ตอนที่ 3
ขอร้อง “มองทำเหี้ยไร จะไปไหนก็ไปดิ!”
จู่ๆมันที่ผมกำลังจ้องก็เงยหน้าขึ้นมาว้ากใส่ ผมมองมันด้วยสายตาขบขัน ก็แม่งเหมือนเด็กๆกำลังเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆหลังจากที่ร้องไห้เสร็จอ่ะ
“มีอะไรให้ขำนักหนาวะ”
“โอ๊ะ เปล๊า” ผมรีบปฏิเสธ เพราะถ้ามันร้องไห้หนักกว่าเดิมเพราะผมล่ะก็ . . ผมต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ
ไม่ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ไม่ชอบทำให้คนอื่นร้องไห้ ผมมันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร . . แต่ไอ้ข้อแรกผมคงห้ามไอ้ธามไม่ได้ มันไม่ชอบขี้หน้าผม และเช่นกัน ผมก็ไม่ได้ชอบหน้ามันเท่าไหร่นักหรอก ก็แค่มาช่วยเห็นว่ากำลังลำบาก เป็นคนอื่นผมก็ช่วยเหมือนกันนั่นแหละ
“ดีขึ้นยัง” ผมถามมัน ยื่นผ้าเช็ดหน้าของผมที่ไม่ค่อยได้ใช้ให้มัน
“มาลองเป็นกูดูสิ” คว้าหมับแล้วเอาไปเช็ดหน้า ไม่ได้มีความเกรงใจเล้ย หนำซ้ำยังสวนกลับมาทันควันอีกน่ะ
“เอาน่า เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป”
“ไม่ได้” เอ๋า ผมมองหน้ามันอย่างงงๆ “กูโกหกโอ๊ตไปแล้ว กูต้องสานต่อให้จบ”
“หวะ ว่าไงนะ”
“มึงซวยเองที่มาแถวนี้ เป็นทางเดียวที่จะทำให้โอ๊ตเลิกยุ่งกับกู” ธามจิ๊ปากที่เห็นผมทำหน้าเอ๋อ “ทำไม เป็นแฟนกูมันแย่มากนักรึไง”
“ใช่”
“ไอ้เหี้ย!”
“ก็แย่น่ะสิ ปากกล้าขนาดนี้ เป็นแฟนด้วยคงต้องถูกด่าเช้าด่าเย็น”
“เป็นแฟนกูจริงๆคงไม่โดนแบบนี้หรอกน่ะ” ไอ้ธามเถียงเสียงอูอี้ “แต่นี่มันเป็นแฟนปลอมๆ ต่อหน้าโอ๊ตมึงต้องแสร้งทำเป็นแฟนกับกู”
“ซวยจริง” ผมกุมขมับ “เออก็ได้”
“เห้ย ง่ายไปป่ะ”
“ก็หลอกมันไปแล้วก็ต้องเล่นให้สมบทบาทดิ” ผมตอบง่ายๆ
ไอ้ธามมองหน้าผมอย่างอึ้งๆ จากนั้นมันก็แกล้งกระแอม แล้วก็คืนผ้าเช็ดหน้าให้ผม
“เอาไปซักก่อนค่อยเอามาคืนได้มั้ยเล่า”
“มึงซักเองก็น่าจะทำได้อยู่หรอกมั้ง”
ไอ้เหี้ยธาม . . ผมเอามือมากอดอก ทำให้ไอ้ธามที่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ยื่นมาเก้อ มันสะบัดมือใส่ผม ยัดผ้าเช็ดหน้าลงในกระเป๋า ส่งค้อนวงโตมาให้
ผมกับมันทำตัวอย่างกับเด็กทะเลาะกันก็ไม่ปาน . . “พี่ธาม!”
“กรี๊ดดดด จริงด้วยแก พี่ธามจริงๆด้วย!”
