แทนทัพ ตอนที่ 1
แทบกรี๊ดเมื่อเห็นบ้านครั้งแรกในรอบสามปี
ไม่กรี๊ดหรอกครับแหม่ผมล้อเล่น...หลังจากที่แยกจากไอ้บ้าแทนคุณที่เข้าบ้านมันไปแล้ว ผมก็เดินเข้ามาในบ้านที่ผมจากไปสามปีซึ่งมันยังเงาวับและสะอาดเอี่ยมอ่อง มีคนเต็มบ้านอีกเช่นเคย และคนเหล่านั้น...ไม่ใช่คนที่มีสายเลือดเดียวกันกับผมสักคน
เอาเป็นว่า...ผมจะถือว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวที่ผมมีแล้วกัน
“คุณหนูทัพ คุณหนูทัพ กรี๊ด หล่อขึ้นเยอะเลยค่ะ”
“พวกเราคิดถึงคุณหนูทัพนะคะ”
“ลุงเอี่ยมขี้บ่นมากเลยค่ะ”
สาวๆพวกนี้อยู่กับบ้านผมมาตั้งแต่ผมยังเด็ก มีกันประมาณแปดถึงสิบคนและก็อยู่รวมกันในเรือนเล็ก และอีกเรือนหนึ่งใกล้ๆกันเป็นเรือนของบริวารเพศชายที่มีทั้งคนสวน คนขับรถ และก็การ์ด
ทุกคนรอคอยให้ผมกลับมา...นายที่เหลือเพียงคนเดียวของบ้าน
“คิดถึงทุกคนๆ” ผมโบกมือไปมาอย่างกับดาราไอดอลเยี่ยมเยียนแฟนคลับ “ลุงเอี่ยมไปไหนครับ ไม่เห็นตั้งแต่ที่สนามบิน ส่งไอ้บ้าบ้านตรงข้ามไปรับผมทำไม...คนขับรถก็อยู่นี่” ผมร้องจ๊ากเมื่อเห็นหน้าคนขับรถที่หน้าซึดแบบสุดๆเมื่อรู้ว่าผมจับได้
“ลุงเอี่ยมไปทำธุระเรื่องทรัพย์สินของคุณหนูค่ะ แต่เรื่องลุงเขาไหว้วานคุณแทนคุณ...” สาวๆเมดทั้งหลายส่งเสียงคิกคักอย่างเคอะเขิน เชี่ยแทนมันคงมาหว่านเสน่ห์ใส่คนที่นี่บ่อยเลยสินะ... “...พวกเราไม่ทราบจริงๆ”
“ช่างมันเถอะ...ผมเหนื่อยแล้วอยากพักผ่อน ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติได้แล้วนะครับ”
“คิดถึงคุณหนูจรืงๆครับ”
“ดีใจที่คุณหนูกลับมาค่ะ น้ำตาจะไหล...”
บ้านตัวเองก็ดีงี้...อยู่เมืองนอกไม่มีอย่างงี้หรอกครับ ผมต้มมาม่าทานเองเป็นสิบเป็นร้อยครั้งได้ แต่ที่นี่เพียงแค่ผมดีดนิ้ว ผมก็สามารถทานกุ้งล็อบสเตอร์จากครัวที่บ้านผมเองโดยเชฟฝืมือระดับห้าดาวภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที...แต่ผมไม่ได้กลับบ้านมาเพื่อหาความสะดวกสบายหรอก
ผมกลับมาเพราะผม...เหงา...น่ะ
บ้านก็ยังคงเป็นบ้านเหมือนเดิม มีรูปพ่อกับแม่เต็มไปหมดทุกหนทุกแห่ง รวมทั้งคุณตาคุณยายคุณปู่คุณย่า ไม่มีใครยังอยู่กับผมสักคน เรื่องครอบครัวผมเหงาสุดจิตสุดใจ ผมมองรูปพวกท่านในขณะที่ผมเดินผ่านพลางถอนหายใจกับตัวเอง เดินทางมาเหนื่อยผมกะจะนอนยาวไปถึงเช้าวันพรุ่งนี้เลย
หลังจากที่ทิ้งตัวลงบนเตียงตัวเองได้ไม่ถึงชั่วโมง...
“คุณหนูครับ!”
