(เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย  (อ่าน 97795 ครั้ง)

tawan

  • บุคคลทั่วไป
รอรอรอรอรอรอ

รีบมาต่อนะ

 :call:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

Motor-tricycle

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ อารายอ่ะ เหมือนมาคุ งัยไม่รู้ :เฮ้อ:

พี่หนึ่งอย่าทำให้น้องเสียใจน๊า



ออฟไลน์ TENSHINEKO

  • A heart can be broken, but it keeps beating just the same.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
โทรคุยกันทุกคืน ไมไม่บอก  มาบอกตอนที่ไปแล้ว  ยังแน่หนึ่ง

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
ต่อค่ะ

          สรุปแล้ว..หลายวันที่กลับมาถึงกรุงเทพฯสองก็ต้องใช้ชีวิตเหงาๆต่อไปอีก เพราะคนตัวสูงดันต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด อีกหนึ่งอาทิตย์กว่าจะได้เจอกัน  สองเองก็แอบเสียใจอยู่ลึกๆ เพราะโอกาสที่จะได้มีเวลาว่างๆก็จะหมดลงแล้ว เพราะอาทิตย์หน้าที่หนึ่งจะกลับมาจากชลบุรี สองก็ต้องไปเรียนพิเศษตอนกลางวัน ซึ่งเป็นคอร์สที่เปิดสอนตอนซัมเมอร์ ตารางเรียนก็แสนจะยืดยาว อัดแน่นตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงห้าโมงเย็น คงจะว่างจริงๆก็ช่างสุดสัปดาห์ สองเองก็ได้แต่หวังลมๆแล้งๆว่าหนึ่งคงไม่ต้องมีงานด่วนออกไปต่างจังหวัดอีกเมื่อถึงตอนนั้น
          แต่แล้วสิ่งที่ทำให้คนตัวเล็กเซ็งหนักมากขึ้นไปอีก ก็เมื่อตอนนี้เขาได้รับสายที่เป็นเบอร์โทรศัพท์แปลกๆอีกเบอร์ที่หนึ่งใช้โทรเข้ามาหาสองประจำ หลังจากที่สองกลับมาถึงกรุงเทพฯเมื่อสองสามวันก่อน
         
          "สอง...พี่คงต้องอยู่ต่ออีกซักสองอาทิตย์นะ...ที่ไซด์งานมีปัญหาน่ะ  พี่ยังกลับไม่ได้เลย"

          เสียงคนตัวสูงฟังดูกังวลมาก สองไม่รู้ว่าหนึ่งกังวลเรื่องงาน หรือว่ากังวลเพราะกลัวสองจะโกรธที่ยังกลับมาหากันไม่ได้  ก็ได้แต่พูดกลับไปว่า
          "พี่หนึ่งทำงานต่อนะครับ...ไม่ต้องห่วงสองนะ..เอ่อ...แล้วพี่หนึ่งสบายดีนะฮะ"
 
          "ครับ  สบายดีครับ"  เสียงคนตัวสูงฟังดูเหนื่อยๆ

          "โอเคฮะ..พี่หนึ่งโทรหาสองได้ตลอดนะ แล้วก็รักษาสุขภาพด้วยนะฮะ"

          "ครับๆ..สองๆ...แค่นี้ก่อนนะ พี่โดนเรียกตัวแล้วล่ะ  ไว้พี่โทรหาใหม่นะ"
 
          "ฮะ...โอเคฮะ...."สองเองก็พูดได้แค่นั้น
     
          "งั้นแค่นี้นะครับ พี่วางนะ"

          "ฮะ...."  พอสิ้นเสียงของคนตัวเล็ก เขาก็ได้ยินเสียงตัดสายจากปลายสายที่โทรเข้ามา
 
          สองวางโทรศัพท์ลงบนเตียงอย่างเซ็งๆ  นี่หมายความว่าเขาต้องอยู่คนเดียวอีกหลายวันเลยเหรอเนี่ย  ตอนแรกก็ว่ารู้สึกแย่แล้วที่จะไม่ได้มีช่วงเวลาว่างๆได้ออกไปเที่ยวดูหนัง หรือหาอะไรอร่อยๆกินกัน  แต่นั่นมันก็ยังพอทำเนา เพราะอย่างน้อยๆสองก็ยังได้เจอคนตัวสูงทุกคืน  ได้พูดคุยกัน ได้นอนกอดกัน สองมีความสุขที่ได้เอาอกเอาใจหนึ่ง ได้โดนหนึ่งแหย่ยั่วให้อายม้วนต้วน แต่พอเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าจะแย่หนักลงไปอีก เพราะจะไม่ได้เจอกันเลยเนี่ยสิ สองพอนึกออกว่าตั้งแต่คบกันมา ยังไม่มีครั้งไหนที่คนตัวเล็กต้องห่างจากคนตัวสูงขนาดนี้เลย
          พออาทิตย์ต่อมาสองก็ต้องออกไปเรียนพิเศษตอนกลางวันอีก กว่าจะกลับถึงห้องก็ปาเข้าไปหนึ่งทุ่มแล้ว บางวันรถติด สองก็ถึงห้องเอาเกือบสองทุ่ม แล้วก็ต้องรีบอาบน้ำทบทวนบทเรียน ก่อนที่จะรีบเข้านอนเพื่อตื่นแต่เช้าไปเรียนพิเศษในวันต่อไป และการที่ต้องยุ่งอยู่กับการเรียนพิเศษ เลยทำให้สองต้องทิ้งภาระหน้าที่การดูแลทำความสะอาดห้องของหนึ่งให้กับแม่บ้าน  ซึ่งปกติแล้ว  ก่อนที่จะคบกับสอง หนึ่งจะจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเป็นประจำ แต่พอมาใช้ห้องของสองเข้าบ่อยๆก็แทบจะไม่ได้นอนห้องตัวเอง สองเลยจัดการดูแลห้องของหนึ่งแทน
          แต่ตอนนี้...คนตัวเล็กเองก็ไม่ว่างเหมือนเดิมแล้ว เขาจึงจัดการจ้างแม่บ้านดูแลห้องของหนึ่ง สองค่อนข้างเบาใจ เพราะในห้องของหนึ่งตอนนี้มีแต่เครื่องใช้ภายในห้องซึ่งก็มีแต่ชิ้นใหญ่ๆ กับเสื้อผ้าทำงาน ชุดนอน และชุดลำลองบางส่วนที่ไม่ได้ถูกอัดไว้ในตู้เสื้อผ้าของคนตัวเล็ก ส่วนข้าวของสำคัญๆเช่นแฟ้มเอกสาร บัตรต่างๆ โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าสตางค์ หนึ่งจะขนไปไว้ในรถBMW เอาไปไหนมาไหนด้วยตลอด เพราะหนึ่งมีเอกสารเยอะแยะเต็มไปหมด บางทีก็ต้องหยิบมาใช้ด่วนจี๋ หนึ่งเลยเก็บไว้ในรถ คงเหลือก็แต่มือถือเนี่ยแหละ ที่เจ้าตัวลืมเอาไว้บนเตียงของคนตัวเล็ก สองสงสัยว่าหนึ่งคงจะรีบจัด เพราะว่าหยิบที่ชาร์จแบตมือถือไปด้วย แต่ดันลืมเครื่องเอาไว้ คงเพราะจัดของและแต่งตัวไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย ทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน พอจัดของเสร็จก็รีบออกไปเลย
          "พี่หนึ่งน้า...ไม่น่าลืมมือถือเลย..."  คนตัวเล็กได้แต่บนเบาๆ ขณะที่กำลังเอามือถือของหนึ่งวางไว้ที่หัวเตียงให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องรีบตื่นไปเรียนพิเศษอีก
          พอหลายๆวันเข้า สองก็เริ่มรู้สึกว่าการโทรเข้ามาถามไถ่ของคนตัวสูงก็เริ่มลดน้อยลง จากปกติ ที่หนึ่งจะโทรเข้ามาอย่างน้อยสามครั้ง ก็กลายเป็น วันนึงโทรหนึ่งครั้งบ้าง สองครั้งบ้าง บางทีก็สองวันโทรหาที พอช่วงหลังๆ สองสามวันหนึ่งก็จะโทรเข้ามา พอคนตัวเล็กถาม ก็ได้รับคำตอบที่ว่า  งานยุ่งมาก หรือไม่บางทีก็ ได้รับคำขอโทษเพราะว่า คนตัวสูงมัวยุ่งอยู่กับงานจนลืม แล้วคนตัวเล็กจะไปว่าอะไรได้ล่ะ  นอกจากได้แต่พูดให้กำลังใจ ขอให้งานเสร็จไวๆ จะได้กลับมาเร็วๆ แล้วก็บอกความคิดถึงส่งไปตามสาย
          แต่ก็ไม่คิดว่าหนึ่งจะมีงานหนักหนาสาหัสขนาดที่โทรมาบอกกันว่า
          "พี่คงไม่ว่างโทรหาแล้วนะครับ...ไว้เจอกันที่บ้านเลยนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่ก็กลับแล้วล่ะนะ"
          ซึ่งเอาเข้าจริงๆ อาทิตย์หน้าที่หนึ่งพูดถึง มันก็คือช่วงกลางเดือนถัดมาหลังจากต้นเดือนที่แล้วของวันที่คนตัวเล็กได้กลับมาจากหัวหินนั่นเอง  ซึ่งก็หมา่ยความว่า สองรอหนึ่งมาเดือนกว่าแล้ว  นี่ถ้านับสองสัปดาห์ที่หนึ่งเข้ากรุงเทพฯหลังจากที่ไปเที่ยวบ้านของสอง คนตัวเล็กก็แยกกับคนตัวสูงมาสองเดือนแล้ว สองก็ได้แต่คิดว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน เหลือเวลาอีกเดือนเดียวสองก็จะเปิดเทอมแล้ว
          แต่หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป สองก็รู้สึกเหมือนว่าหนึ่งจะหายเข้ากลีบเมฆไปซะแล้ว สองไม่ได้ข่าวคราวของหนึ่งอีก หนึ่งเป็นคนไม่ชอบเล่นเฟสบุ๊ค สองจึงได้แต่ส่งเมล์ไปหา แต่รอแล้วรอเล่าหนึ่งก็ยังไม่ตอบกลับมา  หรือว่าจะมีปัญหาหนักที่งานเข้าซะแล้ว การเงียบหายไร้วี่แววเช่นนี้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกกังวลใจอย่างมาก อีกไม่กี่วันสองก็จะจบคอร์สเรียนพิเศษ และตอนนั้นแหละ สองจะต้องพยายามติดต่อถามข่าวคราวหนึ่งอย่างจริงจังซะที  ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีหรอกนะ เพราะมือถือของหนึ่งซึ่งเป็นไพ่ใบสุดท้าย ยังคงเหลืออยู่ที่สองนี่นา  สองเลยรีบปิดมือถือของหนึ่งไว้เพื่อเซฟแบตไม่ให้หมดเสียก่อนที่สองจะเอาออกมาถือวิสาสะเปิดดูรายชื่อคนรู้จักเพื่อหาทางที่จะได้ติดต่อกับหนึ่ง
          แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก่อนวันสุดท้ายของการปิดคอร์สเรียนพิเศษ สองก็ได้รับโทรศัพท์จากคนที่สองไม่คาดคิดว่าจะได้มีโอกาสคุยด้วย คนๆนั้นโทรเข้าเบอร์ของห้องคนตัวเล็ก ตอนแรกที่รับโทรศัพท์สองจึงงงมาก คิดว่าน่าจะเป็นคนโทรผิด เพราะคนที่รู้เบอร์ก็มีแต่ พ่อกับแม่ แล้วก็หนึ่ง
          "ฮัลโหล...สองครับ"