เด็กผู้หญิงมอต้นสามคนทำท่าจะกรูเข้ามาขอถ่ายรูปขอลายเซ็นไอ้ธาม
“ชิบหายละ มึง หน้ากูเหี้ยมากมั้ย” มันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแนบแก้ม “มาทำไมตอนนี้นะ”
“พี่ธาม ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะคะ”
“เอ่อ ครับ ได้ครับ” ไม่ว่าหนังหน้าจะดูแย่ขนาดไหนแต่คนที่เริ่มจะเป็นคนของประชาชนอย่างมันก็ต้องปั้นหน้าให้ดูดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ตลอดเวลา น้องๆพวกนั้นชวนไอ้ธามคุยเสียงเจื้อยแจ้วถามว่ามีงานอีกทีที่ไหน บลาๆๆ
แปลกใจที่ต่อหน้าแฟนคลับมันยิ้มร่า ทำตัวไม่หยิ่งเลย . . ถ้าเป็นต่อหน้าผมล่ะก็ หน้าอย่างงี้แปดสิบปีก็ไม่มีมาให้เห็น
“กูไปละ” ผมขอตัว ป่านนี้ไอ้คิกกับไอ้บูมคงตามหากันไอ้วุ่น
“เฮ้ยจะไปไหน แป๊บดิ จะเสร็จแล้วนี่”
“เพื่อนพี่ธามเหรอ” แฟนคลับมันหันขวับมาหาผม ผมสะดุ้ง เธอเงยหน้าขึ้นมามองผมจนเกือบจะสุดคอของเธอ โคตรฮา “หล่อจังเลยค่ะ แกๆ ถ่ายรูปกับพี่คนนี้ด้วย”
“เอ่อ ไม่เป็นไรมั้งครับ”
“ขี้อายด้วย น่ารักเนอะ” หันไปคุยกันเอง แต่ได้ยินกันทั้งบริเวณเลยจ้ะหนูจ๋า ทั้งสามซุบซิบกันจากนั้นก็หันหน้าไปถามไอ้ธาม “เพื่อนพี่ธาม หรือแฟนพี่คะ?”
เหวอ O_O ใบหน้าเล็กๆทั้งสามติดจะลุ้นคำตอบของไอ้ธามมากๆ คือลุ้นเกินไปจนรู้สึกได้อ่ะ “เอ่อ. .” อ้ำอึ้งทำไมล่ะเชี่ยธาม ก็ตอบๆไปดิ “เพื่อนครับ”
“ว้า” อ้าว ทำเสียงผิดหวังซะงั้น
“ไปแล้วนะครับ อย่าลืมไปดูคอนที่ XXX ด้วยน้า เสาร์นี้” ไอ้ธามยิ้มบอกกับน้องๆเหล่านั้น น้องๆรับคำก่อนที่มันจะลากผมให้เข้าไปในห้างอีกรอบ
“อ้ำอึ้งทำไม หรืออยากจะเป็นแฟนกูจริงๆ” ผมถามมัน
“ถุย” มันรีบพูด “เด็กๆสมัยนี้ชอบคู่จิ้น กูกับเพื่อนในวงโดนจับจิ้นให้คู่กันทั้งนั้น พอเค้ามาเจอกูอยู่กับมึง ก็เลยตั้งความหวังไว้ว่ากูจะเป็นอย่างที่พวกเค้าหวัง”
“แล้วมันใช่มั้ยล่ะ”
“ก็ใช่”
ฮ่าๆๆ . .
“หัวเราะทำเจี้ยอะไร ใช่แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกิ๊กกับเพื่อนในวงจริงๆ หรือแม้กระทั่งกับมึงซักหน่อย”
“แล้วมึงจะไปไหนกับกูป่าวเนี่ย จับมือกูแน่นขนาดนี้” ผมยกมือที่มันจับมือผมไว้แน่นให้มันดู ไอ้ธามเห็นมันรีบปล่อยมือผมทันที ทำท่าราวกับรังเกียจซะเต็มประดา
“ไม่ไปโว้ย” แล้วมันก็เดินหนีไปเลย . .
ผมไม่ได้ตั้งใจจะเดินตามมันนะ แต่เพื่อนๆของผมยังอยู่ที่คาราโอเกะอยู่เลยอ่ะ ไอ้ธามก็เหมือนกำลังจะกลับไปที่เดิม ผมเลยโดนมันค้อนใส่กลับมา
“ตามกูมาทำไม ไอ้แฟนกำมะลอ”
“เปล่าครับ เปล่าตาม ผมมาหาเพื่อนผม” ผมเปิดห้องให้มันดู ไอ้ธามหน้าเสียแล้วก็เปิดเข้าห้องเกะของตัวเองจากนั้นก็ปิดประตูดังปัง!
ได้ข่าวว่าอยู่ตั้งปีสามแล้วนะ . . ทำไมเด็กน้อยอย่างงี้หว่า ? อ้าวชิบหาย ทำไมปากผมมันยิ้ม โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยล่ะ โธ่เอ๊ย มันก็แค่ผู้ชายตัวเล็กๆตลกๆคนนึง ... . 2 Broken Hearts . .
