Chapter 18 - อยากจนกว่าจะพอ
ประสาทสัมผัสทั่วทั้งร่างของผมกำลังถูกปั่นป่วน แข้งขาของอ่อนแรงจนต้องทิ้งน้ำหนักไปที่คนตัวโตที่โอบรั้งไว้อย่างรู้งาน รู้สึกถึงเพียงสัมผัสเน้นย้ำตรงริมฝีปากก่อนจะถอนออกไปอย่างนิ่มนวล
อย่าทีี่ผมนึกเสียดาย...
โคตรใจง่ายจริงๆ
สายตาที่จ้องมองมาอย่างเปิดเผยทำให้ใบหน้าของผมร้อนไปทั่ว และสูญเสียการควบคุมเมื่อสบกับดวงตาคู่คมที่อยู่ใกล้ชิดตรงหน้า
ความคิดในสมองของผมปั่นป่วน ลังเลกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แปลกที่หัวใจผมกลับเต้นรัวอย่างไม่อาจจะควบคุม และเรียกร้องที่จะทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะทำ...
“พี่กำลังทำให้ผมเป็นบ้า...”
เสียงของผมกระซิบแหบพร่าราวกับไม่ใช่เสียงของตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับยกยิ้ม
“พอร์ทต่างหากที่ทำให้พี่บ้ามานานแล้ว...”
จมูกโด่งเข้ามาคลอเคลียกับปลายจมูกของผมจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อน และดวงตาวาววับที่สะกดให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง คำพูดที่ทำให้ผมแทบลืมหายใจ
“พี่บ้าเพราะหลงเรา”
“อย่ามามั่ว เราเพิ่งเจอกันพี่จะมาหลงผมได้ยังไง”
ผมว่าต้องเป็นเพราะแอลกอฮอล์แน่ๆที่ทำให้ผมกล้าพูดประโยคบ้าๆออกไป บอกเลยว่ามันโคตรไม่เหมือนผมในยามปกติเลย แต่...
ผมชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ว่ะ
“พี่รู้จักพอร์ทมานานกว่าที่คิด”
"จะนานแค่ไหนกัน”
“นานพอที่จะทำให้พี่หลงพอร์ทจนโงหัวไม่ขึ้นไง”
สิ้นคำ ใบหน้าของพี่ขุนก็ขยับเข้ามาอีกครั้งก่อนประทับริมฝีปากบางเข้ามาแนบชิด และแนบแน่นกว่าครั้งแรกจนผมเผลอยึดไหล่กว้างไว้แน่นเพื่อพยุงกายทำให้ร่างของเราแนบชิดจนรู้สึกถึงอุณหภูมิของอีกฝ่าย
หัวใจผมเต้นแทบจะระเบิดเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่ราวกับบอกเล่าทุกความรู้สึกของเขาที่ผมเคยสงสัยให้ได้รับรู้ และเรียกร้องเว้าวอนให้ผมเปิดเผยตัวเองจนผมไม่อาจต้านทานความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป
นิ้วของผมจิกที่บ่ากว้างแน่นเมื่อยอมโอนอ่อนเผยอริมฝีปากรับความอบอุ่นลึกซึ้งที่แทรกซึมเข้ามา ผมโยนความถูกต้องเหมาะสมทิ้งไปและตอบรับมันอย่างเป็นธรรมชาติ ตามที่ร่างกายและหัวใจเรียกร้อง ขยับริมฝีปากบดเบียด และไล่ตามความอุ่นชื้นที่สะกิดเว้าวอน
พระเจ้า...นี่ผมกำลังทไอะไรวะ
ผมกำลังจูบดูดดื่มอยู่กับผู้ชายอยู่ริมหาด!!
แต่...
ช่างหัวพระเจ้าก่อนเถอะ
เพราะตอนนี้...
ผมไม่อยากหยุดจริงๆ
***
ลมทะเลพัดปะทะใบหน้าหอบเอากลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์เข้ามาเต็มปอด ผมมองไปยังผืนน้ำสีดำสนิทที่ไร้ขอบเขต ปล่อยสมองให้ปราศจากความคิดใดใด เหลือแต่เพียงความรู้สึกถึงฝ่ามืออบอุ่นที่กอบกุมมือของผมแน่น ขณะที่ท่อนแขนแนบสนิทเมื่อนั่งเคียงกันโดยไร้คำพูด
ผมนึกไม่ออกว่ามานั่งอยู่บนผืนทรายแบบนี้ได้ยังไง หรือโดนกอบกุมมือตอนไหน รู้เพียงแต่ว่ามันอบอุ่น และ...ผมโคตรชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกจั๊กจี้ตรงหัวใจแบบไม่มีเหตุผล ไม่สิ ผมว่าผมพอจะรู้เหตุผลนะ
มันต้องเกี่ยวกับคนข้างๆตัวผมอยู่แล้ว
จริงสิ....