          "สวัสดีจ้ะ...สองใช่มั้ย" เสียงผู้หญิงสูงวัยดังมาตามสาย

          "เอ่อ...อ่ะ..ครับ..ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ"  สองถามกลับไป

          "ป้าเป็นแม่ของหนึ่งจ้ะ"

          "อ่ะ..คุณแม่เหรอครับ..สวัสดีครับ..."

          "จ้ะ..." คนปลายสายรับคำสั้นๆ

          "คุณป้าโทรมาหาสอง..มีอะไรรึปล่าวครับ...เอ๊ะ!...รึว่าพี่หนึ่งมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ"  สองรีบถามด้วยความกังวล

          "อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ"  มารดาของหนึ่งตอบกลับมา ก่อนพูดต่อ

          "เห็น..หนึ่งเค้าโทรเข้ามาบอกป้าว่าลืมมือถือไ้ว้ที่ห้องของสองน่ะ"

          "อ๋อ..ใช่ฮะ.." สองตอบเสียงอุบอิบ เพราะไม่แน่ใจว่าคุณแม่ของหนึ่งรู้เรื่องระหว่างตนกับคนตัวสูงมากน้อยแค่ไหน  หนึ่งเพียงแต่เคยเล่าเกี่ยวกับครอบครัวให้ฟังบ้าง เช่นมีสมาชิกกี่คน ใครกำลังทำอะไรอยู่บ้าง หนึ่งเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายกับพี่สาว พี่ชายแต่งงานมีครอบครัวแล้ว  ส่วนพี่สาวก็หมั้นหมายไว้แล้ว เป็นคุณหมอคนสวยประจำอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯนี่แหละ หนึ่งและพี่ๆมีครอบครัวที่อบอุ่น เพียงแต่บิดามีภาระหน้าที่มากมายเนื่องจากทำธุรกิจหลายอย่าง เลยต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ สามพี่น้องเลยใช้ชีวิตกับมารดาซะเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ก็ได้พี่คนโตช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ไปบ้าง บิดาของหนึ่งเลยสบายขี้นได้มีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น แต่นานๆทีหนึ่งก็กลับไปอยู่บ้านบ้าง ได้กลับไปเอาใจมารดาผู้ที่ดูว่าจะหวงแหนลูกคนนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นคนเล็กสุด หนึ่งจึงได้รับความเอ็นดูและการตามใจจากมารดามากกว่าคนอื่นๆนิดหน่อย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาเป็นวิศวะกรทำงานลำบากตรากตรำเช่นนี้ แต่มันเป็นงานที่หนึ่งชอบ  ถ้าไม่ได้มารดาช่วยพูดไว้ หนึ่งก็คงโดนจับยัดเข้าเป็นผู้จัดการตามแผนกต่างๆในบริษัทของพ่อ  และโชคยังดีที่พี่ชายดันไปชอบงานด้านธุรกิจบริหาร  หนึ่งเลยรอดตัวไป

         "จ้ะ..นี่ถ้าแจงไม่โทรมาบอกป้าไว้ก่อนนะ...ป้าก็คงกลุ้มไปแล้วล่ะ เพราะโทรเข้าเครื่องหนึ่งไม่ติด แล้วก็โทรไปที่ห้องก็ไม่มีคนรับ ป้าก็เลยให้แจงเค้าโทรหาหนึ่งบอกว่าให้ติดต่อกลับมาหาป้าด่วนเลย  ป้าก็เพิ่งรู้ว่าหนึ่งเค้าไปทำงานที่ชลบุรีหลายเดือนแล้ว  ลูกคนนี้ไม่คิดโทรบอกแม่ของเค้าซักคำ  เฮ้ย.."

         "เอ่อ..พี่แจง  เหรอฮะ.." แค่ได้ยินชื่อนี้ สองก็ใจสั่น รู้สึกในหัวกำลังหมุนติ้ว

         "จ้ะ..แจงที่เค้าเคยเป็นแฟนหนึ่งน่ะ สองน่าจะรู้จักนะ เพราะสนิทกับพี่หนึ่งเค้านานแล้วนี่ ป้าก็ไม่รู้ว่าแจงเค้ามาเจอหนึ่งที่ชลบุรีได้ยังไง เฮ้ย แต่ถ้าสองคนนี้เค้ากลับมาคบกันได้ก็ดีนะ ป้าว่าพี่แจงเค้าน่ารักนะ สองว่างั้นมั้ยจ๊ะ"
 
         "อ่ะ..อ๋อ..ฮะ..เอ่อ..น่ารัก.....ฮะ"  คนตัวเล็กเสียงเบาหวิว

         "จริงๆป้าก็ว่าจะโทรมาคุยกับสองนานแล้วนะ  เห็นหนึ่งเค้าคุยให้ป้าฟัง ว่ามีน้องข้างห้องมาให้ช่วยติววิชาให้แล้วก็กลายเป็นสนิทกัน  ก็ดีนะจ๊ะอยู่ใกล้ๆกัน เพื่อนบ้านกันมีปัญหาอะไรก็ช่วยกันได้"

         "เอ่อ..ฮะ"

         "หนึ่งเค้าก็แบบนี้อยู่ไม่ค่อยเป็นที่เป็นทาง  เดี๋ยวอีกหน่อยป้าก็ว่าจะออกคำสั่งขั้นเด็ดขาดให้ย้ายกลับเข้ามาอยู่บ้านซะที"

         "ฮะ..." ตอนนี้คนตัวเล็กไม่รู้จะพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว

         "อ้อ..คือป้าจะบอกว่าถ้าเกิดมีอะไรฉุกเฉินแบบนี้อีก  ยังไงป้าวานสองโทรบอกป้าด้วยนะ  ป้าจะได้รู้ว่าหนึ่งเค้าไปตะลอนๆอยู่ไหนบ้าง หัวอกคนเป็นแม่น่ะ "

         "อ่ะ..ครับ  "
   
         "สองเตรียมกระดาษจดยังจ๊ะ ป้าจะบอกเบอร์ของป้านะ เบอร์ XX-XXXXXXXX นะจ๊ะ สองจดเรียบร้อยแล้วนะ"
         มารดาของหนึ่งบอกเบอร์โทรศัพท์มือถือช้าๆ เพื่อให้สองจดได้ทัน ก่อนถามย้ำอีกที

