอกหลังจากที่เรียกเขาไปได้ซักพักผมจึงกลับหลังหันเพื่อที่จะกลับไปเต้นท์ ผมนี้เฟลสุดๆเลยครับไม่คิดมาก่อนว่าจะโดนดินแกล้งในลักษณะนี้ยอมรับครับว่าเสียใจมาก แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกไปผมก็ได้ยินกับเสียงฝีเท้าที่เดินมาจากข้างหลังผมซึ่งนั้นทำให้ผมมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าเพราะผมคิดว่าเขาต้องเป็นดิน

          “ออม”เสียงนั้นเรียกผมขึ้นผมจึงหันไปมองก่อนที่จะ

         ผลั๊ว!!!

         โลกทั้งใบของผมจะดับมืดลง.....





#ฝากเม้นให้กำลังใจไรท์หน่อยนะคะ

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สิบสอง คืนสีหมึก

วันจันทร์(สีเทา**-x-**)

       ผมค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกที่หนักอึ้งและเจ็บจี๊ดแล้วเข้ามาที่สมองของผมบ่งบอกว่าผมโดนฟาดเข้าที่ท้ายทอยพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดที่บ่งบอกอีกว่าผมคงจะหัวแตกแน่นอน ผมมองไปรอบๆซึ่งบรรยากาศรอบตัวก็เริ่มค่ำแล้วทำให้เห็นว่าที่นี้ไม่ใช่ห้องหรือบ้านร้างแต่อย่างใดเพราะมันคือป่าและไม่ได้มีแต่ผมที่อยู่ที่นี้กลับมีชายคนหนึ่งใส่ฮู้ดสีดำนั่งก้มหน้าอยู่พร้อมกับพูดพึมพำอะไรซักอย่าง กับโทรศัพท์ซึ่งแสงที่สาดขึ้นมาบนใบหน้าของเขายิ่งทำให้เขาหน้ากลัวมากขึ้นถึงแม้ว่าผมจะไม่เห็นหน้าเขาก็ตาม

         “น่าา..พี่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ”ชายคนนั้นพูดกับหน้าจอโทรศัพท์ของเขา “พี่จะทำให้เรามีความสุข ไม่ ไม่ๆ ไม่เอาอย่าร้องสิ น่าคนที่ทำเราพี่จะทำให้มันเสียใจไม่ต่างจากเธอ น้ำตาที่เธอเสียไปมันจะต้องชดใช้”ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยนปนกับเคียดแค้น พร้อมกับน้ำใสๆที่หยดลงบนโทรศัพท์ ก่อนที่เขาจะมองมาที่ผม ซึ่งนั้นทำให้ผมถึงกับแทบหยุดหายใจ

           “...”ผมหลับตาลงทันทีเมื่อเขาหันมา

           “ฉันไม่อยากทำแบบนี้กับแกเลยนะ ทั้งที่รู้อยู่ว่าแก... แต่ชั่งมันเถอะชีวิตของฉันมันก็ไม่เคยได้รับความยุติธรรมอยู่แล้วหนิ จะเป็นไรไป”เขาพูดเสียงสั่น “แกรู้มั้ยว่าทำไม...”เขาพูดพลางเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมยิ่งทำให้ผมสั่นไปด้วยความกลัว “ทำไมต้องเป็นแก แล้วทำไมแกต้องโดนแบบนี้ ที่จริงฉันเตือนมันตั้งแต่ครั้งนั้นแล้วว่าฉันจะทำให้มันเสียใจไม่ต่างจากฉัน น้องของฉันน้องสาวของฉัน อึก...”เขาพูดพลางสะอื่น “ตื่นสิ ตื่น”ชายคนนั้นพูดพลางเอามือตบหน้าผม ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความหวาดกลัว “สวัสดีออม”เขาพูดเมื่อเห็นผมลืมตาขึ้น

         “คุ..คุณเป็นใครครับ”ผมถามหวั่นๆ

        “ฮ่าๆๆ ฉลาดถามดีหนิ แต่ไม่ต้องรู้หรอก ว่าแต่แกรู้มั้ยว่าฉันพาแกมาที่นี้ทำไม”เขาถามพลางเอาหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้ผมต้องเอียงหน้าหนี

         “ไม่ ไม่รู้ครับ”ผมตอบเขาจึงค่อยๆถอยหน้าออกไปจากผม

          “มันก็แน่อยู่แล้วแกจะมารู้จักฉันได้ยังไงในเมื่อไอ้ชั่วนั้นมันไม่เคยที่จะเล่าความเลวของตัวเองให้แกฟังเลยหรือแม้แต่จะเล่าให้ใครฟัง”เขาพูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น

         “คุณหมายถึงใครครับผมไม่เข้าใจ”

         “ไอ้โง่แกจะไปเข้าใจได้ไงล่ะในเมื่อมันไม่ได้บอกแก”เขาพูดแล้วผลักหัวทำให้หัวผมไปกระแทกกับต้นไม้ซึ่งนั้นทำให้มันเจ็บมากขึ้นกว่าเดิมแต่ผมก็พยามกัดฟันไว้ไม่ให้ร้องออกมา “ไอ้ดิน...”เขาพูดขึ้น

        “ฮ่ะคุณว่าอะไรนะครับ”ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย

        “ไอ้ดินคนที่แกคิดว่ามันเป็นคนดีนั้นน่ะ แกไม่รู้หรอกว่าความจริงแล้วมันก็คือฆาตกร"เขาบอกออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธจัด

         “คุณพูดอะไรของคุณน่ะ”ผมถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

        “ก็ความจริงไง!!!”เขาตะโกนใส่ผม “ความจริงที่น้องสาวของฉันตายเพราะมัน!”คำพูดของเขาทำให้ผมกลัวจนน้ำตาไหล

         “ไม่จริงสิ..”ผมพึมพำเบาๆ

         “ไม่จริงอย่างงั้นหรอ งั้นดูนี้”เขาหยิบโทรัพท์ของเขาขึ้นมาพร้อมกับจับหน้าผมกระชากเข้าไปหามัน

           ภาพที่ผมได้เห็นมันทำให้ผมถึงกับปล่อยโฮออกมาด้วยความกลัว เพราะภาพตรงหน้าของผมเป็นภาพของ ผู้หญิงผมยาวที่มีเชือกแขวนคออยู่กับขื่อใบหน้าของเธอมีสีม่วงจนเขียวรวมทั้งยังลิ้นจุกปากและตาถลน

         ผมกลัวจนตัวสั่นไปหมดแต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วเดินออกไปนั่งที่ขอนไม้

            “น้องสาวของฉันเขาเคยสวยมากจนไอ้ดินเข้ามามันทำให้เธอเปลี่ยนไป แล้วก็เป็นเพราะมันที่ทำให้เธอฆ่าตัวตาย”เขาพูดอย่างโกรธแค้นแล้วหันหน้ามาทางผมพร้อมกับน้ำตาที่เกาะอยู่บนใบหน้า “แล้วในที่สุดฉันก็จะได้แก้แค้นแทนน้องฉันและตัวฉันเอง ฉันไม่ฆ่ามันหรอกมันง่ายไป ฉันจะทำให้มันตายทั้งเป็นเหมือนกับที่ฉันเคยเป็นเจ็บเหมือนที่ฉันและน้องเจ็บ”

          “แล้วคุณจับผมมาทำไม...ฮึก...”ผมถามพลางสะอื้น

         “ไอ้โง่ก็เพราะว่าฉันสูญเสียคนที่รักไปไงล่ะ แล้วมันก็ต้องสูญเสียในแบบเดียวกันกับฉัน”เขาบอกก่อนที่จะตะโกนใส่ผมในประโยคสุดท้าย

       “แต่เขาไม่ได้รักผม”ผมบอกผมค่อยๆกำเศษดินขึ้นมาเต็มกำมือเพราะเขาไม่ได้มัดมือผมไว้

           “มึงไม่ต้องมาตอแหล!!!”เขาตวาดพร้อมกับหันหน้ามาเมื่อถึงผมจึงหว่านมันใส่ตาเขาเข้าไปเต็มๆ “โอ้ยมึง...” ผมผลักเขาลงไปกองกับพื้นก่อนที่จะหยิบกิ่งไม้ที่อยู่ข้างซึ่งผมก็เล็งมันไว้ตั้งนานแล้วมาฟาดเขาไปสองสามที ก่อนที่จะรีบวิ่งหนีสุดแรง ทั้งที่ยังปวดหัวอยู่และมองไม่เห็นทางด้วยซ้ำเพราะในตอนนี้มันมืดสนิทจนมองไม่เห็นทางด้วยซ้ำเพราะต้นไม้ขึ้นหนามากจนแสงสว่างใดๆไม่สามารถที่จะผ่านเข้ามาได้ “มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะ..”เสียงเขาตะโกนตามหลังมาจากไกลๆ ผมวิ่งไปตัวเซไปทั้งที่ไม่รู้ทิศทางแต่ผมก็วิ่งไมยอมหยุด ผมวิ่งไปสะดุดกับก่อนหินล้มจึงลุกขึ้นมาแล้ววิ่งไปต่อ “กูเห็นมึงแล้ว”เสียงของเขาดังมาจากด้านหลังของผม ผมจึงเร่งความเร็วขึ้นอีกพร้อมกับหันไปมองเขาจน...

         ผลั๊ก ตุบๆ ตับ ผลั๊ก ตุบๆ ผลั๊ก

         “อ้ากกกกกกกกก”ผมตะโกนขึ้นเมื่อรู้สึกกับว่าตัวเองนั้นตกลงไปทางลาดของภูเขา “อุ๊ก..”ผมร้องออกมาด้วยความจุกก่อนที่จะมองขึ้นไปด้านบนซึ่งมองไม่เห็นอะไรแต่ยินเสียงคนกำลังเดินอย่างใจเย็น

          “ออม.... ออม... อยู่แถวนี้มั้ย”เสียงของคนดังขึ้นทำให้เสียงของเท้าที่กำลังเก้าเดินอยู่นั้นหยุดลงพร้อมกับแสงไฟฉายที่สาดเข้ามาในแมกไม้ “ออมตอบหน่อย ออม...”

           “ช่วยด้วย!!! ช่วยผมด้วย!!!”ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนขึ้นก่อนที่จะนอนหอบแฮก

           “เฮ้ยนั้นเสียงออมหนิ ออม..ออม”เสียงนั้นเรียกพร้อมกับวิ่งเข้ามาใกล้ทำให้เสียงฝีเท้าของอีกคนหนึ่งดังขึ้นแล้วค่อยๆไกลออกไป เหมือนแสงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้ผม ผมจึงรวบรวมกำลังอีกครั้ง

          “อยู่นี้!!”ผมตะโกนออกไป

         “ออม..”เสียงนั้นร้องขึ้นพร้อมกับแสงจากไฟฉายที่สาดลงมาที่หน้าและร่างกายของผม “เฮ้ย!! ออมใครทำอะไรออม”เสียงนี้ถามขึ้นพร้อมกับพยุงตัวผมขึ้น ผมจึงได้เห็นกับใบหน้าของเขาเขาคือดินนั้นเอง ผมโถมเข้าไปกอดเขาพร้อมกับปล่อยโฮทันทีที่เห็นหน้า ผมคิดมาตลอดว่าต้องเป็นเขาในตอนนี้ผมชั่งกลัวเหลือเกิน ผมสั่นไปทั้งตัวทั้งดีใจหวาดกลัวมันตีกันเต็มไปหมด “ไม่เป็นไรแล้วไม่ต้องกลัวเราอยู่นี้แล้ว”ดินบอก

          ก่อนที่จะลูบหลังอย่างอ่อนโยนแล้วให้ผมขึ้นหลังโดยที่ไม่พูดอะไรแล้วเดินกลับไปที่แคมป์ซึ่งมีรถตำรวจจอดอยู่

         “ดิน ออม...”ป้าพิมพ์ร้องขึ้นเมื่อเห็นพวกผมสองคน “เป็นยังไงบ้าง”

         “อย่าพึ่งถามเลยครับพาออมไปโรงพยาบาลก่อน”ดินบอกเสียงเรียบ

         “จ้ะๆ เมื่อกี้ก็พึ่งจะออกไปคนหนึ่ง”ป้าพิมพ์บอกก่อนที่จะรีบวิ่งไปเอารถ

         เมื่อผมขึ้นมานั่งที่รถได้ก็หลับไปโดยทันทีเหมือนกับว่าร่างกายมันไม่ไหวแล้ว

          ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นคนล้อมเต็มเตียงไปหมด

           “ออม...ออมตื่นแล้วหรอลูก”แม่ร้องเรียกผมทั้งน้ำตา

          “ครับแม่”ผมตอบแม่ไปด้วยเสียงแหบๆ

          “เป็นไงบ้างลูก”พ่อถามขึ้น “มีอะไรเล่าให้พ่อฟังหน่อยได้มั้ย”

           “ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับพ่อ”ผมบอกพ่อยิ้ม

          “เอ่อคุณพ่อคุณแม่ค่ะอย่าพึ่งถามคนไข้เยอะนะคะ”คุณพยาบาลบอก

          “อ่อครับ”พ่อตอบ ผมมองไปรอบๆห้องก่อนที่จะเห็นดินกับป้าพิมพ์นั่งอยู่ที่โซฟา

            “แล้วที่บ้าพิมพ์ว่ามีคนเข้าโรงพยาบาลอีกคนใครหรอครับ”ผมถาม

           “แบล็ค”ดินตอบ “ไอ้วินมันไปเห็นนอนสลบอยู่ที่ชายป่าตอนออกไปตามหาออม”ดินบอกเสียงหงอยๆ

          “เฮ้ย มันเป็นอะไรมากป่ะ”ผมถาม

          “ขาหักอ่ะ”ดินบอกผู้ใหญ่ก็ต่างพากันเงียบและทำขรึมกันทุกคน

         “ทำไมอ่ะใครทำ”ผมตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำตอบ ดินไม่ตอบแต่กลับส่ายหัว

         “แบล็คมันบอกว่ามัน เห็นคนใส่ฮู้ดดำเดินเข้าไปในเต้นท์ของเราตอนที่มันลงมาเอาของตอนที่เราขึ้นไปส่องนกกัน มันนึกว่าเป็นโจรเลยวิ่งตามไปแต่มันดันโดนจับ ไอ้คนที่ใส่ฮู้ดดำก็เลยวิ่งไล่ตามมันมา มันบอกว่ามันรีบมากจนไม่ได้ดูทางก็เลยหกล้มขากระแทกกับหิน ก่อนที่จะโดนเอาไม้ฟาดหัวแล้วมันก็สลบไป”ดินบอกทำให้ผมถึงกับพูดไม่ออก

       “แม่ครับผมขอคุยกับดินสองคนหน่อยได้มั้ยครับ”ผมถามแม่

       “ทำไมล่ะลูก"

        "นะครับแม่ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับเขา”ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

        “ได้จ่ะ”แม่บอกพลางพยักหน้าให้กับพ่อแล้วป้าพิมพ์กับคุณพยาบาลก็ตามออกไปเช่นกัน

        “ดิน...”

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Hope{เพ้อเพราะรัก} ตอนที่13 Because I…
«ตอบ #22 เมื่อ08-05-2018 21:45:09 »

เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สิบสาม Because I…

       “ดิน...”

        “...”

        “คนนั้น..คนที่เขาจับตัวเราไป”ผมพูดแต่ไม่ได้มองหน้าดิน “เขาบอกว่าดินทำให้น้องสาวเขาตาย...”เสียงของผมเริ่มสั่น

        “...”

        “ทำไมดิน...”

        “...”

       “เรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะอะไร...”

        “...”

        “ดินพูดอะไรสักอย่างสิ”

        “เพราะเรารักออมไง”ดินพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่หลากหลายพร้อมกับหายใจอย่างหนัก

        “...”ผมเป็นฝ่ายที่เงียบบ้างไม่รู้ว่าผมควรจะพูดยังไงดีสิ่งที่ผมรอมานานในที่สุดผมก็ได้ยินมันได้ยินคำนั้นจากปากของดิน มันทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกแต่กลับรู้สึกตาร้อนผ่าวพร้อมกับมีน้ำเอ่อล้นอยู่ที่ขอบตา

       “มันรู้ว่าเรารักออม มันเลยจะเอาออมมาเป็นเครื่องมือเพื่อที่จะทำให้เราเจ็บ เหมือนกับที่มันและน้องของมันเคยเจอ”ดินบอกด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด “ทั้งๆที่ออมไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย”

        “คือ...”

         “เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก่อนที่เราจะมาที่นี้”ดินบอกด้วยน้ำเสียงที่ผมก็ไม่สามารถจับอารมณ์ได้

ดินPART

       ผมในวัยสิบขวบ

       “เธอสองคนชื่ออะไรหรอ”ผมถามเด็กสองคนที่ยืนอยู่หน้าสนามเด็กเล่นไม่ยอมเข้ามาข้างใน

       “ฮื้อ...”เด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายสองคนนั้นมองหน้ากัน “พวกเราหรอ”เด็กผู้ชายถามขึ้น

       “อื้อใช่”ผมบอกพร้อมกับยิ้มให้ทั้งสองคนทำให้ทั้งสองคนยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

       “สวัสดีค่ะ หนูชื่อเด็กหญิงอริสรา สมิท อายุเก้าปี ชื่อเล่นชื่อนินาค่ะ”เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับยิ้มและหัวเราะไปด้วย

       “นินาพี่บอกแล้วไงว่าให้บอกแค่ชื่อเล่นก็พอ”เด็กผู้ชายปรามนิดหน่อยแต่ก็ยิ้มให้น้องสาว “เราชื่อ นาย”เขาบอกพร้อมกับยิ้มให้ผม

         “เราชื่อดินนะ แล้วทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ”ผมถาม

        “ได้หรอ”นายถามอย่างชั่งใจ

         “ได้สิทำไมจะไม่ได้”ผมตอบ

         “ว้าวว อยากเล่น พี่นายนินาอยากเล่น”เด็กหญิงบอกพี่ชาย

         “ก็ได้”เขาตอบพร้อมกับยิ้มแล้วเดินตามผมเข้ามาแล้วเล่นกันจนเหนื่อยผมกับเด็กผู้ชายคนนั้นจึงออกมานั่งมองน้องสาวของเขาเล่นอย่างสนุกสนานบนสไลเดอร์  “นายคือคนแรก”เด็กผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น

           “อะไรนะ”ผมถามพลางมองหน้าเขา

          “พวกเราไม่เคยมีเพื่อนมาก่อน”เขาบอกด้วยน้ำเสียงหม่นๆ “นายเป็นคนแรกที่มาชวนเราเล่นด้วย”คำพูดของเขาทำให้ผมในวัยสิบขวบนั้นสะเทือนใจอย่างมากในความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต “ไม่มีใครอยากเล่นกับพวกเราหรอกบางคนถ้าอยากเล่นแต่เข้ามาแล้วก็ต้องจากไปเพราะพ่อแม่เขาไม่อยากให้เล่นกับพวกเรา แล้วเด็กบางคนที่ไม่เข้าใจก็มักจะว่าให้นินา...”

           “ยัยเด็กปัญญาอ่อน..ออกไปนะฉันจะนั่ง”เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาแย่งชิงช้ากับนินา

         “ไม่เอานินานั่งก่อน” นินาบอกอย่างไม่ยอมแพ้แต่คำพูดนั้นกลับดูไร้เดียงสาราวกับเด็กสามขวบ

          ผลั๊ก!

         นินาถูกผลักหงายหลังตกลงไปจากชิงช้า

          “ฮ่าๆๆๆๆ..เฮ้ยดูมันดิ”เด็กพวกนั้นหัวเราะชอบใจ นินาค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับมองไปที่เด็กอ้วนที่เป็นหัวโจก “แกมองอะไร...อ้ากกกกกกกกกกกก”นินากระโดดเข้าไปกัดที่แขนของเด็กคนนั้น เธอทั้งโดนดึงผมทั้งตบลงที่หัวแต่ว่าเธอก็ไม่ยอมปล่อยปากเลยแม้แต่นิดเดียว “อ้ากกกกกนังบ้าปล่อยฉันนะ....ฮือๆอีบ้า....”ผมกับพี่นายเห็นดังนั้นเลยรีบวิ่งเข้าไปแยก

        “ปล่อยนินา ปล่อย!”นายบอกนินาทำให้ค่อยๆผละปากออกจากแขนอวบๆของเด็กคนนั้นพร้อมกับดึงเธอเข้าไปกอดทั้งที่ทรงผมของเธอยังกระเซอะกระเซิงและมีเลือดที่บริเวณมุมปากเล็กน้อย

        “ฮื้อ..ฮื้อออ..อีบ้า..อึก..อีปัญญาอ่อน”เด็กคนนั้นด่านินาออกมาทำเธอตัวสั่นและส่งเสียงขู่อย่างโกรธจัด

         “นี้ป๋อดหยุดเลยนะ”ผมปรามเพื่อนที่รู้จักกัน

         “นี้มึงเป็นพวกเดียวกันกับมันหรอมันเป็นคนปัญญาอ่อนนะ”สมุนของป๋อดพูดขึ้น

           “ใช่ๆปัญญาอ่อน”สมุนของป๋อดคนอื่นๆพูดขึ้น

            “หุบปากไอ้พวกโง่!”นายตะโกนขึ้นกำหมัดแน่นทำให้ทุกคนหยุดนิ่งเพราะท่าทางของเขาตอนนี้มันน่ากลัวมากทั้งดวงตาที่โกรธจัด กำปั้นที่กำแน่นจนเส้นเลือดปูดและตัวที่สั่นเทาไปด้วยความโกรธ นายค่อยๆหันหลังพร้อมกับพยุงน้องสาวเดินออกไปจากสนามเด็กเล่นแต่...

            ผลั๊ก!

