“พี่ไผ่มาแล้วคะ คุณน้อง”เสียงป้านวลบอกคุณน้องของแกที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะกรวดน้ำไปไม่ถึง ยังตลกนะชะตาจะขาดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย มันเงยหน้าขึ้นมามอง มือก็จับอาวุธไปมา เวลามันหงุดหงิดคิดอะไรไม่ออก นี่เป็นเทรนด์ใหม่ของเมียผมจะหยิบนิตติ้งมาถักทันทีเพื่อระงับสติอารมณ์ ทักก็พอใช้ได้แต่มันชอบคิดว่าตัวเองเก่ง ปล่อยมัน
“คงไม่กินแล้วมั้งข้าวน่ะ อิ่มมาแล้วสิ”นั่นไง เสียงสวดบทแรก เป็นการกระแทกเหน็บแนมแกมประชด แทนที่ผมจะโมโหกับท่าทางงี่เง่าของมัน กลับทำผมยกยิ้มมองหน้าป้านวลที่ส่ายหน้ายิ้มๆ แสดงว่ามันคงออกอาการแกเลยตะล่อมถาม ป้านวลบอกตอนเด็กๆเวลามันโกรธ แกจะจับมือมันสวดมนต์ไหว้พระให้มันใจเย็น ปากมันก็ด่าคนที่ทำมันโกรธอย่างไม่ยอม แกก็ท่องนะโมๆจนมันลืมด่าหันมาสวดแทน แกเล่าไปก็ขำไป
“งั้นป้าไปเททิ้งนะคะ ถ้าคุณน้องบอกว่าพี่ไผ่อิ่มแล้ว”ป้านวลพูดหน้าตาเฉย จะเดินไปทางครัว มันลุกทันที
“ไม่ต้อง น้องจัดการเอง”มันพูดกับป้านวลที่แอบอมยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าให้ผม มันไม่เห็นหรอกครับมัวแต่หน้าง้ำตาคว่ำใส่ผมอยู่ ถ้าเห็นว่ารู้กันมีเคือง เห็นไหมผมเป็นคนดีใครก็เข้าข้าง
“ใครทำอะไรบอกสิ”ผมเดินไปนั่งโซฟา โดยที่มันมายืนขวางหน้าอยู่ น่ารักฉิบหาย เห็นแล้วอยากลากขึ้นห้องชะมัด มันคงอาบน้ำแล้วกลิ่นหอมฟุ้งไปหมดนี่แหละกลิ่นที่ผมชอบ กลิ่นที่คุ้นเคย และไม่คิดจะเปลี่ยนด้วย
“มึงนั่นแหละ”มันใส่ทันที ผมจะจับ มันก็ตีมือไม่ให้จับ ถ้าอยู่ห้องโดนรวบไปแล้ว โทษฐานขัดขืนการดมกลิ่น
“ฮะแฮ่ม พูดเพราะๆสิคะ ไหนก่อนพี่ไผ่มาบอกว่าจะพูดดีๆไงคะ”ป้านวลยกน้ำตะไคร้มาให้ผม ก่อนจะเตือน แกไม่เคยก้าวก่ายหรือสอดรู้สอดเห็นเลยสักครั้งมีแต่คอยบอกคอยเตือนในฐานะญาติผู้ใหญ่ที่มันนับถือคนหนึ่งไม่ใช่แค่แม่บ้านเท่านั้น
“ถ้าคุณน้องโมโหงั้นให้พี่ไผ่กลับไปก่อนดีไหมคะ อารมณ์ดีค่อยคุยกัน”แกบอกอีกครั้งเดินไปจับตัวคุณน้องที่ยืนเม้มปาก
“น้องขอโทษ”มันบอกป้านวล ก่อนจะเดินมานั่งข้างผม แกมองก่อนจะเดินออกไปท ปล่อยให้เคลียร์กันเอง
“เชี่ยะ กูโดนว่าเลย”พอลับตา มันเน้นเสียงบอกผม แถมหยิกด้วย