         "อ่อ..ครับ  เรียบร้อยแล้วฮะ"  คนตัวเล็กบอกเสียงแผ่วเบา

         "จ้ะ..ดีจ้ะ  งั้นป้าไม่กวนสองแล้วนะ แค่นี้นะจ๊ะ"

         "อ่า..ฮะ..สวัสดีครับ"

         "จ้ะ..สวัสดี"

         คนตัวเล็กกดวางสาย มือที่ถือโทรศัพท์ค่อยๆตกลงอย่างหมดแรง

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
ต่อค่ะ

          สองนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียง  ในมือยังถือโทรศัพท์ไว้ คนตัวเล็กนั่งเหม่อใจลอย ไหล่เล็กๆห่อลงเหมือนหัวใจที่กำลังห่อเหี่ยวเพราะความหวาดระแวง
          พี่แจง...ทำไมอยู่ดีๆพี่แจงก็เข้ามาได้ล่ะ ทำไมพี่แจงโทรหาแม่พี่หนึ่งได้ล่ะ แล้วนี่พี่แจงไปเจอกับพี่หนึ่งที่ชลบุรีหรอกเหรอ สองคิดได้แค่นั้นก็ต้องนึกอะไรออกแวบๆ สองรีบหยิบมือถือของตัวเองออกมาจำได้ว่าตอนนั้นแอบเมมเบอร์มือถือที่หนึ่งใช้โทรเข้าตอนอยู่บนรถทัวร์ แต่พอเห็นหนึ่งใช้อีกเบอร์โทรเข้ามาในครั้งต่อๆไป สองก็เลยตั้งใจว่าจะลบทิ้ง แต่เพราะยังยุ่งๆอยู่กับที่เรียนพิเศษ สองก็เลยยังไม่ได้ลบสักที อย่างน้อยๆก็ต้องนึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้ลบทิ้งไป เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้พิสูจน์อะไรบางอย่าง  คนตัวเล็กกดเลือกไปที่เบอร์นั้น สองจำได้ว่าเมมไว้ว่า  N เพราะตอนนั้นก็รีบเมมไปมั่วๆ กลัวว่าจะลืมเสียก่อน พอเบอร์โชว์ พร้อมกับปรากฏชื่อ N ที่สองเมมเอาไว้ คนตัวเล็กก็รีบหยิบมือถือของหนึ่งมาเปิดเครื่อง แน่นอน สิ่งแรกที่เห็นคือข้อความแสดงว่ามีสายเข้ามาเป็นสิบๆสาย และนั่นก็คือเบอร์ของมารดาของหนึ่งนั่นเอง แต่ตอนนี้สองกำลังสนใจเบอร์อีกเบอร์มากกว่า สองเลือกเข้าที่เมนูรายชื่อในมือถือของหนึ่ง แล้วก็ต้องไปสะดุดที่รูปใบหน้าของใครคนหนึ่งที่คนตัวสูงเมมเอาไว้  สองเอาหมายเลขเบอร์ของคนๆนั้นมาเทียบกับเบอร์แปลกๆที่ตัวเองเมมชื่อไว้ว่า N ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ
          "ใช่พี่แจงจริงๆด้วย"
          แล้วคราวนี้คนตัวเล็กจะทำยังไงดีล่ะ คนที่อยากเจอมากที่สุดก็หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว จะติดต่อก็ไม่ได้ สองเองก็ไม่ใช่คนที่จะตัดสินอะไรง่ายๆ แต่การที่มาเงียบหายแบบนี้มันก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว แถมจู่ๆคนที่เป็นอดีตแฟนก็เข้ามาพัวพัน ซ้ำยังเหมือนจะถูกยืนยันด้วยคนที่น่าเชื่อถือได้อย่างผู้สูงวัยที่เป็นถึงมารดา  แล้วนี่สองจะทำยังไงดี  คนตัวเล็กคิดหนัก  ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด  สองไม่รู้จะปรึกษาใคร รู้สึกไม่อยากรบกวนพ่อแม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แถมจะปรึกษาเพื่อนก็ไม่ได้ เพราะไม่อยากถูกเอาไปนินทา
          "พี่หนึ่ง..พี่หนึ่งอยู่ไหนฮะ...ทำไมพี่หนึ่งไม่โทรหาสอง" สองพูดกับตัวเองเบาๆ แต่หัวใจกลับลอยออกไปไกลแล้ว
          ไม่รู้ว่านั่งห่อเหี่ยวอยู่บนเตียงไปนานแค่ไหน สองหลับลงไปตอนไหนคนตัวเล็กก็ตอบตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าตื่นขึ้นมาอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมงเช้าแล้ว  สรุปแล้ววันสุดท้ายของการปิดคอร์ส สองก็ไม่ได้ไปเรียนพิเศษอย่างที่ตั้งใจไว้  นอกจากนั่งซังกะตายอยู่ในห้อง จะมีก็แต่เดินลงไปกินข้าวข้างล่างที่ร้านอาหารที่ไปกินกับคนตัวสูงบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่มีคนๆนั้น มีเพียงคนตัวเล็กที่นั่งห่อเหี่ยวพร้อมกับมือถือสองเครื่องที่วางอยู่บนโต๊ะ
          วันนั้นทั้งวันสองก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากนั่งเหม่อลอย หรือไม่ก็นั่งจ้องโทรศัพท์ของตัวเอง เผื่อว่าจะมีคนๆนั้น คนที่สองรอแล้วรอเล่าโทรเข้ามาบอกข่าวคราวให้ได้ฟังและเบาใจ  แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครโทรมา  เย็นวันนั้นสองเลยตัดสินใจที่จะลองโทรหาแจง แฟนเก่าของหนึ่งอีกครั้ง  คนตัวเล็กเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดเบอร์ที่เมมชื่อไว้ว่า N
         
         "ฮัลโหล..ค่า  แจงพูดค่า"  ปลายสายกดรับแล้ว พร้อมกับเสียงใสๆของเจ้าของเบอร์นั้นก็พูดทักกลับมา
         
         สองได้ยินเสียงแจงเหมือนพยายามพูดให้ดังแข่งกับบรรยากาศรอบข้าง สองไม่รู้ว่าแจงอยู่ไหน รู้เพียงแต่ว่า แจงคงอยู่ในที่ๆมีคนเยอะแยะเต็มไปหมด
         
         "ฮัลโหล  พี่แจงฮะ สองเองนะ" สองตอบกลับไป
       
         "ฮัลโหลๆ  ใครนะคะ แจงไม่ค่อยได้ยินค่ะ"
         
         "เอ่อ...สองฮะ..สองเอง" เมื่อเห็นแจงไม่ค่อยได้ยิน สองเลยเพิ่มระดับความดังมากขึ้น
         
         "อ๋อ..น้องสอง  ว่าไงคะ พูดดังๆเลยนะ พี่ไม่ค่อยได้ยิน"
         
         "คือ..พี่แจงเจอพี่หนึ่งบ้างมั้ยฮะ"  สองตะโกนกลับไป เมื่อรู้ว่าคนปลายสายอณุญาตให้พูดเสียงดังได้
       
         "อ๋อ...จ้ะ หนึ่งจ้ะ เห็นว่างานยุ่งจ้ะ ยุ่งมาก"
       
         "พี่แจงเจอพี่หนึ่งบ้างมั้ยฮะ"  สองตะโกนกลับไปอีกครั้ง
       
          "เจอๆ..นี่เดี๋ยวก็เจอกันแล้วเค้าเพิ่งโทรหาพี่เมื่อกี๊ ไงเดี๋ยวพี่ให้เค้าโทรกลับนะ  ตอนนี้พี่ไม่ว่างแล้วล่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ สองรอรับโทรศัพท์พี่หนึ่งนะ แค่นี้นะสอง"
         
         "ครับ" สองรับคำได้แค่นั้น ก็ได้ยินเสียงตู๊ดๆๆแสดงว่าแจงจะตัดสายไปแล้ว
         สองฟังได้เท่านั้นก็รู้สึกว่าตัวเองจะห่อเหี่ยวหนักกว่าเดิม  สองไม่เข้าใจว่าทำไมหนึ่งโทรหาแจงได้ แต่ทำไมไม่โทรหาสอง หนึ่งหายไปนานมาก จนเป็นเดือนแล้ว ช่วงหลังก็ขาดการติดต่อ แต่ทำไมสองรู้สึกเหมือนว่าหนึ่งติดต่อหาแจงตลอด แถมยังอยู่ใกล้กันอีก และที่สำคัญแจงก็สนิทกับแม่ของหนึ่ง  แล้วนี่มันหมายความว่ายังไง สองไม่อยากคิดไปในทางไม่ดี สองไม่อยากเชื่อว่าหนึ่งจะกลับไปคบกับแจง เพราะเพียงแค่นึก มันก็เจ็บปวดแปลบในหัวใจ เพียงแค่นึก น้ำตาอุ่นๆมันก็ปริ่มๆอยู่ที่เบ้าตา เพียงแค่นึกว่าจะโดนทิ้ง.....แค่นั้นแหละ น้ำตาเม็ดแรกมันก็ไหลลงมา และไหลออกมาเรื่อยๆ คนตัวเล็กพยายามปาดเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมหยุดเสียที ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เดี๋ยวน่า อีกสักแป๊บ รออีกสักเแป๊บ คนที่ตัวเองแสนคิดถึงก็คงโทรกลับมา
         รออีกสักแป๊บ......
         แต่มันเป็นช่วงเวลาที่สั้นๆที่ไม่มีวันสิ้นสุด
         สองรอจนเช้าวันใหม่ หนึ่งก็ยังไม่โทรกลับมา
         สองรอไปอีกหนึ่งวัน หนึ่งก็ยังไม่โทรกลับมา
         สองรอไปอีกหนึ่งอาทิตย์ หนึ่งก็ยังไม่โทรกลับมา
         สองรอจนโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว  แต่คนตัวสูงก็ยังไม่ติดต่อกลับมา
         สองทำอะไรไม่ได้แล้ว...ตอนนี้จะให้สองคิดว่ายังไง  มันคงเหลืออยู่หัวข้อให้เลือกอันเดียวแล้ว คือสองกำลังโดนทิ้ง สองไม่อยากจะเชื่อเลย หนึ่ง...หนึ่งคนที่เอ็นดูสองนักหนา คนที่คอยบอกรักสองทุกวัน คนที่คอยดูแลสอง ออดอ้อนยามที่กลับมาจากการทำงานที่แสนเหนื่อยล้า จะเปลี่ยนใจไป เปลี่ยนใจเพราะเจอแฟนเก่าอย่างแจง หนึ่งคงรักแจงมาก รักมาตั้งแต่แรก หนึ่งรักสอง สองรู้สึกได้ แต่มันคงไม่มากเท่ากับแจง แจง ผู้หญิงที่สมบูรณ์พร้อม  มีอนาคตสวยงาม ที่สำคัญ เป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่แม่สามีต้องการ ผู้หญิงที่สามารถมีหลานตัวน้อยๆไว้ให้มารดาของหนึ่งอุ้มเล่น มันคงไม่แปลก หากหนึ่งจะเลือกแจงเป็นคู่ชีวิตอย่างแท้จริง
         หลังจากเปิดเทอม สองก็ไปโรงเรียนแบบเสียไม่ได้ คนตัวเล็กดูซูบผอม ใบหน้าขาวซีดจนเพื่อนๆหลายคนทักว่าไม่สบายรึเปล่า สองก็ได้แต่ยิ้มๆ สองรู้ๆว่าเพื่อนหลายคนเป็นห่วง เพราะปกติสองจะเป็นคนร่าเริงสดใส แต่พอเปิดเทอม สองก็กลับเปลี่ยนไป พูดน้อยลง ชอบนั่งคนเดียว จริงๆแล้วสองน่าจะเป็นคนที่อารมณ์ดีที่สุด  เพราะผลคะแนนสอบวิชาเลขที่ผ่านมา สองทำได้เป็นอันดับต้นๆของระดับชั้น แต่ดูเหมือนเจ้าของคะแนนจะไม่ได้สนใจเลย ใครจะไปรู้ล่ะ  ว่าตอนนี้ในจิตใจของสองมันห่อเหี่ยวแค่ไหน  คะแนนที่ได้มาก็เพราะว่าใครคอยช่วยล่ะ ใครที่กลับมาถึงดึกๆดื่นๆแต่ก็ไม่เคยที่จะลืมมาติวเลขให้ ใครคนนั้นที่สอนสูตรการคิดต่างๆจนสองเข้าใจทะลุปรุโปร่ง ใครคนนั้นที่เคยบอกว่า ถ้าสองได้คะแนนดีจะพาไปกินของอร่อยๆ แล้วจะให้รางวัล แล้วเป็นไงล่ะ ตอนนี้สองได้คะแนนดีมาก ดีถึงขนาดเป็นคะแนนสูงสุดของห้อง แล้วคนๆนั้นหายไปไหน ของกินอร่อยๆที่จะพาไปกินล่ะ รางวัลที่จะให้อีกล่ะ สองจะไปทวงเอาจากใคร นี่เรียกว่าการผิดคำพูดรึเปล่า  แล้ว...สองจะให้เขารับรู้ได้อย่างไร เพราะคนๆนั้นดูเหมือนจะหายไปแล้ว
         "พี่หนึ่ง..หายไปไหนฮะ"
        หลังจากเย็นวันแรกของการเปิดเทอม เมื่อสองกลับถึงห้อง ขณะที่กำลังจะเดินถึงห้อง สองก็เห็นใครคนหนึ่งกำลังไขประตูห้องข้างๆ ห้องๆนั้น ห้องของหนึ่ง แต่คนๆนั้นไม่ใช่หนึ่ง
         "เอ่อ..พี่ฮะ...พี่ทำไรฮะ" สองพูดขึ้น ตอนนั้นคนตัวเล็กเดินถึงหน้าห้องตัวเองแล้ว
         "อ้าว..น้องอยู่ห้องนี้เหรอ" คนๆนั้นหันมามองสอง แล้วถามก่อนที่จะพยักเพยิดไปที่ห้องของสอง
         "อ๋อ..ฮะ...."  สองตอบ
ิ         "พี่เพิ่งมาอยู่ใหม่น่ะ วันนี้มาดูห้อง เห็นเจ้าของเค้าบอกว่ากุญแจหายไปดอก พี่เลยว่าจะทำล็อคประตูใหม่"
         เพียงแค่ได้ฟังเท่านั้น..สองก็เกิดอาการหน้าชา เหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง สายตาเริ่มพร่าเรือน ก่อนที่จะกัดฟันถามออกไปเบาๆ
         "เอ่อ...แล้วคนที่อยู่ก่อนหน้านี้ล่ะฮะ"
         "เจ้าของเค้าบอกขายแล้วน่ะ....เค้าจะกลับไปอยู่บ้าน เห็นเค้าบอกว่าอยากอยู่บ้านแล้ว555แปลกดีนะคนเรา" ผู้มาอยู่ใหม่บอกอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะหันมามองสองอย่างสงสัย แล้วถามกลับมาว่า
         "น้องๆ..ไม่สบายรึปล่าว  ไมหน้าซีดจัง..รึว่าขาวอยู่แล้วเนี่ย แต่ท่าจะไม่สบายนะเนี่ย ปากซีดเชียว"
         "อ๋อ..ไม่มีไรฮะ ผมเดินมา แดดร้อน ขอเข้าห้องก่อนนะพี่"
         "เออๆ..."
         แล้วสองก็ถือโอกาสนั้นรีบไขประตูเข้ามาในห้อง  คนตัวเล็กรีบปิดประตู ก่อนที่จะพาร่างกายที่อ่อนแรงเต็มทีทิ้งลงบนโซฟาใกล้ๆ
         สองเอนตัวลงนอนบนโซฟา น้ำใสๆไหลอาบข้างแก้มขาวๆ...
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2011 22:56:11 โดย cancan »

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
ต่อค่ะ...

          หลังจากวันนั้นสองก็ไปโรงเรียนด้วยอาการที่ดูว่าจะแย่ลงกว่าเดิม คนตัวเล็กเดินใจลอยหลายครั้ง จนเพื่อนข้างๆต้องมากระตุกแขนบ่อยๆ กลัวว่าเพื่อนใจลอยจะเดินตกท่อเข้าสักวัน  พอเพื่อนๆหลายคนถาม สองก็ได้แต่ยิ้มบางๆให้ รู้หรอกว่าเพื่อนห่วงน่ะ แต่จะให้บอกว่าโดนแฟนที่เป็นผู้ชายทิ้งน่ะเหรอ สองไม่มีวันยอมบอกเด็ดขาดจะให้โทรบอกพ่อกับแม่ สองก็ยังไม่พร้อมหรอก เพราะถ้ารู้ แม่เองก็คงพลอยทุกข์ใจไปด้วย แล้วหนึ่งก็คงไม่พ้นที่จะโดนพ่ออ้วนด่าเสียๆหายๆเป็นแน่ แถมสองก็คงทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นกังวลอีกด้วย
          หลังจากคิดหนักวนเวียนทบทวนไปมาอยู่หลายตลบ สองก็ตัดสินใจว่าคราวนี้สองจะลองโทรไปหามารดาของหนึ่งเลยดีกว่า อย่างน้อยๆคนที่มาอยู่ใหม่ก็บอกแล้วว่า เจ้าของห้องซึ่งก็คือหนึ่งได้ย้ายกลับไปอยู่บ้าน ก็แสดงว่า ตอนนี้หนึ่งคงจะอยู่กับแม่แน่นอน ดังนั้นคนตัวเล็กจึงตัดสินใจโทรหามารดาของคนตัวสูง เพื่อถามไถ่ให้รู้แน่ชัดกันไปเลย
          "สวัสดีครับ"  สองพูดกลับไปตามสาย เมื่อได้ิยินเสียงคนปลายทางรับสายโทรเข้าของสอง
          