            เสียงของก้อนหินที่กระทบลงบนหัวของนายแล้วตกลงกระทบพื้น ต้นเหตุนั้นก็ไม่ใช่จากใครไอ้ป๋อดนั้นเองที่ยืนตัวสั่นอยู่ แต่นายก็ไม่ได้สนใจกลับเดินจากไปช้าๆพร้อมกับเลือดที่เริ่มไหลลงมาโดนเสื้อสีขาวของนาย

            “ไอ้ป๋อดมึง..”ผมตะโกนออกไปอย่างเหลืออดเพราะผมไม่ชอบจริงๆเวลาที่เห็นคนที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยมาโดนทำร้ายรวมทั้งการที่รังแกคนที่ไม่มีทางสู้และไม่คิดที่จะสู้แบบนี้ ผมจงกระโจนเข้าใส่มันพร้อมกับหวดหมัดลงหน้ามันไม่ยั้งแต่ก็ใช่ว่ามันจะยอมให้ผมทำมันอยู่ฝ่ายเดียวมันก็สู้เหมือนกันจนผมกับมันแรกหมัดกันอยู่หลายหมัด

            “นี่หยุดนะ ไม่หยุดฉันจะแจ้งตำรวจมาจับนะยะ”เสียงแก่ๆของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นทำให้ผมกับไอ้ป๋อดผละออกจากกัน ถึงแม้มันจะเป็นแค่มุกหลอกเด็กแต่ก็ใช้ได้ดีทีเดียวครับกับเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากมายแบบผมและไอ้ป๋อด “เดี๋ยวเถอะเด็กพวกนี้ริอาจทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้กันตั้งแต่เด็กแบบนี้โตขึ้นมาจะเป็นเด็กแบบไหนเนี่ยฮะ!”ยายช้อยแกด่าออกมาทำให้ไอ้ป๋อดและเพื่อนๆของมันรีบวิ่งหนีไป “เรานี้ก็ใช่ย่อยนะเจ้าดินแหมเห็นเงียบๆนี้ร้ายไม่เบานะเอาก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะฟ้องแม่เธอเรื่องนี้”   

                 “อย่านะครับ”ผมพูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ขอยายช้อยเพราะแค่โดนต่อยก็เจ็บพอแล้วผมไม่อยากโดนแม่ตีซ้ำอีก

           “หนอยยย...ตอนนี้ทำเป็นกลัวเชียวนะยะ ทีตีกันนี้ไม่กลัวเลยนะพ่อนักเลง”ยายช้อยว่า “ป่ะกลับบ้าน”ยายช้อยบอกเพราะว่ายายเป็นเพื่อนบ้านของผม

            “แต่...”ผมมองหน้ายายช้อยน้ำตาคลอ

            “ย่ะ ฉันไม่บอกแม่เธอหรอกจัดการเอาเองก็แล้วกัน”ยายบอกท่าทางไม่สนใจ นี้ล่ะครับยายช้อยถึงจะปากร้ายแต่ก็ใจดี

           ผมจึงเดินกลับบ้านพร้อมกับยายช้อยแล้วก่อนที่จะเข้าบ้านแกก็ยังช่วยปัดฝุ่นเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผมพร้อมกับจัดชุดที่ยับเยินให้ใหม่ก็ก่อนที่จะให้ผมเข้าบ้านที่มีเพียงแค่แม่อยู่คนเดียวส่วนพ่อและน้องสาวผมออกไปข้างนอก แต่ก็ไม่วายจะโดนแม่กักตัวไว้ซักเรื่องรอยช้ำที่หน้าของผม แม่ซักผมอยู่นานแต่ผมก็ไม่ยอมตอบ จนมีคนมากดออดหน้าบ้าน

          กรี้งงๆๆๆๆๆๆๆๆ

          “นี้บ้านน้องดินใช่มั้ยคะ”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น

         “ค่ะ..ใช่ค่ะ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”แม่ถาม

          “ดีเลยค่ะ นี้คุณคะลูกชายคุณน่ะมาทำร้ายร่างกายลูกชายฉันจนยับเยินไปหมดแล้วลูกคุณอยู่ไหนคะให้ออกมาขอโทษลูกฉันเดี๋ยวนี้”เสียงของหญิงคนนั้นราวกับจะป่าวประกาศให้คนรู้ว่าผมทำร้ายร่างกายลูกชายของเขาซึ่งตัวโตมากกว่าผมตั้งหลายเท่า

          “เดี๋ยวก่อนนะคะ..คุ..คุณว่าลูกชายฉันหรอคะ”แม่ผมถามเสียงตะกุกตะกักพลางมองมาที่ผมทำให้ผมคอตกเดินไปหาแม่

          “ใช่ค่ะ...อย่าบอกนะคะว่าคุณไม่รู้เลี้ยงลูกภาษาอะไรคะลูกไปทำอะไรมาถึงไม่รู้ นี้ไงมาแล้วหรอพ่อตัวดี”เธอพูดขึ้นเมื่อเห็นผม “คนนี้ใช่มั้ยลูก”เธอถามไอ้ป๋อดที่หลบอยู่หลังเธอ

          “ครับ”ไอ้ป๋อดตอบพลางมองมาที่ผมอย่างสมน้ำหน้า

          “นี้หรอพ่อนักเลงแหมตัวแค่นี้เก่งนักนะพาเพื่อนมารุมลูกชายฉัน”เธอพูดอย่างมีอารมณ์ พร้อมกับคนที่มามุงดูมากขึ้นเรื่อยๆบางคนก็เริ่มหยิบโทศัพท์ออกมาถ่ายคลิปบ้าง

          “ผมเปล่านะครับ”ผมพูดขึ้นเสียงดังเพราะตกใจว่าที่เธอพูดมันไม่เป็นความจริง

          “ไม่ต้องมาเถียงเลยนะนี้คุณเลี้ยงลูกมายังไงคะได้สั่งได้สอนกันบ้างหรือเปล่าทำไมให้เด็กมาตะ...”

           “นี่คุณคะฟังที่เด็กเขาจะพูดก่อนได้มั้ยคะ”แม่พูดขึ้นเสียงดังแต่ไม่ได้ใส่อารมณ์เพราะแม่กดมันเอาไว้อยู่

           “อ๋อฉันเข้าใจแล้วว่าลูกคุณนิสัยเหมือนใครไม่สงสัยเลยทำไมลูกคุณถึงได้เป็นนักเลงแบบนี้”เธอบอกออกมาพลางทำท่าทางขยะแขยงพวกผม

           “แม่ครับสองคนนั้นด้วย”ไอ้ป๋อดชี้ไปที่ข้างบ้านผมซึ่งมีเพื่อนบ้านย้ายมาอยู่ใหม่และมีนายกับนินาแอบดูอยู่หน้าบ้านทั้งสองทำท่าตกใจแต่ก็ไม่ได้หนีไปไหน

          “นี้ใช่มั้ยพวกของแกที่ช่วยกันรุมลูกชายฉัน”เธอถามผมแต่กลับรีบปรี่ตรงเข้าไปหานายและนินาทำให้นายรีบผลักนินาเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู “นี้หนีหรอออกมานะ”

           “นี้คุณครับผมไม่ได้ทำลูกชายคุณ”นายบอก

           “แม่ครับ...นังเด็กนั้นมันกัดผม”ไอ้ป๋อดบอก

          “ก็ลูกคุณ...”นายกำลังจะอธิบาย

          “หุบปากของแกเลยนะเอาน้องของแกออกมาเลย”แต่นายกลับไม่ยอมและมองกลับตาแข็ง “นี้แกจ้องหน้าฉันหรอ”เธอพูดพลางบีบแขนนายอย่างแรง

          เพล้ง!

        เสียงยายช้อยโยนกาน้ำร้อนของแกลงที่หน้าบ้านผมเสียงดังคงเป็นเพราะแกอยู่ที่รั้วบ้านของแกจึงโยนไม่ถึงผู้หญิงคนนั้น

          “หนอยนังนี้หล่อนคิดว่าหล่อนเป็นใครกันห้ะ มาเที่ยวด่าคนเขาไปทั่วเนี้ย”ยายช้อยด่าขึ้นพร้อมกับเดินออกมาจากบ้าน

           “แล้วยายเป็นใครมายุ่งอะไรด้วย”ผู้หญิงคนนั้นถามขึ้น

           “ข้าก็อีช้อยนี้แหละ ปล่อยมือออกจากเด็กคนนั้นเลยนะ”ยายช้อยพูดเสียงเด็ดขาด

            “ฉันไม่ปล่อย”หญิงคนนั้นบอกอย่างถือดีพร้อมกับบีบแรงขึ้นทำให้นายถึงกับหน้าเหยเกแล้วแกะมือออก

            “ได้..”ยายช้อยเดินเข้าไปกระชากผมไอ้ป๋อดอย่างแรงจนหน้าแทบทิ่มกับถนนหน้าบ้านผม

            “อ้ากกกก..แม่”ไอ้ป๋อดร้องขึ้น

          “กรี้ดดดดดด”หญิงคนนั้นร้องขึ้นพร้อมกับปล่อยมือจากนายแล้วรีบวิ่งมาหาไอ้ป๋อด ซึ่งตอนนี้เริ่มร้องไห้ออกมา “นี้อีแก่แกกล้าดียังไงมาทำลูกฉันเนี่ยห้ะ”เธอตะโกนขึ้นอย่างโกรธจัดพร้อมกับผู้ชายคนนึงที่รีบวิ่งลงมาจากรถ

          “คุณเขาทำอะไรลูกเรา”ชายคนนั้นถามขึ้น

           “โฮ๊ะๆๆ อ๋อที่แท้ก็เอาผัวมาด้วย แล้วเองล่ะไอ้หนุ่มทำไมวิ่งลงมาเอาตอนนี้”

           “ก็แกทำลูกฉันไงอีแก..”เขาพูดพลางจะเดินเข้ามาแต่กลับถอยกลับไปเพราะคงเห็นว่าคนเยอะ

           “อ๋อออ...ก็รักลูกตัวเองเป็นหนิ แล้วพวกเอ็งไม่คิดว่าคนอื่นเขาก็รักลูกเขาเป็นหรอวะ หนอย...ทีลูกโดนนิดโดนหน่อยนี้รีบวิ่งลงมาทีเมียเอ็งไปทำลูกคนอื่นเขาไม่เห็นจะรีบมาห้าม เอ้า!!ไอ้นี้ก็เสือกสำออยโดนนิดโดนหน่อยทำมาเป็นบีบน้ำตา ทีไอ้เด็กคนนั้นโดนแม่เอ็งบีบอยู่ตั้งนานเขายังไม่เป็นอะไรเลย”ยายช้อยพูดอย่างออกรสทำให้ผู้คนสนใจมากขึ้นแม่กับผมก็รีบเดินลงไปยืนข้างยายช้อยพร้อมกับดึงนายและเรียกนินามาหา

            “ก็มันทำลูกฉันก่อน”เธอบอกมา

            “หรอออออ เอ็งแน่ใจแล้วหรอว่าเขาทำลูกเอ็งก่อนดูตัวเทียบกันก่อนเถอะอีหนูเอ้ย เด็กพวกนี้ตัวอย่างกับมดลูกเอ็งตัวอย่างกับควาย”ยายช้อยว่า

           “นี้อีแกพูดดีๆนะ”เธอสวนกลับ

          “กูพูดดีอยู่แล้วและพูดจริงด้วยไหนเอ็งเล่ามาสิไอ้อ้วน พวกนี้ทำอะไรเอ็งบ้างทำยังไง”ยายช้อยถามไอ้ป๋อดทำให้มันตัวสั่น

         “เอ่อ..คือว่า...เออ..ไอ้..เออ..”ไอ้ป๋อดว่าท่าทางเหมือนพูดไปด้วยคิดไปด้วย

         “ไม่ต้องเล่าข้าเล่าเอง”ยายช้อยพูดขึ้น “ข้ากลับมาจากตลาดก็เห็นเด็กคนอื่นเล่นกันปกติดีอยู่หรอกมีแต่ลูกเอ็งนั้นแหละที่ไปรวมกลุ่มพากันไปแกล้งอีนังหนูนี้”ยายช้อยพูดพลางมองมาที่นินาเธอหลบหน่อยๆ “แล้วก็ผลักแม่หนูคนนี้ตกชิงช้าแล้วหัวเราะชอบใจ”

          “ไม่จริงลูกฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”เธอเถียง

           “หุบปากเอ็งนี้ไม่มีมารยาทจริงๆเลยนะข้าไม่สงสัยเลยว่าลูกเอ็งได้มาจากใคร”ยายช้อยด่า ทำให้เธอเงียบลงอย่างไม่ชอบใจนัก “ฟังอีแกคนนี้เล่าต่อนะ แล้วมันก็ด่านังหนูนี้ว่า เอ่อ..สติไม่ดี”ยายพูดเพื่อไม่ให้สะเทือนใจนินามากเกินไป “นังหนูนี้เลยกัดมันแล้วไอ้หนูสองคนนี้เลยไปห้ามออก แต่ลูกเอ็งกับเพื่อนก็ไม่ยอมหยุดจนไอ้หนุ่มคนพี่นี้เดินหนีมันก็ยังอุตส่าห์เอาก้อนหินไปปาหัวเขาอีกนี้ไง”ยายช้อยพลิกตัวนายหันหลังแต่ก็ต้องตกใจเพราะนายยังไม่ได้ทำแผล “ไอ้ดินก็เลยจัดการลูกเอ็งแต่ลูกเอ็งก็ยังหมาหมู่กับมันจนข้าไปห้ามด่านิดด่าหน่อยลูกเองก็เลยวิ่งขี่ม้าสามศอกไปบอกเองนี้ไง”ยายช้อยบอกอย่างมีอารมณ์

           “อีแก่แกมีสิทธิ์อะไรมาด่าลูกฉันห้ะ”พ่อไอ้ป๋อดพูดขึ้น

           “แล้วพวกเอ็งมีสิทธิ์อะไรมาด่ามาว่าลูกคนอื่นเขาถึงหน้าบ้านล่ะ หนอย....บอกนี้ไม่สะทกสะท้านเลยนะไม่น่าล่ะลูกเอ็งถึงได้อันธพาลแบบนี้แถมยังตอแหลอีกต่างหาก”ยายช้อยด่าอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้แม่ผมยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

            “แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าจริงพวกแกเป็นพวกเดียวกันหนิอาจจะช่วยกันก็ได้”หล่อนบอก

         “แล้วเอ็งรู้ได้ยังไงว่าพวกนี้รุมลูกเอ็ง”ยายช้อยถามกลับบ้าง ช่วงนั้นเองแม่จึงรีบเดินเข้าไปในบ้าน

         “ก็..”

         “ฉันจะเป็นพยานให้เอง”หญิงคนหนึ่งเดินจูงแขนลูกสาวออกมาจากฝูงชนที่มุงล้อมเหตุการณ์นี้อยู่

          “นี้ไงพยานฉัน”เธอพูดขึ้น

         “ไม่ใช่คุณฉันเป็นพยานให้เองค่ะยาย”ผู้หญิงคนนั้นพูดกับยายช้อย “ตอนที่ฉันเดินกลับจากตลาดฉันก็เห็นเหมือนกันว่าลูกคุณแกล้งเด็กพวกนี้”เธอบอก แม่ผมเห็นสถานการณ์ลี่คลายดังนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน

        “ขอบใจมากนังหนู”ยายช้อยบอกเธอจึงยิ้มให้ ทำให้สองสามีภรรยาถึงกับพูดไม่ออก

          “แต่มันปัญญาอ่อนจริงๆนะแม่”ไอ้ป๋อดบอก

         “นี้ไอ้อ้วน!ข้าถามจริงๆเถอะใครเขามันจะเป็นยังไงแม่กับพ่อเอ็งเจ็บมั้ยวะ”ยายช้อยถาม

          “...”ไอ้ป๋อดไม่ตอบ

          “ไม่ตอบแสดงว่าไม่เจ็บเพราะมันไม่ได้หนักหัวพ่อหัวแม่เอ็งไงทีหลังใครจะเป็นยังไงเอ็งไม่ต้องเสือก”ยายช้อยบอกอย่างเจ็บแสบ

          “นี้อีแก่มึงไม่อยากแก่ตายใช่มั้ยหห้ะ”พ่อไอ้ป๋อดพูดพลางเดินเข้ามาอย่างเหลืออด

          “เอ้าอีแดงถ่ายให้ชัดๆเลยนะมึง”ยายช้อยบอกคนที่ถือกล้องถ่ายวีดีโออยู่ “เอ้าเจ้าข้าเอ้ยยยย มาดูหน่อยเร็วผู้ชายจะตีคนแกเร็ว”ยายช้อยพูดขึ้นทำให้ทุกคนที่มุงดูอยู่ต่างพากันโห่ให้กับพ่อแม่ของไอ้ป๋อดจนพวกเขารีบขึ้นรถกลับบ้านแต่

          “เดี๋ยว”แม่บอกทำให้สองสามีภรรยาหยุดและหันกลับมา “นี้ค่ะดิฉันให้”แม่พูดพลางยื่นกระโปรงให้ “มีสองตัวค่ะตัวนึงให้ลูกคุณเพราะแกคงจะชอบเห็นชอบทำร้ายเด็กผู้หญิงอีกตัวให้สามีคุณอีกไม่นานคงจะได้ใส่เพราะเมื่อกี้เห็นกำลังจะทำร้ายคนแก่”สองสามีภรรยาเห็นดังนั้นต่างพากันกัดฟันกรอดแล้วรีบขึ้นรถก่อนที่จะขับออกไปอย่างรวดเร็ว

           หลังจากศึกอันใหญ่หลวงจบลงแม่จึงพานายและนินาไปโรงพยาบาลพร้อมกับแวะซื้อข้าวของมาทำอาหารมื้อใหญ่อย่างอารมณ์ดีรวมทั้งยังชวนยายช้อยมาด้วยแต่ผมกับถูกสั่งห้ามเพราะแม่ไม่ปลื้มที่ผมใช้กำลังตัดสินปัญหาหลังจากที่ได้ร่วมออกรบด้วยกันในครั้งนั้นก็ทำให้ทั้งสองสนิทกันราวกับนิวจิ๋วส่วนผมกับสองพี่น้องนั้นก็สนิทกันอย่างรวดเร็ว ทั้งที่นายก็ถามผมว่าอยากเป็นเพื่อนกันจริงๆหรอเพราะเขากลัวว่าผมจะอายที่น้องของเขาเป็นออทิสติกซึ่งผมก็ยืนยันไปทุกครั้งเพราะผมไม่สนอยู่แล้ว

            หลังจากนั้นพวกผมก็สนิทสนมกันมากขึ้นแต่มีเรื่องที่แปลกอยู่อย่างหนึ่งคือสองพี่น้องนี้มักจะมีร้อยแผลตามตัวอยู่ตลอดในช่วงปีแรกที่พวกผมถามเขาก็ไมยอมตอบ จนพวกผมมากันรู้เองในภายหลังว่าพวกเขาโดนพ่อชาวต่างชาติทำร้ายร่างกายพวกเขา

          ในบางครั้งที่เขาโดนพ่อทำร้ายหรือพ่อแม่ทะเลาะกันแม่ผมก็จะไปพาเขามานอนที่บ้านเพราะสงสาร แต่บางครั้งที่แม่ไม่อยู่ยายช้อยก็จะช่วยไปดู แล้วมีบางครั้งเหมือนกันที่พ่อของสองคนนี้มาด่าแม่และยายช้อย ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากการเสพยาของเขาจนทำให้เขาขาดสติรวมทั้งยังทำร้ายร่างกายของสองคนนี้หนักขึ้นเรื่อยๆ.....

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สิบสี่ ที่เขาต้องทำ

       “พี่ดินนนนนนนนน ไปโรงเรียนกานนนนน”เสียงใสที่แสนจะไร้เดียงสาของนินาดังขึ้นที่หน้าประตูบ้านของผม  ผมจึงรีบลาแม่แล้วเดินออกมา

         “อีกแล้วหรอเนี่ย”ผมพูดขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นใบหน้าของนินาที่เต็มไปด้วยรอยช้ำแถมยังมุมหน้าผากของพี่นายที่มีผ้าพันแผลติดอยู่(หลังจากที่รู้จักกันผมก็ได้ทราบว่าเขาเกิดก่อนผมสองปี)

         “ไม่เป็นไรหรอก”นินาพูดพร้อมกับยิ้มจนตาหยี “แค่นินามีพี่ดินกับพี่นายก็พอแล้ว”ถึงจะบอกว่าไม่เป็นอะไรก็เถอะผมก็อดสงสารพวกเขาไม่ได้อยู่ดี

         “ไปโรงเรียนกันเถอะ”พี่นายชวนขึ้นก่อนที่พวกผมจะเดินออกไปโรงเรียนด้วยกันยิ่งนานวันพวกผมยิ่งสนิทกันมากขึ้นจนความรู้สึกของนินาที่มีต่อผมเริ่มเปลี่ยนไปแต่ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะผมในตอนนั้นก็ยังเด็กมากเกินกว่าที่จะเข้าใจดีกับเรื่องแบบนี้

         จนเมื่อผมอายุได้สิบห้าปีที่เวลาในตอนนั้นอะไรๆมันก็เปลี่ยนไปเร็วมากในตอนนี้นินาก็ขึ้นชั้นมัธยมปีที่หนึ่งพี่นายก็อยู่มัธยมปีที่ห้า ส่วนแม่ของทั้งสองคนก็ป่วยออดๆแอดๆจนทำให้พี่นายต้องไปทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านโดยที่พ่อชาวต่างชาติของเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลยหนำซ้ำยังพาเพื่อนขี้ยาเข้ามาในบ้านอีกทำให้ช่วงหลังเลิกเรียนนินาต้องมาอยู่บ้านผมก่อนที่พี่นายจะกลับมาเพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเธอ

        วันนั้นก็เหมือนทุกๆวันช่วงนั้นเป็นเทอมสองและใกล้จะปิดเทอมผมกลับมาบ้านพร้อมกับนินาปกติแล้วผมจึงไปนั่งอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบอยู่สักพักก่อนที่จะเห็นนินาวิ่งออกไปจากบ้านของผมพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความดีใจว่า

        “แม่มาแล้ว แม่มาแล้ว”ผมเดินตามออกไปก็เห็นรถของทางพยาบาลมาส่งแม่ของนินาที่บ้านเพราะพ่อของนินาเขาไม่สนใจใยดีอะไรอยู่แล้ว “พี่ดินนินาไปหาแม่นะ”นินาบอกผมก่อนที่จะวิ่งไปที่บ้านผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนินาคงคิดถึงแม่มากเพราะแม่ของนินาเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์แถมยังไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมอีกและอีกอย่างคงไม่มีใครกล้าทำอะไรนินาแล้วอีกอย่างผมคิดว่าอีกสักสิบนาทีเดี๋ยวผมจะไปตามนินากลับมาเอง

          “กรี๊ดดดดดดด พี่ดินนนนนนนนนน”เวลาผ่านไปยังไม่ถึงสิบนาทีผมก็ได้ยินเสียงของนินาดังมาจากบ้านผมได้ยินดังนั้นจึงวางหนังสือลงแล้วรีบวิ่งตรงไปที่บ้านของนินาทันทีเมื่อถึงหน้าบ้านผมพยายามเคาะประตูแต่ก็ไม่เป็นผล

         “เปิดประตู นินาเปิดประตูให้พี่ นินา..โถ่โว่ย”ผมสบทออกมาด้วยความโกรธและโมโหตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้แถมยังไม่ดูแลนินาให้ดีกว่านี้ “ช่วยด้วยครับใครก็ได้ช่วยด้วย..”ผมตะโกนไม่หยุดแข่งกับเสียงของนินาและแม่ของเธอที่กรีดร้องออกมาไม่หยุดจนมีคนที่ผ่านมา เข้ามาช่วยสี่ห้าคน

         “เป็นอะไรไอ้หนู”ลุงคนหนึ่งถามขึ้น

         “น้องผมโดนทำร้ายอยู่ข้างในกับแม่เขาครับช่วยพังประตูที”ผมพูดทั้งน้ำตาในตอนนี้ผมแทบจะขาดใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในบ้าง

          “พี่ดินนนน พี่นายยย”นินาตะโกนออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ

         “นี้หยุดนะอย่าทำอะไรลูกฉัน ไอ้ชั่ว”เสียงแม่ของนินาดังออกมาไม่หยุด ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่ามีประตูหลังบ้านผมจึงรีบวิ่งไป

         “เอ้าไอ้หนูจะไปไหน”ลุงคนหนึ่งถามขึ้นเมื่อเห็นผมวิ่งไปทางหลังบ้าน

          “ลุงตามผมมาครับ..อึก..”ผมพูดพลางสะอื้นลุงเขาจึงวิ่งตามผมมาเมื่อผ่านหน้าต่างที่เป็นกระจกผมก็เห็นภาพที่ทำให้ผมถึงกับใจสลายและทำให้ผมเจ็บปวดที่สุดในชีวิตเป็นภาพของเหล่าชายฉกรรจ์ที่พากันรุมทำร้าย(ความหมายแฝงนะคะ)นินา

        “เฮ้ย!”ลุงคนที่ตามผมมาตะโกนขึ้นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า “พวกมึงเร็วๆกันหน่อย”ลุงเขาตะโกนบอกพวกที่อยู่หน้าบ้านเสียงดัง

          ผมรีบวิ่งไปหลังบ้านเมื่อถึงผมก็บิดลูกบิดประตูทันทีแต่ฟ้ากลับไม่เป็นใจเอาซะเลยประตูกลับถูกล็อก

          “ถอยไปไอ้หนู”ลุงคนนั้นจับเหล็กแป๊บมาจากไหนไม่รู้แล้วทุบลงที่ลูกบิดประตู

          “อ้ากกกกก!”

           “อ้ากกกกกกกก!”

            “อ้ากกกกกก อ็อก!”เสียงดังออกมาจากข้างในบ้านทำให้ลุงเขาทุบประตูแรงขึ้นจนมันหลุดออกลุงเขาถีบประตูเข้าไปผมรีบวิ่งเข้าไปข้างในแต่ต้องผ่านครัวก่อนจะถึงตัวบ้านเมื่อถึงในบ้านผมก็พบเข้ากับภาพที่ทำให้ผมถึงกับพูดไม่ออกแล้วยืนตัวแข็งอยู่อย่างนั้น

            “เอือก...”เสียงของชายคนที่ถูกแทงด้วยมีดทำครัวนับครั้งไม่ถ้วนพร้อมชายอีกสามคนที่นอนจมกองเลือดครางโอดโอยอยู่กับพื้นรวมทั้งพ่อชาวต่างชาติของนินาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หายใจพะงาบๆทั้งที่คอและหลอดลมได้ขาดไปแล้ว แล้วคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครแม่ของนินานั้นเอง เมื่อแทงชายคนนั้นจนเงียบไปแล้วเธอจึงตามเอามีดไปแทงที่คอของชายทั้งสามที่นอนอยู่บนพื้นทั้งน้ำตาเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเพียงแค่พวกผมวิ่งมาถึงหลังบ้านทุกอย่างก็เลวร้ายเกินกว่าจะแก้ได้แล้ว

        “เฮ้ย!”ลุงที่วิ่งตามผมมาติดๆร้องขึ้นด้วยความตกใจ ทำให้แม่ของนินาหันกลับมามองพวกผม ก่อนที่เธอจะโยนมีดทำครัวทั้งสองเล่มในมือทิ้งและนั่งกอดเข่าร้องไห้จนตัวโยน

            ส่วนนินานั้นก็นอนอยู่บนพื้นในภาพเปลือยเปล่าโดยที่มีเลือดอาบอยู่เต็มตัวนินาในตอนนี้ได้แต่นอนร้องไห้ และเรียกหาผมกับพี่นาย ผมเห็นดังนั้นผมจึงดึงเอาผ้าปูโต๊ะมาก่อนที่จะเดินไปหาเธอและคลุมลงที่ตัวเธอ

           “พี่ดิน”เธอเรียกชื่อผมพร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา “มาช่วยนินาแล้ว”นินาพูดออกมาทำให้ผมถึงกับปล่อยโฮแล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้ สภาพจิตใจของผมในตอนนี้มันชั่งย่ำแย่ซะเหลือเกิน เกินกว่าที่ผมเคยเป็นมา ผมไม่รู้ว่าผมจะเรียกตัวเองว่าอะไรดีผมทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงถ้าผมไม่ปล่อยให้นินาไปคนเดียวเด็กผู้หญิงบริสุทธิ์ๆคงจะไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

             “ไอ้หนู พาน้องเอ็งออกไปข้างนอกก่อน”ลุงคนที่อยู่หน้าบ้านเดินเข้ามาเขย่าตัวและบอกผมซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมตั้งสติแล้วเอาผ้าห่อตัวนินาแล้วอุ้มนินาออกมาแล้วตรงไปที่บ้านผมทันทีทั้งๆที่แม่ของนินายังนั่งร้องไห้ไม่หยุด

       “พาน้องเข้าไปในบ้าน”แม่บอกเมื่อเห็นผมมาถึงหน้าบ้านโดยไม่ถามอะไรแม่และยายช้อยจึงตามเข้ามาแล้วพานินาไปอาบน้ำโดยที่ผมยังนั่งร้องไห้อยู่ที่โซฟาจนนินาออกมาจากห้องน้ำ

        “นินาพี่ขอโทษ”ผมพูดออกไปพลางดึงเธอเข้ามากอดพร้อมกับร้องไห้โดยที่เธอก็กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวเหมือนกัน

         “กรี๊ดดดด พี่ดิน พี่นาย ช่วยนินาด้วย”เธอพูดพลางผลักผมออกก่อนที่จะวิ่งไปนั่งตัวสั่นอยู่ที่มุมห้อง ทำให้ทุกคนในบ้านตอนนี้ร้องไห้ด้วยความสงสาร ผมพยายามเช็ดน้ำตาแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอ

         “นินา..นินาครับ..นี้พี่เอง..อึก..พี่ดินของนินาไงครับ”ผมพูดทำให้เธอหันหน้ามามองผมก่อนที่จะกระโดดเข้ามากอดผม

          “พี่ดินนินากลัว..พวกมัน..พวกมัน..ทำ..”ผมเอามือปิดปากนินาไว้

          “ไม่เป็นไรครับนินา..อึก..ไม่ต้องพูด ไม่เป็นไร..พี่อยู่นี้แล้ว”ผมพูดพร้อมกับจับหน้าเธอที่มีทั้งรอยแผลเก่าและรอยแผลใหม่ให้มองมาที่หน้าผม

          “พี่ดินร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรพี่ดิน”นินาถามผมด้วยความใสซื่อและเป็นห่วงมันยิ่งทำให้ผมเจ็บปวดที่ปกป้องสิ่งที่สำคัญเช่นนี้ไว้ไม่ได้ “ไม่ร้องนะนินาอยู่นี้ ถ้าพี่ดินร้องไห้เดี๋ยวไม่ได้เจอนางฟ้านะ​”นินาเด็กที่ใสซื่อของผมเขายังคงคอยห่วงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอแม้ว่าตัวเองจะผ่านเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหนก็ตาม

         เมื่อผ่านไปสักพักก็มีเสียงไซเรนรถตำตรวจมาจอดที่หน้าบ้านนินา แม่ผมกับยายช้อยก็พากันไปอยู่ที่นั้นเพราะไปดูแลแม่ของนินา ก่อนตำรวจจะคุมตัวแม่ของนินาไปที่โรงพัก

         “แม่ป่วยอีกแล้วหรอพี่ดิน”นินาถามขึ้นเพราะคงคิดว่านี้เป็นรถฉุกเฉิน

        “อื่ม..”ผมตอบพร้อมกับกลั่นน้ำตา

        “สงสารแม่จังแม่พึ่งจะหาย”นินาพูดก่อนที่จะทำหน้าเศร้า “กรี๊ดดดด พี่ดิน พวกมันๆ พวกมันจะมาทำนินา กรี๊ดดด”นินาพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

        “นินา ฟังพี่ พี่อยู่นี้ ไม่มีใครจะทำอะไรนินาได้พี่จะดูแลนินาเอง”ผมพูดพลางดึงนินามากอดไว้แน่น

        “ฮื้อ..พวกมันทำ..ฮื้อ..”นินาร้องไห้อย่างนั่นอยู่นานก่อนที่จะหลับไป

        เมื่อพี่นายกลับมาด้วยรอยยิ้มและขนมที่ซื้อมาให้นินาก็ต้องได้ยินข่าวร้ายจากผมพี่เขาโกรธมากจึงชกผมเข้าหลายครั้งแต่ผมก็ไม่ได้สู้และโกรธอะไรกับรู้สึกว่าน้อยไปด้วยซ้ำ

       “โถ่โว่ย!”พี่เขาสบถออกมาก่อนที่จะนั่งร้องไห้จนตัวโยนแล้วสงบลงเมื่อกลับเข้ามาในบ้านแม่กับยายช้อยก็บอกกับพี่นายว่าพรุ่งนี้จะพาไปหาแม่ที่โรงพักแล้วหลานของยายช้อยแกเป็นทนายเดี๋ยวจะให้ช่วย พี่นายก็ขอบใจยายช้อยก่อนที่จะอาบน้ำและมานอน ในคืนนี้พี่น้องทั้งสองคนต้องนอนที่บ้านผม แต่ตลอดทั้งคืนพี่นายก็เอาแต่ร้องไห้และนินาก็มีอาการผวากรี๊ดออกมาตลอดทั้งคืน

         เมื่อตอนเช้ามาถึงพี่นาย ยายช้อย แม่และพ่อก็พากันไปเยี่ยมแม่ของพี่นายแต่ผมกับดาวไม่ได้ไปเพราะผมต้องดูนินาเพราะมีแต่ผมกับพี่นายที่นินาจะฟังในเวลานี้ เมื่อเที่ยงทุกคนก็กลับมาแต่สีหน้าก็ไม่ดีกันนักแถมพี่นายก็ร้องไห้หนักอีกต่างหากผมก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนเอาแต่เงียบและเคร่งเครียดกันมาก

          วันต่อมาแม่ก็มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพักให้ผมฟัง

           “ห้ามให้น้องรู้นะ”แม่กำชับผม

             “ครับ”

            “แม่นินาเสียแล้วเขาเอาปากกาแทงข้อมือตัวเองตอนที่คนไม่เห็นแถมเขียนสั่งอีกว่าไม่อยากให้ลูกต้องลำบากเพราะเขา แล้วเขาก็บริจาคร่างกายไปหมดตั้งแต่เริ่มป่วยแล้วสงสารแต่นายกับนินาที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”แม่บอกทำให้ผมพูดไม่ออกผมไม่คิดว่าชีวิตของคนเราจะเจออะไรที่เลวร้ายได้มากขนาดนี้

             เมื่อเวลาผ่านไปพวกผมก็ปิดเทอมแล้วผมก็ไปสอบเข้าโรงเรียนปัจจุบันของผมได้เลยต้องย้ายบ้านทั้งพ่อกับแม่ก็ได้ที่ทำงานใหม่อีก

             “พี่ดินไม่ไปไม่ได้หรอ”นินาบอกพลางรองไห้

             “พี่จะต้องไปเรียนนินา”ผมบอกเศร้าๆทั้งจะร้องไห้

              “ไม่เอาๆๆๆ”นินาร้องขึ้น

              “นินา...”พี่นายพูดขึ้นทำให้นินาหน้ามุ่ยและเงียบลง

              “พี่สัญญานะว่าพี่จะมาหานินาทุกอาทิตย์เลย”ผมบอกนินา

          “จริงๆนะ”นินาถามอย่างไม่แน่ใจ

           “คร้าบบบบ”ผมบอก

           “แล้วมีอีกอย่างพี่ดินต้องเป็นแฟนนินาด้วย”นินาพูดขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกายทำให้ผมอดเอ็นดูน้องสาวที่ไร้เดียงสาคนนี้ไม่ได้ผมมรู้นะครับว่าเขาคงไม่รู้หรอกว่าแฟนคืออะไรเพียงแต่เขาต้องการให้ผมอยู่เคียงข้างเขาเท่านั้น

          “นินา..”พี่นายปรามผมจึงส่ายหัวให้เขาบอกว่าไม่เป็นไร

         “แก่แดดนะเราเนี่ยะ”นินาทำหน้ามุ่ย “ครับ”ผมตอบตกลงไปเพราะผมไม่อยากทำร้ายน้องสาวคนนี้อีกแล้ว

          “เย้!พี่ดินเป็นแฟนนินาแล้วห้ามโกหกนินานะไม่งั้นนินาจะไม่อยู่แล้ว”นินายิ้มกว้าง

         “นินาอย่าพูดแบบนี้”พี่นายปาม “ว่าแต่แล้วเรารู้หรอว่าแฟนคืออะไรนินา”พี่นายถามขึ้น

        “ก็คนที่ทำกับข้าว ซักผ้า อ่านนิทานให้นินาฟังก่อนนอนเหมือนพี่นายกับแม่ไง พี่นายก็เป็นแฟนนินา แม่ก็เป็นแฟนนินา”นั่นไงผมว่าแล้วเชียวไม่รู้จริงๆด้วย “แต่ว่าเมื่อไหร่แม่จะหายป่วยล่ะพี่นาย”ใช่ครับนินายังไม่รู้ว่าแม่เสียแล้วแต่คิดว่ายังป่วยอยู่เพราะเห็นรถตำรวจมารับไปในครั้งนั้น

        “เออ..คือ..”

        “ถ้านินาเป็นเด็กดีแม่ก็จะหายเร็วเพราะฉะนั้นนินาต้องเป็นเด็กดีนะ”ผมบอกนินาพลางกลั่นน้ำตา

         “นินาจะเป็นเด็กดีแม่จะได้หายเร็วๆ”นินาพูดพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกาย

         “งั้นพี่ไปก่อนนะ”ผมบอกพร้อมกับหันหลังจะไปขึ้นรถ

         “พี่ดิน”นินาเรียกผมจึงหันหาเธอ

         จุ๊บ!

        “เฮ้ย..ไอ้เด็กแก่แดดนี้อย่าไปทำอย่านี้กับใครนะ”ผมดุนินาด้วยความเอ็นดูแบบน้องสาว

        “ทำกับแฟนเท่านั้นแหละ”นินาบอกก่อนที่จะไปจุ๊บแก้มพี่นายพวกเราจึงหัวเราะกัน

         หลังจากที่ผมย้ายบ้านไปผมก็มาเยี่ยมนินาเป็นประจำทุกอาทิตย์ซึ่งก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรและไม่ต้องห่วงทั้งสองคนมากเพราะทั้งสองคนมาอยู่กันที่บ้านหลังเก่าของผมเพราะนินากลัวบ้านหลังเก่ามากซึ่งทางครอบครัวผมก็ยินดีเพราะยังไงพวกผมก็ซื้อไว้แล้วและก็ดีกว่าไม่มีคนอยู่และทั้งสองก็มียายช้อยคอยดูแลและพี่นายก็ออกไปทำงานตลอด หลังจากเวลาผ่านไปจนเปิดเทอมงานของผมก็เยอะขึ้นและยุ่งขึ้นจนถึงเทอมสองวันนั้นอยู่ในช่วงกีฬาสีที่ผมต้องซ้อมตลอดและเรียนก็หนักจนทำให้ผมไม่ได้ไปหานินากับพี่นายถึงสองอาทิตย์จนอาทิตย์ต่อมาผมไปหาทั้งสองคน แต่ก็กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลยแม้แต่ยายช้อย

.

.

.

.

.

        “อย่าบอกนะว่า”ผมถามดินขึ้น

        “ใช่นินาเขา...เสียแล้ว..”

        “งั้นคนในภาพที่แขวนคออยู่ก็...”

         “อื้ม..เราว่าน่าจะใช่..เราไม่น่าเลยทั้งๆที่รู้ว่านินาเป็นเด็กที่ซื่อตรงขนาดนั้นก็ตามทั้งๆที่รู้ว่าเขามีแค่เรากับพี่ชายเขาเท่านั้นที่เขาว่าเราเป็นฆาตกรมันก็ไม่ผิดหรอกทั้งๆที่เรารู้อยู่แก่ใจแท้ๆเรากับไม่เคยที่จะรักษาคนที่สำคัญคนนี้ไว้ได้เลยเรามันห่วยมากใช่มั้ย”ดินพูดออกมาทั้งน้ำตา ถึงผมจะมองว่าเขาไม่ผิดก็ตามแต่เขาก็คงไม่คิดแบบผม

        “ดิน”

          “ที่เราห่างจากออมไปเพราะเราไม่อยากให้ออมต้องเจ็บปวดเพราะเรา เพราะเรารู้ว่าเรามันห่วยไงแต่เมื่อเราตั้งใจจะปกป้องออมอีกครั้ง ก็เกิดเรื่องแบบนี้กับออมอีก เราแม่งไม่เคยปกป้องคนที่ตัวเองรักได้เลย”

         “ดินฟังเรานะดินไม่ได้ตั้งใจ”ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกเห็นใจดิน

         “แต่เรา...”

        “ทุกครั้งที่ดินทำดินก็พยายามเต็มที่แต่มันได้ถูกกำหนดไว้แล้วเราแก้อะไรไม่ได้ และดินก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้ล่วงหน้าสักหน่อย”ผมบอกอย่างนึกอะไรไม่ออก

        “แต่นินาบอกเราตั้งแต่แรกแล้วออม”ดินบอกผมตาแดงกล่ำ

         “แล้วดินพอใจหรือยัง ทำให้ตัวเองเจ็บพอหรือยัง เก็บความเจ็บปวดไว้คนเดียวพอหรือยัง มันถึงเวลาที่ดินจะพอได้หรือยัง หยุดทำร้ายตัวเองได้หรือยังแล้วมันถึงเวลาที่ดินจะเดินต่อไปแล้วสู้เพื่ออนาคตได้หรือยัง ดินเราไม่ได้เข้าใจดินไปทุกอย่างหรอกนะแต่เราว่าดินควรจะพอและก้าวต่อไปได้แล้ว”ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลายจนบอกไม่ถูก

          “ได้งั้นเราจะก้าวต่อเราขอปกป้องออมอีกครั้งนะ”ดินพูดพลางมองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง

           “แล้วทำไมจะต้องมาพูดเรื่องอย่างนี้ในเวลาแบบด้วยเนี้ย”ผมพูดเขินๆ

           “แล้วว่าไงล่ะ”ดินถามพลางยื่นหน้าที่มีคราบน้ำตาหน่อยๆเข้ามาใกล้

          “ไม่รู้โว่ย”ผมบอกก่อนที่ผู้ใหญ่จะเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงและชายวัยกลางคนเดินเข้ามา

        “ออมนี่พ่อกับแม่เรา”ดินบอกแพร้อมชี้ไปทางหญิงและชายวัยกลางคน

          “สวัสดีครับ”ผมไหว้พ่อกับแม่ของดินก่อนที่จะกระซิบอะไรบางอย่างกับดิน“แล้วแต่ดินนะถ้าไม่อยากบอกก็เป็นสิทธิ์ของดิน”แต่ดินกับทำหน้าไม่สบายใจเท่าไหร่

        “ทุกคนครับ คือผมมีเรื่องจะบอก”

        “อะไรจ๊ะ”ป้าพิมพ์ถามขึ้น

        “คือเรื่องคนที่ทำร้ายออม..”

        “ช่างมันเถอะดินยังไงก็แจ้งตำรวจแล้วไม่ใช่หรอ”ผมบอกออกไปเพราะรู้สึกสงสารคนที่ชื่อนายเพราะทั้งชีวิตของเขาเขาก็ถูกกระทำมาตลอด คนที่เขารักในชีวิตก็ตายไปหมดแล้วผมไม่อยากให้ดินบอกให้ใครไปตามจับเขาเพราะผมรู้ว่าดินก็คงเจ็บไม่น้อยที่เป็นเขา

       “ไม่ได้จ่ะ ช่างเถอะไม่ได้ถ้าตอนนั้นเราไม่รอดมาจะทำยังไงแม่ไม่ยอม”แม่ผมบอกขึ้น

         “งั้นไปขอให้ตำรวจมาตรวจแถวบ้านเราบ่อยๆก็ได้หนิครับ”ผมบอกออกไป “เพราะยังไงเราก็ไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใครแล้วก็ไม่มีใครเห็นหน้าเขา”

           “ใครบอกล่ะจ๊ะ ตอนนั้นมีคนเห็นคนที่ไม่ได้มาพักที่แคมป์มาวนๆเวียนๆอยู่แถวเต้นท์ดินกับออม เป็นผู้ชายนี้แหละแต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ฮู้ดเขากำลังสเก็ตภาพกันอยู่ออมไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ”ป้าพิมพ์บอกทำให้ผมต้องยอมรับแล้วว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดไม่ใช่ว่าผมใจดีอะไรหรอกนะครับผมแค่คิดสงสารเขาว่าชีวิตเขาจะต้องเจ็บอีกเท่าไหร่กัน

          เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ก็อย่างที่ทุกคนคิดครับภาพสเก็ตของคนที่ชื่อนายก็ออกมาพร้อมกับหมายจับส่วนผมก็กลับมาเรียนตามปกติโดยที่มีดินคอยรับคอยส่งส่วนไอ้แบล็คก็กลับมาเรียนแล้วเหมือนกันแต่ก็ยังต้องเดินสามขาอยู่











ขอกำลังใจด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2018 22:04:45 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก

ตอนที่สิบสี่ ที่เขาต้องทำ


         หลังจากที่ผมย้ายบ้านไปผมก็มาเยี่ยมนินาเป็นประจำทุกอาทิตย์ซึ่งก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรและไม่ต้องห่วงทั้งสองคนมากเพราะทั้งสองคนมาอยู่กันที่บ้านหลังเก่าของผมเพราะนินากลัวบ้านหลังเก่ามากซึ่งทางครอบครัวผมก็ยินดีเพราะยังไงพวกผมก็ซื้อไว้แล้วและก็ดีกว่าไม่มีคนอยู่และทั้งสองก็มียายช้อยคอยดูแลและพี่นายก็ออกไปทำงานตลอด หลังจากเวลาผ่านไปจนเปิดเทอมงานของผมก็เยอะขึ้นและยุ่งขึ้นจนถึงเทอมสองวันนั้นอยู่ในช่วงกีฬาสีที่ผมต้องซ้อมตลอดและเรียนก็หนักจนทำให้ผมไม่ได้ไปหานินากับพี่นายถึงสองอาทิตย์จนอาทิตย์ต่อมาผมไปหาทั้งสองคน แต่ก็กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลยแม้แต่ยายช้อย
.
.
.
.
.
.
.
        “อย่าบอกนะว่า”ผมถามดินขึ้น
        “ใช่นินาเขา...เสียแล้ว..”
        “งั้นคนในภาพที่แขวนคออยู่ก็...”
         “อื้ม..เราว่าน่าจะใช่..เราไม่น่าเลยทั้งๆที่รู้ว่านินาเป็นเด็กที่ซื่อตรงขนาดนั้นก็ตามทั้งๆที่รู้ว่าเขามีแค่เรากับพี่ชายเขาเท่านั้นที่เขาว่าเราเป็นฆาตกรมันก็ไม่ผิดหรอกทั้งๆที่เรารู้อยู่แก่ใจแท้ๆเรากับไม่เคยที่จะรักษาคนที่สำคัญคนนี้ไว้ได้เลยเรามันห่วยมากใช่มั้ย”ดินพูดออกมาทั้งน้ำตา ถึงผมจะมองว่าเขาไม่ผิดก็ตามแต่เขาก็คงไม่คิดแบบผม
        “ดิน”
          “ที่เราห่างจากออมไปเพราะเราไม่อยากให้ออมต้องเจ็บปวดเพราะเรา เพราะเรารู้ว่าเรามันห่วยไงแต่เมื่อเราตั้งใจจะปกป้องออมอีกครั้ง ก็เกิดเรื่องแบบนี้กับออมอีก เราแม่งไม่เคยปกป้องคนที่ตัวเองรักได้เลย”
         “ดินฟังเรานะดินไม่ได้ตั้งใจ”ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกเห็นใจดิน
         “แต่เรา...”
        “ทุกครั้งที่ดินทำดินก็พยายามเต็มที่แต่มันได้ถูกกำหนดไว้แล้วเราแก้อะไรไม่ได้ และดินก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้ล่วงหน้าสักหน่อย”ผมบอกอย่างนึกอะไรไม่ออก
        “แต่นินาบอกเราตั้งแต่แรกแล้วออม”ดินบอกผมตาแดงกล่ำ
         “แล้วดินพอใจหรือยัง ทำให้ตัวเองเจ็บพอหรือยัง เก็บความเจ็บปวดไว้คนเดียวพอหรือยัง มันถึงเวลาที่ดินจะพอได้หรือยัง หยุดทำร้ายตัวเองได้หรือยังแล้วมันถึงเวลาที่ดินจะเดินต่อไปแล้วสู้เพื่ออนาคตได้หรือยัง ดินเราไม่ได้เข้าใจดินไปทุกอย่างหรอกนะแต่เราว่าดินควรจะพอและก้าวต่อไปได้แล้ว”ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลายจนบอกไม่ถูก
          “ได้งั้นเราจะก้าวต่อเราขอปกป้องออมอีกครั้งนะ”ดินพูดพลางมองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง
           “แล้วทำไมจะต้องมาพูดเรื่องอย่างนี้ในเวลาแบบด้วยเนี้ย”ผมพูดเขินๆ
           “แล้วว่าไงล่ะ”ดินถามพลางยื่นหน้าที่มีคราบน้ำตาหน่อยๆเข้ามาใกล้
          “ไม่รู้โว่ย”ผมบอกก่อนที่ผู้ใหญ่จะเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงและชายวัยกลางคนเดินเข้ามา
        “ออมนี่พ่อกับแม่เรา”ดินบอกแพร้อมชี้ไปทางหญิงและชายวัยกลางคน
          “สวัสดีครับ”ผมไหว้พ่อกับแม่ของดินก่อนที่จะกระซิบอะไรบางอย่างกับดิน“แล้วแต่ดินนะถ้าไม่อยากบอกก็เป็นสิทธิ์ของดิน”แต่ดินกับทำหน้าไม่สบายใจเท่าไหร่
        “ทุกคนครับ คือผมมีเรื่องจะบอก”
        “อะไรจ๊ะ”ป้าพิมพ์ถามขึ้น
        “คือเรื่องคนที่ทำร้ายออม..”
        “ช่างมันเถอะดินยังไงก็แจ้งตำรวจแล้วไม่ใช่หรอ”ผมบอกออกไปเพราะรู้สึกสงสารคนที่ชื่อนายเพราะทั้งชีวิตของเขาเขาก็ถูกกระทำมาตลอด คนที่เขารักในชีวิตก็ตายไปหมดแล้วผมไม่อยากให้ดินบอกให้ใครไปตามจับเขาเพราะผมรู้ว่าดินก็คงเจ็บไม่น้อยที่เป็นเขา
       “ไม่ได้จ่ะ ช่างเถอะไม่ได้ถ้าตอนนั้นเราไม่รอดมาจะทำยังไงแม่ไม่ยอม”แม่ผมบอกขึ้น
         “งั้นไปขอให้ตำรวจมาตรวจแถวบ้านเราบ่อยๆก็ได้หนิครับ”ผมบอกออกไป “เพราะยังไงเราก็ไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใครแล้วก็ไม่มีใครเห็นหน้าเขา”
           “ใครบอกล่ะจ๊ะ ตอนนั้นมีคนเห็นคนที่ไม่ได้มาพักที่แคมป์มาวนๆเวียนๆอยู่แถวเต้นท์ดินกับออม เป็นผู้ชายนี้แหละแต่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ฮู้ดเขากำลังสเก็ตภาพกันอยู่ออมไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ”ป้าพิมพ์บอกทำให้ผมต้องยอมรับแล้วว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดไม่ใช่ว่าผมใจดีอะไรหรอกนะครับผมแค่คิดสงสารเขาว่าชีวิตเขาจะต้องเจ็บอีกเท่าไหร่กัน
          เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ก็อย่างที่ทุกคนคิดครับภาพสเก็ตของคนที่ชื่อนายก็ออกมาพร้อมกับหมายจับส่วนผมก็กลับมาเรียนตามปกติโดยที่มีดินคอยรับคอยส่งส่วนไอ้แบล็คก็กลับมาเรียนแล้วเหมือนกันแต่ก็ยังต้องเดินสามขาอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2018 03:19:10 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่สิบห้า งั้นเราเป็น...กันมั้ย



       “แม่ครับผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ”ผมบอกแม่เมื่อเห็นว่าดินมาแล้วเพราะไม่อยากให้เขาเข้ามาในบ้านซักเท่าไหร่เดี๋ยวจะนานเพราะดินไม่ค่อยกินข้าวเช้าเดี๋ยวแม่จะเรียกให้นั่งแล้วก็คงอีกนานกว่าจะได้ไปโรงเรียน ผมรีบยกมือไหว้แม่ก่อนที่จะเดินออกมาหน้าบ้านก็เห็นดินยืนใส่หมวกกันน็อครออยู่แล้ว

          “ไปกันยัง”ดินถาม

          “อื้ม”ผมตอบ ดินจึงยื่นหมวกกันน็อคมาให้ “วันนี้เข้าไปในโรงเรียนเลยนะสายแล้ว”ผมบอกพลางใส่หมวกกันน็อคไปด้วย

          “ได้..แล้วกินอะไรมายัง”ดินถาม

          “ยังอ่ะ”ผมตอบแต่ดินก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนที่จะเอานมให้กล่องหนึ่งกับขนมปังแล้วสตาร์ทรถ ผมก็ขึ้นรถไปแล้วก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว

            เมื่อมาถึงโรงรถดินจอดรถเสร็จพวกเราก็รีบเดินไปเข้าแถวทันทีเพราะวันนี้มันสายจริงๆระหว่างเดินไปเข้าแถวก็มีคนมองมาที่ผมกันดินอยู่เหมือนกันโดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแฟนคลับของดิน ถึงผมกับดินจะมาโรงเรียนด้วยกันเป็นอาทิตย์แล้วก็ตามแต่ส่วนมากผมกับดินก็จะแยกกันตั้งแต่อยู่หน้าโรงเรียนเพราะผมจะต้องไปหาพวกไอ้แบล็ค ไอ้บอม ก่อน

          “นั่นใครวะมึง”ผู้หญิงคนหนึ่งถามเพื่อนของเธอขึ้นพลางมองมาทางผมทำให้ผมเดินห่างออกมาจากดินนิดหน่อย ก็อย่างที่ว่าแหละครับผมก็ไม่ได้เป็นคนดังในโรงเรียนสักหน่อยแถมโรงเรียนผมคนก็ต้องเยอะไม่แปลกหรอกครับที่พวกเธอจะไม่รู้จักผม

         “ออมเป็นอะไรอ่ะ”ดินถามขึ้นเมื่อเห็นผมเดินห่างออกไปเรื่อยๆ

         “อ่อเปล่า...”ผมตอบ

         “อย่าไปสนใจเลย”ดินพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆก่อนที่จะจับมือผม “เร็วหน่อยดิเดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก”ดินบอกก่อนที่จะออกตัววิ่ง ผมจึงวิ่งตามเขาไปพร้อมกับรอยยิ้มนั้นน่ะสิเนาะผมจะไปสนคนอื่นทำไมในเมื่อคนที่ผมรักเขาอยู่ตรงนี้แล้ว ระว่างทางก็มีคนหันมามองอยู่เรื่อยๆจนถึงแถวคนแทบจะทั้งโรงเรียนต่างพากันหันมามอง ผมนี้ละอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

          “ดินปล่อยมือเราได้แล้ว..”ผมบอกเขาเพราะคนมองมาทางเราเยอะมากเกินไปแล้ว

          “อ่อ..โทษทีเราลืมอ่ะ”ดินบอกยิ้มพร้อมกับปล่อยมือผม

          “เอ่อ..งั้นเราไปเข้าแถวก่อนนะ”ผมบอกดินแก้เขินก่อนที่จะเดินไปที่แถว

          “แหม๋....เดี๋ยวนี้ล่ะก็เนาะ...”กี้พูดขึ้นเมื่อผมไปถึงแถว

          “อะไรกี้”ผมถามขึ้นแก้เขินทั้งๆที่ก็รู้แหละครับว่าเขาว่าให้ผม

          “ไม่รู้สิเนาะปริม..ก็เห็นจะจับมือกันมา...แต่ไม่ได้ว่าให้ใครเนาะ”กี้ว่าท่าทางกระแหนะกระแหน

          “ใช่ๆ...ออมไม่ต้องคิดมากหรอกจูงมือกันมาขนาดนั้นคนที่โดนจูงอาจจะตาบอดก็ได้ไม่ใช่ออมหรอก”ปริมเสริม

          “พวกมึงเป็นแฟนกันแล้วหรอวะ”ไอ้บอมถามขึ้นทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น

         “แฟนบ้านมึงสิยังไม่ได้เป็นโว้ย”ผมบอกไปทำท่าทางมีอารมณ์เพื่อกลบเกลื่อนอาการเขิน

         “ยังไม่เป็นแปลว่าต่อไปต้องเป็นน่ะสิ”ปริมพูดขึ้น

         “เออจริง”กี้เสริม

         “ไม่ใช่อย่างงั้น”ผมบอก

         “เอ้า!!!ก็เห็นเปิดตัวกันเกิ้นนน...จูงไม้จูงมือกันมาอย่างกับคนตาบอด”ไอ้บอมว่า

         “ไม่ได้เป็นโว่ย!กูไม่คุยกับพวกมึงแล้ว”ผมพูดงอนๆ

         “ระวังไว้เถอะเดี๋ยวจะมีแมวมาขโมยไปแล้วมึงจะเสียใจเล่นตัวอยู่นั่นแหละ”ไอ้บอมว่าแต่มันก็ทำให้ผมแอบคิดอยู่เหมือนกัน แต่จะให้ผมทำไงอะขอเขาเป็นแฟนอย่างั้นหรอถึงจะรู้แล้วว่าเขาชอบผมแล้วผมก็ชอบเขาก็เถอะแต่ผมก็อายอยู่ดี

ดึ่ง!

         เสียงไลน์ของผมดังขึ้นผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นดินส่งรูปมาซึ่งนั้นก็คือรูปของผมที่ถ่ายมาจากทางด้านหลังนั่นเอง

‘เล่นอะไรเนี้ย’ผมถาม

‘ดูดีออก’ดินชม

‘โกหก!’ผมส่งข้อความกลับไป

‘รู้ได้ไงอ่ะ5555’ดินบอกก่อนจะส่งรูปอุบาทๆของผมมาอีกผมจึงปิดหน้าจอลง

ดึ่ง!ดึ่ง!ดึ่ง!ดึ่ง!ดึ่ง!ดึ่ง!

        เสียงไลน์ของดินดังขึ้นไม่หยุดจนคนอื่นหันมามอง ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะปิดเสียงแต่ก็ต้องพบว่ามันไม่ใช่ไลน์ของดินแต่เป็นของใครก็ไม่รู้ผมหันไปมองดินที่ยืนคุยอยู่กับเพื่อนโดยที่เขาไม่รู้ตัวผมจึงรีบเปิดดูแต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเป็นภาพของไอ้แบล็คที่นั่งอยู่บนห้องคนเดียวเพราะว่าขามันยังไม่หายดีเลยไม่ได้มาเข้าแถว

‘ปล่อยเพื่อนไว้คนเดียวแบบนี้ไม่ดีนะ’

‘ถ้าเพื่อนเป็นอะไรไปจะทำยังไงเนี่ย’

‘ไม่รอบคอบเอาซะเลย’

         นี้คือข้อความจากไลน์ของคนที่ผมไม่รู้จัก เขาต้องการอะไรกันแน่ซึ่งในเวลานี้ผมคิดว่าเขาจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอกจากนายคนเดียว

          “ไอ้บอมไอ้แบล็คแย่แล้ว”ผมบอกบอมก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปจากแถว

          “เฮ้ยไอ้ออมเดี๋ยว!!!”ไอ้บอมเรียกตามหลังผมมาแต่ผมคงไม่มีเวลาไปอธิบายอะไรให้มันเข้าใจตอนนี้เพราะผมไม่อยากให้เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันสายเกินไปหรือเลวร้ายแบบที่ผมคิด

            ผมรีบวิ่งขึ้นไปบนอาคารเรียนของผมจนถึงห้องของผมแต่ก็ไม่เห็นมีใครแม้แต่ไอ้แบล็คก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงคนวิ่งออกไปทางหลังห้อง ผมจึงวิ่งตามไปก็เห็นว่าเขาเป็นผู้ชายที่ใส่เสื้อมีฮู้ดผมจึงวิ่งตามเขาไปเขาต้องเอาไอ้แบล็คไปไว้ไหนสักที่ เขาวิ่งลงอาคารผมก็วิ่งตาม และเขาก็วิ่งไปทางหลังโรงเรียน ผมก็วิ่งตามไปติดๆจนใกล้จะถึงประตูทางออก

           พลั๊ก!

          “เชี่ย ปล่อยกูนะไอ้...”

             “เฮ้ย!นี้กูเอง”เสียงนั้นตวาดผมขึ้นทำให้ผมหันไปมอง

              “วิน..”ผมเรียกชื่อเขาขึ้นด้วยความแปลกใจ

           “ก็เออน่ะสิ..แล้วมึงจะไปไหนเนี้ยวิ่งหน้าตั้งเชียว”วินถามขึ้น

              “คือเรา...แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ”ผมถามขึ้น

              “ใคร”วินถาม

              “คนที่เราวิ่งตามมาไง”

              “คือกูไม่รู้ว่ะ กูพึ่งออกมาจากห้องน้ำ”วินบอก

               “วินช่วยด้วยผู้ชายคนนั้นมันจับตัวไอ้แบล็คไป”ผมบอก

               “ห้ะมึงว่าไงนะ”

               “ผู้ชายคนนั้นมันจับตัวไอ้แบล็คไป”ผมบอกทำให้วินทำหน้างงๆ

          “มันมาโรงเรียนด้วยหรอวะ เมื่อเช้ากูว่ากูเห็นไอ้บอมมาคนเดียวนะ”วินบอก “หรือว่ามันมาแล้ว..”

         “ไอ้ออม...”ไอ้บอมวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาผม

         “ไอ้แบล็คแย่อะไรของมึงว่ะ แฮ่กๆๆ”ไอ้บอมถามขึ้นเมื่อมาถึงผม

          “ก็กูเห็นไอ้ชั่วนั้นมันส่งไลน์มาหากูว่ามันอยู่บนห้องกับไอ้แบล็คกูกลัวมันทำอะไรไอ้แบล็คไง” ผมพูดพลางจะร้องไห้

           “มันจะเป็นไปได้ยังไงกันก็ไอ้แบล็คมันไปโรงพยาบาลกับแม่มันตั้งแต่เช้าแล้วสิบโมงมันถึงจะมาเรียน”ไอ้บอมบอกทำให้ผมถึงกับเหวอ

          “งั้นก็...”

          “มึงโดนหลอกไงละ”วินบอก

         “ทีหลังจะทำอะไรก็มีสติหน่อย”ไอ้บอมบอก “แล้วไลน์นั้นก็บล็อกซะ”

          “เดี๋ยวๆมีไลน์ใช่มั้ย”วินถามผมพยักหน้าตอบ “งั้นตามกูมานี้”เมื่อพูดเสร็จวินก็เดินนำพวกผมมาที่ห้องคอมก่อนที่จะขอให้ครูเกรียงศักดิ์ช่วยเช็คข้อมูลของไลร์ให้

          “ไลน์ปลอม อีเมลล์ก็ปลอม ปลอมยันเบอร์เลยพวกเธอเล่นอะไรกันอยู่”ครูเกรียงศักดิ์พูดดุๆ

           “ขอบคุณครับครู”วินไม่ตอบก่อนที่จะพาพวกผมเดินออกมาจากห้องคอมแล้วมานั่งคุยกันข้างนอก

         “มึงรู้มั้ยว่ามันเป็นใคร”วินถามผมขึ้นขณะนั่งที่นั่งอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนซึ่งตอนนี้คนก็ขึ้นเรียนกันหมดแล้ว

         “รู้”ผมตอบ

        “อย่าบอกนะว่าไอ้คนที่ทำร้ายมึงกับไอ้แบล็คอ่ะ”ไอ้บอมถามขึ้น

        “กูว่าน่าจะใช่นะ”ผมบอกหน้าเครียด

        “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกวะ”วินโวยขึ้น

         “เอาก็วินดึงเราไว้ทำไมเล่า”ผมพูดชักมีอารมณ์

         “ที่ไอ้วินมันทำน่ะถูกแล้วถ้าปล่อยมึงไปตามไอ้เชี่ยนั่นมึงจะไปสู้อะไรมันได้ แล้วที่มึงไม่บอกไอ้วินก็ถูกแล้วถ้าเกิดเป็นกับดักมันก็ตายห่ากันพอดี”ไอ้บอมบอก

        “เออก็จริงงั้นกูก็ขอโทษแล้วกัน”วินบอกขึ้น

        “ไม่เป็นไรยังไงก็ขอบใจแล้วกัน”ผมบอก

        “แล้วพวกมึงจะเอาไงต่อตอนนี้มันอยู่ใกล้ตัวพวกมึงมากเกินไปแล้วนะจนขนาดว่าถ่ายรูปไอ้แบล็คได้มันไม่ธรรมดาแล้วนะ”วินพูดขึ้น

        “กูว่ามันก็จริง ชักจะน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแล้วว่ะ”ไอ้บอมพูดพลางลูบแขน

        “ต่อไปเราคงต้องระวังให้มากกว่านี้แล้วก็อยู่กันเป็นกลุ่มมากขึ้น”ผมบอกทั้งสองคนก่อนที่จะบล็อกไลน์ของคนที่ผมคิดว่าเป็นนายแล้วแยกย้ายกันขึ้นเรียนแต่ไอ้บอมบอกว่าจะขอไปเช็คกล้องหน่อยจึงชวนวินไปด้วย

           เมื่อถึงเวลาสิบโมงไอ้แบล็คก็มาถึงโรงเรียนพอดีไม่ขาดไม่เกินผมจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มันฟัง

         “เฮ้ยถึงขนาดว่าถ่ายรูปกูไว้ได้เลยหรอวะ”ไอ้แบล็คถามขึ้นด้วยความตกใจผมจึงพยักหน้าตอบ

          “อือไปลองขอเช็คมาแล้วกล้องวงจรปิดหลังโรงเรียนกับหน้าห้องเราก็เสีย”ไอ้บอมบอก

         “ต้องระวังตัวให้มากๆนะ แบล็คนี้ก็ยิ่งกระปลวกกระเปียกอยู่ถ้าเจอเข้าจริงคงสู้เขาไม่ได้หรอก”กี้บอกด้วยความเป็นห่วง

         “ก็จริงว่าแต่ทำไงดีวะวันนี้แม่ไม่ว่างมารับอ่ะ”ไอ้แบล็คว่าขึ้น

         “กูก็ไม่ได้เอารถมานะวันนี้แม่มาส่ง”ไอ้บอมว่า

         “เอ้าแล้วจะกลับกันยังไงล่ะเนี้ย”ผมถามขึ้น

    “เฮ้ยปวดหัวจังเล้ยยยยยไปเข้าห้องน้ำดีกว่ายังไงก็จะเที่ยงแล้ว”ปริมบอกเพราะคาบนี้ไม่ค่อยได้ทำอะไรเพราะมันคือวิชาศิลปะ

         “ไปด้วยดิ”กี้บอกก่อนที่จะเดินตามปริมออกไป “เจอกันตอนบ่ายนะเรียนบาสใช่ป่ะ”ผมพยักหน้าให้กับคำถามของกี้ก่อนที่เธอจะเดินลับตาไป

.

.

.

.

       “นี้สงสารพวกออมเนาะกี้มึงว่าป่ะเด็กอายุสิบแปดย่างพวกเราต้องเจอเรื่องแบบนี้เป็นกูคงไม่ไหวอ่ะ”ปริมบอกขณะที่เธอเดินมาถึงหน้าห้องน้ำ

          “กูว่านะไอ้นั้นมันคงไม่ได้จะทำแค่สองคนนี้หรอกพวกเราถ้าขวางทางมันก็คงโดนเหมือนกัน แต่กูไม่กลัวหรอกลองมาดูสิ”กี้บอกปริมอย่างออกรส

          “จร้าแม่คนเก่ง”ปริมพูดประชด ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันไปเข้าห้องน้ำซักพักก็มีคนเดินเข้ามา

           “มึงไอ้คนที่มากับพี่ดินเมื่อเช้าเสร่อชะมัดเลยเนาะทำมาเป็นจับไม้จับมือกูล่ะเกลียดมันซะจริงๆ”ผู้หญิงคนแรกพูดขึ้นทำกี้ที่กำลังจะออกจากห้องน้ำถึงกับชะงัก

            “กูก็เหมือนกันไม่รู้จักหลาบรู้จักจำซะบ้างเลย”ผู้ญิงคนที่สองพูดขึ้น ก่อนที่ปริมจะเริ่มกดบันทึกเสียง

           “เออจริงๆคนอะไรดื้อด้านชะมัดหรือว่าที่พวกเราทำมันจะยังไม่แรกพอวะ”ผู้หญิงคนแรกพูดขึ้น

       “กูว่าก็ไม่เบานะทั้งเลือด ทั้งข้อความ ลูกตา ไหนจะซากไก่อีก โอ้ยพูดมาแล้วกูก็ขำเวลาเห็นหน้ามันตอนเว๋อ55555”ทั้งสองหัวเราประสานเสียงกัน

            “เออก็จริงหรือว่ามันจะไม่เข้าใจความหมายของเราวะที่ต้องการให้มันเลิกยุ่งกับพี่ดินมันยิ่งโง่ๆอยู่ขนาดไอ้มุกเอาน้ำเทใส่หัวมันตอนกีฬาสีมันยังไม่รู้เลย555555555”ทั้งสองหัวเราะชอบใจอีกครั้งก่อนที่ปริมกับกี้จะเปิดประตูห้องน้ำออกมาทำให้ทั้งสองคนถึงกับหน้าเว๋อ

            “กฎของชะนีขี้เม้าท์ข้อที่หนึ่งบรรทัดหนึ่งห้ามเม้าท์ใครในห้องน้ำสาธารณะนะจ๊ะ”กี้บอกก่อนที่ปริมจะวิ่งไปดักหน้าทั้งสองคนไม่ให้ออกไปนอกห้องน้ำ

.

.

.

.

       “ก็อย่างที่ได้ยินในคลิปเสียงนั้นแหละพวกนี้เป็นคนแกล้งออมไม่ใช่คนชื่อนายแถมพวกนี้ยังเป็นเพื่อนกับดาวน้องสาวดินอีกด้วย อ่อแล้วก็ไม่ได้มีแค่นางสองคนหรอกนะ”ปริมบอกผมหลังจากที่เปิดคลิปเสียงของสองสาวให้ผมฟังแล้ว

         “ดวงของกูนี้แม่งมันจะอะไรนักหนาวะแม่งมีแต่คนเกลียดกู”ผมพูดตัดพ้อขึ้นก่อนที่จะเข้าเรียนคาบบาส

          “ก็ช่วยไม่ได้ไปชอบคนที่เป็นตัวท๊อปซะขนาดนั้นแถมแฟนคลับโหดซะด้วย”ไอ้แบล็คพูดติดตลก

         “กูไม่ขำ”ผมบอก

        “น่าพวกนั้นไม่กล้ามารังครวนออมอีกแล้วล่ะ”กี้บอกท่าทางมั่นใจ

        “ทำไมมั่นใจนักล่ะ”ไอ้บอมถามขึ้น

         “เราขู่อะไรนิดหน่อยพวกนั้นก็กลัวแล้ว”กี้บอก

         “คือ..”ไอ้แบล็คถาม กี้ไม่ตอบแต่กับยกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือปริมขึ้นเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้พวกผมเข้าใจ

           เมื่อเดินเข้ามาในโรงยิมก็ตามเคยมีนักเรียนห้องคิงอยู่เต็มห้องแล้วพวกผมก็ตามเคยคือช้าตามเคย เมื่อเช็คชื่อเสร็จครูก็ให้พวกเราแยกย้ายกันไปฝึกชู๊ตและส่งลูกในขณะนั้นเองดินก็วิ่งมาทางที่พวกผมอยู่

           “เป็นไงบ้างออมเราพึ่งจะได้ยินเรื่องจากไอ้วินเมื่อตอนเที่ยงนี้เอง”ดินถามขึ้นท่าทางเป็นห่วง

           “ก็ไม่เป็นไรอ่ะสบายดี”ผมตอบเขาหงอยๆก่อนที่ผมจะเดินออกไปหัดชู๊ตบาสที่ห่วง

.