ก่อนที่เขาจะจูบผม...เอ่อ...โอเค ก่อนที่เราจะจูบกัน ผมคิดว่าได้ยินเรื่องอะไรแปลกๆที่ควรจะได้ข้อกระจ่าง แต่ไม่ทันจะได้เอ่ยถาม คนข้างตัวผมขยับท่าทางตวัดมือที่เกาะกุมกันมาไว้ด้านหน้าผมและขยับกายไปนั่งโอบกอดจากด้านหลังแทน
“ทำอะไร”
“ก็ลมมันเย็น”
“แล้ว?"
“แบบนี้มันอุ่นกว่า”
เสียงทุ้มคลอเคลียอยู่ข้างใบหูอย่าน่าหมั่นไส้ ทำให้ผมถองหน้าท้องแข็งๆไปซักที
“อย่ามาเนียน เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง”
“พี่ว่ารู้แล้วนะ”
พี่ขุนยิ้มกริ่มตาหยีคล้ายคนสุขใจจนเรียกให้ใบหน้าคมดูละมุนน่ามองจนผมเผลอหยุดจ้องพร้อมกับแรงกระตุกในหัวใจ
ฟัค...โคตรหล่อ
“ยะ...ยังไม่รู้ซักหน่อย”
“อยากรู้อะไรละ?”
“สะ...สามปีที่พูดคืออะไร พี่รู้จักผมมาก่อนเหรอ”
“...”
คนตัวโตที่แปลงร่างเป็นแมวตัวเขื่องหยุดคลอเคลียทันที พี่ขุนดูราวกับภาพเคลื่อนไหวที่หยุดชะงัก ดวงตาคู่คมเหม่อมองไปยังท้องน้ำหลายวินาทีจนผมชักระแวงว่ามันเป็นคำถามที่ไม่สมควรถามรึเปล่า แต่ไม่นานเขาก็หันกลับมา เรียกให้ผมต้องเงยหน้ามองตอบก่อนหัวใจจะกระตุกแรงอีกครั้งเมื่อความรู้สึกบางอย่างมันเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่นั้นจนหมด
“มันอาจจะดูงี่เง่านะ”
“....”
“แต่พอร์ทจะเชื่อมั้ย...”
“....”
“พี่หลงรักผู้ชายคนหนึ่งมานานสามปีเพราะรูปถ่ายใบเดียว”
“...”
“รูปถ่ายเล็กๆในงานแสดงภาพของเชน สหลักษณ์รูปถ่ายของลูกชายของเขาที่ทำให้พี่มายืนอยู่ตรงจุดนี้ เพื่อรอวันที่จะได้เป็นคนที่ถ่ายภาพเขาด้วยตัวเอง...”
พระเจ้า...
ผมกลั้นหายใจ รู้สึกปั่นป่วนในอกกับทั้งน้ำเสียง สายตา และเนื้อหาที่ได้ยิน
“รูปถ่ายใบนั้นอยู่ในใจของพี่ตลอดสามปี”
“และตอนนี้...เขาก็อยู่ตรงหน้าพี่”
พระเจ้า...
ผมว่า...
ผมกำลังเมาอีกรอบแล้ว
“พี่รู้ว่าผมคือ P' ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ตั้งแต่ครั้งแรก ทุกครั้ง ทุกรูป จนถึงตอนนี้”
ผมแทบลืมหายใจ คำพูดทุกคำแทรกซึมเข้าไป พี่ขุนกำลังหมายถึงรูปใบแรกที่พ่อถ่ายผม และเขาก็รู้ด้วยว่านั่นคือภาพของผม ไม่ใช่พาตี้อย่างที่คนทั้งประเทศเข้าใจ
พี่ขุนเคยพูดว่าเขา ‘หลงใหล P’ และเขาก็รู้มาตลอดว่า P’ คือผม
เขา...กำลังจะบอกว่า ตกหลุมรักผมมาสามปี?
โอ้ย.....
“ทำอะไรนะ?”
ผมไม่สนใจเสียงทุ้มแกมขบขันเหมือนรู้ทันและได้แต่ยกมือปิดหน้าตัวเองที่ร้อนฉ่าราวกับถูกไฟผิง
ให้ตายเถอะ ผมไม่เคยนึกไม่เคยฝันว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิต
มันบ้า บ้ามากๆ!! และมันบ้าสุดๆก็เพราะว่าผมไม่รู้สึกรังเกียจ แต่กลับดีใจนี่แหละ!!
