“ทำไมต้องทำท่าเหมือนจะตาย..แค่กูบอกว่าจะไปส่ง”
“ก็คุณมีเรียน..ผมไม่อยากกวน อีกอย่าง..ผมก็เดินไปเองทุกที”
คอนโดกับมหาวิทยาลัยอยู่ห่างกันแค่นี้..ผมเดินไปกลับเองอยู่ทุกวัน ไม่เห็นมันจะเคยคิดอยากไปรับไปส่ง..แล้วจู่ๆ วันนี้กลับมาบังคับจะไปส่งผมเสียอย่างนั้น
“มันมีอะไร..ทำไมต้องไม่อยากให้กูไปขนาดนั้น” มันบีบแขนผม “หรือมึงนัดใครเอาไว้”
“ผมเปล่าครับ..” บอกแล้วพยายามแกะมือมันออก “ผมแค่ไม่อยากให้คุณนัทลำบาก”
“ตอแหล !” มันด่าก่อนจะลากผมให้เดินเข้าลิฟต์ “อยากรู้นักว่ามึงปกปิดอะไร..”
ผมร้อนใจ..นึกห่วงทั้งตัวเองและวีขึ้นมาทันที เขามาหาผมทุกเช้า..ถ้าวันนี้ไปถึงแล้วเจอกันเข้า มันจะเกิดเรื่องอะไร..ผมไม่อยากคิดเลยจริงๆ ผมเหลือบตามองมัน..ก่อนจะค่อยๆ กดพิมพ์ข้อความส่งไปให้วี
[วันนี้ไม่ไปเรี..]
แต่ยังพิมพ์ไม่ทันเสร็จ..มันก็กระชากมือถือผมไปหย่อนใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง “อย่ามาเจ้าเล่ห์กับกู..”
“ขอมือถือผมคืนเถอะครับ..” ผมบอกมัน..พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด “ผมต้องโทรหาเพื่อน..”
“มึงเคยมีเพื่อนด้วยหรือไง..”
“...”
“หรือเห็นว่ากูไม่อยู่..เลยเที่ยวแรดๆ ไปทั่ว” มันจ้องหน้าผม “เพื่อนหรือผัวกันแน่ที่มึงหมายถึง..”
“คุณนัท !”
“อย่ามาเสียงดังใส่กู..ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงก็อย่ามาทำร้อนตัวนะทิว”
ผมสะบัดหน้าหนี..ไม่คิดจะหันกลับไปสนใจมันอีก เอาเลย..อยากจะพูดอยากจะทำอะไรก็เชิญ ยังไงผมก็ชินแล้ว..แค่โดนด่าด้วยคำหยาบคายมากกว่าปกตินิดหน่อยไม่เห็นจะเป็นไรเลย
“อย่าคิดจะสวมเขาให้กู..”
“สวมเขา..เหอะ !” ผมแค่นหัวเราะ “พูดอย่างกับเราเป็นอะไรกันเลยนะครับ..”
“ไอ้ทิว !”
ผมไม่พูดไม่ตอบโต้อะไรมันอีก..ปล่อยให้มันลากผมไปขึ้นรถ ผลักหัว..หรือพ่นคำด่าใส่ตามใจ ผมเบื่อแล้ว..เบื่อหน่ายที่จะเถียง ในเมื่อผมไม่เคยพูดอะไรได้อยู่แล้ว..
.
.
มันลากผมเดินตรงเข้าคณะทันทีที่มาถึง..ผมปล่อยตัวเองตามแรงดึงไปแบบไม่คิดจะฝืน เพราะขัดขืนมันไปก็คงจะเท่านั้น..ถ้ามันอยากจะทำอะไร มันก็จะทำจนได้อยู่แล้ว..
“ไหน..ไอ้หน้าไหนที่มึงกลัวกูจะมาเจอ” ผมกัดฟันถาม..ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปทั่ว “กูถามว่าใครทิว..”
“ไม่มีครับ..” ผมถอนหายใจออกมา “เพราะมันไม่เคยมี..”
นึกโล่งใจนิดหน่อย..ที่วันนี้วีไม่มาหาผมอย่างที่คิด คงเพราะมีเรียน..หรือวันนี้วีอาจจะตื่นสายจริงๆ ผมนึกขอบคุณโชคชะตานิดหน่อยที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ อย่างน้อยวันนี้ผมก็ไม่ต้องเจ็บตัว..และยังไม่ต้องลากใครมาเจ็บไปกับผมด้วย
“อย่าให้กูจับได้แล้วกัน..” พูดขู่..ก่อนจะปล่อยมือที่จับแขนผมไว้ “เลิกเรียนแล้วรอตรงนี้..”
“ครับ..”
ผมมองมันเดินกลับไปที่รถ..ก่อนจะหันกลับมาเพื่อเดินขึ้นห้องเรียน แต่แล้วสายตาดันมองไปเห็นใครบางคนที่คิดว่าคงไม่ได้มา..ยืนมองผมอยู่ไกลๆ ใต้ต้นไม้ ผมรีบส่งยิ้มให้..แต่เขากลับหันหลังเดินออกไปโดยไม่คิดจะทักทายกลับ
“หึ..”
ไม่แปลกหรอกครับ..ใครมันจะไปอยากคบกับคนแบบผม ชีวิตไร้ค่า..โดนตราหน้าว่าขายตัว ยิ่งกับเขา..คนที่ผมรู้ดีว่าเขาคิดยังไงกับผม คงจะยิ่งรังเกียจผมมากกว่าใครๆ ผมยิ้มให้กับตัวเอง..ก่อนจะเดินหันหลังออกไปจากตึก
ไม่อยากเรียนแล้ว..ถึงเข้าห้องไปก็ไม่มีสมาธิจะฟังสิ่งที่อาจารย์สอนหรอก
ผมเดินเลาะรั้วไปทางประตูหลังของมหาวิทยาลัย..ที่นั่นมีสระบัวเลี้ยงหลากสีอยู่ ผมเคยไปนั่งจ้องมันอยู่ค่อนวันครั้งหนึ่ง..ดอกบัวสีขาว สีเหลือง สีแดง พวกนั้นเคยทำให้ผมคิดอะไรได้หลายอย่าง..
วันนี้ผมก็หวังให้มันเป็นเช่นนั้นอีก..
.
.
“มานั่งทำอะไรตรงนี้..”
ผมละสายตาจากดอกบัวสีขาวตรงหน้า..ก่อนจะหันไปมองตามเสียง “วี..”
“โดดเรียนมานั่งดูดอกบัวเนี้ยนะ..”
“...” ผมไม่พูดอะไร..ทำแค่จ้องหน้าเขาเงียบๆ
“ผมก็โดดเหมือนกัน..” เขาหันมายิ้มให้ “แต่โดดมาดูทิวนะ..ไม่ใช่ดอกบัว”
“วี..”
“คิดว่าผมรังเกียจเหรอ..” เขาถามแล้วหันมองออกไปที่สระบัวตรงหน้า “รู้สึกดีจัง..เหมือนผมสำคัญกับความรู้สึกของทิวเลย”
“...”
“ผมแค่เห็นเขาจ้องอยู่น่ะ..เลยไม่กล้าเดินเข้าไป” เขาหันกลับมาส่งยิ้มให้อีกครั้ง “เลยแอบเดินตามมานี่แทน..”
“ทำไม..”
“อย่าถามเหมือนไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่เลยทิว..”
“แต่ผม..” ไม่รู้จะพูดอะไร..ผมรู้สึกจุกๆ ในอกจริงๆ
“ชอบดอกบัวเหรอ..” เขาถามเหมือนพยายามเปลี่ยนเรื่อง “เห็นนั่งจ้องตาไม่กระพริบเลย..”
“ตอนเด็กๆ ผมเคยอ่านนิยายอยู่เรื่องหนึ่งน่ะ” เมื่อเขาอยากเปลี่ยนเรื่องคุย..ผมก็จะเปลี่ยนให้ “นางเอกของเรื่องถูกเปรียบให้เป็นเหมือนดอกบัวขาว..”
“...”
“ที่ถึงจะผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาสักแค่ไหน..ก็ยังสวยงาม” ผมสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ “สะอาดเหมือนดอกบัวที่ใช้บูชาพระ..”
“ทิว..”
“ผมยืมป้าแม่บ้านของคุณนัทมาอ่านน่ะ..” อมยิ้ม..เมื่อนั่งนึกถึงความหลัง “ตอนนั้นผมนึกขำ..เพราะคิดว่ามันไร้สาระ”
“...”
“คนที่ถูกมองว่าสกปรกไปแล้ว..จะยังถูกเปรียบเหมือนว่ายังสะอาดอยู่ได้ยังไง”
“ทิว..”
“เมื่อวานผมผิดนัดมื้อเที่ยงวีไป..งั้นวันนี้ผมขอเลี้ยงมื้อเที่ยงวีเป็นการขอโทษนะ” ผมส่งยิ้มจางๆ ไปให้เขา “แต่อย่ากินอะไรแพงนักล่ะ..ผมไม่ค่อยมีเงิน”
“งั้นไปกินส้มตำหลังมอก็ได้..”
“ร้านป้าเพชรน่ะนะ..”
“อือ..ร้านลาบขอนแก่นนั่นแหละ” เขาพูดยิ้มๆ “ถึงร้านลาบยโสจะดังกว่าก็เถอะ..”
ผมหัวเราะไปกับคำพูดของเขา..ก่อนจะยื่นมือไปให้เขาช่วยพยุงลุกขึ้น เรากุมมือกัน..ก่อนที่ผมจะปล่อยให้เขาจับมือผมเดินไปอย่างนั้นจนถึงที่ร้าน เขาอบอุ่น..เขาใจดี ผมมองเจ้าของฝ่ามืออุ่นๆ นั้นด้วยรอยยิ้ม ความอบอุ่นที่เขามอบให้..กำลังทำให้บางอย่างในใจผมเริ่มเปลี่ยนไป
อะไรบางอย่าง..ที่ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าจะได้สัมผัสในชีวิตนี้
Ma-NuD_LaW
รู้สึกว่าเม้นมันจะแปลกๆ ไป..จากปกติที่เอาแต่ด่านัท ยุให้ทิวหนี ตอนนี้กลายเป็นยุให้เอา..แล้วปอกลอก ?
.
.
ให้ลุ้นกันต่อไป..ว่าใครจะได้เป็นพระเอก