.

.

.

           “เขาเป็นอะไรของเขาอ่ะ”ผมถามไอ้แบล็คขึ้นเมื่อออมเดินคอตกออกไป

           “เอาไงดีอ่ะ”ไอ้แบล็คถามพลางมองไปทางปริมกับกี้

           “ก็บอกไปเหอะยังไงมันก็เป็นต้นเหตุ”กี้พูดขึ้นพลางมองมาทางผมทำให้ผมงงไม่รู้ว่าไปทำอะไรตอนไหน “เสน่ห์แรงนักนะ เสน่ห์แรงจนเป็นพิษเอ้าฟัง”ปริมพูดพลางกดโทรศัพท์ก่อนที่จะส่งมันให้ผมทำให้ผมได้ยินทุกคำและทุกอย่างที่ผู้หญิงพวกนั้นที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคลับของผมพูดมันช่างเลวร้ายเหลือเกิน ผมไม่คิดว่าพวกเธอจะทำได้ถึงขนาดนี้ในขณะที่พวกเธออยู่กับน้องสาวของผมก็ดูน่ารักดีแท้ๆผมคงไม่ปล่อยให้พวกเธอทำอีกแน่ๆ แล้วก็นี้สินะที่ทำให้เจ้าออมงอนผมซะได้ เฮ้อคนอะไรทำตัวเป็นรูสเซอร์ไปได้

.

.

.

.

          ดินยืนคุยกับพวกไอ้แบล็คแป๊บนึงก็วิ่งเข้ามาหาผมสงสัยพวกนั้นคงเปิดคลิปเสียงให้ฟังแล้ว

         “งอนหรอ”ดินถามผมจึงเดินหนีแต่เขาก็เดินตามผมมาไม่ห่าง “หึง่ะดิ”

        “บ้า ประสาทจะหึงเพื่อ”ผมด่าเขาไปแก้เขินก่อนที่จะชู๊ตบาสแต่กลับไม่เข้าห่วงดินจึงเก็บมันขึ้นมาแล้วเดาะต่อแล้วผมจึงแย่งมา

       “โหหึงโหดซะด้วย”

       “ดินเป็นบ้าอะไรเนี้ย!ไม่ได้โกรธแล้วก็เราไม่ได้หึงเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย ”ผมบอกไปอย่างมีอารมณ์แต่ไม่ได้ดังมากเพราะในโรงยิมมันเสียงดังมากอยู่แล้ว

       “เอ้า!ไม่โกรธเลยหรอ”เค้าถามพลางล้อเลียน

       “ใช่”

       “ไม่หึงเลยด้วยเพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน”ดินถามหน้าทะเล้น

       “แน่นอน”ผมตอบเสียงแข็งแต่ก็ยังแอบเจ็บใจ

       “งั้นเราเป็นแฟนกันป่ะ”ดินถามขึ้นทำให้ลูกบาสในมือผมตกลงพื้นและผมก็จ้องหน้าเขาพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว

          “ดินว่าไงนะ”ผมถามขึ้นอย่างชั่งใจ

          “เป็น แฟน กัน มั้ย”ดินพูดย้ำทุกคำช้าๆยอมรับครับว่าตอนนั้นความโกรธที่ผมมีให้เขานั้นได้หายไปหมดแล้ว แต่ตัวผมนี้สิแทบจะละลายไปกองอยู่กับพื้น ในที่สุดก็มีวันนี้วันที่ผมรอมานานผมแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินด้วยซ้ำไป “ว่าไง..”

           ผมกำลังจะพยักหน้ารับก่อนที่ลูกบาสจะกระแทกเข้าที่หัวของผมทำให้โลกของผมดับลงอีกครั้ง

            ผมตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่คุ้นเคยเพราะนี้คงเป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมต้องตื่นขึ้นมาในห้องๆนี้ ก็พบเข้ากับดินที่ตอนนี้นั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างเตียงผม

            “อ้าวฟื้นแล้วหรอ”ดินถามขึ้นพร้อมกับว่างโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียง(โหนี้เขายอมทิ้งสหายร่วมสงครามเพื่อผมเลยหรอเนี้ยซึ้งจัง)เมื่อผมเห็นหน้าเขาผมก็แทบจะลมจับอีกครั้งเพราะคำตอบที่ผมยังไม่ได้ให้กับเขา

           “อื้อ”ผมตอบในลำคอ

          “อยากลุกมั้ย”ดินถาม

         “ไม่เป็นไร”ผมบอกก่อนที่จะมองหน้าเขาให้ชัดๆอีกครั้งเขายังทำให้ผมต้องหวั่นไหวเพราะเขาตลอดเลยสิน่า“แล้วพวกไอ้แบล็คล่ะ”ผมถาม

        “เราให้พวกมันขึ้นไปเรียนอ่ะจะได้ตามงานให้ออมด้วย”ดินบอก “ถ้าหายปวดหัวแล้วบอกนะจะได้พากลับบ้าน อ่อแล้วเรื่องเด็กพวกนั้นเราจัดการให้แล้วนะพวกเขาจะไม่มายุ่งกับออมอีกแล้ว”ดินบอกพร้อมกับรอยยิ้มซึ่งทำให้ผมเขินจนไปไม่เป็นเลยทีเดียว

           เมื่อผมหายเวียนหัวแล้วก็เลยให้ดินพากลับพร้อมกับพวกไอ้แบล็คที่เอางานมาให้พอดี

          “เอ้าแล้วพวกมึงจะกลับยังไงกันล่ะ”ผมถามทั้งสองขึ้นด้วยความเป็นห่วง

          “ก็คงจะแท็กซี่นี้แหละ”พวกมันตอบ

          “งั้นกลับบ้านดีๆนะ”ผมบอกก่อนที่จะเดินไปที่รถแล้วกลับบ้านไปพร้อมกับดินแต่ในระหว่างทางกลับซวยซ้ำซวยซ่อนโทรศัพท์ของดินดันหล่นออกจากกระเป๋าลงสู่ถนนจนโดนรถเหยียบแบนแต๋ดแต๋

          เมื่อดินมาส่งผมถึงบ้านก็ไม่วายที่จะโดนแม่บังคับให้ทานข้าวเย็นด้วยพร้อมกับเจ้าโด้ที่อ้อนเขาไม่หยุดจนดินกลับบ้านไปผมก็ไปอาบน้ำแล้วขึ้นไปดูแลต้นไม้ของผมซึ่งตอนนี้มันก็ออกดอกเต็มที่แล้วเหลือแค่รอให้มันบานเท่านั้นเอง พ่อบอกกับผมว่ามันคือดอกเบญจมาศสีขาวหรือดอกมัมหรือถ้าจะให้เรียกเป็นภาษาอังกฤษก็คือดอก Chrysanthemumนั้นเอง

           ผมคิดว่าผมจะรอให้ดอกมันบานก่อนถึงจะเอาไปให้ดินแล้วก็รับคำขอเป็นแฟนของเขาคงจะโรแมนซ์ติกดีไม่น้อยแล้วก็บอกเขาว่า ‘นี้เราปลูกเองเลยนะเก็บมาตั้งแต่วันนี้แหละที่เราเดินชนกันหน้าห้องน้ำไง’คงจะได้ฟิลที่ดีมากผมคิดว่าคงอีกไม่เกินสองวันมันต้องบานเต็มที่แน่นอน

          ในเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็รีบแต่งเนื้อแต่งตัวและรีบกินข้าวก่อนที่จะรอดินที่หน้าบ้านด้วยใจที่จดจ่อยังไงซะผมก็เป็นว่าที่แฟนของเขาแล้วนี้

          “จะคึกอะไรเบอร์นั้น.....”แม่แซวผมขึ้นทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าดินเขาขอผมเป็นแฟนแล้วเพราะเราไม่เคยพูดกันเลยว่าผมชอบใครหญิงหรอชายแม่ไม่เคยถามเพราะแม่บอกผมว่าผมเกิดมาจากรัก แล้วถ้าหากผมจะรักจะคบใครก็ต้องเป็นเพราะรักไม่ใช่รักเพราะคนอื่นได้กำหนดไว้ว่านี้คือรัก...

          เมื่อดินมาถึงแม่ก็เรียกเขาเข้าไปกินข้าวตามเคยผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะดินค่อนข้างมาเร็วในวันนี้จนกินข้าวเสร็จเราก็ไปโรงเรียนเข้าแถวแล้วไปนั่งกินข้าวด้วยกันในตอนเที่ยงก่อนที่ผมจะขึ้นเรียนคาบบ่ายจนเกือบจะเลิกเรียน

            ดึ่ง!ดึ่ง!

           เสียงไลน์ดังขึ้นในคาบสุดท้ายตอนใกล้จะเลิกซึ่งเป็นวิชาชีวะวิทยาที่ผมกำลังส่องกล้องดูการแบ่งเซลล์ของเยื้อหอมอยู่ ผมจึงหยิบไลน์ขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นไลน์ของคนที่ผมไม่รู้จักอีกแล้วต้องเป็นนายแน่นอนว่าแต่เขาต้องการอะไรอีก

            ผมกดเข้าไปดูผมก็พบกับคลิปที่ทำให้หัวใจผมหล่นไปถึงตาตุ่มเพราะนั้นมันเป็นคลิปที่เขาถ่ายจากห้องผมแถมยังแพลนภาพไปที่ต้นดอกมัมของผมอีกพร้อมกับมีข้อความส่งมาอีกว่า

 ‘คิดถึงกันบ้างไหม กลับมาเร็วๆนะคิดถึง’

 ‘ต้องการอะไร’ผมถามด้วยความโมโห

  ‘กลับมาบ้านห้ามบอกใครมาคนเดียวแล้วอย่าลืมไล่ไอ้ฆาตกรนั้นไปไกลๆด้วยถ้ายังรักแม่ของมึง’เขาส่งข้อความมาก่อนที่จะตามมาด้วยคลิปแม่ผมที่กำลังทำกับข้าว ‘ออมรีบกลับมาเร็วๆนะจ๊ะรุ่นพี่มารอนานแล้ว’เสียงแม่พูดจากในคลิป ‘ขอบคุณครับ’เสียงของไอ้ชั่วนั้นพูดปิดท้าย

             ผมในตอนนั้นก็เกิดอาการร้อนรนจนบอกไม่ถูกผมเดินออกจากห้องเรียนทันทีโดยที่ไม่บอกใครก่อนที่ออดเลิกเรียนจะดังขึ้นพอผมเดินไปด้วยความเร็วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นดินนั่งรอผมอยู่หน้าอาคารเรียนกับวินพอดีเมื่อดินเห็นผมดินจึงรีบเดินเข้ามาหาผม

          “ออมเป็นอะไรอ่ะทำไมหน้าเครียดๆ”ดินถามผมขึ้น

          “...”

           “ไอ้ออมแม่งจะรีบไปไหนวะไม่รอพวกกูเลย”ไอ้แบล็คด่าตามหลังผมมา

            “...”

             “เฮ้ยเป็นอะไรออมบอกเราได้นะทำไมเงียบแบบนี้”ดินถามผมขึ้นอีกครั้ง

             “ดินวันนี้ไม่ต้องไปส่งเราแล้วนะ”ผมบอกเสียงเรียบ

            “ทำไมมีคนมารับหรอ”ดินถามขึ้น

            “ไม่มี แต่ไม่ต้องไปรับไปส่งเราอีกต่อไปแล้ว”ผมบอกดินทั้งๆที่เจ็บทุกคำพูด

          “ทำไมอ่ะบอกเหตุผลเรามาก่อนสิ”ดินถามพยายามจะเค้นเอาคำตอบ

          “เออนั้นสิทำไมวะ”ไอ้บอมแย้งขึ้น

           “คือเรา...เราไม่อยากเจ็บเพราะดินอีกแล้ว ทั้งไอ้พี่นายของดินแฟนคลับดินและสายตาของคนอื่นๆที่มองเราเราไม่อยากเจอแบบนี้อีก ทีนี้คงรู้เหตุผลของเราแล้วสินะ”ผมพูดพลางน้ำตาไหลทั้งๆที่กำลังจะดีแล้วแท้ๆทั้งๆที่พรุ่งนี้ผมกะจะเอาดอกไม้มาให้เขาแล้วยอมเป็นแฟนกับเขาแล้วแท้ๆผมเจ็บเหลือเกินที่ต้องทิ้งเขาไป คนที่ผมรอเขามาตลอดวันนี้ผมคงจะได้เจอเขาเป็นวันสุดท้ายแล้วสินะเพราะยังไงซะไอ้นั้นก็คงไม่ยอมปล่อยผมไว้อยู่แล้วแต่ชั่งเถอะเพื่อแม่ของผมผมไม่ยอมให้ท่านเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน

             “แต่เราไม่ได้แคร์คนพวกนั้นซักหน่อยพวกนั้นก็แค่...”

             “แต่เราแคร์ไงดิน ได้ยินมั้ยว่าเราแคร์เมื่อรู้แล้วก็เลิกยุ่งกับเราซักที!”ผมพูดก่อนที่จะวิ่งออกไปทั้งน้ำตา

            “เอ้าไอ้ออม..”

            “เอ้าไอ้ออมเดี๋ยวก่อน”เสียงร้องเรียกผมไล่มาตามหลังแต่ผมก็วิ่งไม่ยอมหยุดในตอนนี้คนที่จะช่วยแม่ได้มีแค่ผมเท่านั้นแต่ผมก็คงต้องขอโทษดินเขาจริงๆขอโทษที่ต้องเอาเรื่องที่เขาพยายามจะแก้ไขมาทำร้ายเขาแบบนี้

            ดึ่ง!

‘ทำได้ดีมากกูเห็นหมดแล้ว’

‘งั้นตามแผนที่นี้มาแล้วอย่าตุกติกนะมึง’ไอ้ชั่วนั้นส่งข้อความมาก่อนที่แชร์โลเคชั่นที่ที่ผมไม่รู้จักมาให้พร้อมกับคลิปของแม่ที่นอนดิ้นโดนมัดมือมัดเท้าแล้วมีเลือดไหลออกจากทางจมูกจนเปอะเต็มหน้าไปหมด ผมเห็นคลิปก็ยิงร้องไห้หนักขึ้นคนก็มองผมมากขึ้นแต่ผมไม่สนแล้วผมต้องไปถึงที่นั้นให้เร็วที่สุดและช่วยแม่ให้ได้...



ยังไงก็ช่วยเมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2018 09:57:56 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ AnnAnnAnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่สิบหก เราไม่เหมือนเขา
       ผมวิ่งต่อไปโดยที่ไม่หยุดเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าผมจะหอบจนแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้วก็ตามในตอนนี้ผมคิดอย่างเดียวว่าผมต้องไปถึงแม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ดึ่ง!
'หยุด!'
 'แล้วขึ้นรถแทกซี่ทะเบียน กข 1368 กูยังไม่อยากให้มึงตายก่อน'ผมหยุดยืนอยู่กับที่ก่อนที่รถแทกซี่ที่มันบอกจะมาจอดอยู่ข้างหน้าผมแล้วลดกระจกลง
          “เรียกแทกซี่ใช่มั้ยครับ”ลุงคนขับถามขึ้นโดยไม่ได้ดูมีท่าทีผิดปกติแต่อย่างได้
          “อึก...ครับ...”ผมตอบทั้งน้ำตา
           “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”ลุงคนขับถามอย่างสุภาพผมส่ายหัวก่อนที่จะเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ “แล้วจะไปไหนนะครับ”ลุงเขาถามขึ้นอีกครั้งผมจึงส่งโทรศัพท์ให้เขาก่อนที่ลุงจะส่งคืนกลับให้โดยที่ไม่ได้ถามอะไรต่อจนเวลาผ่านไปเป็นครึ่งชั่วโมงที่ลุงเขาขับรถพาผมออกมาจากตัวเมืองก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยวซึ่งอยู่ห่างจากถนนเข้าไปหลายกิโล
ดึ่ง!
'ลงจากรถ'ข้อความของไอ้ชั่วนั้นส่งมาสั่งให้ผมลงจากรถซึ่งผมก็ทำตามมันเพราะมันเป็นทางรอดเดียวของแม่
       “ลุงจอดตรงนี้แหละครับ”ผมบอกลุงเขาทันทีที่อ่านจบก่อนที่จะส่งเงินให้ลุงเขา
        “เอ่อ...”
        “ครับลุง”ผมหันไปหาลุงคนขับแท็กซี่
        “มาทำอะไรที่นี้หรอครับ...ที่นี้มันหมู่บ้านร้างนะ”
         “..........”
         “เอ่อ.....”ลุงเขามองหน้าผม
         “..........”ผมไม่ตอบก่อนที่จะออกวิ่งอีกครั้ง
        ผมวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านนั้นมันทั้งเงียบทั้งกว้างเหมือนกับป่าช้ายังไงก็ไม่ปานผมวิ่งไปทั้งที่ไม่รู้ว่าแม่อยู่ตรงไหนบ้านหลังไหนเพราะไอ้เลวนั้นมันส่งมาแค่ที่อยู่ของหมู่บ้านนี้และไม่รู้แม้กระทั้งว่าจุดจบของวันหรือแม้แต่เรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
        ดึ่ง!
        'ดีมาก มาถึงแล้ววิ่งมาให้สุดซอยแล้โทรเข้าเบอร์นี้ 0900222xxx รู้นะว่าต้องทำไงต่อรีบเข้านะเพราะแม่มึงยังไม่ตาย'
      ผมออกวิ่งทันทีที่อ่านจบทั้งที่เจ็บใจและโกรธที่สุดเท่าที่ผมเคย จนมาถึงจุดหมายผมรีบกดเบอร์นั้นแล้วโทรออกทันที
        เสียงของโทรศัพท์ดังออกมาจากที่ไหนสักแห่งผมพยายามตั้งใจฟังเสียงนั้นทั้งที่เสียงของมันเบามากก็ตามแต่ความเงียบของที่นี่ก็ช่วยผมไว้ได้เยอะ

        ผมมองไปทางตึกหนึ่งที่สูงประมาณสามชั้นได้ผมคิดว่าเสียงที่ผมได้ยินมันต้องออกมาจากทางนั้นแน่ผมรีบตรงเข้าไปโดยที่ไม่วอกแวกแม้แต่วินาทีเดียวในตอนนี้อารมณ์ของผมมันก็มีแต่ความโกรธที่มันค่อยๆเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆจนผมคิดว่าถ้าผมเจอมัน ไอ้เลวนั้นผมต้องฆ่ามันได้แน่ๆแล้วถ้ามันตายผมกับแม่ก็จะปลอดภัยอีกครั้งและในขณะเดียววกันกับที่ผมคิดอยู่นั้นเสียงของโทรศัพท์มันก็ค่อยดังขึ้นและชัดขึ้นเรื่อยทุกครั้งที่ผมก้าวท้าวเข้าไปหามันผมไม่แม้แต่จะหยุดคิดให้ดีก่อนที่จะเข้าไปในตึกนั้นเลยแม้แต่น้อยผมเข้าไปในนั้นซึ่งมันก็มืดสลัวพอสมควรเพราะนี้ก็เริ่มจะค่ำแล้วผมวิ่งจากชั้นหนึ่งขึ้นไปชั้นสอง แต่กลับว่างเปล่าใช่แน่มันต้องอยู่ที่ชั้นสามแน่ๆผมรีบตรงขึ้นไปพร้อมกับความกลัวที่ค่อยๆเข้ามากัดกินหัวใจผมทีละนิดทั้งที่ก่อนหน้านี้มันไม่มีเลยซักนิดจนผมพ้นบันไดขั้นสุดท้ายขึ้นมาก็พบว่า......
        มันมีแต่ควาว่างเปล่ากับโทรศัพท์ที่แผดเสียงออกมาถูกวางอยู่บนพื้น ในห้องนี้ไม่มีแม้แต่แม่ผมที่ผมคาดว่าคงจะกำลังถูกมัดอยู่กับพื้น ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมติดกับมันเข้าให้แล้วผมรีบหันหลังกลับพร้อมกับความกลัวที่เอ่อล้น แต่.....
        พลั๊ก!
.
.

.