“ไอ้ปอนด์ รับโว้ยรับ”
ผมกำลังเตะบอลอยู่สนามแถวรัชดาอยู่ครับ เป็นปกติของวันหยุดเสาร์อาทิตย์อยู่แล้วที่ผมขลุกอยู่ในสนามบอล ไม่ก็ฟิตเนส ก็คนมันโสดนี่ครับ จะให้ไปเดทแบบไอ้บูมก็ใช่เรื่อง(แต่สาวที่ไปเดทด้วยแต่ละวันไม่ซ้ำกันสักคนนะ) วันนี้ผมมาแต่กับไอ้คิก กับรุ่นพี่ที่มหาลัยสองสามคน และก็พวกที่รู้จักกันในสนามบอลนี่แหละ
เมื่อคืนผมแอบเข้าไปดูเฟส ‘คนๆนั้น’ ของผมอีกแล้ว ปกติผมจะไม่เห็นเค้าโพสต์รูปคู่กับแฟนเค้า เมื่อคืนมาแปลก แอบถ่ายรูปคู่คู่กับแฟนเค้าขณะที่เค้ากำลังหลับ
บอกได้เลยว่า . . โคตรจี๊ดอ่ะ ผมจี๊ดอยู่ฝ่ายเดียว โดยที่อีกฝ่ายกำลังมีความสุขแฮปปี้เป็นอย่างมาก ในขณะที่ผมอยู่หน้าคอมตัวเองนั้นมือไม้ของผมสั่น หัวใจหล่นวูบ ยอมรับเลยว่าอิจฉา . . ตาร้อนจนรู้สึกว่ากำลังไหม้อวัยวะภายในของผมไปด้วย
“ยิงเลย ยิงๆๆ”
ไม่ได้การแล้ว ถ้ายังเป็นอย่างนี้มีแต่ผมที่เอาแต่เจ็บอยู่ฝ่ายเดียว ต้องทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ต้องรักตัวเองให้มากๆ
“อุ้ก!”
“พี่เซน ขอโทษครับพี่ ขอโทษๆๆ” ผมรีบไปขอโทษมือโกลของทีมฝั่งตรงข้ามทันที ผมเผลอยิงประตูแรงไปหน่อยจนโดนท้องพี่เค้าเข้าอย่างจัง
“วะ มึงแรงดีใช้ได้เลยนะเนี่ย” พี่คนนี้อยู่ปีสี่ วิศวะครับ เจอกันตอนเฟิร์สเดทที่รับน้องกันเป็นบ้าน ผมอยู่บ้านพี่เซนด้วย เลยคุยกันและก็ถูกชะตากันดี
“ขอโทษจริงๆพี่”
“ไม่เป็นไรโว้ย ฮ่าๆ” พี่เค้าเป็นลูกครึ่งอารมณ์ดี แม้จะเป็นดารานายแบบ(ทำไมช่วงนี้รู้จักกับดาราเยอะนักวะ?)แต่ก็ไม่หยิ่งเลยครับ
“ไอ้ห่าน มึงไปเอาแรงมหาศาลแบบนั้นมาจากไหนวะ” ไอ้คิกที่เหงื่อซ่กเดินมาหาผมแล้วกอดคอผม พากันเดินไปข้างสนามเพื่อหาน้ำเปล่าดื่ม
“มึงลองคิดเรื่องที่ทำให้มึงเจ็บใจดูนะเว้ย จากนั้นมึงก็ยิง ตู้ม! รับรอง ถ้ายิงไม่แรงไปถีบไอ้บูมได้เลย”
“ดีนะที่พี่เซนไม่เป็นไรมาก ซิกแพคพี่เค้าคงแน่นปั้ก” ไอ้คิกเทน้ำราดใส่หน้าจนหมด “หล่อเป็นเหี้ย ไอดอลกูเลย”
“ใช่ หล่อ นิสัยดี เรียนเก่ง ไอดอลๆ”
“ชมเกินไปละ ไอ้ปอนด์ มึงก็ไม่ได้ต่างจากกูมากนักหรอก” พี่เซนเดินมาจากไหนไม่รู้ มายืนหัวเราะข้างๆ
“เจ็บมั้ยพี่ ผมขอโทษ”
“กีฬามันก็ต้องมีเจ็บบ้างเป็นธรรมดานั่นแหละ” พี่เซนบอก “เออ แล้วเรื่องเรียนเป็นไงบ้าง”
“พอไหวพี่”
“ไม่ไหวไม่ได้นะโว้ย ฮ่าๆ มิดเทอมนี้ห้ามตกมีนสักตัวล่ะ”
“จะพยายามครับ”
แล้วพี่เซนก็แยกตัวไป . . ผมก็เลยได้คุยกับไอ้คิกตามลำพัง ผมกับมันปลื้มพี่เซนมาก ถ้ากรี๊ดได้คงกรี๊ดไปแล้ว(แหม ใครจะทำ = =) ก็พี่แกเล่นมีหน้าตาที่โคตรจะหล่อ ตัวสูง ขายาว ผิวขาว นิสัยดี มีเวลาให้(เอ่อ?) แบบนี้ ผู้ชายด้วยกันถึงกับต้องเอ่ยปากชมแทบทุกรายไป แน่ะๆ อย่าคิดว่าผมจะคิดอะไรอย่างว่ากับพี่เค้านะครับ ไม่มีทางแน่นอน ไอดอลผมครับไอดอลผม . .
