มาต่อแล้วน้า
*******************
เป็นช่วงเปิดเทอมนะครับ เอาเป็นว่าเป็นช่วงแทรก หลังเหตุการณ์ที่ไปกินข้าวกันที่บางขุนเทียนนะครับ (เข้าใจไหมครับ)
ผมรู้ว่า เทอมนี้ต้องเรียนคอมฯ ก็ดีใจนะครับ เพราะผมก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แล้วคิดว่าอยากได้คอมฯมาใช้ด้วย พอเข้าไปนั่งเรียน ผมก็งงว่าทำไมมีแต่รุ่นพี่อยู่ในห้อง ก็พอได้ข้อสรุปว่า รุ่นพี่แผนกคอมฯ จะมาสอนให้ ก็เลยเฉยๆ เพราะไงก็เด็กแผนกคอมฯ มาสอนคอมฯพื้นฐาน แค่นี้คงเข้าใจ
ผมก็นั่งจับคู่เรียนกับไอ้ไผ่มันล่ะครับ รุ่นพี่ในห้องนี้ก็มีกัน 5 คน คุมเป็นโซนๆ ไป สัปดาห์นึงเรียนแค่ครั้งเดียว
นั่งคุยไป ฟังรุ่นพี่ไป ไอ้ผมน่ะ ไม่ชอบนั่งหน้าเท่าไร ไม่ใช่เด็กเรียน ก็นั่งคุยกับไอ้ไผ่ไปเรื่อยๆ มารู้สึกอีกที ก็มีคนมานั่งข้างผมแล้ว ผมก็หันกันมองไป หน้ามันคุ้นๆ นะ ใครว่ะ? ไอ้ฝ่ายนั้นก็ยิ้มให้ครับ ผมก็มองหน้าไอ้ไผ่มัน
“จำพี่ไม่ได้กันเหรอครับ”
“เออ..อ้อ พี่ที่อยู่ห้องเน็ตฯ” ไอ้ไผ่มันพูดขึ้น ผมก็เออๆ ออๆ ตามครับ
“ไม่คิดว่าจะได้มาคุมห้องน้องนะเนี่ย” ผมกับไผ่ก็พยักหน้า
“พี่ติ๊กครับ” พี่เขาก็บอกชื่ออีกครั้ง
“ครับ” ผมก็พยักหน้าตอบอีกครั้ง
“พี่คิดว่า ตอนนั้นน้องจะโทรมาคุยกับพี่” เออ.. ผมก็งงก่อนครับ คุยเรื่องไร พอลำดับเหตุการณ์ได้ก็..
“โทษครับพี่ คือผมทำเบอร์โทรพี่หาย” ผมก็พูดแบบไม่ให้เสียน้ำใจ ใครจะบอกล่ะ ว่าโดนไอ้หน้าเก็กมันฉีกทิ้ง
“งั้นเมมมือพี่ไว้สิครับ เผื่อมีปัญหาอะไร ก็ถามพี่ได้” แล้วไอ้พี่ติ๊กมันก็หยิบปากกาจากกระเป๋าเสื้อมาเขียนลงบนสมุดจดงานผม
“อย่าลืมนะครับ พี่คิดว่าน้องคงติดต่อพี่มา ถ้ามีปัญหาอะไร....” มันพูดก็เว้นช่วงไป แล้วพูดต่อ “เกี่ยวกับคอมฯ” ผมกับไผ่ก็ได้แต่พยักหน้า แล้วพี่ก็ลุกขึ้นเดินไปข้างหน้า ผมกับไผ่ก็มองกันงงๆ
“เนท .. เราว่า ไอ้พี่ติ๊กคนนี้มันแปลกๆ นะ”
“ก็ว่างั้นว่ะ”
“เหมือนมันจะจีบแกเลยว่ะ” พูดมาได้ไงว่ะไผ่
“เอ้ย... มันจีบแกมากกว่าว่ะ” ผมก็ย้อนไอ้ไผ่มัน
“ไม่มีทาง” ไอ้ไผ่ปฏิเสธเสียงแข็งเลยครับ
“แต่เขาแปลกๆ ว่ะ” ผมก็ไม่คิดไรมาก คิดว่าพี่เขาคงจะมาจีบไผ่ แต่มันไม่ใช่นี่สิครับ
ผมนอนเล่น นั่งเล่นอยู่ที่ห้อง รอไอ้หน้าเก็กกลับมา เพราะมันออกไปซื้อของกิน
“ติ๊ด ติ๊ด” เสียงโทรศัพท์ครับ (จำไม่ได้ว่าตอนนั้นใช้แบบไหน)
“ครับ” ผมรับครับ แต่เบอร์มันแปลกไม่เคยเห็น
“พี่ติ๊กเองครับ” ผมนิ่ง
“เออ..อ้อ..ครับ” รับคำไปก่อน
“พี่มีอะไรหรือเปล่าฮะ”
“ไม่มีโทรมาไม่ได้เหรอครับ”
“เออ...” ตอนนั้นก็งงครับ คิดไม่ออก ไรว่ะ
“พี่ว่าจะชวนน้องเนทไปพันธ์ทิพย์” คิดในใจว่า มาชวนทำไมล่ะ