“สม เสือกหน้ามืดหงุดหงิดเอง”ผมผลักหน้ามันจนหงาย
“ก็มันน่าไหมล่ะ โทรก็ไม่โทร ข้อความไม่มีส่งมาบอก มึงปกปิดอะไรใช่ไหม”มันทุบผมไปด้วยว่าไปด้วย ผมจับมือมันก่อนจะยกน้ำตะไคร้ขึ้นดื่ม เออ ค่อยโล่งหน่อย ไวน์เชี่ยะไรโคตรมึนเลยดีนะแดกไม่เยอะ
“และมึงไม่โทรล่ะ รออะไร”ผมย้อนมันบ้าง
“กูเกรงใจ เห็นว่าเรื่องงานหรอกนะ”มันพูดออกมา มือก็บิดแขนผมไปด้วย อย่างที่คิดนี่แหละไอ้ฝิ่น
“เหรอ คนดีเน๊าะ”ผมพูดยิ้มๆใส่มัน ก่อนจะจับมันได้สักที
“หึ กูคนดีแน่ แต่ถ้ากูจับได้นะว่าเอาความเชื่อใจที่กูมีให้มาหลอกล่ะก็”มันทำเสียงทำหน้าใส่
“จะทำไม”ผมก็แกล้งแหย่มัน ยื่นหน้าไปใกล้ๆ คิดว่ามันต้องพูดอะไรข่มขู่แต่อย่าให้รู้มันเอาจริงถ้าทำ แต่มันกลับกันทำเอาผมอึ้งไปเลยไม่คิดว่าจะมามุกนี้
“กูก็จะร้องไห้ ฮืออๆๆๆๆๆ”มันบอกก่อนจะร้องออกมาจริงๆ ไม่มีแสตนด์อินเลยครับ ผมทำไรไม่ถูกเลย พยายามมองว่ามึงทำการแสดงอยู่ใช่ไหม
“เฮ้ย ร้องทำไม”ผมบอกจะเอามันออกจากอก แต่มันยังซุกไม่เลิก
“ก็กูเสียใจ ฮึกๆๆ”มันบอกสะอึกสะอื้น
“กูยังไม่ได้ทำเลยนะ”ผมบอกก่อนจะจับมันออกมา แม่ง เลอะไปหมด เอามือเช็ดให้
“กูซ้อมไว้ก่อน ฮึกๆ”มันบอกแต่ยังสะอื้นไม่หาย ดูกวนตีนมากกว่าน่าสงสาร กูว่าแล้ว แม่งดราม่า
“เดี๋ยวกูตบ ขนาดซ้อมของมึง จัดเต็มมาเลยนะ ทั้งน้ำตา น้ำมูก”ผมง้างมือทำท่า ว่ามันไปด้วย “กูเพิ่งรู้มีเมียโรคจิต”
“เพราะมีผัวอย่างมึงนั่นแหละ กูเลยติดนิสัยมาด้วย”มันแว็ดใส่ก่อนจะเอาหน้าถูที่เสื้อ”ถ้ามึงทำจริงกูจะเสียใจมาก จำไว้ กูไม่ฆ่ามึงหรอกแต่มึงฆ่ากูทางอ้อม”มันพูดต่ออีก
“นี่เพิ่งดูละคร หรืออ่านนิยายรักประโลมโลกมาใช่ไหม”ผมถามมัน ก่อนจะจุกเมื่อโดนมันโถมพร้อมกับทุบหลังเข้าให้
“กูไม่ได้ล้อเล่นนะโว้ย สัด คนยิ่งเครียดแทนที่จะปลอบหรือพูดอะไรที่มันดีๆเสือกกวนตีนกูซะงั้น”มันทั้งโวยทั้งด่า เป็นที่ถูกใจผมมาก ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ฟังเลย เอาซะหน่อย