“พี่พูดไปหมดแล้ว แล้วเราละ”
นั่นไง กะแล้วว่าต้องโดนถาม
“อะไรละ”
ผมบอกปัดทำไม่รู้ไม่ชี้ทั้งๆที่รู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร แต่ผมไม่พร้อมที่จะพูดอะไรนี่นา
“พี่บอกความรู้สึกของพี่แล้ว แล้วพอร์ทละ”
ผมนิ่งไปและเม้มปากแน่นขณะสบดวงตาคมจริงจังและเว้าวอนที่ต้องการบอกว่าเขากำลังเฝ้ารอและลุ้นให้คำบางคำออกจากปากผม แม้ผมจะเคลิบเคลิ้มยินยอมกับรสจูบแนบแน่น และยอมรับว่าดีใจที่รู้ว่าเขา เอ่อ...ชอบผม...ผมที่เป็นผมมาสามปี ทั้งๆที่ไม่มีใครรู้เลยว่าภาพ P’ นั้นไม่ใช่พาตี้ แต่เป็นผม ลูกชายที่ไม่มีตัวตนของเชน สหลักษณ์ แต่มันก็ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ซับซ้อนมากกว่าที่จะลงเอยง่ายๆแค่ความดีใจ
“ผมเป็นผู้ชาย”
คำพูดลอยๆของผมแต่ทำให้รู้สึกถึงแรงเกร็งจากอ้อมแขนที่โอบกอดผมไว้ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปไม่ได้ทำให้ผมและเขารู้สึกดี แต่มันก็คือความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้
ถึงที่ฝรั่งเศสจะเปิดกว้าง...แต่ไม่ใช่ที่นี่
“ผมไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะ...รักกันไม่ได้”
“....”
“ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ถึงรูปร่างหน้าตาผมอาจจะไม่ได้บึกบึนเหมือนผู้ชายคนอื่นก็เถอะ”
เกิดความเงียบที่หนักอึ้งระหว่างเรา ใบหน้าของพี่ขุนดูราวกับซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัดแม้ในความมืด แต่ผมไม่ได้เสียใจที่พูดออกไป แม้ว่าแขนแกร่งจะเริ่มดูผ่อนแรงกอดลงคล้ายอ่อนแรง เพราะว่านั่นคือความจริง
ความจริงส่วนหนึ่งของทั้งหมด...
ดวงตาคู่คมที่จ้องผมอย่างเว้าวอนดูอ่อนล้าลง วงแขนกำลังคลายออกจากการมอบความอบอุ่นให้กับผม
“แต่มันก็แปลก”
“....”
“เมื่อตอนเช้า พี่บอกให้ผมนึกถึงคนที่ทำให้หัวใจผมเต้น...บอกตรงๆว่าผมนึกไม่ออกหรอก เพราะผมไม่เคยหลงใหลใคร”
“....”
“แต่ผมก็ทำให้พี่กดชัตเตอร์ได้”
หัวใจของผมเต้นรัวขึ้นเพราะความขัดเขินแต่ผมก็ยังคงจ้องไปที่ดวงตาคู่นั้นอย่างแน่วแน่ แม้จะเห็นว่ามันเริ่มสั่นระริกให้รู้ว่าหัวใจคนตรงหน้ากำลังสั่นไหวไม่ต่างกัน
“พี่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าผมเป็นใคร?”
“....”
“ใครที่ทำให้หัวใจผมเต้นผิดปกติ?”
ผมค่อยๆเอื้อมมือไปตรงหน้า และสัมผัสแผ่วเบาที่หางตาที่กำลังสั่นระริกคู่นั้น
“ผมเป็นผู้ชาย”
มือเล็กของผมค่อยสัมผัสแนบลงใบบนผิวแก้มสากที่เย็นเฉียบอย่างไม่สนว่าอีกฝ่ายกำลังคิดยังไง เพราะผมสนแค่สิ่งที่ตัวเองจะพูดเท่านั้น
“มันโคตรแปลกและโคตรจะไม่มีเหตุผล...”
ใบหน้าคมเข้มราวกับใกล้เข้ามา...
เปล่าครับ เขาไม่ได้เข้ามาหาผม แต่เป็นผมต่างหากที่กำลังเอี้ยวตัวและยื่นใบหน้าเขาไปหาพี่ขุนที่กำลังนั่งนิ่งอย่างตื่นตะลึง
“คอนเซ็ปคือความหลงใหลของนางแบบ...แต่ตอนนั้นผมเห็นแต่หน้าพี่ว่ะ”
“...”
“มันหมายความว่ายังไงเหรอ”
ปราศจากคำตอบจากพี่ขุนไม่ใช่ว่าเขาไม่ตอบ แต่ปากของเขาไม่ว่างตอบต่างหาก
จะว่างได้ยังไงละครับ?
ในเมื่อผมกำลังประกบปิดกั้นมันทุกช่องทาง...
ประกบ บดเบียด และแทรกซึมเข้าไปหาความอุ่น ส่งผ่านความรู้สึกของผมให้เขาได้รับรู้บ้าง
แม้มันโคตรจะไม่มีเหตุผล แต่...ช่างหัวเหตุผลก่อนเถอะ
เพราะผมโคตรอยากจูบเขาเลย
จูบ...จนกว่าผมจะหายอยากนั่นละ
-------------