“ไปพันธ์ทิพย์?” ยังงงครับ
“ก็ตอนนั้น น้องบอกว่าอยากซื้อคอมฯ หรือว่าซื้อมาแล้วครับ” พอลำดับเหตุการณ์ได้ โอ้โห มันยังจำได้เหรอนี่ เคยคุยกันก็ตั้งกะเทอมก่อน แต่ตอนนั้นผมก็อยากได้จริงๆ ครับ เคยบอกแม่ว่าจะซื้อแกก็ให้เงินมาแล้ว ไปซื้อก็ได้ว่ะ ไม่งั้นคงเอาเงินไปใช้อย่างอื่นแน่ ^^’’’’
“ยังฮะ...ไปวันไหนล่ะฮะ” ผมก็ถามกลับไป มันต้องถามให้แน่ใจ จะได้บอกไอ้หน้าเก็กถูก
“พรุ่งนี้ไหม วันอาทิตย์คงว่างนะ” ผมก็คิดในใจ พรุ่งนี้ไอ้มีนมันไปทำงานบ้านพี่เอ๋ ผมก็ขี้เกียจจะตามมันไป พรุ่งนี้ก็ได้ฟร่ะ
“ฮะ..” ผมรับคำ เป็นคนใจง่ายอะไรอย่างนี้ ใครชวนก็ไป ^^’’’’’
“งั้นน้องเนท มารอพี่ที่หน้า ม. นะครับ”
พอวางสายจากไอ้พี่ติ๊ก สักพักไอ้หน้าเก็กก็กลับเข้ามาในห้อง นั่งกินนั่งเล่นสักพัก มันก็ขอไปก๊งเหล้ากับเพื่อนที่ห้องมัน ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ ไปเถอะ! ขอกูพักมั่ง อยู่กับมันแล้วเหนื่อยเจรงงงง...
แต่อย่าหวังว่ามันจะหายไปทั้งคืนนะครับ มันก็ยังกลับมานอนที่ห้องผม เมาอย่างกะอะไรดี ผมทั้งไล่ทั้งผลัก(ไส)ให้ไปอาบน้ำ พอมันอาบน้ำเสร็จ แม่ง...ก็ทิ้งตัวลงนอนทั้งอย่างนั้น เออ...ขี้เกียจจะด่ามันแล้วครับ ช่างมันเถอะ
พอตื่นเช้ามา มันก็เรียกจะให้ผมไปบ้านพี่เอ๋ให้ได้ เพราะมันจะไปทำงานที่บ้านพี่เขา ผมบอกว่าไม่ไปจะไปซื้อคอมฯ มันก็งอนหน่อยๆ ล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก (แล้วทำไมผมต้องกลัวมันว่าด้วยล่ะ)
ผมมายืนรอพี่ติ๊กอยู่ตรงหน้ามหาวิทยาลัย สักพักพี่เขาก็เดินเข้ามาหา แกบอกว่าจอดรถอยู่ตรงหน้าตึกอำนวยการ ดูท่าทางพี่ติ๊กจะอารมณ์ดีมาก ผมก็เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แล้วผมก็นั่งรถพี่เขาไปพันธ์ทิพย์ ผมก็เดินดูๆ ของไปเรื่อยๆ บอกพี่เขาว่าขอเดินดูก่อน เหมือนวันนั้นจะโชคดีเพราะมีการตั้งบูธคอมฯ ตรงกลางห้าง ผมเดินเข้าไปอยู่บูธนึง เห็นแล้วถูกใจมาก มันเล็ก กะทัดรัด แต่... ราคาไม่เลยครับ โอ๊ววววว.... เกือบสี่หมื่น!! เหงื่อตกเลยครับ ผมก็เดินออกมาดูอีกบูธ ในใจผมตีราคาไว้ประมาณสามหมื่น ถ้าได้ก็จะดีมาก แล้วมันก็เจอจริงๆ ครับ พี่ติ๊กก็มาช่วยเลือกด้วย คิดถูกครับ ที่พาเด็กสายคอมฯ มาช่วยเลือกด้วย วันนั้นผมได้โน๊ตบุ๊คมา 1 เครื่อง และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ควบคู่ไปด้วย วันนั้นผมต้องโทรไปให้แม่โอนเงินมาเพิ่มครับ เฮ้อ... ทุ่มหมดตัว __ ______
จากนั้นผมก็ไปแวะกินข้าวกับพี่ติ๊กที่สยามเซ็นเตอร์ ผมบอกพี่ติ๊กว่าจะเลี้ยงข้าว ขอบคุณที่เขาพามาซื้อคอมฯ เราก็ไปนั่งกินที่ร้านฟูจิ ในสยามเซ็นเตอร์ เอ้อ.... คนเยอะจริงๆ คงผมมาสองคนมั้งครับ เลยได้เร็ว แต่โต๊ะมันเล็กไปไหมเนี๊ย! ผมกับพี่ติ๊กสั่งกินกันคนละอย่างสองอย่าง พี่ติ๊กคงเกรงใจผม เพราะผมบอกว่าจะเลี้ยง แกก็เลยสั่งกินไม่ค่อยแพง
“พี่สั่งเถอะครับ อยากกินอะไรก็สั่งฮะ”
“พี่เกรงใจน้องครับ หมดตังค์ไปหลายแล้ว ยังมาเลี้ยงพี่อีก”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณที่พี่ช่วยเรื่องโน๊ตบุ๊ค”
“งั้นน้องเนทสั่งให้พี่นะครับ พี่ทานได้หมด” พี่ติ๊กพูดไปยิ้มไปครับ
“งั้นสั่งที่กินกันสองคนได้นะครับ” ผมก็เลยลงมือสั่งอาหารที่สามารถกินกันสองคนได้ ไอ้ผมมันไม่คิดไรหรอกครับ แต่ฝ่ายตรงข้าม ผมไม่รู้
นั่งกินกันไปได้สักพักพี่ติ๊กก็ขึ้นบทสนทนาขึ้นมา
“น้องเนทไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับคอมฯ ก็โทรมาถามพี่ได้นะครับ” พี่ติ๊กแกวางตะเกียบลง แล้วเงยหน้าขึ้นพูด
“ฮะ..... ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ผมจะโทรหาครับ” ผมก็ตอบไปผ่านๆ ล่ะครับ
“แต่เวลาอื่นก็คุยกันได้นะครับ” พี่ติ๊กมองหน้าผมนิ่งๆ
“เออ.....” งงครับ แต่มือผมยังคงหยิบคีบข้าวปั้นขึ้นมา
“พี่บอกตรงๆ นะครับ พี่อยากเป็นเพื่อนกับเนท” รู้สึกถึงสายตาประหลาดของพี่ติ๊กขึ้นมาแล้ว
“ฮะ.... ก็เป็นอยู่นี่ไง” ผมก็ตอบผ่านๆ ไปอีกครั้ง
“ แล้วถ้าพี่ขอมากกว่านั้นล่ะครับ” มือผมที่กำลังคีบข้าวปั้นชะงักทันที วางตะเกียบลงและหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม
แล้วต่างฝ่ายต่างเงียบไปสักพัก
“ขออะไรครับ” ผมถามกลับเพราะพี่ติ๊กแกมองหน้าผมสายตาประมาณคนขอความรักอะครับ ผมยิ่งทำอะไรไม่ถูก สองมือก็ลูบๆ กับกางเกงตัวเอง
“พิจารณาพี่อีกคนได้ไหมครับ” พูดจบ พี่ติ๊กยกมือผมขึ้นมา ตกใจครับ! ผมรีบชักมือกลับทันที หันไปมองโต๊ะข้างๆ
“คือ ผมยังไม่คิดเรื่องนี้ ผม...” พยายามปฏิเสธดีๆครับ
“น้องเนทมีแฟนแล้วใช่ไหมครับ แผนกช่างคนนั้น” น้ำเสียงพี่ติ๊กประมาณตัดพ้อ แล้วเหมือนเร่งจะเอาคำตอบให้ได้
“คือ.... เค้าเป็นเพื่อนผมครับ” ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าพูดยากมาก มันทั้งอายทั้งกระดากปากมาก
“พี่เข้าใจ พี่เห็น น้องเนทบอกพี่มาตรงๆ เถอะครับ”
“ฮะ พี่มีนเป็นแฟนผม” ผมบอกพี่ติ๊กไปตรงๆ ไม่อยากให้พี่เขามาหวังอะไรกับผม สายตาพี่ติ๊กดูผิดหวังมาก
“ครับ แต่พี่ขอเป็นเพื่อนกับน้องเนทนะครับ มีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาพี่ได้”
“ฮะ ผมว่า เรารีบกินดีกว่า มันเย็นแล้ว ผมอยากกลับห้อง” พูดจบผมกับพี่ติ๊กก็จัดการกับอาหารตรงนั้น
กว่าจะกลับถึงห้องก็มืดแล้ว..........
(เดี๋ยวมาต่อครับ) ^^