“มึงอยากเครียดเองนี่หว่า คิดอะไรไม่เข้าเรื่อง ตั้งแต่คบกันวันแรกจนไม่มีวันจะเลิก ไม่เชื่อใจเลยเหรอ หืม”ผมแกล้งมันในตอนแรก ก่อนจะรีบกอดเมื่อมันยกตีนจะถีบอีก พูดกระซิบข้างหูก่อนจะไล่มาจูบปิดปากที่ช่างต่อว่าแต่เวลาเดียวกันก็หวานกว่าคำพูดหวานๆที่ฟังจากปากคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่ผมจูบอยู่ พอผละออกเราไม่ได้พูดอะไรกันอีก นอกจากกอดกันเฉยๆ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันรู้สึกอย่างไร ชอบสิมึงเวลากูพูดอะไรเลี่ยนๆ แต่จากใจ
“กับข้าวอุ่นเสร็จแล้ว ทานเลยไหมคะ”เสียงป้านวลถามออกมาแต่เสียง แต่ตัวแกยืนหันหลังหยิบน้ำในตู้เย็นส่งให้พี่น้อยที่เดินเข้าครัวไปแล้ว
“พี่ไผ่กินหรือเปล่า”มันมองไปทางนั้นก่อนจะถามผมอย่างอารมณ์ดีขึ้นทันตา
“กินสิ หิวจะตาย”ผมก็บอกมันทันที กัดจมูกมันด้วย
“นึกว่าอิ่มแล้วซะอีก”มันยังไม่วายประชด ผมเลยจูบมันอีกที มันตาโตเลยก่อนจะเหล่มองว่ามีใครเห็นหรือเปล่า พอไม่มีก็จูบกลับ ก่อนจะพากันไปกินข้าวที่ถูกเตรียมไว้แล้ว
“เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ”หลังอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมานั่งรับลมตรงสระน้ำข้างห้องนอนมัน สรุปค้างที่นี่
“แสดงว่าเรื่องจริง”มันพูดพึมพำอย่างไปรู้อะไรมา ผมมองหน้ามัน”ก็ข่าววงใน เขาบอกว่ายายป้าเนี่ยะชอบกินเด็ก โดยเฉพาะพวกนายแบบนี่ของโปรดเลย”มันบอกผมแถมเปลี่ยนสรรพนามคุณพิมไปด้วย
“แต่กูไม่ใช่นายแบบนี่หว่า งั้นคงไม่โดนหรอก”ผมบอกก่อนจะหยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยวหลังสูบเสร็จ มันก็ทำมั่ง ตอนนี้เราสองคนสูบแค่อาทิตย์ละสองมวน หลังจากจะค่อยๆเลิกกัน
“น้อยไปสิ แค่นี้เขายังจะงาบมึงเลย ดีนะอีออยขัดไว้ซะก่อน”มันเบะปากใส่ ก่อนจะชมเพื่อนมัน
“สรุปมึงก็ไม่ไว้ใจกูอยู่ดี”ผมถามมันอีก เหมือนว่าถ้าเพื่อนมันไม่ขวางและผมจะไปกับเขางั้นแหละ มันรีบมากอดเลย
“ไม่ใช่ แต่กลัวจะเกิดเรื่องตามมาต่างหากล่ะ”มันรีบพูดอธิบายทันทีเลย
“เกิดเรื่องอะไร”ผมถามมันอีก
“จะเรื่องอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เป็นชู้กับเมียคนอื่นเขา และผัวยายป้าเนี่ยะก็ไม่ธรรมดา ถึงจะรู้พฤติกรรมเมียไม่เคยว่าแต่อย่าให้เสื่อมมาถึงเขาเป็นเด็ดขาด”มันบอกอย่างที่รู้ลึกมากกว่านั้น ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน”แม่น้องรู้จัก เขาเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสมัยเรียนที่อเมริกากันมาก่อน พอดีแม่น้องโทรมา ก็เลยคุยกันแต่คุยมากไปหน่อยก็เลยได้เรื่อง อย่าโกรธนะ”มันไขข้อข้องใจให้ผมพร้อมหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเอาใจ ที่บังอาจฟ้องแม่มันแต่มันเรียกว่าคุย