ผมกับไอ้คิกเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดเหงื่ออะไรเรียบร้อย เห็นพี่เซนยืนอยู่ลำพังตรงหน้าสนามฟุตบอลเทียม ก็เลยเข้าไปทักสักหน่อย สืบเสาะได้ข่าวมาว่ารถพี่เค้าที่เพื่อนเพิ่งยืมไปยางแตก เลยจัดการซ่อมให้อยู่ พี่เค้าเลยไม่มีรถ จะติดเพื่อนให้ไปส่งก็ไปคนละทาง พี่เค้าก็เลยไม่รู้จะทำยังไง
บอกแล้ว . . ไอดอลผมนิสัยดีเกินใครๆจริงๆ ขี้เกรงอกเกรงใจเป็นที่หนึ่ง
ผมกับไอ้คิกก็เลยชวนพี่เค้าไปกินก๋วยเตี๋ยวริมถนนตอนสี่ทุ่มกว่าๆ ร้านข้างทางเจ้าอร่อยที่เตะบอลเสร็จทีไรเป็นต้องมาทุกที
ก็เลยได้ถามสารทุกข์สุขดิบพี่เค้าตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องที่พูดจาถูกคอกัน . .
“ไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย ว่าพี่เซนจะโสด” ไอ้คิกร้องเสียงหลง
“โหย หน้าตาอย่างกูใครเค้าจะชอบ เพราะงั้นมึงเชื่อกูเถอะนะ”
“มีเพื่อนผมชอบพี่ด้วยนะ ผมแนะนำให้เอาป่าว” ไอ้คิกมันเป็นพ่อสื่อตัวยง เอะอะอะไรก็ยัดเยียดเพื่อนผู้หญิงของมันให้คนอื่นตลอดเว . . (ผมโดนออกจะบ่อยไป)
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรหรอก คนมันจะใช่ เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ”
ผมที่กำลังซู้ดบะหมี่เข้าปากอยู่มองหน้าพี่เซน พี่เค้ายิ้มเหมือนไม่ได้ซีเรียสจริงจังอะไรกับเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือไม่ใช่รอยยิ้มหล่อเหมือนเทพบุตรของไอดอลผม . .
แต่เป็นใครสักคนในเซเว่นที่กวักมือเรียกผมยิกๆให้เข้าไปหามากกว่า ไอ้ธาม . . ผมจำได้ว่าคอนโดของมันอยู่รัชดา แต่รัชดาก็มีตั้งหลายซอย! ไม่น่าจะมาเจอะมาเจอกันได้นะ
ผมทำสายตาประหนึ่งบอกว่าจะไปหามันทำไมไร้สาระ มันทำหน้าเหมือนจะฆ่าผมแล้วก็กวักมือเรียกให้ไปหาอีก ผมถอนใจเพราะบะหมี่มื้อนี้ความอร่อยติดลบสิบเข้าไปแล้วเมื่อเจอไอ้ธาม
“จะไปไหนอ่ะ” พี่เซนถามผม ตอนที่ผมลุกขึ้นยืน
“อ๋อ ไปหา ..” ผมพยักพเยิดชี้มือไปทางที่ไอ้ธามอยู่ พี่เซนมองตาม แต่ทว่า . . ไอ้ธามก็หายไปแล้ว อะไรของมันเนี่ย “ไม่มีอะไรพี่ หาของกินในเซเว่นนิดหน่อย”
“อ๋อ ซื้อนมกล้วยมาให้กูด้วยนะ เดี๋ยวเอาตังค์ให้” พี่เซนบอกผมครับ ส่วนไอ้คิกมันคงไม่เอาอะไรเพราะก้มหน้าก้มตาสูบเส้นเข้าปากอย่างเดียว
“ไม่เป็นไรพี่ ผมเลี้ยง ฮ่าๆๆ”
ผมเดินเข้าไปในเซเว่น เสียงดังตึ๊งตึง(มันดังงี้ป่าววะ?) ทันทีที่ผมก้าวเข้าไป ไอ้ธามตัวดีก็ลากผมให้หายไปยืนแถวๆตู้แช่เครื่องดื่มทันที