โผล่มาแล้วครับ...ลุงเอี่ยมในตำนาน
“มหาลัย!”
“ใช่ครับคุณหนู หนึ่งในธุรกิจของสุวรรณศักดิ์ศิริกรุ๊ป” ลุงเอี่ยมพูดอย่างภาคภูมิใจ “และเป็นเพียงธุรกิจเดียวของบริษัทที่ยังเหลืออยู่...”
“ไม่รู้แหละครับ...ผมไม่ไปเรียน”
“คุณหนูจะเป็นเจ้าของมหาลัย คุณหนูจะไม่ไปได้ยังไง”
“ลุงเอี่ยมครับ” แหกขี้ตาตื่นเพื่อที่จะมาโดนบังคับให้เรียนมหาลัยเนี่ยนะ...ว็อทเดอะฟ*ค “ผมนอนเฉยๆผมก็มีเงินใช้แล้ว ผมไม่ไปเรียนไม่ไปทำงานหรอก”
“คุณหนู คุณหนูกะจะใช้ทั้งชีวิตของคุณหนูด้วยการจบแค่ไฮสคูลจริงๆเหรอครับ” ลุงเอี่ยมพยายามโน้มน้าว เงาหัวล้านมันวับของลุงทำให้ผมเผลอมองไปทุกที
“มันก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ”
“คุณผู้ชายหวังกับคุณเอาไว้มากนะครับ ท่านบอกว่าแม้จะไม่ได้เห็นวันที่คุณหนูจบป.ตรี แต่ท่านก็หวังให้คุณหนูจบจริงๆ”
นั่นไง...จุดอ่อนของผม...อยู่ตรงที่คุณพ่อนี่แหละ
อ้างเรื่องพ่อ...ลุงเอี่ยมจะชนะผมเสมอ...นี่คือข้อเท็จจริง
“ผมเลือกคณะเองนะ” ผมรีบเปิดหนังสือคู่มือการเรียนหาคณะที่มันชิวที่สุดทันที เออว่ะ คิดไปคิดมาก็คิดว่าโชคดีไม่ต้องเครียดเรื่องสอบเรียนต่อเหมือนเด็กเพิ่งจบมอหกแบบคนอื่นๆ
“ผมเลือกไว้ให้แล้ว”
“ลุง...” ลุงเอี่ยมเพิ่มสกิลการร้ายกาจขึ้นมากจากสามปีก่อน ทั้งๆที่แต่ก่อนน่ะตามใจผมชิบหาย
“เหมาะกับคุณหนูดีครับ เรียนชิวๆ การบ้านน้อย วิเคราะห์นิดหน่อย”
“อืม...นิดหน่อยจริงๆมั้ย”
“บริหารเอกการตลาด”
มันก็ไม่เลว...เรื่องธุรกิจน่ะถูกปลูกฝังใส่หัวผมมาตั้งแต่เด็ก ผมยักไหล่ประมาณว่าเอางั้นก็ได้ ลุงเอี่ยมนี่ช่างรู้ใจ รู้ว่าผมพอจะถนัดอะไรและเรียนอะไรได้
“เพราะผมมีคนที่ผมไว้ใจเรียนอยู่คณะนี้เหมือนกันน่ะครับ”
เงิบตกเก้าอี้...ไม่ได้เลือกเพราะเห็นว่าผมพอจะเรียนได้หรอกเหรอ...ลุงเอี่ยมผู้ไม่ธรรมดา...
“คุณหนูก็เจอเขาแล้วใช่มั้ยครับ แทนคุณ...”
กูจะบ้า...วันนี้ทั้งวันแม่งได้ยินแต่ชื่อเสี่ยวๆของเชี่ยแทน
ทัพไทยไม่เสี่ยวนะครับ...เท่ชิบหายอ่ะบอกเลย
“มัน...เรียนมอบ้านเราเหรอ”
“ครับ...เด็กทุน...เรียนเก่งมาก”
“ผมจะไล่มันออก” เซ็นปราดเดียวมันต้องได้ออกแน่ๆ
“คุณหนูเพิ่งอยู่ปีหนึ่ง...ไม่มีอำนาจหรอกครับ”
“ลุงเอี่ยม...” ถามจริง...นี่ผมเป็นเจ้านายของลุงจริงป่ะเนี่ย ?
“โอ๊ะ นั่นไง มาพอดีเลย แทนคุณ เข้ามานี่สิ”
แค่ได้ยินชื่อไม่พอครับ ต้องได้เห็นหน้ามันด้วย ไอ้แทนคุณที่เปลี่ยนแค่กางเกงแต่ไม่เปลี่ยนเสื้อแบบตอนไปรับผมกำลังเดินเข้ามาทำหน้าบุญไม่รับ
กูก็ไม่ได้อยากเจอมึงเท่าไหร่หรอกสาด...
ผมผู้มีอำนาจเหนือกว่ามันแปดสิบเก้าล้านขุมนั่งมองมันอย่างราชา(ฉากหลังเป็นบ้านหลังใหญ่ประดับทองอร่ามทั้งหลังแม้ว่าผมเองจะใส่แค่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดไม่ได้ซักมาตั้งแต่อยู่เมืองนอกก็ตาม...) ไอ้เชี่ยแทนกลอกตา ดูเหมือนมันจะอ้วกใส่ท่าทางของผม
ไอ้นี่หนิ...เดี๋ยวบั๊ด...
“ไหว้รุ่นพี่สิครับ คุณหนู”
รุ่นพี่...
ไอ้แทนคุณเป็นรุ่นพี่..
แก่กว่าไม่พอ ยังเสือกจะเป็นรุ่นพี่...ตายดีกว่า...
ที่มหาลัยของบ้านผมซีเรียสเรื่องเคารพรุ่นพี่รุ่นน้องมากครับ(ที่อื่นก็คงจะเป็นกัน แต่ที่นี่หนักมากจริงๆ ไม่ใช่ว่ามึงไม่ไหว้กูกูตบหัวแบะ ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ไม่ควรปีนเกลียวรุ่นพี่จนเกินไป เพราะอาจถูกประณามเอาได้) ผมไม่อยากจะเชื่อว่าแทนมันจะแก่กว่าผม เพราะหน้ามันก็ไม่ได้แก่มากเท่าไหร่
“ปีไหน...” ผมกระซิบถามลุงเอี่ยม
“สาม” มันตอบแทนพร้อมๆกับยักคิ้วจึกๆให้ผม “...แต่ไม่ต้องไหว้กูหรอก...ขี้เกียจรับไหว้คนอย่างมึง”
“ไอ้เหี้ยแทน” ผมกะจะลุกไปจัดการตั๊นหน้ามันแล้ว แต่ลุงเอี่ยมห้ามผมไว้ “ลุง มันด่าเจ้านายของลุงนะ ลุงต่อยมันสิครับ!”
“ลุงเอี่ยม เสร็จยังครับ ผมจะไปให้ข้าวหมา”
ดู๊ดูมัน...เห็นหมาสำคัญกว่าเจ้าบ้านอย่างผม...
แม่งกวนตีนตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน...ไอ้เชี่ยแทน
“เอ่อ ยังไงก็...อย่างที่เคยบอก ฝากดูคุณหนูด้วย ท่าทางจะก่อเรื่องยุ่ง”
“หา ว่าไงนะลุง”
“ไม่ต้องบอกก็รู้ครับ” ไอ้แทนหัวเราะหึหึ ท่าทางน่าเตะอย่างไม่น่าให้อภัย “...เจอกันพรุ่งนี้ละกัน”
“พรุ่งนี้?” ผมหันไปหาลุงเอี่ยมคนต้นเรื่องทันที
ลุงเอี่ยมยิ้มแฉ่งให้ผม “พรุ่งนี้เปิดเรียนวันแรกครับคุณหนู”
กูจะบ้าตาย...
กูกลับไทยมาทำไมเนี่ยยยยยยยยย...
“ไม่ไปครับ ป่วยล่วงหน้า” ผมโวยวาย
“สำออย”
“ไอ้เหี้ยแทน” ผมจะลุกไปต่อยมัน(ครั้งนี้เอาจริงจริงๆด้วย) แต่พอเห็นมันผงกหัวท้าทายกลับมา...แม่ง...ไม่เอาดีกว่าว่ะ...
เพราะคนอย่างผมคงจะหัวแบะก่อนคนอย่างมันเป็นแน่
ผมยังจะต้องเจอไอ้แทนคุณไปอีกกี่ครั้งต่อกี่ครั้งกัน...
ตกดึก
ชุดนักศึกษาไทสีฟ้าสว่างใหม่เอี่ยมห้อยอยู่ในตู้เสื้อผ้าเรียงกันเป็นตับเจ็ดชุด(เรียนวันธรรมดาห้าวันไม่ใช่เรอะคุณเมด)แค่มองเห็นเงาของมันผมก็น้ำตาจะไหลแล้ว ยังครับ ยังไม่พอ ตรงโต๊ะทำงานบทเรียนการตลาดสำหรับใช้เรียนวางเป็นตั้ง ทั้งหมดใสเอี่ยมอ่องราวกับว่าลุงเอี่ยมเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วทุกอย่างก่อนที่ผมจะมาถึงซะอีก อยากหนีออกจากบ้านชิบหาย...นี่ผมใช้ชีวิตคนเดียวเป็นนายตัวเองแล้วจริงดิ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย...แต่ยังไงก็ช่างมันก่อน ขอเสิร์ชข้อมูลมหาลัยที่ผมจะไปเรียนแป๊บ
TUB THAI UNIVERSITY
เก๋ๆครับ...ชื่อมหาลัยถูกตั้งเพราะเป็นชื่อของผม...(หัวเราะถูกใจ) เป็นหนึ่งในธุรกิจของที่บ้านที่ผมสาบานได้ว่าไม่เคยเข้าเว็บมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว ป๊าด...อลังการงานสร้างชิบ...ตึกเป็นหินอ่อนและมีหลากหลายตึกมาก บรรยากาศเมืองนอกแบบสุดๆถ้าไม่นับแดดอันแสนร้อนแรงนั่น...ว่าแต่หมดนั่นมันจะตกเป็นของผมหมดจริงๆเหรอวะน่ะ
ผมกดเข้าคณะบริหาร...ทันทีที่กดแม่งก็ต้องเบ้หน้าใส่จอ
ก็พรีเซ็นเตอร์ที่ทำเป็นอ่านหนังสืออยู่นั่นก็คือไอ้แทนคุณไม่ใช่เรอะ!!!
ท่าทางตอนที่ผมเข้าไปเรียนผมจะหล่อที่สุด เพราะหล่อสุดในคณะหาได้แค่นี้...แค่ไอ้แทนคุณ...หึหึ รูปไอ้เชี่ยแทนหมุนและก็หมุนไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดที่รูปๆหนึ่ง...ผมจำผู้หญิงที่ถ่ายคู่กับมันได้...
อิง...
เรียนอยู่ที่เดียวกันซะด้วย และเธอก็ดันเข้าใจว่าผมเป็นแฟนไอ้แทน!
บรรลัยแล้วมั้ยล่ะ!
ช่างมันก่อน เจอหน้าอิง...เอ๊ย พี่อิงที่มหาลัยก็ต้องหลบไว้ก่อน คงไม่เป็นไรหรอก
ผมปิดคอม บิดขี้เกียจเล็กน้อยเตรียมนอน เจ็ทแลคให้ตายเถอะ...และอีกอย่างการที่มีต้องเปิดเรียนพรุ่งนี้ทำให้ผมนอนไม่หลับ...
ครืด ครืด
โทรศัพท์ของผมสั่น...อีเมลเข้าแฮะ คงเป็นเพื่อนจากเมืองนอกส่งมาหาผมแน่ๆ...
ไม่ใช่ว่ะ
เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย ทัพไทย สุวรรณศักดิ์ศิริ
from : unknown
เตรียมตัวห่าไรล่ะ...
แม่ง...ยิ่งทำให้ผมนอนไม่หลับใหญ่เลย
ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน วันแรกที่ผมถึงไทย...ไอ้แทนคุณก็รบกวนผมไปตลอดทุกๆนาทีที่อยู่ที่นี่เลยก็ว่าได้...
รู้สึกตะหงิดๆว่าชีวิตผมจะต้องเข้าไปพัวพันกับมันแบบคาดการณ์ไม่ได้แน่ๆ
TBC*
Talk : ลางสังหรณ์นางแม่นได้อีก 555555555