“โกรธห่าไรหล่ะ แม่ยายกูนะน่ะที่บอก”ผมเขกหัวมัน ๆ ที่ยิ้มแป้นอย่างชอบใจ ที่เห็นผมพูดใส่มันแบบนั้น
“ยอมรับด้วยอ่ะ”มันทำเสียงอ้อนๆใส่ ขาขาวก็รัดเอวผมเอาไว้ ผมก็เริ่มเพลินกับมันเหมือนกัน อยู่ใกล้ทีไรอดไม่ได้สักที
“น้องอยากให้พี่เลิกทำงานที่นี่ จะเป็นการงี่เง่าไปไหม”มันถามพร้อมกับช้อนตาขึ้นมอง มือก็ยังกอดอยู่
“ก็อยากจะเลิกซะพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ต้องรับผิดชอบจนกว่างานจะเสร็จ เข้าใจนะ”ผมบอกไปกอดมันเข้ามาอีก
“เออ งั้นพี่ก็ระวังด้วยแล้วกัน”มันยอมรับพร้อมกับบอกให้ผมระวังตัว
“พูดอย่างกับกูเป็นสาวที่จะถูกเจ้านายหัวงูเคมอย่างนั้นแหละ”ผมบอกมันขำๆ
“ไม่ต่างกันหรอก”มันก็บอกย่นจมูกใส่
“เขาไม่ได้สนใจกูจริงจังหรอก คนหน้าตาดีกว่ากูมีเยอะไปที่พร้อมจะสนองเขา กูแสดงให้เขาเห็นแล้วว่าไม่ได้คิดอะไร ก็คงเบื่อไปเองแหละ”ผมหลับตาก่อนจะพูดลอยๆ มือก็ยังกอดมันไว้อยู่
“เป็นอย่างนั้นก็ดี แต่ถ้าเขามองว่าเป็นเรื่องท้าทายล่ะ จะทำไง สมมุติๆ”มันบอกก่อนจะถามอีก ทำเอาผมขำมากกว่าจะเครียดนะ เป็นการคุยกันที่ชิวๆมาก ผมไม่เคยปิดบังอะไรมัน คิดว่าคุยกันดีกว่า ถ้าเราคิดจะอยู่ด้วยกันก็ต้องฝ่าฟันไปด้วยกันทุกเรื่อง และมากกว่ารักคือรักกันให้ยิ่งกว่าเดิม แสดงความมั่นใจและเชื่อใจให้เห็นทั้งสองฝ่าย ผมว่าไม่ใช่เรื่องน้ำเน่าหรือล้าสมัยกับสิ่งที่ผู้ใหญ่สอนเรามา ก่อนจะกลับมาพี่สาวผมผูกข้อไม้ข้อมือให้ผมกับมันด้วยนะ ผูกไปก็สอนไป ทั้งเพื่อนมันเพื่อนผมเห็นตอนแรกล้อกันใหญ่ประมาณว่ากลับบ้านไปแต่งงานกันมาเหรอไหนบอกแค่ไปเที่ยวไง และผมบอกมันว่าเอาไว้จะลงไปกระบี่ไปขอให้ปู่ผูกให้บ้าง มันยิ้มอายๆด้วย
“ปัญหาก็เหมือนขี้ที่มีทางออกไม่ใช่เหรอ”ผมเอาคำมันที่เคยบอกมาย้อนใส่มัน
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้บ้า กูก็พูดเล่นไปงั้นแหละ เสือกจำได้อีก”มันหัวเราะชอบใจที่เห็นผมจำได้
“มันไม่เกิดหรอก เชื่อกู”ผมย้ำกับมันไม่ใช่แค่คำพูด แต่จะเป็นการกระทำให้เห็นจริงๆ
“น้องเชื่อ”มันบอกก่อนจะจูบปากผม มือไล้ไปมาก่อนจะเกยขึ้นมาทั้งตัว เบียดแนบชิด ขบเม้มซอกคอ ผมก็ไล้มือไปในเสื้อยืดตัวใหญ่ก่อนจะถลกขึ้นเอาหัวสอดเข้าไป ขบเม้มยอดอกสีสวย จนเจ้าของบิดตัวและร้องคราง กดหัวผมมากกว่าเดิมให้แนบชิด
“อื๊อ อา พี่ไผ่”ก่อนจะครางมากขึ้น เมื่อถูกกัดน้อยๆพอให้สะดุ้ง ลิ้นตวัดไปมาทั้งสองข้างไม่น้อยหน้า สะโพกมนที่ถูกบีบ คลึง ก่อนจะเปลี่ยนไปขยุ้มก้นนิ่มๆที่เบียดกับส่วนกลางผมที่เริ่มจะรู้สึกตัวแล้ว แต่นึกได้ว่านี่ไม่ใช่ที่ห้อง เกิดมีใครมาเห็นเข้าคงไม่ดีแน่โดยเฉพาะป้านวล ผมเลยผละออกมากอดมันพร้อมกับจูบปาก
“เอาไว้กลับห้องเรานะ”ผมกระซิบบอกมันที่จูบผมอีก เบียดอย่างไม่ยอมฟัง ทำเอาผมจะเตลิด มือก็จับมือผมไล้มันไปด้วย
“น้อง เดี๋ยวป้านวลได้ยิน”ผมเตือนมันอีกครั้ง แต่มือผมก็ไม่ได้หยุดเอาซะเลย บ่งบอกว่าไม่อยากจะสนใจอะไรจริงๆ นอกจากร่างตรงหน้าที่ยังยั่วผมไม่หยุด
“อุ้มน้องหน่อย”มันอ้อนให้ผมอุ้มมันแทน ก่อนจะพากันเข้าห้องนอนที่ผมเพิ่งเคยจะมานอนเป็นครั้งแรก พอถึงที่นอนได้มันก็กอดรัดผมทันที มือก็ปลดเสื้อผ้าให้ด้วย แต่ผมรั้งเอาไว้ก่อน มองหน้าที่ปรือตาใส่
“ไม่ได้ยินหรอก”มันบอก ขาก็เกี่ยวเอวผมไว้”จริงๆ ห้องป้านวลกับพี่น้อย อยู่ไกล”มันยืนยันจะเสียตัวให้ได้
“จริงเหรอ”ผมถามมันอีก มันจิ๊ปาก ปล่อยทั้งมือทั้งขา
“งั้นก็นอนไป”มันบอกก่อนจะลุก ผมฉุดมือมันไว้
“ไปไหน”ผมถามมันที่ตั้งท่าจะเดินหนี
“ไปว่าว ไปไหม”มันบอกค้อนประหลับประเหลือก ผมหัวเราะกับความหน้าด้านของเมีย
“สัด พูดมาได้”ผมว่ามันอย่างกลั้นหัวเราะ มันก็อมยิ้มใส่อายๆ”อายเชี่ยะไร พูดเองอายเอง”ผมดึงมันมากอดก่อนจะพลิกใส่ที่นอนจ้องหน้ากัน”ยั่วเก่งจังวะ หืม”ผมถามก่อนจะเริ่มไซ้มัน มันก็เบียดเข้าหา มือดึงเสื้อผมออก ผมก็ถอดแค่ช่วงล่างมันเท่านั้น
“ก็ยั่วแค่พี่นั่นแหละ ไม่ชอบเหรอ อ๊ะ”มันบอกยิ้มๆ แลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนจะร้องเมื่อโดนเม้มซอกคอ มือก็สอดเข้าไปในกางเกงนอนจับลำไผ่ผมที่อยากจะออกมาข้างนอกเต็มทน กะว่าคืนนี้ไม่ได้ก็จะทำอย่างมันเหมือนกัน หึหึ เสี้ยนพอกัน