พาร์ท ดิน
        ดึ่ง!
        เสียงไลน์ดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังเครียดอยู่บ้านพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่เข้าใจว่าออมเขาคิดอะไรของเขาอยู่
ไลน์ของออมส่งมาหาผม ผมตอบไปอย่างไม่เข้าใจว่าออมต้องการอะไรอีก
    'ทำไมโทรไม่ติดอะเปลี่ยนเบอร์หรอ'ออมถามผมออกมาราวกับไม่รู้ว่าเมื่อวานตอนที่ผมไปส่งเขาผมทำโทรศัพท์ตก
       'อะกันออมต้องการอะไร'
       'ทำไมดินพูดแบบนั้นอะ'
        'ออมก็รู้หนิว่าเราเปลี่ยนโทรศัพท์อะ'ผมตอบไปอย่างมีอารมณ์ก่อนที่ผมจะฉุกคิดขึ้นมาว่านี้ไม้ใช่ออม
        'เออใช่'
        'ต้องการอะไร'
        'ทำไมดินถามงั้นอะ'
        'มึงต้องการอะไร'
        'ฉลาดดีหนิ'มันตอบผมมาก่อนที่จะส่งคลิปออมที่มีเลือดไหลลงมาตามคอ
         ”รีบมานะมาจบมันกันเริ่มต้นที่ไหนก็จบที่นั้น”มันพูดก่อนจะจบคลิป
        'อ่อถ้าฉลาดก็อย่าบอกใครนะ'มันส่งข้อความมาขู่ผม
'ไอ้นายมึงอยู่บ้านกูใช่มั้ย'ผมถามมันแต่มันไม่ตอบก่อนที่จะส่งคลิปที่มันถีบออมทั้งๆที่ถูกมัดอยู่กับเก้อี้จนล้มลงไปกองอยู่กับพื้นมาแทน ผมทั้งเจ็บใจทั้งโมโหอยากจะฆ่ามันซะให้ได้ผมรีบไปสตาร์ทรถแล้วขับออกไปทันทีผมขับด้วยความเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้แม้ผมรู้ว่ามันจะอันตรายแค่ไหนก็ตาม
.
.
.
พาร์ท ออม
        “อึ่ก”ผมถูกถีบลงมานอนกองกับพื้นพร้อมกับก้าอีกพี่มัดผมอยู่ผมทั้งเจ็บทั้งจุกในเวลาเดียวกันจนมันไม่มีเสียงร้องใดๆออกมาจากปากของผม
        “เป็นไงตีนกูอร่อยมั้ย”ผมถามผมเยาะๆ
      “แม่......แม่กุ....แม่กูอยู่....”ผมเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบากเพราะผมยังจุกไม่หาย
       “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”มันหัวเราะทำตัวงอพลางปรมือให้ผม “มึงนี้มันลูดยอดกระตันยูจริงๆว่ะขนาดจะตายห่าอยู่แล้วยังห่วงแม่อีก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆกูล่ซึ้งใจจริงๆ”มันพูดจบแล้วค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆแลวกระชากผม ของผมขึ้น “มึงไม่ต้องห่วงหรอกตอนนี้แม่มึงนอนอยู่บ้านแค่ไม่ใช่เตียงเท่านั้นเองแต่เป็นตู้ถ้าแมมึงไม่ขาดอากาศหายใจก่อนฮ่าๆๆๆๆ”
        “ไอ้ชั่ว ไอ้เลว มึง..................กูจะ...”
        “ฆ่ากูหรอ”มันถามพลางเอาหน้าโทรมๆแก้มตอบ เบ้าตาลึกๆ ของมันเข้ามาให้ผม “ถ้ามึทำได้ก็เอาสิ”มันพูดก่อนที่จะเอาหัวผมโขกพื้น ก่อนที่จะเดินออกไป ผมอยู่กับอาการณ์เวียนหัวนั้นสักพักใหญ่ก่อนที่จะค่อยๆดีขึ้น
          ในตอนนี้มันได้เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งก่อนที่จะจับผมขึ้นมานั้งบนเก้าอี้อีกครั้ง ในครั้งนี้ผมมองหนั้นอย่าไม่ละสายตาจนมันมองกลับาบ้างทำให้ผมกับมันในตอนนี้จ้องตากันอย่างไม่กระพริบ
       “ทำไมแค้นกูนักหรอ”มันถามอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร “เดี๋ยวไอ้ดินก็มาแก้แค้นให้มึงแลวหนิ ฮึฮึ รอหน่อยล่ะ”มันพูดจบก่อนที่จะหันหลังแล้วกำลังจะเดินออกไป
        “ไม่หรอก”ผมพูดออกมาทำให้มันชงักกึก “สงสารต่างหากหล่ะ...รู้นะว่าเหงา รู้นะว่าเจ็บ เจอมาเยอะสินะ คนที่ทำกับมึงแบบที่มึงทำกับกูอยู่ตอนนี้น่ะ คิดว่าโลกมันไม่แฟร์ใช่มั้ยล่ะ มันโหดร้ายมากล่ะสิสิ่งที่เจอมา”
          “หุบปาก...”มันพูดออกมาเสียงเบาๆ
         “มึงไม่เหลือใครแล้วสินะทั้งคนที่มึงรักมากที่สุดอย่างแม่มึงกับนินาแม้กระทั้งคนที่มึงเกลียดที่สุดอย่างพ่อของมึง”ผมพูดต่อไป
         “กูบอกให้มึงหุบปาก”มันตวาดมาที่ผม
         “กูไม่หุบ มึงคงคิดล่ะสิวึ่งไม่เหลือใครให้ปกป้องให้รักหรือแม้กระทั้งเอาคืนเรื่องที่เกิดขึ้นกับนินากูรู้นะว่า....”
         เพี้ย!
         “กูเตือนมึงแล้วนะ”มันพูดหลังจากที่หน้าของผมหันไปตามแรงตอบของมัน “มึงจะมาเข้าใจอะไรมึงไม่เคยเจอแบบกู มึงไม่ได้เป็นกูมึงไม่รู้หรอก อย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย”
         “ใช่กูไม่มีทางรู้หรอก แต่กูรู้ว่า ถ้ากูเป็นมึงกูจะไม่ทำแบบนี้ กูจะไม่กลายไปเป็นคนแบบที่กูเกลียดเหมือนที่มึงกำลังทำอยู่ตอนนี้”ผมค่อยๆหันมามองหน้ามัน “ทำแบบนี้มึงมันก็ไม่ได้ต่างจากพ่อมึงที่ทำกับนินาหรอก
            “วอนมากนักนะมึง มึงกล้าดียังไงเอาเรื่องนินามาพูดสนุกปากแบบนี้ฮ่ะ”มันพูดก่อนที่จะเดินไปหยิบแกนลอนใส่น้ำมาแล้วถีบผมลงพื้นก่อนที่จะ “เก่งนักใช่มั้ย...มึงปากเก่งใช่มั้ยงั้นกูขอล้างปากมึงหน่อยเถอะ”มันพูดก่อนที่จะบีบปากผมแล้วเอาน้ำเทกอกลงมาททำให้ผมสำลักน้ำเพราะมันทั้งเข้าจมูกและเข้าปากเต็มไปหมดจนผมคิดว่าผมจะตายแล้วแน่ แต่....โชคดีที่น้ำมันหมดก่อน
        “เฮือก...แอ้กๆๆ...” ผมหอบหายใจเอาอากาศเข้าไปเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป “เป็นไงหล่ะ เสียดายน้ำน้อยไปหน่อย มึงน่ะมันปากดี อย่าว่าแต่มึงเลยถ้าเป็นไอ้ดินถ้าเจอแบบกูมันก็ต้องทำแบบกูแน่นอน”
           “อึก...ไม่หรอก ดินไม่ทำแบบมึงแน่”
            “ฮ่าๆๆๆๆปากยังดีอยู่หนิสงสัยน้ำมันคงน้อยไป แล้วมึงก็คอยดูแล้วกันว่ามันจะเป็นแบบกูมั้ย ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ถ้าไม่กูจะฆ่ามันเอง”
บรึ่นๆ
           “เอานั้นไงมันมาแล้ว”มันพูดก่อนที่จะยิ้มเยาะเย้ยผม
.
.
.
พาร์ท ดิน
         เมื่อมาถึงผมรีบลงจากรถแล้วรีบงัดประตูบ้านตัวเองแต่มันก็ช่างยากเหลือเกินเมื่อเสร็จแล้วผมจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านค้นทั้งชั้นหนึ่งชั้นสอง แต่ก็ไม่พบใครซักคน มีแต่ความว่างเปล่าและความมืดมิด
         “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ปล่อยกู อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”เสียงของออมดังออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้แต่ผมมั่นใจว่านี้มันคือเสียงของออมแน่ๆ
.
.
.

พาร์ท ออม
        ไอ้ชั่วนั้นเอามีดออกมาจากกระเป๋าก่อนที่จะบอกผม
       “เรียกมันหน่อยสิ”มันพูดพลางยิ้ม “เรียกมันหน่อยนะ”ผมไม่ตอบมัน “งั้นได้”
           “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ปล่อยกู อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อมันเอามีดแทงลงบนไหล่ของผมแล้วหมุนด้วยความสนกสนาน
           “ออม ออม ออม”เสียงของดินเรียกผมผมอยากบอกให้เขาหนีไปเหลือเกินแต่ผมก็ทำได้แต่ร้องและเป็นเครื่องมือให้ไอ้ชั่วนายเรียกเขามาหา
          ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
          เสียงฝีเท้าของดินวิ่งขึ้นบันไดมาด้วยความเร็วทำยังไงดีผมอยากให้เขาหนีไปเหลือเกิน เมื่อดินใกล้เข้ามาเสียงของผมก็หมดประโยชน์ไอ้นายมันรีบเอาผ้าที่กองอยู่กับพื้นมายัดเข้าไปในปากของผมจนผมหายใจแทบไม่ออกแล้วดินก็โผล่พ้นขั้นบันไดขึ้นมาพอดี
          “ไงน้องชาย”ไอ้นายรีบหันไปทักดิน
         “.....”ดินเงียบ
         “มึงเนี่ยมาตามมันจริงๆหรอเกินคาดกูจริงๆว่าคนอย่างมึงจะรักใครได้มากกว่าตัวเอง ไอ้ฆาตกร”ไอ้นายพูดพร้อมกับจับมีดที่ฝังอยู่ในแขนของผมแน่นซึ่งทำให้ผมแทบทนไม่ไหว
        “มึงหุบปากแล้วปล่อยออมซะเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย”ดินบอกออกมาอย่าอดกลั้น
         “ทำไมล่ะสนกดีออก”นายพูดแบบไม่รูสึกรู้สาอะไรแถมสนุกด้วยซ้ำ
          “กูบอกให้ปล่อย”
         “ทำไมมึงโกรธหรอ”มันพูดพร้อมกับบิดมีดที่ปักอยู่บนไหล่ผม
         “อื้ออออออออออ”ผมครางด้วยความเจ็บปวดในลำคอ
        “ไอ้....”ดินพูดพลางจะกระโจนเข้ามา
          “มึงหยุดนะ เดี๋ยวกูฆ่ามันทิ้งซะเลย”
          “มึงจะเอายังไง”ดินถามพลางกัดฟันกร่อน
         “มาสู้กับกูสิ กูแพ้กูตาย แต่ถ้ามึงแพ้ มึงสองคนตาย”ดินคิ้วขมวดกับคำพูดของนายแต่กลับกันนายกลับยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะมาให้ผม
          “.....”ดินมองหน้านายด้วยอารมณ์ที่หลากหลายผมคิดว่ามีทั้งความโกรธ ความผู้พัน รู้สึกผิด และความเกลียดในเวลาเดียวกัน
         “อ่อ ข้อเสนอคงจะกินใจไม่พอ ถ้างั้น...”มันพูดพลางดึงมีดออกจากแขนไหล่ของผมทำให้เลือดที่ถูกกดอยู่ตอนแรกไหลทะลักออกมาอย่างมากมาย “ถ้ามึงชนะช้าไอ้นี้จะตายเองเหมือนกัน”มันพูดเสร็จแล้วก็ก้มมากระซิบผมมึง คอยดูแล้วกันว่ามันจะเป็นเหมือนกูมั้ย ผมกัดฟันกร่อนทั้งที่ผ้าเต็มปากอยู่แท้ๆทั้งความเจ็บปวดและเจ็บใจมันตีกับไปหมด “เข้ามา”
         มันลุกขึ้นแล้วเดินไปหาดินแต่ดินไม่รอช้ากระโจนใส่มันทันทีดินโดนมันรัวหมัดใส่นับครั้งไม่ถ้วนทั้งต่อยทั้งแตะแต่เขาก้ลุกขึ้นมาทุกครั้งทั้งดินแล้วนายทั้งเตะทั้งต่อยกันอย่างไม่มีใครยอมใคร หมัดแล้วหมัดเหล่าแต่อยู่ดีๆก็เหมือนกับว่า นายหยุดต่อยไปซะดื้อๆไม่โต้ไม่ตอบใดๆทั้งสิ้นยอมให้ดินซัดอยู่ฝ่ายเดียวแต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผมห่วงแต่เป็นดินต่าหาก ทั้งสีหน้า การกระทำ และความรู้สึกของเขาในตอนนี้  เข้าไม่ใช่ ไม่ใช่แน่นอนไม่ใช่ดินที่ผมเคยรู้จักผมรู้ว่าที่เขาไม่ยอมหยุดนี่เพราะอะไรใช่แน่ๆเขาต้องการแบบนั้น ต้องการให้ นายตาย เขากำลังจะเป็นแบบนาย แต่แล้วเขาก็หยุดการกระทำของเขาแล้วเดินออกมาจากตัวนายพร้อมกับมาคว้าเอามีดที่วางอยู่ข้างตัวผมแล้วเดินไปที่นายพร้อมกับขึ้นคล่อมเขา
        “มึงต้องการแบบนี้นักใช่มั้ยฮ่ะ”ดินพูดออกมาอย่างกับไม่ใช่ดินที่ผมรู้จักเหมือนกับเขาเป็นแบบนายไปแล้ว แต่ในที่สุดผมก็ใช้ลิ้นดันผ้าจนหลุดออกมาจนได้ แต่........................
         ชึก!
         ดินได้ทำมันลงไปแล้วมันไม่ทันแล้วจริงๆดินเขาได้กลายเป็นฆาตกรจริงๆไปแล้วผมปล่อยโฮออกมาอย่างกลั่นเสียไม่ได้ดินค่อยๆเดินออกมาจากตัวนายที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นและมีน้ำตาไหลออกมาจากตา แล้วตรงเข้ามาหาผมแล้วแก้มัดผม ผมมองเขาอย่างหวาดกลัวพร้อมกับร้องไห้อย่างหนักเขาค่อยๆประคองผมขึ้นมากอดแล้วลุกขึ้น
          “หยุดร้องได้แล้ว”เขากระซิบผมอย่างอ่อนโยนผมมองหน้าเขาที่มอมแมมของเขาอย่างไม่เข้าใจเพราะเขาพึ่งฆ่าคนมาจะไม่รู้สึกอะไรหน่อยหรอ “เราไม่ได้เป็นเหมือนเขา”ดินบอกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่อิดโรง
         วีว่อ วีว่อ วีว่อ...............
         เสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้นที่หน้าบ้านของดินโดยที่พวกเราอยู่ที่นี่
         “ทำไม.....ทำไมมึงไม่ฆ่ากู....อึก...ฆ่ากูให้ตายๆไปซะ”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังดิน
พราะเราไม่เหมือนกัน....ถึงผมอยากจะฆ่าพี่มากแค่ไหนก็ตามแต่ผมก็ยังติดค้างพี่เรื่องนินาอยู่แล้วผมก็แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ผมต่างจากพี่ที่ผมเลือกแล้วว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช้มันเป็นบทเรียนไม่ทำให้คนที่ผมรักต้องเจ็บปวดอีก”ดินพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆจนผมรับรู้ได้ “แล้วยังมีอีกอย่างที่ผมยังไม่ได้บอกพี่ตั้งแต่ตอนนี้....ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างทั้งเรื่องที่เกิดกับนินาและเรื่องที่ทำให้พี่ต้องเลือกเดินทางนี้”คำพูดของดินทำให้นายปล่อยโฮออกมาอย่างอ่อนแอที่สุดนี่สินะคือสิ่งที่เขาต้องการมาตลอดคำขอโทษจากทุกคนที่เคยทำร้ายเขาแต่วันนี้มันเหลือดินเพียงแค่คนเดียวเมื่อดินพูดจบจึงจะพาผมเดินลงจากที่นี่แต่....
       “ฮ่าๆๆๆๆ มึงคิดว่ามันจบแล้วหรอ ไมหรอก..อึก... กูบอกพวกมึงว่าไงถ้ากูไม่ตายพวกมึงก็ต้องตาย”นายพูดก่อนที่จะดึงมีดขึ้นจากพื้น
         “ไม่คุณไม่ทำหรอก”ผมพูดออกไป
         “ฮ่ะ...มึงว่าอะไรนะ...มึงอย่ามาตลกกับกู ทำไมกูจะไม่...”
         “เพราะคุณรักดินไง”
         “....”
         “คุณรักดาวด้วย คุณรักพ่อแม่ของดิน คุณรักพวกเขาทุกคน นั้นมันถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณต้องมาทำกับผมแล้วทำไมไม่ทำร้ายดาวแทนทั้งที่มันน่าจะสมน้ำสมเนื้อมากกว่าด้วยซ้ำเพราะถ้าคุณคิดว่าดินทำให้คุณเสียนินาไปคุณก็ควรจะทำกับดาว แล้วแม่ของคุณ ทำไมคุณไม่ทำกับแม่ของดิน แล้วทำไมคุณถึงไม่ฆ่าดินตั้งแต่ตอนที่ยังมีโอกาสเพราะดินไม่มีทางสู้คุณได้แน่นอนและทั้งที่คุณถือมีดไปสู้กับเขาได้ด้วยซ้ำไปคุณจะฆ่าเลยก็ยังได้ แต่คุณกับจะให้เขาเป็นคนที่ฆ่าคุณแล้วยัดเยียดความรู้สึกผิดนี้ให้เขา หยุดขี้ขลาดซักที่เถอะนายหยุดใช้ชีวิตแบบนี้ซักที ต่อจากนี้คุณคือคนใหม่แล้ว ถ้าคิดว่าคุณควรจะได้รับโทษมากกว่านี้ก็จงมีชีวิตต่อไปซะ แล้วเลิกรู้สึกผิดซักทีนั้นมันมีแต่คนขี้ขลาด ที่กลัวการเริ่มต้นเท่านั้นแหละที่จะทำ แล้วอีกอย่างผมยกโทษให้ไม่ต้องขอโทษผมเพราะผมไม่เหมือนคุณ”พอผมพูดจบนายลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกับร้องไห้จะเป็นจะตายอย่างกับผู้แพ้ที่เขาแพ้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วจริงๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2018 06:05:52 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่สิบเจ็ด เรื่องมันเป็นแบบนี้
      “หนีไปซะ แล้วที่สำคัญอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”ดินบอกนายก่อนที่จะพาผมเดินลงมาข้างล้าง
        พอผมกับดินเดินลงมาจากตึกนั้นแล้วก็ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนึงที่กำลังเดินตามหาพวกผมอยู่และในตอนนี้ผมก็ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วผมค่อยหลับตาลงอย่างช้าๆแล้วหลับไปสงสัยผมคงเสียเลือดมากเกินไป
          ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นแค่เพียงเพดานสีขาวที่ผมมองดูก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
          “ออมลูก เป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนบ้างลูก บอกแม่มา แม่ไม่น่าไว้ใจคนง่ายเลยแม่นี้มันไม่ได้เรื่อง...”แม่บ่นทันที่ที่ผมตื่นขึ้นมาซึ่งทำให้ผมดีใจแล้วได้รู้ว่าท่านไม่เป็นอะไร
           “แม่คับ.....”ผมพูดออกมาเสียงแหบแหบจนผมตกใจ
          “ว้าย...ออมเสียงลูกแม่ลืมเลยเดี๋ยวแม่เรียกหมอก่อนนะลูก”แม่รีบวิ่งออกไปตามหมอทั้งที่ความจริงแล้วแค่กดปุ่มเรียกหมอก็มาแล้วแท้ๆ
         “เป็นไงบ้างลูก”พ่อถามขึ้นหลังจากที่แม่ออกไปจากห้อง
         “เวียนหัวนิดหน่อยครับ”ผมบอกพ่อออกไปเสียงแหบๆ “พ่อครับผมหิวน้ำจังเลย”
         “เดี๋ยวรอหมอก่อนนะลูก”
         “นี้ผมหลับไปนานเท่าไหร่แล้วครับ”
         “สี่วัน”พ่อตอบผมพลางยิ้มท่านคงดีใจมากที่ผมตื่นขึ้นมาได้ซักที
         “ฮ่ะ!ขนาดนั้นเลยหรอครับพ่อ”พ่อพยักหน้าให้ไม่พูดอะไรต่อ “แล้ว...ดินเขา...”
         “ดินพึ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เองตอนที่พอกับแม่ไม่อยู่เขาเฟ้าลูกตลอดเลยนะ”
         “หรอครับ”ผมพูดพลางยิ้ม
         “มีอะไรที่พ่อควรรู้อีกมั้ย...”พอถามผมสีหน้าเรียบ
         “ครับหลายเรื่องเลย”ผมบอกพ่ออย่างรู้สึกผิดที่สุดที่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วงผมมากขนาดนี้ “แต่พ่อรอฟังพร้อมแม่แล้วกันนะครับ”หลังจากผมบอกพ่อไม่นานแม่ก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับหมอ
        “อาการณ์ปกติดีแล้วนะครับแต่ต้องรอดูอาการณ์อีกซักสองสามวันถึงจะกลับบ้านได้ ดื่มน้ำได้ตามปกตินะครับ อาหารเดี๋ยวทางโรงพยาบาลจะจัดการให้นะครับ”
          “ขอบคุณครับ” ผมบอกก่อนที่หมอจะออกจากห้องไป หลังจากที่หมอออกจากห้องไปแล้วให้แม่โทรบอกพวกไอ้แบล็คให้หน่อยว่าผมตื่นแล้ว ก่อนที่เราจะคุณเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกท่านทั้งเรื่องของนายและความสัมพันธ์ของผมกับดินแล้วก็ไม่ลืมที่จะถามท่านว่านายทำอะไรกับท่านบ้าง ท่านบอกว่านายเข้ามาบอกท่านว่าเป็นรุ่นพี่ที่ผมสนิดแล้วกำลังติวข้อสอบด้วยแล้ววันนี้ผมนัดมาติวให้ที่บ้าน ก่อนที่มันจะทำร้ายแม่แล้วจับแม่มัด ก่อนที่จะเอาไปขังไว้ในตู้
         “แล้วตำรวจจับตัวเขาได้มั้ยครับ”ผมถามขึ้นอย่างยากรู้
         “ไม่หรอกพอไปที่ตึกนั้นแล้วออกมาตำรวจกลับบอกว่าไม่เจอใครอยู่ที่นั่นเลยพ่อพูดหน้าเครียด
         “นี้แม่ยังผวาไม่หายเลยนะไม่คิดเลยว่าคนเราจะทำกันได้ขนาดนนี้”แม่บอกพลางลูบแขนตัวเองก่อนที่พ่อจะโอบแม่ไว้
         “ไม่ต้องห่วงหรอกครับพ่อแม่เขาจะไม่มาทำอะไรเราอีกแล้ว”ผมบอกทำให้พ่อแม่มองหน้าผมอย่างฉงน
         “ลูกจะมั่นใจได้ยังไงออมจะมองโลกในแง่ดีไปมั้ย”แม่ถามึ้นอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ผมพูดออกมา
         “นั่นน่ะสิลูก”พ่อเสริม
         “ผมไม่มั่นใจหรอกครับ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้น มันอาจจะไม่มีเหตุผลนะครับแต่ผมคิดว่าเขาคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว”ผมบอกพ่อแม่ไปอย่างไร้เหตุผลที่สุดแต่ถึงผมจะพูดยังไงท่านก็คงจะต้องระมัดระวังและยังระแวงมากขึ้นอยู่ดี “ผมดีใจจังครับที่พ่อแม่สอนผมมาอย่างนี้ ผมไม่มีทางรู้สึกโชคดีขนาดนี้ได้แน่นอนถ้าไม่มีเรื่องนายเข้ามา ผมขอบคุณพ่อแม่ที่สั่งสอนผมและเลี้ยงดูผแม่ย่างอบอุ่นนะครับ มันทำให้ผมรู้ว่าไม่ว่าผมจะเจออะไรที่แย่แค่ไหนผมยังจะเลือกทางที่ถูกต้องเสมอ”ผมบอกพ่อกับแม่พร้อมกับน้ำตาที่กลั้นไว้ไม่ได้พ่อกับแม่ยิ้มแล้วกอดกันสงสัยผมคงทำให้ท่านภูมิใจได้บ้างที่คำพูดคำบ่นและคำสั่งสอนของท่านมันยังมีความหมายกับผมอยู่ “นายเขาน่าสงสารมากนะครับ เขาไม่มีทางได้มีครอบอย่าเรา ในวันที่เขามีความสุขที่สุดเขาก็ไม่มีใครมาคอยบอกว่าเขาทำดีแล้วและที่น่าสงสารที่สุดในวันที่เขาเศร้าที่สุดเขาไม่มีใครมาอยู่ข้างเขาแม้กระทั้งตอนที่เขาจะเลือกทางผิดยังไม่มีใครคอยมาเตือนเขาเลย”
         “ออมแต่เขาทำกับเราขนาดนี้ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย”พ่อพูดออกอย่างมีอารมณ์
        “พ่อครับถ้าหากคนที่เดินมาเหยียบเท้าเราเป็นคนตาบอดพ่อยังจะโกรธเขาได้ลงหรอครับโดยเฉพาะคนตาบอดที่ไม่มีแม้กระทั่งไม้เท้าที่ใช้นำทางเขา”
         “ให้ตายเถอะเราสอนลูกให้เป็นคนดีมากเกินไปหรือเปล่านี้”พ่อพูดพร้อมกับส่ายหัว
         “ที่ออมพูดมามันก็ถูนะพ่อ เขาไม่มีใครเลยนะเขาไม่ได้มีใครมาคอยบอกนะว่านี้ดีนี้ถูกนี้ผิดถึงมีเขาก็มีแต่คนที่จะคอยสร้างปาดแผลให้เขา”แม่พูดออกมาอย่างคิดได้
         “เอาเข้าไปพอกันทั้งแม่ทั้งลูก”พ่อพูดออกมาอย่างยอมแพ้
         “ให้อภัยเขาเถอะนะครับพ่อแม่ด้วยเราจะได้ไม่ต้องไปมีอะไรติดค้างกับเขาอีก”ผมบอกพ่อด้วยความหวัง
         “แต่ออม”
         “พ่อที่สวดมนทุกวันพระนี้ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยใช่มั้ย เฮ้อ ชั่งเถอะแต่แม่จะอโหสิให้เขาส่วนพ่อก็แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน”แม่พูดออกมาแบบไม่สนใจพ่อทำให้ผมอดยิ้มให้แม่เสียไม่ได้
         “ไม่แน่นะครับพ่อชาติก่อนผมอาจจะเคยทำอะไรให้เขาก็ได้ ผมก็จะอโหสิให้เขาครับ”ผมบอกพ่อยิ้มๆ
         “อ้าวพูดกันแบบนี้พ่อก็เป็นคนร้ายนะสิ พ่อไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้อภัยเขาซักหน่อย”พ่อพูดพลางทำท่างอน
         “งั้นก็แปลว่าพ่อ...”ผมพูด
         “ก็เป็นคนดีกันแบบนี้ไงหล่ะพ่อถึงได้หลงไปไหนไม่ได้นี้”พ่อพูดเสร็จก็มาหอมแก้มผมและแม่ก่อนที่เราจะกอดกัน “แต่เรื่องดิน่ะลูกแน่ใจนะ”พ่อพูดหลังจากที่ผละออกจากผมกับแม่ ผมพยักหน้าให้พ่อ “พ่อไม่ได้อะไรนะพ่อรับได้เพราะแม่เขาก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงเหมือนกัน”พ่อพูดทำให้ผมถึงกับหูพึ่ง “เขาเป็นยักษ์”พอพ่อพูดจบก็โดนแม่ฟาดเข้าให้ข้อหาปากเสียแต่พ่อก็หัวเราะอย่างชอบใจ
        “พ่อนี้จริงจังหน่อยสิ”แม่เอ็ด
         “โอเค ที่จริงพ่อห่วงเรื่องคนรอบข้างกับพ่อแม่ของเขานี้สิ เขายังไม่รู้ไม่ใช่หรอแล้วเขาจะโอเคกับเรามั้ย”พ่อพูดออกมาท่าทางจริงจัง
         “โถพ่อผ่านเรื่องแบบนี้มาได้แม่ว่าเด็กสองคนนี้เขาก็ได้พิสูจน์อะไรหลายอย่างแล้วนะแม่คิดว่าถ้ามีเรื่องอะไรเข้ามาแล้วถ้าเขายังรักกันมากพอแม่คิดว่าพวกเขาต้องผ่านมันไปด้วยกันได้แน่นอน”แม่พูดพลางจับมือแล้วมองหน้าผมด้วยแววตามั่นใจ “แล้วอีกอย่างนะผ่านเรื่องนี้มาได้ เรื่องอื่นนี้ขี้ปะติ๋วไปแล้ว”แม่พูดติดตลกก่อนที่เราจะเปลี่ยนเรื่องคุยกัน ก่อนที่ผมจะหลับไป
         “ไอ้ออมตื่นแล้วหรอวะ”เสียงแรกดังขึ้นหลังจากที่ผมลืมตาขึ้นมาในช่วงบ่ายแก่ๆ ผมค่อยปรับแสงแล้วมองไปรอบๆห้องก็เห็นดินที่ยืนอยู่ข้างเตียงอีกข้างของเตียงกำลังส่งยิ้มมาให้ผมอพร้อมกับรอยช้ำบนใบหน้าที่ทำให้ความหล่อแทบจะหมดลงไปเลยทีเดียว แล้วยังมีทั้งวิน ไอ้บอม ปริม กี้และดาว
         “เป็นไงบ้างออม”ดินถามขึ้น
         “ดีขึ้นแล้ว”ผมตอบก่อนจะค่อยลุก
         “เฮ้ยแป๊บ”ดินพูดทำเอาซะผมตกใจก่อนที่จะเข้ามาพยุงผมแล้วเอาหมอนมารองหลังผมให้นั่งได้ง่ายขึ้นเขาทำอย่างกะผมเป็นอะไรมามากมาย “ค่อยๆลุกนะดินบอก”
         “โอ้ยดินมันแค่เจ็บแขนมั้ยทำอย่างกับมันเป็นอัมพาต”วินแขวะทำให้ทุกคนหัวเราะ
         “เออถ้างั้นพ่อเราออกไปกันเถอะให้เด็กๆเขาคุยกันดีกว่า”แม่บอกพ่อ
         “ก็ดีเหมือนกัน ฝากดูแลออมด้วยนะเด็กๆ”พ่อบอก
         “ครับ/ค่ะ”ทุกคนรับคำก่อนที่พ่อกับแม่จะเดินออกไปจากห้อง
         “แล้วดินเป็นอะไรมากมั้ย”ผมถามดินอย่างเป็นห่วงก่อนที่ดินจะยกมีที่มีผ้าพันอยู่ทั้งสองข้างให้ผมดู
         “แหมคนมาเต็มนี้สนใจแค่คนเดียวเนาะ”ปริมแซะผมขึ้น
         “ใช่ทั้งที่พวกเราก็ตามไปช่วยแท้ๆ”กี้เสริม
         “มันหน้าน้อยใจจริงจริ๊ง”บอมพูดขึ้น
         “ใช่ๆ”ไอ้แบล็คเสริม
         “เห็นด้วย”วินเสริมอีกคนแต่ทำให้ทุกคนหันไปมองเพราะส่วนมากวินไม่ค่อยเห็นด้วยกับไอ้แบล็คซักเท่าไหร่ “อะไรกันเหล่าก็ไอ้บอมมันพูดถูกไง”วินบอกท่าทางมีภิรุธ
         “แต่เดี๋ยวนะไปช่วยกันตอนไหนไม่เห็นใครซักคนเลย”ผมถามขึ้น
         “แหมมึงจะไปเห็นใครตอนที่กูเจอมึงกับไอ้ดินมันก็อุ้มมึงมาส่วนมึงก็สลบไม่รู้เรื่องแล้ว”ไอ้แบล็คพูด
         “เออใช่แล้วถ้าไม่ใช่พวกกูใครจะพาพ่อมึงไป”ไอ้บอมพูดขึ้น
         “แปลว่าตำรวจพวกมึงก็...”ผมถาม
         “ดาวแจ้งเองค่ะ”ดาวพูดอย่างภูมิใจหลังจากที่เงียบมานาน
         “แต่ถ้าไม่มีพี่ดาวก็คงไม่มีสติขนาดนี้นะ”วินพูดอย่างเหนือกว่า
         “แต่ได้ยินว่ามาช้าสุดหนิ”ไอ้แบล็คแขวะ
         “ก็กูหลงอะ”วินพูดพลางโมโห
         “ไม่เข้าใจอะ”ผมพูดพลางทำหน้างง
         “เรื่องมันเป็นแบบนี้”ดินพูดขึ้น
.
.
.
พาร์ท ดิน
        'ฉลาดดีหนิ'มันตอบผมมาก่อนที่จะส่งคลิปออมที่มีเลือดไหลลงมาตามคอ
         ”รีบมานะมาจบมันกันเริ่มต้นที่ไหนก็จบที่นั้น”มันพูดก่อนจะจบคลิป
        'อ่อถ้าฉลาดก็อย่าบอกใครนะ'มันส่งข้อความมาขู่ผม
        'ไอ้นายมึงอยู่บ้านกูใช่มั้ย'ผมถามมันแต่มันไม่ตอบก่อนที่จะส่งคลิปที่มันถีบออมทั้งๆที่ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้จนล้มลงไปกองอยู่กับพื้นมาแทน ผมรีบตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อให้ใครซักคนมาเห็นข้อความที่ผมที่ผมพูดกับไอ้นี้ไว้ เพราะผมได้ระบุสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว เผื่อว่าผมจะสู้มันไม่ได้จริงอย่างน้อยก็ต้องมีคนไปช่วยออม
.
.
.
พาร์ท ออม
         “แล้วก็มีคนเข้ามาเห็นจริง”ดินบอก
         “เดี๋ยวดาวเล่าต่อเอง”ดาวบอก
.
.
.
พาร์ท ดาว
        กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
         “โอ้ยยยยย อะไรกันเนี้ย พี่ดิน”ดาวบ่นอย่างลำคานกับเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังมาจากโทรศัพท์ของพี่ชาย
          ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ
         “พี่ดิน ไอ้พี่ดินนน ปิดนาฬิกาปลุกเดี๋ยวนี้”ดาวร้องเรียกอยู่นานก็ไม่มีใครตอบออกมาจึงถือวิสาสะเข้าไปในห้องของพี่ชายแต่ก็ต้องพบว่าพี่ชายของตนไม่ได้อยู่ในห้องมีเพียงแค่โทรศัพท์ที่แผดเสียงร้องย่างน่ารำคาน “อะไรวะ ไม่อยู่แล้วมาตั้งไว้แบบนี้เนี้ยนะใช้ได้ที่ไหน”ดาวบ่นตามประสาก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ของพี่ชายขึ้นมาแล้วปิดเสียงนาฬิกาปลุกแล้วก่อนที่จะออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะแอบดูโทรศัพท์ของพี่ชาสักหน่อยว่าแอบคุยกับสาวที่ไหนอยู่หรือเปล่าแต่แค่ปัดหน้าจอเท่านั้นก็เห็นกับข้อความล่าสุดที่พี่ชายคุยพร้อมกับภาพของออมตอนนั้นดาวทอะไรแทบไม่ถูกแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรบอกพ่อแม่แต่ท่านก็ไปต่างประเทศ แล้วใครกันดีที่จะช่วยยทั้งพี่ชายแล้วเพื่อนของเขาได้ ดาวรีบไล่ดูเบอร์ในเครื่องของพี่ชายจนไปพบกับเบอร์ของวิน ดาวจึงรีบโทรออกไปทันที
         'ไง'วินถาม
         'พี่วินนี้ดาวเองนะเกิดเรื่องใหญ่แล้วคือว่า........................'ดาวอะธิบายเรื่องทั้งหมดให้วินฟังพร้อมกับส่งภาพไปให้วิน
          'โอเคดาวเดี๋ยวพี่จัดการต่อเองดาวโทรแจ้งตำรวจนะบอกไปที่บ้านที่ดาวเคยอยู่เลยบอกทางให้พี่ด้วยแชร์โลเคชั่นมาก็ได้'
.
.
.
พาร์ท วิน
         'โทรมาเพื่อ'เสียงแบล็คดังออกมาจากปรายสายอย่างไม่น่าปรารถนานัก
         'มึงจะพูดดีกับกูบ้างไม่ได้หรือไงวะ'วินโวยกลับ
         'เออแล้วมี...'
         'ไอ้ออมโดนจับตัวไปที่บ้านเก่าไอ้ดิน'
         'เฮ้ยใครจับวะ'
         'ไอ้นาย'
         'แล้ว...'
         'อย่าถามเยอะดิ รีบโทรไปบอกพ่อแม่ไอ้ออมเร็วแค่นี้นะ'วินพูดจบก่อนจะตัดสายแล้วรีบขับรถออกจากบ้านทันที
.
.
.