“มึงรู้จักเซนด้วยเหรอ!” “ไอ้เหี้ยอะไรของมึงเนี่ย” ขอโวยวายบ้าง ไอ้ธามยังโวยวายใส่ผมได้เลยตะกี้
“กูถามว่ามึงรู้จักเซนด้วยเหรอวะ!” สีหน้าของไอ้ธามดูลนลาน ชุดของมันในวันนี้คือเสื้อยืดกางเกงนักเรียนน้ำเงินเก่าสีน้ำเงินรองเท้าแตะ(สไตล์เด็กมอปลายของกรุงเทพเค้าแต่งกัน แม้มันจะอยู่ปีสาม แต่หน้าและทรงผมของมันก็เหมาะกับชุดนี้อยู่)
“ก็นั่งกินบะหมี่กินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันแบบนั้นคงไม่รู้มั้ง” ผมตอบเสียงแห้ง นึกตกใจที่ไอ้ธามมันว้อนที่จะรู้คำตอบมากมายขนาดนี้
“เฮ้ยๆ กูไม่คิดว่ากูจะเจอเค้าอีก ในมหาลัยก็ไม่เจอ กู ..” มันพึมพำไม่ได้ศัพท์ ผมทำหน้างง แต่ที่น่าแปลกประหลาดใจมากก็คือ . .
ไอ้รอยสีแดงเลือดฝาดเป็นปื้นนั่นค่อยๆลามขึ้นมาบนแก้มขาวจัดทีละนิดๆจนมันหน้าแดงก่ำ ไม่เคยเห็นมันอายขนาดนี้มาก่อน . . “กูไม่เคยคิดว่ากูจะมาขอร้องมึง แต่มึงเป็นคนที่จิตใจดีมากคนนึง เรื่องเป็นแฟนปลอมๆหลอกโอ๊ตให้มึงก็สัญญาว่าจะช่วย แต่เรื่องนี้กู . .” นึกภาพนะครับ ไอ้ธามพูดประโยคเหล่านี้ภายในสามวิ เร็วปรื๋อจนผมหัวหมุน “กูต้องขอร้องมึงจริงๆ”
“หา” ไอ้ธามมันต้องการอะไรจากผมอีกนะ
“ถึงกูจะเคยอกหักเพราะกูแอบชอบแฟนของเพื่อนนะ แต่ ..” ไอ้ธามยังแสดงออกถึงความกระวนกระวายและความเขินอายมากอยู่ดี “เพราะเหตุการณ์ในวันนั้น กูเพิ่งรู้ กูยัง ..”
“…”
“คิดถึงเขาอยู่” เหี้ยอะไรอีกเนี่ย! ตั้งแต่ที่ผมเจอมัน ไม่มีครั้งไหนเลยที่มันไม่วุ่นวาย แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหนักหนาที่สุด และไอ้ธามต้องการความช่วยเหลือจากผมมากที่สุด
“นะ มึงต้องช่วยกูนะ ถ้ากูกับเค้าคืนดีกันเมื่อไหร่ล่ะก็ มึงขออะไร กูจะให้มึงทุกอย่าง” ถึงแม้ว่าผมจะงง แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะจับใจความประโยคเมื่อกี้ได้ . .
“เดี๋ยวนะ มึงหมายความว่า ..”
“เซนเป็นแฟนคนแรกของกู”+ แว้กกกก บางทีชื่อตอนก็ไม่สัมพันธ์กับเนื้อเพลงหรือชื่อเพลงที่เค้าต้องการ อย่าไปคิดมากน้า
+ ตอนนี้มันสั้นไปนะสำหรับคนเขียน ตอนหน้าปรับปรุงใหม่จ้า
+ เขียนไปเขียนมา ชักรักคู่นี้ขึ้นเรื่อยๆ >///<
+ ใครอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับธามมากขึ้น แว้บไปอ่านเหนือกับคินดูได้ มีความเชื่อมโยงกันแฝงอยู่
แต่ถ้าไม่กลับไปอ่าน คนเขียนจะตอกย้ำให้อีกที อิอิ
+ คิดถึงคนอ่านมาก เปิดเทอมปีสองนี้หนักหน่วงมากก็จริง แต่คนอ่านและปอนด์ธาม คนเขียนทิ้งไม่ได้ >,<
+ จุ๊บๆนะคะ ^^