“ชอบสิ แค่น้องเท่านั้นแหละที่พี่ชอบ รู้ไว้ซะ”ผมกระซิบบอกมันกลับไป คงจะถูกใจมือก็ขยับขึ้นลง บีบ เน้นโดยเฉพาะส่วนปลาย ก่อนจะพลิกตัวขึ้นไปบนตัวผมเลื้อยตัวลงไปยังเป้าหมายมันมองก่อนจะขึ้นคร่อมหันหน้าออกไปทางปลายเท้าผม ล่นกางเกงออกไป ปากนุ่มก็ครอบลงช้าๆขึ้นลงสองสามครั้งก่อนจะเพิ่มจังหวะมากขึ้น ลิ้นก็วนส่วนปลายส่งผลให้ผมต้องเชิดหน้า มือผมก็ขย้ำก้นที่ลอยเด่นตรงหน้าเป็นการตอบแทน ก่อนจะโน้มตัวส่งลิ้นเข้าไปไล้วนรอบทางเข้า ดุนดันให้เปิดรับ เจ้าของริมฝีปากที่ยังขยับให้ผมก็สะดุ้งส่ายสะโพกตอบรับ คิดเอานะครับว่าเราอยู่ท่าอะไรกัน ต่างปรนเปรอให้กันจนใกล้ขีดสุด ผมก็จับคนตัวขาวโพลนท่ามกลางความมืดขึ้นมานั่งตัก มือก็ขยับหนอนมันไปด้วย ปากก็ประกบจูบ ก่อนจะหันหน้ามาหาดันผมให้ไปพิงหัวเตียง หยิบซองมาฉีกครอบลำผมเสร็จก็ยกตัวเองขึ้นมาหาพร้อมกับหย่อนตัวลงไปผมก็ช่วยสอดรับทำให้หน้าที่หลับตาพริ้มปล่อยเสียงออกมา
“อา อื๊อ พี่ไผ่ พี่ไผ่”เสียงครางเสียงเรียกชื่อผมสลับกันไปพร้อมกับจังหวะที่ขยับโยกใส่ ผมก็สอดรับทุกการกระทำ
“ฝิ่น อา อา”ผมอดไม่ไหวก็ต้องปล่อยมาเหมือนกัน มือก็ขยับให้เจ้าตัวไปด้วย ก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกตัวมันลงมา ถอยออกก่อนจะเน้นๆใส่ทำเอาเจ้าตัวจิกปลอกหมอนขาแยกกว้างเพื่อรองรับการกระแทกที่สอดใส่ทั้งช้าเร็ว บิดวนสลับกันไป แต่ใช่ว่าจะนอนรับฝ่ายเดียวสะโพกยกลอยเป็นการตอบรับที่ช่วยให้รับอย่างเน้น ๆ
“อา อา พี่ไผ่ อื๊อ อ๊ะ อ๊ะ”เสียงที่ปล่อยออกมาจับเป็นคำพูดแทบไม่ถูก แต่ผมก็รู้ได้ก่อนจะโหมใส่เป็นการส่งท้าย มือกระชับสะโพกให้แน่นไม่ให้ร่วงลงไป ก่อนจะสิ้นสุดลงเมื่อต่างคนต่างกระตุกใส่กัน ตามด้วยปากที่ลงไปประกบก่อนจะ คล่อยๆปล่อยตัวลงตามที่นอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงไปมาสักพักก่อนผมจะอุ้มมันเข้าไปอาบน้ำอีกครั้ง
“อาทิตย์หน้าไปพัทยากัน”ผมบอกคนที่นอนข้างๆ ขาก่ายมือก็กอดอย่างที่เคยทำ
“พี่ไปทำงานไม่ใช่เหรอ”มันก็ถามอย่างสงสัย
“ก็ไปเที่ยวด้วย ไม่ไป”ผมบอกก่อนจะเลิกคิ้วใส่
“ไปสิ แค่ถามเป็นมารยาทแค่นั้นแหละ คริคริ”มันบอกล้อๆ ผมเลยตบก้นมันซะ”ชวนพวกพี่ๆไปด้วยไหม”มันถามถึงไอ้พวกนั้น อีกข้อที่มันไม่เคยละเลย ไม่ว่าจะไปไหน กินอะไรมันจะนึกถึงเพื่อนผมประจำนอกจากเพื่อนมันแล้ว ไม่เคยงี่เง่า อิดออดอยากไปแค่สองคน มันบอกว่ายังไงทุกวันนี้ก็ได้อยู่สองคนกับผมเกือบตลอดแล้ว ถึงมีเพื่อนไปก็ได้อยู่สองคนอยู่ดี
“แต่ใจจริงว่าจะไปแค่สองคนนะ”ผมบอกก่อนจะพูดยิ้มๆ มันเงยหน้า
“จริงเหรอ แต่ถ้าพวกแกรู้ไม่โกรธเหรอ”มันถามก่อนจะทำหน้ากังวลเหมือนผมพูดจริงๆ ผมบีบจมูกมัน
“ก็ช่างมัน”ผมบอกเฉยๆแต่อมยิ้ม
“บ้าสิ ชวนเถอะ”มันบอกอีก ผมขยี้หัวมัน
“พรุ่งนี้ค่อยชวน”ผมเลยเลิกแกล้งก่อนจะมองตามัน”ส่วนเราเอาไว้ก่อนเปิดเทอม สักอาทิตย์ ค่อยไปกันสองคนนะ”ผมพูดต่อไปอีก มันยิ้มก่อนจะกอดผมจุ๊บไปทั่วหน้า
“จริงนะ ต้องพาน้องไปนะ ไปฮันนีมูนกัน สัญญาแล้วห้ามเบี้ยว ไม่งั้นน้องจะไม่ให้นอนด้วย”มันรีบพูดอย่างรวบรัดข่มขู่ด้วย
“กูกลัวตายล่ะ ใครกันแน่จะลงแดง หืม ไอ้หนอน”ผมยักคิ้วพูดล้อมัน
“เออ งั้นเริ่มพรุ่งนี้เลย ห้ามมาแตะกู”มันก็ลอยหน้าพูดกลับมาบ้าง
“แล้วไป”ผมทำท่าโล่งอก มันชักสีหน้า
“นี่มึงเบื่อกูใช่ไหม ถึงได้ไม่ท้วง”อ้าว อีกแล้วกูไม่ล่อมึงก็เป็นเรื่อง
“อะไร มึงเริ่มเองนะ”ผมก็ยังทำหน้ากวนตีนมันอยู่ มันลุกขึ้นนั่งเอามือทุบ
“แต่มึงก็ควรจะแย้งสิ ไม่ใช่โล่งอกเหมือนไม่เสียดาย กูนอยด์นะโว้ย ทั้งที่กูออกจะเซ็กซี่ ลีลาก็ดี แต่นี่มึง แม่ง”มันโวยแถมยอตัวเองเป็นชุด ทำเอาผมปล่อยก๊ากเลย
“ถุย พูดมาได้ไม่มีอาย พูดเองก็มาโกรธ”ผมว่ามันยิ้มๆ มันเหนื่อยก็เลยลงไปนอน”ที่กูโล่งเพราะมึงห้ามแค่ไม่ให้แตะ แต่ปี้มึงไม่ได้ห้ามกูเลยโล่งใจไง เข้าใจยัง หืม ไอ้หนอน”ผมกระซิบบอกมันเป่าลมใส่หูจนมันหัวเราะคิกคัก
“สัด หลอกกูนะมึง งั้นกู พะ”มันว่าก่อนจะพูดอีกแต่ไม่ทันครับ ผมรีบชิงปิดซะก่อน ไม่งั้นจะอดจริงๆ ผมจะไปกอดใครได้ทั้งที่มีคนน่ากอดอยู่ใกล้ขนาดนี้แล้ว หึหึ
**********************************************************************************
ปล.สุดท้ายมันก็อีหรอบเดิม เคลียร์แบบหื่นๆไปซะ 55555555 ยังคะยังเคลียร์ไม่หมดเดี๋ยวตอนหน้าเราไปพัทยากัน หุหุ
พรุ่งนี้ลงให้นะจ๊ะ เหลืออีก 50% จะลงก่อนเดี๋ยวค้าง ขอเคลียร์งานก่อนนะ รอด้วยยยยย