พาร์ท แบล็ค
        “อะไรวะตัดสายกูอีกไม่รู้เรื่องเลยวุ้ย แต่ต้องโทรหาแม่ไอ้ออม เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้ใช่”
         'ฮัลโหล แม่ครับ'
         'แบล็ค ลูกออมอยู่กับลูกมั้ย อึก..'
        'เอ่อ...ไม่ครับแม่เป็นอะไรครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับแม่ แม่ต้องทำใจเย็นๆไว้นะครับ คือได้ออมโดนจับตัวไปครับ'
         'ฮ่ะ'
แกร่ก!
         'เอ่า แม่ครับ แม่....'
         'ฮัลโหลแบล็คนี้พ่อเองนะ คือแม่เขาสลบไปแล้วที่จริงพ่อพึ่งพาเขาออกมาจากตู้เมื่อกี้เอง'
         'ฮ่ะ ตู้ ทำไมครับ'
        'เอ่อ...คือเรื่องมันยาวอะแบล็คแม่เขายังเล่าไม่หมดเลยเดี๋ยวพ่อโทรหาตำรวจก่อนนะว่าแต่ที่ไหนนะที่ออมโดนจับไป'
         'บ้านเก่าดินครับ'
        'แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ'
         'ผมไม่รู้ครับ'
         'เอ้า แล้วใครบอกแบล็คเนี้ย ไปถามเขามาแล้วบอกพ่อ'
         'ได้ครับได้ครับ'
         “แม่งเป็นเพราะมึงไอ้วินไม่บอกดีๆ”หลังจากสายวางจากพ่อออมแบล็คก็โทรหาวินแต่วินไม่ยอมรับเพราะกำลังขับรถอยู่แบล็คจึงโทรหาบอม ปริม และกี้ ให้พาไปหาดาวที่บ้านเพื่อถามทางจะได้แจ้งตำรวจก็ปรากฎว่าดาวแจ้งไปแล้ว แบล็คจึงโทรไปบอกพ่อออมแล้วไปบ้านออมเพื่อไปรับพ่อออมไปสถานที่เกิดเหตุด้วยกัน โดยที่ให้ ปริมกับกี้พาแม่ออมไปหาหมอ
.
.
.

พาร์ท ออม
        “แล้วพอพวกกูบ้านไอ้ดินตำรวจกำลังค้นบ้านอยู่แต่ไม่มีใครจนมีเจ้าหน้าที่วอล์มาว่าเจอแล้วแล้วไอ้ดินก็อุ้มมึงมาพ่อมึงเห็นแล้วก็รีบวิ่งเจ้าไปอุ้มมึงต่อแล้วก็พามึงมาโรงพยาบาล โชคดีนะวันนั้นโรงพยาบาลมีเลือดกรุ๊ปมึงเหลืออยู่เยอะไม่งั้นมึงเอ้ย”ไอ้บอมบอกอย่างออกรส
        “โหซับซ้อนว่ะ”ผมบอกออกไปด้วยความรู้สึกสับสน “เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า”ผมบอกแต่สุดท้ายพวกมันวนกลับมาถามผมเรื่องนายอยู่ดีว่าโดนอะไรบ้างยังไงต่างๆนาๆ
        สองอาทิตย์ผ่านไป...
        “เข้ามาในบ้านก่อนสิ ” ผมบอกดินหลังจากลงจากรถเพราะเขามาส่งผมที่บ้านอีกแล้วจริงๆจะว่าไปจะเรียกว่ามาส่งผมตามปกติก็ได้ แต่วันนี้เขาไม่รีบเลยมากินข้าวที่บ้านผม ถ้าจะให้พูดเรื่องความสัมพันธ์ของเราในช่วงนี้หรอครับเหมือนแฟนแต่ไม่ใช่ครับเพราะตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลเรายังไม่ได้พูดเรื่องนี้กันเลยครับ
        หลังจากที่เขากลับบ้านผมก็รีบไปอาบน้ำแล้วมาดูวิดีโออะไรเพลินๆจนกระทั่ง...
       ดินคอลล์มาหา
        “ว่า”ผมรับก่อนจะถามออกไป
        “มีเรื่องอยากจะถามอะ”ดินพูดสีหน้าจริงจัง
        “เรื่องอะไร”
        “เรื่องของเราไงตกลงเราเป็นอะไรกัน...”
        “เอ่อ....คือทำไมมาถามตอนนี้อะ...”
        “ก็เรายอมรับแล้วนะว่าเราเป็นแฟนออมแล้วออมล่ะยังไม่ได้ตอบเราเลย”ดินพูดตัดพ้อให้ตายเถอะอยู่ดีๆเขาก็มา....ชั่งมันเถอะ
        “โหมารับมาส่งทุกวันขนาดนี้เราก็ต้องเป็น....”
        “ไม่ต้องตอบเราวันนี้หรอกพรุ่งนี้เจอกันที่สวนสาธารณะตอนสิบเอ็ดโมงนะ”ดินพูดจบก็วางสายไปทันที
   “เฮ้ยดินเดี๋ยวๆๆ”ผมเรียกตามเขา ทั้งที่ผมจะตอบเขาอยุ่แล้วแท้ๆกลับมาวางสายไปได้ “ไอ้ของเขาเนี้ย”
        ดึ่ง!
        'ไง'เกรย์ส่งข้อความมาหาผมหลังจากที่ไม่ได้คุยกันนานเพราะโทรศัพท์ของผมอยู่ที่ตึกที่นายทำร้ายผม ผมพึ่งจะกู้ไลน์เก่ากลับมาก็พบกับข้อความมากมายของเขาในช่วงที่ผมหายไปแต่ผมก็ไม่ได้ตอบเขาอยู่ดีเพราะงานในช่วงที่ผมหยุดเรียนไปมันชั่งเยอะเหลือเกินแล้วผมก็ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยด้วย
        'ไง'ผมตอบกลับไป
        'ไม่ได้คุยกันนานเลยน'
        'พอดีเราไม่ค่อยว่างอะมีเรื่องยุ่งๆเกิดขึ้นเยอะเลย'ผมตอบ
        'แล้วเป็นไงบ้างดีขึ้นบ้างยังเรื่องยุ่งที่ว่า'เขาถาม
        'ก็ดีขึ้นนะ'ผมตอบ
        'หรองั้น.......'
        'งั้น........อะไร'
        'อยากเจอเรามั้ย'
        'ฮ่ะว่าไงนะ'ผมถามอย่างตกใจ
        'อยากเจอเรามั้ย'
        'นี้หมายความว่าไงอะเราจะได้เจอกันหรอ'ผมถามอย่างไม่อยากเชื่อ
        'อื้อ...แต่ว่า....'
        'แต่ว่าอะไรเว้นวรรคเยอะจัง'ผมโวยกลับไป
        'ถ้าออมไม่มาออมไม่มาเราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ'
        'หมายความว่าไง'
        'อย่างที่บอกเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แม้แต่ในนี้ก็ตาม'
        ทำไมอะ'
        'เพราะเราไม่อยากเป็นแค่เงาอีกแล้วล่ะเราพอแล้'
        'เฮ้ยเดี๋ยว'
        'มันอยู่ที่ออมแล้วนะว่าจะให้เรามีตัวตนในความทรงจำของออมหรือเป็นแค่คนที่ไม่มีตัวตนในในความทรงจำของออม'
        'ไม่ดิ...ไม่...ไม่เอาแบบนี้'ผมท้วงกลับไป
        'พรุ่งนี้เจอกกันตอน11โมง ที่ร้านไอติม(ร้านหวานเย็น)ในห้างนะแล้วแต่ออมจะเลือกนะออมจะมาหรือไม่มาเราไม่โกรธออมเลยเข้าใจว่าเงาอย่างเรามันคงน่ากลัวสำหรับออมเราเลยนัดที่คนเยอะๆหวังว่าเราจะได้เจอออมนะ'เขาส่งมาเป็นข้อความสุดท้ายก่อนที่เขาจะไม่ตอบอะไรผมอีกเลยไม่แม้แต่จะอ่าน
        'เดี๋ยวสิ'
        'เกรย์'
       'เกรย์'
        'ตอบสิวะ'


ตอนหน้าจะแล้วนะคะ​
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2018 06:04:16 โดย Do_Maht »

ออฟไลน์ Do_Maht

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เพ้อเพราะรัก
ตอนที่สิบแปด บอกฉันสักคำต้องทำยังไง
        “โอ้ยยยย....อะไรวะเนี้ย....ทำไมสองคนนี้ต้องมานัดเวลาเดียวกันด้วยวะหรือว่า เขาจะรู้จักกันวะ แล้วจะไปรู้จักกันได้ยังไงวะ โอ้ยยยแม่งไม่รับรู้แม่งแล้ว”ผมได้แต่บ่นอยู่คนเดียวหลังจากที่โทรไปหาดินแล้วเขาไม่ยอมรับและแน่ใจแน่ๆแล้วว่าเกรย์จะไม่ตอบไลน์ผมแน่ๆ แล้วถ้าหากว่าเขารู้จักกันจริงๆล่ะ ถึงเขาจะรู้จักกันมันจะสำคัญตรงไหนเพราะยังไงสิ่งที่สำคัญที่สุดมันอยู่ที่ว่าผมจะเลือกไปหาใครต่างหาก
        กริ้งงงงงงงงงงงง!
        เสียงของนาฬิกาปลุกผมขึ้นในตอนเช้าแต่ผมกลับยังนอนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื่อนไม่แม่แต่จะเอื่อมมือไปกดปิดเสียงของนาฬิกาปลุก เพราะอะไรน่ะหรอเพราะผมกำลังใช้ความคิดอยู่หน่ะสิ มันไม่ง่ายนักหรอกนะครับที่ผมต้องมาเลือกอะไรแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของผมมาก่อน เป็นคุณคงจะบอกว่ามันจะอยากตรงไหนก็แค่เลือกคนที่สำคัญกว่า หรือไม่ก็ไม่ต้องคิดทำตามหัวใจก็พอแต่สำหรับผมมันไม่ง่ายนักหรอกนะครับ ที่จะให้ผมเลือกระหว่างคนที่ผมไม่เคยเจอหน้าแต่เขากลับคอยอยู่กับผมในทุกครั้งที่ผมมีปัญหาหรือเศร้าแถมยังอยู่ด้วยกันมาก่อนจะได้ใกล้ชิดกับดินแบบนี้ด้วยซ้ำ กับดินที่เป็นคนที่ผมแอบชอบมาต้องนานแล้วตอนนี้เขาก็ชอบผม เราอยู่ด้วยกันทั้งตอนสุขทุกรวมถึงช่วงที่อันตรายที่สุดในชีวิตผม มันจะไม่อยากอะไรหรอกนะครับถ้าผมไม่คิดว่าทั้งสองคนเป็นคนสำคัญในชีวิตผมถึงแม้ผมจะไม่ได้รักเกรย์ก็ตามแต่ถ้าหากเขาหายไปผมก็คง..... ไม่ครับผมคิดไม่ออกเลยกับไอ้คนนิสัยเสียที่ตอนแรกเข้ามาก็บอกกับผมว่าแค่อยากคุยกับผมเท่านั้นแต่ตอนนี้เขากลับบังคับให้ผมต้องเลือกระหว่างมิตรภาพกับความรัก
        “มันคงจะไม่ยากขนาดนี้หรอกถ้าเราไม่อยากรู้ว่ามันเป็นใคร แล้วถ้าไม่บอกว่าจะไม่ได้เจอกกันอีก”ผมพึมพำกับตัวเองแต่ยังไงในวันนี้ผมก็ต้องเลือกไปพบใครซักคนผมนอนอยู่บนเตียงจนนาฬิกาปลุกดับลงไปเองแต่ผมก็ยังไม่ยอมลุกผมนอนอยูอย่างนั้นจนถึงเวลาแปดโมงครึ่งผมจึงค่อยๆลุกขึ้นไปอาบน้ำทั้งๆที่ยังคิดไม่ตกด้วยซ้ำว่าจะไปที่ไหนดี ผมอยากจะโทรไปบอกดินว่าขอยกเลิกนัดวันนี้ได้มั้ยในอีกใจหนึ่งผมก็อยากจะส่งข้อความไปยกเลิกนัดเกรย์แต่ผมรู้ดีว่าผลลัพธ์มันจะออกมายังไงผมเลยขอใช้เวลาคิดเองดีกว่า
        “ออมลูกกินข้าวเร็วลูก”แม่เลือกผมขณะที่ผมกำลังแต่งตัวอยู่
        “ครับ”ผมตอบแม่ไปก่อนที่จะเดินลงไปข้างล้างแล้วกินข้าวโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่านสชาติของมันเป็นยังไงบ้าง
        “ออมนี้ลูกเป็นอะไรไป”แม่ถามขึ้นเพราะท่านคงสังเกตเห็นว่าผมไม่เหมือนทุกวัน “มีเรื่องอะไรหรอ”
        “แม่ครับระหว่างคนที่เรารู้จักดีที่กำลังรอเราอยู่ กับคนที่เรารู้จักแต่ไม่เคยเห็นหน้าและจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วแม่จะเลือกไปเจอใครครับ”ผมถามแม่ออกไป
        “ทำไมถึงถามแบนี้ล่ะมีเรื่องอะไรหรอ”แม่ถามกลับ
        “อ๋อเปล่าครับ”เรื่องไร้สาระน่ะครับ
        “ถ้าเป็นแม่หรอแม่คงเลือกคนที่แม่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข แต่จะว่าไปคนที่เราไม่เคยเจอหน้าเราก็ไม่เคยอยู่กับเขาหนิเนาะ”แม่พูดติดตลก
        “อิ่มแล้วครับ”ผมบอกแม่ก่อนจะเอาจานไปล้างแล้วกลับขึ้นห้อง
        “แล้วถ้าเป็นออมหล่ะลูก”แม่ถามผมขณะที่กำลังขึ้นบันไดทำให้ผมหยุดชงักแล้วครุ่นคิดแต่ก็ไม่ได้คำตอบ
        “ผม....”
         “มันไม่มีอะไรถูกอะไรผิดหรอกนะลูกเรื่องความรู้สึกของคนเราน่ะ แต่สิ่งที่จะตามมาคือผลของทางที่เราเลือกต่างหากล่ะที่จะบอกเราว่าสิ่งที่เราเลือกมันเป็นยังไง ถ้าคิดแล้วมันยากก็ไม่ต้องคิด ลองไม่คิดแล้วเดินออกไปดูสิแล้วเมื่อลูกรู้สึกตัวที่ที่ลูกยืนอยู่จะบอกลูกเองว่าลูกควรจะอยู่ที่ไหน”ผมยิ้มให้แม่ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้อง นั่งอยู่ซักพักแล้วก็โทรหาเพื่อนทุกคนที่ผมสนิทแต่ก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักเท่าไหร่ผมนั่งต่ออีกซักพักก็สิบโมงครึ่งแล้ว ผมค่อยๆหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าตังก่อนจะเดินออกจากบ้าน
        “ไม่ต้องคิดใช่มั้ย”ผมผมพูดกับตัวเองก่อนที่จะออกจากรั้วบ้านไปใช่ครับผมเดินออกจากบ้านไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรจริงๆผมไปขึ้นรถที่หน้าปากซอยแล้วบอกให้เขาพาผมไปในที่ที่ผมอยากไปมากที่สุดไปหาคนที่ผมอยากเจอ
        “ไปทำอะไรหรอครับ”คนขับถามขึ้น
        “ไปทำอะไรหรอครับ”
        “ไป...ไป...ไปทำอะไรซักอย่งครับ...อะไรซักอย่างที่ผมอยากทำ”ผมบอกไปทำให้คนขับเงียบไปพราะคงเห็นผมพูดไม่รู้เรื่อง
        “ถึงแล้วครับ”คนขับรถบอกเมื่อผมมาถึงจุดหมาย
        “ครับผม”ผมตอบก่อนที่จะยื่นเงินให้คนขับแล้วกังจะลงรถ
        “เอ่อ...น้องครับ”
        “ครับ”ผทมตอบเขากลับ
        “นี้มันโทรศัพท์ครับ”ผมมองไปก็เห็นเขาถือโทรศัพท์ของผมอยู่จริงๆ
        “เอ่อ...ของโทษครับ”ผมรีบเอาโทรศัพท์กลับคืนมาแล้วเอาเงินให้เขาแทนก่อนที่จะรีบลงรถไปผมยืนอยู่ตรงนั้นมองที่ที่ผมเดินทางมาผมคงเลือกที่นี่จริงๆสินะผมตัดสินใจเดินเข้าไปในสถานที่ที่ผมเลือกแล้ว จนใกล้จะถึงจุดนัดหมายเพียงแค่แล้วขวาแล้วแล้วเดินไปอีไม่ไกลผมก็จะถึงแล้วแท้ๆแต่ผมกลับหยุดชงักอยู่กับที่ก้าวไม่ออกพร้อมกับหัวใจเริ่มเต้นรัวผมเริ่มมองไปรอบๆแล้วคิดว่าที่นี้จริงๆหรอ มันใช่ที่นี่จริงๆหรอที่ผมอยากมา ทันใดนั้นภาพของใครอีกคนที่ผมไม่ได้เลือกที่จะไปหาเขาก็ผุดขึ้นมาในหัวของผมทำให้ผมเริ่มน้ำตาคลอเพราะคิดถึงและรู้สึกผิดต่อเขาเหลือเกิน
        หรือว่านี้น่ะหรอคือสิ่งที่แม่บอกว่าที่ที่เรายืนอยู่ในตอนนี้มันจะบอกเราเองว่าเราจะควรไปไหนต่อ ผมรีบดูนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้มัน สิบเอ็ดโมงแล้ว มันทำให้ผมรู้ว่าผมไมมีเวลาเหลืออีกต่อไปแล้วแต่สิ่งที่ผมคิดในตอนนี้มีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นคือไปหาคนที่ผมจะทิ้งเขาไปไม่ได้ ผมกลับหลังหันแล้วออกวิ่งทันทีพร้อมกับทิ้งคนที่อยู่ใกล้กับผมเพียงไม่กี่ก้าวไป
        เมื่อออกมาผมก็รีบโบกรถทันทีแต่ในขณะเดียวกันก็มีคนทำแบบเดียวกันกับผมอยู่หลายคน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังโชคดีที่มีรถมาจอดให้ผมขึ้นก่อน
        “ไป...ครับ”ผมรีบอกคนขับรถ
        “ครับ”
        “รีบๆเลยนะครับพี่”ผมบอกด้วยความเร่งรีบแต่หลังจากรถออกมาได้ไม่นานนักรถก็ติดอย่างหนักผมนั่งอยู่บนนั้นซักพักพร้อมกับดูนาฬิกาก็รู้ว่าผมรอต่อไปไม่ได้แล้วพอดีกับที่ผมเห็นวินมอเตอร์ไซพอดี ผมจึงรีบจ่ายเงินแล้วลงจากรถแล้วไปเรียกวินก่อนที่จะบอกให้เขาพาผมไปยังจุดหมาย แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับเขาพาผมซ็อกแซ็กไปตามซอกหลืบต่างๆบนถนน แต่ก็หนีไฟแดงไม่ได้อยุ่ดี แต่ผมรอไม่ได้แล้วมองนาฬิกาก็เที่ยงครึ่งแล้วผมรีบมองหาตัวเลือกใหม่ก็พบกับสถานีรถไฟฟ้าพอดีผมรีบลงจากรถ แล้วตรงขึ้นไปทันทีโดยม่ได้คิดเลยว่ารถไฟฟ้ามันจะจอดทุกสถานี ใช่ครับนี้คือปัญหาต่อไปของผมแล้วรถไฟฟ้าที่ผมจะเปลี่ยนสายยังมาเลทอีกผมนี้มันซวยจริงๆเหมื่อขี้นรถไฟฟ้ามาถึงยังสถานีปลายทางได้ผมก็รีบวิ่งอย่างสุดกำลังที่มีเพราะสวนสาธารณะมันอยู่ไม่ไกลนัก
        ผมวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้และไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าจะชนใครเข้าไปบ้างจนมาถึงจุดหมายผมหยุดแล้วรีบมองไปรอบๆหาคนที่ผมมาหาพร้อมกับหายใจถี่รัวยิ่งผมมองหาเขาไม่เจอหัวใจของผมมันก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นจนผมแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ผมยกนาฬิกาขึนมาดูก็เห็นว่าตอนนี้มันบ่ายโมงกว่าแล้ว
        “ดิน!!!!!!!!”ผมตะโกนเรียกชื่อของดินอย่าสุดเสียงหวัวว่าเขาจะได้ยินผมบ้าง “ดิน!!!!....ดิน......ดิน......ออมมาแล้ว....อึก”ผมเรียกเขาพร้อมกับน้ำตาแต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
        ใช่ครับ...ใช่.... มันชัดแล้วเขาไม่ได้รอผมอีกต่อไปแล้ว มันผิดที่ผมเองทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนที่อยู่กับผมทั้งตอนที่ทุกข์ สุข และยังคอยปกป้องผมจากอันรายคือใครแต่ผมกลับลังเลผมมันโง่เอง จากนี้ไปผมคงไม่มีหน้าจะไปเจอเขาอีกแล้ว ผมเสียใจให้กับความคิดโง่ๆของตัวเองก่อนที่จะค่อยๆทรุดลงนั่งลงกับพื้นทั้งที่ยังร้องไห้ไม่หยุด
        ปั้ง!
        เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมถึงกับสดุ้งโหยง และรีบหันกลับมองผมก็เห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น ดินเขายืนถือลูกโป่งสวรรค์อยู่ห้างจากผมไปไม่ไกลนัก
        “ร้องไห้ทำไม”เขาถามพลางเดินเข้ามาหาผม “กลัวลูกโป่งแตกหรอ...ฮึ่ม..”เขาถามก่อนจะค่อยๆนั่งลงข้างๆผม
        “...”ผมไม่ตอบส่ายหัวพร้อมกับน้ำตาก่อนที่ผมจะโผเข้าไปกอดเขาแน่นจนเขาแทบเสียหลัก “ขอโทษ...ฮืออ...ขอโทษ....อึกเราขอโทษ...เรามันโลเล...อึก...เอง”ผมพูดออกมาทั้งสะอื้นปนกันไป
        “เฮ้ยออมพูดเรื่องอะไรเนี่ย”ดินถามผมพลางตลกในความขี้แงของผม  “เดี๋ยวออมปล่อยเราก่อนนะ”
        “ทำ...ไมอะดิน...ดิน...โกรธเราหรอ...เราไม่ปล่อย”ผมบอกพลางกอดเขาแน่นขึ้น
        “ไม่ใช่ออมไม่ใช่เราหายใจไม่ออก”ดินบอกพลางทำเสียงอึกอัก</font>
        “ขะ...ขอโทษที...”ผมรีบพละตัวออกจากดินทันทีดินเขาก็ส่งยิ้มให้ผม</font>
        “ออมลุกขึ้นก่อนนะ”ดินบอกพร้อมกับพยุงผมขึ้น “ออมเราไม่โกรธออมหรอกนะที่ออมมาสายอะเพราะเรารู้ว่ายังไงออมก็ต้องมาเราคิดถูกใช่มั้ย”ดินถามพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ผมทำให้ผมถึงกับก้มหน้า</font>
        “เกือบจะไม่แล้วล่ะ”ผมพูดเสียงหงอย “ยังไงเราก็ขอโทษดินนะเรามัน...”ดินเอานิ้วมาแตะปากผมพร้อมกับส่ายหัวเป็นสัญญานบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว</font>
        “ออมรู้มั้ยเราเชื่อใจออมนะ”ดินบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่อบอุ่นมาให้ผม “แต่ตอนนี้เรามีอะไรจะให้ออมดูออมพร้อมมั้ย”ผมพยักหน้าแทนคำตอบ “หลับตา”ผมหลับตาลงดินค่อยๆหมุนตัวผมหันหลับหลังไป “ลืมตาได้”ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก็เห็นกี้ ปริม ไอ้แบล็ค วินและไอ้บอม ถือกระดาษอยู่ในมือก่อนที่จะยกขึ้นทีละคน
'เป็น'
'แฟน'
'กับ'
'เรา'
'นะ'
        ผมเห็นแบบนั้นก็ถึงกับท่อน้ำตาแตกอีกครั้งก่อนที่จะหันหน้าไปหาดิน
        “นะ”ดินถามผมพร้อมกับสายตาที่อบอุ่นที่สุดมาให้ผม
        “อื่ม...”ผมตอบพร้อมกับพยักหน้าแล้วโผเขากอดดินอีกครั้งและในครั้งนี้ผมจะไม่มีทางปล่อยเขาไปง่ายๆแน่ ทั้งที่มีหลายสายตามองมาที่เราก็ตาม
.
.
.
        “กว่าจะลงเอยกันได้นะพวกมึงนี้เอาซะกูลุ้นเลย”วินพูดขึ้นขณะที่พากันมาทำอาหารกินที่บ้านของดินในตอนเย็นเพราะพ่อแม่ดินไม่อยู่อีกตามเคยจะเรียกว่าฉลองก็ได้นะครับแต่ไม่เอาดีกว่าผมเขิลเป็นแฟนกันจะต้องมาฉลงฉลองอะไรกันเวอร์ไปเรียกว่า  ยินดี....แสดงควมายิน....เออสรุปมันก็คือฉลองนั้นแหละครับจะเรียกอะไรก็ตามสดวกเลยครับ
        “มึงก็ว่าแต่คู่คนอื่นขานั้นแหละไอ้วินแล้ว....คู่มึงล่ะวะ”ดินถามพลางมองไปทางไอ้แบล็ค
        “คู่ชงคู่เชี่ยอะไรของมึงไอ้ดิน”วินโวยวายขึ้น
        “เออนั่นน่ะสิพูดให้มันดีๆนะมึง”ไอ้แบล็คโวยบ้าง
        “ว่าแต่ใครเขาว่าอะไรให้มึงหรอได้แบล็ค”ไอ้บอมแขวะขึ้น
        “เออนั้นน่ะสิทำเป็นร้อนตัว”ปริมแซวไอ้แบล็คอีกคน
        “ไม่ได้ร้อนโว่ย”ไอ้แบล็คทำเป็นโวยกลบเกลื่อน
        “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”ทุกคนต่างพากันหัวเราะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนเวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่ว่าขนมและกับข้าวเริ่มจะหมดแล้วปริม กี้ และไอ้บอมเลยเข้าไปทำกับข้าวในครัว ส่วนไอ้แบล็คกับวินก็ออกไปซื้อขนมกับเครื่องดื่มที่หน้าปากซอยปล่อยให้ผมกับดินนั่งคุยกันอยุ่หน้าบ้านสองคน
        “ว่าแต่เราถามได้มั้ยว่าทำไมออมถึงมาสายล่ะถ้าไม่อยากตอบเราก็ได้นะ”ดินถามผมขึ้นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ดีเหมือนกันผมจะได้บอกความจริงเขาไปให้หมดเพราะผมก็ไม่อยากปิดบังเขาเหมือนกัน
        “ไม่หรอกถามได้เราก็ไม่อยากปิดดินเหมือนกัน”ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องของเกรย์ให้ดินฟังใหม่ตั้งแต่แรก “เรื่องก็ประมาณนี้แหละ”
        “โหออม”
        “อะไร”
        “นี้หัดมีกิ๊กหรอมีมาตั้งนานแล้วด้วย”ดินพูดสีหน้าจริงจัง
        “เฮ้ย..จะบ้าหรอไม่ใช่ซักหน่อย”ผมบอกอย่างตกใจ
        “ไม่ใช่ได้ไงก็คุยกับไอ้นั้นแถมจะเกือบเลือกมันอีกแหนะ”ดินพูดงอนๆ
        “แต่เราก็เลือกดินไง”
        “ไม่รู้แหละออมต้องเลิกคุยกับไอ้หมอนั้นซะ”
        “ไม่ต้องห่วงเราไม่ได้คุยกับเขาอีกแล้วแหละ”ผมบอก
        “นี้ออมเสียดายมันหรอ”
        “เฮ้ย...ไม่ใช่”
        “มันน่าน้อยใจมั้ยเนี้ยมีแฟนทั้งทีแฟนก็มีกิ๊ก”ดินพูดพลางทำท่าทางหงอยๆซึ่งดูก็รู้ว่าเฟค “แบบนี้ต้องประจานให้ทุกคนรู้ ออมมีกิ๊ก....ออมมีกิ๊ก ”
        “เฮ้ยดินทำอะไร”
        “ก็ประจานคนหลายใจไง ออมมีกิ๊ก...ออมมีกิ๊ก”
        “เฮ้ยดินหยุด”
        “ไม่ ออมมีกิ๊ก...ออมมีกิ...”
        จุ๊บ!
        ผมจุ๊บไปที่ปากเขาหนึ่งที
        “พอได้แล้วนะ”ผมพูดพลางทำหน้าเขินๆ
        “ออมมี...”
        จุ๊บ!
        “ออมมีกิ๊ก...ออมมีกิ๊ก...เอาไม่จุ๊บอีกหรอ”
        “ไอ้บ้าไม่โว่ย อากงอนก็งอนไปเลยนะ”ผมโวยพร้อมกับตีแขนเขา
        “โหนี้หัดพูดไม่เพราะหรอ ไม่จุ๊บใช่มั้ยเดี๋ยวเราจุ๊บเอง ข้อหาพูดไม่เพราะ”
        “เฮ้ยหยุดไม่เอา”
        “ไม่”
        “ไม่เอาอ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
        สออาทิตย์ผ่านไป
      ความสัมพันธ์ของผมกันดินก็ดำเนินไปเรื่อยๆครับที่จะดีขึ้นหน่อยก็ตรงที่แฟนคลับของดินเขาลดน้อยลงเพราะบอกว่าทำใจไม่ได้ที่ดินมาคบกับผมส่วนความสัมพันธ์ของผมกับเกรย์น่ะหรอครับก็อย่างที่เขาบอกเราไม่ได้คุยกันอีกตั้งแต่วันนั้นเขาก็บล็อกไลน์ผมแล้วลบบันชีผู้ใช้ออกไป ซึ่งถามว่าผมเสียดายมั้ยผมสียดายในมิตรภาพความเป็นเพื่อนของเราครับบางครั้งจับโทรศัพท์ก็มีคิดถึงเขาอยู่บ้างครับแต่ก็ได้ไม่นานเพราะแฟนผมแทบจะโทรมาหาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วถามว่าพ่อกับแม่ของดินรู้เรื่องของเราหรือยังบอกได้เลยว่ายังครับเพราะท่านทำงานและเดินทางตลอดแล้วอีกอย่างดินเขาไม่อยากโทรบอกเพราะกลัวคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วถาว่าผมกลัวว่าพ่อแม่ของดินจะห้ามไม่ให้เราคบกันมั้ย ก็แค่วั่นแต่ไม่ได้กลัวครับเพราะผมไม่คิดที่จะเอาเรื่องที่ยังไม่เกิดมาทำให้ปัจจุบันของผมมันมัวหมองหรอกครับเราทั้งสองคนก็คอยเป็นกำลังใจให้กันในทุกเรื่องถึงแม้จะยังไม่ได้เจอเรื่องที่ยากหรือเลวร้ายก็ตามแต่การที่รู้ว่ามีคนที่เรารักคอยอยู่ข้างๆมันก็ดีกว่าไม่ใช่หรอครับ
        กริ้ง!!!!!!
        เสียงออดหน้าบ้านของผมดังขึ้น
        “ออมใครมาอะ”แม่ถามผมขึ้นขณะทำกับข้าวอยู่ในครัว
        “ไม่รู้ครับ”
        “ดินหรือเปล่า”
        “แล้วดินเขาจะกดออดทำไมหล่ะแม่อีกอย่างถ้าดินมาไอ้เจ้าโด้มันได้กลิ่นก็วิ่งไปห่าประตูแล้ว”
        “เออนั้นสินะงั้นออมไปดูให้แม่หน่อยสิ”
        “นั้นไงว่าแล้ว”
        “ก็แม่ทำกับข้าวอยู่หรือจะไม่กิน”
        “โหแม่ออมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ไป”ผมพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปที่ประตูเปิดออกไปก็ไม่เห็นใคร แต่กลับมีดอกไม้สีขาววางอยู่ที่กล่องไปรษณีผมจึงรีบเดินไปดูก็เห็นกระดาษอีแผ่นหนึ่งวางอยู่ใต้ดอกไม้ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า
‘ขอโทษและขอใจนะ’
        ผมรู้ทันทีครับว่าทั้งจดหมายทั้งดอกไม้นี้เป็นของใคร
        “เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้วสินะ”ผมอ่านข้อความซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับรอยยิ้มและหัวใจที่พองโตและขอให้เจ้าของตอกไม้มีความสุขแปลอดภัย
        สองเดือนหลังจากนั้น
        ฌ บ้านดิน
        “ออม”ดินเรียกผมขึ้น
        “กลัวมั้ย”
        “ฮื้อ...กลัวอะไร”ผมถามด้วยความสงสัย
        “ก็กลัวเราไง”
        “ไม่อะจะกลัวทำไม”
        “เฮ้ยมาอ่านหนังสืออยู่ในห้องของเราขนาดนี้ไม่กลัวเลยหรอ”ดินพูดพลางทำหน้าหื่น
        “อะ...อะไรของดินเนี้ย”
        “ออมคิดว่าจำเป็นป่ะ”ดินถามพรางเอาหน้าเข้ามาใกล้
        “จำเป็นอะไร”ผมถามพร้อมกับถอยหนีดินเพราะเริ่มรู้สึกกลัวเขาแล้วจริงๆ
        “ก็แบบที่คู่อื่นเขาทำกันไง”ดินทำหน้าเจ้าเล่ห์
        “อย่ามาทะลึ่งกับเรานะดิน”ผมบอกหวาด
        “ไม่ได้ทะลึ่ง”ดินบอกพลางเขยิบเข้ามาใกล้พร้อมกับกอดผมแล้วลากไปที่เตียงส่วนผมก็ดิ้นสุดกำลัง
        “เฮ้ยดินเราไม่เล่นนะดิน”
        “เราก็ได้เล่นนะ”ดินพลางเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมซึ่งตอนนี้ผมอยู่ใต้ตัวเขาอยู่
        “เป็นอะไรไปเนี้ยเห็นพูดหื่นๆมาเป็นอาทิตย์แล้ว”ผมถามอย่างสงสัย
        “เราโดนผีเข้ามั้งออมไม่รู้หรอว่าห้องเรามีผี....ผีผ้าห่มด้วย”ดินพูดก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะหอมแก้มผมทำให้ผมยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่
        “ผีทะเลทะเลมากกว่าปล่อยเราเลยนะดินเราไม่ขำด้วยพ่อแม่ดินก็ยังไม่รู้เรื่องเราเลยนะดินจะทำแบบนี้ไม่ได้”ผมบอกเสียงหนักแน่น
        “โหยพูดแบบนี้ถ้าพ่อแม่กลับมาบอกให้ไปขอเลยเอามั้ย”ดินพูดงอนๆ
        “ไม่เราไม่ตลกนะดิน”ผมบอกเสียงแข็ง
        “เราก็ไม่ตลก”ดินทำสีหน้าจริงจัง
        “เราก็ไม่ยอมอยู่ดี”
        “ไม่ยอมใช่มั้ยได้”เขาพูดก่อนที่จะหอมแก้มทั้งสองข้างของผม”ยอมหรือยัง”
        “ไม่ไอ้บ้า ไอ้คนฉวยโอกาส”
        “ไม่ยอมหรอแถมปากดีอีก งั้นเจอนี้”ดินประทับริมฝีปากของเขาลงมาที่ริมฝีปากของผมแต่ครั้งนี้มันแตกต่างไปจากทุกครั้งมันชั่ง..............................








จบแล้วคร้า แหมกว่าจะจบได้ล้มลุกคลุกคลานหายหน้าหายตากันไปเป็นที่ละหลายๆเดือนเลย5555555 วังว่าทุกคนที่ติดตามจะสนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามอ่านถ้าชอบแชร์ให้เพื่อนอ่านบ้างก็ได้นะคะ555555555555
ส่วนตอนพิเศษนี้ไรท์คิดว่าจะเขียนเหมือนกันนะคะ แต่ต้องรอให้ผ่านเดือนกุมภาไปก่อนเด้อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด