(ต่อครับ)
ตอนที่ 4
คุกกี้เดินก้มหน้าออกมาจากบ้าน มีรถเก๋งคันเล็กจอดรออยู่ที่หน้าบ้านหลังถัดไปพนักงานธนาคารกล้ามใหญ่ ยืนกอดอกพิงรถ ส่วนสถาปนิกแต่งตัวหล่อเนี๊ยบยืนยิ้มหวานอยู่ข้างประตูบ้าน
เด็กหนุ่มถอนหายใจ อยากแกล้งเดินผ่านแต่ไม่มีความกล้าพอ
“ผมจะไปโรงเรียนแล้ว” เด็กหนุ่มก้มหน้าก้มตาพูด
แต่พี่ยังไม่ขยับจากที่มั่น
คุกกี้ทำท่าเหนื่อยใจคล้ายหมดลม
“วันเสาร์เรียนเสร็จผมไปบ้านพี่ แต่ว่าวันอาทิตย์พี่ต้องปล่อยให้ผมทำการบ้าน เขียนรายงานอ่านหนังสือโอมั้ย ไม่โอก็อดกินคุกกี้ กินแห้วไปเหอะ!”
เด็กหนุ่มโพล่งออกมา ต่อรองในเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ได้เป็นต่อพี่เลยสักนิดไม่ว่าจะในชั้นเชิงหรือลูกล่้อลูกชน ดวงตากลมมองพี่ 2 คนอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
ขณะที่พี่ยิ้มตอบพยักหน้าจากคำพูดที่ซ่อนอยู่ในแววตาเหมือนพี่กำลังบอกว่า
.....กินคุกกี้วันเสาร์เหรอ พี่มีวิธีทำให้น้องได้กลับบ้านคืนวันอาทิตย์อยู่แล้ว!...
ส่วนน้องยังคงมองคนซ้ายทีขวาที
....ท่าทางไว้ใจไม่ได้ทั้งคู่ แต่เอาวะ! เมื่อวานรอด วันนี้ก็ขอให้รอดไปเหมือนกัน แล้วถ้ารอดไปจนถึงวันเสาร์ พี่คงหายอยากกินคุกกี้กันแล้วหล่ะ!
ก็เห็นไอ้กลุ่มพวกนักล่าทั้งหลายโดนหญิงปฏิเสธครั้ง 2 ครั้งมันก็เบนหัวเรือไปทางอื่นกันแล้ว
พี่ 2 คนนี้ก็พวกนักล่ามืออาชีพเหมือนกัน จะพยายามได้สักกี่วันเชียว
เดี๋ยวคุกกี้ !
นี่นายกำลังอยู่ในข่ายได้พี่แล้วทิ้งอย่างที่พี่ว่าหรือเปล่า
...เฮ่ย! คำถามนี้ไว้ก่อนเหอะ เอาตัวรอดจากวันนี้ให้ได้ก่อนเป็นพอ!
“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” พี่แมคเหลือบตามองคนที่นั่งก้มหน้า มือขาวกอดกระเป๋านักเรียนแน่น
“ไม่เท่าไหร่แล้วหล่ะ” เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองมือที่อยู่ที่เกียร์รถ
“แล้วทำการบ้านเสร็จหรือเปล่า”
น้องพยักหน้า ปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมรถไปนาน
“นั่นเป็นจูบแรกของผม แล้วก็เซ็กซ์แรกของผมด้วย”
พี่แมคยิ้มที่มุมปาก เพราะรู้ตั้งแต่ที่ริมฝีปากแตะกับปากแดงๆแล้ว
“มันผิดจากที่คิดมากเลยหรือ”
“ฮะ...” น้องยอมรับ ขณะที่กลับไปมองมือแข็งแรงอีกครั้งแล้วหันออกไปมองนอกรถ “มันทำให้ผมสับสนมากเลย ผมไม่คิดว่าผมจะเป็น แต่ผมกลับ....”
พี่แมคเอื้อมมือมาคว้ามือขาวๆ มาจับไว้ ดวงตากลมโตหันกลับมาสบตาพี่
“ที่ว่าชายต้องคู่กับหญิงมันก็แค่กรอบความคิดที่สืบเนื่องมาจากการสืบสานเผ่าพันธุ์ แต่เรื่องของความรักในเพศเดียวกัน มันมีมาพร้อมกับมีมนุษย์น่ะแหละ”
“เหรอฮะ”
“จะวรรณคดีไทย นิทานกรีกก็มีทั้งนั้น”
กี้คิดตามคำพูดของพี่
“อย่าติดอยู่กับคำถามว่าเราเป็นอะไร เพราะจริงๆแล้วคำตอบก็คือกี้ก็เป็นกี้ เหมือนที่พี่ก็เป็นพี่ และพี่ก็รักกี้ที่เป็นแบบนี้”
คุกกี้หันมาส่งยิ้มให้พี่แมค คนที่ไม่ค่อยพูด แต่ทุกคำพูดกลับฟังรื่นหู
“ขอบคุณฮะ”
“แต่ที่พี่คิดอยู่ก็คือตอนนี้กี้ยังเรียนอยู่ แต่ว่าพี่ทำงานกันแล้ว แล้วความรักของคนทำงาน มันไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่”
“โห...มาเป็นคู่นี่ยังเรียกว่าไม่หวืออีกเหรอ” คุ๊กกื้ทำตาโตแก้มป่อง ทำให้พี่หัวเราะลั่นรถ
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ๆ ทำงานเลิกดึก ถึงไนท์ก็รับงานนอกต้องเอางานกลับมาทำที่บ้าน อาจไม่มีเวลาพากี้ไปดูหนัง ฟังเพลงหรือเดินช็อปปิ้งทุกวันหยุดอย่างคนอื่นเขาทำกัน บางทีการที่เราไม่ค่อยได้พูดคุยทำความรู้จักกันมันอาจทำให้น้องกี้หวั่นไหว”
“เพื่อนผมกับแฟนมันดูหนังกันทุกอาทิตย์”
“กี้อยากทำอย่างนั้นหรือเปล่า”
“เอาจริงๆ เลยนะพี่” คุ๊กกี้ขยับตัวหันมามองพี่แมคตรงๆ “ไม่ เพราะว่าผมไม่ชอบอะไรที่มันเป็นแบบแผนแบบนั้น”
“แล้วเดทในฝันของน้องกี้เป็นยังไง”
“ไม่มีฮะ ผมไม่เคยคิดถึงเดทในฝัน ไม่มีเรื่องสเปคสาว...เออ...คนในฝันด้วย” คุ๊กกี้บอกไม่ค่อยเต็มเสียงเพราะเกรงใจคนที่กำลังขับรถ
“แล้ว....เคยมีใครให้ดอกไม้หรือให้จดหมายรักน้องกี้หรือเปล่า”
“มีฮะ”
น้องกี้บอกขณะที่รถมาถึงหน้าโรงเรียนพอดี
*-*-*