          "สวัสดีค่า  ใครพูดคะ?" สองจำเสียงนั้นได้ คุณแม่ของหนึ่งนั่นเอง
          
          "เอ่อ..คุณป้าครับ  นี่สองนะครับ" สองบอกไปอย่างกล้าๆกลัว
          
          "เอ่อ....." สองได้ยินคนปลายทางเงียบไปสักพัก ก่อนที่ผู้สูงวัยคนนั้นจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
          "มีอะไรจ๊ะ"
          
          "เอ่อ...สอง..อยากทราบว่าพี่หนึ่งกลับไปอยู่บ้านแล้วเหรอครับ"
        
          "จ้ะ..ใช่จ้ะ  หนึ่งคงไม่กลับไปที่นั่นแล้วล่ะ"
        
          "อ้าว..เอ่อ..แล้ว มือถือที่พี่หนึ่งลืมไว้ล่ะครับ"
          
          "เค้าคงทิ้งแล้วล่ะจ้ะ คงไม่กลับไปเอาแล้ว"
          
          "เอ่อ.....เหรอครับ"
        
          "ถ้าสองไม่มีอะไรแล้ว ป้าขอตัวก่อนนะจ๊ะ" เสียงหญิงสูงวัยที่ปลายสายกล่าวเนือบๆ
          
          "อ่อ..ครับ..เอ่อแล้วพี่หนึ่งจะเปลี่ยนเบอร์มั้ยครับ ถ้าไง...."
          และก่อนที่สองจะพูดอะไรต่อไป  ผู้เป็นมารดาของหนึ่งก็กล่าวตัดบทสนทนาออกมาดื้อๆ
        
          "หนึ่งเค้าคงยังไม่ใช้เบอร์ใหม่ตอนนี้หรอกจ้ะ เพราะว่ากลับมาอยู่บ้านแล้ว คงไม่ต้องโทรหากันให้ยุ่งยาก ป้าขอตัวก่อนนะ"  
          
          และยังไม่ทันที่สองจะพูดอะไรต่อ คนปลายทางก็ตัดสายทิ้งไปเสียแล้ว..
          สองถือโทรศัพท์ค้างอยู่ที่หู  จะเอายังไงดีล่ะคราวนี้ แบบนี้แสดงว่าหนึ่งไปจากสองแล้วงั้นหรือ คนอย่างหนึ่งจะไปแบบไม่บอกกล่าวขนาดนี้เชียวหรือ หนึ่งทิ้งสองได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยหรือ แล้วโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือของสองก็ถูกปล่อยร่วงหล่นลงบนพื้นเตียง ก่อนที่คนตัวเล็กซึ่งเป็นผู้ที่ถือโทรศัพท์เครื่องนั้นอยู่เมื่อครู่ จะชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นแล้วก้มหน้าลงกอดตัวเองเอาไว้ ร่างของคนบนเตียงค่อยๆสั่นเทิ้มทีละน้อย เสียงสะอื้นดังอู้อี้อยู่กับหัวเข่าทั้งสองข้างที่คนตัวเล็กซบใบหน้าตัวเองเอาไว้
          สองเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น  พยายามนึกว่าตัวเองทำอะไรให้หนึ่งไม่พอใจ คนตัวเล็กทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในช่วงที่คบกับหนึ่ง ตั้งแต่ที่คบกันมาก็นับได้เกือบหนึ่งปีแล้ว สองอยากรู้ ว่าตัวเองทำอะไรผิด หนึ่งถึงโกรธจนห่างหายไปได้ขนาดนี้  คนอื่นๆนั้น สองไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ไม่ว่ามารดาของหนึ่งจะชอบสองหรือไม่ ไม่ว่าหนึ่งจะคบกับแจงต่อหรือไม่ แต่สองอยากให้หนึ่งเป็นคนบอกสองถึงสาเหตุด้วยตัวเอง ไม่ใช่หนีหายกันไปแบบนี้ มันเหมือนหนึ่งเห็นสองไม่มีคุณค่า นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป และสองเองก็ไม่อยากจะเชื่อ  ว่าพี่หนึ่งที่แสนดีจะกลัยกลายเป็นคนแบบนั้น
          แต่จนแล้วจนรอด สิ่งที่สองไม่อยากเชื่อ มันก็เหมือนจะคอยตอกย้ำให้สองคิดตลอด เพราะผ่านไปหลายวันเข้า การไร้วี่แววของคนตัวสูงก็ยิ่งทำให้คนตัวเล็กเจ็บช้ำใจ  สองไปโรงเรียนบ้าง ลาหยุดบ้าง เพราะมัวแต่นั่งเหม่อลอยร้องไห้ จนบางทีก็หลับไปทั้งๆที่ไม่ได้กินข้าวเย็น  บางทีก็ไม่ได้อาบน้ำ บางทีอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งร้องไห้ ทั้งๆที่มีผ้าขนหนูพันไว้แค่ผืนเดียว ยิ่งเห็นตัวเองก็ยิ่งคิดถึงหนึ่ง คิดถึงช่วงที่มีความสุขด้วยกัน คิดถึงวันที่หนึ่งกอดสองไว้แนบอก คิดถึงสายตาที่มอบให้แต่ความรักห่วงหาอาทร แต่ตอนนี้ไม่มีแบบนั้นแล้ว พอเหลือแต่ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง มันก็ยิ่งเศร้า ยิ่งเศร้าก็ยิ่งคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้ จนบางครั้งสองก็หลับไปพร้อมคราบน้ำตา ข้าวปลาก็ไม่ค่อยได้กิน บางทีก็หลับคาผ้าขนหนูผืนเดียว แล้วก็ตื่นขึ้นมาเพราะตัวร้อน ก็เลยต้องนอนซมไปโรงเรียนไม่ได้
          พอรู้ว่าเริ่มไปโรงเรียนไม่ได้ สองก็รีบกินยาแก้ปวด บางทีก็กินเกินกว่าที่ฉลากยากำกับไว้ เพราะอยากให้ยาออกฤทธิ์เร็วๆ สุดท้ายก็หลับเป็นตาย พออาการดีขึ้นหน่อยก็ไปโรงเรียน แล้วก็กลับมาป่วยอีก เพราะร่างกายไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของอย่างดีพอที่อาการป่วยจะหายขาด  สองจึงเป็นไข้แบบเป็นๆหายๆหน้าตาซูบเซียว

                                            ................................................
(editเพิ่ม)  เหอๆๆอาจมีคำผิดนะคะ ยังไม่ได้ตรวจ>,.<        
          
          หญิงสาวนั่งมองชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าคร้ามสะอาดกำลังขมวดคิ้วน้อยๆแบบที่เธอคุ้นเคย ผู้ชายคนนี้มักจะทำหน้าตาเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัดในเวลาที่เขาต้องใช้ความคิดในการแก้ปัญหา  แต่ที่ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้าเธอกำลังทำท่าแบบนี้ คงเป็นเพราะเธอกำลังชวนเขาคุยเกี่ยวกับใครคนหนึ่ง ใครคนนั้นที่เขาตัดสินใจที่จะทำตัวเงียบหายจากมา  เธอพูดถึงใครคนนั้น ซึ่งมันก็เหมือนกับเอาไฟจี้เข้าไปที่หัวใจของเขาอย่างจัง  
          "หนึ่ง...หนึ่งไม่คิดจะบอกน้องเค้าเหรอ"  แจงถามผู้ชายตรงหน้าของเธอ
          "........................................"  ไร้คำตอบจากผู้ชายคนนั้น นอกจากสีหน้าที่เคร่งขรึมกว่าเดิม พร้อมกับสายตาคมที่แสร้งเบนหลบไปทางอื่น
          "หนึ่ง.......อย่าเงียบสิ....แบบนี้มันไม่ดีนะหนึ่ง..แจงสงสารสอง" หญิงสาวบอกคนตรงหน้าด้วยเสียงร้อนรน
          "แจง..หนึ่งขอเวลาหน่อยนะ...หนึ่ง..ไม่รู้สิ..หนึ่งคิดอะไรไม่ออก" ชายหนุ่มบอกหญิงสาว
          "ทำไมล่ะ......."  แจงยังคงเซ้าซี้หนึ่ง
          "ผม....ไม่พร้อม..."  นั่นคือคำตอบสั้นๆจากเจ้าของเสียงทุ้มๆ
          "ทำไมล่ะ......."  แจงยังคงไม่เข้าใจ
          "สองไม่ควรยึดติดกับผม ผมอยากให้สองเจอคนใหม่" นั่นคือคำตอบจริงๆของหนึ่ง พร้อมกับสายตาคมที่เบนกลับมาสบตาโตหวานๆของแจงอีกครั้ง
          "หนึ่ง...หนึ่งจะเอาแบบนั้นใช่ไหม..หนึ่งคิดว่าการที่หนึ่งเงียบหายไปแล้วน้องสองจะลืมหนึ่งไปได้เฉยๆงั้นเหรอ..."
          "ผมไม่รู้แจง..เพียงแค่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม...ผมแค่ขอให้เวลามันผ่านไป  ผ่านไปเร็วๆ" หนึ่งบอกหญิงสาวตรงหน้า สีหน้าตอนนี้เดี๋ยวเคร่งเครียดเดี๋ยวกังวล
          "หนึ่ง...หนึ่งอยากให้แจงบอกน้องให้เอาไหม..แจงจะคุยกับน้องให้เอง"
          "ไม่ล่ะแจง...หนึ่งขอ..แจงอย่ายุ่งนะ..ถ้าหนึ่งพร้อม..หนึ่งจะไปหาสองเอง"  หนึ่งบอกหญิงสาว
          "ทำไมล่ะหนึ่ง..." แจงไม่เข้าใจผู้ชายตรงหน้า เสียงของเธอเริ่มสะบัดมากขึ้นเพราะเริ่มหงุดหงิดกับคนดื้อดึง หนึ่งเชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง เชื่อมากจนแจงที่พยายามหว่านล้อมอยู่เป็นนานสองนานรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
          "หนึ่ง...ไม่อยากให้สองเจอหนึ่ง...............ตอนนี้" ชายหนุ่มก้มหน้าลง แล้วสายตาก็ต้องพบกับความเจ็บปวด
          แจงได้ฟังเหตุผลแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา...ถ้าเป็นแบบนี้แล้วหล่อนจะทำอย่างไรดี
          และตอนนั้นเอง
          เสียงประตูกำลังถูกเปิดโดยใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามา......
          "อ้้าว..หนูแจง...มาตอนไหนจ๊ะ"  ผู้หญิงสูงวัยแต่งตัวภูมิฐาน ดูดีมีฐานะที่กำลังเข้ามาในห้องร้องทักหญิงสาว
          "สวัสดีค่ะ..คุณแม่"  แจงหันไปไหว้มารดาของหนึ่ง
          "จ้ะสวัสดี ไหว้พระเถอะลูก..นี่มานานรึยังจ๊ะ"
          "ก็..ซักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ...กำลังนั่งคุยอะไรเพลินๆกับหนึ่งอยู่พอดี" หญิงสาวยิ้มหวานตอบมารดาของหนึ่ง
          "อ่าว..คุยอะไรกันล่ะ บอกแม่มั่งได้มั้ย" หญิงสูงวัยมองหน้าแจงสลับกับหนึ่งที่ตอนนี้สีหน้าเรียบนิ่ง
          "อ๋อ...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...เรื่องเก่าๆน่ะค่ะ รื้อฟื้นขึ้นมาคุยกันใหม่แล้วก็รู้สึกว่าน่าหัวเราะ" แจงบอกหญิงสูงวัยกว่า
          "อื้อ..นั่นสินะ  เรื่องของหนุ่มๆสาวๆ" มารดาของหนึ่งพูดอย่างอารมณ์ดี
          "งั้นเดี๋ยวแจงขอตัวกลับก่อนนะคะ"
          "อ้าว..จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ"
          "ค่ะ...หนึ่ง...แจงกลับก่อนนะ  แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"  หญิงสาวรับคำกับมารดาของหนึ่งแล้วก็หันมาบอกผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง
          "กลับก่อนนะคะคุณแม่ แจงลานะคะ"  แจงพูดแล้วก็ยกมือไหว้มารดาของหนึ่ง
          "จ้ะๆ  ไปดีมาดีนะลูก" มารดาของหนึ่งยกมือรับไหว้แล้วก็ไม่วายเอามือลูบผมหญิงสาวด้วยความเอ็นดู ก่อนจะถามต่อ
          "แล้วแจงกลับยังไงล่ะเนี่ย"
          "อ๋อ..แฟนแจงมารับค่ะ..ตอนนี้รออยู่ที่ชั้นล่างแล้วค่ะ"
          "อ๋อจ้ะๆ..กลับดีๆนะลูก"
          "ค่ะ........" แจงยิ้มให้หญิงสูงวัย และก่อนจะออกจากห้องก็ไม่วายที่จะแอบมองอดีตคนรักที่ตอนนี้กลายเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ซึ่งกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง สีหน้าของเขายังคงเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก สีหน้าแบบนั้นทำให้แจงรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
          แจงออกไปแล้ว.............มารดาของหนึ่งปิดประตูห้อง แล้วก็หันกลับมาหาลูกชายสุดรัก ก่อนที่จะเดินมาที่เตียง แล้วพูดขึ้นเบาๆ
          "หน้าเสียดายจริงๆ"
          หนึ่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง แล้วพูดขึ้น
          "แจงแต่งงานมีสามีแล้วนะครับ  คุณแม่พูดแบบนี้แจงจะเสียหายนะครับ"
          "เฮ้ยย~..แม่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหนึ่งจะลืมแจงได้จริงๆ"
          "เราเลิกแล้วต่อกันด้วยดีครับ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน" หนึ่งบอกมารดาด้วยเสียงเรียบๆ
          "แม่ไม่อยากจะเชื่อเลย  ว่าหนึ่งจะโดนผู้หญิงทิ้ง ลูกของแม่ออกจะดีขนาดนี้ ถ้าไม่ติดที่บ้างานเกินไปนะแม่ว่าป่านนี้แจงก็ไม่ทิ้งหนึ่งไปหรอกนะ" มารดาพูดขึ้นแล้วก็ค้อนน้อยๆให้ลูกชายสุดรัก
          "คุณแม่ครับ...มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ  เรื่องนั้น...ผมเคยบอกคุณแม่แล้วไงครับ...ผมคงกลับไปชอบแจงไม่ได้อีกแล้ว รวมถึงผู้หญิงคนอื่นๆด้วย"
          แค่ได้ฟังปลายประโยค ผู้เป็นมารดาก็รู้สึกจี๊ดๆขึ้นมาที่หัวใจทันที
          "หนึ่ง...กับเด็กคนนั้น หนึ่งก็แค่หลงใหลชั่วครั้งชั่วคราว  มันเอามาวัดอะไรไม่ได้หรอกนะ แม่รู้ว่าหนึ่งโตแล้ว แต่มันก็มีบ้างที่ผู้ชายจะอยากลองอะไรแปลกใหม่ แต่ของแบบนี้หนึ่งคิดว่าพ่อกับแม่จะรับได้เหรอ  หนึ่งคิดดีๆนะ  แม่ว่าคิดในทางที่ดีนะ พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หนึ่งจะได้มีโอกาสแยกกับเด็กคนนั้นไปเลย จริงๆแม่ก็ไม่ได้รังเกียจคนประเถทนี้หรอกนะ แต่แม่แค่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับลูกชายของแม่ เอาเถอะๆ อย่าไปพูดถึงอีกเลย  ทิ้งมันไปซะ ปล่อยให้เป็นอดีต เออนี่  หนึ่ง..หมอเค้านัดวันทำกายภาพแล้วนะ หนึ่งพร้อมรึยังจ๊ะ"
          "............................." ไร้คำตอบจากคนที่นอนอยู่บนเตียง
          "หนึ่งๆ..ตอบแม่สิ  หนึ่งอย่าเงียบสิ อย่าทำให้แม่ใจคอไม่ดีนะ"  มารดาถามหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน พร้อมกับเอื้อมมือเขย่าที่แขนของลูกชายเบาๆ
          "อืมมม...คุณแม่ครับ...คุณแม่คิดว่ามันจะหายหรือครับ" หนึ่งถามแม่เสียงเนือยๆ
          "หายสิ........แม่อยู่ทั้งคน......หนึ่งต้องหาย"
          หนึ่งหันไปมองมารดา สายตาคมแสดงถึงทุกคำพูดที่กำลังจะหลุดออกมาจากปากเรียวเป็นสิ่งที่ตัวเขากำลังคิดอย่างจริงจัง
          "คุณแม่คิดว่าหนึ่งจะกลับไปเดินได้อีกหรือครับ..."พูดได้แค่นั้น สายตาของคนพูดก็กลับเลื่อนลอยออกไปไกล
          "หนึ่ง..หนึ่งมองแม่สิ" มารดาเอื้อมมือไปกุมใบหน้าของหนึ่งแล้วค่อยจับให้หันมามองทางตนอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะกล่าวต่อไปว่า
          "หนึ่งต้องอดทนนะ..เราจะช่วยกันนะจ๊ะ ลูกของแม่ไม่เคยสร้างเวรสร้างกรรมกับใคร ลูกของแม่จะต้องไม่เป็นแบบนี้ แม่เชื่อว่า..ถ้าหนึ่งพยายามไปพร้อมกับแม่ สุดท้ายหนึ่งก็จะเดินได้อีกครั้งนะ เชื่อแม่นะจ๊ะ"
          เมื่อเห็นน้ำใสๆที่คลออยู่ที่เบ้าตาของมารดา หนึ่งก็ต้องถอนหายใจ ก่อนกล่าวตอบกลับไปเบาๆ
          "ขอเวลาหนึ่งหน่อยนะครับ..หนึ่งเหนื่อย..หนึ่งไม่อยากทำอะไร..ให้เวลาหนึ่งนะครับ"
          เพียงแค่ได้ฟังคำตอบของลูกชาย คำตอบที่ตอบแบบขอไปที คำตอบที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เธอไม่เคยเห็นลูกชายของเธอดูตรอมใจขนาดนี้ หนึ่งที่เคยเข้มแข็งหายไปไหน หนึ่งที่ดูสดใสร่าเริงเหมือนเมื่อสองสามเดือนก่อนหายไปไหน หนึ่งที่ช่างพูดช่างคุยกำลังจะหายไป ตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งที่ได้แต่นอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ ถามคำตอบคำ เอาแต่เหม่อลอยไม่สนใจวันเวลา เธอไม่อยากเห็นลูกชายเป็นแบบนี้  แค่เห็นลูกต้องมาพิการหัวใจของคนเป็นแม่ก็แทบแหลกสลาย แล้วตอนนี้ เจ้าลูกคนนี้มันยังไม่ยอมฉกฉวยไขว่คว้าเอาวันเวลาที่จะได้มีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง มันก็เหมือนทุกอย่างกำลังดิ่งลงเหว แล้วคนเป็นแม่อย่างเธอจะทำเช่นไร
                                             ...........................................
           และตอนนั้นเอง....แจงที่เดินออกมาขากห้องพักฟื้นของหนึ่งได้สักพัก กำลังยืนอยู่ที่ชั้นล่างของโรงพยาบาล เธอกำลังรอสามีมารับ ซึ่งได้โทรนัดกันเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้แจงก็ถือมือถือของเธอไว้ในมือ บนหน้าจอปรากฏเบอร์ของใครคนหนึ่ง เธอกำลังจะเอื้อมนิ้วไปกดปุ่มโทรออก
           "ขอโทษนะหนึ่ง...แจงทนเห็นหนึ่งเป็นแบบนี้ไม่ได้" แจงพูดเบาๆกับตัวเอง ก่อนที่จะกดปุ่มโทรออก
           รอไม่นานปลายทางก็รับสาย แจงรีบพูดทันที
           "สอง....สองใช่มั้ยจ๊ะ"

           "แค่กๆๆ..เอ่อ..สองครับ..ใครพูดอยู่ครับ"  เสียงของคนที่ตอบรับฟังดูแย่มาก  

           "สอง..พี่แจงเองนะ..เอ่อ..สองไม่สบายเหรอจ๊ะ"

           "เอ่อ...นิดหน่อยฮะ..แค่กๆๆ"  แสงแหบพร่าของสองตอบกลับมา

           "แล้วนี่สองไม่มีเรียนเหรอจ๊ะ.." แจงถามเพื่อให้แน่ใจว่าสองว่างอยู่จริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดา เป็นวันที่โรงเรียนเปิด นักเรียนอย่างสองก็ควรอยู่ที่โรงเรียน
    
           "เอ่อ..คือ..สองลาน่ะฮะ...พี่แจงมีอะไรฮะ" คนตัวเล็กถามกลับมา

           "สอง...สองอยากรู้มั้ยว่าพี่หนึ่งอยู่ไหน"  แจงค่อยๆเกริ่นเข้าเรื่อง
 
           "......................................."  ไร้เสียงของคนปลายสาย

           "สอง...สองได้ยินพี่รึปล่าวจ๊ะ?"  แจงถามขึ้นเพราะไม่แน่ใจว่าคนปลายสายได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้รับเสียงตอบกลับ
          
           "อึก......สะ..สองอยากรู้ฮะ"  เพียงแค่ได้ยิน แจงก็รู้แล้วว่าคนปลายสายกำลังพยายามกลั้นเสียงสะอื้น

           "สอง...สองต้องสัญญากับพี่นะ..ว่าสองจะมาหาพี่หนึ่งเค้า....ต่อให่งานยุ่งแค่ไหน สองก็จะมานะ  สองสัญญากับพี่นะ"

           "อึก..ฮะ..สองจะไป..ฮะ"

           "สอง..คือเรื่องมันยาวนะจ๊ะ...ตอนนี้พี่เองก็ไม่ค่อยวาง คงจะอยู่ที่นี่ได้อีกไม่นาน เอาไว้พี่จะค่อยๆโทรเล่าให้สองฟังนะ  แต่ตอนนี้พี่จะบอกสองก่อนนะ..ว่าพี่หนึ่งอยู่ไหน สองฟังแล้วก็ใจเย็นๆนะ"

           "อึก..หะ..ฮะ"

           "ตอนนี้พี่หนึ่งอยู่โรงพยาบาลนะ....พี่หนึ่งเค้า...................
           เสียงของแจงค่อยๆเล่าให้คนตัวเล็กฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับหนึ่งเพียงคร่าวๆ  ขณะที่ยังยืนอยู่มุมหนึ่งเพื่อรอแฟนมารับที่โรงพยาบาล หลังจากที่ไปเยี่ยมหนึ่งมาแล้ว

                                             ........................................

            เพียงแค่คนตัวเล็กได้ฟังสิ่งที่แจงเล่า  เขาก็รู้สึกเหมือนถูกใครมาช่วยยกภูเขาออกจากอก อย่างน้อยๆสองก็รู้แล้วว่า หนึ่งไม่ได้เกลียดสอง หนึ่งไม่เคยลืมสองหนึ่งไปชลฯ หนึ่งทำงานหนักจริงๆ หนึ่งไม่มีเวลาโทรหาสองจริงๆ แต่สองไม่คิดว่าหนึ่งจะต้องมาเจออะไรร้ายแรงแบบนี้

            "พี่หนึ่งเค้าประสบอุบัติเหตุที่ไซด์งานน่ะจ้ะ คือเค้าโดนแท่งเหล็กทับแล้วล้มลงไป พอดีมันไปโดนเส้นประสาท มันก็เลยเหมือนกับว่าพี่เค้าเดินไม่ได้ ตอนนี้เค้านอนอยู่โรงพยาบาล"

            และนั่นคือสิ่งที่แจงบอกสอง พร้อมกับรายละเอียดสถานที่ของโรงพยาบาลและหมายเลขห้องพักฟื้นที่หนึ่งเข้าพัก  สองจดมันไว้หมดแล้ว คนตัวเล็กรีบแต่งตัวทั้งๆที่รู้สึกตัวร้อนรุมๆ แต่ตอนนี้สองไม่มีเวลามาสนใจตัวเองอีกแล้ว สองรีบหยิบมือถือและกระเป๋าสตางค์ พร้อมกับกุญแจห้อง ก่อนที่จะรีบออกจากห้องไปโดยที่ไม่ลืมที่จะล็อคประตูให้เรียบร้อย
            สองเดินลงมาข้างล่าง..วันนี้แดดแรงจริงๆ พอหน้าโดนแดดก็ยิ่งรู้สึกถึงความร้อนในตัวมากขึ้น สองไม่มีเวลาที่จะมานั่งรอรถเมล์แล้ว สองจึงยืนรอเรียกรถแท็กซี่แทน แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แววของรถแท็กซี่ที่เปิดไฟว่าว่าง วิ่งมาให้เห็นซักคัน ทั้งๆที่ปกติแล้วจะมีวิ่งอยู่ตลอดไม่ขาดสาย แล้ววันนี้มันดันเป็นอะไรขึ้นมา พอจะใช้ดันไม่มีให้นั่ง คนตัวเล็กร้อนรน เดินวนชะเง้อมองไปตามถนน
            และตอนนั้นเอง พี่ที่เป็นยามของคอนโดก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่งเพื่อจะเข้าไปที่คอนโด และตอนที่ขับผ่านสองก็ไม่วายที่จะหยุดทักสอง เพราะคุ้นเคยกันดี
            "อ้าว...สอง  จะไปไหนล่ะเนี่ย  ไม่ไปเรียนเหรอ"
            "ผมจะไปโรงพยาบาลน่ะครับ รีบด้วยสิ ทำไมไม่มีแท็กซี่ซักคันเลยพี่" สองบอกพี่ยามแล้วก็พยายามชะเง้อมองหาแท็กซี่บนถนน
            "ก็สี่แยกก่อนที่จะเลี้ยวมาทางคอนโดเราน่ะ มันมีรถชนกัน เถียงกันอยู่นั่นแหละ คนจะไปจะมาก็ไม่ได้ ดีนะที่พี่ขี่ไอ้นี่แทนน่ะ ไม่งั้นก็ติดแหง่กอยู่ตรงนั้นแหละ"
            "เหรอครับ...ตายล่ะ..ผมรีบด้วยสิ..ต้องไปหาคนที่โรงพยาบาล"
            "เหรอ...อืม..."  พี่ยามคิดอยู่สักพัก ก็ตัดสินใจบอกคนตัวเล็ก
            "งั้นสองเอารถพี่ขี่ไปแล้วกัน ขี่ได้นะ"
            "เฮ่ย...พี่..จะดีหรือครับ สองเกรงใจ"  คนตัวเล็กรับบอกพี่ยาม
            "เฮ่ยๆ..คนกันเอง..ไม่เป็นไร..พี่ให้ยืม..อ่ะ..รับไปหมวดกันน็อก อย่าลืมใส่ "  พี่ยามลงจากมอเตอร์ไซค์แล้วก็ให้สองจับแฮนมอเตอร์ไซค์ไว้แทน ก่อนที่จะบอกกับคนตัวเล็กต่อไปอีกว่า
            "เอ้า..ขี่ดีๆล่ะ...เดี่ยวพี่ต้องรีบเข้าคอนโดแล้วล่ะ..สองเอาไปเถอะ เดี๋ยวพี่เดินเข้าไป"
            "อ๋อครับๆ..ขอบคุณพี่มากนะครับ..ขอคุณจริงๆเลยครับ"
            แล้วสองก็ได้พาหนะที่จะพาตัวเองไปหาคนตัวสูงแล้ว  สองขับไปด้วยความเร็วพอประมาณ คนตัวเล็กไม่ลืมที่จะใส่หมวกกันน็อก  แต่เป็นเพราะขี่มอเตอร์ไซค์เลยทำให้ต้องโดนแดดที่สาดเจิดจ้าตอนกลางวัน อยู่ๆก็รู้สึกหัวหมุนติ้ว สองค่อยๆชะลอความเร็วลงแล้วก็ขับแบบประคับประคอง  และตอนนั้นเองก็รู้สึกว่าคอแห้งขึ้นมากระทันหัน อาการไอแบบแสบๆที่คอก็เกิดขึ้นอีก
            "แค่ก..แค่ก..แค่ก"  สองยกมือข้างหนึ่งมาปิดไว้ที่ปากด้วยความเคยชิน ด้วยเพราะอาการไอที่เริ่มหนักขึ้น ทำให้เสียสมาธิในการขับรถไปมาก รถมอเตอร์ไซค์ของสองจึงเป๋เล็กน้อย
            และตอนนั้นเอง..ขณะที่สองกำลังจะขับผ่านซอยซึ่งมีรถเข้าออกตลอดเวลา สองก็รู้สึกเหมือนว่าได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์จากทางด้านซ้าย
            แต่ก็ไม่ทันที่จะหันไปดู เสียงแตรรถคันนั้นก็ดังแผดขึ้นซะก่อน
            "ปิ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
            และแล้ว..คนตัวเล็กก็เหมือนโดนอะไรมาปะทะเข้าอย่างจัง
           " โครม!!!!"
            รถมอเตอร์ไซค์ของสองล้มลง.......






จบตอนค่า   เดี๋ยวมาต่อน้า...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2011 21:12:40 โดย cancan »

ออฟไลน์ นัตสึกิ

  • เป็ดตัวกระเปี๊ยก
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
คนอ่านจะหมดแรงตามน้องสองอยู่แล้วอ่าพี่วัน ToT

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เริ่มเศร้าแล้วหรือเปล่า
จะได้เตรียมตัวไว้ :sad4:

tawan

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มเศร้าแน้เลย :serius2:

อย่านะสงสารน้องสอง :sad4:

 :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






SPSJ

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเหตุผลที่ไม่ว่าง และที่ไม่โทรมาหา เป็นแจง

ก็ปล่อยเขาไปเถอะ คนโลเลกลับไปหาคนรักเก่า

เกลียดคนแบบนี้

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
มันต้องมีอะไรแหงเลย อย่าเศร้าน้าาาา TT
ที่จุดๆไว้นี่คือจะลงต่อเลยป่าวคะ?
เราค้างอะ พรุ่งนี้สอบด้วย โฮวววว .. ยังไงจะรออ่านต่อนะคะ  :monkeysad:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ซะนีกลับมาทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

Killua

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ง่า! เศร้าอ่ะ
สงสารสองมากๆ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ควรจะติดต่อมาบ้างนะ ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่โทรมา ถ้ายังเป็นแฟนกัน
ยกเว้นป่วยหนักใกล้ตายอยู่ไอซียู :angry2:

รีบมาต่อเร็วๆนะคะ ลุ้นใจจะขาด

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
:serius2: :m15: :o12:

พี่จะต่ออีกป่าวคะ? หนูจะรอไม่งั้นนอนไม่หลับแน่เลย ปวดใจ TT
ไม่ไหวอะค่ะ เศร้ามาก ค้างด้วย โฮกกกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2011 23:24:12 โดย Églantier✿ »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอะไรกันเนี้ย หายไปเป็นเดือนๆแบบนี้ ท่าไม่ตายแต่ไม่โทรกลับมาก้เกิ๊นไปนะคะ เลิกค่ะ เท่านั้น

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
เค้าไม่รู้นะ ว่าเหตุผลของหนึ่งคืออะไร หรือเพราะอะไร หรือว่าไม่มีเหตุผล

แต่ถ้า ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ความจำเสื่่อม หรือมีเหตุผลเกี่ยวกับบุพการี หรืออื่นใดที่สมเหตุสมผลแล้วละก็
จะไม่ขอสนับสนุนผู้ชายคนนี้ใ้ห้น้องสองอีกต่อไป

พันคำขอโทษ หมื่นคำแก้ตัว ก็ไม่ยอม  :fire:

เค้าจะเชียร์พี่ข้างห้องคนใหม่ให้น้องสองแทน เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าน้องสอง ยังกลับไปคบกับผู้ชายที่ไร้เหตุผล และไม่ห่วงใยน้องสองขนาดนี้ละก็ เค้าจะโกรธน้องสองอย่างแรง

เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าอิน เค้ารับไม่ได้ เค้าท้องอืดเพราะมาม่า

บวก 1 แล้ว  :o12:


SPSJ

  • บุคคลทั่วไป
ก็แค่นี้ เห็นแก้ตัว

เลวววววววววววว รับไม่ได้

หาเหตุผลไม่เจอ คงเบื่อสอง

และไม่ได้รักสองอย่างที่เคยพูด

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
เหตุผลอะไรอ่ะหนึ่ง ไม่ดีพอ เราไม่ยอม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






namtaan

  • บุคคลทั่วไป
เหตุผลอะไรอ่ะหนึ่ง ไม่ดีพอ เราไม่ยอม

ช่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

กลับมาีรีใหม่ อีกรอบ
หงุดหงิดไอ้พี่สองมากมาย เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ไม่ว่าจะเพราะอะไร รึเหตุผลใดๆ ก็ตาม
มันไม่น่าจะฟังขึ้น และตอนนี้เค้าเคืองพี่หนึ่งมากกกกกกกก
 :fire:

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
น้องสอง  :m15:

ไม่ใช่ว่าเพราะคุณแม่ของหนึ่งรู้แล้วนะ TT

4life

  • บุคคลทั่วไป

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆรับไม่ได้ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
เลว.. :m16:
 :monkeysad:
น้องสอง เข้มแข็ง ลุกขึ้นมา
อย่าทำร้ายตัวเองเพราะคนเลว

ออฟไลน์ autumm_99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เป็นกำลังใจให้น้องสองง
คิดว่าพี่หนึ่งคงทีเหตุผลที่ทำแบบนี้

Akad3ar

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
หรือพี่หนึ่งจะโดนคุณแม่กีดกัน??? แจงแต่งงานกับกัปตันไปแล้วไม่ใช่เหรอ??
แต่แหม พฤติกรรมพี่หนึ่งก้น่าสงสัยจริงๆ แค่โทรหาสักนิดก้ไม่ได้นะ
แถมจงใจลืมมือถืออีกต่างหาก เอาที่ชาร์ตแบตไป แต่ไม่เอาเครื่องไป?? พี่หนึ่งมีมือถือหลายเครื่องแน่เลย
ฮึ่มๆๆ ๆๆๆ

จริงๆแล้วต้องเกี่ยวกับแม่พี่หนึ่งแน่ๆเลยอะ แม่อาจจะยื่นข้อเสนอไรสักอย่าง แลกกับคบกับสองได้ต่อ
แล้วพี่หนึ่งต้องทำตามไรงี้ป่าวนะ.... ถ้าจะทำเพื่อสอง ก้ช่วยบอกสองสักนิดเหอะ คนไม่รู้อะไรเลยนี่ทรมาณนะ
กลับมาอีกที พี่หนึ่งอาจจะเจอสองนอนซีดขาดสารอาหารอยู่โรงบาลก้ได้นะเฮ้ยยยยย

เค้าขอเชื่อพี่หนึ่งอีกนิดละกัน
 :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด