คือที่จริงเรื่องนี้ผมอยากเอามาเขียนเป็นการ์ตูนอ่ะครับ แต่ฝีมือการวาดไม่ได้เรื่องเลย 5555++
ว่าแต่จินไมต้องแอบอ่านอ่ะ อ่านดีๆก็ได้นะ แต่เรื่องผมมันอาจจะไม่สนุกอย่างที่คิดก็ได้ หากใครอ่านแล้วไม่ชอบใจ
ก็สุดแท้แต่ใจผู้อ่านละกันนะครับ ส่วนเรื่องที่ผมไม่ได้บอกใครนี่คือไม่อยากโปรโมทอ่ะครับ เพราะเกรงว่าไปโฆษณา
แล้วเรื่องไม่สนุกผมจะเครียดเอา แหะๆ ยังไงผมก็จะสอบพรุ่งนี้แล้ว เลยเอามาลงให้ก่อนตอนแรกนะครับ ยังไงตอน
ต่อไปถ้านานหน่อยก็อย่าว่ากันล่ะครับ ช่วงนี้สอบ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้การติดตามอ่านนะครับ ขอบคุณครับ
*************
^^เค้กรสรัก กาแฟรสหวาน^^
ตอนที่ 1 "แล้วไง มีตังเลี้ยงจริงป่ะหล่ะ" วันธรรมดาของเช้าที่ไม่ธรรมดา เมื่อผมเดินออกจากบ้านจะไปยังหน้าปากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์ไปเรียน อยู่ๆก็มีรถคันหรูสัญลักษณ์วงกลมล้อมรอบอยู่ 4 วง ได้เหยียบน้ำกระเด็นใส่กางเกงสุดที่รักของผม
“เฮ้ย...เกงตรู” มือชี้หน้าเจ้าคนขับออดี้ หน้าตาผมตอนนี้บอกบุญไม่รับ แล้วทันใดนั้นรถก็หยุดลงพอดี
“เฮ้ย ขับรถไม่มีตาหรือไงวะ” ผมจัดให้ 1 ดอกด้วยความปรารถนาดี หลังจากที่ชายคนนั้นลดกระจกลง
“ตาอ่ะมี แต่ตอนนี้มี 4 ตา” ชายตรงหน้าสวมแว่นตาสีดำ หน้าตาหล่อเหลาเลยทีเดียวล่ะ แต่ถ้าเทียบกับผมแล้วล่ะก็ผมหล่อกว่าอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย แค่จมูกมีสันน้อยกว่าตานี่เท่านั้นเอง หุหุ ดูไปดูมาเหมือนจะเป็นลูกครึ่งฝรั่งมั้ง ส่วนผมอ่ะไทยแท้เน่อ 555
“หน้าตาก็ดี กวนอีกนะ นี่เกงผมเปื้อนเลยอ่ะ”
“ครับ ขอโทษครับ พอดีไม่คุ้นทางแถวนี้อ่ะครับ” ดูหน้าตาแล้วคงไม่คุ้นจริงๆหรอก
“ไม่รู้ล่ะ ขอโทษแล้วกางเกงผมไม่ได้ใหม่เหมือนเดิมนี่”
“เอาไงดีอ่ะ ผมรีบซะด้วยสิ งั้นเอางี้ เดี๋ยวผมเลี้ยงคุณที่นี่เป็นการขอโทษละกัน” พร้อมทั้งยื่นการ์ดใบหนึ่งที่บนหัวเขียนว่า ‘ร้านกาแฟรสหวาน’
“แล้วผมจะรู้ได้ไงล่ะ ว่าไม่ได้หลอกผม”
“เอาน่า 5 โมงเย็น ผมรออยู่ที่นั่นเลย แต่ตอนนี้ผมรีบ ผมต้องไปธุระแล้วล่ะ สายมากแล้ว”
“อ้าว นี่คิดจะหลอกแล้วชิ่งหนีเหรอ?”
“งั้นให้ผมไปส่งไหมล่ะ จะไปไหนครับ”
“ใส่ชุดนักเรียน ก็ต้องไปเรียนดิ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดินไปแค่นี้ถึงหน้าปากซอยแล้ว ถ้าผมขึ้นรถไปด้วยล่ะก็ เกิดฆ่าแล้วข่มขืนผม ผมจะทำยังไงล่ะ ยิ่งหน้าตาไม่น่าไว้วางใจอยู่”
“ถ้าฆ่าอ่ะ คงมีสิทธิ์นะ แต่ข่มขืนด้วยนี่ท่าจะไม่ไหว เหอๆ” พูดงี้หมายความว่าไงฟระ
“ไปเลยๆ รีบไม่ใช่เหรอ” ต้องรีบไล่ครับ ผมก็รีบเหมือนกัน ‘สายแล้ว’
“คร๊าบ แล้วเย็นนี้เจอกันนะ” แล้วก็ปิดกระจกขึ้น ขับรถหนีไปซะง้าน แต่เอ๊ะ! ก็ผมเป็นคนไล่เขาไปเองนี่นา หึหึ
ตกตอนเย็นหลังเลิกเรียน ผมก็ขึ้นรถเมล์กลับเหมือนปกติ แต่ทำไมวันนี้จู่ๆท้องมันก็ร้อง เจี๊ยกๆ เอ้ย! จ๊อกๆ ผมก็นั่งตาละห้อย มองออกไปนอกกระจกด้านข้าง ผมเห็นชื่อๆหนึ่งในทันใด
‘ร้านกาแฟรสหวาน’ เย้ยยย เหตุการณ์เมื่อเช้าถูกนำกลับมาเรียบเรียงใหม่ด้วยสมองอันน้อยนิดของผม มันทำให้ผมอมยิ้ม จนกระทั่งผมรู้สึกเหมือนว่ามีใครมามอง เอ๊ะ! กระเป๋ารถเมล์ นี่คิดว่าตรูบ้าล่ะสิ คนบ้าอะไรจะหน้าตาดีแบบนี้ หุหุ ว่าแล้วผมก็ลงป้ายหน้าดีกว่า
วันนี้ฤกษ์งามยามดี จะกินให้จ่ายไม่ไหวดีกว่า เหอๆ ความคิดอันชั่วร้ายได้เริ่มต้นแล้ว จะมาว่าผมร้ายก็ไม่ถูกหรอก ผมแค่เอาคืนนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง หุหุ แต่เอ๊ะ! นี่ผมมายืนหน้าร้านตั้งแต่เมื่อไร สงสัยคิดไรเพลินไปหน่อย แล้วเมื่อผมมองผ่านกระจกใสๆเข้าไปในร้าน ก็พบสายตาคู่หนึ่งที่เมื่อกลางวันมี 2 คู่ โบกไม้โบกมือให้ผมแถมยิ้มแฉ่งซะด้วย เหอๆ ว่าแล้วผมก็เดินเข้าไปร้านเลย
“นายมาสาย 13 นาที 50 วินาทีนะ” แว๊กกกก อะไรจะขนาดนั้นวะ
“ทีแรกผมไม่คิดว่าจะมานี่ หิวหรอกถึงได้มาอ่ะ” เดี๋ยวก็รู้ หุหุ
“อ่ะนี่ สั่งเลย ผมสั่งละ” เมนูๆๆๆๆ แหะๆ เก็บอาการหน่อยตรู
“ครับ ผมเอากาแฟรสหวาน ของขึ้นชื่อที่นี่สินะ แล้วก็.........บลาๆ บลาๆ” จัดมาเลยครับ ทั้งน้ำทั้งนม ทั้งเค้ก
“แล้วผอมๆยังงี้จะทานหมดเหรอเนี่ย สั่งมาซะเยอะแยะ”
“หมดดิ สั่งได้ก็กินได้ หรือว่าพูดงี้ไม่มีตังจ่ายอ่าดิ ” เอ่อ ถ้าเขาไม่มีตังจ่ายแล้วผมจะทำไงดีเนี่ย ที่มีติดตัวก็แบงค์สีเขียวๆ 2 ใบ เหรียญ 2 สีอีก 1 เหรียญ แต่ช่างมันเหอะ วินาทีนี้ขอกินไว้ก่อน เอาช้างมาอยู่ตรงหน้าก็อย่าคิดว่าจะขวางผมได้ ฮ่าฮ่าฮ่า
ดูๆไปชายตรงหน้าเค้าก็สุภาพดีนะครับ อมยิ้มตลอด สั่งแค่กาแฟเอ็กซ์เพรซโซ่กะแซนวิซหมูหยองเท่านั้นเอง ที่เหลืออยู่บนโต๊ะในตอนนี้ของผมหมดเลย ผมก็ไม่รู้นะว่าสั่งอะไรมั่ง เอาเป็นว่าผมกินหมดแน่ๆ
“มองไร ไม่เคยเห็นคนกินเค้กเหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเอาแต่อมยิ้ม
“เคยอ่ะเคย แต่นายกินเหมือนยังกะไม่เคยกินเค้กยังไงยังงั้นแหละ” จ๊ากกกกก เสียทีแล้วตรู ไอ้ที่เคยชมไปเมื่อครู่ขอถอนคำพูดทุกประการ
“แล้วไง มีตังเลี้ยงจริงป่ะหล่ะ”
“อืม มีดิ กินไปเหอะ เดี๋ยวก็ท้องแตกตาย” แอะ แว้งกัดตรูอีกละ
“อ้อ ผมชื่อแมตนะ แล้วนายล่ะ” นี่ตรูจะบอกดีไหมนะ กัดเจ็บแบบนี้ แต่ก็ช่างเหอะ ไงวันหน้าคงไม่ได้เจอกันหรอก
“อ๊อด” ผมงึมงำอยู่ในลำคอ
“นายเคี้ยวให้เสร็จก่อน แล้วค่อยพูดได้ไหม”
“ป๊อด” ผมบอกหลังจากที่ซด เอ้ย ดื่มน้ำ
“งั้นขอแทนตัวว่าพี่แล้วกันนะ”
“อือ แก่กว่าก็ต้องเป็นงั้นอยู่แล้ว”
“เออ เอ็งก็ปากเก่งยังงี้แหละ เดี๋ยวจะเอาอัดใส่ให้เต็มปากจนพูดไม่ได้เลย” เอ้ยยย เปลี่ยนสรรพนามเร็วจริง แล้วที่พูดเนี่ยหมายความว่าไงฟระ มันกำกวมๆ
“แล้วพี่จะทำไง”
“ก็จับยัดใส่ปากเอ็งไง 555”
“เย้ยยย พี่คิดไรเนี่ย เป็นเกย์ป่ะวะ”
“เอ็งแหละคิดไรลามก พี่หมายถึงเค้กที่อยู่ตรงหน้าเอ็งไงที่จะเอามายัด” อ้าว ตรูคิดไปเองเหรอ เหอๆ
‘พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด...’ เสียงเรียกเข้าผมดังขึ้น แหม!!! ตรูไม่ใช่คนโบราณนะ ไอ้พี่แมตมองหน้าตรูใหญ่เลย
“ขอตัวแป๊บนะครับ คุณแม่โทรมา” แล้วผมก็ออกไปโทรศัพท์หน้าร้าน
“คลาสสิกดีนะ เหอๆ” ตาแมตพูดขึ้นหลังจากที่ผมเดินกลับเข้าที่ นี่ตกลงจะกัดตรูให้ได้ ว่างั้น
“ก็ยัยคุณแม่อ่ะดิ เป็นคนสั่งว่าให้ตั้งเอาเพลงนี้เวลาเธอโทรมา แถมห้ามเปลี่ยนอีก”
“เรียกแม่ว่างั้น เดี๋ยวก็บาปหรอก”
“อ้อ ที่บอกว่าคุณแม่อ่ะ คือแม่คุณทูนหัวตะหากครับ แม่ผมจริงๆอ่ะอยู่บ้าน”
“อ้าว...มีแฟนแล้วเหรอเนี่ย” ทำไมต้องทำแววตาสลดลงด้วยวะ
“อืม...ครับ เดี๋ยวผมขอเวลา 5 นาที จะจัดการที่อยู่ตรงหน้าให้หมดครับ”
“ไม่เป็นไรๆ ถ้าเอ็งอิ่มแล้วก็ไม่ต้องฝืนหรอก พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะเลี้ยง”
“แหะๆ พอดีผมรีบอ่ะครับ ไม่งั้นทานนี่หมดชัวร์”
“อืม...ยังปากเก่งอยู่เหมือนเดิมนะ”
“เหอๆ ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับเค้กและกาแฟวันนี้”
“ไม่เป็นไร ถือว่าไถ่โทษเรื่องเมื่อเช้าละกัน”
“555 ผมลืมมันไปตั้งนานแล้วล่ะ”
“ว่าแต่กินกาแฟไปตั้งเยอะแล้วกลางคืนอย่าหนักนะ”
“ทะลึ่งละๆ” ไอ้พี่แมตคิดไรวะเนี่ย
“น้อง...เก็บโต๊ะนี้ด้วย” พี่แมตสั่งพนักงานแล้วเดินออกมาหน้าร้านกับผม
“อ้าว กินแล้วไม่จ่ายตังเหรอ ถึงได้เดินมากับผมเนี่ย”
“เอ็งแหละที่กินแล้วไม่จ่าย นี่มันร้านพี่โว้ยยย”
“หา!!!...” ง่ะ ไม่จริ๊งงง ผมอ้าปากค้างเลย
“อืม พี่ออกมาส่ง เดี๋ยวจะกลับเข้าไปข้างในแล้วล่ะ พี่มาส่งแค่นี้กลับบ้านถูกนะ”
“อ่า...คับ ขอบ...คุณครับ” สมองเริ่มมึนๆ ทีแรกกะจะเอาให้จน แต่กลับกลายเป็นว่าไอ้พี่แมตเป็นเจ้าของร้านซะเองเหรอเนี่ย ว่าแต่ว่าพี่เค้าทำไมดีกับผมจังวะ หรือว่า...พี่เค้าจะแอบชอบผม บ้าน่า ผมเป็นผู้ชายนะ แต่พี่แมตอ่ะไม่แน่ วันหลังจะหาทางพิสูจน์ หุหุ ว่าแล้วก็ไปหาแม่ทูนหัวของผมดีกว่า...
*****************
ปล.มีคนแถวบอกว่าชื่อเรื่องบ้านน๊อก บ้านนอก ก็นะ ตามหน้าตาผมนี่แหละ หุหุ